ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 8, 2013 สาระแห่งสุขภาพ 19 hours ago ***ลดกลิ่นปากหลังทานหัวหอม*** อย่างที่รู้ ๆ กันอยู่ว่าอาหารไทยประเภทยำนั้นรสชาติอร่อยจับใจขนาดไหน และสรรคุณของหัวหอมนั้นก็ส่งผลดีต่อร่างกาย แต่ทว่าหลังรับประทานหัวหอมและต้นหอม กลิ่นลมหายใจและกลิ่นปากมักจะเหม็นภายหลัง แก้ได้โดยรับประทาน ตามคำแนะนำต่อไปนี้ เลือกใช้เพียงข้อเดียวก็ได้ผลแล้ว -ผักชีจิ้มน้ำส้ม หรือจิ้มเกลือสัก 6 ต้นขนาดกลางๆ -ดื่มนม 1 แก้ว -ดื่มน้ำเย็นที่แช่มะนาวฝานสักชิ้น -ดื่มกาแฟดำ 1 ถ้วย แค่นี้กลิ่นปากจากหัวหอมที่เรารับประทานเข้าไปก็จะทุเลาลงได้ ที่มา : คู่มือแม่บ้าน ม.ล. เบญจมาศ ชุมสาย/by สาระแห่งสุขภาพ 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 8, 2013 (มีการแก้ไข) สาระแห่งสุขภาพ shared สาระแห่งสุขภาพ's photo. Tuesday มะระขี้นกคู่ปรับเบาหวาน ***มะระขี้นก คู่ปรับ เบาหวาน*** มะระขี้นก (มะระขนาดเล็กสีเขียวเข้ม มีผิวขรุขระ มีรสขม) ซึ่งคนไทยเราก็รู้จักกันดีเพราะเป็นอาหารอย่างหนึ่งที่นิยมใช้เป็นผักจิ้มน้ำพริก และพืชชนิดนี้สามารถใช้ลดน้ำตาลในกระแสเลือดได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของใบ ผล หรือเมล็ด มะระขี้นกสามารถใช้ลดน้ำตาลในกระแสเลือดได้เป็นอย่างดีเนื่องจากมะระขี้นกจะกระตุ้นการเปลี่ยนกลูโคสในกระแสเลือด ให้เป็นไกลโคเจนที่ตับและยังกระตุ้นการหลั่งอินซูลินจากเบตาเซลล์ของตับอ่อน อีกทั้งยังกระตุ้นการสร้างเบตาเซลล์อีกด้วย ซึ่งการใช้มะระขี้นกก็สามารถใช้ได้หลายวิธีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการคั้นน้ำ รับประทานสด หรือการดื่มในรูปของชามะระขี้นก แต่จากงานวิจัยของB.A. Leatherdale ของ มหาวิทยาลัยแอสตัน พบว่าการคั้นน้ำเป็นวิธีที่ได้ผลดีที่สุด ส่วนวิธีที่มีประสิทธิภาพน้อยที่สุดคือการกินมะระขี้นกที่นำไปแตกแห้ง นอกจากนี้ยังพบว่าในเมล็ดของมะระขี้นกมีสารชนิดหนึ่งซึ่งมีโมเลกุลคล้ายอินซูลิน และสารชนิดนี้ยังช่วยกระตุ้นการสร้างกรดไขมันในร่าง กาย ตลอดจนออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องการสลายไขมันอีกด้วย การใช้มะระขี้นกเพื่อลดน้ำตาลในกระแสเลือดนั้นสามารถใช้ได้ผลดีกับผู้ป่วยเบาหวานทั้ง 2 ชนิด แต่ห้ามใช้ในผู้ที่แพ้พวกแตงเมลอน แคนตาลูป สำหรับหญิงตั้งครรภ์หรือผู้ป่วยโรคตับแล้วการใช้มะระขี้นกจำเป็นต้องอยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของแพทย์ มะระขี้นกสามารถออกฤทธิ์ในการลดน้ำตาลได้ภายใน 30-60 นาทีหลังกิน (ซึ่งใกล้เคียงกับการออกฤทธิ์ของZinc crystalline insulin) และจะออกฤทธิ์สูงสุดหลังจากกินไปแล้ว4-12 ชั่วโมง (ฮอร์โมนอินซูลินออกฤทธิ์สูงสุดภายใน 2-3ชั่วโมง) นอกจากมะระขี้นกแล้วยังมีสมุนไพรชนิดอื่นที่สามารถลดน้ำตาลในกระแสเลือดได้ อาทิเช่น อบเชย ว่านหางจระเข้ แต่มะระขี้นกจะออกฤทธิ์ในการลดน้ำตาลได้เร็วกว่าและนานกว่า นอกจากนี้มะระขี้นกยังช่วยป้องการตีบและหนาตัวของผนังหลอดเลือดแดง ช่วยลดระดับคลอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไลด์ในตับได้อย่างมีประสิทธิภาพ (มะระขี้นกสามารถแก้ไขภาวะคลอเลสเตอรอล ฟอสโฟไลปิดและไตรกลีเซอไรด์ที่เพิ่มสูงขึ้นอันเป็นผลข้างเคียง จากการรับประทานยาลดน้ำตาลติดต่อกันเป็นระยะเวลานานให้เข้าสู่ระดับปกติได้ เมื่อรับประทานมะระขี้นกติดต่อกัน 10 สัปดาห์) พบว่าการดื่มน้ำคั้นมะระขี้นก (ใช้มะระขี้นก 1-2 ผลคั้นร่วมกับผักผลไม้ชนิดอื่น เพื่อลดความขม แต่ทั้งควรเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลไม่มากนัก เช่น แอปเปิ้ลเขียวจะดีกว่าแอปเปิ้ลแดง วันละ 1 แก้วในตอนเช้าก่อนรับประทานอาหาร และถ้าเป็นไปได้อีก 1 แก้วในช่วงเย็น) ร่วมกับการดื่มชามะระขี้นกหลังมื้ออาหารทุกมื้อ (หรืออาจใช้เป็นน้ำต้มใบชะพลูแทนชามะระขี้นก) สามารถลดระดับน้ำตาลได้ดี แต่ทั้งนี้ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารร่วมด้วย ***หมายเหตุ มะระขี้นกจะกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ ดังนั้นการใช้มะระขี้นกอาจทำให้ถ่ายท้องได้ ซึ่งถ้ามีอาการถ่ายท้องมากเกินไป ให้ปรับลดปริมาณของมะระขี้นกที่ใช้ให้น้อยลงได้ ที่มา : blog.siamherbal.com สาระแห่งสุขภาพ shared สาระแห่งสุขภาพ's photo. Tuesday เอามาให้อ่านใหม่เรื่องมะระขี้นก ***มะระขี้นก ป้องกันมะเร็งตับอ่อนได้จริงหรือ ?*** งานวิจัยล่าสุดจากศูนย์มะเร็งมหาวิทยาลัยโคโรลาโด พบว่า"นำ้คั้นของมะระขี้นก (bitter melon) มีผลยับยั้งความสามารถในการใช้กลูโคสของเซลล์มะเร็งตับอ่อน ซึ่งนั่นทำให้เซลล์ถูกตัดขาดจากแหล่งพลังงานและตายไปในที่สุด" งานวิจัยนี้ได้รับการตีพิมพ์สัปดาห์นี้ในวารสาร Carcinogenesis "เมื่อสามปีก่อนมะระขี้นกได้พิสูจน์ว่าสามารถการฆ่าเซลล์มะเร็งตับอ่อนในจานเพาะเลี้ยงเท่านั้น แต่ตอนนี้งานได้ก้าวไกลไปกว่านั้นมาก พวกเราใช้นำ้คั้น ซึ่งเราทราบว่าในเอเชียใช้กันมาก พวกเราได้พิสูจน์ให้เห็นว่ามันมีผลต่อการใช้กลูโคสของเซลล์ ส่งผลให้จำกัดการได้รับพลังงานและฆ่าเซลล์เหล่านั้นในที่สุด" ดอกเตอร์ราเชจ อัครวาล (Rajesh Agrawal, PhD) หัวหน้าทีมร่วมของศูนย์ป้องกันและควบคุมมะเร็งแห่งมหาวิทยาลัยโคโรลาโด และอาจารย์ภาควิชาเภสัชศาสตร์ (Skaggs School of Pharmacy and Pharmaceutical Sciences) กล่าว ที่มาของงานวิจัยนี้มาจากการที่ด็อกเตอร์อัครวาล ความสนใจในความเกี่ยวข้องที่ว่าคนเป็นเบาหวานมักมีแนวโน้มจะเป็นมะเร็งตับอ่อน และจากข้อสังเกตที่ว่ามะระขี้นกมีผลรักษาโรคเบาหวาน เห็นได้จากที่คนจีนและอินเดียใช้กันอย่างแพร่หลายมานาน เขาและทีมก็เลยได้ความคิดว่าจะเป็นยังไงถ้าตัดเจ้าโรคเบาหวานที่เป็นตัวเชื่อมกลางออกไปแล้ววิจัยเหตุและผลที่มะระขี้นกและมะเร็งไปเลยทีเดียว มะระขี้นกสามารถควบคุมการปล่อยสารอินซูลินในเบต้าเซลล์ของตับอ่อน การทดลองโดยให้หนูที่เป็นมะเร็งตับอ่อนกินนำ้คั้นจากมะระขี้นก ผลพบว่าลดการพัฒนาของมะเร็งไปกว่า 60 เปอร์เซนต์ เมื่อเทียบกับตัวที่ไม่ได้กิน "เป็นการค้นพบที่่น่าตื่นเต้นมาก" ดอกเตอร์อัครวาลกล่าว "ตอนนี้มีนักวิจัยมากมายที่กำลังออกแบบสังเคราะห์ตัวยาใหม่ๆเพื่อจะฆ่าเซลล์มะเร็ง แต่นี่เรามีสารจากธรรมชาติที่ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม" ทีมวิจัยของดอกเตอร์อัครวาลกำลังขอทุนเพื่อจะทำการศึกษาต่อไปในระดับการป้องกันทางเคมี (chemoprevention) ในโมเดลหนูทดลองสำหรับมะเร็งตับอ่อนต่อไป ที่มา : oknation.net/by สาระแห่งสุขภาพ สาระแห่งสุขภาพ Tuesday ***น้ำมะระขี้นกปั่น***(เคล็ดลับไม่ให้ขม) สาระแห่งสุขภาพพยายามจะหาสูตรการดื่มน้ำมะระขี้นกอย่างไรไม่ให้ขม กว่าจะคิดสูตรเด็ดเคล็ดลับการทำน้ำมะระขี้นกปั่นไม่ให้ขมได้ วันนี้เลยตัดสินใจทดลอง เพราะว่าเมื่อก่อนเคยดูรายการสารคดีที่เกี่ยวกับทานบอระเพ็ดที่ว่าขมยังทำไม่ให้ขมได้เลย วันนี้ก็เลยทดลองนำมาประยุกต์ใช้กับมะระขี้นก ได้ผลดีมาก ๆ เกินคาดไว้ ไม่ขมเลย น้ำมะระขี้นกปั่น ส่วนผสม มะระขี้นก 3-4 ผล คว้านเอาเมล็ดออก มะเขือพวงดิบ 4-5 ผล น้ำเปล่านิดหน่อย วิธีทำ ล้างมะระขี้นกและมะเขือพวงให้สะอาด ใส่ลงเครื่องปั่นเติมน้ำเปล่านิดหน่อย ปั่นให้ละเอียด และดื่มทันที คุณจะไม่รู้สึกถึงความขมเลย ไม่เชื่อให้ลองได้เลย แต่คุณต้องดื่มทันที ไม่ควรทิ้งไว้นาน ถูกแก้ไข สิงหาคม 8, 2013 โดย ginger 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 8, 2013 Dany Poirier น่ารัก ฝุด ฝุด อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 8, 2013 Jean-Marc JANIACZYK อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 8, 2013 Jean-Marc JANIACZYK อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 8, 2013 Jean-Marc JANIACZYK 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 8, 2013 รักนะ 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 8, 2013 ครอบครัวตัวมะต้องเหมือน 2 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 8, 2013 (มีการแก้ไข) หนึ่งมิตรชิดใกล้ - อัสนี วสันต์ ถูกแก้ไข สิงหาคม 8, 2013 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 8, 2013 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 8, 2013 Life 101 Co.,Ltd. » เหลียวมองสังคม ด้วย ทฤษฎี "กระจกหน้าต่างแตก" โดย นิ้วกลม "นิ้วกลม" เขียนบทความ "มีหนึ่งจึงมีต่อ" ไว้...โดยพูดถึง "ทฤษฎีกระจกหน้าต่างแตก" ของ เจมส์ คิว. วิลสัน และ จอรจ์ เคลลิ่ง ได้อย่างน่าสนใจ ตามทฤษฎี...เขาบอกว่า อาชญากรรมนั้นเกิดจาก...การขาดระเบียบวินัย เปรียบได้กับในละแวกบ้านหลังหนึ่งมีกระจกหน้าต่างแตกอยู่หนึ่งบานแล้วไม่ยอมซ่อม ปล่อยทิ้งไว้ ก็จะส่งสัญญาณให้กับคนที่ผ่านไปมาบริเวณนั้นว่า "แถวนี้ไม่มีใครสนใจ ไม่มีใครรับผิดชอบ" จากนั้นก็อาจมีคนมือบอนขว้างหินขว้างลูกบอลไปทำให้กระจกแตกเพิ่ม แล้วความไร้ระเบียบก็จะแพร่รามจากตึกหนึ่งไปอีกตึกหนึ่ง จากถนนหนึ่งไปอีกถนนหนึ่ง จนบริเวณนั้นกลายเป็นเขตอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินในที่สุด ต้นตอของ "ย่านอันตราย" นั้นเกิดจาก "กระจกแตกแค่บานเดียว" พออ่านแล้วก็รู้สึกได้เลยว่า... หากแต่ละคนไม่รับผิดชอบในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ของตนเองก็คงลุกลามไปสู่เรื่องใหญ่ ๆ ของสังคมได้ :::::::::::::::::: ในบทความนี้...ยังได้เล่าถึง ช่วงกลางทศวรรษ 1980 ยุคนั้น รถไฟใต้ดินของนิวยอร์คประสบปัญหากับการก่ออาชญากรรม และการเบี้ยวค่าโดยสาร ที่ปรึกษาซึ่งถูกจ้างมาเพื่อแก้ปัญหานี้ กลับเสนอให้แก้ปัญหา โดยโฟกัสไปที่การชจัดการกับบรรดาเด็กวัยรุ่นที่ชอบขีดเขียนกำแพง แทนที่ไปจัดการกับอาชญากรรมที่เกิดขึ้น โดยอ้าง "ทฤษฎีกระจกหน้าต่างแตก" ว่ารอยขีดเขียนพวกนี้เหมือนสัญลักษณ์ของระบบควบคุมความปลอดภัยที่พังครืนลงมา ทางการจึงได้จัดการล้างรถไฟจนเอี่ยมอ่องทาสีใหม่ทับรอยขีดเขียนต่าง ๆ ปรากฏว่า...ที่ย่านฮาเล็มมีวัยรุ่นมือบอนทั้งหลายเตรียมจะสร้างงานจิตรกรรมบนรถไฟที่ทำความสะอาดไปแล้วยกใหญ่ พอเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดรถไฟเสร็จ พวกเขาก็ออกมาละเลงลวดลายโดยใช้เวลาถึงสามวัน แต่ปรากฎว่า... เพียงหนึ่งวันหลังจากนั้นลวดลายที่พวกเขาขีดเขียนขึ้นมาก็ถูกทาสีทับเพียงชั่วพริบตา เป็นการส่งสัญญาณถึงวัยรุ่นเหล่านั้นว่า อยากเสียเวลาสามวันก็ตามใจ กองเดินรถไฟนิวยอร์คตั้งหน้าตั้งตาทำความสะอาดแบบนี้ถึงหกปีเต็ม แกเขียน-ฉันลบ-แกเขียน-ฉันลบ นอกจากนั้น...ยังมีการกวดขันกับพวกที่เบี้ยวค่าโดยสารอย่างจริงจัง จากเดิมที่ตำรวจเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ แม้กระทั่งพวกขี้เมาชอบปัสสาวะในสถานนีรถไฟก็ไม่เว้น ผลปรากฎว่า การแก้ไขเรื่องเล็ก ๆ เหล่านี้ ส่งผลให้อาชญากรรมในนิวยอร์คลดลงอย่างฮวบฮาบ "เพราะเขาเลือกที่จะซ่อมกระจกแตก เสียเนิ่น ๆ" ::::::::::::::::::: อ่านบทความนี้แล้วก็รู้สึกได้เลยว่า...ปัญหาสังคมหลายอย่างก็มาจากเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ถูกปล่อยปละละเลย จนกลายเป็นเรื่องใหญ่ ปัญหาบางอย่างที่อยู่ตรงหน้า...ถ้าไปตามแก้ไม่ถูกจุด ไม่ถูกที่ ปัญหาก็จะวนเวียนกลับมาใหม่ ถ้ายอมถอยออกมาสักนิด หาวิธีแก้ไขอย่างจริงจัง แม้ต้องใช้เวลาบ้างในการแก้ปัญหา แต่ก็จะเป็นการแก้ไขอย่างยั่งยืน :::::::::::::::::: Life 101 ชวนต่อยอดจาก นิ้วกลม ทฤษฏีนี้ ไม่เฉพาะ เรื่องอาชญากรรม เรื่องพฤติกรรมสังคม เรื่องชีวิตส่วนตัว แต่มันก็ยังรวมไปถึง กพอ.การงานพื้นฐานอาชีพของเรา ๆ อีกด้วย มาดูตัวอย่างทฤษฏี Broken Window กับเรื่องใกล้ตัวมาอีกหน่อย สัก 3 ตัวอย่างก็แล้วกัน • ตัวอย่างที่ 1 ถ้าเวปไซต์ขององค์กรเรา มีอะไรง่อยเป็น Broken Window สักอย่างสองอย่าง อย่างเช่น Broken Link, Header ที่สะกดผิด, รูปภาพที่หายไป ผู้ใช้ก็จะรู้สึกว่า ไซต์เราไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร ผลก็คือ มันจะทำให้ความไว้วางใจในไซต์ลดลง ตัวอย่างนี้ ไม่ได้แสดงถึงผลกระทบที่ทบทวีคูณอย่างเป็นรูปธรรม แต่การมี Broken Window เช่นนี้ มันจะส่งผลกระทบกับการรับรู้ของผู้ใช้ที่มีต่อเวปไซต์เรามากกว่า :::::::::::::::::: • ตัวอย่างที่ 2 ถ้าเป็นในแง่ Web Community การที่ปล่อยให้มีเนื้อหาไม่เหมาะสมโพสต์อยู่บนไซต์โดยไม่ลบไม่จัดการ จะทำให้มีแนวโน้มสูงที่คนใน community จะโพสต์เนื้อหาไม่เหมาะสมในระดับเดียวกัน และถ้าไม่มีใครจัดการอีก การโพสต์เนื้อหาที่ไม่เหมาะสมจะเกิดขึ้นในระดับรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ถ้ารับคนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะกับ Community เข้ามาหนึ่งคน ต่อไปก็จะมีคนที่มีพฤติกรรมเกินห้ามใจอย่างนี้เข้ามาเรื่อย ๆ สุดท้าย ถ้าต้องการควบคุมทิศทาง Community ก็ต้องมีการเสียเลือดเสียเนื้อกันเป็นส่วนใหญ่ :::::::::::::::::: • ตัวอย่างที่ 3 ถ้าเป็นในแง่การตลาด...เริ่มจากในแง่ผู้บริโภคก่อน ถ้าผู้บริโภคยอมรับให้นักการตลาดเอาข้อมูลส่วนตัวไปได้ง่าย ๆ ขอเบอร์ ขอชื่อจริง นามสกุล วันเกิด เรียกว่าเอาไปถอนเงินจากบัญชีเราได้สบาย ๆ เลยเนี่ย ก็จะเกิดนักการตลาดชนิด Broken Window แบบนี้ขึ้นมามากขึ้นเรื่อย ๆ ตราบใดที่ผู้บริโภคยอมให้เกิด Broken Window ขึ้น เพื่อแลกกับสิทธิประโยชน์เฉพาะหน้าเล็ก ๆ น้อย ๆ ท้ายที่สุด ผู้บริโภคนั่นแหละ ที่จะต้องเป็นผู้ยอมจำนนต่อผู้ขาย ทีนี้ไม่ว่าจะทำอะไร ก็จะเอะอะก็เอาข้อมูลส่วนตัวเรา อย่าแปลกใจเลยว่าทำไม identity ของเราจึงถูกขโมยได้ง่าย ๆ - ถ้าในแง่นักการตลาด เจ้าของธุรกิจ ทฤษฏีนี้ก็เข้ากับการเป็น Viral Marketing ได้ ถ้าทำให้ลูกค้าพอใจอย่างมากหนึ่งคน เขาก็จะนำธุรกิจเราไปบอกต่อคนอื่น ไม่ว่าจะทั้งทางปาก ทางทวีต ทางบล็อก ทางเว็บบอร์ดต่าง ๆ เมื่อคนที่ได้รับสาร มาทดลองใช้งานธุรกิจ บริการ สินค้า เราบ้าง แล้วได้รับความพึงพอใจ ก็จะนำไปบอกต่ออีกเป็นทวีคูณ :::::::::::::::::: อย่าลืมว่า ทฤษฎี Broken Window ยังประยุกต์ใช้กับสิ่งดี ๆ ในชีวิตประจำวันได้ด้วย เช่น ถ้าในบ้านมีการทำความสะอาดอย่างดี เป็นระเบียบเรียบร้อย ก็จะส่งผลให้คนในบ้าน พยายามรักษาบ้านให้สะอาด เก็บของเป็นที่เป็นทาง (แต่พอมันเริ่มรกแล้วปล่อยทิ้งไว้ มันก็สามารถจะกลับกลายเป็นสภาพตรงข้ามได้ง่ายๆ) ถ้าอยากลองฝึกตัวเองให้มีระเบียบ ลองทำสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ตัวให้มีระเบียบเรียบร้อยก่อน แล้วจะเริ่มเห็นผลเอง ถ้ามีคนในชุมชนสักคนเป็นคนดี ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมในชุมชนขึ้นมา ก็จะเป็นตัวอย่างดี ๆ ให้เกิดคนที่รักชุมชนคนอื่น ๆ เพิ่มขึ้นมาได้อีก การเริ่มต้นทำความดีในชุมชนโดยไม่ต้องรอกัน จึงเป็นสิ่งที่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้จะเป็นแค่จุดเล็ก ๆ เป็นเทียนเล่มเล็ก ๆ ในสังคม แต่เทียนเล็ก ๆ ถ้าได้จุดประกายไฟให้เทียนอื่น ๆ บางเล่มได้ ในที่สุดทั้งชุมชนก็จะเต็มไปด้วยเทียนสว่างไสวเอง แม้ว่าจะมีลมพัด มีคนมือบอน คอยทำให้เทียนดับไปบ้าง แต่ก็อย่าลืมว่า เทียนเราก็ยังจุดไฟขึ้นมาได้ใหม่เหมือนเดิม วันนี้ เราตรวจดู Broken Window ในงานของเราหรือยัง? :::::::::::::::::: Credit : Tony Monchai Bunyavipaku / iamIA.net #Life101Page #ทฤษฎีกระจกหน้าต่างแตก *Cindy * 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 8, 2013 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
FEE 18 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 8, 2013 ginger สำหรับสิ่งดีดี ที่นำมาฝากตลอด ขอบคุณมากครับ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
yot111 510 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 9, 2013 หวัดดีวันศุกร์ วันแห่งความสุขคับ คุณginger lavender fairy คุณตู้เย็น ดอกเหมย เด็กสยาม เพื่อน กินให้อิ่มนะลูกรัา... คับแม่... 2 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 9, 2013 (เมื่อครั้งทรงหมั้น)พระบรมฉายาลักษณ์เก่า เมื่อ ปี พ.ศ.๒๔๙๒ ฉายเมื่อครั้งประทับอยู่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โดยช่างภาพหนังสือพิมพ์เมืองโลซานถ่ายไว้ ปัจจุบันพระบรมฉายาลักษณ์ทั้งสองพระองค์นี้ ได้จัดแสดงไว้ที่โรงเรียน Ecole Nouvelle de La Suisse Romande ,ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ , ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ Nana May Amonvongseเป็น อยู่ คือ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
