มือใหม่หัดวิเคราะห์

[bmw2770 479]

สวัสดีมือใหม่หัดวิฯทุกท่านฯ ปิดแท่งเมื่อวานนี้ ยังเขียวอยู่ครับ

ถือ ยาววว ยาว ต่อไปตามสูตร ครับเจ้านายยย

ถูกแก้ไข มกราคม 29, 2013 โดย bmw2770

[ginger 11,058]

MTS night

 

[ginger 11,058]

 

ใจแจ่มใส ชื่นบาน ให้เป้นนิสัย สวัสดีวันใหม่อย่างเป็นสุข

ลงทุนรักษาใจ อย่าให้ตลาดกำหนดชีวิตเรา

การลงทุนเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์

เป็นเหรียญสองด้านเสมอ ไม่ขึ้นก็ลง

ที่เฉไฉไม่ไปไหน side way up - side way down

ที่ยังไม่เลือกว่าจะไปทางก็รอให้ชัดก่อน

อื่นๆอีกมาก เราต้องเข้าใจ และไม่ให้อารมณ์ไปขึ้นกับการเคลื่อนไหวของตลาด

 

ลงทุนให้เหมาะสมกับความสามารถของตัวเอง

ขึ้น-ลงหรือ บาทบาด ก็เรียนรู้ การจัดการในสภาวะเงื่อนไขต่างๆ

คำว่าเหมาะสม ของแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 29 มกราคม 2556 07:44:07 น.

ตลาดหุ้นยุโรปปิดผันผวนเมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วัน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลจากรายงานยอดการทำสัญญาขายบ้านเดือนธ.ค.ของสหรัฐลดลงสวนทางกับการคาดการณ์ อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายโดยรวมได้รับแรงหนุนจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่ายอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐและผลกำไรของภาคอุตสาหกรรมของจีนขยายตัวได้ดีเกินคาด

ดัชนี Stoxx 600 ปรับตัวลง 0.1% ปิดที่ 289.36 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3780.89 จุด บวก 2.73 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 7833 จุด ลบ 24.97 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6294.41 จุด บวก 9.96 จุด

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดการทำสัญญาขายบ้านเดือนธ.ค.ลดลงสวนทางกับการคาดการณ์ ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดที่อาศัยของสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แรงหนุนจากความคาดหวังที่ว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะฟื้นตัวขึ้น หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนและจีนเปิดเผยผลกำไรของภาคอุตสาหกรรมที่ดีเกินคาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 14.05 จุด หรือ 0.10% ปิดที่ 13,881.93 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 2.78 จุด หรือ 0.18% ปิดที่ 1,500.18 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 4.59 จุด หรือ 0.15% ปิดที่ 3,154.30 จุด

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น รวมทั้งความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 3.7 ดอลลาร์ หรือ 0.22% ปิดที่ 1,652.9 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1651.00 1661.60 ดอลลาร์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 42.6 เซนต์ ปิดที่ 30.78 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 0.95 เซนต์ ปิดที่ 3.6615 ดอลลาร์/ปอนด์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1662.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 32.70 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. 740.55 ดอลลาร์/ออนซ์ ดลง 45 เซนต์

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนและจีนเปิดเผยผลกำไรของภาคอุตสาหกรรมที่ดีเกินคาด ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดหวังว่าเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้นจะช่วยหนุนความต้องการพลังงานให้ปรับฐานขึ้นด้วย

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 56 เซนต์ ปิดที่ 96.44 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ ปิดที่ 113.48 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดการทำสัญญาขายบ้านเดือนธ.ค.ลดลงสวนทางกับการคาดการณ์ ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดที่อาศัยของสหรัฐ

ทั้งนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงแตะระดับ 90.84 เยน จากวันศุกร์ที่ระดับ

ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.5694 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5800 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.0417 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0423 ดอลลาร์สหรัฐ

-- ดัชนี FTSE ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวก (28 ม.ค.) เนื่องจากภาวะการซื้อขายได้รับแรงหนุนจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่ายอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐและผลกำไรของภาคอุตสาหกรรมของจีนขยายตัวได้ดีเกินคาด

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 9.96 จุด หรือ 0.2% ปิดที่ 6,294.41 จุด หลังแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 4 ปีที่ 6,311.26 จุด

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: เงินดอลล์แข็งค่า ฉุดทองคำปิดลบ $3.7

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 29 มกราคม 2556 06:59:09 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น รวมทั้งความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 3.7 ดอลลาร์ หรือ 0.22% ปิดที่ 1,652.9 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1651.00 1661.60 ดอลลาร์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 42.6 เซนต์ ปิดที่ 30.78 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 0.95 เซนต์ ปิดที่ 3.6615 ดอลลาร์/ปอนด์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1662.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 32.70 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. 740.55 ดอลลาร์/ออนซ์ ดลง 45 เซนต์

สัญญาทองคำร่วงลงหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินสกุลดอลลาร์ในตระกร้าเงินเมื่อเทียบกับสกุลอื่นๆ พุ่งขึ้นแตะ 79.814 จุดเมื่อวานนี้ จากระดับของวันศุกร์ที่ 79.762 จุด

นักลงทุนจับตาดูการประชุมเฟดซึ่งจะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยมีการคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบใหม่

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่/เยนร่วง หลังจากยอดทำสัญญาขายบ้านสหรัฐร่วง

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 29 มกราคม 2556 07:35:21 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดการทำสัญญาขายบ้านเดือนธ.ค.ลดลงสวนทางกับการคาดการณ์ ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดที่อาศัยของสหรัฐ

ทั้งนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงแตะระดับ 90.84 เยน จากวันศุกร์ที่ระดับ

ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.5694 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5800 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.0417 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0423 ดอลลาร์สหรัฐ

สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยว่า ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว แสดงให้เห็นว่าการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยยังไม่คงเส้นคงวานัก

ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายประจำเดือนธ.ค. ลดลง 4.3% สู่ระดับ 101.7 หลังจากที่เพิ่มขึ้น 1.6% ในเดือนพ.ย.

แม้ว่าเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันแล้วที่ดัชนีอยู่เหนือระดับ 100 แต่ดัชนีเดือนธ.ค.อยู่ต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากระดับ 106.3 ในเดือนพ.ย.

นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีขึ้นในในสัปดาห์นี้ โดยมีการคาดการณ์ว่าเฟดจะตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำเป็นพิเศษและยังคงใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งแรกของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 4/2554 ในวันพุธนี้เวลา 20.30 น. ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจีดีพีสหรัฐจะขยายตัว 1.2% ในไตรมาส 4/2555 เมื่อเทียบกับการขยายตัว 3.1% ในไตรมาส 3/2554

ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือนม.ค.ในวันศุกร์นี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 155,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 155,000 ตำแหน่งเช่นกันในเดือนธ.ค. และอัตราการว่างงานจะอยู่ที่ 7.8% ในเดือนม.ค. ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนธ.ค.

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดบวก 56 เซนต์หลังยอดซื้อสินค้าคงทนสหรัฐพุ่ง

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 29 มกราคม 2556 07:22:34 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนและจีนเปิดเผยผลกำไรของภาคอุตสาหกรรมที่ดีเกินคาด ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดหวังว่าเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้นจะช่วยหนุนความต้องการพลังงานให้ปรับฐานขึ้นด้วย

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 56 เซนต์ ปิดที่ 96.44 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ ปิดที่ 113.48 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนอยู่ที่ระดับ 2.3074 แสนล้านดอลลาร์ พุ่งขึ้น 4.6% ในเดือนธ.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นราว 2% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนพ.ย.

ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนรายงานว่า บริษัทอุตสาหกรรมที่มีรายได้ต่อปีเกิน 20 ล้านหยวน (3.17 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) มีกำไรรวมกัน 5.56 ล้านล้านหยวนในปี 2555 หรือเพิ่มขึ้นเพียง 5.3% ขณะที่ปี 2554 มีกำไรเพิ่มขึ้นถึง 25.4%

นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีขึ้นในในสัปดาห์นี้ โดยมีการคาดการณ์ว่าเฟดจะตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำเป็นพิเศษและยังคงใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งแรกของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 4/2554 ในวันพุธนี้เวลา 20.30 น. ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจีดีพีสหรัฐจะขยายตัว 1.2% ในไตรมาส 4/2555 เมื่อเทียบกับการขยายตัว 3.1% ในไตรมาส 3/2554

ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือนม.ค.ในวันศุกร์นี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 155,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 155,000 ตำแหน่งเช่นกันในเดือนธ.ค. และอัตราการว่างงานจะอยู่ที่ 7.8% ในเดือนม.ค. ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนธ.ค.

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

[ginger 11,058]

พยากรณ์อากาศประจำวันที่ 29 มกราคม 2556

ข่าวทั่วไป กรมอุตุนิยมวิทยา -- อังคารที่ 29 มกราคม 2556 07:02:51 น.

พยากรณ์อากาศประจำวัน

ประจำวันที่ 29 มกราคม 2556

ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. คลื่นกระแสลมตะวันตกจากประเทศพม่าจะเคลื่อนเข้ามาปกคลุมบริเวณภาคเหนือ และด้านตะวันตกของภาคกลางในคืนวันนี้(29 ม.ค.) ลักษณะเช่นนี้ทำให้ในช่วงวันที่ 29-31 มกราคม 2556 บริเวณภาคเหนือ และภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จะมีพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรง โดยบริเวณอาจมีฝนตกหนักและลูกเห็บตกได้บางแห่ง ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากสภาวะอากาศดังกล่าวในระยะนี้

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังปานกลาง ทำให้อ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในระยะ 1-2 วันนี้ไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำปาง สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์

ตอนบนของภาคอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียส

ส่วนทางตอนล่างอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส

สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-12 องศาเซลเซียส

ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่

ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู ชัยภูมิ ขอนแก่น อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี

อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส

สำหรับบริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-16 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่

ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา

อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก ตอนบนของภาคมีอากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง

อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส

สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร

อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส

อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา:

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป :

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค

อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74

[ginger 11,058]

HSH

 

[ginger 11,058]

เด็ดเศรษฐกิจ

 

[ginger 11,058]

YLG

 

[baskie30 6,060]

สวัสดีครับเพื่อนๆทุกท่าน เมื่อประมาณตี2ราชบุรีฝนตก อากาศเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ทำให้น้องบีมมีน้ำมูกไหลในตอนเช้า และก่อนจะมาทำงานก็เริ่มจะมีไข้เล็กน้อย แต่ก็หยอดน้ำเกลือและให้ทานยาลดไข้ไปแล้ว ถ้ากลับไปเที่ยงไข้ไม่ลดก็คงต้องไปหาหมอแล้วครับ

เอาหละมาว่ากันเรื่องกราฟต่อ จากกราฟราย4ชมจะเห็นว่าเซฟมาเป็นสีขาวดำอีกแล้วแก้ไงก็ไม่หาย แล้วแต่อารมคอม แต่ก็ยังพอดูรู้เรื่องราคา ลงมา1652 จุดแรกตามคาดและตอนนี้เหมือนจะหลุดเทรนลงนิดๆ ฟิชเชอร์บีบีก็หุบแล้วจากที่บอกไว้เมื่อวานว่าน่าจะหุบก็หุบจริงลงต่อจริงและที่สำคัญราย4rsiเหมือนจะไดเวอร์จิ้น ส่วนราย1ชมไม่ต้องพูดถึงmacd&rsiไดเวอร์จิ้นต่อเนื่อง ยังไงก็รีบาวบ้างหละหน่า วันนี้ใครที่เก็บของจุดแรกแล้วคงเริ่มมองหาจุดปิดแล้ว สำหรับgs&gf จุดแรกที่แนะนำน่าจะแถวๆแนวต้านเนคไลน์แถว1700 ตรงนั้นมีเทรนลงใหญ่รายวันอยุ่ด้วยตรงนี้แข็งแน่ๆ ระยะสั้นอาจปิดทำกำไรก่อนแล้วรอดูว่าผ่านไม่ผ่านถ้าผ่านก็buyใหม่ แต่ถ้าไม่ผ่านก็รอย่อค่อยเก็บใหม่ ส่วนทองแท่งก็ถือลุ้นต่อไปเพราะบาทแข็งอาจทำให้ตรง1700ทำกำไรไม่ได้มากนัก แต่ถ้าผ่านตรงนี้ไปได้เห็นเป้าหมายของแพทเทิ้ลrh&S แถวๆ1767เลยทีเดียว วันนี้ถ้าย่ออีกก็คงแถวๆ1642 สำหรับแท่งราคาคงไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่กับตรง1652เต็มที่ก็100บาท ส่วนgs&gfหากคำนวณแล้วว่าพอไหวก็เก็บเพิ่มได้ cutloss1630เหมือนเดิมแล้วรอไปเก็บเพิ่มที่1600-1589

ปล.วันนี้ต้องปั่นงานอีกแล้วน้องบีมไม่สบายหากตอนบ่ายไม่ได้เข้ามาแปลว่าพาน้องบีมไปหาหมอนะครับ

ปล2.เอารูปน้องบีมมาอัพ

รูปนี้ขี่คอเล่นสูงๆ (หัวปะป๊ายุ่งหมดแล้ว555)

รูปนี้แข่งกันactionกะมามี๊ (ดูนางให้ดูแม่5555)

ปล3.ขอให้เพื่อนๆโชคดีทุกท่านนะครับ

ปล4.พรุ่งนี้ผมไปประชุมอาจไม่ได้เข้ามานะครับ ยังไงกราฟวันนนี้ก็เป็นระยะยาวดูเป็นแนวทางได้

[ginger 11,058]

GCAP

 

http://youtu.be/kOxeuTAdsUY

[ginger 11,058]

ชอบสิ สนุกออกเนอะ ขอบใจนะ

 

หน้าแฉล้ม ตาหวาน ละลายหัวใจ ทั้งสองคน หุ หุ

หายไข้นะจะได้ซนได้

ถูกแก้ไข มกราคม 29, 2013 โดย ginger

[ginger 11,058]

Morning Talk

 

[ginger 11,058]

สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันอังคารที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2556 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- อังคารที่ 29 มกราคม 2556 10:02:20 น.

กรุงเทพฯ--29 ม.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์

ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,660 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,657 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 29.94 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 23,550 บาท กับ 23,650 บาท และกลับมาปิดที่ 23,550 บาท กับ 23,650 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 4,949 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 10,724 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 52 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 2% แบบ 10 บาท ลดลง 1% และ Silver Futures ลดลง 13% GFG13 ปิด 23,690 บาท และ GFJ13 ปิด 23,850บาท GF10G13 ปิดที่ 23,690 บาท GF10J13 ปิดที่ 23,840 บาทSVG12 ปิดที่ 937 บาท

สัญญา Comex ปิดลดลง 3.7 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,652.9 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 42.6 เซ็นต์ ที่ระดับ 30.78 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,328.09 ตัน (ขายออก 1.81 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 56 เซ็นต์/บาร์เรลปิดที่ระดับ 96.44 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ลดลง 14.05 จุด ปิดที่13,881.93 จุด

ข่าวที่สำคัญ

Kitco, Reuters, Infoquest, MarketWatch, Mining Weekly,

ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน หรือ Durable Goods Orders อยู่ที่ระดับ 2.3074 แสนล้านดอลลาร์ พุ่งขึ้น 4.6% ในเดือนธ.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นราว 2% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนพ.ย.

หากไม่รวมยอดสั่งซื้อสินค้าภาคการขนส่งที่มีความผันผวน หรือ Core Durable Goods Orders ปรากฏว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเพิ่มขึ้น 1.3% ในเดือนที่แล้ว

สองปัจจัยดังกล่าวเป็นสาเหตุให้ราคาทองคำเมื่อคืนนี้ลงไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,651 เหรียญ เนื่องจากตลาดมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มพลิกฟื้นขึ้นมาได้

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวสูงขึ้นเหนือระดับ 2% เมื่อวานนี้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2012 เช่นเดียวกับราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบสี่เดือน ภายหลังการประกาศตัวเลข Durable Goods Orders

นายจอร์จ เจโร จาก RBC Wealth Management ระบุว่า มีแรงเทขายเข้ามาในตลาดทองคำเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นวันหมดอายุในสัญญาออพชั่นของทองคำ

อย่างไรก็ตามหลังจากประกาศตัวเลข Pending Home Sales ออกมาแย่กว่าที่คาดลดลงถึง 4.3% ส่งผลให้ราคาทองคำฟื้นตัวกลับขึ้นไปบริเวณ 1,660 เหรียญเช่นเดิม เนื่องจากแสดงให้เห็นว่าการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยยังไม่คงเส้นคงวานัก

นักลงทุนจับตาการประชุมเฟดที่จะเกิดขึ้นในวันนี้เป็นวันแรก และจะมีการแถลงผลการประชุมในคืนพรุ่งนี้เวลาประมาณตีสองสิบห้านาทีตามเวลาประเทศไทย

เฟดประกาศเมื่อวานนี้ว่า จะมีการทดสอบภาวะวิกฤตสถาบันการเงินขนาดใหญ่ 30 แห่ง โดยจะแถลงผลการทดสอบของธนาคาร 19 แห่งในวันที่ 7 มีนาคม และจะประกาศอีก 11 แห่งในอีก 1 สัปดาห์ให้หลัง

ฟิทช์ เรทติ้งส์ เผยข้อตกลงขยายเพดานหนี้ชั่วคราวของสหรัฐจะช่วยให้สหรัฐไม่ต้องถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ AAA ในระยะใกล้นี้

ประธานาธิบดี บารัค โอบามา พิจารณาที่จะดำเนินการเพื่อประโยชน์สูงสุดในการจัดการด้านกฎหมายเพื่อเติมเต็มส่วนที่หายไป แต่นักกฎหมายของเขาคาดการณ์ว่าน่าจะมีการดำเนินการทางศาลอย่างน้อยที่สุดสองครั้ง หรือมากกว่านั้นเพื่อหารือกันถึงอำนาจของเขาในการแต่งตั้ง เมื่อวุฒิสภาสหรัฐไม่ได้มีการประชุมใดๆ ซึ่งคาดว่าโอบามาจะเลื่อนนัดการประชุมกับทางสหภาพแรงงานระหว่างประเทศ (NLRB) ออกไปจนถึงเดือนมีนาคม

ประธานสมาคมอัญมณีและเครื่องประดับของอินเดียกล่าวเมื่อวานนี้ว่า ในช่วงเดือนมกราคมเป็นไปได้ว่าอินเดียอาจมีการนำเข้าทองคำเพิ่มขึ้น 33% เนื่องจากเทรดเดอร์รีบเร่งเข้ากักตุนทองคำในช่วงก่อนที่รัฐบาลจะมีการเพิ่มภาษีนำเข้าเพื่อลดยอดขาดดุลในวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา

ข้อมูลจากไอเอ็มเอฟระบุว่า ธนาคารกลางรัสเซียและคาซัคสถานเพิ่มการสำรองทองคำในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยรัสเซียเพิ่ม 2.1% สู่ระดับ 957.8 ตัน และรัสเซียเพิ่ม 1.7% สู่ระดับ 115.3 ตัน

เหมืองทองลูน่า โกลด์ของบราซิลคาดว่าจะมีการผลิตทองคำออกมาประมาณ 100,000 ออนซ์ในปี 2013 นี้ และคาดว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตให้ได้ราว 125,000 ออนซ์ในไตรมาสที่ 4

ในขณะที่ธนาคารเพื่อการลงทุนต่างๆ ลดการคาดการณ์เป้าหมายราคาทองคำลงในปีนี้ แบงค์ออฟอเมริกา เมอร์ริล ลินช์ยังคงมองทองคำเป้าหมายในระยะ 6 เดือนที่ระดับ 2,000 เหรียญ/ออนซ์ เนื่องจากมองว่าเฟดจะไม่เพิ่มอัตราดอกเบี้ยในระยะอันใกล้นี้

ทั้งนี้ แบงค์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ ระบุในรายงานว่า หากราคาลงไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิมบริเวณ 1,626 เหรียญ อาจส่งผลให้เกิดแรงเทขายอย่างหนักเข้ามาในตลาดทองคำ เป็นไปได้ว่าราคาอาจปรับตัวลงไปถึง 100 เหรียญ ซึ่งจะมีแนวรับสำคัญในระยะยาวบริเวณ 1,525 — 1,530 เหรียญเมื่อดูจากกราฟรายเดือน ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะลงมาทดสอบบริเวณดังกล่าวในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ แต่นั่นจะเป็นระดับสำคัญที่จะสนับสนุนแนวโน้มระยะยาวในทิศทางขาขึ้นเนื่องจากมองว่าราคาจะปรับตัวลงก่อน และจะมีแรงเข้าซื้อ

ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน

- Core Durable Goods Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 1.2% ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้นเป็น 1.3%

- Durable Goods Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 0.8% ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้นเป็น 4.6%

- Pending Home Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 1.6% ตัวเลขจริงออกมาลดลงเป็น -4.3%

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้

- S&P/CS Composite-20 HPI y/y ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 4.3% คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 5.5%

- CB Consumer Confidence ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 65.1 คาดการณ์ว่าจะลดลงเป็น 64.8

วิเคราะห์ทางเทคนิค

Gold — ราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในทิศทางปรับตัวลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อข่าวตัวเลขเศรษฐกิจ Core Durable Goods Orders และ Durable Goods Orders ออกมาดีกว่าที่คาดอย่างมาก ทำให้มีแรงเทขายในตลาดทองคำลงไปทำจุดต่ำสุดในตลาด COMEX ประมาณ 1,652 เหรียญโดยประมาณ และมีแรงซื้อกลับที่ทำให้ตลาดแกว่งจากการขาย Pending Home Sales ที่ออกมาแย่ลง อย่างไรก็ตามโดยภาพรวมของข่าวดูเหมือนเศรษฐกิจสหรัฐฯจะดีขึ้นบ้างเล็กน้อย ซึ่งเป็นตัวกดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลดลง ค่าเงินบาทเองเมื่อวานอ่อนค่าลงอย่างมากจนเริ่มขึ้นไปแตะระดับ 29.99 บาท/ดอลลาร์ในช่วงสาย ก่อนที่ในเช้าวันนี้จะปรับตัวแข็งค่าขึ้นกลับมาที่ 29.87 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นประมาณ 10 สตางค์ ในขณะที่ราคาทองคำยังทรงตัวบริเวณประมาณ 1,659 เหรียญ ทางเทคนิคยังมองทองคำเป็นทิศทางขาลง และมีโอกาสทดสอบแนวรับด้านล่างบริเวณ 1,640 เหรียญ ซึ่งจะเป็นแนวรับแรก ส่วนแนวต้านด้านบนจะอยู่ที่บริเวณ 1,670 เหรียญ คำแนะนำยังคงให้เร่งเก็งกำไรในทิศทางขาลง แต่คาดว่าวันนี้จะเคลื่อนตัวไปในกรอบแคบๆ ในทิศทาง Sideways

Gold Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,580 บาท และแนวต้านที่ระดับ 23,750 บาท

Gold Futures J13 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,740 บาท และแนวต้านที่ระดับ 23,92i0 บาท

Silver Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 920 บาท และแนวต้านที่ระดับ 960 บาท

คำแนะนำ

สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade)

เก็งกำไรในกรอบแคบๆ น่าจะแกว่งตัวในกรอบ 1,655 — 1,665 เหรียญ

นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade)

ยังเป็นลักษณะทำกำไรในระยะสั้นบ้าง ถือครอง Position ในลักษณะ Short Position ประมาณ 5 - 10%

นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง

ยังคงหาจังหวะในการทำ Short Position เท่านั้น คือ Short against Port

สรุปได้ว่า MTS Gold มองว่าราคาน่าจะเคลื่อนตัวในกรอบแคบๆ ในทิศทาง Sideways

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

[ginger 11,058]

ภาวะตลาดทองคำ Gold Futures by Classic Gold Futures

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- อังคารที่ 29 มกราคม 2556 10:00:30 น.

Bangkok--29 Jan--คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส

Price Movement

ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดที่ 1,652.90 USDต่อออนซ์ลดลง 3.70 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบระหว่าง 1,651.00 — 1,661.60 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำยังอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง และไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,662 ขึ้นไปได้ การแกว่งตัวเป็นลักษณะ side way ออกทางด้านข้าง รอผลการประชุม FOMC ซึ่งจะเริ่มในวันนี้ ส่วนการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐเมื่อคืน ยอดขายบ้านรอปิดการขายลดลงมากกว่าคาด แต่ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด ในขณะที่ค่าเงิน USD ค่อนข้างทรงตัวแม้ว่าธนาคารพาณิชย์ในยูโรโซนจะใช้หนี้ให้กับ ECB จำนวน 1.37 แสนล้านยูโร ซึ่งคาดว่าจะมีความต้องการเงินยูโรเพิ่มขึ้น ในช่วงเช้าวันนี้ราคาทองคำเคลื่อนไหวบริเวณ 1,658 USDต่อออนซ์ ราคา rebound ขึ้นหลังจากลงไป low บริเวณ 1,651 โดยแนวต้านบริเวณเส้น MA 200 วันบริเวณ 1,662 ยังไม่สามารถผ่านไปได้ ทำให้การ rebound ขึ้นทำได้อย่างจำกัด คาดว่าวันนี้มีแนวรับบริเวณ 1,650/1,645แนวต้านบริเวณ 1,662/1,670 แนะนำ เปิด Short เมื่อราคา rebound ขึ้นสู่แนวต้านแล้วไม่ผ่าน ถ้าถือ Short อยู่ปิดทำกำไรเมื่อราคาอ่อนตัวลงบริเวณแนวรับ 1,650 หรือ Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน

Spot Gold

Technical Analysis

ภาพกราฟราย 4 ช.ม. การ rebound ขึ้นเป็นไปอย่างจำกัดและยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณเส้น MA 200 วันบริเวณ 1,662 ไปได้ ทำให้ภาพยังเป็นแนวโน้มขาลง โดยในระยะสั้นแกว่งตัว side way ออกทางด้านข้าง คาดว่าวันนี้มีแนวรับบริเวณ 1,650/1,645แนวต้านบริเวณ 1,662/1,670 แนะนำ เปิด Short เมื่อราคา rebound ขึ้นสู่แนวต้านแล้วไม่ผ่าน ถ้าถือ Short อยู่ปิดทำกำไรเมื่อราคาอ่อนตัวลงบริเวณแนวรับ 1,650 หรือ Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน

Key Point in Precious Market

- ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคำ ค่าเงิน USD ทรงตัว (+/- ) ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น ( + ) การขยายเพดานหนี้ชั่วคราวของสหรัฐอีก 3 เดือน ( - ) เงินบาทแข๊งค่าขึ้น (- ) การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจประเทศต่างๆออกมาดี ทำให้นักลงทุนหันไปลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น ถือสินทรัพย์ปลอดภัยลดลง ( - ) กองทุน SPDR ขายทองออกต่อเนื่อง ( - )

- ประเด็นที่ต้องติดตาม ประชุมเฟด 29 — 30 ม.ค. การใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน IMF จะเข้าตรวจสอบสเปนและ ESM จะให้เงินช่วยเหลือรอบที่ 2 28 ม.ค.

- การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ วันอังคาร ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในเขต 20 เมืองใหญ่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ม.ค. วันพุธ ตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศ GDP ไตรมาส 4/2012 (ประมาณการครั้งแรก), ยอดสต๊อคน้ำมัน รายสัปดาห์, FOMC ประกาศมติการประชุม และประกาศอัตราดอกเบี้ยนโยบาย วันพฤหัสบดี จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน รายสัปดาห์, ต้นทุนการจ้างงาน ไตรมาส 4/2012, รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล เดือน ธ.ค., ดัชนีมุมมองต่อการทำธุรกิจของฝ่ายจัดซื้อ(ชิคาโก) เดือน ม.ค. วันศุกร์ ยอดการจ้างงานนอกภาคการเกษตร เดือน ม.ค., อัตราการว่างงาน เดือน ม.ค., ดัชนีมุมมองต่อการทำธุรกิจของฝ่ายจัดซื้อในภาคธุรกิจ เดือน ม.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ตัวเลขคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ ดัชนีมุมมองต่อการทำธุรกิจของฝ่ายจัดซื้อในภาคธุรกิจ ค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้าง

- SPDR ขายทอง 1.81 ตัน ถือทองจำนวน 1,328.09 ตัน

Spot Silver

ราคาโลหะเงินปิดที่ 30.78 USDต่อออนซ์ลดลง 0.43 USDต่อออนซ์ มีความเคลื่อนไหวระหว่าง 30.75 — 31.32 USDต่อออนซ์ ภาพกราฟทางเทคนิค ราคาปรับลดลงต่อเนื่องและหลุดแนวรับบริเวณ 31.0 ลงมา มีแนวรับถัดไปบริเวณ 30.7/30.3 โดย ishares silver trust ขาย 25.57 ตัน ถือโลหะเงินจำนวน 10,443.19ตัน คาดว่าวันนี้มีแนวต้านบริเวณ 31.0/31.3 แนะนำ เปิด Short เมื่อราคา rebound ขึ้นสู่แนวต้านแล้วไม่ผ่าน

[ginger 11,058]

สรุปภาวะ Precious Metals Futures By GT Wealth Management 29 ม.ค. 56 (ภาคเช้า)

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- อังคารที่ 29 มกราคม 2556 10:03:11 น.

กรุงเทพฯ--29 ม.ค.--GT Wealth Management

ราคาทองคำปรับลดลง US$4.15 มาปิดที่ระดับ US$1,654.34 (Gold Spot) ราคาทองคำปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ก่อนการประชุม FOMC ที่จะเริ่มต้นวันแรกในวันนี้และจะเสร็จสิ้นพร้อมผลการประชุมในวันพรุ่งนี้ ตลาดจับตาผลการประชุมและมุมมองของ FED ต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขณะที่ยุโรปเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังธนาคารหลายแห่งจะชำระเงินกู้ฉุกเฉินคืนแก่ ECB การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาดี โดยยอดซื้อสินค้าคงทนสหรัฐฯพุ่งขึ้นเกินคาด แต่ตัวเลขยอดขายบ้านรอปิดการขายออกมาน่าเป็นห่วงโดยปรับลด 4.3% ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงที่ระดับ 29.94 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐฯ SPDR รายงานการถือครองทองคำที่ระดับ 1,328.09 ตัน ลดลง 1.81 ตัน

ราคาทองคำโลก (Gold Spot) เคลื่อนไหวใกล้ระดับ US$1,660 โกลด์ฟิวเจอร์สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนกุมภาพันธ์ 2556 (GFG13) ราคาเปิดเช้านี้ที่ 23,650 บาท ส่วนราคาทองคำที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำวันนี้ ราคาเสนอซื้อ 23,450 บาท ราคาเสนอขาย 23,550 บาท ลดลง 50 บาท

แนวโน้มทองคำ นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัด กล่าวว่า ช่วงต้นสัปดาห์นี้ติดตามการประชุม FOMC และคำปราศรัยของประธาน FED ต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ อีกทั้งวันพรุ่งนี้จะมีการประกาศตัวเลขการคาดการณ์ GDP สหรัฐฯ ขณะที่ท้ายสัปดาห์ตามติดการประกาศตัวเลขการจ้างงานและอัตราว่างงานสหรัฐฯ มุมมองของตลาดในช่วงนี้ยังมองทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นเดียวกับพันธบัตรสหรัฐฯ ซึ่งราคาได้รับแรงกดดันจากการประกาศตัวเลขหรือข่าวการฟิ้นตัวของเศรษฐกิจ

[ginger 11,058]

GET SET