ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤษภาคม 14, 2014 Cr. ทนายวันชัย สอนศิริ ทั้งเห่า...ทั้งหอน...ทั้งขู่กันฟ่อๆว่าถ้าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้นายกฯสิ้นสุด บ้านเมืองจะเป็นอย่างนู้นอย่างนี้ จะลุกเป็นไฟ...นรกมีจริง...สารพัดที่จะเห่า... ตกลงเป็นอะไรกันแน่? เป็นรัฐบาล เป็นผู้ปกครอง เป็นเจ้าหน้าที่หรือเป็นอันธพาล เป็นโจร เป็นคนร้ายหรือเป็นไอ้ห้าร้อย... ตกลงรู้มั้ยว่าตัวเองเป็นอะไร? แต่ที่แน่ๆ...น่าจะรู้อยู่แล้วว่าเป็นขี้ข้า ถึงได้สำรากสำรอกออกมาเหมือนจะรู้วันตาย ใครจะไปรู้ดีเท่าตัวเองเล่า... ทำกรรมชั่วไว้อย่างไร ก็ต้องเร่าร้อนและเดือดร้อนจากผลของกรรมชั่วนั้นมันมาลากลงนรกแล้ว... ธรณีกำลังสูบ... วันนี้ก็คงจะรู้ผลว่าจะอยู่หรือไป... ฟังจากข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่ไต่สวนกันเมื่อวาน ท่าจะรอดยาก... ดูหน้าดูตาแล้วโหงวเฮ้งมันตกเหลือเกิน... ทั้งหางคิ้วก็ตก หูก็ตก ตาด็ตก...ดูแล้วหมดสภาพ ไม่มีภาวะอะไรที่เหลืออยู่เลย... ไม่ไปก็เหมือนไป ไม่สิ้นสุดก็เหมือนสิ้นสุด จะดันกันไปถึงไหน... วันนี้ก็คงจบแค่นี้แหละ... กรรมมันติดจรวด... จบ... ศพไม่สวย... อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤษภาคม 14, 2014 วิวงามๆ เครื่องดื่มเย็นๆ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤษภาคม 14, 2014 เราต้องเป็นผู้เล่น..ไม่ใช่หมากในกระดาน ตอนที่ ๔.๑ “เดี่ยวปั๊ดเหนี่ยวเลย” ...อย่างที่เคยกล่าวไว้ ในบทความก่อนๆ แล้วว่า..สิ่งที่มีความจำเป็นเร่งด่วนในตอนนี้สำหรับ “ทักษิณฯ” ก็คือ การนำน้องสาวออกจาก “วงล้อม”ทางการเมือง....เพราะสถานะของ “คุณดอกงิ้ว” ในเวลานี้ไม่ต่างจากการตกเป็น....“ตัวประกัน”ทางการเมืองของหลายๆฝ่าย ...ซึ่งถ้ามองกันอย่างผิวเผินดูเหมือนว่า... “คุณดอกงิ้ว” จะได้รับการดูแลและการอารักขาเป็นอย่างดี..แต่ในความเป็นจริง... “ไม่ใช่ทั้งหมดที่เห็น!!”.... ...วิธีที่“ทักษิณฯ” จะนำ“คุณดอกงิ้ว” ออกจากวงล้อมทางการเมืองแบบเปลืองตัวน้อยที่สุดและยังเป็นการ “พลิกวิกฤตเป็นโอกาส”ก็คือ“ศาลรัฐธรรมนูญ”นั่นแหละ...เพราะ “ทักษิณฯ” ประเมินแล้วว่า ผลการตัดสิน น่าจะออกมาไม่ค่อยดีสำหรับ“คุณดอกงิ้ว” แต่การที่จะรุกขึ้นมา ปฏิเสธอำนาจฝ่ายตุลาการนั้น..เป็นสิ่งที่นานาอารยประเทศเค้าไม่ทำกัน..ขืนทำไปก็เหมือนกับประจานตัวเอง...ไม่ต่างจากการฆ่าตัวตาย ....ภายหลังจาก “ศาลรัฐธรรมนูญหรือ ปปช.” ตัดสินคดีหรือชี้มูลความผิดแล้ว “ทักษิณฯ” จะหาทางนำตัว “คุณดอกงิ้ว” ออกจาก แวดวงการเมืองไปก่อน แต่ขณะเดียวกันก็จะเร่งผลักดันให้มีการเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว และถ้าใครขัดขวางการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้น.... ไม่ว่าจะโดยจัดตั้งรัฐบาล “คนกลาง” หรือโดยวิธีอื่นใด....“การนองเลือด” มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้มากที่สุด!!..แต่ใจเย็นๆอ่านต่อให้จบ ... ดังนั้น จึงกล่าวโดยสรุปได้ว่า ...(๑) หากศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยออกมาในทางลบต่อ รัฐบาล ช่วงนี้ เหตุการณ์รุนแรง ถึงขนาดจลาจล เผาบ้านเผาเมืองอย่างในปี ๕๓ ไม่เกิดขึ้นแน่นอน...จะมีก็แต่เพียงการก่อกวนแบบวินาศกรรม ลอบทำร้าย อย่างที่เห็นๆกันอยู่ เพราะ “ทักษิณฯ” ต้องการให้ “คุณดอกงิ้ว” ออกจากตำแหน่งอยู่แล้ว เพราะ จะได้ไม่มี คนในครอบครัวของ “ทักษิณฯ” เป็นตัวประกันในทางการเมือง ไม่ต้องเสี่ยงติดคุกติดตาราง หรือ ถูกจับตัวจาก “กองกำลังไม่ทราบฝ่าย...!!!” ...(๒) สำหรับ “ทักษิณฯ”แล้ว การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น ถือว่าเป็น....กระสุนนัดเดียว... “ได้นกทั้งฝูง”... คือ (๒.๑) “ล้างไพ่” ปลดประจำการลิ่วล้อที่ไม่ได้เรื่องออกไป...(๒.๒) โอกาส ที่จะใช้สมุนและบริวาร...“ทั้งในและนอกกฎหมาย”...กวาดล้าง ผู้ที่ขัดขวางการเลือกตั้งและศัตรูทางการเมือง...(๒.๓) เป็นโอกาส ในการจัดทัพใหม่ (Reorganization) เพื่อกลับมาต่อสู้หลังการเลือกตั้งอีกครั้ง...และ(๒.๔) การที่ “ทักษิณฯ” ออกมาสนับสนุนการเลือกตั้ง ในขณะที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับสื่อต่างชาติ ย่อมจะช่วยทำให้ภาพของ “ทักษิณฯ” ดูดี ดูเป็นพระเอก ในสายตาของประชาคมโลก ดังนั้น ตราบใดที่ “ทักษิณฯ” ยังมีความหวังที่การเลือกตั้ง...เหตุการณ์รุนแรง ก็ยังไม่น่าจะเกิดขึ้น.. เพราะ “ทักษิณฯ” จำเป็นต้อง “Play Safe & Save Cost” ไว้ก่อน ...(๓) เหตุการณ์รุนแรงจริงๆ จะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อ “ทักษิณฯ....ฝันสลาย” คือ การเลือกตั้งไม่เกิดขึ้นเป็นแน่แท้ หรือ เกิดขึ้นหลังการปฏิรูปประเทศเพราะการปฏิรูปประเทศ ซึ่ง “ทักษิณฯ...ยอมไม่ได้” เพราะอาจทำให้โอกาสที่ จะกลับเข้ามาบริหารประเทศเป็นพรรคเสียงข้างมากในรัฐบาลของ พลพรรค เผาไทย ลดน้อยลง หรือ อาจไม่มีโอกาสเลย...เว้นแต่.. “ทักษิณฯ” จะได้มีส่วนร่วมในการปฏิรูปประเทศด้วยซึ่ง..“คงยาก” ...(๔) เหตุการณ์รุนแรงจะเกิดขึ้น เฉพาะ ในช่วงที่กำลังจะมีการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อการปฏิรูปประเทศ ภายใต้เงื่อนไขที่ “ทักษิณฯ” ไม่ได้มีส่วนร่วม และเน้นอีกครั้งว่า ในเวลานั้น จะต้องไม่มีคนในครอบครัวของ “ทักษิณฯ” เป็นตัวประกันทางการเมือง ...(๕) ทางด้านกองกำลังของ “ทักษิณฯ” เองนั้น ยังไม่พร้อมและคงยากที่จะพร้อม หากเทียบศักยภาพของ กองทัพ “ทหารพระราชา” โดยเฉพาะ ในช่วงเวลานี้ กองกำลังต่างๆที่จะคิดร้ายต่อ ชาติ และราชบัลลังก์ ได้ถูกปฏิบัติการจิตวิทยา (ปจว.) แทรกซึม สร้างความปั่นป่วน ทำลายขวัญและกำลังใจ ถอนตัวไปก็มาก...สูญหายโดยไม่ทราบสาเหตุก็เยอะ...ที่สำคัญ ฝ่าย“ทักษิณฯ”ไม่สามารถแยกแยะได้เลยว่า “ใครตัวจริง ใครตัวปลอม” ... ดังนั้น การปล่อยข่าว ลวงปัญญาอ่อนต่างๆ ดูเหมือนจะไม่มีผลใดๆ กับ ทหารพระราชาทั้งสิ้น เพราะหน่วยข่าวของจริง อยู่ในพื้นที่หมดเต็มไปหมด...ไม่มีอะไรเล็ดลอด สายตาย “ผู้การแดงแห่ง พล.๑ รอ.”ไปได้ ชนิดที่เรียกว่า “แค่พวกมึงจาม...กูก็ได้ยิน” ...ตอนนี้ รอคำสั่งอย่างเดียว... ….ดังนั้น จึงขอฝากถึงพี่น้องมวลมหาประชาชน ให้หนักแน่น ต่อข่าวลวง ข่าวลือ ต่างๆที่ออกมาในช่วงนี้ เพราะเป็นการเห่าหอน เจ็บปวดจากความผิดหวังของฝ่ายที่ผิดหวังและ สูญเสียประโยชน์ และ ถ้าไม่มีหลักฐานหรือภาพถ่ายยืนยันประเภท มีรถตะกวด เข้ามา เป็นร้อยๆคัน หรือ มีกองกำลังต่างด้าว นู่นนี่นั่นเยอะแยะไปหมด ...ถ้ามีจริง จะไม่มีใครถ่ายรูปได้เลยหรือ และถ้ามีจริง...ก็ไม่รอดสายตาของฝ่ายความมั่งคงแน่นอน... เพราะฉะนั้น...อย่าหลงเชื่ออะไรง่ายๆ...เพราะ..เราเป็นผู้เล่น..ไม่ใช่หมากในกระดาน... (ดูซะ ใครดูแล้ว ขอให้ดูอีก จะได้สบายใจ http://youtu.be/0wyEZh5udGc ) Cr หมื่นทิวา พันราตรี อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤษภาคม 14, 2014 (มีการแก้ไข) ถูกแก้ไข พฤษภาคม 14, 2014 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤษภาคม 14, 2014 พี่เค้าจัดเต็ม Cr เถกิง สมทรัพย์ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤษภาคม 14, 2014 พระอาทิตย์ทรงกรด อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤษภาคม 14, 2014 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤษภาคม 14, 2014 (มีการแก้ไข) แถลงการณ์ของสภาทนายความ ฉบับที่ 11/2557 เรื่อง การตรวจสอบการทำงานของคนต่างด้าว (นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม) ................................................. ตามที่มีข่าวปรากฏชัดทั้งสื่อสารมวลชนที่เป็นสิ่งพิมพ์และวิทยุโทรทัศน์ กรณีที่นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ที่เป็นทนายความของพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร ได้มาขึ้นเวทีของกลุ่มคนที่เชื่อในตัวพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2557 นั้น นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ได้ทำงานในฐานะเป็นทั้งทนายความของพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร และเป็นล็อบบี้ยิสต์ในส่วนของการต่อสู้คดีคือการให้ความเห็นกฎหมายระหว่างประเทศแก่พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร มาโดยตลอด และเป็นที่ทราบกันดีโดยทั่วไป ซึ่งสภาทนายความเห็นว่าการที่นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม อาจหาญมาให้ความเห็นด้านการเมืองและทางกฎหมายในประเทศไทยนั้น นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม เองซึ่งเป็นนักกฎหมายต้องรู้ดีว่าแต่ละประเทศมีกฎหมายต่างกัน โดยเฉพาะในเรื่องกฎหมายความมั่นคง สภาทนายความจึงขอแถลงการณ์มาเพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติดำเนินการ และให้ประชาชนทั้งหลายเข้าใจหน้าที่ของทนายความที่ดี การปฏิบัติตนตามกฎหมายภายในของประเทศนั้นมีลักษณะที่ถูกต้องอย่างไร ดังนี้ 1.กฎหมายของประเทศไทยในมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญาเกี่ยวกับการพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นกฎหมายที่อยู่ในประมวลกฎหมายอาญา ภาค 2 ลักษณะ 1 ความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ซึ่งประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าทราบดีว่าองค์พระประมุขและสถาบันพระมหากษัตริย์ได้อยู่คู่กับปวงชนชาวไทยมานาน แม้จะมีการพระราชทานอำนาจอธิปไตยให้แก่ปวงชนชาวไทยแล้ว แต่ปวงชนชาวไทยก็ได้ถวายพระราชอำนาจกลับคืน โดยใช้อำนาจบริหารผ่านรัฐบาล นิติบัญญัติผ่านรัฐสภา และตุลาการผ่านศาลยุติธรรม พระองค์จึงไม่ได้เข้ามาก้าวก่ายหรือยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่เป็นส่วนของสถาบันสูงสุดที่เกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ บทบัญญัติดังกล่าวนั้นจึงได้ถูกกำหนดไว้เป็นครึ่งศตวรรษมาแล้ว 2.นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ย่อมทราบดีว่ากฎหมายความมั่นคงของชาติไทยก็ไม่น้อยไปกว่ากฎหมายความมั่นคงหรือ Homeland Security ของประเทศสหรัฐอเมริกาที่ออกมาป้องกันการเป็นศัตรูกับสหรัฐอเมริกา รวมไปถึงคนชาติอื่นที่เข้ามาทำหน้าที่หรือค้าขายอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ตัวอย่างเช่นอดีตศาสตราจารย์และนักธุรกิจท่านหนึ่งถูกจับที่สหรัฐอเมริกาในข้อหาค้าขายเรื่องธุรกิจพลังงานกับประเทศอิรักในสมัยของประธานาธิบดีซัสดัม ฮุสเซน ขณะที่ประเทศอิรักเป็นศัตรูทางสงครามกับประเทศสหรัฐอเมริกา คนไทยท่านนั้นถูกจับและถูกกล่าวหาว่าเป็นศัตรูทางสงครามเพราะค้าขายกับประเทศอิรัก โดยที่ท่านเองก็ไม่ทราบมาก่อน ต้องประกันตัวถูกปล่อยตัวชั่วคราวก่อนที่จะสู้คดีและได้รับการพิพากษาถูกปล่อยตัวกลับบ้าน 3.ดังนั้นหากจะเทียบกันในเรื่องกฎหมายก็ต้องถามนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ว่าเข้าใจกฎหมายความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงของราชอาณาจักรไทยดีหรือยัง ถึงบังอาจมาให้ความเห็นว่าควรยกเลิกมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญา นั้น สภาทนายความเห็นว่าการกระทำของนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ที่มาขึ้นเวทีและออกถ้อยแถลงเช่นนั้นเป็นการกระทำที่เข้าข่ายการกระทำความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ จึงควรจะต้องมีการดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อฐานเจตนาของนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม และประโยชน์ที่ได้จากการเข้ามาทำหน้าที่เป็นทนายความให้กับพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร บนเวทีของกลุ่มผู้นิยมพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร 4.พนักงานเจ้าหน้าที่ กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ควรที่จะต้องตรวจดูด้วยว่านายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม เข้ามาในประเทศไทยในฐานะเป็นนักท่องเที่ยวหรือเข้ามาภายใต้ visa และมีใบอนุญาตให้ทำงานในประเทศไทย เพราะเชื่อได้ว่าการมาทำงานครั้งนี้ก็ต้องคิดค่าใช้จ่าย ค่าเดินทาง ค่าตัว กับพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร ดังนั้นต้องมีใบอนุญาตให้ทำงานที่ชอบด้วยกฎหมายเหมือนเช่นคนไทยที่ไปทำงานในประเทศสหรัฐอเมริกาก็ต้องมี Green Card หรือ Work Permit แล้วแต่กรณี ถ้าไม่มีก็ต้องถูกจับกุม 5.ดังนั้นเจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานเจ้าหน้าที่ของกระทรวงแรงงาน ไม่ควรนิ่งเฉยต่อการปฏิบัติหน้าที่ที่มีอยู่ มิเช่นนั้นแล้วต้องถูกถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในระหว่างที่มีการละเมิดหรือหากมีการละเมิดการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาหรือพระราชบัญญัติที่มีโทษทางอาญาโดยชัดแจ้ง จึงแถลงการณ์มาเพื่อทราบโดยทั่วกัน สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ถูกแก้ไข พฤษภาคม 14, 2014 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤษภาคม 14, 2014 บัวแก้วเสรีขอประนามความพยายามดื้อดึงที่จะใช้การต่างประเทศของไทย เช่น การเป็นตัวแทนประเทศในโอกาสการประชุมระหว่างประเทศที่สำคัญต่าง ๆ ที่ผ่านมาและ โดยเฉพาะการประชุมสุดยอดอาเซียนที่เมียนมาร์ในสัปดาห์หน้าเป็นเหลี่ยมคู เพื่อเอาชนะคะคานความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศ ซึ่งทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศไทยอย่างร้ายแรงและส่งผล เสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของอาเซียน Free Buakaew Movement condemns the stubbornness to exploit Thailand's foreign policy, such as representing the country on important international conferences especially the ASEAN Summit in Myanmar next week, as a ploy to gain perceived political leverage, which directly and severely undermines Thailand's credibility and tarnishes ASEAN's image. การกระทำดังกล่าวสร้างความลำบากใจสำหรับประเทศเจ้าภาพและมิตรประเทศใกล้ชิด เช่น ประเทศสมาชิกอาเซียน ในขณะที่สถานะทางกฎหมายและความชอบธรรมทางการเมืองของรัฐบาลยังมีคำถามและข้อสงสัยอีกมาก แม้แต่สำหรับสังคมไทย นอกจากนี้ ยังสร้างความสับสนต่อเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งที่อาจจะไม่ชอบด้วยกฎหมายด้วย Such acts also create difficulties for the host country and other ASEAN Members when the legal status and legitimacy of the current government are still in question even in Thai society. Additionally, this also creates confusion amongst officers as they run the risk of discharging directives that might not be legally sound. การดำเนินนโยบายต่างประเทศจะต้องทำเพื่อผลประโยชน์แห่งชาติและประชาชน รวมทั้งภาพลักษณ์และศักดิ์ศรีของประเทศเป็นสำคัญเสมอ มิใช่ทำเพื่อตัวเอง หรือเพื่อความอยู่รอดทางการเมืองของตัวเอง กลุ่มพวกพ้อง บริวาร เครือญาติ ทั้งส่วนตัวหรือกลุ่มการเมืองใด ซึ่งเป็นการกระทำที่เลวร้ายที่ประชาชนไทยไม่ควรยอมรับ ประเทศไทยควรมอบหมายให้ผู้ดำรงตำแหน่งตำแหน่งสูงสุดในฝ่ายข้าราชการประจำ คือปลัดกระทรวงการต่างประเทศให้ทำหน้าที่หัวหน้าคณะผู้แทนไทยไปก่อน เช่นเดียวกับการประชุม Mekong River Commission (MRC) ที่นครโฮจิมินห์ เวียดนามที่ผ่านมา เพราะตามสถานะย่อมทำได้อยู่แล้ว และเป็นแนวปฏิบัติปกติ เมื่อมีเหตุใด ๆ ที่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไม่สามารถ เข้าร่วมการประชุมได้ The conduct of foreign policy must be carried out with a view to advancing the interests of the nation and the Thai people and always with due regard to the country's image and dignity, not for self-serving purposes or the survival of certain political cliques or families. Such abhorrent act should be condemned by the Thai people. Thailand should, in the interim, assign the highest civil service office holder, namely the Permanent Secretary for Foreign Affairs, as head of Thai delegation, like the Mekong River Commission conference in Ho Chi Minh, as per established practice when political office holders are unable to attend such conferences. บัวแก้วเสรี Free Buakaew Movement อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤษภาคม 14, 2014 เมื่อพรรคการเมืองผูกขาด ------------------------------- โดย : ดร. วิรไท สันติประภพ 14 พฤษภาคม 2557 นักเศรษฐศาสตร์มักเห็นว่าการผูกขาดเป็นเรื่องไม่พึงประสงค์ เพราะธุรกิจผูกขาดนิยมใช้อำนาจเหนือตลาดหาผลประโยชน์เกินควร ส่งผลให้ผู้บริโภคต้องจ่ายค่าสินค้าแพงและไม่มีทางเลือก ธุรกิจสามารถเพิ่มหรือลดกำลังการผลิตได้ตามที่ตนเองต้องการโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อผู้บริโภคและคู่ค้าอื่นๆ อำนาจเหนือตลาดทำให้คู่แข่งรายใหม่เกิดขึ้นยาก เพราะธุรกิจผูกขาดมักมีอำนาจต่อรองและควบคุมคู่ค้าในทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิต ธุรกิจผูกขาดมักจะทำกำไรดี มีเงินทุนสะสมสูง ลุกขึ้นมาทำโครงการใหม่หรือขยายไปสู่ธุรกิจใหม่ได้ง่าย ถ้าติดขัดกฎเกณฑ์ใด ก็จะมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเกรงใจคอยอำนวยความสะดวกให้ ผมคิดว่าปัญหาประชาธิปไตยเสี้ยวใบและความแตกแยกทางการเมืองในประเทศไทยวันนี้เกิดขึ้นเพราะพรรคการเมืองใหญ่บางพรรคมีอำนาจผูกขาด แม้ว่าในระดับประเทศจะดูเหมือนมีพรรคการเมืองใหญ่สองพรรคสองขั้วความคิดแข่งขันกัน และมีพรรคเล็กๆ อีกจำนวนหนึ่ง แต่แท้จริงแล้วประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศไม่มีทางเลือกมากนักในการเลือกตั้ง ผู้สมัครที่สองพรรคใหญ่ส่งในแต่ละเขตเลือกตั้งไม่ได้เป็นคู่แข่งจริง รู้กันอยู่แล้วว่าจังหวัดไหน ภาคไหน เป็นของพรรคใด ตระกูลใด น้อยครั้งมากที่ผู้สมัครจากพรรคการเมืองอื่นจะแทรกเข้ามาได้ การผูกขาดของพรรคการเมืองในระดับพื้นที่ได้รวมกันจนเกิดการผูกขาดของพรรคการเมืองในระดับประเทศ หลายคนหมดหวังกับการเลือกตั้งและระบบประชาธิปไตยไทย เพราะเชื่อว่าถ้ายังเลือกตั้งกันด้วยกฎเกณฑ์กติกาแบบเดิมแล้ว พรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่งจะชนะการเลือกตั้งทุกครั้งไป เนื่องจากมีทุนหนา บริหารจัดการพรรคด้วยนักธุรกิจการเมือง ตัดสินใจแบบองค์กรธุรกิจเถ้าแก่ ใช้กลยุทธ์ทางการตลาดและนโยบายประชานิยมหาเสียงกับประชาชนฐานราก และไม่เกรงกลัวที่จะใช้อำนาจรัฐเพื่อส่งเสริมให้พรรคพวกและพรรคการเมืองของ ตนเองใหญ่ขึ้นและมีอำนาจผูกขาดเพิ่มมากขึ้น ส่วนพรรคการเมืองใหญ่อีกขั้วหนึ่งมีแนวโน้มฝ่อลงเรื่อยๆ เพราะไม่ปรับเปลี่ยนวิธีการบริหารจัดการให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของคู่แข่ง ขาดแนวคิดใหม่ๆ และผู้บริหารรุ่นใหม่ ที่จะตอบสนองความคาดหวังของประชาชนที่สูงขึ้นและซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังอ่อนแรงจากการเป็นฝ่ายค้านและต่อสู้กับการใช้อำนาจรัฐที่ไม่ชอบธรรมต่อเนื่องมาหลายปี มีแนวโน้มสูงที่ประเทศไทยจะเหลือพรรคการเมืองใหญ่ที่ผูกขาดการเลือกตั้งเพียงพรรคเดียว เลือกตั้งกี่ครั้งพรรคการเมืองนี้ก็ได้เป็นรัฐบาล ส่วนพรรคการเมืองอื่นก็คงเป็นเพียงพรรคการเมืองระดับภาค หรือระดับจังหวัด มีบทบาทเพียงแค่สร้างสีสัน(หรือคอยขายเสียง)ในสภา พรรคการเมืองใหญ่ที่คิดว่าตนมีอำนาจผูกขาด (และเชื่อว่าจะผูกขาดได้อีกนาน) มีพฤติกรรมไม่ต่างไปจากธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีอำนาจผูกขาด ไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องคุณธรรม จริยธรรม และการแข่งขันที่เป็นธรรม มุ่งทำลายคู่แข่งและกลุ่มคนที่เห็นต่างหรือสนับสนุนคู่แข่ง ใช้อำนาจรัฐเพื่อผลประโยชน์ของตนและพวกพ้องโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายและความถูกต้อง บริหารประเทศโดยไม่สนใจว่าสร้างความเสียหายมากน้อยเพียงใด ปัญหาพรรคการเมืองผูกขาดรุนแรงขึ้นเพราะพรรคการเมืองแห่งนี้อยู่ใต้อิทธิพลของเถ้าแก่ที่เคยช่ำชองในการผูกขาดสัมปทานของรัฐ ก่อนที่จะผันตัวเองมาเป็นนักธุรกิจการเมือง และนำวิธีของธุรกิจผูกขาดมาใช้ในทางการเมือง การผูกขาดของพรรคการเมืองนี้จึงไม่ได้หยุดอยู่แค่กระบวนการเลือกตั้งเท่านั้น แต่ยังโยงไปสู่การใช้อำนาจรัฐอย่างกว้างขวางอีกด้วย โดยเฉพาะการแต่งตั้งข้าราชการทุกระดับโดยไม่คำนึงถึงความสามารถและความเหมาะสม การจัดสรรงบประมาณให้จังหวัดหรือเขตที่สนับสนุนพรรคการเมืองของตนเองเป็นพิเศษ การแทรกแซงสื่อทั้งทางตรงและทางอ้อม(ผ่านการจัดสรรงบประชาสัมพันธ์) ตลอดไปจนถึงความพยายามที่จะแก้ไขกฎหมาย (รวมทั้งรัฐธรรมนูญ) ให้พรรคพวกของตนควบคุมอำนาจได้เบ็ดเสร็จในระยะยาว จนเกิดวลี "เผด็จการรัฐสภา" นอกจากนี้ เรายังเห็นการประสานผลประโยชน์ระหว่างธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีอำนาจเหนือตลาดกับพรรค การเมืองที่มีอำนาจเหนือตลาด สร้างระบบการเมืองแบบทุนสามานย์ เกิดปัญหาคอรัปชั่นรุนแรง ส่งผลให้การแก้ปัญหาพรรคการเมืองผูกขาดและปัญหาความเหลื่อมล้ำในเศรษฐกิจไทยยากขึ้นไปอีก นักเศรษฐศาสตร์มีเครื่องมือจัดการกับปัญหาธุรกิจผูกขาดอยู่หลายวิธี แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะนำมาประยุกต์ใช้แก้ปัญหาพรรคการเมืองผูกขาดได้มากน้อยเพียงใด วิธีแรก คือการออกกฎหมายการแข่งขันทางการค้า และกฎเกณฑ์กำกับพฤติกรรมของธุรกิจผูกขาดไม่ให้เอาเปรียบคู่แข่งและผู้บริโภค ให้หน่วยงานของรัฐสามารถแทรกแซงกลไกตลาด(โดยเฉพาะการกำหนดราคาและคุณภาพสินค้า)ได้ถ้าเห็นว่าธุรกิจผูกขาดใช้อำนาจเหนือตลาด รวมทั้งป้องกันไม่ให้ธุรกิจควบรวมกิจการกันจนมีสัดส่วนตลาดใหญ่เกินควร ในทางการเมืองการออกกฎเกณฑ์เพื่อควบคุมพฤติกรรมของพรรคการเมืองทำได้ยากกว่ามาก เพราะไม่มีพรรคการเมืองไหนต้องการออกกฎหมายมาควบคุมพฤติกรรมของตัวเอง หรือลดอำนาจผูกขาดที่อุตส่าห์สะสมพลังมานาน การกำหนดพฤติกรรมใช้อำนาจเหนือตลาดทางการเมืองก็ทำได้ยาก ไม่เหมือนกับการกำหนดราคา หรือการพิจารณาความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจ พฤติกรรมใช้อำนาจเหนือตลาดของพรรคการเมืองมักจะเป็นพฤติกรรมแฝง ซึ่งต้องไปหาทางจัดการด้วยกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง กระบวนการพิจารณาลงโทษพรรคการเมืองและนักการเมืองก็ใช้เวลานาน นักการเมืองจึงไม่ค่อยเกรงกลัว แม้ว่าเราจะมีองค์กรอิสระที่สามารถลงโทษยุบพรรคการเมืองที่ทำผิดกฎหมายได้ และเคยลงโทษยุบพรรคไปหลายครั้งแล้วก็ตาม แต่พรรคที่เคยถูกยุบแล้วยังสามารถกลับมาตั้งพรรคการเมืองใหม่โดยใช้ญาติพี่น้องเป็นตัวแทน และชนะเลือกตั้งจนจัดตั้งรัฐบาลได้หลายรอบ การออกกฎเกณฑ์เพื่อควบคุมพฤติกรรมของพรรคการเมืองที่ใช้อำนาจเหนือตลาด และให้อำนาจองค์กรอิสระลงโทษพรรคการเมืองได้ถึงยุบพรรค และถอดถอนรัฐมนตรีที่กระทำผิดเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนกว่าการลงโทษธุรกิจที่ใช้อำนาจเหนือตลาดมาก เพราะประชาชนบางกลุ่มเห็นว่าการที่องค์กรอิสระสามารถถอดถอนหรือลงโทษนักการเมืองที่ชนะการเลือกตั้งมาอย่างถล่มทลายได้ ขัดแย้งต่อระบบประชาธิปไตย ประเด็นนี้ทำให้พรรคการเมืองที่มีอำนาจผูกขาดลำพองใจ กล้าทำผิดแล้วเอาหลังพิงประชาชนอย่างไม่อาย และเมื่อถูกศาลลงโทษแล้วก็ยังกล้าที่จะออกมาประกาศไม่ยอมรับคำตัดสินศาล ผมนึกไม่ออกว่าจะออกกฎหมายและกฎเกณฑ์มาควบคุมพรรคการเมืองและนักการเมืองมากกว่าที่เป็นอยู่ได้อย่างไร ถ้าเขียนกฎหมายให้เข้มข้นมากขึ้น หรือเพิ่มบทลงโทษให้รุนแรงขึ้น อาจจะยิ่งกีดกันไม่ให้พรรคการเมืองใหม่ๆ เข้ามาแข่งขันก็ได้ อีกวิธีหนึ่งที่ควรพิจารณา คือต้องเขียนกฎหมายไม่ให้นักการเมืองที่มีอำนาจรัฐเข้าไปแทรกแซงระบบราชการจนเกินควร โดยเฉพาะการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ การใช้งบประมาณประชาสัมพันธ์ของหน่วยงานราชการ และการออกใบอนุญาตต่างๆ ที่ควรเป็นหน้าที่ของข้าราชการประจำ วิธีนี้อาจจะช่วยลดการใช้อำนาจเหนือตลาดได้ในระดับหนึ่ง วิธีที่สอง ถ้าไม่สามารถลดบทบาทธุรกิจที่ผูกขาดในโครงสร้างตลาดเดิมได้ คงต้องหาทางแบ่งตลาดเป็นตลาดเล็กๆ หรือเปิดตลาดใหม่ ให้มีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาแข่งขันภายใต้กติกาที่ผู้เล่นเดิมไม่สามารถใช้อำนาจเหนือตลาดได้เต็มที่ ในทางการเมืองนั้น รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันแบ่งอำนาจของสภาผู้แทนราษฎรกับวุฒิสภาและแบ่งวิธีการเข้าสู่อำนาจของสมาชิกทั้งสองสภาไว้ชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้พรรคการเมืองที่มีอำนาจในสภาผู้แทนราษฎรเข้าไปมีอำนาจในวุฒิสภา แต่ในทางปฏิบัติแล้วเรายังได้วุฒิสมาชิกจากการเลือกตั้งที่มีนามสกุลเดียวกับสส. หรือเคยเป็น สส. ใกล้ชิดกับพรรคการเมือง การมีระบบสรรหาวุฒิสมาชิกโดยอิงหลักเกณฑ์ด้านความสามารถ ประสบการณ์ และสาขาอาชีพ เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้นักการเมืองรายใหม่ๆ เข้ามาคานอำนาจพรรคการเมืองใหญ่ได้ หลายประเทศที่พัฒนาแล้วและมีระบบประชาธิปไตยมานานกว่าเราก็มีระบบสรรหาวุฒิสมาชิกคล้ายกับในประเทศไทย วิธีนี้พรรคการเมืองที่ต้องการอำนาจเบ็ดเสร็จย่อมไม่ชอบ และอ้างว่าระบบการสรรหาไม่เป็นประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญตั้งแต่ฉบับปีพ.ศ. 2540 ส่งเสริมให้พรรคการเมืองมีขนาดใหญ่ขึ้น เพราะในอดีตเรามีปัญหาพรรคการเมืองขนาดเล็ก และสส. อิสระที่ไม่มีอุดมการณ์ ขายเสียงในสภาได้ทุกครั้งที่มีการลงมติสำคัญ ในสภาวะปัจจุบันที่กำลังเกิดพรรคการเมืองผูกขาด เราอาจต้องทบทวนกฎเกณฑ์ที่เราใช้อยู่ว่าเอื้อต่อพรรคการเมืองขนาดใหญ่มากไปหรือไม่ ทั้งวิธีการคิดคะแนน สส. แบบบัญชีรายชื่อ การอนุญาตให้สส. ใช้เอกสิทธิ์ส่วนบุคคลลงมติต่างจากมติของพรรค ตลอดจนถึงการจัดสรรเงินอุดหนุนพรรคการเมืองของคณะกรรมการการเลือกตั้ง วิธีที่สาม ถ้าไม่สามารถลดอำนาจผูกขาดของธุรกิจได้ เราจะต้องป้องกันไม่ให้ธุรกิจที่มีอำนาจผูกขาดตกเป็นของคนใดคนหนึ่ง หรือตระกูลใดตระกูลหนึ่ง แต่จะต้องกระจายหุ้นให้ประชาชนทั่วไปมีสิทธิ์ที่จะได้รับประโยชน์จากผลกำไรของธุรกิจนั้นด้วย พรรคการเมืองที่มีอำนาจผูกขาดในขณะนี้ก็เป็นพรรคการเมืองที่ตระกูลเดียวอยู่เบื้องหลัง สามารถสั่งการได้ และใช้อำนาจรัฐทำเพื่อผลประโยชน์ของตระกูลตนเองได้ ผมจนปัญญาว่าจะประยุกต์ใช้วิธีนี้กับพรรคการเมืองได้อย่างไร เพราะพรรคการเมืองไม่ใช่ธุรกิจ ถ้าเกิดหาวิธีบังคับให้พรรคการเมืองที่มีอำนาจผูกขาดกระจายหุ้นให้ประชาชนทั่วไปได้จริง ผมเชื่อว่าหุ้นตัวนี้จะได้รับความนิยมสูงมาก มีอัตราส่วนกำไรต่อหุ้นดีที่สุด และค่า P/E อาจสูงสุดในประเทศไทย เราทุกคนต้องการระบบประชาธิปไตยเต็มใบ เพื่อให้อำนาจเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง แต่วันนี้เราติดกับดักระบบประชาธิปไตยที่มีพรรคการเมืองผูกขาด สามารถดึงอำนาจของประชาชนกลับมาไว้ที่ตนเองและพรรคพวกได้ และกล้าใช้อำนาจเหนือตลาดนั้นอย่างเต็มที่ ยังนึกไม่ออกครับว่าจะแก้ปัญหาพรรคการเมืองผูกขาดได้อย่างไร รู้แต่ว่าการปฏิรูปประเทศจะไม่เกิดผลถ้าเราไม่สามารถหาทางจัดการพรรคการเมืองผูกขาดได้อย่างแท้จริง Cr วรวรรณ ธาราภูมิ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤษภาคม 14, 2014 วันพุธ ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2557, 14.47 น. http://www.naewna.com/politic/103405 14 พ.ค.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโซเชียล เน็ตเวิร์ค มีการแชร์ข้อความเกี่ยวกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผอ.ศอ.รส. และ อดีต รมว.แรงงานว่า ร.ต.อ.เฉลิมโดยสารเครื่องบินชนิดพิเศษเหมาลำ ระหัส bkt รายชื่อคนขึ้นเป็นภาษาอังกฤษ Chalerm Ubumrung เกิดวันที่ 10-6- 1948 passport No.V976751 โดยที่การเช่าเหมาลำครั้งนี้ไม่มีการเปิดเผยจุดหมายปลายทาง ข้อความในโซเชียล เน็ตเวิร์ค ยังระบุว่า สาเหตุที่มีการเช่าเหมาลำเครื่องยินครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์คือ 1.ไปรักษาโรคมะเร็งตับ และ 2. ไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษคดีอาญาหนีคำพิพากษาศาลสั่งจำคุก 2 ปีไปต่างประเทศ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤษภาคม 14, 2014 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤษภาคม 14, 2014 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤษภาคม 14, 2014 สู้ๆ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤษภาคม 15, 2014 แฉ..ขวนการล้มเจ้าเสื้อแดงสารพัดเงิบอีกแล้ว กลิ่นพยัคฆ์มันโชยแรง (73 photos) 14 พ.ค.57 แฉ..ขวนการล้มเจ้าเสื้อแดงสารพัดเงิบอีกแล้ว กลิ่นพยัคฆ์มันโชยแรง ตามที่เคยเตือนมาล่วงหน้าหลายครั้งว่า ตอนนี้ขบวนการล้มเจ้า แก็งค์อั้งยี่แดง มันแพ้ทางกฎหมายแล้ว เลยใช้กฎหมู่แทน โดยจะมีการปลอมตัวเป็นการ์ด และมวลชน กปปส. หากเป็นการ์ดพวกนี้จะแทรกซึมไปสมัครเป็นการ์ด หรือจะปลอมตัวเอาดื้อๆ ใกล้ขบวนหรือการชุมนุม กปปส. และจะมีการลอกเลียนแบบการแต่งตัว และมีผ้าพันคอครบทุกสี แล้วก็จะก่อเรื่องรุนแรงต่างๆ หรือปลอมเป็นมวลชน กปปส.แล้วก่อเหตุวิวาทกับประชาชนทั่วไป และรีบส่งภาพและข้อความไปออกข่าวในเครือข่ายสื่อแดงไว้ก่อน ประชาชนที่ไม่คุ้นเคยกับวิธีการหลอกลวงนี้ ก็จะหลงกลส่งต่อหรือวิจารณ์ข่าวเรื่องนั้นไป โดยหลงลืมเป้าหมายปลายทางที่แท้จริง หันมาสนใจเพียงแมลงวันที่ไต่ตอมให้รำคาญ ส่งผลให้การศึกก็เสียกระบวน หรือล่าช้าชะลอไป หลักการคล้ายขวนการล้มเจ้า ล้มราชวงศ์ บริษัทเผาไทย ที่จะใช้วิธีสร้างและปล่อยข่าวลือ ให้ร้าย แบ่งฟ้า แบ่งวัง เบื้องสูงออกมา ประชาชนไม่รู้ก็นึกว่าเท่ห์ แชร์ภาพหรือลิ้งต่อ แล้วเอาไปพูดใส่สีตีไข่ เล่าลือต่อๆ กันไป จากข่าวนิดเดียวก็ขยายวงออกไปมาก จนกลายเป็นว่าประชาชนนั่นแหละ คือเหยื่อผู้แพร่ข่าวลือทางลบของสถาบันฯ เสียเอง เป็นกลยุทธ์คอมมิวนิสต์แดงที่ใช้มานานกว่า 50 ปี แต่ก็ยังมีคนใจไม่หนักแน่น ตกหลุมพรางหลงกลอยู่เสมอๆ ดูกรณีศึกษาที่มีข่าวตามสื่อต่างๆ ที่มีข่าวว่า การ์ด กปปส. รุมทำร้ายแล้วจ้วงแทง ชายชาวอ่างทอง เจ้าของร้านน้ำแข็ง พร้อมรุมซ้อมภรรยานั้น พอข่าวนี้แพร่ไปปรากฏว่ามีประชาชน ที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง เห็นข่าวเพียงวูปแรก ก็หลงกลงับเหยื่อโดยรู้ไม่เท่าทันกลศึกแดงชั่ว แต่ทองแท้ ยอมไม่หมองฉันท์ใด การยึดมั่นในความดีและความจริง ย่อมต้องแสดงตนให้ประจักษ์ในฉันท์นั้น เมื่อผู้เห็นเหตุการณ์ และเป็นผู้ถ่ายภาพดังกล่าวไว้ ได้ออกมาแสดงความเสียใจว่า ภาพที่มีการเผยแพร่เป็นเรื่องจริง แต่ “ข้อความที่มีการเขียนข่าวอธิบายภาพนั้น เป็นเรื่องเท็จ“ ซึ่งความจริงก็คือ การ์ดคนในภาพ เขาเป็นพลเมืองดีได้ลงไปช่วยเหลือชายที่เป็นเจ้าของร้านน้ำแข็ง ขยับกรวยจราจรไว้ เพราะเขาถูกรุมทำร้าย จากเสื้อแดงที่ปลอมตัวมาเป็น กปปส. และนอนอยู่ที่พื้นถนน เมื่อมวลชน กปปส.มาพบเข้า เขาก็ลงไปช่วยเหลือด้วยความเร่งด่วน ช่วงนั้นมีฝนตกอยู่ เขารีบนำถุงดำมาคลุมแผลไม่ให้โดนน้ำฝน แล้วตามหน่วยกู้ชีพมาช่วยเหลือทันที ชายเจ้าของภาพ ก็ถ่ายภาพไว้ได้ และด้วยความหวังดีเขาแค่นำไปโพสต์ในเว็ป "พันธุ์ทิพย์" ที่มีแก๊งค์เสื้อแดงที่ ขบวนการล้มเจ้าแดง นปช.จ่ายเงินเดือนหล่อเลี้ยงไว้ ซ่องสุมอยู่ที่ห้องราชดำเนินมาก แต่จริงๆ แล้วเขาไม่เห็นเหตุการณ์ว่าใครแทง หรือใครเป็นใครทั้งสิ้น ต่อมาภายหลังเขาก็ได้ลบภาพนั้นออก แต่ปรากฎว่ามีสื่อบางแห่งมาขอภาพข่าวนั้นไป แต่กลับไม่ได้ขอรายละเอียดใดๆ เลย จากนั้นก็สนุกสื่อแดงเลย เมื่อนำไปเขียนคำอธิบายภาพข่าวตามใจชอบ ส่งผลให้พลเมืองดี กปปส.ที่เข้าไปช่วยเหลือได้รับความเสียหาย เจตนาคนโพสภาพ เขาแค่อยากช่วยคนถูกแทงแค่นั้น อยากให้ปลอดภัย เขาไม่ได้ยุ่งกับการเมือง เขารู้สึกไม่ดีที่เสื้อแดงนำภาพเขาไปใส่ร้ายการ์ด กปปส.แบบนี้ เพราะถ้ารู้เขาจะไม่ให้ภาพนี้กับใครเด็ดขาด เพราะจะกลายเป็นเอามาเป็นเครื่องมือโจมตีกันเกินจริง ทำให้พลเมืองดี กปปส. หรือคนช่วยผู้ป่วยเสียความรู้สึก สังคมก็ประณามเขาแบบตามืดบอด g-เขารู้สึกเห็นใจคนที่ช่วยกันตอนนั้นอย่างมาก ที่ถูกต่อว่าจับผู้บาดเจ็บมัดถุงดำ เขาบอกว่ามันแรงไป ที่สื่อแดงไร้จรรยาบรรณใส่ร้ายพลเมืองดีแบบนี้ เขาบอกว่าเขาเรียนน้อย อยู่แค่ ปี.2 เรียนแค่ครู แต่เขาก็ไม่อยากเห็นความแตกแยก เอาเรื่องแบบนี้มาเป็นประเด็นต่อสังคม พลเมืองดีช่วยคนเจ็บก็เป็นคนที่อยู่ในขบวนมวลชน กปปส.ที่แค่ผ่านมาเจอ ไม่รู้ว่าเป็นการ์ดหรือไม่ แต่เขาเห็นกับตาว่าพลเมืองดีคนนี้พยายามโทรหาหน่วยกู้ภัย ทุกคนช่วยกันโดยไม่คิดอะไร แต่ข่าวสื่อแดงออกมาทำให้สังคมแตกแยก และใส่ร้ายคนดี พอเจ้าของภาพเขาออกมาฟ้องร้องสังคมแบบนี้ มีใครเห็นสื่อแดงรับผิดชอบแก้ข่าวให้เขาและพลเมืองดีบ้างไหม แล้วทุกคนที่กล่าวร้ายพลเมืองดีท่านนั้นไปแล้ว จิตใจไม่หนักแน่นสงสัยในความดี ไปโพสถาม จุดประเด็น วิจารณ์ ตามที่ต่างๆ หรือไปทำล้อเลียนเรื่องกรวย ได้รู้สึกผิดหรือไม่ และจะรับผิดชอบการเชื่อข่าวลวงจนคนดีเสียหายอย่างไร ถ้ารู้สึกผิดก็ต้องช่วยกันแชร์ข้อมูลความจริงนี้ ชดเชยไถ่บาปให้กับพลเมืองดี กปปส.เขา ให้สังคมรับรู้หักล้างข้อมูลสื่อแดงให้มากที่สุด เพื่อให้พลเมืองดีเขาได้มีกำลังใจ และมีที่ยืนในสังคม มิฉะนั้นหากวันหนึ่งหากเราประสบเหตุเอง คนดีไม่อยากช่วยเหลือ เพราะกลัวถูกกล่าวร้าย เราก็จะแย่เสียเอง คอยดูตั้งแต่นี้ไป จะมีข่าวทางลบต่อมวลชน กปปส.ลักษณะคล้ายแมลงวันตอมขี้นี้ ออกมาจากเครือข่ายสื่อแดงเรื่อยๆ เพราะเป็นยุทธศาสตร์ของเขา ที่ เสธ เคยบอกให้รู้ล่วงหน้ามาหลายวันแล้ว ใครเป็นสมาชิกเพจนี้ ลองกลับไปอ่านเรื่องเดิมย้อนหลัง เมื่อวันที่ 7 และ 9 พ.ค.57 ว่าตรงตามนี้เป๊ะเลยหรือไม่ เพราะจะแจ้งเตือนประชาชนก่อนล่วงหน้าเสมอในทุกตอน ว่าขบวนการล้มเจ้า อั้งยี่แดงมีแผนจะทำอะไรต่อไป แต่บางเรื่องต้องบอกเป็นปริศนา เพื่อไม่ให้อันธพาลแดงที่มาส่องเพจนี้ไหวตัว..อ้าวสะดุ้ง..ฮา ส่วนที่เสื้อแดงแถ ไม่ยอมรับว่ามีการจ้างชาวบ้านสระแก้ว 60 คน มาร่วมชุมนุมกับ ขบวนการล้มเจ้าแดง นปช.ที่ถนนอักษะ ค่าจ้างวันละ 1,000 บาท/คน/วัน โดยแถลอยแพมวลชนตัวเอง ว่าเป็นแดงเทียมตามมุกเดิมนั้น เพื่อให้ความเป็นธรรมกับเสื้อแดงคนนี้ ก็ต้องแฉ ให้เสื้อแดงหงายเงิบ หวังเวิด ไปอีก ตามที่ นางคำพวน เหลาสา อายุ 52 ปี หมู่ 10 ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ชาวบ้านที่เขาได้สะพายกระเป๋าลายธงชาติ มาแจ้งความร้องทุกข์ สภ.หนองหมากฝ้าย ว่าถูกนางบุญญาภา (เจ๊มี) เบี้ยวเงินค่าจ้างไปชุมนุมที่ถนนอักษะ จนถูกเสื้อแดงกล่าวหาว่า เป็นแผน กปปส.จัดฉา เพื่อสร้างสถานการณ์ ให้คนเสื้อแดงเสียหายนั้น ( ดูคลิปที่https://www.facebook...741680445883700 ) ให้เสื้อแดงไปถาม ทองทศ แกนนำคนเสื้อแดงจังหวัดสระแก้ว ได้เรียกนางบุญญาภา (เจ๊มี) ไปสอบถามแล้ว ยืนยันตอกหน้าคางคกตู่ ว่าเจ้มี ผู้ว่าจ้าง “เป็นกลุ่มคนเสื้อแดงจริง” เพราะร่วมกลุ่มกันมานานตั้งแต่ปี 52 แล้ว และส่วน นางคำพวน ที่สะพายกระเป๋าลายธงชาติ และสวมเสื้อธงชาติ “ ก็เป็นกลุ่มคนเสื้อแดงพวกเดียวกัน “ ไม่ใช่กลุ่มคน กปปส. ตามที่แกนนำบนเวทีกล่าวอ้าง..อ้าว..สนุกจังเลย แฉคางคกตู่เนี่ย..เมื่อคุณแถ เราจะแฉ..ฮา ทองทศ แกนนำคนเสื้อแดงจังหวัดสระแก้ว ยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีคน กปปส.อยู่เบื้องหลังแน่นอน “ เป็นการหลอกลวงกันเองของคนเสื้อแดง” ทีเห็นแก่ประโยชน์เรื่องเงิน (หุย..ฮา) คนเสื้อแดงสระแก้ว ต้องการเงินค่าจ้างไปร่วมม็อบนี้ อยากได้เงินวันละ 1,500 ตามที่เจ๊มีบอก 3 วันก็ 4,500 บาท..ว่าแล้วตรงตามตอนก่อนไหม ว่าเจ้มี อมไป 500 บาท/หัว ไปจ่ายให้ผู้ชุมนุมจริง 1,000 บาท/หัว..ที่เหลืออีก 1,500 บาท/หัว..คางคกตู่อมๆๆ..ฮา เพราะชาวบ้านยากจนต้องการเงินค่าจ้าง เหตุที่เกิดขึ้นเนื่องตัวเจ๊มี ถูกนายธวัช แกนนำเสื้อแดงอยู่ที่ภาคอีสานจ้างมาอีกทอดหนึ่ง..และหลอกว่าจะให้เจ๊มี ชิงตำแหน่งขึ้นเป็นแกนนำเสื้อแดงของ จ.สระแก้ว แต่ทองทศ แกนนำเดิมไม่ยอม เพราะได้ตำแหน่งยิ่งใหญ่นี้ มาจากชายดูไบ และเขาเคยบินไปพบ ที่ฮ่องกงมาแล้ว 2 ครั้งในปี 57 นี้.อ้าว..ตายละวาประธาน นปช.จังหวัดไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของคนเสื้อแดงนี่ แบบนี้ก็สืบทอดอำนาจมาจากอำมาตย์ดูไบซิ นี่มันทำร้ายจิตใจกัน คนเสื้อแดงอย่ายอมนะ มัน 2 มาตรฐาน คนเสื้อแดงต้องไม่ยอมรับการสืบทอดอำนาจแกนนำง่ายๆ แบบนี้..ไปชูบ้านประท้วงเผาโลงศพที่หน้าบ้าน ทองทศ แกนนำเสื้อแดงสระแก้วเลย..ตะโกนว่า “ เราต้องการเลือกตั้งประธาน นปช.จังหวัด , เราต้องการเจ๊มี เป็นผู้นำทดแทนคนเดิม..เพราะจ่ายมากกว่า “..ฮา ส่วนอีกเรื่องเสื้อแดงก่อเหตุฉาวอีกแล้ว เมื่อ พ.ต.ท.วันชัย แก้วจินดา พนักงานสอบสวน สน.ธรรมศาลา บอกว่ามีคดีที่มีคนมาแจ้งความว่า ถูกเบี้ยวไม่ได้รับค่าจ้างไปชุมนุมที่ถนนอักษะ กรุงเทพ แล้วประมาณ 30 ราย..อุแม่เจ้า..กระจองงอง กระจองงอง เจ้าข้าเอ้ย..ปล่อยข่าวออกไปให้มากที่สุด ว่าประธานคางคกตู่ รังแกคนเสื้อแดง อมเงินค่าจ้างไปชุมนุมจนมีหลักฐานราชการไปแจ้งความแล้ว..ฮา สนุกจริงๆ นี่ถ้าคดีไปที่ศาลไคฟง ให้เปาบุ้นจิ้นซักโจทย์ และจำเลย คงหัวเราะกันขี้ราดเต็มกางเกงแน่ๆ ถ้า เสธ เป็นเปาบุ้นจิ้น จะถามคางคกตู่คำแรกว่า ท่านประธานขบวนการล้มเจ้าแดง นปช. ท่านอมสตังค์ค่าจ้าง “ ประชาธิปไตยใบสีเทา สีม่วง ของพี่น้องเสื้อแดงไปไหนหมด..ประชาธิปไตยใบแดงๆ ก็อมไปอีกแล้ว “ เอาไปแอบไว้ส่วนใดของร่างกาย ถ้าคางคกตู่ตอบว่า " ใครไม่ได้มาชุมนุมด้วยใจ มาเพราะรับเงินค่าจ้าง ให้กลับบ้านไปเลย" แสดงว่าเป็นผู้ร้ายปากแข็ง..งั้น หวังเฉา หม่าฮั่น ไปยึดพัดลม แอร์ ที่เป่าหลัง บน ล่าง เวทีปราศัย และในรถติดแอร์ ที่ถนนอักษะมา..เพราะจุดอ่อนคางคกตู่คือขี้ร้อน ต้องทรมานให้มันร้อนจนยางพิษออก จนกว่าจะยอมคืนเงินให้ผู้เสียหายเสื้อแดงครบทุกคน เกือบ 1,000 ล้านบาท..ฮา ก่อเรื่องอมเงินพี่น้องเสื้อแดงด้วยกัน ยังไม่สาแก่ใจ แท็กซี่เสื้อแดง ก่อเรื่องกระทืบนักข่าวที่หน้าโรงพัก เพราะเขาจะทำข่าวแฉการจ้างม็อบอักษะ เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม นายทอมฉัน บุญไสย์ หมู่ 2 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กทม. ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ได้เดินกระย่องกระแย่ง บาดแผล โดนกระทืบ ฟกช้ำตามร่างกายหลายแห่ง มาแจ้งความกับ พ.ต.ท.วันชัย แก้วจินดา พนักงานสอบสวน สน.ธรรมศาลา ในบันทึกแจ้งความระบุว่า เขาได้มาทำหน้าที่สื่อมวลชน ถ่ายภาพทำข่าวม็อบเสื้อแดงที่ถนนอักษะ เป็นปกติประจำทุกวัน จนเขาได้รับโทรศัพท์ร้องเรียนจากกลุ่มผู้ร่วมชุนนุมเสื้อแดง มาร้องทุกข์ที่สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ว่าไม่ได้รับค่าจ้างจากนายหน้า ที่ว่าจ้างมาชุมนุมตามที่ได้ตกลงกันไว้ ทางหัวหน้าข่าวได้ประสานให้เข้ามาทำข่าวที่ สน.ธรรมศาลา เมื่อเดินทางมาถึงก็นำกล้องวีดีโอ ออกมาถ่ายภาพทำข่าวกลุ่มแท็กซี่เสื้อแดงที่รออยู่หน้า สน.แต่กลุ่มแท็กซี่เสื้อแดง ประมาณ 20 คน ก็กรูกันมารุมกระทืบ ทำร้าย ชกต่อย เขาหลายสิบครั้ง เขาถูกบังคับให้ลบภาพที่บันทึกไว้ออกทั้งหมด เขาก็ยอมทำตามไม่ได้ขัดข้อง แต่เนื่องจากล่าช้าไม่ทันใจแท็กซี่เสื้อแดง จึงแย่งเอาม้วนเทปบันทึกภาพไป ซึ่งระหว่างนั้น ก็ถูกทุบ ถูกต่อย ตลอดเวลา ก่อนจะมีผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นพวกเดียวกับแท็กซี่เสื้อแดงตะโกนว่า อย่าทำร้ายสื่อมวลชน กลุ่มแท็กซี่เสื้อแดงจึงหยุด และนำม้วนเทปติดมือไปด้วย แล้วผู้หญิงคนดังกล่าวก็ไปตามเอากลับคืนมาให้ จนช่วงเช้าจึงไปตรวจร่างกายที่ รพ.ธนบุรี 2 แล้วนำใบรับรองแพทย์ ดำเนินคดีกับกลุ่มแท็กซี่เสื้อแดงที่มารุมกระทืบเขา ถึงหน้าโรงพัก อ้าว..สมาคม สภาสื่อมวลชน ช่อง 3 , NBT , เอเชียอาบแดด , โว้ยทีวี , ข่าวแห้ง , มติชิน ฯลฯ จะออกแถลงการณ์ประณามว่า เสื้อแดงคุกคามเสรีภาพสื่อมวลชนไหม หลักฐานชัดนะ ถึงกับกระทืบนักข่าวจนบาดเจ็บด้วย ..ถ้าไม่ออกแถลงการณ์จะเป็น 2 มาตรฐานกับ กปปส.เขานะ !! และที่สื่อเสื้อแดง มีการออกข่าวครึกโครมใส่ร้ายมวลชน กปปส.ว่าขโมยของมีค่า ที่กระทรวงคลองหลอดต่างๆ ไปจำนวนมาก หลังวันที่ 5 พ.ค.57 ที่เจอยุทะการทิ้งค่ายแล้วมาเอาคืน จนมือปืน 10 ล้านกระบอกแต๋วแตกนั้น เสื้อแดงก็มโน แชร์ใส่ร้ายกันใหญ่คิดว่าเป็นเรื่องจริง แต่ปลัดกระทรวงฯ กลับออกแถลงการณ์ตอกหน้าเสื้อแดงหงายเงิบไปอีกแล้วดังนี้ ------------------------------------------------------------------ เรียน ท่านผู้เป็นที่เคารพทุกท่าน ตามที่เมื่อประมาณ 2-3 เดือนที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่า สิ่งของศักดิ์สิทธิ์และโบราณวัตถุมีค่าภายใน "ห้องดำรงราชานุภาพ" (ชั้น 2) อาคารศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย เกิดการสูญหายอันเกิดจากการกระทำของคณะบุคคลที่เข้ายึดและอาศัยอยู่ในกระทรวงมหาดไทยมาตั้งแต่วันที่ ธ.ค. 56 นั้น กระผมขอเรียนว่า ในวันนี้ (8 พ.ค. 57) คณะกรรมการ ซึ่งประกอบด้วย ข้าราชการของกระทรวงมหาดไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ทหาร ร่วมกันเข้าทำการตรวจสอบพื้นที่ส่วนต่าง ๆ ภายในกระทรวงมหาดไทย ซึ่งรวมถึง "ห้องดำรงราชานุภาพ" ดังกล่าวแล้ว ไม่ปรากฏว่ามีสิ่งของศักดิ์สิทธิ์หรือโบราณวัตถุมีค่าที่อยู่ภายในสูญหายแต่อย่างใด กระผมจึงเรียนมายังทุกท่านผู้เป็นที่เคารพเพื่อให้เกิดความอบอุ่นใจ และไม่เกิดความเข้าใจที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อนต่อข้อมูลข่าวสารที่มีการเผยแพร่แต่แรก ม.ล. ปนัดดา ดิศกุล 8 พค.57 ------------------------------------------------------------------- อ้าว..แล้วที่สื่อมวลชินแดง กับทุยแดงกล่าวร้าย กปปส.จนแพร่หลายครึกโครมไปทั่วน่ะ จะแถว่าไง เขาตั้งกรรมการมาตรวจนับ แล้วมันไม่มีอะไรหาย จะไปบังคับให้เขาขโมย กปปส.เขาก็ไม่ทำ จะเอาหน้าไหวไหนล่ะที่นี้..แนะนำนะ ไปมูดตูด มือปืน 10 ล้านกระบอก ที่ชอบขนมหวานถั่วดำโน่น..เขาชอบ..ฮา ไอ้เรื่องขโมยนี่ คนที่กลัวที่สุดคือ ส.ว.ทั้ง 149 คนตอนนี้ (เว้นคนเดียวไม่กลัว) เพราะตอนนี้ ทราบว่าต้องระมัดระวังตัวเครื่องประดับกันแจเลย กระเป๋าถือ นาฬิกา สร้อย แหวน เครื่องเพชร โทรศัพท์มือถือ แบรนด์เนม เผลอวางทิ้งไม่ได้เลย เพราะมี ส.ว.คนหนึ่ง ขี้ขโมยจะจิ๊กเอาของไป เพราะเคยถูกจับได้คาหนังคาเขาเผาเมืองเมื่อปี 53 หลังจากลูกน้องเผาห้างแถวราชประสงค์แล้ว ส.ว.คนนี้ได้ไปขโมยเครื่องเพชร จากร้านค้าในห้างมา เอามาซ่อนไว้ในรถเบ๊นซ์ขวัญควาย อุดร..อืมม ส.ว.คนนี้คนอุดรใครรู้จักบ้าง..ฮา วันนี้เกิดสิ่งที่แปลกเกิดขึ้นกลางกรุงเทพฯ ก่อนการได้รับนายกคนใหม่ผิวขาว เมื่อพระอาทิตย์ทรงกรด เห็นได้หลายจุดใน กทม. คนไทยนับถือดวงอาทิตย์เป็นเทวดาเบื้องบนองค์หนึ่ง จึงเรียกนำหน้าว่า “พระ” ส่วนกลดก็ถือเป็นของสูงสำหรับพระ เช่น กลดของพระธุดงค์ ปรากฏการณ์นี้จึงเปรียบได้กับกลดของพระ ที่กำลังถูกล้อมรอบไว้ด้วยแสงของดวงอาทิตย์ไว้นั่นเอง จึงถือเป็นเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์ เป็น “มหิธานุภาพ” ของดวงอาทิตย์ มีความหมายในทางที่ดี มีมงคล ดังนั้นอีกไม่กี่วัน ต้องมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี “ นำชาติไทยเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา “ วันนี้ช่วงค่ำ มติ สว.และ 12 องค์กร มีความเห็นตรงกันว่าจะตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจ อำนาจเต็ม ใช้ปฏิรูป 6 ถึง 12 เดือน..เอ..งานนี้ “นี่วัดทำโลง “ คงจะต้องกลับไปนั่งดูละคร สามีตีตรา แล้วล่ะ..ฮา ส่วนพวกขบวนการล้มเจ้าแดง นปช. ที่ เช้าเอน เพลนอน เย็นพักผ่อน ค่ำซัดมาม่า ดึกๆ มายิง M79 ที่ขู่มอๆ ว่าจะยกโขยงทุยแดงตะแบงระยำขำกลิ้ง ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาจากอักษะจะมาก่อเหตุป่วน สำนักข่าวป็อบคอร์นเขาส่ง LINE มาบอกว่าขอให้คนเสื้อแดง ที่หลงผิดคิดว่าสนุกจะร่วมขบวนมา ให้รีบกลับบ้านหนีห่างไกลจากแกนนำ และกองกำลังติดอาวุธ ให้มีระยะห่างสัก 1,000 กิโล..เขาฝากมาว่ายกทัพกันมาได้ แต่เพราะอาเพศจะแรง ไม่ทันถึงขอบฝั่งแม่น้ำหรอก ..จะมีอันเป็นไปจน “ทัพขี้ข้าแตก” และก่อนที่จะได้ขยับทัพ จัดกองกำลังขี้ข้าออกจากถนน อักสะบักสะบอม นักรบนิรนามมือที่ 6 มือที่ 7 () เขาจับตามองอยู่ไม่กระพริบ หากจะกรีฑาทัพ “แดงเท่ากระจุกไฝ” ..ของพวกมันออกมา เขาว่ามันจะมีอาเพศหน้าฝน อัสนีบาท มันฟาดเปรี้ยงๆๆๆๆ แสงสีเสียง จะแลบแปลบปราบ ไม่หยุดสัก 2-3 ชั่วโมง..ขอเตือนด้วยความหวังร้าย ขี้ข้าอื่นๆ อย่าลืมเด็ดขาด !! ส่วนหน่วย อรินทราช หรือ ตชด.ที่เตรียมจะหาช่องบุกจับแกนนำ กปปส.น่ะ..คิดด้วยสติให้มาก เขามีคำสั่งศาลคุ้มครอง 9 ข้ออยู่ และจะตั้งรัฐบาลใหม่ไม่กี่วันแล้ว อำนาจจะเปลี่ยนมือไปแล้ว อย่าเสี่ยงคำยุยงของเป็ดเหลิม ปึ้งเหม่ง หรือย้อยเลย สำนักข่าวป็อบคอร์นเขาหวังดี เขาสังเกตุเห็นมีการเคลื่อนไหวของหน่วย SEAL , RANGER, RECON จาก 3 กองทัพไทยผิดปกติ และมีการนำรถตีนตะขาบมาจอดรอ “ทำสปา” ไว้จำนวนมาก.. มันจะได้ไม่คุ้มเสีย..ก่อนสลายชุมนุมเมื่อวันที่ 14 , 18 ก.พ.57 ก็เตือนล่วงหน้าหลายวันแล้วดื้อไม่ฟังแบบนี้..ญาติก็ต้องมาร้องให้กันที่หลัง มันไม่เกิดประโยชน์..บอกย้ำอีกทีว่า พยัคฆ์ที่หมอบเงียบ ร้ายกว่าแมวที่เดินเพ่นพ่าน เพราะพยัคฆ์มันนอนดูเหยื่อ ที่กำลังเดินไปมา แล้วมันคิดตลอดเวลาว่าจะจัดการเหยื่ออย่างไร จัดการด้วยวิธีไหน จะดักทางเหยื่ออย่างไร จู่โจมขย้ำเหยื่อในเวลาไหน.. ส่วนแมวที่เดินเพ่นพ่าน จะไปทางไหน ซ้าย-ขวา, หน้า-หลัง, บน-ล่าง พยัคฆ์เขารู้หมดแล้ว..ถ้าแมวคิดแต่จะใช้กำลังเข้าหักหาญ ยามปลายยกนี้..เขาเรียกว่าแมวขาดสมอง..เป็นแมวผู้หลงผิด ในหมู่แมว ย่อมมีแมวที่แฝงตัวเป็นใส้ศึกอยู่เสมอ ไม่มีการรบที่ไหนไม่มีใส้ศึก เสธ แอบได้ยินเสียงคำรามฮึ่มๆ ในลำคอมันดังขึ้นแปลกๆ จึงเอามาเตือนกันแบบพี่น้อง เวลาพยัคฆ์มันตะปบมันจะรุนแรง รวดเร็ว และไร้ความปราณี.. กลับไปซะ พระสงฆ์ช่วงนี้กิจนิมนต์งานบวช งานแต่งเยอะ..อย่าไปลัดคิวมางานศพเลย!! @เสธ น้ำเงิน ที่มา https://www.facebook.com/topsecretthai (ดูเรื่องเก่าย้อนหลังทุกตอนที่https://www.facebook...i/photos_albums) “ หมายเหตุ ข้อความเพจนี้แต่ละตอน อาจมีแก้ไขดัดแปลงในภายหลัง ตามข้อมูลเพิ่มเติม หรือคำแนะนำที่สร้างสรรค์หลังการโพส จึงแนะนำว่าหากสนใจ ควรกดแชร์จากเพจต้นฉบับนี้ หากจะคัดลอกส่วนหนึ่งส่วนใด ของเนื้อหาไป ควรทิ้งเวลาราว 3 วัน และอ้างอิง เพจ แฉ..ความลับ @เสธ น้ำเงิน พร้อมลิ้ง เพื่อประโยชนสาธารณะ มาเช็คดูข้อความที่คัดลอกไป เทียบกับต้นฉบับจริง “ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น