ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ginger

ใบไม้ผลิบนดวงจันทร์

โพสต์แนะนำ

มินิซีรี่ส์

 

 

1. เสียงจากหลังคาโลก

ผมเพิ่งจะเดินทางกลับถึงเมืองไทยโดยสวัสดิภาพเมื่อค่ำวานนี้ หลังจากที่ไปร่วมประชุมแนวทางการพัฒนาธิเบตที่เมืองลาซา จัดโดยสำนักงานข่าวแห่งสภารัฐของจีนและรัฐบาลธิเบตเป็นเวลาเกือบ1สัปดาห์เต็ม จึงมีเรื่องราวเกี่ยวกับธิเบตที่น่าใจมาเล่าสู่กันฟังบ้าง

ทางด้านร่างกายแล้ว ต้องยอมรับว่าเหนื่อยจริงๆ เพราะว่าผมและบรรดาผู้ที่เดินทางมาธิเบตเป็นครั้งแรกไม่คุ้นกับอากาศที่เบาบาง เมืองลาซาของธิเบตอยู่บนหลังคาโลก เพราะว่าตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ3,400เมตร วันแรกๆจะมีอาการปวดหัวเป็นอย่างมาก นอนไม่หลับ ไม่มีแรง กินอาหารไม่อร่อย หัวใจเต้นแรงผิดปกติ เหนื่อยง่าย และต้องค่อยๆเดินอย่างช้าๆ ไม่งั้นหน้ามืด ต้องใช้เวลา2วันกว่าร่างกายจะปรับตัวได้จากการที่มีอ๊อกซิเจนไม่พอในการหายใจ ถ้าเป็นคนหนุ่มสาวไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมาก แต่ผมอายุเริ่มมากแล้ว ร่างกายไม่ได้แข็งแรงเหมือนแต่ก่อน อย่างไรก็ดี อาการปวดหัวจะมีตลอด โดยเฉพาะเวลานอน หรือตื่นนอน

ช่วงที่อยู่ธิเบต อากาศร้อนมากในเวลากลางวัน แสงแดดแรงมาก ตกเวลากลางคืนอากาศจะเย็น มองไปทางไหนก็เห็นแต่ภูเขาสูงล้อมรอบ ท้องฟ้าสีฟ้า มีเมฆที่เคลื่อยย้าย แปลงรูปเป็นลักษณะต่างๆอยู่ตลอดเวลา สะท้อนให้เห็นความแปรปรวน หรือความไม่เที่ยงเป็นอย่างมากของสภาพภูมิอากาศ

ส่วนทางด้านจิตใจ ผมเปิดใจพร้อมที่จะเรียนรู้เพื่อที่จะเข้าใจธิเบตในความเป็นธิเบตเอง แทนที่จะเข้าใจธิเบตตามที่ตัวเองอยากจะเห็น ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้ทำการบ้าน หรืออ่านหนังสืออะไรเกี่ยวกับธิเบตเลย ไปธิเบตโดยที่หัวสมองว่างเปล่า ในตัวมีความรู้เกี่ยวกับธิเบตดั้งเดิมน้อยมาก ในแง่นี้ มันเป็นผลดีอย่างหนึงคือ ผมจะได้ไม่ต้องมีข้อมูลเก่าๆที่ติดตัวมาแล้วทำให้เราเห็นธิเบตผิดเพี้ยนไปเมื่อได้เจอสภาพความเป็นจริง หรือทำให้เรารู้สึกไขว้เขว

เมื่อเปิดใจแล้ว เราจะเห็นสิ่งที่เป็นรากฐานของจิตวิญญาณของสรรพสิ่ง และในเมื่อผมมาธิเบตด้วยใจที่บริสุทธิ์แล้ว ผมอยากจะรู้เหมือนกันว่าธิเบตจะสำแดงความเป็นตัวตนอะไรออกมาให้ผมเห็น โดยที่ผมจะใช้ใจในการมอง

ในความเป็นตัวตนหรือจิตวิญญาณของธิเบตที่แท้จริงนั้นอาจจะมีหลายรูปแบบ แต่จะมีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่เป็นลักษณะเด่นของความเป็นตัวตน สิ่งนั้นคืออะไร? ความลี้ลับของธิเบตอะไรกันแน่?

เนื่องจากธิเบตเป็นดินแดนที่ตัดขาดจากโลกภายนอกมานาน ในอดีตน้อยคนนักที่จะสามารถเดินทางไปถึงได้ เป็นสังคมที่ปิดที่ไม่ต้องการส่ิงแปลกปลอมจากภายนอกเข้ามาทำลายโครงสร้างของสังคมธิเบตที่มีความสมบูรณ์อยู่แล้วโดยมีหลักศาสนาพุทธมหายานเป็นเครื่องชี้นำ โดยที่พระพุทธศาสนาเข้ามาปักธงชัยบนหลังคาโลก และกลายเป็นหลักของการดำเนินชีวิตและการสร้างโครงสร้างของสังคมธิเบตมาเวลานาน1,300ปีแล้ว

ด้วยเหตุนี้คนภายนอกมองโดยทั่วไปจึงมองว่าธิเบตเป็นดินแดนที่ลี้ลับ ยิ่งธิเบตเป็นสังคมศาสนาที่ให้บทบาทของพระหรือนักบวชที่เคร่งครัดในบทบัญญัติและวินัยเป็นผู้ชี้นำ มีพิธีกรรมที่อลังการ์ ปิดตัวเองจากโลกภายนอก และมีวิธีชีวิตของตัวเองด้วยความพอเพียงเรียบง่าย ไม่เบียดเบียนใคร มีศรัทธาแรงกล้าต่อพระพุทธศาสนา โดยที่ต่างคนต่างทำตามหน้าที่ในจุดที่ตัวเองอยู่ในสังคม ยิ่งจะทำให้คนภายนอกรู้สึกทึ่งในความเป็นธิเบตที่ไม่เหมือนดินแดนใดๆในโลก

ชาวธิเบตไม่ได้หวังความร่ำรวยเป็นจุดเป้าหมายใหญ่ของชีวิต แต่ถือว่าชีวิตในภพนี้เป็นการเดินทางหรือการเปลี่ยนถ่ายจากภพภูมิต่างๆ ตามกระแสกรรม การชำระจิตใจให้สูงขึ้นเพื่อว่าจะไปสู่ภูมิที่ดีกว่า หรือการหลุดพ้นในที่สุด ในแง่นี้สังคมธิเบตไม่ได้แตกต่างจากสังคมไทยหรือสังคมอื่นๆที่มีพระพุทธศาสนาเป็นเครื่องชี้นำทาง ความต่างอยู่ที่ความเคร่ง รายละเอียดของความเชื่อของมหายาน ความศรัทธา ความมีวินัย และการจัดชนชั้นของของคมที่มีพระเป็นผู้นำที่อื่นๆ

แม้ว่าโดยรวมแล้วความเป็นอยู่จะลำเค็ญเพราะว่าต้องต่อสู้กับภาวะอากาศที่หนาวเย็นและแปรปรวนอย่างรุนแรงของที่ราบสูงที่ตั้งอยู่บนหลังคาโลก แต่เมื่อมีหลักศาสนาและความศรัทธาชี้นำแล้ว ชาวธิเบตไม่ได้มองความลำเค็ญความทุกข์ของชีวิตบนโลกปัจจุบันเป็นอุปสรรคของการดำเนินชีวิต แต่มองว่าเป็นขวากหนามที่จะต้องก้าวให้พ้นวัฎฎะสงสาร ที่สำคัญธิเบตอยู่ได้ด้วยตัวเองมาตลอด โดยไม่ต้องพึ่งพาอะไรมากจากสังคมภายนอก

ส่วนสังคมไทยไม่ต้องพูดถึง เราได้ละทิ้งหลักศาสนาในการนำทางมานานแล้ว จึงรอวันที่จะสังคมปัจจุบันของความโลภ โกรธ หลง จะถูกทำลายในที่สุด

เรื่องการประชุมก็ว่ากันไปตามนโยบายที่ต้องการสร้างธิเบตให้มีความเจริญทางเศรษฐกิจจะได้ยกระดับรายได้ของชาวธิเบตที่มีอยู่ประมาณ3ล้านคนให้มีการกินดีอยู่ดีจากรายได้ปัจจุบันที่$1,500ต่อปี ประมาณ1ใน5ของชาวธิเบตเป็นคนมีรายได้หรือฐานะความเป็นอยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจนตามมาตรฐานการวัดในปัจจุบัน มีผู้เข้าร่วมประชุมงานสัมมนา2016: Forum on the Development of Tibet หลายร้อยคน ในจำนวนนี้มีชาวต่างชาติที่เข้าประชุม61คน จาก30ประเทศ รวมทั้งผมคนเดียวที่เป็นตัวแทนมาจากประเทศไทย ผู้ที่เข้าร่วมประชุมส่วนมากเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ อาจารย์ นักวิชาการ หรือผู้เชี่ยวชาญแขนงต่างๆ รวมทั้งสื่อมวลชน

ต่างคนต่างคิดไปว่าจะทำอย่างไรให้ธิเบตมีความเจริญ มีการพัฒนาหรือความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่น้อยคนที่จะคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะรักษาธิเบตให้เป็นธิเบตเหมือนดั้งเดิม โดยที่กาลเวลาและสิ่งแปลกปลอมจากภายนอกเข้ามาเปลี่ยนแปลงหรือทำลายธิเบตได้น้อยที่สุด

thanong

10/7/2016

 

See translation

 

 

 

 

13654216_486404978222548_5489540120063865028_n.jpg?oh=79dc9477a4524cb6474c5964651f0a76&oe=57F760D6

 

 

Thanong Fanclub

 

10 July at 09:45 ·

 

มินิซีรี่ส์

2. เสียงจากหลังคาโลก

ระบบสังคมนิยมจีนไม่มีศาสนา แล้วจะวางแผนปกครองธิเบตที่มีศาสนาพุทธเป็นวิถีของชีวิตจากตื่นนอนถึงเข้านอนได้อย่างไร?

กรณีธิเบตเป็นตัวอย่างที่คลาสสิคอย่างหนึ่งของการขับเคี่ยวระหว่างวัตถุนิยมสุดขั้วกับจิตนิยมชั้นสูง รัฐบาลจีนประเคนให้ธิเบตทุกอย่างอัดโครงสร้างพื้นฐาน สร้างโรงงานขนาดย่อม ให้มีบริการเรียนฟรี การเดินทางไปมาสะดวกสบาย ด้วยถนนคอนกรีตที่สร้างเป็นอย่างดี สนามบินลาซาสามารถเชื่อมโยงกับภูมิภาคต่างๆของจีนและโลกภายนอก นอกจากนี้มีรถไฟความเร็วสูงมาถึงแล้ว ธิเบตเข้าสู่ขบวนการของการเปิดประเทศอย่างเร่งด่วนผ่านการลงทุน เป้าหมายของทางการจีนคือยกระดับการเป็นอยู่ในชาวธิเบตที่อยู่บริเวณตะวันตกที่ล้าหลังของประเทศจีนให้ดีขึ้น โดยใช้หลักเศรษฐกิจสมัยใหม่เข้าไปนำทาง หรือใช้เงินหยวนเป็นตัววัด

ความยั่วยวนของวัตถุจะทำให้จิตนิยมหย่อนยานลงไปหรือไม่ โดยพื้นฐานแล้ว สังคมนิยมจีนเชื่อในพัฒนาการของสังคมแบบวัตถุนิยมแบบวิภาษวิธี โดยที่ไม่เชื่อในการดำรงอยู่ของจิต ไม่เชื่อในพระเจ้า ไม่เชื่อในหลักคำสอนของศาสนาใดๆ เพราะมองว่าศาสนาเป็นสิ่งประดิษฐ์ของมนุษย์ ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำให้มนุษย์หลงมัวเมาในความเชื่อ เพื่อว่าผู้ปกครองจะได้ปกครองชนชั้นที่ถูกปกครองได้ง่าย

ตามความเชื่อของพวกวัตถุนิยมแบบวิภาษวิธี สิ่งประดิษฐ์ของมนุษย์ วิทยาการความเจริญก้าวหน้าหรือความเจริญของวัตถุ ทุนและปัจจัยของการผลิตเท่านั้นที่เป็นแรงผลักดันที่แท้จริงของการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของสังคม ประเด็นคือใครเป็นเจ้าของทุนและปัจจัยของการผลิต ถ้าสิ่งเหล่านี้อยู่ในมือของประชาชน ชนชั้นชาวนาหรือชนชั้นกรรมาชีพ แทนที่จะอยู่ในมือของนายทุน ในที่สุดการเปลี่ยนแปลงของสังคมจะไปถึงเป้าหมายของสังคมอุดมคติของรัฐคอมมิวนิสต์ที่อุดมสมบรณ์และไม่มีชนชั้น โดยที่ในระหว่างทางจะเกิดการสร้างของสังคมใหม่ และการทำลายของสังคมเก่าไปเรื่อยๆตามหลักของวิภาษวิธี

หลักของวิภาษวิธีคือ การทำลายโครงสร้างเก่า สร้างโครงสร้างใหม่ ไม่ช้าไม่นานโครงสร้างใหม่่จะกลายเป็นโครงสร้างเก่าที่พร้อมที่จะต้องได้รับการเปลี่ยนแปลงหรือการทำลาย อันจะนำไปสู่การทำลายโครงสร้างเก่า เพื่อสร้างโครงสร้างใหม่ไปเรื่อยๆ สุดท้ายปลายทางของวิภาษวิธีนี้คือสังคมในอุดมคติ นี้คือพื้่นฐานความคิดวัตถุนิยมวิภาษวิธีเดิมที่คอมมิวนิสต์จีนได้ยืมมาจากมาร์กซ์-เลนิน ทำให้จีนตอนนี้มุ่งการผลิตและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในแนววัตถุนิยมอย่างเต็มที่เพื่อไล่ให้ทันความเจริญก้าวหน้าของโลกตะวันตก และได้หันหลังให้กับจารีตประเพณีเดิม หรือหลักศาสนาเดิมไม่ว่าจะเป็นเต๋า พุทธมหายาน หรือแม้แต่ลัทธิขงจื้อไปมาก

ความเจริญในแนวทางวัถุนิยมเชื่อในอำนาจหรือการดำรงอยู่ของวัตถุ การไม่เชื่อในการมีอยู่ของจิต ทำให้ปรัชญาพื้นฐานของคอมมิวนิวต์จีนแตกต่างจากสังคมหรือจารีตประเพณีของธิเขตโดยสิ้นเชิง เป็นคนละขั้วของแนวความคิด เพราะว่าสังคมธิเบตสมบูรณ์อยู่ในตัวเองแล้ว ตั้งแต่ได้รับเอาพระพุทธศาสนามาเป็นหลักของดินแดนตั้งแต่ศตวรรษที่7 แม้ว่าจะมีการพัฒนาการของการปกครองมาในรูปแบบขององค์ดาไลลามะในระยะต่อมา

สังคมที่อิงจารีตพระเพณีของธิเบตดำรงอยู่ได้นับพันปีโดยปิดตัวเองจากโลกภายนอก และไม่ได้ผ่านขบวนการวิภาษวิธีทางวัตถุนิยมของการสร้างและการทำลาย เพราะว่าปัจจัยจากภายนอกย่างกรายเข้ามาไม่ได้ ทำให้ธิเบตมีการเปลี่ยนแปลงน้อยมาก หรือแทบจะไม่เปลี่ยนแปลงเลย

ธิเบตไม่มีเป้าหมายที่จะไปถึงสังคมอุดมคติที่มาร์กซ หรือสังคมยูโธเปียได้วาดฝัน เพราะว่าธิเขตได้บรรลุถึงสังคมอุดมคติของตัวเองแล้ว ไม่สามารถจะทำได้ดีกว่านี้ มีความสมบูรณ์และความพอดีในตัวเองตามสภาพแวดล้อมของภูมิประเทศที่ราบสูง และปัจจัยต่างๆ สามารถพึ่งพาตัวเองได้ทั้งการเกษตรและการเลี้ยงสัตว์

คนธิเบตแต่ละคนมีหน้าที่และความรับผิดชอบของตัวเอง มีศาสนาเป็นเครื่องชี้นำให้เห็นว่า ทุกลมหายใจของชีวิตคือทุกลมหายใจของศาสนา ชีวิตเป็นเพียงการเปลี่ยนถ่ายของความไม่แน่นอน การมีศรัทธาและการดำรงอยู่ในวิถีของศาสนาเป็นหนทางที่จะทำให้ตัวเองดีขึ้นในภพหน้า จนกว่าจะหลุดพ้น

ด้วยเหตุนี้การพัฒนาธิเบตต้องเริ่มด้วยการตั้งคำถามว่า สังคมนิยมแบบจีนจะทำให้ธิเบตที่เป็นรัฐในอุดมคติอยู่แล้ว ซึ่งเป็นรัฐในอุดมคติที่หลงเหลืออยู่ไม่มากในโลกนี้ดีขึ้นได้อย่างไร ในเมื่อสิ่งที่มีอยู่สมบูรณ์ในตัวเองแล้ว

เหมือนกับสังคมสุโขทัยของสยามโบราณที่ได้บรรลุถึงความสมบูรณ์ของรัฐอุดมคติที่ผู้ปกครองแบบพ่อปกครองลูก ในน้ำมีปลาในนามีข้าว มีการค้าเสรี รัฐไม่เรียกเก็บภาษีแบบขูดรีด คนสุโขทัยเป็นคนเอื้ออารีย์ ทำบุญสุนทาน และเชื่อในบาปบุญคุณโทษ ทุกชนชั้นรวมทั้งชนชั้นกษัตริย์ ชนชั้นขุนนาง ชนชั้นทหารและชนชั้นพ่อค้า ชาวนา และแรงงานต่างมุ่งจิตอันแน่วแน่ไปสู่พุทธภูมิ

ในขณะเดียวกันสังคมนิยมจีนเพิ่งจะพัฒนาเศรษฐกิจมาได้30ปี ต้องผ่านขบวนการวิภาษวิธีของการสร้างและและทำลายอีกหลายรอบ หรือยังต้องผ่านความเจ็บปวดอีกมากกว่าจะไปถึงสังคมอุดมคติของตัวเองที่เรียกกันอย่างแพร่หลายว่าความฝันของจีน (China Dream) ถ้าหากว่าสังคมอุดมคติของสังคมนิยมจีนนั้นมีอยู่จริง หรือสามารถไปถึงได้

หรือไชน่าดรีมเป็นเพียงแค่ความฝันที่เขียนบนแผนพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจแห่งชาติเฉยๆ?

สังคมนิยมจีนสมัยใหม่สามารถสร้างชาติจากการล่มสลายของระบอบจักรพรรดิ และสงครามภายในและภายนอก สามารถผันตัวเองจากสังคมเกษตรที่ล้าหลังเมื่อเทียบกับโลกตะวันตกจนกลายเป็นมหาอำนาจเศรษฐกิจของโลกในปัจจุบัน สังคมนิยมจีนมีการสร้างความคาดหวังสูงว่าประชาชนทุกคนต่อไปจะกินดีอยู่ดี มีการศึกษาที่ดี มีบ้านมีรถเป็นของตัวเอง มีเงินออม มีกำลังซื้อ มีเงินไปเที่ยวช๊อปปิ้งต่างประเทศ แต่พลังขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจของจีนที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจและการเงินโลกจะยังคงเดินหน้าเหมือนในอดีตที่ผ่านมาเพื่อทำให้ความฝันของจีนเป็นจริงต่อหรือไม่ โดยที่สังคมนิยมจีนได้ละทิ้งรากเหง้าหรือพื้นฐานอารยะธรรมเดิมของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักของศาสนา หลักของขงจื้อ ทำให้ทุกคนตระเกียกตระกายที่จะมุ่งหน้าหาเงิน หรือเพิ่มความร่ำรวยอย่างเดียว

ในบริบทนี้ สังคมนิยมจีนที่กำลังไขว่ขว้ากับความฝันใหม่ภายใต้การนำของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง จะมีอะไรที่จะมอบให้สังคมอุดมคติของธิเบตที่มีความสมบูรณ์อยู่ในตัวเองอยู่แล้ว? เราสามารถจะเติมน้ำลงในแก้วที่น้ำเต็มปริ่มอยู่แล้วได้หรือไม่?

thanong

10/7/2016

 

 

 

 

 

13631596_486414448221601_7547108316254562305_n.jpg?oh=dfb757cc28392fb8a194f8303f0d056b&oe=57F48FB7

 

นิทานเรื่องจริง ตำนานการลวง หลอกล่อ ลงหม้อตุ๋น

 

Paisal Puechmongkol

 

คณะร่านฯ

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

13626450_590106424483500_2652950660648014498_n.jpg?oh=750fb0308f363d8692c5bdb7a9149b5c&oe=57E98E7C

 

คนปลายซอย

อังคารที่ ๑๒ กรกฏาคม ๒๕๕๙

เมื่ออยาก"จะเป็น"ก็ต้อง"ไม่เป็น"

“พรุ่งนี้(๑๒ กค.๕๙)อาตมาจะประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนต์กับพระแกนนำ ๔-๕ รูป เพื่อกำหนดท่าทีของพระสงฆ์และองค์กรชาวพุทธที่มีต่อคำให้สัมภาษณ์ของผู้นำประเทศ

ส่วนจะเหลืองทั้งแผ่นดินหรือไม่นั้น อาตมายังไม่กล้าพูดขนาดนั้น แต่พูดได้ว่า จะมีการเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน”

แหม...เจ้าคุณประสาร"เปรี้ยว"จนสบงตุงเชียวนะ

หลังทราบกฤษฎีกาตีความมติ มส.ที่เสนอ"สมเด็จช่วง"เป็นพระสังฆราชไม่ขัดมาตรา ๗ พรบ.คณะสงฆ์

และคุณโยม"นายกฯประยุทธ์"ถวายความเห็นเนิบๆว่า

"ก็ไม่ได้ว่าอะไร ...........

อำนาจใครก็อำนาจใคร ผมมีหน้าที่อะไร...มีหน้าที่นำขึ้นทูลเกล้าฯ แล้วผมทูลเกล้าฯในสิ่งที่มีปัญหาได้หรือไม่...ถ้าไม่ได้ ก็จบ"

แต่"เจ้าคุณประสาร"ไม่ยอมให้จบ สวมวิญญานเอแดร์ ศูนย์หน้าโปรตุเกส ยิงสวน

"ในเมื่อมติดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายและจารีตประเพณีแล้ว มีเหตุผลอะไรที่นายกรัฐมนตรีจะไม่ปฏิบัติตาม

มีเหตุผลอะไรที่นายกรัฐมนตรีจะไม่เสนอนามสมเด็จพระราชาคณะที่ถูกเสนอชื่อโดยชอบแล้ว

นายกรัฐมนตรี ควรปฏิบัติตามกฎหมาย จารีตและครรลองอันดีงาม ช่วยกันให้ความเคารพบูชาต่อคณะสงฆ์ทั้งประเทศและมหาเถรสมาคมด้วยเถิด อย่าประวิงเวลา.........

อย่าเอาการเมืองมาเล่นในคณะสงฆ์ อย่าเดินตามกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดีต่อคณะสงฆ์เลย

เดินหน้าตามกระบวนการที่ถูกต้องเถิด ความสงบสุขจะกลับมาสู่คณะสงฆ์ดังเดิม"

ผมว่าญาติโยมฟังเจ้าคุณประสารพูดแล้ว คงมีจำนวนมาก เกิดศรัทธา อยาก"ถวายบาตร"เจ้าคุณประสารกัน คนละบาตร-สองบาตร!

เจ้าคุณประสารที่ว่านี้ คือหัวโล้น-ห่มเหลืองชื่อประสาร มีสมณศักดิ์ที่"พระเมธีธรรมาจารย์"

เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส"วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร"

อื้อฮือ...ไม่น่าเชื่อ!

เป็นรองอธิการบดี"มหาวิทยาลัยสงฆ์"มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

อ้อ...งี้เองนี่เล่า!

เป็นเลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนา

อ๋อ...ดงซ่องสุมแดงในเหลือง!

เป็น"กุมารทอง"ซ้าย-ขวา"คู่มหาโชว์ พิทักษ์มหาเถรฯ-ระบอบทักษิณ"

อุ๊ย...หัวใจชาติ-ศาสนา!

เป็นพระที่จรรโลงพระพุทธศาสนา ด้วยการร่วมขบวนการนปช.เปลี่ยนประเทศเป็น"แดงทั้งแผ่นดิน"

เจริญละเมิงงงง...แบบนี้!

และเป็นหัวคิวจัดนำ"พระธรรมทูต"ในต่างประเทศ เวียนเข้าเฝ้าทักษิณ พร้อม"รับซอง"

อิอิ..."โซตอง ตอง ยุงต่าม"แปลว่า ย่ามตุง ซองโตๆ!

ครับ...ในเมื่อพระย่ามแดงมาเฟี้ยวซะขนาดนี้ แล้วจะให้ฆราวาสอย่างผมไปทางไหนถูกล่ะ ก็ต้องส่งเสริมพระเดชพระคุณให้สุดลิ่มทิ่มหอกไปเลย

ประเด็นมาตรา ๗ พรบ.สงฆ์ น่ะ ล็อค"ตายตัว"อยู่แล้วว่า

"ต้องสมเด็จพระราชาคณะผู้มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์"เท่านั้น ที่จะขึ้นเป็นพระสังฆราชได้

จะใครตี ก็ตีเป็นอื่นไปไม่ได้ ตอนนี้"สมเด็จพระราชาคณะผู้มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์"ในหมู่สงฆ์ คือ

สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์(สมเด็จช่วง) วัดปากน้ำ นั่นเอง!

โดยบรรทัดกฎหมาย โดยสิทธิ์.......

นั่ง-นอนคลำ"เบนซ์ ขม ๙๙ "สบาย..สบาย ใจเย็นๆ ใครก็จะแย่งตำแหน่งพระสังฆราชไปไม่ได้

ฉะนั้น เจ้าคุณประสาร ไม่ต้องแปลงร่าง สรุปว่า ในการเสนอชื่อ จะรัฐบาลหรือมหาเถรฯเสนอ ชื่อเดียวเท่านั้นที่เสนอได้

คือชื่อ"สมเด็จช่วง"!

คนที่จะนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ในบรรทัดกฎหมายมาตรา ๗ ก็ตายตัวเช่นกัน

ให้"นายกรัฐมนตรี"เป็นผู้นำขึ้นทูลเกล้าฯ

ดังนั้น ไม่ต้องระดมพลมาเหลือง-มาแดงทั้งแผ่นดินหรอก เปลืองข้าวสุกเปล่าๆ ถ้าทำอย่างนั้น"คณะสงฆ์"โดยรวม มัวหมองไปด้วยเปล่าๆ

รักษาฟอร์ม"รองเจ้าอาวาส"กับ"รองอธิการบดี"ทำตัวให้เห็นว่า"คุณภาพถึงตำแหน่ง"หน่อยซิ

ไม่มีใครค้าน"คุณสมบัติ"พระราชาคณะผู้มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ "สมเด็จช่วง"ผ่านฉลุย

แต่...เจ้าคุณประสาร เข้าใจตรงนี้ใช่มั้ย?

ในฐานะรองเจ้าอาวาส ต้องทราบ"ผู้ชายทุกคน"เมื่ออายุ ๒๐ แล้ว มีสิทธิ์บวชพระได้ อย่างนั้นใช่มั้ย?

ใช่....

แต่ชายทุกคน จะใช้สิทธิ์นั้น"บวชเลย"ไม่ได้ใช่มั้ย?

ใช่....

ยังมีกฎอื่น เช่น ต้องไม่เป็นคนที่พระพุทธเจ้าทรงห้ามบวชด้วยใช่มั้ย?

ใช่...

ผู้ชายอีก ๘ จำพวก ๕ ประเภท ที่ห้ามบวชด้วย ใช่มั้ย?

ใช่....

คนต้องอาญา,โจร-ผู้ร้าย,คนหนีคุก,คนทำผิดกฎหมายอาญา,คนถูกหมายจับ เหล่านี้ ก็ห้ามบวชใช่มั้ย?

ใช่....

เห็นมั้ยเจ้าคุณประสาร ใช่ว่าผู้ชายมีเดือย ก็เกณฑ์มาทีละแสนคน-ล้านคน ให้บวชกันง่ายๆอย่าง"วัดพี่-วัดน้อง"ทำ

ด้วยกฎระเบียบ"พวกต้องคดี-มีหมาย-หนีคดี ถึงเป็นผู้ชาย เขาไม่อนุญาตให้บวชก็บวช เพราะอยู่ในข่าย"บุคคลห้ามบวช"!

ฉันใด-ก็ฉันนั้น..........

สมเด็จช่วง สิทธิ์ตามพรบ.คณะสงฆ์ สามารถเป็นพระสังฆราชได้

แต่ เวลานี้ สมเด็จช่วง"ต้องมลทิน"ทางคดีความ"เรื่องเบนซ์คลาสิก"ดีเอสไอ ขอสอบปากคำ ก็ยังบ่ายเบี่ยงเลี่้ยงเรื่อยมา

ไม่เพียงเท่านั้น ถูกนายไพบูลย์ นิติตะวัน ยื่นเรื่องต่อมหาเถรสมาคม ให้ตรวจสอบในข้อกล่าวหา ........

"นำเงิน ๑ ล้านบาท จากบัญชีส่วนตัว ไปจ่ายค่าเบนซ์เถื่อน ซึ่งต้องอาบัติร้ายแรงตามพระวินัย"

แถมยังถูกยื่นเรื่องให้ DSI สอบ ฐาน"ผู้ปฏิบัติหน้าที่พระสังฆราช"และประธานมหาเถรสมาคม

แต่มีการกระทำเข้าข่ายปฏิบัติ-ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่"กรณีธัมมชโย" ผิดตามมาตรา ๑๕๗

เนี่ย...สาธุชนทั้งหลาย รวมทั้งเจ้าประสาร ใช้"จิตตรง"ตอบซิ

ผู้แปดเปื้อนมลทินเช่นนี้ เหมาะสมมั้ย ถูกต้องมั้ย.......

ที่จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงสถาปนาขึ้นเป็น"สมเด็จพระสังฆราช"?

และที่นายกฯประยุทธ์พูดว่า

"..........ผมมีหน้าที่นำขึ้นทูลเกล้าฯ แล้วผมทูลเกล้าฯในสิ่งที่มีปัญหาได้หรือไม่...?"

กับที่เจ้าประสารพูดว่า

"...............มีเหตุผลอะไร ที่นายกฯจะไม่ปฏิบัติตาม มีเหตุผลอะไร ที่นายกฯจะไม่เสนอนามสมเด็จพระราชาคณะที่ถูกเสนอชื่อโดยชอบแล้ว....?

อย่างไหน"รับฟังได้"กว่ากัน?

และใครบัณฑิต และใครโจร?

จะประทานกราบเรียน"สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์"ในความเห็นผม เดือนหน้า นายกฯสามารถนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯได้

เพียงแต่ เดือนนี้ พระเดชพระคุณ เข้ารับทราบข้อกล่าวหากับดีเอสไอ คดีเบนซ์เถื่อน เพื่อดีเอสไอรีบสรุปสำนวนส่งอัยการ

ถ้าพระเดชพระคุณบริสุทธิ์ อัยการสั่งไม่ฟ้อง นั่น...นายกฯ สามารถนำ"สิ่งที่ไม่มีปัญหา"ขึ้นทูลเกล้าฯได้

จะเป็น"พระสังฆราช".....

ก็ต้องไม่เป็น"ผู้ต้องหา"ดังนี้แล!

 

13600358_897631013716212_5195860385735138011_n.jpg?oh=a487fc00fb77ef957c8b4587e624e252&oe=583480B813620791_897630587049588_5642786792441287378_n.jpg?oh=03eab9548dbbce9bf3eb62aa82310143&oe=57F00D8E

หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)

23 March 2015

 

ดูลีลาของผู้ออกมาปกป้องพระพุทธศาสนากันหน่อย...

 

 

มุฑิตาพระมหาโชว์ โดยสว.กัมพล ดร.เมธาพันธ์ ผศ.เสถียร - YouTube

 

 

 

พระอาจารย์มหาโชว์บุกเวที นปช1/3 - YouTube

 

 

 

www.nationtv.tv

อธิบดีดีเอสไอ เร่งสอบสวนคดีสมเด็จฯช่วงครอบครองเบนซ์คลาสสิค ยอมรับล่าช้า เพราะต้องรอข้อมูลจากประเทศต้นทาง ยันตรวจสอบรถจดประกอบทุกคันไม่ได้เลือกปฏิบัติ

 

 

 

 

NATIONTV.TV|BY NATIONTV 22

 

 

ปฏิบัติธรรมพิเศษกับวัดพระธรรมกาย (นะจ๊ะ)

http://www.dokmaiban.net/

ที่ World Peace Valley (กำลังโดนยึดที่ดินและอาคาร) เขาใหญสวนป่าหิมวันต์ ภูเรือ และ สวนพนาวัฒน์ เชียงใหม่ (จะตรวจสอบเมื่อไหร่ก็ไม่รู้)

ปฏิบัติธรรม ฝึกสมาธิ กลั่นใจให้ใสๆ ในราคาเพียง 2500 บาทต่อ 7 วัน (นะจ๊ะ แค่นี้ยังจิ๊บๆ)

ติดต่อได้ทางเว็บไซต์ http://www.dokmaiban.net/

ปล.ถ้าใครที่เคยไปปฏิบัติธรรมสถานที่เหล่านี้แล้วไม่พอใจ เราไม่ยินดีคืนเงิน กรุณาติดต่อ DSI ที่เดียวนะจ๊ธ

 

 

===

จากกฎหมายถึงกฎแห่งกรรม

 

 

===

 

 

กฤษฎีกายัน‘นายกฯ’มีอำนาจทบทวนเสนอนาม ‘พระสังฆราช’ไม่ใช่แค่ไปรษณีย์

 

 

 

 

 

วันจันทร์ ที่ 11 กรกฎาคม 2559 เวลา 20:01 น.

 

 

 

 

กฤษฎีกายัน ‘นายกฯ’ มีอำนาจทบทวนนาม ‘สมเด็จพระสังฆราช’ ได้ หากเห็นว่ายังไม่เหมาะสม-มีคดีค้างอยู่ ชี้ไม่ใช่แค่บุรุษไปรษณีย์ไว้ทูลเกล้าฯอย่างเดียว เผย‘สุวพันธ์’ ไม่ยอมแถลงให้เคลียร์

PIC-prayuth-11-7-59_1.jpg

แหล่งข่าวจากสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงกรณีที่คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความ มาตรา 7 ของ พ.ร.บ.คณะสงฆ์กรณีการเสนอนามสมเด็จพระสังฆราชของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ตามมติของมหาเถรสมาคม (มส.) ชอบหรือไม่ว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตีความทั้งหมด 3 ประเด็น โดยประเด็นสำคัญที่สุดและมีการถกเถียงกันคือ นายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) มีอำนาจตามมาตรา 7 ในฐานะผู้รักษาการตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์อย่างไรซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกาเห็นว่า นายกรัฐมนตรีมีอำนาจที่จะดูความเหมาะสมของนามที่ มส. เสนอเพื่อทูลเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชด้วย ดังนั้นหากมีการเสนอนามผู้สมควรดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช พบว่ามีปัญหาหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคดีความ หรืออื่น ๆ นายกรัฐมนตรีสามารถขอให้ทบทวนนามได้ ไม่ใช่แค่ทำหน้าที่เป็นบุรุษไปรษณีย์เท่านั้น ซึ่งประเด็นนี้นายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไม่ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนอย่างขัดเจน

ทั้งนี้คมชัดลึกออนไลน์ รายงานข่าวอ้างคำให้สัมภาษณ์ของนายสุวพันธ์ ระบุว่า ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเสนอนามสมเด็จพระสังฆราชต้องได้รับความเห็นชอบจาก มส.ก่อน และต้องเสนอนามสมเด็จพระราชาคณะที่อาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ ซึ่งตามกฎหมายไม่ได้กำหนดว่าการเสนอรายชื่อนั้นจำเป็นต้องริเริ่มจากนายกฯ ดังนั้น การส่งความเห็นมส.มา จึงไม่ขัดกับมาตรา 7 หนังสือฉบับนั้นจึงยังมีผลอยู่

นายสุวพันธุ์ กล่าวต่อว่า คณะกรรมการกฤษฎีกายังได้ตีความอีกว่านายกฯไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามความเห็นของผู้ตรวจการแผ่นดิน แต่สามารถนำมาประกอบการใช้ดุลยพินิจได้ และแนวทางปฏิบัติก่อนหน้านี้ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 ก.พ.2482 ระบุด้วยว่าเมื่อรัฐบาลขอความเห็นจากคณะกรรมการกฤษฎีกาในเรื่องข้อกฎหมายไปให้ปฏิบัติตามนั้น ดังนั้น ตนจะยึดแนวทางตามนี้ โดยจะกราบเรียนให้นายกฯรับทราบเฉพาะเรื่องความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา และแนวทางปฏิบัติตามมติครม.เพื่อให้นายกฯพิจารณาต่อไป“วันนี้เราดูเรื่องมาตรา 7 ก่อน ขั้นตอนนี้จบแล้ว ชัดเจนว่าสิ่งที่ทำมาไม่ได้ขัดแย้งกับมาตรา 7 ส่วนการดำเนินการต่อไปเรายังไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม หนังสือแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชยังอยู่กับผม ยังมีผลในทางราชการเหมือนเดิม นายกฯมีหน้าที่เสนอนามสมเด็จพระสังฆราช และรับสนองพระบรมราชโองการ ดังนั้นก่อนที่ผมจะเสนอเรื่องไปต้องดูทุกอย่างให้รอบด้าน ครบถ้วน ตอนนี้ยังมีประเด็นที่ต้องพิจารณาเกี่ยวกับขั้นตอนการเสนอนามสมเด็จพระสังฆราช จึงต้องขอเวลาดูเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องก่อนทำความเห็นถึงนายกฯต่อไป ไม่สามารถระบุเวลาได้ เพราะมีหลายปัจจัย ต้องให้สังคมเข้าใจตรงกันก่อน ผมขอแบกเรื่องนี้ รับภาระ เป็นของตัวเองก่อน และไม่รู้สึกกดดันอะไร เพราะเชื่อว่าทุกฝ่ายเข้าใจ” นายสุวพันธุ์กล่าวส่วนแนวหน้าออนไลน์ รายงานอ้างคำให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ ถึงกรณีนี้ว่า ไม่ได้ว่าอะไร อำนาจใครก็อำนาจใคร ตนมีหน้าที่อะไร มีหน้าที่นำขึ้นทูลเกล้าฯ แล้วตนทูลเกล้าฯ ในสิ่งที่มีปัญหาได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็จบ

เมื่อถามว่า ต้องรอคดีจบก่อนใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ต้องแสดง คิดไม่ออกเหรอว่า ต้องรอกระบวนการเรียบร้อยก่อน แล้วไม่กลัวว่าจะเกิดการทะเลาะเบาะแว้งกันหรืออย่างไร วันนี้มีกี่พวก อย่ามองบ้านเมืองในแง่ดีแง่เดียว มันมีพร้อมทุกเรื่อง

 

===

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Issaradham TV was live.

 

คลิก 18 hrs

 

หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)

8 July at 18:06

 

 

หลวงปู่ฟ้องเจ้าคุณประสารฐานยุยงปลุกปั่นคณะสงฆ์ ประชาชน ต่อต้านรัฐบาล

๘ กรกฎาคม ๒๕๕๙

จากพฤติการณ์ในอดีตจนถึงปัจจุบันของเจ้าคุณเมธีธรรมาจารย์ รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ที่ชอบออกมาพูดข่มขู่รัฐบาลมาโพสยั่วยุให้เกิดการต่อต้านอำนาจรัฐ

 

แม้ล่าสุดวันที่ ๑-๕ ก.ค. ๕๙ ก็ออกมาโพสข้อความยุยง ปลุกปั่นให้คณะสงฆ์ออกมาเคลื่อนไหวด้วยการส่งหนังสือกดดันรัฐบาล นายกรัฐมนตรี โดยการทวงถามตำแหน่งพระสังฆราชให้กับสมเด็จช่วง

โดยมีเนื้อหาบิดเบือนปลุกระดมอย่างชัดเจน ดังเช่นกรณีข้อความที่โพสในวันที่ ๑ ก.ค. ๕๙ ความช่วงหนึ่งว่า

“ขณะนี้มีเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อพระพุทธศาสนาและวงการคณะสงฆ์ คือการดำเนินการแก้ไขพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ มาตรา ๗ ว่าด้วยการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช โดยมหาเถรสมาคมแลคณะสงฆ์ไม่รู้เรื่อง

สถานการณ์คับขันมาก เพราะคณะกรรมการกฤษฎีกากำลังพิจารณาจะให้แล้วเสร็จในต้นเดือนกรกฎาคมนี้ แล้วส่งให้คณะรัฐมนตรีนำเสนอเข้าสภานิติบัญญัติแห่งชาติออกเป็นกฎหมาย

ต่อมาวันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๕๙ เวลา ๑๔.๑๕ น. เผยแพร่ข้อความว่า

“คณะสงฆ์หวังว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาจะวินิจฉัยอย่างตรงไปตรงมา ไม่ขัดแย้งกับกฎหมายและจารีตที่เคยปฏิบัติมา”

วันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๕๙ เวลา ๑๔.๑๐ น. เผยแพร่ข้อความว่า

“จะมีความความเคลื่อนไหวจากองค์กรพุทธแน่นอนหากจะสร้างความแตกแยกให้กับคณะสงฆ์” พร้อมแนบภาพถ่ายพาดหัวข่าวว่า “ขู่เคลื่อนไหวนายกฯตั้งสังฆราช”

วันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๙ เวลา ๑๐.๕๑ น. เผยแพร่ข้อความว่า

“ภัยทั้งภายในและภายนอกที่กำลังเป็นบ่อนคุกคามพระสงฆ์และพระพุทธศาสนาอยู่ในขณะนี้ บัดนี้มีข่าวถึงการแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.๒๕๐๕ โดยมีความพยายามตีความหมายให้คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงและจารีตประเพณีอันดีงามที่ปฏิบัติกันมาช้านานและพยายามที่จะมีการแก้ไขสาระสำคัญของพ.ร.บ.ฉบับนี้ในมาตรา ๗ ว่าด้วยการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช” พร้อมเผยแพร่ภาพถ่ายหนังสือ เรื่อง การแก้พรบ.คณะสงฆ์ มาตรา ๗ ว่าด้วยการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช ลงวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๙ มีข้อความตอนหนึ่งว่า “น่าสงสัยว่าผู้แก้กฎหมายมีวาระซ่อนเร้นอะไร ในเมื่อเรื่องนี้มหาเถรสมาคมได้มีมติเป็นเอกฉันท์....การดำเนินการอย่างมีอคติ มีวาระแฝงเร้น จะก่อให้เกิดความแตกแยกในคณะสงฆ์อย่างรุนแรง”

อีกทั้งยังกล่าวอ้างว่ารัฐบาลจะมีการตรวจยึดทรัพย์แก่พระทุกวัด ด้วยการใช้ธรรมกายโมเดลเป็นต้นแบบ และข้อความลักษณะเดียวกันนี้ยังได้ถูกส่งต่อไปยังวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ทำให้คณะสงฆ์ที่ไม่รู้ความจริงเกิดความวิตกกังวล เตรียมที่จะเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลตามที่พระเมธีธรรมาจารย์ หรือเจ้าคุณประสารชี้นำ

ด้วยพฤติการณ์ของพระเมธีธรรมาจารย์ เป็นการละเมิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๖ มาตรา ๘๔ และ ๘๕

อีกทั้งยังเป็นการฝ่าฝืนประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๘/๒๕๕๗ เรื่องการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะชน

ข้อ ๕ ฝ่าฝืนเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ส่อให้เกิดความสับสน ยั่วยุ ปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้ง หรือสร้างให้เกิดความแตกแยกในราชอาณาจักร

ด้วยพฤติการณ์เช่นนี้ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๖ กำหนดบทลงโทษจำคุกไม่เกิน ๗ ปี

ส่วนที่เจ้าคุณประสารชอบอ้างว่าจารีตประเพณีในการแต่งตั้งสมณศักดิ์

ถ้าหากจะว่ากันตามจารีตประเพณีธรรมเนียมปฏิบัติในเรื่องการได้มาซึ่งสมณศักดิ์แล้วล่ะก็ ขอบอกว่า

เดิมที่มาของสมณศักดิ์ทุกระดับชั้นล้วนมาจากฆราวาส คือพระเจ้าแผ่นดินทรงพระราชทานให้ ด้วยทรงเห็นว่าผู้ที่จะได้รับพระราชทานสมณศักดิ์นั้นๆ เป็นผู้เหมาะสมด้วยศีล สมาธิ ปัญญา เป็นผู้ทรงธรรมทรงวินัย เป็นที่ศรัทธาของมหาชนและเป็นกำลังของพระราชาได้ในการเผยแผ่คุณธรรมศีลธรรม

เพื่อให้คนในแผ่นดินของพระองค์อยู่ร่วมกันอย่างมีคุณธรรม รักใคร่ปรองดอง

ตามจารีตประเพณีที่มีมาแต่โบราณ พระสงฆ์ไม่อาจขอยศศักดิ์ใดๆ จากฆราวาสได้ นอกจากพวกอลัชชีทะเยอทะยาน อยากใหญ่เท่านั้นที่มักมาก

เมื่อการมอบสมณศักดิ์เป็นสิทธิ์ของฆราวาส คือพระเจ้าแผ่นดิน พระองค์ก็ต้องทรงดำริเพื่อทรงเลือกภิกษุรูปใดที่มีจริยาวัตรงดงาม จากการได้ทรงเห็น ทรงสัมผัสรับรู้ด้วยพระองค์เอง

หรือไม่ก็จากการเทิดทูลของเสนาบดีที่ทำงานต่างพระเนตรพระกรรณ ที่ถวายรายงานถึงวัตรปฏิบัติของพระภิกษุผู้ทรงศีลทรงธรรม ที่มีจริยาวัตรดีงาม เป็นที่ยอมรับของมหาชน หรือพระภิกษุผู้เป็นเอตทัคคะเลิศในด้านใดด้านหนึ่ง ที่ราชสำนักจักเห็นว่าเป็นประโยชน์แก่การบริหารราชการแผ่นดิน จึงยกภิกษุนั้นให้ดำรงตำแหน่ง เหล่านี้คือโบราณประเพณี

แต่เจ้าคุณประสารและพวกก็พยายามอ้างประเพณีที่ตนคิดว่าจักเป็นประโยชน์แก่ฝ่ายตนโดยไม่คำนึงถึงความเป็นจริง ผิดวินัยของสมณะผู้สละวาง ปล่อยเว้น

อาตภาพจึงมาขอแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามให้ดำเนินคดีกับพระเมธีธรรมาจารย์ ในฐานความผิดละเมิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๖ ๘๕ ๘๔ และฝ่าฝืนคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๘/๒๕๕๗ ข้อ ๕ และกฎหมายอาญาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด

พุทธะอิสระ

แหล่งข่าวประกอบ

http://daily.khaosod.co.th/view_news.php…

http://www.dailynews...ducation/506786

http://www.thairath..../content/654747

http://www.winnews.tv/news/5038

 

---

เปลว สีเงิน - Plew Seengern - Facebook

https://www.facebook.com/permalink.php?story...

Translate this page44 mins ·. คนปลายซอย จันทร์ที่ ๑๑ กรกฏาคม ๒๕๕๙. "ทุกอย่าง...มันก็เป็นเช่นนี้แล" เป็นการ"ส่งสัญญาน"หรือ"เปลี่ยนแผนเดิน"หรือเป็นไปตามคัลลองแห่งเวรและกรรม ก็เดากันเอง!

13600330_1638548996460783_8291765256245574993_n.jpg?oh=30cccb4f5634b442d7419b0efa3a2b0a&oe=58263C48

 

13627004_297210127294596_4515735606359336664_n.jpg?oh=9a409f70f1f1c6741670f2ad66063bc0&oe=582CE3BA

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มูลนิธิโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช

 

คลิปคลิก over a year ago

 

===

 

กระเป๋าลายหนังจระเข้ใหม่ ลุคไฮโซ ด้านในบุกำมะหยี่เนื้อดี มี 6 สีให้เลือกสรร ..ดำ ขาว แดง น้ำเงิน ม่วง น้ำตาล...สินค้านี้สนใจพรีออร์เดอร์ได้ที่ร้านค้ามูลนิธิ รพ.ภูมิพลอดุลยเดช มีขนาดเล็กและกลางในราคา 1,290 บาท เท่ากัน และขนาดใหญ่ 1,490 บาทค่า

 

 

12799124_1756552514578111_3056506286369183018_n.jpg?oh=46792d46563373098a1beac4d74f8461&oe=5831F62D

 

13626464_1806816066218422_8646745284649576323_n.jpg?oh=baed3ffe0dea5edbbe46098050296370&oe=57FC3F96

เสื้อสีเหลือง"หนึ่งน้ำใจให้โอกาส" มูลนิธิโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช (ตราสัญลักษณ์ฉลองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี) ราคา 320 บาท

 

มูลนิธิโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช added 4 new photos to the album กระเป๋าพลาสติกมูลนิธิ รพ.ภูมิพลอดุลยเดช.

 

8 March ·

 

 

กระเป๋าพลาสติกสีใหม่ลายใหม่ เปิดตัวรับซัมเมอร์.....ร้อนนี้จะไปเที่ยวไหนอย่าลืมสะพายกระเป๋าสีเจ็บจี๊ดไปด้วย จะใช้เองก็ใส่ของได้จุใจ จะให้ใครก็สบายกระเป๋า เพราะราคาเบาๆเพียง 150 บาท เท่านั้น...มีพร้อมขาย ณ ร้านค้ามูลนิธิ รพ.ภูมิพลอดุลยเดช จ้า

 

12813977_1756126341287395_6243314223817381791_n.jpg?oh=c4d9180138bf64f48bf2c5f59e850892&oe=58371486

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หลอดเลือดดี ชีวีเป็นสุข

หลอดเลือดแดงแข็ง เป็นโรคแห่งความเสื่อมที่ยอดฮิต ภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง หมายถึงภาวะที่มีตะกรันของไขมันไปเกาะจับที่เยื่อบุภายในของหลอดเลือดแดงทั่วร่างกาย ทีละน้อยๆ และค่อยๆ หนาตัวขึ้น ทำให้ผนังหลอดเลือดแข็งและรูของหลอดเลือดแดงตีบแคบมากขึ้นเป็นลำดับ กินเวลานับ 5-10 ปีหรือสิบๆ ปีขึ้นไป รูหลอดเลือดแดงนั้นก็จะตีบตัน เลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ได้น้อยลงมาก ทำให้อวัยวะที่หลอดเลือดแดงไปเลี้ยงนั้นขาดเลือดไปเลี้ยง

เกิดโรคต่างๆ ขึ้น ที่สำคัญ คือ หลอดเลือดหัวใจ และหลอดเลือดสมอง

- หากหลอดเลือดหัวใจตีบตัน ก็จะกลายเป็นโรคหัวใจขาดเลือด มีอาการเจ็บจุกที่ยอดอก (ลิ้นปี่) และร้าวขึ้นคอ ขากรรไกรหรือต้นแขน และถ้าเกิดมีเกล็ดเลือดจับเป็นลิ่มเลือดไปอุดตันหลอดเลือดหัวใจ ก็จะมีอาการเจ็บหน้าอกรุนแรง หัวใจวายกะทันหัน เรียกว่า “โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน” ซึ่งเป็นสาเหตุของการตายเฉียบพลัน

- หากหลอดเลือดสมองตีบตัน จะทำให้กลายเป็นโรคอัมพฤกษ์ (แขนขาซีกหนึ่งอ่อนแรงชั่วคราว) ความจำเสื่อม วิงเวียนเห็นบ้านหมุน และถ้าเกิดมีเกล็ดเลือดจับเป็นลิ่มเลือดไปอุดตันหลอดเลือดสมอง ก็จะมีอาการเป็นโรคลมอัมพาตเฉียบพลัน ซึ่งทำให้พิการ หรือเสียชีวิตได้

ปัจจัยที่ก่อให้เกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง ที่สำคัญ คือ โรคเรื้อรังประจำตัว (เบาหวาน ความดันเลือดสูง ไขมันในเลือดสูงหรือผิดปกติ) พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม (สูบบุหรี่ ดื่มสุราจัด ขาดการออกกำลังกาย อารมณ์เครียด) และภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วน ปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่เราสามารถควบคุมหรือแก้ไขได้ นอกจากนี้ ยังอาจมีปัจจัยที่เราไม่สามารถควบคุมได้ คือ พันธุกรรม และความเสื่อมตามสังขาร

ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง

1. พันธุกรรม มีญาติสายตรงเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจหรือสมอง ก่อนอายุ 55 ปี (ในญาติผู้ชาย) หรือ 65 ปี (ในญาติผู้หญิง)

2. ความเสื่อมตามสังขาร ผู้ชายอายุมากกว่า 55 ปี หรือผู้หญิงอายุมากกว่า 65 ปี เสี่ยงต่อมีภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง (มีตะกรันไขมันพอกที่เยื่อบุภายในผนังหลอดเลือด จนท่อตีบ)

3. มีโรคเรื้อรังประจำตัว ได้แก่ เบาหวาน ความดันเลือดสูง ไขมันในเลือดสูงหรือผิดปกติ อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างร่วมกัน แล้วไม่ได้ดูแลรักษาอย่างจริงจัง หรือเป็นโดยไม่รู้ตัวมานานเพราะไม่เคยตรวจสุขภาพ

4. มีภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วนมักเกิดจากการบริโภคเกิน และ/หรือขาดการออกกำลังกาย

5. มีพฤติกรรมเสี่ยง ได้แก่ สูบบุหรี่ ขาดการออกกำลังกาย อารมณ์เครียด* ดื่มสุราจัด** เสพยาบ้า (แอมเฟทามีน) หรือโคเคน**

หมายเหตุ *เสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ **เสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมอง

การป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง

1. ถ้ามีโรคเรื้อรังประจำตัว (ได้แก่ เบาหวาน ความดันเลือดสูง ไขมันในเลือดสูงหรือผิดปกติ) ควรหาทางควบคุมให้กลับสู่ภาวะปกติโดยการดูแลรักษาอย่างจริงจังตั้งแต่แรก

2. ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ได้แก่ ดัชนีมวลกาย 18.5-23 และสัดส่วนเส้นรอบเอวต่อส่วนสูงไม่เกิน 0.5 (เช่น สูง 160 ซม. เส้นรอบเอว (วัดผ่านสะดือ ขณะหายใจออก) ไม่ควรเกิน 80 ซม.)

3. อย่าสูบบุหรี่ดื่มสุราจัด หรือเสพยาเสพติด

4. ออกกำลังกายเป็นประจำ

5. บริโภคอาหารให้เหมาะสม ตามหลัก “ธงโภชนาการ” (ภาพประกอบ)โดยเน้นกินผัก ผลไม้ เมล็ดธัญพืช ถั่วต่างๆ ปลา ลดเนื้อแดง ไขมัน น้ำตาล และเกลือ

6. หาทางจัดการและป้องกันความเครียด

ปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่เกิดมีอยู่ในหมู่คนทั่วไป ดังนั้นโรคที่เกิดจากภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง (ที่สำคัญ ได้แก่ โรคหัวใจ โรคอัมพาต) จึงเป็นสาเหตุของการเจ็บป่วย การพิการ และการตายของคนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนวัยกลางคนขึ้นไป และในคนที่เป็นเบาหวานหรือความดันเลือดสูง

 

 

 

 

 

13626440_10154364951547028_8439364338117038992_n.png?oh=9a9cabcfcf732b800be9a8aab92a580f&oe=57F44234

 

 

 

5 สมุนไพร : ลดความดันโลหิตสูง

1.กระเจี๊ยบแดง ลดความดันโลหิต ขับปัสสาวะ ขับยูริก รวมทั้งลดการอักเสบของระบบทางเดินปัสสาวะภายหลังการผ่าตัดในไตได้ การดื่มชากระเจี๊ยบวันละ 2-3 ครั้ง ช่วยลดความดันโลหิตตัวล่างลงได้ตั้งแต่ร้อยละ 7.2 - 13 เลยทีเดียว ดังนั้นชากระเจี๊ยบจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยความดันโลหิตสูง

2.ขึ้นฉ่าย ชาวจีน ชาวเวียดนามแนะนำให้กินขึ้นฉ่ายวันละ 4 ต้น เพื่อรักษาความดันให้เป็นปกติ ขึ้นฉ่ายมีฤทธิ์ลดความดันโลหิต ขับปัสสาวะ ลดบวม คุมกำเนิด ลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ ยับยั้งการเกิดมะเร็ง ยับยั้งเนื้องอก ต้านการอักเสบ ขับระดู

3.บัวบก พืชสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง มีคุณสมบัติขยายหลอดเลือด ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี จึงสามารถลดความดันโลหิตได้ นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์ต่อระบบประสาท ทำให้การเรียนรู้ดีขึ้น มีฤทธิ์คลายความเครียด ซึ่งฤทธิ์คลายความเครียดนี้เป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยความดันโลหิตสูงด้วย

4.คาวตอง หรือพลูคาว ใช้รากต้มกับปลาไหล รากตำเป็นน้ำพริกกินจะเป็นยารักษาโรคได้ เช่น ช่วยรักษาความดันโลหิตสูง ริดสีดวงทวาร แผลในกระเพาะอาหาร

พลูคาว นับเป็นผักสมุนไพรที่มีการศึกษาวิจัยและจดสิทธิบัตรมากตัวหนึ่ง

5.มะรุม นับเป็นอาหารสุขภาพที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงมากที่สุด พบว่าใบและรากช่วยลดความดันโลหิตได้ มีสารสำคัญที่ออกฤทธิ์ลดความดันโลหิต ตัวอย่างตำรับยาซึ่งต้องกินอย่างต่อเนื่อง เช่น ตำรับที่ 1 นำรากมาต้มกินเป็นซุป ตำรับที่ 2 นำยอดมาต้มกิน ตำรับที่ 3 นำรากมะรุมต้มกับรากย่านางกิน ตำรับที่ 4 ใช้ยอดมะรุมสด โดยจะเป็นยอดอ่อนหรือยอดแก่ก็ได้ นำมาโขลกคั้นเอาน้ำ (ถ้าไม่มีน้ำให้เติมน้ำลงไปพอให้เหลวข้น) ผสมน้ำผึ้งพอหวาน กินวันละ 2 ครั้ง ครั้งละครึ่งแก้ว **ทั้งนี้ห้ามกินมะรุมผงแคปซูล (ทั้งใบมะรุม และเม็ดมะรุม) ลดความดันโลหิต เพราะเป็นอันตรายต่อตับ**

(เครดิตภาพ : เย็นกายสบายใจ, สุชญา, prayod, dailynews)

** สมุนไพรใกล้ตัว มุ่งเสนอสรรพคุณทางยา การนำไปใช้ควรพิจารณาอย่างรอบด้าน **

 

 

 

 

10923480_10153129708137028_1494353089405967098_n.jpg?oh=e7283d59a6ec4a9d32f0ad027b79120a&oe=5833ED59

 

สูตรยาสมุนไพรทะลวงหลอดเลือดแบบโบราณ...แก้... - นานาสาระเพื่อสุขภาพที่ดี ...

 

 

https://www.facebook...alink.php?id...

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

giphy.gif

สวัสดี คุณ milo เห็นแล้ว คิดถึงเเบย

 

giphy.gif

o____- นี่ฝาก คนรักแมวเหมียว เอาแบบไหน จอมซ่า หรือ น่ารัก

giphy.gif

 

giphy.gif

found on giphy.com

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จะเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่?

โดย สิริอัญญา

วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม 2559

ยิ่งใกล้วันลงประชามติที่ประชาชนชาวไทยทั้งประเทศจะได้ไปใช้สิทธิ์ลงประชามติอย่างอิสระว่าจะเห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่? และจะเห็นชอบให้ ส.ว.ที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งมีสิทธิ์เลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่? ก็เกิดความคิดเห็นที่แตกต่างกัน จนเกิดความสับสนขึ้นโดยทั่วไป

คือสับสนว่าจะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ และที่สำคัญคือพวกที่แสดงท่าทีว่าจะไม่รับร่างรัฐธรรมนูญนั้นกลายเป็นคนหลายพวก ซึ่งมีเป้าหมายทางการเมืองตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง

ในส่วนปัญหาที่ว่าจะเห็นชอบให้สมาชิกวุฒิสภาที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งได้เลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่ก็ยังสับสนกันอยู่ว่านี่เป็นระบอบเผด็จการหรือเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

เหตุนี้จึงต้องทำความเข้าใจกันอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อจะได้ลงประชามติกันด้วยสติ ด้วยปัญญา และด้วยความรู้ที่เท่าทันบรรดาคนสารพัดกลุ่ม เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่บ้านเมือง

ประการแรก ไม่ว่าประชาชนจะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญก็เป็นไปตามโรดแมปและคำมั่นสัญญาที่รัฐบาลและ คสช. ได้ประกาศไว้ ผลจะเป็นประการใดไม่มีใครแพ้ชนะ และไม่มีใครต้องรับผิดชอบ ยกเว้นพวกที่เที่ยวชักชวนให้ประชาชนเห็นไปในทางใดในทางนั้นก็ต้องรับผิดชอบกันเอาเอง

ทว่า เมื่อเป็นประชามติแล้วก็ต้องถือว่าเป็นเอกสิทธิ์ของประชาชนที่จะต้องดำเนินการไปตามนั้น และไม่ว่าผลจะเป็นประการใด ต่างชาติใด ๆ ก็อย่ามาเสือกมาแส่อีก

ประการที่สอง ในกรณีที่ผลประชามติไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ตามโรดแมปจะต้องจัดทำร่างรัฐธรรมนูญกันใหม่ ซึ่งครั้งนี้หากมีการต้องร่างรัฐธรรมนูญใหม่ก็คงจะไม่ใช้กระบวนการนอกนิติบัญญัติดังที่ผ่านมา แล้วเกิดความปั่นป่วนวุ่นวายขึ้นทั้งบ้านทั้งเมืองอีกต่อไป เห็นที่ว่าสภานิติบัญญัติแห่งชาติจะได้ทำหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญตามกระบวนการนิติบัญญัติให้เข้าที่เข้าทาง เข้าร่องเข้ารอยเสียทีหนึ่ง

ในกรณีที่ผลประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญ ก็จะมีการเลือกตั้งภายใน 150 วัน โดยจะมีการร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญสำคัญ 4 ฉบับเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันปราบปรามการทุจริตและเป็นเครื่องมือในการเลือกตั้ง ซึ่งก็เป็นไปตามโรดแมปอีกนั่นแหละ

จะต่างกันตรงที่ถ้าต้องร่างรัฐธรรมนูญใหม่ รัฐบาลก็จะต้องบริหารราชการแผ่นดินต่อไป จนกว่าร่างรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญจะเสร็จ ซึ่งเวลาอาจจะต้องยืดออกไปตามความจำเป็น แต่ถ้ารับร่างรัฐธรรมนูญกำหนดการเลือกตั้งก็ชัดเจนว่าจะเกิดขึ้นใน 150 วัน

ประการที่สาม พวกที่แสดงท่าทีแล้วว่าจะไม่รับร่างรัฐธรรมนูญมีสามพวก

ก) พวกพรรคเพื่อไทยและบางส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่พอใจร่างรัฐธรรมนูญ เหตุผลที่ไม่พอใจนั้นเห็นจะไม่ต้องกล่าวอีก

ข) ภาคประชาชนที่ต้องการให้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา บริหารประเทศต่อไป โดยไม่ไว้วางใจให้นักการเมืองเข้ามาบริหารประเทศ

ค) ภาคประชาชนที่ต้องการให้รัฐบาลและ คสช. ปฏิรูปบ้านเมืองให้เสร็จเสียก่อนจึงค่อยเลือกตั้ง ดังที่เคยเรียกร้องกันมาตลอดเวลาที่ผ่านมา

คนสามพวกนี้แม้แสดงท่าที่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญเหมือนกัน แต่เป็นคนละพวกและมีเป้าหมายทางการเมืองตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะพวก ก) กับพวก ข) และ ค)

ประการที่สี่ พวกที่แสดงท่าทีแล้วว่าจะรับร่างรัฐธรรมนูญคือบางกลุ่มของ กปปส. ที่นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ

ประการที่ห้า รัฐบาลและ คสช. มอบให้เป็นเอกสิทธิ์ของประชาชนที่จะตัดสินใจโดยอิสระ ปราศจากการหลอกลวงชักจูงหรือชี้นำว่าจะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ เพราะไม่ว่าจะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญก็เป็นไปตามโรดแมปที่รัฐบาลและ คสช. ได้ประกาศไว้ทั้งสองทาง

ประการที่หก พวกที่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญจำพวกหนึ่งได้เคลื่อนไหวในลักษณะที่จะตั้งเป็นเงื่อนไขและมีลักษณะเป็นแผนงานที่จะป่วนบ้านเผาเมืองต่อไปอีกได้กระทำการอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่สงกรานต์ขันแดง เพื่อก่อสถานการณ์พฤษภาทมิฬ แต่ล้มเหลวไปแล้ว ขณะนี้กำลังตั้งแผนที่จะก่อสถานการณ์วันเสียงปืนแตก 7 สิงหาคม และนำไปสู่เหตุการณ์ตุลาทมิฬ โดยหวังให้ต่างชาติเข้าแทรกแซงเพื่อให้พวกตัวกลับสู่อำนาจซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาล คสช. และประชาชนชาวไทยที่รักชาติที่จะต้องร่วมกันป้องกันเหตุร้ายนี้ให้ได้

ประการที่เจ็ด ในขณะที่การลงประชามติใกล้เข้ามา การเคลื่อนไหวเพื่อนำไปสู่ความรุนแรงได้เกิดขึ้นและสอดประสานกันอย่างคึกคัก แต่อ่อนล้าลงเต็มทีแล้ว เพราะดูเหมือนว่ารัฐบาลและ คสช. สามารถป้องกันแก้ไขความรุนแรงได้ชะงัดนัก

เหล่านี้คือสิ่งที่ประชาชนทั่วไปจะต้องทำความเข้าใจ!

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เมธีเป็นใครมายื่นคำขาด"บิ๊กตู่"เตือนออกมาม็อบโดนจับหมด

  • 20160712politic4.jpg
    วันนี้(12 ก.ค.)พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พระเมธีธรรมาจารย์ เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทยเตรียมเคลื่อนไหว ภายใน 7 วัน หากยังไม่มีการนำรายชื่อสมเด็จพระราชาคณะขึ้นทูลเกล้าฯ สถาปนาสมเด็จพระสังฆราช ว่า "ตกลงประเทศไทยเป็นรัฐของใคร"
    ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะดูแลอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบขึ้นในสังคม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอย่างมีอารมณ์ฉุนเฉียวว่า "ก็ออกมา กฎหมายเขามีหรือเปล่า คำสั่งคสช. เขาว่าอย่างไร ชุมนุมเกิน 5 คนได้หรือเปล่า อยากเคลื่อนไหวก็ออกมา จับวันนี้ไม่ได้ก็จับพรุ่งนี้ ไม่ว่าจะใครทั้งนั้น ผมไม่ได้พูดแค่ผู้ที่ถูกกล่าวชื่ออย่างเดียว ทั้งหมดนั่นแหละ วันนี้จับไม่ได้ก็พรุ่งนี้ ถ้ายังไม่ได้ก็เป็นมะรืนนี้ อย่างไรก็โดนจับอยู่ดีนั่นแหละ เพราะมันผิดกฎหมาย ผมไม่ปล่อยปะละเลย จะเอาอย่างไรกันอีก จะปล่อยให้มันเละเทะ ปล่อยให้ใครอยากทำอะไรก็ทำอย่างนั้นหรือ มายื่นคำขาดกับผมอย่างนี้ได้หรือ ผมควรจะเป็นคนยื่นคำขาดมากกว่า แต่ผมยังไม่ทำเลย สื่อก็ชอบไปให้เครดิตแบบนี้แล้วจะอยู่กันได้อย่างไร ผมอยากจะรู้นัก ถ้าเขาออกมาแล้วพวกคุณได้อะไร หรือถ้าไม่ออกมาแล้วได้อะไร ก็ไม่เห็นจะได้อะไรสักอย่าง นอกจากได้ข่าวมาเขียนแล้วปล่อยให้ประเทศชาติเป็นอย่างไรช่างมันก็เอาสิ เขียนข่าวกันเข้าไป"
    ส่วนกรณีที่สังคมสงสัยว่าพระเทพญาณมหามุนี (ธัมมชโย) ยังอยู่ในประเทศไทยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "สื่อไปช่วยดูให้ผมหน่อย ในทางการข่าวยังไม่มีรายงานว่าไปไหน เห็นว่าก็ยังอยู่ในวัด ผมก็เฝ้ามาตั้งแต่ต้น ตำรวจเองก็อยู่มาตลอด ส่วนจะออกไปทางไหนผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ถ้าจะออก สื่อไปช่วยผมหาหน่อยว่ายังอยู่หรือเปล่า เพราะผมเข้าไปไม่ได้อยู่แล้ว จะเข้าไปก็ต้องลุยเข้าไป แล้วก็เกิดความเดือดร้อนขึ้นมา"
    http://www.thaipost....%B8%A1%E0%B8%9

  • ===
  • 13645117_564229747096951_519159300745908690_n.jpg?oh=69a971b6e9aded7c7b6c750dfb96fdd1&oe=57EA8F74

 

AB TV News Truth

===

 

 

พลิกปูม "พระเมธีธรรมาจารย์" เบื้องหลังม็อบพระปะทะทหาร - Nation

 

 

ในประเทศ - ย้อนโมเม้นต์'พระเมธีธรรมาจาร

 

image001_opt(89).jpeg

 

 

6(1228).jpg

 

 

17 ก.พ. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกสังคมออนไลน์กำลังมีการแชร์ภาพ พระเมธีธรรมาจารย์ (ประสาร จนฺทสาโร) เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย (ศพศ) และคณะสงฆ์หลายสิบรูป นั่งห้อมล้อมสนทนากับ นายทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีตามหมายศาล ภายในห้องแห่งหนึ่ง

จากการตรวจสอบพบว่า ภาพชุดดังกล่าวเป็นภาพที่ถูกเผยแพร่ในโลกสังคมออนไลน์ เมื่อช่วงประมาณวันที่ 12 มิ.ย. 2556 โดยมีการระบุว่า นายทักษิณ ได้พบปะกับพระเมธีธรรมาจารย์ และพระธรรมทูตประมาณ 20 รูป ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 1-10 มิ.ย. 2556

 

 

 

 

12715502_10208766348420577_2939372500429132111_n.jpg?t=1468325020124

 

12728890_461777987352726_808551116173146519_n.jpg?t=1468325020124

 

โดยการเดินทางไปสหรัฐฯ ในครั้งนั้นของ พระเมธีธรรมาจารย์ เป็นการเดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาสงฆ์ไทย ณ วัดไทยกรุงวอชิงตันดีซี หลังจากนั้นพระเมธีธรรมาจารย์ ได้นำคณะบางส่วนทัศนศึกษาตามรัฐต่างๆ ในสหรัฐฯ

 

 

 

 

12717766_10208766348940590_3151603625543876984_n.jpg?t=1468325020124

 

12715738_461777547352770_7315653375158973626_n.jpg?t=1468325020124

 

นอกจากนี้ ยังมีภาพของพระเมธีธรรมาจารย์ ที่มีท่าทีสนิทสนมกับบุคคลสำคัญทางการเมืองหลายคน อาทิ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นายชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี

 

 

 

 

12715357_10208766348580581_7061935541807350160_n.jpg?t=1468325020124

 

12717766_10208766348940590_3151603625543876984_n2.jpg?t=1468325020124

 

ในสถานการณ์ปัจจุบัน พระเมธีธรรมาจารย์ เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในฐานะผู้ประสานงานเครือข่ายพระสงฆ์และองค์กรภาคพุทธบริษัท 4 ทั่วประเทศ ที่ได้จัดกิจกรรมชุมนุมพระสงฆ์ที่บริเวณพุทธมณฑล จ.นครปฐม โดยระบุว่าเป็นการสกัดแผนล้มการปกครองคณะสงฆ์ไทย เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมา รวมไปถึงสนับสนุนให้สถาปนา สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ขึ้นเป็นพระสังฆราชองค์ต่อไป

 

 

 

 

12745978_461777487352776_4831640718463038385_n.jpg?t=1468325020124

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ศาลอุทธรณ์ยืนยกฟ้อง"ปู"ฟ้องอดีตอสส.-พวกแกล้งคดีจำนำข้าว

 

THAIPOST.NET

 

 

 

ผบก.ปทส.นำกำลังบุกยึดวัดชื่อดังเมืองกาญจน์เครือ ธรรมกาย หลังพบรุกที่อุทยานฯกว่า 90 ไร�

กาญจนบุรี - ผบก.ปทส.นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส.…

 

 

 

 

MANAGER.CO.TH|BY MGRONLINE LIVE

 

 

13606562_1176552759034179_1064549764547758458_n.jpg?oh=4f82132dde49ee8ffc13c99898695f22&oe=57FC88FB

 

13600020_1176552889034166_3055635570519953771_n.jpg?oh=c09a8fbe05797725260a5be45e564b9a&oe=57FAF352

 

13627241_1176553452367443_2025324993713504850_n.jpg?oh=fd994d24ae216433d50d97b75c295545&oe=58255306

 

13626638_1176553569034098_8361661267939033989_n.jpg?oh=f534b94ef8a88814c01b7a38bd721d48&oe=5832B932

 

13620995_1176553699034085_7952384408391076111_n.jpg?oh=6649f7db531d912c29cc4d28e9a16b23&oe=5827555D

 

โครงการหนึ่งความดีเพื่อพ่อหลวง shared พระดร.อรุณเมธี พ.'s post.

 

พระดร.อรุณเมธี พ. added 6 new photos.

2 hrs ·

 

 

 

เชิญร่วมบุญสร้างกุฏิถวายพระบนดอย สำหรับบังเเดด ฝน ลมหนาว และสัตว์ในป่า เพื่อสะดวกในการปฏิบัติธรรม

....มาสร้างบุญที่ยิ่งใหญ่ด้วยกัน เราจะสร้างกุฏิถวายแก่พระบนดอย พระธรรมจาริก ที่ท่านเสียสละ อุทิศชีวิตเพื่อเผยแผ่ธรรมะแก่พี่น้องชนเผ่าหรือชาวเขาในป่าบนดอย ท่านไม่ต้องการกุฏิที่ใหญ่โตมโหฬาร ท่านแค่ต้องการที่สำหรับบังแดนฝน ลมหนาวและสัตว์ทั้งหลาย เพื่อความสะดวกในการปฏิบัติศาสนกิจและเจริญจิตภาวนา

....ตอนนี้มีหลายแห่งบนดอยที่ต้องการสร้างกุฏิ แต่ที่จำเป็นที่เราจะต้องสร้างให้ท่านให้เสร็จในเดือนกรกฎาคม สิงหาคมนี้ เพื่อให้ท่านได้อยู่จำพรรษา จะดำเนินการสร้าง 3 แห่งก่อน ดังนี้

....1) จะสร้างที่อาศรมฯผาสุข ต.ภูฟ้า อ.บ่อเกลือ จ.น่าน ที่อาศรมฯมีกุฏิหลังเดียว แต่จะมีพระจำพรรษา 3 รูป และสามเณรอีก 2 รูป ในพรรษานี้ จึงจำเป็นต้องสร้างกุฏิให้หลังใหญ่เพื่อจะได้พักได้หลายรูป

...2)จะสร้างที่อาศรมฯพะติคี ต.แม่อูคอ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน เนื่องจากกุฏิท่านไม่สามารถบังฝนและแรงลมได้ จึงจำเป็นต้องสร้างให้ท่าน เวลาฝนตกน้ำรั่ว ลมมาก็จะล้ม ท่านอยู่ด้วยความลำบาก

...3)จะสร้างที่อาศรมฯสุบินโน ต.แม่สอง อ.ท่าสองยาง. จ.ตาก เนื่องกุฏิของท่านเก่า ชำรุด จึงมีความเป็นสร้างให้ท่านใหม่เพื่อบังแดดฝนได้

....พระบนดอยขอมา พระอาจารย์จึงขอบอกบุญให้เราร่วมกันช่วยท่าน สร้างกุฏิถวายท่านเพื่อเป็นวิมานในสัมปรายภพของเราทั้งหลาย

 

....สามารถร่วมบุญได้ผ่านบัญชี ธนาคารกสิกรไทย สาขามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เลขที่ 013-8-70809-8 ชื่อบัญชี พระอรุณเมธี พุทธิภัทรานันท์

...สอบถามได้ที่ พระดร.อรุณเมธี พุทฺธิภัทโท 086-118-6890หรือ วัดศรีโสดา พระอารามหลวง ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 053-892909 หรือ สำนักงานพระธรรมจาริกส่วนภูมิภาค 053-892346

....หากท่านใดบริจาคแล้ว แจ้งมายังทีมงานธรรมะห่มดอย แจ้งในเฟสนี้หรือในไลน์กลุ่มธรรมะห่มดอย หรือไลน์ Phra Dr.arunmathee สามารถแอด idไลน์ 0861186890

...สร้างเสร็จเราตั้งชื่อว่า กุฏิธรรมะห่มดอย จะปิดบุญนี้วันที่ 12 สิงหาคม 2559

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีจ้า

 

ปลูกต้นกินได้ ปลูกไงให้สวนสวย

 

a8236a434bd1a79d27adee302dd005ee.jpg

 

45135cb5938e4d57f0463f2a9f930f52.jpg

 

35e185cd6cafcd83c11c5080529e5556.jpg

 

87be63b593d081161feb51656de3120e.jpg

 

94412f2dd871c767cb13402cdd4eaa79.jpg

 

bc9d44de6d38578a93f8538d6b64380a.jpg

found on pinterest

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

13615488_479444795585858_4641464302757497941_n.jpg?oh=373ad86f6afc2f71fe7ca7a883085f35&oe=57EDEABA

 

13631415_479444802252524_3701994612210007396_n.jpg?oh=0ecd7dea83a2b8f102828c599b2a02e4&oe=583708E1

 

13645251_479444815585856_3397307771428036153_n.jpg?oh=fcbc8b2a18fd8a9b1a29de1c9a23bb0a&oe=58252A35

 

60Plus+Bakery&cafe บนถนนราชวิถี

 

13600076_479444822252522_5684125750972842384_n.jpg?oh=d00ab1193bd32ea8aa45441fe3d7fc05&oe=582CEB34

ขนม...ฝีมือของคนพิเศษ...ที่ความบกพร่องไม่ใช่อุปสรรค

 

13627247_479444838919187_8806682608006111617_n.jpg?oh=667f57aa100502e5487699a302ab2662&oe=58339D6F

 

ทำงานกันท่ามกลางความสุข..เป็นกำลังใจให้กันต่อสู้ในทุกๆวัน

 

13626965_479444842252520_7234745090023160343_n.jpg?oh=286195d6033780f56feabeeb689b5a9b&oe=58283A73

คริสโตเฟอร์ฮีโร่ที่ช่วยชีวิตคนจนตัวเองได้รับอุบัติเหตุ

 

HAPPY Brownie By Chef Zen added 6 new photos.

 

 

บางทีแรงบันดาลใจก็ลดน้อยลงไป

พยายา.มคิดถึงสิ่งที่ทำให้ดีขึ้นทางจิตใจ

แต่จู่ๆก็มีเรื่องนี้Feedเข้ามา

เหมือนจะบอกว่า...อย่าเพิ่งท้อ

มีคนทำขนมเช่นกันที่ยังต่อสู้อยู่อีกมุมนึงของกรุงเทพ

เขาเหล่านั้นมีความไม่พร้อมในหลายๆด้าน

ซึ่งเราขอเรียกเค้าว่าคนพิเศษ..

 

ที่นี่คือ.....ร้านขนมของคนพิเศษ...."60Plus+ Bakery & Cafe"

ร้านขนมที่ให้โอกาสคนพิเศษ ผู้บกพร่องทางการได้ยิน/ออทิสติก

ผู้บกพร่องทางร่างกาย มาทำงานทั้งในด้านงานผลิตและให้บริการ...โดยมีAPCD Foundation ศูนย์พัฒนาและฝึกอบรมคนพิการแห่งเอเซียและแปซิฟิกร่วมกับร้านขนมยามาซากิมาร่วมฝึกให้....

....มีคุณคริสโตเฟอร์ เบญจกุล เป็นเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ หลายคนคงยังจำคุณคริสได้เมื่อครั้งที่ประสบอุบัติเหตุเพื่อช่วยคนจนตัวเองได้รับอุบัติเหตุ...วันนี้คริสมาร่วมงานอยู่ในร้านแห่งนี้พร้อมเพื่อนๆพี่น้องคนพิเศษ รอตอนรับและให้บริการ....

ลองดูคลิปนี้ดู

พิกัดของร้าน....

60Plus+Bakery&cafe

อยู่บนถนนราชวิถี ใกล้กับศูนย์พัฒนาและฝึกอบรมคนพิการ

ผ่านไปผ่านมา...แถวถนนราชวิถี แวะให้กำลังใจคนพิเศษทำขนม

กันได้..ความไม่พร้อมไม่สำคัญเท่ากำลังใจและโอกาสที่เราแบ่งปันกันในสังคม......!!!!

เรื่องดีที่ควรบอกต่อและแบ่งปัน...

"ความบกพร่องไม่สำคัญ...เท่ากับโอกาสที่หยิบยื่นให้กัน"

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

PRIMETIME กับ เทพชัย : พระ-ศิษย์ กุมถุงเงินธรรมกายระส่ำ

การตรวจสอบเส้นทางการเงินและการถือครองที่ดินของวัดพระธรรมกาย สร้างความกังวลให้กับพระและศิษย์วัดพระธรรมกาย บางรายถึงกับไปอยู่ต่างประเทศแล้ว

อัยการฯสาวลึก 'ธรรมกาย' ปมฟอกเงิน-กลุ่มทุนเลี่ยงภาษี

"อัยการพิเศษ" สาวลึก "ธรรมกาย" คดีฟอกเงิน เร่งสอบเพิ่มใบอนุโมทนาบัตร ออกให้กลุ่มทุน,ระบบการเงินวัด ตอบโจทก์ฟอกเงิน-เลี่ยงภาษีหรือไม่

 

 

 

WWW.BANGKOKBIZNEWS.COM|BY กรุงเทพธุรกิจ

 

ต่อสายตรงสตง.ทันที! อธิบดีกรมศุลฯ พร้อมร่วมมือสอบคืนภาษีรถหรู 2 เอกชนดัง

อธิบดีกรมศุลฯ พร้อมให้ความร่วมมือ สตง.ตรวจสอบกรณีคืนภาษีรถหรู 2 บริษัทผู้นำเข้าจากอังกฤษ เผยโทรหาทันทีหลังทราบข่าว แต่ได้รับแจ้งให้รอประสานงานทางการ…

ISRANEWS.ORG|BY ISRANEWS

 

รมว.สธ.ยันชัดไม่ล้มบัตรทองขออย่าบิดเบือน

รมว.สธ.ยืนยันชัดไม่ล้มบัตรทองแน่นอน ขอบางกลุ่มอย่าบิดเบือน สิทธิที่คนไทยเคยได้ต้องเหมือนเดิมและดีขึ้น

 

 

 

BANGKOKBIZNEWS.COM|BY กรุงเทพธุรกิจ

คืนที่ดินส.ป.ก. แม่"อนันต์ อัศวโภคิน"ยอมรับผิดซื้อโดยไม่รู้ - NOW26.TV

พิกัดข่าวค่ำทั่วไทย : คืนที่ดินส.ป.ก.พันไร่ แม่"อนันต์ อัศวโภคิน"ยอมรับผิดซื้อโดยไม่รู้ "NOW26" 13-7-59

องค์กรโปร่งใสนานาชาติจัดให้กลุ่ม CP รั้งท้ายได้ที่ 93 จาก 100 อันดับประเทศเศรษฐกิจเกิดให

องค์กรโปร่งใสนานาชาตินำ 100 บรรษัทมาจัดอันดับด้านความโปร่งใสอินเดียคะแนนสูงสุด บรรษัทจีนต่ำสุด ไทยมี 3 บริษัทติด Top 25 ทั้งอินโดรามา,ไทย ยูเนียน โฟรเซนและปตท.…

THAITRIBUNE.ORG|BY THAI TRIBUNE

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

13607021_1351587561522596_4579344558734754519_n.jpg?oh=7360740c6dc4068d4b66c9508a604162&oe=57F9E8A0

 

รมว.สธ.ยันชัดไม่ล้มบัตรทองขออย่าบิดเบือน

รมว.สธ.ยืนยันชัดไม่ล้มบัตรทองแน่นอน ขอบางกลุ่มอย่าบิดเบือน สิทธิที่คนไทยเคยได้ต้องเหมือนเดิมและดีขึ้น

 

===

ถ้าช้าก็ลักหลับได้ใช่ไหม?

โดย สิริอัญญา

วันพุธที่ 13 กรกฎาคม 2559

จนถึงวันนี้ความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับมติมหาเถรสมาคมที่เสนอชื่อสมเด็จช่วงต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อนำความกราบบังคมทูลโปรดเกล้าฯ สถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช จะมีรายละเอียดอย่างไรกำลังสับสนเต็มที

ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวสั้นระบุว่า มติคณะกรรมการกฤษฎีกาชี้ว่ามติมหาเถรสมาคมขัดกับมาตรา 7 แต่ตามมาด้วยข่าวอีกว่ายังไม่มีการเปิดเผยคำวินิจฉัย

ถัดมาก็มีข่าวกระเซ็นกระสายว่ามติมหาเถรสมาคมไม่ขัดกับมาตรา 7 และสื่อบางแห่งก็พาดข่าวว่ากฤษฎีกาหักผู้ตรวจการแผ่นดิน เพราะผู้ตรวจการแผ่นดินซึ่งเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามติมหาเถรสมาคมขัดกับมาตรา 7 เนื่องจากเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีที่จะเสนอชื่อสมเด็จพระราชาคณะให้มหาเถรสมาคมเห็นชอบ ไม่ใช่มหาเถรสมาคมมาเสนอชื่อให้นำความกราบบังคมทูลเสียเอง

ไม่ทันไรก็มีคนออกมาอธิบายประสานกันว่า มาตรา 7 ของกฎหมายคณะสงฆ์นั้น นายกรัฐมนตรีจะเสนอชื่อก็ได้หรือมหาเถรสมาคมจะเสนอชื่อก็ได้

การพูดแบบนี้ไม่มีหลักไม่มีเกณฑ์ พูดเหมือนกับรับจ็อบอะไรมาอย่างนั้นแหละ เพราะบ้านเมืองมีกฎหมาย มีขื่อแป และกฎหมายทั้งหลายต้องมีความชัดเจน ไม่ใช่จะเป็นอย่างไหนก็ได้ตามอำเภอใจของคนพูด และเพราะทำกันอย่างนี้บ้านเมืองจึงวิกฤตดังที่เห็น ๆ กันอยู่นี่แหละ จึงกล่าวได้ว่าการทำแบบนี้คือต้นเหตุอย่างหนึ่งของการก่อวิกฤตในบ้านเมือง

ชาวเน็ตทราบความเห็นอย่างนั้นก็รุมกันด่าขรมไปทั้งบ้านทั้งเมือง ซึ่งถ้าหากมีความละอายอยู่บ้างก็ต้องเอาปี๊บคลุมหัว

ตามมาก็มีคนอธิบายอีกว่า ถ้านายกรัฐมนตรีเสนอชื่อสมเด็จพระราชาคณะล่าช้า มหาเถรสมาคมก็สามารถหยิบยกเรื่องขึ้นเสนอชื่อเองได้ ดังนั้นมติมหาเถรสมาคมที่เสนอชื่อสมเด็จช่วงจึงไม่ขัดต่อกฎหมายคณะสงฆ์

ก็ไปดูกระแสข่าวกันเอาเองก็แล้วกันว่าประชาชนชาวบ้านตาดำ ๆ ซึ่งไม่ได้กินแกลบเขามีความคิดเห็นต่อเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งไม่อยากนำมาพูดมาเจียระไนปากคำของชาวบ้านให้กระเทือนใจกันเปล่าๆ

ดังนั้นก็ต้องมาพิจารณาแจกแจงคำอธิบายแบบซ้ายก็ได้ ขวาก็ได้ ซึ่งทำให้บ้านเมืองตกอยู่ในวิกฤตระส่ำระสายกันสักครั้งหนึ่งเพื่อเป็นนิทัศน์อุทาหรณ์ว่าบ้านเมืองนี้มีขื่อแป หากปล่อยให้ปลวกกินขื่อแปจนเป็นหลักให้กับบ้านเมืองไม่ได้แล้ว ในที่สุดบ้านทั้งหลังก็จะพังครืนลงมา

ข้อแรก ที่พยายามอธิบายว่าตามกฎหมายคณะสงฆ์มาตรา 7 ใครจะเสนอก็ได้นั้น เป็นการบิดตะกูดที่น่าละอายที่สุด เพราะกฎหมายเขียนชัดว่านายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคมเป็นผู้เสนอชื่อสมเด็จพระสังฆราช

บัญญัติวิธีลักษณะเดียวกันนี้มีทั้งในรัฐธรรมนูญ มีทั้งในกฎหมายบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งปฏิบัติเป็นอย่างเดียวกันคือหัวหน้า คสช. หรือนายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นผู้ตั้งเรื่องเสนอต่อ คสช. หรือต่อคณะรัฐมนตรี ไม่ใช่ คสช. หรือคณะรัฐมนตรีมีมติแล้วมาเสนอหัวหน้า คสช. หรือคณะรัฐมนตรี ให้ดูตัวอย่างการออกคำสั่งตามมาตรา 44 ของ คสช. ก็ได้ ว่าใครเสนอต่อ คสช. ที่ปฏิบัติกันในขณะนี้ก็คือหัวหน้า คสช. หรือหน่วยงานอื่นเสนอเรื่องมายังหัวหน้า คสช. เพื่อนำเสนอ คสช. เห็นชอบแล้วออกคำสั่งทั้งสิ้น

กฎหมายคณะสงฆ์มาตรา 7 ซึ่งบัญญัติเป็นอย่างเดียวกัน จะไปบิดตะกูดว่าใครจะเสนอก็ได้ ได้อย่างไร?

ข้อสอง นายกรัฐมนตรีเสนอชื่อสมเด็จพระราชาคณะล่าช้าจริงหรือ? ข้อนี้ต้องกล่าวว่าเป็นการตอหลดตอแหลที่ประจานตัวเองทั้งบ้านทั้งเมือง

การพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสร็จไปยังไม่ทันบรรจุอัฐิ และไม่เคยมีข่าวคราวว่าจะมีการประชุมมหาเถรสมาคมเพื่อพิจารณาเรื่องนี้ ช่วงเวลาแบบนี้จะว่ายาวได้อย่างไร และจะเสนอเมื่อใดเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่อำนาจคนอื่นที่จะยุ่งเกี่ยวชี้ขาดว่านายกรัฐมนตรีเสนอชื่อช้าหรือไม่ช้า

ประชาชนเขาไม่ไว้ใจพฤติกรรมเหล่านักรับจ๊อบอยู่แล้ว ดังนั้นสื่อมวลชนจึงเพียรสอบถามว่าจะมีการประชุมมหาเถรสมาคมเรื่องนี้เมื่อใด ก็ปิด ๆ บัง ๆ กัน คือปิดบังกันทุกระดับนั่นแหละ ถามจริง ๆ เถิดว่าการปิดบังแบบนั้นคือการร่วมกันโกหกประชาชนไม่ใช่หรือ?

และแล้วประชาชนมาทราบความอีกทีก็มีการลักหลับว่ามีการประชุมมหาเถรสมาคมแล้ว และลงมติเสนอสมเด็จช่วงแล้ว เท่านั้นแหละเสียงก่นด่าสาปแช่งก็กึกก้องกระหึ่มไปทั้งบ้านทั้งเมือง แล้วฟังกันบ้างไหมนี่!

ยังจะดันทุรังกันไปถึงขั้นมีการปูทางอธิบายข่าวต่อสื่อมวลชนอย่างไม่ละอายว่านายกรัฐมนตรีมีฐานะเป็นแค่ไปรษณีย์ เมื่อมหาเถรสมาคมมีมติอย่างไรก็จบ

ไม่อยากจะพูดว่าเตรียมแผน เตรียมทาง วางจังหวะกันไว้อย่างไร แต่คงคิดผิด คาดผิด เพราะนายกรัฐมนตรีไม่ใช่ไปรษณีย์ หากเป็นผู้มีอำนาจตามกฎหมาย และเป็นผู้ต้องรับผิดชอบในการสนองพระบรมราชโองการ

ดังนั้นเมื่อนายกรัฐมนตรีแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่าจะไม่นำสิ่งที่มีปัญหาหรือนำปัญหาขึ้นกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยเด็ดขาด จึงเกิดความโล่งอกขึ้นในหมู่ประชาชน

เหตุนี้การที่นายกรัฐมนตรียังไม่เสนอชื่อสมเด็จพระราชาคณะ จึงไม่ได้ล่าช้าดังที่มีการอธิบาย และจะล่าช้าหรือไม่ล่าช้าก็ไม่ใช่เรื่องของคนที่ไม่มีหน้าที่ที่จะมาตัดสินใจแทนนายกรัฐมนตรี

การพูดเป็นทำนองตำหนิว่านายกรัฐมนตรีเสนอชื่อล่าช้านั้น ออกจะไม่เป็นธรรมต่อนายกรัฐมนตรี และเป็นการแสดงท่าทีที่วางกล้ามวางอำนาจมากเกินไปหรือไม่ ขอสาธุชนทั้งหลายช่วยกันพิจารณาดู

ข้อสาม ผู้ตรวจการแผ่นดินซึ่งเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญมีอำนาจตรวจสอบ ไต่สวนและวินิจฉัยว่าการกระทำใดถูกหรือผิด ถ้าผิดก็มีอำนาจวินิจฉัยให้ปรับปรุงให้แก้ไขเสีย หากคนมีหน้าที่ไม่ยอมปฏิบัติตามก็เป็นหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดินที่จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย

ซึ่งมีหลายกระบวนการที่จะดำเนินการ อย่างน้อยที่สุดก็ต้องมีหนังสือยืนยันให้กระทำตามการวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน หรือถ้าเห็นว่ามีการบิดตะกูดใช้อำนาจหน้าที่โดยไม่ชอบ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ ผู้ตรวจการแผ่นดินก็สามารถแจ้งต่อ ป.ป.ช. ให้ทำการไต่สวนดำเนินคดีอาญากับผู้กระทำความผิดได้

ที่สำคัญ ที่ประชาชนจะต้องทำความเข้าใจก็คือว่า คำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดินนั้นไม่ใช่คำแนะนำ เพราะองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญนี้ไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อแนะนำใคร เหมือนกับบางหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการแนะนำให้เลิกกินเหล้า เลิกสูบบุหรี่ เลิกเที่ยวผู้หญิง หากเป็นองค์กรสำคัญตามรัฐธรรมนูญที่คำวินิจฉัยมีผลตามกฎหมาย

การบิดตะกูดว่าคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นเพียงคำแนะนำ และคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกาต้องปฏิบัตินั้น นั่นหมายถึงกรณีที่ไม่มีคำวินิจฉัยขององค์กรอิสระและเป็นกรณีการบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปตามปกติและไม่มีความขัดแย้งระหว่างหน่วยงานเหมือนกับกรณีนี้

ดังนั้นเมื่อความจริงเปิดเผยออกมาเช่นนี้ก็จะได้รู้กันเสียทีว่าใครบ้างที่กำลังสร้างปัญหาให้กับบ้านเมือง และจะแก้ไขกันอย่างไรก็เป็นเรื่องที่จะต้องช่วยกันคิด ช่วยกันทำต่อไป!

===

 

หมายข่าวนิวทีวี18

13 hrs

 

หมายข่าวล้อมกรอบ กับ ประจักษ์ มะวงษา " ผ่าเส้นทางผ้าเหลืองในดงแดงของเจ้าคุณเมธี "

 

tnews_1468379120_657.jpg

แชร์สนั่น!! เพลงนักเลงพระปะทะทหาร วินาทีพระล็อกคอทหาร ม็อบพระพุทธมณฑล“ทหารมีไว้ทำไม”

รวมวินาที! ม็อบพระที่พุทธมณฑล ฮือล้อมกรอบทหาร ยกรถจี้ถกตั้ง -สังฆราช- พระทำร้ายทหาร หรือทหารทำร้ายพระ - ธรรมกาย .

 

Credit : เพลง นักเลงพระ (วิชาแพะ) cover by ตี๋คุงครีเอถีบนอกโลก

ทหารทำร้ายพระ ณ พุทธมณฑล "เห็นแต่พระทำร้ายทหาร" ธรรมกาย ยุบพอง คลิปพระล็อคคอทหาร ม็อบพระ

ระทึก!! ม็อบพระ ชุมนุมปะทะทหาร ดุเดือด! พุทธมณฑล นครปฐม มีคลิป

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara) shared Issaradham TV'slive video.

 

Yesterday at 08:20 ·

 

ชมสด หลวงปู่พุทธะอิสระ พาชมพื้นที่ปลูกป่า และนำเด็กนักเรียนจากโรงเรียนแม่วินสามัคคี ปลูกต้นไม้ยืนต้นเพิ่มเติม เพื่อปลูกสำนึกรักในผืนป่าในพื้นที่บ้านเกิดของเด็กๆ ที่ ต.แม่วิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่

====

กุกๆ กักๆ หงึกๆ หงักๆ อย่างนี้มันต้องถอน

๑๒ กรกฎาคม ๒๕๕๙

สืบเนื่องเรื่องเกิดขึ้นมาจาก นายสุวพันธุ์ ตันยุวธรรณะ แถลงข่าวเรื่องกฤษฎีกาตีความ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ มาตรา ๗ เรื่องที่มาของว่าที่พระสังฆราช ว่าใครจะเป็นผู้มีอำนาจเสนอชื่อ

 

โดย กฤษฎีกา ได้พิจารณาตีความใน ๓ ประเด็น คือ

๑. มส. มีอำนาจพิจารณาผู้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช

๒. มส. เสนอนามสมเด็จพระสังฆราชส่งให้นายกฯ ไม่ขัดกฎหมาย

๓. รัฐบาลไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการฯ

กฤษฎีกาตีความทั้ง ๓ ประเด็น และยืนยันว่า

“นายก มีอำนาจ ที่จะดูความเหมาะสม ของผู้ที่ มส. เสนอชื่อมา”

นี่ก็แสดงว่านายกในฐานะผู้มีอำนาจรัฏฐาธิปัตย์เต็มที่จะพิจารณาว่าเหมาะสม หรือไม่เหมาะสมอย่างไรก็ได้

แล้วทำไม นายสุวพันธุ์ ตันยุวธรรณะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีผู้กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนา ถึงไม่พูดให้เคลียร์ แต่เลือกที่จะพูดเฉพาะ “กฤษฎีกาได้ตีความขั้นตอนการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ ไม่ขัดกับมาตรา ๗ ตาม พ.ร.บ. คณะสงฆ์” เท่านั้น

ด้วยพฤติการณ์ของนายสุวพันธุ์ เช่นนี้ จึงทำให้คนไทยผู้มีหัวใจรักพระธรรมวินัย พระพุทธศาสนา ต่างพากันอดคิดเสียมิได้ว่าตกลง สมเด็จช่วง กลุ่มธรรมกาย และพวกเฮียประสาร อยากให้สมเด็จช่วงได้เป็นสังฆราช หรือว่านายสุวพันธุ์อยากให้สมเด็จช่วงได้เป็นกันแน่

มิน่า ผอ. สำนักพุทธที่คนในสังคมเขาตำหนิว่าไม่ทำงาน ไม่ทำหน้าที่ในกรณีลัทธิอลัชชีทำจนกลาย ที่ละเมิดทั้งพระธรรมวินัย ละเมิดทั้งกฎหมายบ้านเมือง ยังสามารถลอยหน้าลอยตาอยู่ได้โดยที่ ผอ. สำนักพุทธไม่ทำอะไรเลย รัฐมนตรีที่มีหน้าที่กำกับดูแลกลับทำเฉย ทั้งที่บกพร่องเห็นๆ

งานนี้ท่านรัฐมนตรีต้องตอบปัญหาให้เคลียร์ ว่าทำไมถึงพูดไม่หมด กึกๆ กักๆ ทำเป็นกั๊ก จนเกิดวิวาทะขึ้นในสังคม

หากงานนี้พวกเฮียประสาร ออกมาระดมพลคนรักตำแหน่งสังฆราช มาทวงตำแหน่ง จนเกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านในเมือง คนที่ควรจะต้องรับผิดชอบ โดยตรง ก็คงหนีไม่พ้น ท่านรัฐมนตรีประจำสำนักนายกคนนี้เป็นแน่

พุทธะอิสระ

(ขอบคุณภาพประกอบจาก Nation TV)

 

 

 

 

 

13606770_10154279919473446_432162491658158295_n.jpg?oh=91c8ec3037e17cfccadadaa24e6c5fd3&oe=57F0972D

13606636_10154279919568446_1264259089051823086_n.jpg?oh=a3166358de0563f75648e7e1e63ed0f6&oe=57EF1DE7

 

 

===

PRIMETIME กับ เทพชัย : พระ-ศิษย์ กุมถุงเงินธรรมกายระส่ำ

การตรวจสอบเส้นทางการเงินและการถือครองที่ดินของวัดพระธรรมกาย สร้างความกังวลให้กับพระและศิษย์วัดพระธรรมกาย บางรายถึงกับไปอยู่ต่างประเทศแล้ว

 

อัยการฯสาวลึก 'ธรรมกาย' ปมฟอกเงิน-กลุ่มทุนเลี่ยงภาษี

"อัยการพิเศษ" สาวลึก "ธรรมกาย" คดีฟอกเงิน เร่งสอบเพิ่มใบอนุโมทนาบัตร ออกให้กลุ่มทุน,ระบบการเงินวัด ตอบโจทก์ฟอกเงิน-เลี่ยงภาษีหรือไม่

 

 

 

 

WWW.BANGKOKBIZNEWS.COM|BY กรุงเทพธุรกิจ

 

 

 

ต่อสายตรงสตง.ทันที! อธิบดีกรมศุลฯ พร้อมร่วมมือสอบคืนภาษีรถหรู 2 เอกชนดัง

อธิบดีกรมศุลฯ พร้อมให้ความร่วมมือ สตง.ตรวจสอบกรณีคืนภาษีรถหรู 2 บริษัทผู้นำเข้าจากอังกฤษ เผยโทรหาทันทีหลังทราบข่าว แต่ได้รับแจ้งให้รอประสานงานทางการ…

 

ISRANEWS.ORG|BY ISRANEWS

 

 

 

 

รอยด่าง? เก้าอี้ สังฆราช

สั่นสะเทือนวงการสงฆ์ เมื่อรถเบนซ์สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ อยู่ในบัญชีตรวจสอบรถหรูจดประกอบเลี่ยงภาษี 5,000 คันของดีเอสไอ ขณะที่พนักงานสอบสวนขอ 1 เดือนสรุปผลเรื่องนี้ แม้ว่าคดีในทางโลกจะจบ แต่ทางธรรมยังไม่จบ!! ติดตามใน รอยด่าง? เก้าอี้ สังฆราช Nation X…

 

 

 

 

NATIONTV.TV|BY NATIONTV 22

 

 

 

BANGKOKBIZNEWS.COM|BY กรุงเทพธุรกิจ

 

 

คืนที่ดินส.ป.ก. แม่"อนันต์ อัศวโภคิน"ยอมรับผิดซื้อโดยไม่รู้ - NOW26.TV

พิกัดข่าวค่ำทั่วไทย : คืนที่ดินส.ป.ก.พันไร่ แม่"อนันต์ อัศวโภคิน"ยอมรับผิดซื้อโดยไม่รู้ "NOW26" 13-7-59

13645349_898939693585344_717419590716288181_n.jpg?oh=35f5373d1505d507bf4f1592079e2656&oe=5836F462

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...