yot111 510 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 25, 2013 หวัดดีคับคุณginger คุณตู้เย็น คุณดอกเหมย คุณlavender คุณfairy เพื่อน อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 25, 2013 เปิดเอกสารลับสารภาพ"เจ๊งจำนำข้าว" post today โดย...ทีมข่าวการเมือง เป็นที่ทราบโดยทั่วกันแล้ว รัฐบาลประกาศลดราคาจำนำข้าวจากตันละ 1.5 หมื่นบาทเหลือ 1.2 หมื่นบาท เพราะไม่อาจแบกรับภาระขาดทุนที่ไต่ระดับถึงแสนล้านบาท แม้คนในรัฐบาลพยายามสรรหาถ้อยคำกลบคำว่า "ขาดทุน" ไม่ว่าจะอ้าง เป็นการขาดทุนกำไรบ้าง หรือรัฐแค่สูญเสียงบส่วนหนึ่งแต่ชาวนาได้รับประโยชน์ทั่วประเทศบ้าง อย่างไรก็ตาม ถ้าพลิกดูเอกสารของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ(กขช.) นำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)จะพบความจริงหลายประการ ซึ่งตรงข้ามคำแถลงอันสวยหรูจากฝ่ายการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการรายงานให้เห็นถึงความคลาดเคลื่อนตัวเลขการขาดทุนมาจากอะไรกันแน่ ไม่ว่าจะเป็นการยอมรับนโยบายรับจำนำข้าวตันละ 1.5 หมื่นบาทไม่อาจไปต่อได้อีกแล้ว หรือ การฉายภาพผลกระทบจากการตัดสินใจลดราคาลงมาเหลือ ตันละ 1.2 หมื่นบาทต่อตัน หรือแม้กระทั่งการวางกรอบเพดานการขาดทุนจากนี้ไปต้องไม่เกิน 7 หมื่นล้านบาทต่อปีหาใช่ไม่เกิน 1 แสนล้านบาทตามที่บุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ได้ออกมาแถลงแต่อย่างใด *************** ต่อไปนี้คือ รายงานผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ครั้งที่ 4 / 2556 อันเป็นเอกสารหน่วยงานรัฐที่เสนอรัฐบาล จึงไม่จำเป็นต้องอ้าง ฝ่ายค้าน หรือ คนโน้นคนนี้ สร้างเรื่องเสริมแต่ง บิดเบือนโจมตีแต่อย่างใด “ทุกอย่าง ฟ้องอยู่ในตัวของมันเอง” *************** พบพิรุธ อคส. อตก. สอบข้าวหาย เอกสาร กขช.รายงานไว้ดังนี้ 1.การปิดบัญชีโครงการรับจำนำ 1.1 เห็นชอบวิธีการคำนวณและผลการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 และโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2555 ตามเอกสารปิดบัญชีโครงการรับจำนำทั้งสองโครงการของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือกตามนโยบายของรัฐบาล ณ วันที่ 31 ม.ค.2556 โดยมีข้อสังเกต คือ 1) การคำนวณสต็อกข้าวคงเหลือ จะใช้ราคาต้นทุนหรือราคาตามประกาศกรมการค้าภายใน (ซึ่งคือราคาตลาด) หรือ ราคาจำหน่าย ขึ้นอยู่กับราคาใดจะต่ำที่สุด 2 ) รายได้จากการจำหน่ายข้าวสารของทั้งสองโครงการ มีปริมาณข้าวที่เป็นข้าวบริจาคและข้าวสารจำหน่ายราคาถูกตามนโยบายลดค่าครองชีพของประชาชน รวมปริมาณ 608,672 ตัน มูลค่าที่อนุมัติจำหน่ายจำนวน 4,426.97 ล้านบาท มูลค่าตามต้นทุน จำนวน 15,531.109 ล้านบาท แตกต่างกันจำนวน 11,104.139 ล้านบาท จึงไม่ควรนำมาพิจารณาเป็นภาระของโครงการ เนื่องจากเป็นนโยบายรัฐบาล จึงควรที่รัฐจะต้องชดเชยส่วนต่างระหว่างราคาจำหน่ายกับราคาต้นทุนให้แก่โครงการรับจำนำ 1.2 สำหรับการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปี 2555/ 56 ที่ประชุมเห็นว่าข้อมูลยังมีความคลาดเคลื่อน และยังมีความเห็นแตกต่างกัน โดย อคส.และอตก. ได้มีหนังสือลงวันที่ 14 มิ.ย. 56 แจ้งปริมาณข้าวคงเหลือของทั้ง 3 โครงการ แก่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ อีกครั้งหนึ่งแต่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ มีความเห็นไม่รับข้อมูลดังกล่าว เนื่องจากมีการปรับแก้ไขข้อมูลที่เป็นสาระสำคัญของทั้งสองโครงการ กขช.จึงมีมติให้แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อมูลปริมาณข้าวคงเหลือของทั้ง อคส. และอ.ต.ก. ณ วันที่ 31 พ.ค.56 โดยมีรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ( พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง) เป็นประธาน และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้แทนของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ ร่วมเป็นคณะทำงาน และผู้แทนกรมการค้าภายใน เป็นคณะทำงานและเลขานุการ 1.3 เห็นชอบให้แยกรายงานการปิดบัญชีโครงการรับจำนำออกเป็น 2 ชุด โดยรายงานที่เสนอ กขช. เป็นการปิดบัญชีโครงการรับจำนำตั้งแต่ ปี 54/55 เป็นต้นไป ตามคำสั่งคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติที่ 9/2556 เรื่อง แต่งตั้ง คณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือกตามนโยบายรัฐบาล ลงวันที่ 26 ก.พ.55 สำหรับโครงการอื่นให้รายงานคณะรัฐมนตรีตามคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 672 / 2553 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำผลิตผลการเกษตรตามนโยบายรัฐบบาล ลงวันที่ 11 มิ.ย. 53 1.4 เห็นชอบให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการติดตามประเมินผลโครงการในทุกมิติ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ทางตรงที่เกษตรกรได้รับ และผลทางอ้อมคือระบบเศรษฐกิจรวมถึงความคุ้มค่าของโครงการ โดยมีรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ) เป็นประธาน ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐศาสตร์ ด้านกฎหมาย ด้านบัญชี ด้านสังคม ผู้ทรงคุณวุฒิในเรื่องข้าว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นอนุกรรมการ โดยมีผู้แทนกรมการค้าภายใน เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ เบื้องหลังลดราคาสะเทือนทั้งระบบ 2. แนวทางการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปี 2555/2556 ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้ดำเนินการในปริมาณ 22.0 ล้านตัน วงเงิน 345,000 ล้านบาท ขณะนี้มีผลการรับจำนำ ณ วันที่ 15 มิ.ย. 2556 รวม 18.836 ล้านตัน (ครั้งที่ 1 จำนวน 14.383 ล้านตัน ครั้งที่ 2 จำนวน 4.453 ล้านตัน ) โดยที่ประชุมมีความเห็นว่าควรจะต้องมีการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ระยะเวลาโครงการสิ้นสุดวันที่ 15 กันยายน 2556 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จึงได้เสนอแนวทางการดำเนินการในระหว่างฤดูกาลนี้ ดังนี้ 2.1 การปรับลดราคารับจำนำ ข้าวเปลือก 5 % ลดลงเหลือตันละ 12,000 บาท 2.2 จำกัดวงเงินรับจำนำ ไม่เกิน 500,000 บาท/ ครัวเรือน ที่ประชุมพิจารณาแล้วมีความกังวลว่าการปรับเปลี่ยนกลางคันอาจเกิดความสับสนวุ่นวาย จะเกิดความไม่เท่าเทียมกันระหว่างคนที่จำนำข้าวเปลือกแล้วและคนที่ยังไม่นำข่าวเปลือกมาจำนำ สำหรับประเด็นการลดราคาอาจมีผลกระทบต่อราคาตลาดในประเทศและราคาส่งออกรวมทั้งส่วนที่ได้ระบายไปแล้วและอยู่ระหว่างการส่งมอบ ผู้ซื้ออาจขอเจตรจาปรับราคาลงอีกได้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จึงมอบหมายให้หน่วยปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ธ.ก.ส. อคส. และ อ.ต.ก. ไปดำเนินการกำกับดูแลให้การดำเนินการรับจำนำอยู่ในกรอบและวงเงินที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติไว้โดยเคร่งครัด จำนำพ่นพิษขาดทุนเกินเป้าหมาย!! 3. แนวทางการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปี 2556/ 57 ที่ประชุมเห็นพ้องกันว่า สมควรปรับปรุงโครงการรับจำนำในปี 2556/57 ให้สอดคล้องกับนโยบายด้านการคลังของรัฐบาล ที่กระทรวงการคลังมีแผนที่จะจัดทำงบประมาณสมดุลในปี 2560 เนื่องจากการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปี 2554/ 55 และนาปรัง ปี 2555 มีผลขาดทุนมากกว่าเป้าหมายที่คาดไว้ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆที่กดดันราคาข้าวไม่ให้ปรับตัวสูงขึ้นตามที่คาดการณ์ไว้ เช่น ปริมาณผลผลิตข้าวโลกที่เพิ่มขึ้น การแข็งค่าของเงินบาทและการทุ่มตลาดข้าวของอินเดียและเวียดนามแต่อย่างไรก็ตามการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกที่ผ่านมา สามารถทำให้เกษตรกรได้รับผลประโยชน์เพิ่มขึ้น คิดเป็นมูลค่า 338,562 ล้านบาท 3.1 ด้านราคารับจำนำ ซึ่งมีแนวทางการปรับลดราคารับจำนำคือ 1). ใช้ราคาต้นทุนการผลิต บวก กำไรที่เกษตรกรควรจะได้รับ ประมาณ 25%เช่นเดียวกับสินค้าเกษตรอื่นๆ ที่รัฐบาลจะดำเนินการแทรกแซงตลาด 2) ใช้ราคารรับจำนำเดิมปรับลดลง 15-20 % 3) ใช้ราคานำตลาด 10 % ซึ่งจะทำให้ราคารับจำนำข่วเปลือกเจ้านาปี 5% มีราคาประมาณตันละ 12,000-13,000 บาท 3.2 ด้านปริมาณรับจำนำ การกำหนดปริมาณรับจำนำทั้งโครงการไว้เช่นเดียวกับโครงการรับจำนำมันสำปะหลัง เช่น กำหนดปริมาณรับจำนำทั้งโครงการปี 2556/ 57 (ทั้งนาปี บวก นาปรัง ) ไม่เกิน 17 ล้านตันข้าวเปลือก จำกัดปริมาณรับจำนำของเกษตรกรไม่เกินครัวเรือนละ 25 ตัน เป็นต้น 3.3 ด้านวงเงินที่รับจำนำของเกษตรกรแต่ละราย โดยจำกัดวงเงินรับจำนำข้าวเปลือกของเกษตรกร ไม่เกิน 300,000- 500,000 บาท/ครัวเรือน 3.4 ด้านระยะเวลารับจำนำ โดยกำหนดระยะเวลาการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2556 -2557 และข้าวเปลือกนาปรัง ระหว่างเดือนมี.ค –ก.ค.57 ห้ามขาดทุนเกิน 7 หมื่นล้าน ทั้งนี้ มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ รวบรวมข้อมูลและศึกษาทางเลือกข้างต้นพร้อมทั้งการกำหนดเงื่อนไขประกอบ เพื่อจำกัดวงเงิน ภาระค่าใช้จ่าย และผลขาดทุนที่เกิดขึ้นไม่ให้เกินวงเงินปีละประมาณ 70,000 ล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับแนว่ทางการจัดทำงบประมาณสมดุลของประเทศตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 25, 2013 หวัดดีคับคุณginger คุณตู้เย็น คุณดอกเหมย คุณlavender คุณfairy เพื่อน D yot fairy Lavender GoldLeng T_G ตู้เย็น ดอกเหมย ทุกท่าน Hello, is it me you're looking for? Lionel Richie http://youtu.be/n6DyGZFG6lE 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 25, 2013 (มีการแก้ไข) Yiruma - River Flows In You http://youtu.be/F-4wUfZD6oc ถูกแก้ไข มิถุนายน 25, 2013 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 25, 2013 Kiss the Rain - Yiruma อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
lavender 23 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 25, 2013 ดีค่ะ ginger. Yott ตู้เย็น ดอกเหมย fairy. สบายดีกันนะค่ะ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 25, 2013 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 25, 2013 ดีค่ะ ginger. Yott ตู้เย็น ดอกเหมย fairy. สบายดีกันนะค่ะ สบายดีค่ะ ~ Japan 日本 ~ Land of the Rising Sun ~ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 25, 2013 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 25, 2013 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 25, 2013 วัดป่าสุญญตา 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 25, 2013 ฟ้าแลบ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 25, 2013 Kanok Ratwongsakul Fan Page นายคนนี้คือ "เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน" อายุ 30 ปี อดีตเจ้าหน้าที่เทคนิคคอมพิวเตอร์ของซีไอเอและลูกจ้างของ สนง.ความมั่นคงแห่งชาติ ที่สหรัฐต้องการตัวมาก หลังจากเขาหนีไปฮ่องกง แล้วไปเปิดโปงว่า สหรัฐแอบสอดแนมความเคลื่อนไหวของจีนมาหลายปี สหรัฐโวยวาย สงสัยจีนจะช่วยให้นายคนนี้บินหนีไปมอสโก โวยรัสเซียช่วยให้ลี้ภัยไปเอกวาดอร์อีก ผมติดตามข่าวนี้อย่าง "เอาใจช่วย" (แบบไม่รู้ตัว) ให้สโนว์เดนหนีได้สำเร็จ เพราะนึกไปถึงว่า แล้วทำไมสหรัฐจึงยอมให้ "คนที่หนีคำพิพากษาศาลไทย" ไปเดินเล่นอยู่ในอเมริกาได้? เพียงแค่เขาเกี่ยวพันเป็นพี่ของรัฐบาลไทยหรือ? คุณยอมให้คนผิดจากประเทศอื่นไปซุกประเทศคุณได้ แล้วทำไมประเทศอื่นจะอ้าแขนรับ คนที่พร้อมจะเปิดโปงสิ่งที่คุณแอบทำไม่ได้ ไม่รู้สิ พักหลังๆ ผมว่า..สหรัฐเป็นเพื่อนที่ไม่น่ารักเลย อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 25, 2013 สาระแห่งสุขภาพ ***เมื่อของดำทำให้ดูดี*** สมาคมนักกำหนดอาหารของสหรัฐอเมริกามักจะมีคำแนะนำด้านโภชนาการที่น่าสนใจออกมาเสมอ หนึ่งในคำแนะนำที่น่าสนใจ และหมอมักจะหยิบยกตัวอย่างมาเล่าให้ฟังเวลาไปบรรยายตามที่ต่างๆคือ “พยายามกินอาหารสีรุ้ง” ขยายความได้ว่า เราควรรับประทานอาหารให้หลากหลาย โดยเฉพาะผักผลไม้ ควรรับประทานให้หลากสี เพราะแต่ละสี ก็มีดีกันไปคนละด้าน เพราะสีที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในผักผลไม้นั้น เป็นผลจากสารต้านอนุมูลอิสระ สีที่ต่างกันเกิดจากสารต้านอนุมูลอิสระคนละตัวกัน หากเปรียบกระบวนการต้านอนุมูลอิสระในร่างกายเราเป็นทีมฟุตบอล สารต้านอนุมูลอิสระแต่ละตัว ก็เปรียบได้กับนักบอลที่ถนัดเล่นคนละตำแหน่งกัน บ้างถนัดเป็นกองหน้า บ้างถนัดเป็นกองหลัง หากเราสะสมได้ครบทีม ก็ย่อมได้เปรียบคู่ต่อสู้ ผักผลไม้สีเด่นๆอย่าง สีแดงในมะเขือเทศ สตรอเบอรี่ สีเหลืองส้มในแครอท ฟักทอง หรือสีเขียวในผักใบเขียวต่างๆนั้น เป็นผักผลไม้ที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยและรับประทานกันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่มีผักผลไม้อีกสีหนึ่งที่มีทีเด็ดไม่แพ้สีอื่นเลยทีเดียว แต่อาจยังไม่ค่อยมีใครพูดถึงกันเท่าไรนัก นั่นก็คือ สีดำ! อาหารในกลุ่มสีน้ำเงินม่วงดำที่น่าสนใจมากๆมีอยู่ 6 อย่างด้วยกัน ถ้าเปรียบไปก็เหมือนสาวผิวคล้ำหกนางที่มีเสน่ห์น่าสนใจไปคนละอย่าง มีทั้งคล้ำออกน้ำเงิน คล้ำแบบม่วงๆ และคล้ำดำขลับ เรามาไล่ทำความรู้จักกับของดำที่จะทำให้สวยขึ้นได้ทั้งหกกันค่ะ ข้าวกล้องสีนิล ข้าวกล้องพันธุ์ต่างๆที่มีสีน้ำเงินดำ ไม่ว่าจะเป็นข้าวกล้องสีนิล ข้าวกล้องหอมนิล หรือข้าวกล้องไรซ์เบอรี่ จะมีเส้นใยอาหารสูง มีค่าไกลซีมิกอินเด็กซ์ หรือค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ เมื่อรับประทานไปจะถูกเปลี่ยนเป็นน้ำตาลในกระแสเลือดช้ากว่ารับประทานข้าวขัดขาว จึงส่งผลให้อ้วนน้อยกว่า (เข้าตำราผอมได้ไม่ต้องอด) และที่โดดเด่นคือ สีน้ำเงินดำของข้าวในกลุ่มนี้มาจากสารต้านอนุมูลอิสระแอนโธไซยานินส์ (Anthocyanins) ซึ่งมีการศึกษากันมากถึงคุณสมบัติการต้านมะเร็ง และลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ ดอกอัญชัญ ทางการแพทย์แผนโบราณ มีการนำดอกอัญชัญมาทำเป็นเครื่องดื่มสมุนไพร ดื่มเพื่อบำรุงสุขภาพมาเป็นเวลานานแล้ว งานวิจัยยุคใหม่พบว่า ดอกอัญชัญมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระได้ดี เนื่องจากมีสารแอนโธไซยานินส์ และยังมีคุณสมบัติคลายความกังวล คลายเครียด อีกด้วย เครียดจากงานครั้งหน้า ลองหันมาดื่มน้ำอัญชัญแก้กลุ้มกันดูนะคะ ข้าวโพดสีม่วง เพิ่งได้รับความนิยมในช่วงไม่กี่ปีในบ้านเรา แต่เป็นพืชเก่าแก่ของชาวเปรู นิยมปลูกรับประทานเป็นข้าวโพด นำมาทำสีผสมอาหาร รวมไปถึงนำมาหมักทำเป็นไวน์ข้าวโพด สีม่วงมาจากสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มแอนโธไซยานินส์เช่นกัน โดยมีสารตัวเด่นคือ Cyanidin-3-o-glycoside หรือเรียกง่ายๆว่า C3G ซึ่งถูกนำมาศึกษาเปรียบเทียบความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระกับวิตามินอี พบว่า C3G มีความสามารถเหนือกว่าวิตามินอีถึง 3.5 เท่า ถั่วดำ สำหรับคนไทยเรา ถั่วดำอาจจะไม่เป็นที่คุ้นเคย นำมาทำอาหารรับประทานถูกปากเท่าถั่วเหลืองหรือถั่วแดง แต่เคยมีการศึกษาเปรียบเทียบความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระแบบรุ่นต่อรุ่น พบว่า ในบรรดาถั่วหลากสีทั้งหมด ถั่วดำมีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระสูงที่สุด นอกจากสารต้านอนุมูลอิสระแล้ว ถั่วดำยังเป็นแหล่งของโปรตีน เส้นใยอาหาร และแร่ธาตุต่างๆที่ดีมาก งาดำ งาเป็นหนึ่งในธัญพืชมหัศจรรย์ มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวซึ่งเป็นไขมันดี ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลตัวที่ไม่ดีคือ LDL-Cholesterol มีโปรตีนและเส้นใยอาหารสูง นอกจากประโยชน์เยอะแล้ว งาดำยังจัดเป็นตัวประกอบชั้นเยี่ยม สามารถเล่นประกอบฉากในอาหารหลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นจานผัดแบบไทยๆ ข้าวโอ๊ตหรือซีเรียลแบบฝรั่ง อาหารญี่ปุ่น หรือเมนูไหนที่ต้องการสีสันเก๋ๆ เพียงแค่โรยงาขาวสลับดำลงไป ก็ช่วยให้อาหารมีกลิ่นอายฟิวชั่นเล็กๆขึ้นมาทันที สาหร่าย เป็นอาหารคู่บ้านที่หมอแนะนำสำหรับคนอยากผอมได้โดยไม่ต้องอด เพราะสาหร่ายมีคุณสมบัติช่วยชะลอความเร็วในการย่อยอาหารลง ประกอบกับเส้นใยอาหารที่สูง จึงทำให้รู้สึกอิ่มได้นานขึ้น สาหร่ายสีน้ำตาลดำจะมีสารที่ช่วยส่งเสริมความแข็งแรงของลำไส้ และยังเป็นอาหารที่ดีของแบคทีเรียดีในลำไส้ มีการศึกษาในญี่ปุ่นพบว่า คนที่รับประทานสาหร่ายเป็นประจำ มีประชากรแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อร่างกายสูงกว่าคนที่ไม่ได้รับประทาน ควรเลือกรับประทานเป็นแบบสด หรืออบแห้ง แต่ไม่แนะนำให้รับประทานแบบสำเร็จรูป ทอดกรอบ และปรุงรส เพื่อหลีกเลี่ยงของแถมที่ไม่ต้องการคือไขมันและเกลือโซเดียม ที่มา : bangkokbiznews.com/by สาระแห่งสุขภาพ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 25, 2013 FB อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น