ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

กลยุทธ์ ราคาทำสถิติสูงสุดใหม่ได้อีกครั้ง จำใจต้องยืนข้างซื้อหรือ Long GF ชั่วคราว

 

สรุปภาพรวมตลาดวานนี้ ราคาทองคำโลกปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นต่ออีก $8.15/Oz หรือ 0.63% มาอยู่ที่ $1,284.95/Oz (จุดต่ำสุด-สูงสุดอยู่ที่ $1,271.80-1,289.50/Oz) ซึ่งถือว่าเหนือความคาดหมายที่ได้คาดการณ์ไว้อยู่พอสมควร ถึงแม้ในช่วงหัวค่ำไปจนถึงกลางดึก ราคาจะมีการพักตัวลงมาตามคาดแถวบริเวณ $1,270-1,272/Oz หลังจากสหรัฐฯเปิดเผยข้อมูลภาคอสังหาริมทรัพย์ออกมาดีมาก โดยยอดสร้างบ้านใหม่เดือน ส.ค. 53 เพิ่มขึ้นถึง 10.5% จากงวดก่อน มาอยู่ที่ 598,000 ยูนิต มากกว่าคาดการณ์ของโพลล์ที่ 550,000 ยูนิต ส่วนยอดอนุญาตก่อสร้างก็เพิ่มขึ้น 1.8% จากงวดก่อน มาอยู่ที่ 569,000 ยูนิต มากกว่าคาดการณ์ของโพลล์ที่ 560,000 ยูนิต ซึ่งสะท้อนว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯที่ก่อนหน้านี้ดูย่ำแย่เป็นอย่างมากเริ่มฟื้นตัวกลับขึ้นมาแล้วจึงทำให้ทองคำถูกลดความน่าสนใจในฐานะ Safe Haven ลง แต่หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเผยผลการประชุมนโยบายการเงิน (FOMC) ออกมา ก็ทำให้ราคาทองคำดีดตัวขึ้นอย่างแรงกว่า $15/Oz นับจากจุดต่ำสุดที่เคลื่อนไหวอยู่แถวบริเวณ $1,271/Oz เพราะท่าทีของเฟดเสมือนว่ามีโอกาสที่จะนำนโยบายการเงินเชิงผ่อนคลายกลับมาใช้อีกครั้งในไม่ช้า โดยอาจจะดำเนินมาตรการอื่นๆนอกเหนือจากการอัดฉีดเงินผ่านตลาดพันธบัตรด้วย ขณะที่อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำและภาคแรงงานที่ยังซบเซา ทำให้เฟดจำเป็นต้องคงนโยบายการเงินเชิงผ่อนคลายโดยใช้อัตราดอกเบี้ยระดับต่ำอยู่ต่อไป ซึ่งหลังจากทีที่มีการเผยผลการประชุมออกมาก็ฉุดให้เงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯร่วงลงต่ออย่างหนักทันที (Dollar Index วานนี้ทรุดตัวลงกว่า 1.1% มาอยู่ที่ 80.44 จุด) จากก่อนหน้านี้ที่ถูกฉุดจากการแข็งค่าขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของเงินสกุลยูโร ที่ได้แรงหนุนจากผลการประมูลพันธบัตรของประเทศในแถบยูโรโซนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

 

แนวโน้มตลาดวันนี้ เราคาดว่าราคาทองคำจะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในวันนี้ แต่อัตราเร่งของการปรับขึ้นอาจชะลอกว่าเมื่อวาน โดยแรงหนุนสำคัญยังอยู่ที่การร่วงลงของ Dollar Index และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่อยู่ในระดับต่ำ รวมถึงปัจจัยทางด้านฤดูกาลที่ยังอยู่ในช่วง High Season ของราคาทองคำ ซึ่งเหตุผลสนับสนุนทั้ง 3 ถือว่ามีน้ำหนักกับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำมากกว่าปัจจัยอื่น ณ ปัจจุบัน จึงทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงยากหรืออยากขึ้นมากกว่าลง และเป็นไปได้สูงที่การพักฐานในช่วงสั้นอาจลงไปได้แค่จุดต่ำสุดเมื่อวาน เพราะการที่ราคาสามารถทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่อง ย่อมเป็นโมเมนตัมเชิงบวกที่ดีในการปรับตัวขึ้นต่อเพื่อลุ้นทะลุผ่านแนวต้านจิตวิทยาสำคัญที่ระดับ $1,300/Oz แต่เนื่องจาก Upside ในช่วงสั้นเหลือไม่มากนัก โดยผลการวิเคราะห์ค่าความสัมพันธ์ระหว่างราคาทองคำกับ 9 ตัวแปรที่มีความสัมพันธ์กันสะท้อนว่า Upside ยังคงน้อยกว่า Downside โดยค่าเฉลี่ยของราคาทองคำที่เหมาะสมอยู่ที่ $1,272/Oz (ต่ำกว่าราคาปิดเมื่อวาน 1.2%) ส่วน Upside เฉลี่ยสูงสุดอยู่ที่ $1,305/Oz (สูงกว่าราคาปิดเมื่อวาน 1.4%) และ Downside เฉลี่ยสูงสุดอยู่ที่ $1,240/Oz (ต่ำกว่าราคาปิดเมื่อวาน 2.7%) จึงแนะนำให้ซื้อเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น และจังหวะนี้ก็เหมาะสมเฉพาะผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูงเท่านั้นด้วยเช่นกัน

 

ปัจจัยที่กระทบช่วงเช้า ให้น้ำหนักเป็นบวก โดยปัจจัยบวกได้แก่ 1) Dollar Index อ่อนตัวลง 0.25% มาอยู่ที่ 80.23 จุด ทำให้ทองคำได้รับความน่าสนใจในการเก็งกำไรด้วยความสัมพันธ์ที่ผกผันกันมากขึ้น 2) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯปรับตัวลดลงเฉลี่ย 7 bps. ทำให้ทองคำได้รับความน่าสนใจในการถือครองด้วยความที่เป็นสินทรัพย์ทดแทนกันมากขึ้น 3) ราคาน้ำมันดิบ Brent เช้านี้เพิ่มขึ้น $0.28/บาร์เรล มาอยู่ที่ $79.07/บาร์เรล ส่วนปัจจัยลบได้แก่ 1) กองทุน SPDR Gold Trust ลดสถานะการถือครองทองคำจำนวน 0.30 ตันมาอยู่ที่ 1,304.17 ตัน สะท้อนถึงจิตวิทยาการลงทุนเชิงลบว่านักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มสับสนกับการปรับขึ้นของราคาทองคำในรอบนี้ และ 2) แนวโน้มการฟื้นตัวของสินทรัพย์เสี่ยง จากผลของถ้อยแถลงของเฟด

 

นักลงทุนระยะสั้น(เล่น 1-2 วัน) ซื้อเก็งกำไรระยะสั้น หรือหันมาเปิด Long GF เพื่อลุ้นทะลุ $1,300/Oz คาดกรอบที่ $1,283 – 1,305/Oz หรือประมาณ 18,600 - 18,900 บาท/บาททอง

นักลงทุนระยะกลาง-ยาว รอซื้อเมื่ออ่อนตัว คาดกรอบ $1,260 - 1,300/Oz หรือ 18,250-18,850 บาท/บาททอง ส่วนระยะยาวสำหรับการลงทุนระดับเดือน แนะนำให้ถือต่อไป โดยขยับจุดถอยขึ้นเป็นที่ $1,240/Oz

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันนี้เสี่ยจะมามั๊ยน๊า :rolleyes: มารอเสี่ยคะ :lol:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กลยุทธ์ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯคืนนี้อาจกดดันราคาทองคำ แต่การปรับลงอาจไม่มาก

 

สรุปภาพรวมตลาดวานนี้ ราคาทองคำโลกเคลื่อนไหวแบบแคบๆ และปิดทรงตัวที่ $1,291.05/Oz ปรับตัวขึ้น $0.20/Oz หรือ 0.02% (จุดต่ำสุด-สูงสุดอยู่ที่ $1,287.30-1,295.15/Oz) โดย Upside การปรับขึ้นถูกสกัดกั้นจากการฟื้นตัวของ Dollar Index ราว 0.23% มาอยู่ที่ 80.01 จุด ซึ่งช่วงหลังมีความสัมพันธ์เชิงผกผันกับราคาทองคำเป็นอย่างมาก (ค่า Correlation ตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ -0.9) โดยถูกผลักดันมาจากการทรุดตัวลงของเงินสกุลยูโรกว่า 0.65% มาอยู่ที่ 1.3312 $/€ หลังจากไอร์แลนด์เปิดเผยตัวเลข GDP งวดไตรมาส 2/2553 ออกมาแย่กว่าคาด โดยลดลง -1.2% QoQ แย่กว่าคาดการณ์ของโพลล์ที่ +0.5% QoQ ทำให้นักลงทุนกลับมากังวลกับการสะสางปัญหาหนี้สินของประเทศในแถบยูโรโซนอีกครั้งหนึ่ง ขณะเดียวกัน ตัวเลขดัชนีการจัดซื้อ (Manufacturing Purchasing Manager's Index: PMI) ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซนที่เปิดเผยในเย็นวานก็ออกมาย่ำแย่ด้วย โดยในส่วนของภาคการผลิตลดลงเหลือ 53.6 น้อยกว่างวดก่อนและคาดการณ์ของโพลล์ที่ 55.1 และ 54.6 ตามลำดับ ส่วนของภาคบริการลดลงเหลือ 53.6 น้อยกว่างวดก่อนและคาดการณ์ของโพลล์ที่ 55.9 และ 55.5 ตามลำดับ จึงทำให้มีแรงเทขายเงินสกุลยูโรออกมาอย่างหนาแน่น และกระแสเงินบางส่วนมีการโยกย้ายเข้าหาเงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯเพื่อใช้เป็นแหล่งพักเงิน แต่ด้วยความที่ ข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯเองก็ยังไม่ดีนัก โดยยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์กลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้น 12,000 คน อยู่ที่ 465,000 คน มากกว่าคาดการณ์ของโพลล์ที่ 450,000 คน ส่วนยอดขายบ้านมือสอง แม้จะฟื้นตัวเพิ่มขึ้น 7.6% MoM มาอยู่ที่ 4.13 ล้านยูนิต แต่ก็น้อยกว่าคาดการณ์ของโพลล์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 8.4% MoM จึงทำให้ทองคำยังคงได้รับความน่าสนใจในการกระจายการลงทุน ด้วยฐานะสินทรัพย์ทางเลือกที่สามารถใช้เป็นแหล่งพักเงินชั้นดีได้ และเป็นเหตุผลว่าทำให้ราคาทองคำจึงเคลื่อนไหวแข็งแกร่งกว่าเงินสกุลยูโรวานนี้

 

แนวโน้มตลาดวันนี้ คาดว่าราคาทองคำจะแกว่งตัวแคบในกรอบ $1,285-,1295/Oz ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายในประเทศ โดยราคาทองคำในประเทศมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อย จากเงินบาทที่เริ่มอ่อนค่าลงตามผลกระทบของการแข็งค่าขึ้นของเงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯ และการอนุมัติ 5 มาตรการกระตุ้นให้เงินไหลออกไปลงทุนในต่างประเทศของกระทรวงการคลัง แต่คาดว่าราคาทองคำโลกจะเคลื่อนไหวหลุดกรอบล่างในช่วงกลางคืน เพราะข้อมูลทางเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯที่จะเปิดเผยในคืนนี้ทั้งยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนและยอดขายบ้านใหม่มีแนวโน้มออกมาดี เนื่องจากฐานการคำนวณยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในงวดก่อนอยู่ในระดับต่ำมาก และยอดขายบ้านใหม่มีแนวโน้มออกมาดีตามข้อมูลภาคอสังหาริมทรัพย์ในสัปดาห์นี้ที่ถูกเปิดเผยออกมาดีไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งสอดคล้องกับผลการิวเคราะห์ค่าความสัมพันธ์ของเราที่สะท้อนว่า Upside การปรับขึ้นของราคาทองคำเริ่มน้อยกว่า Downside โดยค่าเฉลี่ยของราคาทองที่เหมาะสมอยู่ที่ $1,280/Oz ส่วน Upside เฉลี่ยสูงสุดอยู่ที่ $1,314/Oz (สูงกว่าราคาปิดวานก่อน 1.62%) และ Downside เฉลี่ยสูงสุดอยู่ที่ $1,245/Oz (ต่ำกว่าราคาปิดวานก่อน 3.75%) ทั้งนี้ เราให้พิจารณาที่การเคลื่อนไหวของ Dollar Index เป็นหลัก หากยังไม่สามารถดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 80.50 จุดได้ในคืนนี้ ราคาทองคำก็จะอยู่ในสถานะที่อ่อนตัวลงยากเช่นเดิม

 

ปัจจัยที่กระทบช่วงเช้า ให้น้ำหนักเป็นลบ ได้แก่ 1) กองทุน SPDR Gold Trust ลดสถานะถือครองทองคำจำนวน 2.73 ตัน มาอยู่ที่ 1,301.43 ตัน 2) Dollar Index ดีดตัวขึ้น 0.08% มาอยู่ที่ 80.01 จุด 2) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1 bps. 3) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เช้านี้อ่อนตัวลง $0.31/บาร์เรล มาอยู่ที่ $74.87/บาร์เรล

 

นักลงทุนระยะสั้น(เล่น 1-2 วัน) ยังแนะนำให้ถือต่อเพื่อลุ้นทะลุผ่าน $1,300/Oz โดยใช้ $1,280/Oz เป็นจุดถอย คาดกรอบที่ $1,280 – 1,305/Oz หรือประมาณ 18,600 - 19,000 บาท/บาททอง

นักลงทุนระยะกลาง-ยาว รอซื้อเมื่ออ่อนตัว คาดกรอบ $1,260 - 1,300/Oz หรือ 18,250-18,850 บาท/บาททอง ส่วนระยะยาวสำหรับการลงทุนระดับเดือน แนะนำให้ถือต่อไป โดยขยับจุดถอยขึ้นเป็นที่ $1,240/Oz

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กลยุทธ์ ข้อมูลเศรษฐกิจยูโรโซนและถ้อยแถลงของ ECB จะหนุนทองทะลุ $1,300/Oz

 

สรุปภาพรวมสัปดาห์ก่อน ราคาทองคำโลกปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกันอีก $22.25/Oz หรือ 1.75% มาอยู่ที่ $1,296.05/Oz (จุดต่ำสุด-สูงสุดในรอบสัปดาห์อยู่ที่ $1,271.55-1,299.72/Oz) โดยได้แรงหนุนสำคัญมาจากการอ่อนค่าลงของเงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯ (Dollar Index ร่วงลง 2.61% มาอยู่ที่ 79.27 จุด) หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐฯ (FOMC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไปอีกนาน และมีแนวโน้มนำมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณกลับมาใช้อีกครั้ง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้รอดพ้นจากภาวะการชะลอตัวซ้ำสอง (Double Dip Recession) ด้วยความที่ภาคอสังหาริมทรัพย์เริ่มกลับมาทรุดตัว ภาคแรงงานยังไม่หลุดพ้นจากสภาวะอ่อนแอ และอัตราเงินเฟ้อยังเคลื่อนไหวอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งเงินสกุลดอลล่าร์ที่มีแนวโน้มทรง (คงอัตราดอกเบี้ยต่ำ) กับทรุด (ผลจากการออกมาตรการในอนาคต) ได้ทำให้นักลงทุนทั่วโลกผิดหวังในการถือครองและเทขายเงินสกุลดอลลาร์ออกมาอย่างหนัก ประจวบเหมาะกับสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นช่วงการประมูลพันธบัตรรัฐบาลของประเทศในแถบยูโรโซนหลายประเทศ ซึ่งเผอิญว่าได้รับการตอบสนองจากตลาดเป็นอย่างดี จึงทำให้กระแสเงินมีการกระจายตัวออกไปยังเงินสกุลยูโรและสกุลอื่นๆที่มีแนวโน้มให้ผลตอบแทนสูงกว่า อาทิเช่น เงินสกุลออสเตรเลียดอลล่าร์ ที่ธนาคารกลางออสเตรเลียมีแนวโน้มปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอีกครั้งในไม่ช้า ทองคำที่มักเคลื่อนไหวผกผันกับเงินสกุลดลล่าร์สหรัฐฯและได้ชื่อว่าเป็นสินทรัพย์ทดแทนกันในแง่ของแหล่งพักเงิน (Safe Haven) ก็พลอยได้รับอานิสงค์เชิงบวกนี้ไปด้วย โดยถึงแม้ว่าราคาทองคำจะอยู่ในเขตร้อนแรงเกินไปในภาพทางเทคนิค และตลาดหุ้นสหรัฐฯจะมีการฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงปลายสัปดาห์ แต่ราคาทองคำก็ปรับตัวลงยาก เพราะมีประเด็นนี้คอยพยุงร่วมกับปัจจัยทางด้านฤดูกาลที่เป็น High Season

 

แนวโน้มตลาดสัปดาห์นี้ คาดว่าราคาทองคำจะสามารถทะลุผ่านระดับ $1,300/Oz ที่เป็นแนวต้านทางจิตวิทยาขึ้นไปได้ในช่วงต้นสัปดาห์ และเป็นไปได้ที่จะดีดตัวขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านถัดไปแถวบริเวณ $1,310-1,320/Oz โดยแรงหนุนสำคัญยังมาจากการอ่อนค่าลงของเงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯ ซึ่งมีแนวโน้มอ่อนค่าลงต่อเนื่องจาก1) ความกังวลว่าเฟดจะนำมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณกลับมาใช้ในไม่ช้า 2) อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐฯที่ทรุดตัวลงต่ำสุดในรอบ 1.5 ปี จึงไม่จูงใจให้ถือครองเงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯไว้นานๆ และ 3) Dollar Index ที่ถูกทุบลงอย่างหนักจนทำจุดต่ำสุดในรอบ 9.5 เดือนแถวบริเวณ 79.50 จุด ซึ่งถ้าพิจารณาตามแนวโน้มในแง่ของปัจจัยทางด้านเทคนิคแล้ว เป็นไปได้สูงที่ Dollar Index จะซึมลงต่อไปหาบริเวณ 77.50-78.50 จุด ภายในสัปดาห์นี้ เพราะฉะนั้นทองคำจึงยังได้รับความน่าสนใจในการเข้าเก็งกำไร ด้วยลักษณะการเคลื่อนไหวที่มีความสัมพันธ์แบบผกผันกับ Dollar Index อย่างใกล้ชิดในปัจจุบันอยู่ต่อไป ขณะเดียวกัน ราคาทองคำยังคงได้แรงหนุนจากปัจจัยทางด้านฤดูกาล โดยข้อมูลทางสถิติสะท้อนว่าราคาทองคำในสัปดาห์ที่ 4 ของเดือน ก.ย. ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยเป็นบวกที่ประมาณ 0.25% WoW ด้วยความน่าจะเป็นราว 60-70% แต่เราไม่อยากให้นักลงทุนมั่นใจกับการปรับขึ้นของราคาทองคำหลังจากนี้มากจนเกินไปนัก เพราะเป็นไปได้ว่าราคาจะร่วงลงในช่วงปลายสัปดาห์ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯที่จะเปิดเผยในช่วงนั้นมีแนวโน้มออกมาดี ไม่ว่าจะเป็นประมาณการ GDP ไตรมาส 2/2553 ครั้งที่ 3, ยอดรายได้และค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล, และดัชนีภาคการผลิต ISM จึงเป็นไปได้ที่ทองคำจะถูกลดความน่าสนใจในฐานะ Safe Haven ลง ประกอบกับการดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวระดับ $1,305-1,320/Oz จะทำให้ราคาทองคำดูร้อนแรงเกินไปอย่างมากในทางเทคนิค

 

แนวโน้มตลาดวันนี้ คาดว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นต่อ จากโมเมนตัมเชิงบวกที่เกิดขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์ก่อน และเป็นไปได้ว่าข้อมูลเศรษฐกิจของยูโรโซนที่มีแนวโน้มออกมาดี และถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้ จะหนุนให้เงินสกุลยูโรดีดตัวขึ้นและฉุด Dollar Index ร่วงลง โดยหากราคาทองคำดีดตัวขึ้นเหนือระดับ $1,297/Oz ได้ ความน่าจะเป็นที่ราคาจะทะลุผ่าน $1,300/Oz จะเปิดกว้างมากขึ้น

 

นักลงทุนระยะสั้น(เล่น 1-2 วัน) ยังแนะนำให้ถือต่อเพื่อลุ้นทะลุผ่าน $1,300/Oz โดยใช้ $1,288/Oz เป็นจุดถอย คาดกรอบที่ $1,288 – 1,305/Oz หรือประมาณ 18,650 - 18,900 บาท/บาททอง

นักลงทุนระยะกลาง-ยาว ขึ้นขาย คาดกรอบ $1,270 - 1,310/Oz หรือ 18,150-19,100 บาท/บาททอง ส่วนระยะยาวสำหรับการลงทุนระดับเดือน แนะนำให้ถือต่อไป โดยขยับจุดถอยขึ้นเป็นที่ $1,275/Oz

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณมากครับ สำหรับบทความข้อเขียนสรุปที่น่าสนใจครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กลยุทธ์ มีแล้วถือต่อเพื่อรอขายแถว $1,320-1,330/Oz ส่วนยังไม่มีให้รอไปก่อน

 

สรุปภาพรวมตลาดวานนี้ ราคาทองคำโลกปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแรงถึง $14.10/Oz หรือ 1.09% มาอยู่ที่ $1,308.10/Oz (จุดต่ำสุด-สูงสุดอยู่ที่ $1,282.40-1,309.89/Oz) โดยการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงบ่ายของบ้านเรามีการทรุดตัวลงอย่างหนัก ตามการอ่อนค่าลงของเงินสกุลยูโร (การรีบาวน์ของ Dollar Index) ที่ถูกกดดันมาจากความกังวลต่อแนวโน้มความอ่อนแอของภาคธนาคารในยูโรโซน และคาดการณ์ปริมาณเงินอัดฉีดเงินตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 2 ของธนาคารกลางสหรัฐฯที่มีขนาดน้อยกว่ารอบแรก ถึงแม้เยอรมันจะเปิดเผยตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคออกมาดีกว่าคาด โดยอยู่ที่ 4.90 จุด มากกว่างวดก่อนและคาดการณ์ของโพลล์ที่ 4.30 จุดก็ตาม แต่นักลงทุนกลับไปให้น้ำหนักกับ 2 ประเด็นแรกมากกว่า จึงพากันเทขายเงินสกุลยูโรและสินทรัพย์เสี่ยงออกมาเพื่อไปถือครองเงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯแทน อย่างไรก็ตาม การปรับตัวลงของราคาทองคำและเงินสกุลยูโรก็เป็นเพียงปรากฏการณ์ชั่วครู่เท่านั้น โดยหลังจากที่สหรัฐฯเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของ Conference Board ออกมาย่ำแย่ที่ 48.50 จุด น้อยกว่างวดก่อนและคาดการณ์ของโพลล์ที่ 53.20 จุด และ 52.90 จุด ก็ทำให้มีแรงซื้อกลับเข้ามาในทองคำอย่างหนาแน่นทันที ทั้งในเชิงของการใช้เป็นแหล่งพักเงิน (Safe Haven) และผลจาก Dollar Index ที่ร่วงลงอย่างหนักกว่า 0.41% มาอยู่ที่ 79.01 จุด เพราะการที่ข้อมูลภาคการบริโภคที่ถือเป็นตัวแปรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาย่ำแย่ ย่อมทำให้เกิดการคาดการณ์กันโดยทั่วไปว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจนำมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณกลับมาใช้ในไม่ช้า และมีความเป็นไปได้มากขึ้นว่าจะมีการขยายวงเงินในการเข้าซื้อสินทรัพย์ให้มากขึ้นกว่าเดิมด้วย Dollar Index จึงมีแนวโน้มอ่อนตัวลงเรื่อยๆหลังจากนี้ไป ซึ่งการเคลื่อนไหวของราคาทองคำและ Dollar Index ที่มีความผกผันกันเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ได้หนุนให้ราคาทองคำดีดขึ้นไปล่วงหน้าเพื่อรับกับความคาดหวังที่จะเห็น Dollar Index ร่วงลงอย่างต่อเนื่องในอนาคต นอกจากนี้ การกลับมาเพิ่มสถานะถือครองทองคำอย่างมีนัยสำคัญของกองทุน SPDR Gold Trust จำนวน 5.17 ตัน ก็ถือเป็นอีกตัวแปรที่หนุนให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย

 

แนวโน้มตลาดวันนี้ เราคาดว่าราคาทองคำจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีกเล็กน้อยในวันนี้ จากแรงหนุนของ Dollar Index ที่มีแนวโน้มทรุดตัวลงต่อเนื่อง ด้วยความกังวลต่อการที่เฟดจะนำมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณกลับมาใช้อีกครั้งในไม่ช้า และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่อยู่ในระดับต่ำติดดิน โดยวานนี้ทรุดตัวลงต่ออีกเฉลี่ยราว 6 bps. ซึ่งถือเป็นภาวะการณ์ที่หนุนให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดี ขณะเดียวกัน การกลับลำมาเพิ่มสถานะถือครองทองคำของ SPDR อย่างมีนัยสำคัญกว่า 5.17 ตัน ได้สะท้อนให้เห็นถึงจิตวิทยาการลงทุนที่เป็นบวกมากขึ้น ในแง่ที่ว่า นักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มกลับมามั่นใจกับการปรับขึ้นของราคาทองคำในรอบนี้อีกครั้ง นอกจากนี้โมเมนตัมเชิงบวกจากปัจจัยทางด้านเทคนิคที่ราคาสามารถทะยานขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่อง ย่อมกระตุ้นให้เกิดแรงเก็งกำไรตามมาได้เป็นอย่างดี โดยผลการวิเคราะห์เชิงปริมาณของเราสะท้อนว่าเป้าการปรับขึ้นของราคาทองคำในรอบนี้อยู่ที่แนวระดับ $1,320-1,330/Oz ทั้งนี้ เนื่องจากราคาทองคำ ณ ปัจจุบันเคลื่อนไหวแบบผกผันกับ Dollar Index เป็นอย่างมาก เราจึงแนะนให้นักลงทุนจับตาดูการเคลื่อนไหวของ Dollar Index อย่างใกล้ชิด โดยจุดเปลี่ยนจากแนวโน้มขาลงเป็นขาขึ้นของ Dollar Index อยู่ที่ 79.80 จุด หากยังเคลื่อนไหวต่ำกว่าให้นักลงทุนถือครองทองคำต่อไป แต่ถ้าดีดขึ้นมายืนเหนือได้ให้ทยอยขายทองคำออกมาทันที โดยเฉพาะเมื่อราคาดีดตัวเข้าใกล้เป้าการปรับขึ้นแถวบริเวณ $1,320-1,330/Oz ที่เราได้ให้ไว้ด้วย

 

นักลงทุนระยะสั้น(เล่น 1-2 วัน) ยังแนะนำให้ถือต่อเพื่อลุ้นขายทำกำไรแถวบริเวณ $1,320-1,330/Oz โดยใช้ $1,300/Oz เป็นจุดถอย คาดกรอบที่ $1,300–1,315/Oz หรือประมาณ 18,750 - 19,000 บาท/บาททอง

นักลงทุนระยะกลาง-ยาว ขึ้นขาย คาดกรอบ $1,270-1,310/Oz หรือ 18,350-18,900 บาท/บาททอง ส่วนระยะยาวสำหรับการลงทุนระดับเดือน แนะนำให้ถือต่อไป โดยขยับจุดถอยขึ้นเป็นที่ $1,275/Oz

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...