ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

โปรดระวัง อันตราย ของ บัตรประชาชนแบบใหม่

 

นับตั้งแต่กระทรวงมหาดไทยออกบัตรประจำตัวประชาชนชนิดใหม่

 

ที่เรียกกันว่าสมาร์ทการ์ดนั้น เดี๋ยวนี้บัตรเดียวใช้ได้ทุกอย่าง

......

 

เป็นตลกร้ายที่ทำนายสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ดีทีเดียวครับ

ตอนนี้ "ผู้ปกครอง" ในหลายๆประเทศทั่วโลกเริ่มใช้ระบบรหัสประจำตัวประชาชน

ในระบบรอบตัวในชีวิตประจำวันเกือบทั้งหมดแล้ว

 

และเมื่อระบบฐานข้อมูลพวกนี้มาเชื่อมต่อกันทั้งหมด

ขอให้มีข้อมูลตั้งตนของตัวคุณ สามารถสืบเสาะข้อมูลได้เร็ว และแม่นยำจนน่ากลัวแบบ

ในเรื่องตลกที่คุณ promin เอามาฝากเลยทีเดียว

(เหมือนที่อเมริกาพยายามทำอยู่ ก่อนหน้า 11 ก.ย. หน่วยงานรัฐไม่มีกำลังมากนัก

แต่หลัง 11 ก.ย. อเมริกันชนหลายคนถูกหลอกให้ยอมรับกฏหมายที่ทำให้สูญเสียอิสรภาพ

เพื่อ "ความปลอดภัย" จากผู้ก่อการร้าย)

 

ในอนาคต ความเป็นส่วนตัวในข้อมูลส่วนบุคคลแบบนี้จะค่อยจางหายไปเรื่อยๆ

ด้วยความ "หวังดี" ของผู้ปกครอง และความไร้กำลัง ของผู้ถูกปกครอง

 

WAR IS PEACE, FREEDOM IS SLAVERY, and IGNORANCE IS STRENGTH

 

สงคราม คือ สันติภาพ

 

อิสรภาพ คือ โซ่ตรวน

 

ความไม่รู้ คือ พลัง

ถูกแก้ไข โดย wcg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เอาบทสัมภาษณ์ พอล บรอดสกี้ ผู้ร่วมก่อตั้ง QB Asset Management จาก KWN มาฝากครับ

 

ถ้านโยบายของรัฐบาลที่พวกเราเข้าใจกัน คือการพยายามทำให้สถานการณ์ตอนนี้ผ่านไปได้จนกว่าที่จะมีการเลือกตั้งในเดือน พ.ย. ละก็ สิ่งที่ผมแนะนำก็คือ ให้คุณพยายามรักษากำลังไว้ในเกมนี้

 

ถ้ามีการทุบราคาทอง คุณต้องซื้อเข้า

และไม่ว่าเหตุผลใดๆก็ตาม

ถ้าราคาทองพุ่งขึ้น คุณจะต้องกอดของที่คุณมีไว้แน่นๆ

 

“If the unstated strategy of policymakers is to muddle through as long as they can and certainly until the November election, then I think you play the rope-a-dope. So if they hit the price of gold you are supposed to accumulate it, and if the market takes it up for whatever reason, you are supposed to hang on.”

 

....

 

ถ้าน้อยกว่า 1% ของเงินลงทุนโดยทั่วไปหันมาลงลงทุนในโลหะมีค่าวันนี้ คงจะไม่ใช่เรื่องยากที่จะเห็นราคาโลหะมีค่าพุ่งขึ้นระหว่าง 5-10% ถ้าเป็นอย่างที่ว่าละก็ ราคาจะมีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมากทีเดียว

 

If less than 1% of the broad market of investment capital is invested in precious metals today, it probably won’t take much to see that number rise to between 5% and 10%. In that case, the magnitude of change will be quite parabolic.

 

....

 

ที่ผ่านมา เราได้วางเดิมพันว่าทองจะไปถึงราคา $1500, $2000 หรือ $2500 แต่มันก็ไม่มีความสำคัญอะไรต่อเรา เรามองว่าทองคำเป็นสิ่งที่มีราคาต่ำกว่าความเป็นจริงเป็นอย่างมาก เมื่อมองอัตราเงินเฟ้อที่ผ่านๆมา ราคาของทองคำควรจะอยู่ที่อย่างน้อย 5 เท่าของราคาที่ซื้อขายกันอยู่ในปัจจุบัน และข้อเท็จจริงที่ว่า ธนาคารกลางทั้งหลายกำลังจะพิมพ์เงินเพิ่ม หมายความว่า ราคามันควรจะสูงขึ้นไปกว่านั้นอีก

 

We’ve made our bets and whether the market for gold is $1,500 spot or $2,000 spot or $2,500 spot, it doesn’t matter to us. We see gold is already extraordinarily undervalued given past inflation. The price of gold should be over five times than where it is currently trading. The fact that central planners are going to print more money means it should be even that much higher.”

 

อ่านบทสัมภาษณ์ข้างบน ขออนุญาตเอาประโยคบางประโยคจาก Currency Wars ของ James Rickards มาเสริมเพิ่มเติม

 

 

ในระหว่างปี 1977 ถึงปี 1981 เงินดอลล่าร์สูญเสียกำลังซื้อลงไปถึง 50%

 

ราคาเฉลี่ย(ต่อปี)ของทองคำเพิ่มจาก $40.80 ในปี 1971 ไปจนถึง $612.56 ในปี 1980

(และมีราคาสูงสุดอยู่ที่ $850 ตอน มกรา 1980)

 

.. there was a 50% decline in the purchasing power of dollar from 1977 to 1981....

.. the average annual price of gold went from $40.80 per ounce in 1971 to $612.56 in 1980 including a short-term superspike to $850 per ounce in January 1980

 

อเมริกันชนในช่วงเวลาดังกล่าว วิเคราะห์สถานการณ์ผิดพลาดเหมือนกับที่ผู้คนใน Weimar Germany คิดพลาดในปี 1921. พวกเขาคิดว่าของราคาสูงขึ้น -- ในขณะที่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆนั้นเป็นเพราะว่าสกุลเงินของพวกเขากำลังจะล้ม -- ราคาที่สูงขึ้นเป็นอาการของสกุลเงินที่กำลังจะล้ม (ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้สกุลเงินล้ม)

 

US Citizens in this period made the same analytic mistake as their counterparts in Weimar Germany had in 1921. Their initial perception was that prices were going up; what was really happening was that the currency was collapsing. Higher prices are the symptom, not the cause, of currency collapse.

 

 

ในช่วง Currency Wars II (1967-1987) ผลกระทบจากการยกเลิก gold standard ในอดีต เริ่มออกมาส่งผลให้เห็นได้ชัดเจนมากขึ้น วึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว จะเห็นว่าแต่ละประเทศพยายามทำทุกวิถึทางเพื่อที่จะไม่ให้ระบบเศรษฐกิจโลกมีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าเงินของตัวเอง, บังคับให้ประเทศอื่นลดค่าเงิน, การกีดกันทางการค้า, การสร้างตลาดค้าทองกลาง (London Gold Pool) เพื่อใช้คุมราคาทองคำ, ฯลฯ

 

แต่แล้วในที่สุด ทุกอย่างก็วิ่งกลับเข้าหามูลค่าที่แท้จริงของมันเอง

กระดาษที่ถูกเรียกว่าเงินตรา ก็ถูกลดกำลังซื้อลงไปเรื่อยๆ

ส่วนทองคำที่ถูกกดราคาไว้ ก็ออกมาแสดงความเป็นเงินตราที่แท้จริงของมันเมื่อปี 1981

 

อ่านมุมมองของ พอล บรอดสกี้ และ จิม ริคเคิร์ดส แล้ว

มันเป็นสิ่งช่วยตอกย้ำสิ่งที่คุณ next พูดเรื่องโอกาสทองมาตั้งแต่ต้นจริงๆ

 

ว่ารอบนี้ คงจะเป็นโอกาส "ทอง" (จริงๆ) ที่ทองคำจะออกมาแสดงมูลค่าที่แท้จริงให้เราได้เห็นอีก

 

 

 

 

 

อ่านหนังสือไป แล้วก็เจ็บใจไป

ที่ไม่ยอมตั้งใจเรียนวิชาสังคม/ประวัติศาสตร์ตอนเด็กๆ

:17

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

อ่านหนังสือไป แล้วก็เจ็บใจไป

ที่ไม่ยอมตั้งใจเรียนวิชาสังคม/ประวัติศาสตร์ตอนเด็กๆ

:17

 

ประวัติศาสตร์ย่อมซ้ำรอยเดิมเสมอ การศึกษาประวัติศาสตร์ช่วยให้เราเดาเหตุการณ์ข้างหน้าได้ค่อนข้างใกล้เคียง ทำไงที่จะทำให้เด็กรู้คุณค่าของวิชาประวัติศาตร์

ตั้งแต่ต้น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เอาบทสัมภาษณ์ พอล บรอดสกี้ ผู้ร่วมก่อตั้ง QB Asset Management จาก KWN มาฝากครับ

 

 

 

อ่านบทสัมภาษณ์ข้างบน ขออนุญาตเอาประโยคบางประโยคจาก Currency Wars ของ James Rickards มาเสริมเพิ่มเติม

 

 

 

ในช่วง Currency Wars II (1967-1987) ผลกระทบจากการยกเลิก gold standard ในอดีต เริ่มออกมาส่งผลให้เห็นได้ชัดเจนมากขึ้น วึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว จะเห็นว่าแต่ละประเทศพยายามทำทุกวิถึทางเพื่อที่จะไม่ให้ระบบเศรษฐกิจโลกมีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าเงินของตัวเอง, บังคับให้ประเทศอื่นลดค่าเงิน, การกีดกันทางการค้า, การสร้างตลาดค้าทองกลาง (London Gold Pool) เพื่อใช้คุมราคาทองคำ, ฯลฯ

 

แต่แล้วในที่สุด ทุกอย่างก็วิ่งกลับเข้าหามูลค่าที่แท้จริงของมันเอง

กระดาษที่ถูกเรียกว่าเงินตรา ก็ถูกลดกำลังซื้อลงไปเรื่อยๆ

ส่วนทองคำที่ถูกกดราคาไว้ ก็ออกมาแสดงความเป็นเงินตราที่แท้จริงของมันเมื่อปี 1981

 

อ่านมุมมองของ พอล บรอดสกี้ และ จิม ริคเคิร์ดส แล้ว

มันเป็นสิ่งช่วยตอกย้ำสิ่งที่คุณ next พูดเรื่องโอกาสทองมาตั้งแต่ต้นจริงๆ

 

ว่ารอบนี้ คงจะเป็นโอกาส "ทอง" (จริงๆ) ที่ทองคำจะออกมาแสดงมูลค่าที่แท้จริงให้เราได้เห็นอีก

 

 

 

 

 

อ่านหนังสือไป แล้วก็เจ็บใจไป

ที่ไม่ยอมตั้งใจเรียนวิชาสังคม/ประวัติศาสตร์ตอนเด็กๆ

:17

 

.........ตอนเล็กๆๆ ไม่เรียนหนังสือ โตขึ้นมาต้องขัดรองเท้า.......ร้องเพลงค่ะๆๆ ล้อเล่นจ้าาา อิอิอิ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

อ่านหนังสือไป แล้วก็เจ็บใจไป

ที่ไม่ยอมตั้งใจเรียนวิชาสังคม/ประวัติศาสตร์ตอนเด็กๆ

:17

 

เหมือนกันเลยครับ ช่วงเรียนทุกระดับไม่เคยเห็นคุณค่าของประวัติศาสตร์เลย

แทบจะเรียกได้ว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมา

เพิ่งมาเห็นคุณค่าก็เมื่ออายุเกือบจะเลยหลัก 3 แล้วนี่แหละครับ

 

ส่วนหนึ่งก็ต้องโทษตัวเอง แต่อีกส่วนผมขอยกความผิดให้กับระบบการศึกษา และ การสอบของบ้านเรา สำหรับวิชานี้ครับ

ข้อสอบชอบถาม ชื่อกษัตริย์ (จำก็ยาก สะกดก็ยาก) ปี พ.ศ. (ไม่รู้จะจำไปเพื่ออะไร อยากรู้เปิดดูตำราก็ได้) ฯลฯ ที่เป็นข้อมูลเฉพาะ

เพราะครูตรวจข้อสอบแบบนี้ง่าย เฉลยง่าย

สุดท้ายเพื่อจะสอบก็เลยกลายเป็นท่องจำแบบนกแก้ว เป็นความจำระยะสั้น ออกห้องสอบมาลืมหมด

 

เดือนก่อนเตรียมสอบกลางภาคให้ลูกวิชาประวัติศาสตร์ (ป.3) เขาสอนการปกครองยุคของไทยในยุคต่างๆ

พอเราเปลี่ยนการอ่านจากท่องจำ(สมัยเรียน) มาเป็นการอ่านเพื่อสอนลูกทำให้ต้องคิดวิเคราะห์ไปด้วย

ผมเลยเพิ่งเห็นพัฒนาการของระบอบการปกครองของไทยไม่กี่วันที่ผ่านมานี่เอง

 

:17 :17

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เหมือนกันเลยครับ ช่วงเรียนทุกระดับไม่เคยเห็นคุณค่าของประวัติศาสตร์เลย

แทบจะเรียกได้ว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมา

เพิ่งมาเห็นคุณค่าก็เมื่ออายุเกือบจะเลยหลัก 3 แล้วนี่แหละครับ

 

ส่วนหนึ่งก็ต้องโทษตัวเอง แต่อีกส่วนผมขอยกความผิดให้กับระบบการศึกษา และ การสอบของบ้านเรา สำหรับวิชานี้ครับ

ข้อสอบชอบถาม ชื่อกษัตริย์ (จำก็ยาก สะกดก็ยาก) ปี พ.ศ. (ไม่รู้จะจำไปเพื่ออะไร อยากรู้เปิดดูตำราก็ได้) ฯลฯ ที่เป็นข้อมูลเฉพาะ

เพราะครูตรวจข้อสอบแบบนี้ง่าย เฉลยง่าย

สุดท้ายเพื่อจะสอบก็เลยกลายเป็นท่องจำแบบนกแก้ว เป็นความจำระยะสั้น ออกห้องสอบมาลืมหมด

 

เดือนก่อนเตรียมสอบกลางภาคให้ลูกวิชาประวัติศาสตร์ (ป.3) เขาสอนการปกครองยุคของไทยในยุคต่างๆ

พอเราเปลี่ยนการอ่านจากท่องจำ(สมัยเรียน) มาเป็นการอ่านเพื่อสอนลูกทำให้ต้องคิดวิเคราะห์ไปด้วย

ผมเลยเพิ่งเห็นพัฒนาการของระบอบการปกครองของไทยไม่กี่วันที่ผ่านมานี่เอง

 

:17 :17

งั้นเราก็อายุพอๆกันซิครับเพราะผมก็ขึ้น 4 ปีนี้แหละ (ขอบังอาจเทียบรุ่นหน่อย ^_^ ) ผมยกให้เป็นความผิดของระบบหมดเลยแหละ เพราะสอนให้ท่องไม่ได้สอนให้คิดเลย จำ จำ จำ แล้วก็จำ เลยไม่รู้จะจำไปทำไม :_Rd

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

งั้นเราก็อายุพอๆกันซิครับเพราะผมก็ขึ้น 4 ปีนี้แหละ (ขอบังอาจเทียบรุ่นหน่อย ^_^ ) ผมยกให้เป็นความผิดของระบบหมดเลยแหละ เพราะสอนให้ท่องไม่ได้สอนให้คิดเลย จำ จำ จำ แล้วก็จำ เลยไม่รู้จะจำไปทำไม :_Rd

 

เท่ากันเป๊ะเลยครับ ขึ้นเลข 4 ปีนี้เช่่นกันครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

งั้นเราก็อายุพอๆกันซิครับเพราะผมก็ขึ้น 4 ปีนี้แหละ (ขอบังอาจเทียบรุ่นหน่อย ^_^ ) ผมยกให้เป็นความผิดของระบบหมดเลยแหละ เพราะสอนให้ท่องไม่ได้สอนให้คิดเลย จำ จำ จำ แล้วก็จำ เลยไม่รู้จะจำไปทำไม :_Rd

เนื่องจากผมก็เรียนมาในระบบท่องเป็นนกแก้วนกขุนทองเหมือนกัน แต่ผมเห็นว่ามันมีประโยชน์ครับ ถ้าจำได้มากๆแล้วเวลาจะคิดอะไรมันมีข้อมูลให้คิดมากกว่าที่อยู่ๆก็ให้แต่คิดโดยที่ไม่มีความรู้อะไรจากการท่องอยู่ในหัวเลย

ถ้าไปอ่านเรื่องของคนที่ประสบความสำเร็จหลายๆคนที่เรียนไม่จบ คนเหล่านั้นไม่ใช่ว่าไม่อ่านไม่ท่องนะครับ

เพียงแต่วิชาที่เขาไม่ชอบเขาก็ไม่สนใจเลย(ทำให้เรียนไม่จบ)

ส่วนสิ่งที่เขาเหล่านั้นสนใจ พวกเขาอ่านและท่องเป็นพายุบุแคมใหญ่เลยครับ :_ee

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เนื่องจากผมก็เรียนมาในระบบท่องเป็นนกแก้วนกขุนทองเหมือนกัน แต่ผมเห็นว่ามันมีประโยชน์ครับ ถ้าจำได้มากๆแล้วเวลาจะคิดอะไรมันมีข้อมูลให้คิดมากกว่าที่อยู่ๆก็ให้แต่คิดโดยที่ไม่มีความรู้อะไรจากการท่องอยู่ในหัวเลย

ถ้าไปอ่านเรื่องของคนที่ประสบความสำเร็จหลายๆคนที่เรียนไม่จบ คนเหล่านั้นไม่ใช่ว่าไม่อ่านไม่ท่องนะครับ

เพียงแต่วิชาที่เขาไม่ชอบเขาก็ไม่สนใจเลย(ทำให้เรียนไม่จบ)

ส่วนสิ่งที่เขาเหล่านั้นสนใจ พวกเขาอ่านและท่องเป็นพายุบุแคมใหญ่เลยครับ :_eeอยากเสริมว่าเค้าคิดด้วยครับจึงเกิด นวัตกรรมใหม่ๆ

คือผมไม่ใช่ไม่เห็นความสำคัญของการท่องนะครับ แต่ที่ว่าสิ่งสำคัญคือ ท่องแล้ว จำได้แล้ว แต่เอาไปใช้อย่างไร เช่น ต้องการผลลัพท์ คือ 6 มีกี่วิธีที่จะให้ได้ผลลัพท์ นี้ ถ้าผมบอกว่าเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ท่านจะเชื่อผมไหมครับ ลองคิดกันเล่นๆดูครับ :031

ถูกแก้ไข โดย promin

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คือผมไม่ใช่ไม่เห็นความสำคัญของการท่องนะครับ แต่ที่ว่าสิ่งสำคัญคือ ท่องแล้ว จำได้แล้ว แต่เอาไปใช้อย่างไร เช่น ต้องการผลลัพท์ คือ 6 มีกี่วิธีที่จะให้ได้ผลลัพท์ นี้ ถ้าผมบอกว่าเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ท่านจะเชื่อผมไหมครับ ลองคิดกันเล่นๆดูครับ :031

อิอิ ถ้าถามผมละก็ผมตอบว่ามี infinityวิธีเลยครับ

 

ลองสังเกตุดูสิครับว่าเด็กสมัยนี้ที่เรียนแบบคิดแล้วไม่ค่อยท่องเป็นยังไง ผมมักได้ยินบรรดาครูบาอาจารย์บ่นกันเป็นประจำว่าเด็กสมัยนี้ไม่เหมือนก่อน(ประมาณว่าฉลาดอ่ะครับ) เพราะนอกจากไม่ท่องแล้วก็ยังไม่คิดอีกต่างหาก

ถูกแก้ไข โดย MOR LEK

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ประเด็นการศึกษานี่น่าสนใจมากนะครับ

 

ผมคิดว่าระบบของเราก็พอใช้ได้แล้วนะครับ

แต่ตอนนั้นผมดันขี้เกียจเรียนหนังสือซะเอง

ถ้ามองย้อนกลับไป ถ้าสภาพแวดล้อม และบุคคลรอบข้าง

มีความรู้ หรือความสนใจ ในเรื่องใด ผมเชื่อว่า

เด็กๆก็จะซึมซับความคิด ความรู้ในส่วนนั้นไปบ้าง

 

ผมสงสัยเรื่องระบบการเงินตั้งแต่เด็กแล้ว

ว่าทำไมถึงพิมพ์เงินได้ ทำไมถึงมีดอกเบี้ย

แล้วเอาเงินมาจากไหน ฯลฯ แต่ก็ไม่มีใครตอบ

ได้แบบชัดๆ เคลียร์ๆ แล้วก็ลืมๆข้อข้องใจนี้ไปบ้าง

หันไปสนใจเรื่องเทคโนโลยี ฯลฯ

 

จนกระทั้งได้มาเริ่มศึกษาเรื่องทองคำด้วยตัวเอง

จากกระทู้คุณ next และเวบอื่นๆ (เนื่องจากอยากจะเอาเงินเก็บ

ที่พอมี มาลงทุนไว้เผื่อในอนาคตเวลาแก่ตัวลงไป)

 

และพอมาได้หนังสือ Currency Wars ก็รู้สึกเหมือนกับว่า

คำถามที่ข้องใจในหลายๆจุดตั้งแต่เด็ก มันถูกคลี่คลายหมดแล้ว

(ถึงจะสายไปหลายสิบปี แต่ก็ยังไม่สายเกินไป)

 

คนรอบตัวเด็กเป็นอย่างไร ผมเชื่อว่าเด็กจะซึมซับความคิด

และวิธีมองโลกจากคนรอบข้างไปมากทีเดียว

 

วันเด็กปีหน้า ต้องเปลี่ยนนโยบายใหม่ ให้มีคำขวัญสำหรับผู้ใหญ่รอบตัวเด็กด้วย

:uu

ถูกแก้ไข โดย wcg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เอาคลิปรายการ Keiser Report ตอนล่าสุดมาฝากครับ

 

 

 

ช่วงหนึ่งในตอนนี้ Max Keiser พูดถึงประเด็นที่ Christine Lagarde ออกมา

พูดเกี่ยวกับวิกฤติทางการเงินในตอนนี้ และเสนอให้ประชาคมยุโรปลงทุนกับการศึกษา

เพื่อสิ่งที่ดีกว่าในอนาคต

 

หนึ่งวันก่อนที่ Christine จะออกมาพูดนั้น IMF พึ่งจะออกมาขอเงินจากภาษีประชาชน 600 พันล้านเหรียญ

โดยที่ Stacy Herbert (ผู้จัดรายการร่วมกับ Max) ให้ความเห็นว่า เป็นการสับขาหลอกว่าเงินที่จะเอามานั้น

จะเอามาใช้เพื่อลงทุนกับการศึกษาเพื่อพัฒนาประชาชน ฯลฯ (ประมาณอ้างว่าเงินก้อนนี้จะกลับไปสู่ประชาชนนั่นแหละ)

 

Max ได้ให้ความเห็นว่า การที่จะแก้ปัญหาในตอนนี้มีสองวิธี (อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น)

1)เพิ่มอัตราดอกเบี้ย

หรือ

2)เพิ่ม (x2 - x3) ค่าแรงขั้นต่ำ

 

ถ้าผู้บริหารไม่เลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อทำให้เกิดเงินเฟ้อขึ้น

ก็จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาเงินฝืด (ที่คนไม่ค่อยยอมใช้เงิน / ไม่มีเงินใช้) ในตอนนี้ได้

 

Max ยังบอกต่ออีกว่า ถ้าผู้บริหารเลือกทำอย่างอื่นเพื่อแก้ปัญหาวิกฤติการเงินในตอนนี้

แสดงว่าคนกลุ่มนี้ ยังสนับสนุนพวกนักเก็งกำไร และคนที่กู้ยืมเงิน โดยที่ไม่เห็นหัวประชาชนตาดำๆทั่วไป

 

(นายแบงค์พวกนี้ มีแต้มต่อมากกว่าชาวบ้านอย่างเราๆเยอะครับ อย่างเช่นในอเมริกา พวกเขา

สามารถกู้เงินมาเพื่อ "กระตุ้น" เศรษฐกิจได้โดยจ่ายดอกที่ 0% แถมถ้ากระตุ้นไปๆมาๆแล้ว

เงินต้นหาย รัฐบาลก็ใจดีบอกว่าไม่ต้องจ่ายเงินต้นคืนก็ได้ เดี๋ยวไปรีดภาษีประชาชน กับลดค่าเงิน

มาจ่ายคืนให้เอง)

 

อ่านมุมมองของ Max Keiser ไว้ แล้วเวลาตามข่าวจากกลุ่มยูโร / อเมริกา

ลองสังเกตุดูนะครับ ว่าคนพวกนี้ทำอะไร และอ้างเหตุผลว่าอะไร

I'll give you a lesson in economics in 20 seconds.

 

It's centrally planned.

It's central-bank planned.

It's low interest rate to favor speculators.

To the point where unsustainability has now grip global economy by the throat

forcing one or two outcomes and there are only one of two outcomes.

 

A ) Central banks begin to raise interest rate which would infact spur interbank lending

which would be inflationary which is what they want to curb deflationary nightmare.

 

OR

 

B ) They raise minimum wage. They double or triple minimum wage. That would also cause inflation.

That would also cure the problem.

 

Those are the only two outcomes. Raise rate of interbank lending or rase minimum wage.

To suggest anything else is only favoring speculator and borrowers to the detriment of

everybody else who's not one of those people who are borrowing with impunity with zero risk....

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ผมคิดว่าระบบของเราก็พอใช้ได้แล้วนะครับ

แต่ตอนนั้นผมดันขี้เกียจเรียนหนังสือซะเอง

ถ้ามองย้อนกลับไป ถ้าสภาพแวดล้อม และบุคคลรอบข้าง

มีความรู้ หรือความสนใจ ในเรื่องใด ผมเชื่อว่า

เด็กๆก็จะซึมซับความคิด ความรู้ในส่วนนั้นไปบ้าง

 

 

 

คนรอบตัวเด็กเป็นอย่างไร ผมเชื่อว่าเด็กจะซึมซับความคิด

และวิธีมองโลกจากคนรอบข้างไปมากทีเดียว

 

 

 

เห็นด้วยอย่างยิ่ง ตอนเด็กผมชอบอ่านหนังสือมาก แต่อ่านหนังสืออ่านเล่นเกือบทั้งหมด กว่าจะรู้ว่าตัวเองชอบหนังสือที่มีสาระความรู้ก็ถือว่าช้ามากก ถ้าคนรอบข้างผมแนะนำหนังสือดีๆให้อ่าน ชี้แนะความน่าสนใจของหนังสือแต่ละประเภท ผมคงมีพื้นฐานความรู้ที่หลากหลาย เพราะตอนเด็กผมอ่านเยอะมากกก

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Max ได้ให้ความเห็นว่า การที่จะแก้ปัญหาในตอนนี้มีสองวิธี (อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น)

1)เพิ่มอัตราดอกเบี้ย

หรือ

2)เพิ่ม (x2 - x3) ค่าแรงขั้นต่ำ

ถ้าผู้บริหารไม่เลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อทำให้เกิดเงินเฟ้อขึ้น

ก็จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาเงินฝืด (ที่คนไม่ค่อยยอมใช้เงิน / ไม่มีเงินใช้) ในตอนนี้ได้

 

 

ผมสงสัยสำหรับข้อ1ครับ ที่ผมเข้าใจการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยจะนำมาใช้คุมเงินเฟ้อ ถ้าอยากให้เงินเฟ้อ1ในสิ่งที่ทำได้คือลดดอกเบี้ยครัับ รบกวนผู้รูัแนะนำด้วยครับ ผมเข้าใจผิดหรือคุณwcgพิมพ์ผิดครับ ไม่สะดวกเรื่องการฟังครับ(การฟังแย่มาก การอ่านถ้าไม่มากพอมั่วได้)

ถูกแก้ไข โดย ส้มโอมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...