ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tookta2708

ความพอเพียงตอนไปต่างประเทศ

โพสต์แนะนำ

ความพอเพียงตอนไปต่างประเทศ

 

ดร.โสภณ พรโชคชัย*

 

ทุกท่านคงเคยได้ยินคำว่าความพอเพียงกันมามากพอสมควร วันนี้ผมจะเล่าจากประสบการณ์จริงของผมบ้างครับ เพื่อให้เห็นความพอเพียงที่แท้ที่พวกข้าราชการระดับสูง ๆ ต่างหากที่ควรน้อมนำไปปฏิบัติ

เรื่องก็คือ ผมได้รับมอบหมายจากสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทยในฐานะรองประธานให้ไปประชุม UN Global Compact ขององค์การสหประชาชาติ ที่สภาฯ เป็นองค์กรผู้แทนในประเทศไทย และผมเป็นคนประสานงานกับองค์การสหประชาชาติในเรื่องนี้ การประชุมครั้งนี้จัดขึ้น ณ กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ในระหว่างวันที่ 16-20 พฤษภาคม ศกนี้

ตอนแรกผมก็คิดจะใช้บริการบินตรง 11 ชั่งโมงครึ่งของการบินไทยครับ แต่ค่าตั๋วชั้นประหยัดราคา 48,000 บาท ผมเลยเปลี่ยนใจไปใช้กาตาร์แอร์เวย์ ซึ่งค่าตั๋วอยู่ที่ 38,000 บาท แต่ต้องเปลี่ยนเครื่องที่กรุงโดฮาประมาณสองชั่วโมง ทำให้เวลาเดินทาง 13 ชั่วโมง แต่ผมก็ยินดีครับเพื่อประหยัดเงินให้สภาฯ บางท่านอาจอยากถามว่าแล้วทำไมผมไม่ออกเองล่ะ ผมก็คงตอบว่า งานนี้ผมช่วยด้วยการสละเวลาทำมาหากินไป 5 วันเต็มครับ

สำหรับกาตาร์แอร์เวย์ เครื่องบินก็ใหม่ อาหารดี ดนตรีไพเราะ พร้อมมีภาพยนตร์ให้ดูนับร้อยเรื่อง บริการก็ไม่แพ้ (ไม่อยากบอกว่าชนะ) การบินไทย แอร์โฮสเตสก็มีหลายสัญชาติ ให้บริการใกล้ชิดกับลูกค้าได้หลายภาษา และก็มีอายุไม่มาก เหมาะกับงานแบบนี้ ต่างกับสายการบินบางแห่งที่แอร์ฯ ชราจนน่าเป็นห่วง ซึ่งคงเป็นเพราะ (จำต้อง) เอาใจแอร์ (ลูกจ้าง) มากกว่าจะยึดเอาประโยชน์ของผู้บริโภคเป็นที่ตั้ง ท่านทราบไหม ข้าราชการถูกกำหนดให้ใช้การบินไทย นี่ถ้าไม่กำหนดไว้ ป่านนี้การบินไทยจะอยู่รอดหรือไม่

ยิ่งถ้าเป็นข้าราชการระดับสูงยังได้สิทธิบินชั้นธุรกิจที่ค่าตั๋วเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 3 เท่า (ราคา 130,000 บาท) อันที่จริงถ้าเราเกรงว่าพวกข้าราชการระดับสูงจะเหนื่อยเกินไป ก็น่าให้เขาบินล่วงหน้าสัก 1 วัน และเมื่อกลับก็ให้หยุดงานได้ 1 วัน จะได้ไม่ต้องเปลืองเงินมากมาย แต่ก็ไม่แน่ว่าถ้าให้พวกเขาเดินทางก่อน 1 วัน พวกเขาอาจใช้เวลาดังกล่าวไป “ช็อบสนั่น” หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งมากกว่านอนพักหรือไม่

ผมเองเดินทางไปอเมริกาปีละ 2 ครั้ง เสียค่าเครื่องบินครั้งละ 65,000 บาท ผมยังเสียดายเงินนัก ผมมักพูดเล่นออกบ่อย ๆ ว่า ถ้ามีตั๋วยืน 10,000 บาท ผมซึ่งอายุปูนนี้ยังจะยอมยืนสัก 17 ชั่วโมงเพราะสามารถประหยัดได้ถึง 55,000 บาท ผมไปรับจ้างพวกองค์การระหว่างประเทศบรรยายหรือทำวิจัย ก็ได้วันละราว ๆ นี้

ทางออกอีกทางหนึ่งในการประหยัดงบประมาณแผ่นดินก็คือ การเสนอให้ข้าราชการระดับสูงที่มีสิทธินั่งตั๋วธุรกิจ ให้มีทางเลือกว่า ถ้าไม่นั่ง ส่วนต่างได้กันคนละครึ่ง คือข้าราชการผู้นั้นได้ครึ่งและคืนคลังหลวงอีกครึ่ง ผมเชื่อว่าข้าราชการหลายคนอาจยินดีรับเงินเพิ่ม ทำให้ประหยัดงบประมาณแผ่นดินไปอีกมาก และในปัจจุบัน ข้าราชการระดับสูง ๆ ก็ยังได้เบี้ยเลี้ยง ค่าแต่งตัวสำหรับตนเองและคู่ครอง และอื่น ๆ อีกต่างหากเมื่อเดินทางไปต่างประเทศ

ในเรื่องค่าที่พัก เราควรให้ข้าราชการได้รับค่าที่พักแบบประหยัดก็พอเพราะเป็นเงินภาษีของประชาชนทั้งนั้น การให้ข้าราชการระดับสูงหรือบอร์ดรัฐวิสาหกิจไปต่างประเทศแบบหรูหรา ใช้เงินนับสิบล้านบาท ถือเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดินและไม่ได้เจริญรอยตามหลักความพอเพียงเลย ข้าราชการไม่พึงอ้างศักดิ์ศรีของประเทศเพราะความจริงอาจกลัวเสียโอกาสเสพสุขเกินพอเพียงต่างหาก สำหรับการเดินทางของผมในครั้งนี้ ผมยังประหยัดกว่ามาตรฐานอีก ผมจองห้องพักแบบนอนรวม 6 เตียง ค่าที่พักตกเป็นเงินคืนละ 1,700 บาทเท่านั้น แต่ถ้าผมพักแบบปกติก็คงต้องเสียค่าที่พักคืนละ 4,000-8,000 บาท

ท่านเชื่อหรือไม่คืนแรกผมโชคดีได้พักกันเพียง 2 คน มีผมกับสาวสวยชาวเกาหลี ซึ่งดูเธอก็ตกใจเล็กน้อยที่มาพักกับชายแปลกหน้าสองต่อสอง แต่ที่เดนมาร์ก เขาไม่ถือเรื่องเพศ คืนแรกผ่านไปด้วยดี คืนที่สองมีสาวสวยชาวจีนอีก 2 คนมาพักด้วย คืนที่สามมีหนุ่มญี่ปุ่นมาอีก 1 ราย ส่วนคืนสุดท้ายได้ปู่อายุ 70 ปีชาวเบลเยียมมานอนครบ 6 เตียงพอดี โชคร้ายหน่อยที่ปู่แกกรนหนัก

ผมยังถือปฏิบัติ “ยิ่งกว่าความพอเพียง” อีกเรื่องหนึ่งก็คือ การเดินทางระหว่างโรงแรมที่พักกับที่ประชุม ซึ่งอยู่ห่างไกลกัน 3.5 กิโลเมตร มีทางเลือกหลายทาง เช่น นั่งแท็กซี่ รถไฟ หรือรถประจำทาง ซึ่งก็ยังต้องเดินอีกพอสมควร หรือไม่ก็เช่ารถจักรยานสองล้อ ซึ่งผมขี่เป็นประจำตอนเรียนอยู่เบลเยียมเมื่อ 25 ปีก่อน แต่ตอนนี้คงไม่ไหวแล้ว สุดท้ายผมเลือกการเดินครับ ผมเดินวันละประมาณ 8-10 กิโลเมตร เพื่อไปประชุมและเดินชมเมือง บางวันที่เดิน ผมถือร่มด้วยเพราะฝนตก แต่วันหลัง ๆ ฟ้าโปร่งก็เลยสบาย

ผมไม่อายที่เล่าเรื่องข้างต้นให้ฟังเพราะฝรั่งเองก็ใช้ชีวิตแบบนี้ แม้เรามีฐานะที่ดีกว่าแต่ก็ควรอยู่อย่าง “ติดดิน” บ้าง จะได้ไม่กลายเป็นศักดินาบนหอคอยที่ไม่เห็นหัวของปุถุชน อย่างไรก็ตามสาระสำคัญที่ผมอยากบอกก็คือ พวกข้าราชการใหญ่โตที่ควรน้อมนำความพอเพียงมาใช้ กลับไม่นำพา พวกเขาอ้างว่าทำงานรับใช้ประชาชนและราชบัลลังก์ แต่กลับเสพสุขกันโดยใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินจากภาษีประชาชนอย่างสุรุ่ยสุร่าย เรื่องนี้ไม่มีใครคิดแก้ไขเพราะต่างเป็นอภิสิทธิ์ชนส่วนน้อยที่ได้รับแจกจ่ายประโยชน์กันถ้วนหน้า และนับวันประโยชน์เหล่านี้จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

ในทางตรงกันข้ามหน่วยงานของรัฐกลับพยายามประชาสัมพันธ์เรื่องความพอเพียงอย่างเป็นบ้าเป็นหลังให้กับประชาชนนำไปปฏิบัติกันฝ่ายเดียว

 

 

เชิญฟังเสวนาวิชาการรายเดือนครั้งที่ 104 (ฟรี)

"ประสบการณ์การศึกษาการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อาเซียน"

วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม 2554 เวลา 13:00-16:00 น. ณ มูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย

คลิ๊กดูรายละเอียดตามนี้

http://www.thaiappraisal.org/thai/monthly/monthly.php

 

หรือโทร. 0.2295.3171 คุณธันยมัย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...