มือใหม่หัดวิเคราะห์

[ginger 11,058]

 

 

Wealth Station

· 6,024 like this

47 minutes ago

·

• 
   
   
   
  สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 25 กรกฎาคม 2556
   
  สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ก.ค. 56)--สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (S&P) ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของธนาคารอิตาลี 18 แห่ง อันเนื่องมาจากภาวะถดถอยที่รุนแรง
   
  -- ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของเกาหลีใต้ขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วขึ้นแตะ 1.1% ในไตรมาสที่ 2 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เนื่องมาจากการฟื้นตัวของการบริโภคของภาคเอกชน สามารถลดผลกระทบจากการอ่อนแรงลงของการลงทุนในภาคโรงงาน
   
  -- ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2.5% ในการประชุมวันนี้ เนื่องจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจในต่างประเทศ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ และอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ
   
  -- ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ ได้เตรียมเสนอชื่อนางแคโรไลน์ เคนเนดี บุตรสาวของอดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี ผู้ล่วงลับ ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศญี่ปุ่น
   
  -- นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน เผยจะเดินหน้าเร่งการก่อสร้างทางรถไฟ โดยเฉพาะการก่อสร้างในพื้นที่ภาคกลางและตะวันตก เพื่อสนับสนุนระบบเศรษฐกิจของประเทศที่มีแนวโน้มว่า จะขยายตัวที่ระดับชะลอตัวที่สุดในรอบ 23 ปี
   
  -- นางอู๋ เสี่ยวหลิง อดีตรองผู้ว่าการธนาคารกลางจีนคาดการณ์ว่า จีนไม่มีแนวโน้มจะยกเลิกเพดานอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในระยะใกล้นี้ หรืออย่างน้อยที่สุดก็ไม่ใช่ปีนี้หรือปีหน้า
   
  -- เจ้าหน้าสเปนเปิดเผยว่า เกิดเหตุรถไฟโดยสารตกรางเมื่อช่วงค่ำวานนี้ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของสเปน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 60 รายและบาดเจ็บประมาณ 130 ราย
   
  -- เกาหลีใต้และเกาหลีเหนือได้เริ่มเจรจาระดับคณะทำงานเป็นรอบที่ 6 แล้ววันนี้ในประเด็นการเปิดนิคมอุตสาหกรรมแกซอง ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองแกซองบริเวณชายแดนทางใต้ของเกาหลีเหนือ ที่ปิดทำการมาเป็นเวลากว่า 3 เดือนแล้ว
   
  -- นายโยชิฮิเดะ สึกะ ประธานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเผยกับสื่อมวลชนว่านายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นและคณะรัฐมนตรียังไม่ให้ความเห็นว่าพวกเขาจะเดินทางเยี่ยมศาลเจ้ายาซูคูนิซึ่งเป็นที่เก็บอัฐิของทหารและอาชญากรสงครามโลก หรือไม่
   
  -- บรรรดานักเศรษฐศาสตร์ได้แสดงมุมมองบวกอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับข้อมูลเศรษฐกิจในยูโรโซนที่ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งอาจจะบ่งชี้ว่ายูโรโซนมีแนวโน้มจะขยายตัวปานกลางในช่วงครึ่งหลังของปี 2556
   
  -- สถาบัน Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีเพิ่มขึ้นแตะ 106.2 ในเดือนก.ค. จากระดับ 105.9 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจเยอรมนีมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
   
  -- ตลาดแรงงานของจีนเริ่มส่งสัญญาณปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี แม้ว่าเศรษฐกิจของประเทศจะยังคงชะลอตัวก็ตาม อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างระบุว่า แรงกดดันด้านการจ้างงานยังคงอยู่ในระดับสูง
   
  -- ธนาคารกลางฟิลิปปินส์มีมติคงอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงที่ 3.5% ในวันนี้ ซึ่งสอดคล้องกับคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยธนาคารมีเป้าหมายที่จะปกป้องการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ท่ามกลางความเสี่ยงทั่วโลกที่เพิ่มมากขึ้น
   
  -- สำนักงานสถิติแห่งชาติของอิตาลี (Istat) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอิตาลีในเดือนก.ค.พุ่งขึ้นแตะ 97.3 จาก 95.8 ในเดือนมิ.ย. เนื่องจากภาคครัวเรือนมีมุมมองบวกมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งมีขนาดใหญ่อันดับ 3 ของยูโรโซน
   
  -- สำนักงานสถิติแห่งชาติของสเปนเปิดเผยว่า อัตราว่างงานของประเทศลดลง 0.9% แตะที่ 26.3% ในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 27.2% ในไตรมาสแรก ขณะที่จำนวนผู้ว่างงานปรับตัวลง 225,200 ราย สู่ระดับ 5.87 ล้านรายในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 2 ปี
   
  --อินโฟเควสท์
  

ถูกแก้ไข กรกฎาคม 25, 2013 โดย ginger

[ginger 11,058]

ดีค่ะ เย็นๆ รีบเร่ง ช้าลงนิดสุขภาพใจดี อารมณ์ดี

เงินบาทปิด 31.12/14 อ่อนค่าต่อเนื่องจากช่วงเช้าตามราคาทองคำ

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม 2556 17:43:20 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 31.12/14 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าต่อเนื่องจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.06/08 บาท/ดอลลาร์

"เงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่องจากช่วงเช้า โดยเฉพาะช่วงท้ายตลาดมีนักลงทุนปิดสถานะกันมาก โดยปัจจัยหลักวันนี้มาจากราคาทองคำ ซึ่งมีบางช่วงของวันราคาทองลงไปทดสอบระดับต่ำสุดที่ 1,309 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์" นักบริหารเงิน กล่าว

 

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในวันพรุ่งนี้ที่ระดับ 31.00-31.18 บาท/ดอลลาร์ โดยให้จับตาทิศทางราคาทองคำในตลาดโลกคืนนี้ต่อไป หากราคาหลุด 1,300 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ เงินบาทอาจจะไปทดสอบ 31.18 หรือ 31.21 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าจะมีแรงซื้อกลับมา

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 99.88 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่อยู่ที่ระดับ 100.08 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3185 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.3198 ดอลลาร์/ยูโร

- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,456.68 จุด ลดลง 44.68 จุด, -2.98% มูลค่าการซื้อขาย 56,291 ล้านบาท

- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 380.99 ลบ.(SET+MAI)

- สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวม 52,769 ล้านบาท

- นายวีรพงษ์ รามางกูร ในฐานะประธานกรรมการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า คณะกรรมการธปท.ยังมีความจำเป็นและยังมีความกระตือรือร้นที่ต้องเดินหน้าแผนการลดขาดทุนของ ธปท.ต่อไป หลังจากสถานะเริ่มดีขึ้นหลังจากค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่า ซึ่งทำให้ผลขาดทุนของ ธปท.ลดลงถึง 1.2 แสนล้านบาท จากเดิมที่สูงถึง 8 แสนล้านบาท

- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ปรับลดประมาณการเติบโตของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศในปี 56 ลงมาที่ร้อยละ 11.0 (กรอบคาดการณ์ที่ร้อยละ 9 - 12) จากประมาณการเดิมที่ร้อยละ 11.5 เนื่องจากด้วยโมเมนตัมของเศรษฐกิจไทยในระยะถัดไปที่มีแนวโน้มอ่อนแรงลงจากหลากหลายปัจจัยเสี่ยง

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงลดลง 198 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 12,290 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึง เทียบเท่ากับ 1,329.44 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 21.42 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้

- สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัว 0.6% ในไตรมาส 1 ของปี 2556 จากระดับ 0.3% ในไตรมาส 2

- สำนักงานสถิติแห่งชาติของสเปนเปิดเผยว่า อัตราว่างงานของประเทศลดลง 0.9% แตะที่ 26.3% ในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 27.2% ในไตรมาสแรก ขณะที่จำนวนผู้ว่างงานปรับตัวลง 225,200 ราย สู่ระดับ 5.87 ล้านรายในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 2 ปี

- สำนักงานสถิติแห่งชาติของอิตาลี (Istat) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอิตาลีในเดือนก.ค.พุ่งขึ้นแตะ 97.3 จาก 95.8 ในเดือนมิ.ย. เนื่องจากภาคครัวเรือนมีมุมมองบวกมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งมีขนาดใหญ่อันดับ 3 ของยูโรโซน

อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 25 กรกฎาคม 2556 โดย YLG

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม 2556 17:06:14 น.

กรุงเทพฯ--25 ก.ค.--PRdd

สภาวะตลาดวันที่ 25 กรกฎาคม 2556 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,315.58—1,323.89 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ13 อยู่ที่ 19,520 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 210 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,730 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVQ13 อยู่ที่ 610 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 610 บาท

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.09 น.ของวันที่ 25/07/13)ออกมา คือ ออกมา คือ

แนวโน้มวันที่ 26 กรกฎาคม 2556

คณะรัฐมนตรีจีนเปิดเผยจีนจะยกเลิกการเก็บภาษีบริษัทขนาดย่อมและให้ความช่วยเหลือมากขึ้นแก่ผู้ส่งออกที่มีสถานะย่ำแย่และขยายช่องทางระดมทุนเพื่อเร่งการลงทุนในทางรถไฟ ซึ่งเป็นความพยายามล่าสุดของจีนที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัวได้ส่งผลบวกต่อทิศทางราคาทองคำซึ่งได้พยุงราคาทองคำไว้หลังจากราคาทองคำร่วงลงจากแรงขายทำกำไร เมื่อราคาแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน ขณะที่สัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องในสหรัฐ และสกุลเงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้น เนื่องจากข้อมูลยอดขายบ้านที่สดใสของสหรัฐ และการพุ่งขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ เป็นสัญาณบ่งชี้ว่านักลงทุนกำลังตอบรับกับการที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐใกล้ที่จะปรับลดมาตรการกระตุ้นทางการเงินมากกว่าประเทศชั้นนำอื่นๆ อย่างไรก็ตามการแข็งค่าของสกุลเงินยูโรเมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยเป็นอีกปัจจัยบวกสำหรับตลาดทองคำทั้งนี้ สกุลเงินยูโรได้แรงหนุนจากการขยายตัวมากเกินคาดของกิจกรรมทางธุรกิจในภาคเอกชนของเยอรมนี ผลสำรวจ PMI ของเยอรมนีและฝรั่งเศสออกมาดีเกินคาด และบรรรดานักเศรษฐศาสตร์ได้แสดงมุมมองบวกอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับข้อมูลเศรษฐกิจในยูโรโซนที่ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งอาจจะบ่งชี้ว่ายูโรโซนมีแนวโน้มจะขยายตัวปานกลางในช่วงครึ่งหลังของปี 2556เป็นอีกหนึงแรงกดดันในตลาดทองคำ เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าในระยะสั้นราคาทองคำพยายามขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,328 ดอลลาร์ต่อออนซ์หากราคาสามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ มีแนวโน้มที่ราคาทองคำจะขยับขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,338 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้หากราคาไม่สามารถยืนเหนือ 1,309 ดอลลาร์ต่อออนซ์ต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้น โดยราคาอาจอ่อนตัวลงสู่แนวรับสำคัญบริเวณ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำจะมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวออกด้านข้าง เบื้องต้นประเมินว่าหากราคาสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,309 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway Down อย่างไรก็ตามเมื่อราคาขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,328 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,338 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังไม่สามารถผ่านไปได้แนะนำขายทำกำไรบางส่วน และแนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคามีการย่อตัวเข้าใกล้บริเวณแนวรับ 1,309 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาไม่หลุดแนวรับราคาทองคำยังมีโอกาสแกว่งตัวออกด้านข้างต่อไป

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,309 (19,230บาท) 1,300 (19,100บาท) 1,286 (18,890บาท)

แนวต้าน 1,328 (19,510บาท) 1,338 (19,660บาท) 1,347 (19,790บาท)

GOLD FUTURES (GFQ13)

แนวรับ 1,309 (19,380บาท) 1,300 (19,240บาท) 1,286 (19,040บาท)

แนวต้าน 1,328 (19,660บาท) 1,338 (19,800บาท) 1,347 (19,940บาท)

SILVER FUTURES (SVQ13)

แนวรับ 19.70 (599 บาท) 19.45 (591 บาท) 19.10 (580 บาท)

แนวต้าน 20.35 (619 บาท) 20.80 (633บาท) 21.15 (644 บาท)

หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888 หรือwww.ylgbullion.com

 

สรุปภาวะ SET50 Index Future By GT Wealth Management 25 ก.ค. 56 (ภาคบ่าย)

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม 2556 17:28:50 น.

กรุงเทพฯ--25 ก.ค.--GT Wealth Management

ดัชนี SET50 ปิดที่ 1,017.90 จุด ลดลง 9.49 จุด โดยปรับตัวขึ้นในช่วงเช้าหลังได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อเก็งกำไรผลประกอบการ และคำกล่าวของนายกฯและรองนายกฯจีนที่ช่วยคลายความกังวลในประเด็นเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนแต่ปรับตัวลงในช่วงบ่ายจากปัจจัยลบอย่างดัชนีPMI ภาคการผลิตของจีนที่ออกมาต่ำกว่าคาดแรงขายทำกำไร ในหุ้นที่มีการประกาศผลประกอบการแล้ว โดยเฉพาะในกลุ่มธนาคารและICT รวมถึงปัจจัยทางเทคนิคที่ปรับขึ้นชนแนวต้านบริเวณ 1,030-1,033 จุด โดยคืนนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯโดยเฉพาะดัชนี PMI ภาคการผลิต แต่ในระยะกลางและยาว ดัชนีอาจได้รับผลบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในญี่ปุ่นที่คาดว่าจะมีการออกเพิ่มเติม

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี SET50 สิ้นสุดอายุเดือนกรกฎาคม (S50N13) ปิดที่ระดับ 984.00 จุด ปริมาณการซื้อขาย 240

สัญญา

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี SET50 สิ้นสุดอายุเดือนสิงหาคม (S50Q13)ปิดที่ระดับ 980.60 จุด ปริมาณการซื้อขาย 13

สัญญา

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี SET50 สิ้นสุดอายุเดือนกันยายน (S50U13) ปิดที่ระดับ 976.50 จุด ปริมาณการซื้อขาย 28,096

สัญญา

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี SET50 สิ้นสุดอายุเดือนธันวาคม (S50Z13) ปิดที่ระดับ 976.50 จุด ปริมาณการซื้อขาย 1,618

สัญญา

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี SET50 สิ้นสุดอายุเดือนมีนาคม 2557 (S50H14) ปิดที่ระดับ 977.10 จุด ปริมาณการซื้อขาย 68 สัญญา

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี SET50 สิ้นสุดอายุเดือนมิถุนายน 2557 (S50M14) ปิดที่ระดับ 977.00 จุด ปริมาณการซื้อขาย 18 สัญญา

[ginger 11,058]

พอร์ตลงทุนหุ้นวันนี้ต่างชาติซื้อ 376 ล้าน พอร์ตลงทุนหุ้นวันที่ 25 ก.ค. ต่างชาติซื้อ 376 ล้าน รายย่อยซื้อ 1.3 พันล้าน สถาบันขาย 62 ล้าน บัญชีบล.ขาย 1.7 ล้าน หุ้นไทยปิดร่วง44จุดหวั่นเฟดชะลอQE หุ้นไทยปิดร่วง 44.68 จุด อยู่ที่ 1,456.68 จุด หลังนักลงทุนหวั่นเฟดอาจชะลอมาตรการQE-การเมืองในประเทศส่อแววร้อนแรง คาดพรุ่งนี้ยังร่วงต่อ ปธ.สมาพันธ์ครูเสียใจครูสังเวยไฟใต้ สรุปภาวะซื้อขายทองคำ-อนุพันธ์ 25 ก.ค.56 'วีรพงษ์'อำลาแบงก์ชาติชี้ขาดทุนลด1.2แสนล. ราชกิจจาฯเผยเเพร่พ.ร.ฎ.เรียกประชุมรัฐสภา

ดูข่าว ทั้งหมด

[ginger 11,058]

http://www.naewna.com/local/61406

 

'ไอ้คำ'เหิม!ต่อรองกลับไทยสิ้นเดือนนี้'ห้ามจับสึก'

[ginger 11,058]

MTS

[ginger 11,058]

YLG

[ginger 11,058]

ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สปรับตัวลง 62 จุด ตลาดจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐคืนนี้

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม 2556 19:14:45 น.

ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับตัวลง 62 จุด หรือ 0.4% แตะที่ 15,438 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ล่วงหน้า ปรับตัวลง 0.5% แตะที่ 1,676.2 จุด เมื่อเวลา 07.38 น.ตามเวลานิวยอร์กในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ เพื่อประเมินว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรหรือไม่

หุ้นเวสเทิร์น ดิจิตอล ซึ่งเป็นผู้ผลิตฮาร์ดไดร์ฟรายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 4.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 1.95 ดอลลาร์ น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.06 ดอลลาร์

หุ้นเฟซ์บุ๊ก พุ่งขึ้น 20% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายไดเพิ่มขึ้น 53% แตะที่ 1.81 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสล่าสุด ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.62 พันล้านดอลลาร์

หุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ส พุ่งขึ้น 1.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นที่ระดับ 84 เซนต์ในไตรมาส 2 ซึ่งมากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 77 เซนต์

หุ้นวีซา อิงค์ พุ่งขึ้น 2.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิรายไตรมาสอยู่ที่ 1.23 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.88 ดอลลาร์ต่อหุ้น เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ซึ่งบริษัทขาดทุน 1.84 พันล้านดอลลาร์ หรือ 2.74 ดอลลาร์ต่อหุ้น

นักลงทุนจับตาดูกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย.ในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่ายอดสั่งซื้อสินค้าคงทนจะเพิ่มขึ้น 1.3% และในเวลาเดียวกันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 20 ก.ค. ซึ่งคาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 340,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 334,000 ราย

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ราคาน้ำมัน WTI ร่วง 97 เซนต์ หลังปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐพุ่ง

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม 2556 19:31:46 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนก.ย.ร่วงลง 97 เซนต์ แตะที่ 104.42 ดอลลาร์/บาร์เรล ในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกเมื่อเวลา 12.35 น.ตามเวลาลอนดอนในวันนี้ หลังจากมีรายงานว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 20 ปี

สำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 7.56 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปี 2533

อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เพราะตลาดได้แรงหนุนจากรายงานของ EIA ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบร่วงลง 2.83 ล้านบาร์เรล แตะ 364.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะร่วงลง 2.4 ล้านบาร์เรล

ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึง heating oil และน้ำมันดีเซล ลดลง 1.23 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 126.5 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลง 1.39 ล้านบาร์เรล แตะ 222.7 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล

นักลงทุนจับตาดูกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย.ในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่ายอดสั่งซื้อสินค้าคงทนจะเพิ่มขึ้น 1.3% นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 20 ก.ค.ในเวลาดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งคาดว่าจำนวนคนว่างงานจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 340,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 334,000 ราย

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

เงินยูโรแข็งค่าเทียบดอลล์ หลัง Ifo เผยความเชื่อมั่นทางธุรกิจเยอรมนีพุ่ง

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม 2556 21:00:32 น.

สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.1% แตะที่ 1.3217 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเวลาประมาณ 20.41 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ หลังจากสถาบัน Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีเพิ่มขึ้นแตะ 106.2 ในเดือนก.ค. จากระดับ 105.9 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจเยอรมนีมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นต่อภาวะทางธุรกิจในปัจจุบันปรับขึ้นสู่ระดับ 110.1 ในเดือนก.ค. จาก 109.4 ในเดือนก่อนหน้า ส่วนการคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มทางธุรกิจขยับลงเล็กน้อยที่ 102.4 จาก 102.5 ในเดือนมิ.ย.

ข้อมูลล่าสุดจาก Ifo ออกมาสอดคล้องกับดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นของภาคเอกชนเยอรมนีในเดือนก.ค.ที่พุ่งขึ้น 52.8 ซึ่งสูงสุดในรอบ 5 เดือน จาก 50.4 ในเดือนมิ.ย. โดยดัชนีที่สูงกว่า 50 แสดงให้เห็นว่าซึ่งบ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจโดยรวมของภาคเอกชนเยอรมนีขยายตัวขึ้นจากเดือนมิ.ย.

ส่วนสกุลเงินปอนด์อ่อนค่าลง 0.1% แตะที่ 1.5303 ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษเปิดเผยในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของอังกฤษขยายตัว 0.6% ในไตรมาส 2 ปีนี้ เมื่อเทียบรายไตรมาส ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนจากรายงานที่ระบุว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ หรือสินค้าที่มีอายุการใช้งานนานกว่า 3 ปี พุ่งขึ้น 4.2% ในเดือนมิ.ย. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 1.3% เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์สินค้าหลากหลายประเทศ ตั้งแต่เครื่องบินพาณิชย์ไปจนถึงเครื่องจักร

ขณะที่ตัวเลขการใช้จ่ายในภาคธุรกิจของสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนมิ.ย. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.5% โดยตัวเลขดังกล่าวไม่นับรวมยอดสั่งซื้อเครื่องบินพาณิชย์ และเป็นตัวเลขที่สามารถประเมินแผนการใช้จ่ายในภาคเอกชนได้

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

สหรัฐเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้นเกินคาด 4.2%

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม 2556 20:40:00 น.

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ หรือสินค้าที่มีอายุการใช้งานนานกว่า 3 ปี พุ่งขึ้น 4.2% ในเดือนมิ.ย. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 1.3% เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์สินค้าหลากหลายประเทศ ตั้งแต่เครื่องบินพาณิชย์ไปจนถึงเครื่องจักร

ขณะที่ตัวเลขการใช้จ่ายในภาคธุรกิจของสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนมิ.ย. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.5% โดยตัวเลขดังกล่าวไม่นับรวมยอดสั่งซื้อเครื่องบินพาณิชย์ และเป็นตัวเลขที่สามารถประเมินแผนการใช้จ่ายในภาคเอกชนได้

การเพิ่มขึ้นของตัวเลขการใช้จ่ายในภาคธุรกิจและยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนมิ.ย.นั้น ออกมาสอดคล้องกับข้อมูลภาคการผลิตของสหรัฐในช่วงก่อนหน้านี้ โดยผลสำรวจของมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของสหรัฐ เพิ่มขึ้นแตะ 53.2 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน จากระดับ 51.9 ณ สิ้นเดือนมิ.ย.

ทั้งนี้ ดัชนีที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคการผลิตมีการขยายตัว

มาร์กิตยังระบุด้วยว่า ดัชนีการผลิตปรับตัวสูงขึ้นแตะ 54.0 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนเช่นกัน จากระดับ 53.5 ในเดือนมิ.ย. ส่วนดัชนีคำสั่งซื้อใหม่บวกขึ้นแตะ 55.1 จาก 53.4 และดัชนีการจ้างงานดีดขึ้นสู่ระดับ 52.6 จาก 49.9

นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียเปิดเผยว่า ดัชนีแนวโน้มธุรกิจในเดือนก.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 19.8 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่เดือนมี.ค.2554 จากระดับ 12.5 ในเดือนมิ.ย.

ผลสำรวจระบุว่า ดัชนีย่อยต่างๆปรับตัวขึ้นลงแตกต่างกัน โดยดัชนีการส่งออกพุ่งสู่ระดับ 14.3 ในเดือนก.ค. จากระดับ 4.1 ในเดือนมิ.ย. ขณะที่ดัชนีการจ้างงานพลิกมาอยู่แดนบวก โดยทะยานสู่ระดับ 7.7 ในเดือนนี้ จากระดับ -5.4 ในเดือนก่อนหน้า หลังจากที่ปรับตัวติดลบมา 3 เดือนติดต่อกัน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นเกินคาด 7,000 ราย

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม 2556 20:10:00 น.

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 20 ก.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7,000 ราย สู่ระดับ 343,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 340,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงผันผวน

ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานอย่างต่อเนื่องโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ปรับตัวลดลง 1,250 รายจากสัปดาห์ก่อนหน้า

ข้อมูลด้านแรงงานครั้งล่าสุดแสดงให้เห็นว่า ตลาดแรงงานของสหรัฐกำลังเผชิญกับผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีและการลดงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐ ซึ่งฉุดรั้งอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งแรกของปีนี้

ทั้งนี้ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเป็นหนึ่งในข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่นักลงทุนจับตาดูอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะตัดสินใจลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตร หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หรือไม่

เบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดกล่าวเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า เฟดจะเริ่มลดขนาดโครงการ QE ในปลายปีนี้ หากเศรษฐกิจฟื้นตัวตามที่คาดการณ์ไว้

"หากภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ อัตราการซื้อสินทรัพย์ก็อาจจะลดลงรวดเร็วขึ้น แต่หากแนวโน้มเศรษฐกิจซบเซาลง หรือหากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าภาวะด้านการเงินเคลื่อนไหวอย่างไม่สอดคล้องกับความคืบหน้าในตลาดแรงงาน การปรับลดอัตราการซื้อสินทรัพย์ก็อาจจะล่าช้าออกไป" เบอร์นันเก้กล่าว

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

สวัสดีเพื่อนๆ ส่งแรงใจให้ทุกคนนะคะ

......ฝันดี สบายใจ......

[ginger 11,058]

MTS

[คิดดี 11]

ขอบคุณครับ

[NEWS 2,613]

สวัสดีครับคุณ.. Ginger TraderJunior Alan Gejen Wann ตู้เย็น Pasaya OKorNO เด็กสยาม MegaGold meng166 deb99 เต้าหู้ และทุกท่านครับ

กราฟรายวันตอนนี้เป็นเขียวแท่งแรกครับ

ล่าสุดราคาต่ำสุด 1308 ราคาสูงสุด1338

ราคาขณะนี้อยู่ที่ 1332.x ครับ

 

สัญญานหลักแบลคคิง ทิศทาง sideway up ครับ

RSI Price Line เส้นเขียว 55.31 วิ่งมา 58.32 ครับ

Trade Signal Line เส้นแดง 54.34 วิ่งมา 56.67 ครับอยู่สูงกว่า 50 ครับ

market base Line เส้นเหลือง 40.57 วิ่งมา 41.10 ครับ

เส้นแดงเพิ่มครับ

 

 

สัญญานรองQQE ทิศทาง sideway up

เส้นฟ้า 54.63 วิ่งมา 56.26 อยู่สูงกว่าเส้นประเหลืองครับ

เส้นประเหลือง 49.33 วิ่งมา 49.61 ครับอยู่ต่ำกว่าเส้นฟ้าครับ

(เส้นเหลืองถ้าคงที่นานๆ จะแสดง side way หรือกลับตัวและ

ถ้าทิศทางลงจะเด้งไปอยู่สูงกว่าเส้นฟ้าทันทีถ้าขึ้นจะลงมาต่ำกว่าเส้นฟ้าทันที)

แนวต้าน 1338 1347 1355 1371

แนวรับ 1308 1300 1294 1281

ภาพรวมๆจากสัญญานราคา sideway up ครับ

 

 

 

 

 

ขอให้โชคดีครับ

Bye

ถูกแก้ไข กรกฎาคม 26, 2013 โดย news

[ginger 11,058]

สวัสดียามเช้า

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม 2556 07:28:36 น.

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อรายงานผลประกอบการของบริษัทหลายแห่ง รวมถึง BASF และ ABB นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นในรอบสัปดาห์ที่แล้ว

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.5% ปิดที่ 299.63 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,956.02 จุด ลดลง 6.73 จุด -0.17% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,298.98 จุด ลดลง 80.13 จุด หรือ -0.96% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,587.95 จุด ลดลง 32.48 จุด หรือ -0.49%

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ก.ค.) ขานรับยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาด และผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทหลายแห่ง อย่างไรก็ตาม ตลาดปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย เพราะได้รับแรงกดดันในระหว่างวันหลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานปรับตัวสูงขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,555.61 จุด เพิ่มขึ้น 13.37 จุด หรือ +0.09% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 3,605.19 จุด เพิ่มขึ้น 25.59 จุด หรือ +0.71% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,690.25 จุด เพิ่มขึ้น 4.31 จุด หรือ +0.26%

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 ก.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่ายอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนมิ.ย. อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 20 ปี

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ขยับขึ้น 10 เซนต์ ปิดที่ 105.49 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ ปิดที่ 107.65 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่า การเพิ่มขึ้นของจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจต่อไป

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 9.3 ดอลลาร์ หรือ 0.70% ปิดที่ 1,328.8 ดอลลาร์/ออนซ์

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 13.4 เซนต์ ปิดที่ 20.154 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1447.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 7.30 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 740.75 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 4.55 ดอลลาร์

-- สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 ก.ค.) หลังจากมีรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีปรับตัวสูงขึ้นในเดือนก.ค. ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินคาด

ค่าเงินยูโรปรับตัวขึ้นแตะระดับ 1.3243 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.3129 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินปอนด์ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1.5360 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5315 ดอลลาร์สหรัฐ และสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.9214 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9156 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 99.57 เยน จากระดับ 100.17 เยน และอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9319 ฟรังค์ จากระดับ 0.9377 ฟรงค์

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 ก.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทเอกชน อย่างไรก็ตาม ตลาดปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานที่ว่าเศรษฐกิจอังกฤษขยายตัวในไตรมาส 2

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,587.95 จุด ลดลง 32.48 จุด หรือ -0.49%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก $9.3 จากความหวังเฟดเดินหน้าโครงการ QE

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม 2556 06:52:58 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่า การเพิ่มขึ้นของจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจต่อไป

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 9.3 ดอลลาร์ หรือ 0.70% ปิดที่ 1,328.8 ดอลลาร์/ออนซ์

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 13.4 เซนต์ ปิดที่ 20.154 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1447.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 7.30 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 740.75 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 4.55 ดอลลาร์

สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ในตลาดทองคำนิวยอร์กว่า สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ข้อมูลด้านแรงงานที่อ่อนแอจะทำให้เฟดยังคงเดินหน้าใช้มาตรการ QE เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 20 ก.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7,000 ราย สู่ระดับ 343,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 340,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงผันผวน

เบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดกล่าวเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า หากภาวะเศรษฐกิจ โดยเฉพาะตลาดแรงงานของสหรัฐเริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัวรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ เฟดก็จะเริ่มลดขนาดโครงการ QE ในปลายปีนี้

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรแข็งค่าหลังความเชื่อมั่นทางธุรกิจเยอรมนีพุ่ง

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม 2556 07:17:22 น.

สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 ก.ค.) หลังจากมีรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีปรับตัวสูงขึ้นในเดือนก.ค. ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินคาด

ค่าเงินยูโรปรับตัวขึ้นแตะระดับ 1.3243 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.3129 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินปอนด์ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1.5360 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5315 ดอลลาร์สหรัฐ และสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.9214 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9156 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 99.57 เยน จากระดับ 100.17 เยน และอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9319 ฟรังค์ จากระดับ 0.9377 ฟรงค์

สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นหลังจาก สถาบัน Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีเพิ่มขึ้นแตะ 106.2 ในเดือนก.ค. จากระดับ 105.9 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจเยอรมนีมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นต่อภาวะทางธุรกิจในปัจจุบันปรับขึ้นสู่ระดับ 110.1 ในเดือนก.ค. จาก 109.4 ในเดือนก่อนหน้า ส่วนการคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มทางธุรกิจขยับลงเล็กน้อยที่ 102.4 จาก 102.5 ในเดือนมิ.ย.

ข้อมูลล่าสุดจาก Ifo ออกมาสอดคล้องกับดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นของภาคเอกชนเยอรมนีในเดือนก.ค.ที่พุ่งขึ้น 52.8 ซึ่งสูงสุดในรอบ 5 เดือน จาก 50.4 ในเดือนมิ.ย. โดยดัชนีที่สูงกว่า 50 แสดงให้เห็นว่าซึ่งบ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจโดยรวมของภาคเอกชนเยอรมนีขยายตัวขึ้นจากเดือนมิ.ย.

ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษเปิดเผยในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของอังกฤษขยายตัว 0.6% ในไตรมาส 2 ปีนี้ เมื่อเทียบรายไตรมาส ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 20 ก.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7,000 ราย สู่ระดับ 343,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 340,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงผันผวน

นักลงทุนจับตาดูรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนก.ค.ในวันนี้เวลา 20.55 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 84.0 จากช่วงต้นเดือนก.ค.ที่ระดับ 83.9

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดบวก 10 เซนต์หลังยอดซื้อสินค้าคงทนสหรัฐพุ่ง

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม 2556 06:43:20 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 ก.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่ายอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนมิ.ย. อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 20 ปี

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ขยับขึ้น 10 เซนต์ ปิดที่ 105.49 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ ปิดที่ 107.65 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ หรือสินค้าที่มีอายุการใช้งานนานกว่า 3 ปี พุ่งขึ้น 4.2% ในเดือนมิ.ย. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 1.3% เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์สินค้าหลากหลายประเทศ ตั้งแต่เครื่องบินพาณิชย์ไปจนถึงเครื่องจักร

การเพิ่มขึ้นของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนมิ.ย.นั้น ออกมาสอดคล้องกับข้อมูลภาคการผลิตของสหรัฐในช่วงก่อนหน้านี้ โดยผลสำรวจของมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของสหรัฐ เพิ่มขึ้นแตะ 53.2 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน จากระดับ 51.9 ณ สิ้นเดือนมิ.ย.

อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันในสหรัฐ หลังจากสำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 7.56 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปี 2533

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลด้านแรงงานที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 20 ก.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7,000 ราย สู่ระดับ 343,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 340,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงผันผวน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

[ginger 11,058]

ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT: สัญญาธัญพืชปิดร่วงหลังรายงาน USDA ซบเซา

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม 2556 08:28:04 น.

ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (25 ก.ค.) สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรปรับตัวลง เพราะได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ซบเซาของ USDA

สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค.ปรับตัวลง 1.5 เซนต์ หรือ 0.31% ปิดที่ 4.7875 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 4 เซนต์ หรือ 0.61% แตะที่ 6.4925 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย.ร่วงลง 32.75 เซนต์ หรือ 2.61% ปิดที่ 12.24 ดอลลาร์/บุชเชล

ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CME เปิดเผยว่า ตลาดข้าวโพดได้รับแรงกดดันจากตลาดสปอตที่อ่อนแรง ขณะที่ยอดส่งออกไม่สดใสนัก โดยกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) เปิดเผยว่า การยกเลิกการขายในช่วงปี 2555-2556 มีจำนวน 27,900 ตัน

รายงานระบุว่า ยอดส่งออกข้าวโพดจนถึง ณ วันที่ 18 ก.ค. อยู่ที่ 25% ของตัวเลขคาดการณ์จาก USDA สำหรับปี 2556-2557 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในรอบ 5 ปีที่ 17% และต้องขายให้ได้จำนวน 406,000 ตันต่อสัปดาห์เพื่อให้สอดคล้องกับประมาณการของ USDA

ตลาดข้าวสาลีปรับตัวลงตามตลาดข้าวโพด ขณะที่ยอดส่งออกประจำสัปดาห์อยู่ที่ 661,400 ตันสำหรับปีการตลาดปัจจุบัน และไม่มีรายงานการขายสำหรับปีการตลาดหน้า ข้อมูลส่งออกรายสัปดาห์นับเป็นปัจจัยหนุนต่อข้าวสาลี แต่ตลาดกลับมีทิศทางเดียวกับตลาดข้าวโพด

ยอดส่งออกถั่วเหลืองประจำสัปดาห์อยู่ที่ 128,300 ตันสำหรับปีการตลาดปัจจุบันและ 665,200 ตันสำหรับปีการตลาดหน้า คิดเป็นยอดรวม 793,500 ตัน โดย ณ วันที่ 18 ก.ค. ยอดขายสะสมอยู่ที่ 35.5% ของตัวเลขคาดการณ์จาก USDA สำหรับปีการตลาด 2556-2557 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในรอบ 5 ปีที่ 24.5% ขณะที่ต้องทำยอดขายให้ได้ 435,000 ตันต่อสัปดาห์จึงจะสอดคล้องกับคาดการณ์ของ USDA สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

ญี่ปุ่นเผยดัชนี CPI เดือนมิ.ย.พุ่ง 0.4% ทำสถิติเพิ่มครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม 2556 07:57:47 น.

กระทรวงการสื่อสารและกิจการภายในประเทศของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิ.ย.ขยายตัว 0.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ทำสถิติเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 1 ปี 2 เดือน เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาพลังงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 13.37 จุด รับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม 2556 06:11:49 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ก.ค.) ขานรับยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาด และผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทหลายแห่ง อย่างไรก็ตาม ตลาดปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย เพราะได้รับแรงกดดันในระหว่างวันหลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานปรับตัวสูงขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,555.61 จุด เพิ่มขึ้น 13.37 จุด หรือ +0.09% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 3,605.19 จุด เพิ่มขึ้น 25.59 จุด หรือ +0.71% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,690.25 จุด เพิ่มขึ้น 4.31 จุด หรือ +0.26%

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ หรือสินค้าที่มีอายุการใช้งานนานกว่า 3 ปี พุ่งขึ้น 4.2% ในเดือนมิ.ย. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 1.3% เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์สินค้าหลากหลายประเทศ ตั้งแต่เครื่องบินพาณิชย์ไปจนถึงเครื่องจักร

ขณะที่ตัวเลขการใช้จ่ายในภาคธุรกิจของสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนมิ.ย. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.5% โดยตัวเลขดังกล่าวไม่นับรวมยอดสั่งซื้อเครื่องบินพาณิชย์ และเป็นตัวเลขที่สามารถประเมินแผนการใช้จ่ายในภาคเอกชนได้

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากความแข็งแกร่งของบริษัทหลายแห่ง โดยเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 2 ปีนี้ อยู่ที่ 3.91 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปีที่แล้วที่ระดับ 3.76 หมื่นล้านดอลลาร์ เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของยอดขายรถปิคอัพในอเมริกาเหนือ อย่างไรก็ตาม หุ้นจีเอ็มปรับตัวลง 0.19%

ขณะที่เฟซบุ๊กเปิดเผยรายไดเพิ่มขึ้น 53% แตะที่ 1.81 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสล่าสุด ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.62 พันล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นเฟซบุ๊กพุ่งขึ้น 29.57% และมีส่วนช่วยพยุงดัชนี Nasdaq ปิดในแดนบวก

ส่วนวีซา อิงค์ เปิดเผยรายได้สุทธิรายไตรมาสอยู่ที่ 1.23 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.88 ดอลลาร์ต่อหุ้น เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ซึ่งบริษัทขาดทุน 1.84 พันล้านดอลลาร์ หรือ 2.74 ดอลลาร์ต่อหุ้น ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นวีซาพุ่งขึ้น 4.2%

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวันหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 20 ก.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7,000 ราย สู่ระดับ 343,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 340,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงผันผวน

นักลงทุนจับตาดูรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนก.ค.ในวันนี้เวลา 20.55 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 84.0 จากช่วงต้นเดือนก.ค.ที่ระดับ 83.9

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: ผิดหวังผลประกอบการเอกชน ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม 2556 06:26:43 น.

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อรายงานผลประกอบการของบริษัทหลายแห่ง รวมถึง BASF และ ABB นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นในรอบสัปดาห์ที่แล้ว

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.5% ปิดที่ 299.63 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,956.02 จุด ลดลง 6.73 จุด -0.17% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,298.98 จุด ลดลง 80.13 จุด หรือ -0.96% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,587.95 จุด ลดลง 32.48 จุด หรือ -0.49%

ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นขานรับรายงานของสถาบัน Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนีที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีเพิ่มขึ้นแตะ 106.2 ในเดือนก.ค. จากระดับ 105.9 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจเยอรมนีมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง

แต่ตลาดอ่อนแรงลงในเวลาต่อมา หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 20 ก.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7,000 ราย สู่ระดับ 343,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 340,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงผันผวน

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทหลายแห่ง โดยบริษัท BASF ซึ่งเป็นบริษัทเคมีภัณฑ์รายใหญ่ของยุโรปรายงานว่า ผลประกอบการไตรมาส 2 ร่วงลง 5.4% แตะระดับ 1.83 พันล้านยูโร ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.99 พันล้านยูโร ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้ฉุดหุ้น BASF ดิ่งลง 4.5%

หุ้น ABB ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้ารายใหญ่ของฝรั่งเศส ปรับตัวลง 3.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิในไตรมาส 2 อยู่ที่ 763 ล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 779 ล้านดอลลาร์

หุ้นซีเมนต์ดิ่งลง 6% หลังจากบริษัทปรับลดเป้าหมายการทำกำไรในปีนี้ ขณะที่หุ้นมิเชลิน ผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่ของยุโรป ปรับตัวลง 1.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรลดลงในครึ่งปีแรก เนื่องจากตลาดรถยนต์ในยุโรปซบเซาลง

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิร่วง 274.60 จุดเช้านี้ เหตุวิตกเงินเยนแข็ง

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม 2556 07:48:03 น.

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวดิ่งลงอย่างรุนแรงถึง 274.60 จุด หรือ 1.89% แตะที่ 14,288.33 จุด หลังจากตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาที เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินเยน ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เป็นเวลานาน

หุ้นที่ต้องพึ่งพาการส่งออกร่วงลงหลังจากเงินเยนแข็งค่าขึ้น รวมถึงหุ้นกลุ่มผลิตยางรถยนต์ และกลุ่มผลิตรถยนต์ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 32.48 จุด เหตุวิตกผลประกอบการเอกชน

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม 2556 07:22:40 น.

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 ก.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทเอกชน อย่างไรก็ตาม ตลาดปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานที่ว่าเศรษฐกิจอังกฤษขยายตัวในไตรมาส 2

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,587.95 จุด ลดลง 32.48 จุด หรือ -0.49%

ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลงเนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทหลายแห่ง

 

หุ้น ABB ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้ารายใหญ่ของฝรั่งเศส ปรับตัวลง 3.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิในไตรมาส 2 อยู่ที่ 763 ล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 779 ล้านดอลลาร์

หุ้นซีเมนต์ดิ่งลง 6% หลังจากบริษัทปรับลดเป้าหมายการทำกำไรในปีนี้ ขณะที่หุ้นมิเชลิน ผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่ของยุโรป ปรับตัวลง 1.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรลดลงในครึ่งปีแรก เนื่องจากตลาดรถยนต์ในยุโรปซบเซาลง

อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของอังกฤษขยายตัว 0.6% ในไตรมาส 2 ปีนี้ เมื่อเทียบรายไตรมาส ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ญี่ปุ่นเผยดัชนี CPI เดือนมิ.ย.พุ่ง 0.4% ทำสถิติเพิ่มครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม 2556 07:57:47 น.

กระทรวงการสื่อสารและกิจการภายในประเทศของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิ.ย.ขยายตัว 0.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ทำสถิติเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 1 ปี 2 เดือน เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาพลังงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

 

 

(เพิ่มเติม) ญี่ปุ่นเผยดัชนี CPI เดือนมิ.ย.พุ่ง 0.4% ทำสถิติเพิ่มครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม 2556 08:19:36 น.

กระทรวงการสื่อสารและกิจการภายในประเทศของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไป เดือนมิ.ย.ขยายตัว 0.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ทำสถิติเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 1 ปี 2 เดือน เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาพลังงาน

กระทรวงระบุว่า ดัชนี CPI พื้นฐานของญี่ปุ่น ที่ไม่รวมราคาอาหารสด ในเดือนมิ.ย. ปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับแต่ปี 2551 ซึ่งส่งสัญญาณบวกว่าเศรษฐกิจของญี่ปุ่นอาจกำลังเริ่มหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืด

ทั้งนี้ ราคาพลังงานปรับตัวขึ้น 7% เนื่องจากราคาไฟฟ้าปรับตัวสูงขึ้น 9.8% ในเดือนมิ.ย. ท่ามกลางการแข็งค่าของเงินเยนและการปรับขึ้นราคาไฟฟ้าจากบรรดาบริษัทผลิตกระแสไฟฟ้า

ราคาน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 6.4% หลังจากที่ราคาร่วงลงอย่างหนักในปีก่อน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิร่วง 274.60 จุดเช้านี้ เหตุวิตกเงินเยนแข็ง

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม 2556 07:48:03 น.

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวดิ่งลงอย่างรุนแรงถึง 274.60 จุด หรือ 1.89% แตะที่ 14,288.33 จุด หลังจากตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาที เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินเยน ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เป็นเวลานาน

หุ้นที่ต้องพึ่งพาการส่งออกร่วงลงหลังจากเงินเยนแข็งค่าขึ้น รวมถึงหุ้นกลุ่มผลิตยางรถยนต์ และกลุ่มผลิตรถยนต์ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

[ginger 11,058]

ทั่วทุกภาคของประเทศมีฝนลดลงในระยะนี้

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 กรกฎาคม 2556 05:55 น. กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม 2556 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลง ทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศมีฝนลดลงในระยะนี้ ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง แต่บริเวณทะเลอันดามันตอนบนยังคงมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือไว้ด้วย

 

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

 

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

 

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

 

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง และพังงา อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

• ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ผลักราคาทองคำขยับขึ้นพอสมควร05:30 น.
  
• หุ้นสหรัฐฯปิดบวกตามแรงผลักของผลประกอบการเฟซบุ๊ค05:19 น.
  
• น้ำมันขยับขึ้นหลังดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับตะกร้าเงิน05:08 น.
  
• ปาราวัยอากาศหนาวจัด คร่าชีวิตชาวบ้านแล้ว3ศพ04:30 น.
  
• ผู้คุมกฏสหรัฐฯแนะ'ดรีมไลเนอร์'ถอดอุปกรณ์ส่งสัญญาณฉุกเฉิน03:15 น.
  
• เครื่องบินดิ่งใส่บ้านในสหรัฐฯไฟลุกท่วม ไม่มีผู้เสียชีวิต02:06 น.
  
• โต๊ะเจรจาสองเกาหลีเปิดเขตอุสาหกรรมแกซองล้มเหลวโดยสิ้นเชิง 00:29 น.
  
• จีนตั้งข้อหาคอร์รัปชันอดีตดาวรุ่งพรรคคอมมิวนิสต์'โป๋ซีไหล'23:29 น.
  

ถูกแก้ไข กรกฎาคม 26, 2013 โดย ginger

[ginger 11,058]

ธนาคารกลางฟิลิปปินส์คงอัตราดอกเบี้ย ธนาคารกลางฟิลิปปินส์คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 3.5% ซึ่งต่ำเป็นประวัติการณ์ พร้อมคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากพิเศษไว้ที่ 2% ทองปิดบวก 9.3 ดอลล์ หวังโครงการคิวอี สัญญาทองคำตลาดCOMEXปิดบวก 9.3 ดอลลาร์ หวังเฟดเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ กระตุ้นเศรษฐกิจ ชาวยุโรปเสื่อมศรัทธาอียูเพิ่มขึ้น ผลการสำรวจครั้งใหม่ชี้ จำนวนชาวยุโรปที่ไม่เชื่อมั่นในสหภาพยุโรป เพิ่มขึ้นสองเท่าในช่วงหกปีที่ผ่านมา และสูงทำลายสถิติ เกาะติดตลาดหุ้นโลก 26 ก.ค.56 น้ำมัน WTI ปิดบวก 10 เซนต์ ดาวโจนส์ปิดบวก 13.37 จุด พม่าทบทวนข้อตกลงเหมืองทองแดงจีน

ดูข่าว ทั้งหมด

 

 

 

 

ข่าวยอดนิยม

• เกาะติดตลาดหุ้นโลก 26 ก.ค.56
  
• ดวงพยากรณ์วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
  
• จับตาการชุมนุมกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม
  
• เรื่องวุ่นนอกจอ ของ "ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น"
  
• ชา-ไอศกรีมดันกำไรยูนิลีเวอร์
  

[ginger 11,058]

 

การเมือง : สถานการณ์โลก

วันที่ 26 กรกฎาคม 2556 07:00

 

ชาวยุโรปเสื่อมศรัทธาอียูเพิ่มขึ้น

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ผลการสำรวจครั้งใหม่ชี้ จำนวนชาวยุโรปที่ไม่เชื่อมั่นในสหภาพยุโรป เพิ่มขึ้นสองเท่าในช่วงหกปีที่ผ่านมา และสูงทำลายสถิติ

วิกฤติเศรษฐกิจ อัตราว่างงานที่สูงเป็นประวัติการณ์ และการเข้ากอบกู้ 5 ชาติในยูโรโซน ส่งผลต่อสถานภาพของสหภาพยุโรป(อียู) ซึ่งเมื่อปีที่แล้วเพิ่งได้รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ

ยูโรบารอมิเตอร์ บริการสำรวจความคิดเห็นประชาชนของคณะกรรมาธิการยุโรป เผยแพร่ผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชน ที่ระบุว่าชาวยุโรป60% มีแนวโน้มไม่เชื่อมั่นในอียูเปรียบเทียบกับเมื่อต้นปี 2550 อันเป็นช่วงก่อนเกิดวิกฤติการเงินโลกและวิกฤติหนี้ยูโรโซน ซึ่งจำนวนผู้ไม่เชื่อมั่นอยู่ที่ 32%

ไซปรัส ซึ่งได้รับการช่วยเหลือทางการเงินช่วงต้นปีโดยต้องรีดภาษีเงินฝาก มีประชาชนไม่เชื่อมั่นอียูมากที่สุด 83% ส่วนกรีซซึ่งมีปัญหาเศรษฐกิจถดถอย การว่างงานสูง และรัฐบาลตัดงบประมาณตามคำสั่งของอียู กองทุนการเงินระหว่างประเทศ และธนาคารกลางยุโรปปรากฏว่าประชาชน 80% ไม่เชื่อมั่นในอียู

นอกจากนั้น ชาวอังกฤษก็ผิดหวังมากขึ้น โดยประชาชน 68% กล่าวว่ามีความเชื่อมั่นต่ออียูน้อยมาก ส่วนเงินยูโร อันเป็นเงินสกุลเดียวที่ใช้กันใน 17 ประเทศสมาชิก แต่อังกฤษไม่ได้เป็นสมาชิกนั้น ปรากฏว่าชาวอังกฤษให้การสนับสนุนน้อยที่สุดในอียูที่ 15%

ความเห็นของชาวอังกฤษมีขึ้นขณะที่นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ให้คำมั่นว่าจะจัดการลงประชามติภายในปี 2560 ว่าอังกฤษจะถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกอียูหรือไม่

สำหรับในประเด็นเกี่ยวกับอนาคตนั้น ปรากฎว่าชาวยุโรปเกือบครึ่งหนึ่งกล่าวว่าพวกเขาหมดหวังต่ออนาคตของอียู ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นจากช่วงปลายปี 2550 ซึ่งจำนวนผู้มองโลกแง่ร้ายเกี่ยวกับอนาคตอียูมีประมาณ 1 ใน 4

ผลการสำรวจดังกล่าวสะท้อนให้เห็นแนวโน้มที่น่ากังวลสำหรับอียู ที่ได้รับการออกแบบโดยยึดแนวคิด "สหภาพที่ยิ่งใหญ่" เพื่อประสานผลประโยชน์จากความร่วมมือในด้านต่างๆ ให้ลึกซึ้ง ทั้งการค้า สาธารณสุข และหลักนิติธรรม อีกทั้งผลสำรวจยังมีขึ้นขณะที่อิทธิพลของยุโรปในเวทีโลกลดน้อยลง

Tags : ยุโรป • อียู • ศรัทธา • ผลสำรวจ