ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤศจิกายน 22, 2014 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการลดน้ำหนัก ควบคุมอาหาร และการออกกำลังกาย(ตอนที่1) โดย ดร.เชิดชาย 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤศจิกายน 22, 2014 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤศจิกายน 22, 2014 (มีการแก้ไข) ทหารปฏิรูปประเทศไทย วันที่ 22 พ.ย.57 สมเด็จพระเทพฯ พระราชทาน ส.ค.ส.กาชาด ปี2558 สภากาชาดไทย ได้เผยแพร่ภาพโปรดเกล้าฯ พระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ส.ค.ส.กาชาดปี2558 ข้อความดังนี้ " เนื่องในโอกาสเทศกาลขึ้นปีใหม่ 2558 ที่กำลังจะถึงนี้ สภากาชาดไทยได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน พระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย นำมาจัดพิมพ์เป็นบัตรอวยพรปีใหม่ ขนาด 6.75 x 4.75 นิ้ว สอบถามรายละเอียดและสั่งจองได้ที่ สำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย ตึกอำนวยนรธรรม ชั้น 2 เลขที่ 1873 ถนนพระราม 4 ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 เปิดทำการวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 08.30 - 16.30 น. โทรศัพท์ 0 2254 1354, 0 2256 4623, 0 2250 0311 ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดใบสั่งจองได้ที่ลิ้งค์นี้ ได้ที่ http://www.redcrossfundraising.org/images/1/th-TH/salesproduct/newyearcard2015/Order-Form-greetingcard-58.pdf @ เสธ น้ำเงิน3 http://www.facebook.com/thailandcoup ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 22, 2014 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤศจิกายน 22, 2014 วันที่ 22 พ.ย.57 ภูเขาไฟในแม็กซิโก อั้นไม่ไหว ระเบิดตูมสนั่นหวั่นไหว เกิดเหตุภูเขาไฟใหญ่ ฉายา "ภูเขาไฟแห่งไฟ" ในรัฐโกลีมา ทางตะวันตกของประเทศ เม็กซิโก ปะทุขึ้นและระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว พ่นเถ้าภูเขาไฟออกมาสูงกว่า 5 กิโลเมตร แผ่กระจายปกคลุมพื้นที่ในรัศมี 25 กิโลเมตร กินพื้นที่ 2 รัฐ ทั้งในเมืองกีเซเรีย รัฐโกลีมา รวมถึงเมืองโตนีลา และซาโปติลลิค ในรัฐฮาลิสโกที่อยู่ข้างเคียงด้วย แก๊สและหินร้อน ที่พ่นออกจากปากปล่องภูเขาไฟ กระจายไปในรัศมีราว 2 กิโลเมตร คาดว่า ภูเขาไฟลูกนี้จะปะทุตั้งแต่ลาวาก่อตัวเป็นรูปโดมอยู่ภายในปากปล่องภูเขาไฟตั้งแต่เดือนมกราคม ปีก่อน ภูเขาไฟลูกนี้เคยปะทุครั้งสุดท้าย เมื่อ 9 ปี ที่แล้ว ในเดือนมีนาคม 2548 เจ้าหน้าที่ได้แจ้งเตือนให้ประชาชนป้องกันตัวเองจากฝุ่นควันและเถ้าถ่านที่ฟุ้งกระจาย ด้วยการหาสิ่งปกปิดปากและจมูก และดูแลไม่ให้เถ้าดังกล่าวตกลงไปในภาชนะที่มีการสำรองน้ำใช้ไว้ รวมถึงแนะนำไม่ให้โกยขี้เถ้าทิ้งลงในระบบระบายน้ำเพราะจะทำให้เกิดการอุดตันได้ ตอนนี้แผ่นผิวเปลือกโลกต่าง มีการเคลื่อนตัวอัดกันเร็วมากกว่าแต่ก่อนราว 2 เท่า จุดใดเกิดแรงอัดมาก จนรอยแยกเดิมทนไม่ไหว ก็จะต้องคลายตัวและปล่อยความร้อนเพื่อรักษาสมดุลจึงเกิดระเบิดขึ้นมา เมื่อไม่นานมานี้ที่แม็กซิโก ก็เพิ่งพบแผ่นดินแยกตัวออกจากกันขนาดยักษ์เป็นทางยาว และยังหาสาเหตุไม่ได้แน่ชัด ในเมืองไทยมีภูเขาไฟอยู่หลายลูกเหมือนกัน ส่วนใหญ่อยู่บนบก และไม่เคยระเบิดมาหลายพันปีแล้ว @ เสธ น้ำเงิน4 http://www.facebook.com/thailandcoup "กติกา" โปรดงดออกความเห็นในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในตอนนี้ /นำข่าวลือเขาว่ามาโพส / ลิ้งใดๆ ทุกชนิด / คำหยาบ / ป่วน / ข้อความจากแหล่งอื่นที่ทำให้เกิดความสับสนในเนื้อหา / ภาพ / การให้ร้ายดูหมิ่นเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกพิจารณาบล็อกเข้าเพจนี้ วันที่ 22 พ.ย.57 เกิดเหตุหลุมยุบในรัสเซีย ดูดบ้านหลายหลังลงไปก้นหลุม เกิดเหตุหลุมยุบตัวขนาดใหญ่มาก ลึกราว 40 เมตร ใกล้เทือกเขาอูราล ในรัสเซีย กลืนบ้านตรงภาพจมหายไปในดินหลายหลัง ในเบื้องต้นคาดว่า สมัยก่อนแถบนี้ทำอุตสาหกรรมแร่ พื้นดินจึงไม่คงตัวแข็งแรง ในต่างประเทศ เช่น อเมริกา ละตินอเมริกา มีหลุมยุบใหญ่ๆ เสมอ บางครั้งเกิดกลางเมืองสี่แยกเลย รถวิ่งๆ มายุบตกลงไปพร้อมบ้านหลายหลังเลยก็เคยมี ในเมืองไทยก็มีแผนที่ทางธรณีวิทยาหลุมยุบ หลายพื้นที่ แต่ไม่เคยมีขนาดใหญ่มากๆ เท่านี้มาก่อน @ เสธ น้ำเงิน4 http://www.facebook.com/thailandcoup อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤศจิกายน 22, 2014 ทหารปฏิรูปประเทศไทย 19 hours ago วันที่ 21 พ.ย.57 ตำรวจยุค คสช.ไปช่วยชาวบ้านเกี่ยวข้าวดีกว่า ตำรวจ สภ.เลิกนกทา จ.ยโสธร อยู่ว่างๆ ไม่มีคดีอะไร เพราะบ้านเมืองสงบสุขภายใต้กฎอัยการศึก ยุค คสช. พวกเขา จึงยกพวกด้วยจิตอาสา มาช่วยพี่น้องชาวบ้านเกี่ยวข้าวดีกว่า ตำรวจยุค คสช.เขาค่อยๆ เปลี่ยนวิถีไป ตามที่ผู้นำประเทศทำตัวเป็นตัวอย่างให้พวกเขาได้ปฏิบัติตาม @ เสธ น้ำเงิน3 http://www.facebook.com/thailandcoup วันที่ 22 พ.ย.57 ญี่ปุ่น จะสร้างเมืองลึกลงไปใต้น้ำ เป็นชุมชนเมืองใหม่ จากแรงบันดาลใจ ภาพยนตร์หลายเรื่องที่กล่าวถึงเมืองใต้บาดาล ทำให้บริษัทก่อสร้างในญี่ปุ่น อย่างบริษัทชิมิซุ คอร์ป เกิดไอเดียใหม่เตรียมสร้างเมืองใต้ท้องทะเลที่เป็นพื้นที่อยู่อาศัยได้จริง และไม่ได้เป็นเพียงแค่จินตนาการเท่านั้น โดยคาดว่าจะสร้างเสร็จสมบูรณ์พร้อมใช้งานได้ในปี 2030 หรืออีก 15 ปีข้างหน้า บริษัท นี้ระบุว่า ความคิดสร้างเมืองใต้บาดาลนี้จะไม่ใช้เรื่องเพ้อฝัน แต่จะสร้างมันให้เกิดขึ้นจริง โดยแผนการสร้างที่อยู่ใต้น้ำนั้นถูกออกแบบมาในรูปทรงเกลียว ประกอบด้วยแกนหลักใหญ่ 3 ส่วน และมีส่วนที่ลอยอยู่เหนือพื้นน้ำราว 500 เมตร และส่วนใจกลางหลักของรูปเกลียวจะมีความยาว 15 กิโลเมตร เป็นส่วนของศูนย์การค้าทางธุรกิจ ที่พักอาศัย และเป็นส่วนของโรงแรม พื้นที่ตรงส่วนนี้สามารถรองรับคนได้มากถึง 5,000 คน สุดท้ายเป็นส่วนที่อยุ่ลึกที่สุด คาดว่าจะอยู่ลึกลงไปราว 30,000 - 40,000 เมตร ส่วนนี้จะเป็นส่วนที่ต่อลงไปยังพลังงานใต้พิภพ ที่จะเป็นพลังงานที่สามารถดึงมาใช้งานได้ แต่ส่วนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาเรื่องระบบพลังงาน ส่วนไฟฟ้านั้น ผู้ริเริ่มความคิดต้องการใช้น้ำทะเลมาผ่านกระบวนการแปลงเป็นไฟฟ้า ส่วนงบประมาณที่คาดว่าจะใช้ในการก่อสร้างเมืองใต้บาดาลนี้อาจอยู่ที่ประมาณ ราว 838,000 ล้านบาท ส่วนระยะเวลาที่ใช้ในการก่อสร้างอาจกินเวลานาน 5 ปี ซึ่งบริษัทเจ้าของต้นความคิดนี้เห็นว่าจะเป็นการดีมากถ้ารัฐบาลและบริษัทวิจัยใหญ่จะสนใจโปรเจ็คนี้ เพราะการอาศัยอยู่ในโลกใต้น้ำเป็นการลดความเสี่ยงกับการที่ต้องเผชิญกับภัยพิบัติต่างๆเช่น แผ่นดินไหว หรือสึนามิอีกด้วย เอาซิ..อยู่บนบกก็แล้ว , บนอวกาศก็แล้ว , ต่อไปก็ต้องไปอยู่ใต้น้ำกันบ้างล่ะ จะได้ดูปลากันไปด้วย @ เสธ น้ำเงิน4 http://www.facebook.com/thailandcoup อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤศจิกายน 22, 2014 วันที่ 22 พ.ย.57 สุดอึ้ง..น้ำจะท่วมนิวยอร์คเร็วๆ นี้จากปริมาณหิมะตก 3 วัน = ที่เคยตกปกติ 1 ปี ภัยหนาว พายุหิมะตกหนักรุนแรงสุดในประวัติศาสตร์ของรัฐนิวยอร์ก เพราะภายใน 3 วัน มีหิมะตกหนัก ปริมาณมากเท่ากับหิมะที่เคยตก ตามปกติภายใน 1 ปี จนบางพื้นที่ หิมะสูงถึง 152 -183 ซม. ขณะที่ มีผู้เสียชีวิตในรัฐนิวยอร์กแล้วตลอดเวลากว่า 20 ราย สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ ได้ประกาศเตือนประชาชน โดยเฉพาะในรัฐนิวยอร์ก ซึ่งกำลังประสบภัยหนาว พายุหิมะถล่มรุนแรง ทำให้หลายพื้นที่มีหิมะท่วมสูงหนาว่า ยังต้องเตรียมเผชิญหน้ากับ ภัยน้ำท่วมใหญ่ เป็นบริเวณกว้างที่จะเกิดตามมาซ้ำอีก เนื่องจาก ช่วงสุดสัปดาห์นี้ สภาพอากาศที่รัฐนิวยอร์ก จะอุ่นขึ้น และยังจะเกิดฝนตก ซึ่งจะทำให้หิมะมหาศาลละลาย ผู้ว่าการรัฐฯ ระบุว่า ชาวรัฐนิวยอร์ค กำลังเตรียมเผชิญหน้ากับน้ำท่วมหนักกว่าทุกครั้งเท่าที่เคยเห็นมา เนื่องจากไม่เคยเห็นหิมะตกหนักเช่นนี้มาก่อนเลย และหิมะเหล่านี้กำลังละลายในช่วงเวลาที่สั้นมาก เพราะอากาศอุ่นขึ้นในเวลารวดเร็ว โห...ปริมาณหิมะตก 3 วัน = ที่เคยตกปกติ 1 ปี..แม้จ้าว..ถ้ามันละลายพร้อมกัน มันก็คือ แม้น้ำสายยักษ์ ไหลเข้าถล่มเมืองดีๆ นี่เอง..น่าจับตาปรากฎการณ์แปลกนี้มาก @ เสธ น้ำเงิน4 http://www.facebook.com/thailandcoup อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤศจิกายน 22, 2014 วันที่ 22 พ.ย.57 ปูมะพร้าว สัตว์โลกสุดประหลาด มีอยู่จริงไม่ได้อิงนิยาย!! ปูมะพร้าว จัดอยู่ในประเภทสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ไฟลัมอาร์โธรพอด เป็นสัตว์ที่วิวัฒนาการมาจากปูเสฉวน และเป็นสัตว์ขาปล้องขนาดใหญ่ที่สุดที่อาศัยอยู่บนพื้นดิน เป็น 1 ในตระกูล Hermit crab แต่ว่าขนาดใหญ่กว่ามาก มีความยาวเกือบๆ 1 เมตร และหนักกว่า 4.5 กิโลกรัม มีอายุยืนถึง 60 ปีที่เดียว เป็นสัตว์ที่พบเห็นได้ยากมากในเมืองไทย มีหลักฐานการพบปูมะพร้าวในประเทศไทยเพียง 3 ครั้ง ครั้งแรกเป็นในปี พ.ศ. 2530 เมื่อชาวประมงจับปูมะพร้าวได้ที่บริเวณเกาะสี่ ในหมู่เกาะสิมิลัน และได้ส่งปูตัวนั้นให้เรือจุฬาภรณ์มอบต่อให้สถาบันวิจัยชีววิทยาและประมงทะเล จังหวัดภูเก็ต ปัจจุบันปูตัวนี้แสดงอยู่ที่สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำภูเก็ต (อะควอเรี่ยมแหลมพันวา) ส่วนหลักฐานอีกชิ้นซึ่งเป็นปูมะพร้าวที่ค่ายมวยจังหวัดระนองเลี้ยงไว้ โดยให้กินมันหมูเป็นอาหาร ปรากฏว่าปูชอบมากอยู่มาได้หลายปี เมื่อตายจึงส่งตัวอย่างให้วิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทำเป็นซากสตัฟฟ์ ชื่อปูมะพร้าวของมัน ก็มาจากอาหารที่มันกินนี่แหละ มันจะปีนขึ้นต้นมะพร้าว ไปสอยมาสักสองสามลูกเพื่อกินให้อิ่มในแต่ละครั้ง เมื่อถึงพื้นก็จะใช้กรงเล็บของมันเปิดลูกมะพร้าวได้ นอกจากมะพร้าวแล้วมันยังชอบกินอย่างอื่นด้วยเช่น ผลไม้ ถั่ว เมล็ดพืช ฯลฯ จนเมื่อ พ.ศ. 2540 ขณะที่ทหารเรือจากกองเรือภาคที่ 3 เฝ้าไข่เต่าตนุอยู่ที่เกาะหนึ่ง ในหมู่เกาะสิมิลัน พบปูมะพร้าวน้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม ออกมาหากินที่ชายหาดแถวนั้นเป็นประจำ โดยมีภาพถ่ายจากทหารเรือเป็นหลักฐาน ในปี พ.ศ. 2542 เมื่อสถาบันวิจัยชีววิทยาและประมงทะเล จังหวัดภูเก็ต ส่งทีมงานเข้าไปสำรวจหาปูมะพร้าวที่เกาะหนึ่ง ก็ไม่พบปูมะพร้าวแม้แต่ตัวเดียว นับว่าเป็นสัตว์ประหลาดหายาก และอาจจะไม่มีใครเห็นตัวจริงของมันอีกแล้ว @ เสธ น้ำเงิน4 http://www.facebook.com/thailandcoup ทหารปฏิรูปประเทศไทย 4 hours ago · Edited วันที่ 22 พ.ย.57 โพลระบุเสื้อแดงที่อึดอัด เป็นเพียงส่วนน้อยนิดของสังคม ชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชน เผยว่า ผลวิจัยเชิงสำรวจมาสเตอร์โพลล์ เรื่องความในใจของแกนนำชุนชนถึงนายกรัฐมนตรี พบว่า ภาพรวม 1. แกนนำชุนชนส่วนใหญ่พอใจต่อการทำงานของรัฐบาล โดยให้คะแนน 8.28 จากคะแนนเต็ม 10 2. ความสุขต่อการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ พบว่า แกนนำชุมชนมีความสุขค่อนข้างมาก ถึงร้อยละ 83.6 อ้าว..ไหนสื่อ และนักศึกษาเสื้อแดง ว่าอึดอัดไง ทำไมแกนนำประชาชนกว่าร้อยละ 83 เขาไม่คิดแบบนั้น งั้นพวกที่อึดอัดก็แสดงว่าเป็นเสียงส่วนน้อยของประเทศ เพียงไม่ถึงร้อยละ 17 เอง... ว้า..เสื้อแดงกลายเป็นเสียงส่วนน้อยในสังคมไปเสียแล้ว แต่พยายามดิ้นจนปลักโคลนกระจาย เพื่อเรียกร้องความสนใจ เผื่อว่าคนส่วนใหญ่จะหันไปมองบ้าง...แต่กลับโดนกระแสสังคมตีกลับเละยิ่งกว่าเดิมไปอีก @ เสธ น้ำเงิน2 http://www.facebook.com/thailandcoup อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤศจิกายน 22, 2014 ทหารปฏิรูปประเทศไทย added 4 new photos. 16 mins · วันที่ 22 พ.ย.57 จีนแอบสร้างฐานทัพลับ ในหมู่เกาะแสปรตลี ทะเลจีนใต้ ทางการจีนกำลังมีการสร้างเกาะ บนเกาะปะการัง เฟียรี ครอส ใกล้หมู่เกาะสแปรตลีย์ ในทะเลจีนใต้ ซึ่งมีขนาดใหญ่พอสำหรับสร้างสนามบินได้ แม้เกาะดังกล่าวอยู่ในเขตน่านน้ำที่หลายประเทศ ทั้งจีน ไต้หวัน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และบรูไน กำลังเกิดข้อพิพาทแย่งชิงเป็นเจ้าของ เพราะมีแหล่งพลังงานมหาศาล จากภาพถ่ายดาวเทียมในช่วง 8 ส.ค.-14 พ.ย.57 แสดงให้เห็นว่า จีนได้ทำการสร้างเกาะให้มีความยาวอย่างน้อย 3,000 เมตร (3 กม.) และความกว้าง 200-300 เมตร ซึ่งเป็นขนาดพื้นที่ท่ีใหญ่พอในการสร้างรันเวย์ และลานจอดของเครื่องบิน โครงการสร้างเกาะที่เกาะปะการังดังกล่าว นับเป็นโครงการที่ 4 ของจีน ในหมู่เกาะสแปรตลีย์ ในช่วง 12-18 เดือนที่ผ่านมา และโครงการสร้างเกาะแห่งนี้ ถือเป็นโครงการที่ใหญ่ที่สุด โดยมีการคาดการณ์กันว่า รัฐบาลจีนต้องการสร้างเกาะแห่งนี้ เพื่อเป็นฐานทัพของจีน รวมทั้งติดตั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศ, อุปกรณ์สื่อสาร และอื่นๆ และมีแผนสร้างฐานทัพอากาศบนเกาะนี้ แต่ทางการจีนปฏิเสธ เพราะเหตุผลทางการเมืองระหว่างประเทศ หือ..ถ้าจีนสร้างฐานทัพอากาศตรงนี้ได้ จะหนาวกันอีกหลายประเทศ รวมทั้งมะกัน และญี่ปุ่น เพราะเป็นจุดยุทธศาสตร์ทางทหารที่แหลมคมมาก @ เสธ น้ำเงิน4 http://www.facebook.com/thailandcoup อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤศจิกายน 22, 2014 " Hand of Mercy " สีน้ำบนกระดาษ Kang Art Rises อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤศจิกายน 22, 2014 ttps://www.facebook.com/video.php?v=578570195610998&set=vb.172753116192710&type=2&theater ถ้าคลิปนี้ ดังน้อยกว่าเหนี่ยวไก่ จะเสียใจมาก :: ถ้าคลิปนี้ ดังน้อยกว่าเหนี่ยวไก่ จะเสียใจมาก :: ข้อความ(@โกอั๋น ข้าวต้ม): อั๋น...นุวัต จัดให้ พาไปดูชีวิตเด็กน้อยคนหนึ่งเธอมีชื่อว่าน้องจ๊ะจ๋า เรียนชั้นประถมปีที่6โรงเรียนคลองขุด ทุกเช้าต้องตื่นเพื่อมาช่วยแม่ของเธอกวาดขยะในเขตเทศบาลเมืองทุกวันตั้งแต่เวลา 04.00 ถึง 06.30 น ซึ่งเธอเป็นเด็กขยันแข็งตั้งใจเรียนหนังสือและกตัญญูต่อพ่อแม่มากเลยครับ อยากให้สังคมได้รับรู้ไว้ว่า... เด็กคนนี้สมควรจะไดรับการยกย่องครับ ***ช่วยแช์ด้วยน่ะครับ*** เผื่อจะมีคนใจบุญและหน่วยงานต่างๆหยิบยื่นความช่วยเหลือมาให้ครอบครัวของน้องบ้าง เห็นแววตาน้องแล้วน่าสงสารมากครับ...ป ล งานนีถ้าผู้ว่าฯ จะไปไม่ผิดครับ อิอิ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤศจิกายน 23, 2014 (มีการแก้ไข) "...เศรษฐกิจพอเพียง เป็นเสมือนรากฐานของชีวิต รากฐานความมั่นคงของแผ่นดิน เปรียบเสมือนเสาเข็มที่ถูกตอกรองรับบ้านเรือนตัวอาคารไว้นั่นเอง สิ่งก่อสร้างจะมั่นคงได้ก็อยู่ที่เสาเข็ม แต่คนส่วนมากมองไม่เห็นเสาเข็ม และลืมเสาเข็มซะด้วยซ้ำไป..." พระบรมราโชวาท ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอยพ่อ จากวารสารชัยพัฒนา ประจำเดือนสิงหาคม 2542 ภาพสีน้ำมันบนผ้าลินิน ขนาด 30x40. Cm ผลงานของ คุณสุรชาติ ปธานะพานิช ท ร ง พ ร ะ เ จ ริ ญ ยิ่ ง ยื น น า น พ่อของแผ่นดินผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ปวงข้าพระพุทธเจ้าสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ขอพระองค์ทรงพระสิริสวัสดิ์ทรงพระเกษมสำราญ ปราศจากโรคาพยาธิพิบัติภัยใดมาแผ้วพาน ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน เป็นธงชัยแห่งประเทศชาติ และสถิตเป็นมิ่งขวัญแห่งอาณาประชาราษฎร์สืบไปชั่วจิรัฐติกาล กราบแทบพระบาท... ตามรอยพ่อ ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 23, 2014 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤศจิกายน 23, 2014 cr.หนังสือในหลวงของฉัน #ไม่ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหนแต่ก็อยู่ใกล้พระบารมี 》พระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้แผ่ไพศาลไปยังพสกนิกรชาวไทยทั่วทุกสารทิศ ไม่เว้นแม้กระทั่งเด็กหญิงชาวเขาตัวน้อยวัย ๒ ขวบ ในวันที่ ๓๐ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๑๓ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฏรชาวไทยภูเขาที่อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน 》ได้พระราชทานยาให้แก่เด็กหญิงนาเจ๊อะ ไพรปรีเปรม ด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เอง ด้วยความรักและห่วงใยที่ทรงมีต่อพสกนิกรโดยไม่แบ่งแยกชนชั้น นำมาซึ่งความปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมอบให้ครอบครัวไพรเปรมปรี และราษฏรชาวไทยภูเขาทุกคน ♡พ่อหลวงของปวงชนชาวไทย♡ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้า ด้วยกระหม่อม ขอเดชะ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤศจิกายน 23, 2014 ตามรอยพ่อ November 20 พระอารมณ์ขัน.. 'เรื่องเล่าจากการตามเสด็จบนดอย' ในการเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรชาวไทยภูเขาบนดอย สมัยก่อนไม่สามารถเดินทางไปถึงได้ด้วยยานพาหนะใดๆ จำเป็นต้องทรงพระดำเนินไปตามสันเขาทุรกันดารเป็นระยะทางไม่น้อยกว่า 2 กิโลเมตร บางแห่งต้องลงจากเนินสูงไปทอดพระเนตรผลการเพาะพืชเกษตร ซึ่งเป็นที่ลาดชันประมาณ 45 องศา จากนั้นก็ทรงพระดำเนินขึ้น ตอนนี้แหละที่สุดแสนสาหัส ฉลองพระองค์ สวมทับด้วยเสื้อฟิลด์แจ๊คเก็ตเพื่อป้องกันความหนาวบนดอย ชุ่มด้วยพระเสโท (เหงื่อ) เครื่องสัมภาระและเครื่องรับวิทยุที่นำติดตัวไปดูจะมีน้ำหนักมากผิดปกติ ผู้ติดตามเสด็จเริ่มจะรู้จักความหมายของคำว่า 'ไพร่ฟ้าหน้าเขียว' กันถ้วนหน้า เพื่อเป็นการผ่อนคลายความเครียด จะทรงทดลองวิทยุกับผู้ที่ตามเสด็จไปด้วย บางครั้งเสียงของแต่ละคู่สถานีที่สอดแทรกเข้ามากับคลื่นวิทยุ จึงเป็นเสียงหอบของทั้งสองฝ่ายอยู่เสมอ ทำให้ทรงพระเกษมสำราญ ช่วยให้หายเหนื่อยไปได้ไม่น้อย (จาก 'พระเจ้าอยู่หัว นักวิทยุสื่อสารผู้ยิ่งใหญ่' เขียนโดย พล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์) ท ร ง พ ร ะ เ จ ริ ญ ยิ่ ง ยื น น า น พ่อของแผ่นดินผู้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ เพื่อพสกนิกรของพระองค์ได้อยู่ดีมีสุขถ้วนหน้า ปวงข้าพระพุทธเจ้าสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ขอพระองค์ทรงพระสิริสวัสดิ์ ทรงพระเกษมสำราญ ปราศจากโรคาพยาธิพิบัติภัยใดมาแผ้วพาน ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน เป็นธงชัยแห่งประเทศชาติ และสถิตเป็นมิ่งขวัญแห่งอาณาประชาราษฎร์สืบไปชั่วจิรัฐติกาล กราบแทบพระบาท... (เอื้อเฟื้อภาพจากคุณ รัก ในหลวง) อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤศจิกายน 23, 2014 แฉ..ความลับ 9 hours ago · Edited วันที่ 18 พ.ย.57 เผยปริศนา..นอสตราดามุส ทำนายอะไรไว้เมื่อ 400 ปีที่แล้ว? (ตอนแรก) เมื่อพูดถึง นอสตราดามุส หลายคนคงเคยได้ยินชื่อเสียงของเขาจากคำพยากรณ์ต่างๆ ที่สอดคล้องกับแต่ละสถานการณ์บนโลก นอสตราดามุส เป็นชื่อภาษาละตินของชาวฝรั่งเศส เขามีเชื้อสาย “ ยิว” มีชื่อเต็มว่า ไมเคิล เดอ นอสเตรอดัม ได้รับการขนานนามจากชาวโลกว่าเป็น “ราชาโหรโลก” หรือปรมาจารย์แห่งโหราศาสตร์เอกของโลก เขาเกิดเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ. 1503 ตรงกับสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 12 ของฝรั่งเศส (ค.ศ.1498-ค.ศ.1515) บ้านเกิดอยู่ที่ เมืองแซงต์ เรมี เดอ โปรวองซ์ ประเทศฝรั่งเศส ในครอบครัวของ ชาคส์ กับ เรอเน เดอ นอสเตรดัม นายทะเบียนผู้รุ่งเรืองของเมือง นอสตราดามุส เกิดร่วมสมัยกับ มาร์ติน ลูเธอร์ ผู้นำแห่งศาสนาคริสเตียนนิกายโปรเตสแตนต์ , พระเจ้าหลุยส์ที่ 12 แห่งฝรั่งเศส ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าให้ชาวยิวทุกคนเปลี่ยนศาสนาเดิม มานับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ เรียกว่า คริสเตียน โดยเข้ารับศีลจุ่ม (บัปติสมา) ท่ามกลางบรรยากาศทางการเมืองที่ร้อนระอุ ครอบครัวนอสตราดามุส ไม่มีทางเลือกที่ดีกว่า จึงจำเป็นที่จะต้องเลือกทางออก ด้วยการรับศีลเข้ารีตเป็นคริสเตียน แต่ภายในบ้านก็ยังยึดถือปฏิบัติศาสนกิจตามความเชื่อของยิวอย่างลับๆ มาโดยตลอด เมื่อนอสตราดามุสมีอายุครบ 14 ปี คุณปู่ แนะนำให้เข้าเรียนต่อด้านศิลปศาสตร์ ที่เมืองอาวียอง แหล่งวิชาสำคัญของฝรั่งเศสยุคนั้น เขาศึกษาวิชาปรัชญา , ไวยากรณ์ และศิลปการพูด ภายใต้การควบคุมอย่างใกล้ชิดของพระ ยามว่างมักใช้เวลาหมดไปในห้องสมุด ที่แห่งนี้ นอสตราดามุสได้พบหนังสือหลายเล่ม ที่เขียนบันทึกเกี่ยวกับเรื่องของไสยศาสตร์ผีสางและเวทมนตร์ รวมทั้งชีวประวัติของศาสดาพยากรณ์ ในพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ ยิ่งทำให้เกิดความสนใจในวิชาโหราศาสตร์มากขึ้น ถึงขนาดลงมือค้นคว้าหลักการทำนายอนาคต นอสตราดามุส มีความรู้แตกฉานด้านดาราศาสตร์ หรือจะด้วยพลังจิตทัศน์ ที่แฝงอยู่ในตัวมาก่อนก็ตาม เขาได้คิดหันชีวิตมุ่งไปทางโหราศาสตร์อย่างจริงจัง และด้วยคุณปู่คนเดียวเท่านั้นที่เข้าใจความปรารถนา จึงให้ยึดถืออาชีพการแพทย์ควบคู่ไปกับการมุ่งศึกษาด้านโหราศาสตร์ ปี ค.ศ.1525 นอสตราดามุส สอบผ่านจบหลักสูตร ได้ปริญญาบัตรการแพทย์จากมหาวิทยาลัยมองต์เปลีเยร์ พร้อมด้วยใบประกอบโรคศิลปทางแพทย์ และเมื่อเกิดกาฬโรคระบาดร้ายแรงทางตอนใต้ของฝรั่งเศส โรคระบาดทำให้ผู้คนเสียชีวิตดุจใบไม้ร่วง คนป่วยนอกจากจะได้รับความเจ็บปวดอย่างสาหัสแล้ว ยังได้รับการทรมานจากแผลที่เน่าเฟะเป็นหนอง ส่งกลิ่นเหม็นอบอวลไปทั่ว ถึงรักษาหายก็ยังฝากรอยแผลเป็นไว้ตามตัวและใบหน้า แพทย์ทุกคนทำงานหนักในห้วงเวลานี้ นอสตราดามุส มีความระแวดระวังภัยรอบตัว มาแต่อ้อนแต่ออก จึงทำให้เขารอดจากการจ้องจับผิดของเจ้าหน้าที่สังฆจักรโรมันคาทอลิกอยู่เรื่อยมา ชื่อของ นอสตราดามุส อยู่ในบัญชีดำ เป็นผู้ถูกเพ่งเล็งหมิ่นเหม่ ต่อการถูกเรียกตัวเข้าคอก เป็นจำเลยเพื่อไต่สวนหลายครั้ง แต่เพราะความเป็นนายแพทย์ที่สร้างคุณประโยชน์ อาจหาญรักษาเพื่อนร่วมชาติที่ล้มตายด้วยโรคระบาดตามหัวเมืองต่างๆ โดยไม่คำนึงถึงความน่าสยดสยองของโรคร้าย ความดีอันนี้ จึงมีส่วนช่วยเป็นเกราะกำบังภัยให้นอสตราดามุสเรื่อยมา ปี ค.ศ.1529 โรคระบาดเริ่มทุเลาลดลง นอสตราดามุสหวนกลับมาติดตามความตั้งใจเดิมที่ตกค้างคาใจอยู่ คือการอยากจะเผยแผ่ทฤษฎีการแพทย์ใหม่ให้แก่สถาบัน เขาทำปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยมองต์เปลีเยร์ กลายเป็นแพทย์มืออาชีพชื่อดังไป แต่เมื่อเวลาผ่านไป นอสตราดามุส ต้องการอิสรภาพทางความคิด มาตรฐานวิชาแพทย์รูปแบบใหม่ที่นอสตราดามุสวางรากฐานไว้ แต่การสอนที่มหาวิทยาลัยมองต์เปลีเยร์ เริ่มเวียนวนซ้ำซาก จึงตัดสินใจลาออก นอสตราดามุสมุ่งหน้าเลาะไปตามเมืองต่างๆ ที่รู้จัก และประสบความสำเร็จในวิชาชีพเมื่อครั้งรักษาโรคระบาด ปี ค.ศ.1534 เขาปักหลักตั้งสำนักงานแพทย์ที่เมืองตูลูส เพียงไม่นานผู้คนในเมืองตูลูส และใกล้เคียงต่าง มารับการรักษา ในจำนวนนี้มี จูเลียส ซีซาร์ สคาลิงเจอร์ นักคิดนักปรัชญาชื่อดังแห่งเมืองอายอง รวมอยู่ด้วย โดยคบกันอย่างถูกอัธยาศัยจนกลายเป็นเพื่อนสนิท นอสตราดามุสได้ตัดสินใจย้ายมาตั้งรกรากอยู่ในเมืองนี้ เป็นบุรุษเนื้อหอมของเมืองอายอง ในที่สุดเขาตัดสินใจสละโสด เข้าพิธีแต่งงานกับหญิงสาวรวยทรัพย์มากเสน่ห์คนหนึ่งของเมือง โดยมีบุตรชายและบุตรสาวอย่างละหนึ่งคน ใช้ชีวิตช่วงนี้อย่างบรมสุข ปี ค.ศ.1537 โรคระบาดที่ทะลักมาจากเมืองอื่น เริ่มเข้ามาคุกคามเมืองอายอง มีคนล้มตายเป็นจำนวนมาก กลางคืน นอสตราดามุส รวบรวมความรู้ประสบการณ์ที่เคยมีมา ออกตระเวนรักษาคนป่วยอย่างเต็มกำลังทุกวัน หาได้เฉลียวใจสักนิดไม่ว่า ความวิบัติหายนะกำลังคืบคลานเข้ามาสู่ตนกับครอบครัว คืนวันหนึ่ง นอสตราดามุสกลับมาถึงบ้าน พบลูกและเมียตัวเองมีอาการไข้ของเชื้อกาฬโรค นอสตราดามุสกลับรักษาคนใกล้ตัวอันเป็นที่รักไว้ไม่ได้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่างรวดเร็วและขาดการป้องกันที่ดี ภรรยาและลูกทั้งสองของนอสตราดามุส ต้องจบชีวิตด้วยโรคร้ายในคราวนั้น เหตุการณ์เศร้าสลดของนอสตราดามุส ทำให้ชาวเมืองอายองเลิกเชื่อถือในวิชาแพทย์ของเขา อีกทั้งเพื่อนๆ ปัญญาชนที่เคยสนิท อย่างจูเลียส ซีซาร์ สคาลิงเจอร์ ที่รักใคร่สนิทสนมกันหนักหนาก็ตีจาก ปี ค.ศ.1545 นอสตราดามุส กลับบ้านเกิดเมืองนอน มาเป็นลูกมือให้ลุย แซร์ แพทย์ชื่อดังซึ่งกำลังยับยั้งกาฬโรคที่ระบาดหนักในเมืองมาร์แซย์ จากนั้นได้เข้ารับมือกับกาฬโรคที่แพร่อยู่ในเมืองซาล็อง-เดอ-พรอว็องส์ กับ อิกซ์-อ็อง-พอรว็องส์ ด้วย ปี ค.ศ.1547 นอสตราจึงตั้งรกรากที่เมืองซาล็อง-เดอ-พรอว็องส์ เรือนของเขายังมีอยู่ในบัดนี้ ที่เมืองนั้นเขาได้สมรสกับ อัน ปงซาด เศรษฐินีหม้าย และมีบุตรด้วยกัน 6 คน เป็นหญิง 3 ชาย 3 นอสตราดามุส กลับไปเยือนอิตาลีอีกครั้ง ครั้งนี้ เขาเบนเข็มจากสมุนไพรเป็นเรื่องคุณไสย พอได้รับทราบกระแสนิยมหลายกระแสแล้ว เขาก็เขียนกาลานุกรม สำหรับปี ค.ศ.1550 ขึ้นเผยแพร่ โดยใช้ชื่อสกุลตนเองเป็นภาษาละตินว่า “Nostradamus” เป็นครั้งแรก กาลานุกรมของเขามียอดขายดีมาก ทำให้เขาเขียนกาลานุกรม อีกหลายฉบับอย่างน้อยปีละเล่ม ส่วนใหญ่เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ของแต่ละปี แต่บางปีก็เริ่มแต่วันที่ 1 มีนาคม เมื่อรวมกาลานุกรมทั้งหมดแล้ว เป็นคำพยากรณ์จำนวน 6,338 บท และปฏิทินอย่างน้อย 11 ปี นอสตราดามุส เริ่มมีชื่อเสียง และบุคคลสำคัญมากหน้าหลายตาก็เริ่มแห่กันมาร้องขอให้เขาทำนายโชคชะตาราศีให้ รวมถึงขอให้เขาใช้ “ญาณทิพย์” มอบคำปรึกษาให้ นอสตราดามุสมักให้ “ลูกค้า” ส่งมอบวันเดือนปีเกิด ที่เขียนลงบนตารางให้สำหรับใช้ทายทัก มากกว่าจะคำนวณตัวเลขเหล่านั้น ด้วยตนเหมือนดังที่นักดาราศาสตร์มืออาชีพพึงทำ เมื่อนอสตราดามุสเขียนโคลง 4 พยากรณ์จำนวน 1,000 บท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภาษาฝรั่งเศส และไม่ลงวันเวลากำกับไว้ แต่ด้วยเกรงว่า จะถูกต่อต้านด้วยเหตุผลทางศาสนา เขาจึงเขียนให้เนื้อความเคลือบคลุมเข้าไว้ โดยใช้กลวิธีทางวากยสัมพันธ์แบบเวอร์จิล ทั้งยังเล่นคำ และแทรกภาษาอื่น เช่น ภาษากรีก ภาษาอิตาลี ภาษาละติน และภาษาถิ่นพรอว็องส์ โคลงเหล่านี้ทำให้เขามีชื่อเสียงมากมาจนบัดนี้ โคลง 4 พยากรณ์ ได้รับการตีพิมพ์เป็นหนังสือชื่อ เลพรอเฟตี แปลว่า คำทำนาย เมื่อเผยแพร่แล้วมีเสียงตอบรับในทางบวกบ้างลบบ้างคละกันไป ชาวบ้านเชื่อว่า นอสตราดามุสเป็นทาสมาร เป็นนักพรตต้มตุ๋น หรือเป็นบ้า แต่พวกผู้ลากมากดีไม่คิดเช่นนั้น แคทเธอรีน เดอ เมดีชี มเหสีพระเจ้าอ็องรีที่ 2 แห่งฝรั่งเศส เป็น 1 ในบรรดาผู้เลื่อมใส นอสตราดามุส อย่างเหนียวแน่นที่สุด เขาจึงได้รับแต่งตั้งเป็นปุโรหิต และหมอหลวงประจำพระเจ้าชาร์ลที่ 9 เขาได้รับความทรมานจากโรคเกาต์มาหลายปี ในบั้นปลายชีวิตเริ่มเคลื่อนไหวลำบาก จนโรคนั้นลุกลามกลายเป็นอาการบวมน้ำหรือท้องมานไป ปี ค.ศ.1566 ปลายเดือนมิถุนายน เขาจึงเรียกทนายความประจำตัวมาเขียนพินัยกรรมยกทรัพย์สินทั้งหมดซึ่งมีมูลค่ากว่า 3,444 คราวน์ (ราว 300,000 ดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน) พร้อมหนี้สินพ่วงมาด้วยเล็กน้อย ให้แก่ภริยาเขา ระหว่างที่ยังมิได้สมรสใหม่ เพื่อใช้เป็นทุนรอนเลี้ยงบุตรหญิงบุตรชายต่อไป วันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ.1556 ช่วงบ่าย เขาบอกฌ็อง เดอ ชาวีญี เลขานุการส่วนตัวของเขา ว่า “พออาทิตย์ขึ้นแล้ว เจ้าจะไม่เห็นข้ามีชีวิตอีก” วันรุ่งขึ้น มีรายงานว่า เขาถูกพบเป็นศพนอนอยู่บนพื้นถัดจากเตียงและตั่งของเขา ศพของเขาฝังไว้ที่วัดคริสต์ฟรันซิสกันในเมืองซาลง ซึ่งบัดนี้บางส่วนกลายเป็นภัตตาคารชื่อ ลาโบรเชอรี แล้ว แต่ในช่วงปฏิวัติฝรั่งเศส มีการขุดศพเขาขึ้นไปฝังที่ป่าช้าวัดแซ็ง-ลอแร็ง แทน ศพของเขาอยู่ที่นั่นมาตราบทุกวันนี้ ------------------------> ศาสตร์เก่าแก่ที่โลกซีกตะวันออก และ โลกตะวันตก ใช้เป็นเข็มทิศดำเนินชีวิตนั้น นอกเหนือจากคำพยากรณ์จากศาสดาต่างๆ แล้ว…ผลจากคำทำนายชะตาโลก ของนอสตราดามุสก็ทำให้ทั้ง 2 ซีกโลกพากันวิตกอยู่ไม่น้อย หนังสือที่เขาเขียนมีการพิมพ์ครั้งแล้วครั้งเล่า ติดต่อกันมากว่า 400 ปีมาแล้ว เฉลี่ยได้ว่าทุกร้อยปีจะมีการพิมพ์คำทำนายของเขา หรือหนังสือเกี่ยวกับตัวเขา การทำนายของเขาอย่างน้อยก็เป็น 100 เล่ม , จักรพรรดินีโจเซฟิน ก็เคยให้นโปเลียนอ่านคำทำนายของ นอสตราดามุส ขณะที่คุกบาสติลล์แตก กลุ่มนักปฏิวัติ บุกเข้าไปได้อ่านคำทำนายเกี่ยวกับตนเอง เนื่องจากมีหนังสือเกี่ยวกับคำทำนายของนอสตราดามุสวางทิ้งไว้บนโต๊ะในคุก ซึ่งมีคำกล่าวถึงความสำเร็จของการปฏิวัติไว้ด้วย หลังจากนั้นจึงได้มีการเปิดให้ประชาชนเข้าแถว มาอ่านคำทำนายของนอสตราดามุส ที่คุกบาสติลล์เป็นเวลาติดต่อกันถึง 10 วัน รัฐมนตรีกระทรวงโฆษณาการ ของฮิตเลอร์ ก็เคยให้ฮิตเลอร์ อ่านคำทำนายของนอสตราดามุส และดัดแปลงใช้คำทำนายของเขาทำการโฆษณาการชวนเชื่อในประเทศยุโรป ที่ฮิตเลอร์ เข้ายึดครอง จนเป็นเหตุให้อังกฤษต้องวางแผนโฆษณาตอบโต้ คำทำนายของนอสตราดามุส เกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญ ๆ ของโลก ทั้งที่ช่วงเขามีชีวิตอยู่ ยังไม่เคยมีบุคคล หรือเหตุเหล่านี้ แต่ได้เป็นจริงขึ้นมาแล้ว ดังนี้ 1. นโปเลียน จักรพรรดิองค์หนึ่งจะเกิดใกล้อิตาลี จักรพรรดิองค์นี้จะมีราคาแพงมากสำหรับจักรวรรดิ เมื่อเห็นพวกพ้องของเขาแล้ว คนก็จะพูดว่าท่านเป็นนักฆ่ามากกว่าเจ้าชาย 2. ฮิตเลอร์ สัตว์ป่าซึ่งบ้าบิ่นเพราะความหิวโหยจะข้ามแม่น้ำ สนามรบส่วนใหญ่จะเป็นการรบต่อต้านฮิสเตอร์ (ฮิตเลอร์) เขาจะลากผู้นำไปในกรงเหล็ก เมื่อคนเยอรมันผู้นี้ไม่ยอมรับกฎหมายใด ๆ 3. ฟรังโก จากคาสติลล์ ฟรังโกจะนำพรรคพวกออกมา ซึ่งพวกทูตไม่เห็นด้วยและสร้างความร้าวฉานขึ้น พรรคพวกของริวิเอรา (ผู้เผด็จการซึ่งฟรังโกมีส่วนช่วยโค่นล้ม) จะอยู่ในกลุ่มด้วย และฟรังโกจะไม่สามารถเข้ามาในอ่าว (หมายถึงทะเลเมดิเตอร์เรเนียน) ได้ 4. หลุยส์ ปาสเตอร์ สิ่งที่สูญหายจะถูกค้นพบหลังจากหลายศตวรรษ (การค้นพบเชื้อโรคในบรรยากาศของปาสเตอร์) ปาสเตอร์จะมีชื่อเสียงโด่งดังเหมือนเทพเจ้า เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นเมื่อดวงจันทร์โคจรครบรอบ (ปี ค.ศ.1889 และเป็นปีเดียวกับที่ปาสเตอร์ได้ตั้งสถาบันปาสเตอร์ขึ้น) แต่ข่าวลืออื่น ๆ จะทำให้เขาเสียชื่อ (หมายถึงการต่อต้านจากวงการแพทย์สมัยนั้น) 5. การตั้งรัฐอิสราเอล รัฐใหม่จะเกิดขึ้นบริเวณซีเรีย จูเดีย และ ปาเลสไตน์ จักรวรรดิป่าเถื่อน (หมายถึงไม่ใช่พวกคริสเตียน) จะแตกสลายก่อนสิ้นศตวรรษของพระอาทิตย์ (ศตวรรษที่ 20) 6. สันนิบาตชาติ สุนทรพจน์ที่ทะเลสาบเลอมัน จะดุเดือดขึ้น วันจะยืดยาวนานไปเป็นอาทิตย์ เป็นเดือน เป็นปี แล้วทุกอย่างก็จะพังทลาย เจ้าหน้าที่จะด่าว่าอำนาจที่ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ของตน 7. สงครามโลกครั้งที่สอง ไม่นานหลังจากนั้น ซึ่งทิ้งระยะไม่นานนักจะเกิดความวุ่นวายขึ้นทั้งทางบกและทางทะเล สงครามทางทะเลจะยิ่งใหญ่กว่าที่เคยมีมา เพลิง สัตว์ (เครื่องมือ เครื่องจักร) จะทำให้เกิดความวุ่นวายหนักหน่วงยิ่งขึ้น 8. นางาซากิ และ ฮิโรชิมา ใกล้ท่าเรือและในสองเมืองจะประสบภัยพิบัติอย่างที่ไม่เคยเห็นกันมาก่อน ความหิวโหย โรคภัย จะเกิดขึ้นและผู้คนซึ่งถูกดาบฟาดฟันขับไล่ออกมาจะเรียกร้องขอความช่วยเหลือ จากพระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นอมตะ 9. การสละราชบัลลังก์ของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 กษัตริย์อังกฤษซึ่งกำลังจะสิ้นพระชนม์ ตั้งพระทัยมอบราชบัลลังก์ให้กับเจ้าชายหนุ่ม แต่เมื่อกษัตริย์สิ้นพระชนม์แล้ว ลอนดอนจะตั้งข้อพิพาทกับเจ้าชาย และจะเรียกร้องราชอาณาจักรคืนจากพระองค์ เนื่องจากไม่ทรงยินยอมทำการหย่าขาด ซึ่งเห็นกันว่าไม่เหมาะสม กษัตริย์แห่งเกาะใหญ่น้อยจึงทรงถูกบังคับให้สละราชบัลลังก์และผู้ที่ไม่ควร ได้เป็นกษัตริย์ได้ขึ้นครองบัลลังก์แทน (หมายถึงพระเจ้ายอร์ชที่ 6) 10. การเดินทางอากาศ เมื่อหมดโรคภัยแล้ว โลกจะแคบลง และจะสงบสุขไปเป็นเวลานาน ประชาชนจะเดินทางโดยปลอดภัยในท้องฟ้า ทางบก และทางทะเล และแล้วสงครามก็จะเกิดขึ้นอีก 11. สงครามทางอากาศ ตลอดคืน คนจะคิดว่าตนเห็นพระอาทิตย์ขณะที่เห็นคนครึ่งหมู (นักบินที่ใส่หน้ากากออกซิเจน) จะมีเสียงครึกโครม เสียงหวีดหวิว จะมีการต่อสู้ของสงครามในท้องฟ้า สัตว์ร้าย (นักบิน) จะพูดติดต่อกันได้ 12. พระเจ้าชาห์ และ โคไมนี ความอดอยาก และสงครามจะไม่มีวันสิ้นสุดในเปอร์เซีย ความเชื่อมั่นจนเกินไปจะทำให้กษัตริย์ถูกหักหลัง การดำเนินการที่เริ่มในฝรั่งเศสจะยุติที่นั่น และเป็นสัญญาณบอกเหตุว่าเขาจะต้องตาย 13. ท้องฟ้าจะถูกเผาผลาญ ณ องศาที่ 45 (เส้นรุ้ง 45-ที่ตั้งนครนิวยอร์ก) เพลิงจะพุ่งเข้าสู่เมืองใหม่ในบัดดล ดวงไฟใหญ่จะแตกกระจายทะลวงพุ่งขึ้นมา” ….“มาบัส (อุสมา บินลาเดน) จะตายในไม่ช้า จะมีการฆ่าหมู่คน และสัตว์อย่างสยดสยอง ทันใดนั้นการแก้แค้นจะปรากฏขึ้นจากร้อยแผ่นดิน (อเมริกา) ความกระหาย อดอยาก จะเกิดขึ้นเมื่อดาวหางโคจรผ่านมา…..” การไฮแจ็ค เครื่องบินพาณิชย์ที่บรรทุกผู้โดยสารร้อยกว่าชีวิตพุ่งเข้าชนเวิล์ด เทรดเซ็นเตอร์ ในกรุงนิวยอร์ก ตรงกับโคลงตีความว่ายามที่นอสตราดามุสมองเห็นเครื่องบินพุ่งเข้าใส่ตึกเวิล์ดเทรด ไม่แตกต่างไปจากหอกแหลมจากฟากฟ้าจะบินมาพร้อมกับลูกไฟ เพราะหัวของเครื่องบินที่มีปีกนั้น ดูเผินๆ ก็ไม่แตกต่างกับหอกขนาดยักษ์เท่าใดนัก (สมัยนอสตราดามุสไม่มีเครื่องบิน) เช่นเดียวกับการชนก็เกิดการระเบิดทันทีจนเป็นลูกไฟไปทั่วฟ้านั่นเอง ตามคำทำนาย การตายของบินลาเดน จะเป็นจุดสิ้นสุดของยุคสันติภาพ และจะเป็นสงครามที่ยิ่งใหญ่ และยาวนานกว่าทุกครั้ง โดยการแก้แค้นของพวกร้อยแผ่นดิน (United State) ซึ่งก็คือ สหรัฐนั่นเอง ส่วนอาวุธลับ ที่สหรัฐจะใช้จัดการกับขบวนการก่อการร้าย จนกระทั่งเกิดการตายอย่างมากมายนั้น นอสตราดามุสใช้คำว่า ดาวหางมาเยือน ดาวหางที่นอสตราดามุสเห็น น่าจะเป็นระบบโจมตี และป้องกันภัยทางอากาศ ที่สหรัฐใช้ในปัจจุบัน ตอนต่อไป ลองมาเทียบเคียง สิ่งที่ นอสตราดามุส ทำนาย กับสถานการณ์โลกปัจจุบัน ไปดูที่ https://www.facebook.com/topsecretthai/posts/291317027724998 @ เสธ น้ำเงิน3 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤศจิกายน 23, 2014 แฉ..ความลับ 7 hours ago · Edited วันที่ 20 พ.ย.57 เผย..นาทีเป็นนาทีตายของชาติ ยุทธนาวีที่เกาะช้าง ราชนาวีไทย กับเรือรบเกรียงไกรฝรั่งเศส ในสมัยโบราณยังมิได้มีการแบ่งแยกกำลังรบทางเรือออกจากทางบก จวบจนรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 (พระพุทธเจ้าหลวง) จึงเริ่มมีการแบ่งแยกกำลังรบทางเรือออกจากทางบก เมื่อครั้งเริ่มแรกตั้งกรมทหารเรือนั้น กิจการทหารเรือบางประเภท ยังขาดบุคคลที่มีความรู้ความชำนาญ จำเป็นต้องจ้างชาวต่างประเทศ เข้ามารับราชการตามตำแหน่งหน้าที่ต่างๆ อาทิ ผู้บังคับการเรือและผู้บัญชาการป้อมต่างๆ ปี พ.ศ. 2436 เกิดเหตุการณ์ภัยต่อความมั่นคงของชาติสยาม รศ.112 ที่เรือรบฝรั่งเศสบุกรุกผ่านปากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้ามา โดยป้อมต่างๆ ที่บังคับบัญชาโดยชาวต่างชาติไม่สามารถหยุดยั้งได้ สร้างความโทมมนัสให้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อย่างยิ่ง จนมีพระราชปรารภว่า "หากความเป็นเอกราชของกรุงสยามหมดสิ้นลงเมื่อใด ชีวิตของฉันก็คนหมดสิ้นลงเมื่อนั้น" หลังจากนั้น มีพระราชดำริว่า กิจการของทหารเรือเท่าที่อาศัยชาวต่างประเทศเข้ามาประจำตำแหน่งหน้าที่ต่างๆ นั้น ไม่อาจที่จะหวังในด้านการรักษาอธิปไตยของชาติได้ดีเท่ากับคนไทยเอง พระองค์มีพระราชประสงค์ให้จัดการศึกษาแก่ทหารเรือไทย ให้มีความรู้ความสามารถเพียงพอที่จะรับตำแหน่งหน้าที่ต่างๆ ในเรือแทนชาวต่างชาติที่จ้างไว้ต่อไป จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ส่งพระเจ้าลูกเธอหลายพระองค์ ไปศึกษาวิชาการทหารในต่างประเทศ และหนึ่งในนั้นให้พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระราชโอรส เสด็จไปทรงศึกษาวิชาการทหารเรือ ยังประเทศอังกฤษ ภายหลังจากที่ทรงสำเร็จการศึกษาวิชาการทหารเรือ และกลับมารับราชการในกรมทหารเรือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมทหารเรือ จัดการฝึกสอนวิชาการทหารเรือขึ้น โดยเริ่มตั้งโรงเรียนขึ้นครั้งแรกที่บริเวณอู่หลวงใต้วัดระฆัง ตรงข้ามท่าราชวรดิฐ สำหรับอบรมนายทหารชั้นประทวน หรือฝ่ายช่างกลและเดินเรือ ปี พ.ศ. 2434 ได้ตั้งโรงเรียนนายสิบขึ้น และในปี พ.ศ. 2440 ได้จัดตั้งโรงเรียนนายร้อยทหารเรือขึ้นอีกโรงเรียนหนึ่ง จนถึงปี พ.ศ. 2442 ได้จัดตั้งโรงเรียนนายเรือขึ้น สถานที่ตั้งโรงเรียนนายเรือครั้งแรก อยู่ที่วังนันทอุทยาน (สวนอนันต์) มีนาวาโทไซเดอลิน เป็นผู้บังคับการโรงเรียนนายเรือคนแรก ปี พ.ศ. 2443 เมื่อสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมจักรพรรดิพงศ์ สิ้นพระชนม์ พระราชวังเดิม กรุงธนบุรี ซึ่งเป็นที่ประทับได้ว่างลง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาพระราชทาน พระราชวังเดิม กรุงธนบุรี ให้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนนายเรือ ตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2443 เป็นต้นมา ต่อมาพระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ได้กลับมาปรับปรุงการทหารเรือไทย จนมีมาตรฐานทัดเทียมยุโรป แล้วกราบทูลเชิญเสด็จพระราชบิดามาเปิดโรงเรียน นับเป็นสถาบันการศึกษาแห่งแรกในระดับอุดมศึกษา ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเสด็จมาเปิดด้วยพระองค์เอง ยังความภูมิใจมาสู่ราชนาวีไทยทุกคน เมื่อ 108 ปีก่อน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงเสด็จพระราชดำเนินมาเปิดโรงเรียนนายเรือ ได้พระราชทานลายพระราชหัตถเลขาไว้ในสมุดเยี่ยมของโรงเรียนนายเรือ ความว่า “ วันที่ 20 พฤศจิกายน ร.ศ.125 (พ.ศ.2449) เราจุฬาลงกรณ์ ปร. ได้มาเปิด โรงเรียนนี้ มีความปลื้มใจได้เห็นการทหารเรือหยั่งรากลงแล้ว จะเป็นที่มั่นสืบไปภายหน้า ” พ.ศ.2483 รัฐบาลไทยได้เรียกร้องดินแดนแถบลุ่มแม่น้ำโขง ที่ถูกฝรั่งเศสยึดครองในสมัยรัชกาลที่ 5 กลับคืนมา แต่ฝรั่งเศสไม่ยอมคืนให้ อีกประการหนึ่ง ไทยมีอาณาเขตติดกับพื้นที่อินโดจีนของฝรั่งเศส กองทัพเรือจึงต้องจัดหมู่เรือเฉพาะกิจออกลาดตระเวณ บริเวณเกาะช้างและเกาะกูด เป็นประจำเพื่อพิทักษ์ คุ้มครองน่านน้ำไทย เวลา 35 ปีผ่านไป นับจากวันที่ รัชกาลที่ 5 ทรงเสด็จพระราชดำเนินมาเปิดโรงเรียนนายเรือ ในวันที่ 17 มกราคม พ.ศ.2484 เช้า เวลาประมาณ 0.60 น. เรือหลวงสงขลา (เรือตอร์ปิโดใหญ่) และ เรือหลวงชลบุรี (เรือตอร์ปิโดใหญ่เช่นกัน) ได้นำเรือออกลาดตระเวณคู่กันไปทางด้านใต้ของเกาะช้าง ขณะที่ทัศนวิศัยค่อนข้างเลวร้าย มืดคลึ้มไปด้วยเมฆฝนจนมองไม่ค่อยเห็น ทันใดนั้นเอง เครื่องบินทะเลของข้าศึกลำหนึ่งได้บินล่วงล้ำเข้ามาในเขตไทยเหนือเกาะช้าง เป็นอาณัติสัญญาณบอกให้รู้ว่า การทำสงครามกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว นักบินมองไม่เห็นเรือรบทั้งสองลำของไทย แต่ได้นำเครื่อง ปักหัวดิ่งต่ำลงบริเวณด้านใต้เกาะช้างพร้อมปล่อยระเบิด 2 ลูกถล่มหมายทำลายบ้านเรือน และทรัพย์สินของชาวบ้าน แต่ระเบิดทั้งสองลูกผิดเป้าหมายตกลงน้ำหมด ทัศนวิสัยเช่นนี้เป็นโอกาสของเรือรบทั้งสองลำ ได้ทำการกระหน่ำยิงไปยังเครื่องบินลำนั้น นัดหนึ่งถูกเข้าที่ปีกขวา เครื่องบินเสียการทรงตัว ดิ่งจมทะเลบริเวณด้านใต้ของเกาะหวาย กองเรือรบขนาดใหญ่ของฝรั่งเศส ประกอบด้วยเรือรบชนิดต่างๆ จำนวน 9 ลำ ก็ปรากฏขึ้นทางด้านตะวันตกของเกาะคลุ้ม โดยมีเรือลามอตต์ปิเกต์ เป็นเรือธง ติดตามด้วยเรือปืน 4 ลำ เรือสลุบ 2 ลำ เรือดำน้ำ 1 ลำ และเรือสินค้าติดอาวุธอีก 1 ลำ เรือฝรั่งเศส ลามอตต์ปิเกต์ ติดปืนชนิดต่างๆ เช่น 6.1 นิ้ว , 3 นิ้ว , ตอร์ปิโด 12 ท่อ ทหารประจำเรือ 577 นาย ส่วนเรือหลวงธนบุรี เล็กกว่ามาก มีระวางขับน้ำน้อยกว่าของฝรั่งเศสกว่า 3 เท่า ติดปืน 8 นิ้ว , 3 นิ้ว , 20 มม. ทหารประจำเรือ 234 นาย ส่วนเรือหลวงสงขลา และ เรือหลวงชลบุรี ขนาดเท่ากันมีระวางขับน้ำน้อยกว่าเรือฝรังเศสเกือบ 20 เท่า ทหารประจำเรือ 3 ลำ รวมกันเท่ากับ 458 นาย ข้าศึกแบ่งกำลังทางเรือออกเป็น 3 หมู่ แล่นมาทางด้านตะวันตกของเกาะคลุ้ม แล่นผ่ากลางระหว่างเกาะคลุ้มกับเกาะหวาย มีลามอตต์ปิเกต์ เพียงลำเดียว เร่งฝีจักรมุ่งหน้ามาทางด้านใต้ของเกาะหวาย ส่วนเรือดำน้ำ กับเรือสินค้าติดอาวุธนั้นไม่ได้เข้าร่วมรบ จอดเรือดูเชิงอยู่ด้านนอกห่างๆ เรือรบข้าศึกฝรั่งเศส แล่นเข้ามาสมทบใกล้เข้ามาทุกขณะ ทัศนวิสัยยังคงเลวร้ายอยู่เช่นเดิม ฝ่ายข้าศึกจึงยังมองไม่เห็น เรือรบของไทยทั้ง 2 ลำ จึงยิงโจมตีเรือฝรั่งเศส ลามอตต์ปิเกต์ทันที กระสุนปืนใหญ่ตกข้างเรือลามอตต์ปิเกต์ เสียงปืนจากเรือของไทย ทำให้เรือรามอตต์ปิเกต์รู้ตำแหน่งของเรือรบทั้งสอง จึงหันมาระดมยิงตอบโต้ ในเวลาไล่เลี่ยกันเรือข้าศึกอีก 2 หมู่ก็เข้าร่วมสมทบ จึงเป็นการสู้ระหว่างเรือไทย 2 ลำต่อฝรั่งเศส 7 ลำ ซึ่งเสียเปรียบเป็นอย่างยิ่ง เฉพาะแค่เรือใหญ่ ลามอตต์ปิเกต์ ของฝรั่งเศสเพียงลำเดียว ก็มีระวางขับน้ำมากกว่า เรือหลวงขนาดเล็กของไทย รวมกันถึงกว่า 10 เท่าเข้าไปแล้ว ข้าศึกฝรั่งเศส กระจายเรือรบทั้ง 7 ลำ ตีวงโอบล้อมเรือรบไทยทั้งสอง (ร.ล.สงขลา และ ร.ล.ชลบุรี) ไว้รอบด้านแล้วระดมยิงเข้ามา แม้ว่าจะเสียเปรียบทั้งทั้งขนาดของเรือ ทั้งจำนวนอาวุธและกำลังพลเพียงใด ทหารเรือไทยก็ไม่ย่อท้อหรือถอย ปืนทุกกระบอกที่มีบนเรือสู้ยิบตา ระดมยิงไปยังเรือใหญ่ข้าศึก ลามอตต์ปิเกต์ และลำอื่นๆอย่างไม่ขาดสาย โดย ร.ล.ชลบุรี แยก เข้าทำการรบกับเรือปืนและเรือสลุบของฝรั่งเศสอีกถึง 6 ลำ ในที่สุดความพยายามของ ร.ล.สงขลา ก็สัมฤทธิ์ผล เมื่อกระสุนปืนใหญ่ เจาะทะลวงเข้าบริเวณหัวเรือฝรั่งเศส ลามอตต์ปิเกต์อย่างจังเกิดไฟลุกท่วมควันโขมง เสียงเฮดังลั่น ขวัญและกำลังใจของทหารเรือไทยก็ทวีมากขึ้น ได้ยิงปืนกระหน่ำซ้ำอย่างหนักหน่วงหวังจะจมเรือ ลามอตต์ปิเกต์ให้จงได้ แต่ก็เหมือนเด็กไปสู้กับผู้ใหญ่ อำนาจปืนของ ร.ล.สงขลา ไม่สามารถจมลามอตต์ปิเกต์ได้ แม้ว่าจะกระหน่ำยิงซ้ำอย่างไรก็ตาม ด้าน ร.ล.ชลบุรี แม้ต้องประจัญบานกับเรือรบฝรั่งเศสถึง 6 ต่อ 1 ก็หาได้หวั่นเกรงไม่ ยังคงยิงสู้กับข้าศึกอย่างถวายหัว ไม่หลบหนีไปไหน แม้จะถูกล้อมระดมยิงแทบตั้งตัวไม่ติด แต่แล้วโชคเข้าข้าง เมื่อกระสุนปืนใหญ่สองนัดของ ร.ล.ชลบุรี ทะลวงเข้ากลางปล่องของเรือสลุบข้าศึกลำหนึ่ง ยังผลให้เรือลำนั้นเบนหัว ผละหนีออกจากยุทธนาวีทันที แต่ลำอื่นๆ ก็ยังระดมยิงหนักหน่วงยิ่งกว่าเดิม และอีกครั้งกระสุนปืนใหญ่ของ ร.ล.ชลบุรีได้ทะลวงเข้าเรือปืนลำที่สอง กลางลำเกิดการระเบิดอย่างรุนแรง ไฟลุกท่วมตอนกลางลำ ซึ่งปรากฏว่าเรือทั้งสองลำนี้ได้จมลงกลางทะเลลึก ระหว่างติดพัน ร.ล.ชลบุรี ได้พยายามยิงซ้ำเรือทั้งสองต่อไปหมายจะเผด็จศึกให้จงได้ แต่เรือข้าศึกลำอื่นได้เข้ามาขัดขวางช่วยเหลือไว้ หมู่เรือรบฝรั่งเศสที่เหลือ ยังคงตั้งป้อมรุมยิงรุกไล่เรือรบไทยอย่างไม่หยุดยั้ง ในที่สุดเรือรบไทยทั้งสองหลบจนมุมอยุ่ทางด้านใต้ของเกาะช้าง แต่ก็ยังยิงต่อสู้อย่างไม่ลดละ ด้วยปืนขนาดเล็กแค่ 6 กระบอกเท่านั้น ในที่สุด ร.ล.สงขลา ก็ถูกกระสุนปืนของเรือฝรั่งเศส ลามอตต์ปิเกต์บริเวณท้ายเรือ พลปืนเสียชีวิตทันที ไฟลุกไหม้ขึ้นในลำเรือหลายแห่ง ทหารเรือเริ่มล้มตายเพิ่มขึ้น แต่ปืนของ ร.ล.สงขลา ยังทำการยิงตอบโต้อย่างไม่ลดละ เวลาผ่านพ้นไป ดวงอาทิตย์เริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ฝ่ายข้าศึกเริ่มมองเห็นฝ่ายไทยถนัดขึ้นตามลำดับ ร.ล.ชลบุรี จึงเริ่มโดนกระสุนปืนบ้างแล้ว นัดแรกทะลวงเข้าที่สะพานเดินเรือ เสาเรือหักสะบั้น ไฟลุกท่วมไปถึงหอบังคับการ เรือรบไทยทั้งสองลำ บอบช้ำมากขึ้นทุกที ไม่มีทีท่าว่าจะดับไฟสำเร็จ ขณะเดียวกันข้าศึกก็ยิ่งระดมยิงซ้ำเติม จุดสำคัญๆ หลายแห่งทั่วลำเรือทั้งสอง ทหารเรือไทยบาดเจ็บล้มตายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ก้ไม่มียอมถอดใจ อึดสู้สุดชีวิต ร.ล.สงขลา น้ำทะลักเข้าเรือมากขึ้นทุกที จนสุดจะเยียวยาได้ จำต้องสละเรือใหญ่โดยคำสั่งของผู้บังคับการเรือ และนำเรือเล็ก (เรือโบ๊ต) ปล่อยลงน้ำอย่างฉุกละหุก และฉุกเฉินแข่งกับเวลาทหารเรือที่ได้รับบาดเจ็บทั้งสาหัส และไม่สาหัส ถูกลำเลียงลงเรือก่อน แต่เรือไม่พอกับจำนวนคน ทหารเรือที่เหลือต้องว่ายน้ำเข้าหาฝั่งอย่างทุลักทุเล เรือรบฝรั่งเศส ได้นำเรือใหญ่พุ่งเข้ามาใกล้แล้วใช้ปืนกลยิงกราดยิงทหารเรือไทยที่บาดเจ็บ ในเรือลำเล็ก และยังยิงซ้ำทหารที่ว่ายน้ำเข้าหาฝั่งตายไปหลายนาย ส่วน ร.ล.ชลบุรี ก็ถูกระดมยิง จนบอบช้ำใกล้ถึงจุดอวสานเช่นกัน จนนาทีสุดท้ายน้ำมันไหลท่วม คลังลูกปืนเกิดระเบิดขึ้นไฟลุกไหม้ท่วมลำเรือ ผู้บังคับการเรือสั่งสละเรือใหญ่ แต่โชคยังดี ที่จมไม่ห่างจากฝั่งมากนัก ทหารประจำเรือจึงสามารถพาเอาตัวหลบรอดจากกระสุนของฝ่ายข้าศึกมาได้เป็นส่วนใหญ่ การสู้รบกันนี้กินเวลาราว 40 นาที ทหารเรือไทย ได้ต่อสู้มาอย่างทรหด ในระหว่างที่มีการต่อสู้อยู่นั้น ร.ล.ธนบุรี ซึ่งกำลังลาดตระเวนอยู่บริเวณเกาะลิ่ม ได้ยินเสียงปืนกึก้องมาจากทางด้านใต้ของเกาะช้าง จึงรีบนำเรือไปยังจุดปะทะทันที พร้อมกับส่งข่าวให้กองทัพเรือทราบโดยด่วน เสียงแตรสัญญาณประจำสถานีรบ ดังลั่นทั่วลำเรือ แม้ว่าแสนยานุภาพของเรือจะด้อยกว่า เรือฝรั่งเศส ลามอตต์ปิเกต์ หลายเท่าตัวแต่อาวุธปืน 8 กระบอก พร้อมทหารประจำเรือ 234 นาย ก็นับว่าเป็นเรือที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย น่าเกรงขามพอสมควรในสมัยนั้น ทันทีที่แล่นมาถึงบริเวณด้านเหนือของเกาะไม้ชี้ใหญ่ เรือข้าศึก ลามอตต์ปิเกต์ ได้ปรากฏตัวทางด้านใต้ เมื่อเจอหน้ากันจังๆ ปืนเรือจากทั้งสองฝ่าย ได้ระดมสาดห่ากระสุนเข้าใส่กันไม่ยั้งหูดับไหม สนั่นหวั่นไหวไปทั่วท้องน้ำ เพียงครู่เดียว กระสุน 8 นิ้ว ทั้งสองกระบอก ของ ร.ล.ธนบุรี ก็ยิงเจาะเข้าที่สะพานเดินเรือข้าศึกได้อย่างแม่นยำ ฝ่ายเรือฝรั่งเศส ลามอตต์ปิเกต์ ก็ตอบโต้ด้วยอาวุธทุกชนิดที่มีอยู่ ตอร์ปิโด 3 ลูก ถูกปล่อยพุ่งเข้าใส่ ร.ล.ธนบุรี แต่ทหารเรือไทยได้เบนหัวเรือหลบไปทางขวาอย่างสุดความสามารถ ฝ่ายฝรั่งเศส ระดมยิงปืนใหญ่เข้ามาซ้ำ กระสุนนัดหนึ่งทะลวงเข้าใต้สะพานเดินเรือระเบิดเข้าไปในหอบังคับการ ผู้บังคับการเรือไทย ถูกสะเก็ดระเบิดเท้าขาดเสียชีวิตทันที เรือฝรั่งเศส ผู้รุกราน ยังคงระดมยิงกระสุนเข้าใส่เรือไทย แรงระเบิดจากกระสุนใด้ทำให้เครื่องท้ายขัดข้อง เรือแล่นหมุนเป็นวงกลมหลายรอบ ทหารเรือไทยใช้หางเสืออะไหล่ถือแทนท้าย ก็ไม่สามารถบังคับเรือได้ แต่ก็อึดสุดชีวิต พยายามใช้หางเสืออะไหล่ต่อไปเรื่อยๆ แม้ว่าตนเองจะได้รับบาดเจ็บอยู้ก็ตามที สถานการณ์ตอนนั้น ร.ล.ธนบุรี กลายเป็นเป้าหนิ่ง ให้ข้าศึกระดมยิงได้ง่ายยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเรือปืน และเรือสลุบของฝรั่งเศส ได้จมเรือสงขลาและชลบุรี ก็เข้ามาสมทบกับเรือใหญ่ ลามอตต์ปิเกต์ จึงยิ่งกลายเป็นการต่อสู่แบบ 1 ต่อ 7 ทันที ร.ล.ธนบุรี แม้ว่าเครื่องถือท้ายจะใช้การไม่ได้แล้ว แต่ปืนทุกกระบอกยังแผดเสียงกึกก้องกัมปนาท ทหารเรือไทยล้มตายไปทีละคน แต่คนที่เหลือก็ยังคงสู้ต่อไปอย่างไม่กลัวเกรง และไม่สนใจห่าลูกปืนของฝรั่งเศส ในที่สุด เรือใหญ่ของฝรั่งเศส ลามอตต์ปิเกต์ถูกกระสุนปืนของ ร.ล.ธนบุรี เจาะเข้าหลายแห่งเสียงระเบิดดังกึกก้อง กัมปนาท รีบหลบฉากถอยหลบลับเกาะไม้ชี้ แล้วปล่อยให้เรือปืนกับเรือสลุบลำอื่นของฝรั่งเศส เข้ามาระดมยิงแทน ช่วงนี้ ร.ล.ธนบุรี ไฟไหม้ลุกลามไปจนถึงหบังคับการ และสะพานเดินเรือ การติดต่อจากท่อพูดและการควบคุมการยิงจากหอบังคับการจึงถูกตัดขาดด้วย กระสุนข้าศึก ควันไฟ และเปลวเพลิงคละคลุ้ง ขโขมงไปทั่วลำเรือ ทหารเรือเกือบทุกคนสำลักควันไปตามๆกัน ไม่นานัก เจ้าเรือใหญ่ ลามอตต์ปิเกต์ ก็กลับมาปรากฏตัวอีกครั้ง พร้อมระดมยิง ร.ล.ธนบุรี ต่อไป พร้อมด้วยกระสุนเพลิง และก๊าซพิษเข้าใส่ ร.ล.ธนบุรี ทหารเรือไทยต่างหายใจไม่ออก และแสบตาไปหมด ทหารบางนายถูกไฟคลอกจนเกรียมไหม้ไปทั้งตัว ร.ล.ธนบุรี ตกอยู่ในสภาพเลวร้ายยิ่งขึ้นตามลำดับ แม้ว่าจะตกอยู่ในสถาพเลวร้ายเพียงใด ทุกคนที่เหลือรอดก็ไม่สน ยังทำการสู้รบต่อไป พลปืนยังคงยิงโต้ตอบตลอดเวลา เวลาต่อมาเครื่องบินของทหารอากาศไทยลำหนึ่ง ปรากฏอยู่เหนือท้องฟ้าเพื่อเข้าช่วยเหลือ แต่ด้วยเพราะทัศนวิสัยเลวร้าย และไม่มีเครื่องมือสื่อสารติดต่อกับ ร.ล.ธนบุรี ประกอบกับอยู่ในระหว่างต่อสู้เปลวไฟ และควันคุ้งไปทั่วบริเวณทำให้นักบินเข้าใจผิด ทิ้งระเบิดเข้าใส่ ร.ล.ธนบุรี ระเบิดตกลงที่ห้องสูทกรรม ทหารเสียชีวิตทันที 3 นาย ห้องนายทหารและห้องพันจ่า ถูกระดมยิงเสียหายอย่างหนัก กระสุนนัดหนึ่งเจาะทะลวงเข้าไปในห้องส่งกระสุนป้อมปืนท้าย ความจริงดินปืนต้องระเบิดเรือไปทั้งลำ แต่กระสุนนัดนี้ได้ไปตัดแขนขวาของ พลลำเลียงกระสุน ขาดกระเด็นเสียก่อน การระเบิดจึงไม่เกิดขึ้น ร.ล.ธนบุรี ยังจึงยังคงระดมยิงใส่ลามอตต์ปิเกต์อย่างไม่หยุดยั้ง กระสุนนัดหนึ่งทะลวงเข้าบริเวณป้อมปืนท้ายอย่างจัง เสียงระเบิดแผดดังสนั่นหวั่นไหวอย่างไม่ขาดระยะ ไฟลุกไหม้อย่างหนัก ท้ายเรือทลุดฮวบลงแปล้ปลิ่มน้ำ เรือลามอตต์ปิเกต์ เสียหายอย่างหนักกลับลำเลี้ยวขวาบ่ายหน้าหนี ออกจากบริเวณยุทธภูมิทันที พร้อมชักธงสัญญาณให้ลำอื่นหนีตามไปด้วย ร.ล.ธนบุรี ยังระดมยิงไล่หลังหมู่เรือข้าศึกอย่างหนักหน่วง จนกระทั่งเสียงปืนทุกกระบอกยุติลง รวมเวลาการต่อสู้นานถึงสองชั่วโมงเศษ ร.ล.ธนบุรี ไฟไหม้ตลอดลำ ทหารเรือทุกนายที่เหลือต่างช่วยกันดับไฟแต่ไม่สำเร็จ แม้ว่า ร.ล.ช้าง ได้เข้าช่วยดับไฟก็ตาม เกรงว่ากระสุนดินปืนใต้ท้องเรือจะเกิดการระเบิด จึงให้ ร.ล.ช้าง จูงไปเกยตื้นที่แหลมงอบ จ. ตราด ชาวบ้านร่วมกับทหารเรือช่วยกันดับไฟจนสำเร็จ ต่อมา ร.ล.ธนบุรี ใด้จมลงในลักษณะตะแคงทางกราบขวา กราบซ้ายโผล่พ้นน้ำขึ้นมา ยุทธนาวีที่เกาะช้างได้ยุติลง กองทัพเรือไทยสูญเสียเรือรบไป 3 ลำ กับทหารประจำเรือ 36 นาย เป็นการสูญเสียที่ควรค่าแก่การจดจำ ยกย่อง สรรเสริญ แด่วีระชนผู้กล้า ซึ่งปวงชนชาวไทยควรระลึกถึงและเทิดทูน วีรกรรมอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้ ฝรั่งเศสก็คงทราบซึ้งเป็นอย่างดี ถึงกับออกอากาศกระจายเสียงทางสถานีวิทยุที่ไซ่ง่อน เมื่อวันถัดจากยุทธนาวี คือ วันที่ 18 ม.ค. 2484 มีใจความว่า “เราขอสดุดีการต่อสู้อย่างทรหดอดทน ของทหารเรือไทย ไว้ ณ ที่นี้ด้วยและจะจดจำใว้ไม่มีวันลืม เราขอน้อมสักการะ แด่ดวงวิญญาณของทหารเรือไทย ที่สิ้นชีพจากการต่อสู้อย่างสมเกียรติชายชาติทหารเพื่อบ้านเกิดเมืองนอนของเขา” เป็นอีกวันหนึ่งที่ประวัติศาสตร์ชาติไทยต้องจารึกไว้ เป็นหลักฐานให้นักรบและอนุชนรุ่นหลังได้ทราบและภาคภูมิใจ ว่าบรรพบุรุษของทหารเรือผู้กล้าหาญ ต่างก็ได้ยอมสละชีวิตอันมีค่าของตนเพื่อปกป้องแผ่นดินไทย สมเป็นชายชาติทหารอย่างแท้จริง บรรพบุรุษทหารเรือไทยได้สร้างวีรกรรม ทางทะเลอันยิ่งใหญ่เกรียงไกรขึ้นที่บริเวณเกาะช้าง จังหวัดตราด เพื่อปกป้องเอกราชและอธิปไตยของชาติไทย ด้วยหัวใจของนักรบอันกล้าแกร่งห้าวหาญ แม้ต้องเสียเลือดเนื้อและชีวิตเป็นชาติพลี ด้วยความเสียสละอันสูงสุดในชีวิตโดยการนำเรือรบเข้าประจัญบาน กับข้าศึกผู้รุกรานจากต่างแดน อย่างทรหดอาจหาญ สมเกียรตินักรบไทย ควรแก่การเทิดทูนไว้ในฐานะวีรชน การยุทธนาวีที่เกาะช้างแห่งนี้ ลือลั่นกระฉ่อนโลกในสมัยนั้นเลยทีเดียว เนื่องจากสามารถสยบชาติมหาอำนาจทางทะเล จนหมดขีดความสามารถที่จะเข้ายึดครองหัวเมืองสำคัญทางชายทะเลของไทยไว้ได้ นี่คือตัวอย่าง ผลสำเร็จของรากแก้วที่หยั่งลง ผลจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 จึงปรากฏผลเมื่อเกิดเหตุการณ์ยุทธนาวีที่เกาะช้าง..พระมหากษัตริย์ไทย และบรรพบุรุษ ทหารไทย ได้ปกป้องแผ่นดินนี้มาด้วยเลือดเนื้อและชีวิต บรรพบุรุษทหารที่กล้าหาญของไทย ได้เคยกระทำไว้เพื่อรักษาแผ่นดินไทย ให้ดำรงความเป็นเอกราชตราบเท่าทุกวันนี้ วีรกรรมของพวกเขาเหล่านั้น ได้นำเอกราช และศักดิ์ศรี มาสู่ประเทศไทยจนตราบถึงทุกวันนี้ พวกที่จะมาป่วนก่อม็อบชู 3 นิ้ว , เข้าชื่อขอยกเลิกกฎอัยการศึก , สื่อแดง ที่โจมตีให้ร้ายทหารไทย ขบวนการล้มเจ้าที่ก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง หรือพวกที่นัดก่อม็อบเช้าวันที่ 25 พ.ย.57 ที่ประตู 1 ทำเนียบรัฐบาล ขอให้คิดถึงบรรพบุรุษทหารที่เสียสละชีวิตในอดีตด้วย.. ว่าเขาเอาชีวิตตนเองต่อสู่กับประเทศประชาธิปไตยจนตัวตายมาแล้ว.. เพราะรักษาความสงบสุขของชาติไว้ในลูกหลาน แล้วคนรุ่นปัจจุบัน จะไปทำลายความสงบสุขของประชาชนในชาติเสียทำไม !! @ เสธ น้ำเงิน3 https://www.facebook.com/topsecretthai "กติกา" โปรดงดออกความเห็นในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในตอนนี้ /นำข่าวลือเขาว่ามาโพส / ลิ้งใดๆ ทุกชนิด / คำหยาบ / ป่วน / ข้อความจากแหล่งอื่นที่ทำให้เกิดความสับสนในเนื้อหา / ภาพ / การให้ร้ายดูหมิ่นเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกพิจารณาบล็อกเข้าเพจนี้ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น