มือใหม่หัดวิเคราะห์

[ginger 11,058]

World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 20 มีนาคม 2557

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 20 มีนาคม 2557 17:44:37 น.

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ในการประชุมระยะเวลา 2 วันซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวานนี้ (19 มี.ค.) ส่งผลให้วงเงินการซื้อพันธบัตรปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 5.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน จากระดับ 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน โดยจะเริ่มดำเนินการดังกล่าวในเดือนเม.ย.ปีนี้

--ยูเครนเปิดเผยว่า จะเพิ่มกำลังทหารบริเวณชายแดนทางตะวันออกที่ติดกับรัสเซีย และจะถอนทหารออกจากไครเมีย รวมทั้งลดการควบคุมคาบสมุทรทะเลดำ

--ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ เปิดเผยว่า สหรัฐจะใช้ “ทรัพยากรทุกอย่าง" ที่มีเพื่อช่วยในการค้นหาเครื่องบินที่สูญหายไปของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส

--ประธานาธิบดีบารัค โอบามากล่าวว่า สหรัฐจะไม่ใช้ปฏิบัติการทางทหารในยูเครนเพื่อต่อต้านรัสเซีย

โอบามากล่าวในการสัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ KNSD ในแคลิฟอร์เนียว่า “เราจะไม่ใช้ปฏิบัติการทางทหารในยูเครน ผมคิดว่าทางยูเครนก็ทราบดี สำหรับเราแล้ว การเข้าไปพัวพันทางการทหารกับรัสเซียคงจะไม่เหมาะสม และไม่ดีต่อยูเครนเช่นกัน"

--นายโทนี่ แอ็บบ็อต นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียเปิดเผยว่า สำนักงานความมั่นคงทางทะเลของออสเตรเลียพบวัตถุที่อาจจะเกี่ยวพันกับเครื่องบินของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ที่สูญหายไปจำนวน 2 ชิ้นในน่านน้ำของมหาสุมทรอินเดีย

--นายโทนี่ แอ็บบ็อต นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย เปิดเผยว่า เครื่องบินไอไรออนของกองทัพอากาศออสเตรเลียได้มุ่งหน้าไปยังจุดที่พบวัตถุที่เกี่ยวพันกับการค้นหาเครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH370 และคาดว่า จะเดินทางถึงที่หมายในเร็วๆนี้

--สำนักงานความมั่นคงทางทะเลของออสเตรเลียเปิดเผยว่า วัตถุขนาดใหญ่ที่สุดที่ได้มีการค้นพบ และอาจจะเชื่อมโยงกับเครื่องบินเที่ยวบิน MH370 ของมาเลเซียที่สูญหายไปนั้น มีขนาด 24 เมตร โดยออสเตรเลียจะยังคงค้นหาวัตถุต้องสงสัยต่อไปจนกว่าจะไม่สามารถค้นหาได้

--ฮง เหล่ย โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนเปิดเผยว่า จีนมีความสนใจเป็นอย่างยิ่งต่อรายงานการค้นพบของออสเตรเลีย ที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับเที่ยวบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์สที่สูญหายไป

--นักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า รายงานของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษแสดงให้เห็นว่า ธนาคารยังคงมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2558

--สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เอกอัครราชทูตจีนได้ตั้งความหวังว่า ออสเตรเลียจะสามารถยืนยันได้ว่า วัตถุต้องสงสัยว่าจะเกี่ยวพันกับเครื่องบินที่สูญหายไปของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

--ผู้สื่อข่าวที่ปฏิบัติหน้าที่บนเครื่องบินพี-8 ของสหรัฐ ซึ่งเป็นเครื่องบินลาดตระเวนที่ค้นหาเครื่องบินของมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH370 ที่สูญหาย รายงานว่า ลูกเรือบนเครื่องบินได้ตรวจพบสัญญาณเรดาร์ของวัตถุขนาดใหญ่ในมหาสมุทรอินเดียที่อาจเกี่ยวข้องกับเครื่องบินที่สูญหาย

--กลุ่มผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ได้ประชุมร่วมกันในวันนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับการใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม ภายหลังจากที่รัสเซียได้แทรกแซงเขตปกครองตนเองไครเมียของยูเครน

--จีนเตรียมเร่งเดินหน้าโครงการก่อสร้างและมาตรการอื่นๆ เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ ภายหลังจากที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมและการลงทุนชะลอตัวลงจนทำให้เกิดความเสี่ยงว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจอาจไม่เป็นไปตามเป้าหมายในปีนี้

--นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัคของมาเลเซียได้ประชุมร่วมกับมอห์ด ซัลคีเฟลี หัวหน้ากองกำลังป้องกันหลังจากที่พบวัตถุต้องสงสัยทางตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดียที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับเครื่องบินมาเลเซียที่สูญหายไป ซึ่งเครื่องบินลำดังกล่าวได้หายไปตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

ข่าวเศรษฐกิจล่าสุด

• แอพฯ เกม Flappy Bird เตรียมรีเทรน ตามกระแสเรียกร้อง
  
• "วรวิทย์"อำลาเก้าอี้ผอ.ออมสิน เผยได้บทเรียนสำคัญในการทำงาน
  
• เงินบาทปิด 32.38/39 อ่อนค่าต่อจากช่วงเช้า หลังสหรัฐฯลด QE
  
• ปิดตลาดซื้อขายดัชนีล่าสุด อยู่ที่ 1,361.47 จุด
  
• ภาวะข้าว AFET: ปริมาณการซื้อขาย 25 สัญญา ราคาปรับลดลงเล็กน้อย
  
• ครม.จีนเผยเตรียมเร่งใช้มาตรการเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ
  
• ภาวะยาง AFET: ราคา RSS3 ปรับลงจากหลายปท.ปรับลด GDP สะท้อนแนวโน้มศก.โลกยังชะลอตัว
  
• ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์จีน: สินค้าโภคภัณฑ์เกษตรจีนปิดลบเกือบทั้งกระดาน
  
• (เพิ่มเติม)ราคาทองคำแท่งวันนี้บาทละ 20,400.00 บาท
  
• ภาวะตลาดทองแดงจีน: ทองแดงเซี่ยงไฮ้ปิดบวก แต่นลท.ยังระวังการซื้อขาย
  
• ราคาขายมันสำปะหลังในประเทศ ประจำวันที่ 20 มี.ค. 57
  
• ราคาขายส่งพืชไร่และวัตถุดิบอาหารสัตว์ ประจำวันที่ 20 มี.ค. 2557
  

 

เงินบาทปิด 32.38/39 อ่อนค่าต่อจากช่วงเช้า หลังสหรัฐฯลด QE

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 20 มีนาคม 2557 17:38:29 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 32.38/39 บาท/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่เปิดที่ระดับ 32.33/35 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันลงไปทดสอบ Low ที่ 32.31 บาท/ดอลลาร์

"ตลาดยังคงซึมซับรับข่าวเรื่องเดิม คือ ผลประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่มีมติปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ และอาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกหลังจากที่เฟดยุติการใช้มาตรการ QE ไปแล้วราว 6 เดือน" นักบริหารเงิน กล่าว

ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ระหว่าง 32.35-32.45 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 102.45 เยน/ดอลลาร์

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3795 ดอลลาร์/ยูโร

- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,361.47 จุด ลดลง 2.80 จุด, -0.21% มูลค่าการซื้อขาย 35,665.82 ล้านบาท

- นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวแนวเดียวกับตลาดภูมิภาคที่อยู่ในแดนลบกันทั่วหน้า หลังเฟดส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ย อย่างไรก็ดีมองตลาดฯปรับฐานช่วงสั้นหลังจากที่ยังไม่ผ่านแนว 1,380 ขึ้นไปได้ โดยตลาดฯยังไร้ปัจจัยบวกใหม่หนุน ขณะเดียวกันกำลังรอดูศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่ ในวันพรุ่งนี้(21 มี.ค.) ส่วนตลาดฯในวันพรุ่งนี้มองว่ามีโอกาสที่จะรีบาวน์ได้ โดยเฉพาะเมื่อมีความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้ง พร้อมให้แนวรับ 1,345 แนวต้าน 1,365-1,370 จุด

- นางรุ่ง มัลลิกะมาส โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าเป็นไปตามทิศทางเดียวกับค่าเงินสกุลในภูมิภาค หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) มีมติปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นไปตามตลาดคาด

ส่วนกรณีนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ระบุว่า อาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกหลังจากที่เฟดยุติการใช้มาตรการ QE ไปแล้วราว 6 เดือนนั้น โฆษก ธปท. คาดว่า FED น่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงต้นไตรมาส 2 ปีหน้า เป็นระยะเร็วกว่าตลาดคาดไว้ แต่ไม่ได้ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงทิศทางดอกเบี้ยอย่างมีนัยสำคัญ

- มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย (GDP) ปีนี้เหลือโต 2.5% จากเดิมที่คาดว่าจะสามารถขยายตัวได้ 4.5% อัตราเงินเฟ้อที่ 2.3% และคาดว่าการส่งออกจะขยายตัว 4.8% โดยปัจจัยสำคัญของเศรษฐกิจไทย ขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและสถานการณ์การเมืองภายในประเทศ

- นายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) แถลงว่า ที่ประชุม ป.ป.ช.มีมติเอกฉันท์ว่านายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา มีมูลความผิดฐานส่อจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อหลักนิติธรรม ขัดต่อรัฐธรรมนูญ กรณีตัดสิทธิสมาชิกรัฐสภาที่ได้สงวนคำแปรญัตติถึง 57 คน ขณะทำหน้าที่ประธานการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นที่มาของ ส.ว.

- ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดวันนี้อ่อนตัวลง ภายหลังจากที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงระยะเวลาราว 6 เดือนหลังจากที่เฟดได้ยุติโครงการซื้อพันธบัตรแล้ว

- ตลาดหุ้นเกิดใหม่ปรับตัวลงอย่างหนักในวันนี้ เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณกำหนดเวลาการขึ้นดอกเบี้ยที่เร็วเกินคาด รวมทั้งประกาศลดวงเงินซื้อพันธบัตรอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในการประชุมซึ่งเสร็จสิ้นลงเมื่อคืนที่ผ่านมา

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงร่วงลง 202 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 12,338 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึง เทียบเท่ากับ 1,334.63 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 21.85 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/7.76 ดอลลาร์ฮ่องกง

อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

นิคมรับคำวินิจฉัยป.ป.ช.พร้อมหยุดปฏิบัติหน้าที่-สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัยทำหน้าที่แทน

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 20 มีนาคม 2557 17:42:33 น.

นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา กล่าวภายหลังรับทราบมติ ป.ป.ช.ว่า ตนเองยอมรับคำวินิจฉัยของ ป.ป.ช.แต่มองเหตุผลที่ ป.ป.ช. นำมาตัดสินความผิดว่า สั่งปิดการอภิปรายทั้งที่มีผู้อภิปรายค้างอยู่นั้นถือเป็นการไม่สมเหตุสมผล เพราะการสั่งปิดประชุมเป็นการทำหน้าที่ประธานการประชุมที่ต้องดำเนินการตามที่มีผู้เสนอเสนอให้ปิดการอภิปราย แต่เมื่อ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดแล้วก็ถือว่ามีผล และต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่

โดยหลังจากนี้ตนเองจะเตรียมเอกสารเพื่อชี้แจงต่อที่ประชุมวุฒิสภาในการพิจารณาถอดถอนออกจากตำแหน่ง และจากนี้ไปนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 จะทำหน้าที่รักษาการประธานวุฒิสภาแทนตนเอง ยกเว้นการปฏิบัติหน้าที่เป็นรองประธานรัฐสภา

นายนิคม กล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญ เมื่อ ป.ป.ช.ชี้มูลแล้วจะส่งเรื่องมายังวุฒิสภา เพื่อให้พิจารณาถอดถอนภายใน 20 วัน และต้องขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 132(3) เพื่อประชุมพิจารณาถอดถอน และเชื่อว่าถึงตอนนั้น ส.ว.ชุดใหม่น่าจะได้เข้ามาทำหน้าที่แล้ว แต่อาจจะฉุกละหุกบ้าง

ส่วนการเสนอตั้งนายกรัฐมนตรีคนกลางนั้น นายนิคม กล่าวว่า ไม่สามารถทำได้ เพราะไม่มีรัฐธรรมนูญรองรับ

อินโฟเควสท์ โดย รฐฦ/ธนวัฏ/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

ด่วน!!มติป.ป.ช.เอกฉันท์ฟัน'นิคม' ทำหน้าที่มิชอบหยุดปฏิบัติงาน

 

http://www.naewna.com/politic/95943

See Translation

 

 

นสพ.แนวหน้า

ทนาย'ปู'ยื่นถอด'วิชา มหาคุณ' พ้นกรรมการป.ป.ช.ปมจำนำข้าว

http://www.naewna.com/politic/95918

[ginger 11,058]

[ginger 11,058]

พอร์ตลงทุนหุ้นวันนี้ต่างชาติขาย1พันลบ. พอร์ตลงทุนหุ้นวันที่ 20 มี.ค. ต่างชาติขาย 1 พันล้าน รายย่อยซื้อ 3.3 พันล้าน สถาบันขาย 1.9 พันล้าน บัญชีบล.ขาย 339 ล้าน เงินบาทปิด32.38/39อ่อนค่าหลังเฟดลดคิวอี ค่าเงินบาทปิดตลาดที่ 32.38-32.39 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า หลังเฟดลดคิวอี คาดพรุง่นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.35-32.50 บาท/ดอลลาร์ หุ้นไทยปิดร่วง2จุดตามต่างประเทศ หุ้นไทยปิดร่วง 2.80 จุด อยู่ที่ 1,361.47 จุด ปรับลดลงตามต่างประเทศ คาดพรุ่งนี้ผันผวนในกรอบแคบ จับตาศาลรธน.ชี้ผลเลือกตั้ง กรอบ1,350-1,370 จุด 'วรวิทย์'อำลาตำแหน่งยันทำหน้าที่เพื่อองค์กร สรุปภาวะซื้อขายทองคำ-อนุพันธ์ภาคบ่าย 20-3-57 สรุปภาวะซื้อขายตลาดหุ้นไทยภาคบ่าย 20-3-57 กรุงศรีตั้งเป้าสินเชื่อSMEโต13%

ดูข่าว ทั้งหมด

 

 

ข่าวยอดนิยม

• ว่าด้วยโลงศพและน้ำตา
  
• มือปืนป๊อปคอร์น
  
• ป.ป.ช.มติเอกฉันท์ถอด'นิคม'พ้นปธ.วุฒิ
  
• ดวงพยากรณ์วันพฤหัสบดีที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2557
  
• กปปส.ซัดจับ'มือปืนป๊อปคอร์น'วางแผนไว้แล้ว
  

[ginger 11,058]

[ginger 11,058]

ยูเครนลั่นสู้ตาย พร้อมงัดไม้เด็ดตอบโต้รัสเซีย.... อ่านต่อได้ที่ :http://bit.ly/1d3fbCa

[NEWS 2,613]

สวัสดีครับคุณ..Ginger TraderJunior Alan Gejen Wann ตู้เย็น Pasaya OKorNO เด็กสยาม MegaGold meng166 deb99 เต้าหู้ ปุยเมฆ tuktaaaa Lekk Espresso’(S) และทุกท่านครับ

กราฟรายวันตอนนี้เป็นแดงแท่งสี่ครับ

 

ล่าสุดราคาต่ำสุด 1320 ราคาสูงสุด1334

ราคาขณะนี้อยู่ที่ 1330.x ครับ

 

สัญญานหลักแบลคคิง ทิศทางsideway ดาวน์ครับ

RSI Price Line เส้นเขียว 48.23 วิ่งมา48.23 ครับ

Trade Signal Line เส้นแดง 61.85 วิ่งมา58.79 ครับ

market base Line เส้นเหลือง 64.56 วิ่งมา64.36 ครับ

เส้นแดงลดครับ

 

 

สัญญานรองQQE ทิศทางsideway ดาวน์

เส้นฟ้า56.10 วิ่งมา53.78 อยู่ต่ำกว่าเส้นประเหลืองครับ

เส้นประเหลือง 61.78 วิ่งมา59.62 ครับอยู่สูงกว่าเส้นฟ้าครับ

(เส้นเหลืองถ้าคงที่นานๆ จะแสดง side way หรือกลับตัวและ

ถ้าทิศทางลงจะเด้งไปอยู่สูงกว่าเส้นฟ้าทันทีถ้าขึ้นจะลงมาต่ำกว่าเส้นฟ้าทันที)

แนวต้าน 1333 1352 1377 1388

แนวรับ 1321 1305 1298 1284

ภาพรวมๆจากสัญญานราคาsideway ดาวน์ ครับ

 

 

 

 

 

ขอให้โชคดีครับ

 

บาย

ถูกแก้ไข มีนาคม 21, 2014 โดย news

[ginger 11,058]

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 21 มีนาคม 2557 07:42:58 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 20 มี.ค.2557

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงดัชนีชี้นำเศรษฐกิจที่พุ่งขึ้นเกินคาด ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสามารถสกัดปัจจัยลบจากการที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,331.05 จุด พุ่งขึ้น 108.88 จุด หรือ +0.67% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,872.01 จุด เพิ่มขึ้น 11.24 จุด หรือ +0.60% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,319.29 จุด เพิ่มขึ้น 11.69 จุด หรือ +0.27%

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 4 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดี นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 10.8 ดอลลาร์ หรือ 0.81% ปิดที่ 1,330.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 39.6 เซนต์ ปิดที่ 20.430 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 16.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1434.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 3.45 ดอลลาร์ ปิดที่ 771.65 ดอลลาร์/ออนซ์

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเดินหน้าการปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมล่าสุด

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 94 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 99.43 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 60 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 106.45 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.) ในช่วง 1 วันหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจเดินหน้าปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE ลงต่อไป ขณะที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนใหม่ ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงครึ่งแรกของปี 2558

ค่าเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3780 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3828 ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 102.47 เยน จากระดับ 102.49 เยน

-- ดัชนี FTSE 100 ที่ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.) ขณะที่ตลาดยังคงวิตกเกี่ยวกับสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ดัชนี FTSE 100 ปิดลดลง 30.69 หรือ 0.47% ที่ 6,542.44 จุด

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดเกือบทรงตัวเมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.) หลังจากที่ตลาดร่วงลงในช่วงแรก อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลที่ว่าประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับลงเกือบ 0.1% ปิดที่ 327.67 จุด

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,542.44 จุด ลดลง 30.69 จุด หรือ -0.47% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,327.91 จุด เพิ่มขึ้น 19.85 จุด หรือ +0.46% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,296.12 จุด เพิ่มขึ้น 19.07 จุด หรือ +0.21%

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 16,331.05 จุด เพิ่มขึ้น 108.88 จุด +0.67%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,319.29 จุด เพิ่มขึ้น 11.69 จุด +0.27%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,872.01 จุด เพิ่มขึ้น 11.24 จุด +0.60%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,327.91 จุด เพิ่มขึ้น 19.85 จุด +0.46%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,296.12 จุด เพิ่มขึ้น 19.07 จุด +0.21%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,542.44 จุด ลดลง 30.69 จุด -0.47%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 21,740.09 จุด ลดลง 92.77 จุด -0.42%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,057.20 จุด ลดลง 23.55 จุด -0.76%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,818.17 จุด เพิ่มขึ้น 0.73 จุด +0.04%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,698.97 จุด ลดลง 122.49 จุด -2.54%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 21,182.16 จุด ลดลง 386.53 จุด -1.79%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,417.35 จุด ลดลง 45.14 จุด -0.70%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 1,993.48 จุด ลดลง 28.25 จุด -1.40%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,919.52 จุด ลดลง 18.16 จุด -0.94%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 14,224.23 จุด ลดลง 238.29 จุด -1.65%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,597.33 จุด ลดลง 92.13 จุด -1.08%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,294.00 จุด ลดลง 61.60 จุด -1.15%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่าต่อ รับมติเฟดลด QE,ข้อมูลแรงงานสหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 21 มีนาคม 2557 07:17:12 น.

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.) ในช่วง 1 วันหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจเดินหน้าปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE ลงต่อไป ขณะที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนใหม่ ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงครึ่งแรกของปี 2558

ค่าเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3780 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3828 ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 102.47 เยน จากระดับ 102.49 เยน

ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นขานรับมติของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในการปรับลดขนาดมาตรการ QE ลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ในการประชุมระยะเวลา 2 วันซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้วงเงินการซื้อพันธบัตรปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 5.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน จากระดับ 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน โดยจะเริ่มดำเนินการดังกล่าวในเดือนเม.ย.ปีนี้

นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับปัจจัยหนุนจากข้อมูลด้านแรงงานที่เป็นไปในเชิงบวก โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 มี.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5,000 ราย แตะที่ 320,000 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 325,000 ราย บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงฟื้นตัว

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

• ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 30.69 จุด เหตุวิตกเฟดขึ้นดอกเบี้ย
  
• TFEX สรุปปริมาณซื้อขายกลุ่ม Call & Put Options สิ้นวันที่ 20 มี.ค. 57
  
• TFEX สรุปปริมาณซื้อขายรายกลุ่ม Index Futures สิ้นวันที่ 20 มี.ค. 57
  
• TFEX สรุปปริมาณซื้อขายรายกลุ่ม Stock Futures สิ้นวันที่ 20 มี.ค. 57
  
• TFEX สรุปปริมาณซื้อขายรายกลุ่ม Currency Futures สิ้นวันที่ 20 มี.ค. 57
  
• TFEX สรุปปริมาณซื้อขายรายกลุ่ม Metal Futures สิ้นวันที่ 20 มี.ค. 57
  
• TFEX สรุปปริมาณซื้อขายรายกลุ่ม Energy Futures สิ้นวันที่ 20 มี.ค. 57
  
• TFEX สรุปปริมาณซื้อขายรายกลุ่ม All Futures สิ้นวันที่ 20 มี.ค. 57
  
• ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดเกือบทรงตัว หลังปธ.เฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย
  
• รายงานการซื้อขายหุ้นผ่าน NVDR ประจำวันที่ 20 มี.ค. 2557
  
• รายงานหุ้นถูกชอร์ตเซล ประจำวันที่ 20 มี.ค. 2557
  

 

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดร่วง $10.8 หลังสถานการณ์ยูเครนคลี่คลาย

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 21 มีนาคม 2557 06:47:13 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 4 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดี นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 10.8 ดอลลาร์ หรือ 0.81% ปิดที่ 1,330.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 39.6 เซนต์ ปิดที่ 20.430 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 16.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1434.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 3.45 ดอลลาร์ ปิดที่ 771.65 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำยังคงได้รับแรงกดดันหลังจากนางเยลเลนกล่าวว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกหลังจากที่เฟดยุติการใช้มาตรการ QE ไปแล้วราว 6 เดือน

ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) ของเฟดมีมติปรับลดขนาดมาตรการ QE ลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ในการประชุมล่าสุดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ส่งผลให้วงเงินการซื้อพันธบัตรปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 5.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน โดยจะเริ่มดำเนินการดังกล่าวในเดือนเม.ย.ปีนี้

นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำหลังจากสถานการณ์ในยูเครนเริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดี รวมถึงข่าวที่ว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามายืนยันว่า สหรัฐจะไม่ใช้ปฏิบัติการทางทหารในยูเครนเพื่อต่อต้านรัสเซีย

นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาดของสหรัฐยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยในช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด รายงานว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.พ.ของสหรัฐพุ่งขึ้น 0.5% แตะที่ 99.8 ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

ขณะที่เฟดสาขาฟิลาเดลเฟียรายงานผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจในเดือนมี.ค. โดยระบุว่า ดัชนีกิจกรรมด้านการผลิตในเขตมิดแอตแลนติกพุ่งขึ้นแตะระดับ 9 จากระดับ 6 ของเดือนก่อนหน้านี้ ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เช่นกัน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: เงินดอลล์แข็งค่า ฉุดน้ำมัน WTI ปิดลบ 94 เซนต์

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 21 มีนาคม 2557 06:59:08 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเดินหน้าการปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมล่าสุด

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 94 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 99.43 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 60 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 106.45 ดอลลาร์/บาร์เรล

การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้ฉุดสัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลง หลังจากเฟดมีมติปรับลดขนาดมาตรการ QE ลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ในการประชุมล่าสุดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ส่งผลให้วงเงินการซื้อพันธบัตรปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 5.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน โดยจะเริ่มดำเนินการดังกล่าวในเดือนเม.ย.ปีนี้

นางเยลเลนได้กล่าวภายหลังการประชุมว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกหลังจากที่เฟดยุติการใช้มาตรการ QE ไปแล้วราว 6 เดือน

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ยังได้รับแรงกดดันหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 14 มี.ค. พุ่งขึ้น 5.9 ล้านบาร์เรล แตะ 375.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.3 ล้านบาร์เรล

ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึง heating oil และน้ำมันดีเซล ร่วงลง 3.1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 110.8 ล้านบาร์เรล จากที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงแค่ 600,000 บาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล แตะ 222.3 ล้านบาร์เรล จากที่คาดการณ์ว่าจะลดลง 900,000 บาร์เรล

สำหรับอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันหดตัวลง 0.4% สู่ระดับ 85.6% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะลดลงแค่ 0.2%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-

 

เม็ดเงินหายจากระบบบเศรษฐกิจ4แสนล.-สิ้นปีไร้รัฐบาลจีดีพีติดลบ ท่องเที่ยว-ลงทุน-บริโภควูบ

ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- ศุกร์ที่ 21 มีนาคม 2557 06:00:00 น.

เครื่องยนต์หลักเศรษฐกิจปี57 กออคอกันร่วง ทั้งภาคการลงทุน การบริโภคภาคเอกชน การท่องเที่ยว คาดทั้งปีเม็ดเงินจะหายไปจากระบบ 4 แสนล้านบาท เนื่องจากปัญหาการเมืองยังไม่จบ ซ้ำราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ เกษตรกรขาดเงินสดในมือ ปรับลดจีดีพีเหลือแค่ 2.5 % จากเดิมคาดโต 4.5 % แต่หากภายในปีนี้ยังไม่มีรัฐบาล ศก.ไทยอาจมัอตรการาเติบโตติดลบที่ 1 % ส่วนปัจจัยภายนอก ทั้งสหรัฐลดคิวอี และหนี้เสียในจีน ไม่กระทบถึงไทย

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ระบบเศรษฐกิจไทยจะสูญเสียเม็ดเงินในระบบกว่า 4.2-4.3 แสนล้านบาท หรือจากเดิมที่คาดไว้ 12.87 ล้านล้านบาท เหลือ 12.44 ล้านล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่นิ่งในขณะนี้ ชาวนาไม่ได้รับเงินจำนำข้าว ราคายางพาราตกต่ำ เกษตรกรไม่มีเงินใช้จ่าย ความเชื่อมั่นผู้บริโภคและนักธุรกิจลดลง การใช้จ่ายและการลงทุนชะลอตัว ทำให้ไทยสูญเสียโอกาสด้านการลงทุนและการบริโภคไปแล้วตั้งแต่ปลายปี 56 และจากผลต่อเนื่องมาจากปี 56 ที่เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้น้อยเพียง 0.6% จึงอาจกระทบให้ไตรมาสที่ 1 ของปี 57นี้ขยายตัวติดลบ 1%

“จากแผนโครงการบริหารจัดการน้ำ3.5 แสนล้านบาท ที่รัฐบาลไม่สามารถดำเนินการลงทุนได้ ทำให้ไทยสูญเสียเม็ดเงินไปกว่า 100,000 ล้านบาท ความสูญเสียอีกขั้นหนึ่งคือการลงทุนของภาคเอกชนที่ต่อเนื่องมาจากโครงการ 2 ล้านล้านและทิศทางเศรษฐกิจที่คนชะลอการจับจ่ายใช้สอยจะทำให้สูญเสียประมาณ 50,000-100,000 ล้านบาท และความสูญเสียจากการบริโภคและการท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 200,000 แสนล้านบาท จึงทำให้ไทยสูญเสียเม็ดเงินที่ควรทำได้ไปกว่า 4 แสนล้านบาท”

ทั้งนี้จากการประกาศยกเลิกการใช้พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน(พรก.ฉุกเฉิน) ส่งผลดีทางด้านจิตวิทยาด้านการท่องเที่ยวและบรรยากาศการใช้จ่ายกลับมาเป็นบวกขึ้น จึงคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 จะขยายตัวได้ 1-2% และหากสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ภายในไตรมาสที่ 2 จะทำให้ครึ่งปีแรกเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวอยู่ที่ 0-1% ในขณะที่ครึ่งปีหลังขยายตัวได้ 4-5 % ซึ่งจะทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 57 ทั้งปีขยายตัวได้ที่ 2-3 % จากเดิมที่คาดว่าจขะขยายตวได้ 4.5%

อย่างไรก็ตามหากยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลภายในช่วงกลางปีก็อาจส่งผลให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ต่ำกว่า 2% เพราะเศรษฐกิจไทยขาดความเชื่อมั่น และหากภายในปีไทยยังไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลได้ การเมืองเกิดความรุนแรงยืดเยื้อออกไป ทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้อาจติดลบ 1% ได้

สำหรับรายละเอียดของตัวเลขเศรษฐกิจในปี 57 อื่นๆ เช่น ปรับลดตัวเลขการบริโภคของเอกชนจากขยายตัว 3 % เหลือ 1.5%, การลงทุน จากขยายตัว 6.9% เหลือ 2.5%, การส่งออกจาก 245,347 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 5% เหลือ มูลค่า 239,408 ล้านเหรียญฯ ขยายตัว 4.8%, การนำเข้า จาก 272,374 ล้านเหรียญฯ หรือขยายตัว 8% เหลือ 263,258 ล้านเหรียญฯ ขยายตัว 5%, ดุลการค้า จากขาดดุล 27,026 ล้านเหรียญฯ หรือขาดดุล 6.5% เหลือขาดดุล 24,450 ล้านเหรียญฯ หรือขาดดุล 6.2%, รายได้จากนักท่องเที่ยวจาก 1.29 ล้านล้านบาท เหลือ 1.23 ล้านล้านบาท, ดุลบัญชีเดินสะพัด จากขาดดุล 4,740 ล้านเหรียญฯ หรือขาดดุล 1.1% เหลือขาดดุล 3,925 ล้านเหรียญฯ หรือขาดดุล 1% เป็นต้น

“จากการประเมินสถานการณ์มีแนวโน้มที่การเมืองไทยน่าจะเริ่มคลี่คลายได้ และเชื่อว่าน่าจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ได้ในเร็วๆนี้ ทิศทางเศรษฐกิจจะเริ่มขยายตัวมากๆในไตรมาสที่ 3-4 ของปี ขณะเดียวกันมองว่าการส่งออกทั้งปี คาดจะขยายตัวอยู่ที่ระดับ 3.5-5.5% และอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ 2.2-2.7 บนสมมติฐานเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว และการลงทุนของภาครัฐเริ่มดำเนินการได้ในช่วงครึ่งปีหลัง และสถานการณ์ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงและมีเสถียรภาพมากขึ้น แม้ว่าในปีนี้ไทยจะมีโอกาสขาดดุลบัญชีเดินสะพัดเป็นปีที่ 3 แต่ก็ยังถือว่าไม่รุนแรงมาก และยังอยู่ในภาวะควบคุมได้”

ส่วนการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ปรับลดการใช้มาตรการการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ(คิวอี) ลงอีก 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีแนวโน้มปรบขึ้นัตราดอกเบี้ยนั้น น่าจะเป็นผลมาจากสหรัฐมีความมั่นใจว่าเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวได้ และคาดว่าจะยังคงปรับลดการใช้มาตรการดังกล่าวลงอีกจนเหลือ 0 ในช่วงปลายไตรมาสที่ 3 ซึ่งการปรับลดมาตรการคิวอีดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นการส่งออก การค้าโลกรวมถึงเศรษฐกิจโลก แต่หากเกิดกรณีสงครามรัสเชียกับยูเครน สหรัฐอาจจะคงใช้มาตรการคิวอีออกไป จากเดิมที่สิ้นสุดการใช้ในปลายไตรมาส 3

สำหรับกรณีหนี้เสียของจีน ที่หลายฝ่ายกังวลนั้น มองว่าขณะนี้รัฐบาลจีนได้เร่งหามาตรการควบคุม และเชื่อว่ารัฐบาลจีนจะไม่ยอมให้เศรษฐกิจมีปัญหารุนแรง ดังนั้นโอกาสที่เศรษฐกิจโลก จะได้รับผลกระทบในปีนี้จึงมีน้อยละ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยเสริมให้เศรษฐกิจไทยไม่ลดลงมาก รวมถึงส่งผลดีต่อการส่งออกไทยด้วย

 

ดีมานด์ถ่านหินในไทย-ตปท.พุ่ง AGEมั่นใจยอดขายแตะ4ล้านตัน

ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- ศุกร์ที่ 21 มีนาคม 2557 06:00:00 น.

นายพนม ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชียกรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE เปิดเผยว่า บริษัทประเมินว่ายอดขายถ่านหินในปี 2557 ของบริษัทจะอยู่ที่ประมาณ 4 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2556 ซึ่งอยู่ที่ 2.5 ล้านตัน หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 6,000 ล้านบาท โดยในปี 2556 บริษัทมีรายได้จากการขายถ่านหินประมาณ 5,000 ล้านบาท เป็นผลมาจากการดำเนินงานช่วงไตรมาสแรกปี 2557 ยอดขายถ่านหินเติบโตกว่า 50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2556 จากความต้องการ (ดีมานด์) ใช้ถ่านหินของอุตสาหกรรมทั้งในประเทศและต่างประเทศที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาการสร้างโรงไฟฟ้าโครงการ 3 ซึ่งจะต้องศึกษาทำเลที่ตั้งและประเภทของโรงไฟฟ้า ในเบื้องต้นคาดว่าจะมีกำลังการผลิตประมาณ 9 เมกะวัตต์ มูลค่าการลงทุนประมาณ 600-700 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าภายใน 5 ปี จะมีกำลังการผลิตรวม 100 เมกะวัตต์ และบริษัทจะเน้นขยายตลาดไปยังต่างประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะในจีนที่มีความต้องการพลังงานสูงมาก และคาดว่าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศในปี 2557 นี้จะอยู่ที่ 40% จากปี 2556 อยู่ที่ 30%

อย่างไรก็ตามปัจจุบันบริษัทมีโครงการโรงไฟฟ้าแล้ว 2 โครงการ ได้แก่ 1.โรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล ขนาด 2 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ ขนาด 1 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดสุโขทัย ,2.โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนโคเจนเนอเรชั่น ขนาด 9 เมกะวัตต์ ซึ่งทั้ง 2 โครงการลงทุนผ่านบริษัท เอจีอี พาวเวอร์ โฮลดิ้งส์ บริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 90% เบื้องต้นคาดว่าจะรับรู้รายได้จากโครงการแรกภายในไตรมาสแรกปี 2558 คิดเป็นมูลค่าประมาณ 70 ล้านบาทต่อปี ส่วนโครงการที่ 2 คาดว่าจะรับรู้รายได้ไตรมาสแรก ปี 2559

• ปฏิทินข่าวธุรกิจประจำวันนี้(21 มีนาคม 2557)
  
• --ปตท.ประกาศราคาก๊าซ NGV วันนี้ (21 มี.ค.57) เท่ากับ 10.50 บาท/กิโลกรัม
  
• ภาวะตลาดน้ำมัน: เงินดอลล์แข็งค่า ฉุดน้ำมัน WTI ปิดลบ 94 เซนต์
  
• ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดร่วง $10.8 หลังสถานการณ์ยูเครนคลี่คลาย
  
• เม็ดเงินหายจากระบบบเศรษฐกิจ4แสนล.-สิ้นปีไร้รัฐบาลจีดีพีติดลบ ท่องเที่ยว-ลงทุน-บริโภควูบ
  
• อุตฯส่งออกร้องลูกค้าหนี การผลิต-ยอดขายร่วงหนัก
  
• กลุ่มปตท.ลุยขยายธุรกิจไฟฟ้า ลงนาม5สถาบันการเงิน กู้เงินลงทุน 8,600ล้าน
  
• ต่างด้าวลงทุนไทยไตรมาสแรกลด13%
  
• ผู้จัดมั่นใจงานคอมมาร์ตปีนี้ ช่วยกระตุ้นตลาดไอทีคึกคัก
  
• ‘ธนาสิริ’บุกทำเลศักยภาพนนทบุรี รุกปรับโครงสร้างแบรนด์ใหม่ มุ่งเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน
  
• JUBILEมองไตรมาส2 กำลังซื้อผู้บริโภคฟื้นตัว
  
• กรุงศรีตั้งเป้าปล่อยกู้เอสเอ็มอีปี’57แค่13% การเมืองวุ่นเริ่มมีสัญญาณเบี้ยวหนี้
  

 

สวัสดี สบายดี วันศุกร์ สดใส หัวใจร่มเย็น

......โชคดีนะคะเพื่อนๆ พี่น้อง ทุกท่าน..........

news bas .....THANKS.....

[ginger 11,058]

• ยิงระเบิดตกใกล้บ้าน'จรัญ'คาดโยงศาลรธน.ชี้เลือกตั้ง
  
• 'กาแล็กซี่'รุกสร้างรีสอร์ทในจีน
  
• หนี้ครัวเรือนมาเลย์สูงเป็นประวัติการณ์
  
• เกาะติดตลาดหุ้นโลก 21-3-57
  
• 'ลาว'หวั่นเงินเฟ้อ-ค่าแรงพุ่งไล่ทุนต่างชาติ
  
• สตรีหมายเลข1'จีน-สหรัฐ'ประชันความงาม
  
• 'เยลเลน'ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด
  
• บินมาเลย์หายจุดกระแสโอนข้อมูลกล่องดำ
  
• เบื้องหลังตามรวบ'มือปืนป๊อปคอร์น'
  
• ฝ่ายกม.คาด'สมศักดิ์'โดนอาญาแรงกว่า'นิคม'
  
• 
   
  การเงิน - การลงทุน : เศรษฐกิจต่างประเทศ
  
  วันที่ 21 มีนาคม 2557 04:00
  'เยลเลน'ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด
  
  โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
  
  
  
  
  
  
  
  "เยลเลน"ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐ ยุโรป และเอเชียปรับตัวลงกันถ้วนหน้า
  
  
  บรรดานักลงทุนมองว่า ประธานเฟดคนใหม่ส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าเดิม และมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐ ยุโรป และเอเชียปรับตัวลงกันถ้วนหน้า
  นางเจเน็ต เยลเลน ในฐานะประธานธนาคารกลางคนใหม่ของสหรัฐหรือเฟด ได้เข้าร่วมการประชุมกำหนดนโยบายครั้งแรกเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมาตามเวลาไทย และได้ออกแถลงการณ์ว่าจะคงนโยบายเดิมของประธานเฟดคนก่อนเอาไว้ต่อไป ได้แก่ ลดปริมาณการเข้าซื้อพันธบัตรรายเดือนลงอีก 10,000 ล้านดอลลาร์ เหลือเดือนละ 55,000 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากเห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งพอที่จะสนับสนุนการฟื้นตัวในตลาดแรงงานแล้ว
  อย่างไรก็ตาม นางเยลเลนกลับส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์กันไว้ ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลง 0.7% เอสแอนด์พี 0.61% แนสแด็ก 0.59% ภายหลังการประชุม ขณะที่พันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลขยับขึ้น 0.096% ส่วนตลาดหลัก ๆ ในเอเชียไม่ว่าจะเป็นโตเกียว ฮ่องกง โซล เซี่ยงไฮ้ ต่างปรับตัวลงกันถ้วนหน้าในวันถัดไป
  การปรับลดมูลค่าการเข้าซื้อพันธบัตรรายเดือนของเฟดเป็นสิ่งที่ตลาดคาดการณ์กันอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ทำให้นักลงทุนสั่นสะเทือนคือการที่เยลเลนกล่าวว่ากำหนดเวลาในการขึ้นดอกเบี้ยอาจจะอยู่ในช่วง 6 เดือนภายหลังจากที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรสิ้นสุดลงภายในสิ้นปีนี้ นั่นหมายความว่า อัตราดอกเบี้ยอาจจะปรับขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า
  การดิ่งวูบของหุ้นทั่วโลกแสดงให้เห็นว่านักลงทุนมีความรู้สึกไวมากต่อการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของเฟดภายหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐดำเนินมาตรการอย่างแข็งกร้าวมา 7 ปีเพื่อสร้างเสถียรภาพ และความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจของประเทศ
  นายฮิโรมิชิ ซิราคาวะ นักวิเคราะห์ประจำเครดิต สวิส กล่าวว่า เยลเลนอาจจะถูกมองว่าไม่ได้เป็นสายพิราบเหมือนที่คิด และตลาดควรให้ความสำคัญกับความเป็นไปได้ที่ว่า "ยุคดอลลาร์แข็ง-หุ้นอ่อน" จะเริ่มขึ้นแล้ว
  ก่อนหน้านี้เศรษฐกิจสหรัฐซบเซาอย่างหนักจนทำให้นายเบน เบอร์แนนเก้ ประธานเฟดคนก่อน ประกาศเอาไว้ว่าจะขึ้นดอกเบี้ยก็ต่อเมื่ออัตราว่างงานลดเหลือ 6.5% แต่ปัจจุบันนี้ อัตราว่างงานได้ลดลงมาเหลือ 6.7% ในเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้เฟดภายใต้การดูแลของนางเยลเลนกล่าวว่าจะไม่พิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากอัตราว่างงานเพียงอย่างเดียวแล้ว แต่จะนำตัวเลขอื่น ๆ มาประกอบการพิจารณาด้วย ไม่ว่าจะเป็นสภาพตลาดแรงงาน อัตราเงินเฟ้อ และสถานการณ์ในตลาดเงิน
  ทั้งนี้ ความท้าทายที่นางเยลเลนจะต้องเผชิญเมื่อก้าวขึ้นมากุมบังเหียนเฟดก็คือ เมื่อเศรษฐกิจเริ่มแข็งแกร่งขึ้น เฟดก็ต้องค่อย ๆ ก้าวถอยหลังจากนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน แต่จะต้องบาลานซ์ให้ดี เพราะถ้าถอยกลับเร็วเกินไป ก็อาจจะไปขัดขวางการฟื้นตัวที่ตัวเองกำลังสนับสนุนอยู่ได้
  
  Tags : เฟด • เยลเลน เกาะติดตลาดหุ้นโลก 21-3-57 เกาะติดตลาดหุ้นโลกไปกับ Morning News "กรุงเทพธุรกิจทีวี" 21-3-57 สรุปภาวะตลาดหุ้น-ทองรอบวัน 20-3-57 สรุปภาวะตลาดหุ้น-ทองรอบวัน ช่วงตรงประเด็นข่าวค่ำ "กรุงเทพธุรกิจทีวี" 20-3-57 พอร์ตลงทุนหุ้นวันนี้ต่างชาติขาย1พันลบ. พอร์ตลงทุนหุ้นวันที่ 20 มี.ค. ต่างชาติขาย 1 พันล้าน รายย่อยซื้อ 3.3 พันล้าน สถาบันขาย 1.9 พันล้าน บัญชีบล.ขาย 339 ล้าน เงินบาทปิด32.38/39อ่อนค่าหลังเฟดลดคิวอี หุ้นไทยปิดร่วง2จุดตามต่างประเทศ 'วรวิทย์'อำลาตำแหน่งยันทำหน้าที่เพื่อองค์กร สรุปภาวะซื้อขายทองคำ-อนุพันธ์ภาคบ่าย 20-3-57
  ดูข่าว ทั้งหมด
  
   
  
   
  ข่าวยอดนิยม
  
  • เบื้องหลังตามรวบ'มือปืนป๊อปคอร์น'
    
  • ฝ่ายกม.คาด'สมศักดิ์'โดนอาญาแรงกว่า'นิคม'
    
  • ยิงระเบิดตกใกล้บ้าน'จรัญ'คาดโยงศาลรธน.ชี้เลือกตั้ง
    
  • มอยส์ยกลูกทีม แซงโอลิมเปียกอสเข้ารอบ
    
  • สตรีหมายเลข1'จีน-สหรัฐ'ประชันความงาม
    

ถูกแก้ไข มีนาคม 21, 2014 โดย ginger

[ginger 11,058]

ค่าเงินบาทปิดตลาดที่ 32.38-32.39 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า หลังเฟดลดคิวอี คาดพรุง่นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.35-32.50 บาท/ดอลลาร์

นักบริหารเงินจากธนาคารพาณิชย์ กล่าวว่า ค่าเงินปิดตลาดเย็นที่ระดับ 32.38-32.39 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 32.34-32.35 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันอ่อนค่าสุด 32.39 บาท/ดอลลาร์ และแข็งค่าสุด 32.32 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทอ่อนค่าลงต่อเนื่องจากช่วงเช้า จากการที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น สืบเนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับลดขนาดมาตรการ QEและส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่ตลาดคาด

สำหรับวันพรุ่งนี้ คาดว่า ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.35-32.50 บาท/ดอลลาร์

[ginger 11,058]

[baskie30 6,060]

สวัสดีครับเพื่อนๆทุกท่าน มาดูกราฟกันเลยดีกว่าเดี๋ยวไม่ว่างครับ

จากกราฟรายชมจะเห็นว่า ทองลงทำนิวโลวอีก แต่ราย15นาทีเกิดไดเวอร์จิ้น ลงมาถึง1320 ปิดแกบพอดี แต่ยังเป็นคลื่น15m3หรือ15mCก็ได้ ตอนนี้น่าจะรีบาวกลับทำ15m4 หรืออาจจะเริ่มคลื่นชุดใหม่ ของ1hBก็ได้ ต้องลุ้นกัน มีแพทเทิ้ลrh&sเป้าหมายการขึ้นอยู่แถวๆ1343 เบรคเนคไลน์ได้แล้วแต่ไม่อยากเชื่อมากนักสำหรับขาลง แต่ถ้าเป็น15m4จริงๆจะไม่เกิน1350กรอบสีแดงแล้วจากนั้นจะลงทำนิวโลวใหม่ แถวๆ1308-1297-1283 ตามลำดับ แต่ถ้าเกิน1350ขึ้นไปเท่ากับจบ1hAที่1320 ตรงนี้และจะทำ3คลื่นย่อย 1hBต่อไปมาดูกราฟต่อไป

กราฟฟราย4ชมจะเห็นว่าถ้าจบ1hAตรง1320จริง และกำลังรีบาวทำ1hB เป้าหมายจะอยู่ในกรอบสีส้ม1355-1364-1374 จากนั้นจะลงต่อวัดเป้าหมายh&sได้ถึง1243 แต่อย่าคาดหวังมากครับ ฟิชเชอร์บีบีราย4ชมหุบอยู่แต่สัญญาณน่าจะอ้าเร็วๆนี้ถ้าอ้าเมื่อไหร่น่าจะช่วยยืนยันการรีบาวได้ มุมมองการเล่นวันนี้สำหรับคนซื้อ

1 รอซื้อ buylimit 1299 cut 1290 เป้า 1339

2 หากถูกกินcutให้รอดูสถานการณ์ต่อไป

สำหรับคนขาย

1 รอขาย selllimit 1343 cut 1350 เป้า 1310

2 หากถูกกินcut ข้อ1 รอขาย selllimit 1364 cut 1371 เป้า 1301

3 หากถูกกินcutข้อ 2 รอขาย selllimit 1374 cut 1391 เป้า 1277

4 หากถูกกินcutข้อ3 แนะนำรอดูสถานการณ์ต่อไป

ปล.สำหรับผมเมื่อวานโดนคัตตามสภาพแต่ก็กดbuyใหม่ 1325.4 ขยับคัตเป็น1326ล๊อคกำไรก่อน เป้า 1337และตั้งซื้อขายตามข้อ123 ครับ ส่วนทองแท่งรอขายที่1355-1374 ครับ

ปล2 .ขอตัวไปประชุมก่อนครับขอให้เโชคดีครับ

[ginger 11,058]

D Ja news bas wann OKorNo deb ตังเม กบ เด็กสยาม น้อย ขวด juy Espresso Megagold GOLDLENG FEE yot Pasaya

เต้าหู้ เจ้าป้า ทุกคนนะคะ โชคดี สบายใจ

[ginger 11,058]

[ginger 11,058]

[ginger 11,058]