ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ภาวะตลาดหุ้นไทย: ปิดลบ 0.65 จุด ตลาดปรับฐานช่วงสั้น พรุ่งนี้โอกาสฟื้นรับ Flow ไหลเข้า

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ 2556 17:15:42 น.

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,505.72 จุด ลดลง 0.65 จุด(-0.04%) มูลค่าการซื้อขาย 52,956 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนกรอบสลับบวกและลบ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,509.23 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,493.96 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 275 หลักทรัพย์ ลดลง 371 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 153 หลักทรัพย์emnb_18_21074.gif?1646864877

นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพบ์ บล.เคทีบี(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับฐานระยะสั้นทิศทางเดียวกับภูมิภาค หลังทำสถิติสูงสุดใหม่เมื่อวานนี้ ประกอบกับ มีปัจจัยที่กดดันตลาดจากวิกฤตหนี้ยูโรโซน ซึ่งส่งผลกระทบไปถึงตลาดหุ้นในสหรัฐฯด้วยเข้ามารบกวนการลงทุนเชิงจิตวิทยาในระยะสั้น

อย่างไรก็ตาม มองระยะยาวตลาดยังสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อจากแรงหนุนของ Fund Flow ที่ไหลเข้ามาต่อเนื่อง และยังมีหุ้นบางตัวที่ราคาปรับตัวขึ้นช้ากว่าตลาดรวม ปัจจัยเหล่านี้จะสามารถทำให้ดัชนีปรับตัวขึ้นได้อีก

แนวโน้มวันพรุ่งนี้โอกาสฟื้นตัวขึ้น ถ้าหุ้นสหรัฐฯคืนนี้ไม่มีประเด็นด้านจิตวิทยาการลงทุน ซึ่งมาจากวิกฤตหนี้ยูโรโซนรบกวนเพิ่มเติม โดยประเด็นที่ต้องติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) 20 ก.พ.56 ตลาดคาดว่ามีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างน้อย 0.25% พร้อมให้แนวต้าน 1,512 จุด แนวรับ 1,500 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,708.60 ล้านบาท ปิดที่ 367.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท

CK มูลค่าการซื้อขาย 2,265.56 ล้านบาท ปิดที่ 22.30 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,733.97 ล้านบาท ปิดที่ 204.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

BJC มูลค่าการซื้อขาย 1,548.54 ล้านบาท ปิดที่ 86.75 บาท ลดลง 1.25 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,538.20 ล้านบาท ปิดที่ 169.50 บาท ลดลง 1.50 บาท

อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้น หลังยูโรแข็งค่าขานรับข้อมูลศก.ยูโรโซน

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ 2556 20:42:41 น.

ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้น หลังจากยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์ ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจยูโรโซนที่สดใส

ณ เวลาประมาณ 20.30 น.ตามเวลาประเทศไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปรับตัวขึ้น 1.0 ดอลลาร์ หรือ 0.05% แตะที่ 1,677.40 ดอลลาร์/ออนซ์

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ราคาทองปรับตัวตามการเคลื่อนไหวของยูโร/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการซิ้อขาย

ราคาทองได้รับปัจจัยบวกหลังจากที่ผลสำรวจของมาร์กิตเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซนในเดือนม.ค.ปรับขึ้นแตะ 48.6 จาก 47.2 ในเดือนธ.ค.2555

ดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงอยู่ในภาวะหดตัว แต่ดัชนี PMI เดือนม.ค.ของยูโรโซนหดตัวในอัตราที่ชะลอลง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มในทิศทางที่ดีขึ้นemnb_18_18900.gif?1434500560emnb_1_370236.gif

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th-

 

ยูโรแข็งค่าขานรับข้อมูลเศรษฐกิจยูโรโซนสดใส

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ 2556 19:54:07 น.

เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเทียบเงินสกุลหลักอื่นๆ ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจแข็งแกร่งจากยูโรโซน ซึ่งได้ช่วยหนุนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อยูโร

ณ เวลา 19.16 น.ตามเวลาไทย ยูโรมีการซื้อขายที่ 1.3565 ดอลลาร์ และที่ 126.39 เยน ขณะที่ดอลลาร์ปรับตัวที่ 93.19 เยน

ยูโรได้รับแรงหนุนจากสัญญาณที่ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนมีแนวโน้มฟื้นตัวหลังจากเผชิญภาวะถดถอย โดยผลสำรวจของมาร์กิตเผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซนในเดือนม.ค.ปรับขึ้นแตะ 48.6 จาก 47.2 ในเดือนธ.ค.2555emnb_18_18900.gif?1709645122emnb_1_370236.gif

ดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงอยู่ในภาวะหดตัว แต่ดัชนี PMI เดือนม.ค.ของยูโรโซนหดตัวในอัตราที่ชะลอลง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มกระเติ้องขึ้น

นอกจากนี้ ผลสำรวจยังระบุว่า ดัชนี PMI ภาคบริการของเยอรมนีในเดือนม.ค.ปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับ 55.7 จาก 52.0 ในเดือนธ.ค.2555 โดยนับเป็นระดับสูงสุดนับแต่กลางปี 2554 ขณะที่ดัชนี PMI ภาคบริการของสเปนในเดือนม.ค.เพิ่มขึ้นแตะ 47.0 จาก 44.3 ในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งต่างก็เป็นปัจจัยบวกที่ช่วยให้เงินยูโรแข็งค่าขึ้น

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

ราคาน้ำมัน WTI ดีดขึ้น 52 เซนต์ หลังศก.ยูโรโซนส่งสัญญาณฟื้นตัว

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ 2556 19:04:42 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนมี.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ดีดตัวขึ้น 52 เซนต์ แตะที่ 96.69 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อเวลา 10.51 น.ตามเวลาลอนดอนในวันนี้ จากสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรป แม้ว่ามีการคาดการณ์กันว่าปริมาณสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะเพิ่มมากขึ้นemnb_18_18900.gif?1779195710emnb_1_370236.gif

ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนหลังจากผลสำรวจของมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของยูโรโซน เพิ่มขึ้นแตะ 48.6 ในเดือนม.ค. จาก 47.8 ในเดือนก่อนหน้า แม้ว่าดัชนีจะยังคงอยู่ในภาวะหดตัว แต่ก็เป็นการหดตัวในอัตราที่ชะลอลง ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดีของเศรษฐกิจในภูมิภาค

ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันของสหรัฐประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 ก.พ. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะลดลง 0.3%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับคุณ.. Ginger กระต่ายทอง bmw2770 baskie30 TraderJunior Gejen raty Pasaya Pa’ree พวงชมพู fung เด็กสยาม GoldOfCourse dep99 bbeam pps.aon Chez Moddang ปุยเมฆ ตังเม ย่าหยา Chinchilla Mr.Li Ohshikung แสงแดด put42 mateenee ลูกน้ำเค็ม เฟิร์ส Silver&Gold Goldbullish jojosung NOT4545 หัดเล่นgf firework SixMun ขุนศึกปทุม และทุกท่านครับ

กราฟรายวันตอนนี้เป็นเขียวแท่งสามครับ

:17 ล่าสุดราคาต่ำสุด 1666 ราคาสูงสุด1684

ราคาขณะนี้อยู่ที่ 1673.x ครับ

 

สัญญานหลักแบลคคิง ทิศทาง sideway up ครับ

RSI Price Line เส้นเขียว 50.35 วิ่งมา 49.90 ตอนนี้อยู่สูงกว่าเส้นแดงและสูงกว่าเส้นเหลืองครับ อยู่ต่ำกว่า50 ครับ

Trade Signal Line เส้นแดง 46.83 มา 48.18 ครับอยู่ต่ำกว่า 50 ครับ

Market base Line เส้นเหลือง 43.35 มา 43.89 ครับ

เส้นแดงเพิ่มครับ

 

 

สัญญานรองQQE ทิศทาง sideway

เส้นฟ้า 48.41 มา 48.82 อยู่ต่ำกว่าเส้นประเหลืองครับ

เส้นประเหลือง 51.11 มา 51.11 ครับอยู่สูงกว่าเส้นฟ้าครับ

ยังไม่ต่ำกว่าเส้นฟ้า ? ลักษณะกำลังกลับตัว ? ฟ้าเพิ่มเหลืองคงที่

(เส้นเหลืองถ้าคงที่นานๆ จะแสดง side way หรือกลับตัวและ

ถ้าทิศทางลงจะเด้งไปอยู่สูงกว่าเส้นฟ้าทันทีถ้าขึ้นจะลงมาต่ำกว่าเส้นฟ้าทันที)

แนวต้าน 1686 1696 1704 1717

แนวรับ 1666 1652 1645 1634

ภาพรวมๆจากสัญญานราคา sideway up ครับ

 

 

ขอให้โชคดีครับ

:bye

post-1891-0-50953500-1360109571_thumb.gif

ถูกแก้ไข โดย news

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีมือใหม่หัดวิฯทุกท่านฯ ปิดแท่งเมื่อวานนี้ ยังเขียวอยู่ครับ

ถือ ยาวว ยาว ต่อไปตามสูตร ครับเจ้านายยย :Announce

post-1950-0-45244300-1360110521_thumb.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

522039_511925495526361_194658961_n.jpg

สวัสดี มือใหม่ พ่อแม่ พี่น้องทั้งลงทุนทุกท่าน เพื่อนๆ

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 6 กุมภาพันธ์ 2556 07:42:36 น.

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ก.พ.) โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบเกือบ 4 สัปดาห์ เพราะได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชน รวมถึงมิวนิค รี และบีพี นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากดัชนีภาคบริการและภาคการผลิตในยูโรโซนที่เริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัว

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.6% ปิดที่ 285.56 จุดemnb_18_18900.gif?1838240980emnb_1_370236.gif

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3694.70 จุด บวก 34.79 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 7664.66 บวก 26.43 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6282.76 บวก 35.92 จุด

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ก.พ.) ขานรับดัชนีภาคบริการและภาคการผลิตในยูโรโซนที่เริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัว นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อหลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงหนักสุดในรอบปีเมื่อวันจันทร์ อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรป

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดีดตัวขึ้น 99.22 จุด หรือ 0.71% ปิดที่ 13,979.30 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 15.58 จุด หรือ 1.04% ปิดที่ 1,511.29 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 40.41 จุด หรือ 1.29% ปิดที่ 3,171.58 จุด

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (5 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำทะยานขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการ นอกจากนี้ การที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้น ยังได้กระตุ้นให้นักลงทุนย้ายฐานการลงทุนเข้าไปในตลาดหุ้นซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยง

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 2.9 ดอลลาร์ หรือ 0.17% ปิดที่ 1,673.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 31.875 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 15.9 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ขยับขึ้น 0.15 เซนต์ ปิดที่ 3.7700 ดอลลาร์/ปอนด์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,707.20 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 9.10 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 765.45 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 7.65 ดอลลาร์

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ก.พ.) เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณการฟื้นตัวทั้งในสหรัฐและยูโรโซน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ ปิดที่ 96.64 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 95.91-97.07 ดอลลาร์

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 92 เซนต์ ปิดที่ 116.52 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 115.01-117.23 ดอลลาร์

-- สกุลเงินยูโรพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 ก.พ.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณการฟื้นตัวในเยอรมนีและยูโรโซน ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้นหลังจาการลงจากตำแหน่งของผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.3586 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.3519 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 1.5683 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5764 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9081 ฟรังค์ จากระดับ 0.9083 ฟรังค์ แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 93.37 เยน จากระดับ 92.42 เยน

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ก.พ.) ขานรับผลประกอบการเอกชน และจากดัชนีภาคบริการและภาคการผลิตในยูโรโซนที่เริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัว

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 35.92 จุด หรือ 0.58% ปิดที่ 6,282.76 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 6,244.07-6,296.47 จุด

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: แรงขายทำกำไรฉุดทองปิดลบ 2.9 ดอลลาร์

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 6 กุมภาพันธ์ 2556 06:59:07 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (5 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำทะยานขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการ นอกจากนี้ การที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้น ยังได้กระตุ้นให้นักลงทุนย้ายฐานการลงทุนเข้าไปในตลาดหุ้นซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยง

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 2.9 ดอลลาร์ หรือ 0.17% ปิดที่ 1,673.5 ดอลลาร์/ออนซ์emnb_1_370236.gif

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 31.875 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 15.9 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ขยับขึ้น 0.15 เซนต์ ปิดที่ 3.7700 ดอลลาร์/ปอนด์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,707.20 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 9.10 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 765.45 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 7.65 ดอลลาร์

นักวิเคราะห์กล่าวว่า การดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กได้กระตุ้นให้นักลงทุนย้ายฐานการลงทุนเข้าไปยังซื้อหุ้นซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยง หลังจากผลสำรวจของมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซนในเดือนม.ค.ปรับขึ้นแตะ 48.6 จาก 47.2 ในเดือนธ.ค.2555

ขณะเดียวกัน มาร์กิตเปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคบริการของเยอรมนีในเดือนม.ค.ปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับ 55.7 จาก 52.0 ในเดือนธ.ค.2555 โดยนับเป็นระดับสูงสุดนับแต่กลางปี 2554

นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ซึ่งจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้ หลังจากที่การประชุมครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น อีซีบีมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.75% และไม่ได้ประกาศใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม เพราะต้องการจะประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจและรอดูโอกาสที่เหมาะสมก่อนที่จะเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรครั้งใหม่

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรพุ่งเทียบดอลล์ หลังภาคการผลิตยูโรโซนฟื้นตัว

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 6 กุมภาพันธ์ 2556 07:33:41 น.

สกุลเงินยูโรพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 ก.พ.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณการฟื้นตัวในเยอรมนีและยูโรโซน ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้นหลังจาการลงจากตำแหน่งของผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นemnb_1_370236.gif

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.3586 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.3519 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 1.5683 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5764 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9081 ฟรังค์ จากระดับ 0.9083 ฟรังค์ แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 93.37 เยน จากระดับ 92.42 เยน

สกุลเงินยูโรได้รับแรงหนุนหลังจากมาร์กิตเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซนในเดือนม.ค.ปรับขึ้นแตะ 48.6 จาก 47.2 ในเดือนธ.ค.2555 ขณะที่ดัชนี PMI ภาคบริการของเยอรมนีในเดือนม.ค.ปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับ 55.7 จาก 52.0 ในเดือนธ.ค.2555 โดยนับเป็นระดับสูงสุดนับแต่กลางปี 2554

ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้นหลังจาการลงจากตำแหน่งของนายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ)

นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ซึ่งจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ หลังจากที่การประชุมครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น อีซีบีมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.75% และไม่ได้ประกาศใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม เพราะต้องการจะประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจและรอดูโอกาสที่เหมาะสมก่อนที่จะเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรครั้งใหม่

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: ข้อมูลศก.สหรัฐ,ยูโรโซนสดใสหนุนน้ำมัน WTI ปิดบวก 47 เซนต์

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 6 กุมภาพันธ์ 2556 07:10:18 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ก.พ.) เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณการฟื้นตัวทั้งในสหรัฐและยูโรโซน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ ปิดที่ 96.64 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 95.91-97.07 ดอลลาร์

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 92 เซนต์ ปิดที่ 116.52 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 115.01-117.23 ดอลลาร์emnb_1_370236.gif

ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากผลสำรวจของมาร์กิตที่ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซนในเดือนม.ค.ปรับขึ้นแตะ 48.6 จาก 47.2 ในเดือนธ.ค.2555 ขณะที่ดัชนี PMI ภาคบริการของเยอรมนีในเดือนม.ค.ปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับ 55.7 จาก 52.0 ในเดือนธ.ค.2555 โดยนับเป็นระดับสูงสุดนับแต่กลางปี 2554

นอกจากนี้ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐในเดือนม.ค.ขยายตัวที่ระดับ 55.2 จาก 55.7 ในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว แต่ดัชนีที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคบริการยังคงมีการขยายตัว เพราะได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อล็อตใหม่ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณชี้วัดเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 ก.พ. เพิ่มขึ้น 3.6 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นลดลงราว 1.5 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นราว 1.6 ล้านบาร์เรล

นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันของสหรัฐประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 ก.พ. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในคืนนี้ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะลดลง 0.3%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 99.22 จุดรับข้อมูลศก.ยูโรโซนสดใส

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 6 กุมภาพันธ์ 2556 06:30:13 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ก.พ.) ขานรับดัชนีภาคบริการและภาคการผลิตในยูโรโซนที่เริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัว นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อหลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงหนักสุดในรอบปีเมื่อวันจันทร์ อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรปemnb_18_18900.gif?967699703emnb_1_370235.gif

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดีดตัวขึ้น 99.22 จุด หรือ 0.71% ปิดที่ 13,979.30 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 15.58 จุด หรือ 1.04% ปิดที่ 1,511.29 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 40.41 จุด หรือ 1.29% ปิดที่ 3,171.58 จุด

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อหลังจากดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงไปถึง 129.71 จุดเมื่อวันจันทร์ เนื่องจากไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรป รวมถึงการที่นายกรัฐมนตรี มาริอาโน ราฮอย ของสเปนถูกกล่าวหาว่ามีส่วนพัวพันในกรณีอื้อฉาวเกี่ยวกับการทุจริต และความวิตกกังวลที่ว่าหากนายซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี อดีตนายกรัฐมนตรีกลับสู่อำนาจอีกครั้งในการเลือกตั้งทั่วไปช่วงปลายเดือนนี้ ก็อาจจะส่งผลต่อความต่อเนื่องในการปฏิรูปเศรษฐกิจและการเงินของประเทศซึ่งรัฐบาลชุดปัจจุบันได้เริ่มต้นเอาไว้

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกหลังจากผลสำรวจของมาร์กิตเผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซนในเดือนม.ค.ปรับขึ้นแตะ 48.6 จาก 47.2 ในเดือนธ.ค.2555

ขณะเดียวกัน มาร์กิตเปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคบริการของเยอรมนีในเดือนม.ค.ปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับ 55.7 จาก 52.0 ในเดือนธ.ค.2555 โดยนับเป็นระดับสูงสุดนับแต่กลางปี 2554

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยผลสำรวจที่ระบุว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐในเดือนม.ค.ชะลอลงสู่ระดับ 55.2 จาก 55.7 ในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่

หุ้น Yum! Brands ร่วงลง 2.91% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2556 อย่างไรก็ตาม บริษัทได้รายงานผลประกอบการไตรมาส 4/2555 ที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาด

หุ้น McGraw-Hill ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ร่วงลง 10.70% หลังจาก S&P ยืนยันว่ากระทรวงยุติธรรมสหรัฐจะยื่นฟ้องเอาผิดตามกฎหมายแพ่งต่อ S&P ในกรณีที่ S&P ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือตราสาร CDO (collateralized debt obligations) ในปี 2550

หุ้น NYSE Euronext ซึ่งเป็นผู้บริหารตลาดหุ้นนิวยอร์ก ดีดตัวขึ้น 1% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิไตรมาส 4/2555 อยู่ที่ 28 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2553 ที่ระดับ 110 ล้านดอลลาร์

หุ้นวอลท์ ดีสนีย์ พุ่งขึ้นกว่า 1% ขณะที่หุ้นเดลล์ดีดตัวขึ้น 1.13% หลังจากทั้งสองบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-

 

ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิเปิดพุ่ง 189.78 จุดหลังโตโยต้าเพิ่มคาดการณ์รายได้

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 6 กุมภาพันธ์ 2556 07:46:15 น.

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดพุ่งขึ้น 189.78 จุด หรือ 1.72% แตะที่ 11,236.70 จุดในวันนี้ ขานรับบริษัทรถยนต์รายใหญ่อย่างโตโยต้า มอเตอร์ ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการ เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินเยน

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทในปีงบการเงิน 2555 ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมี.ค.นี้ ขึ้นเป็น 1.15 ล้านล้านเยน จากเดิมที่ประมาณการไว้ที่ 1.05 ล้านล้านเยน เนื่องจากเงินเยนอ่อนค่าลง และแนวโน้มยอดขายที่ฟื้นตัวขึ้น

นอกจากนี้ โตโยต้ายังได้ปรับคาดการณ์กำไรสุทธิในปีดังกล่าวขึ้นเป็น 8.60 แสนล้านเยน จากที่ประมาณการไว้ในเดือนพ.ย.ที่ 7.80 แสนล้านเยน สำนักข่าวเกียวโดรายงานemnb_1_370235.gif

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พยากรณ์อากาศประจำวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2556

ข่าวทั่วไป กรมอุตุนิยมวิทยา -- พุธที่ 6 กุมภาพันธ์ 2556 07:04:55 น.

พยากรณ์อากาศประจำวัน

ประจำวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2556emnb_1_370238.gif

ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. ลมตะวันตกเฉียงเหนือในระดับบนยังคงพัดปกคลุมภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย

สำหรับภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุม ทำให้มีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ในระยะนี้

อนึ่ง กรมควบคุมมลพิษตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือพบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 24-65 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ปริมาณฝุ่นสูงสุดที่ อ.เมือง จ.แพร่ คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับดีถึงปานกลาง

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส

สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด

อุณหภูมิต่ำสุด 7-13 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า

อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส

สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-15 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่

โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณตอนล่างของภาค

อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส

สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่

ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส

สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัด

นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา:

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป :

ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทองคำ ..จะไปต่อ หรือ พักตัว?

 

 

 

ในรอบ 10 ปี ที่ผ่านมา สินทรัพย์ประเภทหนึ่งที่อยู่ในโฟกัสของนักลงทุนเสมอมา ก็คือ “ทองคำ” ซึ่งให้ผลตอบแทนสูงเป็นที่จูงใจ แต่ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เริ่มเกิดความกังวลใจว่า ถึงเวลาขาลงของทองแล้วหรือ.. แล้วทองคำจะไปต่อ หรือ ถึงเวลาพักตัว กันแน่....

“คุณบุญชัย เกียรติธนวิทย์” กรรมการผู้จัดการ บลจ.ธนชาตให้ความเห็นว่า นวโน้มราคาทองคำจะไปต่อแน่นอน หากย้อนกลับไปในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง ถ้าลงทุนในทองคำนับแต่ปี 2546 มาถึงปัจจุบัน เฉลี่ยจะได้รับผลตอบแทน 19% ต่อปี เทียบกับตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 14%ต่อปี จึงเป็นสินทรัพย์หนึ่งที่ได้รับความนิยมสูงมากในช่วงที่ผ่านมา

และทองคำยังเป็นแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย เพราะราคาทองคำปรับตัวลงมาต่ำสุดเพียงแค่ 5% เทียบกับตลาดหุ้นตกไปถึง 40% ในช่วง 10ปี จัดเป็นทรัพย์สินที่น่าสนใจในทศวรรษนี้ และผลตอบแทนชนะเงินฝาก หรือเทียบกับผลตอบแทนตลาดหุ้นโลกก็ยังชนะ โดยจากสถิติในปี 2546 ถึงปัจจุบัน ตลาดหุ้นโลกให้ผลตอบแทนเฉลี่ยเพียง 9% ต่อปี เท่านั้น

“ความจริงแล้ว ตลาดหุ้นให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ แต่ช่วง 10ปีที่ผ่านมา การลงทุนในตลาดหุ้นมีความผันผวนมาก ขณะที่ทองคำ กลายเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและรักษาค่าของมัน ซึ่งหากคนซื้อทองคำช่วง 10ปีที่ผ่านมา จะได้ผลตอบแทนรวมเกือบ 120% ถือว่า เป็นช่องทางการลงทุนที่น่าสนใจ และอยู่ในโฟกัสของนักลงทุนมาตลอด”

แต่แนวโน้มราคาทองคำจะไปต่อ หรือ หยุดพักตัว.. คุณบุญชัย ไขความกระจ่างว่า ทองคำเป็นสินทรัพย์การลงทุนประเภทหนึ่งที่มีการปรับขึ้น ก็มีปรับลงเช่นกัน แต่หากประเมินจากสภาพโอกาส จะพบว่า ในปัจจุบันปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั้งอเมริกา ยุโรป แต่ละประเทศแก้ปัญหาเศรษฐกิจโดยการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโดยการพิมพ์เงินเพิ่ม ดังนั้น เงินกระดาษนับวันจะด้อยค่าลง ขณะที่ทองคำ เป็นทรัพย์สินถาวร มีอยู่จำนวนเท่าเดิมและรักษาสภาพไว้ ค่าจึงไปชดเชยมูลค่าของเงินกระดาษที่ลดลง ซึ่งสภาพแบบนี้จะอยู่อีกหลายปี เนื่องจากปัญหายุโรป อเมริกา รวมถึงจีน จะมีปัญหามากขึ้นเรื่อยๆ

อีกประเด็นที่ต้องพิจารณาคือ อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ เป็นมูลเหตุจูงใจให้เงินต้องไปหาผลตอบแทนอื่นที่ให้ค่ามากกว่าการเอาไปฝากธนาคาร หรือซื้อพันธบัตรที่ได้รับดอกเบี้ยเพียง 2%

นอกจากนั้น ดีมานด์ หรือ ความต้องการซื้อทองคำจากธนาคารกลางและจากผู้ลงทุน นับวันจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกองทุนทองคำ ที่ซื้อขายในตลาดทั่วโลกมีแนวโน้มการลงทุนเพิ่มขึ้นสูงขึ้นมาก เนื่องจากผู้ลงทุนมองทองคำเป็นการลงทุนอีกชนิดหนึ่ง รวมถึงซัพพลายหรือปริมาณทองคำในตลาด นับวันจะลดลงและหมดไป เพราะเป็นสินทรัพย์ที่อยู่ใต้ดิน ยิ่งขุดยากมากขึ้นเรื่อยๆ

ด้วย 4 ปัจจัยเหล่านี้ เชื่อว่า โอกาสที่ทองคำจะเป็นขาขึ้นมีความเป็นไปได้

คุณบุญชัย กล่าวด้วยว่า มีการประเมินว่า วิกฤติหนี้ยุโรปจะยืดเยื้อยาวไปอีก 5ปี เดิมคาดว่าจะฟื้นใน 2013 แต่จะลากยาวไปถึง 2017 การแก้ปัญหาจะยิ่งอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ โอกาสที่ทองคำจะรักษาค่าตัวเองตลอดเวลา โอกาสที่จะเห็นทองคำมีขึ้นมีมากกว่าขาลง

“มีการคาดการณ์ว่า แนวโน้มราคาทองคำโลกน่าจะไต่ไปถึง 2,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่อาจจะช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่การแก้ปัญหาเศรษฐกิจของอเมริกา ยุโรป ที่ฟื้นตัวเร็ว หรือ ช้า ยิ่งหากฟื้นตัวช้า โอกาสที่รัฐบาลจะอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ การที่เงินมีมากขึ้นเรื่อยๆ โอกาสที่ราคาทองจะไปถึง 2,400 ดอลลาร์ต่ออนซ์ ก็เป็นไปได้ แต่ไม่ใช่ระยะอันใกล้ และมีบางสำนักเศรษฐกิจมองว่า ราคาทองอาจไปถึง 3,000 ใน 3ปีข้างหน้า โดยผลตอบแทนจากการลงทุนในทองคำนับจากต้นปี เพิ่มขึ้นมา 14-15% หรือ 1,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มาเป็น 1,700 ดอลลาร์ต่ออนซ์ แนวโน้มเชื่อว่า มีโอกาสไปต่อได้แน่นอน”

กองทุนทองคำ จึงเป็นอีกทางเลือกของการลงทุนให้แก่ผู้ลงทุนในยามวิกฤติเศรษฐกิจ ตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจคือ กองทุนเปิด “ธนชาตทองคำแท่ง – H” (T-Gold Bullion –H) ของบลจ.ธนชาต ซึ่งมีจุดเด่นที่มี The Bank of Nova Scotia ประเทสแคนาดา เป็นผู้ถือหุ้น และมีเครือข่ายดีลเลอร์ทองคำขนาดใหญ่ 1 ใน 6 รายใหญ่ของโลก ซึ่งปริมาณการซื้อขายผ่านแต่ละวันสูงมาก

คุณบุญชัย กล่าวว่า บลจ.ธนชาต ได้จัดตั้งกองทุนทองคำสำหรับผู้สนใจทั่วไป เป็นกองทุนที่ซื้อทองคำแท่งตรงจากดีลเลอร์ แตกต่างจากบลจ.อื่นๆ ที่จะซื้อหน่วยลงทุนทองคำของกองทุนทองคำที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นต่างประเทศ กองทุนทองคำของธนชาต จึงเป็นเพียงกองทุนเดียวจาก 20 กองทุนคำของไทย ที่ส่งเงินไปซื้อทองคำแท่งตรง และเวลาขายก็สั่งขายทองคำแท่งตรงกับดีลเลอร์ จึงทำให้ไม่มีปัญหาสภาพคล่องการซื้อขาย

“กองทุนทองคำของเรา จะซื้อขายตรงผ่านดีลเลอร์ใหญ่ในตลาดโลก จึงทำให้สั่งขายวันนี้ได้เงินในวันรุ่งขึ้น ( T+1) เทียบกับกองทุนคำอื่นจะได้รับเงินขายคืน T+3 เรียกว่า มีความคล่องตัวสูง และไม่มีปัญหาสภาพคล่อง ราคาที่สั่งซื้อตรงในตลาดต่างประเทศ เป็นราคาขณะเราซื้อขาย จึงถือว่า ดีที่สุดในตลาด

ขณะที่ผลตอบแทนของกองทุนจะเคลื่อนไหวตามราคาทองคำในตลาดโลก ไม่ผิดเพี้ยน เพราะเราสั่งซื้อขายตรงในต่างประเทศโดยตรงผ่านดีลเลอร์ และจะเก็บทองคำไว้ในต่างประเทศ ทำให้เรื่องสภาพคล่อง ราคาซื้อขาย เอ็นเอวี เป็นไปตามราคาตลาด ขณะที่ค่าธรรมเนียมในการซื้อขายไม่ได้สูง แต่ให้ผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนทองคำนับตั้งแต่ต้นปีถึงวันนี้ เฉลี่ย 14% ต่อปี”

ทองคำ” จึงยังคงเป็นตัวเลือกยอดฮิตของนักลงทุน ถ้าคุณคิดจะลงทุนในทองคำ..อย่าลืม กองทุนเปิด “ธนชาตทองคำแท่ง – H” อีกตัวเลือกที่คุ้มค่ากับการลงทุนในยามรับมือวิกฤติเศรษฐกิจโลก เช่นนี้

Tags : ทองคำWealthy DIYบลจ.ธนชาต

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

โจทย์การลงทุนของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ถ้าต้องการได้ผลตอบแทนที่ชนะเงินฝาก เงินเฟ้อ และกองทุนตราสารหนี้

 

 

ในปัจจุบันยังมีช่องทางการลงทุนให้เลือกมากมาย โดยเฉพาะการลงทุนในหุ้นที่มีความเสี่ยงธุรกิจต่ำ และจ่ายปันผลดี ลดความเสี่ยงในยามที่เศรษฐกิจตกต่ำและตลาดหุ้นผันผวนเช่นนี้

"คุณตระกูลจิตร จิตตไสยะพันธ์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ.ธนชาตกล่าวว่า การลงทุนในหุ้นยังเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุนในภาวะปัจจุบัน แม้เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลงจากหลายประเทศมีปัญหาด้านเศรษฐกิจ ทำให้ดอกเบี้ยทั่วโลกตกต่ำหมด ไม่ว่า อเมริกา ญี่ปุ่น ยุโรป ที่ดอกเบี้ยใกล้ศูนย์ ทุกคนจึงมองหาสินทรัพย์ที่คงเส้นคงวา เช่น หุ้นที่มีเงินปันผล ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา หุ้นปันผลในตลาดโลก เป็นที่ต้องการลงทุนอย่างมากในภาวะที่เศรษฐกิจโลกไม่สดใส เพราะให้ผลตอบแทนที่ดีและชนะตลาดรวม

การลงทุนในหุ้นที่มีความเสี่ยงตัวธุรกิจต่ำและจ่ายปันผลที่ดี นับเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ลงทุน เพราะเป็นหุ้นที่สามารถทนแรงเสียดทานและทนต่อความผันผวนของตลาดได้ ขณะเดียวกันผลกำไรไม่วูบวาบตามภาวะเศรษฐกิจโลกทั้งขาขึ้นและขาลง ลักษณะธุรกิจเหล่านี้ ก็เช่น ธุรกิจประเภทส่งออกอาหาร ซึ่งทุกคนต้องกินต้องใช้ และโลกยังขาดแคลน หรือ ธุรกิจสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่น ธุรกิจโรงไฟฟ้า เป็นต้น

“เราสามารถถือลงทุนหุ้นเหล่านี้ได้นาน เพราะมีความเสี่ยงต่ำและได้รับเงินปันผล เมื่อบริษัทเติบโตเราก็โตไปกับเขา ผลตอบแทนที่ได้จึงมีโอกาสชนะเงินเฟ้อ และสูงกว่าดอกเบี้ยแน่นอน”

ในปีที่ผ่านมา บลจ.ธนชาต ได้จัดตั้งกองทุนลักษณะนี้ขึ้นมา คือ กองทุนรวมหุ้นธนชาต “T-LowBeta” โดยเน้นลงทุนแบบคงเส้นคงวา ไม่หวือหวา และมุ่งลงทุนในหุ้นธุรกิจที่มีความมั่นคง เช่น ธุรกิจอาหาร โรงไฟฟ้า สื่อสาร ทางด่วน ซึ่งคนจำเป็นต้องกิน ต้องใช้ ทำให้ธุรกิจมีรายได้เข้าทุกวัน ถ้าเราเป็นเจ้าของบริษัทนั้นได้เองก็น่าสนใจ แต่ถ้าเรามีเงินไม่มากก็ร่วมลงทุนบางส่วนกับกองทุนนี้ได้

คุณตระกูลจิตร กล่าวว่า กองทุน“T-LowBeta” เป็นกองทุนในหุ้นที่ผันผวนน้อยกว่าครึ่งของตลาด โดยตั้งเป้าไว้ว่า จะได้เงินปันผลที่ลงทุนเฉลี่ย 5% ต่อปี เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มั่นคงไม่อิงกับเศรษฐกิจโลก รายได้ไม่วูบวาบ บริษัทมีการเติบโตและกำไรดีขึ้น คาดในปีหน้าจะจ่ายปันผลได้ดีขึ้นอีกด้วย

“เราจัดตั้งกองทุนนี้ขึ้นมาเมื่อปลายมีนาคม 2555 ปัจจุบันมูลค่ากองทุนเติบโตมาได้เรื่อยๆ อยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาท หลังจากความมั่นใจเข้าลงทุนเพิ่มขึ้นและความนิยมดีขึ้น เพราะได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่า เวลาตลาดขึ้นลงไม่หวือหวา วูบวาบ และให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าคาด อาจเป็นเพราะจังหวะหุ้นบางตัวปรับตัวขึ้นมา โดยตอนนี้มูลค่ากองทุนขึ้นมา 20% ใน 6 เดือน และคาดว่าผลตอบแทนจะอยู่ที่ 5-10%ต่อปี น่าจะดีกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ที่จะรับ 3% ไปอีกหลายปี และชนะเงินเฟ้อแน่นอน”

กองทุนนี้เริ่มลงทุนได้ครั้งแรกเพียง 1,000 บาท หรือลงทุนแบบสะสมไปทีละน้อยได้ เพราะเป็นกองทุนที่ออกแบบมาเพื่อทุกคน โดยกองทุนกระจายลงทุนไปยังธุรกิจ 10 บริษัท และระหว่างทางจะมีการปรับเปลี่ยนหุ้นบ้าง

หากสนใจลงทุน สามารถสอบถามและติดต่อได้ที่บลจ.ธนชาต และสาขาธนาคารธนชาตทั่วประเทศกว่า 600 สาขา

ถ้าโจทย์ของคุณต้องการได้รับผลตอบแทนชนะเงินฝาก เงินเฟ้อ และมากกว่ากองทุนตราสารหนี้ .. “กองทุน T-Lowbeta” ของธนชาต น่าจะเป็นกองทุนหุ้นที่ตอบโจทย์คุณได้.

Tags : ธนชาตการลงทุนWealthy DIY

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิกประกาศเตือนสึนามิหลังแผ่นดินไหว 8 ริคเตอร์ที่ซานตาครูซ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 6 กุมภาพันธ์ 2556 08:39:50 น.

ศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิกได้ออกประกาศเตือนสึนามิในภูมิภาคหลังเกิดแผ่นดินไหว 8 ริคเตอร์ที่หมู่เกาะซานตาครูซในเช้าวันนี้ ตามเวลาไทย โดยจับตาดูพื้นที่ในแถบแปซิฟิกที่ใกล้เคียงกับบริเวณที่เกิดแผ่นดินไหวemnb_1_370236.gif

การประเมินผลกระทบจากคลื่นยักษ์สึนามิยังคงดำเนินต่อไป และมีความเป็นไปได้ที่จะประกาศให้ฮาวายเป็นพื้นที่เฝ้าระวังหรือเตือนภัยสึนามิ

รายงานของ USGS ระบุว่า แผ่นดินไหวครั้งเกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.12 ตามเวลาไทยในวันนี้ ที่ระดับความลึก 33 กิโลเมตร เบื้องต้นวัดพิกัดได้ที่ 10.9230 ละติจูดองศาใต้ และ 165.0850 ลองติจูดองศาตะวันออก

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...