ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ginger

ใบไม้ผลิบนดวงจันทร์

โพสต์แนะนำ

10419703_673669252704987_2018564246_n.jpg?oh=54f9226071b90ff8c7d199e35bf96915&oe=538CDE39&__gda__=1401727913_06b3f8bd9209b846a7c18d48959fc36a

ยามหลับ

 

1395360_669409606489326_1536626816825561024_n.jpg

ดูดิ่ เอาของเค้าคืนมา

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

10320458_669415199822100_170149553818170107_n.jpg

แม่มะอยู่นู๋ขอกินหน่อยนุง

 

10310623_795485587150927_8710358750557757163_n.jpg

มะเกี่ยว มะเอี่ยวกาน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

10255903_669389693157984_2615374901927756101_n.jpg

ด้วยรัก มากที่สุด

ต้องหยุดปาป๊า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

สำหรับนักสู้เพื่อชาติทุกท่าน

ที่บัดนี้กลับไปดำเนินวิถีชีวิตปกติ

เป็นประชาชนคนธรรมดา

 

สำหรับผู้อุทิศเสียสละเพื่อบ้านเมือง

ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง

 

แม้ไม่มีใครรู้ แต่เรารู้...รู้ว่าเรานั้นทำเพื่อใคร

 

10378090_742781015773086_8557021336748115344_n.jpg

10401413_746114562106398_2412383770104823750_n.jpg

 

1513658_746114498773071_5318604655520214690_n.jpg

Nicha Hiranburana Thuvatham

 

พี่น้องที่บาดเจ็บจากระเบิดที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย(เมื่อ 15 พ.ค.57)ยังนอนพักรักษาตัวอยู่ที่ ร.พ.กลาง 3 คน (ชั้น10)

และ ร.พ.พระมงกุฎฯ1คน(ตึก 8 ชั้น3)

บางคนใจสู้ บางคนใจเสีย...

บอกเขาว่า โชคดีแค่ไหนที่รอดตาย บอกเขาว่า จงภูมิใจที่โชคชะตาเลือกให้พวกเราเป็นผู้ที่ต้องเสียสละเพื่อชาติบ้านเมือง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

10403034_304499679708162_6609513688902079173_n.jpg

ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน นักสื่อสารมวลชน โพสต์ในเฟสบุ๊คส่วนตัว Wit Sittivaekin ยกคำสนทนาของ อดีตเลขาธิการอาเซียน ดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ ที่มีต่ออดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา คือนางฮิลลารี คลินตัน หลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งนำโดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ทำรัฐประหาร เพื่อนำพาชาติสู่ความสงบอีกครั้ง

 

ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน โพสต์ในเฟสบุ๊คส่วนตัวไว้ดังนี้

ระยะหลังเห็น บทบาทของ อเมริกาต่อเรื่องการเรียกร้องประชาธิปไตยโดยเร็วมากเยอะ เลยนึกถึง บทสนทนาระหว่าง อดีตเลขาธิการอาเซียน ดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ ที่มีต่ออดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา คือนางฮิลลารี คลินตัน ที่สะท้อนถึงอะไรบางอย่างเกียวกับอเมริกาเหมือนกัน

นาง ฮิลลารี ถาม ดร. สุรินทร์ว่า เห็นอาเซียนกำหนดกรอบเวลาในการรวมตัวกันมายาวนาน เมื่อไหร่จึงจะเกิดขึ้นได้จริงเสียที

ดร. สุรินทร์จึงถามว่า โทมัส เจฟเฟอร์สัน ผู้ประพันธ์สารนิพนธ์ประกาศเอกราชของอเมริกา ได้เขียนเอาไว้ว่า All men are created equal คนทุกคนเกิดมาโดยเท่าเทียม .... แต่ที่สุดแล้ว กี่ปีกว่าที่ อเมริกา จะให้สิทธิในการโวตแก่ ผู้หญิง หลังจากนั้นอีกกี่ปีอเมริกาจึงจะเลิกทาสและคนผิวสีจะมีโอกาสเทียบเท่ากับคนขาว หลังจากนั้นกี่ปีที่คนผิวสีไม่ได้โดนแบ่งแยกกีดกัน ...

อืมมมม. ฮิลลารี่ คลินตัน ตอบดร. สุรินทร์ว่า "ดิฉันเข้าใจละท่าน โปรเฟสเซอร์" ...

โทมัส เจฟเฟอร์สัน นักคิดทางการเมืองและประธานาธิบดีคนที่๓ ของสหรัฐ เขียนวลีก้องโลกเอาไว้ใน Declaration of Independence ในปี ๑๗๗๖ ทำให้คนมองว่า อเมริกาคือหนึ่งในต้นแบบของความเท่าเทียม และประชาธิปไตย แต่ อเมริกาใช้เวลาอีก ๙๘ ปีจึงจะมีการเลิกทาสอย่างเสียเลือดเสียเนื้อทั่วไปทั้งอเมริกา ด้วยการประกาศการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งที่ ๑๓ ในปี ๑๘๖๕ และจากนั้นอเมริกาชาติที่เชื่อในความเท่าเทียม ประชาธิปไตยเต็มรูปแบบใช้เวลาอีกไม่น้อยกว่า ร้อยปี ในการลดระดับการกีดกันทางสีผิวอย่างไม่เป็นทางการ Martin Luther King, Malcolm X และอีกหลายคนต่อสู้กับความเท่าเทียม ในประเทศที่ประกาศว่าเป็นผู้นำทางความเท่าเทียมและ ประชาธิปไตย

ขอเล่าเรื่อง ผู้นำประชาธิปไตยโลก อย่างสหรัฐอเมริกา ที่เรียกร้องให้ประเทศไทยรีบเร่งกอบกู้ประชาธิปไตยไว้ประมาณนี้ละกันครับ

10390497_1420362968247920_4065349844826606538_n.jpg

 

10351173_246608215545917_4683358710658266215_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
10245439_10201325226572309_6234560072129660176_n.jpg ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันพฤหัสบดี ที่ 19 มกราคม 2555

ผ่าแผน เพื่อนเราเผาเรือน ฉบับ ปาหี่ USA !!! จากปมแก้ ม. ๑๑๒

หวังทำลายสถาบันกษัตริย์ ถึง ปมก่อการร้ายทำลายขวัญไทย ไซโคไทย ป่วนไทย..เพื่อ..พลังงานไทย ?!!..

Posted by vincentoldbook , ผู้อ่าน : 1479 , 13:21:10 น.

 

 

30672e9be.jpg

 

 

.. ขอบคุณภาพจาก เนชั่น มติชน ผู้จัดการ และ อื่นๆในอินเตอร์เน็ต ..

 

.....................................

 

 

 

ผ่าแผน เพื่อนเราเผาเรือน ฉบับ ปาหี่ USA !!! จากปมแก้ ม. ๑๑๒ หวังทำลายสถาบันกษัตริย์ ถึง ปมก่อการร้ายทำลายขวัญไทย ไซโคไทย ป่วนไทย..เพื่อ..พลังงานไทย ?!!..

 

อเมริกา ..

เพื่อนร้าย สหายเลว ของประเทศไทย..

เพื่อนที่ไม่เคยให้คุณกับใคร แต่มักจะให้โทษหากเราไปทำอะไรขัดใจอเมริกา..

ล่าสุด อเมริกาก็ปล่อยข่าวไทยเป็นเป้าหมายการก่อการร้าย จนทำเอาเราป่วนกันไปทั้งประเทศ ..

มีทั้งเรื่องของการจัดฉากจับชาวเลบานอน ที่อ้างว่าเป็นสมาชิกกลุ่มฮิซบุลลอห์ ที่เป็นกลุ่มก่อการร้าย ต่อต้านอเมริกา และ มีสายสัมพันธ์เชื่อมโยงกับอิหร่าน ..

มันประจวบเหมาะลงตัวเหมือนฉากหนังแอ็คชั่น ฉากหนังสงครามฮอลีวูด ที่มีเค้าโครงเรื่องเกี่ยวกับกลุ่มก่อร้ายข้ามชาติ ที่เราคนไทยเคยได้เห็นผ่านจอกันมาหลายเรื่องจนนับไม่ถ้วน โดยหนังสนุกเอามันประเภทนี้ ก็มักจะทิ้งภาพดาวร้ายของเรื่อง ไปให้พวกแขกมุสลิมเครายาว หนวดครึ้ม หน้าตาดุร้าย ที่เป็นไม้เบื่อ ไม้เมา กับ ทั้งอเมริกา อังกฤษ และ ยิว อิสราเอล เป็นผู้รับบทบาทไปแสดงทุกครั้ง ..

ซึ่งมันทำให้ใครต่อใครที่เอาใจช่วยอเมริกา บ้าหนังฮอลีวูด เชิดชูฮีโร่ตำรวจโลก โกรธจัดพวกมุสลิม อินกับละครน้ำเน่า งมงายอยู่กับสายสัมพันธ์เพื่อนมิตรโลกเสรีเก่าๆในยุคสงครามเย็น ถึงกลับเคลิบเคลิ้มกับการมอมเมาข่าวนี่้จน ขี้สมองหลุดทะลักกะโหลกหนาๆออกมาเป็น ความขลาดกลัวแบบคนเบาปัญญาได้ง่ายๆ !! ..

อเมริกา ..เก่งอยู่แล้วในเรื่องของการ..วาดภาพให้คนทั้งโลกหวาดกลัว !!..

30672e1ca.jpg

 

 

ก่อนหน้านี้อเมริกาก็พยายามจะแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของไทยมาครั้งหนึ่งแล้ว โดยเรียกร้องในเรื่องของการแก้ไข ม. ๑๑๒ อันเป็นกฎหมายอาญาที่มีไว้ปกป้องพระราชอำนาจของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยเพื่อไม่ให้ผู้มุ่งร้ายใดๆ เข้ามาจาบจ้วง ล่วงละเมิด และ อาฆาตมาดร้ายได้ ..

ในครั้งนั้น ..อเมริกา พยายามจะบอกกับชาวโลกว่า ประเทศไทยมีกฎหมายที่รุนแรง และ ละเมิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ซึ่งอเมริกาอ้างว่าใน เรื่อง สิทธิ และ เสรีภาพ ของประชาชนนั้น เป็นเรื่องที่อเมริกาให้การสนับสนุนและเข้าไปร่วมผลักดันให้เกิดขึ้นทั่วทุกมุมโลก ..

ที่ผ่านมา อเมริกา โดย นางคริสตี้ เคนนี่ย์ ทูตอเมริกาคนปัจจุบัน พยายามจะแสดงท่าทีไม่พอใจ และ ไม่เห็นด้วยกับการที่ประเทศไทย ยังมีกฎหมาย ม.๑๑๒ อยู่ต่อไป ด้วยข้ออ้างในเรื่องที่มีบทลงโทษรุนแรง แม้จะยังไม่แสดงท่าทีชัดเจนออกมาแบบโต้งๆ แต่ก็มีท่าทีเอนเอียงไปให้การยอมรับ และ สนับสนุนพวกที่จะแก้ไข ม. ๑๑๒ หรือ พูดง่ายๆก็คือ ให้การสนับสนุนแนวทางของกลุ่มคนเสื้อแดง !!..

นั่นแสดงให้เห็นธาตุแท้ของอเมริกาชัดเจน..

ในเรื่องที่มีแนวคิดเป็นปฏิปักษ์ต่อการเมืองการปกครอง ..

ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของไทย !!!..

..................................

306720a8d.jpg

 

อเมริกา ..

ภายหลังจากที่ นางคริสตี้ เคนนี่ย์ ..

ทูตสหรัฐอเมริกาคนปัจจุบันเข้ามาดำรงตำแหน่ง ..

ทิศทางในการแทรกแซงการเมืองไทย กระบวนการยุติธรรมของไทย..

มันเริ่มมีความชัดเจนขึ้นมาทีละนิด ทีละนิด ตามลำดับ มีการเลือกข้างให้เห็นชัดเจน..

นางคริสตี้ เคนนี่ย์ ตัวแทนมหาอำนาจอเมริกา พยายามจะสะท้อนพฤติกรรมให้เห็นสายสัมพันธไมตรีอันดีระหว่าง อเมริกา และ คนเสื้อแดง ระหว่าง อเมริกา และ ทักษิณ ชินวัตร และ ระหว่าง อเมริกา กับ รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือ รัฐบาลนกแก้ว กุมารทอง ของเรามาโดยตลอดอย่างออกนอกหน้าหลายครั้งหลายครา..

เป้าหมายของสายสัมพันธไมตรีอันดีต่อกันเฉพาะกิจนี้ แน่นอนว่าเป้าหมายปลายทางของทุกเรื่องราว ทุกสิ่งทุกอย่าง ขมวดปมไว้ที่การเข้ามากอบโกย และ ครอบครอง พลังงาน และ ทรัพยากรทางธรรมชาติของไทย ทั้งใต้ทะเล และ ใต้ดิน มันขมวดปมไว้ที่เรื่องผลประโยชน์ทั้งสิ้น ไม่มีเรื่อง สิทธิ เสรีภาพ ประชาธิปไตย ขี้หมาห่าใดๆทั้งนั้น ..

ซึ่งมันก็เป็นที่มาและที่ไปของ ปัญหาความขัดแย้ง และ สถานการณ์นองเลือดรุนแรง ที่ถูกจัดฉากและอุปโลกน์ขึ้น ทั่วประเทศไทยตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา หรือ นับตั้งแต่ ทักษิณ ชินวัตร ขี้ข้าอเมริกาตัวสำคัญ เข้ามามีบทบาทสำคัญในฐานะผู้นำประเทศ ..

306722f34.jpg

 

โจรใต้ถูกปลุกวิญญาณขึ้นมาเป็นผีร้ายอีกครั้งในสมัยทักษิณ ชินวัตร พร้อมๆกับการวาดภาพความน่ากลัวให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยข่าว ฆ่ารายวัน ระเบิดรายวัน มีประชาชนผู้บริสุทธิ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร กลายเป็นเหยื่อรายวัน ในขณะเดียวกัน จนถึงทุกวันนี้ โจรใต้ ที่อ้างว่าเป็นขบวนการแบ่งแยกดินแดนนั้น ก็ยังไม่เห็นเป็นรูปเป็นร่างว่า มีองค์กรตั้งอยู่ที่ใด ? ใครเป็นแกนนำคนสำคัญ ? โครงสร้างขององค์กร เรียงลำดับแกนนำที่คล้ายคลึงกับ ขบวนการปฏิวัติ หรือ ขบวนการก่อการร้ายสำคัญๆต่างทั่วโลกนั้น ..ไม่เคยปรากฎ ?? ..ทุกอย่างเป็นเรื่อง โป้ปดมดเท็จทั้งสิ้น !!!..

ลัทธิคอมมิวนิสต์ ที่เป็นปฏิปักษ์สำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ก็ถูกปลุกผีขึ้นมาอีกครั้งในสมัยที่ทักษิณ ชินวัตร มีอำนาจ นับตั้งแต่ ปี ๒๕๔๖ การพบปะสังสรรค์ การจัดคอนเสิร์ตเพลงปฏิวัติ การนำสัญลักษณ์ ดาวแดง ค้อนเคียว ของ พรรคคอมมิวนิสต์ ถูกนำมาเป็นแฟชั่นเรียกร้องหาการปฏิวัติประชาชนออกสู่สังคมไทยมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในโลกออนไลน์ และ ในกิจกรรมข้อเรียกร้องทางด้านเปลี่ยนแปลงทางการเมือง โดยมีเป้าหมายการทำลายล้างอยู่ที่สถาบันพระมหากษัตริย์ไทยโดยตรงอย่างไม่อ้อมค้อม ..

ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมสามานย์ ที่มีค่านิยมลุ่มหลงความร่ำรวย และ ให้คุณค่ามนุษย์อยู่ที่จำนวนของเม็ดเงินในกระเป๋า ถูกนำเข้ามาทดแทนเพื่อล้มล้าง ปรัชญาแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง โดยการอุปโลกน์ ชูภาพความสำเร็จในชีวิต และ แนวคิดแนวทางของ ทักษิณ ชินวัตร ภายหลังจากที่คนไทยขวัญเสียขวัญกระเจิงจากภาวะตกต่ำทางเศรษฐกิจในสถานการณ์ต้มยำกุ้ง ซึ่งมีทักษิณ และ นายทุนสัญชาติมะกัน อยู่เบื้องหลัง หลังจากนั้นต่อมาหลายปีเราถึงจะได้ยินการพูดถึงแผน ล้มทุน ล้มปืน ล้มเจ้า ผ่านปากคำของคนร้อยเล่ห์พันเหลี่ยมอย่าง..ขงเบ้งตุ๊ต๊ะ !!..

ทุกสิ่งทุกอย่าง มันมีการเรียงลำดับแผนการณ์ ทั้งการเข้ามาจัดฉากสร้างปมเงื่อนไขข้อขัดแย้งทางสังคมขึ้นมา ไปจนถึงการจัดฉากสร้างสถานการณ์การปะทะกันขึ้นมาเป็นรูปธรรมของความรุนแรง จนกระทั่งนำมาสู่การพยายามจัดฉากสร้างเงื่อนไขเพื่อเรียกร้องให้ คนไทยปรองดองสมานฉันท์กัน ..

ผ่านข้อเสนอแก้ไขกฎหมาย เพื่อเปลี่ยนแปลง ..

และ เปลี่ยนผ่าน ประเทศไทยในทิศทางต่างๆนานา ..

3067273da.jpg

 

3067212bc.jpg

 

 

ซึ่งแน่นอนว่า ..

ทุกข้อเสนอที่หลุดออกมาจากขั้วความคิดของคนไทยขี้ข้าทักษิณ ..

พวกคนไทยขี้ข้าทาสความคิดอเมริกา และ ที่หลุดออกมาจากขั้วความคิดคนไทยที่คิดร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทยอย่างพวกที่นิยมฝักใฝ่ในลัทธิคอมมิวนิสต์ เพ้อเจ้อ เพ้อฝัน นั้น ..

ล้วนต่างชัดเจนในข้อเรียกร้องที่คล้ายคลึงกัน ..

คือ เรียกร้องให้ประเทศไทยนั้น มีการปกครองแบบ..ประชาธิปไตย เฉยๆ ..

ไม่มีเรื่อง พระราชอำนาจ ไม่มีเรื่องของสถาบันกษัตริย์ทรงเป็นประมุข อีกต่อไป..

แต่เรียกร้องให้ลิดรอนพระราชอำนาจสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้เหลือเป็นเพียงสถาบันหนึ่งที่มีคุณค่าสำคัญทางสังคมในการเป็นเพียงสัญลักษณ์หนึ่งของสังคมไทยในอดีตเท่านั้น ..

ไม่มีพระราชอำนาจในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจใดๆ หรือ ไม่มีพระราชอำนาจในการแสดงความคิดเห็นใดๆต่อสังคมไทย ผ่านพระราชดำรัส ตามที่เราเคยเห็นผ่านข้อเสนอในลักษณะนี้ของกลุ่มอาจารย์ นักวิชาการแดง พวกจานแดง นิติราษฎร์กันมาบ้างแล้ว..

พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ ขบวนการนี้ประกอบไปด้วย แนวร่วม ที่สุมหัว สุมความคิด สุมกำลัง กันเข้ามาสร้างข้อขัดแย้งต่างๆให้เกิดขึ้นในสังคมไทย คนพวกนี้มีความสัมพันธ์ เชื่อมโยง การเป็นพันธมิตรทางความคิดและความต้องการกันอย่างชัดเจนในเรื่องของ เป้าหมายปลายทางของการโจมตี และ ทำลายล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย ..

ผ่านการเรียกร้อง ประชาธิปไตย ความยุติธรรม และ สิทธิเสรีภาพอันหมกเม็ด..

ในนามของ กลุ่มคนเสื้อแดง ทาสทางความคิดของ ทักษิณ และ อเมริกา !!!..

......................................

306720a88.jpg

 

ย้อนกลับมา..

ที่เรื่องอเมริกาปล่อยข่าวการก่อการร้ายในไทย ..

แน่นอนว่า มันไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดา หรือ ข่าวสารธรรมดาๆ ในสถานการณ์ที่ประเทศไทย ยังมีความวุ่นวายในประเด็นขัดแย้งทางความคิดทางการเมืองของคนไทยไม่รู้จบ ..

ภายหลังจากการเลือกตั้งครั้งล่าสุด ที่เราได้ รัฐบาลปูเน่า ชุดที่ ๑ และ ชุดที่ ๒ มาปู้ยี่ปู้ยำประเทศไทยอยู่ในขณะนี้นั้น ถือว่าเราคนไทยเสี่ยงภัยต่อการสูญเสียเอกลักษณ์ความเป็นไทย ในเรื่องของ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นอย่างยิ่ง ..

ฉากวินาศกรรมไทย ฉากก่อการร้ายสากลในไทย..

กำลังจะถูกจัดฉากให้เกิดขึ้นมาได้ในอนาคตอันใกล้นี้ ..

เหตุเพราะว่า นับเนื่องมาจากวันปล่อยข่าวเตือนภัยนักท่องเที่ยวชาวอเมริกา เรื่องการก่อการร้ายในประเทศไทยนั้น มาจนถึงวันนี้ แม้ว่าสถานการณ์นั้นมันจะมีความชัดเจนมากๆว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเรื่องตุ้มตุ๋นของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาทั้งสิ้น ..

ทว่า เราก็ยังไม่ได้รับการยืนยัน ถึงการถอนคำเตือนนั้นจาก รัฐบาลอเมริกา !! ..

ดังนั้น เมื่อไม่มีการถอนคำเตือนจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ไม่มีการยอมรับว่าข่าวที่กุขึ้นมาโดยสหรัฐอเมริกานั้น เป็นข่าวโคมลอย สิ่งที่จะเกิดตามมาในอนาคตอันใกล้นี้ น่าจะมีทิศทางเป็นไปได้ ดังนี้ .

๑. ทุกอย่างเงียบหายไป ไม่มีการถอนคำเตือน และ ไม่มีการพูดถึงข่าวก่อการร้ายอีก

๒. อเมริกาออกข่าวเตือนการก่อการร้ายขึ้นมาอีกในอนาคต พร้อมๆกับหลักฐานชิ้นใหม่

๓. จัดฉาก วินาศกรรมไทย ขึ้นมา เพื่อทำลายขวัญคนไทย เพื่อทำให้คนไทยเชื่อในคำเตือนอเมริกา และ ปฏิบัติตามคำชี้แนะของอเมริกา นั่นคือ การเปิดให้มีฐานทัพป้องกันการก่อการร้ายในประเทศไทย หรือ พูดง่ายๆ ยินดีให้ อเมริกากลับมาตั้งฐานทัพในไทยอีกครั้ง ด้วยข้ออ้างเรื่อง ..สงครามการก่อการร้าย !!! ..

30672545b.jpg

 

3067286a3.jpg

 

สงครามก่อการร้าย ที่เราจะพบว่า ที่ผ่านมานั้นอเมริกาได้ส่งนาวิกโยธิน ไปตั้งฐานทัพไว้อยู่ทั่วทุกมุมโลกหมดแล้ว ด้วยข้ออ้างเพื่อต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้าย แต่ความจริงก็คือ การเข้าไปแทรกแซงกิจการภายในประเทศต่างๆทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศที่มีผลประโยชน์ทางด้านพลังงาน ..

โดยเฉพาะในตอนนี้นั้นประเทศในภูมิภาคอาเซียนนี้ คือ เป้าหมายสำคัญที่สุดของอเมริกาในขณะนี้ ที่ต้องการจะเข้ามาแทรกแซง หรือ เข้ามาตั้งฐานทัพ เพื่อรองรับ ข้อพิพาททะเลจีนใต้ และ ข้อพิพาทอ่าวไทย ซึ่งเกี่ยวข้องกับ แหล่งพลังงาน เส้นทางการค้า และ ฐานเศรษฐกิจสำคัญที่สุดของโลก..

 

โดยโฟกัสสำคัญที่สุดของอเมริกานั้น ..

อยู่ที่การได้มีโอกาสกลับมาตั้งฐานทัพในประเทศไทยอีกครั้ง..

ซึ่งไทยเรานั้นจะเป็นศูนย์กลางฐานเศรษฐกิจสำคัญที่สุดของโลกในอนาคต !!..

ดังนั้น อเมริกาก็ต้องจัดฉาก หาข้ออ้าง ที่มีเหตุผลเพียงพอที่จะเข้ามา ..

เหมือนที่เคยใช้ข้ออ้าง เรื่องสงครามคอมมิวนิสต์ในอดีตนั่นแหละ !!!..

.............................................

306726879.jpg

 

สุดท้ายนี้ ..

ก็อยากจะบอกว่า ..

คนไทยเรานั้น นับจากนี้ควรที่จะหันกลับไปมองเรื่องไกลๆตัวได้แล้ว ..

ไปมองเรื่องที่เคยมองข้าม เรื่องที่เราเคยไม่ให้ความสำคัญ ไม่ให้ความสนใจ และ ปล่อยให้มันเป็นไปโดยผ่านการชักใย มอมเมา และ บิดเบือนข่าวสาร จากประเทศมหาอำนาจบ้าน้ำมัน บ้าทุนนิยมเสรีทั้งหลาย ..

น้ำมัน ก๊าซ พลังงานธรรมชาติ ทั้งใต้ทะเล ใต้ดิน และ นโยบายรัฐบาล หรือ โครงการ แผนการณ์ที่จะนำ พลังงานธรรมชาติต่างๆเหล่านี้ขึ้นมาใช้นั้น คือ เรื่องที่เราคนไทยไม่มีความเข้าใจเพียงพอต่อความรู้ในเรื่องราวสลับซับซ้อน และ การช่วงชิงทรัพยากรสำคัญของโลกอนาคตนี้..

เราคนไทยที่ผ่านมาแทบจะทุกคนเป็นแต่ใช้พลังงาน ขาดพลังงานไม่ได้จนกระทั่งถึงสภาวะเสพติดพลังงานกันอย่างหนักเลยก็มี ทว่า เราคนไทยส่วนใหญ่ก็ไม่รู้ว่าต้นทุนพลังงานที่ตนใช้อยู่นั้นมันมีราคาเท่าไหร่ ? นำมาจากไหน ??..

เรารู้แต่หาเงินมาจ่ายค่าพลังงาน รู้แต่ว่าราคามันแพงขึ้น แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนได้กำไรไปเต็มๆจาก..พลังงานไทย ซึ่งเป็นสมบัติของคนไทยเอง !!!..

นี่คือ ข้อด้อยของคนไทย และ คนในย่านอาเซียนแทบจะทั้งหมด ในขณะที่เรากำลังจะมี ประชาคมอาเซียน มีการเปิดเสรีการค้า มีการเปิดตลาดเสรีแรงงานในอนาคตอันใกล้..

เรากำลังจะมีรถไฟฟ้าความเร็วสูง เชื่อมอีสานไปกรุงเทพฯ เชื่อมกรุงเทพฯ ไปสุดชายแดนใต้ และ เชื่อมกรุงเทพฯ ไปท่าเรือตะวันออก ไปชายแดนภาคเหนือ ..

306728ca7.jpg

 

30672a88a.jpg

 

เรากำลังจะมีสะพานน้ำมัน สะพานเศรษฐกิจ ออยล์ บริดจ์ และ แลนด์ บริดจ์ เชื่อมเขตเศรษฐกิจพิเศษ จากทะเลอ่าวไทย ไปออกทะเลอันดามัน เรากำลังจะมีท่าเรือน้ำลึก มีการขุดคลองกระ และ มีเขตเศรษฐกิจภาคใต้ ที่ไล่ลงไปตั้งแต่สงขลาถึงนราธิวาส เรากำลังจะมีเขตเศรษบกิจพิเศษภาคเหนือ ที่มี เชียงใหม่ เป็นฐานเศรษฐกิจสำคัญ ..

เรากำลังถูกแบ่งหั่นประเทศออกเป็นเขตๆ ผ่านความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ ผ่านข้ออ้างเรื่องของการลงทุนทางด้านพลังงาน ทางด้านอุตสาหกรรม และ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี..

ผ่านแนวคิดแนวทางความปรารถนาของมหาอำนาจทุนนิยม อเมริกา แอนด์ เดอะแก๊งค์..

ที่เดินสายโชว์ฉากสงครามปาหี่ และ ต้มตุ๋นผู้คนมาแล้วทั่วโลก !!..

เราคนไทยหลายสิบล้านคนเป็นอย่างต่ำในอนาคต จะกลายเป็นเพียงพลเมืองชั้น ๒ เมื่อตลาดเสรีแรงงานเปิด โดยเฉพาะพวกไพร่แดงราษฎรเบอร์ ๑ ทั้งหลายนั่นแหละ โดนเต็มๆ !! ..

จะมีคนไทยเพียงหยิบมือเท่านั้น ที่จะได้กอบโกยผลประโยชน์ พลเมืองแรงงานต่างด้าวค่าแรงถูก ที่มีความรู้ความสามารถ มีความชำนาญงานเฉพาะทางจะเข้ามาแทนที่พวกแรงงานมันสมองราคาแพงของเรา ตลาดแรงงานชั้นล่างจะถูกครอบครองผ่านแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านที่ยอมรับค่าแรงต่ำกว่าแรงงานไทยของเรา ..

ทุกสิ่งทุกอย่าง มันจะถูกร่างผ่านให้เราคนไทยยอมรับเป็น รูปแบบของกฎหมาย มีการตราเป็นพระราชบัญญัติ ออกมาให้คนไทยยอมรับและปฏิบัติตาม ทุกสิ่งทุกอย่างมันจะถูกหมกเม็ดและซุกซ่อนไว้ใน มาตรากฎหมายต่างๆเป็นร้อยๆข้อ ที่คนไทยส่วนใหญ่มองว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะทำความเข้าใจ และ มันเป็นเรื่องไกลตัวเกินไปที่จะไปทำความเข้าใจกับมัน ..

นี่คือ ข้อด้อยของคนไทย ..

ที่ทำให้ภาพของการตกเป็นขี้ข้าเมืองขึ้นมหาอำนาจชัดเจนขึ้น !!..

30672b5dc.jpg

 

อย่าได้แปลกใจ .. ว่าเหตุใด อเมริกา ถึงให้ความสำคัญ และ ความสนิทสนม กับรัฐบาลไทยชุดนี้เป็นพิเศษ ก็เพราะรัฐบาลไทยชุดนี้ คือ รัฐบาลของ ทักษิณ ชินวัตร และ ทักษิณ ชินวัตร ก็คือ ขี้ข้าคนสำคัญของอเมริกา ที่ถูกอเมริการ่วมจัดฉากสร้างภาพขึ้นมาให้เป็นผู้นำประเทศที่เป็นความหวังของคนไทย ให้เป็นตัวแทนทุนนิยมที่แบ่งปัน คนรวยได้แหลก และ คนจนก็ได้แหลก(แต่ลม)ด้วย ให้เป็น ประชาธิปไตย ฉบับ กินได้ ที่มีทั้งนโยบายขายฝัน นโยบายหลอกแหลกมากมายจนคนไทยครึ่งค่อนประเทศยังน้ำลายไหลไม่หยุดมาถึงทุกวันนี้ ..

เพื่อให้คนไทยที่อยากได้ใคร่มีจนไร้สติทั้งหลาย เคลิบเคลิ้มหลงใหล จนไม่ลืมหูลืมตา ก่อนจะไปรู้สึกตัวอีกทีตอนที่ไม่มีแผ่นดินจะอยู่ ตอนที่เขาออกกฎหมายเวนคืนที่ดิน เพื่อจะเอาไปทำเขตเศรษฐกิจ เพื่อจะเอาไปขุดหาน้ำมัน เพื่อจะเอาไปทำเขตอุตสาหกรรม ด้วยข้ออ้างเพื่อพัฒนาประเทศในอนาคตโน่นแหละ ..

ตอนนี้คนไทยยังมีแผ่นดินอยู่อาศัยเป็นของตัวเอง การผูกขาดพลังงานโดยนายทุนสามานย์ยังเป็นเพียงช่วงของการเริ่มต้น นโยบายผลาญชาติ นโยบายขายชาติต่างๆยังอยู่ในช่วงของการตั้งไข่ คนไทยยังมีโอกาสที่จะต่อสู้ แม้ว่ารู้ทั้งรู้ว่ามันเป็นการยากที่จะไปต้านทานความปรารถนาใคร่อยากของพวกมนุษย์มหาโลภของโลกมนุษย์อย่าง อเมริกา ได้..

ทว่า หากไม่ต่อสู้ ไม่ต่อต้าน ไม่แข่งขันกันทางความคิด เพื่อช่วงชิง และ เพื่อที่จะได้มา ซึ่งพื้นที่ชีวิตของเราคนไทยในอนาคตไว้ในระดับที่ พอเพียง เพียงพอ ต่อความเป็นอยู่ที่ดีของเราคนไทยไว้แต่เนิ่นๆแล้ว ..

เราคนไทยทั้งหลายก็คงจะได้ ตกเป็นทาสทุนนิยมสามานย์ ตกเป็นเหยื่อทางการค้า ตกเป็นพลเมืองชั้น ๒ ที่ไม่มีสิทธิในการทักท้วงหรือเรียกร้องใดๆได้อีกแน่นอนในอนาคต..

ตอนนี้มหาอำนาจทุนนิยมทั้งหลายจากทั่วทุกมุมโลก..

กำลังแห่แหนกันเข้ามาครอบงำไทยอย่างหนัก..

30672cba6.jpg

 

โดยเฉพาะ อเมริกา ถึงขนาดเข้ามากุมสติปัญญาและความรู้ของปัญญาชนในประเทศไทยไปค่อนประเทศ เข้ามากุมนโยบายของรัฐบาลไทยไปเกินกว่าครึ่ง เข้ามาควบคุมทิศทางการใช้เงินเพื่อการลงทุนไปมากมายมหาศาล เพื่อผลประโยชน์ของพวกเขาเอง อเมริกา ไม่ได้มองเรื่องมนุษยธรรม ไม่ได้สนใจเรื่องมนุษยธรรม ทุกอย่างมันกระทำเองโดยอัตโนมัติแค่ตรงริมฝีปาก แต่ที่อเมริกาสำรากออกมาให้ชาวโลกเห็นทุกครั้งก็คือ การเป็น พญาอินทรีผู้ตะกละและหิวโหย ที่พร้อมจะโฉบฮุบเหยื่อเพื่อทึ้ง ฉีกกิน ไม่เหลือทิ้งไว้ให้เห็นซาก !!! ..

ลองทบทวนดู มีนโยบายเพื่อทำให้ฐานะความเป็นอยู่ และ คุณค่าชีวิตของคนไทยดีขึ้นกี่นโยบายในรัฐบาลขี้ข้าอเมริกาชุดนี้ ที่ทำได้จริงบ้าง ??..

ตั้งแต่หลังการเลือกตั้งมาจนถึงทุกวันนี้ ยังไม่มีปรากฎออกมาเป็นรูปธรรมเลยสักเรื่อง สักนโยบาย ในขณะเดียวกันสิ่งที่เราเห็น ก็คือ การมีโครงการของรัฐบาล เพื่อใช้จ่ายเงินงบประมาณแผ่นดิน เงินในคลังหลวง หมดไปกับการสร้างผลประโยชน์ให้กับนายทุนทั้งสิ้น ..

ผ่านคำโป้ปดมดเท็จ โฆษณาชวนเชื่อ เรื่องการลงทุน เรื่องของความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ เรื่องของการฟื้นฟูประเทศ เรื่องของการเปลี่ยนแปลงประเทศใหม่ !!!..

ซึ่งมันคือ บันไดก้าวแรกๆ ที่จะทำให้เราคนไทยก้าวไปติดกับดักทุนนิยม ..

จนประเทศชาติล่มจม และ ไม่เหลือความภาคภูมิใจห่าใดๆบนผืนแผ่นดินไทย..

ไว้ให้ลูกหลานไทยได้ชื่นชมอีกต่อไปในอนาคต !!!..

3067289c9.jpg

 

.. คือ ตัวอะไร ..ในตอนนี้ ??? ..

 

 

....................................

วินเซนต์

ริมโขง บึงกาฬ

๑๙ มกราคม ๒๕๕๕

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอโทษ ห้องสบายใจเปลี่ยนไป แต่ต้องทำเพื่อให้ความจริงปรากฏ

เพื่อความตระหนักถึงความร้ายแรงที่จะเกิดกับประเทศชาติ

เพื่อเข้าใจ ปลุกผู้คนให้ตื่นขึ้นมาช่วยกันป้องกันรัก+รวมพลังปกชาติ

เขย่าตัวเพื่อเรียกจิตสำนึกในหน้าที่ จริยธรรม ตื่นขึ้นก่อนไฟจะลามถึงที่นอน

ฟังดูอาจจะเวอร์แต่เป็นไปแล้วคลายกับสิ่งที่แฝงตัวอยู่และค่อยๆเขมือบกิน นั่นอ่ะ

คล้ายเล่าในตำนาน เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย

 

Isra News Agency

วันอังคาร ที่ 24 ธันวาคม 2556

ดร.ณัชร สยามวาลา แปล/เรียบเรียง

 

"..รัฐบาลปัจจุบันของประเทศไทยนั้นอยู่ใต้อำนาจการบริหารอย่างเปิดเผยของผู้ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุกแล้ว 2 ปี คือ ทักษิณ ชินวัตร ผู้ซึ่งกำลังกบดานอยู่ต่างประเทศและบริหารประเทศผ่านน้องสาวของตนเองคือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และผ่านกลไกทางการเมืองขนาดใหญ่ของเขาอันได้แก่ “พรรคเพื่อไทย” (พท) พท. มีทัพหนุนในรูปแบบของม็อบที่ใส่เสื้อสีแดง ซึ่งเป็นที่มาของชื่อกลุ่มว่า “พวกเสื้อแดง”.."

 

tk24-12-13.jpg

หมายเหตุ เป็นบทความชื่อ “ขุดรากถอนโคนรัฐบาลหุ่นเชิดของวอลล์สตรีทในประเทศไทย”เขียนโดย โทนี่ คาร์ตาลุชชี่ จาก:http://landdestroyer...eets-proxy.html (เผยแพร่เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2556) สำนักข่าวอิศรา เห็นว่า เป็นมุมมองมองที่แตกต่างจากนักข่าวตะวันตกโดยทั่วไปและยังเชื่อมโยงทุนของกลุ่มชินวัตรกับทุนของบรรษัทข้ามชาติที่อยู่ในตลาดวอลล์สตรีทและลอนดอน

---

26 พ.ย. 2556 การชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่กว่าครั้งใดที่เคยมีมาก่อนได้เกิดขึ้นในกรุงเทพมาหลายสัปดาห์แล้ว ในบางครั้งจำนวนผู้ชุมนุมพุ่งขึ้นไปถึงหลายแสนคน โดยตัวเลขโดยประมาณมีอยู่ระหว่างหนึ่งแสนถึงสี่แสนคนในช่วงที่คนมามากที่สุด ทำให้การชุมนุมครั้งนี้เป็นการชุมนุมที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยในยุคนี้

1.jpg

v2.jpg

v3.jpg

ภาพประกอบ: ภาพต่าง ๆ จากทั่วกรุงเทพแสดงให้เห็นกลุ่มคนเป็นจำนวนมากประท้วงรัฐบาลปัจจุบันในประเทศไทย กลุ่มผู้ชุมนุมนี้ต่างจากม็อบ “เสื้อแดง” ของรัฐบาลที่ได้รับการสั่งการโดยทักษิณ ชินวัตร ในแง่ที่กลุ่มผู้ชุมนุมนี้เป็นกลุ่มผู้ชุมนุมที่นำโดยกลุ่มแกนนำและกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่หลากหลาย ตั้งแต่สหภาพแรงงานไปจนพรรคการเมืองและคนดังในแวดวงสี่อต่าง ๆ จำนวนผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลในขณะนี้มีมากมายมหาศาลจนเกินความสามารถใด ๆ ของทักษิณและกลไกทางการเมืองของเขาที่จะพยายามจัดม็อบสนับสนุนฝ่ายตนมาเทียบได้ ในขณะนี้ กลุ่ม “เสื้อแดง” ไม่สามารถแม้แต่จะจัดตั้งม็อบให้ได้เต็มถึงเศษหนึ่งส่วนสี่ของสนามกีฬาที่อยู่ไม่ไกลออกไป ทั้งนี้ความพยายามในการจัดตั้งม็อบต่อต้านผู้ประท้วงรัฐบาลสองครั้งก่อนหน้านี้ก็ต้องถูกยกเลิกไปด้วยเพราะไม่สามารถจัดได้สำเร็จ

การชุมนุมต่อต้านรัฐบาลนี้มีเป้าหมายเพื่อขับไล่รัฐบาลปัจจุบันออกไปภายหลังที่รัฐบาลได้ปฏิเสธที่จะยอมรับคำวินิจฉัยของศาลที่ว่า ความพยายามของรัฐบาลที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย

รัฐบาลปัจจุบันของประเทศไทยนั้นอยู่ใต้อำนาจการบริหารอย่างเปิดเผยของผู้ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุกแล้ว 2 ปี คือ ทักษิณ ชินวัตร ผู้ซึ่งกำลังกบดานอยู่ต่างประเทศและบริหารประเทศผ่านน้องสาวของตนเองคือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และผ่านกลไกทางการเมืองขนาดใหญ่ของเขาอันได้แก่ “พรรคเพื่อไทย” (พท) พท. มีทัพหนุนในรูปแบบของม็อบที่ใส่เสื้อสีแดง ซึ่งเป็นที่มาของชื่อกลุ่มว่า “พวกเสื้อแดง” นอกจากนี้ยังมีแรงหนุนจากเอ็นจีโอที่ได้รับเงินสนับสนุนจากต่างประเทศอีกจำนวนมากมายหลายกลุ่มและยังมีกลุ่มนักโฆษณาชวนเชื่ออีกด้วย

ในขณะที่เรื่องนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องราวที่ตรงไปตรงมาและน่าจะปิดคดีลงได้แล้วในเรื่องของความไม่ชอบธรรมของรัฐบาลปัจจุบัน แต่ประเทศตะวันตกต่าง ๆ กลับเรียกร้องให้ผู้ชุมนุมประท้วงรัฐบาล “เคารพกฎหมาย” และยังประณามกลุ่มผู้ประท้วงที่เข้ายึดอาคารของกระทรวงต่าง ๆ อีกด้วย

[/url]

 

เพราะเหตุใดชาติตะวันตกจึงออกโรงปกป้องรัฐบาลปัจจุบันของประเทศไทยทั้ง ๆ ที่ได้ให้การสนับสนุนการประท้วงต่อต้านรัฐบาลรอบโลกที่ชาติตะวันตกอ้างว่ามีการคอร์รัปชั่นกันอย่างเปิดเผยและมีพฤติกรรมแบบกดขี่เผด็จการมาถึงเกือบ 3 ปีแล้ว?

คำตอบนั้นง่ายมากทีเดียว เพราะรัฐบาลปัจจุบันในประเทศไทยนี้ต่างจากรัฐบาลในอียิปต์ ตูนิเซีย ซีเรีย รัสเซีย เยเมน ลิเบีย มาเลเซีย และที่อื่น ๆ ตรงที่ว่ารัฐบาลไทยเป็นการจัดตั้งขึ้นมาและทำหน้าที่เป็นข้ารับใช้ของกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทางการเงินในวอลล์สตรีทและลอนดอนนั่นเอง และไม่ว่าจะมีการเล่นพรรคเล่นพวกอย่างน่าขบขันเพียงไรในประเทศที่ถูกบริหารโดยน้องสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณที่ถูกขับพ้นจากอำนาจไปแล้ว บรรดาสื่อในโลกตะวันตกก็ยังยืนยันที่จะวาดภาพรัฐบาลไทยในปัจจุบันต่อไปว่าเป็นรัฐบาลที่ชอบธรรม “มาจากการเลือกตั้ง” และ “เป็นประชาธิปไตย”

ส่วนอาชญากรรมอันเลวร้ายสุดโต่งของทักษิณ ชินวัตรนั้นกลับถูกซุกซ่อนไว้ในข่าวต่าง ๆ หรือที่ร้ายยิ่งกว่านั้นก็คือมันไม่ได้รับการกล่าวถึงเลยด้วยซ้ำ

ก่อนที่การชุมนุมประท้วงจะขยายตัวใหญ่ขึ้นไปกว่านี้ และก่อนที่การขัดแย้งจะแพร่ขยายไปทั่วมากกว่านี้ ท่านผู้อ่านอาจจะมีข้อสงสัยบางประการที่ผู้เขียนจะเสนอคำตอบไว้ให้ก่อนดังต่อไปนี้

v4.jpg

บรรยายภาพ: ดังที่เป็นที่กล่าวไว้ในการตีพิมพ์ของสื่อต่างประเทศจำนวนมากมาย พรรคหุ่นเชิดของทักษิณลงสมัครด้วยสโลแกนที่ว่า “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” สำหรับกรณีที่พรรคเพื่อไทยต้องเจอคดีที่โดนกล่าวหาว่าผู้ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุกแล้ว 2 ปีมามีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในแคมเปญเลือกตั้งได้อย่างไรนั้น หลักฐานหลายชิ้นที่ถูกใช้ในการฟ้องร้องในชั้นศาลก็คือแผ่นป้ายโฆษณาหาเสียงของพรรคของตนเองนั่นเองซึ่งป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยไม่สามารถปฏิเสธได้

1. ใครคือผู้นำที่แท้จริงของรัฐบาลไทยในปัจจุบัน?

ทักษิณได้เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ระหว่างปี 2544-2549 โดยก่อนหน้าที่ทักษิณ ชินวัตรจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยนั้น เขาได้พยายามไต่บันไดแห่งโอกาสที่วอลล์ สตรีท และ ในลอนดอนมานานมากแล้วพร้อม ๆ กับที่พยายามที่จะปูทางขึ้นสู่การเมืองในประเทศไทย

ทักษิณได้รับการแต่งตั้งจากกลุ่มธุรกิจคาร์ไลล์ให้เป็นที่ปรึกษาในขณะที่ยังดำรงตำแหน่งทางการเมือง และได้พยายามที่จะใช้เส้นสายสร้างภาพทางการเมืองของตนเอง ทนง ขันทอง แห่งหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษของประเทศไทย เดอะเนชั่น ได้เขียนไว้ในปี 2544 ว่า

“ในปี 2542 เมื่อประเทศไทยยังจมติดอยู่ในหล่มทางเศรษฐกิจ ทักษิณได้พยายามใช้เส้นสายพรรคพวกชาวอเมริกันที่เขามีมาเสริมภาพลักษณ์ทางการเมืองของเขา ในตอนที่เขากำลังก่อตั้งพรรคไทยรักไทย เขาเชิญบุชผู้พ่อมาเยือนกรุงเทพและไปเยือนที่บ้านของเขาด้วยโดยกล่าวว่าภารกิจของเขาคือการทำหน้าที่ “พ่อสื่อระดับชาติ” ทำหน้าที่จับคู่ระหว่างกลุ่มกองทุนรวมของอเมริกาและกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ของประเทศไทย นอกจากนี้ในเดือนมีนาคม เขาก็ได้เป็นเจ้าภาพให้การต้อนรับนายเจมส์ เบเกอร์ ที่ 3 ผู้ซึ่งเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศในคณะรัฐมนตรีของบุชผู้พ่อเมื่อนายเบเกอร์เดินทางมาเยือนกรุงเทพ”

เมื่อทักษิณได้เป็นนายกรัฐมนตรีในปี 2544 เขาก็ได้เริ่มต้นตอบแทนต่อการสนับสนุนที่เขาได้รับจากโลกตะวันตก ในปี 2546 เขาได้ส่งทัพทหารไทยเข้าร่วมในการบุกอิรัคของสหรัฐอเมริกา ถึงแม้ว่าจะได้รับการประท้วงจากกองทัพไทยและประชาชนชาวไทยทั่วไป นอกจากนี้ทักษิณยังยอมให้ซีไอเอใช้ประเทศไทยเป็นฐานสำหรับโครงการส่งผู้ร้ายข้ามแดนอันอื้อฉาว อีกด้วย

และในปี 2546 เช่นกัน เริ่มจากเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไปเป็นเวลา 3 เดือน มีคนประมาณ 2,800 คน (ประมาณวันละ 30 คน) ถูกวิสามัญฆาตกรรมนอกกฎหมายทั้งในเมืองและชนบทต่าง ๆ ทั่วประเทศในโครงการ “สงครามต่อต้านยาเสพติด” ของทักษิณ

ด้วยการโดนกล่าวหาว่าเป็น “ผู้ค้ายา” เหยื่อทั้งหลายจะถูกสังหารตาม “ใบสั่งฆ่า” ที่ถูกรวบรวมขึ้นมาโดยตำรวจซึ่งทักษิณให้อำนาจเต็มที่ที่จะทำอะไรก็ได้

ต่อมาภายหลังการสอบสวนอย่างเป็นทางการพบว่าเหยื่อที่ถูกสังหารจำนวนกว่าครึ่งไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับยาเสพติดแต่อย่างใด องค์กร Human Rights Watch (HRW) ได้ยืนยันเรื่องดังกล่าวนี้ในรายงานของตนในปี 2551 ชื่อ “สงครามต่อต้านยาเสพติดในประเทศไทย” ซึ่งเป็นรายงานฉบับติดตามผลของรายงานฉบับปี 2547 ชื่อ “มีหลุมไม่พอฝัง” ที่ละเอียดยิ่งกว่านั้นมาก

v5.jpg

บรรยายภาพ: “สงครามต่อต้านยาเสพติดของรัฐบาล: ผิดอย่างร้ายแรง หยุดการฆาตกรรมผู้ใช้ยาเสพติดชาวไทย” ในช่วง “สงครามต่อต้านยาเสพติด” ของทักษิณ ชินวัตร ในปี 2546 ไม่เพียงแต่ผู้ใช้ยาเสพติดเท่านั้นที่ถูกวิสามัญฆาตรกรรมอย่างโหดร้ายทารุณนอกกฎหมายบนท้องถนน แต่เหยื่อจำนวนมากกว่า 50% ของจำนวนผู้ที่ถูกฆาตรกรรมไปในเวลา 3 เดือนนั้นคือผู้บริสุทธิ์และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ เลยกับการใช้ยาเสพติดหรือว่าการค้ายา

ในปี 2547 ทักษิณพยายามที่จะผลักดันการจัดทำความตกลงการค้าเสรีไทย-สหรัฐ (FTA) โดยไม่ผ่านการอนุมัติจากรัฐ สภา ความตกลงดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากสภาธุรกิจสหรัฐ-อาเซียน ซึ่งองค์กรนี้ก็คือองค์กรที่เป็นเจ้าภาพให้การต้อนรับแกนนำนปช.ในครั้งที่ไปเยือนสหรัฐอเมริกา ก่อนการเลือกตั้งในปี 2554 ซึ่งเป็นการเลือกตั้งครั้งที่น้องสาวของทักษิณ คือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะได้รับการนำขึ้นสู่อำนาจนั่นเอง

v6.jpg

บรรยายภาพ: สภาธุรกิจสหรัฐ-อาเซียน—บริษัทชั้นแนวหน้าที่เปรียบได้กับเป็นกลุ่มบริษัทเผด็จการชาตินิยมในสหรัฐ—ได้รับการติดต่อจากแกนนำม็อบป่วนถนน “เสื้อแดง” ของทักษิณ ชินวัตร

สภาดังกล่าวนี้ในปี 2547 ประกอบไปด้วย 3M, บริษัทผู้ได้กำไรจากสงครามอย่าง Bechtel, Boeing, Cargill, Citigroup, General Electric, IBM, บริษัทที่อื้อฉาวอย่าง Monsanto, และในปัจจุบันมีกลุ่มธนาคารต่าง ๆ เช่น Goldman Sachs และ JP Morgan นอกจากนี้ยังมีบริษัท Lockheed Martin, บริษัทค้าอาวุธ Raytheon, Chevron, Exxon, BP, Glaxo Smith Kline, Merck, Northrop Grumman, บริษัทที่อื้อฉาวด้าน GMOเหมือน Monsanto อย่าง Syngenta, และ บริษัทค้าบุหรี่อย่าง Phillip Morris

v7.jpg

บรรยายภาพ: ทักษิณ ชินวัตร เผด็จการที่ถูกขับออกจากตำแหน่ง กำกลังกล่าวรายงานต่อหน้าสภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (Council on Foreign Relations – CFR) ก่อนหน้าที่เขาจะถูกรัฐประหารปลดออกจากตำแหน่งในปี 2549 ไม่นาน หลังจากปี 2549 ทักษิณได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่และอย่างไม่หวั่นเกรงใด ๆ จากกรุงวอชิงตัน (รัฐบาลสหรัฐ) วอลล์ สตรีท (กลุ่มธุรกิจสหรัฐ) และ กลไกผลิตแคมเปญโฆษณาชวนเชื่อระดับยักษ์ (สื่อของโลกตะวันตก) ในการที่จะช่วยให้เขายึดอำนาจกลับคืนมาให้ได้

ทักษิณอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีถึงเดือนกันยายนปี 2549 โดยก่อนหน้าที่จะเกิดรัฐประหารโค่นเขาออกจากอำนาจนั้น ทักษิณกำลังกล่าวรายงานความคืบหน้าต่อสภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากกลุ่มบริษัทที่อยู่ในรายชื่อ Fortune 500 ในกรุงนิวยอร์ค ซึ่งบริษัทที่อยู่ในรายชื่อดังกล่าวได้แก่บริษัทที่มีรายได้จากการประกอบการสูงสุดในประเทศสหรัฐอเมริกาในแต่ละปี

หลังจากรัฐประหารในปี 2549 ที่โค่นล้มรัฐบาลของเขา ทักษิณก็มีกลุ่มนักลงทุนระดับสูงของอเมริกาเป็นตัวแทนให้เขามากมายผ่านทางบริษัทล็อบบี้ยิสต์ต่าง ๆ เช่น เคนเน็ธ เอเดลแมน จาก เอเดลแมน พีอาร์, เจมส์ เบเกอร์ จาก เบเกอร์ บ็อตตส์, โรเบิร์ต แบล็ควิลล์ จาก บาร์บูร์ กริฟฟิธ แอนด์ โรเจอร์ส, โคบร์ แอนด์ คิม และล่าสุด คือ โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม จาก อัมสเตอร์ดัม แอนด์ แพรอฟฟ์

 

นอกจากเป็นตัวแทนของทักษิณแล้ว โรเบิร์ต อัมเสตอร์ดัม แห่ง อัมสเตอร์ดัม แอนด์ แพรอฟฟ์ ยังเป็นตัวแทนให้กลุ่ม “เสื้อแดง” นปช.ของทักษิณด้วย และยังไปร่วมประชุมในการประชุมเพื่อการก่อตั้งกลุ่มที่เรียกตนเองกว่ากลุ่ม “วิชาการ” นิติราษฎร์ อีกด้วย ผู้เข้าประชุมดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเสื้อแดงที่สนับสนุนทักษิณ (ซึ่งได้ใส่เสื้อสีแดงเข้าร่วมประชุมจริง ๆ) ความช่วยเหลืออื่น ๆ ที่ทักษิณ และกลุ่ม นปช.ของเขาได้รับก็คือจากกลุ่มเอ็นจีโอ ประชาไท ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนจาก National Endowment for Democracy ซึ่งเป็นองค์กรหนึ่งที่ได้รับเงินสนับสนุนจากกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ

2. ทักษิณกลับขึ้นสู่อำนาจได้อย่างไร?

แทบจะทันทีที่ทักษิณถูกโค่นออกจากอำนาจในปี 2549 ทั้งพรรคการเมืองของเขาในประเทศไทยและผู้สนับสนุนชาวตะวันตกของเขาในต่างประเทศก็ได้เริ่มแคมเปญที่จะป้ายสีและทำลายสถาบันต่าง ๆ ของประเทศไทย เคนเน็ธ เอเดลแมน ได้ใช้ชื่อของบริษัท เอเดอลแมน สร้างเพจ USA for Innovation ขึ้นมาเพื่อให้ร้ายสถาบันต่าง ๆ ที่มีอยู่ในประเทศไทยในขณะนั้น เอเดลแมน เริ่มทำงานนี้ในปี 2550 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่บริษัทเอเดลแมนรับทักษิณ ชินวัตร เข้าไว้ในฐานะของลูกค้าที่ทางบริษัทจะทำการล็อบบี้หรือประชาสัมพันธ์ให้ โดยใช้ฉากหน้าว่าทำไปเพื่อป้องกัน “ทรัพย์สินทางปัญญา” (intellectual property)

(<a href="

style="text-decoration: none; color: rgb(9, 123, 209);">
)

วีดิโอ: เคนเน็ธ เอเดลแมน ชาวอเมริกันหัวอนุรักษ์นิยมรูปแบบใหม่ กล่าวโจมตีรัฐบาลไทยอย่างเกือบจะเรียกได้ว่าถากถางเสียดสี กล่าวหาว่าประเทศไทย “กำลังถอยหลังลงและกำลังจะเป็นแบบพม่า” ภายหลังบริษัทประชาสัมพันธ์ของเขารับเอาทักษิณ ชินวัตร เผด็จการที่โดนโค่นออกจากอำนาจมาเป็นลูกค้าในปี 2550

....

มีข่าวและบทวิจารณ์จำนวนมากมายมหาศาลในสื่อสิ่งพิมพ์ที่มักจะมีอคติอยู่เป็นประจำ เช่น The Economist, Time และ Newsweek กล่าวโจมตีประเทศไทยว่าเป็นประเทศที่กำลังถอยหลังออกไปจากความเป็นประชาธิปไตย และในขณะเดียวกันทักษิณก็ถูกเชิดชูชื่นชมว่ามีนโยบายที่มุ่งช่วยกลุ่ม “คนจนที่ถูกทำให้ไร้ความสำคัญ” ในประเทศไทย

ในปีถัดมา กลุ่มของทักษิณที่ตั้งอยู่บนนโยบายประชานิยมก็สามารถชนะการเลือกตั้งได้อย่างสบาย ๆ ชนิดไม่มีใครสามารถโจมตีได้ นายกรัฐมนตรีได้ลงสมัครอย่างเปิดเผยในฐานะ “นอมินีของทักษิณ” ตามที่บทความ Thailand’s PM Proxy: Samak ในนิตยสารไทม์ระบุเอาไว้

อย่างไรก็ตาม ทั้งสมัครและนายกฯ คนถัดไปจากเขาคือ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ (น้องเขยของทักษิณ) ต่างก็ถูกขับออกจากตำแหน่งในเวลาอันรวดเร็วด้วยข้อหาคอร์รัปชั่นประกอบกับ “การปฏิวัติโดยคนต่างสี” โดยกลุ่มต่าง ๆ ที่มีอยู่ในประเทศไทย

ในต้นปี 2552 แนวรุกทางการเมืองของทักษิณก็ได้เริ่มแคมเปญการเผชิญหน้าที่มีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆกับสถาบันที่มีอยู่ในประเทศไทยในขณะนั้น ระหว่างเดือนเมษายนปี 2552 การชุมนุมประท้วงโดยกลุ่มนปช. “เสื้อแดง” ของทักษิณได้ทำความเสียหายให้กับสถานที่ต่าง ๆ มากมาย และมีผู้เสียชีวิตจากกระสุนปืน 2 ราย ขณะที่พยายามที่จะป้องกันทรัพย์สินของตนเองจากผู้ชุมนุมประท้วงที่เข้ามาปล้นสดมภ์

ในครั้งนั้นทหารไทยได้ประสบความสำเร็จใจการสลายการจลาจลโดยไม่มีการสังหารผู้ชุมนุมประท้วงแม้แต่คนเดียว บรรดาลิ่วล้อของทักษิณต้องหนีไปกัมพูชาหลังจากเรียกร้องให้มี “สงครามประชาชน” ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศก็ไม่ได้ให้ความสนใจแต่อย่างใด

v8.jpg

บรรยายภาพ: ภาพนิ่งจากหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงส่วนหน้าของปืน M16A2 ปืน M16 ถูกใช้โดยกลุ่มกองกำลังทหารของผู้ต่อต้านรัฐบาลด้วยเหตุผลที่เป็นที่รู้กันว่า พวกเขาต้องการโยนความผิดของการที่มีคนบาดเจ็บและเสียชีวิตมาที่กองทัพบกไทยซึ่งใช้อาวุธตลอดจนกระสุนของปืนรุ่นดังกล่าวเป็นอาวุธหลักของทหารราบ เหตุการณ์ลักษณะนี้ก็เป็นเช่นเดียวกับการทำลายความมั่นคงของชาติที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตกอื่น ๆ จากเยเมนถึงซีเรีย นั่นก็คือ มีมือปืนที่ไม่มีใครรู้ที่มาที่ไปถูกนำเข้ามาสร้างความรุนแรงเพื่อที่จะโยนความผิดให้กับรัฐบาลในขณะที่ความจริงเรื่องการใช้มือที่สามนี้ก็จะถูกปฏิเสธไปเรื่อย ๆ อย่างนานที่สุดเท่าที่จะทำได้

ในปี 2553 ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างความโกรธแค้นเจ็บปวดอย่างรุนแรงทั้งในระดับประเทศและต่างประเทศเพื่อที่จะล้มรัฐบาลให้ได้ กองกำลังทหารลึกลับจำนวน 300 คน ถูกนำเข้ามาเพื่อกระตุ้นให้เกิดความรุนแรงเสียหายถึงชีวิต ความรุนแรงดังกล่าวนี้กินเวลาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ และทำให้บางส่วนของกรุงเทพซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศไทยได้กลายเป็นเขตของสงคราม

มีคนจำนวนกว่า 90 คนต้องเสียชีวิตลง ซึ่งมีทั้งทหาร ตำรวจ ประชาชนผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ รวมทั้งผู้ชุมนุมประท้วงเองด้วย พวกเขาเสียชีวิตลงจากการแลกกระสุนใส่กันระหว่างกลุ่มกองกำลังลึกลับและทหาร หรือไม่ก็จากการหายใจเอาควันไฟเข้าไปในระหว่างเข้าไปขโมยของในอาคารต่าง ๆ ที่ผู้ชุมนุมประท้วงคนอื่น ๆ ได้จุดไฟเผา

ในขณะที่ทหารไทยประสบความสำเร็จในการนำความสงบกลับมาสู่กรุงเทพอีกครั้งหนึ่ง ทักษิณและกลุ่มผู้หนุนหลังชาวตะวันตกของเขาก็ได้รับแรงผลักดันที่พวกเขาต้องการในการที่จะกระตุ้นให้นปช. “เสื้อแดง” เป็นพวกหัวรุนแรงหนักยิ่งขึ้นไปอีกและในขณะเดียวกันก็ทำให้ความเห็นของนานาชาติต่อประเทศไทยก็เป็นไปในทางที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งก็ทำให้เกิดการเลือกตั้งขึ้นมาในปี 2554

พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งอย่างง่ายดายอีกครั้งด้วยการหาเสียงด้วยนโยบายประชานิยม สัญญาประชาชนว่าจะให้บ้านและรถราคาถูก ให้คอมพิวเตอร์ฟรี กำจัดทั้งน้ำท่วมและปัญหาแห้งแล้งขาดแคลนน้ำ นอกจากนี้ก็ยังรับประกันราคาข้าวสำหรับข้าวที่ปลูกโดยชาวนาไทยจำนวนมาก

การชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้เป็นตัวอย่างที่ดีที่ชี้ให้เห็นว่า “ระบอบ” ที่ได้รับการหนุนหลังจากตะวันตกมีความยินดีอย่างยิ่งที่จะใช้นโยบายประชานิยมเพื่อเจาะกลุ่มประชากรใหญ่ ๆ ในประเทศ ในกรณีที่ผู้นำประเทศไม่ได้ใช้มันก่อนอยู่แล้วเสียเอง เช่น ในในกรณีของอาร์เจนติน่า และ เวเนซูเอล่า

และเนื่องจากมีผู้ต้องหาคดีฆาตรกรรมหมู่ผู้ซึ่งเป็นผู้ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุกแล้ว 2 ปี กำลังหนีหมายจับจำนวนหลายหมายด้วยกันอยู่ที่ต่างประเทศ แต่ก็ยังสามารถบริหารประเทศได้ผ่านน้องสาวของตน ประกอบกับการที่คำสัญญาทั้งหลายที่ทางพรรคเพื่อไทยเคยสัญญาไว้ในตอนหาเสียงก็ไม่ได้เป็นไปตามนั้นมา 2 ปีแล้ว

องค์กรต่าง ๆ ในประเทศไทยอาจจะรู้สึกว่าได้เวลาแล้วที่จะออกแรงกดดันทำสิ่งที่จะโค่นทักษิณออกจากอำนาจอีกครั้ง—และบางทีครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้าย

3. โลกตะวันตกต้องการอะไรจากประเทศไทย?

เป็นเวลานานกว่าสองทศวรรษแล้วที่สหรัฐอเมริกาได้แสดงความเห็นผ่านเอกสารนโยบายจำนวนมหาศาลถึงความจำเป็นที่จะพัฒนาและบังคับใช้ยุทธศาสตร์ “การจำกัดการขยายตัวของลัทธิที่ไม่พึงปรารถนา” กับประเทศจีนอย่างได้ผล ในปี 2540 โรเบิร์ต เคแกน นักเขียนด้านนโยบายของอเมริกา สังกัด The American Enterprise Institute และ The Brookings Institution เขียนบทความชื่อ “สิ่งที่จีนรู้แต่เราไม่รู้: เหตุผลสนับสนุนยุทธศาสตร์ใหม่ด้านการจำกัดการขยายตัว(ของจีน)” ซึ่งเขาได้กล่าวไว้ว่า (ตัวอักษรเข้มโดย Tony Cartalucci ผู้เขียนบทความนี้) :

การจัดระเบียบของโลกในปัจจุบันเป็นไปเพื่อสนองความต้องการของสหรัฐอเมริกาและพันธมิตร ซึ่งเป็นผู้สร้างระเบียบโลกใหม่ (New World Order) นี้ขึ้นมา และระเบียบโลกใหม่นี้ไม่ตอบสนองความต้องการของผู้นำเผด็จการของจีนซึ่งพยายามที่จะรักษาอำนาจในประเทศและเพิ่มอิทธิพลตนเองในต่างประเทศ เหล่าผู้นำจีนหมดความอดทนต่อข้อจำกัดที่ตนถูกหยิบยื่นให้อยู่และกังวลว่าตนจะต้องเปลี่ยนกฎเกณฑ์ของระบบระเบียบนานาชาติเสียใหม่ก่อนที่ระบบระเบียบนานาชาติจะมาเปลี่ยนจีน เคแกนกล่าวว่า

“...การเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมทั้งภายนอกและภายในของสหภาพโซเวียตในตอนปลายของทศวรรษที่ 1980 นั้น ส่วนหนึ่งเกิดมาจากยุทธศาสตร์ของอเมริกาที่อาจจะเรียกได้ว่า “การบูรณาการเข้าด้วยกันผ่านการจำกัดการขยายตัวและการกดดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง”...”

นโยบายดังกล่าวควรที่จะถูกนำมาใช้ในจีนทุกวันนี้ ตราบใดที่จีนยังคงรักษารูปแบบการปกครองในปัจจุบัน จีนก็จะยังไม่สามารถผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของระบบระเบียบของโลกได้อย่างเป็นสันติ สำหรับผู้นำจีนในปัจจุบันนี้ การทำตามกฎเกณฑ์ของเรานั้นเสี่ยงเกินไป – แต่กระนั้นความลังเลของเราที่จะบีบบังคับจีนให้เล่นตามกฎของพวกเรานั้นมันอันตรายเกินไปสำหรับระเบียบของสังคมโลก สหรัฐอเมริกาไม่สามารถและไม่ควรที่จะเต็มใจที่จะปล่อยให้ระเบียบของสังคมโลกปั่นป่วนไปด้วยการเข้าใจผิดว่าวิธีที่ดีที่สุดที่จะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับจีนก็คือการยอมรับความเป็นจีนในปัจจุบัน

สิ่งที่เราควรจะทำก็คือการรักษาระเบียบนั้นไว้และพยายามให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในจีนแทน นั่นหมายความว่าเราต้องเสริมสร้างศักยภาพทางทหารของเราในภูมิภาคนั้น พัฒนาสายสัมพันธ์ทางความมั่นคงกับเพื่อนและพันธมิตรของเรา และประกาศให้รู้ว่าเราจะตอบโต้ และถ้าจำเป็นก็จะตอบโต้ด้วยทหารเมื่อจีนใช้การข่มขู่หรือการบุกรุกทางทหารเพื่อให้ได้มาซึ่งเป้าหมายทางภูมิภาคของตนเอง

นอกจากนี้ยังหมายความว่าเราจะไม่ทำการค้ากับกองทัพจีนหรือทำธุรกิจกับบริษัทที่กองทัพเป็นเจ้าของหรือบริหาร และยังหมายความว่าเราจะใช้มาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงเมื่อเราจับได้ว่าจีนเข้าไปเกี่ยวข้องกับการแผ่ขยายกำลังอาวุธนิวเคลียร์

ยุทธศาสตร์การจำกัดการขยายตัวของจีนจะต้องใช้การเพิ่ม ไม่ใช่การลด ศักยภาพทางการทหารโดยรวมของเรา ไอร์ โครว์ ได้เตือนไว้ในปี 2450 ว่า “ยิ่งเราพูดถึงความจำเป็นที่จะต้องประหยัดเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์ของเรามากเท่าใด พวกเยอรมันก็จะยิ่งเชื่อว่าเรากำลังเบื่อและเหนื่อยหน่ายกับการต่อสู้ และพวกเขาก็จะชนะด้วยการมุ่งมั่นดำเนินการต่อไป” วันนี้ ภาพของการตกต่ำลงทางทหารของเราได้เริ่มมีผลต่อการวางแผนการณ์ของจีนแล้ว ในปี 2535 เอกสารภายในของรัฐบาลจีนกล่าวว่า “กำลังทหารของอเมริกากำลังเป็นไปในทางเสื่อมลงและมันก็มีข้อจำกัดในสิ่งที่พวกอเมริกัจะนสามารถทำได้” ความเข้าใจเช่นนี้จำเป็นที่จะต้องถูกขจัดออกไปให้เร็วที่สุด

v9.jpg

บรรภายภาพ: ภาพจากรายงานเรื่อง “สายสร้อยไข่มุก” ในปี 2549 ของ Strategic Studies Institute (รร.เสนาธิการของกองทัพบกสหรัฐฯ) แสดงให้เห็นถึงยุทธศาสตร์ในการกำจัดการขยายตัวของจีน ในขณะที่คำว่า “ประชาธิปไตย” “อิสรภาพ” และ “สิทธิมนุษยชน” ถูกใช้เป็นฉากบังหน้าในการยกระบอบการปกครองของประเทศต่าง ๆ ที่อิงกับตะวันตกขึ้นสู่อำนาจ ในความจริงแล้วมันเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญระดับภูมิภาคเพื่อจะโค่นล้มองค์ประกอบต่าง ๆ ของความเป็นชาตินิยมออกไปและจัดตั้งระบอบที่ได้รับการถ่ายทอดจากตะวันตกขึ้นสู่อำนาจเพื่อที่จะปิดล้อมและกำจัดการขยายตัวของจีน ความรุนแรงในพื้นที่อย่างเช่น Sittwe, Rakhine ในเมียนม่าร์ หรือ Gwadar Baluchistan ในปากีสถานไม่ใช่เหตุบังเอิญแต่มีการบันทึกไว้เป็นหลักฐานบ่งชี้ถึงการสนับสนุนอย่างมหาศาลจากโลกตะวันตกต่อกลุ่มต่อต้านติดอาวุธในพื้นที่ดังกล่าว

ภาพนี้ได้ถูกอธิบายเพิ่มเติมในรายงานเรื่อง “สายสร้อยไข่มุก” ในปี 2549 ของ Strategic Studies Instituteซึ่งบริเวณที่จีนได้มีการแผ่ขยายอำนาจได้รับการระบุไว้อย่างชัดเจนโดยมีจุดประสงค์เพื่อที่อเมริกาจะเข้าไปขัดขวางและกำจัดการขยายตัว บริเวณดังกล่าวได้แก่ภูมิภาค Baluchistan ในปากีสถานซึ่งปัจจุบันนี้ได้เป็นบริเวณที่สูญเสียความมั่นคงไปแล้ว โดยบริเวณนี้เป็นบริเวณที่ติดกับเมือง Gwadar ของจีน และอีกบริเวณหนึ่งที่ได้รับการแทรกแซงก็คือรัฐ Rakhine ในเมียนม่าร์ ซึ่งก็เป็นบริเวณที่สูญเสียความมั่นคงไปแล้วเช่นกัน

รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ นางฮิลารี คลินตัน ได้กล่าวย้ำถึงพันธกิจที่จะกำจัดการขยายตัวของจีนนี้และได้กล่าวถึงประเด็นอีกประเด็นหนึ่งที่เคแกนได้กล่าวไว้ตั้งแต่ปี 2540 ว่า – การที่ยุทธศาสตร์ที่จะกำจัดการขยายตัวของจีนอย่างได้ผลนั้น ประเทศต่าง ๆ ในเอเชียอาคเนย์จะต้องสนับสนุนอเมริกาต่อต้านจีน – โดยเธอได้กล่าวไว้ในบทความแสดงความเห็นในวารสาร Foreign Policy ชื่อ The American Pacific Century

การนำประเทศไทยที่อยู่ในสภาพยอมเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดอย่างสมบูรณ์กับอเมริกาและกับเป้าหมายทางจักรวรรดินิยมใหม่ของอเมริกาเพื่อที่จะรักษาความเป็นใหญ่ของอเมริกาเหนือเอเชียไปอีกหนึ่งศตวรรษ คือบทบาทที่ ทักษิณ ชินวัตร ถูกเตรียมมาเป็นเวลากว่าทศวรรษที่จะทำให้สำเร็จ และด้วยเหตุนี้เองที่เงิน เวลา และความพยายามจำนวนมหาศาลได้ถูกทุ่มเทลงไปในการจัดตั้งเขาขึ้นมา และในขณะเดียวกันก็ทำลายสถาบันต่าง ๆ ที่มีอยู่เดิมในประเทศไทยด้วย

4. ใครคือผู้ที่ประท้วงรัฐบาลปัจจุบัน?

ไม่ต้องเป็นที่สงสัยเลยว่าพรรคการเมืองฝ่ายค้านต่าง ๆ จะได้ประโยชน์จากการชุมนุมประท้วงและดังนั้นจึงมีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วมในการชุมนุมไม่มากก็น้อย นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจของไทย กลุ่มสื่อมวลขนไทย และ ทหารก็ยอมรับการประท้วงในขณะนี้อย่างน้อยก็โดยนัยลึก ๆ คนจำนวนมากที่เป็นเสียงส่วนใหญ่ที่เคยเงียบนั้นต่อต้านการชุมนุมก่อความไม่สงบในท้องถนนไม่ว่าจะเป็นจากฝ่ายของทักษิณและผู้สนับสนุนทางตะวันตกของเขา หรือจากฝ่ายตรงข้ามของทักษิณ และก็ไม่ได้สนับสนุนพรรคการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่พวกเขาก็รู้สึกว่าทักษิณและความไม่มั่นคงอีกทั้งความแตกแยกอย่างรุนแรงที่ทักษิณสร้างขึ้นมานั้นเป็นสิ่งที่รับไม่ได้

v10.jpg

บรรยายภาพ: วันที่ 28 ตุลาคม 2555 มีการรวมตัวกันครั้งแรกโดยกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลในสนามกีฬาเพื่อเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทยลาออกจากอำนาจ ถึงแม้ว่าการชุมนุมประท้วงนี้จะใช้แนวคิดแบบ “สปริง” ที่ได้ผลในช่วงปี 2011-2012 แต่การประท้วงกลับไม่ได้รับการรายงานในสื่อต่างชาติ เพราะว่านี่เป็นการประท้วงที่ต้องการขับไล่รัฐบาลที่โลกตะวันตกหนุนหลัง ไม่ใช่การขับไล่เพื่อตั้งรัฐบาลที่โลกตะวันตกหนุนหลัง

เหล่าพลพรรคของการชุมนุมประท้วงนั้นอาจมีทั้งผู้สนับสนุนของพรรคการเมืองฝ่ายค้าน กลุ่มคนที่สนับสนุนเจ้าพ่อสื่ออย่างสนธิ ลิ้มทองกุล แห่ง พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (PAD) และยังมีอีกหลายกลุ่มจากกลุ่มเสียงส่วนใหญ่ที่เคยเงียบมาก่อน ซึ่งรวมทั้งคนทำงานระดับกลางและระดับล่าง ผู้ต้องการเห็นอิทธิพลของทักษิณที่กัดกร่อนสังคมไทยจบสิ้นลงอย่างสิ้นเชิง

การชุมนุมประท้วงที่คล้ายกันในปี 2550 ได้รับการริเริ่มขึ้นมาโดยกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยของสนธิ แต่ต่อมาได้มีสหภาพแรงงานต่าง ๆ เข้ามาร่วมและได้ร่วมมือกันปิดสนามบินต่าง ๆ ของประเทศไทยในการกระทำที่แสดงถึงการไม่ยินยอมต่อรัฐบาลหุ่นเชิดของทักษิณ และในที่สุดก็สามารถโค่นล้มรัฐบาลดังกล่าวลงได้

ในขณะที่มักเป็นที่อ้างกันว่ามีการแบ่งแยกอย่างชัดเจนระหว่างชนชั้นกลางและชนชั้นล่างในประเทศไทย และการอ้างว่าชนชั้นล่างสนับสนุนทักษิณ ชินวัตรและนโยบายประชานิยมของเขาอย่างเต็มที่ ในความเป็นจริงแล้วพรรคของเขาชนะการเลือกตั้งในปี 2554 ด้วยคะแนนเสียงเพียง 32% ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด และไม่สามารถแม้แต่จะได้คะแนนนิยมเสียงส่วนใหญ่ของผู้ที่ไปออกเสียงเลือกตั้ง และทั้งหมดนี้เกิดขึ้นถึงแม้ว่าพรรคของทักษิณจะให้สัญญาตอนหาเสียงอย่างวิเศษเลิศหรู มีการซื้อเสียงกันให้พล่าน และถึงแม้ว่าจะมีการจัดรถรับส่งในวันเลือกตั้งให้โดยกลไกทางการเมืองอันกว้างขวางของพรรคเพื่อไทยด้วย

ในที่สุดแล้ว บรรดาชาวไทยทั้งหลายที่ออกมาประท้วงทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นหุ่นเชิดของวอลล์ สตรีท นั้น ไม่ได้ออกมาประท้วงเขาเพราะว่าพวกเขายอมรับอีกฝ่ายหนึ่ง ในทางตรงกันข้าม ใครก็ตามที่มาแทนที่ทักษิณก็จะต้องเจอพลังที่ไม่สามารถต้านทานได้อย่างนี้เช่นกันจากประเทศชาติและประชาชนอย่างที่ทักษิณได้เจอ เมื่อทักษิณและกลไกทางการเมืองอันเปรียบได้กับมะเร็งร้ายที่เขาได้สร้างขึ้นด้วยเงินและความเชี่ยวชาญจากตะวันตกได้ถูกกำจัดตัดออกไปจากภูมิทัศน์ทางการเมืองของประเทศไทยแล้ว

จะต้องมีกลไกอะไรที่ใหม่เอี่ยมที่ต้องถูกสร้างขึ้นมาแทนที่ถ้าเมืองไทยต้องการจะมีความก้าวหน้าต่อไป

สิ่งที่เป็นที่น่ายินดีก็คือ เสียงเงียบส่วนใหญ่ได้เข้าใจความจำเป็นนี้แล้วและกำลังพยายามเดินหน้าสู่ทางเลือกต่าง ๆ ที่หลากหลายและนำไปปฏิบัติได้จริง

และที่น่ายินดียิ่งไปกว่านั้นก็คือคนจำนวนมากจากทั้งสองฝ่ายของการทะเลาะเบาะแว้งนี้ต่างก็เริ่มเข้าใจในสิ่งนี้แล้วด้วยเช่นกัน

-----

สำหรับหรับบทความอื่น ๆ เกี่ยวกับประเทศไทย กรุณาไปที่ AltThaiNews.blogspot.com. และคุณสามารถติดตาม AltThaiNews ได้บน Twitter สำหรับอัพเดทล่าสุดเกี่ยวกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ @AltThaiNews.

***หมายเหตุ*** ผู้แต่งบทความและเจ้าของบล็อก Land Destroyer และ AltThaiNews คือ Anthony Cartalucci เป็นสื่ออิสระที่มาทำข่าวในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2554

อ้างอิงจาก

------

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...