คิดต่างเกี่ยวกับทอง

[Pete 15,187]

เขียนคราวหน้า รู้แล้วว่า เขียนอะไรดี

 

US$1,650 หรือ 23,000 บาท ใครมาก่อนกันครับ

[Pete 15,187]

 

Obama budget chief: go-slow approach on deficit

By Mike Maynard WASHINGTON (MarketWatch) -- The Obama administration's budget architect said there's broad agreement in Washington for making spending reductions, but he stressed the need for adopting a "responsible" budget. Jack Lew, director of the Office of Management and Budget, used an interview on CNN's "State of the Union" to preview some of the priorities that will be formally unveiled when President Barack Obama's budget for fiscal 2012 is released on Monday. Reining in the deficit, projected by the Congressional Budget Office at a record $1.48 billion for the current fiscal year, first requires stabilizing the red ink and then beginning to bring it down, Lew said. "It's not possible to do painlessly," he said, noting Obama will push for domestic cuts in "important programs that we care about." Lew, who served as a key budget official during the Clinton administration, also said he's expecting a "bipartisan discussion" about how best to bring down the deficit.

 

 

[Pete 15,187]

เพื่อนๆ บางคน เคยกล่าวไว้ว่า ยังไง ก็จะเก็งกำไร ทองอยู่ดี ถึงแม้ว่า ณ.ขณะนั้น ดอกเบี้ยเงินฝากจะถูกปรับมาอยู่ที่ 5.5 % ก็ตาม เพราะ เก็งกำไรทองคำ ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า

 

เด็กขายของ ขอนำเสนอ ความคิดต่างอีกแนวให้พิจารณา ครับ

 

การที่จะตัดสินใจว่า ซื้อทองและถือไว้ จะคุ้มค่าได้กำไร เป็นการเก็งกำไรที่ดี หรือ ไม่ และเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยจริงหรือไม่

เราก็ต้องเปรียบเทียบโดยเปรียบเทียบการซื้อทองกับการนำเงินจำนวนเดียวกันไปลงทุนทำอย่างอื่นที่เรียกว่าปลอดภัยหรือได้ผล

ตอบแทนคืนพร้อมเงินต้นที่ครบทุกบาททุกสตางค์ แน่นอนที่สุด

 

สมมุตินะครับ สมมุติ เด็กขายของ ชอบคำว่า สมมุติ

 

สมมุติว่าเด็กขายของเอาเงิน 19,850 บาทไปซื้อทองหนักหนึ่งบาท (เท่ากับ 15.2 กรัม) โดยหวังว่าจะได้กำไรและคุ้มค่ามูลค่าเงินที่ถูกลดลง

กล่าวคือ ภายในระยะเวลา 10 ปี ทองคำจะมีมูลค่าสูงกว่าปัจจุบันมาก ในช่วง 10 ปี เราไม่ได้ผลตอบแทนจากทอง 19,850 บาทนี้เลย

แต่ถ้าเราเลือกที่จะเอาเงิน 19,850 บาทนี้ไปลงทุนในลักษณะที่มั่นคงปลอดภัยมาก ๆ จนอาจถือได้ว่าปลอดภัยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เช่น

ฝากธนาคารของรัฐและกินดอกเบี้ย หรือ พันธบัตรรัฐบาลไทย (ดอกเบี้ย 5.5%) ก็จะเป็นจุดเปรียบเทียบกับการซื้อทอง ถ้าฝากเงินวันนี้ 19,850 บาท ในเวลา 14 ปี และไม่ไปยุ่งกับมันเลยมูลค่ามันจะเติบโตขึ้นเป็น 35,000 บาท และในเวลาอีก 14 ปีต่อมา มูลค่ามันจะกลายเป็น 70,000 บาท

พูดง่าย ๆ ก็คือ เงิน 19,850 บาท จะเติบโตเป็น 35,000 บาทในเวลา 14 ปี และเป็น 70,000 บาทในเวลา 28 ปี

 

คราวนี้เราก็ตอบได้แล้วว่า การลงทุนซื้อทองคำคุ้มหรือไม่ ถ้าในเวลา 14 ปี มูลค่าทอง 19,850 บาท ที่ซื้อไว้ไม่ขึ้นไปเกินกว่า 35,000 บาท

หรือในเวลา 28 ปี มูลค่าทองไม่ขึ้นไปเกิน 70,000 บาท ก็หมายความว่า เราตัดสินใจผิด สู้เอาเงินไปฝากธนาคารที่คิดว่าเป็นหนทางที่ปลอดภัยที่สุดไม่ได้ เพราะอย่างไรเสียก็ได้เงินมูลค่า 35,000 บาท แน่นอนในเวลา 14 ปี และ 70,000 บาทในเวลา 28 ปี

 

นี่คือวิธีการตัดสินใจเปรียบเทียบการลงทุนที่ใช้กับสิ่งอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการเก็บกำไร ไม่ว่าจะเป็นที่ดิน ของมีค่าเก่าแก่ แสตมป์ เพชร ฯลฯ ได้เช่นกัน การที่จะตัดสินใจได้ถูกหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับว่า สามารถคาดคะเนอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยในช่วงเวลายาว ๆ ของการฝากธนาคารที่น่าเชื่อว่าจะมั่นคงที่สุดเท่าที่เป็นไปได้เพื่อเอามาเป็นจุดเปรียบเทียบได้ดีแค่ไหน

 

อาจแล้ว ต้องคิดตามดูนะครับ หรือจะลองถามคนที่มีพันธบัตรรัฐบาลไทยในมือก็ได้ว่า รับดอกเบี้ยอัตราเท่าไหร่ ผลตอบแทนอย่างไร

มีแล้ว ได้สิทธิ์อะไรเป็นการตอบแทนบ้าง แล้วเพื่อนฯ ก็จะได้แนวทางไปอีกแบบหนึ่งครับ ไม่นานครับ สำหรับอัตราดอกเบี้ยขนาดนี้

เดี๋ยว กระทรวงการคลัง ก็ต้องออกพันธบัตร ใหม่ออกมา เพราะ ของเก่า ใกล้หมดอายุเต็มทนแล้วครับ

[Jaiy 1]

ขอบคุณครับคุณพี่..จัดข้อมูลหนักๆๆทั้งนานเลยครับ..แหล่มๆ

 

 

สรุป ผมขอทายหน่อยนะครับ ว่าทิตหน้าทองจะลง.

 

 

ด้วยเหตุผล.ส่วนตัวล้วนๆ ( ช่วงนี้หลงรัก พี่ เอสสสส ) อิอิ

 

 

แต่วิเคาะห์โดยอาศัยข้อมูลและข่าวก็ดีเหมือนกานนะครับ.

 

 

ส่วนตัว ดูกราฟไม่เป็น ก็เลยคิดว่า ถ้าทุกคนอ่านและดูกราฟ เป็นเหมือนกานหมด

 

 

ด้วยหลักการแบบแผนก็ไปทางเดี่ยวกันหมด ก็คงจะรวยกันหมดทุกคนแล้ว หรือเปล่า ตำราอาจคนละเล่มก็ได้.

 

 

แน่นอน สองแบบนี้ก็ต้องนำมาวิเคาะห์ร่วมกันอยู่แล้ว

 

 

 

แล้วคุณเด็กขายของเห็นว่าอย่างไรครับ.. ข้อมูล หรือ กราฟ อันไหนสำคัญกว่ากานน..

 

 

 

!031

[whiteomo 0]

"จะพยายามปล สรุปทุกครั้งครับ"

ขอโทษด้วยนะค่ัะที่ไปเพิ่มงานให้คุณเด็กขายของ และขอบคุณมากค่ะที่กรุณา !thk

 

 

" วันจันทร์ อังคาร ราคาทองตลาดโลก ขึ้นนิดหน่อย US$5-10 แต่ได้อานิสงค์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า "

คุณเด็กขายของมีปัจจัยญี่ปุ่นและจีน ซึ่งเกี่ยวกับค่้าเงินสนับสนุนนี้เอง ตามด้วยคน !gd

 

 

"เด็กขายของ ชอบจะไม่มีทองแท่ง อยู่ใน Port เพราะถือว่า ขัดลาภ ต้องเลือกลาภได้ลาภหนึ่ง

( ลาภหวย หรือ ลาภทอง ) แล้ว ณ. วันนั้นทุกๆ ครั้ง ราคาทอง มันขึ้นทุกที"

แต่ส่วนนี้ซิเป็นงง เอ! ปัจจัยไหนหว่า? ไม่รู้ว่าคุณเด็กขายของมีแหล่งลงทุนอีกทาง แต่ที่น่าสนใจคือสถิติที่ทองจะขึ้นในวันหวย ขอติดตามดูด้วยค่ะ

[Pete 15,187]

For yello 10. เด็กขายของกล่าวแล้วครับ ทองขึ้นวันหวยออก เป็นความคิดส่วนตัวครับ แบบ ขำ ขำ อย่าคิดมากนะครับ (แต่มันขึ้นได้ทุกครั้ง จริงๆนะ)

[Pete 15,187]

For Jaiy. ถ้าจะให้เด็กขายของ ตอบตามตรง กราฟตามตำรารูปแบบหน้าตารูปร่าง หลายๆ ครั้งราคาทองก็มาตามรูปแบบนั้นจริงๆ เพราะในข้อมูลประกอบภายในสอดข้อมูลความเคลื่อนไหว ปริมาณการซื้อขายอยู่ ก็สามารถรู้ในส่วนของ over ในด้านไหน ขายหรือซื้อ

บางครั้ง กราฟก็มี 2 ทิศทางให้เลือก เลือกข้างถูกก็เป็นพระเอก เฮ้ย รัฐบาล เฮ้ย นับตัง เลือกข้างผิด ก็เป็นผู้ร้าย เฮ้ย ฝ่ายค้าน เฮ้ย เสียตัง. ทำให้ต้องมีข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจเพื่อทำการสนับสนุนรูปแบบกราฟ

 

แต่เนื่องจากปัจจุบันนี้ เกิดภาวะเก็งกำไรกันมาก บางครั้งก็ไม่เป็นไปในทิศทางที่น่าจะเป็นก็ได้ ดูว่าลง ก็ขึ้น ขึ้นเป็นลง ก็ต้องทำตัวเหมือนให้เราคือ เจ้ามือ ครับ คุณ Jaiy เคยเป็นเจ้ามืออะไรหรือเปล่า

[Pete 15,187]

For. Jaiy. เด็กขายของถ้าจำไม่ผิด กราฟของกูรูไทยบางท่านไปแสดงในเวปต่างประเทศ และตำรากราฟก็มาจาก ตปท

 

เจ้ามือ ก็คงมาแอบดู thaigold. มั่ง แล้วถ้าเห็นข้อมูลทิศทางใด ก็ให้ไปในทิศทางนั้น พอ นักลงทุนเริ่มเคลิ้มกับผลตอบแทนมาก ทองยอดมาก เลย

จัดให้หนัก ให้เต็มปอด ไอ้ฝรั่งเปิดเวปเห็นจังหวะ กินรวบ เปลี่ยนทิศ ซวยล่ะสิ งานเข้าหนักเลย ก็เขียนบ่อยๆ ว่า ทยอย หรือ แบ่งเข้า ดีกว่า ทุนหมดแล้วขยับทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ต้องไปปรึกษา อ.ซีซาร์ เรียนวิธีทำกำไรจากดอยทอง

[whiteomo 0]

"เด็กขายของ ชอบจะไม่มีทองแท่ง อยู่ใน Port เพราะถือว่า ขัดลาภ ต้องเลือกลาภได้ลาภหนึ่ง

( ลาภหวย หรือ ลาภทอง ) แล้ว ณ. วันนั้นทุกๆ ครั้ง ราคาทอง มันขึ้นทุกที"

แต่ส่วนนี้ซิเป็นงง เอ! ปัจจัยไหนหว่า? ไม่รู้ว่าคุณเด็กขายของมีแหล่งลงทุนอีกทาง แต่ที่น่าสนใจคือสถิติที่ทองจะขึ้นในวันหวย ขอติดตามดูด้วยค่ะ

 

 

ส่วนนี้ล้อเล่นค่ะ จริง ๆ แล้วอยากบอกว่า "มิน่าตั้งแต่เล่นทอง ใครว่าชุดนี้เจ๋ง ไม่เคยถูกเล้ย " อ้อ...ที่แ้ท้ขัดลาภนี้เอง แต่ที่ไม่เคยสังเกตคือ ทองขึ้นในวันออกนี้ซิ เพราะมัวแต่ไปมุ่งอย่างอื่นแทน

 

 

เพิ่มเติมอีกว่า วันนี้ วันอาทิตย์ ราคาขายทองสมาคมฯ อยู่ที่ 19,850 ราคา Fair Price 19,780 บาท

สมาคมฯ ตั้งสูงกว่าเพียง 70 บาท แต่ร้านทองฯ บางร้าน ลดราคาให้อีก 30 บาท จะเหลือ 19,820 บาท

ก็จะแพงกว่า ราคากลางเพียง 40 บาท เองครับ น่าเข้าเสี่ยง ในเรื่องค่าเงินบาท และความ Panic Buy

(ดีใจหายวิกฤติ เลยเข้าซื้อ)

 

ขอบคุณนะค่ะ ที่คำนวณใ้ห้เรียบร้อยเลย

[Pete 15,187]

ดอกเบี้ย / เงินเฟ้อ เป็นของที่คู่กัน มีเธอก็มีฉัน มีฉันก็มีเธอ ตามแบบนวนิยายรักอมตะทั่วไป รัฐบาล และ ธนาคารกลาง มีความนโยบายในการแก้ปัญหาเงินเฟ้อ คือ การขึ้นดอกเบี้ย และการแก้ปัญหาเงินฝืด คือ การลดอัตราดอกเบี้ย

 

ทำไมถึงต้องเป็นอย่างนั้นล่ะ

 

ผลลัพธ์ที่เกิดจากการ ปรับ ดอกเบี้ย ขึ้น จะมีต่อสภาวะเศรษฐกิจ ดังนี้

 

 

1. ต้นทุนการผลิตจะสูงขึ้น : การขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะไปเพิ่มภาระด้านสินเชื่อที่บริษัทผู้ผลิตกู้เงินมาดำเนินการ เพื่อสินค้าสำเร็จรูปราคาสูงขึ้น ความต้องการสินค้าก็จะลดลง ประชาชนก็จะเริ่มเก็บออม โรงงานก็จะทำการลดราคาสินค้าลงเป็นการลดในส่วนของกำไรให้น้อยลง เพื่อให้เกิดความสมดุล ในด้าน อุปสงค์ และ อุปทาน ในเวลาต่อมา เมื่อประชาชนลดการซื้อสินค้า และ สินค้าจากราคาแพง ก็มีราคาลดลง ก็ทำให้ สภาวะเงินเฟ้อลดลง

 

 

2. ดอกเบี้ยเงินฝาก : การขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ก็เป็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ไปในตัว ซึ่งจะทำให้ ประชาชนเริ่มหันมาสนใจในการออมเงิน เงินที่มีจำนวนมากในตลาดจะมุ่งหน้าเข้าสู่ระบบการธนาคารฯ เป็นการดูดสภาพคล่องที่ล้นในตลาด ให้กลับสู่ระบบธนาคารฯ

 

 

3. เงินทุนต่างชาติ : อัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่สูงขึ้น ไม่สามารถดึงดูดเงินจากนักลงทุนต่างชาติได้มาก เพราะนักลงทุนเหล่านี้ มีความประสงค์ต้องการที่จะได้ผลตอบแทนที่สูง เพราะเขากล้าเสี่ยง เนื่องจาก มีเงินลงทุนจำนวนมาก ซึ่งสามารถสร้างกระแสนำตลาดไปยังหุ้นแต่ละตัวในตลาดให้อยู่ในทิศทาง พร้อมกับสร้างกระแสความต้องการมายังมูลค่าหุ้นนั้นๆ เพราะฉะนั้น สภาวะเงินเฟ้อ ไม่เกี่ยวข้องกับเงินทุนต่างชาติ แต่จะสัมพันธ์กับเสถียรภาพค่าเงินบาท ว่า จะเป็นไปในทิศทาง แข็งค่า หรือ อ่อนค่า จากปริมาณเม็ดเงินที่หลั่งไหลเข้าสู่ประเทศ ถ้าไม่มีนโยบายจากภาครัฐ หรือ ธนาคารกลาง มาสกัดกั้น เช่น ภาษีเงินสำรอง, ภาษีกำไรจากหุ้น

 

 

4. เงินทุนต่างประเทศถอนออกลดลง : การขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลาง ไม่สามารถดึงดูดใจนักลงทุนให้คงอยู่ในประเทศได้ ถ้า สถานะภาพในประเทศขาดเสถียรภาพ และไม่มีนโยบายอันแน่ชัด ปัญหาการเมืองภายใน ปัญหาการเมืองนอกประเทศ จะทำให้เงินทุนไหลออกมากยิ่งขึ้น เพื่อนำไปเก็บเป็นเม็ดเงินลงทุนในประเทศที่มีเสถียรภาพมากกว่า เมื่อเงินทุนต่างประเทศถอนออกจากตลาดในประเทศแล้ว สิ่งที่จะตามมา คือ ค่าเงินบาทจะอ่อนค่าลง

 

 

สิ่งที่ธนาคารกลางในประเทศจีน ขึ้นอัตราดอกเบี้ย จึงส่งผลให้ สภาวะเงินเฟ้อลดลง เพราะคนจะเริ่มออม มากขึ้น ( ซื้อทอง ไม่ใช่การออม แต่เป็นการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเข้ามา เป็นการทำให้ประเทศขาดดุลการค้า ยิ่งจะเป็นตัวเร่งให้เกิดสภาวะเงินเฟ้อ แต่ดีที่ว่า เมื่อราคาทองขึ้น ก็มีการส่งออกไปยังต่างประเทศ ไม่ได้เก็บไว้ในประเทศ ดังนั้น ถ้านักลงทุน มีการซื้อเข้าขายออก ก็จะไม่มีปัญหาเรื่องเงินเฟ้อในส่วนของ ทองคำ แต่ถ้ายิ่งเก็บอย่างเดียว ระวังเถอะ เงินเฟ้อมาเยือนแล้วคิดว่า ข้าฯ มีทอง จะหาที่ขายไม่เจอ )

 

 

และการที่ธนาคารกลางฯ สหรัฐ ลดอัตราดอกเบี้ย เหลือ 0% เพราะ สหรัฐเจอวิกฤตหนี้อสังหาริมทรัพย์เน่า (ซัพพราม) เจอสภาวะเงินฝืด ประชาชนไม่มีเงินจ่ายที่กู้มา ไม่มีเงินผ่อนบ้าน ราคาบ้านสูงขึ้น ก็ต้องใช้วิธีลดดอกเบี้ย

 

 

1. การลดอัตราดอกเบี้ยลง จะไปเพิ่มสินเชื่อเพื่อการลงทุนในภาคการเกษตรให้เพิ่มขึ้น เพื่อลดภาระสวัสดิการภาครัฐ ให้ลดลง ก็เป็นการลดรายจ่ายภาครัฐฯ ไปในตัว ส่วน เงินทุนของนักลงทุนก็เป็นส่วนของกองทุนต่างๆ ในสหรัฐ และก็มีนโยบายเหมือนกองทุนทั่วๆ ไป ที่จะไปลงทุนเพื่อแสวงหาผลกำไร ต่อกองทุน เป็นธรรมดาตลาดทุน ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อดำเนินงานด้านนี้ ยิ่งสามารถสร้างผลกำไรเข้าประเทศได้เท่าไหร่ สภาวะเงินฝืด ก็จะลดลง

 

 

2. การลดอัตราดอกเบี้ยลง ก็เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายเพิ่มมากยิ่งขึ้น มากกว่าการเก็บออม เป็นในทางตรงกันข้ามกับเงินเฟ้อ หรือ ให้กู้เพื่อไปทำด้านการเกษตร ที่สหรัฐมีความสามารถ เพื่อเป็นแหล่งอาหารให้กับประชาชนในสหรัฐ เพราะมองว่า สถานการณ์โลกปัจจุบัน อาหาร เป็นสิ่งที่น่าลงทุนที่สุด เป็นการเพิ่มการจ้างงานภาคการเกษตร ลดสภาวะเงินฝืด <BR style="mso-special-character: line-break"><BR style="mso-special-character: line-break">

 

3. เงินสวัดิการต่างๆ ที่ภาครัฐฯ จัดสรรให้กับประชาชนชาวสหรัฐ ก็มาจากภาษีประชาชนส่วนใหญ่ เมื่อลดอัตราดอกเบี้ย ก็จะทำให้เกิดการจับจ่ายมากยิ่งขึ้น เมื่อจับจ่ายมาก ภาษีที่รัฐจะได้ ก็จะมากขึ้น ซึ่งเงินได้เหล่านี้ ก็จะเป็นงบประมาณรายจ่ายสวัสดิการ พวกเขายอมจ่ายภาษีให้รัฐฯ ตอนยังทำงานได้ เพื่อหวังได้เงินสวัดิการใช้จ่ายยามแก่ชรา

 

 

4. สหรัฐมีการสร้างหนี้อย่างมาก จากการขาดดุลการค้าอย่างมโหฬาร ในทุกๆ ด้าน พร้อมกับเจอปัญหาหนี้ที่ไม่เกิดรายได้ ในภาคอสังหาริมทรัพย์ เป็นจำนวนมาก รัฐบาล และ ธนาคารกลางฯ จำเป็นต้องมีการลดภาระหนี้สินลง ซึ่งก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะเม็ดเงินในตลาดเงิน แทบไม่มีเหลือ ดังนั้น การลดดอกเบี้ยลงเพื่อหวังที่จะพิมพ์เงินดอลลาห์ เพื่อไปซื้อคืนพันธบัตรรัฐบาล ที่อยู่ในกองทุน Goldman Sach ที่ได้มีการตกลงมาตราการณ์ QE 2 กันเป็นการภายใน และลดภาระด้านหนี้สินให้ลดลง และ เพื่อให้นำเอาเม็ดเงิน QE 2 เข้าสู่ระบบการเงินสหรัฐให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนภายใน เหมือน โฆษณา กรุงไทย เงินกำลังจะหมุนไป ยิ่งหมุนมากเท่าไหร่ รัฐบาล ก็จะได้ภาษี จากเงินกลับมามากเท่านั้น เป็นการสร้าง รายได้ให้กับภาครัฐอีกส่วนหนึ่ง <BR style="mso-special-character: line-break"><BR style="mso-special-character: line-break">

 

ทฤษฎีการเงิน ต่างๆ เริ่มจะเห็นผล ในระยะเวลาอันใกล้ จากเม็ดเงินที่หมุนเข้าสู่ระบบ แสดงให้เห็นว่า นโยบายต่างๆ ที่กำหนดออกมา ยังสามารถประคองเศรษฐกิจให้อยู่รอดโดยการอาศัยพึ่งพาซึ่งกันและกัน

 

คนทั่วๆ ไป ชอบที่จะเข้าใจ ว่า สิ่งนั้นถูกต้อง และ คิดมองด้านเดียวแบบง่ายๆ หากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดนัด ชอบที่จะกู้เงินกับนายทุนนอกระบบ จ่ายดอกรายวัน หรือ หักดอกฯ แล้วค่อยๆ จ่ายเงินต้นคืน ที่มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต่อเดือน แล้วก็ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้บริโภคในการซื้อข้าวของในราคาที่แพง เด็กขายของเชื่อว่า ถ้าเด็กขายของถามว่า ทำไม ไปกู้เงินนอกระบบ เขาก็จะบอกว่า แล้วจะไปกู้ใคร ไม่มีหลักประกัน ธนาคารฯ ไหนจะให้กู้เงิน เด็กขายของก็จะบอกว่า โครงการ หมอหนี้ ไงครับ ของ รัฐบาล ที่ให้ ธนาคารออมสิน เป็นตัวแทนปล่อยกู้

 

 

เด็กขายของก็ถามต่อว่า ที่แล้วมา เงินที่กำไรจากการค้าขาย เอาไปจ่ายดอกฯ ถ้ายังเหลือ ไปใช้จ่ายอะไรบ้าง พอใช้จ่ายประจำเดือนไหม “ จะว่าพอก็พอ แต่ที่ไม่พอ เพราะ ชอบเล่นหวยปิงปอง มีทุกวัน ตังค์เลยไม่พอ อ้าว เป็นอย่างนั้นไป ก็เลิกเล่นการพนันสิ จะได้มีเงินเก็บ ไม่เป็นหนี้ใคร ไปทำเรื่องซะ แล้วไปคืนนายทุนเงินกู้ เรื่องง่ายๆ เด็กๆ

 

แล้วทำไมเรื่องง่ายๆ ที่ชาวบ้านก็เข้าใจได้ถูกต้อง แต่ระดับผู้บริหารรัฐบาล หรือ ธนาคารจึงเข้าใจผิดไปได้ ประเด็นอยู่ที่ “ จะเอาหวยบนดิน หรือ หวยใต้ดินดี”

 

วงจรอเวจีเข้าสิงไงครับ พวกท่านเหล่านั้นเล่นกันทั้งตลาด แถมเจ้ามือ เป็นขาใหญ่ในตลาด ไม่อุดหนุน ก็ไม่ต้องมาขายสิ นี่แหละ “ ความเกรงใจ” ของคนไทย ที่บกพร่อง ขณะที่ “ ความกล้า ” นั้นถูกต้องดีอยู่แล้ว

 

ทางแก้ไขก็คือ รัฐบาล และ ธนาคารกลางต้องรีบดำเนินนโยบายอย่างเป็นรูปธรรมให้มากยิ่งขึ้น มีการชี้แจงผ่านสื่อ หรือ การเข้าหาให้ถึงที่ เพื่อกระตุ้นความรู้ให้กับประชาชนทั่วไป ได้เข้าใจและเข้าถึง

[chinchilla 25]

ขอบคุณครับคุณเด็กขายของ

[hammaki 6]

:wub: วันแห่งความรัก..แบ่งปันเพื่อนๆทุกคนขอให้มีความรักที่ชุ่มชื่นหัวใจ และสมหวังนะคะ..รัก :wub:

[Pete 15,187]

เด็กขายของ กล่าวคำว่า สวัสดียามค่ำ ครับ สำหรับเพื่อนๆ ที่เข้ามาอ่าน

 

หลายเดือนที่ผ่านมา เพื่อนๆ ก็คงได้ยินในกรณีของ CFTC องค์กรเกี่ยวกับการควบคุมปริมาณสัญญา Gold Future ไม่ให้เกิดการ

เก็งกำไรทอง หรือ อะไรแนวๆ นี้แหละ และเป็นที่มาที่ ได้ยินบ่อยมากว่า สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2011 กองทุนต่างๆ ถูกบังคับปิดสัญญา

ระยะสั้น Short on Gold Future

 

ส่วนอีกกระแสหนึ่ง ก็บอกว่า ราคาทองตลาดโลก จะพุ่งไป US$3,000 ในเดือนมิถุนายน 2011

 

ข้อมูลอ้างอิงข้างต้น 2 เรื่อง ที่เด็กขายของ กล่าว ขอให้พิจารณาในเรื่องของ กองทุน Hedge Fund ที่ถือ สัญญา Short

คือ ถ้าพวกเข้ารู้ว่า อีก 4 เดือนข้างหน้า ราคาทองคำ จะขึ้นไปที่ US$3,000 ก็พอ พวกกองทุนฯ ต่างๆ ก็น่าจะเปลี่ยน

จากการถือสัญญา Short มาถือ ทองคำแท่งจริง ไม่ดีกว่าเหรอ กำไรในอนาคตเห็นๆๆๆๆ และป้องกันเงินเฟ้อ

ถ้านักลงทุนเฉกเช่นกองทุน Hedge Fund, บริษัท เงินทุนการเงินใหญ่ๆ ต่างๆ เชื่อจริงๆ ว่า

ภาวะเงินเฟ้อแบบถล่มทลายกำลังมา หรือ การด้อยค่าลงของดอลลาร์สหรัฐ กำลังวิกฤติ

จากมาตราการ QE 2 ( หลายๆ คนบอกว่า " พิมพ์เงิน " ) หรือ การล่มสลายของเศรษฐกิจโลก

เงินดอลล์ จะท่วมโลก

 

เขาก็ต้องรับทองคำจริงๆ มาถือไว้ ไม่ดีกว่าเหรอครับ

เดือนที่แล้วมา SPDR ETF ก็ขายทองคำออกมา

 

บริษัทฯ เดียวกัน มีหน้าที่ ขัดแย้งกันเอง แผนกหนึ่ง ก็มีหน้าที่ ขาย แผนกหนึ่ง ก็มีหน้าที่ กระพือข่าว US$1,650 บ้าง US$2,000 บ้าง

US$3,000 บ้าง

 

เออ ! คืนนี้เล่น เม้นท์ แบบนี้ดีกว่า เด็กขายของ เชื่อก็ได้ ว่าขึ้นจริง ขึ้นไปเยอะๆ เลย เพราะอยากเห็นคนไทยเป็นเศรษฐีใหม่มากยิ่งขึ้น

ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 14, 2011 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

สำนักงานสถิติจีนรายงานวันนี้ว่า อัตราเงินเฟ้อเมื่อเดือนมกราคมของจีนอยู่ในระดับที่สูงสุดในรอบ 11 ปีหลังปัญหาพายุหิมะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อปัญหาการขาดแคลนอาหาร ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าอัตราเงินเฟ้อยังจะขยับสูงไปมากกว่านี้อีก

 

โดยราคาผู้บริโภคเดือนมกราคมขยับขึ้น 7.1 เปอร์เซ็นต์จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว จากเหตุผลของการปรับขึ้นของราคาสินค้า 18.2 เปอร์เซ็นต์

 

นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า แม้จะมีความพยายามบรรเทาปัญหาอาหารขาดแคลน จีนอาจจะเจอกับความกดดันจากราคาสินค้าที่ปรับขึ้นโดยถ้วนหน้า ทั้งจากค่าจ้างแรงงาน ราคาถ่านหิน แร่เหล็ก และวัตถุดิบทางอุตสาหกรรมอื่นๆที่สูงขึ้น คาดกันว่า อัตราเงินเฟ้อเดือนนี้ยังจะสูงกว่า 7 เปอร์เซ็นต์ และอาจจะขึ้นไปถึงระดับเลข 2 หลักได้

 

เชื่อกันว่า อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ทำให้ความพยายามของจีนในการรักษาระดับการเติบโตทางเศรษฐกิจไม่ให้ร้อนแรงเกินไปมีปัญหา นอกจากนั้น ยังเป็นการเพิ่มแรงกดดันให้จีนต้องปล่อยให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนให้ขยับสูงเร็วขึ้น เพื่อทำให้สินค้าจีนส่งออกมีราคาสูงขึ้น ซึ่งจะช่วยลดการไหลทะลักเข้ามาของผลกำไรจากการส่งออก ที่เป็นปัจจัยหนึ่งในการกดดันให้ราคาสินค้าในประเทศสูงขึ้น

 

ขณะที่การเพิ่มขึ้นของราคาอาหาร ก็ทำให้แกนนำการเมืองจีนเป็นกังวล เพราะมันส่งผลกระทบต่อคนยากจนอย่างหนัก

ปล. โดยเด็กขายของ เย็นพรุ่งนี้ ก็รู้แล้วว่า ผลกระทบ จากเงินเฟ้อจีนที่ทุกๆ คนคาดการณ์

ต้องสูง จะทำให้ราคาทองคำ สูงไปได้ขนาดไหน ติดตามต่อไป

ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 14, 2011 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

เด็กขายของ ออกตัวก่อนว่า ขออนุญาต 2 วัน เชียร์ทองขาขึ้น เพราะเมื่อวันอาทิตย์ ซื้อเข้าไว้ครับ

 

วันจันทร์ที่ 14 และ วันอังคารที่ 15 วันพุธที่ 16 ไม่เกี่ยว เพราะไปขายแล้วครับ นั่งฝันลมๆ แร้งๆ หาค่าเกาลัค ครับ

ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 14, 2011 โดย เด็กขายของ