ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ginger

ใบไม้ผลิบนดวงจันทร์

โพสต์แนะนำ

หวัดดีคับคุณginger คุณตู้เย็น คุณดอกเหมย คุณlavender คุณfairy เพื่อน :D :lol: B) :rolleyes: :P ;)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เปิดเอกสารลับสารภาพ"เจ๊งจำนำข้าว"


  • post today

 

63B5B544B4D44D229A88D08A07C899BD.jpg

 

 

โดย...ทีมข่าวการเมือง

 

เป็นที่ทราบโดยทั่วกันแล้ว รัฐบาลประกาศลดราคาจำนำข้าวจากตันละ 1.5 หมื่นบาทเหลือ 1.2 หมื่นบาท เพราะไม่อาจแบกรับภาระขาดทุนที่ไต่ระดับถึงแสนล้านบาท แม้คนในรัฐบาลพยายามสรรหาถ้อยคำกลบคำว่า "ขาดทุน" ไม่ว่าจะอ้าง เป็นการขาดทุนกำไรบ้าง หรือรัฐแค่สูญเสียงบส่วนหนึ่งแต่ชาวนาได้รับประโยชน์ทั่วประเทศบ้าง

อย่างไรก็ตาม ถ้าพลิกดูเอกสารของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ(กขช.) นำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)จะพบความจริงหลายประการ ซึ่งตรงข้ามคำแถลงอันสวยหรูจากฝ่ายการเมือง

ไม่ว่าจะเป็นการรายงานให้เห็นถึงความคลาดเคลื่อนตัวเลขการขาดทุนมาจากอะไรกันแน่ ไม่ว่าจะเป็นการยอมรับนโยบายรับจำนำข้าวตันละ 1.5 หมื่นบาทไม่อาจไปต่อได้อีกแล้ว หรือ การฉายภาพผลกระทบจากการตัดสินใจลดราคาลงมาเหลือ ตันละ 1.2 หมื่นบาทต่อตัน หรือแม้กระทั่งการวางกรอบเพดานการขาดทุนจากนี้ไปต้องไม่เกิน 7 หมื่นล้านบาทต่อปีหาใช่ไม่เกิน 1 แสนล้านบาทตามที่บุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ได้ออกมาแถลงแต่อย่างใด

***************

ต่อไปนี้คือ รายงานผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ครั้งที่ 4 / 2556 อันเป็นเอกสารหน่วยงานรัฐที่เสนอรัฐบาล จึงไม่จำเป็นต้องอ้าง ฝ่ายค้าน หรือ คนโน้นคนนี้ สร้างเรื่องเสริมแต่ง บิดเบือนโจมตีแต่อย่างใด

“ทุกอย่าง ฟ้องอยู่ในตัวของมันเอง”

***************

พบพิรุธ อคส. อตก. สอบข้าวหาย

เอกสาร กขช.รายงานไว้ดังนี้

1.การปิดบัญชีโครงการรับจำนำ

1.1 เห็นชอบวิธีการคำนวณและผลการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 และโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2555 ตามเอกสารปิดบัญชีโครงการรับจำนำทั้งสองโครงการของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือกตามนโยบายของรัฐบาล ณ วันที่ 31 ม.ค.2556 โดยมีข้อสังเกต คือ

1) การคำนวณสต็อกข้าวคงเหลือ จะใช้ราคาต้นทุนหรือราคาตามประกาศกรมการค้าภายใน (ซึ่งคือราคาตลาด) หรือ ราคาจำหน่าย ขึ้นอยู่กับราคาใดจะต่ำที่สุด 2 ) รายได้จากการจำหน่ายข้าวสารของทั้งสองโครงการ มีปริมาณข้าวที่เป็นข้าวบริจาคและข้าวสารจำหน่ายราคาถูกตามนโยบายลดค่าครองชีพของประชาชน รวมปริมาณ 608,672 ตัน มูลค่าที่อนุมัติจำหน่ายจำนวน 4,426.97 ล้านบาท มูลค่าตามต้นทุน จำนวน 15,531.109 ล้านบาท แตกต่างกันจำนวน 11,104.139 ล้านบาท จึงไม่ควรนำมาพิจารณาเป็นภาระของโครงการ เนื่องจากเป็นนโยบายรัฐบาล จึงควรที่รัฐจะต้องชดเชยส่วนต่างระหว่างราคาจำหน่ายกับราคาต้นทุนให้แก่โครงการรับจำนำ

1.2 สำหรับการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปี 2555/ 56 ที่ประชุมเห็นว่าข้อมูลยังมีความคลาดเคลื่อน และยังมีความเห็นแตกต่างกัน โดย อคส.และอตก. ได้มีหนังสือลงวันที่ 14 มิ.ย. 56 แจ้งปริมาณข้าวคงเหลือของทั้ง 3 โครงการ แก่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ อีกครั้งหนึ่งแต่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ มีความเห็นไม่รับข้อมูลดังกล่าว เนื่องจากมีการปรับแก้ไขข้อมูลที่เป็นสาระสำคัญของทั้งสองโครงการ กขช.จึงมีมติให้แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อมูลปริมาณข้าวคงเหลือของทั้ง อคส. และอ.ต.ก. ณ วันที่ 31 พ.ค.56 โดยมีรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ( พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง) เป็นประธาน และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้แทนของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ ร่วมเป็นคณะทำงาน และผู้แทนกรมการค้าภายใน เป็นคณะทำงานและเลขานุการ

1.3 เห็นชอบให้แยกรายงานการปิดบัญชีโครงการรับจำนำออกเป็น 2 ชุด โดยรายงานที่เสนอ กขช. เป็นการปิดบัญชีโครงการรับจำนำตั้งแต่ ปี 54/55 เป็นต้นไป ตามคำสั่งคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติที่ 9/2556 เรื่อง แต่งตั้ง คณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือกตามนโยบายรัฐบาล ลงวันที่ 26 ก.พ.55 สำหรับโครงการอื่นให้รายงานคณะรัฐมนตรีตามคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 672 / 2553 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำผลิตผลการเกษตรตามนโยบายรัฐบบาล ลงวันที่ 11 มิ.ย. 53

1.4 เห็นชอบให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการติดตามประเมินผลโครงการในทุกมิติ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ทางตรงที่เกษตรกรได้รับ และผลทางอ้อมคือระบบเศรษฐกิจรวมถึงความคุ้มค่าของโครงการ โดยมีรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ) เป็นประธาน ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐศาสตร์ ด้านกฎหมาย ด้านบัญชี ด้านสังคม ผู้ทรงคุณวุฒิในเรื่องข้าว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นอนุกรรมการ โดยมีผู้แทนกรมการค้าภายใน เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ

เบื้องหลังลดราคาสะเทือนทั้งระบบ

2. แนวทางการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปี 2555/2556 ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้ดำเนินการในปริมาณ 22.0 ล้านตัน วงเงิน 345,000 ล้านบาท ขณะนี้มีผลการรับจำนำ ณ วันที่ 15 มิ.ย. 2556 รวม 18.836 ล้านตัน (ครั้งที่ 1 จำนวน 14.383 ล้านตัน ครั้งที่ 2 จำนวน 4.453 ล้านตัน ) โดยที่ประชุมมีความเห็นว่าควรจะต้องมีการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ระยะเวลาโครงการสิ้นสุดวันที่ 15 กันยายน 2556 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จึงได้เสนอแนวทางการดำเนินการในระหว่างฤดูกาลนี้ ดังนี้

2.1 การปรับลดราคารับจำนำ ข้าวเปลือก 5 % ลดลงเหลือตันละ 12,000 บาท

2.2 จำกัดวงเงินรับจำนำ ไม่เกิน 500,000 บาท/ ครัวเรือน

ที่ประชุมพิจารณาแล้วมีความกังวลว่าการปรับเปลี่ยนกลางคันอาจเกิดความสับสนวุ่นวาย จะเกิดความไม่เท่าเทียมกันระหว่างคนที่จำนำข้าวเปลือกแล้วและคนที่ยังไม่นำข่าวเปลือกมาจำนำ สำหรับประเด็นการลดราคาอาจมีผลกระทบต่อราคาตลาดในประเทศและราคาส่งออกรวมทั้งส่วนที่ได้ระบายไปแล้วและอยู่ระหว่างการส่งมอบ ผู้ซื้ออาจขอเจตรจาปรับราคาลงอีกได้

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จึงมอบหมายให้หน่วยปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ธ.ก.ส. อคส. และ อ.ต.ก. ไปดำเนินการกำกับดูแลให้การดำเนินการรับจำนำอยู่ในกรอบและวงเงินที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติไว้โดยเคร่งครัด

จำนำพ่นพิษขาดทุนเกินเป้าหมาย!!

3. แนวทางการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปี 2556/ 57 ที่ประชุมเห็นพ้องกันว่า สมควรปรับปรุงโครงการรับจำนำในปี 2556/57 ให้สอดคล้องกับนโยบายด้านการคลังของรัฐบาล ที่กระทรวงการคลังมีแผนที่จะจัดทำงบประมาณสมดุลในปี 2560 เนื่องจากการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปี 2554/ 55 และนาปรัง ปี 2555 มีผลขาดทุนมากกว่าเป้าหมายที่คาดไว้ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆที่กดดันราคาข้าวไม่ให้ปรับตัวสูงขึ้นตามที่คาดการณ์ไว้ เช่น ปริมาณผลผลิตข้าวโลกที่เพิ่มขึ้น การแข็งค่าของเงินบาทและการทุ่มตลาดข้าวของอินเดียและเวียดนามแต่อย่างไรก็ตามการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกที่ผ่านมา สามารถทำให้เกษตรกรได้รับผลประโยชน์เพิ่มขึ้น คิดเป็นมูลค่า 338,562 ล้านบาท

3.1 ด้านราคารับจำนำ ซึ่งมีแนวทางการปรับลดราคารับจำนำคือ 1). ใช้ราคาต้นทุนการผลิต บวก กำไรที่เกษตรกรควรจะได้รับ ประมาณ 25%เช่นเดียวกับสินค้าเกษตรอื่นๆ ที่รัฐบาลจะดำเนินการแทรกแซงตลาด

2) ใช้ราคารรับจำนำเดิมปรับลดลง 15-20 %

3) ใช้ราคานำตลาด 10 %

ซึ่งจะทำให้ราคารับจำนำข่วเปลือกเจ้านาปี 5% มีราคาประมาณตันละ 12,000-13,000 บาท

3.2 ด้านปริมาณรับจำนำ การกำหนดปริมาณรับจำนำทั้งโครงการไว้เช่นเดียวกับโครงการรับจำนำมันสำปะหลัง เช่น กำหนดปริมาณรับจำนำทั้งโครงการปี 2556/ 57 (ทั้งนาปี บวก นาปรัง ) ไม่เกิน 17 ล้านตันข้าวเปลือก จำกัดปริมาณรับจำนำของเกษตรกรไม่เกินครัวเรือนละ 25 ตัน เป็นต้น

3.3 ด้านวงเงินที่รับจำนำของเกษตรกรแต่ละราย โดยจำกัดวงเงินรับจำนำข้าวเปลือกของเกษตรกร ไม่เกิน 300,000- 500,000 บาท/ครัวเรือน

3.4 ด้านระยะเวลารับจำนำ โดยกำหนดระยะเวลาการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2556 -2557 และข้าวเปลือกนาปรัง ระหว่างเดือนมี.ค –ก.ค.57

ห้ามขาดทุนเกิน 7 หมื่นล้าน

ทั้งนี้ มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ รวบรวมข้อมูลและศึกษาทางเลือกข้างต้นพร้อมทั้งการกำหนดเงื่อนไขประกอบ เพื่อจำกัดวงเงิน ภาระค่าใช้จ่าย และผลขาดทุนที่เกิดขึ้นไม่ให้เกินวงเงินปีละประมาณ 70,000 ล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับแนว่ทางการจัดทำงบประมาณสมดุลของประเทศตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หวัดดีคับคุณginger คุณตู้เย็น คุณดอกเหมย คุณlavender คุณfairy เพื่อน :D :lol: B) :rolleyes: :P ;)

D yot fairy Lavender GoldLeng T_G ตู้เย็น ดอกเหมย ทุกท่าน

 

 

Hello, is it me you're looking for? Lionel Richie

 

http://youtu.be/n6DyGZFG6lE

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Yiruma - River Flows In You

http://youtu.be/F-4wUfZD6oc

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดีค่ะ ginger. Yott ตู้เย็น ดอกเหมย fairy. สบายดีกันนะค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดีค่ะ ginger. Yott ตู้เย็น ดอกเหมย fairy. สบายดีกันนะค่ะ

 

สบายดีค่ะ

394275_451617408222299_81919866_n.jpg

~ Japan 日本 ~ Land of the Rising Sun ~

 

 

565042_453322288051811_603255368_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Kanok Ratwongsakul Fan Page

นายคนนี้คือ "เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน" อายุ 30 ปี อดีตเจ้าหน้าที่เทคนิคคอมพิวเตอร์ของซีไอเอและลูกจ้างของ สนง.ความมั่นคงแห่งชาติ ที่สหรัฐต้องการตัวมาก หลังจากเขาหนีไปฮ่องกง แล้วไปเปิดโปงว่า สหรัฐแอบสอดแนมความเคลื่อนไหวของจีนมาหลายปี สหรัฐโวยวาย สงสัยจีนจะช่วยให้นายคนนี้บินหนีไปมอสโก โวยรัสเซียช่วยให้ลี้ภัยไปเอกวาดอร์อีก ผมติดตามข่าวนี้อย่าง "เอาใจช่วย" (แบบไม่รู้ตัว) ให้สโนว์เดนหนีได้สำเร็จ เพราะนึกไปถึงว่า แล้วทำไมสหรัฐจึงยอมให้ "คนที่หนีคำพิพากษาศาลไทย" ไปเดินเล่นอยู่ในอเมริกาได้? เพียงแค่เขาเกี่ยวพันเป็นพี่ของรัฐบาลไทยหรือ? คุณยอมให้คนผิดจากประเทศอื่นไปซุกประเทศคุณได้ แล้วทำไมประเทศอื่นจะอ้าแขนรับ คนที่พร้อมจะเปิดโปงสิ่งที่คุณแอบทำไม่ได้ ไม่รู้สิ พักหลังๆ ผมว่า..สหรัฐเป็นเพื่อนที่ไม่น่ารักเลย

 

 

1044906_613773288640374_793742422_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

188059_333563936722366_1469837437_q.jpg

สาระแห่งสุขภาพ

 

***เมื่อของดำทำให้ดูดี***

 

สมาคมนักกำหนดอาหารของสหรัฐอเมริกามักจะมีคำแนะนำด้านโภชนาการที่น่าสนใจออกมาเสมอ หนึ่งในคำแนะนำที่น่าสนใจ และหมอมักจะหยิบยกตัวอย่างมาเล่าให้ฟังเวลาไปบรรยายตามที่ต่างๆคือ “พยายามกินอาหารสีรุ้ง” ขยายความได้ว่า เราควรรับประทานอาหารให้หลากหลาย โดยเฉพาะผักผลไม้ ควรรับประทานให้หลากสี เพราะแต่ละสี ก็มีดีกันไปคนละด้าน เพราะสีที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในผักผลไม้นั้น เป็นผลจากสารต้านอนุมูลอิสระ สีที่ต่างกันเกิดจากสารต้านอนุมูลอิสระคนละตัวกัน

 

หากเปรียบกระบวนการต้านอนุมูลอิสระในร่างกายเราเป็นทีมฟุตบอล สารต้านอนุมูลอิสระแต่ละตัว ก็เปรียบได้กับนักบอลที่ถนัดเล่นคนละตำแหน่งกัน บ้างถนัดเป็นกองหน้า บ้างถนัดเป็นกองหลัง หากเราสะสมได้ครบทีม ก็ย่อมได้เปรียบคู่ต่อสู้

 

ผักผลไม้สีเด่นๆอย่าง สีแดงในมะเขือเทศ สตรอเบอรี่ สีเหลืองส้มในแครอท ฟักทอง หรือสีเขียวในผักใบเขียวต่างๆนั้น เป็นผักผลไม้ที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยและรับประทานกันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่มีผักผลไม้อีกสีหนึ่งที่มีทีเด็ดไม่แพ้สีอื่นเลยทีเดียว แต่อาจยังไม่ค่อยมีใครพูดถึงกันเท่าไรนัก นั่นก็คือ สีดำ!

 

อาหารในกลุ่มสีน้ำเงินม่วงดำที่น่าสนใจมากๆมีอยู่ 6 อย่างด้วยกัน ถ้าเปรียบไปก็เหมือนสาวผิวคล้ำหกนางที่มีเสน่ห์น่าสนใจไปคนละอย่าง มีทั้งคล้ำออกน้ำเงิน คล้ำแบบม่วงๆ และคล้ำดำขลับ เรามาไล่ทำความรู้จักกับของดำที่จะทำให้สวยขึ้นได้ทั้งหกกันค่ะ

 

ข้าวกล้องสีนิล ข้าวกล้องพันธุ์ต่างๆที่มีสีน้ำเงินดำ ไม่ว่าจะเป็นข้าวกล้องสีนิล ข้าวกล้องหอมนิล หรือข้าวกล้องไรซ์เบอรี่ จะมีเส้นใยอาหารสูง มีค่าไกลซีมิกอินเด็กซ์ หรือค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ เมื่อรับประทานไปจะถูกเปลี่ยนเป็นน้ำตาลในกระแสเลือดช้ากว่ารับประทานข้าวขัดขาว จึงส่งผลให้อ้วนน้อยกว่า (เข้าตำราผอมได้ไม่ต้องอด) และที่โดดเด่นคือ สีน้ำเงินดำของข้าวในกลุ่มนี้มาจากสารต้านอนุมูลอิสระแอนโธไซยานินส์ (Anthocyanins) ซึ่งมีการศึกษากันมากถึงคุณสมบัติการต้านมะเร็ง และลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ

 

ดอกอัญชัญ ทางการแพทย์แผนโบราณ มีการนำดอกอัญชัญมาทำเป็นเครื่องดื่มสมุนไพร ดื่มเพื่อบำรุงสุขภาพมาเป็นเวลานานแล้ว งานวิจัยยุคใหม่พบว่า ดอกอัญชัญมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระได้ดี เนื่องจากมีสารแอนโธไซยานินส์ และยังมีคุณสมบัติคลายความกังวล คลายเครียด อีกด้วย เครียดจากงานครั้งหน้า ลองหันมาดื่มน้ำอัญชัญแก้กลุ้มกันดูนะคะ

 

ข้าวโพดสีม่วง เพิ่งได้รับความนิยมในช่วงไม่กี่ปีในบ้านเรา แต่เป็นพืชเก่าแก่ของชาวเปรู นิยมปลูกรับประทานเป็นข้าวโพด นำมาทำสีผสมอาหาร รวมไปถึงนำมาหมักทำเป็นไวน์ข้าวโพด สีม่วงมาจากสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มแอนโธไซยานินส์เช่นกัน โดยมีสารตัวเด่นคือ Cyanidin-3-o-glycoside หรือเรียกง่ายๆว่า C3G ซึ่งถูกนำมาศึกษาเปรียบเทียบความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระกับวิตามินอี พบว่า C3G มีความสามารถเหนือกว่าวิตามินอีถึง 3.5 เท่า

ถั่วดำ สำหรับคนไทยเรา ถั่วดำอาจจะไม่เป็นที่คุ้นเคย นำมาทำอาหารรับประทานถูกปากเท่าถั่วเหลืองหรือถั่วแดง แต่เคยมีการศึกษาเปรียบเทียบความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระแบบรุ่นต่อรุ่น พบว่า ในบรรดาถั่วหลากสีทั้งหมด ถั่วดำมีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระสูงที่สุด นอกจากสารต้านอนุมูลอิสระแล้ว ถั่วดำยังเป็นแหล่งของโปรตีน เส้นใยอาหาร และแร่ธาตุต่างๆที่ดีมาก

 

งาดำ งาเป็นหนึ่งในธัญพืชมหัศจรรย์ มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวซึ่งเป็นไขมันดี ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลตัวที่ไม่ดีคือ LDL-Cholesterol มีโปรตีนและเส้นใยอาหารสูง นอกจากประโยชน์เยอะแล้ว งาดำยังจัดเป็นตัวประกอบชั้นเยี่ยม สามารถเล่นประกอบฉากในอาหารหลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นจานผัดแบบไทยๆ ข้าวโอ๊ตหรือซีเรียลแบบฝรั่ง อาหารญี่ปุ่น หรือเมนูไหนที่ต้องการสีสันเก๋ๆ เพียงแค่โรยงาขาวสลับดำลงไป ก็ช่วยให้อาหารมีกลิ่นอายฟิวชั่นเล็กๆขึ้นมาทันที

 

สาหร่าย เป็นอาหารคู่บ้านที่หมอแนะนำสำหรับคนอยากผอมได้โดยไม่ต้องอด เพราะสาหร่ายมีคุณสมบัติช่วยชะลอความเร็วในการย่อยอาหารลง ประกอบกับเส้นใยอาหารที่สูง จึงทำให้รู้สึกอิ่มได้นานขึ้น สาหร่ายสีน้ำตาลดำจะมีสารที่ช่วยส่งเสริมความแข็งแรงของลำไส้ และยังเป็นอาหารที่ดีของแบคทีเรียดีในลำไส้ มีการศึกษาในญี่ปุ่นพบว่า คนที่รับประทานสาหร่ายเป็นประจำ มีประชากรแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อร่างกายสูงกว่าคนที่ไม่ได้รับประทาน ควรเลือกรับประทานเป็นแบบสด หรืออบแห้ง แต่ไม่แนะนำให้รับประทานแบบสำเร็จรูป ทอดกรอบ และปรุงรส เพื่อหลีกเลี่ยงของแถมที่ไม่ต้องการคือไขมันและเกลือโซเดียม

 

 

ที่มา : bangkokbiznews.com/by สาระแห่งสุขภาพ

1458_506600152752076_1542772632_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...