moddang 3,625 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 25, 2011 (มีการแก้ไข) ASTVผู้จัดการ – กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนให้ระวังภัยน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคใต้ 10 จังหวัดระหว่างวันที่ 25-28 มี.ค. ชี้คลื่นลมอาจสูง 2-3 เมตร แนะเรือเล็กงดออกจากฝั่ง วันนี้ (25 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.30น. สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้ออก “ประกาศเตือนภัยสภาวะน้ำท่วมในภาคใต้ ฉบับที่ 1” ลงวันที่ 25 มีนาคม 2554 โดยระบุว่าในช่วง 4 วันข้างหน้าระหว่าง 25-28 มี.ค. 54 ให้ประชาชนในพื้นที่ 10 จังหวัดภาคใต้ระมัดระวังสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน ระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง สำหรับประกาศดังกล่าวจากกรมอุตุนิยมวิทยามีรายละเอียดดังนี้ “บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่เสริมลงมาปกคลุม ประเทศไทยตอนบนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งต่อไป อีก 2-3 วัน จึงขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล ระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่เกิดขึ้นในช่วงวัน ที่ 25-28 มีนาคม 2554 ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันเวลาดังกล่าวไว้ด้วย “อนึ่ง คลื่นกระแสลมตะวันตกได้เคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคเหนือของประเทศไทย ทำให้ภาคเหนือและภาคกลางด้านตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจายกับลมกระโชกแรงบาง แห่งในระยะ 2-3 วันนี้” อนึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาพื้นที่ในหลายจังหวัดภาคใต้มีฝนตกหนัก ติดต่อกันหลายวัน ทำให้หลายพื้นที่เกิดอุทกภัยอย่างหนัก อย่างเช่น จังหวัดนครศรีธรรมราชผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ก็ได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมแล้ว 4 อำเภอ ส่วนจังหวัดพัทลุงก็เกิดเหตุน้ำท่วมหนักขยายตัวไปใน 9 อำเภอแล้ว ถูกแก้ไข ตุลาคม 10, 2011 โดย moddang.. 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
moddang 3,625 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 28, 2011 (มีการแก้ไข) ประกาศเตือนภัย "สภาวะน้ำท่วมในภาคใต้" ฉบับที่ 9 ลงวันที่ 28 มีนาคม 2554 หย่อมความกดอากาศต่ำยังคงปกคลุมบริเวณภาคใต้ตอนกลาง ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่จะ เกิดขึ้น โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดชุมพร ระนอง ภูเก็ต พังงา สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง และสตูล สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วง 1-2 วันนี้ไว้ด้วย ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 29-30 มีนาคม 2554 หย่อมความกดอากาศต่ำนี้จะเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลอันดามันและอ่าวเบงกอล อนึ่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศา ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นถึงหนาว http://www.tmd.go.th/index.php ถูกแก้ไข มีนาคม 28, 2011 โดย moddang.. อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
moddang 3,625 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 28, 2011 (มีการแก้ไข) คาดหมายอากาศฤดูร้อน !031 กลางเดือนกุมภาพันธ์ ถึง กลางเดือนพฤษภาคม 2554 http://www.tmd.go.th/programs%5Cuploads%5Cforecast%5C2011-02-01_Seasonal_141050.pdf สภาพอากาศภาคกลาง http://www.tmd.go.th/region.php?RegionID=3 สภาพอากาศภาคตะวันออกเฉียงเหนือ http://www.tmd.go.th/region.php?RegionID=2 สภาพอากาศภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) http://www.tmd.go.th/region.php?RegionID=6 สภาพอากาศภาคใต้(ฝั่งตะวันออก) http://www.tmd.go.th/region.php?RegionID=5 ถูกแก้ไข มีนาคม 28, 2011 โดย moddang.. อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
moddang 3,625 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 28, 2011 (มีการแก้ไข) เป็นห่วงหลานค่ะ..ลูกเพื่อนที่อยู่นครศรีธรรมราช...เพราะเคยไปส่งตอนเข้าบรรจุทำงาน เลยเอาข่าวมาฝากค่ะ น้ำท่วมนครศรีธรรมราชยังวิกฤต"รถไฟ-เครื่องบิน"งดให้บริการ วันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2554 เวลา 14:57:44 น. นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยวันที่ 27 มีนาคม ว่า ฝนยังตกทั้ง 23 อำเภอ แต่มีพื้นที่ประสบภัยพิบัติต้องมีการเปิด ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2554 รวม 20 อำเภอ เว้นแต่อำเภอ ทุ่งใหญ่ บางขัน และทุ่งสง ที่ยังไม่มีการเปิดศูนย์ ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 28,000 ครัวเรือน กว่า 60,000 คน บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 3 หลัง พื้นที่การเกษตรหลายหมื่นไร่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย ความเสียหายเบื้องต้นมีมากกว่า 250 ล้านบาท สำหรับการคมนาคมในจังหวัดนครศรีธรรมราช จากนครศรีธรรมราชไปยังกรุงเทพมหานคร ไม่มีการให้บริการของทุกสายการบิน รวมทั้งการบริการของรถไฟ เนื่องจากน้ำท่วมรางรถไฟระยะยาว จะมีบริการเฉพาะรถปรับอากาศเท่านั้น ขณะที่่การสัญจรไปในตัวจังหวัดจากตัวเมืองไปยัง อ.ท่าศาลา สิชล และสุราษฎร์ธานี น้ำท่วมผิวจราจร และคอสะพานขาดเป็นช่วงๆ ไม่สามารถเดินทางผ่านได้ เส้นทางนครศรีธรรมราช-ทุ่งสง-พัทลุง-ตรัง ยังมีน้ำขังผิวจราจร ระดับน้ำลดลง รถใหญ่สามารผ่านได้ ส่วนเขตเมืองจะใช้ได้ดีเฉพาะถนนราชดำเนินเท่านั้น ส่วนถนนเชื่อมต่อจากถนนคู่ขนาดด้านตะวันออกและตะวันตก ไม่สามารถผ่านได้ และในช่วงบ่ายวันนี้ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีจะมาตรวจเยี่ยมพื้นที่ประสบภัย และมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย อ่านรายละเอียดมากมายและดูรูปเพิ่มเติมนะคะ http://hilight.kapook.com/view/57380 ถูกแก้ไข มีนาคม 28, 2011 โดย moddang.. อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
moddang 3,625 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 28, 2011 (มีการแก้ไข) พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ อากาศหนาว โดยมีฝนกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ และตาก อุณหภูมิต่ำสุด 14-16 องศา อุณหภูมิสูงสุด 25-31 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศหนาว และมีลมแรง โดยมีฝนเล็กน้อยเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครราชสีมา และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 13-16 องศา อุณหภูมิสูงสุด 24-28 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ภาคกลาง อากาศเย็น กับมีฝนเล็กน้อยเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ 3 ส่วนมากบริเวณจังหวัดอุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 17-19 องศา อุณหภูมิสูงสุด 26-29 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ภาคตะวันออก อากาศเย็น และมีลมแรง กับมีฝนเล็กน้อยเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 18-20 องศา อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) อากาศเย็น และมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 26-30 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็น และมีฝนเล็กน้อยเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ถูกแก้ไข มีนาคม 28, 2011 โดย moddang.. อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
moddang 3,625 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤษภาคม 7, 2011 อุตุฯ เตือนอ่าวไทยฝนกระหน่ำ ใต้ระวังท่วม โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 พฤษภาคม 2554 17:20 น. ขอบคุณภาพจากเว็บไซต์ กรมอุตุนิยมวิทยา www.tmd.go.th กรมอุตุฯ เตือน ฝนตกหนักคลื่นรมแรงปกคลุมอ่าวไทย 7-11 พ.ค. จังหวัดใต้ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน - เรือเล็กงดออกจากฝั่ง ชี้ระนอง พังงา ภูเก็ต ต้องระมัดระวังอันตราย อาจน้ำท่วมฉับพลัน สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ประกาศเตือนภัย "ฝนตกหนักและคลื่นลมแรง" ฉบับที่ 1 ลงวันที่ 07 พฤษภาคม 2554 เมื่อเวลา 11.00 น. ระบุ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ด้านรับลมมรสุม หรือ ด้านตะวันตกของประเทศและภาคตะวันออกมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตก จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย บริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต ระมัดระวังอันตราย จากฝนตกหนัก ซึ่งอาจจะทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลันได้ ในช่วงวันที่ 7-11 พฤษภาคม 2554 ทั้งนี้ สำหรับ คลื่นลมในทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบน เริ่มมีกำลังแรงขึ้น ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กในทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 7-12 พฤษภาคม 2554 ไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 12:00 วันนี้ ถึง 12:00 วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำปาง ตากและเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดหนองคาย เลย หนองบัวลำภู นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ภาคกลาง อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ภาคตะวันออก อากาศร้อนทางตอนบนของภาค โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งบริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ บริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
moddang 3,625 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 10, 2011 ศูนย์เตือนภัยฯประกาศให้4จังหวัดฝั่งตะวันตกระวังน้ำป่าระยะ1-2วันนี้ วันที่9ต.ค. ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร แจ้งว่า ในระหว่างวันที่ 9-10 ต.ค.นี้ อาจจะเกิดน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณจ.กาญจนบุรี จ.ราชบุรี จ.เพชรบุรี และจ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนใน พื้นที่เฝ้าระวัง และติดตามข้อมูลจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติอย่างต่อเนื่องต่อไป เปิด 15 จุดเสี่ยงพื้นที่ กทม.ชั้นใน เผชิญน้ำท่วม สาทร ลาดพร้าว ดินแดง ยันบางแค วันที่ 08 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 12:33:29 น. วิกฤตน้ำท่วมขยายวงส่งผลกระทบพื้นที่กรุงเทพมหานครโดยเฉพาะบริเวณจุดเสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซาก 15 แห่ง นาย สัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพ มหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ระดับแม่น้ำเจ้าพระยา (7 ต.ค.) วัดได้ที่ 1.97 เมตร ยังถือว่าพอรับมือไหว แต่หากระดับน้ำสูงเกินจากแนวคันกั้นน้ำที่ กทม.สร้างไว้สูง 2.50 เมตร บวกกับปริมาณน้ำที่ไหลมาจากน้ำเหนือและน้ำทะเลหนุนสูง กทม.ก็จะเสี่ยงต่อปัญหาน้ำท่วมในเขตรอบนอกทั้งฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะทำเลริมเจ้าพระยาประมาณ 28 ตร.ก.ม. ซึ่งมีบ้านพักอาศัย 80,000 หลังคาเรือน ส่วนฝั่งตะวันออกในพื้นที่ 300 ตร.ก.ม.น่าห่วงสุด เพราะเป็นพื้นที่นอกคันกั้นน้ำพระราชดำริ มี 4 เขต คือคลองสามวา หนองจอก มีนบุรี และลาดกระบัง ซึ่งมีคนอาศัยอยู่หลายหมื่นครัวเรือนเช่นกัน สำหรับ พื้นที่ชั้นใน กทม.จากการสำรวจพบว่า มี 15 พื้นที่เป็นจุดอ่อนและเสี่ยงต่อน้ำท่วม ได้แก่ 1)เขตสาทร ย่านถนนจันทร์ เซนต์หลุยส์ สาธุประดิษฐ์ 2)เขตพญาไท ถนนพหลโยธิน ช่วงคลองสามเสน-คลองบางซื่อ 3)เขตพระโขนง ถนนสุขุมวิท จากคลองพระโขนง-ซอยลาซาล 4)เขตวัฒนา ซอยสุขุมวิท 39 และ 49 5)เขตวังทองหลาง ถนนลาดพร้าว จากคลองลาดพร้าว-ห้างเดอะมอลล์ 6)เขตบึงกุ่ม ถนนนวมินทร์ จากคลองดอนอีกา-แยกถนนประเสริฐมนูกิจทั้งสองฝั่ง 7)เขตดินแดง ถนนรัชดาภิเษก หน้าห้างโรบินสัน 8)เขตจตุจักร ถนนรัชดาภิเษก แยกลาดพร้าว 9)เขตราชเทวี ถนนเพชรบุรี จากถนนบรรทัดทอง-แยกราชเทวี 10)เขตราชเทวี ถนนนิคมมักกะสัน 11)เขตราชเทวี ถนนพระรามที่ 6 หน้าตลาดประแจจีน 12)เขตบางแค ถนนเพชรเกษม ซอย 63 (ซอยวัดม่วง) 13)เขตยานนาวา ถนนเย็นอากาศ จากถนนนางลิ้นจี่- ซอยศรีบำเพ็ญ 14)เขตประเวศ ถนน ศรีนครินทร์ ช่วงคลองตาสาด-คลองตาช้าง และ 15)เขตพระนคร ถนนสนามไชยและถนนมหาราช "ทั้ง 15 จุดนี้ถ้า 3 น้ำมาพร้อมกัน ทั้งน้ำฝน น้ำเหนือ และน้ำทะเลหนุน ก็เสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมได้ เพราะกรุงเทพฯเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ มีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ ง่ายต่อน้ำท่วมขัง" นายสัญญากล่าวว่า ปัจจุบัน กทม.เตรียมรับมือเต็มที่ เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำตลอด 24 ช.ม. ล่าสุดซื้อกระสอบทรายเพิ่มอีก 1.5 ล้านถุง เพราะทุกเขตขอเข้ามา นอก จากนี้ยังได้ขุดลอกคลองให้ระบายน้ำได้เร็วขึ้น ดูแลประตูระบายน้ำ เครื่องสูบน้ำ สถานีสูบน้ำ รวมถึงประสานงานกับกรมชลประทานช่วยบริหารจัดการน้ำผ่านคลองและอุโมงค์ลงสู่ ทะเล "ถ้าน้ำมามากเกิน คนกรุงต้องยอมรับสภาพ ซึ่งปริมาณน้ำฝน กทม.รับมือได้เต็มที่ 1,500-1,600 ลบ.เมตรต่อวินาที ส่วนแม่น้ำเจ้าพระยารับได้ 3,000-3,500 ลบ.เมตรต่อวินาที" นายสัญญากล่าว อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น