ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
moddang

ชมรถสวยๆ

โพสต์แนะนำ

ไปหารูปมา ก็ได้อะไรติดไม้ ติดมือมาดีเหมือนกัน บางท่านก็รู้แล้ว บางท่านมือใหม่ก็อาจไม่รู้ เลยแปะซะหน่อย

 

 

 

เทคนิคประหยัดน้ำมัน..ดีมาก

 

น้ำมันแพง ………… ..ต้องฉลาดเติม

 

 

oil.jpg

 

 

ไม่ทราบว่าเหล่าผู้ชายเช่นคุณควักกระเป๋าจ่ายเงินค่าน้ำมันกันยังไงแต่ ที่ California ผู้ใช้รถก็จ่ายไม่เบา จนมีผู้รู้สอนเคล็ดลับการเติมน้ำมันเพื่อช่วยให้ผู้ใช้รถจ่ายเงินอย่างคุ้ม ค่า

 

ผู้รู้ซึ่งมีประสบการณ์ในวงการน้ำมันกว่า 31 ปี

 

เล่าว่าเขาทำงานที่คลังน้ำมันแห่งหนึ่งใน San Jose , CA ซึ่งมีคลังเก็บ 34 คลัง ขนาดบรรจุรวม 16,800,000 แกลลอน ณ ที่นั่นแต่ละวันจะจ่ายน้ำมัน ประมาณ 4 ล้านแกลลอน ตลอด 24 ชม.โดยวันหนึ่งจ่ายน้ำมันดีเซล อีกวันหนึ่งจ่ายน้ำมันเครื่องบินและน้ำมันรถยนต์เกรดต่างๆ สลับกันเขาบอกว่า

 

1. จงเติมน้ำมันตอนเช้าขณะที่อุณหภูมิบนพื้นดินยังเย็นอยู่

 

อย่าลืมว่าปั๊มน้ำมันทุกแห่งมีถังน้ำมันฝั่งอยู่ใต้ดิน เมื่อพื้นดินยิ่งเย็นน้ำมันยิ่งควบแน่น เมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้น น้ำมันก็จะขยายตัวตามดังนั้น หากเติมน้ำมันช่วงบ่ายหรือเย็น คุณจ่ายค่าน้ำมัน 1 แกลลอน แต่ได้มาไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยธุรกิจค้าน้ำมัน ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเบนซิน ดีเซล น้ำมันสำหรับเครื่องบินเอทานอล หรือผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมอื่นๆ อุณหภูมิและความถ่วงจำเพาะมีบทบาทสำคัญ อุณหภูมิเพิ่มขึ้นเพียง 1 องศา หมายถึง………เงินมหาศาลในธุรกิจนี้ แต่ปั๊มน้ำมันไม่มีการชดเชยอุณหภูมิให้ลูกค้า

 

2. ขณะเติมน้ำมัน อย่าให้เด็กปั๊มตั้งหัวฉีดอยู่ในตำแหน่งไหลเร็ว (ในอเมริกาเจ้าของรถต้องลงมือเติมเอง)

หากคุณสังเกต จะเห็นว่ากลไกเหนี่ยวมี 3 ระดับ คือ low, middle, และ higt เมื่อตั้งในระดับไหลช้า จะเกิดไอระเหยของน้ำมันน้อยที่สุดหากตั้งในระดับไหลเร็ว น้ำมันบางส่วนจะกลายเป็นไอระเหยและถูกสูบย้อนกลับไปยังถังใ้ต้ดิน นั่นหมายถึงคุณจ่ายเงินมากกว่าที่ควร

 

3.เคล็ดลับอีกอย่างคือ

 

ควรเติมน้ำมันเมื่อน้ำมันในรถเหลือครึ่งถัง(แหล่งข้อมูลบางแห่งแนะนำว่า เติมน้ำมันแค่ครึ่งถังก็พอจะได้ลดน้ำหนักบรรทุกและประหยัดน้ำมัน ทั้งนี้และทั้งนั้นขอให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณตัดสินเอาเองก็แล้วกัน?หมายเหตุ ผู้แปล)

 

เหตุผลคือ น้ำมันบรรจุในถังยิ่งมาก เนื้อที่ว่างสำหรับไอระเหยก็ยิ่งน้อยเพราะน้ำมันระเหยเป็นไอเร็วกว่าที่คุณ คาดคิดในคลังเก็บน้ำมันจะมีอุปกรณ์ภายในถัง ทำหน้าที่เป็นเพดานลอยขึ้นลงตามระดับน้ำมัน ทำให้ไม่มีช่องว่างระหว่างน้ำมันกับอากาศลดไอระเหยของน้ำมันให้น้อยที่สุด รถขนส่งน้ำมันเมื่อมาบรรทุกน้ำมันจึงเติมได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ผิดกับที่ปั๊มน้ำมันซึ่งไม่มีการชดเชยอุณหภูมิ

 

4. ข้อเตือนใจอีกข้อหนึ่ง

 

ขณะที่คุณขับรถเข้าปั๊มถ้าเห็นรถบรรทุกกำลังถ่ายน้ำมันเข้าสู่ถังเก็บใต้ดิน จงอย่ารีบร้อนเติมน้ำมันช่วงเวลานั้น เพราะตอน “ลงของ” สิ่งแปลกปลอม ซึ่งปกติตกตะกอนอยู่ใต้ถัง จะถูกปั่นป่วนจนลอยตัว หากคุณเติมน้ำมันช่วงเวลานั้น อาจมีโอกาสดูดเอาสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่รถคุณได้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Tokyo auto salon 2010

 

 

2010-Tokyo-Auto-Salon-Girls-10-400x600.jpg

 

2010-Tokyo-Auto-Salon-Girls-11.jpg

 

2010-Tokyo-Auto-Salon-Girls-12-400x600.jpg

 

2010-Tokyo-Auto-Salon-Girls-13-400x600.jpg

 

2010-Tokyo-Auto-Salon-Girls-14-482x600.jpg

ถูกแก้ไข โดย moddang..

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แปลกใจจังเลย มดแดง เป็นผู้หญิงที่เอารูปรถมาวาง no comment สงสัยบ้านนี้ไม่มีใครเอาเงินไปซื้อรถ.......มีแต่สะสมทอง

 

ขอบคุณครับ คุณมดแดง ผมว่าจะไปงาน แต่เป็นไข้หวัดงอมแงม เสียดายจัง ต้องดูรูปในคอมแทนครับ เห็นทีวีบอกว่าคึกคักน่าดูเลย :ph34r: :lol: (เบื่อพิตตี้ยืนบังรถ)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณครับ คุณมดแดง ผมว่าจะไปงาน แต่เป็นไข้หวัดงอมแงม เสียดายจัง ต้องดูรูปในคอมแทนครับ เห็นทีวีบอกว่าคึกคักน่าดูเลย :ph34r: :lol: (เบื่อพิตตี้ยืนบังรถ)

 

อ้อ ..คล้ายๆกัน แต่มดแดงไปกลับมาค่ะ แล้วรุ่งขึ้นก็เป็นหวัดแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลย นอนทั้งวัน เพิ่งวันนี้ดีขึ้นบ้างแล้ว เลยนั่งเกะกะอยู่หน้าคอมพ์แล้วก็อาย ไอ ไอ บ้างเวลาขี้เกียจดื่มน้ำ :ph34r:

ถูกแก้ไข โดย moddang..

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ไปเที่ยวญี่ปุ่นต่อนะคะ..หรือปีนี้ใครอยากไปดูของจริง อ่านแว๊บๆ มกราคมนี้นะคะ มีทัวร์ 5 วัน ประมาณ 55000 ค่ะ :lol:

 

Tokyo-Auto-Salon-2010-B-014-600x398.jpg

 

Tokyo-Auto-Salon-2010-B-013-600x903.jpg

 

Tokyo-Auto-Salon-2010-B-004-600x903.jpg

 

Tokyo-Auto-Salon-2010-B-006-600x903.jpg

 

Tokyo-Auto-Salon-2010-B-021-600x903.jpg

 

Tokyo-Auto-Salon-2010-B-029-600x903.jpg

 

Tokyo-Auto-Salon-2010-B-012-600x903.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จีเอ็ม ออนสตาร์ เทคโนโลยีเชื่อมรถยนต์ Cruze ผ่านเครือข่ายมือถือ

 

 

OnStar คืออะไร ?

 

:rolleyes: :wub:

OnStar เป็นทั้ง ฮาร์ดแวร์ ฟีเจอร์ในรถ GM รุ่นใหม่ๆ ที่ทำงานร่วมกับ บริการ ผ่านเครือข่ายเน็ตเวิร์ค มือถือ

 

OnStar เป็นบริษัทลูกของ General Motors ที่จัดมาเพื่อให้บริการกับสมาชิกในประเทศอเมริกา แคนาดา และจีน เช่น การติดต่อกับสมาชิก(ที่ลงทะเบียน) การดูแลความปลอดภัย การจัดการ hand-free การนำทาง หรือกระทั่งการตรวจสอบระบบรถยนต์ของเราแบบระยะไกล (remote diagnostics systems) ตอนนี้ OnStar ยังเป็นบริการที่เฉพาะรถยนต์ที่ผลิตจากค่ายจีเอ็ม General Motors และซาป โดยบริการนี้จะใช้ได้ ต้องดูด้วยว่ารถยนต์รุ่นนั้นได้ติดตั้งฮาร์ดแวร์ของ OnStar ด้วย คำที่จะติดปากใน ละตินอเมริกา ก็คือคำว่า ChevyStar ซึ่งมีผู้สมัครสมาชิกแล้วว่า 5 ล้านคน

บริการของ OnStar จะทำงานอยู่บนระบบ CDMA ในช่วงต้นโดยเน็ตเวิร์คของ Verizon Wireless ในอเมริกา และ Bell Mobility ในแคนาดา โดยการใช้ระบบ GPS ในการให้ข้อมูลจุดใช้งาน ผู้ขับขี่หรือผู้โดยสาร สามารถสั่งงานด้วยเสียงเพื่อเชื่อมการติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ของ OnStar เพื่อการช่วยเหลือฉุกเฉิน ตรวจสอบข้อมูลระบบรถยนต์ หรือขอเส้นทางการขับขี่ จากเจ้าหน้าที่ได้ ในกรณีที่เกิดการชน รถยนต์ที่ติดตั้งระบบ OnStar และสมัครใช้บริการไว้ จะเชื่อมต่อไปยังเจ้าหน้าที่ศูนย์ได้อีกด้วย ในช่วงแรกจะกำหนดว่าถุงลมนิรภัยทำงานถึงจะเชื่อมต่อ แต่ในปัจจุบันถ้าเกิดรถชนไม่ว่าถุงลมจะทำงานหรือไม่ ก็จะเชื่อมต่อกับ OnStar ทั้งสองกรณี เรียกว่าAdvanced Automatic Crash Response (AACR) ตอบสนองต่อการชนอัตโนมัติชั้นสูง

 

เรื่องการติดตามรถยนต์ รถยนต์ที่มีระบบ OnStar จะมีตัวติดตามรถสูญหาย โดยจะให้ข้อมูลพิกัด ความเร็ว และทิศทางการเคลื่อนที่ กับตำรวจเพื่อทำการติดตามได้อีกด้วย สำหรับ Cruze ในบางประเทศก็มีฟีเจอร์นี้กับเค้าด้วย แต่ไม่ทั้งหมด (อย่างชาร์ตไฟ มันจะไปมีได้ไง ใช่ไหมครับ) งั้นเรามาดูกันเฉพาะรุ่นไปเลยว่าสำหรับเจ้า Cruze ทำอะไรได้บ้าง

 

 

 

จะเห็นว่าเราสามารถเชื่อต่อกับ Cruze ผ่านมือถือ เพื่อใช้ฟีเจอร์ได้หลายอย่าง ตัวอย่างเช่น การสั่ง สตาร์ทรถ การหยุดสตาร์ทรถ (ไม่ใช่หยุดรถนะครับ) เพื่อวอร์มรถ อย่างเช่น เมืองนอกที่อากาศหนาวมาก ก็อาจจะสั่งสตาร์ทรถเพื่อวอร์มเครื่องยนต์ก่อนที่เราจะเข้าไปขับ เป็นต้น หรือเรื่องการล็อครถ สมมติว่าคุณกำลังจะเดินทาง นั่งอยู่ในเครื่องบินแล้ว … แต่เผอิญว่า ไม่แน่ใจว่าล็อครถหรือยัง ทำไงดีครับ ก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมา กดล็อค แล้วใส่ Pin Code เท่านั้นรถก็ล็อคสำเร็จ สบายใจไป หรือกรณีที่แฟนขับรถเราไป แล้วลืมกุญแจไว้ในรถ ก็สั่งเปิดประตูได้จากมือถือเรา

 

กรณี หารถ (อันนี้เราก็ใช้กุญแจรีโมตกันอยู่แล้ว) แต่เข้าก็ใส่ฟีเจอร์เข้าไปใน Apps ด้วย คือ ให้รถสั่งแตร และไฟให้กระพริบ เพื่อช่วยค้นหารถ (คุ้นๆ ว่าถ้าอยู่กลางแจ้ง ก็ใช้ Google Maps ดูตำแหน่งรถจากมือถือได้เลยครับ เพราะรถมี GPS อยู่ และก็คาดเดาไปได้เลยว่า มันจะช่วยเราหารถได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากโทรศัพท์ก็มี GPS พอสั่ง Google Navigator นำทางก็ไปหารถได้เลย)

 

ในแง่การดูข้อมูลคนที่เคยใช้ OBD2 ต่อกับรถยนต์ผ่านมือถือ จะ ทราบว่าเราดูข้อมูลเครื่องยนต์ และเซ็นเซอร์ในรถยนต์ได้หลายตัว เจ้า Apps นี้ก็เข้าถึงข้อมูลอื่นๆคล้ายๆกัน โดยส่งผ่านเครือข่ายมือถือ แทนที่จะเป็น Bluetooth หรือ Wifi ทำให้เราดูข้อมูล ได้ เช่น ระดับน้ำมัน แรงดันลมในล้อทั้ง 4 เป็นต้น จากที่ไกลๆ ได้ เป็นต้นว่านั่งทำงานอยู่นึกอยากจะรู้ระดับน้ำมันว่าจะหมดหรือยัง ก็เรียกไปได้เลย หรือ แฟนกำลังขับรถเราอยู่ อยากรู้แรงดันลมก็เรียกดูได้ อย่างนี้เป็นต้น เรียกว่าครูซ ทำให้รถยนต์ เป็นของของเรามากขึ้นกว่าแต่ก่อน เรารู้ว่ามันอยู่ที่ไหน สภาวะเป็นอย่างไร ไม่ว่าใครจะขับ เราก็ยังมีความเป็นเจ้าของอยู่ นอกจากฟีเจอร์สนุกๆ ก็ยังมีฟีเจอร์ปกติของ OnStar ก็คือติดต่อศูนย์ ขอความช่วยเหลือ (คล้ายๆ จส.100 บ้านเรา แต่จะมีพนักงาน รับสายตลอด 24 ชั่วโมง) ทันทีที่กดปุ่ม Connect ก็จะมีศูนย์คอยช่วยเหลือระหว่างการขับขี่ทันที

 

จะเห็นว่าเจ้า OnStar ทำให้ Cruze ซึ่งเป็นรถเซกเมนต์เดียวกับ Civic และ Altis มีลูกเล่นที่น่าสนใจเพิ่มขึ้นไปอีกในประเทศที่กล่าวมาข้างต้น แต่สำหรับเมืองไทย สงสัยจะต้องรอไปก่อนครับ แต่ไม่แน่ อาจจะเป็นไม้สอง หรือไม้สามของเชฟ ไว้สู้รถตัวใหม่ของค่ายญี่ปุ่น ก็ได้ใครจะไปรู้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รู้จักเกียร์ CVT-ขับประหยัดกับ 'นิสสัน'

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

 

 

 

ปัจจุบันจะเห็นว่าค่ายรถมัก จะชูเรื่องการประหยัดน้ำมัน มาเป็นอีกจุดขายหนึ่ง ซึ่งหากประหยัดจริงก็ต้องยกความดีความชอบให้ ซึ่งการมีรถหรือระบบต่างๆ ที่ช่วยทำให้ประหยัดน้ำมัน นับเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่ต้องมองหาจากรถคันไหน? คุณสามารถทำให้ประหยัดได้ทันที นั่นคือพฤติกรรมการขับของเรานั่นเอง?

 

เหตุนี้บริษัท นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จึงได้เชิญสื่อมวลชนไปอบรมความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีเกียร์ CVT(เป็นระบบหนึ่งในการช่วยให้ประหยัดน้ำมันขึ้น) และเทคนิคการขับขี่ประหยัดน้ำมัน หรืออีโค ไดรฟ์(Eco Drive) โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากนิสสัน มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น และนิสสัน เทคนิคคอลเซ็นเตอร์ เซาท์อีสต์ เอเชีย เป็นผู้ให้ความรู้และเทคนิคการขับขี่ที่ประหยัดและปลอดภัย

 

553000016681501.JPEG

 

ช่วงแรกนิสสันให้ทำความรู้จักกับระบบเกียร์ CVT ซึ่งชิ้นส่วนทั่วไปก็คล้ายกับเกียร์อัตโนมัติ แต่ระบบเกียร์ CVT จะแตกต่างหลักๆ ตรงที่พูเลย์ 2 ตัว เรียกว่าพูเลย์ขับ และพูเลย์ตาม และมีสายพานโลหะ แทนชุดเกียร์และชุดคลัตช์แบบเก่า โยงระหว่างพูเลย์ขับและพูเลย์ตามให้ทำงานสัมพันธ์กัน โดยพูเลย์จะปรับขนาดเส้นผ้าศูนย์กลางตามความเร็วรอบ เมื่อรถยนต์ขับด้วยความเร็วต่ำ เส้นผ่านศูนย์กลางพูเลย์ขับจะเล็ก แต่เมื่อไต่ความเร็วสูงขึ้น พูเลย์ก็จะปรับเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่ขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่พูเลย์ตามจะเล็กลงเป็นตรงข้ามกัน จากการทำงานของพูเลย์ดังกล่าวทำให้การขับขี่ เป็นไปอย่างนุ่มนวลราบเรียบ รักษารอบเครื่องยนต์คงที่ และช่วยให้ประหยัดน้ำมันขึ้น

 

ทั้งนี้นิสสันได้มีการพัฒนาระบบเกียร์ CVT มากว่า 20 ปี และปัจจุบันได้ใช้ระบบเกียร์ที่เรียกว่า Xtronic CVT ซึ่งติดตั้งอยู่ในรถที่ทำตลาดในไทย ได้แก่ นิสสัน เทียน่า, เอ็กซ์-เทรล และรุ่นล่าสุดนิสสัน มาร์ช จึงนับเป็นเจ้าแห่งรถเกียร์ CVT ในไทยก็ว่าได้ โดยเกียร์ Xtronic CVT เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม สามารถลดแรงเสียดทานการทำงานลง 20% เบาขึ้น 13% เล็กลง 10% มีช่วงอัตราทดกว้างขึ้น ความเร็วสูงแต่รอบต่ำ จึงทำให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น

 

553000016681502.JPEG

 

เมื่อทำความรู้จักเกี่ยวกับระบบส่งกำลัง Xtronic CVT กันแล้ว ทางนิสสันจึงให้สื่อมวลชนได้ไปลองขับรถ ซึ่งจัดมาให้ครบทุกรุ่นที่ขายในไทย โดยมีเงื่อนไขให้ขับตามสไตล์ปกติ และจากนั้นมาดูผลการขับ เพราะนิสสัน เทนนิคคอลเซ็นเตอร์ฯ ได้นำกล่องประมวลผลการขับมาใช้ เพื่อให้ได้ทราบพฤติกรรมและอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันของแต่ละคนเลย

 

โดยทีมงาน "ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง" ได้ ขับนิสสัน เทียน่า และเมื่อเสร็จสิ้นการขับรอบแรก จากข้อมูลของกล่องที่จับพฤติกรรมการขับ ปรากฏว่าการออกตัวยอดเยี่ยม การรักษาความเร็วเกือบต่ำกว่ามาตรฐาน และระยะการเบรกอยู่ในเกณฑ์ดี สรุปการขับอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง(Intermediate Level) ส่วนอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันทำได้ 9.0 กม./ลิตร(เงื่อนไขต้องคุมความเร็วตามแต่ละจุด และไม่เกิน 60 กม./ชม. แต่มีทะลุตลอด)

 

หลังจากทุกคนรู้พฤติกรรมการขับตนเองแล้ว ทางนิสสันจึงได้อบรมการขับอีโคไดร์ฟ โดยเฉพาะรถที่ใช้เกียร์ CVT ซึ่งสรุปเทคนิคการขับ ได้แก่ 1.ก่อนออกตัวรถยนต์ เมื่อปล่อยเท้าออกจากแป้นเบรก ให้เว้นระยะเวลา 1-2 วินาที จากนั้นจึงเริ่มกดน้ำหนักที่แป้นคันเร่ง 2.เมื่อรถเคลื่อนที่ ให้ควบคุมน้ำหนักเท้าในการกดคันเร่ง เมื่อต้องการเพิ่มความเร็วให้ค่อยๆ กดน้ำหนักเพิ่มทีละน้อย อย่ากดคันเร่งเพื่อเพิ่มความเร็วทันที 3.วางแผนการขับเฉพาะหน้าตลอดเวลา หากต้องการหยุด ให้ถอนคันเท้าออกจากคันเร่งก่อนเบรก(เบรกที่รอบต่ำกว่า 1000 rpm) และสุดท้าย 4.ความเร็วคงที่ ควบคุมแป้นคันเร่งสม่ำเสมอที่สุด

 

จากนั้นจึงได้ให้สื่อมวลชนไป ทดลองขับอีกรอบ โดยแต่ละคนจะต้องขับคันเดิม ปรากฏว่าส่วนใหญ่มีเกณฑ์ดีขึ้นเกือบหมด สำหรับ "ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง" จบที่? Advanced Level อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันดีขึ้นเป็น 11.5 กม./ลิตร

 

 

http://www.manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9530000157331

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผมขับโคราช-กทม. เหยียบ 130-160 ตลอด กินน้ำมันก็ราวๆ 11-11.5 กม./ลิตรครับ laugh.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อุ้ย...เพิ่งเห็น !01 !10

 

ใช้รถอะไรคะ teana หรือคะ โอ้โฮ ประหยัดมากเลยนะคะ ใหญ่จังค่ะ ยังไม่เคยสัมผัส

 

แล้วทางใกล้ล่ะคะ[/color] !17

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อุ้ย...เพิ่งเห็น em0009.gif em183.gif

 

ใช้รถอะไรคะ teana หรือคะ โอ้โฮ ประหยัดมากเลยนะคะ ใหญ่จังค่ะ ยังไม่เคยสัมผัส

 

แล้วทางใกล้ล่ะคะ[/color] em308.gif

 

-ใช่ครับ เครื่อง 2500 (กินน้ำมันเท่าๆกับ teana เครื่อง 2000) ใหญ่กว่า E class ครับ แต่เบาะคนขับนั่งไม่สบายเท่า(แหะๆ ก็ของมันถูกกว่ากันเน๊าะ)

 

-ทางไกล้อยู่ที่ว่าไกล้ขนาดใหนครับ ถ้าวิ่งรถติดๆในกรุงเทพ กินน้ำมันทั้งนั้นแหละครับ 7-9 กม./ลิตร แล้วแต่ว่าติดมากน้อย

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณค่ะ .

 

ของมดแดงจริงๆก็ยังไม่สรุปหลอกค่ะ ว่าจะเป็น cruze หรือ civic ก็คงต้องเปรียบเทียบดู บ้านเราส่วนใหญ่ คนไม่ค่อยมองรถค่าย GM เท่าไรค่ะ หาว่าเป็นรถ เกาหลี เวลาขาย ขายต่อไม่ได้ราคา เหมือนรถญี่ปุ่น ตอนที่เลือก cativa นั้นไม่ได้คิดแบบนั้น คิดว่าสวย ของเรานะ อันนี้ต้องเอาไว้ก่อน แล้วไปดูอย่างอื่น ราคา สมรรถนะ ตอนนั้นแค่ไปดู แต่เซลล์เชียร์ให้ลองขับ โอเค อื้อฮือ ไม่ได้ขับนา ทั้งๆที่น้องชายก็ไปด้วยแต่ ไม่กล้า ใครล่ะจะกล้ากับระบบใหม่ๆไม่คุ้น ให้เซลล์ขับ แต่เรานั่ง ความรู้สึกของผู้หญิงนะ ตอนเร่ง เหมือนนั่ง speed boat 2 เครื่อง พอจะเร่ง ก็ออกตัวเร็ว พอจะหยุดในระยะกระชั้นชิด ก็หยุดนิ่มทีเดียวเชียว หัวไม่โขกล่ะ ว่าแล้วก็โม้ captiva 2.0 lt คือรุ่นดีเซลล์ค่ะ เครื่องแค่ 2000 cc อิอิ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผมขับโคราช-กทม. เหยียบ 130-160 ตลอด กินน้ำมันก็ราวๆ 11-11.5 กม./ลิตรครับ laugh.gif

 

อิอิ 130-160 แล้วมะเจอตำหนวดโบกแถวๆปากช่องมั่งเหรอครับ กระผมโดนประจำ :ph34r: :lol:

 

CVT ใช้ดีไหมครับ ตอนออกมาใหม่ๆ เห็นใช้กับรถ เครื่องยนต์เล็กๆ คันแรกที่ใช้ในตลาดเมืองไทย เห็นจะเป็นเฟียตปุนโต้ ต่อมาก็มิตซู เครื่องยนต์ต่ำกว่า 2000 cc ทั้งนั้นเลย พอฮอนด้า จะใช้ก็สนใจ แต่

ตอนนั้นผมคิด(เอาเอง)ว่าระบบสายพานเหล็กขอบยาง(พิเศษ)กับพูลเลย์ ใช้ความฝืด เป็นตัวส่งผ่านกำลัง แรงบิดคงได้น้อย ผมก็ถาม กับ เซล ว่า เมื่อการทำงานมันหมุนด้วยรอบสูง การเสียดสีระหว่างขอบยางสายพานกับ

พูลเล่ย์โลหะ์ ภายในเกียร์ จะเกิดความร้อนสูงแล้วระบายความร้อนยังไง (ความร้อนสูงทำให้แรงบิดน้อยลง) เซล บอกว่าใช้น้ำมันหล่อระบายความร้อน คราวนี้ผมงงมั่ง อ้าวเมื่อใช้แรงเสียดทานเป็นตัวส่งแรง แล้วดันแช่ในน้ำมัน(คงหมายถึงน้ำมันเกียร์)

แล้วมันจะวิ่งยังไง(ฟะ) มองหน้าเซลสาวๆ เลยสรุบว่ารอฟังข่าวดีกว่า ว่าการใช้งานเป็นยังไงมั่ง (แต่ตั้งตอนนั้นถึงตอนนี้ไม่ได้ตามข้อมูลต่อเลยครับ) B)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

555 พูดซะน่าสงสารเลย ไม่มีคนมาเม้นท์ tongue.gif

ลองแบบนี้ดูสิครับ ใครทีเปิดดูแล้วไม่เม้นท์ ขอให้อ้วน ขอให้ขึ้นคาน ขอให้ขายหมู ขอให้ติดดอย biggrin.gif

 

 

อ๋อรู้แระ...พี่หมอนี่เองต้นเหตุทำหนูติดดอยเลยอะ่.... :lol: :lol:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณขอมาค่ะ ไหนๆก็ขอมาแล้ว เอามาพอเป็นน้ำจิ้มวันหยุด

 

 

555.. เข้ามาแซวเล่นอ่ะคับ พี่หมอเล็กเล่นแช่งไว้เลยต้องเม้นท์อะไรนิดหน่อย ..คุณมดแดงจัดให้จริงๆด้วย ^_________^

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ของมดแดงจริงๆก็ยังไม่สรุปหลอกค่ะ ว่าจะเป็น cruze หรือ civic ก็คงต้องเปรียบเทียบดู

 

 

civic ผมเคยขับของหลาน ผมไม่ชอบครับ มองไม่เห็นหน้ารถ แล้วเบรคเบาเกินไป(ในความรู้สึกผม) ผมเบรคทีผมหัวคะมำ เพราะคุ้นกับรถที่เบรคมันหนืดหน่อย นอกนั้นก็ดีตามราคาครับ ประหยัดน้ำมันด้วย

ระดับแถวๆ civic ไม่ลองดูนิสสัน tiida ดูบ้างละครับ

 

อิอิ 130-160 แล้วมะเจอตำหนวดโบกแถวๆปากช่องมั่งเหรอครับ กระผมโดนประจำ :ph34r: :lol:

 

CVT ใช้ดีไหมครับ

 

เจอประจำอยู่แล้วครับ ถามมันอยู่เหมือนกันว่าคุณขับได้ใหมแค่ร้อยนึง มันก็หัวเราะหึหึ แล้วบอกว่า ทำไม่ได้หร็อกครับ แต่ต้องจับตามหน้าที่ เฮียต้องไปบอกให้เขาแก้กฎหมายโน่น 555

เกียร์ใช้ดีครับ เวลาเร่งแล้วเครื่องมันเปลี่ยนเกียร์ ไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนเกียร์ (2-3 คันก่อนที่ใช้เวลามันเปลี่ยนเกียร์เราจะรู้สึกกระชึกกระชักเล็กน้อย)

 

 

 

 

อ๋อรู้แระ...พี่หมอนี่เองต้นเหตุทำหนูติดดอยเลยอะ่.... :lol: :lol:

 

 

อ้าว ดอยเหรอ ใหนว่าปอดแตก อิอิbiggrin.gif

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...