ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
moddang

พยากรณ์อากาศ.../..ประกาศเตือนภัยน้ำท่วม

โพสต์แนะนำ

ASTVผู้จัดการ – กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนให้ระวังภัยน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคใต้ 10 จังหวัดระหว่างวันที่ 25-28 มี.ค. ชี้คลื่นลมอาจสูง 2-3 เมตร แนะเรือเล็กงดออกจากฝั่ง

 

วันนี้ (25 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.30น. สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้ออก “ประกาศเตือนภัยสภาวะน้ำท่วมในภาคใต้ ฉบับที่ 1” ลงวันที่ 25 มีนาคม 2554 โดยระบุว่าในช่วง 4 วันข้างหน้าระหว่าง 25-28 มี.ค. 54 ให้ประชาชนในพื้นที่ 10 จังหวัดภาคใต้ระมัดระวังสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน ระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

 

สำหรับประกาศดังกล่าวจากกรมอุตุนิยมวิทยามีรายละเอียดดังนี้ “บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่เสริมลงมาปกคลุม ประเทศไทยตอนบนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง

 

ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งต่อไป อีก 2-3 วัน

 

 

จึงขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล ระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่เกิดขึ้นในช่วงวัน ที่ 25-28 มีนาคม 2554 ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

 

“อนึ่ง คลื่นกระแสลมตะวันตกได้เคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคเหนือของประเทศไทย ทำให้ภาคเหนือและภาคกลางด้านตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจายกับลมกระโชกแรงบาง แห่งในระยะ 2-3 วันนี้”

 

อนึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาพื้นที่ในหลายจังหวัดภาคใต้มีฝนตกหนัก ติดต่อกันหลายวัน ทำให้หลายพื้นที่เกิดอุทกภัยอย่างหนัก อย่างเช่น จังหวัดนครศรีธรรมราชผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ก็ได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมแล้ว 4 อำเภอ ส่วนจังหวัดพัทลุงก็เกิดเหตุน้ำท่วมหนักขยายตัวไปใน 9 อำเภอแล้ว

ถูกแก้ไข โดย moddang..

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ประกาศเตือนภัย

"สภาวะน้ำท่วมในภาคใต้"

ฉบับที่ 9 ลงวันที่ 28 มีนาคม 2554

 

หย่อมความกดอากาศต่ำยังคงปกคลุมบริเวณภาคใต้ตอนกลาง ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่จะ เกิดขึ้น

 

โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดชุมพร ระนอง ภูเก็ต พังงา สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง และสตูล

 

สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วง 1-2 วันนี้ไว้ด้วย

 

ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 29-30 มีนาคม 2554 หย่อมความกดอากาศต่ำนี้จะเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลอันดามันและอ่าวเบงกอล

 

อนึ่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศา ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นถึงหนาว

 

http://www.tmd.go.th/index.php

ถูกแก้ไข โดย moddang..

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คาดหมายอากาศฤดูร้อน !031

 

กลางเดือนกุมภาพันธ์ ถึง กลางเดือนพฤษภาคม 2554

 

 

http://www.tmd.go.th/programs%5Cuploads%5Cforecast%5C2011-02-01_Seasonal_141050.pdf

 

 

สภาพอากาศภาคกลาง

 

:huh: http://www.tmd.go.th/region.php?RegionID=3

 

สภาพอากาศภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

 

:lol: http://www.tmd.go.th/region.php?RegionID=2

 

สภาพอากาศภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

 

:P http://www.tmd.go.th/region.php?RegionID=6

 

สภาพอากาศภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

 

:o http://www.tmd.go.th/region.php?RegionID=5

 

ถูกแก้ไข โดย moddang..

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เป็นห่วงหลานค่ะ..ลูกเพื่อนที่อยู่นครศรีธรรมราช...เพราะเคยไปส่งตอนเข้าบรรจุทำงาน เลยเอาข่าวมาฝากค่ะ

 

น้ำท่วมนครศรีธรรมราชยังวิกฤต"รถไฟ-เครื่องบิน"งดให้บริการ

 

วันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2554 เวลา 14:57:44 น.

 

 

นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยวันที่ 27 มีนาคม ว่า ฝนยังตกทั้ง 23 อำเภอ แต่มีพื้นที่ประสบภัยพิบัติต้องมีการเปิด ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2554 รวม 20 อำเภอ เว้นแต่อำเภอ ทุ่งใหญ่ บางขัน และทุ่งสง ที่ยังไม่มีการเปิดศูนย์ ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 28,000 ครัวเรือน กว่า 60,000 คน บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 3 หลัง พื้นที่การเกษตรหลายหมื่นไร่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย ความเสียหายเบื้องต้นมีมากกว่า 250 ล้านบาท

 

สำหรับการคมนาคมในจังหวัดนครศรีธรรมราช จากนครศรีธรรมราชไปยังกรุงเทพมหานคร ไม่มีการให้บริการของทุกสายการบิน รวมทั้งการบริการของรถไฟ เนื่องจากน้ำท่วมรางรถไฟระยะยาว จะมีบริการเฉพาะรถปรับอากาศเท่านั้น

 

ขณะที่่การสัญจรไปในตัวจังหวัดจากตัวเมืองไปยัง อ.ท่าศาลา สิชล และสุราษฎร์ธานี น้ำท่วมผิวจราจร และคอสะพานขาดเป็นช่วงๆ ไม่สามารถเดินทางผ่านได้ เส้นทางนครศรีธรรมราช-ทุ่งสง-พัทลุง-ตรัง ยังมีน้ำขังผิวจราจร ระดับน้ำลดลง รถใหญ่สามารผ่านได้

 

ส่วนเขตเมืองจะใช้ได้ดีเฉพาะถนนราชดำเนินเท่านั้น ส่วนถนนเชื่อมต่อจากถนนคู่ขนาดด้านตะวันออกและตะวันตก ไม่สามารถผ่านได้ และในช่วงบ่ายวันนี้ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีจะมาตรวจเยี่ยมพื้นที่ประสบภัย และมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย

 

 

 

อ่านรายละเอียดมากมายและดูรูปเพิ่มเติมนะคะ

 

 

http://hilight.kapook.com/view/57380

ถูกแก้ไข โดย moddang..

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้

 

:mellow: ภาคเหนือ

อากาศหนาว โดยมีฝนกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่

ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ และตาก

อุณหภูมิต่ำสุด 14-16 องศา อุณหภูมิสูงสุด 25-31 องศา

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

 

:blink: ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

 

อากาศหนาว และมีลมแรง โดยมีฝนเล็กน้อยเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่

ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครราชสีมา และอุบลราชธานี

อุณหภูมิต่ำสุด 13-16 องศา อุณหภูมิสูงสุด 24-28 องศา

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.

 

:D ภาคกลาง

อากาศเย็น กับมีฝนเล็กน้อยเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ 3

ส่วนมากบริเวณจังหวัดอุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และราชบุรี

อุณหภูมิต่ำสุด 17-19 องศา อุณหภูมิสูงสุด 26-29 องศา

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

 

:huh: ภาคตะวันออก

 

อากาศเย็น และมีลมแรง กับมีฝนเล็กน้อยเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่

ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

อุณหภูมิต่ำสุด 18-20 องศา อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศา

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

 

:o ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

 

อากาศเย็น และมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่

บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 26-30 องศา

ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

 

:o ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

 

มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง

อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศา

ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

 

:D กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

 

อากาศเย็น และมีฝนเล็กน้อยเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศา

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ถูกแก้ไข โดย moddang..

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อุตุฯ เตือนอ่าวไทยฝนกระหน่ำ ใต้ระวังท่วม

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 พฤษภาคม 2554 17:20 น.

 

 

 

ขอบคุณภาพจากเว็บไซต์ กรมอุตุนิยมวิทยา www.tmd.go.th

 

554000005999001.JPEG

 

 

กรมอุตุฯ เตือน ฝนตกหนักคลื่นรมแรงปกคลุมอ่าวไทย 7-11 พ.ค. จังหวัดใต้ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน - เรือเล็กงดออกจากฝั่ง ชี้ระนอง พังงา ภูเก็ต ต้องระมัดระวังอันตราย อาจน้ำท่วมฉับพลัน

 

สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ประกาศเตือนภัย "ฝนตกหนักและคลื่นลมแรง" ฉบับที่ 1 ลงวันที่ 07 พฤษภาคม 2554 เมื่อเวลา 11.00 น. ระบุ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ด้านรับลมมรสุม หรือ ด้านตะวันตกของประเทศและภาคตะวันออกมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตก จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย บริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต ระมัดระวังอันตราย จากฝนตกหนัก ซึ่งอาจจะทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลันได้ ในช่วงวันที่ 7-11 พฤษภาคม 2554

ทั้งนี้ สำหรับ คลื่นลมในทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบน เริ่มมีกำลังแรงขึ้น ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กในทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 7-12 พฤษภาคม 2554 ไว้ด้วย

 

 

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 12:00 วันนี้ ถึง 12:00 วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำปาง ตากและเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

 

 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดหนองคาย เลย หนองบัวลำภู นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ภาคกลาง อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศา

 

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

 

ภาคตะวันออก อากาศร้อนทางตอนบนของภาค โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งบริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี

และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ บริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ศูนย์เตือนภัยฯประกาศให้4จังหวัดฝั่งตะวันตกระวังน้ำป่าระยะ1-2วันนี้

 

วันที่9ต.ค. ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร แจ้งว่า ในระหว่างวันที่ 9-10 ต.ค.นี้ อาจจะเกิดน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณจ.กาญจนบุรี จ.ราชบุรี จ.เพชรบุรี และจ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนใน พื้นที่เฝ้าระวัง และติดตามข้อมูลจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติอย่างต่อเนื่องต่อไป

 

 

 

 

เปิด 15 จุดเสี่ยงพื้นที่ กทม.ชั้นใน เผชิญน้ำท่วม สาทร ลาดพร้าว ดินแดง ยันบางแค

วันที่ 08 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 12:33:29 น.

 

 

 

วิกฤตน้ำท่วมขยายวงส่งผลกระทบพื้นที่กรุงเทพมหานครโดยเฉพาะบริเวณจุดเสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซาก 15 แห่ง

 

นาย สัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพ มหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ระดับแม่น้ำเจ้าพระยา (7 ต.ค.) วัดได้ที่ 1.97 เมตร ยังถือว่าพอรับมือไหว แต่หากระดับน้ำสูงเกินจากแนวคันกั้นน้ำที่ กทม.สร้างไว้สูง 2.50 เมตร บวกกับปริมาณน้ำที่ไหลมาจากน้ำเหนือและน้ำทะเลหนุนสูง กทม.ก็จะเสี่ยงต่อปัญหาน้ำท่วมในเขตรอบนอกทั้งฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะทำเลริมเจ้าพระยาประมาณ 28 ตร.ก.ม. ซึ่งมีบ้านพักอาศัย 80,000 หลังคาเรือน ส่วนฝั่งตะวันออกในพื้นที่ 300 ตร.ก.ม.น่าห่วงสุด เพราะเป็นพื้นที่นอกคันกั้นน้ำพระราชดำริ มี 4 เขต คือคลองสามวา หนองจอก มีนบุรี และลาดกระบัง ซึ่งมีคนอาศัยอยู่หลายหมื่นครัวเรือนเช่นกัน

 

สำหรับ พื้นที่ชั้นใน กทม.จากการสำรวจพบว่า มี 15 พื้นที่เป็นจุดอ่อนและเสี่ยงต่อน้ำท่วม ได้แก่ 1)เขตสาทร ย่านถนนจันทร์ เซนต์หลุยส์ สาธุประดิษฐ์ 2)เขตพญาไท ถนนพหลโยธิน ช่วงคลองสามเสน-คลองบางซื่อ 3)เขตพระโขนง ถนนสุขุมวิท จากคลองพระโขนง-ซอยลาซาล 4)เขตวัฒนา ซอยสุขุมวิท 39 และ 49 5)เขตวังทองหลาง ถนนลาดพร้าว จากคลองลาดพร้าว-ห้างเดอะมอลล์ 6)เขตบึงกุ่ม ถนนนวมินทร์ จากคลองดอนอีกา-แยกถนนประเสริฐมนูกิจทั้งสองฝั่ง

 

7)เขตดินแดง ถนนรัชดาภิเษก หน้าห้างโรบินสัน 8)เขตจตุจักร ถนนรัชดาภิเษก แยกลาดพร้าว 9)เขตราชเทวี ถนนเพชรบุรี จากถนนบรรทัดทอง-แยกราชเทวี 10)เขตราชเทวี ถนนนิคมมักกะสัน 11)เขตราชเทวี ถนนพระรามที่ 6 หน้าตลาดประแจจีน 12)เขตบางแค ถนนเพชรเกษม ซอย 63 (ซอยวัดม่วง) 13)เขตยานนาวา ถนนเย็นอากาศ จากถนนนางลิ้นจี่- ซอยศรีบำเพ็ญ 14)เขตประเวศ ถนน ศรีนครินทร์ ช่วงคลองตาสาด-คลองตาช้าง และ 15)เขตพระนคร ถนนสนามไชยและถนนมหาราช

 

"ทั้ง 15 จุดนี้ถ้า 3 น้ำมาพร้อมกัน ทั้งน้ำฝน น้ำเหนือ และน้ำทะเลหนุน ก็เสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมได้ เพราะกรุงเทพฯเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ มีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ ง่ายต่อน้ำท่วมขัง"

 

นายสัญญากล่าวว่า ปัจจุบัน กทม.เตรียมรับมือเต็มที่ เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำตลอด 24 ช.ม. ล่าสุดซื้อกระสอบทรายเพิ่มอีก 1.5 ล้านถุง เพราะทุกเขตขอเข้ามา

 

นอก จากนี้ยังได้ขุดลอกคลองให้ระบายน้ำได้เร็วขึ้น ดูแลประตูระบายน้ำ เครื่องสูบน้ำ สถานีสูบน้ำ รวมถึงประสานงานกับกรมชลประทานช่วยบริหารจัดการน้ำผ่านคลองและอุโมงค์ลงสู่ ทะเล

 

"ถ้าน้ำมามากเกิน คนกรุงต้องยอมรับสภาพ ซึ่งปริมาณน้ำฝน กทม.รับมือได้เต็มที่ 1,500-1,600 ลบ.เมตรต่อวินาที ส่วนแม่น้ำเจ้าพระยารับได้ 3,000-3,500 ลบ.เมตรต่อวินาที" นายสัญญากล่าว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...