ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

YLG on ปรับกลยุทธ์ Gold Outlook by YLG 12/03/57

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณพรรณงาม อารยวุฒิ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกลยุทธ์การลงทุน SET50 Index Futures รายการ News@12:00 P.M. ทางช่อง Money Channel วันพุธที่ 12 มีนาคม 2557 http://youtu.be/40PiIaMljPk

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวลดลง เหตุยังวิตกสถานการณ์ยูเครน

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 12 มีนาคม 2557 19:25:00 น.

ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับตัวลดลง 27 จุด หรือ 0.2% ที่ระดับ 16,309 จุด ขณะที่ S&P 500 ขยับลง 0.2% ที่ระดับ 1,861.5 จุด เมื่อเวลา 7.43 น.ตามเวลานิวยอร์ก ก่อนที่นายอาร์เซนี ยัตเซนยุค นายกรัฐมนตรีรักษาการของยูเครน จะเข้าพบประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ ที่ทำเนียบขาวในวันนี้

 

 

 

ทั้งนี้ รัสเซียได้พยายามช่วงชิงอำนาจการปกครองในเขตไครเมียจากยูเครน หลังจากที่นายวิคเตอร์ ยานูโควิช อดีตผู้นำยูเครนที่สนับสนุนรัสเซียถูกขับไล่ออกไปในเดือนก่อนหน้า

 

ในวันที่ 16 มี.ค.นี้ จะมีการลงประชามติซึ่งเปิดโอกาสให้ประชาชนในไครเมียได้มีทางเลือกที่จะตัดสินใจว่า จะยังคงเป็นเขตปกครองตนเองในยูเครนต่อไป หรือจะยกดินแดนเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซีย ขณะเดียวกันรัฐสภารัสเซียประกาศว่าจะจัดการอภิปรายในประเด็นที่ว่าจะรับสาธารณรัฐปกครองตนเองไครเมียเข้าเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของประเทศหรือไม่ ในวันที่ 21 มี.ค.นี้

 

รัฐสภาของสาธารณรัฐปกครองตนเองไครเมียมีมติรับคำประกาศอิสรภาพจากยูเครน ซึ่งระบุว่าไครเมียจะกลายเป็นเอกราช หากชาวไครเมียประมาณ 2 ล้านคนลงคะแนนสนับสนุนการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียในการทำประชามติ

 

ขณะที่นานาชาติต่างเตือนไครเมียว่า การลงคะแนนเสียงประชามติดังกล่าว จะไม่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ ส่วนรัฐบาลรักษาการของยูเครน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐและยุโรปนั้น ระบุว่า การจัดทำประชามติครั้งนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข โทร.02-2535000 ต่อ 338 อีเมล์: preeyapan@infoquest.co.th--

 

SCB นำร่องลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.125% มีผล 13 มี.ค.

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 12 มีนาคม 2557 18:37:27 น.

ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) พิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MLR ลง 0.125% ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MRR ลง 0.125% ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ลดลง 0.10 % และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์บุคคลธรรมดา ลดลง 0.125% มีผลตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2557 เป็นต้นไป เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ และเป็นการสนับสนุนรวมทั้งลดภาระให้แก่ผู้ประกอบการและลูกค้าในการทำธุรกิจ และตอบสนองนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)

 

 

 

อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th

 

ราคาน้ำมัน WTI หดตัวลง หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 12 มีนาคม 2557 19:46:01 น.

สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง เนื่องจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่าอุปสงค์พลังงานชะลอตัวลง

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 1.59 ดอลลาร์ แตะที่ 98.44 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อเวลา 19.29 น.ตามเวลาไทย

 

เมื่อวานนี้ การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านพลังงานของภาคเอกชน รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.63 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว

 

ส่วนในคืนนี้ตามเวลาไทย สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลกลางสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบอาจเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูสถานการณ์ในยูเครนอย่างใกล้ชิด โดยในวันที่ 16 มี.ค.นี้ จะมีการลงประชามติซึ่งเปิดโอกาสให้ประชาชนในไครเมียได้มีทางเลือกที่จะตัดสินใจว่า จะยังคงเป็นเขตปกครองตนเองในยูเครนต่อไป หรือจะยกดินแดนเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซีย ขณะเดียวกันรัฐสภารัสเซียประกาศว่าจะจัดการอภิปรายในประเด็นที่ว่าจะรับสาธารณรัฐปกครองตนเองไครเมียเข้าเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของประเทศหรือไม่ ในวันที่ 21 มี.ค.นี้

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข โทร.02-2535000 ต่อ 338 อีเมล์: preeyapan@infoquest.co.th--

 

งินบาทปิด 32.44/45 อ่อนค่าหลังกนง.ลดดอกเบี้ย มองกรอบพรุ่งนี้ 32.30-32.50

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 12 มีนาคม 2557 17:42:13 น.

นักบริหารเงิน กล่าวว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 32.44/45 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากตอนเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.36/37 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 32.36-32.47 บาท/ดอลลาร์

 

"คนรอเรื่อง กนง.กันมาตั้งแต่ 1-2 วันก่อนแล้วจนถึงเช้านี้เรื่อยมาแล้วก็มีเรื่องมติศาลรัฐธรรมนูญด้วย"นักบริหารเงิน กล่าว

 

 

 

สำหรับวันพรุ่งนี้ คาดว่าเงินบาทน่าจะเคลื่อนไหวแคบๆ ไปในทิศทางอ่อนค่าต่อเนื่อง มองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ระหว่าง 32.30-32.50 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดรอตัวเลขค้าปลีกของสหรัฐฯ และผลการประชุม FOMC ในสัปดาห์หน้า

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 102.75 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 102.92 เยน/ดอลลาร์

 

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3860 ดอลลาร์/ยูโร ทรงตัวจากตอนเช้า

- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,356.42 จุด ลดลง 7.86 จุด, -0.58% มูลค่าการซื้อขาย 30,287.76 ล้านบาท

 

- นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ทรงตัวได้ดี แม้จะอยู่ในแดนลบแต่ก็ไม่ลงมาก หลังตลาดฯเจอปัจจัยบวก-ลบผสมกัน ทั้งเรื่องศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านลบ. ขัดรัฐธรรมนูญทั้งเนื้อหา-กระบวนการ ทำให้ตกไปทั้งฉบับ แต่ก็ได้ปัจจัยบวกจากนง.ลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ด้านตลาดภูมิภาควันนี้ต่างปรับตัวลงกันทั่วหน้า เหตุกังวลสถานการณ์ในยูเครน-เศรษฐกิจของจีนที่ไม่ดี พรุ่งนี้ตลาดฯคงแกว่งแคบ พร้อมให้แนวรับ 1,348 แนวต้าน 1,368 จุด

 

- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 247.51 ลบ.(SET+MAI)

- ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ....(พ.ร.บ.2 ล้านล้านบาท) ขัดรัฐธรรมนูญทั้งในส่วนของเนื้อหา และกระบวนการ โดยในส่วนของเนื้อหานั้นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 169 วรรค 1 และมาตรา 170 ส่วนในเรื่องของกระบวนการตราร่างกฎหมายนั้นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก

 

- คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) มีมติ 4 ต่อ 3 ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาที่ 2.00% หลังประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงมากขึ้น โดยคาดการณ์ว่า GDP ปีนี้จะขยายตัวต่ำกว่า 3% จากปัญหาการเมืองในประเทศที่ยืดเยื้อ

 

- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) คาดว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะลดลงไปอยู่ที่ 1.75% ภายในครึ่งปีแรก แม้การส่งออกจะเริ่มมีสัญญาณดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรป แต่การขาดแรงขับเคลื่อนจากเศรษฐกิจในประเทศ ทั้งจากการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชน รวมถึงการใช้จ่ายภาครัฐยังคงเป็นความเสี่ยงที่สำคัญกว่าความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อและเงินทุนเคลื่อนย้ายในระยะนี้

 

- นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำ (Gold Price Sentiment Index) เดือนมี.ค.57 ว่า ค่าดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำอยู่ที่ระดับ 53.73 จุด เพิ่มขึ้น 0.18 จุด หรือ 0.3% ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก.พ.ที่ค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 53.55 จุด สะท้อนทัศนคติที่มีต่อราคาทองคำในประเทศยังเป็นเชิงบวกติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3

 

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงพุ่งขึ้น 130 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 12,580 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึง เทียบเท่ากับ 1,360.81 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 14.06 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/7.76 ดอลลาร์ฮ่องกง

 

อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th

 

 

ยูโรสแตทเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมยูโรโซนปรับตัวลง 0.2% ในเดือนม.ค.

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 12 มีนาคม 2557 17:59:26 น.

สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร 18 ประเทศ ปรับตัวลง 0.2% ในเดือนม.ค. จากเดือนธ.ค. ซึ่งตอกย้ำว่าฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ดำเนินมาอย่างยาวนานของยูโรโซนนั้นยังคงเปราะบาง

 

โดยการผลิตพลังงานร่วงลง 2.5% ในเดือนม.ค. ส่วนผลผลิตสินค้าอุปโภคคงทน ลดลง 0.6%

ทั้งนี้ แม้เศรษฐกิจยูโรโซนขยายตัวต่อเนื่องกันสามไตรมาส แต่อัตราการขยายตัวยังไม่สูงไปกว่า 0.3% ส่วนอัตราว่างงานยังคงอยู่ใกล้กับระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และเงินเฟ้อก็ยังต่ำว่าเพดานของธนาคารกลางยุโรปที่ 2% มาเป็นเวลากว่าหนึ่งปีแล้ว

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

http://www.ryt9.com/s/iq28/1855634

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับคุณ..Ginger TraderJunior Alan Gejen Wann ตู้เย็น Pasaya OKorNO เด็กสยาม MegaGold meng166 deb99 เต้าหู้ ปุยเมฆ tuktaaaa Lekk Espresso’(S) และทุกท่านครับ

กราฟรายวันตอนนี้เป็นเขียวแท่งสามครับ :047

 

ล่าสุดราคาต่ำสุด 1345 ราคาสูงสุด1370

ราคาขณะนี้อยู่ที่ 1365.x ครับ

 

สัญญานหลักแบลคคิง ทิศทางsideway อัฟครับ

RSI Price Line เส้นเขียว 63.84 วิ่งมา69.05 ครับ

Trade Signal Line เส้นแดง 63.27 วิ่งมา65.05 ครับ

market base Line เส้นเหลือง 63.46 วิ่งมา63.82 ครับ

เส้นแดงเพิ่มครับ

 

 

สัญญานรองQQE ทิศทางsideway

เส้นฟ้า63.67 วิ่งมา66.46 อยู่ต่ำกว่าเส้นประเหลืองครับ

เส้นประเหลือง 68.86 วิ่งมา68.86 ครับอยู่สูงกว่าเส้นฟ้าครับ

(เส้นเหลืองถ้าคงที่นานๆ จะแสดง side way หรือกลับตัวและ

ถ้าทิศทางลงจะเด้งไปอยู่สูงกว่าเส้นฟ้าทันทีถ้าขึ้นจะลงมาต่ำกว่าเส้นฟ้าทันที)

แนวต้าน 1371 1384 1390 1400

แนวรับ 1354 1331 1320 1307

ภาพรวมๆจากสัญญานราคาsideway ครั

 

 

 

 

 

ขอให้โชคดีครับ

:bye

post-1891-0-10745700-1394671754_thumb.png

บาย

ถูกแก้ไข โดย news

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

10013869_640575649331555_709695776_n.jpg

love the nature

สวัสดี news bas wann deb Goldleng Megagold Pasaya OKorNO Meng .... ....

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 13 มีนาคม 2557 07:32:24 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 12 มี.ค. 2557

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตรึงเครียดในยูเครน ซึ่งส่งผลให้ตลาดเคลื่อนตัวในกรอบแคบๆและผันผวนตลอดทั้งวัน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,340.08 จุด ลดลง 11.17 จุด หรือ -0.07% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,323.33 จุด เพิ่มขึ้น 16.14 จุด หรือ +0.37% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,868.20 จุด เพิ่มขึ้น 0.57 จุด หรือ +0.03%

 

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนเมื่อคืนนี้ (12 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนในยูเครน ยังคงเป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 23.8 ดอลลาร์ หรือ 1.77% ปิดที่ 1,370.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 54.3 เซนต์ ปิดที่ 21.358 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 11.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1476.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 6.65 ดอลลาร์ ปิดที่ 777.15 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 มี.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของอุปสงค์พลังงานในสหรัฐ

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 2.04 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 97.99 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ.

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 53 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 108.02 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- ดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าลงต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (12 มี.ค.) ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครนและเศรษฐกิจจีน

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 102.69 เยน จากระดับ 102.90 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8742 ฟรังค์ จากระดับ 0.8773 ฟรังค์

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3903 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3871 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงสู่ระดับ 1.6612 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.6626 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8986 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8969 ดอลลาร์สหรัฐ

 

-- ดัชนี FTSE 100 ที่ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (12 มี.ค.) จากความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดทางการเมืองในยูเครน

ดัชนี FTSE 100 ปิดลดลง 64.62 หรือ 0.97% ที่ 6,620.90 จุด

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตรึงเครียดในยูเครน ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการลงประชามติในไครเมียเพื่อเปิดทางให้ประชาชนตัดสินใจว่าจะยกดินแดนเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซียหรือไม่

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.1% ปิดที่ 327.95 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,306.26 จุด ลดลง 43.46 จุด หรือ -1.00% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,188.69 จุด ลดลง 119.10 จุด หรือ -1.28% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,620.90 จุด ลดลง 64.62 จุด หรือ -0.97%

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 16,340.08 จุด ลดลง 11.17 จุด -0.07%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,323.33 จุด เพิ่มขึ้น 16.14 จุด +0.37%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,868.20 จุด เพิ่มขึ้น 0.57 จุด +0.03%

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,306.26 จุด ลดลง 43.46 จุด -1.00%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,188.69 จุด ลดลง 119.10 จุด -1.28%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,620.90 จุด ลดลง 64.62 จุด -0.97%

 

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 21,856.22 จุด เพิ่มขึ้น 29.80 จุด +0.14%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,097.43 จุด ลดลง 31.97 จุด -1.02%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,818.60 จุด ลดลง 9.95 จุด -0.54%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,684.39 จุด ลดลง 19.82 จุด -0.42%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 21,901.95 จุด ลดลง 367.66 จุด -1.65%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,462.47 จุด ลดลง 67.11 จุด -1.03%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 1,997.69 จุด ลดลง 3.47 จุด -0.17%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,932.54 จุด ลดลง 31.33 จุด -1.60%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 14,830.39 จุด ลดลง 393.72 จุด -2.59%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,684.73 จุด ลดลง 17.60 จุด -0.20%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,384.20 จุด ลดลง 29.60 จุด -0.55%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนค่าต่อเนื่อง ขณะวิตกยูเครน,ศก.จีน

 

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 13 มีนาคม 2557 07:18:22 น.

ดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าลงต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (12 มี.ค.) ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครนและเศรษฐกิจจีน

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 102.69 เยน จากระดับ 102.90 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8742 ฟรังค์ จากระดับ 0.8773 ฟรังค์

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3903 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3871 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงสู่ระดับ 1.6612 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.6626 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8986 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8969 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบเยนและฟรังค์สวิสเป็นวันที่ 2 เนื่องจากมีความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัยมากขึ้น

ทางด้านกลุ่มประเทศตะวันตกขู่ที่จะคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม หลังจากที่รัฐสภาของไครเมียยอมรับคำประกาศอิสรภาพจากยูเครน ซึ่งระบุว่าไครเมียจะมีความเป็นอิสระ หากประชาชนในไครเมียลงมติสนับสนุนการแยกตัวจากยูเครนเพื่อมารวมกับรัสเซียในการลงประชามติในวันอาทิตย์นี้

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับผลกระทบจากข้อมูลการค้าที่อ่อนแรงของจีนที่เปิดเผยเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยยอดส่งออกของจีนในเดือนก.พ.ร่วงลง 18.1% จากปีก่อน ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้น 10.1% ส่งผลให้จีนมียอดขาดดุลการค้า 2.298 หมื่นล้านดอลลาร์

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th-

 

 

 

ธนาคารกลางเกาหลีใต้มีมติคงดอกเบี้ย 2.5% ในการประชุมวันนี้

 

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 13 มีนาคม 2557 08:18:25 น.

ธนาคารกลางเกาหลีใต้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2.5% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นการตรึงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นเวลา 10 เดือน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: วิกฤตยูเครนหนุนสัญญาทองคำปิดพุ่ง 23.8 ดอลลาร์

 

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 13 มีนาคม 2557 06:35:38 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนเมื่อคืนนี้ (12 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนในยูเครน ยังคงเป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 23.8 ดอลลาร์ หรือ 1.77% ปิดที่ 1,370.5 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 54.3 เซนต์ ปิดที่ 21.358 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 11.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1476.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 6.65 ดอลลาร์ ปิดที่ 777.15 ดอลลาร์/ออนซ์

สถานการณ์การเมืองที่ตึงเครียดในยูเครนยังคงเป็นปัจจัยหลักที่หนุนสัญญาทองคำพุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวัน และเมื่อคืนนี้สัญญาทองคำปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย. 2556

นักลงทุนจับตาดูการลงประชามติของไครเมียในวันอาทิตย์ที่ 16 มี.ค.นี้ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ประชาชนในไครเมียได้มีทางเลือกที่จะตัดสินใจว่า จะยังคงเป็นเขตปกครองตนเองในยูเครนต่อไป หรือจะยกดินแดนเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซีย ขณะเดียวกันรัฐสภารัสเซียประกาศว่าจะจัดการอภิปรายในประเด็นที่ว่าจะรับสาธารณรัฐปกครองตนเองไครเมียเข้าเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของประเทศหรือไม่ ในวันที่ 21 มี.ค.นี้

ทั้งนี้ ผู้นำในหลายประเทศได้ออกมาเตือนไครเมียว่า การลงคะแนนเสียงประชามติดังกล่าว จะไม่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ ส่วนรัฐบาลรักษาการของยูเครน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐและยุโรปนั้น ระบุว่า การจัดทำประชามติครั้งนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐได้กล่าวภายหลังจากจากที่ประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรีอาร์เซนีย์ ยัตเซนยุคของยูเครน ที่กรุงวอชิงตันเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐจะยืนเคียงข้างยูเครน พร้อมระบุว่า การที่รัสเซียแทรกแซงกิจการของไครเมียนั้น ถือเป็นการละเมิดกฎหมาย

นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากปัจจัยอื่นๆ รวมถึงความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมืองในซีเรีย และอิหร่าน รวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีน หลังจากยอดส่งออกเดือนก.พ.ของจีนร่วงลง 18.1% ขณะที่ยอดการนำเข้าเพิ่มขึ้น 10.1% ส่งผลให้จีนมียอดขาดดุลการค้าเดือนก.พ.สูงถึง 2.298 หมื่นล้านดอลลาร์

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT: แรงขายกองทุน ฉุดสัญญาถั่วเหลืองปิดร่วง

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 13 มีนาคม 2557 08:39:20 น.

ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (12 มี.ค.) สัญญาถั่วเหลืองปิดร่วงลงอย่างหนัก เนื่องจากกลุ่มกองทุนเข้ามาเทขาย ขณะที่ราคาข้าวสาลีทะยานขึ้นเพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ปริมาณการผลิตข้าวสาลีในสหรัฐจะปรับตัวลดลง

สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนพ.ค.ปรับตัวขึ้น 5.25 เซนต์ หรือ 1.09% ปิดที่ 4.885 ดอลลาร์/บุชเชล ราคาข้าวสาลีเพิ่มขึ้น 24.75 เซนต์ หรือ 3.76% ปิดที่ 6.8375 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 26 เซนต์ หรือ 1.84% ปิดที่ 13.87 ดอลลาร์/บุชเชล

กลุ่มกองทุนเทขายสัญญาถั่วเหลืองอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เข้าซื้อข้าวสาลีและข้าวโพดเมื่อคืนนี้

สำนักงานบริหารอุปทานธัญพืชแห่งบราซิล (CONAB) เปิดเผยตัวเลขประมาณการผลผลิตถั่วเหลืองของประเทศอยู่ที่ 85.4 ล้านตัน ซึ่งออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ของกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) ซึ่งอยู่ที่ 88.5 ล้านตัน นอกจากนี้ CONAB ยังได้ปรับลดคาดกคารณ์ผลผลิตข้าวโพดบราซิลลงสู่ระดับ 75.2 ล้านตัน ขณะที่ USDA คาดการณ์ที่ 70 ล้านตัน

ทางด้านปริมาณการผลิตน้ำมันเอธานอลสหรัฐประจำสัปดาห์ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ ส่วนปริมาณข้าวโพดที่ใช้ในการผลิตร่วงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันหยุดเทศกาลปีใหม่

สำหรับสัญญาถข้าวสาลีปรับตัวสูงขึ้น เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ทีว่า ปริมาณการผลิตข้าวสาลีสหรัฐปี 2557 จะอยู่ที่ 437 ล้านบุชเชล ลดลงจากระดับ 565 ล้านบุชเชลของปี 2555

ตลาด CBOT ประกาศเมื่อวานนี้ว่า ตลาดจะออกระดับการเปลี่ยนแปลงราคาซื้อขายสูงสุดในแต่ละวัน (Price Limit) รอบใหม่ของสัญญาธัญพืชล่วงหน้าในวันที่ 1 พ.ค. 2557 ตามที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการกำกับดูแลการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้าของสหรัฐ (CFTC)

ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงราคาซื้อขายสูงสุดในแต่ละวันจะกำหนดขึ้นปีละ 2 ครั้งในวันที่ 1 พ.ค.และ 1 พ.ย. โดยระดับการเปลี่ยนแปลงสูงสุดนั้น จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับมูลค่าตลาดระยะหลังจากวันดังกล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

In Focus: วิกฤติ MtGox สะเทือนวงการ “เงินดิจิตอล และ “เงินกระดาษ ทั่วโลก

ข่าวทั่วไป สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 5 มีนาคม 2557 14:01:52 น.

ช่วงปลายเดือนก.พ. ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุการณ์สะเทือนวงการผู้ใช้สกุลเงินเสมือนจริง “Bitcoin" เมื่อเว็บ "MtGox" ซึ่งเป็นเว็บไซต์ซื้อขาย Bitcoin รายใหญ่ที่สุดของโลกได้ยื่นเอกสารต่อศาลในกรุงโตเกียวเพื่อขอล้มละลายและพิทักษ์ทรัพย์ หลังจากถูกแฮคเกอร์โจรกรรม Bitcoin จำนวน 750,000 หน่วยของลูกค้า พร้อมกับ Bitcoin ของบริษัทราว 100,000 หน่วย ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวมทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 477 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1.56 หมื่นล้านบาท) โดย คำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยน CoinDesk ในวันดังกล่าว วิกฤติการณ์ครั้งนั้นถือเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้ผู้ถือครองสกุลเงิน Bitcoin หวั่นวิตกกับอนาคตของสกุลเงินดังกล่าว หลังจากที่ Bitcoin ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

Bitcoin คือ สกุลเงินดิจิตอล (Decentralized Online Digital Currency) ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของระบบเน็ตเวิร์คคอมพิวเตอร์ สร้างขึ้นโดยนักพัฒนาที่ใช้ชื่อว่า ซาโตชิ นากาโมโตะ (Satoshi Nakamoto) ในปี 2552 เพื่อทำธุรกรรมการเงินทางอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายสินค้า หรือการโอนเงินระหว่างกันโดยตรง โดยไม่ต้องผ่านสถาบันการเงินใดๆ

ชื่อย่อของสกุลเงิน Bitcoin คือ BTC และหน่วยเงินจะแบ่งย่อยได้ถึงทศนิยมแปดหลัก โดยเรียกหน่วยย่อยที่สุดว่า ซาโตชิ ตามชื่อผู้ให้กำเนิด

“Bitcoin" คืออะไร?

บางคนอาจจะยังไม่เข้าใจความหมายของสกุลเงิน Bitcoin ว่าคืออะไรกันแน่ และมีคอนเซปต์การทำงานอย่างไร ฉะนั้น เราจะพาคุณผู้อ่านไปทำความรู้จักกับสกุลเงินเสมือนจริงให้มากขึ้น โดยเริ่มจากลองนึกภาพตามขณะที่อ่านดังนี้ สมมุติว่า คุณขายของได้เงิน 1,000 บาท จึงนำเงินไปฝากธนาคาร ธนาคารก็จะบันทึกรายการลงในระบบของธนาคาร และในสมุดบัญชีว่า คุณมีเงินอยู่ 1,000 บาท แต่ Bitcoin จะทำงานแตกต่างออกไป โดยคุณเพียงแค่ต้องดาวน์โหลดโปรแกรมชื่อ Bitcoin Wallet เพื่อที่จะสร้าง address หรือเลขที่บัญชีของคุณ ซึ่งประกอบด้วยตัวเลขผสมตัวอักษรยาว 34 ตัวอักษร เช่น 19kgqNAaq983PXpaxeZSvLTc uieiVojmrN หลังจากนั้น เมื่อคุณขายของได้ ผู้ซื้อก็จะจ่าย Bitcoin มายังเลขที่บัญชี Bitcoin ของคุณได้เลย โดยจะมีระบบชื่อ “Block Chain" บันทึกข้อมูลธุรกรรมทุกรายการที่เกิดขึ้นทั้งหมด

โปรแกรม และระบบของ BitCoin อาศัยการเชื่อมต่อ P2P (peer to peer) ของโลกอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก ดังนั้น คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในโลกที่รันโปรแกรม Bitcoin อยู่ จะรับทราบการทำธุรกรรมแต่ละครั้งที่เกิดขึ้น และมีการตรวจสอบการใช้เงินผ่านการเข้ารหัสทางคณิตศาสตร์ พร้อมบันทึกไว้โดยคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในระบบเครือข่าย ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่ให้ยืมเครื่องคอมพิวเตอร์ของตัวเองในการประมวลผลแก้รหัสเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของรายการธุรกรรมนั้นๆ และบันทึกรายการดังกล่าวจะเรียกว่า Miner หรือ “นักขุด"

นักขุดที่สามารถคำนวณ และถอดรหัสคณิตศาสตร์ได้คนแรกจะได้รับผลตอบแทนเป็นเงิน Bitcoin ที่เกิดขึ้นใหม่ เมื่อเวลาผ่านไป จำนวน Bitcoin ที่ถูกสร้างขึ้น จะมีน้อยลงเรื่อยๆ เพราะ Bitcoin มีจำนวนจำกัดอยู่ที่ 21 ล้านหน่วยเท่านั้น นอกจากนี้ ในปัจจุบัน Bitcoin มีมูลค่าพุ่งขึ้นอย่างมหาศาล จึงทำให้คนหันมาขุด Bitcoin กันเป็นจำนวนมาก ดังนั้น โอกาสที่จะได้รับ Bitcoin ก็จะยากขึ้นด้วย

การแข่งขันที่มากขึ้นทำให้คอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการถอดรหัส Bitcoin ต้องมีพลังสูงขึ้นเรื่อยๆ จนมีการผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อใช้สำหรับถอดรหัส Bitcoin โดยเฉพาะ เพื่อที่จะสามารถถอดรหัส และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนเป็นคนแรก

ใครใช้ Bitcoin?

การทำธุรกรรมโดยใช้ Bitcoin ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงปี 2555 ขณะเดียวกัน ร้านค้าที่ยอมรับ Bitcoin ในฐานะสื่อกลางที่ใช้แลกเปลี่ยนสินค้า และบริการก็เพิ่มมากขึ้น ซึ่งขยายวงจากเกมออนไลน์ในช่วงแรกมาสู่ร้านค้าแบบ E-Commerce ร้านอาหารประเภท Quick Service Restaurants รวมถึงการชำระค่าเทอมของสถานศึกษาบางแห่งในต่างประเทศ

นอกจากนี้ ในปัจจุบัน เริ่มมีผู้ให้บริการ Bitcoin ATMs ในบางประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา และแคนาดา ซึ่งผู้ให้บริการ Bitcoin ไม่ใช่สถาบันการเงิน จึงไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารกลางชาตินั้นๆ โดยเมื่อเร็วๆนี้ บริษัทโรโบคอยน์ ของสหรัฐ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการตู้เอทีเอ็ม Bitcoin เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้เปิดให้บริการตู้เอทีเอ็ม Bitcoin แห่งแรกในเมืองแวนคูเวอร์ของแคนาดาแล้ว ทางบริษัทก็ได้รับยอดสั่งจองตู้เอทีเอ็มเพิ่มขึ้นมากมายทั่วโลก และตู้เอทีเอ็มชนิดนี้กำลังจะเปิดให้บริการในยุโรป และเอเชียด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม โรโบคอยน์ และผู้ให้บริการตู้เอทีเอ็มดังกล่าวทั่วโลกต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อจะได้รับใบรับประกันว่า ธุรกิจของพวกเขาไม่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ปริมาณการทำธุรกรรมด้วย Bitcoin ในปี 2557 เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 40,000-50,000 รายการต่อวัน ในขณะที่ มูลค่าตลาดของเงิน Bitcoin ณ วันที่ 25 ก.พ. 2557 อยู่ที่ประมาณ 7.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมูลค่าของ 1 Bitcoin จะอยู่ที่ประมาณ 534 ดอลลาร์ฯ

ทำไม Bitcoin จึงได้รับความนิยม?

1. รวดเร็ว และเสียค่าใช้จ่ายน้อย

การทำธุรกรรมทางไกลปกติจะใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน หรือบางทีเป็นสัปดาห์ แต่หากใช้ Bitcoin การทำธุรกรรมจะสำเร็จภายในประมาณหน่วยชั่วโมง

ค่าธรรมเนียมจากการทำธุรกรรมโดยใช้ Bitcoin นั้นถูกมากๆ เมื่อเทียบกับการทำธุรกรรมอื่นๆ ซึ่งโดยปกติแล้ว ค่าธรรมเนียมจะอยู่ที่ 0.0005 BTC ต่อการทำธุรกรรม 1 รายการ (หรือน้อยกว่า 25 สตางค์) ขณะที่หากใช้บัตรเครดิต ก็จะเสียประมาณ 3-5% ของจำนวนเงินในการทำธุรกรรมนั้นๆ

2. ไม่สามารถเรียกคืนได้

โดยปกติ ผู้ขาย หรือเจ้าของร้านค้าออนไลน์ จะมีความกังวลว่าหากรับซื้อด้วยบัตรเครดิต ผู้ซื้อมีสิทธิ์แจ้งเรียกเงินคืนได้ (Chargeback) ด้วยเหตุผลต่างๆนานา เช่น เจ้าตัวไม่ได้เป็นผู้ใช้บัตร หรือบัตรโดนขโมยบ้าง ซึ่งทำให้ผู้ขายเสียโอกาสรายได้ส่วนนั้นไป หากส่งของให้กับลูกค้าเรียบร้อยแล้ว แต่ Bitcoin เป็นช่องทางการชำระเงินที่ไม่สามารถเรียกคืนได้ 100%

3. ไม่ต้องใช้เอกสารให้ยุ่งยาก

คุณสามารถทำธุรกรรมด้วย Bitcoin ได้โดยไม่ต้องใช้เอกสาร หรือเสียเวลาเป็นวันๆในการเปิดบัญชี สิ่งที่คุณต้องทำคือ เพียงแค่ดาวน์โหลด Bitcoin Wallet ซึ่งมีหลายโปรแกรมให้เลือกใช้สำหรับสร้างบัญชีผู้ใช้ (Bitcoin Address) โดยคุณยังสามารถสร้างบัญชีผู้ใช้ได้มากเท่าที่คุณต้องการ

4. เป็นสกุลเงินของประชาชนอย่างแท้จริง

Bitcoin เป็นสกุลเงินอิสระที่ไม่ได้เป็นของรัฐใดรัฐหนึ่ง หรือธนาคารใดๆ ผู้ถือครองสกุลนี้สามารถนำเงินนั้นไปแลกเปลี่ยนกับอะไรก็ได้อย่างอิสระ และไม่จำเป็นต้องแสดงตัวตนในการแลกเปลี่ยนแต่ละครั้ง อาจกล่าวได้ว่า มวลชนคือเจ้าของที่แท้จริงของสกุลเงิน ซึ่งต่างจากสกุลเงินในปัจจุบันที่เป็นแบบ Fiat Currency คือมีค่าเพราะว่า รัฐหรือธนาคารรับรอง

เพราะเหตุใดบางคนจึงไม่สนับสนุน Bitcoin?

1. ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย

แม้ว่าการใช้ Bitcoin จะสะดวก รวดเร็ว และได้รับความนิยมมากขึ้น แต่สกุลเงินเสมือนจริงที่ไม่มีตัวตนนี้ ก็ยังมีจุดอ่อนด้านความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการเผชิญกับภัยคุกคามจากไวรัสคอมพิวเตอร์ที่อาจทำให้ Bitcoin สูญหายได้ ปัญหาของกระบวนการทำธุรกรรม หรือปัญหาการโจรกรรม Bitcoin ซึ่งทำให้เว็บไซต์รับแลก Bitcoin เป็นเงินจริงบางแห่งต้องปิดตัวลงอย่าง MtGox ซึ่งเป็นตลาดซื้อขาย Bitcoin รายใหญ่สุดของโลกที่ประกาศล้มละลายเมื่อเร็วๆนี้ หลังจากเว็บไซต์ถูกแฮคอย่างต่อเนื่อง ทำให้เหลือทรัพย์สินไม่พอจ่ายคืนลูกค้า โดยขณะนี้ MtGox มีทรัพย์สินเพียง 32.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่มีเงินค้างจ่ายลูกค้ารวมกันกว่า 119.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

2. ช่องทางเติบโตของตลาดมืด

เนื่องจากการใช้ Bitcoin เกิดขึ้นระหว่างผู้ใช้โดยตรง ไม่มีการระบุตัวตน และไม่อยู่ภายใต้การตรวจสอบของสถาบันการเงินใดๆ ดังนั้น มิจฉาชีพจึงสามารถใช้ Bitcoin เพื่อเป็นช่องทางในการฟอกเงิน หรือหลีกเลี่ยงภาษีในการขายสินค้า และบริการ อาทิเช่น Silk Road เว็บไซต์ชื่อดังซึ่งถูกปราบปรามเมื่อไม่นานมานี้ เว็บไซต์ดังกล่าวเป็นตลาดค้ายาเสพติดของผู้ค้านับพันราย คำนวณเป็นน้ำหนักได้นับร้อยกิโลกรัม รวมถึงสินค้าผิดกฎหมายอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีมูลค่ารวมกันกว่าร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยขณะนี้ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยึดเงินในบัญชีของ Silk Road ไปแล้วรวม 173,991 BTC หรือประมาณ 4,600 ล้านบาท

3. ความน่าเชื่อถือ และความผันผวนของอัตรา Bitcoin

Bitcoin เป็น “เงินเสมือน" ที่ไม่มีสินทรัพย์หนุนหลัง ต่างจากค่าเงินสกุลต่างๆ (Fiat Money) ที่ส่วนใหญ่จะหนุนหลังด้วยเงินสกุลหลัก หรือทองคำ มูลค่าของ Bitcoin จึงขึ้นอยู่กับความน่าเชื่อถือของผู้ใช้เป็นหลัก ดังนั้น หากเกิดเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ใช้ Bitcoin ก็จะทำให้อัตราแลกเปลี่ยน Bitcoin มีความผันผวนสูงกว่าค่าเงินของประเทศต่างๆ รวมถึงมีโอกาสเสื่อมค่าอย่างรวดเร็ว ดังเช่นมูลค่า Bitcoin ที่ซื้อขายกันที่เว็บไซต์ MtGox ที่ลดลงต่ำกว่า 200 ดอลลาร์สหรัฐ ณ วันที่ 26 ก.พ. 2557 จากระดับ 900 ดอลลาร์สหรัฐ ณ ปลายเดือนม.ค. 2557 ในช่วงที่เว็บไซต์มีปัญหาขัดข้อง ซึ่งความเสี่ยงดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินของผู้ขายสินค้า และบริการซึ่งรับชำระเงินด้วย Bitcoin โดยตรง เพราะจะทำให้วัดมูลค่าของการทำธุรกรรม ตลอดจนการประเมินกำไร-ขาดทุนที่แท้จริงได้ค่อนข้างยาก และผันผวนตามมูลค่าของ Bitcoin

4. ผลกระทบต่อนโยบายการเงินในประเทศต่างๆ

เมื่อ Bitcoin ได้รับความนิยมมากขึ้นในเศรษฐกิจ ก็อาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของนโยบายการเงินของธนาคารกลางทั้งหลาย เนื่องจากไม่สามารถควบคุมอุปทานของ Bitcoin ในตลาดได้ และไม่สามารถดูแลปริมาณเงินระบบได้อย่างครอบคลุม ซึ่งอาจส่งผลเสียหายต่อเสถียรภาพทางการเงิน และเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการใช้ Bitcoin เพื่อเก็งกำไรค่าเงิน

Bitcoin ดี หรือไม่ดีกันแน่?

นับตั้งแต่เปิดตัวขึ้นในปี 2552 Bitcoin ก็แพร่หลายมากขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งรัฐบาลของแต่ละประเทศต่างมีมุมมองที่แตกต่างกันออกไปทั้งยอมรับ และไม่ยอมรับสกุลเงินดิจิตอลนี้

มหาอำนาจเศรษฐกิจเบอร์หนึ่งอย่างสหรัฐเปิดเผยว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่มีอำนาจกำกับดูแล Bitcoin ซึ่งเกิดขึ้นนอกระบบธนาคาร แต่ก็มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการใช้ Bitcoin เพื่อฟอกเงิน ขณะที่บิล เกตส์ เจ้าพ่อไมโครซอฟต์มองว่า สกุลเงินดิจิตอลเป็นประโยชน์กับคนยากจนที่ทำธุรกรรมรายย่อย และคิดว่าอีก 5 ปี เงินดิจิตอลจะเข้าถึงประเทศอินเดีย และบางส่วนของแอฟริกา

ส่วนประเทศจีนก็ประกาศห้ามไม่ให้สถาบันทางการเงินให้บริการซื้อขาย Bitcoin หลังจากการใช้ Bitcoin ในจีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยร้านค้า และบริการต่างๆไม่สามารถรับจ่ายเงินด้วย Bitcoin ได้ แต่อนุญาตให้เว็บไซต์บางแห่งให้บริการซื้อขาย Bitcoin ได้โดยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานด้านโทรคมนาคมของจีน อย่างไรก็ตาม ฮ่องกงกลับอนุญาตให้มีการเปิดเคาน์เตอร์เพื่อแลกเปลี่ยน Bitcoin เป็นสกุลเงินจริงๆได้ และเป็นแห่งแรกของโลก

สำนักงานด้านการธนาคารยุโรป (EBA) ซึ่งกำกับดูแลการธนาคารของสหภาพยุโรปก็ได้แจ้งเตือนว่า ขณะนี้ไม่มีกฎระเบียบคุ้มครองการใช้ Bitcoin ดังนั้น หากเกิดความเสียหายใดๆขึ้น ผู้ใช้จะไม่สามารถใช้สิทธิ์การคืนเงินตามกฎหมายคุ้มครองธุรกรรมการเงินของสหภาพยุโรปได้

ขณะที่นอร์เวย์มองว่า Bitcoin ไม่ใช่สกุลเงิน แต่เป็นสินทรัพย์ที่ผู้ถือครองจะต้องเสียภาษีให้กับรัฐบาลเช่นเดียวกับรถยนต์ หรืออสังหาริมทรัพย์ต่างๆ

ด้านสิงคโปร์ก็ออกมาประกาศว่า จะไม่แทรกแซงสกุลเงินดังกล่าว และอนุญาตให้เปิดธุรกิจ และบริการที่รับจ่ายเงินด้วย Bitcoin ได้

ประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่เว็บไซต์ MtGox กำลังหาทางเก็บภาษีการทำธุรกรรม Bitcoin เพราะมองว่าการซื้อขายด้วยสกุลเงินดิจิตอลต้องถูกเก็บภาษีบริโภค และภาษีเงินได้นิติบุคคล แม้จะไม่ใช่สกุลเงินที่ถูกต้องตามกฎหมายก็ตาม

สำหรับประเทศไทยนั้นไม่อนุญาตให้นำ Bitcoin มาแลกเปลี่ยนเป็นเงินตราต่างประเทศ แต่สามารถซื้อขาย Bitcoin ได้ เนื่องจากไม่ใช่การแลกเปลี่ยนเงินตรา

Bitcoin กำเนิดขึ้นในฐานะนวัตกรรมการจ่ายเงินที่อนุญาตให้ทุกคนทำธุรกรรมการเงินได้อย่างอิสระ มีความสะดวกรวดเร็ว และเสียค่าธรรมเนียมต่ำ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นสกุลเงินในฝันที่กำลังจะไปได้สวยในอนาคต หากไม่พบกับช่องโหว่สำคัญเสียก่อน อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะธรรมดาของทุกสิ่งมักจะประกอบด้วย 2 ด้านเสมอคือ ด้านบวก และด้านลบ การตั้งประเด็นถกเถียงกันว่า “เงินกระดาษ" หรือ “เงินดิจิตอล" จะเหมาะสมกับมนุษยชาติมากกว่ากันอาจไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่ว่า เราจะเคารพกติกาการใช้ “เงิน" ด้วยความซื่อสัตย์ คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวม และร่วมกันดูแลปกป้องทรัพย์สินให้อยู่รอดต่อไปได้อย่างไรมากกว่า

อินโฟเควสท์ โดย วรัญญา อุดมกุศลศรี/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เกาะติดตลาดหุ้นโลก 13-3-57 vdo.gif เกาะติดตลาดหุ้นโลกไปกับ Morning News "กรุงเทพธุรกิจทีวี" 13-3-57 สรุปภาวะหุ้น-ทองรอบวัน 12-3-57 vdo.gif ตรงประเด็นข่าวค่ำช่วงสรุปภาวะหุ้น-ทองรอบวัน "กรุงเทพธุรกิจทีวี" 12-3-57 ไทยพาณิชย์ลดดอกเบี้ยกู้-ฝากมีผล13มี.ค. ไทยพาณิชย์ ลดดอกเบี้ยเงินกู้-ฝากมีผล 13 มี.ค.นี้ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ พอร์ตลงทุนหุ้นวันนี้ต่างชาติขาย225ลบ. เงินบาทปิด32.42/48รับกนง.ลดดอกเบี้ย หุ้นปิดร่วง7จุดหลังศาลวินิฉัยกู้เงินขัดรธน. สรุปภาวะซื้อขายทองคำ-อนุพันธ์ 12-3-57 vdo.gif

ดูข่าว ทั้งหมด icon-arrow-gray.gif

 

 

ข่าวยอดนิยม

  • 'สุขุมพันธุ์'หวิดลาออกฉุนกกต.ให้ใบเหลือง
  • เบื้องหลังศาลรธน.รับคำร้อง28เขตใต้ไร้ผู้สมัคร
  • 'ยิ่งลักษณ์' รับ 2 เด้ง
  • ดวงพยากรณ์วันพฤหัสบดีที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2557
  • เจาะปมพาสปอร์ตหาย-ถูกโจรกรรม

  • "โออีซีดี"คาดเศรษฐกิจโลกขยายตัวปานกลาง ขณะเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ชะลอตัว ส่อแววฉุดการขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก


    นายรินทาโร่ ทามากิ ผู้ช่วยเลขาธิการและรักษาการหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์องค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (โออีซีดี) รายงานภาพรวมเศรษฐกิจล่าสุดว่า การค่อยๆ ฟื้นตัวของเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศพัฒนาเป็นสิ่งที่สร้างความหวัง แม้ว่าปัจจัยชั่วคราวจะกดอัตราการขยายตัวลง ในช่วงเดือนแรกๆ ของปี ขณะที่การขยายตัวที่ชะลอตัวของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ มีแนวโน้มฉุดการขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกลง
    โออีซีดี คาดว่า การปรับขึ้นภาษีบริโภคในญี่ปุ่น จะส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นในไตรมาสปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยหนุนเศรษฐกิจขยายตัวขึ้นแตะระดับ 4.8% ในไตรมาสแรกของปี 2557 ขณะที่การขยายตัวของจีดีพีจะลดลง 2.9% ในไตรมาสที่ 2 ก่อนรูปแบบการฟื้นตัวตามปกติจะกลับมาเข้าที่เข้าทางมากขึ้น
    ส่วนอัตราการขยายตัวของยุโรป ยังคงชะลอตัวอยู่ โดยประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุด 3 ประเทศ คือ เยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลี จะมีอัตราการขยายตัวโดยเฉลี่ยรวมกันที่ 1.9% ในไตรมาสแรก และ 1.4% ในไตรมาสที่ 2 โดยคาดว่า จีดีพีของเยอรมนี จะขยายตัว 3.7% ในไตรมาสแรก และ 2.5% ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ขณะที่อัตราการขยายตัวรายปีของเศรษฐกิจฝรั่งเศส จะอยู่ที่ราว 1% และในอิตาลี น่าจะยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 1% ใน 2 ไตรมาสแรก
    สำหรับเศรษฐกิจเกิดใหม่ ซึ่งคิดเป็นขนาดเศรษฐกิจเกินครึ่งของเศรษฐกิจโลกนั้น โออีซีดีระบุว่า “ประเทศตลาดเกิดใหม่ขนาดใหญ่บางประเทศ รวมถึง จีน จะยังเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ประเทศอื่นๆ กลับขาดปัจจัยกระตุ้น ซึ่งหมายความว่าอัตราการขยายตัวทั่วโลกยังคงอยู่ที่ระดับปานกลางในระยะเวลาใกล้นี้

    Tags : รินทาโร่ ทามากิโออีซีดี

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีคับเพื่อนๆทุกท่าน :Announce มาดูกราฟกันเลย13-3-57-03.gif

กราฟราย4ชมจะเห็นว่ามีเทรน2เทรนสีเขียวกับขาวไม่รู้เจ้าจะเล่นตัวไหนแต่ทั้ง2ตัวมีแนวต้านที่1391-1401 และจะสูงขึ้นไปเรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆเเละเป็นที่ชัดเจนว่่ากำลังทำ1h5อยู่ แต่ว่าสัญญาณrsi&macdยังไม่สูงกว่ายอดตรง1h3 หากขึ้นมาติดแนวต้านแล้วไม่สูงกว่่าต้องระวังดีๆนะครับอย่างที่บอกว่าเกิดไดเวอร์จิ้นพร้อมจะลงแต่จะเมื่อไหร่ต้องแล้วแต่เจ้าแล้วเราต้องเตรียมพร้อม มาดูกราฟต่อไป13-3-57-02.gifกราฟราย1ชม จะเห็นว่าคลื่น1h5 ประกอบด้วยคลื่นย่อย5คลื่นแน่นอนแล้วและเมื่อกางฟิโบวัดจะเห็นว่ากำลังขึ้นทำ15m3อยู่ โดยเป้าหมายของ15m3จะต้องไม่น้อยกว่า1375 และอาจขึ้นต่อไปได้ถึง1389 เลยทีเดียว ตอนนี้อยู่แถวๆ1372 ขาดนิดหน่อยก็ถึงน่าจะไม่ยากเพราะผ่านแนวต้าน1362-1366มาแล้ว สัญญาณอินดี้rrsi&macdยังไม่ทำยอดสูงกว่ายอดตรง15m1 คงต้องลุ้นต่อว่าจะดันขึ้นได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็อาจจะตกได้เลยแต่ส่วนตัวให้น้ำหนักว่าน่าจะขึ้นต่อได้เพราะระยะขึ้นบนยังเหลือแนวต้านถัดไปยังอีกไกลจากนั้นจะย่อลงมาทำ15m4แถวๆ1363ตามกรอบสีส้มแต่ไม่ควรหลุด1354กรอบสีแดง แล้วจากนั้นจะเด้งทำ15m5ตามกรอบสีเขียว1389-1398-1410 ซึ่งน่าจะจบ1h5ตรงนี้ กราฟต่อมา13-3-57-01.gif

กราฟราย15นาที เมื่อเทียบกับราย1ชมที่ตอนนี้ทำคลื่น15m3อยู่ ในคลื่น15m3จะมี3คลื่นย่อย ซึ่งตอนนี้ผ่านไป2คลื่นแล้วกำลังทำคลื่น3อยู่เพราะอินดี้rsi&macd ทำนิวไฮ และกำลังขึ้นต่อเมื่อดูเป้าหมายจากราย1ชมที่คลื่น15m3จะต้องทำยอดไม่ต่ำกว่า1375 มาเทียบกราฟราย15นาที ซึ่งจะตรงกับฟิโบ200แถวๆ1376 และอาจเลยไปได้ถึง227.2ราคา1383 เลยทีเดียวจากนั้นจะย่อลงทำคลื่น4ต่อ ตามกรอบสีเหลือง1367-1358 และจะต้องไม่ต่ำกว่า1352 นั้นหมายความว่าต่อจากนี้แนวรับสำคัญที่ไม่ควรหลุดทั้งราย15นาทีและราย1ชมคือ 1352-1354 แถวๆนี้ถ้าหลุดเมื่อไหร่คนมีแท่งต้องโดดทันที :ghost เมื่อย่อทำ4เสร็จแล้วจะวิ่งขึ้นทำ5ต่อในกรอบราคาสีน้ำเงิน1376-1383-1391 จบ15m3 ตรงนั้น วันนี้จึงสรุปได้ว่า เรากำลังอยู่ในคลื่นย่อยของ15m3 ซึ่งน่าจะจบในวันนี้หรือพรุ่งนี้ แล้วจากนั้นน่าจะย่อลงทำ15m4 กินเวลาอีก2-3วัน แล้วจึงขึ้น15m5 เพื่อจบ1h5 ซึ่งน่าจะกินเวลาอีกอย่างน้อย1สัปดาห์ครับ มุมมองการเล่นวันนี้สำหรับคนซื้อ

1 รอซื้อbuylimit 1358 cut1352 เป้า1391

2 หากถูกกินcutข้อ1 แนะนำรอดูสถานการณ์ต่อไป

สำหรับคนขาย

1 รอขาย sell limit 1376 cut 1383 เป้า 1367

2 หากถูกกินcutข้อ1 รอขาย selllimit 1391 cut 1397 เป้า 1375

3 หากถูกกินcutข้อ2 รอขายselllimit 1410 cut1420เป้า 1333

4 หากถูกกินcutข้อ3 แนะนำรอดูสถานการณ์ต่อไป

ปล.ส่วนตัวผมเมื่อวานแมทsell1357 ลงมาไม่หลุด1352 กดปิดไปได้1354เก็บมานิดหน่อยส่วนออเดอร์1366ผมยกเลิกก่อนกลับบ้าน :ghost และไม่ได้ทำอะไรต่อเลยเพราะมัวแต่วุ่นกับเรื่องในบ้าน :033 ส่วนออเดอร์ซื้อขายวันนี้ผมตั้งซื้อขายตามข้อ123ทั้งหมดเพราะพรุ่งนี้ผมจะไม่อยู่ไปลำปางและอาจจะเลยไปเชียงใหม่ด้วย ซึ่งจะตั้งทิ้งไว้และปล่อยไว้จนถึงวันจันทร์ครับ หากจะตั้งตามต้องพิจารณาก่อนตั้งนะครับเพราะเน้นระยะยาวข้ามวัน :aa ส่วนทองแท่ง จะรอดูแถวๆ1389-1410 ถ้ามาค่อยปล่อยครับ ส่วนรอซื้อยังรอที่เดิม1302-1381-1362-1343 ตามลำดับ แต่ถ้าคลื่นจบแล้วอาจมีการปรับจุดซื้อใหม่ :ghost 13-3-57-04.gif

ปล2.ขอให้เพื่อนๆโชคดีในการลงทุนนะครับ :bye

ปล3.ใครอยู่เชียงใหม่แนะนำที่พักให้สักนิดนึงนะครับจะไปไหว้พระ พาน้องบีมเที่ยวไนซ์ซาฟารี :57

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณณัฐฑี จุฑาวรากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ร่วมพูดคุยเกี่ยวกับแนวโน้ม ราคาทองคำและปัจจัย

ที่มีผลทำให้ราคาทองคำขึ้นและลงใน รายการ Money Biz ในวันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม 2557

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

กลยุทธ์การลงทุนในทองคำ

• นักลงทุนระยะสั้น(เล่น 1-2 วัน)

แนวโน้มราคาทองคำยังอยู่ในขาขึ้น แต่หากราคาปรับตัวลงต่ำกว่าแนวรับ $1,365/Oz ให้ขายทำกำไร

• นักลงทุนระยะกลาง-ยาว

ให้ถือสถานะซื้อที่มีหากราคายืนเหนือแนวรับที่ $1,355/Oz

ภาพรวมตลาดทองคำคืนวานนี้

Gold – ราคาทองคำโลกปิดปรับตัวขึ้น $17.80/Oz หรือ 1.32% มาอยู่ที่ $1,366.50/Oz (จุดต่ำสุด-สูงสุดในรอบวันอยู่ที่ $1,345.10-1,370.78) ราคาทองคำปรับตัวขึ้นจากสถานการณ์การเมืองที่ตึงเครียดในยูเครนโดย นักลงทุนจับตาดูการลงประชามติของไครเมียในวันอาทิตย์ที่ 16 มี.ค.นี้ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ประชาชนในไครเมียได้มีทางเลือกที่จะตัดสินใจว่า จะยังคงเป็นเขตปกครองตนเองในยูเครนต่อไป หรือจะยกดินแดนเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซีย ขณะเดียวกันรัฐสภารัสเซียประกาศว่าจะจัดการอภิปรายในประเด็นที่ว่าจะรับสาธารณรัฐปกครองตนเองไครเมียเข้าเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของประเทศหรือไม่ ในวันที่ 21 มี.ค.นี้ ทั้งนี้ ผู้นำในหลายประเทศได้ออกมาเตือนไครเมียว่า การลงคะแนนเสียงประชามติดังกล่าว จะไม่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ ส่วนรัฐบาลรักษาการของยูเครน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐและยุโรปนั้น ระบุว่า การจัดทำประชามติครั้งนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

แนวโน้มตลาดวันนี้

Gold – เส้นค่าเฉลี่ย 5 วันและ 10 วันยังเป็นตัวหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นโดยสร้างจุดสูงสุดใหม่จากระยะพักตัวและสามารถสร้างฐานเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันได้อย่างแข็งแกร่งทำให้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ ในวันนี้มองกรอบราคาทองคำที่ $1,355-1,393/Oz

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญประจำวันนี้

• ผลผลิตอุตสาหกรรมจีน เวลา 12.30 น.

• ยอดค้าปลีกสหรัฐ เวลา 19.30 น.

• ยอดผู้ขอรับสวัสดิการสหรัฐ เวลา 19.30 น.

ปัจจัยบวก

• วิตกสถานการณ์ยูเครน ถ่วงดาวโจนส์ปิดลบ 11.17 จุด

• วิตกสถานการณ์ยูเครน ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วง

• ดอลล์อ่อนค่าต่อเนื่อง ขณะวิตกยูเครน,ศก.จีน

ปัจจัยลบ

• น้ำมัน WTI ปิดร่วง $2.04 หลังสต็อกน้ำมันดิบพุ่งเกินคาด

Arbitrage ทองคำแท่ง-Gold futures

ทองคำแท่ง-ซื้อ(Long)ทองคำแท่งที่ราคา 20,790 จำนวน 50 บาท (ณ เวลา 15.00 12/3/57)

Gold Futures-ขาย(Short) GFM14 1 สัญญาที่ราคา 20,980 บาท (ณ เวลา 15.00 12/3/57)

ประเด็นข่าวที่เกี่ยวข้องกับราคาทองคำ

ปัจจัยบวก

วิตกสถานการณ์ยูเครน ถ่วงดาวโจนส์ปิดลบ 11.17 จุด

(+)ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตรึงเครียดในยูเครน ซึ่งส่งผลให้ตลาดเคลื่อนตัวในกรอบแคบๆและผันผวนตลอดทั้งวัน ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,340.08 จุด ลดลง 11.17 จุด หรือ -0.07% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,323.33 จุด เพิ่มขึ้น 16.14 จุด หรือ +0.37% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,868.20 จุด เพิ่มขึ้น 0.57 จุด หรือ +0.03% (อ้างอิงจาก อินโฟเควสท์)

วิตกสถานการณ์ยูเครน ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วง

(+)ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตรึงเครียดในยูเครน ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการลงประชามติในไครเมียเพื่อเปิดทางให้ประชาชนตัดสินใจว่าจะยกดินแดนเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซียหรือไม่ ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,306.26 จุด ลดลง 43.46 จุด หรือ -1.00% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,188.69 จุด ลดลง 119.10 จุด หรือ -1.28% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,620.90 จุด ลดลง 64.62 จุด หรือ -0.97% (อ้างอิงจาก อินโฟเควสท์)

ดอลล์อ่อนค่าต่อเนื่อง ขณะวิตกยูเครน,ศก.จีน

(+)ดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าลงต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (12 มี.ค.) ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครนและเศรษฐกิจจีน ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 102.69 เยน จากระดับ 102.90 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8742 ฟรังค์ จากระดับ 0.8773 ฟรังค์(อ้างอิงจาก อินโฟเควสท์)

ปัจจัยลบ

น้ำมัน WTI ปิดร่วง $2.04 หลังสต็อกน้ำมันดิบพุ่งเกินคาด

(-)สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 มี.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของอุปสงค์พลังงานในสหรัฐ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 2.04 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 97.99 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ. (อ้างอิงจาก อินโฟเควสท์)

pdf_icon.jpg

คลิ๊ก!! เพื่ออ่านบทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำและโกลด์ฟิวเจอร์ส

หากไม่สามารถเปิดไฟล์ได้กรุณากด F5

gbx.jpg

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

www.globlex.co.th

www.gold.in.th

- See more at: http://www.gold.in.th/node/3950#sthash.O1f4UAve.j7WpuH7D.dpuf

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...