ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ขอบคุณสำหรับทุกข้อมูลข่าวสารค่ะ

happy&lucky

 

วิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ และ GF โดย เอ็มทีเอส โกลด์ฯ MTS (12-09-12 | 10:29)

 

SEP 12, 2012

 

GOLD FUTURES

 

goldbar24_37.jpg

สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2555 เวลา 09.00 น.

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,730 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,734 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.05 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 25,350 บาท กับ 25,450 บาท และกลับมาปิดที่ 25,350บาท กับ 25,450 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 2,868คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 7,698 คู่สัญญา และSilver Futures อยู่ที่ 4 คู่สัญญา OpenInterest แบบ 50 บาท ลดลง 6.7 % แบบ 10 บาท มากขึ้น 0.8 % Silver Futures เพิ่มขึ้น 0.4 % GFV12 ปิด 25,680 บาท และ GFZ12 ปิด 25,800บาท GF10V12 ปิดที่ 25,670 บาท GF10Z12 ปิดที่ 25,790บาท SVV12 ปิดที่ 1,056และ SVZ12 ปิดช่วงกลางคืนที่ -

สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 3.1 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,734.9 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 6.7 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 33.566 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,293.14 ตัน (เท่าเดิม)น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 63 เซนต์ ปิดที่ระดับ 97.17 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 69.07 จุด ปิดที่ระดับ 13,323.36 จุด

Ratio Gold / Silver 51 เท่ากับ ต่อ 1

ข่าวที่สำคัญ

TheBullionDesk, Reuters, Infoquest และ CNBC

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในช่วงการซื้อขายเมื่อคืนนี้ โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการแข็งค่าของสกุลเงินยูโร และการรอผลการแถลงการประชุม FOMC ในคืนวันพฤหัสบดีที่มีความคาดหวังในเรื่องมาตรการ QE3 นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญของเยอรมนีจะตัดสินในเรื่องความถูกต้องตามกฎหมายของกองทุน ESM ซึ่งเป็นกองทุนช่วยเหลือทางการเงินถาวรของยุโรปที่อาจมีศักยภาพในการให้กู้ยืมสูงสุดถึง 5 แสนล้านยูโรในวันนี้

นักวิเคราะห์จาก FastMarkets กล่าวว่า หากผลการแถลงการประชุม FOMC ในเดือนกันยายนไม่มีมาตรการ QE3 ออกมา คาดว่าจะยิ่งเป็นการเพิ่มโอกาสที่อาจเห็นมาตรการ QE3 ในเดือนธันวาม ไม่ใช่เดือนพฤศจิกายน โดยมีสาเหตุ 2 ประการคือ 1) เดือนธันวาคมเป็นเดือนที่มาตรการ Operation Twist จะหมดอายุ และ 2) ในช่วงเดือนธันวาคมจะเป็นจังหวะแรกหลังการเลือกตั้งปี 2012 ที่เฟดอาจดำเนินการโดยปราศจากการเกี่ยวข้องกับการเมือง

นอกเหนือไปจากเหตุการณ์ทางฝั่งสหรัฐ จะเห็นว่าในสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่สำคัญสำหรับยุโรปเช่นกัน เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญของเยอรมนีมีกำหนดการชี้ชะตาว่า กองทุน ESM เป็นไปตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งล่าสุด ผลสำรวจจากเยอรมนีระบุว่า 53% ของสาธารณชนมีความเห็นชอบให้ศาลตัดสินคัดค้านกองทุน ESM ถ้าเป็นเช่นนั้น นักวิเคราะห์ระบุถึงความกังวลว่า ตลาดทุนจะมีการโต้ตอบอย่างไรหากศาลตัดสินไม่ให้กองทุน ESM เป็นกองทุนที่ถูกต้องตามกฎหมายเยอรมัน

รอยเตอร์สำรวจผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายมีการคาดการณ์อย่างเป็นเอกฉันท์ว่า ศาลสูงเยอรมนีจะอนุมัติกองทุน ESM และกฎงบประมาณต่างๆ ในวันนี้ และมีความเชื่อว่า ศาลเยอรมนีจะกำหนดเงื่อนไขที่ทนทานเพื่อจำกัดความยืดหยุ่นในการช่วยเหลือในอนาคต

ในวันเดียวกันนี้ ตลาดจะให้ความสนใจไปที่การเลือกตั้งของประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งอาจมีกระทบในวงกว้างในเรื่องการตัดสินใจของสหภาพยุโรปในเรื่องการขับเคลื่อนต่อไป ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้เกี่ยวกับมาตรการรัดเข็มขัด และความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกัน

ยิ่งไปกว่านั้น กลุ่มรัฐมนตรีคลังของยุโรป หรือยูโรกรุ๊ปมีกำหนดการประชุมกันในสัปดาห์นี้ และด้วยความที่วิกฤตหนี้ยูโรโซนยังคงมีปัญหาอยู่ จึงมีความเป็นไปได้ที่การประชุมในครั้งนี้จะมีความเคลื่อนไหวในเรื่องราคาสินทรัพย์

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ตลาดให้ความสนใจไปกับเหตุการณ์ต่างๆ ในสัปดาห์นี้ เทรดเดอร์ต่างๆ จะรอผลการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจในภาคอุตสาหกรรมจากฝรั่งเศส อิตาลี และเยอรมนี

ตลาดทองคำอินเดียดูจะซบเซาเป็นเวลา 2 สัปดาห์ของช่วงราษฎระ ซึ่งจะเริ่มต้นในวันที่ 30 กันยายน และจะสิ้นสุดในเดือนตุลาคม ซึ่งในช่วงราษฎระของอินเดีย ชาวฮินดูจะไม่ซื้อเสื้อผ้าหรือของใช้เพื่อความรุ่งเรือง เช่น ทองคำ เพราะเนื่องจากช่วงนี้ไม่ใช่ช่วงเวลาที่เป็นฤกษ์ดี

สิงคโปร์ เบส เดียเลอร์ กล่าวว่า มีปริมาณการเข้าซื้อทองคำที่เหลือจากการผลิตต่างๆ หรือ Scrap gold เนื่องจากการคาดว่าราคาจะปรับตัวสูงขึ้นอีก และค่าพรีเมี่ยมของทองคำแท่งในสิงคโปร์ยืนอยู่ที่ระดับ 20 – 40 เซนต์ต่อออนซ์เหนือระดับราคา Spot ของลอนดอน

เมื่อวานนี้ กองทุนทองคำ SPDR ยังคงไม่ได้ทำอะไรมาตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา ถือครองทองคำที่ระดับเดิม 1,293.138 ตัน

มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส เผยความน่าเชื่อถือของสหรัฐอาจถูกปรับลดลงเหลือ Aa1 หากสหรัฐไม่สามารถปรับลดสัดส่วนหนี้ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศในระหว่างการหารือเรื่องงบประมาณในปีหน้า โดยมูดีส์ระบุในแถลงการณ์ว่า การคงอันดับเครดิตโดยมีแนวโน้มเชิงลบไว้จนถึงปี 2557 คงจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ โดยจะมีการคงแนวโน้มเชิงลบดังกล่าวไว้ หากเกิดภาวะ Fiscal cliff หรือภาวะที่มาตรการด้านนโยบายหลายประการของสหรัฐมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาเดียวกัน จนทำให้เกิดภาวะไร้เสถียรภาพในที่สุด ดังนั้น มูดีส์จำเป็นต้องการข้อมูลหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่า เศรษฐกิจจะดีดตัวขึ้นจากภาวะผันผวนก่อนที่มูดีส์จะพิจารณาปรับเปลี่ยนแนวโน้มให้กลับสู่ระดับที่มีเสถียรภาพ

อีซีบีกล่าวเมื่อวานนี้ว่า นายแอนโทนิส ซามาราส นายกรัฐมนตรีของกรีซได้ทำให้อีซีบีเชื่อมั่นว่า แผนการปฏิรูปเศรษฐกิจของรัฐบาลกรีซจะสามารถทำให้ระบบกลับเข้าที่ได้ อย่างไรก็ตาม นายซามาราส ซึ่งมีการหารือกับนายดรากีและเจ้าหน้าที่อาวุโสของอีซีบีกำลังมีปัญหาในการชักจูงกลุ่มผู้ให้กู้ยืมระหว่างประเทศยอมรับแผนที่มีความสำคัญในการปลดล็อคให้ความช่วยเหลือต่อกรีซเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะล้มละลาย

ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันจันทร์

- Trade Balance ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -42.9 B คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ -44.2B ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ระดับ -42.0B

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้

- Import Prices m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.6% คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ 1.4%

- Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -7.4M คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ -1.8M

วิเคราะห์ทางเทคนิค

Gold – ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบในช่วงตลาดเอเชีย ในขณะที่มีการปรับตัวสูงขึ้นหลังจากการที่มีข่าวมูดี้ส์เตือนว่าจะประกาศลดเครดิตสหรัฐฯลงเหลือ Aa1 ทำให้ราคาทองคำกลับดีดขึ้นมาที่ระดับ 1,737 เหรียญโดยประมาณ และกลับมาปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,734.9 เหรียญ ในขณะที่ค่าเงินบาทเองปรับตัวแข็งค่าขึ้น โดยลงมาประมาณ 2 – 3 สตางค์ มีผลทำให้ราคาทองคำในรูปของเงินบาทค่อนข้างที่จะทรงตัว เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ ราคา Gold Futures เมื่อวานเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบประมาณ 40-50 บาทเท่านั้นไม่ค่อยเคลื่อนไหว ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures โดยรวมลดลงประมาณ 60% เหลือเพียงประมาณ 10,000 คู่สัญญา/วัน เมื่อวานนี้ตลาดทองคำแท่งเองโดยภาพรวมก็เงียบลงเนื่องจากนักลงทุนโดยทั่วไป รอข่าวการประชุม FOMC ทางMTS Gold วิเคราะห์ว่า ราคาเคลื่อนไหวในกรอบแคบเช่นเดิมระหว่าง 1,730 – 1,740 เหรียญ ยังแนะนำให้ปรับสภาพพอร์ทให้สมดุลก่อนการประชุม FOMC

Gold Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,580 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,750 บาท

Gold Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,700 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,870 บาท

Silver Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 1,030 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,070 บาท

คำแนะนำ

สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade)

เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในทิศทาง Sideway โดยน่าจะเคลื่อนตัวในกรอบแคบ 1,730 -1,740 เหรียญ

นักลงทุนระยะสั้น 7 – 20 วัน (Weekly Trade)

ปรับพอร์ทเหลือเพียง 10% หลังจากที่ขายทำกำไรออกไปแล้ว

นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง

ลดพอร์ทลงเหลือ 10% เช่นเดียวกัน รอจังหวะเข้าช้อนซื้อ

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

คลิ๊ก!! เพื่ออ่านบทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำและโกลด์ฟิวเจอร์ส

 

คลิ๊ก!! เพื่ออ่านบทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำและโกลด์ฟิวเจอร์ส

หากไม่สามารถเปิดไฟล์ได้กรุณากด F5

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

www.mtsgold.co.th

www.gold.in.th

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดีจ้า ทานข้าวกันยังงง

 

Yos476

ปธ.สภาผู้แทนฯหวั่นสหรัฐเสียเรทติ้ง AAA หากรัฐบาลล้มเหลวลดหนี้สิน

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 12 กันยายน 2555 12:01:32 น.

นายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐกล่าวว่า เขาไม่มั่นใจว่าทำเนียบขาวและสภาคองเกรสจะสามารถตกลงกันได้ในเรื่องการลดหนี้สินของประเทศ ซึ่งจะทำให้สหรัฐมีความเสี่ยงที่จะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ

การแสดงความคิดเห็นของนายโบห์เนอร์ มีขึ้นหลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เตือนว่าสหรัฐอาจจะสูญเสียอันดับความน่าเชื่อถือที่ AAA หากสภาคองเกรสสหรัฐไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับแผนการลดหนี้สินระยะยาวในปีหน้าemnb_1_370236.gif

นายโบห์เนอร์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เขา "ไม่มีความมั่นใจเลย" ว่าทำเนียบขาวและสภาคองเกรสจะสามารถตกลงกันได้ในเรื่องการปรับลดหนี้สินในระยะเวลาอันใกล้นี้ พร้อมกับกล่าวว่า ที่ผ่านมานั้น วุฒิสภาสหรัฐยังดำเนินการไม่มากพอในเรื่องการขึ้นภาษีและการลดการใช้จ่าย

ทั้งนี้ มูดีส์ระบุในแถลงการณ์เมื่อวานนี้ว่า "การเจรจาเรื่องงบประมาณในการประชุมฝ่ายนิติบัญญัติของสภาคองเกรสในปี 2556 นั้นจะเป็นตัวกำหนดทิศทางอันดับความน่าเชื่อถือที่ AAA และแนวโน้มเชิงลบของสหรัฐ"

" หากการเจรจาดังกล่าวนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะสร้างเสถียรภาพและลดสัดส่วนหนี้สินต่อจีดีพีของรัฐบาลกลางในระยะกลาง มูดีส์ก็อาจจะคงอันดับความน่าเชื่อถือ AAA และปรับเพิ่มแนวโน้มความน่าเชื่อถือเน มีเสถียรภาพ แต่หากการเจรจาไม่สามารถนำไปสู่การกำหนดนโยบายดังกล่าว มูดีส์ก็อาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงมาอยู่ที่ระดับ Aa1" มูดีส์กล่าว

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ราว 53% ของนักเศรษฐศาสตร์สหรัฐที่ได้รับการสำรวจความคิดเห็นโดยยูเอสเอ ทูเดย์เมื่อเร็วๆนี้ คาดว่า สภาคองเกรสจะไม่สามารถบรรเทาผลกระทบที่เกิดจากการปรับขึ้นภาษีและการลดรายจ่ายวงเงินรวม 5.60 แสนล้านดอลลาร์ได้ โดยคาดว่าผลกระทบดังกล่าวจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เรียกกันว่า "fiscal cliff" หรือ "หน้าผาการคลัง"

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th-

 

EIA คาดอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 0.84 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2555

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 12 กันยายน 2555 11:37:50 น.

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยวานนี้ว่า อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 0.84 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2555 สู่ระดับ 89.09 ล้านบาร์เรล/วัน

EIA ระบุในรายงานแนวโน้มพลังงานระยะใกล้รายเดือนว่ อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นอีก 1 ล้านบาร์เรล/วัน แตะ 90.1 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2556 ซึ่งเพิ่มขึ้น 130,000 บาร์เรล/วันจากการประเมินเมื่อเดือนที่แล้วemnb_1_370236.gif

EIA คาดว่าอุปสงค์น้ำมันในสหรัฐ ซึ่งเป็นผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก จะลดลง 1.5% ในปีนี้ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 ปีที่ 18.67 ล้านบาร์เรล/วัน

ส่วนความต้องการน้ำมันเบนซิน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมที่ใช้กันแพร่หลายมากที่สุดในสหรัฐ คาดว่าจะลดลง 0.2% จากปีก่อน สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปีที่ 8.73 ล้านบาร์เรล/วัน

EIA เปิดเผยว่าการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐที่เพิ่มขึ้นจะช่วยให้สหรัฐลดการพึ่งพาการนำเข้าน้ำมัน โดยคาดว่าการนำเข้าน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นสุทธิของสหรัฐจะลดลงสู่ 39% ของอุปสงค์ทั้งหมดของประเทศในปี 2556 ซึ่งลดลงจาก 49% ในปี 2553 สำนักข่าวซินหัวรายงาน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดีจ้า ทานข้าวกันยังงง

 

:57 ginger ต่ายทองอ่านผ่านๆ ว่า ทานข้าวยังงง รีบเปิดเข้ามาดูว่า ยังงง นึกว่ามีรัยที่ไหนด้ายคริคริ แซวเล่นช่วงบ่ายๆนะจ๊ะอิอิ สงสัยต่ายทองง่วงนอนแล้วมั่งคริคริ กำลังจะทานพอดี ทานด้วยกันนะ ginger เพื่อนๆ :32

 

 

 

 

http://www.ylgbullion.com/imgUpload/articleThumbnail3493_AfternoonUpdate-12-9-12.pdf

image-2BC6_5050336D.jpg

image-67D0_5050336D.jpg

ถูกแก้ไข โดย กระต่ายทอง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณทุก ๆ ท่านค่ะ

เป็นไงบ้าง โชคดี นะคะ

 

ginger ต่ายทองอ่านผ่านๆ ว่า ทานข้าวยังงง รีบเปิดเข้ามาดูว่า ยังงง นึกว่ามีรัยที่ไหนด้ายคริคริ แซวเล่นช่วงบ่ายๆนะจ๊ะอิอิ สงสัยต่ายทองง่วงนอนแล้วมั่งคริคริ กำลังจะทานพอดี ทานด้วยกันนะ ginger เพื่อนๆ :32

ขอบใจนะ dookdik10.gif

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดีจ้ะ ตังเม

 

นายกฯจีนชี้ความแข็งแกร่งด้านนโยบายจะช่วยหนุนเป้าหมายการเติบโต

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 12 กันยายน 2555 13:59:00 น.

นายเหวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีของจีนเผยจีนยังมีโอกาสที่จะใช้มาตรการด้านการคลังและการเงิน เพื่อสนับสนุนการขยายตัว และจะบรรลุซึ่งเป้าหมายทางเศรษฐกิจในปีนี้

นายเหวินกล่าวในการประชุม World Economic Forum ที่เมืองเทียนจินเมื่อวานนี้ว่า จีนมีความมั่นใจอย่างเต็มที่ว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายในปีนี้ และจะยังคงเน้นไปที่การขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น

ทั้งนี้ การแสดงความเห็นดังกล่าวช่วยหนุนตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ให้ปรับตัวขึ้นในช่วงเช้า เพราะมีการคาดการณ์ว่า จีนจะประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจemnb_1_370236.gif

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th-

 

เยอรมนีปรับเพิ่มดัชนี CPI เดือนส.ค.จากประมาณการเบื้องต้น

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 12 กันยายน 2555 13:23:38 น.

สำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนี (Destatis) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 0.4% จากเดือนก.ค. และดีดตัวขึ้น 2.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน

ดัชนี CPI ทั้งในรายเดือนและรายปี ต่างถูกปรับทบทวนขึ้น 0.1% จากข้อมูลเบื้องต้นที่มีการรายงานไปเมื่อสิ้นเดือนส.ค.ที่ผ่านมา

Destatis ระบุว่าดัชนี CPI ที่เพิ่มขึ้นในเดือนส.ค.ได้รับแรงผลักดันจากราคาพลังงาน และหากไม่รวมราคาพลังงาน ดัชนี CPI ทรงตัวเมื่อเทียบรายเดือน และบวกขึ้น 1.4% จากปีที่แล้วemnb_1_370236.gif

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th-

 

นายกฯจีนชี้ความแข็งแกร่งด้านนโยบายจะช่วยหนุนเป้าหมายการเติบโต

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 12 กันยายน 2555 13:59:00 น.

นายเหวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีของจีนเผยจีนยังมีโอกาสที่จะใช้มาตรการด้านการคลังและการเงิน เพื่อสนับสนุนการขยายตัว และจะบรรลุซึ่งเป้าหมายทางเศรษฐกิจในปีนี้

นายเหวินกล่าวในการประชุม World Economic Forum ที่เมืองเทียนจินเมื่อวานนี้ว่า จีนมีความมั่นใจอย่างเต็มที่ว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายในปีนี้ และจะยังคงเน้นไปที่การขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น

ทั้งนี้ การแสดงความเห็นดังกล่าวช่วยหนุนตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ให้ปรับตัวขึ้นในช่วงเช้า เพราะมีการคาดการณ์ว่า จีนจะประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจemnb_1_370236.gif

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th

 

สหรัฐเผยความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็กเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือนส.ค.

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 12 กันยายน 2555 13:09:09 น.

สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติของสหรัฐ (NFIB) รายงานว่า ภาคธุรกิจขนาดเล็กของสหรัฐมีความเชื่อมั่นเพิ่มมากขึ้นในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน แม้มีรายงานการจ้างงานที่น่าผิดหวังเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

NFIB ระบุว่าดัชนีมุมมองเชิงบวกของธุรกิจขนาดเล็ก ปรับเพิ่มขึ้นแตะ 92.9 ในเดือนส.ค. จาก 91.2 ในเดือนก.ค. แต่แทบไม่มีสัญญาณบวกสำหรับอนาคต และคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในระยะยาว

ดัชนีปรับตัวผันผวนในช่วง 86.5-94.5 นับแต่ภาวะถดถอยสิ้นสุดลงในเดือนมิ.ย.2552 โดยในช่วงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเมื่อเร็วๆนี้ ดัชนีมีค่าเฉลี่ยที่ 90 ซึ่งทำให้เป็นช่วงการฟื้นตัวที่เลวร้ายที่สุดนับแต่ภาวะถดถอยตั้งแต่ที่ NFIB ได้เริ่มทำการสำรวจในปี 2516

ทั้งนี้ ภาคธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 99% ของบริษัททั้งหมดในสหรัฐ นับเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจสหรัฐ และมีการจ้างงานราวครึ่งหนึ่งของแรงงานในประเทศ สำนักข่าวซินหัวรายงานemnb_1_370236.gif

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

In Focus: เกาะติดสถานการณ์จีน หลังผู้นำแดนมังกรส่งสัญญาณใช้แผนกระตุ้นศก.

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 12 กันยายน 2555 15:02:33 น.

นักลงทุนและนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่พากันจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนาย เหวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีน บนเวทีการประชุม "เวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรัม" ที่เมืองเทียนจิน ซึ่งแม้ว่านายเหวินได้แสดงความมั่นอกมั่นใจว่า เศรษฐกิจของจีนจะขยายตัวได้ตามเป้าหมายในปีนี้ที่ 7.5% แต่เขาก็ส่งสัญญาณต่อที่ประชุมว่า "รัฐบาลจีนอาจจะใช้เงินจากกองทุนรักษาเสถียรภาพทางการคลัง วงเงิน 1.00 แสนล้านหยวน หรือ 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ"emnb_1_370236.gif

การส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจของผู้นำจีนมีขึ้นหลังจากเศรษฐกิจจีนชะลอตัว 6 ไตรมาสติดต่อกัน แม้ว่าจีนได้ใช้มาตรการนำร่องไปแล้วหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการลดอัตราดอกเบี้ย, การลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ และการปรับอัตราภาษี แต่ก็ยังไม่สามารรถยับยั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจได้ โดยเฉพาะภาคการผลิตของจีนที่ขยายตัวต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2552

นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวของนายเหวินยังมีขึ้นหลังจากจีนอนุมัติแผนการสร้างถนนซึ่งมีความยาว 2,018 กิโลเมตร (1,254 ไมล์) และยังได้อนุมัติโครงการทางเดินรถไฟในชนบท 25 โครงการ ซึ่งอาจมีมูลค่ากว่า 8 แสนล้านหยวน (1.2698 แสนล้านดอลลาร์) โดยมีเป้าหมายที่จะฟื้นฟูการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

 

ด้านประธานาธิบดี หู จิ่นเทา ของจีน ได้กล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า จีนจะสนับสนุนโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานเพื่อผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมกับกล่าวว่า จีนมีจุดยืนที่ชัดเจนว่าการก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภคถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยผลักดันเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างยั่งยืน ขณะเดียวกันจีนจะมุ่งเน้นในเรื่องการผลักดันเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ ควบคู่ไปกับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ, ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น และดำเนินการปฏิรูปอย่างสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจของประเทศในปี้

 

นายซู ฉางเลอ ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ระดับภูมิภาคจากมหาวิทยาลัยอีสท์ ไชน่า นอร์มอลกล่าวว่า ความเคลื่อนไหวในครั้งนี้ถือเป็นความพยายามล่าสุดของรัฐบาลเพื่อสร้างเสถียรภาพของการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ในขณะที่ความต้องการภายนอกยังคงอ่อนแอ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐประสบภาวะหดตัวมากขึ้นและยุโรปกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย

 

ด้านนักลงทุนมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นว่า รัฐบาลจีนจะไม่ยอมให้เศรษฐกิจย่ำแย่ไปมากกว่าที่ผ่านมา หลังข้อมูลเศรษฐกิจต่างๆบ่งชี้ถึงความอ่อนแอของภาคการผลิตและส่งออก ซึ่งกระแสคาดการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเดือนในระยะนี้ ขานรับข่าวที่ว่า รัฐบาลจีนจะดำเนินการเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจหลังจากที่ข้อมูลการค้าต่ำกว่าการคาดการณ์ ในขณะที่อัตราการขยายตัวของผลผลิตภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี

 

** เศรษฐกิจจีนดิ่งลึก

 

ข้อมูลเศรษฐกิจเดือนสิงหาคมบ่งชี้ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจีนเพิ่มขึ้น 8.9% ในเดือนสิงหาคมเมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะที่อัตราการขยายตัวของการลงทุนในทรัพย์สินถาวรในช่วง 8 เดือนแรกของปีลดลง 20.2% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าการคาดการณ์

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ดัชนีราคาผู้ผลิตของจีนยังคงปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกันโดยลดลง 3.5% ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 2% ในเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน ส่วนยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 13.2% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนดังกล่าว ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่

 

** นักวิเคราะห์คาดจีนใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ-ผ่อนคลายนโยบายการเงิน

 

บาร์เคลย์ส อินเวสต์เมนท์ แบงก์ ซึ่งเป็นหนึ่งในวาณิชธนกิจรายใหญ่ของโลก ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของจีนในปี 2555 ลงมาอยู่ที่ระดับ 7.9% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวได้ดีถึง 8.1%

อย่างไรก็ตาม บาร์เคลย์สคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะยังคงฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ พร้อมกับคาดว่ารัฐบาลจีนจะใช้มาตรการเพิ่มเติมในไตรมาส 3 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจะสามารถเติบโตได้ในอัตรา 8% ในปี 2555

"เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ที่ขยายตัวได้ 7.6% แล้ว เราเชื่อว่า จีดีพีไตรมาส 3 และ 4 ของจีนจะขยายตัวราว 7.7% และ 8.1% ตามลำดับ" นายหวง หยิงปิง หัวหน้านักวิเคราะห์ด้านตลาดเกิดใหม่ในเอเชียของบาร์เคลย์ส แคปิตอลกล่าว

บาร์เคลย์ส คาดว่าจีนจะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินในช่วงหลายเดือนข้างหน้านี้ เมื่อพิจารณาจากอุปสงค์และกิจกรรมทางเศรษฐกิจอ่อนแอลง ขณะที่ยอดการส่งออกและตัวเลขเงินเฟ้อก็ชะลอตัวลงด้วย นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อของจีนยังคงอยู่ในระดับที่สูงมาก

ทั้งนี้ บาร์เคลย์สคาดว่า ธนาคารกลางจีนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในไตรมาส 3 เพื่อกระตุ้นอุปสงค์ให้แข็งแกร่งขึ้น และคาดว่าธนาคารกลางจีนจะปรับลดเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลงอีก 2 ครั้งในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

 

กระแสคาดการณ์ที่ออกมาเป็นระลอก และการส่งสัญญาณจากผู้นำของรัฐบาลจีนเองนั้น ทำให้ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นต่างๆคึกคักเป็นอย่างมาก .. แต่ก็คงต้องเกาะติดสถานการณ์กันต่อไปว่า จีนจะทำให้สัญญาณดังกล่าวนั้น เป็นจริงมากเพียงไร

--อินโฟเควสท์ โดย เกตุ โนนทิง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ศาลเยอรมนีวินิจฉัยกองทุน ESM สอดคล้องตามรัฐธรรมนูญ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 12 กันยายน 2555 15:26:23 น.

ศาลรัฐธรรมนูญเยอรมนีอนุมัติการให้สัตยาบันรับรองกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ในวันนี้ ซึ่งจะเป็นการปูทางสำหรับ ESM และเครื่องมือกู้วิกฤตอื่นๆให้สามารถดำเนินการได้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลเยอรมนีมีความเชื่อมั่นว่า ศาลจะไม่มีคำวินิจฉัยที่จะเป็นการขัดขวางการจัดตั้งกองทุน ESM ตามแผนของยุโรป หลังจากที่การดำเนินงานของ ESM ล่าช้าไปจากแผนเดิมที่กำหนดไว้เมื่อเดือนก.ค.

โฆษกกระทรวงการคลังเยอรมนีกล่าวในการแถลงข่าวถึงความเชื่อมั่นเกี่ยวกับคำตัดสินที่จะมีขึ้นในวันนี้ โดยเชื่อว่า ESM จะสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญของประเทศ

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโจคิม กอคของเยอรมนีระบุว่าจะไม่ลงนามรับรองกฎหมายว่าด้วย ESM และสนธิสัญญาการคลัง จนกว่าจะมีคำตัดสินของศาล

ESM เป็นกองทุนช่วยเหลือถาวรของสหภาพยุโรปและมีวงเงิน 5 แสนล้านยูโร ซึ่งจะดำเนินการต่อจากกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) นั้น แต่เดิมมีแผนที่จะเริ่มดำเนินการในวันที่ 1 ก.ค.emnb_1_370236.gif

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณมากๆค่ะคุณ ginger ข่าวล่ามาเร็ว^____^

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณมากๆค่ะคุณ ginger ข่าวล่ามาเร็ว^____^

^_______^

 

 

ฝรั่งเศสเผยยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดลดลงในเดือนก.ค.

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 12 กันยายน 2555 15:37:08 น.

ธนาคารกลางฝรั่งเศสเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของฝรั่งเศสในเดือนก.ค.ปรับตัวลงเหลือ 2.5 พันล้านยูโร จาก 4.8 พันล้านยูโรในเดือนมิ.ย.

ข้อมูลระบุว่า ยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดที่ลดลงเป็นผลมาจากตัวเลขขาดดุลการค้าที่ต่ำลงแตะ 4.6 พันล้านยูโรในเดือนก.ค. จาก 6.1 พันล้านยูโรในเดือนก่อนหน้า และยอดเกินดุลภาคบริการที่เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.1 พันล้านยูโร จากระดับ 1.5 พันล้านยูโรในเดือนมิ.ย. ขณะที่รายได้ก็ขยายตัวขึ้นจาก 2.6 พันล้านยูโรในเดือนมิ.ย. มาอยู่ที่ 2.9 พันล้านยูโรในเดือนก.ค.

 

emnb_1_370236.gif

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...