มือใหม่หัดวิเคราะห์

[ginger 11,058]

เงินบาทปิด 31.27/29 แกว่งแคบ กนง.คงดอกเบี้ยตามคาด-จับตารายงานเฟดคืนนี้

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 10 กรกฎาคม 2556 17:30:50 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.27/29 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.22/24 บาท/ดอลลาร์

ระหว่างวันเงินบาทแกว่งอยู่ในกรอบแคบๆ ขณะที่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ที่คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 2.50% ไม่ได้มีผลต่อค่าเงินบาทมากนัก เนื่องจากตลาดคาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่ากนง.จะคงดอกเบี้ย

ในขณะที่คืนนี้ ต้องติดตามว่าจะมีถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ต่อมุมมองเศรษฐกิจและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไร ซึ่งจะมีผลต่อทิศทางค่าเงินบาทในวันพรุ่งนี้

* ปัจจัยสำคัญ

- ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 100.09/12 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าเปิดที่ระดับ 101.13 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2814/2818 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าเปิดที่ระดับ 1.2777 ดอลลาร์/ยูโร

- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,815.37 ลบ.(SET+MAI)

- คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50% โดยมองอัตราดอกเบี้ยยังเหมาะสม แต่พร้อมปรับเปลี่ยนสอดคล้องตามภาวะเศรษฐกิจ ขณะที่ประเมินว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยจะชะลอลงในทิศทางเดียวกับสถาบันอื่น โดยคาดว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้จะโตไม่ถึง 5% จากเดิมที่คาดว่าจะโต 5.1%

- นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ระบุ การที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) ปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลกในปีนี้ลงเหลือ 3.1%นั้น ได้มีการวิเคราะห์และคาดการณ์จากหน่วยงานด้านเศรษฐกิจของไทยไว้แล้วเช่นกันว่าเศรษฐกิจโลกจะไม่ขยายตัวอย่างที่คิด ดังนั้นการที่ IMF ออกมาคาดการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องที่สอดคล้องกับความเข้าใจในทั่วโลก

- ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น โดยดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.3% แตะ 295.45 เมื่อเวลา 08.07 น.ตามเวลาลอนดอน ขณะที่นักลงทุนรอดูรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อดูแนวโน้มว่าเฟดจะดำเนินนโยบายซื้อสินทรัพย์อีกเป็นระยะเวลานานเท่าใด

- ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคญี่ปุ่นในเดือนมิ.ย. ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน เนื่องจากตลาดหุ้นและตลาดปริวรรตเงินตราที่ผันผวนได้ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศ โดยดัชนีอยู่ที่ 44.3 ซึ่งดัชนีที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าผู้บริโภคมีมุมมองลบต่อเศรษฐกิจมีจำนวนมากกว่าผู้มีมุมมองบวก

- นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินต่อไปในปีนี้ โดยคณะกรรมการบริหารบีโอเจจะคงขอบเขตการซื้อพันธบัตรไว้ในการประชุมที่จัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน โดยการประชุมวันแรกได้เปิดฉากขึ้นแล้วในวันนี้ ขณะที่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอาจจะทำให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น

- สมาคมผู้ผลิตยานยนต์จีน(CAAM) เผยยอดขายและการผลิตรถยนต์ของจีนต่างทะลุ 10 ล้านคันในช่วงครึ่งแรกของปี 56 โดยยอดขายรถยนต์ในจีนเพิ่มขึ้นแตะ 10.78 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 12.34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การผลิตรถยนต์อยู่ที่ 10.75 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 12.83% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

- เจ้าหน้าที่ของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้เริ่มต้นการเจรจาระดับคณะทำงาน เพื่อหารือถึงแนวทางในการทำให้เขตอุตสาหกรรมร่วมแกซอง ซึ่งตั้งอยู่บนชายแดนเกาหลีเหนือกลับมาเปิดดำเนินการตามปกติอีกครั้ง

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

China Focus: ปัจจัยชี้วัดเศรษฐกิจจีนที่อ่อนตัวช่วงครึ่งปีแรกบ่งชี้ความผันผวนของเศรษฐกิจ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 10 กรกฎาคม 2556 17:21:22 น.

จีนเตรียมเปิดเผยปัจจัยบ่งชี้สำคัญทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ นับตั้งแต่สัปดาห์นี้ นักวิเคราะห์เชื่อว่า ปัจจัยบ่งชี้เหล่านี้อาจเป็นไปในทิศทางที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก และการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงในช่วงไตรมาสที่ 2

เหลียน ปิง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์แห่งแบงก์ ออฟ คอมมิวนิเคชั่นส์ กล่าวว่า เมื่อเปรียบเทียบกับสภาพเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสแรกนั้น เศรษฐกิจจีนยังคงอ่อนตัวในช่วงไตรมาสที่ 2

เหลียน ปิง ระบุว่า ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีน 3 ประการ ได้แก่ ผู้ส่งออก การลงทุน และการบริโภค ยังคงมีแนวโน้มที่อ่อนตัว การขยายตัวของกิจกรรมภาคการผลิตที่ซบเซาจะชะลอตัวลง ส่วนการบริโภคจะยังทรงตัว

ข้อมูลจากสำนักศุลกากร (GAC) บ่งชี้ว่า การส่งออกของจีนที่ตกต่ำลงในเดือนมิถุนายนเป็นปัจจัยที่สร้างแรงกดดันต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน ซึ่งมีระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก การส่งออกของจีนเดือนมิ.ย.ตกลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 3.1% แตะที่ระดับ 1.7432 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ปริมาณการนำเข้าลดลง 0.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน แตะที่ระดับ 1.4719 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

แบงก์ ออฟ คอมมิวนิเคชั่น ระบุว่า ปัจจัยชี้วัดทางเศรษฐกิจหลักๆของจีน อาทิ การใช้พลังงาน การขนส่งสินค้าทางรถไฟ และการเติบโตด้านสินเชื่อ ลดลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนในภาคเศรษฐกิจ ธนาคารจึงปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในช่วงไตรมาสที่ 2 ลง 0.2% มาอยู่ที่ระดับ 7.5%

ทั้งนี้ บริษัท ไชน่า อินเตอร์เนชั่นแนล แคปิตอล คอร์เปอเรชั่น (CICC) ก็ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของจีดีพีในไตรมาส 2 ลงด้วยเช่นกัน โดยปรับลดลงมาอยู่ที่ 7.5% และชี้ว่า การที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ลดลงอย่างต่อเนื่อง จะเป็นปัจจัยที่จำกัดการเติบโตของการลงทุนในภาคการผลิตทั้งในด้านสินทรัพย์ถาวร และสินค้าคงคลัง

ธนาคารยังระบุด้วยว่า การลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ และครงสร้างพื้นฐานจะถูกจำกัด เนื่องจากการจัดหาเงินทุนหมุนเวียนไม่เพียงพอ ซึ่งเป็นผลมาจากความพยายามบังคับใช้มาตรการควบคุมธนาคารเงา และค่าเงินหยวนที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะจำกัดการเติบโตของการส่งออก

นักวิเคราะห์เชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจจีนไม่มีแนวโน้มที่จะแสดงสัญญาณการฟื้นตัวในช่วงไตรมาส 2 เนื่องจากรัฐบาลจีนระงับการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

รัฐบาลจีนได้ตอกย้ำในหลายโอกาสว่า จีนอยู่ในช่วงเวลาที่ต้องพึ่งพาการปฏิรูปทางเศรษฐกิจ และยกระดับเพื่อให้การพัฒนาเศรษฐกิจดำเนินไปได้ด้วยดีอย่างต่อเนื่อง สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ศศิประภา อัครภูติ/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

[ginger 11,058]

ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์จีน: สินค้าโภคภัณฑ์เกษตรจีนปรับตัวขึ้น นำโดยผลิตภัณฑ์กากอาหาร

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 10 กรกฎาคม 2556 17:25:00 น.

สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรจีนที่ตลาดต้าเหลียนและเจิ้งโจวเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ก่อนปิดเพิ่มขึ้นในวันนี้ นำโดยผลิตภัณฑ์กากอาหารที่ยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นักลงทุนยังคงระมัดระวังการซื้อขาย เนื่องจากจีนเปิดเผยข้อมูลการค้าต่างประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทั้งการส่งออกและการนำเข้าในเดือนมิ.ย.ลดลง ซึ่งเน้นถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจ

สัญญากากถั่วเหลืองส่งมอบเดือนม.ค.ที่ตลาดต้าเหลียนปรับตัวขึ้น 0.75% ปิดที่ 3,241 หยวน/ตัน ตามสัญญาถั่วเหลืองที่ตลาด CBOT ซึ่งปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ สัญญากากเรปซิ้ดส่งมอบเดือนม.ค.ที่ตลาดเจิ้งโจวปรับตัวขึ้น 0.76% ปิดที่ 2,256 หยวน/ตัน

ข้อมูลล่าสุดจากสำนักงานศุลกากรกลางระบุว่า จีนนำเข้าถั่วเหลือง 6.93 ล้านตันในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 35.88% จากเดือนก่อนหน้านี้ แต่น้อยกว่าที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ไว้อย่างมากที่ 8.81 ล้านตัน

ผลิตภัณฑ์ถั่วเหลืองที่ตลาด CBOT ปรับตัวขึ้นในระยะนี้ ด้วยแรงหนุนจากอุปสงค์แข็งแกร่งจากจีน และการคาดเดาเรื่องสภาพอากาศในพื้นที่การเพาะปลูก อย่างไรก็ดี ถั่วเหลืองนำเข้าจำนวนมากกำลังจะมาถึงท่าเรือ และโรงงานผลิตได้เพิ่มอัตราการผลิตขึ้น ซึ่งจะเพิ่มอุปทานกากถั่วเหลืองในตลาดและสร้างแรงกดดันต่อราคาผลิตภัณฑ์ถั่วเหลืองในภายหลัง

เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันพืชและสต็อกสินค้าที่อยู่ในระดับสูง สัญญาน้ำมันปรุงอาหารส่งมอบเดือนม.ค.ที่ตลาดต้าเหลียนจึงปรับตัวน้อยกว่าสัญญาพืชน้ำมัน โดยสัญญาน้ำมันถั่วเหลืองปิดปรับตัวขึ้น 0.14% แตะที่ 7,286 หยวน/ตัน ขณะที่สัญญาน้ำมันปาล์มเพิ่มขึ้น 0.17% ปิดที่ 5,882 หยวน/ตัน

สัญญาน้ำตาลส่งมอบเดือนม.ค.ที่ตลาดเจิ้งโจวขยับขึ้นเล็กน้อย 0.1% ปิดที่ 4,885 หยวน/ตัน

ปัจจัยพื้นฐานด้านอุปทานและอุปสงค์ของตลาดน้ำตาลภายในประเทศยังคงอ่อนแอ นักวิเคราะห์ระบุว่าแนวต้านของสัญญาน้ำตาลส่งมอบเดือนม.ค.ที่ตลาดเจิ้งโจวจะอยู่ที่ 4,900 หยวน/ตัน

ทั้งนี้ บราซิลซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำตาลรายใหญ่ที่สุดในโลกมีกำหนดระบายปริมาณอ้อยในวันนี้ ซึ่งจะส่งผลต่อราคาน้ำตาลทั่วโลก

สัญญาฝ้ายส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดเจิ้งโจวสวนทางผลิตภัณฑ์อื่น โดยดิ่งลง 1.18% ปิดที่ 19,715 หยวน/ตัน เนื่องจากปริมาณการซื้อขายขยายตัวอย่างรวดเร็ว ส่วนดัชนีราคาฝ้ายแห่งชาติจีน หรือ CCIndex 328 ซึ่งบ่งชี้ราคาเฉลี่ยเส้นใยฝ้ายมาตรฐานในจีนอยู่ที่ระดับ 19,275 หยวน/ตัน ลดลง 2 หยวนจากเมื่อวานนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

 

กัมพูชาเผยยอดส่งออกข้าวเพิ่ม 125% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2556

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 10 กรกฎาคม 2556 17:39:35 น.

กัมพูชาส่งออกข้าวสารเพิ่มขึ้นในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เนื่องจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในตลาดโลก

ตัวเลขดังกล่าวมาจากสำนักเลขาธิการประสานงานเพื่อการส่งออกข้าวสาร แสดงให้เห็นว่ากัมพูชาส่งออกข้าวสาร 176,000 ตันระหว่างเดือนม.ค.-มิ.ย.ในปีนี้ เพิ่มขึ้น 125% จาก 78,000 ตัน ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

รายงานระบุว่า ข้าวกัมพูชามีจำหน่ายใน 49 ประเทศทั่วโลก โดย 5 ประเทศหลักๆที่ซื้อข้าวจากกัมพูชา ได้แก่ โปแลนด์ ฝรั่งเศส ไทย มาเลเซีย และจีน

นายเหียน วันฮอร์น ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการประสานงานเพื่อการส่งออกข้าวสาร กล่าวว่า ปริมาณการส่งออกที่เพิ่มขึ้นมีสาเหตุมาจากอุปสงค์ในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นและความพยายามที่จะส่งเสริมการส่งออกข้าวของกัมพูชา รวมทั้งการลงทุนที่เพิ่มขึ้นเพื่อสร้างโรงสีข้าวที่ทันสมัยจากภาคเอกชน"

บนพื้นฐานของตัวเลขในช่วง 6 เดือนนั้น นายเหียนเชื่อว่า กัมพูชาจะสามารถบรรลุเป้าหมายในการส่งออกข้าวสารจำนวน 1 ล้านตัน ในปี 2558 สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

 

[ginger 11,058]

ราคาทองคำฮ่องกงปิดตลาดวันนี้ ลดลงแตะ 11,680 HKD/tael

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 10 กรกฎาคม 2556 16:52:46 น.

สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงลดลง 40 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 11,680 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,263.46 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 4.33 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วรัญญา อุดมกุศลศรี/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th-

 

ผู้เชี่ยวชาญคาดเศรษฐกิจกรีซหดตัว 5% ในปี 2556

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 10 กรกฎาคม 2556 17:09:00 น.

ผลการสำรวจจากสถาบันวิจัยด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของกรีซ (IOBE) คาดว่าเศรษฐกิจของกรีซจะหดตัวลง 5% ในปี 2556

ในช่วง 1 วันหลังจากที่ยูโรกรุ๊ปอนุมัติเงินชวยเหลืองวดใหม่แก่กรีซที่ประสบปัญหาหนี้สินนั้น บรรดาผู้เชี่ยวชาญจาก IOBE ได้สนับสนุนคำแนะนำจากคณะผู้ตรวจสอบบัญชีต่างชาติถึงความจำเป็นในการปรับโครงสร้างที่ต้องทำอย่างรวดเร็วและเต็มที่ เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของประเทศ

ตัวเลขดังกล่าวนับว่ารุนแรงกว่าที่สหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดว่าจะหดตัว 4.2% โดยอียูและไอเอ็มเอฟเป็นเจ้าหนี้ที่ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่กรีซมานับแต่ปี 2553

ผู้เชี่ยวชาญจาก IOBE ตั้งข้อสังเกตในรายงานรายไตรมาสฉบับล่าสุดว่า หลังจากช่วง 3 ปีของการดำเนินมาตรการรัดเข็มขัดที่เข้มงวด ท่ามกลางความล่าช้าในการปฏิรูปและสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกที่ตกต่ำนั้น เศรษฐกิจกรีซยังคงเผชิญภาวะถดถอยอย่างรุนแรง

ในปี 2555 เศรษฐกิจกรีซหดตัว 6.4% ซึ่งเลวร้ายกว่าที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้

เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ยาวนาน นักเศรษฐศาสตร์จาก IOBE คาดว่าอัตราการว่างงานของกรีซ ซึ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานั้น จะยังคงสูงถึง 27-28% ในปี 2556 โดยเฉพาะหลังกระแสการเลิกจ้างในภาครัฐบาลในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าภายใต้ข้อตกลงล่าสุดกับบรรดาเจ้าหนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

[ginger 11,058]

SCB EIC มองศก.เสี่ยงชะลอตัวเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลังตามการใช้จ่าย-ส่งออก

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 10 กรกฎาคม 2556 17:47:00 น.

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ระบุว่า เศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงชะลอตัวเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง การชะลอตัวของการใช้จ่ายอุปโภคบริโภคในช่วงที่ผ่านมาส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการสิ้นสุดนโยบายกระตุ้นของภาครัฐ แต่อีกส่วนหนึ่งที่น่ากังวลและเป็นสัญญาณการชะลอตัวคือ การใช้จ่ายในสินค้าประเภทอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าไม่คงทน เช่น อาหารและเครื่องดื่ม ของใช้ในครัวเรือน ที่ชะลอตัวลงในไตรมาส 1 ประกอบกับการเติบโตของสินเชื่อเพื่อการบริโภคนอกเหนือจากการซื้อรถยนต์และที่อยู่อาศัยที่เริ่มชะลอตัวลงตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี นอกจากนี้การลงทุนภาครัฐยังมีความเสี่ยงที่จะไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้เดิม อีกทั้งการส่งออกในปีนี้น่าจะชะลอตัวลงกว่าที่คาดไว้

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.50% ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 10 กรกฎาคม 2013 โดย กนง.มองว่าอัตราดอกเบี้ยในระดับปัจจุบันยังเหมาะสม และมองว่าการชะลอตัวของการใช้จ่ายในประเทศในช่วงที่ผ่านมาเป็นการกลับมาขยายตัวในระดับปกติ หลังจากที่เร่งตัวมากในช่วงก่อนหน้าจากแรงกระตุ้นภาครัฐ โดยปัจจัยสนับสนุนคือการจ้างงานและรายได้ของประชาชนที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี ประกอบกับนโยบายการเงินและการคลังที่ผ่อนคลาย จากสินเชื่อที่ยังขยายตัวสูงและมีการขาดดุลการคลังต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี SCB EIC มองว่าเศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงชะลอตัวเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง การชะลอตัวของการใช้จ่ายอุปโภคบริโภคในช่วงที่ผ่านมาส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการสิ้นสุดนโยบายกระตุ้นของภาครัฐ แต่อีกส่วนหนึ่งที่น่ากังวลและเป็นสัญญาณการชะลอตัวคือ การใช้จ่ายในสินค้าประเภทอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าไม่คงทน เช่น อาหารและเครื่องดื่ม ของใช้ในครัวเรือน ที่ชะลอตัวลงในไตรมาส 1 ประกอบกับการเติบโตของสินเชื่อเพื่อการบริโภคนอกเหนือจากการซื้อรถยนต์และที่อยู่อาศัยที่เริ่มชะลอตัวลงตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี นอกจากนี้การลงทุนภาครัฐยังมีความเสี่ยงที่จะไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้เดิม อีกทั้งการส่งออกในปีนี้น่าจะชะลอตัวลงกว่าที่คาดไว้

อินโฟเควสท์ โดย รัชดา คงขุนเทียน/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

สรุปภาวะตลาด SET50 Index Future By GT Wealth Management 10 ก.ค. 56 (ภาคบ่าย)

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พุธที่ 10 กรกฎาคม 2556 17:03:19 น.

กรุงเทพฯ--10 ก.ค.--GT Wealth Management

ดัชนี SET50 ปิดที่ 946.66 จุด ลดลง 2.45 จุดโดยในวันนี้ยังคงเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway down โดยได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียที่เริ่มมีการชะลอตัวลง โดยเฉพาะจีนหลังตัวเลขดุลการค้าออกมาต่ำกว่าคาด บวกกับผลกระทบจากประเด็นเรื่องมาตรการ QE ซึ่งส่งผลให้ช่วงที่ผ่านมามีเงินทุนจากนักลงทุนต่างชาติไหลออกจากภูมิภาค ขณะที่ผลการประชุม กนง.มีการคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด และพร้อมผ่อนคลายมาตรการหากอุปสงค์ในประเทศลดลงอย่างมาก ทำให้คาดว่า ในระยะยาว ทิศทางการดำเนินนโยบายจะเน้นไปที่การเติบโตทางเศรษฐกิจมากขึ้น ส่งผลบวกต่อดัชนี

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี SET50 สิ้นสุดอายุเดือนกรกฎาคม (S50N13) ปิดที่ระดับ 943.70 จุด ปริมาณการซื้อขาย 640

สัญญา

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี SET50 สิ้นสุดอายุเดือนสิงหาคม(S50Q13)ปิดที่ระดับ 945.00 จุด ปริมาณการซื้อขาย 1

สัญญา

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี SET50 สิ้นสุดอายุเดือนกันยายน (S50U13) ปิดที่ระดับ 935.50 จุด ปริมาณการซื้อขาย 28,677

สัญญา

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี SET50 สิ้นสุดอายุเดือนธันวาคม (S50Z13) ปิดที่ระดับ 936.00 จุด ปริมาณการซื้อขาย 787

สัญญา

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี SET50 สิ้นสุดอายุเดือนมีนาคม 2557 (S50H14) ปิดที่ระดับ 935.00 จุด ปริมาณการซื้อขาย 16 สัญญา

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี SET50 สิ้นสุดอายุเดือนมิถุนายน 2557 (S50M14) ปิดที่ระดับ 930.40 จุด ปริมาณการซื้อขาย 3 สัญญา

 

สรุปภาวะตลาด Gold Future By GT Wealth Management 10 ก.ค. 56 (ภาคบ่าย)

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พุธที่ 10 กรกฎาคม 2556 17:00:11 น.

กรุงเทพฯ--10 ก.ค.--GT Wealth Management

ราคาทองคำในตลาดโลกยังคงเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ US$1,250 ต่อออนซ์(Gold spot) หลังได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเงินเฟ้อของจีนที่ออกมาดีกว่าที่คาด แม้จะมีดุลการค้าจะออกมาแย่กว่าที่คาด ราคาทองคำอาจยังได้รับแรงหนุนเล็กน้อยจากสถานการณ์ในยุโรปที่ยังไม่ค่อยดีนัก ล่าสุด S&P ปรับลดความน่าเชื่อถือของอิตาลีจาก BBB+ลงสู่ BBB โดยคืนนี้ติดตามรายงานการประชุม FOMC และการแถลงการณ์ของนายเบน เบอร์นันเก้ เกี่ยวกับประเด็นเรื่องมาตรการ QE ที่คอยกดดันราคาทองในช่วงที่ผ่านมา ด้านค่าเงินบาทยังคงแข็งค่าใกล้ระดับ 31.20 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐฯหลังผลการประชุม กนง.ในวันนี้มีการคงอัตราดอกเบี้ย พร้อมกับปรับลดประมาณการเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง กองทุน SPDR รายงานการถือครองทองคำลดลงต่อเนื่อง 7.21 ตันที่ระดับ 939.75 ตัน

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำสิ้นสุดอายุเดือนสิงหาคม 2556 (GFQ13) ปิดที่ระดับ 18,680 บาท ปริมาณการซื้อขาย 945 สัญญา

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำสิ้นสุดอายุเดือนสิงหาคม 2556 ขนาด 10 บาท (GF10Q13) ปิดที่ระดับ 18,670 บาท ปริมาณการซื้อขาย 3,098 สัญญา

แนวโน้มทองคำ นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัดและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า ทิศทางค่าเงินบาทยังเป็นประเด็นสำคัญกับทิศทางราคาทองคำในประเทศ โดยช่วงที่ผ่านมามีความผันผวนอย่างมากจากเงินทุนไหลเข้าออกและทิศทางนโยบายทางการเงิน สำหรับราคาทองคำในตลาดโลกเชื่อว่าในช่วงระยะ 1-3 เดือนราคามีโอกาสฟื้นตัวหลังจากตกติดต่อกัน 3 ไตรมาส ประเด็นความเสี่ยงยูโรโซนและความต้องการทองคำในระดับสูงในช่วงก่อนเทศกาลดิวาลีในเดือนตุลาคมน่าจะเป็นปัจจัยหนุน ด้านการชะลอมาตรการเชื่อว่าน่าจะเห็นในไตรมาส 4 ของปี

[ginger 11,058]

จีนอ่วม!ดินถล่มฝัง40ชีวิต http://bit.ly/1aYEYc6

 

 

[ginger 11,058]

รักษาสุขภาพนะคะ กางร่มใจให้อบอุ่นด้วย

 

 

 

[ginger 11,058]

รายงาน -----FAD ตี 1

******เวลา ตี 3 คืนนี้ นาย เบน ********

* พยายามอย่าถือครองพอร์ตด้านใดด้านหนึ่งมากจนเกินไปนะคะ เนื่องจากตลาดจะมีความผันผวนปรับตัวขึ้นลงอย่างรวดเร็วค่ะ *

MTS

[ginger 11,058]

http://www.nationchannel.com/main/news/social/20130710/378380523/

พิษข้าวเน่า "เช็ค" ลบเพจในหน้าเฟซบุ๊ค

by Nation Channel | 10.07.2013 เวลา 18:06 น.

หน้าเพจเฟซบุ๊ก suttipong thamawuit ของ สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ ผู้ดำเนินรายการ คนค้นฅน และผู้บริหารในบริษัท ทีวีบูรพา ตามลิงค์ ไม่สามารถเข้าดูได้ โดยไม่ทราบสาเหตุ จนเกิดเสียงวิพากวิจารณ์ในโลกสังคมออนไลน์ และมีการแสดงความเห็น รวมถึงแสดงความเป็นห่วงว่า สุทธิพงษ์จะไม่ได้รับความปลอดภัย สาหตุดังกล่าวสืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ พิธีกรชื่อดังได้โพสต์ข้อความผ่านหน้าเฟซบุ๊กตัวเอง ระบุถึงโรงสีข้าวที่กำลังเตรียมส่งข้าวออกจำหน่าย ที่มาจากโรงสีรายใหญ่ในภาคอีสาน พร้อมระบุว่ามีสารพิษตกค้าง

[ginger 11,058]

เณรคำ2โผล่นครพนมพบมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม http://bit.ly/1aYKXxu

 

 

[ginger 11,058]

เทควันโดไทยครองแชมป์โคเรียโอเพ่น

• 10 กรกฎาคม 2556 เวลา 18:44 น. +
  

 

 

จอมเตะคว้าแชมป์คะแนนรวม พ่วงนักกีฬาและโค้ชยอดเยี่ยม ปิดฉากเทควันโคเรีย โอเพนยิ่งใหญ่

 

ทีมเทควันไทย ปิดท้ายคว้าเพิ่มอีก 1 เหรียญเงินจากรุ่น 73 กก.ชาย ยูลิสซีส ฮาลเลอร์ น้องชายของ คาสซานดร้า ฮาลเลอร์ ศึกโคเรีย โอเพ่น ที่เกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 10 ก.ค. สรุปผลงานรวมคว้า 6 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง คว้าถ้วยคะแนนรวมเป็นอันดับ 1 ชนะ เม็กซิโก ที่ทำได้ 4-2-3

นอกจากนี้ "น้องมิ้น" นภาพร จรณวัตร จอมเตะไทยอายุน้อยที่สุดในทีม ด้วยวัย 14 ปี ยังคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยม และ คิมแจวู เฮดโค้ชเยาวชนทีมชาติไทยครองรางวัลผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม

"ไม่คิดมาก่อนว่า นักเทควันโดไทยจะสร้างผลงานได้กระหึ่มเช่นนี้ ทุกวันที่ลงทำการแข่งขันเราจะมีเหรียญรางวัลมาตลอด แถมยังเป็นครั้งแรกของเยาวชนที่คว้าแชมป์ถ้วยรวมใบนี้ คงเกิดจากการฝึกซ้อมอย่างหนักมานานทั้งปี ทำให้ทุกคนมีพละกำลังแข็งแกร่งและสามารถสู้กับทุกชาติได้ แม้ว่า จะมีหลายรุ่นก็ตามที่เราน่าคว้าเหรียญทองด้วยซ้ำไป แต่นี่คือประสบการณ์สำคัญที่จะเข้ามาเติมเต็มให้ทุกคนในอนาคตได้ อย่างไรก็ตามจากนี้ไปทุกคนจะต้องฝึกซ้อมอย่างหนัก เพื่อรักษามาตรฐานตัวเองให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะการผ่านควอลิฟายเอเชี่ยนยูธเกมส์ ปีนี้ ที่หนานจิง ประเทศจีน เพื่อเข้าไปสู่รอบสุดท้ายยูธโอลิมปิกเกมส์ต่อไป นอกจากนี้ยังมีแมทช์เทควันโดเยาวชนชิงแชมป์โลกในปี 2014 อีก ซึ่งเราจะต้องเฟ้นนักกีฬาคนที่พร้อมและดีที่สุดไปเท่านั้น" โค้ชคิม กล่าว

[ginger 11,058]

หนี้ยุโรปเกินเยียวยาอีซีบีหมดกระสุน ไร้แผนใหม่

• 10 กรกฎาคม 2556 เวลา 08:55 น. | post today
  

 

 

 

โดย...นงลักษณ์ อัจนปัญญา

 

หายใจโล่งไปได้อีกสักระยะหนึ่ง เมื่อสหภาพยุโรป (อียู) ลงมติเห็นชอบร่วมกันในการให้เงินช่วยเหลืออีกงวดแก่กรีซ มูลค่า 3,900 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมากพอจะบรรเทาความวิตกกังวลของนักลงทุนในตลาดเกี่ยวกับปัญหาวิกฤตหนี้สาธารณะของภูมิภาคยุโรปโดยรวม

กระนั้น นักวิเคราะห์และนักลงทุนส่วนใหญ่ต่างตระหนักดีว่า ปัญหาหนี้ยุโรปยังคงเรื้อรังและหายขาดได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ซึ่งเป็นที่พึ่งและความหวังที่จะช่วยฉุดเศรษฐกิจของประเทศผู้ใช้เงินสกุลยูโร (ยูโรโซน) และชาติสมาชิกอียูทั้งหมดออกจากหล่มหนี้และภาวะถดถอย ตกอยู่ในสภาพที่แทบจะไม่เหลือเครื่องมือหรือทางเลือกใหม่ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาสักเท่าไรนัก

ทั้งนี้ เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อีซีบีได้สร้างความประหลาดใจเล็กน้อยให้กับนักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญในตลาด ด้วยการให้คำมั่นหนักแน่นว่า อีซีบีจะคงอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นประวัติการณ์ในปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 0.5% ต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง

เพราะท่าทีดังกล่าวของอีซีบีผิดแผกจากหลักการและแนวทางที่เคยยึดถือเชื่อมั่น และยืนกรานหนักแน่นมาตลอดว่าจะไม่เข้าช่วยเหลือประเทศที่ประสบปัญหาหนี้โดยตรงเด็ดขาด

แต่แม้จะผิดจากธรรมเนียมนิยมของอีซีบี ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้ก็ไม่ได้ผิดคาดจากสิ่งที่นักลงทุนในตลาดคาดหวังเอาไว้เลยแม้แต่น้อย เนื่องจากส่วนใหญ่ล้วนคาดการณ์ว่า อีซีบีจะออกมาเอ่ยปากยอมรับการเปลี่ยนแปลงท่าทีของตนเองอย่างเป็นทางการ ยืนยันได้จากผลสำรวจนักวิเคราะห์ชั้นนำของสำนักข่าวรอยเตอร์สก่อนหน้านี้ ที่พบว่านักวิเคราะห์มากกว่า 60 คน เชื่อมั่นว่าอีซีบีจะคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากให้อยู่ในระดับต่ำต่อไปอย่างน้อยภายในสิ้นปี 2556 นี้

แอนดรูว์ โบซอมเวิร์ธ ผู้จัดการพอร์ตลงทุนอาวุโสของพิมโก บริษัทบริหารจัดการกองทุนตราสารหนี้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก กล่าวว่า คำพูดของอีซีบีที่ส่งผ่านทางประธานกลุ่มอย่าง มาริโอ ดรากี สื่อความหมายได้อย่างชัดเจนว่า อีซีบีมีแผนและแนวทางในการจัดการกับปัญหาหนี้สาธารณะของยุโรป และเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาที่แตกต่างจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

อย่างไรก็ตาม ประเด็นปัญหาสำคัญที่น่าหวั่นใจและน่าปวดหัวยิ่งกว่ากรณีที่อีซีบีเปลี่ยนท่าทีก็คือ ข้อเท็จจริงที่ว่าทางเลือกในการแก้ไขปัญหาหนี้ของอีซีบีขณะนี้แทบจะไม่เหลือสักแนวทางเดียว

แถมสถานการณ์ปัจจุบันที่เฟดส่งสัญญาณชะลอแผนการซื้อคืนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐรายเดือนภายในปีนี้ ยังบีบให้ยุโรปกำลังเผชิญความเสี่ยงกับความโกลาหลวุ่นวายของตลาดโลกในขณะที่ตนเองยังคงอ่อนแอและไม่ฟื้นตัวจากภาวะถดถอยอย่างเต็มที่

ตัวอย่างผลกระทบที่เป็นสัญญาณเสี่ยงเบื้องต้นเห็นได้ทันทีจากที่ เบน เบอร์แนนคี ประธานเฟด ประกาศเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ว่าจะชะลอการซื้อคืนพันธบัตรในช่วงปลายปี อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของในกลุ่มยูโรโซนปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นทันที เช่น พันธบัตรรัฐบาลโปรตุเกส ที่อัตราผลตอบแทนปรับตัวสูงขึ้นเกินระดับ 8% ซึ่งเป็นระดับที่เกือบใกล้เคียงกับเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ที่บีบให้โปรตุเกสต้องเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากอียู

แนวโน้มสถานการณ์ข้างต้น ส่งผลให้นักวิเคราะห์และนักเศรษฐศาสตร์ รวมถึง ริชาร์ด บาร์เวลล์ นักเศรษฐศาสตร์จากอาร์บีเอส เห็นตรงกันว่า สิ่งที่อีซีบีจำเป็นต้องทำในขณะนี้ก็คือ การทำให้ตลาดเชื่อว่าอีซีบีจะลงมือทำอย่างจริงจังเสียที

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายสำนักยอมรับว่าการจะเดินหน้าลงมือทำได้นั้น อีซีบีจะต้องทบทวนแผนการปฏิบัติของตนเองให้ดีๆ เพราะมาตรการที่อีซีบีนำมาใช้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นอกจากจะไม่ช่วยแก้ปัญหาแล้ว ในบางครั้งบางสถานการณ์ยังเป็นตัวขัดขวางไม่ให้อีซีบีลงมือทำงานได้อย่างเต็มที่

ทั้งนี้ สำหรับปัญหาของมาตรการซื้อคืนพันธบัตรไม่จำกัดปริมาณ (โอเอ็มที) คือเงื่อนไขที่พ่วงท้ายมาด้วย โดยการสัญญาว่าจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลของประเทศที่ประสบปัญหาโดยไม่จำกัดจำนวนในตลาดรอง เพื่อช่วยลดดอกเบี้ยพร้อมกับนำเงินส่วนหนึ่งจากกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (อีเอสเอ็ม) มาซื้อพันธบัตรรัฐบาลที่ออกใหม่ โดยแลกกับการรัฐบาลประเทศนั้นๆ ต้องลงนามยอมรับเงื่อนไขจากภายนอก ซึ่งรวมถึงการให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เข้ามาควบคุมให้เป็นไปตามเงื่อนไขดังกล่าว คือปัญหาที่กระทบต่อเสถียรภาพทางการเมืองภายในประเทศ

พูดให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือว่า อีซีบีจะให้ความช่วยเหลือได้ก็ต่อเมื่อประเทศนั้นๆ เป็นฝ่ายเอ่ยปากขอความช่วยเหลือก่อน พร้อมยินยอมให้คนนอกเข้ามาควบคุมตรวจสอบการบริหารจัดการประเทศ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นสิ่งที่รัฐบาลแต่ละประเทศยอมไม่ได้ เพราะมีแนวโน้มจะส่งผลต่อคะแนนความนิยมจากคนภายในประเทศเป็นสำคัญ

ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจแต่อย่างใดที่จนถึงขณะนี้ชาติสมาชิกอย่างรัฐบาลสเปน อิตาลี รวมถึงโปรตุเกสยังไม่เคยยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือภายใต้โครงการดังกล่าว แถมเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่าทีของอีซีบียังคงยืนยันที่จะไม่เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขเดิมที่กำหนดขึ้นแต่อย่างใด

เพราะลำพังแค่ต้องตัดลดงบประมาณตามเงื่อนไขของอียู อีซีบี และไอเอ็มเอฟ (ทรอยกา) ในปัจจุบัน เศรษฐกิจของชาติสมาชิกก็แทบกระอัก จากภาวะถดถอยต่อเนื่องหลายเดือน

ขณะเดียวกัน การคงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำ ยังมีปัญหาตรงที่มาตรการดังกล่าวไม่ทั่วถึงเท่าเทียมสำหรับทุกชาติสมาชิก โดยสมาชิกจากชาติที่ประสบปัญหาหนี้ มักจะเผชิญกับต้นทุนการกู้ยืมที่สูงกว่า และจำเป็นต้องผลักภาระดังกล่าวให้กับผู้บริโภคภายในประเทศ กลายเป็นการซ้ำเติมภาวะถดถอยให้รุนแรงมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคไม่กล้าที่จะใช้จ่าย

ด้านทางเลือกที่เคยใช้อย่างมาตรการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำผ่านตลาดซื้อคืนที่มีระยะเวลาชำระคืนยาวถึง 36 เดือน หรือการให้เงินกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำระยะยาว (แอลทีอาร์โอ) ที่อีซีบีให้เงินกู้แก่ธนาคารเพื่อเพิ่มสภาพคล่องในระบบถึง 2 ครั้ง คือ ช่วงเดือน ธ.ค. 2554 และเดือน ก.พ. 2555 คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 1 ล้านล้านยูโรนี้ ปัญหาสำคัญก็คือ อัตราดอกเบี้ยที่ไม่ตายตัว ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เห็นว่า หากอีซีบีจะออกมาตรการดังกล่าวจำเป็นต้องใช้ระบบอัตราดอกเบี้ยตายตัวเพื่อดึงดูดนักลงทุน และช่วยให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดลดต่ำลง

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญส่วนหนึ่งลงความเห็นว่า เมื่อพิจารณาสถานการณ์ทั้งหมดข้างต้น สิ่งหนึ่งที่สามารถสรุปได้ก็คือ อีซีบีไม่อาจพึ่งพาแนวทางเดิมๆ ได้อีกต่อไป เพราะทำแล้วไม่ค่อยเห็นผล

ขณะเดียวกันเพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กลับคืนมายังภูมิภาคยุโรป ซึ่งมีส่วนสำคัญในการฟื้นเศรษฐกิจให้เติบโต อีซีบีจำเป็นต้องประกาศวิธีการใหม่ๆ ให้เร็วที่สุด

[ginger 11,058]

แฉ“ไอ้คำ”หนีหมายจับ ซุกบ้านส่วนตัวในอเมริกา

 

ชาวพังงาแห่คืนข้าวสารแจกผู้ประสบภัย หลังพบมีกลิ่นเน่า-ขึ้นรา

 

2013-07-10 13:07:31

งามหน้า ! ชาวบ้านพังงาแห่คืนข้าวสารที่แจกให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วม หลังพบมีกลิ่นเน่า-ขึ้นรา ด้าน อบต.ลำภี แจงเป็นข้าวที่คณะนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ นำมาแจก

วันนี้ (10 กรกฎาคม 2556) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิริยะ สังข์เลขา สมาชิก อบต.ลำภี อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เปิดเผยว่า มีชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมนำข้าวสารมาคืนจำนวน 30 ถุง หลังพบว่าข้าวสารที่ได้รับแจกมีกลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรงและขึ้นราหลังเปิดถุงออกมา จนไม่สามารถนำมารับประทานได้

โดย นายวิริยะ ชี้แจงว่า ข้าวดังกล่าวเป็นของสำนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัย จ.พังงา นำมาช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา คณะของนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย นำถุงยังชีพของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มาแจกให้กับชาวบ้านที่ประสบภัยในพื้นที่ตำบลลำภีและตำบลทุ่งมะพร้าว

ทั้งนี้ อบต.ลำภี ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ เป็นเพียงผู้ที่รับสิ่งของบริจาคไว้ และนำไปแจกให้กับชาวบ้านในพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วมเท่านั้น ซึ่งการที่ถุงยังชีพมีข้าวสารเน่าเสียเท่ากับซ้ำเติมความเดือดร้อนของชาวบ้านเข้าไปอีก ทำให้มีบางคนพูดไปว่าอาจจะเกี่ยวกับข้าวที่อยู่ในโครงการจำนำของรัฐบาล ตนเองจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช้วยชี้แจงด้วย

http://toptenthailand.com/5676-news.html

 

 

แหล่งที่มา : http://hilight.kapook.com/

[ginger 11,058]

สรุปป้ายผ้าป่วนใต้162จุด ใน4จังหวัด กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า สรุปเหตุการณ์กลุ่มก่อความไม่สงบติดป้ายผ้าป่วนพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 162 จุด 'พานทองแท้'ยันเสียงในคลิปเป็นเสียงพ่อจริง "พานทองแท้"โพสต์เฟซบุ๊คการันตีเสียงในคลิปเป็นเสียง"ทักษิณ"จริง เผยพ่อรับบางเรื่องที่คุยมีในคลิปมีการคุยกันจริง จีนเตือนแนวโน้มการค้าซบเซา จีนเตือนแนวโน้มการค้าย่ำแย่ หลังรายงานตัวเลขนำเข้า และส่งออกร่วงลงทั้งคู่ สวนกระแสคาดการณ์ที่เชื่อว่าจะทะยานสูงขึ้น 'อุเทน'ยื่นปธ.วุฒิฯขอดูทรัพย์สินปปช.พรุ่งนี้ ดีเอสไอจ่อแจ้งข้อหาทุจริตครูผู้ช่วยอีก2ราย 'พงศ์เทพ'รออีก2สถาบัน ก่อนชงสภาแก้รธน. สรุปสถานการณ์ตลาดหุ้น-ทองรอบวัน 10 ก.ค.56

 

โอ๊คคอนเฟิร์มคลิปเสียงทักษิณชัวร์-มีการคุยกันจริง http://bit.ly/15ey4ZT

 

 

[NEWS 2,613]

สวัสดีครับคุณ.. Ginger TraderJunior Alan Gejen Wann ตู้เย็น Pasaya OKorNO เด็กสยาม MegaGold meng166 เต้าหู้ และทุกท่านครับ

กราฟรายวันตอนนี้เป็นเขียวแท่งสามครับ พุ่งแรงงง

ล่าสุดราคาต่ำสุด 1243 ราคาสูงสุด1290

ราคาขณะนี้อยู่ที่ 1284.x ครับ

 

สัญญานหลักแบลคคิง ทิศทาง sideway up ครับ

RSI Price Line เส้นเขียว 39.28 วิ่งมา 45.00 อยู่ต่ำกว่า50 ครับ

Trade Signal Line เส้นแดง 35.51 วิ่งมา 38.08 ครับอยู่ต่ำกว่า 50 ครับ

market base Line เส้นเหลือง 37.94 วิ่งมา 38.28 ครับ

เส้นแดงเพิ่มครับ

 

 

สัญญานรองQQE ทิศทาง sideway up

เส้นฟ้า 36.45 วิ่งมา 40.56 อยู่สูงกว่าเส้นประเหลืองครับ

เส้นประเหลือง 30.24 วิ่งมา 34.27 ครับอยู่ต่ำกว่าเส้นฟ้าครับ

(เส้นเหลืองถ้าคงที่นานๆ จะแสดง side way หรือกลับตัวและ

ถ้าทิศทางลงจะเด้งไปอยู่สูงกว่าเส้นฟ้าทันทีถ้าขึ้นจะลงมาต่ำกว่าเส้นฟ้าทันที)

แนวต้าน 1290 1300 1308 1321

แนวรับ 1277 1271 1260 1251

ภาพรวมๆจากสัญญานราคา sideway up ครับ

 

 

 

 

ขอให้โชคดีครับ

Bye

ถูกแก้ไข กรกฎาคม 10, 2013 โดย news

[Pasaya 499]

สวัสดียามเช้าค่ะ

ขอบคุณสำหรับทุกข้อมูลข่าวสารและการวิเคราะห์ค่ะ