มือใหม่หัดวิเคราะห์

[ginger 11,058]

ปรับกลยุทธ์

 

[ginger 11,058]

Gold Insight

 

[ginger 11,058]

 

ข่าวยามเย็นแถมของว่างจ้า

 

World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2556

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 13 กุมภาพันธ์ 2556 17:00:00 น.

กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยวานนี้ว่า รัฐบาลกลางสหรัฐเกินดุลงบประมาณในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นการเกินดุลครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2555

รายงานระบุว่า รัฐบาลกลางเกินดุลงบประมาณ 2.9 พันล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค. ภายหลังขาดดุล 1.2 พันล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค.

-- ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ ให้คำมั่นในระหว่างการแถลงนโยบายประจำปีวันนี้ว่า จะฟื้นเศรษฐกิจที่ซบเซาของประเทศ ด้วยการสร้างงานให้กับชนชั้นกลาง พร้อมกับให้สัญญาณว่า จะทำหน้าที่รัฐบาลอย่างชาญฉลาดมากขึ้นแทนที่จะเป็นรัฐบาลที่มีขนาดใหญ่ขึ้น

-- ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ ประกาศจัดตั้งศูนย์กลางการผลิต 3 แห่ง พร้อมกับเรียกร้องให้สภาคองเกรสจัดตั้งศูนย์กลางการผลิตอีก 15 แห่งด้วยความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อสร้างตำแหน่งงานด้านเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นภาคการผลิต

-- ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐอเมริกายืนยันอย่างหนักแน่นว่าจะปกป้องเกาหลีใต้ทุกวิถีทาง หลังจากเกาหลีเหนือทำการทดลองนิวเคลียร์เมื่อวานนี้ โดยประธานาธิบดีโอบามาให้คำมั่นสัญญาดังกล่าวผ่านพูดคุยทางโทรศัพท์กับปธน. ลี มย็อง-บัก ของเกาหลีใต้

-- ธนาคารกลางญี่ปุ่นได้เริ่มการประชุมด้านนโยบายในวันนี้ ซึ่งคาดว่า ธนาคารกลางจะไม่ผ่อนปรนนโยบายเงินตราเพิ่มเติม เนื่องจากธนาคารกลางอยู่ในระหว่างการประเมินผลกระทบจากการกำหนดเป้าเงินเฟ้อใหม่ที่ 2% โดยการประชุมดังกล่าวจะจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้เปิดเผยว่า อัตราว่างงานของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นมากกว่า 3% เป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน เนื่องจากปัจจัยทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม การจ้างงานขยายตัวในอัตราที่เร็วขึ้นเพราะมีการสร้างงานจำนวนมากในภาคการผลิต

-- นายออลลี เรห์น กรรมาธิการกิจการเศรษฐกิจและการเงินของสหภาพยุโรป (อียู) ได้แสดงความชื่นชมต่อแถลงการณ์ในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ หรือ G-7

-- ไอเอ็นจี กรุ๊ป ผู้ให้บริการทางการเงินรายใหญ่ที่สุดของเนเธอร์แลนด์ เตรียมปลดพนักงาน 1,400 คนในเนเธอร์แลนด์ และ 1,000 คนในเบลเยียม รวมเป็น 2,400 คน หลังกำไรไตรมาส 4 ปีที่แล้วพลาดเป้า ขณะที่สัดส่วนเงินกองทุนหลักก็ลดลง

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th-

 

อินเดียขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้นแตะ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค.

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 13 กุมภาพันธ์ 2556 17:07:48 น.

อินเดียเผยยอดขาดดุลการค้าเดือนม.ค.2556 เพิ่มขึ้นแตะ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 1.77 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค. เนื่องจากการนำเข้าที่สูงขึ้น

สำหรับยอดขาดดุลการค้าในเดือนเม.ย.2555 ถึงม.ค.2556 อยู่ที่ 1.672 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่ายอดขาดดุลที่ 1.549 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงเดือนเม.ย.2554 ถึงม.ค.2555

ยอดขาดดุลการค้าที่สูงขึ้นนี้จะเพิ่มแรงกดดันต่อค่าเงินรูปีมากขึ้น เนื่องจากยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดที่เพิ่มขึ้นจะจำกัดโอกาสที่ธนาคารกลางอินเดียจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก

มูลค่าการส่งออกในเดือนม.ค.2556 อยู่ที่ 2.559 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 0.82% จากระดับ 2.538 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค.2555 ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้น 6% แตะ 4.558 หมื่นล้านดอลลาร์

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

อียูขานรับที่ประชุม G-7 หนุน FX เคลื่อนไหวตามกลไกตลาดเพื่อรักษาเสถียรภาพศก.

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 13 กุมภาพันธ์ 2556 13:52:31 น.

นายออลลี เรห์น กรรมาธิการกิจการเศรษฐกิจและการเงินของสหภาพยุโรป (อียู) ได้แสดงความชื่นชมต่อแถลงการณ์ในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ หรือ G-7

โดยนายเรห์นให้สัมภาษณ์กับนักข่าวภายหลังการประชุมร่วมกับรัฐมนตรีคลังของอียูว่า “ความผันผวนที่สูงเกินไปและความเคลื่อนไหวอย่างไร้ระเบียบของอัตราแลกเปลี่ยนมีผลกระทบในเชิงลบต่อเศรษฐกิจและเสถียรภาพทางการเงิน"

“นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงให้ความสำคัญกับนโยบายความร่วมมือเพื่อป้องกันการแข่งขันกันลดค่าเงิน" เขากล่าว

ทั้งนี้ นายเรห์นแสดงความเห็นดังกล่าวต่อแถลงการณ์ของจี7 ซึ่งมีขึ้นเมื่อวานนี้ สะท้อนให้เห็นว่า กลุ่ม G-7 จะไม่พยายามทำให้อัตราแลกเปลี่ยนของประเทศอ่อนค่าลงด้วยการผ่อนคลายนโยบายการเงิน แต่เพื่อพยายามส่งเสริมอุปสงค์ภายในประเทศที่ซบเซาเท่านั้น

นายเรห์นคาดว่า การประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่มประเทศ G-20 ในมอสโคที่กำลังจะมีขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้ จะเป็นการเน้นย้ำภารกิจในการให้คำปรึกษาและร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในการดำเนินการเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยน

“กลุ่มประเทศ G-20 มุ่งมั่นให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับตลาดอัตราแลกเปลี่ยน และให้ความร่วมมือตามความเหมาะสม ผมคาดว่าภารกิจนี้จะได้รับการยืนยันอีกครั้งในมอสโค เช่นเดียวกับการยืนยันจากกลุ่ม G-7 ในวันนี้"

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การแสดงความเห็นของนายเรห์นมีขึ้นหลังเงินสกุลยูโรปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 1-1.20 ในปีที่ผ่านมามาอยู่ที่ 1-1.30 ในช่วงปลายเดือนมกราคม

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ING เตรียมปลดพนักงาน 2,400 คน หลังกำไรไตรมาส 4 พลาดเป้า

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 13 กุมภาพันธ์ 2556 14:53:58 น.

ไอเอ็นจี กรุ๊ป ผู้ให้บริการทางการเงินรายใหญ่ที่สุดของเนเธอร์แลนด์ เตรียมปลดพนักงาน 1,400 คนในเนเธอร์แลนด์ และ 1,000 คนในเบลเยียม รวมเป็น 2,400 คน หลังกำไรไตรมาส 4 ปีที่แล้วพลาดเป้า ขณะที่สัดส่วนเงินกองทุนหลักก็ลดลง

ไอเอ็นจีรายงานว่า กำไรสุทธิในไตรมาส 4/2555 อยู่ที่ 1.43 พันล้านยูโร (1.92 พันล้านดอลลาร์) เทียบกับ 1.19 พันล้านยูโรในปีก่อนหน้า ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์

ขณะเดียวกันสัดส่วนเงินกองทุนขั้นที่ 1 ซึ่งชี้วัดความแข็งแกร่งทางการเงิน ก็ลดลงเหลือ 11.9% ณ สิ้นเดือนธ.ค. จาก 12.1% ในไตรมาส 3

นายแจน ฮอมเมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทไอเอ็นจี กล่าวว่า "ปีนี้สภาพเศรษฐกิจยังคงมีความท้าทาย เราต้องพร้อมรับสภาพการณ์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เพื่อให้เกิดผลการดำเนินงานที่ยั่งยืน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นทุกรายในระยะยาว"

ทั้งนี้ การประกาศปลดพนักงานครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเพียงไม่กี่เดือนหลังจากที่ไอเอ็นจีประกาศปลดพนักงานในธุรกิจธนาคารและประกันลง 2,350 คน เมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว โดยไอเอ็นจีตั้งเป้าว่าจะต้องลดต้นทุนให้ได้ 1 พันล้านยูโรต่อปีภายในปี 2558

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-

ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศจะถอนทหารสหรัฐจำนวน 34,000 นาย ออกจากอัฟกานิสถาน และให้คำมั่นยุติสงครามภายให้ได้ภายในปี 2557

วานนี้ (12 ก.พ.) ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำของสหรัฐ ประกาศว่า จะถอนกำลังทหารสหรัฐฯ จำนวน 34,000 นายออกจากอัฟกานิสถานในปีหน้า พร้อมทั้งให้คำมั่นว่าจะยุติความขัดแย้งอันนำมาซึ่งการนองเลือดให้ได้ภายในปี 2557 ทั้งนี้ นายโอบามา กล่าวว่าการถอนทหารดังกล่าวจะเป็นการตัดลดจำนวนทหารลงครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด 66,000 นายในอัฟกานิสถาน ขณะที่กองกำลังสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต เตรียมส่งมอบการควบคุมปฏิบัติการด้านความมั่นคงให้แก่กองกำลังความมั่นคงอัฟกันราว 352,000 นาย

อินโฟเควสท์ โดย ฐณฐ ธาระศัพท์/สุดทีวัล สุขใส โทร.02-2535000 อีเมล์: sudteewan@infoquest.co.th--

 

[ginger 11,058]

In Focus: จับตาตัวเก็งผู้ว่าการแบงก์ชาติญี่ปุ่นคนใหม่ ทั้งอดีตลูกหม้อและอดีตรมว.

 

 

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 13 กุมภาพันธ์ 2556 17:28:09 น.

หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์ ของอังกฤษเคยรายงานว่า นายมาซาอากิ ชิรากาวา ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เมื่อ 5 ปีก่อนโดยไม่ได้ตั้งใจ

หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนของพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ในขณะนั้น นายโตชิโร มูโตะ คงจะมีรายชื่อเป็นผู้ว่าการบีโอเจคนที่ 30 แต่ก็ต้องพบกับความผิดหวังเมื่อนายมูโตะซึ่งเป็นอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคลังญี่ปุ่นและรองผู้ว่าการบีโอเจไม่ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสมาชิก ซึ่งมองว่าประสบการณ์การทำงานในกระทรวงการคลังของเขาเป็นภัยคุกคามต่อความเป็นอิสระของธนาคารกลาง ในขณะที่แผนบีของพรรคแอลดีพีที่ต้องการเสนอชื่อนายโคจิ ทานามิ ให้ดำรงตำแหน่งแทนก็ประสบความล้มเหลวในทำนองเดียวกัน

 

อดีตรองผู้ว่าบีโอเจและรมว.เศรษฐกิจ

การประกาศลาออกจากตำแหน่งในวันที่ 19 มีนาคมของนายมาซาอากิพร้อมกับรองผู้ว่าการบีโอเจทั้ง 2 คนก่อนที่จะครบวาระในเดือนเมษายนนี้ นับเป็นการเปิดโอกาสให้พรรคแอลดีพีของนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ ซึ่งกลับมาครองเสียงข้างมากในรัฐบาลญี่ปุ่นภายหลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ได้เสนอชื่อนายมูโตะเข้าสู่กระบวนการสรรหาของรัฐสภาอีกครั้ง และมีโอกาสเป็นไปได้สูงที่นายมูโตะจะได้เป็นตัวเก็งอันดับหนึ่งในกระบวนการคัดเลือก

แต่อย่างไรก็ดี ตัวเก็งที่ได้คาดว่า จะได้รับการเสนอชื่อในครั้งนี้ไม่ได้มีแค่เพียงนายมูโตะคนเดียว แต่ยังมีนายคาซูมาสะ อิวาตะ อดีตรองผู้ว่าการบีโอเจและนายเฮโซ ทาเคนากะ อดีตรัฐมนตรีเศรษฐกิจซึ่งต่างก็ได้รับการยอมรับในการนำญี่ปุ่นให้รอดพ้นจากวิกฤตในทศวรรษที่ผ่านมา ส่งผลให้การคาดการณ์เกี่ยวกับตัวเก็งที่จะได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้ว่าการบีโอเจคนต่อไปมีความเข้มข้นมากขึ้นทุกขณะ

สื่อบางรายคาดว่า ตำแหน่งดังกล่าวอาจจะเป็นการช่วงชิงกันระหว่างนายคาซูมาสะ อิวาตะ และนายโทชิโร มูโตะ ซึ่งมีดีกรีเป็นอดีตรองผู้ว่าการบีโอเจด้วยกันทั้งคู่ ในขณะที่เครดิต สวิส และเจพีมอร์แกนแนะนำว่า นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ประธานธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) คนปัจจุบันเป็นผู้ที่มีความเหมาะสมมากที่สุด

ในบรรดาผู้ที่ได้รับการคาดหมายดังกล่าว นายอิวาตะซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยกาคูชูอินดูเหมือนจะมีแนวคิดที่สุดโต่งมากที่สุด เขาเรียกร้องให้บีโอเจเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบด้านนโยบายการเงินเพื่อให้สามารถผ่อนคลายนโยบายได้อย่างห้าวหาญมากขึ้น เพื่อนำประเทศให้ผ่านพ้นภาวะเงินฝืด

นายอิวาตะระบุว่า “บีโอเจต้องแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบในเรื่องนโยบายการเงินอย่างจริงจัง และต้องดำเนินการผ่อนคลายนโยบายในขอบเขตที่ใหญ่มากพอที่จะโน้มน้าวให้ตลาดมองว่า การดำเนินการของบีโอเจมีความคืบหน้า"

นายอิวาตะยังแสดงความชื่นชมแถลงการณ์ของบีโอเจที่ได้กำหนดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ 2% และการให้คำมั่นว่าจะซื้อสินทรัพย์ทางการเงินเป็นจำนวน 13 ล้านล้านเยนต่อเดือนโดยไม่มีกำหนดระยะเวลา ซึ่งจะเริ่มดำเนินการตั้งต้นปี 2557 เป็นต้นไปว่า เป็นการดำเนินการที่กล้าหาญ พร้อมกับย้ำว่า บีโอเจต้องบรรลุเป้าหมายดังกล่าวภายใน 2 ปีโดยใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินล่าสุดเพียงอย่างเดียว

ด้านนายคุโรดะ ซึ่งออกสื่อบ่อยที่สุดในระยะนี้ต้องการให้บีโอเจใช้มาตการทางการเงินอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุเป้าหมายอัตราเงินที่ระดับ 2% ภายใน 2 ปี ซึ่งเขาเห็นว่าบีโอเจสามารถช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวได้อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นในช่วงชั่วอายุคนด้วยการออกมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม เพื่อยุติภาวะเงินฝืด

นายคุโรดะระบุว่า ธนาคารกลางมีความรับผิดชอบต่อเสถียรภาพราคาของประเทศ แต่บีโอเจยังไม่ได้ดำเนินการอย่างครบถ้วน เนื่องจากภาวะเงินฝืดของญี่ปุ่นได้ยืดเยื้อมาเป็นเวลานานถึง 15 ปี

แต่ถึงแม้นายคุโรดะจะเห็นด้วยกับนโยบายของนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ สำหรับเรื่องการเป็นตัวเก็งที่จะได้รับแต่งตั้งแล้ว เขาระบุว่า พอใจกับตำแหน่งในปัจจุบันซึ่งยังมีวาระการดำรงตำแหน่งอีกประมาณ 4 ปี พร้อมปฏิเสธที่จะไม่ตอบสนองในประเด็นที่ตกเป็นที่คาดการณ์ของสื่อ

 

ภารกิจที่เฝ้ารอ

 

นักวิเคราะห์ระบุว่า การลาออกจากตำแหน่งก่อนครบวาระของนายชิรากาวาเป็นผลมาจากการที่นายอาเบะ กดดันให้บีโอเจกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการทำให้เงินเยนอ่อนค่าลงเพื่อขจัดภาวะเงินฝืด ตามนโยบายที่ใช้หาเสียง ซึ่งได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการแทรกแซงความเป็นอิสระของธนาคารกลางอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

"สงครามค่าเงิน"เป็นสถานการณ์ที่หลายฝ่ายกังวล และไม่ต้องการให้เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลชุดใหม่ของญี่ปุ่นประกาศนโยบายฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากกลยุทธ์ลดมูลค่าของสกุลเงินในประเทศ เพื่อให้สินค้าออกของประเทศมีราคาถูกลงในมุมมองของผู้ซื้อต่างชาติและส่งผลให้สินค้านำเข้ามีราคาแพงขึ้นนั้น ซึ่งกลยุทธ์นี้ช่วยกระตุ้นการเติบโตและเงินเฟ้อ ซึ่งในกรณีของญี่ปุ่นถือเป็นเรื่องที่เหมาะสม หลังจากที่ต้องเผชิญกับภาวะเงินฝืดมาเป็นเวลานาน

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่กลยุทธ์ดังกล่าวเป็นการผลักภาระให้ประเทศเพื่อนบ้าน ถ้าประเทศหนึ่งเกินดุลมากขึ้นก็เท่ากับว่าต้องมีประเทศที่ขาดดุลสูงขึ้น ซึ่งคราวนี้ประเทศตลาดเกิดใหม่รับผลพวงไปเต็มๆ

ระบบเศรษฐกิจในแบบของนายอาเบะ หรือ "อาเบะโนมิคส์" ส่งผลให้เงินเยนมีความผันผวนสูงก่อนที่กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ หรือ จี7 จะออกแถลงการณ์เพื่อสร้างความชัดเจนในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน โดยอัตราแลกเปลี่ยนจะเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่สำหรับผู้นำคนต่อไปที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนนายชิรากาวา

 

จุดแข็งของตัวเก็งที่คาดว่าจะได้รับการเสนอชื่อ

 

นักวิเคราะห์มองว่า นายคุโรดะมีประสบการณ์ด้านต่างประเทศอย่างกว้างขวางจากการทำงานในตำแหน่งประธานเอดีบี ซึ่งนายอาเบะมองว่ามีความสำคัญ ในขณะที่นายมูโตะมีประสบการณ์ทั้งในรัฐบาลและบีโอเจ และนายอิวาตะก็มีความเชี่ยวชาญในเรื่องเศรษฐกิจซึ่งทำให้เขาถูกมองว่าเป็นตัวเก็งที่มีความเหมาะสมมากที่สุด

สุดท้าย ไม่ว่าใครจะได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้ว่าบีโอเจคนต่อไป ทีมงาน In focus ก็เชื่อว่าจะสามารถทำงานตอบสนองนโยบายของนายอาเบะได้เป็นอย่างดี พร้อมกับนำพาญี่ปุ่นผ่านพ้นภาวะงินฝืดไปได้อย่างราบรื่นตามเป้าหมายของรัฐบาล

อินโฟเควสท์ โดย เกตุ โนนทิง/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 13, 2013 โดย ginger

[ginger 11,058]

ตลาดหุ้นไทยเข้าภาวะกระทิงดุ ทำสถิติสูงสุดในรอบ 18 ปี แม้มีแรงเก็งกำไรหุ้นขนาดใหญ่ ขณะที่วอลุ่มสุดร้อนแรง เทรดกันหนัก 7.2 หมื่นล้านบาท

ภาวะการลงทุนตลาดหุ้นไทยวันนี้ (13 ก.พ.) ดัชนีภาคบ่ายยังคงทะยานตัวในแดนบวกตามตลาดต่างประเทศ ท่ามกลางแรงเก็งกำไรหุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากเงินทุนไหลเข้า โดยพบว่าระหว่างชั่วโมงการซื้อขายดัชนีปรับตัวไปแตะระดับสูงสุดที่ 1,516.21 จุด พุ่งขึ้นเกือบ 27 จุด ทำสถิติสูงสุดในรอบ 18 ปี ครั้งใหม่

ขณะเดียวกัน นักลงทุนบางส่วนยังประเมินว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 20 ก.พ.นี้ น่าจะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เพื่อสกัดเงินทุนไหลเข้า หลังจากที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง ออกมาส่งสัญญาณหลายรอบ และในวันนี้ก็ออกมาส่งสัญญาณอีก

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 16.29 น. ดัชนีอยู่ที่ระดับ 1,512.04 จุด เพิ่มขึ้น 23.09 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +1.55% มูลค่าการซื้อขาย 67,155.17 ล้านบาท

ล่าสุด ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดที่ 1,514.11 จุด เพิ่มขึ้น 25.16 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +1.69% มูลค่าการซื้อขาย 72,023.79 ล้านบาท

MG

[ginger 11,058]

เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-สตีฟ ฟอร์บส์ ประธานและซีอีโอนิตยสารการเงินและธุรกิจ “ฟอร์บส์” เปิดใจให้สัมภาษณ์พิเศษกับสถานีโทรทัศน์ “นิวส์แมกซ์” ของกลุ่มอนุรักษนิยมในสหรัฐฯในวันอังคาร(12)โดยระบุ หากเปรียบเทียบประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯเป็นแพทย์ โอบามาก็ถือเป็นแพทย์ที่แย่คนหนึ่งที่รังแต่จะเพิ่มความเจ็บปวดให้กับผู้ป่วย แทนที่จะรักษาอาการป่วยให้หายขาด

ฟอร์บส์ วัย 65 ซึ่งเคยชิงชัยระดับ “ไพรมารี” เพื่อเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกัน ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯปี 1996 และ 2000 ระบุว่า โอบามา ผู้นำสหรัฐฯจากพรรคเดโมแครตล้มเหลวไม่เป็นท่า ในการสร้างงานให้กับชาวอเมริกันและเยียวยาปัญหาทางเศรษฐกิจ ไม่ต่างจาก “หมอที่ไร้ฝีมือ” ที่ดีแต่จะสร้างปัญหาสุขภาพเพิ่มเติมให้กับคนไข้ แทนที่จะรักษาอาการป่วยที่มีอยู่เดิมให้หายขาด

“หากเปรียบโอบามาเป็นหมอ เขาก็ไม่ต่างจากหมอที่รักษาโรคไม่เป็น ดีแต่จะทำให้คนไข้อาการทรุดหนักกว่าเดิม และหากเปรียบประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นรถที่วิ่งบนถนนซูเปอร์ไฮเวย์ รถคันนี้ยังคงวิ่งอยู่ที่ความเร็ว 30 ไมล์ต่อชั่วโมงและดูจะวิ่งช้าลงเรื่อยๆ ในยุคของโอบามา ทั้งที่รถคันนี้ควรจะวิ่งได้ 70-80 ไมล์ต่อชั่วโมง” ฟอร์บส์กล่าว

ฟอร์บส์ยังเผยว่า การเรียกเก็บภาษีที่สูงขึ้นกับบรรดาผู้มีฐานะมั่งคั่งในสหรัฐฯ จะส่งผลเสียอย่างร้ายแรงต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยระบุ โอบามาไม่ควรลืมว่า พวกเศรษฐีทั้งหลาย คือ ผู้มีบทบาทสำคัญยิ่งในการจ้างงานหรือสร้างตำแหน่งงานใหม่แก่ชาวอเมริกัน

ดังนั้น การเก็บภาษีเพิ่มจากคนรวยตามแนวทางที่โอบามาและพรรคเดโมแครตพยายามผลักดันอยู่ จะส่งผลกระทบต่อภาวะการว่างงานในประเทศให้ยิ่งเลวร้ายลงไปอีก พร้อมเตือนว่านโยบายด้านสุขภาพ “โอบามาแคร์” จะก่อให้เกิดกระแสต่อต้านครั้งใหม่ลุกลามไปทั่วสหรัฐฯ เช่นเดียวกับการเคลื่อนไหวของพวก “ที ปาร์ตี” ในช่วงที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ท่าทีล่าสุดของสตีฟ ฟอร์บส์มีขึ้นในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับที่ทำเนียบขาวเพิ่งออกมาเปิดเผยว่า รัฐบาลโอบามาสามารถสร้างงานให้กับคนอเมริกันได้กว่า 6.1 ล้านตำแหน่งตลอดระยะเวลา 36 เดือนที่ผ่านมา แม้ตำแหน่งงานส่วนใหญ่ จะเป็นตำแหน่งงานระดับล่างที่มีค่าตอบแทนต่ำก็ตาม

[wann 334]

[ginger 11,058]

 

คิดถึงจัง

put ด้วยนะ

HSH

 

[ginger 11,058]

Doug Casey interviews Peter Schiff

 

 

[ginger 11,058]

PostToday

 

 

เอสเอ็มอีแบงก์ ยอมรับ โครงการรัฐมีส่วนสร้างหนี้เสีย ผนวกสารพัดวิกฤต "เศรษฐกิจ-ภัยพิบัติ" ซ้ำเติมปัญหา http://bit.ly/YcrIqo

 

[NEWS 2,613]

สวัสดีครับคุณ.. Ginger กระต่ายทอง bmw2770 baskie30 TraderJunior Gejen raty Pasaya Pa’ree พวงชมพู fung เด็กสยาม GoldOfCourse dep99 bbeam pps.aon Chez Moddang ปุยเมฆ ตังเม ย่าหยา Chinchilla Mr.Li Ohshikung แสงแดด put42 mateenee ลูกน้ำเค็ม เฟิร์ส Silver&Gold Goldbullish jojosung NOT4545 หัดเล่นgf firework SixMun ขุนศึกปทุม และทุกท่านครับ

กราฟรายวันตอนนี้เป็นแดงแท่งห้าครับ

ล่าสุดราคาต่ำสุด 1640 ราคาสูงสุด1653

ราคาขณะนี้อยู่ที่ 1643.x ครับ

 

สัญญานหลักแบลคคิง ทิศทาง sideway down ครับ

RSI Price Line เส้นเขียว 40.28 วิ่งมา 37.13 ตอนนี้อยู่ต่ำกว่าเส้นแดงและค่ำกว่าเส้นเหลืองครับ อยู่ต่ำกว่า50 ครับ

Trade Signal Line เส้นแดง 45.14 มา 42.88 ครับอยู่ต่ำกว่า 50 ครับ

Market base Line เส้นเหลือง 45.84 มา 45.81 ครับ

เส้นแดงลดครับ

 

 

สัญญานรองQQE ทิศทาง sideway down

เส้นฟ้า 42.71 มา 40.57 อยู่ต่ำกว่าเส้นประเหลืองครับ

เส้นประเหลือง 48.61 มา 48.49 ครับอยู่สูงกว่าเส้นฟ้าครับ

(เส้นเหลืองถ้าคงที่นานๆ จะแสดง side way หรือกลับตัวและ

ถ้าทิศทางลงจะเด้งไปอยู่สูงกว่าเส้นฟ้าทันทีถ้าขึ้นจะลงมาต่ำกว่าเส้นฟ้าทันที)

แนวต้าน 1652 1666 1675 1683

แนวรับ 1640 1635 1627 1620

ภาพรวมๆจากสัญญานราคา sideway down ครับ

 

 

ขอให้โชคดีครับ

ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 14, 2013 โดย news

[bmw2770 479]

สวัสดีมือใหม่หัดวิฯทุกท่านฯ ปิดแท่งเมื่อวานนี้ยังแดงอยู่ครับ

ถือ สั้นนนน สั้น ต่อไปตามสูตรครับเจ้านายยย

[ginger 11,058]

 

 

ความรักอยู่รอบตัวเรา

 

กระพริบส่องประกายระยิบระยับ

 

ให้เห็นอยู่เสมอ ทุกวี่วัน

 

รักไหนก็ไม่สำคัญเท่ารักที่มี.. ...

 

ส่วนผสม หัวใจ สมอง และสติที่ช่วยให้รักสมดุล

 

เป็นรักที่ เบิกบานหวานพอดี

 

ในชีวิตประจำวัน รัก รอบล้อมเราอยู่เสมอ

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ 2556 07:48:58 น.

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ม.ค.) ขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทเอกชน รวมถึงไฮเนเก้น และเปอร์โยต์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนที่ขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาด

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.4% ปิดที่ 288.27 จุด

ดัชนี CAC-40 ปิดตลาดฝรั่งเศสที่ 3698.53 บวก 11.95 จุด ดัชนี DAX ปิดตลาดเยอรมนีที่ 7711.89 บวก 51.70 จุด ดัชนี FTSE 100 ปิดตลาดลอนดอนที่ 6359.11 บวก 20.73 จุด

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากที่ตลาดปรับตัวขึ้นเป็นเวลาหลายวันก่อนหน้านี้ ขณะที่ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซาเนื่องจากจากนักลงทุนไม่ให้น้ำหนักกับการแถลงนโยบายประจำปีของประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 35.79 จุด หรือ 0.26% แตะที่ 13,982.91 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.9 จุด หรือ 0.06% แตะที่ 1,520.33 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 10.38 จุด หรือ 0.33% ปิดที่ 3,196.88 จุด

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายทำกำไร นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะรับทราบผลการประชุมรมว.คลังกลุ่ม G-20 ในช่วงสุดสัปดาห์นี้

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 4.5 ดอลลาร์ หรือ 0.27% ปิดที่ 1,645.1 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 15 เซนต์ ปิดที่ 30.869 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 0.15 เซนต์ ปิดที่ 3.7425 ดอลลาร์/ปอนด์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 12.5 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,729.7 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) ขานรับผลผลิตภาคอุตสาหกรรมยูโรโซนที่ขยายตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะรับทราบผลการประชุมรมว.คลังกลุ่ม G-20 ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3449 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.3442 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.5442 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5653 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9157 ฟรังค์ จากระดับ 0.9178 ฟรังค์ แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 93.47 เยน จากระดับ 93.53 เยน

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ความต้องการน้ำมัน และสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ซบเซา อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงเพียงเล็กน้อยเพราะตลาดได้รับแรงหนุนจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นไม่มากเท่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 50 เซนต์ ปิดที่ 97.01 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 96.63-98.11 ดอลลาร์

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค.ที่ตลาดลอนดอน ขยับขึ้น 6 เซนต์ ปิดที่ 118.72 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 118.39-119.12 ดอลลาร์

 

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ม.ค.) ขานรับผลผลิตภาคอุตสาหกรรมยูโรโซนที่ขยายตัวได้ดีเกินคาด

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 20.73 จุด หรือ 0.33% แตะที่ 6,359.11 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 6,311.59-6,384.70 จุด

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองคำปิดร่วง 4.5 ดอลลาร์จากแรงขายทำกำไร

 

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ 2556 06:57:02 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายทำกำไร นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะรับทราบผลการประชุมรมว.คลังกลุ่ม G-20 ในช่วงสุดสัปดาห์นี้

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 4.5 ดอลลาร์ หรือ 0.27% ปิดที่ 1,645.1 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 15 เซนต์ ปิดที่ 30.869 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 0.15 เซนต์ ปิดที่ 3.7425 ดอลลาร์/ปอนด์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 12.5 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,729.7 ดอลลาร์/ออนซ์

นักลงทุนยังคงเดินหน้าเทขายสัญญาทองคำ ซึ่งส่งผลให้ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันหลังจากสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกขยายตัวเพียง 0.1% แตะที่ระดับ 4.166 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค. ซึ่งชะลอตัวลงจากที่ขยายตัว 0.5% ในเดือนธ.ค. เนื่องจากมาตรการขึ้นภาษีและราคาน้ำมันที่สูงขึ้นทำให้ผู้บริโภคใช้จ่ายน้อยลง

นักลงทุนจับตาดูการประชุม G-20 ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เพื่อดูว่าที่ประชุมจะมุ่งเน้นในเรื่องนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนหรือไม่ หลังจากนายเจอโรน ดิจเซลโบลม ประธานยูโรกรุ๊ป กล่าวว่าการแข็งค่าของเงินสกุลเงินยูโรในระยะนี้เป็นหนึ่งในหัวข้อการหารือของที่ประชุม G-20

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรแข็งค่าขานรับผลผลิตอุตสาหกรรมยูโรโซนขยายตัว

 

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ 2556 07:31:46 น.

สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) ขานรับผลผลิตภาคอุตสาหกรรมยูโรโซนที่ขยายตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะรับทราบผลการประชุมรมว.คลังกลุ่ม G-20 ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3449 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.3442 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.5442 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5653 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9157 ฟรังค์ จากระดับ 0.9178 ฟรังค์ แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 93.47 เยน จากระดับ 93.53 เยน

นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะรับทราบผลการประชุมรมว.คลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่มประเทศ G-20 โดยมีการคาดการณ์ว่าที่ประชุมจะหารือกันเกี่ยวกับการอ่อนค่าของสกุลเงินเยน

ส่วนในการประชุม G-7 นั้น ที่ประชุม ที่ประชุมได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะหลีกเลี่ยงการใช้นโยบายการเงินเพื่อควบคุมอัตราแลกเปลี่ยน

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนตัวผันผวน หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงยอดค้าปลีกขยายตัวเพียง 0.1% แตะที่ระดับ 4.166 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค. ซึ่งชะลอตัวลงจากที่ขยายตัว 0.5% ในเดือนธ.ค. เนื่องจากมาตรการขึ้นภาษีและราคาน้ำมันที่สูงขึ้นทำให้ผู้บริโภคใช้จ่ายน้อยลง

ส่วนสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจของสหรัฐขยายตัว 0.1% สู่ระดับ 1.623 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค. ซึ่งต่ำกว่าเดือนพ.ย.ที่ขยายตัว 0.2% และถือว่าขยายตัวช้าที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว

สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท ระบุว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมในยูโรโซนขยายตัวขึ้น 0.7% ในเดือนธ.ค.2555 จากเดือนพ.ย.ที่ลดลง 0.7% โดยเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนส.ค. และหากเทียบกับเดือนธ.ค.2554 ผลผลิตอุตสาหกรรมใน 17 ประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรลดลง 2.4%

ในส่วนของทั้งอียูซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 27 ประเทศนั้น การผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 0.5% จากเดือนพ.ย. และลดลง 2.3% เมื่อเทียบกับเดือนธ.ค.2554

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดลบ 50 เซนต์ หลัง IEA ลดคาดการณ์อุปสงค์

 

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ 2556 07:43:45 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ความต้องการน้ำมัน และสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ซบเซา อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงเพียงเล็กน้อยเพราะตลาดได้รับแรงหนุนจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นไม่มากเท่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 50 เซนต์ ปิดที่ 97.01 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 96.63-98.11 ดอลลาร์

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค.ที่ตลาดลอนดอน ขยับขึ้น 6 เซนต์ ปิดที่ 118.72 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 118.39-119.12 ดอลลาร์

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับฐานลงหลังจาก IEA คาดว่า ความต้องการน้ำมันในตลาดโลกอาจจะเพิ่มขึ้นเพียง 840,000 บาร์เรลต่อวันในปี 2556 โดยปรับลดลงจากตัวเลขคาดการณ์ครั้งก่อนราว 90,000 บาร์เรลต่อวัน หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ปรับลดตัวเลขคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกลงสู่ 3.5% จาก 3.6%

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกขยายตัว 0.1% แตะที่ระดับ 4.166 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค. ชะลอตัวลงจากที่ขยายตัว 0.5% ในเดือนธ.ค. เนื่องจากมาตรการขึ้นภาษีและราคาน้ำมันที่สูงขึ้นทำให้ผู้บริโภคใช้จ่ายน้อยลง

อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ขยับลงเพียงเล็กน้อย หลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 ก.พ.เพิ่มขึ้นเพียง 560,000 บาร์เรล แตะที่ 372.2 ล้านบาร์เรล ซึ่งเพิ่มขึ้นไม่มากเท่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะพุ่งขึ้น 2.9 ล้านบาร์เรล

ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นร่วงลง 3.68 ล้านบาร์เรล แตะที่ 125.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 800,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 803,000 บาร์เรล แตะที่ 233.2 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่คาดว่าจะทรงตัว ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันร่วงลง 0.4% แตะที่ 83.8% มากกว่าที่คาดว่าจะลดลงเพียง 0.2%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 14, 2013 โดย ginger

[ginger 11,058]

สหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด 560,000 บาร์เรล

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ 2556 07:51:12 น.

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 ก.พ.เพิ่มขึ้นเพียง 560,000 บาร์เรล แตะที่ 372.2 ล้านบาร์เรล ซึ่งเพิ่มขึ้นไม่มากเท่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะพุ่งขึ้น 2.9 ล้านบาร์เรล

ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นร่วงลง 3.68 ล้านบาร์เรล แตะที่ 125.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 800,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 803,000 บาร์เรล แตะที่ 233.2 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่คาดว่าจะทรงตัว ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันร่วงลง 0.4% แตะที่ 83.8% มากกว่าที่คาดว่าจะลดลงเพียง 0.2%

สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ที่ได้รายงานในข้างต้นนั้น ไม่นับรวมกับน้ำมันในคลังยุทธภัณฑ์สำรอง (Strategic Petroleum Reserve - SPR) ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ปริมาณ 697 ล้านบาร์เรล โดยรัฐบาลสหรัฐจะระบายน้ำมันออกจากคลังดังกล่าวก็ต่อเมื่อเกิดภาวะอุปทานตึงตัวที่เป็นผลมาจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ การโจมตีของผู้ก่อการร้าย และสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมือง

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th

 

ราคาทองคำฮ่องกงเปิดตลาดวันนี้ ดิ่งลงแตะ 15,238 HKD/tael

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ 2556 08:37:25 น.

สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงดิ่งลง 322 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 15,238 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,648.33 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 34.83 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้

 

 

 

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ศศิประภา อัครภูติ/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-

 

ญี่ปุ่นเผย GDP Q4/55 หดตัวลง 0.4% หลังส่งออก,การลงทุนภาคเอกชนชะลอตัว

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ 2556 08:23:40 น.

รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในไตรมาส 4/2555 หดตัวลง 0.4% ซึ่งเป็นการหดตัวติดต่อกัน 3 ไตรมาส เนื่องจากยอดส่งออกและการลงทุนภาคธุรกิจชะลอตัวลง

จีดีพีไตรมาส 4 ออกมาสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ในโพลล์เกียวโดคาดว่าจะขยายตัว 0.6% ซึ่งเป็นการตอกย้ำมุมมองที่ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกได้รับผลกระทบจากภาวะถดถอย ท่ามกลางเศรษฐกิจทั่วโลกที่ชะลอตัวลง

รายงานของรัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า การอุปโภคบริโภคในภาคเอกชนซึ่งมีสัดส่วนมากที่สุดในการคำนวณจีดีพีนั้น ขยายตัว 0.4% ขณะที่การลงทุนในตลาดที่อยู่อาศัย ขยายตัว 3.5% แต่การลงทุนในภาคธุรกิจหดตัวลง 2.6% ซึ่งเป็นการหดตัวลงติดต่อกัน 4 ไตรมาส และยอดการส่งออกหดตัวลง 3.7%

ส่วนในปี 2555 จีดีพีญี่ปุ่นขยายตัว 1.9% จากปี 2554 ซึ่งเป็นการขยายตัวครั้งแรกในรอบ 2 ปี

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

ราคานำเข้าและส่งออกสหรัฐปรับตัวขึ้นในเดือนม.ค.

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ 2556 08:36:35 น.

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยวานนี้ว่า ราคานำเข้าสินค้าในเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกนับแต่เดือนต.ค. จากราคาพลังงานที่พุ่งขึ้น 2.9%

หากไม่รวมราคาพลังงาน ราคานำเข้าเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนม.ค.

แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดือนม.ค.ปี 2555 ราคานำเข้าปรับตัวลง 1.3%

ส่วนราคาส่งออกเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนม.ค.

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

[ginger 11,058]

ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT: สัญญาธัญพืชปิดปรับตัวไร้ทิศทาง

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ 2556 08:35:16 น.

ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) สัญญาข้าวสาลีและถั่วเหลืองดีดขึ้น ขณะที่ราคาข้าวโพดลดลงเล็กน้อย

สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนมี.ค.ปรับตัวลง 0.75 เซนต์ หรือ 0.11% ปิดที่ 6.955 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดปรับตัวสูงขึ้น 3.5 เซนต์ หรือ 0.48% แตะที่ 7.355 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนมี.ค.ปรับตัวสูงขึ้น 2.25 เซนต์ หรือ 0.16% ปิดที่ 14.23 ดอลลาร์/บุชเชล

สัญญาข้าวโพดปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย จากแรงหนุนของรายงานปริมาณการผลิตน้ำมันเอธานอลประจำสัปดาห์ ซึ่งระบุว่ากำลังผลิตของสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 8 ก.พ. เฉลี่ยอยู่ที่ 789,000 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 1.9% จากสัปดาห์ก่อน แต่ลดลง 15% เมื่อเทียบรายปี โดยมีปริมาณการผลิตตลอดสัปดาห์ 5.5 ล้านบาร์เรล สำหรับข้าวโพดที่ใช้ในการผลิตเอธานอลสัปดาห์ที่แล้วประมาณการที่ 82.9 ล้านบุชเชล เมื่อเทียบกับ 81.3 ล้านบุชเชลในสัปดาห์ก่อนหน้า และปริมาณข้าวโพดที่ใช้ในปีการผลิตปัจจุบันอยู่ที่ 1.95 พันล้านบุชเชล

ส่วนสัญญาข้าวสาลีดีดขึ้นเมื่อคืนนี้หลังจากร่วงลงตลอดทั้งสัปดาห์ ขณะที่นักลงทุนคาดว่ารายงานภาวะการส่งออกที่จะเปิดเผยในคืนนี้มีแนวโน้มสดใส แม้มีการพยากรณ์อากาศว่าในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า บริเวณที่ราบตะวันตกและเขตคอนเบลท์ตะวันออกของสหรัฐจะมีสภาพอากาศเหมาะสมนั้น สร้างแรงกดดันให้ราคาข้าวสาลีอย่างต่อเนื่องก็ตาม

ทางด้านสัญญาถั่วเหลืองปรับตัวสูงขึ้นจากแรงซื้อชดเชย

ทั้งนี้ แม้แนวโน้มสภาพอากาศที่ดีขึ้นและมุมองผลผลิตในบราซิลที่สดใสจะสร้างแรงกดดันให้แก่สัญญาถั่วเหลืองก็ตาม แต่ฝนที่ตกในบราซิลยังคงทำให้การเก็บเกี่ยวในพื้นที่เพาะปลูกถั่วเหลืองสำคัญล่าช้าอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งด้วยเหตุที่บราซิลมีเรือหลายลำสะสมอยู่ที่ท่าเรือสำคัญๆเพื่อรอบรรทุกผลผลิต จึงทำให้อุปสงค์เปลี่ยนมาอยู่ที่สหรัฐ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

ธนาคารกลางเกาหลีใต้มีมติคงอัตราดอกเบี้ย 2.75% ในการประชุมวันนี้

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ 2556 08:20:43 น.

ธนาคารกลางเกาหลีใต้มีมติคงอัตราดอกเบี้ย 2.75% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นการตรึงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th