มือใหม่หัดวิเคราะห์

[ginger 11,058]

MTS GOLD

ธนาคารกลางต่างๆได้เพิ่มการถือครอง 17% สู่ระดับ 534.6 ตันปีที่แล้ว "ทั้งปี" ตามข้อมูลของสภาทองคำโลก

 

ขณะที่ ETPs ได้ลดการถือครองสู่ระดับต่ำสุด 2,491.5 ตันในวันที่ 5 มี.ค. จากระดับสูงสุด 2,632.50 ตันในวันที่ 20 ธ.ค. หรือลดลง 141 ตัน ส่วน SPDR ได้ลดการถือครอง 55% หรือ 105.96 ตันในไตรมาสที่ 4 จากระดับสูงสุดวันที่ 31 ธ.ค. ที่ 1,350.82 ตันสู่ระดับล่าสุด 1,244.86 ตัน รวม SPDR และ ETPs ขายรวมแล้วตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 เป็น 209.96 ตัน "ในเวลาเพียงประมาณ 2 เดือน"

 

Credit Suisse กล่าวว่า ทางด้านผู้ขายมองว่าวงจรราคาทองคำอาจจะกลับตัวลง เนื่องจากการฟื้นตัวของสหรัฐ และการลดการถือครองทองคำ ขณะที่ฝั่งธนาคารกลางต่างๆนั้นไม่ได้สนใจถึงราคาทองคำ เนื่องจากต้องการเพียงรักษาสมดุลที่ดีของพอร์ตเท่านั้น

 

ที่มา : Bloomberg

 

 

[luck 512]

สวัสดีและขอบคุณมากค่ะ คุณginger news chez bmw bas+trader+น้องบีม ต่ายทอง ย่าหยา พี่มดแดง พี่แสงแดด fung goldtoy กบจ้า

gejen auntnextdoor Pa'ree juy จูกัดเหลียง ปุยเมฆ ตังเม เด็กสยาม wann put กัปตัน เกี้ยมอี๋และทุกๆคนค่ะ

โชคดี มีสุขค่ะ

[ginger 11,058]

Thailand Investment Forum

ค่าเงินบาท ณ 15.56น. = 29.71 บาท/USD ถ้ายังอยู่ที่ระดับนี้่ต่อไปหรือต่ำลงกว่านี้ ก็จะเป็นราคาปิดต่ำสุด (แข็งค่าสุด) ในกรอบเวลา Weekly ... ส่วนราคาต่ำสุดในการซื้อขายระหว่างสัปดาห์ก่อนๆ คือ 29.60 บาท/USD (แตะ 29.60 แล้วเด้งขึ้นมาปิดสูงขึ้น)

 

สาเหตุหลักที่ทำให้ค่าเงินบาทแข็ง

 

1) การส่งออกขยายตัว ... ผู้ส่งออกต้องการแลกเงินต่างประเทศที่ได้จากการขายสินค้า กลับมาเป็นเงินบาท

 

2) กระแสเงินทุนไหลเข้าเพื่อการลงทุน ... ผู้ที่ถือเงินต่างประเทศ ต้องการแลกมาเป็นเงินบาท เพื่อซื้อหลักทรัพย์ไทย

 

3) ค่าเงิน USD อ่อนค่าลงเอง ... ทำให้ค่าเงินบาทแข็งขึ้นโดยปริยาย (เมื่อปัจจัยอื่นคงที่)

 

ซึ่งเท่าที่ดู USD Index (ดัชนีที่ใช้ดูค่าเงิน USD โดยเฉลี่ย เมื่อเทียบกับเงินสกุลสำคัญต่างๆ ของโลก) ในช่วง 2-3 สัปดาห์ล่าสุด กลับแข็งค่าขึ้นด้วยซ้ำ ก็พอจะแปลได้ว่า ค่าเงินบาทที่แข็ง มาจากปัจจัยข้อ 1 และ 2 เป็นสำคัญ แถมยังแข็งแบบชนะการแข็งค่าของตัว USD เองอีกด้วย

 

 

[ginger 11,058]

ดีค่ะ มือใหม่ แฟนๆ ไทยโกลด์และเพื่อนนักลงทุน

พละกำลัง พลัง คือ ความแข็งของจริยะธรรมในจิตสำนึก

จิตที่มีพลัง คือ จิตที่ฝึกให้รู้ตัว มีสติ

ร่างกายที่แข็งแรง มาจากการมั่นออกกำลังกาย+ใจ

การดูแลใส่ใจ ทานอาหารที่ดี พอเหมาะ

และอื่นๆๆ ^______^

 

World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 6 มีนาคม 2556

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 6 มีนาคม 2556 17:00:00 น.

ประธานาธิบดีฮูโก ชาเวซ ของเวเนซูเอล่า ได้เสียชีวิตแล้ว ด้วยวัย 58 ปี หลังจากที่ล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งมาเป็นเวลานาน จนไม่สามารถปรากฎตัวในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 4 เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา

-- ศูนย์วิจัยด้านสังคมวิทยาของสเปนเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสเปนปรับตัวลง 5 จุดในช่วงเดือนม.ค.และก.พ. โดยดัชนีดังกล่าวนับเป็นปัจจัยชี้วัดที่จะช่วยประเมินพฤติกรรมของผู้บริโภคในอนาคต รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้นของอุปสงค์ภายในประเทศและผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

-- ความไม่แน่นอนทางการเมืองได้ก่อให้เกิดความไม่แน่นอนในตลาดนอกเหนือจากภูมิภาคยุโรป หลังการเลือกตั้งทั่วไปของอิตาลีที่ไม่มีข้อสรุป เนื่องจากไม่มีพรรคใดได้ครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา

-- กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยในเว็บไซต์กระทรวงวันนี้ว่า รายได้ทางการคลังของจีนในช่วง 2 เดือนแรกของปีที่นี้อยู่ที่ 2.2426 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้น 7.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี

-- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ได้เปิดฉากการประชุมนโยบายเป็นวันแรกในวันนี้ โดยคาดว่าที่ประชุมจะยังคงนโยบายการเงินไว้เช่นเดิม เนื่องจากเศรษฐกิจส่งสัญญาณของการฟื้นตัวขึ้น

-- ธนาคารกลางเกาหลีใต้เพิ่มการถือครองทองคำในเดือนก.พ. เพื่อกระจายความเสี่ยงในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ เนื่องจากความเสี่ยงขั้นรุนแรงมีโอกาสเกิดมากขึ้น

-- เจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงอุตสาหกรรมไอทีจีนเผยจีนมีแนวโน้มว่า จะเริ่มออกใบอนุญาตมือถือ 4G ให้แก่ผู้ให้บริการโทรคมนาคมได้ภายในปีนี้

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) เปิดเผยในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของออสเตรเลียขยายตัว 0.6% ในไตรมาส 4/2555 ซึ่งช่วยหนุนจีดีพีตลอดปี 2555 ให้ขยายตัวที่ระดับ 3.1%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

 

ผลเลือกตั้งไม่ชัดเจนป่วนการเมืองอิตาลีวุ่นวายหนัก อาจถึงขั้นเลือกตั้งใหม่

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 6 มีนาคม 2556 14:08:06 น.

ความไม่แน่นอนทางการเมืองได้ก่อให้เกิดความไม่แน่นอนในตลาดนอกเหนือจากภูมิภาคยุโรป หลังการเลือกตั้งทั่วไปของอิตาลีที่ไม่มีข้อสรุป เนื่องจากไม่มีพรรคใดได้ครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา

พรรค Five Star Movement (M5S) ที่นำโดยนายเบปเป้ กริลโล ได้คะแนนเสียงกว่า 1 ใน 4 ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24-25 ก.พ.ที่ผ่านมา

ส่วนพรรค People of Freedom (PdL) ซึ่งเป็นพรรคกลาง-ขวาที่นำโดยอดีตนายกรัฐมนตรีซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี และพรรค Democratic Party (PD) ซึ่งเป็นพรรคกลาง-ซ้ายภายใต้การนำของนายปิแอร์ ลุยจิ เบอร์ซานี ได้สูญเสียคะแนนเสียงไป 12 ล้านคะแนน เมื่อเทียบกับผลการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2551

พรรคของนายเบอร์ซานีได้รับชัยชนะในสภาผู้แทนราษฎร แต่มีเสียงสนับสนุนไม่มากพอในวุฒิสภา ซึ่งทำให้การเป็นพันธมิตรกับพรรคคู่แข่งเป็นเพียงทางเลือกเดียวที่จะเลี่ยงการจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่

นายเบอร์ซานีได้เน้นย้ำถึงท่าทีต่อต้านการมีรัฐบาลนักวิชาการอีกครั้ง แบบเดียวกับรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีมาริโอ มอนติ ที่กำลังจะพ้นจากตำแหน่ง รวมทั้งปฏิเสธการร่วมรัฐบาลกับพรรคกลาง-ขวาของนายแบร์ลุสโคนี นั่นทำให้เสียงสนับสนุนจากนายกริลโลกเป็นเพียงทางออกเดียว

“เราไม่ยินดีที่จะสนับสนุนการมีรัฐบาลร่วมกับพรรคฝ่ายขวา และหากนายกริลโลไม่ให้การสนับสนุนรัฐบาลใดๆ เราก็จะมีการเลือกตั้งใหม่ แม้ว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่อิตาลีต้องการ" นายสเตฟาโน ฟาสสินา โฆษกพรรค PD กล่าว

แม้ว่าผู้สนับสนุนนายกริลโลจำนวนมากจะเห็นพ้องกับข้อเสนอของพรรค PD แต่นายกริลโลกลับดับความหวัง โดยกล่าวว่าแนวทางของเขาแตกต่างจากพรรคการเมืองเก่าๆ ดังนั้นจึงไม่ต้องการที่จะร่วมมือกับพรรคการเมืองพรรคใด แม้ว่าพรรคของเขาอาจจะสนับสนุนกฎหมายรายมาตรา

ทางด้านนายแบร์ลุสโคนี ซึ่งได้คะแนนเสียงดีเกินคาดแม้เผชิญกับหลายหลายเรื่องอื้อฉาวนั้น กำลังหวังให้การหารือระหว่างพรรคกลาง-ซ้ายและพรรค M5S ประสบความล้มเหลว และเสนอให้มีการจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลของทั้งพรรคกลาง-ซ้ายและพรรคกลาง-ขวา ก่อนการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่อาจจะมีขึ้นในเดือนพ.ค.

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การเลือกตั้งครั้งใหม่อาจจะทำให้อิตาลีมีค่าใช้จ่ายราว 500 ล้านยูโร

Witschaftswoche ซึ่งเป็นนิตยสารธุรกิจรายสัปดาห์ของเยอรมนี ระบุว่าความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจของอิตาลีได้ย้ำเตือนถึงความวุ่นวายที่กรีซเคยเผชิญเมื่อหลายปีก่อน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

แบงก์ชาติเกาหลีใต้เพิ่มการถือครองทองคำเพื่อกระจายความเสี่ยงทุนสำรองตปท.

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 6 มีนาคม 2556 14:59:01 น.

ธนาคารกลางเกาหลีใต้เพิ่มการถือครองทองคำในเดือนก.พ. เพื่อกระจายความเสี่ยงในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ เนื่องจากความเสี่ยงขั้นรุนแรงมีโอกาสเกิดมากขึ้น

แถลงการณ์ของธนาคารเกาหลีเปิดเผยในวันนี้ว่า ธนาคารกลางได้ซื้อทองคำแท่งน้ำหนักรวม 20 ตันในเดือนก.พ. ทำให้การถือครองเพิ่มขึ้นเป็น 104.4 ตัน เทียบเท่า 1.5% ของทุนสำรองเงินตราต่างประเทศทั้งหมด

เงินจำนวนทั้งสิน 1.03 พันล้านดอลลาร์สหรัฐใช้ไปในการซื้อทองคำ และสัดส่วนของทองคำในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนที่แล้ว

ภายหลังการถือครองทองคำเพิ่มแล้ว ประเมินว่าธนาคารกลางเกาหลีใต้จะติดในอันดับ 34 จากธนาคารกลางทั่วโลกในแง่ของการถือครองทองคำ เพิ่มขึ้น 2 ขั้นจากเดือนก่อนหน้า

ทั้งนี้ ธนาคารเกาหลีใต้เพิ่มสัดส่วนการถือครองทองคำอย่างต่อเนื่องในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา โดยทางธนาคารได้เพิ่มทองคำ 40 ตันในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศในปี 2554 ก่อนที่จะซื้อทองคำอีก 30 ตันในปี 2555 สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์จีน: สินค้าโภคภัณฑ์เกษตรปรับฐานลงเล็กน้อยในวันนี้

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 6 มีนาคม 2556 16:49:18 น.

สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรที่ตลาดต้าเหลียนและตลาดเจิ้งโจวปรับตัวลดลงในวันนี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อสกัดช่วงขาขึ้นของตลาด

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งนักลงทุนเชื่อว่า CPI เดือนก.พ. จะขยายตัวสูงกว่าที่คาดไว้

สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ย. ที่ตลาดต้าเหลียนปิดลบ 0.13% ที่ 4,762 หยวน/ตัน ขณะที่สัญญากากถั่วเลืองส่งมอบเดือนก.ย. ปิดที่ 3,398 หยวน/ตัน ลดลง 0.44%

ด้านสัญญาน้ำมันถั่วเหลืองขยับขึ้น 0.07% ปิดที่ 8,346 หยวน/ตัน ส่วนสัญญาน้ำมันปาล์มลดลง 0.21% ปิดที่ 6,612 หยวน/ตัน

น้ำมันถั่วเหลืองที่ตลาดต้าเหลียนได้ส่งสัญญาณดีดตัวขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ แต่เผชิญแนวต้านที่ 8,400 หยวน/ตัน โดยโรงงานผลิตน้ำมันสำหรับปรุงอาหารในประเทศกำลังเริ่มกลับมาดำเนินการผลิตอีกครั้ง สต็อกน้ำมันถั่วเหลืองจึงค่อยๆเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันถั่วเหลืองในช่วงฤดูกาลที่มีการบริโภคระดับต่ำ

ในขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันปาล์มล่วงหน้ายังคงสูงกว่าราคาสปอต และจะมีการปรับฐานลงอีกในระยะใกล้นี้

สำหรับการซื้อขายที่ตลาดเจิ้งโจวนั้น สัญญาน้ำตาลลดลงเล็กน้อย โดยสัญญาส่งมอบเดือนก.ย. ปิดที่ 5,413 หยวน/ตัน ขยับลง 0.06%

สมาคมน้ำตาลของจีน (CSA) เปิดเผยข้อมูลล่าสุดว่า จีนผลิตน้ำตาลได้ในปริมาณ 9.16 ล้านตันในช่วงเดือนต.ค.-ก.พ. ซึ่งเป็น 5 เดือนแรกของปีการเก็บเกี่ยว 2555-2556 เพิ่มขึ้น 8% เทียบรายปี ขณะที่ยอดขายน้ำตาลในช่วงดังกล่าวทะยานขึ้น 40% จากปีก่อนหน้า แตะ 4.59 ล้านตัน

ข้อมูลยอดขายที่เป็นบวกดังกล่าว ประกอบกับความคาดหวังเกี่ยวกับการสำรองน้ำตาลของรัฐบาล จะช่วยหนุนน้ำตาลในตลาดเจิ้งโจวในช่วงต่อจากนี้

อย่างไรก็ตาม สัญญาฝ้ายส่งมอบเดือนก.ย. ที่ตลาดเจิ้งโจวปรับตัวลง 0.42% ปิดที่ 20,160 หยวน/ตัน ส่วนดัชนีราคาฝ้ายแห่งชาติจีน หรือ CCIndex 328 ซึ่งบ่งชี้ราคาเฉลี่ยเส้นใยมาตรฐานของจีน ขยับขึ้น 1 หยวน/ตัน แตะ 19,341 หยวน/ตัน สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วรัญญา อุดมกุศลศรี/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

[ginger 11,058]

In Focus: BOJ และ ADB สองสถาบันการเงินทรงอิทธิพลของเอเชีย กับการเปลี่ยนแปลงผู้กุมบังเหียนองค์กร

 

 

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 6 มีนาคม 2556 13:30:00 น.

ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) และธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (เอดีบี) สองสถาบันการเงินระดับประเทศและภูมิภาคซึ่งมีความสำคัญในเวทีโลก กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญพร้อมๆกัน นั่นคือการเปลี่ยนตัวผู้นำองค์กรคนใหม่ ซึ่งนอกจากจะมีผลต่อตัวองค์กรเองแล้ว ยังส่งอิทธิพลไปถึงอนาคตของเศรษฐกิจและการเงินญี่ปุ่น รวมถึงภูมิภาคเอเชียในภาพรวมด้วย

 

แบงก์ชาติญี่ปุ่นผลัดใบ

 

ธนาคารกลางญี่ปุ่นจำเป็นต้องสรรหาผู้นำคนใหม่หลังจากที่นายมาซาอากิ ชิรากาวะ ผู้ว่าการคนปัจจุบัน ประกาศลาออกจากตำแหน่งในวันที่ 19 มีนาคมนี้ ก่อนที่จะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 8 เมษายน นายชิรากาวะยืนยันว่าเป็นการลงจากตำแหน่งด้วยความสมัครใจ แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าเป็นเพราะถูกนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ กดดัน เนื่องจากผู้นำญี่ปุ่นได้เรียกร้องให้นายชิรากาวะและบีโอเจใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเชิงรุกเพื่อจัดการกับปัญหาเงินฝืดที่เรื้อรังมานาน

นายอาเบะกล่าวว่า ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นคนต่อไปที่จะมาทำหน้าที่แทนนายชิรากาวะ ควรจะเป็นบุคคลที่มีแนวคิดเชิงรุกในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ใช้นโยบายเงินตราได้อย่างเด็ดเดี่ยว และควรมีความสามารถในการเจรจากับบรรดาผู้ว่าการธนาคารกลางประเทศอื่นๆ

“ฮารุฮิโกะ คุโรดะ" ประธานธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (เอดีบี) ผู้ซึ่งสนับสนุนแผนการแก้ปัญหาเงินเฟ้อของนายอาเบะ และมีสายสัมพันธ์กว้างขวางในระดับนานาชาติจากการดำรงตำแหน่งประธานเอดีบีถึง 3 สมัย จึงเป็นผู้ที่รัฐบาลตัดสินใจเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการแบงก์ชาติญี่ปุ่นคนใหม่แทนนายชิรากาวะ โดยรัฐบาลกำลังผลักดันให้สภาล่างหรือสภาผู้แทนราษฎรลงคะแนนเสียงเพื่อแต่งตั้งผู้ว่าบีโอเจคนใหม่ในวันที่ 14 มีนาคม และให้สภาสูงหรือวุฒิสภาลงคะแนนเสียงในวันที่ 15 มีนาคมนี้

 

ลุ้นเกมการเมืองพ่นพิษ

 

นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ วัย 68 ปี เป็นผู้ว่าการแบงก์ชาติในอุดมคติสำหรับนายอาเบะ เพราะนอกจากจะมีความคิดไปในทิศทางเดียวกันแล้ว นายคุโรดะยังมีประสบการณ์โชกโชน เขาเข้าทำงานในกระทรวงการคลังญี่ปุ่นในปีพ.ศ.2510 จนกระทั่งในปีพ.ศ.2542 จึงก้าวขึ้นเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังฝ่ายกิจการระหว่างประเทศ ก่อนจะดำรงตำแหน่งประธานเอดีบีในปีพ.ศ.2548

ประสบการณ์และความสามารถของนายคุโรดะทำให้ญี่ปุ่นมีโอกาสที่จะหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืดหากเขาได้เป็นผู้ว่าการบีโอเจ แต่เส้นทางเดินของเขาอาจไมได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะสภาสูงหรือวุฒิสภาที่มีพรรคฝ่ายค้านครองเสียงข้างมากอยู่นั้น อาจเล่นเกมการเมืองและปฏิเสธที่จะรับรองนายคุโรดะ ซึ่งจะทำให้เกิดภาวะสุญญากาศในตำแหน่งผู้นำบีโอเจซ้ำรอยกับเมื่อพ.ศ.2551 และแม้มีกระแสข่าวว่าพรรคฝ่ายค้านจะสนับสนุนนายอาบะในเรื่องนี้ แต่ความกังวลก็ยังไม่หมดไปเสียทีเดียว

 

อนาคตบีโอเจภายใต้ปีกคุโรดะ

 

นายคุโรดะกล่าวต่อสภาผู้แทนราษฎรญี่ปุ่นว่า การบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ถือเป็นภารกิจที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้ว่าการบีโอเจคนใหม่ เพื่อจัดการกับภาวะเงินฝืดภายในประเทศ และบีโอเจควรพยายามเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายการเงินเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว

ถ้อยแถลงดังกล่าวชี้ชัดว่านายคุโรดะและนายอาเบะมีความคิดที่สอดคล้องกันในเรื่องการใช้นโยบายเชิงรุกเพื่อจัดการปัญหาเงินฝืด ดังนั้นหากนายคุโรดะผ่านการรับรองจากทั้ง 2 สภา อนาคตของบีโอเจและประเทศญี่ปุ่นก็น่าจะสดใสขึ้น เพราะรัฐบาลและแบงก์ชาติจะทำงานสอดประสานกันมากขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และนายคุโรดะคนนี้อาจเป็นผู้ที่ทำให้ญี่ปุ่นหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืดที่เรื้อรังมาอย่างยาวนานกว่าทศวรรษได้

 

แรงสั่นสะเทือนถึงเอดีบี

 

เนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นได้เสนอชื่อนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการบีโอเจคนใหม่ นายคุโรดะจึงยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (เอดีบี) โดยจะมีผลในวันที่ 18 มีนาคมนี้ ทางเอดีบีจึงต้องสรรหาผู้นำคนใหม่มาบริหารองค์กรเช่นเดียวกัน โดยบอร์ดผู้ว่าการของเอดีบีจะทำหน้าที่คัดเลือกผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งแทนนายคุโรดะ

นายทาโร่ อาโสะ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น กล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะเริ่มคัดเลือกผู้เข้าชิงตำแหน่งผู้อำนวยการเอดีบีคนต่อไปทันทีที่ประธานเอดีบีคนปัจจุบันลงจากตำแหน่งในวันที่ 18 มีนาคม ซึ่งนายอาโสะกล่าวว่า รัฐบาลจะเลือกคนที่มีความสามารถ และ “ทาเคฮิโกะ นากาโอะ" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังฝ่ายกิจการระหว่างประเทศ ก็มีคุณสมบัติเหมาะสม

นายนากาโอะ วัย 56 ปี จบการศึกษา MBA จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ และเข้าทำงานในกระทรวงการคลังตั้งแต่ปีพ.ศ.2521 ก่อนที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังฝ่ายกิจการระหว่างประเทศตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ.ศ.2554

 

ตำแหน่งที่ผูกขาดมาเกือบครึ่งศตวรรษ

 

นับตั้งแต่เอดีบีก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2509 ประธานเอดีบีจะเป็นผู้ที่มีสัญชาติญี่ปุ่นมาโดยตลอด เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นผู้สนับสนุนการเงินรายใหญ่สุดให้กับเอดีบีจึงมีอำนาจโหวตสูงสุด เท่ากับสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นผู้สนับสนุนเงินรายใหญ่สุดอีกราย

ในอดีตการเลือกประธานเอดีบีไม่ค่อยได้รับความสนใจจากประชาคมโลกมากนัก เพราะอย่างไรเสียญี่ปุ่นก็ผูกขาดตำแหน่ง แต่ในครั้งนี้สถานการณ์อาจแตกต่างไป เนื่องจากญี่ปุ่นเสียตำแหน่งประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลกให้จีนไปเมื่อปีพ.ศ.2553 ขณะที่จีนก็แผ่อิทธิพลมากขึ้นเรื่อยๆในภูมิภาค ทำให้สมดุลอำนาจในเอเชียเปลี่ยนไป ทั่วโลกจึงจับตาดูว่าจีนจะส่งผู้ลงชิงตำแหน่งประธานเอดีบีด้วยหรือไม่

อย่างไรก็ดี กฎการโหวตของเอดีบีค่อนข้างเอื้อประโยชน์ให้ญี่ปุ่น โดยผู้ชิงตำแหน่งประธานต้องได้รับเสียงโหวตจากชาติสมาชิกรวมกันเกิน 50% ซึ่งญี่ปุ่น สหรัฐ ประเทศกลุ่มยูโรโซน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ก็มีอำนาจโหวตรวมกัน 50.6% แล้ว นอกจากนี้ อินโดนีเซียยังส่งสัญญาณว่าจะสนับสนุนญี่ปุ่นด้วย

นายมาซาฮิโระ คาวาอิ คณบดีสถาบันธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชียในกรุงโตเกียว กล่าวว่า จีนยังได้รับการสนับสนุนไม่เพียงพอ ขณะที่สหรัฐซึ่งมีอำนาจเท่ากับญี่ปุ่นก็ไม่ต้องการตำแหน่งประธานเอดีบี ดังนั้นตัวแทนจากญี่ปุ่นจึงน่าจะได้ครองตำแหน่งประธานเอดีบีต่อไปอย่างไม่ยากเย็น

 

ญี่ปุ่นแสดงความหวังว่าการโหวตเลือกประธานเอดีบีคนใหม่จะจัดขึ้นก่อนการประชุมประจำปีที่กรุงนิวเดลีในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ประธานคนใหม่จะได้เป็นผู้ดูแลการประชุมนี้ ดังนั้นอีกไม่เกิน 2 เดือนเราน่าจะได้ทราบผลแล้วว่า ญี่ปุ่นจะได้กุมบังเหียนสถาบันการเงินแห่งนี้ต่อไป หรือขั้วอำนาจจะพลิกไปสู่ประเทศอื่น

อินโฟเควสท์ โดย ปรียพรรณ มีสุข/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

ถูกแก้ไข มีนาคม 6, 2013 โดย ginger

[ginger 11,058]

MTS GOLD

เงินสดสำรองของจีนมีมากพอที่จะซื้อทองคำได้ทั้งโลก -- "สองเท่า"

 

* แสดงให้เห็นว่า เงินสดสำรองของจีนอยู่เหนือระดับการถือครองทองคำของธนาคารกลางต่างๆ ในเดือนมกราคม ปี 2004 และเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.3 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงปลายปี 2012

 

* ข้อมูลจาก IMF และ World Gold Council ระบุว่า ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น 263% ตั้งแต่ปี 2004 มาจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

 

* เมื่อทำการเปรียบเทียบ เงินสดสำรองของจีนเพิ่มขึ้น 721% ตลอดปี 2012 ในขณะที่เมื่อนำข้อมูลจากบราซิล รัสเซีย และอินเดียมารวมกัน มีเงินสดสำรองเพิ่มขึ้นประมาณ 400% มาอยู่ที่ระดับ 1.1 ล้านล้านดอลลาร์

 

 

[ginger 11,058]

Gold Insight

 

[ginger 11,058]

สรุปภาวะซื้อขายทองคำ - อนุพันธ์ 6 มี.ค 56 แนวโน้มการลงทุนวันพรุ่งนี้ ติดตามได้ใน Market Wise

 

http://bit.ly/YMUWKU

[ginger 11,058]

MTS

 

[ginger 11,058]

• 18:18 น. บังยีเมินข่าวฉาวกระทบชิงปธ.เอเอฟซี
  
• 18:16 น. ส.อ.ท.ร้าว"ธนิต"ฟ้อง"พยุงศักดิ์"3ข้อหา
  
• 18:10 น. โอดรัฐไม่แลจ่อขายสวนสมุนไพร100ไร่
  
• 17:42 น. สส.เพื่อไทยดันนิรโทษทุกสีเข้าสภา
  
• 17:39 น. สำรองไฟเพิ่มเลิกแผนซื้อจากมาเลย์
  
• 17:25 น. โวยธาริตเบี้ยวแจงกมธ.ปมชุดดำ2ครั้งติด
  
• 17:15 น. บจ.ไทยกำไรปี55รวมกว่า7.2แสนล้าน
  
• 17:10 น. ราชทัณฑ์ให้"เป๊าะ"นอนรพ.ต่อเหตุอาการยังหนัก
  
• 17:03 น. หุ้นไทยปิดบวก 10 จุด
  

[NEWS 2,613]

สวัสดีครับคุณ.. Ginger กระต่ายทอง bmw2770 baskie30 TraderJunior Gejen raty Pasaya Pa’ree พวงชมพู fung เด็กสยาม GoldOfCourse dep99 bbeam pps.aon Chez Moddang ปุยเมฆ ตังเม ย่าหยา Chinchilla Mr.Li Ohshikung แสงแดด put42 mateenee ลูกน้ำเค็ม เฟิร์ส Silver&Gold Goldbullish jojosung NOT4545 หัดเล่นgf firework SixMun ขุนศึกปทุม และทุกท่านครับ

กราฟรายวันตอนนี้เป็นเขียวแท่งแรกครับ

ล่าสุดราคาต่ำสุด 1567 ราคาสูงสุด1585

ราคาขณะนี้อยู่ที่ 1581.x ครับ

 

สัญญานหลักแบลคคิง ทิศทาง sideway up ครับ

RSI Price Line เส้นเขียว 34.65 วิ่งมา 37.78 ตอนนี้อยู่ต่ำกว่าเส้นแดงและต่ำกว่าเส้นเหลืองครับ อยู่ต่ำกว่า50 ครับ

Trade Signal Line เส้นแดง 35.37 มา 35.50 ครับอยู่ต่ำกว่า 50 ครับ

Market base Line เส้นเหลือง 41.35 มา 39.75 ครับ

เส้นแดงเพิ่มครับ ? ในที่สุดเขียวแท่งแรกก็มาขาL let profit run

 

 

สัญญานรองQQE ทิศทาง sideway up

เส้นฟ้า 35.11 มา 35.96 อยู่สูงกว่าเส้นประเหลืองครับ

เส้นประเหลือง 28.88 มา 29.28 ครับอยู่ต่ำกว่าเส้นฟ้าครับ

(เส้นเหลืองถ้าคงที่นานๆ จะแสดง side way หรือกลับตัวและ

ถ้าทิศทางลงจะเด้งไปอยู่สูงกว่าเส้นฟ้าทันทีถ้าขึ้นจะลงมาต่ำกว่าเส้นฟ้าทันที)

แนวต้าน 1588 1595 1605 1611

แนวรับ 1576 1564 1554 1544

ภาพรวมๆจากสัญญานราคา sideway up ครับ

 

 

 

ขอให้โชคดีครับ

ถูกแก้ไข มีนาคม 7, 2013 โดย news

[bmw2770 479]

สวัสดีมือใหม่หัดวิฯทุกท่านฯ ปิดแท่งเมื่อวานนี้ยังแดงอยู่ครับ

ถือ สั้นนนน สั้น ต่อไปตามสูตรครับเจ้านายยย

[Dr.Polar Bear 346]

ขอบคุณครับ

[ginger 11,058]

อรุณสวัสดิ์ มือใหม่ แฟนๆนักลงทุนชาวเน็ตทุกรุ่นและเพื่อนๆพี่น้องทุกท่าน

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม 2556 07:23:21 น.

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากตลาดทะยานขึ้นแข็งแกร่งเมื่อวันอังคาร อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายโดยรวมในตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.3% ปิดที่ 293.38 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 7,919.33 จุด เพิ่มขึ้น 49.02 จุด หรือ 0.62% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 3,773.76 จุด ลดลง 13.43 จุด หรือ 0.35% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,427.64 จุด ลดลง 4.31 จุด หรือ 0.07%

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 มี.ค.) หลังจาก ADP เปิดเผยว่าภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนก.พ. นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีการขยายตัว

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 42.47 จุด หรือ 0.30% แตะที่ 14,296.24 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 1.67 จุด หรือ 0.11% แตะที่ 1,541.46 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลบ 1.77 จุด หรือ 0.05% แตะที่ 3,222.36 จุด

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทรงตัวเมื่อคืนนี้ (6 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย พร้อมกับจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางอังกฤษในวันพฤหัสบดีนี้

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดทรงตัวที่ 1,574.9 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 28.803 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 19.9 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 0.05 เซนต์ ปิดที่ 3.5155 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,579.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 5.90 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 740.05 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 5.45 ดอลลาร์

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 มี.ค.) ขานรับรายงานที่ว่าภาคเอกชนทั่วประเทศสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนก.พ. ขณะที่สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะส่งสัญญาณการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน

สกุลเงินยูโรร่วงลงแตะที่ 1.2994 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3041 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลงแตะที่ 1.5040 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5112 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9477 ฟรังค์ จากระดับ 0.9418 ฟรังค์ และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 94.07 เยน จากระดับ 93.29 เยน

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 มี.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในเวเนซูเอล่า หลังจากการอสัญกรรมของประธานาธิบดีฮูโก ชาเวซ

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 39 เซนต์ หรือ 0.43% ปิดที่ 90.43 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 89.55-91.17 ดอลลาร์

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 55 เซนต์ ปิดที่ 111.06 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 110.46-112.23 ดอลลาร์

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 มี.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่ายอดสั่งซื้อภาคโรงงานหดตัวลงเกินคาดในเดือนม.ค. ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มในอุตสาหกรรมการผลิตของสหรัฐ

ดัชนี FTSE 100 ปิดตลาดลอนดอนที่ 6427.64 ลบ 4.31 จุด

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดทรงตัว ตลาดจับตาประชุมธนาคารกลางยุโรป

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม 2556 06:34:17 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทรงตัวเมื่อคืนนี้ (6 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย พร้อมกับจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางอังกฤษในวันพฤหัสบดีนี้

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดทรงตัวที่ 1,574.9 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 28.803 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 19.9 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 0.05 เซนต์ ปิดที่ 3.5155 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,579.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 5.90 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 740.05 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 5.45 ดอลลาร์

ในช่วงแรกนั้น สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นขานรับความคาดหวังที่ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ ธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางญี่ปุ่น จะประกาศใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อไปในการประชุมวันพรุ่งนี้ โดยเฉพาะนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรปย้ำว่า การแข็งค่าของเงินยูโรกำลังส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยูโรโซน ทำให้นักลงทุนจับตาการแถลงของนายดรากิเพื่อประเมินสัญญาณที่อาจบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ในการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมในอนาคต โดยตลาดยังมีความหวังว่าอีซีบีจะลดดอกเบี้ยอีกในปีนี้

อย่างไรก็ตาม ตลาดอ่อนแรงลงในเวลาต่อมาและปิดย่ำฐานทรงตัว เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐทำให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดย ADP รายงานว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 198,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 170,000 ตำแหน่ง

นักลงทุนจับตากระทรวงแรงงานสหรัฐซึ่งจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ.ในวันศุกร์นี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรจะเพิ่มขึ้น 160,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวอยู่ที่ 7.9% ในเดือนก.พ.

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่าหลัง ADP เผยภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มจ้างงาน

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม 2556 06:47:08 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 มี.ค.) ขานรับรายงานที่ว่าภาคเอกชนทั่วประเทศสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนก.พ. ขณะที่สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะส่งสัญญาณการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน

สกุลเงินยูโรร่วงลงแตะที่ 1.2994 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3041 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลงแตะที่ 1.5040 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5112 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9477 ฟรังค์ จากระดับ 0.9418 ฟรังค์ และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 94.07 เยน จากระดับ 93.29 เยน

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นหลังจาก ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 198,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. เมื่อเทียบกับเดือนม.ค. ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 170,000 ตำแหน่ง และยังเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 1 ปี ส่งสัญญาณว่าตลาดแรงงานสหรัฐกำลังฟื้นตัว

ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนมากขึ้นจากรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟดทั้ง 12 เขต (Beige Book) ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวปานกลางในช่วงต้นเดือนม.ค.จนถึงกลายเดือนก.พ. ขณะที่ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคยังคงแข็งแกรง และภาคการผลิตยังคงขยายตัวได้ดี

ส่วนสกุลเงินยูโรอ่อนแรงลงหลังจากที่นายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรปย้ำว่า การแข็งค่าของเงินยูโรกำลังส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยูโรโซน ทำให้นักลงทุนจับตาการแถลงของนายดรากิซึ่งจะมีขึ้นภายหลังการประชุมในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อประเมินสัญญาณที่อาจบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ในการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมในอนาคต

นักลงทุนจับตากระทรวงแรงงานสหรัฐซึ่งจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ.ในวันศุกร์นี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรจะเพิ่มขึ้น 160,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวอยู่ที่ 7.9% ในเดือนก.พ.

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดลบ 39 เซนต์หลังสต็อกน้ำมันดิบพุ่งเกินคาด

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม 2556 07:08:05 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 มี.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในเวเนซูเอล่า หลังจากการอสัญกรรมของประธานาธิบดีฮูโก ชาเวซ

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 39 เซนต์ หรือ 0.43% ปิดที่ 90.43 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 89.55-91.17 ดอลลาร์

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 55 เซนต์ ปิดที่ 111.06 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 110.46-112.23 ดอลลาร์

สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงหลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 มี.ค. พุ่งขึ้น 3.83 ล้านบาร์เรล แตะที่ 381.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 800,000 บาร์เรล

ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 3.83 ล้านบาร์เรล แตะที่ 120.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 850,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 616,000 บาร์เรล แตะที่ 227.9 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะร่วงลง 1.3 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันร่วงลง 2.9% แตะที่ 82.2% ตรงข้ามกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3%

อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เนื่องจากตลาดได้แรงหนุนจากรายงานของ ADP ที่ระบุว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 198,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 170,000 ตำแหน่ง และยังเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 1 ปี ส่งสัญญาณว่าตลาดแรงงานสหรัฐกำลังฟื้นตัว

ข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนจับตากระทรวงแรงงานสหรัฐซึ่งจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ.ในวันศุกร์นี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรจะเพิ่มขึ้น 160,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวอยู่ที่ 7.9% ในเดือนก.พ.

นอกจากนี้ นักลงทุนยังติดตามสถานการณ์การเมืองในเวเนซูเอล่า ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่อันดับ 4 ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) หลังจากที่ประธานาธิบดีฮูโก ชาเวซ ได้ถึงแก่อสัญกรรมด้วยวัย 58 ปี หลังจากที่ล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งมาเป็นเวลานาน

ทั้งนี้ ภายใต้รัฐธรรมนูญของเวเนซูเอล่าระบุว่า หากประธานาธิบดีที่ยังดำรงตำแหน่งอยู่เสียชีวิตลง จะต้องมีการจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ภายในเวลา 30 วัน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

สหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบสัปดาห์ที่แล้วพุ่งขึ้นเกินคาด 3.83 ล้านบาร์เรล

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม 2556 07:09:52 น.

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 มี.ค. พุ่งขึ้น 3.83 ล้านบาร์เรล แตะที่ 381.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 800,000 บาร์เรล

ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 3.83 ล้านบาร์เรล แตะที่ 120.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 850,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 616,000 บาร์เรล แตะที่ 227.9 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะร่วงลง 1.3 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันร่วงลง 2.9% แตะที่ 82.2% ตรงข้ามกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3%

สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ที่ได้รายงานในข้างต้นนั้น ไม่นับรวมกับน้ำมันในคลังยุทธภัณฑ์สำรอง (Strategic Petroleum Reserve - SPR) ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ปริมาณ 697 ล้านบาร์เรล โดยรัฐบาลสหรัฐจะระบายน้ำมันออกจากคลังดังกล่าวก็ต่อเมื่อเกิดภาวะอุปทานตึงตัวที่เป็นผลมาจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ การโจมตีของผู้ก่อการร้าย และสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมือง

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-

[ginger 11,058]

พยากรณ์อากาศประจำวันที่ 7 มีนาคม 2556

ข่าวทั่วไป กรมอุตุนิยมวิทยา -- พฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม 2556 06:25:19 น.

พยากรณ์อากาศประจำวัน

ประจำวันที่ 7 มีนาคม 2556

ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนยังคงมีกำลังอ่อนลง ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นโดยทั่วไป ยกเว้นภาคเหนือจะมีอุณหภูมิทรงตัว ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปยังคงมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 7-9 มีนาคม 2556 คลื่นกระแสลมตะวันตกจะเคลื่อนจากประเทศพม่า

เข้ามาปกคลุมภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ มีเมฆบางส่วน และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่

ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ และแพร่

อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆบางส่วน และอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย

อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีเมฆบางส่วน และอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย

อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่

ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่

ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส

ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม.

ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ส่วนตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม/ชม.

ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆบางส่วน และอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74