ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 24, 2014 ภาพพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว "การงานทุกอย่างทุกอาชีพ ย่อมจะมีจรรยาบรณของตนเอง จรรยาบรรณนั้น จะบัญญัติเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่ก็ตามแต่ ก็เป็นสิ่งที่ยึดถือกันว่าเป็นความดีงาม ที่คนในอาชีพนั้นพึงประพฤติปฏิบัติ" -พระบรมราโชวาท และ พระราชดำรัสของในหลวง- ภูผา นักเดินทาง / 3 มกราคม 2557 ขอขอบคุณภาพพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จาก คุณ ฐิตา 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 24, 2014 วันที่ 24 มิ.ย.57 อัศจรรย์..สามเส้าค้ำยันที่ทำให้ชนชาติไทยรอดจากแตกเป็นเสี่ยง (ตอนที่ 1) สถาบันหลักที่สำคัญต่อการเมือง การปกครองของไทย ชาติ- ศาสนา-พระมหากษัตริย์ สามเสาค้ำยันที่ทำให้ชนเผ่าไทยยืนหยัดฝ่ามรสุมการรุกรานจากชนชาติอื่นมานับครั้งไม่ถ้วน บางครั้งก็ถูกรุกรานอย่างหนักจนเมืองศูนย์กลางอาณาจักร เช่น กรุงอโยธยาเสียแก่พม่าถึงสองครั้ง แต่เพียงชั่วระยะหนึ่งสามเสาคำยันเดิม ก็ผงาดกลับมากู้เอกราชหนุนชนเผ่าไทยให้เป็นปึกแผ่นแข็งแกร่งมากกว่าเดิมทุกครั้ง บางครั้งเช่นในสมัยรัตนโกสินทร์รัชกาลที่ 4-5 ชนเผ่าไทยก็โดนรุกรานขามขู่อย่างหนักจากประเทศตะวันตกที่มาล่าอาณานิคม แต่ไทยก็รอดมาได้อีกหลายครั้ง โดยจำต้องยอมเฉือนดินแดนบางส่วนน้อย แลกกับการรักษาดินแดนและความปลอดภัยของประชากรส่วนใหญ่ไว้ นี่คือหลักฐานว่าชาติตะวันตก เอาเปรียบกดขี่ชนชาติไทยมานานแล้ว อีกตัวอย่างของ การแย่งและช่วงชิงอำนาจความเป็นใหญ่คนในชาติ คือ ในช่วงปลายราชวงศ์ฮั่น จนทำให้ประเทศจีนในสมัยก่อนแตกแยกออกเป็นสามอาณาจักร หรือที่เรียกขานกันว่าสามก๊ก ได้แก่ฝ่ายจ๊กก๊กของเล่าปี่ วุยก๊กของโจผี และง่อก๊กของซุนกวน จนต่อมาต้องสู้รบกันเองต่ออีกราว 60 ปี คนจีนตายมากมายนับไม่ถ้วนจากสงคราม แม้ว่าไทยเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครองเมื่อปี 2475 เป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นพระมุข โดยวางรูปแบบอำนาจเป็นสามส่วน คือ นิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ เพื่อถ่วงดุลกัน แต่ระบอบดังกล่าว ก็บิดเบี้ยวเรื่อยมา เพราะสาเหตุหลักๆ ระยะแรกเกิดจาก ฝ่ายบริหารใช้อำนาจมากเกินขอบเขตรังแกประชาชน พอระยะถัดมาทุนนิยมเข้ามาแทรก ก็เกิดการซื้อควบรวมกิจการฝ่ายนิติบัญญัติ และ บริหารเข้าด้วยกัน มีนักแสวงโชคทางการเมืองขึ้นมากมาย โกงกันระห่ำสะบั้น หั่นแหลก จนระบบการปกครองเลยกลายเป็น " ประชาธิปไตยที่พิการ" ไปจนถึงบัดนี้ แต่เสาค้ำยัน ชาติ- ศาสนา-พระมหากษัตริย์ ก็ยังคงเป็นเสาค้ำยันที่แข็งแกร่งอย่างมั่นคง ชาติมหาอำนาจล่าอาณานิคมยุคใหม่ เช่น อเมริกา ยุโรป และผองเพื่อน จึงต้องวางแผนเลื่อยสองเสาแรกคือ พระมหากษัตริย์ และศาสนา ที่ค้ำยันเผ่าไทย ให้เหลือเสาค้ำน้อยที่สุด เพื่อจะล้มชาติไทยที่เป็นเสาต้นสุดท้ายให้จงได้ ถ้าสามเสาค้ำยันอยู่ครบแข็งแรง ต่างชาติจะเข้ามาทำอันตรายชนเผ่าไทยไม่ได้แบบเบ็ดเสร็จ จึงเกิดขบวนการบ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูงขึ้นในไทย โดยการหนุนทุนอย่างลับๆ จากอเมริกา เช่น จากกองทุน USAID และอีกหลายกองทุน ที่แท้จริงคือทุนของ CIA ของรัฐบาลอเมริกาอีกที นั่นเพราะชาติมหาอำนาจต้องการให้เหลือเสาค้ำประชาชนไทยเพียงสองขา คือ ชาติ - ศาสนาที่อ่อนแอ และเขาได้ทำการบ่อนทำลายศาสนาควบคู่ไปด้วย โดยหนุนทุนให้กับโจรแบ่งแยกดินแดนชายแดนใต้โดยอ้างคำสอนศาสนาอิสลามที่ผิดหลักการไป และยังหนุนให้พระภิกษุในศาสนาพุทธ มัวเมาในวัตถุ และสร้างคำสอนแปลกๆ ออกมา จะสังเกตุว่ามีการสร้างนิกายจานบิน และมีพระในศาสนาพุทธหลายคนที่ต้องออกจากประเทศไทย และไปอยู่อเมริกา เช่น ยันตระ เณรคำ ฯลฯ และได้รับการคุ้มครองอย่างดี ดังนั้นเสาหลักสองเสาของไทยช่วงหลังๆ มาจึงโดนบั่นทอนอย่างหนักสอดประสานรับกันอย่างเป็นขบวนการ เป็นขั้นเป็นตอน ล้วนแต่มีการชี้นำและกำหนดแผนโดยต่างชาติทั้งสิ้น ช่วงนี้อเมริกาก็แทรกแซกไทย โดยอ้างแถๆ รายงานประจำปีว่าไทยมีการค้ามนุษย์มากขึ้น แต่สิ่งที่อเมริกาไม่บอกคนไทยและทั่วโลกให้หมด คือ ผลการวิเคราะห์สถานการณ์นี้เกิดขึ้นในสมัยปูเน่าเป็นรัฐบาลโน่น ไม่ใช่ยุค คสช. และผู้ร่วมเขียนรายงานนี้ หาใช่คนอื่นไกล ก็นักวิชากำกวมในมหาลัยเก่าแก่นั่นเอง พวกนี้แอบไปรับเงินอเมริกามา แล้วก็บินไปร่วมเขียนรายงานงานกับกองทุนลับต่างๆ ของอเมริกาที่ CIA หนุนอยู่ ใช้คนไทยมาทำลายชาติไทย โดยอ้างการค้ามนุษย์ เช่น ใช้แรงงาน และขายบริการทางเพศต่างชาติในไทยว่างั้นเถอะ และเป็นข้ออ้างจะตัดสิทธิพิเศษสินค้าไทยที่จะส่งไปขายอเมริกา เช่น กำแพงภาษี ทำให้สินค้าไทยแพงกว่าชาติอื่น เสียเปรียบการแข่งขันประเทศอื่น ส่วนสหภาพยุโรป ก็รับลูกอเมริกา เหมือนปี่กับกลองทันที โดยจะงดความช่วยเหลือไทยบางอย่าง จนกว่าไทยจะเลือกตั้ง แต่ยุโรปเอง ก็ กลับให้ความช่วยเหลือด้านอาวุธกับกลุ่มก่อร้ายในซีเรีย อิรัก ยูเครน อย่างเป็นล่ำเป็นสัน ให้คนในชาติเขาฆ่ากันเอง ประเทศพวกนี้มันมาวุ่นวายอะไรกับไทยนักหนา ส.ส.ในสภาไทยมันก็ไม่มี มันก็แค่อยากให้บริษัทการเมืองที่มันควบคุมหันซ้ายขวาได้ ซื้อเสียงเข้ามา ได้ ส.ส.มากๆ แล้วมันก็จะกดรีโมท สั่ง ส.ส.พวกนั้น ออกกฎหมาย และให้รัฐบาลหุ่นเชิดอนุมัติ ให้เอาทรัพยากรประเทศไทย ไปให้มันซะดีๆ ก็เหมือนยูเครน อิรัก ตอนนี้นั่นเอง มันกดรีโมทมาจากต่างชาติ ยึดประเทศไทยผ่าน ส.ส.และรัฐบาลหุ่นเชิดกันง่ายๆ แบบนี้แหละ โดยมีคนไทยเองที่เป็นนักแสวงโชคทางการเมืองเป็นหนอนบ่อนใส้ โลภโมโทสัน ยอมแลกประเทศไทย กับเงินมาเข้ากระเป๋าตนเอง ตัวอย่างอีกรูปธรรม ของการบ่อนทำลายชาติโดยการหนุนจากต่างชาติ คือ มือปืน 10 ล้านกระบอก และเจ๊เพ็ญ ประกาศตั้ง องค์กรเสรีไทย บ้าๆ บอๆ มีที่ตั้งองค์กรในยุโรป โดยถือฤกษ์เอาวันที่ 24 มิ.ย.2557 เป็นสัญลักษณ์ คือ คิดจะทำร้ายสถาบันเบื้องสูงเหมือน 24 มิ.ย.2475 ว่างั้นเถอะ โถ.. มือปืน 10 ล้านกระบอก เพิ่งถูกจับได้ทำลายป่าต้นน้ำในรีสอร์ทลูกชาย หลักฐานเป็นไม่ซุง ไม้แปรรูปเพียบ ต้องเอารถขนของกลางออกมายึดไว้หลายสิบเที่ยว ย จะมาเป็นหัวหน้าองค์กรเสรีไทย เสรีตัดไม้ทำลายป่าทรัพยากรธรรมชาติซิไม่ว่า ส่วนเจ๊เพ็ญก็แกนนำล้มเจ้าตัวเอ้ ยังมีหน้ามาก่อตั้งองค์กรเสรีไทย ไปก่อตั้งองค์กรเสรีทางเพศ ระเบิดถังส้วมน่าจะรุ่งกว่าเยอะ มาดูตัวอย่างประเทศที่ไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ตอนนี้ เหลือแค่สองเสาค้ำประชาชน คือ ศาสนา กับ ชาติ ว่ามีชะตากรรมอย่างไร เมื่อมหาอำนาจต่างชาติแทรกแซงการเมืองภายใน อิรัก คือตัวอย่างที่ดีที่สุดตอนนี้ เมื่อก่อนคนอิรักร่ำรวย รัฐสวัสดิการเกือบทุกอย่าง สุขสบาย มีคนใช้เป็นคนไทย พอเกิดสงครามจากอเมริกาแทรกแซงประเทศ คนอิรักตอนนี้ลำบาก ผู้หญิงถูกข่มขืน เด็กถูกฆ่า จากอีกพวก อีกนิกาย บ้านช่องพินาศหมด อดอยากอาหาร กินไม่ได้กิน นอนไม่ได้นอน หอบผ้าหนีตายกระเซอะกระเซิงกันหลายล้านคน ชีวิตไม่รู้ตายวัน ตายพรุ่ง ทุกข์ทรมาณยิ่งกว่าตกนรกทั้งเป็นอีก กลุ่มติดอาวุธซึ่งนำโดยกลุ่มรัฐอิสลามแห่งอิรักและเลแวนต์ หรือ ไอซิล ที่ได้รับการฝึกอาวุธ โดยอเมริกา ในดินแดนของซีเรีย กลุ่มนี้เป็นอิสลามนิกายสุหนีย์ ได้ทั้งอาวุธใหม่เอี่ยม รถถัง อาหาร และเงินทองอู่ฟู่จากอเมริกา แล้วก็มาโจมตีรัฐบาลอิรักนิกายชีอะห์ ที่อเมริกาก็หนุนหลังอีกนั่นแหละ เรียกว่าอเมริกา ยุโรป หนุนให้นิกายสุหนีย์ กับ ชีอะห์ ในอิรักให้ฆ่ากันเองว่างั้นเถอะ เอ็งสู้กันเข้าไป แล้วมาซื้ออาวุธจากข้า และใครได้ดินแดนไม่ว่าตรงไหนก็เอาบ่อน้ำมันของเองมา เมื่อศาสนาแตกเป็น 2 เสี่ยง ตอนนี้ ชนชาติอิรักจึงแตกออกมากกว่า 3 เสี่ยง แบ่งดินแดนยึดครองกันกลุ่มเล็กกลุ่มย่อย สู้รบกันมั่วไปหมด ฝ่ายไหนจับฝ่ายไหนได้ ก็เอาเข็นใส่รถมากองรวมๆ กัน แล้วก็สาดกระหน่ำกระสุนยิงทิ้งข้างถนนเหมือนไม่ใช่มนุษย์ แล้วเอารถไถกลบศพไปเลย ตอนนี้กลุ่มก่อติดอาวุธไอซิลสามารถยึดเมืองราวาและเมืองอานาได้สำเร็จ พร้อมกับสังหารผู้นำท้องถิ่นของทั้งสองเมืองรวม 21 คน หลังจากสามารถยึดด่านข้ามพรมแดนอัล-กาอิม เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้ด่านข้ามพรมแดนติดกับซีเรียที่อยู่ภายใต้การควบคุมของทางการอิรักเหลืออยู่เพียง 1 แห่ง จากทั้งหมด 3 แห่ง โดยด่านข้ามพรมแดนแห่งที่ 3 อยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังชาวเคิร์ด และกลุ่มไอซิลก็จัดตั้งรัฐซ้อนรัฐ ขีดกำหนดเขตปกครองตนเอง เอาดื้อๆ แล้วใช้กฎหมายอิสลามสุดโต่งคล้ายแนวคิดกลุ่มตอลีบัน มาปกครองประชาชนในดินแดนที่ตนยึดครองมาได้ ยิง ฆ่า เผา กันแบบเมามัน ความสยดสยองบนท้องถนนของอิรัก กลายเป็นทุ่งสังหาร กราดยิงเข่นฆ่าชาวอิรักอย่างไร้ความปรานี อเมริกา และยุโรป โวยวายว่าไทย "ค้ามนุษย์" แต่พวกเขานั่นแหละเป็นตัวการ " ฆ่ามนุษย์ " อย่างไหนมันเป็นมหันตภัยร้ายแรง และละเมิดสิทธิต่อมนุษยชาติด้วยกันๆ แน่ ค้ามนุษย์ก็ยังไม่ตาย แต่ฆ่ามนุษย์นี่ ถึงขั้นตายและสูญเผ่าพันธุ์เลยทีเดียว อเมริกาฆ่าคนอิรักคราวก่อสงครามปี 46-54 ไปแล้วเกิน 500,000 คน จะต้องฆ่าคนอิรักที่เป็น เด็ก ผู้หญิง คนชรา คนอ่อนแอ อีกสักกี่ล้านคน จึงจะพอใจ หรือว่า ในสายตาของรัฐบาลอเมริกา และยุโรป คนอิรักพวกนี้เขาไม่ใช่มนุษย์ จึงไม่ออกรายงานประจำปีการ "ฆ่ามนุษย์" มาเปิดเผยให้ชาวโลกได้ช็อคบ้าง สามเสาค้ำยันที่เข้มแข็งของชนเผ่าไทย ชาติ- ศาสนา-พระมหากษัตริย์ เท่านั้น ประเทศเราถึงจะรอดพ้นจากการ "ฆ่ามนุษย์" ของอเมริกา และ ยุโรป คนไทยต้องต่อต้านต่างชาติที่รังแกเราสุดกำลัง เป็นทหารเอกพระราชาพญาผึ้ง บอยคอตสินค้าประเทศพวกนี้สุดฤทธิ์ , ทำเอกสาร และอีเมล์ถล่มร้องเรียนพฤติกรรมรัฐบาลพวกนี้ ต่อองค์กรที่ต่อต้านรัฐบาลนั้นๆ เอง , กดดันหอการค้า ภาคธุรกิจ ภาคการศึกษา ประเทศนั้น ทุกรัฐ ให้ไปกดดันรัฐบาลกลางเขาเองอีกต่อ และอย่าไปสนใจใยดี สิ่งที่ประเทศบงการ "ฆ่ามนุษย์" พวกนี้ แถลงหรือออกรายงานใดๆ เพื่อกดดันประเทศไทย เพราะนี่คือเป็นเรื่องภายในประเทศที่คนไทยเขาจะจัดการปฏิรูปประเทศกันเอง ตอนนี้โพลระบุคนไทยพอใจการทำงานของ คสช.เกิน 90%..ดังนั้นต่างชาติอย่าเข้ามาจุ้น !! ดั่งพระราชนิพนธ์เตือนใจของล้นเกล้า รัชกาลที่ 6 ที่ว่า "ใครมาเป็นเจ้าเข้าครอง คงจะต้องบังคับขับไส เคี่ยวเข็ญเย็นค่ำกรำไป ตามวิสัยเชิงเช่น ผู้เป็นนาย เขาจะเห็นแก่หน้าค่าชื่อ จะนับถือพงศ์พันธุ์นั้นอย่าหมาย ไหนจะต้องเหนื่อยยากลำบากกาย ไหนจะอายทั่วทั้งโลกา " @ เสธ น้ำเงิน4 https://www.facebook.com/topsecretthai หมายเหตุ โปรดงดโพสลิ้งใดๆ ทุกชนิด / บทความจากแหล่งอื่นที่ทำให้เกิดความสับสนในเนื้อหากับผู้อ่าน / ออกความเห็นในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในบทความตอนนี้ / โพสภาพที่เกิดความแตกแยก / ให้ร้าย คสช./ นำข่าวลือจากที่อื่นมาโพส ฯลฯ ผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกพิจารณาบล็อคเข้าเพจนี้ 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 24, 2014 การค้ามนุษย์ที่ใช้เงินที่ฉ้อโกงจากเงินแผ่นดิน ซื้อคนเพื่อเนรคุณแผ่นดิน อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 24, 2014 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 24, 2014 Sasaki Anchalee อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 24, 2014 <<<< ชมคลิป อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 24, 2014 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 24, 2014 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 24, 2014 เราต้องเป็นผู้เล่น ....ไม่ใช่หมากในกระดาน ตอนที่ ๘ “ รบในสนามที่ควรรบ ” (๒๓/๖/๕๗) ...หลังจากบทความชุด “ระบอบทักษิณ...ยังไงก็แพ้” เพิ่งอวสานไป ...วันนี้ หมื่นทิวาฯ ขอต่องานที่ค้างอยู่ ให้เสร็จซึ่งก็น่าจะใกล้จบบริบูรณ์แล้ว เช่นกัน คือ บทความชุด...“เราต้องเป็นผู้เล่น ....ไม่ใช่หมากในกระดาน”.. ที่ท่านกำลังอ่านอยู่ตอนนี้ ...เคยมีคำสอนของนักปราชญ์ กล่าวไว้ ในตำราสามก๊ก ว่า… “ ถ้าคิดว่า ข้าศึกมีทางเลือกแค่สองทาง จงมั่นใจได้เลยว่า..เขาจะเลือกทางที่สาม!! ”..และ..เมื่อใดที่ท่านคิดว่า “ข้าศึกโง่”....เมื่อนั้น “ท่านโง่กว่า”!!!…สองประโยคดังกล่าว...ใช้เตือนสติ บรรดาแม่ทัพนายกอง ว่า อย่าได้ประมาทข้าศึก… ....ทีนี้ เรามาดูสถานการณ์ปัจจุบัน ในบ้านเมืองเรากันบ้าง ...ยิ่งนานวันยิ่ง “ทึ่ง” ในตัว ท่านผู้นำ แห่ง คสช. ... ไม่รู้เหมือนกันว่า “ลุงตู่” อ่านพิชัยสงคราม หรือ ตำรา “สามก๊ก” มากี่รอบ... ...ขอย้อนความไปสมัยรัฐบาลทรราช... “ลุงตู่” ก็ใช้กลศึก ที่เรียกว่า ...“แสร้งทำบอแต่ไม่บ้า”... (เจี่ยชือปู้เตียน) ยอมให้คนด่าทั่วบ้านทั่วเมือง..แต่ก็ทำให้รัฐบาลทรราชตายใจ!!...ขณะเดียวกัน ก็ใช้กลศึก...“ลักขื่อเปลี่ยนเสา”... (โทวเหลียงห้วนจวู้) สับเปลี่ยนกำลังพล ไปประจำตรงนั้น ย้ายมาตรงนี้..จากทหารมือเปล่า ที่รักษาความปลอดภัยตามท้องถนน มาเป็น “กองกำลัง” รักษาความสงบ พร้อมอาวุธครบมือ ตามกฎอัยการศึก...ในที่สุด ก็ “ปิดเกม” ด้วยกลศึกที่มีชื่อว่า...“เปลี่ยนจากแขกเป็นเจ้าบ้าน”...(ฝ่านเค่อเหวยจวู่) อย่างที่เห็นอยู่ในทุกวันนี้...เนียนเชียวนะลุง!!! …แต่ที่บอกว่า วันนี้เป็นอีกวัน ที่รู้สึก “ทึ่ง” ในตัว “ลุงตู่” ท่านนี้ ก็เพราะว่า ได้เห็น “กึ๋น” ของลุงที่จะ ต่อกรและส่งสัญญาณเตือน “อเมริกา” โดยที่ไม่ต้องเอ่ยชื่อ “อเมริกา”แม้แต่คำเดียว!!! ...ชนิดที่เรียกว่า..ไม่ต้องทุบ ไม่ต้องตี ...แต่ “แสบ..จี๊ด” ถึงทรวง!! ...ที่ผ่านมา “ลุงตู่” ไม่เคยตอบโต้ หรือกล่าวถึง อเมริกาแบบจริงๆจังๆเลย ... นิ่งเฉยมาตลอด แต่การ “นิ่งเฉย” นี่แหละ...เป็นการ “เถียง” ที่ กวนประสาทที่สุด...จน “อเมริกา” และเหล่าบริวาร ดิ้นพล่านหัวเสียหงุดหงิด ...ล่าสุด มีข่าวว่า จะกดดันทางเศรษฐกิจกับ ประเทศไทย!!!! ... ซึ่งเชื่อว่า “นักยุทธศาสตร์” หลายๆท่าน คงนึกขำอยู่ในใจ...เผลอๆ จะท้าเลยว่า...แน่จริงก็เอาสิ...กลัวซะที่ไหน!!! ...แน่นอนว่า อยู่ๆ การที่ อเมริกา หรือ ต่างชาติ จะยกกองกำลังทหารเข้ามาในประเทศ ไทยนั้น .... เหตุผลและความชอบธรรมยังไม่เพียงพอ...คนทั่วโลกเค้าจะ “ด่าแม่” เอา ...อเมริกาเองก็รู้ดี ว่า การกดดันประเทศไทยผ่าน “การทหาร” เพื่อช่วยเหลือให้ระบอบทักษิณ (Thaksinomics System) ฟื้นคืนชีพกลับมานั้น คงทำอะไรประเทศไทยไม่ได้ …ดังนั้น...สมรภูมิเดียว ที่“อเมริกา” ทึกทักเอาเองว่า ยังมีอำนาจเหนือประเทศไทยอยู่..ก็คือ ....“สมรภูมิทางเศรษฐกิจ”...แต่ “แกล้งทำลืม”ไปว่า... มหามิตรของไทยตอนนี้ มีทั้ง จีน อินเดีย รัสเซีย และประเทศในกลุ่มอาเซี่ยน...โดยเฉพาะ..“จีน”...ซึ่งเป็นมิตรร่วมทุกข์ ร่วมสุข กับ ประเทศไทย มาตั้งแต่ “ก่อน” กรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี...ซึ่งเวลานั้นประเทศ อเมริกา ยังไม่.. “ปฏิสนธิ”.... บนแผนที่โลกด้วยซ้ำ...(อเมริกา ประกาศเอกราช วันที่ ๔ กรกฎาคม ค.ศ. ๑๗๗๖ ตรงกับ พ.ศ. ๒๓๑๙ ส่วนประเทศไทย สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ หรือ พระเจ้าอู่ทอง ทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีเมื่อ พ.ศ. ๑๘๙๓ ) ...แต่มาวันนี้(๒๓ มิ.ย.๕๗)... “ลุงตู่” ของเรา ก็ยังคงไม่พูดอะไรถึง “อเมริกา” อีกเหมือนเดิม..แต่กลับมีการกระทำบางอย่าง...ที่ทำให้ “อเมริกา”และ “EU” จะต้องลังเล หากจะทำ สงครามเศรษฐกิจ หรือกดดันประเทศไทยทางเศรษฐกิจ ... นั่นก็คือ การที่ “ลุงตู่”แต่งตั้งให้ ...พลเอกธนะศักดิ์ฯ เป็นประธาน ในการเตรียมไทยเข้าสู่ AEC. (Asean Economics Community) อย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม ...ลำพังแค่การแต่งตั้ง พลเอกธนะศักดิ์ฯ นั้น คงไม่ค่อยเท่าไหร่...แต่ที่ทำให้ “อเมริกา” และ “EU” ต้องลังเล ก็คือ คำว่า “AEC.” นี่แหละ เพราะ กลุ่มประเทศ AEC. กว่า ๑๐ ประเทศ มีประชากรรวมกันกว่า ๖ ถึง ๗ ร้อยล้านคน คิดเป็นกำลังซื้อและทรัพยากรที่มีอยู่อย่างมหาศาล... ....ดังนั้น ถ้าคิดเล่นๆ ว่า หากมี สงครามเศรษฐกิจ หรือ การกดดันทางเศรษฐกิจ เกิดขึ้นจริงๆ ก็ ต้องถาม ว่า ...(๑) “อเมริกา” และ “EU” ใจถึงพอมั๊ย โดยเฉพาะ ดุลอำนาจของ “อเมริกา”ในภูมิภาค อาเซี่ยนจะเปลี่ยนไป ในขณะที่ จีน รัสเซีย และอินเดียกำลังเอาอกเอาใจ กลุ่มประเทศอาเซี่ยนอยู่ในขณะนี้ ...(๒) กลุ่มประเทศAEC. ทั้ง ๑๐ ประเทศ รวมทั้งมิตรประเทศ อย่าง จีน รัสเซีย และอินเดีย ไม่เล่นด้วยกับ“อเมริกา” และ “EU” อย่างแน่นอน....เท่ากับว่า ช่องทางการไหลเข้าออก ของสินค้า การเงิน และทรัพยากร มายังประเทศไทย หรือออกจากประเทศไทย ก็ยังมีอีก หลายช่องทางผ่านมิตรประเทศเหล่านี้...ดังนั้น การกดดันทางเศรษฐกิจแทบจะไม่มีผลอะไรกับประเทศไทยเลย ...เพราะฉะนั้น..วันนี้แค่ “ลุงตู่” พูดคำว่า “AEC ” ออกมา นางอิจฉา อย่าง “อเมริกา” และ “EU” ถึงกับต้องทบทวนกันอีกหลายๆรอบว่า..สนามรบทางเศรษฐกิจ สนามนี้ เป็น สมรภูมิ ที่ควรรบกับประเทศไทย หรือไม่... “นักธุรกิจ และนักลงทุน” ฝ่ายไหนกันแน่จะเดือดร้อน !!!... @หมื่นทิวา พันราตรี อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 24, 2014 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 24, 2014 ระบอบทักษิณ..ยังไงก็แพ้ ตอนที่ ๗ (ตอนอวสาน)... “เดินให้ทันผู้นำว่ายากแล้ว...คิดให้ทันผู้นำนั้นยากกว่า”(๒๑ /มิ.ย./๕๗) …ในที่สุด...ก็มาถึงตอนอวสาน..ของบทความเรื่อง “ระบอบทักษิณ..ยังไงก็แพ้”...ซึ่งก็ใกล้จบภารกิจของหมื่นทิวาฯ แล้วเช่นกัน โดยบทความนี้จะมาเฉลยกันว่า... “คู่ชกที่แท้จริง”..ของ “ระบบทักษิณ”เป็นใคร..แล้วเราจะแอบนินทา “ลุงตู่” (เบาๆ) ว่า...ตอนนี้ลุงทำอะไรอยู่...พวกเราจะมีส่วนช่วยงาน “ลุงตู่”..ได้อย่างไร ..มีผู้อาวุโสหลายท่าน ได้กล่าวไว้ว่า การคอร์รัปชั่น ระบบทุนนิยม ประชานิยม และการใช้ระบบอุปถัมภ์ในการบริหารกิจการบ้านเมือง ตลอดจน การบริหารผลประโยชน์ บนความขัดแย้งของคนในชาติ..ล้วนเป็น “ส่วนหนึ่ง” ของระบอบทักษิณ(Thaksinomics System) ทั้งสิ้น... … แต่ในบทความนี้ จะขอ Focus มาที่... “การบริหารผลประโยชน์ บนความขัดแย้งของคนในชาติ” ซึ่ง ไม่มียุคใดสมัยใดที่คนในชาติ จะมีความแตกแยก เกลียดชังกันเอง มากขนาดนี้...คนที่มีความคิดเห็นแตกต่าง อาจถูกมองว่าเป็น “ศัตรู” ชนิดที่จะอยู่ร่วมกันไม่ได้เลย!!! ….แม้ว่าจะประสบความสำเร็จใน“การบริหารผลประโยชน์บนความขัดแย้งของคนในชาติ”...แต่“ระบอบทักษิณ”...ก็ทำพลาด โดย “มองข้าม” บางเรื่อง บางประเด็นจนกลายเป็นจุดหายนะของ “ระบอบทักษิณฯ” ในที่สุด..ซึ่งในทางกลับกัน..พวกเราก็ต้องนำมาเป็นกรณีศึกษา และ นำมาเป็นบทเรียน...เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหานี้เกิดซ้ำขึ้นอีก ...หากมองย้อนไป...นับตั้งแต่การต่อสู้ของมวลมหาประชาชน...เริ่มตั้งแต่...กองทัพธรรม...คปท..จนถึง กปปส...แม้ว่าทุกวันนี้...กลุ่มพลังมวลชนเหล่านี้ จะได้ยุติบทบาท เพื่อร่วมปฏิรูปประเทศตามนโยบายของ “คสช.” ก็ตาม...แต่สิ่งที่ กลุ่มพลังมวลชนเหล่านี้ ได้ต่อสู้ในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น แท้จริงแล้ว.... “ไม่ใช่” การต่อสู้กับ “ทักษิณฯ” และ “ไม่ใช่” การต่อสู้กับ.. “กลุ่มคนที่มีความเห็นแตกต่าง”!!! …หากแต่...กลุ่มพลังมวลชนได้ต่อสู้กับ การปลุกให้คนไทยได้ “ตื่นรู้” ว่า..“บ้านเมืองของเรากำลังมีปัญหา” และ ปลุก “จิตสำนึกรักชาติ”... นี่ต่างหากคือ “แก่นแท้” ของการต่อสู้ และนอกจากนี้... กลุ่มพลังมวลชน ยังได้นำเสนอ..“เครื่องมือ”..ที่จะใช้ในการแก้ไขปัญหาในครั้งนี้ด้วย...และเครื่องมือที่ว่านั้น ก็คือ..“การร่วมใจกัน..ปฏิรูปประเทศ”!!! …ดังนั้น...คู่ชกที่แท้จริงของ “ระบอบทักษิณฯ”...ก็คือ..(๑) การ “ตื่นรู้” ต่อปัญหาของชาติบ้านเมือง ..(๒) ความรักชาติและความสามัคคี... และ..(๓) การปฏิรูปประเทศ..ทั้งสามสิ่งนี้เป็นคู่ชก ที่ “ระบอบทักษิณฯ” (Thaksinomics System) มองข้ามมาตลอด ...หากนึกดูดีๆ แม้ว่ารัฐบาลชุดที่แล้ว..จะมีทั้งอำนาจรัฐ พลังมวลชน รวมทั้งมีสื่อมวลชนแขนงต่างๆอยู่ในมือ..แต่น้อยครั้งมากที่จะโจมตี ต่อ..“ความสามัคคี” ของพลังมวลชน คงมีเพียงการทำให้เกิดความหวาดกลัว ซึ่งก็ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง....และที่สำคัญ รัฐบาลชุดที่แล้วไม่เคยโต้แย้งว่า..แนวทาง “การปฏิรูปประเทศ”ของมวลมหาประชาชนนั้น ไม่ดีอย่างไร มีผลเสียอย่างไร...ซึ่งตรงกันข้ามกับสิ่งที่มวลมหาประชาชนทำ ก็คือ เร่งปลุกการตื่นรู้..และเร่งให้ความรู้กับประชาชน เกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศ...!! ....สิ่งที่ “ระบอบทักษิณฯ”...ทำในเวลานั้น ก็คือ การทะเลาะกับตุลาการ องค์กรอิสระต่างๆ ทะเลาะกับทุกๆกลุ่มที่มีความเห็นแตกต่างในทางการเมือง..เป็นการ “ผลักมิตรไปเป็นศัตรู”..ซึ่งถือว่าเป็น..“ข้อห้าม” อย่างเด็ดขาด....ของการศึกสงคราม..ไม่ว่าจะในสมรภูมิรบจริง หรือ ในสงครามมวลชน..การพุ่งเป้า โจมตีคนที่เห็นต่าง..สะท้อนให้เห็นถึงการวางยุทธศาสตร์ที่ผิดพลาดและเมื่อกำหนด ยุทธศาสตร์ผิดพลาด...การนำกลยุทธ์มาใช้ในการต่อสู้ .. จึงผิดพลาดด้วย... ….ด้วยเหตุนี้...หมื่นทิวาฯ...จึงได้ยืนยันมาตลอดในทุกๆ บทความ ว่า...ตราบใดที่ระบอบทักษิณฯ..ยังหาคู่ชกไม่เจอ!!!...ยังไงก็แพ้!!! ...ณ วันนี้ ถึงแม้ว่า กลุ่มพลังมวลชนต่างๆ..ได้ยุติบทบาทไปแล้ว... แต่อย่าลืมว่า มรดกทางความคิด...ที่ยังคงอยู่ ก็คือ...แนวคิดและเครื่องมือ..เกี่ยวกับ “การปฏิรูปประเทศ”...!! …ดังนั้น..เมื่อทุกท่านได้รับบทเรียน จากกรณีศึกษา..ของ“การบริหารผลประโยชน์บนความขัดแย้งของคนในชาติ”...และได้รับรู้แล้วว่า...คู่ชก..ที่แท้จริงของ “ระบอบทักษิณฯ”...คือใคร...ลองมาดู “ท่านผู้นำ” ของเรากันบ้างว่า...ตอนนี้ท่านทำอะไรอยู่ .. มาถูกทางหรือไม่... “ชกถูกตัว ถูกประเด็น”...หรือไม่...แล้วพวกเราจะมีส่วนช่วยได้อย่างไร... ...จริงอยู่แม้ว่า.. คสช.... จะได้นำแนวคิด ในการปฏิรูปประเทศ ด้วยความสามัคคีของคนในชาติ มาเป็น “ส่วนหนึ่ง”..ของการขับเคลื่อน “เดินหน้า .. ประเทศไทย” ...แต่นั้นเป็นเพียง.. “ส่วนหนึ่ง” ในอีกหลายๆส่วน...เพราะแท้จริงแล้ว.. “ลุงตู่”..รับฟังหมดทุกแนวคิดนั่นแหละ... ...(๑) แนวคิด เรื่อง การปฏิรูปการเมืองการปกครอง การปฏิรูปพลังงาน ,ระบบราชการ ,เศรษฐกิจ ฯลฯ .. “ลุงตู่”..รับฟังทั้งหมด..ไม่ว่ากลุ่มไหนฝ่ายไหน ซึ่งทุกคน...สามารถเสนอแนวคิดเรื่องการปฏิรูปประเทศได้ ที่ คณะทำงานเตรียมการปฏิรูปฯ http://rfm.mod.go.th/ ...(๒) แนวพระราชดำรัส... เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง...นี่แหละคือ.. “เรือธงและหลักยึด”..ในการแก้ไขปัญหา แม้ว่า คสช. จะมีอำนาจล้นฟ้า.. เรียกได้ว่า..ชี้เป็นชี้ตายได้เลยทีเดียว...ถ้าคิดกันเล่นๆว่า..ราคาน้ำมันแพง...ราคาต้นทุนทางการเกษตรแพง..ถ้าทำแบบ..“ประชานิยม”.. หรือ..สมัย “จอมพลผ้าข้าวม้าแดง”...ก็จะมีมติ ครม. หรือ มีคำสั่งออกมาเลย ว่า ให้ลดราคาเท่านั้น เท่านี้บาท...เอาใจประชาชน เอาคะแนนนิยมไว้ก่อน...แล้วค่อย วิ่งหาเงินจากทางอื่นมาทดแทน..ลูบหน้าปะจมูกกันไป..ซึ่งก็จะไม่ยั่งยืน ...แต่ “ทหารยุคนี้”...เค้าไม่ทำแบบนั้น!!.. เพราะมีหลักว่า.. “อะไรเกิดแต่เหตุ...ก็ต้องดับที่เหตุ” ..เช่น ถ้าโครงสร้างพลังงานมันดูแปลกๆ ทำให้น้ำมันมีราคาแพง ..ก็ต้องแก้ที่โครงสร้าง...หรือ ถ้าชาวนาไม่มีเงินเหลือหลังจากการขายข้าว.. "ยิ่งทำยิ่งจน" ..ก็ต้องไปแก้กันที่ "ต้นทุน" ดูกันที่สาเหตุ..เน้นให้ เกิดความ “ยั่งยืน”.... ไม่ใช่แค่ คนในบ้านอยากได้ปลา...ก็วิ่งหาปลามาให้...นั่นเป็นวิธีคิดง่ายๆ แบบนักการเมือง....แต่ที่ถูกต้อง ก็คือ ต้องหาเครื่องมือ ในการจับปลามาให้..สอนให้จับปลา...อยากอิ่ม อยากกิน “ก็ต้องหาเอง ยืนด้วยตัวเอง ให้ได้”... แบบนี้ถึงจะเรียกว่า...แก้ปัญหาตรงประเด็น...และ..เกิดความยั่งยืน ...(๓) แนวคิดเร่งสร้างความสามัคคีของคนในชาติ ..ไม่ว่าจะโดยผ่านกิจกรรมต่างๆหรือผ่านสภาปรองดอง ..ตอนนี้..“หมดเวลา”ของ “การบริหารผลประโยชน์ บนความขัดแย้งของคนในชาติ”...จะต้องไม่มีการจัดตั้ง..กลุ่มพลังมวลชนมาเป็น “กันชน” ในทางการเมือง...จะต้องไม่นำมวลชนมา “ ไล่ทำร้าย” คนที่มีความเห็นแตกต่างในทางการเมือง...แนวคิดแบบนี้.. “ต้องหมดไป”... ...นั่นคือ แนวคิดในการแก้ไขปัญหาเพียง “บางส่วน” จากหลายๆส่วน....ซึ่งทุกๆเรื่องในเวลานี้..ล้วนเป็นเรื่องละเอียดอ่อนทั้งสิ้น...และต้องใช้เวลาอย่างมาก ในการลงไปแก้ไขให้ถึงต้นตอของปัญหา เพราะต้องมั่นใจได้ว่า...เมื่อแก้ปัญหาแล้ว คนในชาติจะ “มีความสุขในแบบพอเพียง และยั่งยืน”... ดังนั้น พี่น้องหัวใจไทยทั้งหลาย..หากประสงค์จะช่วยงาน “ลุงตู่” ให้ชาติบ้านเมืองกลับมาสงบสุขโดยเร็ว... เราจึงมีภาระอันยิ่งใหญ่ที่จะต้องช่วยกันก็คือ.. ...(๑) ให้ความร่วมมือในทุกๆเรื่อง ของการสร้างความสามัคคี....ส่วนคนที่ทำผิดกฎหมายนั้น..ขอให้มั่นใจได้ว่า..จะต้องได้รับโทษตามกฎหมายอย่างแน่นอน และ หากพ้นโทษแล้ว กลับตัวกลับใจ มาเป็นเพื่อนกันได้ ไม่มีปัญหา… ส่วนพวกเราก็ต้องไม่ไป "ต่อล้อต่อเถียง" ..กับคนที่ “เห็นต่าง”..( แม้ว่าบางทีจะคันปากก็เถอะ..พวกเราเองบางคนก็ไม่เบานะ ร้ายใช่ย่อย )..และหากคุยกันแล้ว ทำท่าว่าจะทะเลาะกัน...ก็ “หยุด” ซะ..แม้อีกฝ่ายจะเยาะเย้ย ว่าเรา ยอมแพ้ หรือ ขี้แพ้..“ก็ช่างเขา” (ทำใจเหมือนจีบสาว..วันนี้ไม่รักไม่เป็นไร..เดี๋ยวซักวันก็รักเองแหละ) โปรดจำไว้ว่า..ยิ่งคนไทยสามัคคีกันมากเท่าไหร่...ผู้ที่ “ไม่หวังดี” ต่อชาติและราชบัลลังก์..ยิ่งอ่อนแอลงมากเท่านั้น..ท่องไว้...จำให้ขึ้นใจ!!! ...(๒) อดทน...“รอ”..และศรัทธาในผู้นำ ...แม้ว่าการหาปลากินเอง มันเหนื่อย... แต่ก็ต้องทำ...อย่าหวังให้คนอื่น วิ่งหาปลามาให้...เราต้องยืนด้วยขาตัวเองให้ได้... แม้การฝึกจับปลา อาจจะ...ยุ่งยาก..ไม่ทันใจ...หรืออาจถูก “ลุงตู่” ดุบ้าง..พูดไม่เข้าหูบ้าง..แต่ก็นะ...ลุงแกเป็นทหาร..จะให้ จ๊ะจ๋า หวานแหว ตลอดคงไม่ไหว...ยิ่งรักมาก..ก็ต้องดุมากหน่อย เรียกว่า “ดุเพื่อชาติ”..(ว่ากันว่า...คนดุเนี่ย “ขี้อาย”...เชื่อสิ) ..วันนี้เบาๆช่วยงาน “ลุงตู่”..แค่สองข้อนี้ก่อน(โดยเฉพาะข้อแรก) พอไหวนะจ๊ะ...@หมื่นทิวา พันราตรี 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 24, 2014 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 24, 2014 2 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
yot111 510 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 24, 2014 หวัดดีคับคุณ ginger เพื่อนๆ 2 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 24, 2014 สวัสดีจร้า yot milo ton789 hong juy ... .. ... .. สงสัยจอดทิ้งนานปายยย อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
