ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 24, 2015 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 24, 2015 2 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 24, 2015 (มีการแก้ไข) ตึกจักรพงษ์ (หอประวัติ) , Chulalongkorn University. Arches 300 g. Block 31x41 cm. Sennelier watercolor Safe Suphawat Hi ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 24, 2015 โดย ginger 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 24, 2015 ภาพอาจาร์ ธนากรณ์ 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 24, 2015 Aj Adisorn Pornsirikarn 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 24, 2015 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 24, 2015 ให้มันสงบๆ กันเสียบ้างไม่ได้หรือ ทั้งคน ทั้งพระ ทั้งฆราวาส ยุ่งไปหมด ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ เรื่องวุ่นวายทั้งหลายที่เกิดขึ้นในศาสนจักร ฉันอาจเป็นต้นเหตุหนึ่งในหลายต้นเหตุ ทำให้เกิดขึ้น ฉันยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงและเป็นเจตนาอันบริสุทธิ์ ต้องการดำรงรักษาไว้ซึ่งอุดมการณ์ของพระบรมศาสดา ที่ทรงเสด็จออกจากกองมหาสมบัติสู่ความไม่มีสมบัติ แต่นักบวชสาวกของพระองค์ยุคปัจจุบันกลับทำพฤติกรรมตรงกันข้าม มาจากบ้านเมืองที่ไม่มีสมบัติ เข้ามาอาศัยผ้ากาสาวพัสตร์ ขวนขวายดิ้นรนเพื่อให้ได้มาซึ่งสมบัติ อีกทั้งมหาเถรสมาคมที่เป็นองค์กรสูงสุดในสังฆมณฑล ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงต้องปกป้องพระธรรมวินัย และต้องยึดหลักปกครองที่สอดคล้องกับพระธรรมวินัย แต่กาลกลับหาเป็นเช่นนั้นไม่ มหาเถรสมาคมยึดถือคำสั่งของอัยการสำคัญกว่าพระธรรมวินัย ด้วยเหตุเหล่านี้ ฉันจึงจำเป็นที่จะต้องออกมาต่อสู้โวยวาย เรียกร้องความถูกต้อง และปกป้องพระธรรมวินัย ไม่ใช่ปกป้องสังฆมณฑลที่เน่าเหม็น หมักหมม เช่นทุกวันนี้ หากจะถามฉันว่าระหว่างพระธรรมวินัยและมหาเถรสมาคม สังฆมณฑลอะไรสำคัญกว่า ฉันจะรีบตอบโดยไม่ลังเลเลยว่า มหาเถรสมาคมและสังฆมณฑล เดี๋ยวก็ตาย เดี๋ยวก็เกิด แต่พระธรรมวินัยมีอายุขัยดำรงอยู่ได้มา ๒,๖๐๐ กว่าปีแล้ว และเป็นหลักการเดียวที่จะทำให้สังฆมณฑลบริสุทธิ์ บริบูรณ์ จึงต้องเลือกพระธรรมวินัย อีกทั้งเวลานี้ เป็นเวลาที่คนดีมีคุณธรรมเข้ามาปกครองบ้านเมือง ฉันเชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจว่า ท่านผู้นำ ผู้บริหารบ้านเมืองในเวลานี้ มีมาตรฐานทางจริยธรรม ศีลธรรม คุณธรรม สูงกว่าผู้นำผู้บริหารบ้านเมืองที่ผ่านมา และฉันสัมผัสได้ถึงความจริงใจที่ท่านจะแก้ปัญหาของบ้านเมืองในทุกมิติ แม้มันจะมีอุปสรรคขวางกั้น แต่ด้วยคุณธรรม ความตั้งใจจริง ที่มีอยู่ในตัวท่านผู้นำสูงมาก จึงยังคงเดินหน้านำพาประเทศไปสู่กระบวนการปฏิรูปต่อไป อย่างที่คนไทยทุกคนมุ่งหวังและพร้อมสนับสนุน การที่ฉันต้องทำเรื่องปฏิรูปศาสนจักรให้เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ ทั้งที่ท่านผู้นำอาจจะมองว่ามันอาจจะเกิดปัญหาซ้ำซ้อน พวกที่คอยจ้องจะล้มการปฏิรูปและรัฐบาล กลุ่มก้อนการเมืองอำนาจเก่า คนเสื้อแดง อาจจะเข้ามาผสมโรงเข้ากับพวกธรรมกาย และนักบวชอลัชชี ที่ไม่เห็นพระธรรมวินัยนี้อยู่ในสายตา อาจจะนำมาซึ่งความยุ่งยาก เป็นปัญหาเพิ่มขึ้นแก่หน่วยงานที่รับผิดชอบด้านความมั่นคง เรื่องเหล่านี้ มิใช่ฉันไม่รู้ ไม่เข้าใจ แต่ตีเหล็ก ต้องตีตอนร้อน มหาเถรสมาคมเป็นผู้เชิญชวนให้ฉันออกมาเคลื่อนไหวเอง ด้วยพฤติกรรมฉ้อฉล ทรยศต่อพระธรรมวินัยดังที่ปรากฎ ฉันเห็นว่า มันเป็นโอกาสอันงามที่ต้องรีบเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ปรับปรุง ให้ศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาใหม่ หากปล่อยล่วงเลยไป ฉันก็ไม่รู้ว่าอีกเมื่อไหร่ การปฏิรูปศาสนจักรจะเกิดขึ้นได้สำเร็จ คุณประยุทธ์จะรู้หรือไม่ว่า สิ่งที่เลวร้ายและยุ่งยากที่สุดของการปฏิรูปศาสนจักรคือ ทิฐิมานะพระ เพราะถือตนทรนงตัวว่าเป็นผู้รู้มาก แต่มักเอาตัวไม่รอด ในสายตาของเขา เขามองตัวเองว่าเป็นผู้สูงส่ง มีคนยอมรับ มีคนกราบไหว้ เขามองฆราวาสว่าเป็นดุจดังเด็กวัดที่รู้ไม่มากเท่าเขา ฉันจึงได้รู้สึกหวั่นไหว ที่จะต่อสู้เรื่องศาสนจักร แต่ก็ต้องทำ เพราะนี่คือวิถีที่ฉันเลือกมาแต่แรกแล้วเมื่อออกไปเป็นแกนนำเวที หากฉันไม่ทำแล้วใครจะทำ จึงต้องขออภัยที่เพิ่มงานให้แก่ คสช. หน่วยงานด้านความมั่นคง และคุณประยุทธ์ ท่านนายกรัฐมนตรี คุณก็อย่าบ่นไปนักเลยว่า “ให้มันสงบๆ กันเสียบ้างไม่ได้หรือ ทั้งคน ทั้งพระ ทั้งฆราวาส วุ่นไปหมด” พูดอย่างนี้ฉันน้อยใจนะ (ล้อเล่น) แต่ฉันกลับคิดว่า ไม่สงบแบบนี้แหละดี จะได้เห็นตัว เห็นหน้าตากันไปเลยว่าใครอยู่ข้างใด ฝ่ายไหน ดีกว่าสงบๆ แล้วไปซัดกันใต้ดิน เวลานี้นี่แค่ซ้อมๆ เผาหลอก หากนายใหญ่คนแดนไกล โยนเศษเงินมาให้เมื่อไหร่ ทีนี้แหละคุณประยุทธ์ เตรียมตัวรับมือให้ดีเถิด ที่พวกเขายังไม่โผล่ออกมา เขามิได้รอเวลา รอโอกาส แต่รอเงิน หากเงินมาเมื่อไร คงได้ดูหนังไทยฆ่าไทยกันอีกรอบ ไหนๆ อาสาเข้ามาช่วยบ้านเมืองแล้ว ก็ลุยให้มันสุดๆ ไปเลยเถิดคุณประยุทธ์ แต่อย่าเพิกเฉยต่อปัญหาที่เกิดขึ้นกับศาสนจักร ไม่งั้นคุณจะปฏิรูปอาณาจักรไปทำอะไร ถ้าคนมีแต่ซากแล้วขาดจิตสำนึก หากปล่อยให้ศาสนจักรติดโรคจนเป็นมะเร็งร้าย สุดท้าย อาณาจักรจะติดโรคไปด้วย ทีนี้คงได้ซวยกันทั้งบ้านทั้งเมืองล่ะ พุทธะอิสระ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 24, 2015 วันอังคาร ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558, 19.14 น. tags : มธ., ไล่ออก, อ.หงอก, ออกจากราชการ, ผิดวินัยร้ายแรง, ไม่สอนหนังสือ [/url] 24 ก.พ.58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ลงนามในคำสั่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่ 356/2558 เรื่องลงโทษไล่นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำความผิดอย่างร้ายแรง โดยไม่มาสอนหนังสือตามภาระที่ได้รับมอบหมายในปีการศึกษา 2557 ภาคเรียนที่ 2 จำนวน 2 วิชาคือ ประวัติศาสตร์ไทย 3 และประวัติศาสตร์การเมืองไทยหลังปี 2535 ต่อมาคณะศิลปศาสตร์ได้มีบันทึกลงวันที่ 26 ธ.ค.57 ให้นายสมศักดิ์กลับมาปฏิบัติหน้าที่โดยด่วน แต่นายสมศักดิ์เพิกเฉย และไม่ได้มีการยื่นเรื่องลาประเภทใดๆ พฤติกรรมของนายสมศักดิ์ถือเป็นการจงใจไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการตามระเบียบ ทำให้มหาวิทยาลัยได้รับความเสียหาย จึงเห็นสมควรให้ไล่ออกจากราชการ http://www.naewna.com/politic/146333 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 24, 2015 (มีการแก้ไข) • ลิ้น 2 แฉก • 20 ก.พ. 2558 "ไม่แน่ใจ "พระลิขิต" ของปลอมหรือไม่ ย้ำชัด "ธัมมชโย" ยังไม่ปาราชิก ชี้พิพากษาคนเหมือนการประหารชีวิต ต้องดูให้รอบคอบ" 23 ก.พ. 2558 มหาเถรสมาคมไม่ได้มีมติเกี่ยวกับพระเทพญาณมหามุนี ทั้งมส.ยังไม่ได้พิจารณาด้วยว่าปาราชิก หรือไม่ปาราชิก Face Time 23/2/58 : หลวงปู่ "เปิดศึก มหาเถรสมาคม" ธัมมชโย ไม่อาบัติปาราชิก มหาเถรสมาคมแถลงมติที่ประชุมชี้ "พระธัมมชโย" ไม่ขัดพระลิขิต ... www.springnews.co.th › Spring Update 4 days ago มติมหาเถรสมาคม แถลงยืนยัน “พระธัมมชโย” ไม่ขัดขืนพระลิขิต อ้างไม่เจตนาฉ้อโกง ... และ พระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ... 2542 โดยในพระลิขิตฉบับที่ 3 ได้กล่าวถึงเรื่องปาราชิกเอาไว้ด้วย โดยมีรายละเอียดดังนี้. มหาเถรชี้ "ธัมมชโย" พ้นผิด - ข่าวไทยรัฐออนไลน์ www.thairath.co.th/clip/13344 4 days ago มหาเถรสมาคม มีมติให้ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ไม่ อาบัติ ปาราชิก ... พระ พรหมเมธี โฆษกเถรสมาคม ได้ แถลง ผลการประชุม ว่า กรรมการเถรสมาคม ... 'มหาเถรสมาคม' ชี้ 'พระธัมมชโย' ไม่ขาดปาราชิก - VoiceTV news.voicetv.co.th/thailand/169923.html 4 days ago มหาเถรสมาคม แถลง ผลการประชุม พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดธรรมกายไม่ ขาด ปาราชิก ขาดจากความเป็นภิกษุ เนื่องจากได้มีการคืนทรัพย์สินทั้งหมด ให้กับวัดแล้ว ... ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 24, 2015 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 24, 2015 "กลางสายแสง" Adisosrn POrnsirikarn 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 24, 2015 เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ (พณ.)ว่า คณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงพาณิชย์ ได้ประชุมและมีมติให้ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ 2 คนคือ นายทิฆัมพร นาทวรทัต รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และนายอัครพงศ์ ทีปวัชระ อดีตผู้อำนวยการสำนักการค้าข้าวต่างประเทศ ออกจากราชการ หลังจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ได้ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรง กรณีการขายข้าวในรูปแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) ของรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พณ.ให้ออก2ขรก.เซ่นจีทูจีเก๊ สำหรับการพิจารณาโทษ กระทรวงพาณิชย์ยึดตามพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 และเห็นว่าในเมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดมาแล้ว ก็ไม่สามารถดำเนินการอย่างอื่นได้ จึงมีมติออกมาดังกล่าว ซึ่งผู้ที่ถูกให้ออกจากราชการทั้ง 2 ราย สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 24, 2015 (มีการแก้ไข) dalinews ขุดประวัติตุลาการคดี 'ปู' โกงข้าว 7 ใน 9 สำเร็จโทษระบอบทักษิณ . 24 ก.พ.58 ภายหลังจากที่ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกามีมติเลือกองค์คณะผู้พิจารณาคดีที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา ครบ 9 คน ได้มีการนำประวัติการทำงานของท่านตุลาการองค์คณะทั้ง 9 มาเปิดเผยกันอย่างมากมาย ซึ่งอย่างน้อย 7 ใน 9 ตุลาการองค์คณะเคยผ่านการพิจารณาคดีที่มีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรและเครือข่ายเป็นจำเลยมาแล้วแทบทั้งสิ้น ประกอบด้วย นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานแผนกคดีภาษีอากรในศาลฎีกา เป็นหนึ่งในองค์คณะผู้พิพากษา จากองค์คณะรวม 9 คน ในคดีหมายเลขแดง อม.30/2557 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นคำร้องขอให้ทรัพย์สินของ น.ส.นฤมล หรือ ณัฐกมล หรือ ณฐกมล หรือ อินทร์ริตา นนทะโชติ หรือ นนทะวัชรศิริโชติ ตกเป็นของแผ่นดิน เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2557 จำนวน 68,104,000 บาท ซึ่งรวมถึงทรัพย์สินที่ ป.ป.ช. ได้เคยมีคำสั่งอายัดไว้ชั่วคราวตามคำสั่งที่ 8-11/2556 ลงวันที่ 15 ม.ค. 2556 พร้อมดอกและผลให้ตกเป็นของแผ่นดิน โดย น.ส.นฤมล เคยได้รับแต่งตั้งเป็น ผู้ช่วย พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และเป็นผู้ช่วยนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประมาณปี 2548 ทั้งนี้ คดีนี้ ป.ป.ช. ยื่นสำนวนให้อัยการสูงสุดเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2556 เพื่อดำเนินการตามฟ้อง ซึ่งเป็นกรณีที่ ป.ป.ช. ตรวจสอบการยื่นบัญชีหนี้สินและทรัพย์สินของ น.ส.นฤมล ในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นายวิรุฬห์ แสงเทียน ประธานแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจในศาลฎีกา เป็นผู้เข้ารับการอบรม บ.ย.ส.รุ่น 17 ปี 2555-56 โดยหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง บ.ย.ส. จัดโดยสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ขึ้นกับสำนักงานศาลยุติธรรม นายธนฤกษ์ นิติเศรณี ประธานแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา เจ้าของสำนวนคดี พร้อมด้วยผู้พิพากษารวม 9 คน ได้มีคำสั่งประทับรับฟ้อง คดีหมายเลขดำ อม.2/2558 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี, พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี, พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น. เป็นจำเลยที่ 1-4 เป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริต เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 295 และ 302 จากกรณีเมื่อวันที่ 7 ต.ค.51 รัฐบาลนายสมชายได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสลายการชุมนุมกลุ่ม พธม. ซึ่งศาลมีคำสั่งนัดพิจารณาครั้งแรก เพื่อสอบคำให้การจำเลย ในวันที่ 11 พ.ค.นี้ นายชีพ จุลมนต์ รองประธานศาลฎีกา ได้ร่วมองค์คณะพิพากษาให้ยกฟ้องคดีที่อัยการเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายศิโรตม์ สวัสดิ์พาณิชย์ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร, นายวิชัย จึงรักเกียรติ อดีตผู้อำนวยการ.สำนักงานกฎหมาย กรมสรรพากรและอดีตผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ, น.ส.สุจินดา แสงชมพู อดีตนิติกร 9, น.ส.โมรีรัตน์ บุญญาศิริ อดีตนิติกร 8และอดีตผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย และ น.ส.กุลฤดี แสงสายัณห์ อดีตนิติกร 7 ว. เป็นจำเลยที่ 1-5 ตามลำดับ เมื่อวันที่ 26 ก.พ.52 กรณีงดเว้นการคำนวณภาษีกับคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในการโอนหุ้นบริษัท ชินวัตร คอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด(มหาชน)หรือชินคอร์ป 4.5 ล้านหุ้น มูลค่า 738 ล้านบาท ให้นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายบุญธรรมคุณหญิงพจมาน เมื่อปี 2540 โดยนายชีพ ขณะนั้นเป็นอธิบดีศาลอาญา ได้ทำความเห็นแย้งความเห็นขององค์คณะผู้พิพากษาที่ พิพากษาให้ยกฟ้อง “นายศิโรตม์” กับพวก 5 คน คดีนี้ ทำให้อัยการต้องเป็นโจทก์ยื่นอุทธรณ์คดีดังกล่าว เพราะเมื่ออธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา มีบันทึกแย้งท้ายคำพิพากษาเช่นนี้ ถือว่า มีน้ำหนักมาก นายวีระพล ตั้งสุวรรณ รองประธานศาลฎีกา เป็น 1 ใน 9 องค์คณะพิจารณาคดีหมายเลขดำ อม.2/2558 ที่ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และพวกมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) พร้อมกับ นายวีระพล ตั้งสุวรรณ , นายศิริชัย วัฒนโยธิน ,นายชีพ จุลมนต์ รองประธานศาลฎีกา ,นายธนฤกษ์ นิติเศรณี ประธานแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองฯ และนายธนสิทธิ์ นิลกำแหง ประธานแผนกคดีเลือกตั้ง นางอุบลรัตน์ ลุยวิกกัย ประธานแผนกคดีสิ่งเเวดล้อมในศาลฎีกา เป็นผู้เข้ารับการอบรม บ.ย.ส.รุ่น 17 ปี 2555-2556 ตามประกาศในเว็บไซต์สำนักงานศาลยุติธรรม ซึ่งหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง บ.ย.ส. จัดโดยสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ขึ้นกับสำนักงานศาลยุติธรรม นายธานิศ เกศวพิทักษ์ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา ช่วงหนึ่งของการเป็นข้าราชการตุลาการศาลยุติธรรม ได้รับเลือกจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา เข้าไปปฏิบัติหน้าที่เป็นตุลาการรัฐธรรมนูญตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญฯ ฉบับชั่วคราว ปี 2549 หลังจากมีการรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 ซึ่งขณะนั้นนายธานิศ ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลฎีกาโดยระหว่างที่ปฏิบัติหน้าที่ตุลาการรัฐธรรมนูญ นายธานิศ ได้ร่วมพิจารณาพิพากษาคดียุบพรรคไทยรักไทยด้วย ขณะที่การทำหน้าที่ตัดสินคดียุบพรรคไทยรักไทยแม้ตุลาการรัฐธรรมนูญจะมีมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 ให้ยุบพรรคการเมือง แต่นายธานิศ เป็น 1 ใน 3 ตุลาการรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อยที่ไม่เห็นด้วยว่าจะนำประกาศ คปค.ฉบับที่ 27 มาย้อนหลังใช้บังคับเพื่อกำหนดโทษการตัดสิทธิ์การเมืองกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 5 ปี และหลังจากทำหน้าที่ดังกล่าวแล้ว ได้โอนย้ายกลับมาเป็นข้าราชการตุลาการศาลยุติธรรม และได้รับเลือกปฏิบัติหน้าที่เป็นประธานแผนกคดีผู้บริโภคในศาลฎีกา เมื่อปี 2552และได้รับเลือกที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกามาเป็นองค์คณะพิจารณาพิพากษาคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร 7.6 หมื่นล้านบาท นายธานิศนั้น มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในหมู่ผู้พิพากษา ถือเป็นปรมาจารย์ทางประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาผู้แต่งตำรา ป.วิอาญา และเป็นอาจารย์คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เนติบัณฑิตยสภา เขียนคำพิพากษาศาลฎีกาเป็นบรรทัดฐานไว้ 86 คดี http://www.naewna.com/politic/146207 ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 24, 2015 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 24, 2015 (มีการแก้ไข) ปลงอาบัติ'มุสา'คงไม่พอแล้ว http://www.naewna.com/local/146352 ชาวเน็ตกระชากจีวรพระเสื้อแดง มุสาโพสต์เฟซบุ๊คให้ร้าย'สินจัย' วันอังคาร ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558, 19.37 น. [/url] 24 ก.พ.58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโซเชียล เน็ตเวิร์กได้มีการแฉเบื้องหลังของพระเมธีธรรมาจารย์ รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ประธานสงฆ์สามัคคี แกนนำเครือข่ายองค์กรชาวพุทธแห่งประเทศไทย ภายหลังที่ได้เข้ายื่นหนังสือต่อนายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช. ขอให้ยุบคณะกรรมการปฏิรูปฯ ที่มีนายไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นประธาน โดยระบุว่า เป็นเครือข่ายของกลุ่มคนเสื้อแดง นอกจากมีการโพสต์ข้อความแล้ว ยังมีการโพสต์ภาพที่เคยถ่ายภาพร่วมกับแกนนำเสื้อแดง และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษชายคดีอาญาหนีคำพิพากษาศาลสั่งจำคุก 2 ปี หลายที่หลายแห่ง ทั้งยังมีการระบุด้วยว่า พระเมธีธรรมาจารย์ ได้ไปร่วมในพิธีเปิดสถานีโทรทัศน์ของกลุ่มการเมืองเสื้อแดงด้วย อย่างไรก็ตามในบล็อก “เซียนแซวการเมือง” ของผู้ใช้ชื่อว่า “ใหม่เมืองเอก (akecity)” ได้ตั้งคำถามว่า พระเมธีธรรมาจารย์ ที่ออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้เพื่อใคร เป็นการออกมาปกป้องพระพุทธศาสนา หรือปกป้องวัดพระธรรมกายที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เลื่อมใสศรัทธาแน่ นอกจากนี้ ยังระบุอีกว่า เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจของพระเมธีธรรมาจารย์ พบว่ามีการโพสต์ภาพ “นก สินจัย เปล่งพานิช” นางเอกดาวค้างฟ้าที่ร่วมชุมนุมกับ กปปส. พร้อมข้อความว่า “ฉันจะไม่ไปเหยียบภาคอีสาน ภาคเหนือ เพราะฉันเกลียดคนจน” จนทำให้หลายคนเข้าใจผิด คิดว่าเป็นคำพูดของดาราสาวผู้นี้ ก่อนที่จะมีการบล็อกเพจให้เข้าดูได้เฉพาะกลุ่มเพื่อนเท่านั้น ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 24, 2015 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
milo 888 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 24, 2015 "กลางสายแสง" Adisosrn POrnsirikarn อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 25, 2015 ช่ายเบย เยี่ยมหยดย้อยจิงๆ กาแฟและชา เครื่องดื่มอารมณ์ดี ปัจจุบัน "กาแฟ" เป็นเครืองดื่มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก กาแฟมีสารสำคัญคือ กาเฟอีน มีฤทธิ์กระตุ้นประสาท ช่วยผ่อนคลายความเครียด ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า อีกทั้งมีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น กาแฟยังมีสารช่วยการทำงานสมองอารมณ์ดีขึ้น ช่วยต้านการเสื่่อมสภาพของเซลล์ในร่างกาย ขณะเดียวกัน "ชา" ก็เป็นเครื่องดื่มอีกชนิดหนึ่งที่ช่วยให้ทำอารมณ์ดีได้เช่นกัน ชามีสารช่วยกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางและความรู้สึก การดื่มชา ยังช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ มะเร็ง อ้วน และโรคเบาหวาน นอกจากนี้ยังพบว่าการดื่มกาแฟและชานั้น ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงจากโรคที่เกิดความเสื่อมทางระบบประสาท เช่น พาร์กินสัน และอัลไซเมอร์อีกด้วย ทั้งนี้ การดื่มกาแฟเพื่อสุขภาพดีนั้น ควรอยู่ระหว่าง 1-2 แก้ว ส่วนการดื่มชาสามารถดื่มได้มากกว่า 3-4 แก้ว อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น