ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ เมษายน 15, 2014 (มีการแก้ไข) สมชาย แสวงการ 3 hours ago นักโทษบางรายแม้ก่อนถูกประหารชีวิตยังปากแข็งบอกตัวเองบริสุทธิ์ ตายไปแล้วก็ยังท่องจำไปโกหกยมบาลว่าข้าไม่ผิด คนแบบนี้ผู้คุมในเรือนจำเรียกว่าชั่วบริสุทธิ์? เปิดใจ (ช้ำ) "นิคม" ปมถอดถอน "ไม่คิดว่าแพ้แล้วจะมาไล่ฆ่ากันอีก" Prev1 of 1Next คลิกภาพเพื่อขยาย updated: 14 เม.ย 2557 เวลา 10:01:15 น. ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ชีวิต "นิคม ไวยรัชพานิช" ถูกสั่งพักงานจากตำแหน่งประธานวุฒิสภาชั่วคราว หลังจากถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเอกฉันท์ชี้มูล กรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว. ใน 1 วัน เขาใช้เวลาว่างส่วนใหญ่อยู่กับบ้านย่านลาดพร้าว ปลูกผัก ทำสวนหย่อม ซ่อมรถ เขาบอกว่าไม่อยากเฉียดไปสภาอีกนับตั้งแต่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูล "ประชาชาติธุรกิจ" ไปเยือน "นิคม" ที่บ้าน สนทนาถึงต้นตอที่ทำให้เขาถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เขาบอกว่าเป็นแผนของ ส.ว.สรรหา กรุยทางสู่การขอมาตรา 7 แต่แผนของกลุ่ม ส.ว.ลากตั้ง จะลากมาถึงจุดสุญญากาศเช่นในปัจจุบันไม่ได้ ถ้าเขา-พวก-เพื่อน ส.ว. และพรรคเพื่อไทย ประเมินสถานการณ์ถูก ไม่หลงกลก้าวพลาดอย่างร้ายแรง... เป็น ส.ว.เลือกตั้งคนแรกที่ได้เป็นประธานวุฒิสภา แต่ทำไมจบไม่สวย คือ มีใครบ้างที่คิดว่าจะจบแบบ...แทนที่จะลงสบาย ๆ กลับมาตกตึก ตกยอดเขาแบบนี้ แต่ความจริงถามว่าก้าวพลาดหรือเปล่า ประมาทหรือเปล่า คิดว่าไม่ใช่ บังเอิญมันเป็นช่วงจังหวะของการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งสำคัญ การเปลี่ยนแปลงที่อยู่ในการแย่งอำนาจ แสวงหาอำนาจที่เขาสู้กัน แล้วไปอยู่ในเส้นทางที่เราต้องผ่าน กลายเป็นหลีกไม่ได้ หลบไม่ได้ ก็ต้องฟันฝ่า ถ้าเราไม่ยืนบนหลักที่ถูกต้อง เราก็จะล้มไปนานแล้ว ถูกสังคมประณาม แต่ ณ วันนี้ ด้วยความที่ยึดอยู่บนหลักความถูกต้อง ผมจึงตอบสังคมได้ว่าทำอะไร ยืนอยู่บนหลักความถูกต้อง แต่ทำไมยังถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ด้วย ความที่ผมยึดหลักความถูกต้อง เวลาจะเอาเรื่องผมก็หาเหตุไม่ได้ กรณีผมไม่เป็นกลางไปลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็กฎหมายไม่ได้ห้าม ถูกไหม กรณีผมไม่ให้ ส.ส. และ ส.ว. 57 คนพูดในสภา แต่ผมเป็นคนให้พูด แต่เพราะคุณไปคัดข้อความที่ไม่ถูกต้องมา คุณคัดเอาข้อความที่ผมพูด แต่ข้อความที่พวกคุณได้พูดไม่พูดถึงเลย เมื่อผมชี้แจงพร้อมหลักฐาน ป.ป.ช.เขาก็ไม่แจ้งข้อกล่าวหาผม คุณกล่าวหาผมว่าพอแก้รัฐธรรมนูญได้ ถ้าประชาชนเรียกร้องให้ผมลงสมัคร ผมก็จะลงสมัคร แต่ใจผมไม่อยากลง คุณก็เอาอย่างนี้มาฟ้องผม ป.ป.ช.ก็รับคำร้อง แต่จริง ๆ รับไม่ได้ มันเป็นความคิดเห็นทางการเมือง ไม่ได้ทำให้ใครเสียหาย ฉะนั้น ป.ป.ช.จึงทำอะไรไม่ได้ มันจึงเหลือเรื่องเดียวที่ ป.ป.ช.เล่นผมได้คือ ว่าผมรับญัตติให้ปิดอภิปรายทั้ง ๆที่ มีคนจะอภิปรายเยอะ ถ้าคุณอยู่ในเหตุการณ์ เห็นลูกเล่นทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ คุณจะไม่พูดอย่างนี้ ผมพูดเสมอว่าขอใช้หลักของกรรมาธิการในการขานชื่อผู้ขออภิปรายได้ไหม ก็ไม่เอา เพราะถ้าเอาอย่างนั้น คุณต้องนั่งอยู่ในที่ประชุมทุกคน ถึงเวลาไม่อยู่ปุ๊บ ไม่อยู่ถือว่าคุณไม่อภิปราย ก็ตัดออก จะลงชื่อขออภิปรายกี่ร้อยคนก็แป๊บเดียวหมด แต่เวลาประชุมคุณก็ไม่ค่อยอยู่ในที่ประชุม แต่คุณกลับพูดทีละคนสองคน และ เวลาคุณอภิปรายต้องอภิปรายในประเด็นที่คุณขอแปรญัตติ หรือประเด็นที่กรรมาธิการแก้ไขแต่คุณไม่เอา จะอภิปรายเหมือนวาระที่ 1 คนละชั่วโมง ผมก็ท้วงแล้วว่ามันซ้ำ จึงมีคนฝ่ายรัฐบาลเสนอญัตติขอปิดการอภิปราย ผมก็ปฏิเสธไม่ได้ ป.ป.ช.บอกว่าไม่รับญัตติก็ได้...ไม่มีทางครับ เพราะในข้อบังคับการประชุมไม่ได้บอกให้ประธานมีอำนาจไม่รับ เพียงแต่ขอร้องสองสามหนแต่เขาไม่ยอม เขาเอาประเด็นนี้มาฟ้องผม โดยบอกว่าเหลืออีก 90 กว่าคนไม่ได้อภิปราย ถามว่าที่แปรญัตติเป็น ร้อย ๆ คน เขาประสงค์จะอภิปรายไหม...ไม่ประสงค์ เช่น มาตรา 9 มีคนขอแปรญัตติ 54 คน แต่พออภิปราย 6 คน บอกไม่อภิปรายแล้ว หรือมาตราที่ 6 ขออภิปราย 114 คน แต่อภิปราย 17 คน แค่นี้ ถ้าบอกว่าเป็นความผิด ผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว เพราะผมปฏิบัติตามข้อบังคับ คุณนิคมกลายเป็นเหยื่อของเรื่องนี้ เป็น เหยื่อ มีทางเดียวคือเอาผมออกจากการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้รองประธานวุฒิสภาขึ้นมาทำหน้าที่แทนผม เพราะเขามีเป้าหมายต่อไปคือการถอดถอน ขอนายกรัฐมนตรีพระราชทาน ซึ่งผมบอกแล้วว่ารัฐธรรมนูญไม่ได้ให้อำนาจรองประธานวุฒิสภาไปทำหน้าที่ ประธานรัฐสภา หรือรองประธานรัฐสภา เวลานี้เหตุการณ์จะเป็นจริง คุณจะมานั่งเขียนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญเองเหรอ โดยอนุโลมให้ ส.ว.ทำหน้าที่แทน ส.ส.ได้ ผมเพิ่งเคยเห็นเนี่ย รัฐธรรมนูญบอกว่าถ้าไม่มีนายกฯ ก็ให้ ส.ส.เลือกนายกฯขึ้นไป กลับไปใช้มาตรา 172 173 โดยอนุโลม หรือแม้กระทั่งเอามาตรา 128 วรรค 3 มาเสนอให้เปิดสมัยประชุมวิสามัญ กรณีเมื่อมีความจำเป็นเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ การถอดถอนผมเป็นประโยชน์แห่งรัฐเหรอ... ไม่ใช่ ของผมต้องใช้มาตรา 273 ในกรณีที่ ป.ป.ช.ส่งรายงานการถอดถอนนอกสมัยประชุม ให้ประธานวุฒิสภาแจ้งให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรรับทราบเพื่อนำความกราบบังคม ทูล เพื่อมีพระบรมราชโองการเรียกประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ และให้ประธานรัฐสภาลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ นี่ใช้ข้อนี้ คุณวางแผนกันมากไปจนล็อกตัวเอง ถ้ารองประธานวุฒิสภาทำหน้าที่แทน ประธานรัฐสภาได้ คุณก็ทำหน้าที่ช่วยผม กับคุณสมศักดิ์ (เกียรติสุรนนท์) ตอนแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว แต่มันทำไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้เขียนไว้ให้ ฝ่ายตรงข้ามวางแผนมากไปจนสถานการณ์เข้าสู่ Deadlock ของจริง แม้แต่เปิดประชุมถอดถอน หรือโหวตนายกฯมาตรา 7 ตามแผนก็ไม่ได้ เวลา นี้คุณต้องกลับสู่ระบบ กลับมาสู่ลู่ทาง ตราบใดที่คุณยังไม่ฉีกรัฐธรรมนูญ ตราบใดที่คุณยังไม่มีปฏิวัติ ควรจะต้องถือตรงนี้ ทางที่จะทำให้กลับมาสู่ภาวะปกติคือจัดให้มีการเลือกตั้ง ส.ส. ถ้ายังไม่มีการเลือกตั้ง ส.ส. กระบวนการในสภาไปต่อไม่ได้ ไปไม่ได้เลย ติดหมดเลย แม้แต่คุณจะเปิดสภาเพื่อโหวตนายกฯ มาตรา 7 ก็ยังทำไม่ได้ จุดเริ่มต้นของปัญหาทั้งหมด เกิดจาก ส.ว.เลือกตั้ง เดินไปหาพรรคเพื่อไทย ขอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ผม ว่ามันไม่ใช่ประเด็น คุณเอาข้ออ้างของการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาเป็นต้นเหตุของปัญหา แต่บังเอิญการแก้ครั้งนี้ไปทำให้กลุ่มหนึ่ง คือ ส.ว.สรรหา เสียอำนาจ ซึ่ง ส.ว.สรรหามีคอนเน็กชั่นกับคนที่แต่งตั้งตัวเองมาอยู่แล้ว ถ้ามองว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องให้ ส.ว.ต้องมาจากการเลือกตั้งทั้งหมดเป็นปัญหา ทำให้เกิดการได้อำนาจมาซึ่งไม่เป็นไปตามวิถีทางประชาธิปไตย มันจะไม่เป็นยังไงในเมื่อคืนอำนาจประชาชนให้ประชาชนเลือก แต่คุณก็สร้างภาพว่ามันจะเป็นสภาผัว สภาเมีย สภาทาส ก็ไปคิดเอง คุณบอกว่าเป็นเหตุของปัญหา แต่ผมบอกไม่ใช่ปัญหา ทำไมพรรคประชาธิปัตย์แก้ไขเขตเลือกตั้งจากเขตใหญ่เป็นเขตเล็กได้ จาก 400 เขต เป็น 375 เขตได้ ที่แก้ได้เพราะการแก้ไขเขตเลือกตั้ง แต่ไม่ได้ไปแตะมาตราที่เป็นเครื่องมือที่ใช้เล่นงานทางการเมืองของฝ่าย อำมาตย์ แต่ ส.ว.เลือกตั้งไปแตะต้องจึงทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ก็ อาจเป็นไปได้ ก็จะได้รู้ว่าจริง ๆ แล้วความเป็นมาเป็นไปเป็นอย่างไร ที่ออกมา 2 ระบบ เลือกตั้งกับสรรหา เพื่อมาคานกัน มาตรวจสอบรัฐบาล แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่หรอก กลายเป็นเครื่องมือของกลุ่มอีกกลุ่มหนึ่ง...ชัดเจน ตอนที่เราไปขอให้พรรคเพื่อไทยผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว. คาดการณ์หรือไม่ว่าจุดจบจะเป็นเช่นนี้ คิด ไม่ถึง เพราะพวกคุณพยายามแปรญัตติ พวกคุณเออออห่อหมกด้วย คุณบอก ส.ว.เลือกตั้งดี แต่วันนี้พอคุณแพ้ในที่ประชุมรัฐสภา คุณก็ไม่เอา ทั้ง ๆ ที่พวกคุณเป็นทั้งกรรมาธิการ เป็นทั้งผู้แปรญัตติ บางคนอภิปราย แต่พอโหวตสู้ไม่ได้ คุณก็ไปใช้อำนาจอีกอำนาจหนึ่งในการประหัตประหารกัน ตอนนั้นประเมินสถานการณ์เลวร้ายสุดไว้แค่ไหน ก็ คิดว่าไม่ผ่าน ก็คือจบ ไม่เคยคิดว่าแพ้จะมาไล่ฆ่ากันอีก ซึ่งเราดูท่าทีตั้งแต่ต้นแล้วว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่ให้ผ่าน แต่เราไม่นึกว่าเมื่อศาลรัฐธรรมนูญตีตกแล้ว จะมีการยื่นต่อ ป.ป.ช.ทันที ดูเหมือนเป็นการแก้แค้นกัน ไปหั่นวาระของ ส.ว.สรรหา ให้สิ้นสุดทันทีที่รัฐธรรมนูญเรื่องที่มา ส.ว.มีผลบังคับใช้ เป็นเหมือนเราไปทำเขาก่อนหรือไม่ อาจ จะเป็นความรู้สึกนั้น ซึ่งจุดที่คิดว่าเราพลาดที่สุด ก็คือจุดที่ให้ ส.ว.สรรหา หมดไปพร้อมกับ ส.ว.เลือกตั้ง วันนั้นท่านสมศักดิ์นั่งทำหน้าที่ประธาน แล้วผมนั่งคู่ด้วย ผมเห็นสีหน้า ส.ว.สรรหาแล้ว เอ๋อเลย นั่นคือจุดแตกหัก เขานึกไม่ถึง ถ้าเขาอยู่ในตำแหน่งต่ออีก 3 ปีจนหมดวาระ เขายังทำใจได้ ถูกไหม อันนี้เป็นยุทธศาสตร์ที่เราพลาดไป ส.ว.เลือกตั้ง เคยปรึกษากับฝ่าย พรรค เพื่อไทยหรือไม่ว่าไม่ควรใช้วิธีแตกหักแบบนี้ผมว่ามันเกิดขึ้นในชั่วพริบตา นะ ตามร่างเดิมให้ ส.ว.สรรหาอยู่จนครบวาระ 3 ปี แต่พออภิปรายไปแล้ว การดูถูกเหยียดหยามกัน การท้าทายกัน มันทำให้อารมณ์มันเปลี่ยนไป การที่คุณสมชาย (แสวงการ ส.ว.สรรหา) และอีกหลาย ๆ คนบอกว่า เอาเลย เอาให้สุดซอย ก็สมควร เลยตอบสนองให้ (หัวเราะ) มันเลยเป็นจุดแตกหักถึงทุกวันนี้ ฝ่ายเราก็เลยต้องถอยสุดซอยเหมือนกัน ก็ต้องถอย (หัวเราะ) เมื่อ ส.ว.เลือกตั้ง ตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ จึงถูก ส.ว.สรรหา ฝ่ายชนะ รุกต่อแบบถอนรากถอนโคน ก็ นั่นน่ะสิ ไม่เป็นไร เป็นการโต้กันทางยุทธศาสตร์ในการรบ เมื่อเราชนะในเบื้องต้น แต่เรามาแพ้ เขาก็รุกกลับทันที เพื่อจะได้ชนะเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เดิมเราคิดว่า เราชนะเขาก็จะได้รับการต่อต้านจากเขา และกลุ่มอำมาตย์ แต่เวลานี้เมื่อเขารู้ว่าได้เปรียบแล้วจะตีกลับ คิดว่าจะเข่นฆ่าพวกนี้ให้หมดไปเลย มันไม่หมดหรอก พวกผมมีตัวตายตัวแทน วันนี้ ส.ว.เลือกตั้งชุดใหม่เข้าไปแล้วเยอะแยะ ก็ตัวแทนประชาชนไงครับ ในอนาคต ส.ว.สรรหา จะอยู่ได้ค้ำฟ้าหรือไม่ ไม่ อะไรที่ไม่อยู่บนหลักการ หรือพื้นฐานความถูกต้อง มักอยู่ไม่นาน เวลาคุณได้นายกฯมาตรา 7 มา คุณก็อยู่ได้ไม่นาน ส.ว.เลือกตั้งที่เข้ามาใหม่จะแตะต้อง ส.ว.สรรหาได้ไหม แตะ ต้องยาก เพราะทุกองคาพยพมันช่วยกัน ยาก.. ถ้าตราบใดที่มีการเอื้อประโยชน์อย่างนี้ ในโครงสร้างรัฐธรรมนูญ ให้ 7 คน จากองค์กรอิสระเป็นคนเลือก ส.ว.สรรหา ส.ว.สรรหาก็เป็นคนแต่งตั้งเขา ถ้าเป็นอย่างนี้คุณไม่มีทาง เกมการต่อสู้ระหว่าง ส.ว.เลือกตั้ง ชุด ใหม่ กับ ส.ว.สรรหา ในอนาคตเป็นอย่างไรจะแรงขึ้น ต่อไปนี้เริ่มรู้แล้ว ไอ้ที่คุณมานั่งเป็นอีแอบ แต่งหน้าแต่งตาสวย ผมเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ไม่ใช่หรอก ไอ้ที่ผู้แทนปวงชนชาวไทย เพราะนอกจากคุณไม่มีความสัมพันธ์กับประชาชนแล้ว คุณยังไม่ยืนเคียงข้างประชาชนด้วย เพราะฉะนั้นเริ่มรู้แล้วใครมายังไง ไอ้พวกฮาร์ดคอร์ทั้งหลาย แต่ไม่ใช่ทุกคน จะยิ่งกว่าการต่อสู้ในสภาล่างระหว่างเพื่อไทย กับประชาธิปัตย์ ไม่แพ้กันหรอก น้อง ๆ ------- คนนี้สารภาพเพราะจนต่อหลักฐาน สั่งประหาร !'ไอ้หนุ่ย'ฆ่าข่มขืนเด็ก รับสารภาพ เหลือจำคุกตลอดชีวิต วันที่ 28 มี.ค. 57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลจังหวัดพระโขนง มีคำพิพากษาประหารชีวิต นายหนุ่ม หรือติ๊งต่าง ไม่ทราบนามสกุล อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ที่ 693/2556 ลงวันที่ 15 ธ.ค. 57 หลังก่อเหตุฆ่าข่นขืนเด็กอายุไม่ถึง 13 ปี แต่จำเลยให้การรับสารภาพ จึงมีเหตุบรรเทาโทษ เหลือจำคุกตลอดชีวิต ถูกแก้ไข เมษายน 15, 2014 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ เมษายน 15, 2014 (มีการแก้ไข) ถูกแก้ไข เมษายน 15, 2014 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ปุณณ์ 639 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ เมษายน 15, 2014 คนโบราณมักจะสอนลูกหลานอย่างนี้ ทำให้เวลาเราอด เราทุกข์ เราลำบาก ก็จะไม่ปริปากบ่นหรือร้องขอความช่วยเหลืออย่างที่สิ้นศักดิ์ศรี คุณแม่พี่ปุณณ์เป็นคนจีนแท้ๆ ยังสอนลูกแบบนี้เลย ยิ่งลำบากยิ่งต้องสู้อย่างเสือ อย่าซมซานร้องเอ๋งเหมือนหมา เขาโยนกระดูกให้ก็กระดิกหางตามริกๆๆ (สำนวนของแม่) 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ เมษายน 15, 2014 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ เมษายน 15, 2014 คนโบราณมักจะสอนลูกหลานอย่างนี้ ทำให้เวลาเราอด เราทุกข์ เราลำบาก ก็จะไม่ปริปากบ่นหรือร้องขอความช่วยเหลืออย่างที่สิ้นศักดิ์ศรี คุณแม่พี่ปุณณ์เป็นคนจีนแท้ๆ ยังสอนลูกแบบนี้เลย ยิ่งลำบากยิ่งต้องสู้อย่างเสือ อย่าซมซานร้องเอ๋งเหมือนหมา เขาโยนกระดูกให้ก็กระดิกหางตามริกๆๆ (สำนวนของแม่) ขอคารวะคุณแม่พี่ปุณณ์ คุณแม่คนดีใจเพชร คำสอนพ่อแม่นำทางชวิตลูก ขอบคุณ พี่ปุณณ์นะคะ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ เมษายน 15, 2014 (มีการแก้ไข) ติดตามข่าวสารต่างๆ ได้ที่ www.facebook.com/รักพ่อภาคปฏิบัติ วันศุกร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2554 ในหลวงภูมิพล กับความทรงจำ(ตอนที่1) ปี2470 เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2470 ณ โรงพยาบาลเมานท์ออเบอร์น เมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสสาชูเสตต์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ในหลวงภูมิพล พระราชโอรสในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี ได้เสด็จพระราชสมภพ(เกิด) โดยในตอนนั้นไม่มีใครทราบได้ว่า พระราชกุมารพระองค์น้อยนี้ ต่อมาจะได้ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ของสยามประเทศในอนาคต ปี2471 ในหลวงภูมิพล ทรงมีพระเชษฐภคินี(พี่สาว)คือ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา และสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช(พี่ชาย)คือ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอนันทมหิดล(ในหลวงรัชกาลที่8) พระบรมฉายาลักษณ์ภาพนี้ ฉายเมื่อวันที่ 20 กันยายน พุทธศักราช 2471 ที่เมืองโลซานน์ สวิสเซอแลนด์ ปี2472 เมื่อในหลวงภูมิพล อายุได้เกือบ 2 ปี ก็ได้มีเหตุสำคัญเกิดขึ้นในพระชนมชีพ คือสมเด็จฯ พระบรมราชชนก ซึ่งทรงทำงานหนักเพื่อคนอื่นมาตลอดเวลา สวรรคตเมื่อวันที่ 24 กันยายน พุทธศักราช 2472 คงมีแต่สมเด็จฯพระบรมราชชนนี ทรงเป็นผู้อภิบาลรักษาพระราชโอรส และพระราชธิดาทั้ง 3 พระองค์ พระบรมฉายาลักษณ์ภาพนี้ ฉายเมื่อวันที่ 20 กันยายน พุทธศักราช 2472 ที่วังสระปทุมเพียง 4 วัน ก่อนหน้าวันสวรรคตของสมเด็จฯ พระบรมราชชนก ปี2473 ในสมัยเมื่อประทับอยู่ที่วังสระปทุมนั้น ผู้ทรงเป็นเจ้าของวังคือ สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี ผู้ทรงเป็นพระอัยยิกา(ย่า)ของในหลวงภูมิพล โดยเจ้านายน้อย ๆ ทั้ง 3 พระองค์ ได้ทรงพำนักอยู่ในรั้ววังแห่งนั้นด้วยความสงบร่มเย็นใต้พระบารมี บางคราวได้เสด็จออกงานพิธีข้างนอกวังตามควรแก่โอกาส เช่น งานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติครั้งที่ 2 ที่พระราชอุทยานสราญรมย์ เมื่อเดือนกรกฎาคม พุทธศักราช 2473 เป็นต้น ปี2474 ในปีนี้ในหลวงภูมิพล ได้ทรงเข้าโรงเรียนเป็นครั้งแรกที่โรงเรียนอนุบาลของมิสซิสเดวีส ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดเล็กเปิดสอนกันเองที่บ้าน ในเวลานั้น พระพี่นาง ทรงเป็นนักเรียนอยู่ชั้นประถมปีที่ 2 โรงเรียนราชินี ส่วนพระเชษฐาทรงเรียนอยู่ชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนมาแตร์เดอี ปี2475 ปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหลายอย่าง เริ่มตั้งแต่มิสซิสเดวีส และครอบครัวเดินทางกลับประเทศ โรงเรียนอนุบาลเล็ก ๆ ต้องปิดไป ในหลวงภูมิพลจึงทรงย้ายมาเรียนที่โรงเรียนมาแตร์เดอี แต่การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอันยิ่งใหญ่กว่านั้นยังมีอีก นั่นคือ การเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบราชาธิปไตย มาเป็นระบอบประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เมื่อเดือนมิถุนายน พุทธศักราช 2475 ปี2476 เมื่อบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไปดังนั้นแล้ว สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี(ย่าของในหลวงภูมิพล) ก็ทรงเห็นว่าสภาพบ้านเมืองไม่เรียบร้อย อาจมาพัวพันกับพระราชนัดดา(หลาน)ของท่านได้ จึงโปรดให้หลานทั้ง 3 พระองค์ไปศึกษาและรักษาพระพลานามัยที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เมื่อเดือนพฤษภาคม พุทธศักราช 2476 ปี2477 เป็นปีที่นำความเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวงมาสู่ราชสกุลมหิดล ด้วยเหตุว่าพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่7) ท่านได้ทรงสละราชสมบัติ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล(พระเชษฐาของในหลวงภูมิพล)จึงต้องเสด็จขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ของไทยในลำดับที่ 8 ในพระมหาบรมราชจักรีวงศ์ ทำให้สถานะของในหลวงภูมิพล ในเวลานั้นจึงต้องเปลี่ยนแปลงไปด้วย เพราะอยู่ในฐานะเป็นพระอนุชา(น้อง)ของพระเจ้าแผ่นดิน ปี2478 จนรุ่งขึ้น ในวันที่ 10 กรกฎาคม พุทธศักราช 2478 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช(รัชกาลที่8) จึงทรงได้รับสถาปนาในหลวงภูมิพล เป็นพระเจ้าน้องยาเธอ ซึ่งสถานะนี้ไม่ใช่เรื่องน่าสนุกนักสำหรับเด็กผู้ชายที่อยู่ในวัยกำลังเล่นกำลังเรียน งานหนักจึงตกอยู่ที่ สมเด็จฯพระบรมราชชนนี ที่ซึ่งต้องลำบากพระทัยเป็นที่สุด แต่ท่านก็ได้ทรงแต่ความหวังแต่เพียงว่า ขอให้ได้ทรง “มีโอกาสอบรมลูกให้เป็นคนดี เพื่อจะได้ทำประโยชน์ให้แก่บ้านเมืองได้ในภายหน้า” ปี2479 “พระเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่8)” และ “สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ(ในหลาวภูมิพล)” พระนามเรียกขานอาจจะฟังดูยิ่งใหญ่ และหรูหรามากนักสำหรับคนทั้งหลาย แต่สำหรับพระองค์ทั้ง2แล้ว ทรงเป็นพี่น้องที่รักกันมาก พระเกียรติยศที่ทรงได้รับในฐานะที่ทรงเป็นเจ้านาย มิได้เป็นอุปสรรคในการที่จะทรงสนุกสนานกันตามประสาเด็กเลย ปี2480 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช(ในหลวงรัชกาลที่8) ท่านทรงมีความสนใจโปรดการเล่นกีฬา และงานช่างมาตั้งแต่พระชนมายุยังน้อย การที่ประทับอยู่ที่สวิสเซอร์แลนด์ในเวลานั้น แม้จะห่างไกลจากเมืองไทย แต่ก็มีคุณอยู่มาก เพราะได้ทรงพบเห็นอะไรหลายอย่างที่เป็นประโยชน์แก่หน้าที่ของพระมหากษัตริย์ในเวลาต่อมา ในปีนี้สายพระเนตรสั้นลงเป็นเหตุให้ต้องทรงฉลองพระเนตรนับแต่นั้นมา ปี2481 ปลายปีพุทธศักราช 2481 ราชสกุลมหิดลทั้ง 4 พระองค์ ก็ได้เสด็จกลับมาเมืองไทยชั่วคราว เพื่อให้ประชาชนเฝ้าชมพระบารมี ครั้งนั้นเป็นคราวแรกที่คนไทยได้เห็นพระเจ้าอยู่หัวพระองค์น้อย ๆ และพระอนุชา เสียดายแต่ว่าทรงมีเวลาอยู่ในเมืองไทยเพียงไม่กี่เดือน ก็ต้องเสด็จกลับไปทรงศึกษาต่อท่ามกลางความอาลัยรักและภักดีของพสกนิกรทั้งปวง ปี2482 เมื่อเสด็จกลับไปสวิสเซอร์แลนด์ได้ไม่นาน มหาสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็เริ่มขึ้น ในเดือนกันยายน พุทธศักราช 2482 สมเด็จฯพระบรมราชชนนีทรงตัดสินพระทัยที่จะประทับอยู่ในสวิสเซอร์แลนด์ต่อไป ด้วยทรงเห็นว่าเป็นประเทศที่เป็นกลาง การสงครามรบพุ่งกันคงไม่เป็นอันตรายต่อราชสกุลมหิดล ปี2483 ทุกปีในช่วงหยุดหน้าร้อน ในหลวงทั้ง 2 พระองค์ ก็จะทรงเสด็จประพาสตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ บางที่เขาจัดให้มีการออกกำลังกายบริหารทุกวัน มีบ่อน้ำให้ว่ายเล่น หรือได้ตีกรรเชียงในทะเลสาบบนภูเขา ซึ่งเป็นการสนุกและเหมาะแก่ความต้องการโดยแท้ ปี2484 ระหว่างที่เกิดมหาสงครามขึ้นทั่วโลกนั้น ทุกพระองค์ยังคงประทับอยู่ในเมืองโลซานน์ เวลานั้นต้องทรงพบกับความลำบากเนื่องจากสงครามบ้างเช่นกัน เช่น ยามสงครามมีน้ำมันน้อยต้องหันมาทรงใช้รถจักรยานแทน ปี2485 ระหว่างที่ประทับอยู่ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์นั้น รัฐบาลเช่าพระตำหนักถวายเป็นที่ประทับ เป็นบ้านขนาดใหญ่ 3 ชั้น สมเด็จฯพระบรมราชชนนี ให้ชื่อว่า พระตำหนักวิลล่าวัฒนา ซึ่ง ณ พระตำหนักแห่งนี้ ราชสกุลมหิดลได้ใช้เป็นที่ประทับ ตลอดระยะเวลาของมหาสงครามโลกครั้งนั้น ปี2486 พระบรมฉายาลักษณ์ภาพนี้ ในหลวงทั้ง 2 พระองค์ ทรงฉายกับนายเซอร์ราย ดาลิส พระอาจารย์ที่มาถวายสอนพิเศษที่พระตำหนัก ผู้มีหน้าที่มาเฝ้าที่พระตำหนักทุกวันเพื่อให้ทั้ง 2 พระองค์ทำการบ้าน สอนงานฝีมือช่างไม้ หรือนำเสด็จไปเที่ยวไหนต่อไหน เป็นต้น ปี2487 สองพระองค์ทรงศรีสวัสดิ์ คือร่มฉัตรคุ้มศิระไทยพ้นเข็ญ อยู่เย็นใจ ดั่งสุริย์จันทร์มิ่งขวัญเมือง.... ปี2488 เมื่อสงครามทางเอเชียสิ้นสุดลงกลาง ปี2488 ทางรัฐบาลไทยกราบบังคมทูลพระกรุณาขอให้เสด็จกลับมาเป็นมิ่งขวัญของพสกนิกรไทย แม้เพียงชั่วคราวก่อนที่จะเสด็จไปทรงศึกษาต่อก็ยังดี ทั้ง4พระองค์จึงได้เสด็จกลับมายังเมืองไทย โดยเสด็จถึงกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2488 พสกนิกรทั้งหลายที่มาเฝ้ารอรับเสด็จต่างพากันตื่นเต้นยินดีมาก เมื่อพระเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่8) และพระอนุชา ไม่ใช่เจ้านายน้อย ๆ น่ารักอย่างเช่นที่ได้ชมพระบารมีเมื่อคราวก่อน หากแต่ทรงพระเจริญขึ้นเป็นเจ้านายที่งดงาม ทั้งพระวรกาย และทั้งพระราชหฤทัย สมใจราษฎร ปี2489 แต่เช้าของวันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน พุทธศักราช 2489 ก็ได้เกิดเหตุร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของชาติไทยขึ้นในพระบรมมหาราชวัง เมื่อพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล(ในหลวงรัชกาลที่8)ได้ทรงต้องพระแสงปืนสวรรคต ค่ำของวันนั้นรัฐสภาได้ลงมติกราบบังคมทูลอัญเชิญสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช ทรงขึ้นครองราชย์ต่อ ตอนนั้นในหลวงภูมิพลทรงกังวลพระราชหฤทัยอย่างมากในการรับภาระอันหนักอึ้งครั้งนี้ เพราะตอนนั้นพระองค์มีอายุเพียง 18 ปีเท่านั้น ปี2490 เมื่อเสร็จงานบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพตามโบราณราชประเพณีแล้ว ในหลวงภูมิพล ก็ได้ทรงเสด็จกลับไปยังสวิสเซอร์แลนด์เพื่อทรงศึกษาต่อ แต่คราวนี้ทรงเปลี่ยนวิชาจากวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งมีความสนใจมาแต่เดิม มาทรงศึกษาทางรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ เพื่อให้เหมาะแก่รับภาระที่จะต้องทรงเป็นพระประมุขของประเทศ ถูกแก้ไข เมษายน 15, 2014 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ เมษายน 15, 2014 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ เมษายน 15, 2014 ยิงเวทีสวนลุมกลางดึก หนุ่มใหญ่ดวงดับสังเวย 1 ราย 15 เม.ย.57 ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร (ศูนย์เอราวัณ) สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 01.50 น.ที่ผ่านมา เกิดเหตุเสียงดังคล้ายปืนใกล้เวทีสวนลุมพินี มีผู้เสียชีวิตจาการถูกยิง ทราบชื่อ นายจีรายุทธ เสณาณรงค์ อายุ 40 ปี ถูกนำส่งโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สำหรับยอดผู้บาดเจ็บ จากการชุมนุมทางการเมืองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เหตุที่หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2556 จนถึงขณะนี้มีผู้บาดเจ็บแล้ว 741 ราย เสียชีวิต 22 ราย รวมเป็น 763 ราย และมีผู้บาดเจ็บที่ยังพักรักษาตัวในโรงพยาบาล 8 ราย แนวหน้า Yingluck Shinawatra รู้สึกสบายใจที่ได้กลับบ้านมาร่วมงานประเพณีโดยเฉพาะประเพณีปี๋ใหม่เมืองของชาวเชียงใหม่ ได้กลับมาร่วมทำกิจกรรมกับครอบครัว มารำลึกถึงครอบครัวและถึงบรรพบุรุษ ทำให้มีความสุข และ ขอขอบคุณประชาชนที่มาคอยให้กำลังใจในทุกๆที่ที่ไป ซึ่งถือเป็นสิ่งดีเป็นน้ำหล่อเลี้ยงกำลังใจให้มุ่งมั่นในการทำงาน ในโอกาสนี้ อยากให้ประชาชนที่ได้หยุดในช่วงสงกรานต์ใช้โอกาสนี้พักผ่อนอยู่กับครอบครัว โดยเฉพาะในวันนี้เป็นวันครอบครัวและเป็นวันผู้สูงอายุค่ะ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ เมษายน 15, 2014 แฉ..ความลับ added 65 new photos to the album เผย..ปมเหตุเสื้อแดงหมิ่นเบื้องสูง และพระราชทรัพย์ของราชวงศ์จักรี. 11 hrs · 13 เม.ย.57 เผย..ปมเหตุเสื้อแดงหมิ่นเบื้องสูง และพระราชทรัพย์ของราชวงศ์จักรี ราว 10 กว่าปีที่ผ่านมา บริษัทเผาไทย เจ้าของลัทธิทุนนิยมสุดโต่ง ร่วมกับคอมมิวนิสต์อกหักกลายพันธ์ ที่พ่ายแพ้สมัย นักฆ่าแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา เป็นนายก มีความพยายามจะรวบอำนาจการบริหารประเทศ ให้เป็นเหมือนบริษัทเอกชน จึงดำเนินการราว 5 แนวทางที่สำคัญ ตามลำดับ คือ 1. มุ่งสู่การบริษัทการเมืองเดียว ในยึดอำนาจบริหาร และนิติบัญญัติ โดยวิธีการ - ไม่สร้างพนักงาน ส.ส.ใหม่ แต่ใช้วิธีเป็นยี่ปั้วไปซื้อตัวพนักงาน ส.ส.จากบริษัทอื่น ที่เขาเป็นอยู่แล้ว ด้วยราคา 50-60 ล้านบาทต่อหัว - บีบบังคับให้ยุบบริษัทเดิม มาควบรวมกิจการ กับบริษัทเผาไทย แต่แบ่งย่อยเป็นมุ้งเล็ก มุ้งน้อย และมี CEO เป็นชายดูไบ ชี้นิ้วสั่งการตั้งแต่สากกะเบือ ยันเรือรบ เสมือนฮิตเลอร์ ของบริษัทว่างั้นเถอะ - ช่วงแรกๆ ชายดูไบ จะมีค่าหัวคิวการเสนอชื่อเป็น รตม.เช่น รมต.ค้าขาย 250 ล้านบาท ถ้ายังไม่มีเงิน ก็โอนโรงแรมให้เขา เป็นค่าหัวคิวแทน ตามที่เคยเล่าไปแล้ว - ต่อมาคดโคงจนรายได้ดี ก็จะมีเงินเดือนบริษัทจ่าย ส.ส. , ส.ว. ต่างหากจากเงินเดือนหลวง ในอัตราเดือนละ 50,000 – 100,000 บาท , ค่าคอมมิสชั่นยกมือผ่านกฎหมายอีกต่างหาก เช่น ถ้าเรื่องสัมปทานแบบนี้จะตกราว Job ละ 5 แสน – 1 ล้านบาท , เทศกาลทางประเพณีมีโบนัสต่างหากราว 1 แสนบาท - ต่อมาใครจะลง ส.ส.แบ่งเขต หรือปาร์ตี้ลิส , ส.ว.ประเภทเลือกตั้ง , ใครจะเป็น รมต. , ผู้ช่วย รมต., เลขา ฯลฯ ต้องทำบัญชี 1,2,3 เสนอ CEO ชายดูไบ Approved ก่อน และเขาจะปรับแก้ ตามเงินที่เสนอให้ เช่น ต้องการสมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิส ลำดับต้นๆ ต้องจ่าย 60 ล้านบาท - ตำแหน่ง รตม.ไม่ต้องพูด และคิด มีหน้าที่เซ็นต์อนุมัติ ตามที่มี Note ปะหน้าหนังสืออย่างเดียว ทุกโครงการต้องจ่ายให้ CEO บริษัท 50% ผ่านสารพัดนอมินี ที่เหลืออีก 50% เจ้าของโครงการไปโกงเอาเข้ากระเป๋าเองตามใจชอบ เม็ดเงินโครงการ 100 % จะเหลือไปถึงประชาชนจริงๆ ไม่เกิน 5-10 % เท่านั้น จึงเป็นสาเหตุสร้างถนนก็พัง , ตึกก็ร้าว, สีก็ร่อน , วัสดุ อุปกรณ์ เจ้งวินาศหมด จะได้ตั้งโครงการจัดซื้อ จัดจ้างใหม่บ่อยๆ เขาชอบ 2. หลอกมวลชน คือ เข้าถึงระบบรากหญ้า ที่เป็นมวลชนยากจนจำนวนส่วนใหญ่ของประเทศ ให้ทั่วถึงมากที่สุด โดย - ให้ข้อมูลเฉพาะมุมที่ดี และกระทำในสิ่งที่หัวหน้าชุมชน รับนโยบายจากบริษัทเผาไทย ไปถ่ายทอดสู่คนรากหญ้า - เสกสรรปั้นแต่งให้เวอร์เกินจริง เช่น หลอกรากหญ้าว่าถ้าเลือกบริษัทการเมืองอื่น จะยกเลิก 30 บาทรักษาทุกโรค, จะยกเลิกการพักหนี้ ธ.ก.ส. , จะยกเลิกการจ่ายเงินเดือนคนแก่ , จะไม่ให้กู้กองทุนหมู่บ้าน ฯลฯ 3. รื้อระบบราชการเดิมที่เข้มแข็งทั้งหมด แล้วทำให้อ่อนแอ โดย - ใช้ระบบซื้อขายตำแหน่ง แล้วแต่งตั้งไปอยู่ในระดับมอบนโยบายทางราชการทุกส่วน หรือแต่งตั้งโยกย้ายระดับรองลงไป - ล้วงลูก ก้าวก่าย บังคับ ระบบงานราชการ ให้ทำผิดจากหน้าที่ตามที่ CEO บริษัทเผาไทยต้องการ - คัดเลือกคนไปเป็น ข่มขู่ ติดสินบน หรือบีบบังคับองค์กรอิสระต่างๆ เช่น กกต. ปปช. ฯลฯ ให้ขึ้นตรงกับหัวหน้าบริษัทเผาไทยเพียงคนเดียว “ ไฮ้!! ฮิตเลอร์ “ 4. หนุนทุนนิยมอย่างบ้าครั้ง ให้ประชาชนอุปโภคและบริโภคทรัพยากรมากๆ คือ - ให้ใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ของฟุ่มเฟือยต่างๆ เช่น กู้กองทุนหมู่บ้านมาซื้อโทรศัพท์มือถือ , รถมอเตอร์ไซต์ , คนชั้นกลางก็ยุให้ซื้อรถยนต์ บ้านจัดสรร เพราะพรรคพวกตนผลิตของ และอะไหล่ไว้รอจำหน่ายแล้ว - โฆษณาชวนเชื่อ ด้วยสื่อมวลชนรับจ้างในเครือข่าย ที่ถูกซื้อตัว ให้สร้างภาพบริษัทเผาไทย จากผิดเป็นถูก และ CEO เก่งเกินมนุษย์ ตลอดเวลา ตามวิธีการ 7 อย่างที่เคยเล่าไปแล้ว - หาเรื่องลงทุนในโครงการใหญ่ๆ อ้างว่ายกระดับคุณภาพชีวิตให้ประชาชน เช่น ปล่อยข่าวว่าจะยุบโรงเรียนขนาดเล็กหลายหมื่นโรงให้ปั่นป่วน แล้วไปตั้งโครงการซื้อรถตู้แสนแพงไปแจกโรงเรียน แค่อยากได้เปอร์เซ็นต์ , ซื้อแท๊ปเล็ตพีซี เป็นล้านเครื่อง จากตัวแทนเทียมที่มีออฟฟิสเป็นอาแปะ กับอาม่า แค่ห้องแถวเดียว ฯลฯ 5. บั่นทอนสถาบันเบื้องสูง ที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศ โดย - เต้าข่าว ปล่อยข่าว ให้ร้ายเบื้องสูง เสียๆ หายๆ ให้ประชาชนผู้หูเบา ซุบซิบนินทา ให้คล้อยตาม เช่น เต้าข่าวว่ามีความขัดแย้งในราชวงศ์ เรื่องการตั้งรัชทายาท เรื่องการเลือกข้าง จากต้นตอหลัก คือ ท่านผู้หญิง ว.ผ่านเครือข่ายของมวลชนบริษัทเผาไทย โดยที่ไม่มีมูลความจริงใดๆ สักเพียงน้อย - ผสานกับ NGO ที่เป็นนักวิชากำกวม , สื่อวิทยุออนไลน์ต้นต่อจากต่างประเทศ , เว็ปไซต์ , สื่อสังคมออนไลน์ , วิทยุชุมชน, แดงล้มสถาบัน โดยอ้างง่ายๆ ว่าต้องการความเท่าเทียม ในความเป็นจริงเบื้องหลัง คือ กลุ่มพวกนี้ได้ทุนอุดหนุนที่กองทุนต่างชาติเอกชนแห่งหนึ่ง เมืองลุงแซม ที่ให้ทุนปี 1,500 ล้านบาท เพื่อให้ใส้ร้ายสถาบันเบื้องสูง ในทุกประเทศที่ยังมีสถาบันนี้อยู่ - ในไทยมีฐานเป็น NGO ใหญ่ทำงานกับต่างชาติอยู่อำเภอแห่งหนึ่ง ในจังหวัดที่วางแผนจะตั้งเป็นเมืองหลวงใหม่ สปป.ล้านนา โดยแอบแฝงในรูปการทำวิจัย เพื่อฟอกเงินให้กับนักวิชากำกวมหลายคนในส่วนกลาง และภูมิภาค เช่น มหาวิทยาลัยตีหนึ่ง - เครือข่ายวิทยุชุมชน มีเครือข่ายโกเต็กเรดการ์ด เป็นแกนสำคัญในนาม กวป. ล่าสุดมีการเผยแพร่ใบสมัคร และเรียกประชุมกันที่ รร.แห่งหนึ่ง ฝั่งเดียว ใกล์กับศูนย์ราชการนนท์ ชี้แจงการโอนเงินสนับสนุนสถานีภาคเหนือ และอีสาน เดือนละ 5 พันบาท , ภาคไต้เดือนละ 1 แสนบาท แกนนำสถานี 2 แสนบาท โดยมีข้อแม้ว่าต้องเกี่ยวสัญญาณเสียงหมิ่นเบื้องสูง ที่ต้นทางมาจากต่างประเทศ เช่น ชูพงศ์, เพียงดิน ที่เจาะวิทยุแท็กซี่ หรือ ในประเทศจากเครือข่าย กวป. ฯลฯ จากระบบอินเตอร์เน็ตของแก๊งค์นี้ วันละไม่ต่ำกว่าระยะเวลาที่กำหนด - ทางเว็ปไซต์และสื่อสังคมออนไลน์ จ้างไว้ 3 พันคน เงินเดือนประมาณ 2.8 หมื่นบาท ให้ตัดต่อภาพ โพสป่วน ปล่อยข่าวลือให้ร้าย โพสหมิ่นเบื้องสูง สร้างเว๊ปไซต์หมิ่น เช่น เว็ปประชาลาว , พันทิบ ชื่อห้อง เหมือนสนามมวยแห่งหนึ่ง แก๊งค์นี้ได้รับทุนหนุนจากแก๊งเลวแล้วรวย และ รมต.เทคโน มีการจัด Meeting ร่วมกันเป็นประจำ ในสภาพความเป็นจริงคือ สถาบันเบื้องสูง และรัชทายาท ทุกพระองค์ ไม่เคยลงมายุ่งเกี่ยวใดๆ ทางการเมืองเลย ข่าวที่เกิดขึ้นตลอดมา จึงเป็นเรื่องโป้ปดมดเท็จ ตัดต่อภาพนิ่ง วิดีโอ ที่เกิดจากแก๊งค์นี้นั่นเอง สาเหตุสำคัญที่แก๊งค์อั้งยี่แดง ต้องการทำลายและล้มล้างสถาบันเบื้องสูง ก็เพราะยังเป็นสถาบันหลัก ที่คนไทยทุกสีเคารพและศรัทธา ตามรากฐานวัฒนธรรมดังเดิมกว่า 800 ปีที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ยังคงสามารถสร้างความสมัครสมานสามัคคี ยึดโยงเป็นปึกแผ่น เป็นศูนย์รวมใจของประชาชนไทยไว้ได้ ไม่ได้เกิดจากการอำนาจ แต่เกิดจากทรงพระปรีชาสามารถ ทรงคุณงามความดี และมีพระเมตตา แก่ราษฎรทุกคน ทุกศาสนา อย่างทั่วถึงเท่าเทียมกัน จึงเป็นจุดแข็งให้อำนาจตุลาการ มีความเข้มแข็ง ตรงไปตรงมา ให้ความเป็นธรรมกับประชาชน ไม่ว่าร่ำรวย หรือยากจน ก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายกติกาเดียวกัน ทำให้บริษัทเผาไทยยึดอำนาจประเทศได้แค่อำนาจบริหาร และนิติบัญญัติ เท่านั้น การคดโกงต่างๆ จึงไม่รอดจากอำนาจตุลาการได้นั่นเอง เมื่อแทรกแซงอำนาจตุลาการไม่ได้ ก็ต้องทำลายสถาบันเบื้องสูงเสีย และแก้กฎหมายใหม่ เช่น พรบ.ล้างผิดสุดซอย , เพื่อให้ตุลาการต้องตัดสินตามความต้องการของตน แต่ก็มาถูกมวลมหาประชาชนนำโดยกำนัน รู้ทันและออกมาขัดขวางจนแท้งไปอีก จะสลายมวลชน กปปส.ก็โดนนักรบป๊อบคอร์นสลายชุดดำซะเอง ต่อมาพวกโลกสวยต้องออกมาเรียกร้อง ขอให้เอาบังเกอร์ออกไป กดดันชายชุดเขียวที่วางกำลังเรือนหมื่น ให้ถอนกำลังเข้าที่ตั้งไป เพื่อที่แก๊งค์ก่อการร้ายสากล จะได้บรรจงเล็งยิงอาวุธสงคราม M79 ใส่ศาล ปปช. มวลมหาประชาชนได้สะดวกแม่นยำ แต่ก็ไม่ใครสนใจใยดีทำตาม ทำให้แดงพวกนี้ดิ้นๆๆๆ ที่ทำอะไรไม่ได้เลย จึงต้องหันมาเร่งให้โจมตีให้ร้ายเบื้องสูงอย่างหนักอีกครั้ง บริษัทเผาไทย และแก๊งค์อั้งยี่แดง จึงเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการที่สำคัญ ของพวกนักวิชากำกวม แดงโลกสวย และแดงหมิ่นสถาบันนั่นเอง มีการโจมตีให้ร้ายเรื่องทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โดยให้ข้อมูลผิดๆ กับพวกที่หูเบา เชื่อคนง่าย เกี่ยวกับทรัพย์สินมูลค่ามาก ของ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตรย์ ที่ฝรั่งไปเอามูลค่าของบริษัท ในตลาดหลักทรัพย์ เช่น บริษัทปูน ธนาคารค้าขาย ฯลฯ มารวมเหมาเอาว่าเป็นทรัพย์สินของในหลวงด้วยนั้น เป็นเรื่องที่ใส่ร้ายทั้งเพ ทรัพย์สินของพระมหากษัตริย์ เดิมทีเป็นพระราชทรัพย์ของราชวงศ์จักรี ได้ถูกยึดมาเป็นของรัฐ ทั้งหมดนานแล้ว เมื่อครึ้งปฎิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองฯ เมื่อ พ.ศ. 2475 ทั้งหมดได้ตกเป็นของรัฐไปหมดแล้ว โดยรัฐสมัยนั้นออก พรบ.จัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ พ.ศ. 2479 และได้จัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาดูแล คือ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เดิมมีสถานะเป็นหน่วยราชการระดับกอง ในสังกัดกระทรวงการคลัง ให้ รมต.คลังของรัฐ แต่ละสมัยเป็นประธานควบคุมดูแล ต่อมามีการแก้ไขปรับปรุง จนจัดตั้งยกระดับหน่วยงานขึ้นมาดูแลใหม่ มีสถานะเป็นนิติบุคคลเมื่อปี พ.ศ. 2491 ที่ตั้งอยู่ที่ วังแดง ถนนนครราชสีมา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ที่ดินของราชวงค์ ก็ถูกยึดมาใช้ประโยชน์เรียกว่า ที่ดินราชพัสดุ , สมบัติที่ยึดมาทั้งหมด กระทรวงการคลัง ก็ดูแลออกดอกออกผล อยู่จนถึงบัดนี้ โดยทรัพย์สินส่วนนี้จึงไม่ต้องเสียภาษีเพราะเป็นของรัฐเอง ใครเป็นรัฐบาลก็จะได้ใช้ประโยชน์ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ เมษายน 15, 2014 ธนาคารออมสิน รัชกาลที่ 6 ก็ทรงตั้งด้วยเงินส่วนพระองค์เริ่มต้นเอง ท่านวางระเบียบไว้เดิมให้เสนาบดีพระคลังเป็นคนดูแล จนถึงปัจจุบันมีเงินเพิ่มพูนเป็นแสนล้านบาท ก็กลายเป็นธนาคารของรัฐ 100 เปอร์เซ็นต์ไปแล้ว ปัจจุบัน รมต.คลัง ก็เป็นคนดูแลเอง ตั้งกรรมการได้เอง ทั้งคณะ รัฐจึงเอาเงินไปใช้ได้สะดวก ดังนั้นใครกล่าวร้ายว่าพระองค์ท่านร่ำรวยที่สุดในโลกนั้น ท่านกำลังทำบาปอย่างมหันต์ เพราะทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ปัจจุบันนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับสถาบันเบื่องสูงเลยสักน้อย พระราชวงค์ไม่มีสิทธิ์ใดๆ ในทรัพย์สิน หรือในธนาคารใดๆ เลย..เคยมีบันทึกในประวัติศาสตร์รัชกาลที่ 8 ไว้ว่า " แม้แต่รถก็ไม่มีให้ใช้ หากแม่เราป่วยจะไปโรงพยาบาลจะไปอย่างไร "..จะพูดก็ได้ว่า ในหลวงรัชกาลปัจจุบัน ท่านทรงเป็นพระมหากษัตริย์ ที่ทรงยากจนทรัพย์มากด้วยซ้ำไป ที่เป็นทรัพย์ของส่วนพระองค์ จริงๆ ก็เกิดการที่ประชาชนสาขาต่างๆ บริจาคให้ตามพระราชอัธยาศัย หรือโดยเสด็จพระราชกุศลเข้ามูลนิธิต่างๆ เช่น มูลนิธิชัยพัฒนา ฯลฯ ทรัพย์ที่บริจาคก็ตามศรัทธา เช่น ที่ดิน ทุนทรัพย์ ฯลฯ ที่เราเห็นทางทีวีบ่อยๆ นั่นเอง แต่มีไม่มากนัก ทรัพย์ส่วนนี้เรียกว่า "ทรัพย์สินส่วนพระองค์" และในหลวงท่าน ก็จะเสียภาษีอากรภายใต้กฏหมายเหมือนประชาชนทั่วไปนั่นแหละ ใครอยากรู้ว่ามีเท่าไร ก็ไปตรวจสอบที่กรมสรรพากรเอา ทรัพย์สินส่วนนี้ดูแลโดยสำนักงานจัดการทรัพย์สินส่วนพระองค์ และทรัพย์สินส่วนสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ซึ่งอยู่ในความดูแลของสำนักพระราชวัง ยามประชาชนเดือนร้อน และทุกข์ยาก ในหลวง พระราชินี และองค์รัชทายาท ท่านก็จะพระราชทานให้นำทรัพย์สินส่วนพระองค์นั้น กลับคืนมาสู้ราษฎร์ของท่านอีก เช่น ทรงบริจาคที่ดินทำกินประเดิมให้ผู้ยากจน ถุงยังชีพพระราชทานยามเกิดอุทกภัย หรือภัยพิบัติ หรือโครงการพระราชดำริส่วนพระองค์ จะมีราษฎรสักกี่คนที่ทราบว่า วังสวนจิตรที่ในหลวงประทับนั้น เป็นบ้านที่เล็กกว่าบ้านของเศรษฐีไทยหลายพันคน และเล็กกว่าแม้กระทั่งบ้านของอดีต รมต.หลายร้อยคนด้วยซ้ำ วังสวนจิตรลดาถึงแม้จะมีบริเวณใหญ่ แต่ส่วนที่เป็นที่ประทับมีบริเวณเล็กมาก ที่ดินส่วนใหญ่เป็น โรงเรียน โรงงานทดลองทำปุ๋ย เลี้ยงวัว ทดลองปลูกข้าว โรงสี ฯลฯ ใครไม่เชื่อและอยากตรวจสอบตามที่เห็นพูดเหย็งๆ กัน อย่ารอช้า ให้ไปพิสูจน์ด้วยตาตนเองเลย ประชาชนทั่วไปเขาอนุญาตให้เข้าไปได้สะดวกง่ายๆ ถึง รร.จิตรลดา เลย ได้โดยขอแลกบัตร ได้จากบริเวณโรงเรียน ก็สามารถมองเห็นอาคารที่ในหลวงประทับ ห่างออกไปเพียงไม่ถึง 100 เมตรเท่านั้น พวกที่หมิ่นทั้งหลาย กล่าวร้ายว่าท่านร่ำรวย อย่าเชื่อใคร แต่ให้ไปเห็นด้วยตาตนเอง เห็นกับตาว่าพระองค์ท่านกิน อยู่ แบบคนไทยชั้นกลางทั่วๆ ไป เท่านั้นเอง ไม่ใช่แบบเศรษฐีไทย อย่างแน่นอน ช่างซ่อมรองพระบาท (รองเท้า) ของพระองค์ท่าน เล่าว่า ท่านจะส่งรองเท้าเก่าๆ ของท่านมาซ่อมตลอด จนซ่อมไม่ไหว รองพระบาทเก่าคู่นั้น ช่างยังเก็บไว้ให้เราไปดูได้ , สมาคมทันตแพทย์ไทย เคยไปขอพระราชทานหลอดยาสีฟันเก่า ที่ทรงใช้ได้จนหยดสุดท้าย โดยรีดจนหลอดแบนเป็นกระดาษ ไปขอดูที่สมาคมฯ ได้เลย , แม่แต่ดินสอดำ ที่พระองค์ท่านทรงขีดเขียนงานต่างๆ ท่านก็ทรงเบิกใช้เพียงเดือนละ 1 ด้ามเท่านั้น และพระองค์ท่านก็เขียนและเหลา เสียจนสั้นจู๋เลย เงินที่คดโกงจากภาษีประชาชนไป ลูกสาวทอมชายดูไบ ใช้ชีวิตหรูหรา เที่ยวเมืองนอก กินไข่ปลาแพงๆ ถ้วยละ 2 แสนบาท , สมุนบริวาร เอามาจ้างหลอกประชาชนมาชุมนุม หัวละ 300, 500, 1000 บาท แล้วอมคาหัวคิวนี้ไป คากคกตู่ซื้อนาฬิกาเรือนละล้านกว่าบาทใส่ , ใส้เดือนเต้นขึ้นบ้านใหม่ 70 ล้านบาท , ไข่มุกดำ มีร้านอาหารอยู่เมืองผู้ดี..เรียกร้องประชาธิปไตยกันจนน้ำลายหก..แล้ววันนี้คนเสื้อแดงรากหญ้ามีอะไร?..ได้เงินจำนำข้าวหรือยัง?..ไปถาม รมต.ช.ค้าขายหน่อย ว่าสต๊อคข้าวเหลือกี่ตัน ขายไปแล้วกี่ตัน..ดูซิมันจะตอบคำถามง่ายๆ แบบนี้ได้ไหม? พวกหมิ่น กล่าวร้ายเบื้องสูงอยู่ มีวาสนาแค่ไหนแล้ว ที่ได้เกิดมาในประเทศไทยที่แสนจะมีความสุขสบาย ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว และมีพระมหากษัตริย์ที่แสนจะประเสริฐ การใส่ร้าย ป้ายสี พระองค์ท่านต่างๆ นาๆ ไม่ได้ให้ความเป็นธรรมกับพระองค์ท่านเลย อยากจะบอกว่าในหลวงท่านถูกรังแก จากราษฎรที่ไม่ดีของท่านเอง มีพวกบ้าโรคจิต ที่ออกมาเรียกร้องให้ยกเลิก มาตรา 112 อยากจะถามว่ามีมาตรานี้แล้วมันทำให้กินเงินจำนำข้าวไม่ลง , ยิง M79 ไม่ได้ , ว.5 ไม่สะดวก , กู้มาโกง 2.2 ล้านๆ ไม่ได้ หรือมันหนักกะบาลใครตรงไหน? มาตรานี้ เป็นหนึ่งในประมวลกฎหมายอาญา มีเนื้อหา คือ “มาตรา 112 ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จ ราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี” มาตรานี้ไม่มีผลอะไรเลยกับคนทั่วไปเลย แต่มีผลกับคนหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย เบื้องสูงเท่านั้น ถ้าใครไม่ทำก็ไม่เห็นต้องดิ้นรนไปทำไม เหมือนกฎหมายบัญญัติว่าถ้าโกงจำนำข้าวจะต้องออกจากตำแหน่ง และต้องติดคุก..ก็ถ้าไม่ได้โกงจำนำข้าวจะมาเดือดร้อน ดิ้นๆๆ ทำไม !! พวกเราธรรมดาใครมาหมิ่นประมาทก็สวนตอบโต้ได้ แต่เบื้องสูงท่านลงมาโต้ตอบกับพวกหมิ่นไม่ได้เหมือนคนทั่วไป จึงจำเป็นต้องมีมาตรา 112 นี้ไว้ กันพวกทุยแดงตกมันมาขวิดเอา ประมุขของประเทศใดก็ตาม ย่อมถือเป็นเกียรติยศสูงสุดของประเทศนั้น แค่มีมาตรา 112 ทุยแดงยังหมิ่นกันขนาดนี้ และอาฆาดมาร้ายท่าน กันทุกวัน ถ้าไม่มีมาตรา 112 พวกนี้ก็จะรังแกท่านสบายเลย โดยที่ท่านก็ทำอะไรไม่ได้ สรุปกฎหมายมาตรานี้มีไว้เพื่อปกป้องพระองค์ท่านจากคนพาลนั่นเอง ส่วนบางคนก็สงสัยว่า ชายดูไบ ทำไมถูกพิพากษาโดยศาลเดียว? และจำคุก 2 ปี ทำไมไม่กลับมารับโทษสักพัก ก็ออกมาได้แล้ว ? เรื่องนี้อธิบายดังนี้ 1. ถูกพิพากษาโดยศาลเดียว คือ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งการเมือง ก็เพราะกฎหมายเขาเขียนไว้ เพราะนักการเมืองมีวาระแค่ 4 ปีเอง และส่วนใหญ่ก็หลุดจากตำแหน่งก่อนวาระเสมอ รมต.บางคนเป็น 6 เดือนเอง สมัยปูเน่าปรับ รมต.ถี่มาก ราวกว่า 200 คนได้มั้งที่ได้เป็น รมต. (นับรวมคนที่เป็นซ้ำด้วย) แทบเป็น รมต.กันทั้งบริษัทอยู่แล้ว แล้วแบบนี้จะให้สู้คดี 3 ศาล เป็น 10 ปีได้ไง มันก็ตายไปก่อนแล้ว และพวกนี้เล่ห์เหลี่ยม และเงินมาก กฎหมายเขาถึงบัญญัติให้ศาลเดียวพอ 2. จำคุก 2 ปี ทำไมไม่กลับมารับโทษ..มันตัดสินไปได้แค่คดีเดียวแล้วเหลี่ยมมันหนีเตลิดไป มันยังมีคดีค้างที่ศาลอีกราว 15 คดีที่รออยู่ และคดียังไม่จำหน่าย จะเดินหน้าพิจารณาคดีก็ไม่ได้ เพราะผู้ต้องหายังไม่มาปรากฏตัวในการพิจารณาคดีนัดแรก..ขืนเหลี่ยมยอมมาเข้าคุกคดีที่ตัดสินไปแล้ว ก็จะต้องถูกอายัดตัวทันที นำขึ้นปรากฏตัวในที่ดีที่เหลือ 2, 3,4...15 ที่นี้การพิจารณาจะเป็น Auto Run ไปเรื่อยๆ จนถึงพิพากษาได้เลย โดยไม่สนใจว่าเขาจะอยู่ที่ไหน ที่นี้เหลี่ยมก็กลัวซิ ขึ้นเจอจำคุกอีกสัก 10 คดี x 2 ปี = 20 ปี..พอออกจากคุกคดีแรก ก็ต้องมาติดคุกต่อคดีที่ 2 ที่ 3...ที่ 10 เพราะคดีต่างเรื่อง ต่างกรรม ต่างวาระกัน..ก็ตายคาคุกซิ นี่แหละที่เหลี่ยมกลัวหนักหนาไม่กล้าเข้ามา ทั้งที่ทุกคนก็กวักมืออยากให้เข้ามาวันนี้เลย จะช้าอยู่ใย มันถึงอยากให้นิรโทษกรรมไง จะได้ล้างคดีเก่า และคดีที่กำลังรอพิจารณาอยู่ แถมยังจะต่อรองเอาเงินที่โกง 4.6 ล้านบาทคืน บอกว่ากว่าจะโกงมาได้ขนาดนี้ยากนะ ขอคืนเถอะ..บ้าไปแล้ว แบบนี้เหลี่ยมก็ต้องหนีโทษจำคุกคดีแรกต่อไป จนกว่าจะหมดอายุความ 15 ปีนับแต่วันพิพากษา ช่วงสงกรานต์นี้ เขาจึงทำได้เพียงสไกป์จากเกาะฮ่องกง มาหาญาติที่เชียงใหม่ หน้าตาไม่สดชื่น แววตากังวล หน้าเหี่ยว ใหล่ห่อ คอตก มีเงินมากมาย แต่หาความสุขสบายที่แท้จริงไม่ได้ เพราะหมิ่นเบื้องสูง พอลูกน้องถามท่านจะเอายังไง ชายดูไบ ตอบว่า “ผมไม่ยอม ให้พวกเราลงใต้ดิน" เพราะเขาสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็นจริงๆ..หลังสงกรานต์คนเสื้อแดงที่มาชุมนุม ได้ลงไต้ดินแน่ๆ เตรียมถูกพวกเดียวกันบอมบ์ ศพแหลกเหลวถูกฝังอยู่ไต้ดินนั่นแหละ ไปอ่านเนื้อหาฉบับเต็มที่ https://www.facebook.com/media/set/?set=a.229023367287698.1073741971.187529244770444&type=1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ เมษายน 15, 2014 เปิดบันทึกลับ !!! ทำไมเธอต้องติดคุก เพราะผลกรรมที่กระทำ จากการบ้านของ นายถา ผู้อยู่เบื้องหลังเขาสุเทพเชียงใหม่ ได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับประเด็นคำถามที่มีคำตอบ เกี่ยวกับคดีสำคัญที่ถูกมองว่าจะเป็นประเด็นทำให้ หญิงผู้น่าสังเวชพ้นจากตำแหน่งและต้องเดินหน้าเข้าคุก ตามหลักวงเวียนกรรมตามประสาสัตว์โลกที่เกิดจากการกระทำของตัวเอง หากมาย้อนดูคดีสำคัญ2 คดีคือคดีการโยกย้ายถวิล เปลี่ยนสี เลขาธิการสมช.และคดีทุจริตการจำนำข้าวค่าเป็นแสนๆล้าน จะเห็นอะไรชัดขึ้นว่า กรรมยุติธรรมเสมอ จากคดีของถวิล จะเห็นขั้นตอนโดยละเอียดว่า 30 มิ.ย.52 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขาธิการ สมช. 5 ก.ย.2554 ให้ย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรีเลขาธิการสมช. ไปเป็นที่ปรึกษานายก รัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ 8 กุมภาพันธ์ 2554 ถวิลเข้าแจงกพค.หลังร้องโยกย้ายไม่เป็นธรรม 9 ก.ย.54 เวลา 13.00 น. ข้าราชการจากสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) 'ร่อนหนังสือค้านเด้ง'ถวิล' 31 พฤษภาคมพ.ศ. 2556 ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่ง ให้เพิกถอนคำสั่งของสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ให้นายถวิลไปปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้นายถวิล กลับไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติตามเดิม 7 มีนาคม พ.ศ. 2557ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้คืนตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ แก่นายถวิล เปลี่ยนศรี ภายใน 45 วัน นี้คงชัดว่าในคดีนี้หญิงผู้น่าสังเวชมีความผิดตามกฎหมาย ที่สำคัญในคดีนี้มีการนำเข้าสู่คณะรัฐมนตรี การตัดสินของศาลรธน.จึงไม่ได้เป็นเรื่องยาก เพราะมีคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุดเป็นบรรทัดฐาน แถมมีการสู้มาแล้วถึง2ศาลที่ยืนยันว่าเธอและครม.เจตนากระทำความผิด ส่วนชายผู้น่าสังเวชนั้นให้สู้ในประเด็นเธอพ้นจากตำแหน่งไปแล้วเป็นเพียงรักษาการ นั้นยิ่งชัดว่าเธอกระทำความผิดไปแล้วในขณะดำรงตำแหน่ง ส่วนจะเลี่ยงบาลีว่าไม่ได้เป็นนายกแต่เป็นรักษาการ วิธีนี้คงหลอกพวกเดียวกันได้ หลอกผู้พิพากษาและคนไทยคงมิได้ หากถูกชี้มูลครั้งนี้นอกจากจะชี้ว่าพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะแล้ว คงจะมีของแถมคือคุก ตามกฎหมายระบุว่ามาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาทหรือ ทั้งจำทั้งปรับ โดยคำตัดสินคงยึดวันกระทำคสามผิด และพ้นจากหน้าที่นายกรัฐมนตรีในการกระทำความผิด5 ก.ย.2554 ส่วนในคดีทุจริตจำนำข้าวที่มีมูลค่ากว่า 5 แสนล้านบาท และยังคงค้างจ่ายชาวนาอีก1.3แสนล้านบาทนั้น สรุปที่มาที่ไปอันบ่งชี้การกระทำความผิดได้ดังนี้ ๙ มกราคม ๒๕๕๕ "1. หนังสือสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ด่วนที่สุด เลขที่ ตผ ๐๐๑๒/๔๒๑๖ ลงวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๔ เรื่องสรุปประเด็นปัญหาและความเสี่ยงสำคัญ ที่พบจากการตรวจสอบการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าวเปลือก " ๙ มกราคม ๒๕๕๕ "2. หนังสือสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ด่วนที่สุด เลขที่ ตผ ๐๐๑๒/๐๐๖๗ ลงวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๕๕ เรื่อง ปัญหาและความเสี่ยงสำคัญที่จะส่งผลกระทบ ให้เกิดความเสียหายต่อการดำเนินโครงการรับจำนำข้าว " ๑๐ กันยายน ๒๕๕๕ "3. หนังสือสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ด่วนที่สุด ตผ ๐๐๑๒/๕๒๔๗ ลงวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๕๕ เรื่อง ปัญหาและความเสี่ยงสำคัญ ที่จะส่งผลกระทบให้เกิดความเสียหายต่อการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือก" ๓๐ มกราคม ๒๕๕๗ "4. หนังสือสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ด่วนที่สุด เลขที่ ตผ ๐๐๑๒/๐๒๘๐ ลงวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๕๗ เรื่อง การตรวจสอบและศึกษาวิเคราะห์โครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล และรายงานการตรวจสอบและศึกษาวิเคราะห์โครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาลฉบับเต็ม" วันอาทิตย์, 04 กันยายน 2554 ดร.อัมมาร์ กลืนไม่เข้า คายไม่ออก จวก ‘จำนำข้าว’ ไม่ควรออกแบบมาตั้งแต่ต้น วันอังคาร, 06 กันยายน 2554 ป.ป.ช ฟันธง จำนำข้าวเอื้อทุจริต จี้รบ.ยิ่งลักษณ์ ทบทวน วันจันทร์, 26 กันยายน 2554 “กิตติรัตน์” เมิน “มาร์ค” จี้ประกันรายได้ช่วยน้ำท่วม โต้ “อุ๋ย” จำนำข้าวไม่มีเจ๊ง วันพุธ, 11 มกราคม 2555 จำนำข้าว-คูปองน้ำท่วม เปิดช่องโกง “อภิสิทธิ์” แนะออกแบบนโยบาย ไม่เป็นมิตรต่อคอร์รัปชั่น วันอังคาร, 17 มกราคม 2555 จำนำข้าว ป่วนตลาดส่งออก ต้นทุนพุ่งพ่ายคู่แข่ง วันจันทร์, 23 เมษายน 2555 ทักษิณ ย้ำ “จำนำข้าว” เป็นประโยชน์ต่อชาวนาที่สุด ให้คิดใหม่กี่ครั้งก็เลิกไม่ได้ วันพฤหัสบดี, 26 เมษายน 2555 นิพนธ์ พัวพงศกร' หวังนักการเมืองน้ำดีพรรค พท. ล้มจำนำข้าวก่อนหายนะ วันศุกร์, 20 ธันวาคม 2556 10:45 ป.ป.ช.คาดสรุปแจ้งข้อหาคดีจำนำข้าว ม.ค.57 “วิชา” เผยอนุไต่สวนป.ป.ช.เตรียมสรุปแจ้งข้อหา “บุญทรง” อดีตรมว.พาณิชย์ ในคดีทุจริตจำนำข้าวหรือไม่ ม.ค.57 วันจันทร์, 13 มกราคม 2557 18:45“ปู-บุญทรง” ลุ้น ! ป.ป.ช.ถกแจ้งข้อหาคดีโกงจำนำข้าว 16 ม.ค. “ยิ่งลักษณ์-บุญทรง” ลุ้น คณะทำงานชง ป.ป.ช.พิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาคดีทุจริตจำนำข้าว 16 ม.ค.นี้ วันพุธ, 15 มกราคม 2557 22:21 ป.ป.ช.เตรียมแจ้งข้อหา “บุญทรง” คดีจำนำข้าว กรณีจีทูจีเก๊ ป.ป.ช.เตรียมแจ้งข้อหา “บุญทรง” คดีจำนำข้าว หลังพบจีทูจีเก๊-ส่วน “ยิ่งลักษณ์” อาจถูกตั้งอนุไต่สวน ปมข้าวถุง วันศุกร์, 17 มกราคม 2557 21:50 ป.ป.ช.แจ้งข้อหา “บุญทรง” ขายข้าวจีทูจีเก๊ เริ่มไต่สวน “ยิ่งลักษณ์” “วิชา” เผยอนุไต่สวนป.ป.ช.มติแจ้งข้อหา “บุญทรง-ภูมิ” พ่วงข้าราชการและเอกชนรวม 15 ราย ปมขายข้าวจีทูจีจีนเก๊ สั่งสรรพากรรีดภาษี 17 บริษัทที่เกี่ยวข้อง วันพฤหัสบดี, 23 มกราคม 2557 21:53 'อภิชัย พันธเสน' มองป.ป.ช.ทำคดีทุจริตข้าวล่าช้า ไม่ยุติธรรมกับประเทศ "...ป.ป.ช.ไม่จำเป็นจะต้องทำการสอบสวนเพื่อชี้มูลให้ล่าช้าต่อไป เพราะ ป.ป.ช.มีข้อมูลเพียงพอที่จะส่งฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯได้ทันที เพราะศาลดังกล่า... วันพฤหัสบดี, 06 กุมภาพันธ์ 2557 17:38 นัด “บุญทรง” แจงจำนำข้าว ปมจีทูจีเก๊ 20 ก.พ. ป.ป.ช.นัด “บุญทรง” อดีต รมว.พาณิชย์ แจงคดีจำนำข้าว ปมจีทูจีเก๊ 20 ก.พ.นี้ สั่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เก็บข้อมูล รบ.ไม่จ่ายเงินชาวนา “วิชา” เผยถูกข่มขู่จ... วันอังคาร, 11 กุมภาพันธ์ 2557 15:08 สภาทนายฯ พร้อมฟ้องคดีจำนำข้าวแทนชาวนาทั่วประเทศ สภาทนายความออกแถลงการณ์ ระบุพร้อมฟ้องคดีจำนำข้าวแทนชาวนาทั่วประเทศ แนะหากคดีถึงศาลให้ขอเดินเผชิญสืบทรัพย์ เพื่อดูว่าข้าวยังอยู่ครบหรือไม่ วันพฤหัสบดี, 13 กุมภาพันธ์ 2557 22:50 “มาร์ค” ย้ำ “ปู” เป็นประธาน กขช. ต้องรับผิดชอบโกงจำนำข้าว “อภิสิทธิ์” ให้ถ้อยคำ ป.ป.ช.คดีถอดถอน “ยิ่งลักษณ์” ปมทุจริตจำนำข้าว ชี้นายกฯ ต้องรับผิดชอบในฐานะประธาน กขช. วันพฤหัสบดี, 20 กุมภาพันธ์ 2557 12:27 “ปู” ครวญ ป.ป.ช.รีบแจ้งข้อหาคดีจำนำข้าว ขอให้ความยุติธรรม เพจ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ครวญ ป.ป.ช.เร่งแจ้งข้อหาคดีจำนำข้าว ทั้งที่เพิ่งไต่สวนแค่ 21 วัน ระบุยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมไป 2 ฉบับ ยังไม่ได้คำตอบ วอนขอ... วันอาทิตย์, 23 กุมภาพันธ์ 2557 15:01 “วิชา” โต้นายกฯ ทำคดีจำนำข้าวปีกว่า ไม่ใช่แค่ 21 วัน “วิชา” โต้ ”ยิ่งลักษณ์” ทำคดีจำนำข้าวปีกว่า ไม่ใช่แค่ 21 วัน-สั่งรวบข้อมูลแจงทุกคดีที่ พท.สงสัย รวมคดีระบายข้าว สมัย รบ.อภิสิทธิ์ วันอังคาร, 25 กุมภาพันธ์ 2557 17:06 คำชี้แจง ป.ป.ช. คดีจำนำข้าว vs คดีประกันรายได้ วันอังคาร, 25 กุมภาพันธ์ 2557 22:21 ป.ป.ช.เจอวางประทัดยักษ์-เสื้อแดงเตรียมบุกขวางลุยคดีจำนำข้าว ป.ป.ช.เจอวางประทัดยักษ์แต่ไม่ทำงาน นปช.นนท์ฯเตรียมบุกขวางไต่สวนจำนำข้าว 26 ก.พ. ก่อนวันนัด "ยิ่งลักษณ์" มารับทราบข้อหาคดีถอดถอน วันพฤหัสบดี, 27 กุมภาพันธ์ 2557 15:18 “ปู” ส่งทนายรับข้อหาคดีจำนำข้าว-ป.ป.ช.ขีดเส้นแจงใน 14 มี.ค. “ยิ่งลักษณ์” ส่งทนายรับข้อหาคดีจำนำข้าวจาก ป.ป.ช. ยันสุจริตชาวนาได้ประโยชน์-ขีดเส้นแจงใน 14 มี.ค. "วิชัย" ยันไม่มีตั้งธงฟันล่วงหน้า วันพฤหัสบดี, 06 มีนาคม 2557 12:35 คำฟ้องนางลดาวัลย์ เนียมประยูร ฟ้องนายกฯโครงการจำนำข้าว วันศุกร์, 28 มีนาคม 2557 19:23 'ปู' โอดถูกปฏิเสธความยุติธรรมจาก ป.ป.ช. เลื่อนคดีจำนำข้าว ยิ่งลักษณ์ โพสต์เฟชบุคทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ร่ายยาวอัดป.ป.ช.ไม่เป็นกลาง เร่งรัดทำคดีนี้เป็นพิเศษ แถมขอขยายระยะเวลาให้อีก ก็ไม่ได้รับความยุติธรรมจากปปช. วันศุกร์, 28 กุมภาพันธ์ 2557 ผงะ!สตง.ตรวจพบข้าวเสื่อมคุณภาพ 02 กุมภาพันธ์ 2557 ผลสอบจำนำข้าว ฉบับ สตง.! ยิ่งทำชาติยิ่งเสียหาย - "ยิ่งลักษณ์" ต้องยุติ! สตง.๙ มกราคม ๒๕๕๕ 1. หนังสือสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ด่วนที่สุด เลขที่ ตผ ๐๐๑๒/๔๒๑๖ ลงวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๔ เรื่องสรุปประเด็นปัญหาและความเสี่ยงสำคัญ ที่พบจากการตรวจสอบการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ๙ มกราคม ๒๕๕๕ 2. หนังสือสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ด่วนที่สุด เลขที่ ตผ ๐๐๑๒/๐๐๖๗ ลงวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๕๕ เรื่อง ปัญหาและความเสี่ยงสำคัญที่จะส่งผลกระทบ ให้เกิดความเสียหายต่อการดำเนินโครงการรับจำนำข้าว ๑๐ กันยายน ๒๕๕๕ 3. หนังสือสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ด่วนที่สุด ตผ ๐๐๑๒/๕๒๔๗ ลงวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๕๕ เรื่อง ปัญหาและความเสี่ยงสำคัญ ที่จะส่งผลกระทบให้เกิดความเสียหายต่อการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ๓๐ มกราคม ๒๕๕๗ 4. หนังสือสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ด่วนที่สุด เลขที่ ตผ ๐๐๑๒/๐๒๘๐ ลงวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๕๗ เรื่อง การตรวจสอบและศึกษาวิเคราะห์โครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล และรายงานการตรวจสอบและศึกษาวิเคราะห์โครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาลฉบับเต็ม ปลายปี 2555 ฝ่ายค้านตั้งข้อกล่าวหาและระบุในญัตติ อภิปรายเรื่องรับจำนำข้าวด้วย โดยว่าเธอ มีส่วนเกี่ยวข้องในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ(กขช.) แต่กลับปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริต จึงถือว่าบกพร่องต่อหน้าที่ ทำให้ประเทศได้รับความเสียหาย และตามรัฐธรรมนูญ บัญญัติว่าหากเป็นการอภิปรายเรื่องเกี่ยวกับการทุจริต จะต้องยื่นเรื่องถอดถอนต่อประธานวุฒิสภาเพื่อส่งต่อไปให้ ป.ป.ช.ด้วย อันนี้คือสำนวนการถอดถอน เธอที่ต้นเรื่องมาจากการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อปลายปี 2555 ข้อกล่าวหา ดำเนินการนโยบายรับจำนำข้าวผิดพลาด ส่งผลขาดทุนกระทบต่อการส่งออกข้าว, การระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ไม่เป็นความจริง ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริต ทำให้เกิดความเสียหาย อันเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง มาตรา 270 และมาตรา 271 รัฐธรรมนูญ ซึ่งเปิดช่องให้ ส.ส.เข้าชื่อกันยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่งได้ หากมีพฤติการณ์ส่อว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมาย 5 มิถุนายน 2556 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจี ให้แก่บริษัท “จีเอสเอสจี" ซึ่งรัฐบาลอ้างว่าเป็นรัฐวิสาหกิจของประเทศจีนและให้ตรวจสอบคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวทั้ง 10 คน ซึ่งมีนายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ เป็นประธาน รวมถึง นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ที่เป็น รมว.พาณิชย์ ในช่วงคาบเกี่ยวของการระบายข้าว และยังให้ตรวจสอบคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ หรือ กขช. ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และให้ตรวจสอบไปถึงข้าราชการ และภาคธุรกิจด้วย ข้อกล่าวหา เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ นี้คือรายละเอียดของคดีการโยกย้ายข้าราชการโดยมิชอบ และกรณีทุจริตละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ในการจำนำข้าว ที่มีรากฐานมาจากการทุจริตลำใย และหอมหัวแดงในภาคเหนือ ที่มีคนเพียง 3 ตระกูลได้รับผลประโยชน์ให้บริษัทขนส่งในเชียงใหม่รับจ้างขนข้าวพม่า เขมร ลาว มีรถตำรวจทางหลวงนำหน้ามาจำนำในประเทศไทยในราคาที่สูงกว่าราคาซื้อกว่าเท่าตัว ตอนหลังๆข้าวต่างชาติหมดจึงมีการเขียนใบประทวนขึ้นเองโดยไม่มีข้าวจริง หรือถูกเรียกว่าใบประทวนปลอม ซึ่งในคดีนี้ถูกท้วงติง ร้องเรียน อภิปราย ทั้งในสภาและนอกสภา จนกระทั่งถูกร้องต่อปปช.มา2ปีกว่าแล้ว นั้นคงอธิบายได้ว่าผลของกรรมจะออกมาเป็นเช่นไร ส่วนชายผู้น่าสังเวชอยากจะเจรจาอยากให้อภัยกัน ในเวลานี้กำนันสุเทพและมวลมหาประชาชนผู้เป็นประธานกปปส. ที่เขาชุมนุมมาเกือบ5เดือนตายไป17คนเจ็บกว่า700คน เขาคงไม่ยอมเจรจาแล้ว ส่วนการที่จะไปจ้างวานให้คนในพรรคประชาธิปัตย์ผ่าน "นิติภูมิ เนาวรัตน์" ที่จะสนับสนุนการตั้งพรรคใหม่ และให้เครือข่ายล่อให้พรรคประชาธิปัตย์ไปประชุมกับกกต.และต้องลงเลือกตั้ง โดยเขาวางอุบายนี้เพราะหากพรรคประชาธิปัตย์ลงเลือกตั้งหรือแสดงท่าทีอยากลง ก็จะต้องเผชิญกับโนโหวด(No vote)ครั้งใหญ่ที่สุด และแรงต่อต้านจากมวลมหาประชาชนนับล้านๆคนที่รุนแรงกว่าครั้งสมัยพันธมิตรอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ เรียกว่าเสียอนาคตเสียคนกันไป แบบไม่ต้องผุดต้องเกิด ผมว่าคนอย่างคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นักเรียนนอกจบอังกฤษ คงรู้เท่าทันนานแล้ว การเมืองไทยวันนี้ใกล้จะจบแล้ว ควรปล่อยให้วงเวียนกรรมทำหน้าที่ของมันไป อย่าไปวอกแวกในสิ่งที่ล่อใจ สงสารคนเจ็บตายคนที่ชุมนุมมายาวนาน เสียสละเพื่อชาติบ้านเมืองโดยมิได้หวังสิ่งตอบแทน สถานการณ์เพลานี้และอนาคตหากเกิดรุนแรงหรือไม่ 3 ตระกูลก็คงยากที่จะพ้นบ่วงกรรม ที่เขากระทำไว้อย่างแน่นอน "กรรมยุติธรรมเสมอ" " จะชนชั้นไหนไม่สำคัญ คุณค่าของคนเท่ากัน หากเรานั้นเป็นคนดี เกิดบนกองเงินกองทองหรือเกิดบนกองธุลี ขอให้ทำความดี เป็นคนดีของแผ่นดิน " คำสอนใจ โดย พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา 15 เมษายน 2557 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ เมษายน 15, 2014 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ เมษายน 15, 2014 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ เมษายน 15, 2014 สีสัน หวานเย็น หร่อย บายจาย อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ เมษายน 15, 2014 cr ลุงเต่า ต้วมต้วม ,การเมืองภาคประชาชน อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น