ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ภาวะตลาดทองคำ Gold Futures Insight

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 17 ตุลาคม 2554 11:10:45 น.

กรุงเทพฯ--17 ต.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์

คำแนะนำการลงทุน Gold Futures

DAY TRADER

GFV11 ซื้อในช่วงราคา 24280 — 24430 ขายในช่วงราคา 24680 — 24780

GFZ11 ซื้อในช่วงราคา 24610 — 24750 ขายในช่วงราคา 24980 — 25070

SWING TRADER นักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade) เก็งกำไรในภาวการณ์การแกว่งในทิศทางขาขึ้น คาดว่าวันนี้น่าจะเคลื่อนตัวในช่วง 1660 -1690 เหรียญ

 

 

 

นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade) ยังใช้กลยุทธ์ถือครองระยะยาวต่อไป ถือครองพอร์ทที่ 55-60 % ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวและขายบริเวณแนวต้านที่ระดับ 1700 เหรียญ

 

Gold Futures V11 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,500 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,780 บาท

ปัจจัยสำคัญ

High Light กลุ่มผู้ประท้วงหลายร้อยคนได้ตั้งแคมป์ข้ามคืนในใจกลางกรุงลอนดอน เช่นเดียวกับผู้ประท้วงทั่วโลกที่เรียกร้องให้นักการเมืองปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน และยุติการให้ความสำคัญกับการสนับสนุนสถาบันการเงิน โดยนาย จอห์น สตีฟ ผู้ช่วยอาจารย์กล่าวให้สัมภาษณ์กับซินหัวว่า สถานการณ์ในอังกฤษขณะนี้นั้น ประเด็นเรื่องเศรษฐกิจนั้นมีการมองกันว่า ให้ความสนใจกับเรื่องการสนับสนุนสถาบันการเงินมากจนเกินไป แต่ในความเป็นจริงนั้น พวกเขาร่ำรวยขึ้นมาได้ แต่ก็ไม่ได้ให้อะไรคืนกับสังคม

 

ที่ประชุม G-20 ให้คำมั่นว่าจะใช้ทุกมาตรการที่จำเป็น เพื่อเสถียรภาพของระบบธนาคารและตลาดเงิน ขณะที่เศรษฐกิจโลกเผชิญกับสถานการณ์ตึงเครียดและปัจจัยเสี่ยงด้านลบ ในขณะเดียวกัน G-20 ก็ขานรับกับการตัดสินใจขยายกองทุนเสถียรภาพทางการเงิน (EFSF) ของยูโรโซน โดยที่ประชุมได้ผลักดันให้ประเทศพัฒนาแล้วใช้มาตรการที่ชัดเจน มีความน่าเชื่อถือ และมาตรการเฉพาะ เพื่อให้การคลังมีความแข็งแกร่ง และเรียกร้องให้ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่เร่งปฏิรูปให้เกิดการขยายตัวโดยอิงการบริโภคภายในประเทศ

 

GOLD Market Recap : 14/10/2011

MORNING RECAP : ราคาทองคำต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,667 $ ส่วน Gold Future V11 เปิดที่ 24,530 บาท สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 24,400 บาท โดยเปิดลดลง 100 บาท ตลาดทองคำ ( ราคาต่างประเทศ ) อยู่ในทิศทางปรับฐาน และค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ณ ขณะนี้อยู่ระดับ 30.83 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยที่ตลอดทั้งวันราคาทองคำวิ่งในลักษณะ Sideway เคลื่อนตัวในกรอบแคบๆที่ระดับ 1664-1679 เหรียญและ Gold Future V11 ปิดตลาดที่ 24,580 บาท ในขณะที่ราคาทองคำแท่งของสมาคมค้าทองคำแท่งมีการปรับขึ้นลงระหว่างวัน 2 ครั้ง โดยปิดเพิ่มขึ้น 100 บาท ที่ระดับ 24,500 บาท โดยที่ตลอดทั้งวันนักลงทุนซื้อขายกันอย่างระมัดระวังเนื่องจากราคาทองคำยังอยู่ในทิศทางปรับฐาน

 

NIGHT RECAP : ราคาทองคำเปิดตลาดในประเทศไทยที่ระดับ 1665 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1664 - 1678 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1676 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย ต่อมาในตลาดลอนดอนและนิวยอร์ก ราคาทองคำมีการเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1676 — 1682 เหรียญ และกลับมาปิดตลาดที่ 1681 เหรียญ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

http://www.bangkokbiznews.com/home/news/finance/foreign/news-list-1.php

สรุปภาวะ Precious Metals Futures By GT Wealth Management 17 ต.ค. 54 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 17 ตุลาคม 2554 10:26:54 น.

กรุงเทพฯ--17 ต.ค.--GT Wealth Management

ราคาทองคำในตลาดโลกช่วงเช้าทรงตัวใกล้ระดับ 1,680 ดอลล่าร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำยังคงปรับตัวตามสินทรัพย์เสี่ยง ปัจจัยเชิงบวกในตลาดยุโรปหลังจากการขยายขนาดกองทุน EFSF ผ่านสภาของประเทศสมาชิก 17 ประเทศ ทำให้ตลาดกลับมาคาดหวังว่าหนี้สินจะไม่ลุกลามมาก ขณะที่ ECB คัดค้านการให้ธนาคารพาณิชย์ยอมตัดมูลค่าพันธบัตรลงอีกรอบ SPDR รายงานการถือที่ระดับ 1,227.51 ตัน ลดลง 0.48 ตัน โกลด์ฟิวเจอร์สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนตุลาคม (GFV11) เปิดตลาดช่วงเช้าราคาเปิดที่ระดับราคา 24,590 บาท ส่วนราคาทองคำที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำวันนี้ ราคาเสนอซื้อ 24,400 บาท ราคาเสนอขาย 24,500 บาท

 

 

 

ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุนบริษัทจีที เวลธ์ แมเนจเมนท์กล่าวว่า GT มองว่าราคาทองคำมีการเคลื่อนไหวไปกับสินทรัพย์เสี่ยงอื่น หลังจากที่ราคาปรับตัวขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ระยะสั้นตลาดน่าจะมีข่าวเชิงบวกเข้ามาโดยเฉพาะในยุโรปจากการขยายขนาดกองทุน EFSF ทำให้ตลาดมีประเด็นข่าวเชิงบวกเล่นในระยะสั้นและน่าจะทำให้สินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นได้ต่อ รวมถึงทองคำ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปราคาซื้อขายทองคำ และGold Futures ภายในประเทศ ณ วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 09.00 น.

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 17 ตุลาคม 2554 10:37:13 น.

กรุงเทพฯ--17 ต.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,666 เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาท 30.94 บาท/ดอลลาร์ กับ 30.97 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,300 บาท กับ 24,400 บาท และกลับมาปิดที่ 24,400 บาท กับ 24,500 บาท

 

ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 2,978 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 7,519 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 267 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 3 % แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 4 % และSilver Futures Open Interest เพิ่มขึ้น 0.5 % GFV11 ปิดที่ 24,550 บาท และ GFZ11 ปิดที่ 24,860 บาท และ GF10V11 ปิดที่ 24,550 บาท และ GF10Z11 ปิดที่ 24,870 บาท SVV11 ปิดที่ 990 บาท

 

 

 

สัญญา Comex ปิดบวก 14.5 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,683 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดบวก 50.6 เซนต์ ปิดที่ระดับ 32.173ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครอง 1,227.51 ตัน (ถือครองเท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 2.57 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 86.80 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดบวก 166.36 จุด ปิดที่ระดับ 11,644.49 จุด

 

Ratio Gold / Silver เท่ากับ 52.31 ต่อ 1

ข่าวที่สำคัญ

- ที่ประชุม G-20 ให้คำมั่นว่าจะใช้ทุกมาตรการที่จำเป็น เพื่อเสถียรภาพของระบบธนาคารและตลาดเงิน ขณะที่เศรษฐกิจโลกเผชิญกับสถานการณ์ตึงเครียดและปัจจัยเสี่ยงด้านลบ ในขณะเดียวกัน G-20 ก็ขานรับกับการตัดสินใจขยายกองทุนเสถียรภาพทางการเงิน (EFSF) ของยูโรโซน โดยที่ประชุมได้ผลักดันให้ประเทศพัฒนาแล้วใช้มาตรการที่ชัดเจน มีความน่าเชื่อถือ และมาตรการเฉพาะ เพื่อให้การคลังมีความแข็งแกร่ง และเรียกร้องให้ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่เร่งปฏิรูปให้เกิดการขยายตัวโดยอิงการบริโภคภายในประเทศ

 

- การปะทะกันครั้งนี้เกิดขึ้นที่บริเวณสี่แยกถนนที่ 46 และเซเวนท์ แอเวอนู ในขณะที่ตำรวจพยายามป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ประท้วงเข้าไปยังไทมส์ สแควร์ ผู้ประท้วงบางรายตื่นตระหนกและล้มลงในฝูงชนขณะที่เกิดการปะทะ มีผู้ประท้วงอย่างน้อย 3 รายถูกจับกุมตัวระหว่างที่เดินขบวน และก่อนหน้านี้มีรายงานว่า กลุ่มผู้ประท้วง 24 คนถูกจับกุมตัวที่ธนาคารซิตี้แบงก์ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสวนสาธารณะวอชิงตัน พาร์ค ทั้งนี้ การประท้วงเพื่อต้านวอลล์สตรีทที่ยืดเยื้อมาจนถึงขณะนี้นั้น เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่บริเวณสวนสาธารณะซัคคอตตีในนิวยอร์ก และได้แพร่กระจายไปยังเมืองสำคัญๆของสหรัฐ

 

- กลุ่มผู้ประท้วงหลายร้อยคนได้ตั้งแคมป์ข้ามคืนในใจกลางกรุงลอนดอน เช่นเดียวกับผู้ประท้วงทั่วโลกที่เรียกร้องให้นักการเมืองปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน และยุติการให้ความสำคัญกับการสนับสนุนสถาบันการเงิน โดยนาย จอห์น สตีฟ ผู้ช่วยอาจารย์กล่าวให้สัมภาษณ์กับซินหัวว่า สถานการณ์ในอังกฤษขณะนี้นั้น ประเด็นเรื่องเศรษฐกิจนั้นมีการมองกันว่า ให้ความสนใจกับเรื่องการสนับสนุนสถาบันการเงินมากจนเกินไป แต่ในความเป็นจริงนั้น พวกเขาร่ำรวยขึ้นมาได้ แต่ก็ไม่ได้ให้อะไรคืนกับสังคม

 

- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เตือนว่า ประเทศเอเชียอาจจะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก และแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ พร้อมกับแนะนำให้เจ้าหน้าที่ผู้กำหนดนโยบายของประเทศเอเชียติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจทั่วโลกอย่างใกล้ชิดรายงาน "แนวโน้มเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (REO) สำหรับเอเชียแปซิฟิก" ครั้งล่าสุดของไอเอ็มเอฟระบุว่า เศรษฐกิจเอเชียชะลอตัวลงตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากความอ่อนแอของอุปสงค์ในต่างประเทศ นอกจากนี้ ไอเอ็มเอฟเตือนว่า วิกฤตการณ์ทางการเงินในยูโรโซน และการชะลอตัวลงอย่างมากของเศรษฐกิจสหรัฐ อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมหภาคและการเงินของเอเชียด้วย จึงแนะนำให้ประเทศเอเชียเตรียมรับมือด้วยการใช้มาตรการสร้างสมดุลทางเศรษฐกิจและหนุนเศรษฐกิจให้ขยายตัวแข็งแกร่งขึ้น ซึ่งรวมถึงการปฏิรูปการใช้จ่ายด้านการคลัง, การลงทุนในด้านสาธารณูปโภค และการใช้จ่ายด้านสังคม

 

วิเคราะห์ทางเทคนิค

ทองคำ — ราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideway โดยมีกรอบการเคลื่อนตัวสูงขึ้นตามลำดับ จะเห็นได้ว่าจากสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาปรับตัวขึ้น และลงสลับไปโดยตลอด ภาพรวมของราคาทองคำในสัปดาห์นี้ คาดว่าจะเคลื่อนตัวช่วง 1660 — 1700 เหรียญ โดยยังวิเคราะห์ได้ว่าแนวต้านด้านบนที่สำคัญคือระดับ 1700 เหรียญ โดยรับด้านล่างที่ระดับ 1650 เหรียญ

 

Silver — เคลื่อนตัวใกล้เคียงกับทองเช่นเดียวกัน โดยที่ยังเคลื่อนตัวในกรอบ 31.00 - 32.80 เหรียญ แนะนำเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวเท่านั้น

 

Gold Futures V11 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,500 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,780 บาท

Gold Futures Z11 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,800 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,050บาท

Silver Futures V11 จะมีแนวรับที่ระดับ 980 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,050 บาท

คำแนะนำ การลงทุน Gold(ทองคำ)

Daily - เก็งกำไรในภาวการณ์การแกว่งในทิศทางขาขึ้น คาดว่าวันนี้น่าจะเคลื่อนตัวในช่วง 1660 -1690 เหรียญ

 

Weekly - ยังใช้กลยุทธ์ถือครองระยะยาวต่อไป ถือครองพอร์ทที่ 55-60 % ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวและขายบริเวณแนวต้านที่ระดับ 1700 เหรียญ

 

Monthly - ยังใช้กลยุทธ์ถือครองระยะยาวต่อไป ถือครองพอร์ทที่ 55-60 % ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวและขายบริเวณแนวต้านที่ระดับ 1700 เหรียญ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

]วันเกิดบอกความเป็นคุณ FB Yinmeka ขอบคุณผู้เขียน

จะตรงมั๊ย :D

คนเกิดวันที่17 เป็นคนที่มีความสามารถสูง เป็นคนฉลาดและมีไหวพริบ

ดี มีบุคลิกลักษณะอันเป็นผู้นำที่ผู้คน เชื่อถือ มีความสามารถเป็นอย่างดีในการโน้มน้าวจิตใจคน ใช้คน และบริหารงานด้าน บุคคล แก้ปัญหาเก่ง

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความสามารถในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

คนเกิดวันนี้ จึงมักได้รับความนับถือว่าเป็นหัวหน้า เป็นที่พึ่งของคนในกลุ่มนี่เป็นกายภาพภายนอกเมื่อมองห่างๆ เมื่อมองใกล้เข้าไป

ก็จะเห็นได้อีกว่าคนเกิดวันที่17ไม่สู้จะคงเส้นคงวานัก บางครั้งก็เข้มแข็ง เด็ดเดี่ยวและดูเอา จริงเอาจังกับชีวิต

แต่บางครั้งบางคราวก็เป็นคนอ่อนไหวง่าย เจ้าอารมณ์ นุ่มนวลเห็นอกเห็นใจ บางคราวดู เหมือนมีเล่ห์เหลี่ยม

คนเกิดวันนี้เป็นคนที่ปรารถนาในชีวิตค่อนข้างสูง ทุกสิ่งทุกอย่างของคนเกิดวันนี้ต้องสมบูรณ์

และคนเกิดวันนี้ จะพยายามอย่างมากที่จะสร้างความสมบรณ์ในชีวิต สุขภาพดี มีปัญญา มีทรัพย์ มีคู่ครองที่ดีเลิศ ดังนั้นจึง ต้องทำงานหนักเพื่อให้ได้สิ่งเหล่านี้มา

จุดอ่อนของคนที่เกิดวันนี้คือโดยปกติจะใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย แต่จะ เปลี่ยนเป็นคนเครียด หรือเอาแต่ใจตัวเองขึ้นมาเมื่อไรก็ได้

คนที่อยู่ด้วยหรือเป็นเพื่อนสนิท จึงต้องคอยปรับตัวปรับใจ อยู่เสมอ

และจุดอ่อนอีกประการหนึ่งก็คือคนเกิดวันนี้มักเป็นคนประเภทเล็งผลงานมากกว่ามุ่งความ สัมพันธ์กับผู้คน

ดังนั้นคนที่สนิทควรต้องคอยดูแลช่วยเหลือเรื่องมนุษย์สัมพันธ์ของคนที่เกิดวันที่17

จุดดีของคนที่เกิดวันนี้คือเมื่อแต่งงานมีครอบครัวไปแล้วความอ่อนไหวแปรปรวนของอารมณ์จะลดลง ไปมาก

เป็นคนที่คงเส้นคงวามากขึ้น มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีขึ้น —

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

CNN ตีข่าวน้ำใจไทย-เทศหลั่งไหลช่วยผู้ประสบอุทกภัย

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 ตุลาคม 2554 14:48 น.

 

 

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า คนไทยได้ร่วมมือร่วมใจกันช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ทั้งบริจาคอาหาร น้ำดื่ม และเครื่องนุ่งห่ม ขณะที่นานาชาติก็ทยอยส่งความช่วยเหลือให้แก่ไทย

นอกจากนี้ หน่วยงานของสหประชาชาติ ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปประเมินสถานการณ์และวางแผนช่วยเหลือ ทั้งในไทย กัมพูชา และเวียดนามแล้ว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ศปภ.สั่งนิคมฯ นวนครหยุดเดินเครื่อง-อพยพ ปชช.กอน 1 ทุ่มวันนี้

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 ตุลาคม 2554 14:31 น.

 

นายวิม รุ่งวัฒนจินดา โฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ.แจ้งสถานการณ์น้ำในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จ.ปทุมธานีว่า กระแสน้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ ซึ่งขณะนี้มีปริมาณมากจนไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ จึงประกาศเตือนโรงงานให้หยุดเดินเครื่อง และอพยพประชาชนและพนักงานออกมาอยู่ในที่ที่ปลอดภัยภายใน 7 ชั่วโมง หรือก่อน 19.00 น.วันนี้

ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แสดงความเสียใจที่ไม่สามารถป้องกันน้ำเข้าท่วมนิคมอุตสาหกรรมนวนครได้ แม้จะเตรียมการป้องกันหลายวัน ซึ่งเป็นผลมาจากน้ำทะเลหนุนสูง ฝนตกต่อเนื่อง และน้ำไหลแรงเกินกว่าคันกั้นน้ำจะรับไหว เบื้องต้นได้สั่งอพยพประชาชน และเตรียมหามาตรการฟื้นฟูต่อไป

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

http://www.oknation.net/blog/pisitmit/2011/10/17/entry-2

 

Asia Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียประจำวันที่ 17 ตุลาคม 2554

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 17 ตุลาคม 2554 15:24:40 น.

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดพุ่งสูงขึ้นในวันนี้ หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ อีกทั้งได้ปัจจัยหนุนจากมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับแนวทางในการแก้วิกฤตหนี้ยุโรป

 

 

 

ดัชนี S&P/ASX 200 บวก 69.80 จุด หรือ 1.7% ปิดที่ 4,275.40 จุด

-- ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันปิดดีดตัวขึ้นในวันนี้ ตามทิศทางตลาดหุ้นในภูมิภาค เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายจะสามารถสรุปแผนการแก้ไขปัญหาหนี้ยูโรโซนได้ในสัปดาห์นี้

 

ดัชนีเวทเต็ดปรับตัวขึ้น 103.04 จุด หรือ 1.4% ปิดที่ 7,461.12 จุด

-- ดัชนีคอมโพสิตตลาดหลักทรัพย์ลาวปิดลดลงในวันนี้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนี LSX Composite Index ปิดลบ 8.79 จุด หรือ 0.96% ที่ระดับ 903.89 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 67,917 หุ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 336 ล้านกีบ (ราว 42,000 ดอลลาร์สหรัฐ)

 

-- ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดพุ่งขึ้นในวันนี้ (17 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐและวิกฤตหนี้ยูโรโซน ซึ่งช่วยหนุนดัชนีนิกเกอิพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนในระหว่างวัน

 

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดพุ่งขึ้น 131.64 จุด หรือ 1.50% แตะที่ 8,879.60 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย.เป็นต้นมา

 

-- ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดตลาดในวันนี้ปรับตัวลดลง สวนกระแสตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคที่ดีดตีวขึ้น หลังนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐและวิกฤตหนี้ยูโรโซน

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนี VN ปิดลบ 3.65 จุด หรือ 0.88% ปิดที่ 410.84 จุด

-- หุ้นเกาหลีใต้ปิดปรับตัวขึ้น 1.62% ในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นว่าผู้นำยุโรปจะมีมาตรการรับมือกับวิกฤตหนี้ยูโรโซนที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ ขณะที่เงินวอนแข็งค่าขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

 

ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) ปิดบวกขึ้น 29.78 จุดแตะ 1,865.18 จุด ปริมาณการซื้อขายปานกลางที่ 363.3 ล้านหุ้น มูลค่า 5.84 ล้านล้านวอน (5.12 พันล้านบาท) โดยมีหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบอยู่มากในอัตรา 641-192

 

-- ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดปรับฐานในวันนี้ ก่อนที่จีนจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศในวันพรุ่งนี้ โดยเฉพาะตัวเลขการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศในไตรมาส 3

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตบวก 9.02 จุด หรือ 0.37% ปิดที่ 2,440.40 จุด ส่วนดัชนีเสิ่นเจิ้นบวก 75.23 จุด หรือ 0.72% ปิดที่ 10,513.49 จุด

 

-- ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ โดยการนำของหุ้นบริษัทจีนที่ร่วงลงก่อนหน้านี้ แต่ปริมาณการซื้อขายที่เกือบต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ บ่งชี้ว่านักลงทุนยังคงกังวลก่อนที่จีนจะเปิดเผยจีดีพีในวันพรุ่งนี้

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีฮั่งเส็งทะยาน 372.20 จุด หรือ 2.01% ปิดที่ 18,873.99 จุด หลังจากเคลื่อนไหวระหว่าง 18,675.81-18,908.71 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 6.253 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 8.04 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำวันนี้

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 17 ตุลาคม 2554 13:59:52 น.

กรุงเทพฯ--17 ต.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์

ข้อมูลทองคำวันนี้

- ราคาสมาคม เปิดที่ 24,400-24,500

- ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,681.5

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 30.72-30.75

- GFV11 Hi- Low 24,630-24,380 ปิดที่ 24,580

Gold & Silver Insight

สัญญาทองคำ และ โลหะเงินตลาด COMEX

 

 

ส่งมอบเดือนธ.ค.ทะยาน 14.5 ดอลลาร์ หรือ 0.87% ปิดที่ 1,683 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.บวก 50.6 เซนต์ หรือ 1.6% ปิดที่ 32.173 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นหลังจากที่สหรัฐเผยยอดค้าปลีกที่ดีเกินคาด นอกจากนั้นเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าก็หนุนให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโ จนส์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์บวก 166.36 จุด หรือ 1.45% ปิดที่ 11,644.49 จุด สำหรับทั้งสัปดาห์ดัชนีปรับตัวสูงขึ้น 4% นับว่าปิดบวกเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 20.92 จุด หรือ 1.74% แตะที่ 1,224.58 จุด สำหรับตลอดสัปดาห์ดัชนีทะยานกว่า 6% ถือว่าขยายตัวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2552 ดัชนี Nasdaq ปิดบวก 47.61 จุด หรือ 1.82% แตะที่ 2,667.85 จุด สำหรับตลอดสัปดาห์ดัชนีทะยานกว่า 7% โดยได้รับแรงหนุนจากยอดค้าปลีกสหรัฐและผลประกอบการของกูเกิลที่แข็งแกร่งเกินคาด

 

สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX

ส่งมอบเดือนพ.ย.ปรับเพิ่มขึ้น 2.57 ดอลลาร์ หรือ 3.05% ปิดที่ 86.80 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน สำหรับทั้งสัปดาห์สัญญาปรับเพิ่มขึ้น 3.82 ดอลลาร์ หรือ 4.60% โดยได้รับแรงหนุนจากยอดค้าปลีกสหรัฐที่ขยายตัวเกินคาด ซึ่งช่วยคลายความกังวลเรื่องเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย รวมถึงจากข่าวที่ว่ากลุ่มจี20 อาจเสนอแผนใหม่ในการรับมือวิกฤตหนี้ยุโรป

 

กองทุน SPDR Gold Trust

กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 17 ตุลาคม ไม่เปลี่ยนแปลงการถือครอง ถือครองเท่าเดิมที่ระดับ 1227.51ตัน

 

USD/EU

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (14 ต.ค.) เนื่องจากมีการคาดหมายว่าบรรดาผู้นำยุโรปใกล้ประกาศแผนจัดการวิกฤตหนี้ยูโรโซน ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐมีทั้งบวกและลบปะปนกัน เงินยูโรอ่อนค่าลง 0.74% เมื่อเทียบดอลลาร์ ที่ระดับ 1.3876 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.3774 ดอลลาร์/ยูโรเมื่อวันพฤหัสบดี โดยค่าเงินดอลล่าร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 1.3856 ดอลล่าร์ต่อยูโร

 

USD/JPY

ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐ 0.48% เมื่อเทียบเยน ที่ระดับ 77.210 เยนต่อดอลล่าร์ จาก 76.840 เยนต่อดอลล่าร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 77.240เยนต่อดอลลาร์

 

USD/THB

ค่าเงินบาทปิดตลาดวานนี้ อยู่ที่ระดับ 30.80-30.83 บาทต่อดอลล่าร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักระหว่างวัน โดยค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 30.72-30.75บาทต่อดอลล่าร์

 

ข่าวเศรษฐกิจโลก

- นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในวอลล์สตรีทคาดว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) เดือนก.ย.ของสหรัฐ จะเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ซึ่งเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นที่น้อยที่สุดในรอบ 3 เดือน เนื่องจากราคาอาหารและพลังงานปรับตัวลดลง ขณะที่ปริมาณการผลิตสินค้าในโรงงานอยู่ในระดับทรงตัว นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนีซีพีไอพื้นฐานที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย. หลังเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค.สถานการณ์ด้านเงินเฟ้อของสหรัฐเริ่มทุเลาลง ซึ่งสอดคล้องกับที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มองว่า อัตราเงินเฟ้อภายในประเทศอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ จึงทำให้เฟดเปลี่ยนเป้าหมายจากการควบคุมเงินเฟ้อ ไปเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยวิธีการต่างๆ ตั้งแต่การใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ไปจนถึงมาตรการ Operation Twist

 

- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เตือนว่า ประเทศเอเชียอาจจะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก และแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ พร้อมกับแนะนำให้เจ้าหน้าที่ผู้กำหนดนโยบายของประเทศเอเชียติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจทั่วโลกอย่างใกล้ชิด รายงาน "แนวโน้มเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (REO) สำหรับเอเชียแปซิฟิก" ครั้งล่าสุดของไอเอ็มเอฟระบุว่า เศรษฐกิจเอเชียชะลอตัวลงตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากความอ่อนแอของอุปสงค์ในต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ภายในประเทศยังคงมีการขยายตัวได้ดี ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะเป็นแรงขับเคลื่อนหลักที่ช่วยพยุงเศรษฐกิจเอเชียให้สามารถขยายตัวในอัตรา 6.3% ในปีนี้ และ 6.7% ในปีหน้า แต่ตัวเลขดังกล่าวก็ยังต่ำกว่าที่ไอเอ็มเอฟประมาณการไว้ในเดือนเม.ย.

 

- กระทรวงพาณิชย์จีนเผยข้อมูลล่าสุดจากยูโรสแตทชี้ว่า มูลค่าการค้าระหว่างจีนและสหภาพยุโรปหรืออียูในเดือนก.ค.อยู่ที่ 3.56 หมื่นล้านยูโร หรือ 4.94 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่งผลให้จีนแซงหน้าสหรัฐขี้นเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของอียู มูลค่าการค้าโดยรวมระหว่างจีนและอียูในเดือนก.ค.นั้น สูงกว่ามูลค่าการค้าระหว่างอียูและสหรัฐ 800 ล้านยูโร ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 13.4% ของการนำเข้าและส่งออกทั้งหมดในภูมิภาค อย่างไรก็ดี การค้าระดับทวิภาคีในเดือนก.ค.นั้น หดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 โดยร่วงลง 0.8% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว ขณะเดียวกัน จีนยังคงเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอียู โดยมูลค่าการส่งออกของอียูไปยังจีนนั้น อยู่ที่ 1.17 หมื่นล้านยูโรในเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 12.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าอัตราการขยายตัวของการส่งออกทั้งหมดของอียูที่ 4.1% อียูได้นำเข้าสินค้าของจีนมูลค่า 2.39 หมื่นล้านยูโร ลดลง 6.2% จากระดับปีที่แล้ว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอขอบคุณสำหรับข่าวสารคำแนะนำของทุกท่าน ถ้าทองside wayสักสองเดือนจนถึงสิ้นปีคืออยู่ระหว่าง1620-1680$ คงจะเซ็งน่าดูแต่ต้องรอได้!!!

 

สวัสดี คุณ TNT2012 (เกือบ1700 หลายครั้งอยู่ ไม่ต้องเซ็ง :) ) chinchilla ย่าหยา พวงชมพู แสงแดด น้อย เด็กสยาม ded99 bbeem put42 pun

 

และทุกคนๆๆๆ

 

ภาวะตลาดทองคำ by Hua Seng Heng Gold Futures

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 17 ตุลาคม 2554 09:22:01 น.

กรุงเทพฯ--17 ต.ค.--ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส

- ทองฟื้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2

- สัปดาห์นี้ติดตามผลประกอบการ Q3 ตลาดหุ้นสหรัฐ

 

 

 

- G20 ยังไม่ชัดเจนรอตามประชุมผู้นำยุโรปวันที่ 23 นี้

แนวโน้มราคาโลหะมีค่า

ราคาทองและโลหะเงินฟื้นตัวขึ้นในวันศุกร์ และปิดตลาดสูงขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 2 ประเด็นบวกที่ส่งผลให้ราคาทองฟื้นตัวยังเป็นรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐ รวมทั้งตลาดเริ่มคลายกังวลปัญหาในยุโรป ค่าเงินดอลลาร์จึงกลับอ่อนค่าและเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองและสินค้าโภคภัณฑ์ ส่วนการประชุมของกลุ่ม G-20 ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น กลุ่ม G-20 แสดงความกังวลเกี่ยวกับปริมาณเงินของ IMF ที่อาจไม่เพียงพอสำหรับปัญหาเศรษฐกิจของหลายชาติโดยเฉพาะกับกลุ่มประเทศในยุโรป ส่วนมาตรการแก้ไขปัญหาต่างๆนั้นยังไม่มีความชัดเจน แต่ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากที่ตลาดประเมิน โดยคาดว่าการประชุมของกลุ่มผู้นำยุโรปในวันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคมนี้ เป็นประเด็นที่อยู่ในความสนใจของตลาด และคาดว่าจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการแก้ปัญหาให้กับกรีซ ทั้งเรื่องการปรับลดหนี้และการได้รับเงินช่วยเหลือจาก IMF ซึ่งคาดว่ากรีซจะได้รับเงินช่วยเหลือจาก IMFทันตามกำหนด อย่างไรก็ตามในส่วนของการปรับลดหนี้ของกรีซนั้น อาจมีผลกระทบต่อหุ้นในกลุ่มสถาบันการเงินหรือกลุ่มที่เข้าไปถือครองพันธบัตรและเป็นเจ้าหนี้ของกรีซ หากไม่มีมาตรการรองรับอาจกลับเป็นประเด็นลบที่กดดันสินทรัพย์เสี่ยงให้ปรับฐานลง ส่วนการซื้อขายในวันนี้ไปจนถึงก่อนทราบผลของการประชุมผู้นำยุโรปช่วงสุดสัปดาห์ คาดว่าตลาดจะให้ความสนใจเรื่องผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนของสหรัฐเป็นหลัก โดยสัปดาห์นี้จะมีการรายงานผลประกอบการของสถาบันการเงินขนาดใหญ่ของสหรัฐทั้ง แบงค์ ออฟ อเมริกา และโกลด์แมน แซคส์ ซึ่งคาดว่าจะมีผลต่อการเคลื่อนไหวของตลาดการเงินหากผลประกอบการไตรมาส 3 ออกมาต่างจากที่ตลาดประเมิน ส่วนการเคลื่อนไหวทางเทคนิคซึ่งทั้งราคาทองและโลหะเงินปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 2 และสำหรับราคาทองที่ขึ้นมาปิดที่แนวต้านบริเวณ 1,675-1,680 ดอลลาร์ จึงยังไม่ชัดเจนว่าราคาจะปรับขึ้นได้ต่อ โดยคาดว่าราคาจะแกว่งตัวขึ้นลงลักษณะเดียวกับช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีแนวต้านอยู่ที่ 1,690 และ 1,700 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับช่วงที่ราคาปรับฐานลงอยู่ที่บริเวณ 1,665-1,670 ดอลลาร์ โดยคาดว่าราคายังมีแนวโน้มดีดตัวขึ้นต่อแต่ก็จะยังมีแรงขายกลับออกมาช่วงที่ราคาปรับขึ้นสู่แนวต้านที่ 1,690 และ 1,700 ดอลลาร์ ส่วนโลหะเงินคาดว่าจะยังมีแรงขายกลับออกมาช่วงที่ราคาดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านที่ 32.80-33.0 ดอลลาร์

 

โกลด์ฟิวเจอร์สเดือนต.ค.54

Close chg. Support Resistance

24,580 -20 24500/24300 24650/24800

คาดว่าราคาจะแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแคบลง การเปิดสถานะซื้อควรรอรับในช่วงที่ราคาปรับฐานลงไปยังแนวรับที่บริเวณ 1,665-1,670 ดอลลาร์ และมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่ 1,660 ดอลลาร์ ส่วนกรณีที่ราคาดีดตัวขึ้นต่อคาดว่าจะยังไม่สามารถผ่านแนวต้านที่ 1,690 ดอลลาร์ ขึ้นไปได้ไกลนัก จึงสามารถเลือกเก็งกำไรฝั่งขายในช่วงที่ราคาฟื้นตัวเข้าใกล้แนวต้านที่ 1,685-1,690 ดอลลาร์ และมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่ 1,700 ดอลลาร์

 

ซิลเวอร์ฟิวเจอร์สเดือนต.ค.54

Close chg. Support Resistance

995 - 980/970 1010/1020

ราคาโลหะเงินผ่านแนวต้านบริเวณ 32.0 ดอลลาร์ จึงยังมีแนวโน้มที่ราคาจะปรับขึ้นต่อ แต่คาดว่าที่บริเวณ 32.50-32.60 ดอลลาร์ จะเป็นระดับที่มีแรงขายกลับออกมาและราคาคงยังไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ ดังนั้นจึงสามารถรอเปิดสถานะขายที่แนวต้านบริเวณดังกล่าว โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่ 32.80 ดอลลาร์ หรืออาจเลือกเก็งกำไรฝั่งขายในช่วงที่ราคาอ่อนตัวลงหลุดแนวรับที่ 31.90-32.0 ดอลลาร์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ระหว่าง 1696 และ 1676 จะได้เห็น ราคาไหนก่อนกันแต่ sto 955 ราย4 ตัดลงแล้ว แต่ rsi 62 ระวังกันหน่อยนะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวีดัด สวัสดีครับ ทุกท่าน

 

ท่านใดประสบเหตุน้ำท่วม ขอแสดงความเสียใจ และเห็นใจนะครับ ยิ่งตอนนี้ นิคมนวนคร กำลังสู้กับน้ำอยู่ ขอให้ ฝนอย่าตก แล้วก็ให้น้ำลดลงเร็ว ๆ นะครับ

 

http://www.youtube.com/watch?v=wsgPWUchVwA&NR=1

 

ขอเป็นกำลังใจให้ครับ

เห็นสายน้ำไหลท่วมอ่วมทุกภาค

เศร้าใจมากโธ่เอ๋ยใยฝนฟ้าแกล้ง

เกิดอาเพทเหตุอันใดลงทัณฑ์แรง

จึงสำแดงให้น้ำท่วมอ่วมฤทัย

ทั้งเรือกสวนไร่นาเคหะสถาน

ไม่อาจต้านสายน้ำมาฝนห่าใหญ่

เป็นน้ำป่าพัดพามาดินทลาย

ทับต้นไม้บ้านเรือนและผู้คน

ตื่นตระหนกตกใจไม่คิดคาด

เสียงวิ๊ดว้าดกู่ก้องร้องสับสน

ต่างอุ้มลูกจูงหลานกันอลวน

ฝ่าฝูงชนหนีภัยน้ำที่กล้้ากราย

บ้างหนีได้บ้างไม่ทันน้ำพัดพ้น

บ้างสุดทนกระโดดช่วยน้ำพัดหาย

ไร้ใครรู้ไม่คนเห็นเป็นหรือตาย

ใจสลายคนที่เหลือสุดลำเค็ญ

ต้องอยู่อย่างอดอยากกลางสายน้ำ

ต้องชอกช้ำญาติพี่น้องมองไม่เห็น

ต้องหมดเนื้อหมดตัวไม่เคยเป็น

เป็นกรรมเวรของใครสร้างจึงล้างกรรม

พิษณุโลกบางระกำชอกช้ำหนัก

นครสวรรค์จมซ้าซากยังมิหนำ

ลพบุรีอยุธยาก็ระกำ

ปทุมฯน้ำก็ไหลท่วมอ่วมเหมือนกัน

ขอน้ำใจคนไทยหลั่งไหลช่วย

คนไทยด้วยในยามนี้ที่โศกศัลย์

อิสานเหนือกลางใต้ไทยเช่นกัน

เหลืองแดงขาวอย่างไรนั้นก็คนไทย

หยุดแบ่งแยกแบ่งสีที่เคยคิด

จะถูกผิดชอบหรือชังดังเคยหมาย

วางลงก่อนลืมมันก่อนเถิดเพื่อนไทย

มาร่วมใจร่วมรู้รักสามัคคี

ร่วมกันสร้างกำลังใจสู้ภัยน้ำท่วม

อย่าให้อ่วมอย่าให้น่วมหมดทางที่

จะเยียวยาจะรักษาทันท่วงที

เวลานี้กำลังใจไทยต้องการ

ไทยรักไทยไทยช่วยไทยภัยก็จบ

ทุกข์ที่พบผ่านพ้นแน่แม้โศกศัลย์

น้ำใจไทยช่วยคนไทยไทยด้วยกัน

นี่แหละคือคุณสมบัติของคนไทย@

(http://poem.meemodel.com/riseup/70023.html)

 

 

ส่วนทอง คืนนี้ รอลุ้นกันครับ

 

ขา S รอ หล่น ขา L รอ ย่อ นะครับ

ถูกแก้ไข โดย GoldofCourse

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดี goldofcourse

 

Analysis: การประท้วงต้านวอลล์สตรีทส่งผลกระทบต่ออนาคตของสหรัฐ

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 17 ตุลาคม 2554 16:50:53 น.

ผู้เชี่ยวชาญหลายรายเผยกับซินหัวว่า ความไม่เชื่อใจและความขุ่นเคืองที่กลุ่มผู้ประท้วงวอลล์สตรีท หรือ Occupy Wall Street มีต่อระบบการเงินของสหรัฐนั้น อาจจะส่งผลกระทบที่ไม่ดีนักต่ออนาคตของสหรัฐ

 

แม้ว่ากลุ่มผู้ประท้วงจะคิดเป็นสัดส่วนไม่มากนักเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรประเทศ แต่ก็มีคนอีกเป็นจำนวนมากที่มีความรู้สึกไม่พอใจกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันและนโยบายของรัฐบาลบางนโยบาย ดังจะเห็นได้จากการเดินขบวนต่อต้านที่เกิดขึ้นในหลายเมืองของสหรัฐ

 

 

 

ริชาร์ด วอททริช กรรมการผู้จัดการอาวุโสของแมคลีน กรุ๊ป กล่าวกับซินหัวว่า สหรัฐอเมริกาตกอยู่ท่ามกลางการถกเถียงกันทางความคิดครั้งใหญ่เกี่ยวกับอนาคตของประเทศ ไล่ตั้งแต่เศรษฐกิจของประเทศจะเป็นเช่นไร ไปจนถึงบทบาทของลัทธิทุนนิยมและรัฐบาลขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกา

 

แม้ว่ายังเร็วเกินไปในขณะนี้ที่จะบอกว่า ผลพวงจากการประท้วงจะออกมาในรูปแบบใด แต่ความเคลื่อนไหวด้านสังคมที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ก็อาจจะมีอิทธิพลต่อการกำหนดอนาคตของสหรัฐในช่วงเวลายากลำบากในประวัติศาสตร์ของประเทศ วอททริชกล่าว

 

ลุยจี ซินกาเลส ศาสตราจารย์ด้านธุรกิจและการเงินของมหาวิทยาลัยชิคาโก บูธ สคูล ออฟ บิสิเนส มองว่า ความเคลื่อนไหวของผู้ประท้วงเป็นสัญญาณของกองกำลังใต้ดินที่จะนำไปสู่รูปแบบของการกบฎในภาคประชาชนหรือความไม่พึงพอใจของประชาชน

 

คำถามก็คือ เรื่องนี้จะนำไปสู่การเมืองอย่างไร และผลที่เกิดขึ้นตามมาก็ขึ้นอยู่กับทิศทางทางการเมืองนี้เอง

 

การประท้วงเพื่อต่อต้านวอลล์สตรีทถือเป็นรูปแบบหนึ่งของลัทธิประชานิยม หรือความเคลื่อนไหวของประชาชนทั่วไปที่ไม่เห็นด้วยกับพวกที่ตัวเองมองว่าเป็นชนชั้นสูง ซึ่งอาจชักนำไปในทางที่ไม่ดีหรืออาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในเชิงสร้างสรรค์ก็ได้

 

ศาสตราจารย์ซินกาเลส ผู้ซึ่งเคยทำนายเมื่อปี 2552 ว่า ลัทธิประชานิยมจะเติบโตในสหรัฐ หลังจากที่เกิดวิกฤตการเงินเมื่อปี 2551 กล่าวว่า ความรู้สึกร่วมที่อยู่เบื้องหลังการประท้วงนั้น มีแนวโน้มว่าจะทำให้การเคลื่อนไหวครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมขบวนการและมีอิทธิพลมากขึ้น

 

ทั้งนี้ ศาสตราจารย์ซินกาเลสและคณาจารย์จากเคลล็อก สคูล ออฟ เมเนจเมนท์ ของมหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น ได้ร่วมกันจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นด้านการเงินขึ้น เพื่อวัดประเมินการเปลี่ยนแปลงความเชื่อมั่นของชาวอเมริกันที่มีต่อระบบการเงินและสถาบันเอกชน

 

สำหรับการวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับดัชนีดังกล่าวนั้น ซินกาเลสเผยว่า ความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อภาคธนาคารนั้นลดลงไปอย่างมาก

 

ศาสตราจารย์ยังชี้ด้วยว่า สาเหตุเบื้องหลังที่ทำให้วอลล์สตรีทตกเป็นเป้าหมายการประท้วงก็คือ ท่าทีที่เป็นปฏิปักษ์มากขึ้นเรื่อยๆต่อความร่วมมือกันระหว่างรัฐบาลและบริษัทขนาดใหญ่ แม้ว่าการเป็นพันธมิตรระหว่างภาครัฐและเอกชนจะเป็นศูนย์กลางของระบบเศรษฐกิจสหรัฐก็ตาม

 

นายซินกาเลส กล่าวว่า การเป็นพันธมิตรระหว่างภาครัฐและเอกชนมีเป้าหมายเพื่อให้ภาครัฐได้อาศัยประโยชน์จากภาคเอกชน แต่ผมเกรงว่า เรื่องจะจบลงที่ภาคเอกชนอาศัยประโยชน์จากภาครัฐเสียมากกว่า

 

สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ผู้เสียภาษีกำลังให้เงินอุดหนุนกำไรของภาคเอกชน ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนที่เข้าร่วมการประท้วงต้านวอลล์สตรีทไม่ต้องการ

 

แม้ว่าสหรัฐได้ผ่านร่างกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคและปฏิรูปวอลล์สตรีท หรือดอดด์-แฟรงค์ เพื่อกำกับดูแลการบริการด้านการเงิน แต่ชาวสหรัฐจำนวนมากโทษว่า มาตรการต่างๆที่ใช้อยู่ในปัจจุบันยังไม่เพียงพอและเรียกร้องให้มีการดำเนินการมากกว่านี้

 

แคเทอรีน ฮาร์บิน สำนักข่าวซินหัวรายงาน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...