ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ธันวาคม 27, 2014 สนุก ยืดกาย พักจิต อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ธันวาคม 27, 2014 เริงระบำ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ธันวาคม 29, 2014 แฉ..ความลับ added 9 new photos — with มนัสนี เสนบัว and 3 others. Yesterday at 3:21am · Edited · วันที่ 23 ธ.ค.57 ฉีกหน้า..สื่อที่เป็นเสี้ยม แต่ดันกลายเป็นส้วมเก่าๆ ไร้คุณค่า ขวัญและกำลังใจ แม้ว่าเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น และวัดได้ยาก แต่ก็สามารถรู้สึกรับรู้ได้ และสังเกตได้ นอกจากนั้นขวัญและกำลังใจ ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ หรือความล้มเหลวได้ โดยแสดงออกมาเชิงพฤติกรรม ในรูปแบบของพลังรวมกลุ่มที่จะทำงานให้บรรลุเป้าหมาย ในกรุงเทพมีอยู่ถนนหนึ่ง ชื่อ “ถนนเรารักในหลวง” หรือซอยสุขุมวิท 24 ที่มาของชื่อถนนแห่งนี้ เริ่มต้นจากนักธุรกิจคนหนึ่ง ในฐานะเจ้าของซอยสุขุมวิท 24 เป็นถนนส่วนบุคคล แต่ภายหลังที่ได้ดำเนินชีวิต ตามรอยเบื้องพระยุคลบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จนประสบความสำเร็จ แล้วเขาเกิดความศรัทธาในใจ ที่ในหลวงทรงเหนื่อยกว่าใคร ในการรักษาแผ่นดินให้คนไทยได้อยู่อย่างสบาย เขาจึงเห็นว่า เ มื่อแผ่นดินไม่ใช่ของเรา ถนนนี้ก็ไม่ใช่ของเรา แต่เป็นของในหลวงพระองค์ท่าน จึงเปิดถนน และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “ถนนเรารักในหลวง” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ซึ่งนับเป็นถนนแรกในประเทศไทยที่ใช้ชื่อนี้ โดยคนในซอยสุขุมวิท 24 ต่างยินดีพร้อมใจให้เปลี่ยน และเห็นได้ชัดเจนว่า ตั้งแต่เปลี่ยนชื่อมาเป็นถนนเรารักในหลวง “สิ่งดีๆ เกิดขึ้นมากมาย เช่น การที่ทุกคนรักษาความสะอาดในพื้นที่ตัวเองมากขึ้น หรือ ร่วมใจกันทำในสิ่งดีที่เป็นประโยชน์แก่บ้านเมืองและส่วนรวม"...นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งของขวัญและกำลังใจ พ.ศ. 2506 โผน กิ่งเพชร (ชื่อเล่นแกละ) นักมวยไทย ชกป้องกันแชมป์โลก มวยรุ่นฟลายเวท ทั้งในหลวงและสมเด็จย่าฯ เสด็จมาถึงก่อนกำหนดเวลา แต่ไม่สามารถเข้าไปถึงเวทีมวยได้ เพราะฝูงชนแห่กันมาเต็มสนาม และล้นออกมารอบๆ จนแทบจะเกิดจราจล ในหลวงจึงพาสมเด็จย่า กลับไปส่งที่สวนจิตรลดา แล้วพระองค์เสด็จกลับมาใหม่พระองค์เดียว แจ้งให้ตำรวจเพียงนายเดียว นำเปิดทางพระองค์ท่านฝ่าฝูงชนเข้าไปเชียร์ นั่งในยิมเนเซียม 1 โดยไม่ต้องเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมี เวลาเสด็จเข้าไปในสนาม ทรงเข้ามาอย่างเงียบๆ และได้ที่นั่งธรรมดาๆ ที่แวดล้อมไปด้วยแฟนมวย ตอนนั้นผ่านมา 6 ยกแล้ว โผนกำลังถูก ฮาราด้า นักชกหนุ่มจากญี่ปุ่น ไล่ชกจนเกือบจะล้มลงกับพื้น ในกลางยกที่ 7 นั้นเอง มีผู้ตะโกนขึ้นว่า " ไอ้แกละ...ในหลวงมาแล้ว " เมื่อโผน ได้ทราบว่าในหลวงเสด็จมาแล้ว ก็ฮึกเหิมมีกำลังใจมหาศาล เรี่ยวแรงคืนมา กลายเป็น โผน กิ่งเพชร คนเดิม ที่มีจังหวะและฝีมือ ที่เหนือกว่า หลอกล่อชกใบหน้า ฮาราด้า นักชกญี่ปุ่น จนโผนแทบจะเป็นผู้ชกอยู่ข้างเดียว จนครบ 15 ยก โผน กิ่งเพชร หรือ ไอ้แกละ จึงชนะคะแนนไป ป้องกันแชมป์โลก มวยรุ่นฟลายเวทไว้ได้ เพราะเพียงคำตะโกรคำเดียวว่า " ไอ้แกละ.....ในหลวงมาแล้ว " ที่ทำให้ โผน ชนะได้ ขวัญและกำลังใจของคนในชาตินั้น มีความจำเป็นต้องมีผู้นำที่เข็มแข็ง และมีคุณธรรม เมื่อย้อนดูภาวะผู้นำ ของคนแดนไกล อดีตนายกฯ ที่แสนคดโกงในขณะนั้น เขาเข้าไปดูทีมชาติไทยฟาดแข้งเกมส์ฟุตบอลกับ ทีมชาติเกาหลีเหนือ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ปรากฏว่าผลการแข่งขันออกมาเป็นลบ ทีมไทยถูกถล่มยับ 4-1 ทำเอาคนแดนไกล ควันออกหู ด่ากราดยับ เพราะไม่พอใจที่โค้ชไทยนำนักฟุตบอลไปเก็บตัวไกลถึงเชียงใหม่ คนแดนไกล เชื่อว่าจะส่งผลให้นักกีฬาไทยอ่อนล้า และพ่ายแพ้ไป ทำให้ทีมฟุตบอลไทยอดไปบอลโลก พร้อมกับขู่ว่าจะปฏิวัติวงการฟุตบอลไทยด้วยตัวเอง..โถ ทีมเกาหลีเหนือ เขาเข้าขั้นลำดับโลกแล้ว คนแดนไกล ที่กำลังบ้าอำนาจเหมือนปรีดี และคณะราษฎร จึงด่ากราดด้วยวาจาดุเดือด หยาบคาย สมัยนั้นเขาจึงถูกนักฟุตบอลอย่าง “ซิโก้” ตอกกลับว่า “คนแดนไกล ดูบอลไม่เป็น ไม่ใช่ธุรกิจ ที่อะไรจะง่ายดังใจหวัง “ ยิ่งทำให้กระแสคนแดนไกลในช่วงนั้นเริ่มตกลงมาลงมา คนเสื้อแดงจึงอิจฉาซิโก้ ตั้งแต่นั้นมาจนบัดนี้ เมื่อถึงยุค บิ๊กตู่ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ด้วยความที่เป็นทหารจึงมีน้ำใจเป็นนักกีฬา ได้ประกาศให้กำลังใจล่วงหน้า ก่อนนักเตะไทย ช้างศึก จะลงแข่งขันกับเสือเหลือง มาเลเซีย และเมื่อวันแข่งขันจริง แม้ไทยตามหลัง คนไทยจำนวนมากก็อาจไม่ทราบว่า บิ๊กตู่ ก็เป็นอีกคนหนึ่ง ที่โทรศัพท์ไปให้กำลังใจ ส่งแรงใจไปให้นักเตะด้วยตัวเอง ระหว่างช่วงช้างศึกพักครึ่ง สกอร์ทีมไทย ตามหลังมาเลย์เซีย 2 - 0 ทำเอาครึ่งหลัง นักเตะไทยได้กำลังใจจากผู้นำประเทศ นี่ก็เป็นตัวอย่างแสดงให้เห็นภาวะผู้นำประเทศ 2 คน ที่ต่างกันแบบฟ้ากับดิน คนแดนไกล ใช้วิธีด่าทอซ้ำเติมนักกีฬา แต่บิ๊กตู่ ใช้วิธีกระตุ้นโดยให้กำลังใจ เมื่อจบการแข่งขันแล้ว บิ๊กตู่ ก็มอบรางวัลให้กับนักกีฬา เป็นจำนวนเงิน 5 ล้านบาท เงินจำนวนนี้ ทำให้เสื้อแดงที่เป็นกลุ่มคนที่ไม่เคยรักชาติ เหน็บแนมว่าให้เยอะไป และเป็นภาษีของประชาชน... โถ นักกีฬาทุกคนกว่าเขาจะคว่าชัยชนะครั้งนี้ได้ ทั้งผู้จัดการ โค๊ช ต้องพยายามกันมานานถึง 12 ปี กว่าจะประสบผลสำเร็จ สร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติขจรไปไกล คนไทย “ที่รักชาติ” ทุกคนมีความสุข มีแต่รอยยิ้มและเสียงเฮฮา อีกทั้งเป็นตัวอย่างให้เยาวชนไทยรุ่นหลัง ให้เกิดแรงบันดาลใจ ที่จะทำแบบรุ่นพี่บ้าง.. ทีคนแดนไกล แก๊งค์เผาไทย สั่งให้ชายชุดดำก่อการร้าย นปช.ไปยิงหัวคนเสื้อแดง เสียเละกระจุย ตั้งหลายสิบคน เมื่อปี 2553 มีการเผาบ้าน เผาเมือง ในกรุงเทพ และต่างจังหวัดไปทั่ว สร้างความหดหู่ และคราบน้ำตาให้คนไทย “ที่รักชาติ” แต่เมื่อแก๊งค์เผาไทย เป็นรัฐบาล กลับมางุบงิบเอาภาษีคนทั้งชาติ ไปจ่ายให้ญาติคนเสื้อแดงคนละ 7.5 ล้านบาท หน้าตาเฉย ** เรื่องเดิม ไขปริศนาโลกตะลึง ใครฆ่า 6 ศพวัดปทุมปี 2553 คลิ๊กไปที่https://www.facebook.com/media/set/… โดยไม่เคยถามคนไทยทั้งชาติสักคำว่าเขายอมไหม หมดเงินครั้งนั้นไปเกือบ 1,000 ล้านบาท ภาษีล้วนๆ ไม่มีเงินส่วนตัวจากกระเป๋า คนจ้างเผา จ้างยิง กระเด็นไปถึงญาติเสื้อแดงสักบาท ทีเรื่องที่ไม่เป็นมงคลกับชาติแบบนี้ คนเสื้อแดงเงียบ แสดงออกถึงความไม่รักชาติกันล้วนๆ เมื่อมีนักกีฬาที่เป็นตัวแทนของคนไทยทั้งชาติ ไปแข่งขันเพื่อชื่อเสียงของประเทศ ก็จะมีคนไทยทั้งในประเทศ และต่างประเทศ “ที่รักชาติ” ส่งแรงเชียร์ เสมือนประหนึ่งว่าตนเองเป็นผู้เล่นเสียเองไปด้วย เพราะยามใดที่ธงชาติไทยโบกสะบัด และเสียงเพลงชาติกู่ก้องขึ้น มันทำให้คนไทยทุกคน “ที่รักชาติ” ขนลุกเกรียว ยืดอกผึ่งผาย ด้วยความภาคภูมิใจ แบบซื้อไม่ได้ด้วยเงิน ในเกมส์การแข่งขันวันนั้นในหลวง ทรงมีพระเมตตา ดูการแข่งขันฟุตบอลระหว่างไทย-มาเลย์ นั้นด้วย โดยในหลวงทรงติดตาม และทรงใส่พระราชหฤทัย ในการแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทย มาตลอด คราวที่แข่งชิงแชมป์กับมาเลเซียนัดแรก พระองค์ก็ทรงติดตามทอดพระเนตรการถ่ายทอดสด แต่ทรงทอดพระเนตรครึ่งหลังช่วงเดียว พอนัดที่ 2 ที่ทีมช้างศึกของไทยไปแข่งที่มาเลเซีย ทางทีมแพทย์ได้กราบบังคมทูลว่าจะมีแข่งในเวลา 19.00 น. ในหลวงก็บรรทมไปช่วงหนึ่ง และก็ทรงตื่นบรรทมเอง ในช่วง 19.00 น. พอดีแล้วก็ทรงรับสั่งให้เปิดทีวี เพื่อจะทอดพระเนตรฟุตบอล แสดงให้เห็นถึงความตั้งพระราชหฤทัยจริงๆ ระหว่างที่ทอดพระเนตรเกมส์การแข่งขันอยู่นั้น พอจบครึ่งแรก ทีมไทยถูกทีมมาเลยเซียยิงประตูนำไป 2-0 พระองค์ก็ทรงรับสั่งให้ไปตามรองราชเลขาธิการ ซึ่งอยู่ที่ตึกเฉลิมพระเกียรติ มาเข้าเฝ้าฯ แล้วก็มีรับสั่งให้โทรไปที่ผู้จัดการทีมฟุตบอลไทย ที่ห้องพักนักกีฬา ในสนามกีฬาแห่งชาติ บูกิตจาลิล ของมาเลเซีย และรับสั่งว่า "เราติดตามฟุตบอลอยู่ ขอส่งกำลังใจไปให้" ซึ่งเป็นพระมหากรุณาธิคุณ ที่ท่านทรงห่วงใย ว่าเหมือนทีมฟุตบอลไทยจะเพลี่ยงพล้ำ ทางรองราชเลขาธิการจึงได้โทรไปหา เกษม ผู้จัดการทีม แต่เนื่องด้วยมีสายโทรเข้าไปจำนวนมาก ผู้จัดการทีมจึงไม่ได้รับ รองราชเลขาธิการจึงส่งข้อความแจ้งให้โทรกลับ เมื่อผู้จัดการทีม มาเห็นข้อความก็รู้สึกตื่นเต้น ประหม่า และทำอะไรไม่ถูก จึงต้องให้คนอื่นมาช่วยหาเบอร์ รองราชเลขาธิการและ โทรกลับเมืองไทย จึงได้รับแจ้งว่า “ ในหลวงทรงมีรับสั่ง ว่าทรงมีความห่วงใย และพระราชทานกำลังใจ “ เมื่อข้อความดังกล่าวของในหลวงนี้ ผนวกกับข้อความให้กำลังใจจากบิ๊กตู่ นายกฯ และ หัวหน้า คสช. ถ่ายทอดไปถึงโค๊ชซิโก้ และนักกีฬาฟุตบอลไทยทุกคน ทำให้เกิด “ขวัญและกำลังใจ” ฮึดขึ้นสู้ ฮึกเหิม ลืมตาย ฟอร์มดีขึ้น ในช่วง 10 - 20 นาทีสุดท้าย เรียกได้ว่าทีมไทยเล่นแบบพับสนาม ไปป้วนเปี้ยนอยู่หน้าประตู ของทีมเสือเหลืองมาเลเซีย ยิงประตูรวดเดียว 2 ประตูติด พลิกเกมส์แต้มคะแนนรวม ชนะมาเลย์เซียแบบเซียนเหยียบเมฆ คว้าแชมป์อาเซียน ที่รอมายาวนานถึง 12 ปี สะใจคนไทยทั้งในและต่างประเทศ ทำให้คนไทยมีความสุข ปีติยินดี รวมทั้งพระเจ้าอยู่หัวที่เหล่าคนไทยจงรักภักดี ก็ทรงมีความสุขด้วย ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น และที่ผ่านมาทุกครั้งที่มีกีฬาทีมชาติไทย พระองค์ที่ทรงเป็นพระราชานักกีฬามาก่อน ก็จะทรงติดตามดูการถ่ายทอดเสมอเหมือนครั้งนี้เช่นกัน เมื่อเห็นราษฎรไทยลูกทุกคนมีความสุขทั้งแผ่นดิน ก็สร้างความยินดีให้กับพ่อของแผ่นดินยิ่งนัก ทั่วประเทศไทย จึงมีการเฉลิมฉลอง แสดงความยินดีกันแบบลืมความทุกข์ในอดีต คนไทย “ ที่รักชาติ” ทุกคนเกิดความสามัคคี และภาพความจงรักภักดีของนักกีฬาไทย ที่ชูภาพพระเจ้าอยู่หัวกลางสนาม ปรากฎเป็นภาพข่าวดังไปทั่วโลกเพียงข้ามวัน แต่ปรากฎการณ์ความสุขทางสังคมดังกล่าว กลับสร้างความเดือดดาลให้แก็งค์แบ่งงานกันทำ ความเหมือนที่แตกต่างเป็นอย่างยิ่ง เพราะได้ทำลายแผนการณ์สร้างความแตกแยกในสังคมไทยอย่างยับเยิน หมดสิ้นสภาพ สิ่งคล้ายคนพวกนี้จึงออกอาการ ฟาดหัวฟาดหางทันที จนสังคมรับรู้ได้ไปทั่ว คือ 1. นักวิชากำกวมล้มเจ้าชื่อดัง ทวิช จากโคราช..โพสเฟสบุ๊กยาวเหยียดหลายครั้ง กระหน่ำโจมตีโค๊ช และนักกีฬาไทยอย่างหนัก และเฉี่ยวสถาบันเบื้องสูง จนมหาลัยต้นสังกัด อับอายแทบแทรกมุดลงแผ่นดิน ต้องทำหนังสือขอโทษประชาชน ทั่วประเทศ และตักเตือนนักวิชาการล้มเจ้าคนนี้ให้ “หุบปาก” เหม็นๆ ที่กินหญ้า และฟางอัดเม็ดเข้าไปมากโดยไม่ถ่ายออก 2. แก็งค์ขบวนการล้มเจ้า สายเปิ้ล สหายสุดซอย เลขาเมย์ชลบุรี คนสนิทคนแดนไกล ที่รับงานมาจ้างยิง M79 ใส่เด็กและผู้หญิง ไปทั่วประเทศ เมื่อฆ่าเด็กสำเร็จ ก็แสดงความไชโยโห่ร้องกันในสนามกีฬาโคราช..ได้โพสทวิตเตอร์ถี่ยิบ อีกเช่นกัน กระหน่ำโจมตีโค๊ช และนักกีฬาไทยอย่างหนัก และเฉี่ยวสถาบันเบื้องสูง..เหมือนกันเปี๊ยบ 3. สื่อมวลชิน สังกัดช่องที่ชื่อเป็นสากล มีนิสัยชอบให้ชายร่างกำยำระเบิดถังส้วมเป็นชีวิตจิตใจ และอยู่ในขบวนการล้มเจ้า ชอบมีกิจกรรมวิจารณ์เบื้องสูง กับกลุ่มนิติเรดล้มเจ้าเป็นอาจิณ..โดยโพสทวิตเตอร์ถี่ยิบ กระหน่ำโจมตีโค๊ช และนักกีฬาไทยอย่างหนัก และเฉี่ยวสถาบันเบื้องสูง แต่ต้นสังกัดสื่อนี้กลับนิ่งเฉย ไม่รับผิดชอบต่อสังคม และความรู้สึกคนไทย 4. แก็งค์สื่อแดงมติชิน..เกิดอาการหลุดโลกเนื่องจากขายหนังสือพิมพ์รายวัน รายสัปดาห์ ไม่ได้เลย ขนาดลดยอดพิมพ์เหลือนิดเดียวก็ขายไม่ออก โฆษณาจากหน่วยงานรัฐ สมัยแก็งค์เผาไทยเป็นรัฐบาลบังคับให้มาซื้อโฆษณา เดี๋ยวนี้ก็ไม่มีแล้ว จึงการขาดทุนบักโกรกถึง 47 ล้านบาท หาคนซื้อหนังสือไปเช็ดตูดก็ไม่ได้ เพราะประชาชนไทย ไม่อยากพาหนังสือเสนียดแบบนี้เข้าบ้าน เกรงจะติดเสนียดไปด้วย เมื่อความโลภเข้าสิง นายใหญ่จ้างรับเงินเขามาแล้ว ต้องทำให้คนไทยแตกแยกให้ได้ ตามคอนเซ็ป เมื่อนายใหญ่ไม่มีความสุข คนไทยก็อย่าหวังจะมีความสุขเช่นกัน สื่อมติชิน จึงทำภาพหน้าปกหนังสือ ล้อเลียนโค๊ชซิโก้ ขึ้นภาพ และมีคำว่า “บักหำโต้น” เป็นภาษาอีสาน แปลว่า อวัยวะเพศชายใหญ่ (แต่หยาบโลนกว่าคำนี้) แสดงให้เห็นถึงจรรยาบรรสื่อที่ไม่เคยมีในค่ายมติชินนี้ จนล่าสุดกิจดีลงฮวบๆ ต้องบังคับพนักงานออกจำนวนมาก สังเวยเงินคนแดนไกล ที่เป็นเหมือนไฟบัลลัยกัลป์ ทีพระอาวุโสท่านหนึ่งเคยว่าไว้ ว่าจะบรรลัยวายวอดกันไปหมด 4. แก็งค์สภาท่าพระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก..ก็เกิดอาการแต๋วแตก เพราะอิจฉา และรับเงินจากคนแดนไกลมาตุงกระเป่า เพื่อล้มรัฐบาลอนุรักษ์นิยมบิ๊กตู่ จึงโจมตีรัฐบาลตลอดมา โดยจับมือทำงานเป็นทีมกับเครือข่ายคนแดนไกล ** อ่านความเดิม ไขความลับสุดติ่ง..ทำไมต้องไล่ด่ารัฐบาลนี้ทุกวัน และทำไมต้องโหวตโน คลิ๊กไปที่https://www.facebook.com/topsecretthai/posts/287155968141104 โดยสภาท่าพระเสาร์ ออกหนังสือรายสัปดาห์ ที่คนมักซื้อไปรองอึสุนัขที่บ้าน ทำภาพหน้าปกเป็นนักกีฬาฟุตบอลไทย ซับปุย พร้อมข้อความว่า “สมบัติชาติ ผัวทั้งแผ่นดิน” สอดรับกับรูปแบบของมติชิน ไม่มีผิดเพียน เพื่อยืนยันผลงานหลักฐานกับนายใหญ่ ว่าได้ทำงานตามสั่งแล้วนะ แต่ได้คำนึงถึงหัวอกผู้หญิงไทย และขนบธรรมเนียมไทย ว่าจะอับอายขนาดไหนหรือเปล่า?..เป็นค่านิยมที่ดีต่อเด็กและเยาวชนหรือไม่ ? และถ้าใครมาว่าแบบนี้กับลูกหลานบ้างจะคิดอย่างไร ? เขาเป็นนักกีฬาทีมชาติที่มีความสามารถ ไม่ได้ใช้หน้าตาไต่เต้าขึ้นมา และเขาทำให้คนไทยภูมิใจในความเป็นชาติ..นี่หรือคือสิ่งที่เขาได้รับตอบแทนจากสื่อไทย ? และเพื่อแสดงให้คนไทยประจักษ์ว่า บัดนี้สภาท่าพระเสาร์ “ไม่รักชาติไทยอีกแล้ว” เขาเลือกข้างเงิน ที่จะทำทุกอย่างอะไรก็ได้ ที่สามารถทำลายขวัญ กำลังใจ และความสุขของคนไทย สิ่งใดก็ตามที่นายใหญ่ และคนเสื้อแดงไม่ชอบ สภาท่าพระเสาร์ก็จะแสดงออกสอดรับกันขึ้นมาพร้อมๆ ในเวลาใกล้เคียงกันทันที ที่เพจนี้เคยพูดคำว่า “แก๊งค์แบ่งงานกันทำ ความเหมือนที่แตกต่าง” มานานกว่า 3 เดือนแล้ว แต่มีหลายคนที่ยังเป็นบัวไม่พ้นน้ำไม่เชื่อ และถูกสภาท่าพระเสาร์ หลอกต้มจนเปื่อย มาบัดนี้เห็นผลงานเต็มๆ ตาแบบนี้แล้ว คงเข้าใจความหมายคำนี้ได้ลึกซึ้งพอ จาก “สื่อ” ที่เป็นได้แค่ “เสี้ยม” และสุดท้ายก็เผยธาตุแท้ว่าเป็น “ส้วม” ที่เอาไว้สำหรับทิ้งอุจจาระได้เท่านั้น หาประโยชน์สร้างสรรค์อื่นใด เป็นแบบอย่างที่ดีต่อเยาวชน และประชาชนไม่ได้เลย !! ดังคำของปราชญ์จีนขงเบ้งที่ว่า “ ไม้คดใช้ทำขอ เหล็กงอใช้ทำเคียว แต่คนใจคดเคี้ยว ใช้ทำอะไรไม่ได้ “ @ เสธ น้ำเงิน3 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป http://www.facebook.com/topsecretthai อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ธันวาคม 29, 2014 แฉ..ความลับ added 13 new photos. 5 hrs · Edited · วันที่ 24 ธ.ค.57 เปิดโปง..พื้นที่ต้องห้าม Area 51 กำความลับคนทั้งโลก (ตอนแรก) วันนี้ลองเล่าเรื่องผ่อนคลายความบันเทิงเชิงปริศนาดูบ้าง ในโลกมีสถานที่ลึกลับ หรือแปลกประหลาด ที่ยังพิสูจน์ไม่ได้อีกเป็นจำนวนมาก เช่น โบราณสถาน หรือดินแดนต่างๆ แต่มีพื้นที่แห่งหนึ่งซึ่งโด่งดังมานานแล้วเรียกว่า “เขตพื้นที่ 51” Area 51 คือ ฐานทัพลับ ของกองทัพอากาศสหรัฐ ซึ่งตั้งอยู่โดดเดี่ยว ลึกเข้าไปในบริเวณต้องห้ามอันกว้างขวางของรัฐบาล ภาพถ่ายดาวเทียมทะเลทรายเนวาด้า แสดงเห็นถึงรันเวย์ 7 ช่องทาง และโรงเก็บเครื่องบินมากกว่า 25 โรง ค.ศ. 1955 เคลลี่ จอห์นสัน ผู้ออกแบบเครื่องบินจารกรรม U2 ได้รับมอบหมายจาก CIA ให้ออกแบบเครื่องบิน U2 นอกจากนี้แล้วเขายังได้รับมอบหมาย ให้หาสถานที่เพื่อใช้ทดสอบ U2 นี้ด้วย เคลลี่ได้ส่ง โทนี เลอวิเอร์ นักบินที่จะทำการบินทดสอบเครื่องบิน U2 กับ ดอร์ซี่ เคมเมเรอร์ ไปสำรวจพื้นที่ร้างกลางทะเลทรายตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย , เนวาดา และ อริโซนา 2 สัปดาห์ต่อมาโทนี ก็กลับมาส่งรายงาน เคลลี่ดูรายงานเปรียบเทียบสถานที่ทั้ง 3 แห่งแล้วก็ตัดสินใจเลือกพื้นที่บริเวณทะเลสาบกรูม ในรัฐเนวาดา ฐานทัพถูกสร้างรอบ ๆ ทะเลสาบ ซึ่งได้เปรียบทางยุทธวิธี เพราะสิ่งที่รัฐบาลต้องการก็คือ ที่เหมาะสมในการลงจอดซึ่งสามารถลงจอดทิศใดก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าลมมาทางไหนและรอบ ๆ ทะเลสาบนี้ก็มีลักษณะแบบนั้น แถมยังถูกป้องกันโดยแนวเทือกเขารอบ ๆ ทะเลสาบกรูม มีชื่อเรียกอย่างอื่นอีกมากมายนับตั้งแต่มีการก่อสร้างฐานทัพขึ้น เคลลี่เรียกมันว่า พาราไดซ์ แต่หลังจากมีการทดสอบเครื่องบินจารกรรม U2 ในปีนั้น ซึ่งรัฐบาลปกปิดว่ามันถูกใช้สำหรับการสำรวจสภาพอากาศ U2 คืออาวุธพร้อมกล้องความละเอียดสูง ที่ได้รับการออกแบบเพื่อบินที่ระดับความสูง 21,000 เมตร และถ่ายรูปจากขอบชั้นบรรยากาศ ท่ามกลางการแข่งขันด้านอาวุธในสงครามเย็นกับสหภาพโซเวียต เครื่อง U2 คือความหวังของอเมริกา เพื่อติดตามการขยายตัวของคลังแสงนิวเคลียร์ ของโซเวียต และมันต้องการนักบินที่หายใจเอาออกซิเจนบริสุทธิ์ เพื่อความอยู่รอดในความสูงขนาดนั้นได้ น้ำหนักทุกกิโลที่เพิ่มขึ้น แม้แต่ล้ออาจทำให้เครื่อง U2 นั้นบินได้ต่ำลง เพราะน้ำมันทั้งหมดนั้นอยู่ที่ปีก ไม่มีทางเลยที่จะเอาปลายปีกนั้นขึ้นจากพื้น พวกเค้าจึงต้องมีที่ค้ำให้ปีกยกขึ้นจากพื้นและทันทีที่ปีกยกขึ้นที่ค้ำพวกนั้นก็หลุดออก เครื่อง U2 นั้นบินเหนือระดับการบินของเครื่องบินโดยสารปกติถึงสามเท่า และบางครั้งก็จะถูกพบเห็นโดยพลเรือน ขณะที่ในยุนั้นสงครามเย็นและความสนใจของชาวอเมริกันต่อยูเอฟโอ ถึงจุดสูงสุด เครื่องบินสีเงิน U2 จึงสร้างความสับสนให้นึกไปถึง ยูเอฟโอ ฐานทัพลับแห่งนี้เรียกสั้นๆ ว่า แรนช์ มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า วอร์เตอร์ทาวน์ สตริป ตามชื่อเมืองหนึ่งที่อยู่ทางตอนเหนือของรัฐนิวยอร์ค ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ แอลเลน ดูลเลส ผู้อำนวยการ CIA ในสมัยนั้น ค.ศ. 1955-1968 มีการทดลองระเบิดของนิวเคลียร์ ที่ Area 51 มากกว่า 450 ครั้ง ต่อมาโครงการลับโครงการใหม่ที่เรียกว่า “อ๊อกซ์คาร์ท” เพราะอเมริกา มองว่าในสงครามเย็น ข้อมูลนั้นเป็นเหมือนอาวุธที่ทรงอานุภาพ โครงการอ๊อกซ์คาร์ท ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นเครื่องมือสอดแนมที่ดีที่สุดของอเมริกา หรือเครื่องบินสเตลท์ ลำแรกของโลก มันบินได้เร็ว และสูงพอที่จะหนีจรวดได้ คนงานหลายพันคนทำงานเพื่อเครื่องบินที่อยู่ภายใต้โรงงานของล็อคฮีด ในเบอร์แบงก์รัฐแคลิฟอร์เนีย แต่แม้จะมีขนาดของการผลิตขนาดใหญ่ แต่ตัวโครงการก็ยังคงเป็นความลับ เครื่องบินนั้นต้องสามารถทนต่ออุณหภูมิ ที่เกิดจากแรงเสียดสีของอากาศขณะบินผ่านชั้นบรรยากาศที่ความเร็ว 2,000 ไมล์ต่อชั่วโมง 93 เปอร์เซ็นต์ ของอ๊อกซ์คาร์ทนั้น เป็นไทเทเนียม แต่ความต้องการไทเทเนียมจำนวนมาก อเมริกาจึงต้องทำข้อตกลงกับโซเวียต เมื่อต้นแบบของอ๊อกซ์คาร์ทพร้อม รัฐบาลต้องการย้ายมันไปที่แอเรีย 51 จากสายการผลิตในแคลิฟอร์เนีย แต่เพราะมันยาวเกินไปและปีกก็กว้างเกินไป ชิ้นส่วนจึงถูกแยกออกและลากไปตามทางจากเบอร์แบงก์ไปยังกรูมเลก ภายในแอเรีย 51 คนงานเกือบ 2,000 คน ทำเพื่อเป้าหมายเดียวเพื่อทำโครงการลับสุดยอดให้สำเร็จ อ๊อกซ์คาร์ท คือ เครื่องบินสเตลท์ลำแรกของโลก ถูกออกแบบมาเพื่อให้ศัตรูนั้นตรวจจับด้วยเรดาร์ไม่ได้ มันอาจบินจากชายฝังหนึ่งไปยังอีกฝั่งใน 70 นาที แต่วัตถุประสงค์เดียวของมันคือเพื่อการสอดแนม ภาพเกาหลีเหนือ ที่ถูกปล่อยออกมาโดย CIA และไม่เคยออกสู่สายตาสาธารณะมาก่อน เผยให้เห็นว่าอ๊อกซ์คาร์ท สามารถถ่ายภาพวัตถุบนพื้นดินจากระดับความสูง 27,000 เมตร ขณะบินด้วยความเร็ว 3,500 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ แม้มีความพยายามซ่อนเครื่องบินที่เป็นความลับ สายลับก็พบว่าสหภาพโซเวียตได้ภาพวาดของเครื่องบินไปแล้ว และได้พบวิธีตรวจจับอ๊อกซ์คาร์ท คนของแอเรีย 51 ก็จงใจสร้างของปลอมให้โซเวียตนั้นค้นพบในทันที ค.ศ. 1958 คณะกรรมาธิการพลังงานปรมาณู (AEC) ได้เข้ามาใช้พื้นที่บริเวณทะเลสาบกรูม ร่วมกับกองทัพสหรัฐ เพื่อทำการทดลองโครงการลับๆ บางอย่าง พวกเขาเรียกสถานีทดลองนี้ว่า สถานีทดลองเนวาดา คณะกรรมาธิการฯ ได้แบ่งพื้นที่ออกเป็นส่วนๆ แล้วกำหนดหมายเลขให้แต่ละส่วน บริเวณส่วนที่เป็นฐานทัพนั้นได้ หมายเลข 51 ค.ศ. 1970 กองทัพอากาศสหรัฐ ได้เข้ามายึดพื้นที่นี้อย่างถาวร เพื่อใช้เป็นสถานที่ทดลองเครื่องบินรบรุ่นใหม่ๆ ตลอดไปจนถึงการทดลองเครื่องบิน มิก 21 และอาวุธทันสมัยอื่นๆ ของรัสเซีย ที่ทางสหรัฐยึดมาได้ ค.ศ. 1975 พื้นที่ 51 ได้ถูกกำหนดให้เป็นหนึ่งในเขตจำลองการรบทางอากาศ ภายใต้ชื่อรหัสว่า "ธงแดง" พื้นที่ 51 จึงถูกเรียกสั้นๆ ในชื่อใหม่ว่า "จตุรัสแดง" แต่ชื่อกึ่งเป็นทางการนั้นชื่อ "ดรีมแลนด์" และในช่วงทศวรรษ 1970 ก็ได้มีการทดลองโครงการด้านอวกาศ และการทดลองเครื่องบินที่ทันสมัยที่สุดคือ "แทคอิทบลู" ค.ศ. 1980 ฐานทัพทะเลสาบกรูม ถูกขยายอาณาเขตออกไปอีก มีการสร้างสนามบินเพิ่มเติม อาคารเก็บเครื่องบินถูกสร้างบนลานบิน เพื่อให้ง่ายต่อการเก็บซ่อนจากสายตาของดาวเทียมจารกรรม ที่มีอยู่มากมาย อุปกรณ์สื่อสาร เรดาร์ และจานดาวเทียมได้รับการติดตั้ง ตึกราม อาคาร โกดังหลายแห่งถูกสร้างขึ้นมาใหม่ บนทะเลสาบกรูม คาดว่ามันถูกใช้เป็นกองบัญชาการของศูนย์ทดลองเครื่องบินรบของกองทัพที่ถูกเรียกว่า ดีแทชเมนท์ 3 แม้ว่าจะมีการเพิ่มการรักษาความปลอดภัย แต่ก็ยังไม่วายถูกแอบลักลอบถ่ายภาพ เนื่องจากพื้นที่รอบๆ ทะเลสาบกรูมเป็นภูเขา ค.ศ. 1984 กองทัพสหรัฐ จึงต้องขยายเขตหวงห้ามออกไปอีก โดยหวังว่าจะเป็นการกันไม่ให้มีใครสามารถมองเข้าไปยังในบริเวณฐานทัพได้ แต่ก็ยังมีจุดที่สามารถใช้เป็นที่สอดแนมได้อีก 2 แห่งห่างจากทะเลสาบกรูมไปทางตอนใต้ราว 12 ไมล์ คือที่บริเวณไวท์ไซด์พีค กับ ฟรีดอม ริดจ์ ค.ศ. 1995 เพื่อป้องกันไม่ให้มีคนอาศัยสถานที่ทั้งสองเป็นที่สอดแนมได้อีก กองทัพจึงได้ประกาศให้เขตดังกล่าวเป็นเขตหวงห้ามด้วย แต่เขตหวงห้ามนั้นได้แต่เพียงแค่ติดป้ายเตือนเท่านั้น ไม่มีการล้อมรั้วแต่อย่างใด เพราะพื้นที่เขตหวงห้ามนั้นกินอาณาเขตกว้างใหญ่เกินกว่าที่จะล้อมรั้วได้ พื้นที่นี้ล้อมรอบไปด้วยเขตทดลองของรัฐเนวาด้า และเป็นที่ตั้งของฐานทัพอากาศเนลลิส ที่ตั้งอยู่ในทะเลทรายเนวาด้า ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือของลาสเวกัส ที่เรียกว่าพื้นที่ 51 ก็เพราะเป็นชื่อจุดที่ตั้งซึ่งปรากฎบนแผนที่ ของเขตทดลองเนวาดา ดังนั้น Area 51 จึงอาจแปลว่ารัฐที่ 51 ที่นี้เป็นสถานที่ที่ใช้ฝึก และพัฒนาสำหรับโครงการลับที่สุดทางทหาร แต่ก็มีการจัดเวรยาม โดยใช้หน่วยรักษาความปลอดภัยนิรนาม ที่พกอาวุธสุดจะทันสมัย อีกทั้งยังมีการติดตั้งเครื่องมือตรวจจับการเคลื่อนไหว ที่ทันสมัยที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพราะมันสามารถแยกแยะได้ว่าผู้ที่บุกรุกเข้ามาเป็นมนุษย์หรือสัตว์ หน่วยลาดตระเวณนิรนามนี้เรียกว่า แคโม ดูดส์ ซึ่งจะมีหน่วยสนับสนุนทางอากาศที่ใช้เฮลิคอปเตอร์ Sikorsky HH-60G Pave Hawk คอยให้การสนับสนุนทางอากาศ พื้นที่ 51 ถูกสร้างขึ้นจึงมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นสถานที่ทดสอบเครื่องบินจารกรรม U2 นับตั้งแต่นั้นมาก็มีการใช้พื้นที่ 51 เป็นสถานที่ทดสอบเครื่องบินจารกรรม เช่น วิหคทมิฬ Blackbird (SR71) เครื่องบินขับไล่ล่องหน F117 Stealth Fighter, เครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหน B2 Stealth Bomber อีกทั้งยังถูกใช้เป็นสถานที่วิจัยโครงการลับออโรร่า (Aurora Project) เครื่องบินรบเหล่านี้จะถูกทำการทดสอบสมรรถนะ ที่บริเวณทะเลสาบกรูม เมื่อพวกเขาทดสอบเครื่องบินรบ จนเป็นที่พอใจแล้วจึงค่อยประกาศต่อสาธารณชนให้ทราบว่า บัดนี้กองทัพได้สร้างเขี้ยวเล็บอันใหม่ขึ้นมา โดยเฉพาะเครื่องบินสอดแนมและเทคโนโลยี ทางการบินที่แอบพัฒนากันอยู่ มีข่าวลือเกี่ยวกับแอเรีย 51 หนาหูขึ้น จนประชาชนสงสัยว่าจริงๆ แล้ว มีอะไรซ่อนอยู่ที่ฐานทัพแห่งนี้ มีประชาชนจำนวนหนึ่งได้เห็นวัตถุประหลาดลอยอยู่เหนือฐานทัพ ที่แห่งนี้มีการร่ำลือกันมานานแล้วว่าเป็น ที่ที่ใช้การศึกษาจานบิน ซ่อนจานบิน และมนุษย์ต่างดาวที่พวกเขาจับกุมกันมาได้ด้วย เคยมีจานบินตกในรอสเวล และ รัฐบาลได้ปกปิดเรื่องนี้อย่างสุดฤทธิ์ แต่ดูเหมือนยิ่งปิดก็ยิ่งกระตุ่น ต่อมอยากรู้ของผู้คนทั่วไป โดยมีการอ้างถึงเรื่องราวต่าง ๆ ของผู้ที่เกี่ยวข้องและ ไม่เกี่ยวข้อง รายที่โด่งดังที่สุดก็เห็นจะเป็นรายของ บ๊อบ ลาซาร์ ค.ศ. 1988 – 1989 บ๊อบ โรเบิรต ลาซาร์ เป็นชาวลาสเวกัส เขาเป็นนักฟิสิกส์ ทำงานที่ ลอส อะลามอส (ศูนย์ค้นคว้านิวเคลียร์ของอเมริกา) แต่ก็ได้ถูกโยกย้ายมายัง Area 51 เขาอ้างว่าเคยทำงานเป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้หนึ่งอยู่ในเขตพื้นที่นี้ โดยทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่พิเศษ แผนกอากาศยาน ในเขตพื้นที่นี้มีเทคโนโลยี่ที่ทันสมัยมาก และเขายังได้เห็นวัตถุสิ่งบินขนาดใหญ่สิ่งหนึ่ง เขาได้รับมอบหมายให้ทำการศึกษาวิศวกรรม ยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาว มียานอวกาศรูปทรงกลมคล้ายจานจำนวน 9 ลำบินขึ้น-ลง ในเขตหวงห้ามบริเวณที่ชื่อ S4 หรือที่มีชื่อที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า บริเวณทะเลสาบปาปูส ซึ่งอยู่ห่างจากทะเลสาบกรูม ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ราว 10 ไมล์ เขตหวงห้ามบริเวณ S-4 ที่นั่นถูกก่อสร้างให้พรางตา กลมกลืนไปกับพื้นทะเลทรายโดยรอบ หากดูอย่างผิวเผินแล้วจะไม่มีทางสังเกตเห็นอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีการทดลองเครื่องบินจารกรรม ที่มีความเร็วมากกว่าเสียง 5 เท่า โดยใช้พลังขับเคลื่อนชนิดใหม่ เช่น พัลส์ เดโทเนชั่น เวฟเอนจิน และเครื่องบินความเร็วสูงที่ขับเคลื่อนด้วยพลังไฮโดรเจน การทดลองเครื่องบินที่มีความเร็วมากกว่าเสียงหลายเท่า หรือที่เรียกว่ายานไฮมัค โดยสร้างเครื่องบินที่มีลักษณะเป็นลูกผสมระหว่างเครื่องบิน A12 และ D21 หรือที่เรียกกันว่า ซูเปอร์วอลคารี เขตหวงห้ามบริเวณ S-4 เป็นสถานที่ใช้สำหรับศึกษา วิจัยวัตถุบินลึกลับภายใต้ชื่อโครงการ มูนดัสท์ บรรดาสิ่งก่อสร้างทั้งหลายถูกอำพรางอยู่ใต้พิ้นทราย เพื่อหลบเลี่ยงดาวเทียมจารกรรมของรัสเซีย วันแรกที่โรเบิร์ท เดินทางถึง S4 เขาถูกนำตัวไปที่ห้องพยาบาล เพื่อทำการตรวจผิวหนัง เขาถูกทาด้วยสารหลายชนิดตามจุดต่างๆ บนแขน วันต่อมาก็จะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจเช็คดูว่าผิวหนังเขาเกิดการพุพองหรือมีอาการแพ้หรือไม่ เขายังถูกสั่งให้ดื่มสารบางชนิดที่ทำให้ร่างกายของเขามีภูมิคุ้มกันสูงขึ้น สารนี้ช่วยป้องกันเขาจากสิ่งแปลกปลอม ที่อาจได้รับจากการสัมผัสวัตถุที่มาจากต่างดาว สารที่โรเบิร์ท ดื่มนั้นมีกลิ่นเหมือนกับกลิ่นต้นสน และในคืนนั้นหลังจากที่เขาได้ดื่มสารสร้างภูมิคุ้มกันเข้าไป เขาก็เกิดอาการเป็นตะคริวที่ท้องน้อย ที่เป็นผลข้างเคียงมาจากสารสร้างภูมินั้น โรเบิร์ททำงานในห้องทดลองร่วมกับนักวิทยาศาสตร์อีกคนหนึ่งชื่อ แบร์รี่ คาสติลลิโอ นักวิจัยแต่ละกลุ่ม จะถูกแยกทำงานในส่วนต่างๆ พวกเขาถูกจำกัดให้มีเพื่อนร่วมงานเพียงแค่ไม่กี่คน แบร์รี่ เป็นเพื่อนร่วมงานเพียงคนเดียว ที่ช่วยโรเบิร์ท ศึกษาค้นคว้าเรื่องการขับเคลื่อนของยานอวกาศ ต่อมาโรเบิร์ทถูกแนะนำให้รู้จักกับ เรเน่ ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่า เรเน่ เป็นใครและมีหน้าที่อะไรใน S4 เจ้าหน้าที่ ที่ทำงานอยู่ในส่วนของ S4 นั้นมีอยู่แค่เพียง 22 คนเท่านั้น หัวหน้าของโรเบิร์ท ชื่อ เดนนิส มาริอานี เขารู้จักเดนนิส ตอนที่ไปสัมภาษณ์งานที่บริษัท อีจีแอนด์จี ซึ่งตอนนั้นยังมีสำนักงานอยู่ที่สนามบินแมคคาร์เรน ในลาสเวกัส แต่ปัจจุบันได้ย้ายมาอยู่ที่ฐานทัพอากาศ เนลลิส ในวันแรกๆ มีเจ้าหน้าที่พาโรเบิร์ทไปที่ห้องเล็กๆ ที่มีเพียงแค่โต๊ะ และเก้าอี้กับแฟ้มเอกสารกว่า 100 แฟ้ม ข้อความในแฟ้มล้วนเป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้อง กับมนุษย์ต่างดาวและเทคโนโลยีมนุษย์ต่างดาว เขาใช้เวลาวันละครึ่งชั่วโมง ในการศึกษาข้อมูลในแฟ้มเหล่านั้น ข้อมูลในแฟ้มเหล่านั้นดูเหมือนจะเป็นบทสรุปให้กับเหล่านักวิทยาศาสตร์ ที่มาทำงานใน S4 ว่างานที่พวกเขา ได้รับมอบหมายให้ทำนั้นเกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตต่างพิภพ โรเบิร์ท ได้เห็นการทดสอบบินของยานบินรูปทรงประหลาด และยิ่งตกใจมากขึ้นอีก เมื่อเห็นรายงานเขียนว่า มีการติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวมานานกว่าหมื่นปีแล้ว! โครงการที่โรเบิร์ท ทำอยู่นั้นเป็นส่วนย่อยของโครงการใหญ่ เขารับผิดชอบเรื่องการค้นคว้าการขับเคลื่อนของยานอวกาศต่างดาว และบทบาทของแรงโน้มถ่วง เพื่อใช้เป็นสื่อในการขับเคลื่อนภายใต้ชื่อ โครงการกาลิเลโอ การทดลองในโครงการกาลิเลโอ ประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ ** ตอนต่อไปจะมีนักนักวิทยาศาสตร์อีก 2 คน จะมาเล่าประสบการณ์การทำงานใน Area 51 แห่งนี้ว่าเขาเจออะไรบ้าง คลิ๊กไปที่https://www.facebook.com/topsecretthai/posts/305908772932490 @ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป "กติกา" โปรดงดความเห็นในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในตอนนี้, งดนำข่าวลือเขาว่ามา , คำหยาบ , ป่วน , งดลิ้งใดๆ ทุกชนิด , งดข้อความจากแหล่งอื่น , งดภาพ , การให้ร้ายดูหมิ่นเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกพิจารณาบล็อกเข้าเพจนี้..สามารถติดตามข่าวสั้นที่ https://www.facebook.com/thailandcoup อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ธันวาคม 29, 2014 แฉ..ความลับ added 18 new photos. 5 hrs · Edited · วันที่ 25 ธ.ค.57 เปิดโปง..ประสบการณ์ในแดนลึกลับ Area51กับสิ่งมีชีวิตปริศนา (ตอนจบ) ตอนที่แล้วเล่า "ปริศนาเชิงความบันเทิง" ถึงความเป็นมาการก่อสร้างดินแดนปริศนา Area51 ที่อเมริกาทำไว้สำหรับทดลอง ประดิษฐ์ยานบินชนิดใหม่ๆ วิศวกรรมยานอวกาศ อาวุธร้ายแรง เครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหน เครื่องบินสอดแนม และสารพัดอาวุธที่ถูกพัฒนาทันสมัยในปัจจุบัน ** ความเดิมตอนที่แล้ว..พื้นที่ต้องห้าม Area 51 กำความลับคนทั้งโลก (ตอนแรก) คลิ๊กไปที่ https://www.facebook.com/topsecretthai/posts/305905559599478 โรเบิร์ทได้เห็นรายงานและหลักฐานต่างๆ ที่พิสูจน์ถึงความถูกต้องของมัน ซึ่งทำให้เชื่อได้ว่าโครงการอื่นๆ ที่ทำใน S4 นั้นก็ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกัน แต่โรเบิร์ทก็ปฏิเสธที่จะถือเอากรรมสิทธิ์เหนือความสำเร็จนั้น เขากล่าวว่ารายงานการวิจัยที่เขาทำขึ้นเป็นเพียงแค่ตัวอักษรและรูปภาพบนแผ่นกระดาษเท่านั้น โดยปรกติเจ้าหน้าที่แต่ละส่วนจะไม่ได้รับอนุญาตให้มีการติดต่อพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ส่วนอื่นๆ แต่ในกรณีของโรเบิร์ทนั้น เ ขาต้องอาศัยความรู้ในแขนงอื่นด้วย จึงทำให้เขาได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษ ให้ทำการทดลองร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ในกลุ่มอื่น โครงการไซด์คิก เป็นหนึ่งในสองโครงการที่โรเบิร์ท ได้รับอนุญาตให้รู้ข้อมูลได้บางส่วน มันเป็นการศึกษาค้นคว้าเรื่องอาวุธลำแสง ที่จะถูกติดตั้งบนเครื่องบินรบ อาวุธลำแสงนี้ ต้องอาศัยความรู้เรื่องแรงโน้มถ่วงและการรวมแสงให้เป็นลำ อาวุธชนิดนี้มีอำนาจการทำลายล้างที่สูงมาก โครงการลุคกิ้งกลาส เป็นการศึกษาเรื่องกฎกายภาพ ของการมองเห็น และผลกระทบต่อเวลาและอวกาศ ในการสร้างแรงโน้มถ่วงจำลอง โครงการนี้ต้องอาศัยความรู้ทางด้านแรงโน้มถ่วง และการควบคุมมัน นอกจากนี้ เขาได้พบมนุษย์ต่างดาวภายในนี้ด้วย โดยบอกว่าเป็น “สิ่งมีชีวิต” ที่สูงประมาณ 3-4 ฟุต หนักประมาณ 35-50 ปอนด์ มีผิวสีเทาและมีศีรษะที่ใหญ่มาก ถ้าหากมีใครทะเร่อทะร่าเข้าไปในเขตห่วงห้ามของ Area 51 จะมีกองกำลังรักษาความปลอดภัยคอยลาดตะเวนอยู่ โดยพวกเขาจะสวมชุดทหารพราน แต่จะไม่ติดเครื่องหมายแสดงยศแต่อย่างใด และจะขับรถจี๊ปเชโรกีสีขาว พร้อมแผ่นประกาศของรัฐบาล ผู้ละเมิดจะถูกจับกุมทันที่ พร้อมถูกปรับอย่างน้อย 600 US แม้แต่ C.I.A. ของอเมริกาเอง ก็เคยใช้สปายจารกรรมให้สถานที่แห่งนี้ถึง 40 คน บ้อบ โรเบิร์ต ลาซาร์ บอกว่ามีฐานปฎิบัติการใต้ดินอยู่ลึกลงไปหลายชั้น มีนักวิทยาศาสตร์ทำงานอยู่หลายคน และมีหน่วยรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดมาก พวกเขาเหล่านั้นล้วนศึกษาเกี่ยวกับ ระบบการทำงานของจานบินทั้งสิ้น ทหารจะเรียกที่นี่เป็นรหัสว่าศูนย์ S4 ลับสุดยอด ซึ่งแม้แต่ประธานาธิบดีสหรัฐ ยังไม่มีสิทธิจะเข้ามา ทุกๆ เช้าของวันทำงานจะมีคนอย่างน้อย 500 คนผ่านเข้าไปยังประตูทางขึ้นเครื่องบินที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ซึ่งอยู่ทางปีกด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ สนามบินแมคคาร์เรน ในลาสเวกัส เจ้าของพื้นที่ที่เป็นเขตหวงห้ามส่วนนี้ก็คือ บริษัท อีจีแอนด์จี ผู้คนเหล่านั้นต้องบอกรหัสผ่าน "เจเน็ท" ตามด้วยเลขประจำตัว 3 หลัก ก่อนที่จะผ่านเข้าไปขึ้นเครื่องโบอิ้ง 737 ที่ไม่มีเครื่องหมายใดๆ ระบุว่าเป็นเครื่องบินของใคร สายการบินนี้จะออกบินทุกๆ ครึ่งชั่วโมง โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ทะเลสาบกรูม สถานที่ลึกลับ ที่หน่วยงานราชการของสหรัฐปฏิเสธการมีตัวตนของมัน บ็อบ นอกจากจะได้ศึกษาตัวยานแล้ว ยังได้อ่านเอกสารเกี่ยวกับแหล่งพลังงานของจานบินด้วย เขาอธิบายว่าจานบินนั้นใช้กระบวนการไฮโดรแมกเนติก คือ เป็นการใช้ธาตุบางอย่างที่หาได้ ตามดาวในจักรวาล ทำปฏิกิริยานิวเคลียร์รี แอกชั่น เป็นเตาปฏิกรณ์ ที่ยิงพลังงานด้วยโปรตอน ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ใน Area 51 นี้กำลังคิดสร้างเตาปฏิกรณ์ แอททิแมทเทอร์ ขึ้นมาเลียนแบบ แต่ก็ยังไม่สำเร็จ แหล่งพลังงานของยานบิน คือ แอนทิแมทเทอร์ รีแอคเตอร์ (เครื่องปฏิกรณ์ยิงระเบิดสสารที่ประกอบด้วยอนุภาคที่เหมือนกัน แต่มีประจุไฟฟ้าตรงกันข้ามด้วยโปรตรอน) มีท่อกลวงตรงกลางยาน จากพื้นขึ้นไปถึงยอด ซึ่งอาจเรียกว่าเป็นท่อเหนี่ยวนำคลื่นพลังโน้มถ่วงหรือพลังไฟฟ้าที่ผ่านเข้าไปในนั้น ช่วงล่างของท่อ จะเชื่อมติดกับตัวแอนทิแมทเทอร์ รีแอคเตอร์ ซึ่งมีลักษณะรูปร่างคล้ายครึ่งวงกลมคว่ำลงติดกับพื้นของยาน ท่อกลวงตรงกลาง หรือท่อเหนี่ยวนำจะเป็นท่อยาวต่อไปจนถึงยอดบนของยาน เครื่องปฏิกรณ์มีขนาดใหญ่ เท่ากับลูกบาสเกตบอล ลักษณะคล้ายครึ่งวงกลมคว่ำลง บนแผ่นโลหะเล็กๆ มันจะส่งสนามพลัง หรือ สนามกำลังดึงดูดออกมาโดยรอบ ซึ่งในช่วงเวลาที่มันทำงาน ก่อให้เกิดแรงผลักคล้ายแม่เหล็กสองแท่งที่มีขั้วเหมือนกันกระทำปฏิกิริยาต่อ กัน สารหรือธาตุที่เป็นองค์ประกอบเชื้อเพลิงยิ่งน่าสนใจมาก มันคือธาตุที่ 115 ซึ่งตามทฤษฎีกล่าวว่า มันจะปรากฏอยู่รอบๆ ธาตุ 113-114 กลายเป็นธาตุที่มั่นคง และมีการรวมโปรตรอน กับนิวตรอน ก่อให้เกิดธาตุใหม่ซึ่ง สามารถนำไปใช้ได้ หากยิงอนุภาคพลังงานด้วยโปรตรอน มันก็จะแตกธาตุจนถึงธาตุ 116 และปล่อยสสารแอนทิแมทเทอร์ออกมา ซึ่งนั่นคือมันจะทำปฏิกิริยากับสสารซึ่งเรียกว่า "ปฏิกิริยาแอนนิไฮโลชั่น" ปฏิกิริยา พื้นฐานดังกล่าวก่อให้เกิดพลังแม่เหล็กไฟฟ้า ตามท่อเหนี่ยวนำมากขึ้นๆ และพลังที่เพิ่มขึ้นมากมายมหาศาลนี้เอง ที่ถูกนำไปใช้กับอะไรก็ได้ตามที่พวกเขาต้องการ ธาตุที่ 115 ไม่ได้เกิดขึ้นบนโลก และไม่สามารถสังเคราะห์ได้ เนื่องจากเป็นธาตุที่หนักมาก จากแหล่งข้อมูล ทุกฝ่ายระบุว่าธาตุนี้พบตามธรรมชาติบนโลกหรือดาวเคราะห์ที่ใหญ่กว่าโลกมาก อาจเป็นโลก ที่มีพระอาทิตย์สองดวง ในแต่ละครั้ง จานบินหรือยานของมนุษย์ต่างดาวจะใช้ธาตุ 115 จำนวนมากถึง 223 กรัม การที่จานบินบินด้วยความเร็วสูง การบินเลี้ยวกลับเป็นมุมฉาก การหยุดนิ่งกลางอากาศและการเร่งความเร็วของจานบินและการดับเสียงโซนิคบูม รวมถึงการเร่งความเร็วขนาด 22,000 ไมล์ต่อชั่วโมงหรือมากกว่านั้น จานบินอาจใช้วิธีอาศัยสนามแรงโน้มถ้วงเทียม หรือบางทีอาจใช้คุณสมบัติพิเศษของมิติและกาลเวลา ซึ่งโลกเรายังไม่คุ้นเคยก็เป็นไปได้ หลังจากการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ของ ลาซาร์ เผยแพร่ออกไป ผู้คนที่สนใจเรื่องนี้จากเดิมที่เคยมาสอดแนมเป็นบางครั้งบางคราว กลับกลายเป็นผู้คนจากทั่วทุกสารทิศ ต่างหลั่งไหลมาคอยจับตา ดูสิ่งบินลึกลับตามที่ลาซาร์บอก มีคนจำนวนมากอ้างว่าได้พบเห็นวัตถุบินลึกลับ บินอยู่เหนือบริเวณนั้นบ่อยครั้ง จนหลายคนสงสัยว่าบริเวณพื้นที่ 51 น่าจะเป็นฐานทัพหรือกองบัญชาการของวัตถุบินลึกลับ แต่ทว่าผู้คนที่อาศัยอยู่แถบบริเวณนั้นกลับบอกว่าไม่เคยเห็นมีอะไรผิดปกติ เกิดขึ้นแต่อย่างใด รัฐบาลสหรัฐ โต้กลับว่าสิ่งที่ผู้คนส่วนใหญ่เห็น และอ้างว่าเป็นจานบินนั้น แท้จริงแล้วคือเครื่องบินรุ่นใหม่ ๆ ของกองทัพอากาศ โดยทางกองทัพมักจะใช้ที่นี่เป็นสถานที่ทดลองอากาศยานรุ่นใหม่ ๆ ก่อนที่จะออกสู่สายตาสาธารณชน เช่น U-2, A-12, SR-71 และ F-117A นอกจากนี้ยังรวมถึงเครื่องบินรุ่นใหม่ล่าสุด 2 ชนิดคือ เครื่องบินสอดแนมความเร็วสูงที่เรียกว่า Aurora และ เครื่อง B-2 ที่จะมาแทน F-117A ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า เครื่องบินเสตลธ์ ก็สร้างสำเร็จที่นี่ ได้รับสมยานามทางทหารว่า "ปีศาจล่องหน" เพราะเคลือบด้วยวัสดุพิเศษ ทำให้เครื่องบินหลบเรดาร์ของข้าศึกได้ แต่รัฐบาลสหรัฐก็ไม่เคยยอมบอกว่าวัสดุที่เคลือบนั้นเอามาจากไหน และทำไมถึง หลบเรดาร์ได้ ล่าสุดก็มีข่าวว่า Area 51 จะย้ายออกจากรัฐเนวาด้า ไปยังที่ลับๆ ปราศจากสื่อมวลชนที่คอยตามข่าว รัฐบาลสหรัฐบอกว่า ที่นั่นมักจะมีการซ้อมรบอยู่เรื่อย ๆ โดยมีการยิงพลุ และทำแสงแวบ ๆ อยู่ตลอดบนท้องฟ้า ดังนั้น สิ่งที่พวกนักสังเกตการณ์ทั้งหลายเห็นและคิดไปต่าง ๆ นานาน่า คือการซ้อมรบดังกล่าว หลังจากที่บ็อบออกมาประกาศแก่สื่อมวลชน รัฐบาลสหรัฐ ก็ออกหมายจับเขาทันที แล้วเขาก็หายสาบสูญไป รัฐบาลสหรัฐ จะออกมาแถลงว่า Area 51 นั้น เป็นเพียงศูนย์การค้นคว้าด้านเครื่องบินของด้านการทหาร ค.ศ. 1985 โครงการลับต่างๆ ที่ใช้พื้นที่ 51 เป็นสถานีทดลองนั้นค่อยๆ ทยอยจบลง เช่น การทดลองเครื่องบินจารกรรมแทคอิทบลู การทดลองเครื่องบินขีปนาวุธแอดวานซ์ครูซ การทดลองขีปนาวุธ สแตนด์ออฟแอทแทค แต่ถึงกระนั้นกองทัพอากาศสหรัฐก็ยังคงตั้งศูนย์ปฏิบัติการอยู่ที่นั่น เป็นไปได้ว่ากองทัพอากาศยังคงมีภารกิจอื่นๆ ที่ไม่เป็นที่เปิดเผย งบประมาณลับประจำปีของทหาร Area 51 นั้นมากกว่า 41,000 ล้านยูโร ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการในสหรัฐ --------------------------------------> ค.ศ. 2014 ช่วงปลายปี ก็สร้างความฮือฮา และปริศนาลี้ลับ เกี่ยวกับ มนุษย์ต่างดาว และยานบินลึกลับออกมาอีก เมื่อ ดร.บอยด์ บุชแมน วิศวกรชาวอเมริกัน ซึ่งเคยทำงานร่วมกับทีมนักวิทยาศาสตร์ Area 51 รายที่ 2 ได้เปิดเผยข้อมูลลับสุดยอดก่อนเสียชีวิต เกี่ยวกับหน้าที่การงานของเขา เขาเกิดเมื่อปี 2479 และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2557 โดย เขาเป็นหนึ่งในวิศวกร ที่เป็นผู้บุกเบิกขีปนาวุธ สติงเกอร์ เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานมานานกว่า 40 ปี นอกจากนั้น ยังได้รับรางวัลด้านสิทธิบัตรถึง 28 รางวัล อีกทั้งยังเคยทำงานสัญญาจ้างด้านกลาโหม กับ ฮิวจ์แอร์คราฟท์ เจเนอรัล ไดนามิกส์ และบริษัท ลอกฮีด มาร์ตินด้วย เขาได้ศึกษาเรื่องจานบิน และชีวิตของมนุษย์ต่างดาว ที่ฐานปฏิบัติการลับแห่งหนึ่ง ดร.บุชแมน ตัดสินใจเปิดเผยข้อมูลของมนุษย์ต่างดาว และจานบินนอกโลก ผ่านการบันทึกลงในคลิปวิดีโอสั้นๆ ก่อนเขาจะเสียชีวิตเมื่อ เดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา เขาบอกถึงภารกิจของเขาและทีมงาน ด้วยความเคารพต่อยานมนุษย์ต่างดาว พวกเขาพลเมืองอเมริกัน กำลังทำงานเกี่ยวกับจานบิน UFO 24 ชม.ต่อวัน พวกเขากำลังพยายามเรียนรู้ เขาได้อธิบายเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวไว้ว่า ตามที่พวกเขารู้นั้น เอเลี่ยนสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ซึ่งเหมือนกับในฝูงปศุสัตว์ คือ กลุ่มหนึ่งทำหน้าที่เป็นโคบาล หรือผู้ต้อนสัตว์ ส่วนอีกกลุ่มหนึ่ง เหมือนกับผู้ขโมยวัวควาย โดยกลุ่มเอเลี่ยน ที่คล้ายกับเป็นโคบาลนั้น มีลักษณะนิสัยที่มีความเป็นมิตรมากกว่า มีความสัมพันธ์ที่ดี มีความเป็นเพื่อนและช่วยเหลือกับพวกตนมากกว่า ขณะเดียวกัน เขายังอธิบายถึงลักษณะของเอเลี่ยน และเผยภาพถ่ายของเอเลี่ยนด้วยว่า มีความสูงแค่เพียง 5 ฟุตเท่านั้น ( ใกล้เคียงกับ บ๊อบ โรเบิรต ลาซาร์ บอก) โดยมี เอเลี่ยน หนึ่ง หรือ 2 ตน ของพวกเอเลี่ยนเหล่านี้ มีอายุยืนถึง 230 ปี ขณะที่ ตาและจมูกของเอเลี่ยนมีความแตกต่างจากมนุษย์ แต่ก็มีนิ้วมือและนิ้วเท้าข้างละ 5 นิ้วเหมือนกัน ที่น่าทึ่ง คือ เอเลี่ยนมีความสามารถในการสื่อสารทางโทรจิต ความสามารถเหนือมนุษย์ของเอเลี่ยน คือ พวกเขาสามารถใช้เสียงของเขา สื่อสารผ่านทางโทรจิตเพื่อคุยกับมนุษย์ --------------------------------------> ล่าสุดเมื่อปลายเดือน ธันวาคม 2014 ชายนิรนามอ้างเป็นคนวงใน ติดต่อขอพบนักข่าว พร้อมไขข้อข้องใจเรื่องมนุษย์ต่างด่าว ว่ามีอยู่จริง นอกจากนั้นยังแผงตัวใช้ชีวิตอยู่บนโลกกว่า 80 ปีมาแล้ว สำนักข่าวท้องถิ่น เนวาด้าเดลี่เมล์ เผยเรื่องที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ เมื่อนักข่าวคนหนึ่งได้รับการติดต่อจากชายนิรนาม ที่ไม่ยอมเปิดเผยว่าตนเองเป็นใครมาจากไหน และได้ขอนัดนักข่าวไปพูดคุยเป็นการส่วนตัวเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวที่อาศัยอยู่บนโลก ซึ่งการพูดคุยครั้งนี้ ชายคนดังกล่าว ไม่ขอเปิดเผยชื่อ ปกปิดรูปลักษณ์ภายนอก และไม่ยินยอมให้อัดวีดีโอ หรืออัดเสียงบันทึกการสนทนาใดๆ ทั้งสิ้น ชายคนดังกล่าว อ้างว่าเคยทำงานอยู่ใน แอเรีย 51 แต่ไม่ยอมบอกว่าทำตำแหน่งหน้าที่อะไร ได้เปิดเผยถึงข้อมูลที่ชาวโลกทุกคนสงสัย โดยมีข้อมูลที่สำคัญที่สรุปเอาไว้ได้ทั้งหมด 10 เรื่องดังนี้ 1. มนุษย์ต่างดาวมีอยู่จริง และอาศัยอยู่บนโลกมนุษย์เรามานานกว่า 80 ปี 2. มนุษย์ไม่ได้เป็นผู้ค้นพบพวกเขา แต่พวกเขาติดต่อเรามาเอง 3. ช่วงเวลาที่ติดต่อมา คือ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือปี ค.ศ. 1946 4. หน้าตาของมนุษย์ต่างดาวเหมือนกับคนปกติ โดยพวกเขาอ้างว่า แท้จริงแล้วรูปลักษณ์ภายนอกปกติของพวกเขา ไม่ได้เป็นแบบคนทั่วไป แต่เขามีวิธีการทำให้ตัวเองมีรูปลักษณ์แบบคนทั่วไปได้ 5. พวกเขาติดต่อผ่านนายทหารระดับสูงของอเมริกาท่านหนึ่ง และหลังจากนั้นนายทหารท่านนั้นก็พาไปพบกับประธานาธิปดีสหรัฐฯ ในขณะนั้น (แฟรงคลิน ดี รูสเวลท์) 6. ประเด็นที่เข้าพบ คือ เรื่องของสันติภาพของโลกในอนาคต สาเหตุจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า มนุษย์ต่างดาวมาเพื่อให้คำแนะนำหรือมาเพื่อบอกอะไร 7. แท้จริงแล้วมนุษย์ต่างดาวยังมีอีกหลายเผ่าพันธุ์ แต่พวกเขาเป็นเผ่าพันธุ์ที่อาศัยอยู่ใกล้กับโลกมากที่สุด และมีสิ่งแวดล้อม แรงดึงดูด เวลาโคจรของดวงดาวใกล้เคียงกันมากที่สุด ส่วนเผ่าพันธุ์อื่นจะอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างจะโลกค่อนข้างมากและอยู่ไกลเกินกว่าจะมาถึงโลกได้บ่อยๆ แต่ก็มีแวะเวียนมาบ้าง 8. เผ่าพันธุ์ของพวกเขาเพิ่งย้ายมาอยู่บนโลกมนุษย์อย่างเป็นทางการเมื่อปี ค.ศ 1936 9. พวกเขาย้ายมาอยู่บนมนุษย์โลกหลายสิบชีวิต แต่ละชีวิตกระจัดกระจายไปอยู่ตามที่ต่างๆ บนโลก เป็นชนกลุ่มแรกของดาว ที่ทดลองย้ายเข้ามาอยู่เพื่อเรียนรู้และทดลองการใช้ชีวิต อาจเป็นเพราะดาวของพวกเขาประสบปัญหาบางอย่าง และต้องการหาที่อยู่ใหม่ 10. พวกเขาเป็นมิตรกับมนุษย์ หลังจากสงครามโลก จนถึงปัจจุบัน พวกเขาติดต่อกับพวกเรามาหลายครั้ง ส่วนใหญ่เกี่ยวกับการศึกษา เรียนรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ โดยปัจจุบันก็มีพวกเขากว่า 100 ชีวิตอาศัยอยู่บนโลกใบนี้ โดยที่เราไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ เรื่องทั้งหมดที่รวบรวมย่อมา ปี ค.ศ.ต่าง ๆ และชื่อบุคคล ล้วนมีอยู่จริง แต่ไม่สามารถยืนยันทางสิ่งที่เขาเล่ามาได้ 100% เนื่องจากเป็นคำบอกเล่าของชาย 3 คน ที่อ้างว่าเคยทำงานใน แอเรีย 51 ก็ถือเสียว่า "เป็นการรับรู้เพื่อความบันเทิง" ส่วนใครสนใจก็สามารถค้นคว้าเพิ่มเติมได้เองตามประเด็นที่สนใจ @ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป http://www.facebook.com/topsecretthai อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ธันวาคม 29, 2014 ทหารปฏิรูปประเทศไทย added 9 new photos. 12 hrs · วันที่ 28 ธ.ค.57 ภัยพิบัติหนักขนาดนี้ อ่วมกว่าสึนามิถล่มเสียอีก นอกจากฟิลิปปินส์ ไทย มาเลเซีย จะเจอพลังสนามแม่เหล็กโลกแปรปรวน จนเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ฝนตกหนักต่อเนื่องไม่ลืมหูลืมตา น้้ำท่วมหนัก กินบริเวณกว้าง ประชาชนหลายล้านคนได้รับผลกระทบ ที่ศรีลังกาเอง ก็อ่วมไม่แพ้กัน เกิดฝนตกเป็นฟ้ารั่ว ดินถล่ม กวาดบ้านเรือนประชาชนวินาศ ทรัพย์สิน รถยนต์ เสียหายยับเยินสุดคณานับ ประชาชนต้องอพยพหนีตายกันจ้าละหวั่น ครอบรอบ 10 ปี สึนามิ แม้ยังไม่มีคลื่นทะเลที่สูง 14 เมตร พุ่งเร็วกว่ารถไฟความเร็วสูงถล่มชายฝั่ง แต่ก็เจอน้ำท่วมสูงท่วมหัว ท่วมตัว และกินบริเวณกว้าง ผลกระทบมากกว่าสึนามิเสียอีก @ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป http://www.facebook.com/topsecretthai อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ธันวาคม 29, 2014 ทหารปฏิรูปประเทศไทย added 5 new photos. 10 hrs · Edited · วันที่ 28 ธ.ค.57 น่าคิด..การค้นหาเครื่องบินสูญหายที่ประหลาดมาก กระทรวงขนส่งอินโดนีเซีย รายงานความคืบหน้ากรณีเครื่องบินสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบิน QZ8501 มีผู้โดยสารพร้อมลูกเรือจำนวน 162 คน สูญหายขณะเดินทางจากอินโดนีเซีย ไปสิงคโปร์ในช่วงเช้าวันนี้ หน่วยกู้ภัยซึ่งออกค้นหาเครื่องบินบริเวณทะเลชวา โดยใช้เครื่องบินลาดตระเวณ ได้ยุติการค้นหาประจำวันนี้แล้ว เนื่องจากเข้าสู่ช่วงค่ำจึงมองไม่เห็น เพราะสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย มีเมฆมาก พรุ่งนี้จะเริ่มค้นหาต่อในเวลา 07.00 น. หรือเช้ากว่านั้น ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ แต่ยังมีการส่งเรือลาดตระเวณค้นหาต่อ ที่น่าสงสัย คือ เครื่องบิน Airbus 320-300 มีเพดานบิน 39,000 ฟุต ใช้เครื่องยนต์ 2 X IAE V2500 (2 X CFM56-5) ความเร็วปกติ 0.79 มัก เป็นรุ่นได้รับความนิยมมากเนื่องจากวิงเฟนซ์ ที่ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการบิน มีข้อน่าสังเกตุสำคัญ คือ 1. เครื่องบินรุ่นนี้ผลิตจาก บริษัทฝรั่งเศส น้ำมันบินได้นานสุด 4 ชั่วโมงนับจากตอนบินขึ้น มากสุดก็ลอยอยู่บนอากาศได้ไม่เกิน 09.30 น.ของเช้าที่ผ่านมา...แต่วันนี้ทั้งวันเงียบ หลังเครื่องหายไปกลับไร้คำแถลงแสดงความช่วยเหลือจากฝรั่งเศส 2. เครื่องบินแบบนี้มีระบบติดตามสัญญาณ "Ping" จากกล่องดำ 3 จุด (หน้า-หลัง-กลางตรงประตู) ของเครื่องบิน ที่ส่งสัญญาณพิกัดถึงดาวเทียมได้ทันที แม้จะจมน้ำลึก อายุแบตเตอรี่นาน 30 วัน ...แต่วันนี้เงียบ ไม่มีการใช้ระบบนี้ 3. เครื่องยนต์รุ่นนี้ผลิตจากบริษัทโรสรอยส์ ที่มีระบบติดตามความผิดปกติของเครื่องยนต์ทุกเครื่องตลอดเวลา 24 ชั่วโมง เมื่อเครื่องยนต์ทำงานผิดปกติ บริษัทผู้ผลิตจะรู้ทันที และสามารถรู้พิกัดด้วย..แต่วันนี้เงียบ 4. การหยุดค้นหาด้วยเครื่องบิน และใช้เรือลาดตระเวณต่อช่วงกลางคืน ก็พอฟังขึ้น แต่ลืมไปหรือเปล่า ว่ามันค้นหาด้วยวิธีข้อ 1-3 ได้ เพราะเวลาท้องถิ่นที่มะกันเป็นกลางวันห่างกันราว 12 ชม. และเวลายุโรปที่ฝรั่งเศสก็มาตรฐานเหลื่อมเวลาตรงจุดเครื่องหายราว 7 ชั่วโมง กดคอมหาแป็บเดียวก็เจอแล้ว..แต่คืนนี้เงียบ แต่กลับใช้การค้นหาวิธีบ้านๆ โบราณ คือ บินสำรวจด้วยตานักบินทั้งที่ทัศนวิสัยไม่ดี มองเห็นได้ในระยะไม่กี่เมตรเท่านั้น และใช้เรือลาดตระเวณ ซึ่งเป็นวิธีการที่ล้าสมัยในกรณีฉุกเฉินร้ายแรงแบบนี้ หากช่วงเครื่องบินลงทะเลเช้าตรู่ราว 06.20 น. ถ้ามีคนรอดชีวิต ข้ามคืนนี้ก็นานเกินไป จนยากเกินจะช่วยชีวิตพวกเขาแล้ว เพราะคิดแง่ดีว่าหากพวกเขา สวมหน้ากากอ๊อกซิเจน สวมเสื้อชูชีพ ตามขั้นตอน และเครื่องลงกระทบผิวน้ำจากความสูงล่าสุด 38,000 ฟุต เครื่องจะต้องฉีกออกจากกัน ผู้โดยสารจะบาดเจ็บ ขาดอาหารกิน อากาศหนาวเย็นมาก ยากที่มีชีวิตรอดถึงเช้าวันถัดไปได้ ข้อที่น่าสงสัยนี้ คล้ายกับกรณี MH370 ของมาเลยเซียเลย ที่ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีการค้นหาทันสมัยมาใช้เลย ทั้งๆ ที่แค่บริษัทเครื่องบิน และบริษัทเครื่องยนต์ กดแป้นคีย์บอร์ดดูไม่นานเท่าไร ก็เจอพิกัดและรู้สถานะเครื่องตั้งแต่ไม่เกิน 15.00 น. แล้ว หรือนี่คือละครโรงใหญ่อีกครา วันถัดไปคงได้คำเฉลยนี้ ? ** ใครอยากรู้ขั้นตอนการอุ้ม MH370 หายไปเมื่อ 10 เดือนที่แล้ว คลิ๊กไปที่https://www.facebook.com/media/set/… @ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป "กติกา" โปรดงดความเห็นในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในตอนนี้, งดนำข่าวลือเขาว่ามา , คำหยาบ , ป่วน , งดลิ้งใดๆ ทุกชนิด , งดข้อความจากแหล่งอื่น , งดภาพ , การให้ร้ายดูหมิ่นเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกพิจารณาบล็อกเข้าเพจนี้..สามารถติดตามบทความยาวที่ http://www.facebook.com/thailandcoup อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ธันวาคม 29, 2014 ทหารปฏิรูปประเทศไทย added 5 new photos. 17 hrs · Edited · วันที่ 28 ธ.ค.57 ไฮเทค..ดูภาพ CCTV ถนนทั่วไทย แบบเรียลไทม์ผ่านเน็ต ด้วยช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ มีประชาชนใช้รถใช้ถนน และมักจะเกิดอุบัติเหตุจำนวนมาก ดังนั้นการวางแผนการเดินทาง จึงเป็นความสำคัญอย่างยิ่ง ที่จะหลีกเลี่ยงเหตุไม่คาดฝัน ประชาชนทุกคนสามารถตรวจเช็คสภาพจราจรถนนทั่วไทย ในจุดสำคัญ ผ่านกล้อง CCTV ได้ด้วยตนเอง โดยไปคลิ๊ก ►http://bmm2.doh.go.th/ems/ จากนั้นคลิ๊กที่รูปกล้องที่จุดที่ต้องการ จะโชว์ภาพจุดนั้นแบบเรียลไทม์ออนไลน์ทันที เมื่อทุกคนสามารถเห็นภาพเส้นทาง ก...See More อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ธันวาคม 29, 2014 ทหารปฏิรูปประเทศไทย added 16 new photos. Yesterday at 6:53am · Edited · วันที่ 28 ธ.ค.57 รัสเซียพร้อมลุยแล้วประกาศ “หลักนิยมทางทหาร” ฉบับใหม่ พร้อมใส่นิวเคลียร์ไม่ยั้ง ประธานาธิบดีปูติน ประกาศ “หลักนิยมทางทหาร” ฉบับใหม่ 2014 ระบุว่า NATO คือ “ภัยคุกคามขั้นพื้นฐาน” ต่อสหพันธรัฐรัสเซีย ระบุว่า กองทัพรัสเซียมีสิทธิ์ " ใช้มาตรการทางทหาร เข้าตอบโต้ก็ต่อเมื่อทางเลือกที่ปราศจากความรุนแรงอื่นๆ ไม่อาจระงับความขัดแย้งได้แล้ว " กองทัพรัสเซีย ขอสงวนสิทธิ์ในการนำอาวุธนิวเคลียร์ออกมาใช้ " โจมตีประเทศใดๆ ก็ได้ " ในกรณีที่รัสเซีย หรือชาติพันธมิตรถูกโจมตี หร...See More อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ธันวาคม 29, 2014 ทหารปฏิรูปประเทศไทย added 11 new photos. 21 hrs · Edited · วันที่ 28 ธ.ค.57 บิ๊กตู่ เปิดโครงการพัฒนาเส้นทางจักรยานในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ เมื่อเช้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เป็นประธานพิธีเปิดโครงการพัฒนาเส้นทางจักรยานในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ของกรุงเทพมหานคร บริเวณลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ถนนราชดำเนินกลาง โดย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รายงานความเป็นมาของโครงการทั้งหมด บิ๊กตู่ ระบุว่า การพัฒนาเส้นทางจักรยานในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ถือเป็นของขวัญปีใหม่ที่กรุงเทพมหานครมอบให้กับประชาชน ซึ่งรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนและดำเนินการให้เกิดเป็นรูปธรรมมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันจักรยานได้รับความนิยมจากประชาชนและนักท่องเที่ยวมากขึ้นตามลำดับไม่ใช่เพียงในกรุงเทพมหานครเท่านั้น แต่รวมถึงจังหวัดการท่องเที่ยวด้วย ซึ่งต้องมีการจัดให้มีเส้นทางจักรยานที่ปลอดภัย เพื่อช่วยส่งเสริมให้ประชาชนใช้จักรยานในการเดินทางในชีวิตประจำวันมากขึ้นจะช่วยให้ประหยัดพลังงาน ลดมลภาวะทางอากาศ ทางเสียง แก้ปัญหาโลกร้อน และเป็นการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมบ้านเมืองจะน่าอยู่ขึ้น รัฐบาลจะสนับสนุนให้มีการขับขี่จักรยานปลอดภัย โดยผู้ใช้รถใช้ถนนต้องมีน้ำใจแบ่งปันเอื้อเฟื้อต่อกันเคารพกฎจราจร ส่วนที่ กทม.มีการปิดถนนเพื่อเปิดให้คนมาขายของนั้นเป็นโอกาสที่ดีที่จะให้ประชาชนได้มาเดินพูดคุยกัน อีกทั้งการปั่นจักรยานร่วมกันจะทำให้ประชาชนมีปฎิสัมพันธ์ที่ดีกว่าการขับรถยนต์ปิดกระจกอยู่ในรถของตัวเอง จากนั้นนายกรัฐมนตรีนำคณะรัฐมนตรี ผู้ว่าฯ กทม. ผู้นำเหล่าทัพ คณะผู้บริหารหน่วยงานและประชาชน พร้อมใจกันใส่เสื้อเหลืองร่วมปั่นจักรยานรอบเกาะรัตนโกสินทร์ไปตามเส้นทางจักรยาน 8 กิโลเมตร โดยใช้เวลาประมาณ 35 นาที --------------------------> เดี๋ยวคอยดูจะต้องมีเสื้อแดง ออกมาค่อนขอดอีกแน่ๆ เพราะตอนนี้บิ๊กตู่ มีผลโพลคะแนนนิยม ชนะปูข้าวเน่า มากถึง 200% @ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป http://www.facebook.com/topsecretthai อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ธันวาคม 29, 2014 คำเตือนเกี่ยวกับแอร์เอเชียเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ธันวาคม 29, 2014 สหรัฐฯพลาดหนุนระบอบทักษิณ หรือคิดเป็นศัตรูคนไทยทั้งแผ่นดิน? http://www.naewna.com/columnonline/16164 บังคับคดีหวั่นพิษรถคันแรก กรมบังคับคดีตั้งเป้าไกล่เกลี่ยหนี้ปีหน้าเพิ่ม 20% จับตารถคันแรกถูกบริษัทเช่าซื้อฟ้องระนาว POSTTODAY.COM|BY THE POST PUBLISHING PUBLIC COMPANY LIMITED อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ธันวาคม 29, 2014 สวัสดีปีใหม่ แบ่งความสุขให้กัน เดินทางปลอดภัย 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ธันวาคม 29, 2014 Nhaam Toey added 4 new photos — with กลุ่มเพื่อนข้างถนน เพื่อจิตอาสา โคราช. สุนัขพันธุ์ ล็อดไวเลอร์ เพศเมีย หลงเข้ามาที่วิทยาลัยอาชีวศึกษานครราชสีมา(อศน.) ท่านใดเป็นเจ้าของมารับคืนที่วิลัยนะคะ เข้ามาตั้งแต่วันจันทร์แล้ว ช่วยกันแชร์ด้วยนะคะ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ธันวาคม 29, 2014 ทหารปฏิรูปประเทศไทย added 6 new photos. 59 mins · Edited · วันที่ 29 ธ.ค.57 บรรกาศเศร้าสะเทือนใจของญาติที่รอฟังข่าวคนที่รัก เครื่องบินสูญหาย..และกลิ่นทะแม่งโชยมาตามลม ภาพบรรยากาศสุดสะเทือนใจ ญาติผู้โดยสารเที่ยวบิน QZ8501 แอร์เอเชีย ต่างร่ำไห้ รอติดตามความเคลื่อนไหวเหตุเครื่องบิน Aia asia สูญหาย มีผู้โดยสารและลูกเรือ 162 ราย รอคอยข่าวสารด้วยความกระวนกระวายใจอยู่ที่สนามบินสุราบายา อินโดนีเซีย โดยมีทางการอินโดนีเซีย ส่งเครื่องบินและเรือไปค้นหายังจุดพิกัดครั้งสุดท้าย แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้า.. มีข้อสังเกตุชวนคิด คือ 1. สำนักงานใหญ่สายการบินนี้อยู่ในมาเลย์เซีย และมาเลย์เตรียมลดการถือครองพันธบัตร US ลง และหันไปค้าขายกับจีนโดยใช้เงินหยวน และมาเลย์ เป็นตัวตั้งตัวตี ยอมให้จัดม็อบกลางเมืองหลวง ส่งหน่วยแพทย์ และความช่วยเหลือ จำนวนมากเข้าไปช่วยเหลือกลุ่มฮามาส ที่ฉนวนการ์ซ่า ของปาเลสไตน์ และมีรายงานว่า มีผู้หญิงมาเลย์จำนวนมากหลายร้อยคน แอบลักลอบเข้าไปให้ความสุขทางเพศกับกลุ่ม IS ในซีเรีย และอิรัก... ไม่นานต่อจากนั้น MH370 ที่เป็นรัฐวิสาหกิจมาเลย์เซีย ก็ถูกมือที่มองไม่เห็นอุ้มหายไปเกาะดิเอโก้ กราเซีย และ MH17 ก็ถูกสอยร่วง..เงียบ !! 2. อินโดนีเซีย มีการส่งทหารของตนเองอย่างลับๆ ไปช่วยหลือกลุ่มฮามาส ที่ฉนวนการ์ซ่า ของปาเลสไตน์ และมีชาวอินโดฯ อีกราว 500 ราย ลักลอบเดินทางไปเป็นนักรบกับกลุ่ม IS ในซีเรีย และอิรัก...ไม่นานจากนั้นสายการบินเที่ยวบินนี้ ที่อินโดฯ มีหุ้น 51% มาเลย์มีหุ้น 49% นักบินขออนุญาตบินขึ้นจากราวกว่า 30,000 ฟุต สูงขึ้นเป็น 38,000 ฟุต และขอเปลี่ยนเส้นทางบินไปจากเดิม อ้อมห่างจากเกาะเบลิตัง ไปราว 145-185 กม. โดยอ้างว่าหลบเลี่ยงสภาพอากาศเลวร้ายฉับพลันก็สูญหายไป...แต่สนามบินทุกแห่ง ไม่พบการแจ้งเตือนสภาพอากาศเลวร้ายเครื่องบินลำใดเลย..เงียบ !! 3. การหายไปจากเรดาห์คือ Secoundary เรดาห์ ชนิดที่สะท้อนสัญญาณคล้าย SMS กลับไปที่ศูนย์ควบคุม แต่ Primary เรดาห์ทหาร ต้องสามารถจับสัญญาณได้ตามปกติ เพราะจุดที่สูญหาย คือ เขตแดนทางทะเลระหว่างสิงคโปร์ และอินโดฯ พอดี...แต่เงียบ !! 4. บริษัท Airbus ฝรั่งเศสที่ผลิตเครื่องบิน และมีลูกเรือ เป็นคนฝรั่งเศส 1 คน..เงียบ 5. บริษัทโรสรอย ที่ผลิตเครื่องยนต์..เงียบ 6. ดาวเทียม บ. Inmarsat ของอังกฤษ ที่ตามสัญญาณ Ping จากกล่องดำขณะอยู่บนท้องฟ้าก่อนสูญหายได้..เงียบ 7. เรือค้นหาสามารถตามสัญญาณ Ping จากกล่องดำหาพิกัดของเครื่องบินใต้ทะเลได้..เงียบ 8. ดาวเทียมมะกัน ที่สอดแนมอยู่ทั่วโลก เห็นแม้กระทั่งกางเกงในคิมจองอึนว่าสีอะไร..เงียบ แต่มีประเทศหนึ่ง "ไม่เงียบ" คือ "จีน" เพราะหน่วยข่าวกรองของจีน การคาดการณ์ล่วงหน้ามากกว่า 2 สัปห์ดาห์มาแล้ว และมีการแจ้งเตือนชาวจีน ไม่ให้โดยสารเครื่องบิน สายการบินดังกล่าวระยะไกลข้ามทะเล เพราะเกรงว่าจะเป็นเหยื่อ รายต่อไปถัดจาก MH370 และ MH17 ไม่รู้หน่วยข่าวกรองของจีน ไปได้ข่าวมาจากไอ้จุก ไอ้แกละที่ไหน คนจีนจึงเชื่อทางการเขา และปลอดภัยจากเที่ยวบินนี้ ?? @ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป http://www.facebook.com/topsecretthai อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น