ตู้เย็น 95 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 25, 2013 ทั้งสองพระองค์คือคู่แท้ ที่หาสิ่งใดเปรียบมิได้ ทรงพระเจริญ ขอบคุณค่ะ คุณ fairy อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 26, 2013 FonFon การเดินทางของใจที่เที่ยงแท้ http://youtu.be/dvFHHIitb_M อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 26, 2013 (มีการแก้ไข) ศิลปิน: สมชัย พลายอร่าม เทคนิค: สีน้ำมัน ถูกแก้ไข มิถุนายน 26, 2013 โดย ginger 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 26, 2013 ผลงานโดย ธนาเทพ พรหมสุข อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 26, 2013 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 26, 2013 Life 101 Co.,Ltd. » ลูกค้ากลุ่ม Mass Luxury -- ตลาดที่สร้างกำไรมากที่สุด! » โดย ภาววิทย์ กลิ่นประทุม หลายคนคิดว่า การที่เราชนะในเกมธุรกิจนั้น อยู่ที่ "Strategy" แต่มันไม่ใช่เลย ...มันเริ่มตั้งแต่ "การเลือกลูกค้า" ต่างหาก ยกตัวอย่าง...บริษัทรถอย่าง Benz ..หลายคนคิดว่า บริษัทนี้จับ "คนรวย" แต่ผิดถนัด!! แท้จริงแล้ว Benz จับกลุ่ม "คนอยากรวย" ต่างหาก ส่วนบริษัทที่จับคนรวยจริง ๆ ก็คือ Ferrari หรือ Rolls-Royce จะเห็นได้ว่า บริษัทที่จับ "คนรวยจริงๆ" ..ยอดขายแต่ละปีไม่กี่คัน ถึงแม้จะคันละหลายสิบล้าน แต่กลับขายได้น้อย..แบบนับคันได้ ต่างกับ Benz ที่เฉพาะเมืองไทยก็ปีละหลายพันคันแล้ว :::::::::::::::::: ประเด็นนี้เป็นหัวข้อที่ถูกหยิบยกขึ้นมาโดยหนังสือ ที่ชื่อ Trading Up : The New American Luxury ซึ่งมองว่า...สินค้าอย่าง Benz คือ "ความหรูแบบใหม่" หรือ Mass Luxury และเป็น "ตลาดที่กำไรมากที่สุด" เพราะ...กลุ่มคน "อยากรวย" นั้นมีมากมาย (ต่างกับกลุ่มคนรวยจริง ๆ ที่มีน้อย ..และถ้าเขารวยจริง ๆ เขาก็ไม่รู้จะซื้อ Benz มาทำไม) กลุ่ม "อยากรวย" ถูกผนวกเข้ากับค่านิยม "การสร้างหนี้" หรือ พูดอีกอย่างก็คือ "รสนิยมสูง รายได้ต่ำ" (แรงไปป่าวเนี่ย ไม่ได้ด่านะ!! ..แต่พยายามจะชี้ให้เห็นภาพ) คุณสังเกตไหมว่าแคมเปญของ Benz หรือ BMW นั้นมีผ่อนยาว ดอกเบี้ย 0% ยิ่งในต่างประเทศ บริษัทเหล่านี้ปล่อยกู้เองเลย โดยจัดให้มี Balloon คือ ราคาเหลือ "ก้อนโต" หลังจากผ่อนครบกำหนด เพราะเขามองว่า เมื่อผ่อนครบ 5 ปี ก็ยังมีราคาเหลือ ตอนขายคืน ดังนั้น สมมติว่า รถ ราคา 5 ล้าน ผ่อนจริง ๆ แค่ 3 ล้าน ส่วนอีก 2 ล้านค่อยมาเคลียร์...หลังจากขายรถแล้ว สรุปก็คือ...ช่วยให้คุณผ่อนได้ถูกลงมาก ๆ แต่ในความเป็นจริงก็เท่ากับว่า เหมือนคุณเช่ารถเค้ามาใช้ต่างหาก :::::::::::::::::: ปัจจุบัน การจับ Mass Luxury ไม่ได้มีแค่ตลาด "ของหรู" อย่าง รถยนต์ แฟชั่น กระเป๋า นาฬิกา เท่านั้น ..มันได้ลามไปสู่ทุกภาคของธุรกิจ ตั้งแต่กระดาษชำระ ยัน อาหารสุนัข สังเกตง่าย ๆ ก็คือ สินค้าพวกนี้จะราคาแพงมาก เมื่อเทียบกับสินค้าปกติ มันเป็นอะไรที่ดู Hi-so มาก หากคุณเลือก Brand เหล่านี้ เช่น กระดาษชำระปกติ 5 บาท แต่ยี่ห้อนี้ 30 บาท (ซึ่งผมว่าตั้งราคา แพงกว่า Benz อีก ...หากเทียบกับสินค้าที่อยู่ในหมวดเดียวกัน) แม้แต่ธุรกิจบริการ อย่างร้านอาหาร หรือ ร้านกาแฟ อย่าง Starbucks นี่กาแฟ "แพงสุดขั้ว" กินกาแฟกระป๋องแค่ 10 บาท แต่ Stakbucks ขาย 130 บาท เรียกว่า Mark up ไม่รู้กี่เท่า (แต่คนก็แย่งกันซื้อ!) นี่แหละครับที่ผมบอกว่า การเลือกตลาดที่ถูกต้อง มันทำให้คุณมีโอกาสสำเร็จสูงตั้งแต่เริ่มต้น Stackbucks บอกว่า แม้แต่คนขับแท็กซี่ ก็สามารถสัมผัสความหรูหราอันนี้ได้ (แจ๋วไหมล่ะ?) :::::::::::::::::: แม้กระทั่งในตอนบ้านเมืองวิกฤต ตลาด Mass Luxury ก็แทบไม่กระทบเลย เพราะคน"อยากรวย" ก็ยังคงอยากรวยอยู่ คนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ ใช้จ่ายและก่อหนี้สูง เป็น White Collar ที่มี `บัตรเครดิต´ ไม่รู้กี่ใบ มักทำงานเป็นลูกจ้างบริษัทใหญ่ ๆ จึงแทบไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน ที่ "รูดก่อนจ่ายทีหลัง" สบายจะตาย ถอยรถในฝันออกมาขับ แต่ผ่อนจ่ายเท่า Vios อยู่บ้านหรู ทุกอย่างผ่อนหมด เรียกว่า...ทำงานทั้งชีวิต เพื่อผ่อนจ่าย Lifestyle แต่ท้ายสุด...ไม่มีเงินเก็บ! มันจึงเป็น "กับดัก" ของคนที่อยาก Hi-so แต่คือ "โอกาส" ของผู้ประกอบการอย่างแท้จริง :::::::::::::::::: • ฝากทิ้งท้าย เรื่องนี้ซับซ้อน อย่างที่ผมเคยบอกว่า "คนที่ตั้งเป้าหมายเป็นเงินมักไปไม่ถึง เพราะเขาอยากรวย" คนที่อยู่ใน category "อยากรวย" มักมีสินค้าและบริการมากมาย รอดักให้คุณเป็นหนี้อยู่เยอะไปหมด สรุปก็เลยติดหนี้หัวบาน อย่างแรกเลยของการเป็นคนที่จะรวยจริง ๆ ก็คือ... "ต้องมีรายได้มากกว่ารายจ่าย" ผมสำรวจด้วยตัวเอง เห็นเลยว่า...คนส่วนใหญ่มีความหวังว่าจะมีรายได้ แต่ไอ้รายจ่ายมันมีไปล่วงหน้ามากแล้ว สรุปว่าติดลบตลอดเวลา ...แล้วจะรวยได้ยังไง!? คนเหล่านี้...จิตจะไม่ค่อยนิ่ง ทำอะไรก็ไม่แน่น กล้า ๆ กลัว ๆ เหมือนต้นไม้ที่ไม่มีรากแก้ว ดังนั้น... ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ตัดข้ออ้างทิ้งไปให้หมด คุณจำเป็นต้องเริ่มจากมีรายได้มากกว่ารายจ่ายอย่างสม่ำเสมอซะที จากนั้น... จึงจะก้าวสู่ขั้นตอนในการสร้างความมั่งคั่ง..เฟสถัดไป ::::::::::::::::: #Life101Page #MassLuxury Credit : ภาววิทย์ กลิ่นประทุม อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 26, 2013 ทรงพระเจริญ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 26, 2013 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 26, 2013 จิตแพทย์แนะ 4 วิธีคลายเครียดวิกฤตหนี้ครัวเรือนท่วม! โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 มิถุนายน 2556 05:22 น. จิตแพทย์แนะ 4 วิธีคลายเครียดครอบครัวมีหนี้สินเยอะ ย้ำต้องทำบัญชีรายรับรายจ่าย ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะค่าเล่าเรียนไม่จำเป็นต้องซื้อชุดนักเรียนใหม่ อย่าอีโก้ว่าใส่ของเก่าไม่ได้ ช่วยประหยัดได้เยอะ ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต นพ.ทวี ตั้งเสรี รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงกรณีศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจพบหนี้ครัวเรือนไทยพุ่งสูงสุดในรอบ 5 ปี เฉลี่ยครอบครัวละ 1.9 แสนบาท จนกระทบการจับจ่ายใช้สอย เนื่องจากค่าครองชีพ ค่าเรียนบุตรหลาน และการซื้อสินทรัพย์ถาวร ว่า ภาวะการเป็นหนี้สิน หรือมีรายจ่ายมากเช่นนี้ อาจจะก่อให้เกิดความเครียดได้ วิธีการลดเครียดในเรื่องนี้ สามารถทำได้ 4 วิธี คือ 1.ต้องทำบัญชีรายรับรายจ่ายในครอบครัว เพื่อจัดการต้นตอของปัญหา โดยประมาณการรายรับและรายจ่ายในแต่ละเดือนว่ามีประมาณเท่าไร จะได้ไม่ใช้จ่ายเกินตัว และมีเหลือใช้เก็บไว้ในยามฉุกเฉิน 2.ต้องยอมรับความจริงว่าเรามีรายได้เพียงเท่านี้ จะใช้จ่ายเกินตัวไม่ได้ อย่าคิดแต่เรื่องของการเที่ยวเล่นสนุกสนาน หรือจับจ่ายใช้สอยเพื่อความมีหน้าตาในสังคม 3.เมื่อรู้สึกไม่สบายใจเพราะมีรายรับน้อยแต่รายจ่ายมาก ให้ผ่อนคลายด้วยการปรับทุกข์พูดคุยกับเพื่อน หรือออกกำลังกายวันละ ครึ่งชั่วโมงเป็นประจำ 3-5 วัน เพื่อลดความเครียด และ 4.อย่าพยายามอยู่คนเดียวเมื่อเกิดความเครียด เพราะจะทำให้ฟุ้งซ่านได้ นพ.ทวี กล่าวอีกว่า สำหรับครอบครัวที่มีภาระค่าเล่าเรียนของลูกหลานจำนวนมากก็เช่นกัน ต้องมีการทำบัญชีรายรับรายจ่าย หากมีค่าใช้จ่ายเรื่องนี้สูงก็ควรลดรายจ่ายในด้านอื่นๆ ลง เช่น หนังสือใหม่ ชุดนักเรียนใหม่ ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ควรซื้อใหม่ สามารถใช้ของเก่าได้ อย่าไปคิดว่าการใช้ของเก่าทำให้ไม่มีศักดิ์ศรี ส่วนต้นเหตุของค่าเล่าเรียนที่แพงส่วนใหญ่เป็นเพราะผู้ปกครองมีค่านิยมส่งลูกหลานเรียนโรงเรียนชื่อดัง โรงเรียนเอกชน ทำให้มีค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งความจริงแล้วสามารถให้บุตรหลานเรียนโรงเรียนธรรมดาก็ได้ ขอเพียงมีความขยันก็สามารถประสบความสำเร็จได้เช่นกัน อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 26, 2013 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
yot111 510 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 26, 2013 ดีคับคุณginger คุณตู้เย็น คุณดอกเหมย คุณlavender คุณfairly เพื่อน พี่ทองท่าจะโดนเทกระจาดหมดรูป อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
lavender 23 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 26, 2013 ดีค่ะginger. Yott. ตู้เย็น วันนี้ครึ้มฝน แล้วยังบรรยากาศของน้องทองยังขมุกขมัวอีก คงต้องขอภาพ และเสียงมาปลอบปโลมใจให้เพื่อนๆซะหน่อยนะ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
yot111 510 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 26, 2013 http://youtu.be/mdma2-rCamY 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 26, 2013 วันที่ ๒๖ มิถุนายน วันสุทรภู่ ประเทศไทยอยู่ตรงไหน ประเทศไทยอยู่ตรงไหน ในสายตาของ "สุนทรภู่" พระสุนทรโวหาร (ภู่) ดูจะเป็นภาพแทนของความเป็นไทยแท้แต่ดั้งเดิมในสายตาของประชาชนชาวไทย ชนิดที่ว่าขึ้นกาพย์กลอนบทใดมาก็ยัดใส่ปากสุนทรภู่ว่าเป็นคนแต่งเสียหมด หากแต่สุนทรภู่นั้นเป็นคนเช่นไร? และประเทศไทยในยุคสุนทรภู่นั้นอยู่ตรงไหน? บทประพันธ์ชิ้นเอกของสุนทรภู่ "พระอภัยมณี" เป็นเครื่องชี้ให้เห็นถึงความเป็นอยู่ของประเทศไทยร่วมสมัยขณะนั้นเป็นอย่างดี โดย "กาญจนาคพันธุ์" (ขุนวิจิตรมาตรา) ได้สันนิษฐานชื่อเมืองต่างๆ ใน "พระอภัยมณี" ไว้ในหนังสือ "ภูมิศาสตร์สุนทรภู่"(2490) ดังนี้ "กรุงรัตนา" เมืองที่เป็นต้นกำเนิดของ "พระอภัยมณี" และ "ศรีสุวรรณ" สองศรีพี่น้องตัวละครเอก เห็นจะไม่ใช่ที่ไหนอื่นไกล คือ "กรุงเทพทวาราวดีศรีรัตนโกสินทร์" หรือ Bangkok "เมืองผลึก" ของนางสุวรรณมาลี นั่นก็คือ "ภูเก็ต" ที่มีหาดทรายขาวราวแก้วผลึก "ลังกา" ของอุศเรนและนางละเวงวันฬา ซึ่งเป็นฝรั่ง คือเกาะศรีลังกา ซึ่งขณะนั้นปกครองโดยบริติชราช อาณานิคมอังกฤษในสมัยพระนางเจ้าวิคตอเรีย "เกาะแก้วพิสดาร" นั้นหรือ ก็หาใช่เกาะเสม็ดไม่ แต่คือเกาะหนึ่งในหมู่เกาะนิโคบาร์ ซึ่งรวมเรียกว่า "นาควารินสินสมุทร" ซึ่งมีเกาะแก่งน้อยใหญ่เป็นที่อาศัยของสิ่งมีชีวิตและชนเผ่าประหลาดมากมาย รวมทั้งผีเสื้อสมุทร ชีเปลือย ม้านิลมังกร เงือก นอกจากนี้ สุนทรภู่ยังได้ยกเอาหัวเมืองประเทศน้อยใหญ่ในโลก เข้ามาพูดถึงในเรื่อง "พระอภัยมณี" อย่างมากมายมหาศาล ดังปรากฏในบทสงครามเก้าทัพซึ่งกรุงลังกายกทัพมารบกับเมืองผลึกว่า เมืองละหุ่งกรุงเตนกุเวนลวาด เมืองวิลาศวิลยาชวาฉวี ถึงเมืองเงาะเกาะวลำสำปะลี จะชิงตีเมืองผลึกเป็นศึกรุม... ...ล้วนมีธงลงหนังสือชื่อประเทศ เมืองละเมดมลิกันสำปันหนา กรุงกวินจีนตั๋งอังคุลา ที่ยกมาทางบกอีกหกทัพ สงครามโลกระหว่าง "ฝรั่ง" - นางละเวงและพันธมิตร อันได้แก่ เมืองวิลาศ (อังกฤษ) วิลยา (สเปน) ชวา (ในอาณัติดัทช์) มลิกัน (อเมริกา) ฯลฯ กับ "ไทย" (พระอภัยมณีเมืองผลึกและพันธมิตร) จบลงได้ด้วยกลอุบายของพระอภัยมณี คือ รวบหัวรวบหางนางละเวงเอาเป็นมเหสีเสียอีกคนหนึ่งด้วยเพลงปี่ ต้อยตะริดติดตี่เจ้าพี่เอ๋ย จะละเลยเร่ร่อนไปนอนไหน แอ้อีอ่อยสร้อยฟ้าสุมาลัย แม้นเด็ดได้แล้วไม่ร้างให้ห่างเชย ฉุยฉายชื่นรื่นรวยระทวยทอด จะกล่อมกอดกว่าจะหลับกับเขนย หนาวน้ำค้างพร่างพรมลมรำเพย ใครจะเชยโฉมน้องประคองนวล นัยว่าเปลี่ยนการรบ เป็นการรัก make love not war รักษาเอกราชของเมืองผลึก และกรุงรัตนาจากกองทัพต่างชาติแบบไม่เสียเลือดเสียเนื้อทหารพินาศกันไปหมดมากกว่านี้ ประเทศไทยในสายตาของสุนทรภู่นั้น จึงดูเป็นประเทศที่เล็กและยังอ่อนแอ ไม่สามารถรับศึกกับนักล่าอาณานิคมด้วยกำลังได้ และต้องคบประเทศต่างๆ ผูกไมตรี ใช้วาทศิลป์และวิชาดนตรีกล่อมให้เป็นมิตรไว้ เพื่อเรียนรู้สรรพวิชาให้ก้าวทันสมัยต่อไป สุนทรภู่เองก็เป็นผู้ที่มีสายตากว้างไกล คบมิตรสหายพ่อค้าและผู้รู้ที่ผ่านประสบการณ์เดินเรือต่างชาติมากมาย จึงประพันธ์นิทานกลอนชั้นเอก "พระอภัยมณี" เป็นภาพแทนสยามและโลกในยุคล่าอาณานิคมได้ประทับใจชาวบ้านร้านตลาด ติดแน่นฝังตรึงในโลกหนังสือไทยมาจนบัดนี้ มหากวีแห่งชาติไทย "สุนทรภู่" ยังทอดสายตาดูประเทศรอบข้างและตระหนักในความจริงของประเทศ และสถานการณ์ทั่วโลกตั้งแต่เมื่อสองร้อยกว่าปีมาแล้ว แล้วชาวไทยทุกวันนี้ล่ะ? อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 26, 2013 ดีคับคุณginger คุณตู้เย็น คุณดอกเหมย คุณlavender คุณfairly เพื่อน พี่ทองท่าจะโดนเทกระจาดหมดรูป ดีค่ะginger. Yott. ตู้เย็น วันนี้ครึ้มฝน แล้วยังบรรยากาศของน้องทองยังขมุกขมัวอีก คงต้องขอภาพ และเสียงมาปลอบปโลมใจให้เพื่อนๆซะหน่อยนะ stevie wonder - i just call to say i love you LYRICS! อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น