ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 1, 2015 อสส.สั่งตรวจคำสั่งถอนฟ้อง "ธัมมชโย"ยักยอกเงินปี49 - NOW26.TV Morning news : อสส.สั่งตรวจคำสั่งถอนฟ้อง "ธัมมชโย" ยักยอกเงินปี 49 "NOW26" 1-3-58 NOW26.TV|BY BANGKOK BUSINESS BROADCASTING CO., LTD. รวมพลังใจ ระนอง added 2 new photos. เด็กๆ 10-13 ขวบ ที่ถูกใช้ขนของ จัดงาน ตักบาตร 1000 รูบ ถามอะไร ก็พูดไปไม่ได้ หลบอย่างเดียว ดึกป่านนี้ ตี1แล้ว น่าจะไปหลับนอน ผู้ใหญ่ ปล่อยให่เด็กเหล่านี้ ทำงาน ดึกดื่นได้อย่างไร หน่วยงานใด เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบที สงสารเด็ก อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 1, 2015 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 1, 2015 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 1, 2015 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 1, 2015 กรณี ธรรมกาย Clip : ชาวระนองระเบิดศึกธรรมกาย ปิดถนนขายบุญ ชาวบ้านโวยไม่ขออนุญาตเทศบาล แต่เอาโลโก้มาใช้ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 1, 2015 ถ้าขาดจากความเป็นพระแล้ว สิ่งที่ทำมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็ต้องถือว่าเป็นโมฆะหมด เรื่องระยะเวลาจะผ่านไปกี่ปีไม่สำคัญหรอก แต่ประเด็นอยู่ที่ว่าไอ้ที่ผ่านมามันถูกต้องไหม ถ้าไม่ถูกต้องก็ทำให้มันถูกต้องเสีย ไม่งั้นจะเกิดปัญหาตามมาอีกมากมาย บางคนบอกว่าทำไมต้องมารื้อฟื้น เพราะจะทำให้เกิดความแตกแยก อาตมามองว่าถ้าเราไม่ทำให้ปัญหายุติอย่างถูกต้องชอบธรรมมันก็จะไม่ยุติอย่าง แท้จริง มันก็จะสงบชั่วคราว แล้วจะปะทุ ลุกลามขึ้นใหม่ ดูอย่างกรณีธัมชโยเมื่อปี 2542 ที่จบลงแบบไม่กระจ่าง ไม่ขาวสะอาด ผ่านมา 16 ปีพอคนจุดประเด็นขึ้นมามันก็กลับมาเป็นเรื่องราวใหญ่อีก พราะ 16 ปีที่แล้วมันยุติลงแบบกลบเกลื่อนทั้งทางโลกและทางธรรม ทางธรรมก็คือ มหาเถรสมาคมมีมติที่ขัดกับพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราชและขัดกับหลักธรรม วินัย ทางโลกก็มีความเคลือบแคลงเพราะจู่ๆอัยการสูงสุดก็ถอนฟ้องทั้งที่คดีใกล้จะ พิพากษาแล้ว เป็นธรรมดาที่สังคมจะเรียกร้องให้กลับมาเริ่มกันใหม่ ถ้าเราอยากให้เรื่องมันจบเร็วๆก็ต้องทำให้เรื่องมันยุติลงอย่างถูกต้องใส สะอาด จะได้ไม่มีการรื้อฟื้นขึ้นอีก โพสต์ทูเดย์ วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ สัมภาษณ์พิเศษ พระไพศาล วิสาโล อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 1, 2015 (มีการแก้ไข) คนไทยกังขา? “วัดธรรมกาย” ฐานกำลังสำคัญ!!! ระบอบทักษิณ จริงหรือไม่? : โดนจังดอทคอม www.donjung.com จากกรณีที่ทางด้านของ นายแพทย์เหวง โตจิราการ แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.... DONJUNG.COM วัดธรรมกาย ฐานกำลังสำคัญ!!! ระบอบทักษิณ ถูกแก้ไข มีนาคม 1, 2015 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 1, 2015 เมื่อแจ็ค บราว หนุ่มฝรั่ง เล่าเรื่องรักเมืองไทย ทำให้ถึงกับอึ้ง (12 photos) วันที่ 21 ก.พ.58 เผย..เมื่อแจ็ค บราว หนุ่มฝรั่ง เล่าเรื่องรักเมืองไทย ทำให้ถึงกับอึ้งและซึ้งแปดตลบ ตอนที่แล้วเล่าถึงพ่อใหญ่ Martin Wheeler ชาวอังกฤษ ฝรั่งเขยไทย แห่งหมู่บ้านคำปลาหลาย อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ผู้ปฎิเสธทุนนิยม การันตีว่าเศรษฐกิจพอเพียงชนะขาดทุนนิยม และยืนยันเต็มปากว่าคนอังกฤษนั้นจนกว่าคนไทย และคนไทยมี 3 สิ่งที่โชคดีที่สุดในโลก คือ พระเจ้าอยู่หัว มีศาสนาพุทธ แผ่นดินประเทศไทยอุดมสมบูรณ์มาก ** ความเดิมตอนที่แล้ว..ฝรั่งเขยไทย ปฎิเสธทุนนิยม คนอังกฤษจนกว่าไทย (ตอนแรก) คลิ๊กไปที่ลิ้งhttps://www.facebook.com/media/set/?set=a.325841177605916.1073742062.187529244770444&type=1 ฝรั่งอีกคนที่จะนำเรื่องราวของเขามาถ่ายทอดคือ Mr. Jack Brown หรือ Dekfarang ชายหนุ่มอังกฤษ เล่าว่าคุณพ่อของเขา แยกทางกับแม่ตั้งแต่เขาเด็กๆ คนไทยจำนวนหนึ่งอยากอยู่อังกฤษ แต่เขาเป็นคนอังกฤษที่อยากอยู่เมืองไทย เพราะข้อเสียของประเทศอังกฤษ คือ อากาศไม่ดี หนาวตลอด หิมะเหมือนจะตกตลอดเวลา พออากาศไม่ดี ก็ทำให้บรรยากาศเศร้าไปด้วย แล้วคนก็ไม่ค่อยเหมือนคนไทย อาหารไม่อร่อย มีหลายเรื่องที่ทำให้เขาไม่อยากอยู่อังกฤษ เขาจึงออกจากอังกฤษมาตั้งแต่อายุ 19 ปี ใช้ชีวิตอยู่ที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย ประมาณ 9 ปี อยู่บ้านแชร์กับเพื่อนคนไทย มีแฟนเป็นคนไทย รู้จักกับแฟนได้ตอนไปเรียนที่ออสเตรเลีย เขามีแต่เพื่อนคนไทย แล้วเวลาเขาคุยภาษาไทยกัน ก็ไม่รู้เรื่อง เซ็งมาก พอไม่รู้เรื่องก็รำคาญ จนมาวันหนึ่งคิดว่าไม่ไหวละ เบื่อมากล่ะ ฟังเขาไม่รู้เรื่อง อยากเรียนภาษาไทยจะได้รู้เรื่อง วิธีเรียนเขาก็ใช้วิธีการถามเอา ไม่ได้เข้าเรียนในโรงเรียนภาษา เวลาเห็นเพื่อนคนไทยคุยกัน ก็จะถามเขาว่าแปลว่าอะไร ถามเขาว่าพูดอะไร บางคำถามถามหลายรอบจนเพื่อนรำคาญก็มี จนมาตอนหลังเห็นเพื่อนคนไทยเขียนเฟซบุ๊ค แต่อ่านไม่ออก ก็อึดอัดมาก เขาเลยไปลองเซิรส์อินเตอร์เน็ต ดูวิธีการอ่านภาษาไทย นั่งอ่านแค่ 2-3 ชั่วโมง ผมก็อ่านภาษาไทยเป็นแล้ว พอพูดได้ เขาไปดูว่าผสมคำยังไง อ่านออกเสียงยังไง พออ่านวิธีการอ่านได้ 2-3 ชั่วโมง เขาก็อ่านสเตตัสเฟซบุ๊คของเพื่อนได้เลยว่า “วันนี้จะไปเที่ยว..” ผมก็เลยตกใจมากว่าทำไมอ่านได้ จริงๆ นะ งงมากว่าทำไมอ่านได้ไวขนาดนี้ แล้วคงเพราะเขาพยายามทุกวัน อ่านในเฟซบุ๊คเพื่อน แล้วออกเสียงตาม หรือเวลามาเมืองไทยก็พยายามอ่านป้ายตามถนน เขาฝึกพูดกับเพื่อนมา 5-6 ปี เลยพอพูดได้ แต่เขายังเขียนไม่ได้ อันไหนที่เขียนยาวๆ ก็จะคิดเอง แล้วบอกเพื่อนคนไทย ให้เขาช่วยเขียนให้ พอเขากลับไปอังกฤษได้สักพัก ก็กลับไปอยู่ออสเตรเลียอีก ไม่ได้กลับไปเพราะแฟนอย่างเดียว แต่กลับไปเพราะหลายเหตุผล อยากหางานทำที่นั่น มีแฟนอยู่ที่นั่น พอมีแฟนคนไทย ทำให้มีเพื่อนคนไทยเยอะ ก็เลยคิดว่ากลับออสเตรเลียดีกว่า ชีวิตตอนกลางวันทำงานประจำเกี่ยวกับบัญชีที่ซิดนีย์ ส่วนกลางคืนก็ไปทำงานช่วยเพื่อนที่ร้านอาหาร ทำงานเป็นผู้จัดการร้านอาหารไทย ช่วงนั้นเลิกกับแฟนคนไทยได้ปีกว่าแล้ว รู้สึกไม่มีความสุขที่อยู่ที่ซิดนีย์ ------------------------------------> ปี 2549 หนุ่ม Jack Brown เขาจากบ้านที่อังกฤษ ไปเที่ยวออสเตรเลีย 1 ปี พอจะกลับบ้าน ก็ต้องแวะเปลี่ยนเครื่องที่มาเลเซีย ได้ยินนักท่องเที่ยวบอกว่า ถ้าไปมาเลย์ ยูต้องไปเมืองไทยนะ เมืองไทยสวยมาก เขาเลยมาเมืองไทย มาเที่ยวกับเพื่อนครั้งแรก ตอนนั้นเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเมืองไทยเลย แต่ได้ยินนักท่องเที่ยวคนอื่นบอกว่าทะเลไทยสวยมาก เลยบอกเพื่อนว่าอยากไปทะเล ไปเที่ยวเมืองไทยกันดีกว่า ตอนมาเที่ยวเมืองไทยครั้งแรก เขารู้สึกว่าเมืองไทยคนไทยไม่เหมือนที่อื่นจริงๆ คือ ประเทศมาเลเซีย อยู่ติดกับประเทศไทยก็จริงแต่ก็ไม่มีอะไรเหมือนกันสักอย่าง พอออกจากมาเลเซีย เข้าเมืองไทยปุ๊บ ฟิลลิ่งมันต่างเลย ตอนแรกมากรุงเทพ พักอยู่แถวข้าวสารประมาณ 2-3 อาทิตย์ มีวันหนึ่งบอกแท็กซี่ว่าอยากไปช้อปปิ้ง แท็กซี่เลยพาไปห้างมาบุญครอง ตอนนั้นคิดว่ากรุงเทพมีอยู่เท่านั้น ก็เลยนั่งรถไปหาดใหญ่ เที่ยวภูเก็ต กระบี่ สมุย เกาะพะงัน ตอนไปเที่ยวก็มีโอกาสได้เจอคนเยอะ เช่น เจ้าของโรงแรม เจ้าของเกสต์เฮ้าส์ เจ้าของร้านอาหาร นิสัยของคนไทยมีน้ำใจ และเฟรนด์ลีมาก ขนาดเขาเจอฝรั่งเยอะ แต่เขาก็ยังเฟรนด์ลีกับเรา ดูแลเขา ถามว่าไปไหน จะไปไหนต่อ รู้สึกยังไงกับเมืองไทย มีความสุขไหม ฯลฯ คนไทยสนใจเขา ๆ เลยรู้สึกอบอุ่น เขาชอบที่คนไทยถามไม่เหมือนฝรั่ง ปกติฝรั่งจะชอบถามว่า Hello.How are you ? หรือ สวัสดีครับ เป็นยังไงบ้าง แต่คนไทยจะถามว่ากินข้าวหรือยัง หรือไปไหนมา เขารู้สึกว่าถามเพราะความเป็นห่วง คนไทยทำเหมือนเขาเป็นครอบครัวเดียวกัน คนมีเงินกับคนไม่มีเงินก็เหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง คือ มีความสุขเหมือนกัน เห็นบางคนที่จนมากๆ แต่เขาก็ยังมีความสุขและยิ้มได้ เขาเลยชอบตรงนี้ พอเพื่อนถามว่าเมืองไทยเป็นไงบ้าง เขาก็ตอบว่าเมืองไทยสวย คนไทยสุดยอด อบอุ่น ไม่เหมือนประเทศอื่น หลังจากนั้นมาเขาก็มาเที่ยวเมืองไทยอีกทุกปี ปีละ 1-2 ครั้ง เลยได้รู้จักเมืองไทยมากขึ้นเรื่อยๆ เขาเลยชวนคุณแม่มาด้วย จ่ายค่าเครื่องบินให้แม่ก็มานะ เขาไม่เคยมาเอเชียมาก่อน ทริปนั้นเขาพาแม่ไปเที่ยวเกาะลันตา แม่ชอบมาก ถามว่ามีบ้านขายไหม อยากมารีไทร์ที่เมืองไทย แม่เห็นด้วยกับเขาว่าคนไทยดีมาก นิสัยอบอุ่น แต่เขาคิดว่าถ้ามีงานที่เมืองไทย และได้อยู่เมืองไทยตลอดไป เขาก็จะชวนแม่มาอยู่ด้วย พ่อเคยมาเที่ยวเมืองไทยเหมือนกัน เขาพาพ่อไปทำบุญไหว้พระ พาไปทำบุญซื้อโลงศพที่วัดหัวลำโพง พ่อก็ชอบมาก และพ่อเขาชอบเมืองไทย อาจไม่ใช่เรื่องสถานที่ แต่เป็นเรื่องของความรู้สึกมากกว่า เขาโทรบอกพ่อว่าอยากทิ้งชีวิตที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย ไปอยู่เมืองไทย เพราะตอนนั้นเขาไปเรียน และทำงานที่ออสเตรเลียหลายปีแล้ว พ่อฟังก็ตกใจเขาเป็นห่วง บอกว่าห้ามไปอยู่ซิดนีย์ดีกว่า แจ็คมีงานที่นั่นไม่ใช่เหรอ พ่อเลยห่วงว่าถ้าเขาออกจากซิดนีย์ จะไปทำอะไรที่เมืองไทย เขาบอกพ่อว่าไม่รู้หรอก แต่เขามีความสุขที่ได้อยู่เมืองไทย แต่พ่อบอกอยู่ออสเตรเลียดีกว่า รู้สึกคุยกันไม่เข้าใจก็เลยวางหูไป วันต่อมาพ่อก็โทรมาบอกว่า เมื่อวานพ่อคิดทั้งวันนะ พ่อเห็นแล้วว่าแจ็ครักเมืองไทยมาก ตอนพ่อมาเมืองไทย อยู่กับแจ็คก็เห็นว่าแจ็คมีความสุขแค่ไหน ตอนอยู่กับคนไทย แจ็คก็ดูเป็นธรรมชาติ แต่พ่อแค่ห่วงว่า แจ็คจะมีงานที่เมืองไทยหรือเปล่า แต่ถ้าพูดถึงความสุขแล้วพ่อเชื่อว่าแจ็คอยู่เมืองไทยแล้วจะมีความสุข นี่คือ เหตุผลที่ทำให้เขาตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่เมืองไทยอย่างจริงจังได้ 5 เดือน แต่ครอบครัว พ่อแม่ พี่สาวยังอยู่ที่อังกฤษ เวลาที่เพื่อนฝรั่งถามว่าทำไมถึงชอบเมืองไทย เขาแค่เอารูปให้เขาดู เพื่อนก็อาจจะชอบแล้ว แต่ส่วนมากเขาบอกเกี่ยวกับคนไทย ไม่ค่อยได้บอกเกี่ยวกับสถานที่ แต่พวกเขาฟังแลัวก็มาเมืองไทยเลย เขาไม่ค่อยเจอใครที่มาเมืองไทยแล้วไม่ชอบ แล้วส่วนใหญ่ไม่ได้ชอบเฉยๆ แต่ชอบมากด้วย เพื่อนบอกว่ารู้สึกเหมือนกันว่าคนไทยสุดยอดมาก ------------------------------------> ด้านความรัก ตอนนี้ Jack Brown มีแฟนใหม่เป็นคนไทย เพิ่งคบได้ประมาณ 6 เดือน แต่ต้องบอกว่าการที่ตัดสินใจมาอยู่เมืองไทยไม่ใช่เพราะแฟน แต่เขามาเพราะรักเมืองไทย เพราะตัดสินใจก่อนแล้วว่าจะมาอยู่ที่นี่ แล้วคิดว่ามีแต่เพื่อนคนไทย มีความสุขที่ได้อยู่เมืองไทย ดังนั้นมาอยู่ที่เมืองไทยดีกว่า “ เพราะอยู่ที่ไหนก็คิดถึงแต่เมืองไทย” เขาชอบผู้หญิงที่นิสัยน่ารักมากกว่า ชอบผู้หญิงที่สนใจเขา แคร์เขา ดูแลเขา ไม่ใช่ผู้หญิงเยอะๆ เขาไม่ชอบผู้หญิงที่ต้องการให้อยู่ด้วยตลอดเวลา เพราะเขาเป็นคนชอบอิสระ มีเพื่อนเยอะ ดังนั้นถ้ามีผู้หญิงที่เข้าใจเขา ก็จะดีมาก เวลากลับบ้าน อยากให้เขาถามว่าเป็นไงบ้าง เหนื่อยไหม งานเป็นไงบ้าง ไม่ใช่ถึงบ้านก็ไม่คุยกัน ส่วนแฟนคนไทยของเขาที่คบอยู่ปัจจุบันนี้ เขาชอบที่เป็นคนนิสัยน่ารัก ใจดี เทคแคร์เขา ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นครับ ตอนนี้เขาอยากไปเรียนภาษาไทยจริงจังแล้ว เพราะอยากอ่านและเขียนได้ทั้งหมด เพราะคิดว่าถ้าพูดได้รู้เรื่องหมด อ่านและเขียนได้ดี ก็คงทำให้เขาอยู่เมืองไทยง่ายมากขึ้นด้วย แต่ตอนนี้เขาเขาจะใช้ Siri โปรแกรมบนไอโฟนเขียนภาษาไทยให้ เพราะ Siri มีภาษาไทยแล้ว ดังนั้นเขาก็จะแค่พูดเป็นภาษา อังกฤษ แล้วให้ Siri เขียนให้ ส่วนเขาก็จะอ่านที่โปรแกรมเขียนอีกทีว่าใช่ที่เขาอยากพูดไหม เขาเปิดไอจีประมาณ 2 ปีที่แล้ว ใช้ชื่อว่า Dekfarang มีคนตามมาก ในนั้นเขาก็โพสต์เกี่ยวกับประเทศไทย เพราะเป็นสิ่งที่เขารัก สนใจ ชอบโพสต์เกี่ยวกับเมืองไทย ทำให้มีคนสนใจตามมากดไลค์ จากนั้นก็เยอะขี้นเรื่อยๆ ตอนนี้มีคนตามประมาณ 5 หมื่นกว่า ส่วนแฟนเพจ Jack Brown นี้เขาเพิ่งทำได้ไม่ถึงปี แต่ก็มีคนตาม 6 หมื่นกว่าแล้ว สังเกตว่าพอโพสต์คลิปที่พูดเกี่ยวกับเมืองไทย ก็ทำให้มีคนมาตามเพิ่มขึ้นทีละ 5 พันคน แฟนเพจและไอจีของเขาตอนนี้จึงป๊อบปูล่าร์มาก ผมรู้สึกงงนิดหน่อยนะว่าทำไมมีคนตามเยอะขนาดนี้ เพราะเขาไม่ใช่คนมีชื่อเสียง เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง แต่มีคนตามมาก แต่คิดว่าถ้ามีคนสนใจตามชีวิตเขา ก็อยากทำคลิปเอ็นเตอร์เทรนให้คนดูบ่อยๆ ด้วยเขาหน้าตาดี ทำให้มีแฟนคลับอินบ๊อกซ์มาจีบจำนวนมาก มีคนส่งข้อความมาถามว่ามีแฟนยัง ขอเจอได้ไหม มีไลน์หรือเปล่า ทำให้เขาตอบไม่ทันเลย ตอนนี้มีข้อความในเฟซบุ๊กมากกว่าหนึ่งพันข้อความ ที่เขายังไม่ได้ตอบ ไม่ได้หยิ่งนะ แต่ตอบไม่ทันจริงๆ บางทีเขาก็ถามว่าทำไมถึงรักเมืองไทย ทีแรกเขาก็ตอบทุกคน แต่ตอนนี้เหนื่อยนิดหน่อย เพราะมันต้องใช้เวลา ไม่มีเวลาเยอะขนาดนั้น ถ้าต้องตอบทุกคน หรือตอบทุกคอมเม้นท์ ก็ไม่ไหว แต่ก็พยายามตอบอยู่ ถ้าดูในไลน์เขา จะเห็นว่าตอนนีเขายังไม่ได้ตอบไลน์กว่า 800 กว่าข้อความ กลุ่มนี้เป็นคนที่เขาไม่รู้จัก แต่ไปหาไลน์เขามาได้ และแอดมา เขาบอกว่าเขามีแฟนแล้ว แต่ถ้าเจอแฟนคลับสวยเซ็กซี่เข้ามา จะไม่ทำให้หวั่นไหว ไม่คิดจริงๆ เพราะเขารักเดียวใจเดียวครับ ไม่อยากมีปัญหากับแฟน ------------------------------------> การที่ Jack Brown รู้จักเมืองไทยมาพอสมควร ทำให้เขาใจว่าทุกประเทศก็มีคนไม่ดี ดังนั้นถ้าเกิดเขาบอกว่าไม่ชอบในนิสัยคนไทยแบบไหน ก็เท่ากับว่าไม่แฟร์สำหรับคนอื่นๆ ด้วย ส่วนมากที่เขาพบเจอ ก็เป็นคนดี ดังนั้นจะว่าไปแล้วก็ไม่มีอะไรที่ไม่ชอบนิสัยคนไทย แต่ครั้งแรกที่เขาขับรถในเมืองไทย รู้สึกแปลกมาก เพราะไม่เหมือนฝรั่ง ซึ่งคนฝรั่งจะไม่ทำแบบนั้น เขางงการขับรถของคนไทย เพราะเดี๋ยวคนนั้นก็ขับแบบนี้ เดี๋ยวคนนี้ก็ขับอย่างนั้น เรียกว่าถ้าขับรถในเมืองไทยนานๆ จะรู้นิสัยคนไทยว่าจะขับแบบไหน และต้องระวังมากขึ้นด้วย ซึ่งฝรั่งไม่มีแบบนี้นะ เห็นได้ว่าคนไทยขับรถใจร้อน แต่เรื่องบางอย่างก็ใจเย็นกว่ามาก เช่น ถ้ามีคนขับปาดหน้าก็ไม่ค่อยมีใครว่ากัน ไม่ค่อยมีปัญหา แต่ถ้าเป็นที่ออสเตรเลีย คงกลายเป็นปัญหาใหญ่อาจมีต่อยกันแล้ว เรื่องที่ทำให้ขำได้ คงเป็นเรื่องการเขียนภาษาอังกฤษไม่ถูกของคนไทย บางครั้งหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษในไทยก็เขียนไม่ถูก เช่น เมนูอาหาร “ปูสลัด” เขาเขียนว่า “Poo salad” คือใช้คำว่า “Poo” ที่แปลว่าอุจจาระ ทั้งที่น่าจะเขียนว่า “Pu Salad” มากกว่า เห็นแล้วก็ขำมาก วัฒนธรรมของคนไทยที่ทำให้แปลกใจ คือ เรื่องกินข้าวไม่ตรงเวลาของคนไทยครับ เพราะฝรั่งจะกินอาหารตรงเวลามาก เช่น เวลา 8 โมงเช้า เที่ยงตรง และ 6 โมงเย็น ก็ต้องกินแล้ว แต่คนไทยไม่คิดเรื่องเวลา แต่กินได้ทั้งวันจริงๆ ไม่ว่าจะเช้าแค่ไหน ดึกแค่ไหน ไปเที่ยวเสร็จตี 2 ตี 3 ก็ไปกินข้าวกันต่อ เขาเลยงงว่าไปกินทำไมตอนนี้ ช่วงแรกเขารู้สึกแปลกๆ กินไม่ได้ ตี 2 ตี 3 เพื่อนนั่งกินข้าว เขาก็ไม่กิน นั่งดูเขากินเฉยๆ แต่ตอนนี้ฝึกกินตามเขาได้แล้ว เรื่องแปลกอีกย่างคือ คนไทยสามารถกินอาหารเช้าแบบจัดเต็มได้ จำได้ว่าตอนอยู่ซิดนีย์ เพื่อนคนไทยตื่นเช้ามา 6 โมงเช้าก่อนไปทำงาน เขาเอาแกงเขียวหวานจากตู้เย็น ไปใส่ไมโครเวฟ ทั้งๆ ที่ยังไม่ตื่นดี ตายังหลับอยู่ แต่เขาก็กินได้ เขางงมากเพราะฝรั่งกินไม่ได้แบบนี้ ฝรั่งกินมื้อเช้าเบาๆ ไม่ได้กินเยอะแบบคนไทย แต่คนไทยสามารถกินแกงเขียวหวาน กินผัดกะเพราตอน 6 โมงเช้าได้ มีเรื่องไหนเขาเป็นห่วงคือ เรื่องที่คนไทยยากจน ทำให้บางคนไม่มีโอกาสการศึกษา อยากให้พัฒนาการศึกษาเพื่อคนไทยที่ยากจน เพื่อเขาจะได้มีโอกาสเรียนหนังสือสูง ๆ ถ้ามีโอกาสบอกต่างชาติที่เข้าใจผิด หรือยังไม่เข้าใจเมืองไทยดีพอ เขาจะอธิบาย อยากเปลี่ยนความคิดของคนต่างชาติที่เข้าใจว่ามาเมืองไทย เพื่อมาหาผู้หญิง ตอนเขาอยู่ออสเตรเลีย ฝรั่งแก่อายุ 51 ปี ที่ทำงานกับเขา ถามว่า “แจ็ค ยูไปเมืองไทยทุกปี เพราะไปหาผู้หญิงใช่ไหม” เขาอยากบอกว่าไม่ใช่นะ ยูคิดแบบนี้ได้อย่างไง เขาไม่อยากให้ฝรั่งคิดว่ามาเมืองไทยเพราะมาหาผู้หญิง อยากบอกเขาว่า เมืองไทยยังมีสถานที่สวย มีที่เที่ยวที่น่าสนใจเยอะ นอกนั้นยังมีวัฒนธรรมที่ดี อยากบอกเล่าให้คนรู้ว่านิสัยคนไทยดีแค่ไหน ถ้าเขาแนะนำให้เพื่อนฝรั่งเที่ยวในกรุงเทพฯ มีสถานที่ไหนที่อยากแนะนำให้ไป คือ จะชวนเขาไปทำบุญ พาไปไหว้พระ ที่เขาชอบคือ วัดพระแก้ว และนั่งเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยาไปเที่ยววัด เช่น วัดโพธิ์ สนุกดีนะ แล้วก็คงให้ไปเที่ยววัดโบราณๆ ที่แนะนำอย่างนี้ เพราะอยากให้เขาได้เห็นวัฒนธรรม และศาสนาของคนไทย นอกนั้นจะพาไปเดินเล่นเยาวราช ไปหาอะไรอร่อยๆ กินที่เยาวราช เพราะเขาชอบเป็ดย่างที่นั่น ซีฟู้ดก็อร่อย พี่สาวเขาจะมาเยี่ยม พี่สาวถามเขาว่าเดือนหน้าวันเกิด มีแพลนอะไรสนุกๆ ไหม เขาก็ตอบไปว่าจะพาไปทำบุญ อาจจะตักบาตรแถวบ้าน เขานับถือศาสนา พุทธ และ คริสต์ ทั้งสองอย่าง เพราะก่อนนอนก็ไหว้พระ และไหว้พระเยซู คือ เขาคิดว่าพระเจ้าเข้าใจเขา ขณะเดียวก็นับถือพระพุทธเจ้าด้วย ** อ่านตอนต่อไป..บทสรุปแจ็ค บราว์ อะไรทำให้เขาคิดว่าในหลวง ทำให้เขารักเมืองไทยสุดชีวิต คลิ๊กไปที่ลิ้ง https://www.facebook.com/media/set/?set=a.326793190844048.1073742065.187529244770444&type=1 @ เสธ น้ำเงิน3 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 1, 2015 บทสรุปแจ็ค บราว อะไรทำให้เขาคิดว่าในหลวง ทำให้เขารักเมืองไทยสุดชี (13 photos) วันที่ 22 ก.พ.58 เผย..บทสรุปแจ็ค บราว อะไรทำให้เขาคิดว่าในหลวง ทำให้เขารักเมืองไทยสุดชีวิต ตอนที่แล้ว Jack Brown ฝรั่งชาวอังกฤษที่รักเมืองไทย ชอบ วัดพระแก้ว และนั่งเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยาไปเที่ยววัด เช่น วัดโพธิ์ ไปเที่ยววัดโบราณๆ วัฒนธรรม และศาสนาของคนไทย เขานับถือศาสนา พุทธ และ คริสต์ ทั้งสองอย่าง เพราะก่อนนอนก็ไหว้พระเยซู ไหว้พระนับถือพระพุทธเจ้าด้วย ** ความเดิม..เมื่อแจ็ค บราว หนุ่มฝรั่ง เล่าเรื่องรักเมืองไทย ทำให้ถึงกับอึ้งและซึ้งแปดตลบ คลิ๊กไปที่ลิ้ง https://www.facebook.com/media/set/?set=a.326792607510773.1073742064.187529244770444&type=1 ทุกวันนี้ไลฟ์สไตล์ของ Jack Brown ที่เมืองไทยเวลาอยู่บ้าน เขาจะดูแลหมาที่บ้าน ตอนนี้มีหมา 2 ตัวชื่อ เชสเตอร์ และ น้ำเย็น นอกนั้นก็มีเมียร์แคทชื่อ ทีเร็กซ์ ลิงชื่อ ซีชาร์ และแมวชื่อ ลูเป้ แล้วถ้าว่างเขาก็จะชอบดูแลบ้าน ชอบทำ DIY เช่น ทาสี เปลี่ยนไฟ บางทีก็ออกไปเดินเล่นในกรุงเทพ ขับรถเที่ยวแล้วก็จอดไปเดินเล่น แต่ถ้ากลางคืน เขาชอบไปแถวถนนพระอาทิตย์ ชอบไปฟังดนตรีสด หรือบางทีถ้ามีงานอื่นๆ ก็ไปทำบ้าง เช่น ได้เป็นแขกรับเชิญที่รายการคริสดิลิเวอร์รี่ ทำมา 2 เทปแล้ว เวลาเที่ยวในเมืองไทย เขาชอบไปภาคใต้เป็นพิเศษ เพราะชอบทะเล ทะเลเมืองไทยสวยที่สุดแล้ว ล่าสุดเขาเพิ่งไปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะมา สวยมากๆ น้ำใส ไม่นึกว่าจะน้ำใสขนาดนี้ สุดยอดมาก รู้สึกว่าไม่ต้องไปมันดีฟส์ก็ได้ มาเที่ยวที่นี่ก็ได้นะ ถ้าถามว่าที่ไหนสวยที่สุดในเมืองไทย เขาก็ตอบไม่ถูกนะ เพราะมีหลายแห่งมากที่สวยเหมือนกัน ที่ผ่านมาเขาก็มีงานที่เมืองไทยเรื่อยๆ เช่น ทำงานกับสายการบินแอร์เอเชีย เป็นโปรเจคส์ในเมืองไทยเกี่ยวกับฝรั่งพาไปเที่ยว เป็นการบันทึกเทปรายการพาเที่ยวของแอร์เอเชีย เจ้าหน้าที่ของแอร์เอเชีย ตามไอจีเขามานานเกือบ 2 ปีแล้ว เขาติดต่อมาหาว่า แจ็คเราเห็นยูรักเมืองไทย สนใจจะมาทำงานด้วยกันไหม โดยบินไปคุยกับเขาที่ซิดนีย์เลย จากนั้นเขาเลยได้ทำรายการพาไปเที่ยวกับแอร์เอเชีย เช่น ไปเชียงใหม่ เกาะยาวน้อย กระบี่ เร็วๆ นี้ก็อาจจะมีโปรเจคส์อีก รอคุยอยู่ ------------------------------------> ตอนนี้ Jack Brown กำลังคิด วางแผน ว่าจะทำอะไรที่เมืองไทย โดยอาจจะเปิดเว็บไซต์ หรือบล็อกเกอร์ ที่ชวนชาวต่างชาติให้มา เที่ยวเมืองไทย คือ มีข้อมูลการท่องเที่ยวต่างๆ เช่น มาเมืองไทยได้ยังไง มีอะไรน่าสนใจบ้าง คิดว่าต้องใช้เวลาหน่อย เพราะเขาอยากเขียนข้อมูลด้วยตัวเอง ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากมีรายการเกี่ยวกับเที่ยวเมืองไทย เพื่อให้ชาวต่างชาติรู้ว่าเมืองไทยสวยแค่ไหน มีอะไรดีบ้าง ต้องเข้าใจว่า บางครั้งความคิดของชาวต่างชาติ ที่มีต่อประเทศไทยนั้น ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ คนมักเข้าใจว่าคนแก่ๆ ที่มาเมืองไทย เพราะต้องการมาหาผู้หญิง ดังนั้นเขาเลยอยากจะเปลี่ยนความคิดของคนต่างชาติเหล่านี้ อยากจะทำให้เขารูว่า วัฒนธรรมของคนไทยมีอะไรบ้าง ประวัติศาสตร์เป็นยังไง คิดว่าถ้าผมมีบล็อกหรือเว็บไซต์ ที่มีคนตามเยอะ ก็อยากจะใช้ชื่อเสียงนี้ช่วยเหลือเด็กที่ไม่มีบ้าน ช่วยเด็กกำพร้า เช่น อาจทำเสื้อขายเพื่อเอาเงินไปให้เด็กกำพร้า เขาอยากทำโปรเจคศ์ชื่อ “Clean My Soi” คือ ชวนคนไปทำความสะอาดซอยบ้านของตนเอง คือ ถ้าบ้านใครมีซอยที่สกปรก ก็จะช่วยกันทำความสะอาด แล้วถ่ายคลิปให้คนเห็นว่า เราช่วยกันทำความสะอาด หรือถ้าซอยนี้มีโรงเรียนสกปรกมาก เราก็จะไปช่วยทำความสะอาด ไปทาสีโรงเรียน โดยขอสปอนเซอร์สีมาทา ขออุปกรณ์มาทำความสะอาด เขาคิดว่าถ้าต้องทำคนเดียว มันจะเป็นงานใหญ่ งานเยอะ แต่ถ้าช่วยกันทำ มันก็จะเสร็จเร็ว ------------------------------------> แต่สิ่งที่ทำให้คนไทยบางกลุ่มถึงกับอึ้งคือ Jack Brown โพสต์เกี่ยวกับในหลวง เขารักในหลวงมาก เพราะเขามาจากประเทศอังกฤษ ที่มีควีน แต่คนอังกฤษก็ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ แต่ในเมืองไทยเขาเห็นว่าคนไทยทุกคนรักในหลวง เดิมเขารู้ใจตนเองอยู่แล้วว่ารักเมืองไทย เขาเลยอยากรู้เหตุผลเกี่ยวกับคนไทย อยากรู้ว่าจะมีอะไรที่ทำให้เขารักเมืองไทยอย่างนี้ อยากรู้ว่าทำไมคนไทยเป็นแบบนี้ ทำไมประเทศไทยถึงเป็นแบบนี้ ก็เลยไปอ่านหนังสือ ไปศึกษาดูสังคม วัฒนธรรม แล้วเขาเห็นได้ว่าทำไมในหลวงถึงสำคัญกับคนไทยขนาดนี้ เขามีโอกาสได้ไปดูโครงการหลวง ซึ่งเป็นโครงการพระราชดำริของในหลวง เขาเคยไปดูโครงการหลวงที่ภาคเหนือ จำไม่ได้แล้วว่าที่ไหน เป็นพื้นที่ของชาวเขา ที่เคยปลูกฝิ่นสักประมาณ 40 ปีที่แล้ว แต่ในหลวงก็ทรงหาวิธิพัฒนาอื่นๆ เพื่อไม่ให้เขาทำอีกด้วยการให้เขาปลูกผัก ปลูกพืชเมืองหนาว บางชนิดก็ไม่มีในเมืองไทยมาก่อน แต่ในหลวงก็สอนให้นำเข้ามาปลูกในเมืองไทย จนตอนนี้มีเต็มไปหมด ซึ่งพอปลูกได้แล้ว ก็ไม่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ เขาเลยประทับใจในสิ่งที่ในหลวงทำ ได้เห็นในหลวง ทรงงานทั้งชีวิตของพระองค์ คือไม่ใช่แค่ 5 ปี 10 ปี แต่ทั้งชีวิตในหลวงทรงทำเพื่อให้ประเทศไทยเจริญ เพื่อทำให้คนไทยมีชีวิตดีขึ้น ซึ่งไม่มีแบบนี้ที่ประเทศอื่น แล้วในหลวงไม่ใช่แค่คิดอย่างเดียว แต่ทรงลงมือทำด้วย ถ้าไม่มีในหลวง เขาคิดว่าตนเองคงไม่มีโอกาสมาอยู่เมืองไทยแบบนี้ และจะไม่มีโอกาสรักเมืองไทยแบบนี้ เพราะเขาเชื่อว่าประเทศไทยเปลี่ยนไปเยอะ เพราะพระองค์มาทำให้เปลี่ยนไปและดีขึ้น และคิดว่า “ถ้าไม่มีในหลวง คนไทยก็คงไม่น่ารักแบบนี้” ถึงวันนี้พอมาอยู่เมืองไทยจริงๆ แล้ว รู้ตั้งแต่วันแรกแล้วว่าตัดสินใจถูก เพราะทุกครั้งที่มาเมืองไทย เวลาเครื่องลงสุวรรณภูมิ เขารู้สึกว่าถึงบ้านแล้ว ดีใจมาก ยิ้มใหญ่เลย แล้วทุกครั้งที่มาเมืองไทย และต้องกลับออสเตรเลีย เขาก็จะร้องไห้อยู่บนเครื่องบิน เพราะไม่อยากกลับ อยากอยู่เมืองไทยที่นี่ ทุกวันเขาคิดว่าดีแค่ไหนแล้วที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองไทย ดังนั้นเขาอยากอยู่เมืองไทยไปตลอดเท่าที่จะอยู่ได้ เพราะรู้สึกว่าที่นี่เป็นบ้านของเขา สงสัยเขาคงเกิดประเทศผิดมั้ง ------------------------------------> จากความในใจของ Jack Brown ฝรั่งคนนี้เขาชัดเจนในชีวิต จากคำบอกเล่าของเขา ความคิด ศรัทธาในแบบที่เขาพูด เขาหาตัวเองเจอแล้ว และเชื่อว่ามีหลายคนคิด ศรัทธาแบบนี้ แต่ในชีวิตจริงๆ แล้วยังทำไม่ได้ ฝรั่งคนนี้ไม่เชิงปฏิเสธทุนนิยม แต่เขากำลังสื่อว่าเป็นทุนนิยมแบบพอเพียง สังเกตุว่าเขานับถือศาสนาพุทธ และคริสต์ ไปพร้อมกันได้ เพื่อจัดระเบียบความแตกต่าง เพื่อสร้างสมดุลให้กับสังคม มวลชนขนาดใหญ่ให้ถูกต้อง พอดี พอใจ ดังนั้นแนวคิดสมดุลนี้ จึงเห็นความพยายามทำความสอดคล้อง กับการปรับตัวให้เข้าหาธรรมชาติ ระบบนิเวศน์ทางธรรมชาติของเขา เป็นเวลา 2557 กว่าปีแล้ว ที่แนวทางของพระพุทธองค์ สอนให้คนพุทธพอเพียง ละทิ้งการยึดติดตัวตนเป็นเป้าหมายสูงสุด แต่ระหว่างทางเวลาที่ผ่านมา ผู้คนมีความต่างการเข้าถึงแนวคิด ทำให้คนที่เข้าใจหลักพุทธนั้น เขาถึงได้ในระยะทางต่างๆ กัน พระพุทธองค์ ได้นิยามความต่างแบบนี้ไว้ชัดเจนในหลัก "ดอกบัวสี่เหล่า” แนวคิดของฝรั่งคนนี้ เป็นแนวคิดที่ถอดรหัสพุทธศาสตร์ แบบสมดุล ตามสีสัน เขาคนนี้ไม่ปฎิเสธทุนนิยม ยังต้องการมีเสบียง สำหรับการเดินทาง และผู้ร่วมทางใกล้ชิด เขายังต้องมีปฎิสัมพันธ์กับทุนนิยม ตามหลักความเกี่ยวเนื่องสังคมครอบครัว จนถึงสังคมโลก ด้วยความต้องการทางปัจจัยสี่ และเขาพยายามปรับตัวเอง ให้สอดคล้องกับสมดุลในระบบนิเวศน์ใหม่ กับแนวทางพุทธ และสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่สอดประสานกลมกลืนกับวิถีวัฒนธรรมไทย นิสัยคนไทย แบบไม่สามารถแยกจากกันได้ขาด เขาจึงต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยในไทยที่เปลี่ยนไปจากวิถีชีวิตเดิม Jack Brown กำลังช่วยจัดระเบียบทางสังคมไทยให้ได้ในมาตรการทางจริยะธรรมจากแนวคิดจิตสาธารณะ เพื่อพัฒนาประชากรที่มีคุณภาพในกลุ่มที่เชื่อมต่อกับแนวคิดเขาทางสื่อสังคมออนไลน์ เขากำลังสื่อสารว่า “ทุนนิยมแบบพอเพียง” ไม่น่าใช่อะไรที่เราจะต้องตั้งข้อรังเกียจ เพราะคนเราจะต้องมีปฎิสัมพันธ์กับมันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เราจะต้องปรับตัวเข้าหามัน อย่างพอดี และสมดุล ไม่ใช่หลบจนมันไล่ต้อนเราเข้ามุมอับ ทุนนิยมสุดโต่ง ก็เหมือนปลากระป๋อง ที่จะต้องศึกษาวิธีเปิด วิธีกินมัน ให้สอดคล้องกับวิธีชีวิตดั้งเดิมอนุรักษ์นิยมของเรา เช่น กินบ้างเป็นอาหารเสริมเวลาที่หาอย่างอื่นไม่ทัน แต่ไม่ใช้ปฎิเสธมันโดยสิ้นเชิง ดังนั้นปลากระป๋องทุนนิยมสุดโต่งแบบดั้งเดิมนั้น ก็ไม่ต่างอะไรกับก้อนหินที่เอาไว้สำหรับปาหัวสุนัข แต่บังเอิญว่าเขาปามาให้ หรือใส่คนไทยเท่านั้นเอง เมื่อเรารู้ว่ามันคือปลากระป๋อง เราก็ไม่จำเป้นต้องกินมันทุกวันจนเป็นอาหารประจำ แต่เราจะกินอาหารอื่นๆ จากพืชพันธุ์ธรรมชาติเป็นหลัก คือ อนุรักษ์นิยมแบบพอเพียง เพราะเมืองไทยมีธรรมชาติสวยงาม คนไทยนิสัยน่ารัก มีมิตรไมตรีกับคนทั่วโลก มีความเอื้ออาทรจากคำสอนที่ถ่าถอดกันมาตั้งแต่รุนปู่ยาตายาย มาหลายพันปีจนถึงปัจจุบัน ผสมกับคนไทยมีสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่มีลักษณะพิเศษสุด ที่ทุนนิยมของฝรั่งไม่มี ทำให้คนไทยจิตใจอ่อนไหว อ่อนน้อม ถ่อมตน ถูกซึมซับแนวทางพอเพียง ความเพียร การทำความดี จากพระเจ้าอยู่หัวทุกพระองค์มาตลอด กลายเป็นสภาพ “สังคมสมดุล” แบบที่คนไทยเองก็ไม่รู้ตัว เนื่องจากมันกลายเป็นวิถีความคิด วิถีการดำรงชีวิตของตนเอง ครอบครัว และสังคมไปเสียแล้ว คนไทยจึงเริ่มทักทายกันด้วยความว่า “สวัสดี กินอะไรมาหรือยัง ??” แทนที่จะถามว่า “ สวัสดี ไปไหนมา ??” เหมือนกับฝรั่ง เพราะ คนไทยมองว่ากินให้อิ่มไว้ก่อน จะไปไหนค่อยมาว่ากันอีกที คนไทยจึงมีนิสัยกินได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีเวลาที่แน่นอน ดึกๆ ก็ยังกินได้ เมื่อท้องอิ่ม ก็อารมณ์ดี จิตใจแจ่มใจ ไม่ค่อยหงุดหงิด และมีแต่รอยยิ้ม สังเกตคนในเมือง กินน้อยไม่ค่อยอิ่ม เลยมีลักษณะวิถีทุนนิยมมากกว่า อนุรักษ์นิยม ไม่ค่อยคุยกันแม้บ้านติดกัน แต่มีรอยยิ้มบ้างในบางเวลา แต่คนต่างจังหวัดกินเยอะ หิวตอนไหนก็ไปเก็บผักผลไม้ข้างบ้านมาทำอาหาร และกินจุ ทำได้คาร์โบไฮเดรทและกากใยอาหารให้ร่างกายมาก จึงทำให้คนชนบทมีรอยยิ้มเปื้อนหน้าตลอดเวลา แม้มีทรัพย์ไม่มาก แต่อยู่แบบวิถีอนุรักษ์นิยม มากกว่าทุนนิยม มีการแลกเปลี่ยนของกินของใช้ แทนการใช้เงิน มีของฝากให้แก่กัน ชอบทำบุญสุนทาน เผื่อแผ่ ไม่อยากได้ของคนอื่นมาเป็นของตน พอเพียงเท่าที่ตนหามาได้ คนต่างจังหวัดของไทยนอนหลับเร็วแต่หัวค่ำ นอนพักผ่อนเพียงพอ เลยทำให้อายุยืนกว่าคนเมืองใหญ่ ยามเกิดภัยพิบัติ หรือ ยามมีงานบุญคนไทยจึงจะนำอาหารสำเร็จรูปมากิน และใช้ ดังนั้นอาหารไม่มีประโยชน์ เช่น อาหารกระป๋อง อาหารสำเร็จรูป ฯลฯ นานๆ จึงเข้าสู่ร่างกายคนชนบทสักครั้ง ระบบเมตะโบลิซึม ส่วนใหญ่จึงเป็นระบบปกติ ไม่ถูกบิดเบือนด้วยอาหารทุนนิยม จนเหนี่ยวนำให้ร่างกายเจ็บป่วยจนผิดปกติ ------------------------------------> เมื่อประมวลแนวคิดของ Jack Brown และ พ่อใหญ่ Martin Wheeler ชาวอังกฤษ ที่ย้ายมาอยู่อาศัยในเมืองไทย ทำให้ได้มุมมองฝรั่งที่มีแต่สังคมไทย และคนไทยอย่างแจ่มแจ้ง ว่าแท้จริงแล้ว เมืองไทยคือสังคมที่ดีที่สุดสำหรับคนไทย แต่จะต้องไม่ผันตนเองและครอบครัวไปเป็นทุนนิยมสุดโต่ง แต่สามารถปรับตัวไปเป็นวิถีอนุรักษ์นิยมชนบทพอเพียง แบบพ่อใหญ่ Martin Wheeler ที่ไปอยู่ที่ขอนแก่น แบบนั้นทำให้เขามีชีวิตที่มั่นคง มีปัจจัย 4 อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรคตามธรรมชาติ และมีความสุข ดื่มด่ำในจิตใจ วิถีพุทธ และคำสอนของพระเจ้าอยู่หัว กลายเป็นไอดอล “ Martin Wheeler Model” ในเมืองไทย ส่วนแนวคิดของ Jack Brown นั้นเขาละทิ้งทุนนิยมสุดโต่ง มาดำเนินชีวิตแบบ “ทุนนิยมพอเพียง” โดยอาศัยหลักคิดการปรับตัวผสมผสาน 2 ส่วนเข้าด้วยกันในเมืองไทย ซึ่งไม่มีทางที่จะมีสังคมแบบนี้ที่ใดในโลกอีก มีที่เมืองไทยได้ที่เดียวเท่านั้น เขากำลังเปลี่ยนมุมมองของชาวต่างชาติที่มีต่อคนไทย Jack Brown เขาอายุยังน้อย สามารถฝังแนวคิด “อนุรักษ์วิถีไทย วัฒนธรรมไทย ธรรมชาติไทย” ไปได้อีกนาน และเขาอาจเป็น “Jack Brown Model “ ให้กับหน่วยงานด้านการท่องเที่ยว และวัฒนธรรมของไทย นำเขามาสร้างคุณค่าให้กับระบอบอนุรักษ์นิยมไทย แบบชนิดที่เกิดประโยชน์แบบไม่คาดฝัน เพราะเขาเป็นฝรั่ง ที่สามารถเข้าใจฝรั่งด้วยกันเองมากกว่าคนไทย อีกทั้งเขาเป็นฝรั่งพันธุ์พิเศษ ที่อยากอยู่เมืองไทยไปตลอดเท่าที่จะอยู่ได้ เพราะรู้สึกว่าที่นี่เป็นบ้านของเขา และรักในหลวง เหมือนที่คนไทยส่วนใหญ่รู้สึก.. Martin Wheeler และ Jack Brown เขาจึงเหมาะสมที่จะได้รับการสนับสนุนจากทางรัฐบาลไทย แต่งตั้งเขาเป็น “ทูตพิเศษทางวัฒนธรรม” อย่างเป็นทางการ เพราะเขาทั้ง 2 คนจะสามารถเปลี่ยนความคิด ความเชื่อ ทางวัฒนธรรมของชาวต่างชาติ และนักศึกษา หรือคนไทยที่หลงผิดทุนนิยม ล้มเจ้า ได้อีกหลายล้านคนในอนาคต @ เสธ น้ำเงิน3 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป http://www.facebook.com/topsecretthai อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 1, 2015 ทุกครั้งที่ดูรูปนี้รู้สึกประทับใจนะครับคิดเหมือนกันไหม? ทรงพระเจริญ Chester เพื่อนของเชสเตอร์ชื่อหม่ำกับโก๊ะตี๋ ตัวเล็กแต่หนักมาก น่ารักมั๊ยคับ?? Jack Brown อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 1, 2015 ทหารปฏิรูปประเทศไทย added 8 new photos. 45 mins · วันที่ 1 มี.ค.58 หลักฐาน ธรรมเกย์เสื่อมหนัก หาพระไทยไม่ได้ต้องเอาของพม่ามาสวมแทน ตอนนี้ใครๆ ก็เบือนหน้า รู้ทันลัทธิธรรมเกย์ จานบิน UFO กันหมด ว่าแท้จริงแล้วไม่ได้สังกัดพุทธศาสนา เป็นแค่สิ่งเทียมพระ แต่งกายเลียนแบบสงฆ์ เป็นพวก 18 มงกุฎ ที่ขอทานเงินบริจาค เอาไปสนับสนุนแก๊งค์การเมืองเผาไทย และกลุ่มก่อการร้ายติดอาวุธแดง นปช. อีกทั้งมีการคดโกงเงินฝากสหกรณ์ของประชาชนยากจนอีกจำนวนมาก ใครบริจาคหรือไปข้องแวะกับลัทธิธรรมเกย์ คือ ผู้สร้างบาปกรรมหนักที่สุดในชีวิต ท่ามกลางการสาปแช่งของชาวพุทธแท้ ไม่มีเว้นแต่ละวัน ตอนนี้ชาว จ.ระนอง เอือมระอาธรรมเกย์อย่างมาก เพราะหาพระไทยไม่ได้ จนต้องไปจ้างพระพม่ามาเต็มเมือง มาตักบาตร 1,000 คน เพราะเก็บเอาค่าเช่าตั้งโต๊ะตักบาตร หลักหมื่น หลักพัน ไปสนับสนุนกลุ่มแดง นปช. พอตกดึกๆ ก็มีพระพม่าออกมาหากินปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้ แถมซ้ำธรรมเกย์ยังมีการค้ามนุษย์ ทารุณกรรมสร้างบาป ใช้แรงงานเด็กพม่าเถื่อน เพื่อเตรียมพื้นที่ โดยใช้หลังเที่ยงคืน เรียกว่าสร้างกรรมกันทุกข์เสต็ปว่างั้นเถอะ ใครไปตักบาตรทำบุญกับงานลัทธิธรรมเกย์ ไม่ใช่พุทธ นอกจากสนับสนุนทุนให้กลุ่มก่อการร้ายแดง นปช.แล้ว ยังจะสร้างกรรมหนักที่แก้ไม่ได้ไปตลอดชีวิต ตกนรกหมกไหม้ด้วย @ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป http://www.facebook.com/thailandcoup "กติกา" โปรดงดความเห็นในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในตอนนี้, งดนำข่าวลือเขาว่ามา , คำหยาบ , ป่วน , งดลิ้งใดๆ ทุกชนิด , งดข้อความจากแหล่งอื่น , งดภาพ , การให้ร้ายดูหมิ่นเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกพิจารณาบล็อกเข้าเพจนี้..สามารถติดตามบทความยาวคลิ๊กที่ http://www.facebook.com/topsecretthai อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 1, 2015 Cr: ไทยรัฐออนไลน์ แล้วคุณล่ะ คิดว่างัย ที่พวกห่มเหลืองพวกนี้ กล่าวหา คนไทยจำนวนหนึ่ง(แต่มากกว่ากว่าพวกเขาแน่นอน) เป็นพวกสุดโต่ง ทำลายพระพุทธศาสนา .....แหมๆๆๆ หาสมาชิกเป็นล้านไม่ทัน เลยไปเอาเครดิตจากต่างประเทศมาเหรอครับ...อ่านข่าวแล้วสมเพชคนพวกนี้จริงๆ.... ท่านนายกจะว่าไงครับ ....อย่ามาอ้างเรื่องปรองดอง นะครับ ผมคนนึงที่ไม่ปรองดองกะพวกอีแอบทางการเมือง ที่แฝงมาในคราปของพระพุทธศาสนา ไม่ว่าจะมาทางไหน ผมก็จะต่อต้าน...นี่เป็นประเทศของบรรพบุรุษผม ท่านต่อสู้แลกมาด้วยเลือดเนื้อและจิตวิญญาณ ไม่ใช่ที่สวาปามหาเงินของพวกอลัชชีและอมนุษย์ .... *********************************** "ฉะกลุ่มต้านพวกสุดโต่งทำลายพระศาสนา" .......เครือข่ายพระธรรมทูตไทย-ชาวพุทธในยุโรป ออกแถลงการณ์ เรียกร้องนายกฯยุบคณะปฏิรูปฯ พระพุทธศาสนา ยุติข่มขู่คุกคามมหาเถรสมาคม รวมถึงปรามกลุ่ม การเมืองที่เคลื่อนไหวโดยเอาศาสนาบังหน้า จวกแหลกเป็นพวก สุดโต่ง หลุดโลก ขณะที่นักวิชาการด้านพุทธศาสนาก็เตรียมฟ้องกลับผู้ที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายดูหมิ่นคณะสงฆ์ อ้าง พ.ร.บ.สงฆ์ มีโทษทั้งจำคุกและปรับ ด้านโฆษก อสส.ยังไม่ฟันธงสามารถรื้อฟื้นคดีธัมมชโย ที่ถอนฟ้องเมื่อปี 2549 กลับมาพิจารณาได้อีกหรือไม่ จากกรณีพระพุทธะอิสระ ประธานสงฆ์วัดอ้อน้อย อ.สามพราน จ.นครปฐม เดินสายเอาผิดกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ที่มีมติว่าพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ไม่ต้องอาบัติปาราชิก โดยระบุเป็นการฝ่าฝืนพระลิขิตสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก รวมถึงยื่นหนังสือถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบคำสั่งของนายพชร ยุติธรรมดำรง อดีตอัยการสูงสุดเมื่อปี 2549 ที่ให้ถอนฟ้องคดีพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานเบียดบังเอาทรัพย์สินไปเป็นของตนโดยทุจริต ซึ่งต่อมาเมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่โรงแรมฮิลล์ไซด์ คันทรีโฮม กอล์ฟแอนด์รีสอร์ต จ.ปราจีนบุรี นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ให้สัมภาษณ์ระหว่าง การจัดอบรมเชิงปฏิบัติการสำหรับสื่อมวลชน ถึงเรื่องนี้ว่าต้องไปดูรายละเอียดในสำนวนคดีดังกล่าวก่อนว่า อัยการสูงสุดขณะนั้นให้ความเห็นในการถอนฟ้องไว้อย่างไร โดยหลักการของสำนักงานอัยการ สูงสุดมีกฎระเบียบบังคับว่า การสั่งคดีหรือถอนฟ้องคดีใดๆ ต้องลงลายลักษณ์อักษรไว้เป็นเหตุผลเพื่อความโปร่งใสตรวจสอบได้ ทั้งนี้ ในวันจันทร์ที่ 2 มี.ค. ตนจะนำสำนวนดังกล่าวมาดูอีกครั้ง เพื่อชี้แจงรายละเอียดที่ชัดเจนต่อไป เมื่อถามว่าพนักงานอัยการเจ้าของสำนวนที่มีความเห็นต่างกับนายพชร อดีตอัยการสูงสุดในการถอนฟ้องยังปฏิบัติหน้าที่อยู่หรือไม่ นายโกศลวัฒน์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดกล่าวว่า ปัจจุบันอัยการ ท่านนั้นยังปฏิบัติหน้าที่เป็นอัยการอาวุโสอยู่ ส่วนการจะรื้อฟื้นคดีมาพิจารณาได้อีกหรือไม่นั้น ต้องดูรายละเอียดในสำนวนคดีก่อนว่า ขณะนั้นสั่งฟ้องข้อหาอะไรบ้าง และความผิดนั้นมีอายุความเท่าใด เมื่อฟ้องคดีไปแล้วถอนฟ้องจะนับอายุความเริ่มตรงไหน ต้องดูข้อกฎหมายประกอบให้ชัดเจนอีกครั้ง ขณะที่วันเดียวกัน เครือข่ายพระธรรมทูตไทย กลุ่มชาวพุทธในยุโรปและสหราชอาณาจักร ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีไทย สั่งยุบคณะกรรมการปฏิรูปฯพระพุทธศาสนา ของ สปช. และสั่งให้ยุติการข่มขู่คุกคามสถาบันพระศาสนา และ มส.โดยทันที โดยระบุว่า ขณะนี้ได้มีกลุ่มบุคคลที่ล้วนเคยเคลื่อนไหวเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองเดิมๆ มีความคิดสุดโต่ง หลุดโลก ได้ร่วมกันวางแผนเคลื่อนไหว อย่างแยบยล ถึงขั้นหน้ามืดตามัว ร่วมกันก่อกรรมอย่างมหันต์ โดยบังอาจนำพระศาสนามาบังหน้าแบบ แอบแฝง เคลื่อนไหวในรูปแบบต่างๆ เช่น คณะกรรมการ ปฏิรูปฯพระพุทธศาสนา โดย สปช.ซึ่งมีนายเทียนฉาย กีระนันทน์ และนายไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นผู้ออกหน้า พร้อมร่วมกันวางแผนเคลื่อนไหวร่วมกับกลุ่ม กปปส. เพื่อประโยชน์ทางการเมืองเดิม โดยมีผู้ที่อ้างตัวชื่อว่า หลวงปู่พระพุทธะอิสระ ซึ่งล้วนมีประวัติเคยร่วมเคลื่อนไหวทางการเมืองทั้งสิ้น กลุ่มดังกล่าวนี้นับวันจะมีพฤติกรรมมุทะลุ สุดโต่ง หลุดโลก เหิมเกริมยิ่งขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ พระสุเทพก็นำร่องสร้างความเสื่อมเสียและลบล้างอุดมการณ์สวนโมกข์ของท่านพุทธทาสจนหมดสิ้นไปแล้ว ต่อมาบุคคลที่อ้างชื่อว่า หลวงปู่พุทธะอิสระนำกลุ่มม็อบจำนวนมากไปบุกวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ซึ่งเป็นที่จำพรรษาของผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จ พระสังฆราช ก่อพฤติกรรมที่น่ารังเกียจต่อกรรมการ มส.อย่างไม่สนใจจารีตประเพณี ระบบอาวุโสภันเตใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนลูกทีมคณะก็ออกให้สัมภาษณ์รายวันว่าจะตรวจนั่นตรวจนี่ ทั้งที่รู้ว่าหน่วยงานต่างๆ เช่น มส. และมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองมีกฎหมายรองรับอยู่ พฤติกรรมดังกล่าวมานี้ นำมาซึ่งความแตกแยก เป็นบาดแผลลึกในสังคมอย่างรุนแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งยังเป็นที่สงสัยของนักการศาสนาทั่วโลกว่า พระศาสนาเถรวาทในเมืองไทย เกิดอะไรขึ้น ทั้งที่มติสภาวิสาขบูชาโลกมอบความไว้วางใจให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับโลกทุกปี ด้วยเหตุผลดังกล่าว 1.ขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ฟังพระสงฆ์ส่วนใหญ่ในประเทศบ้าง และมีคำสั่งยุบ สปช. ชุดดังกล่าวโดยทันที และขอให้นายกรัฐมนตรีปรามกลุ่มการเมืองที่เคลื่อนไหวโดยเอาศาสนาบังหน้า ให้หยุดเคลื่อนไหวโดยทันที โดยเฉพาะการคุกคามข่มขู่ มส.องค์กรปกครองสูงสุดคณะสงฆ์ 2.ขอเรียกร้องให้ข้าราชการที่นับถือพระพุทธศาสนา อย่าให้ความร่วมมือในการรับเรื่องไร้สาระ เพราะปรากฏข่าวพุทธะอิสระ (ผู้ต้องหาคดี) ไปยื่นเรื่องที่ใด ถึงขนาดมีรัฐมนตรีออกมารับนอบน้อม แต่เมื่ออีกฝ่ายโดยพระเมธีธรรมาจารย์ รองอธิการบดี มจร.ไปยื่นบ้าง มีแต่ระดับเจ้าหน้าที่ผู้น้อยมารับเรื่องแทน เช่นนี้ความปรองดองในชาติจะเกิดขึ้นได้อย่างไร 3.ขอเรียกร้องให้พระภิกษุสามเณรในประเทศ ไทยทุกรูปได้ออกมาช่วยกันปกป้องภัยที่จะเข้ามาคุกคามพระศาสนาในครั้งนี้โดยทันที เพื่อทันสถานการณ์ เพื่อพระพุทธศาสนา 4.เครือข่ายพระธรรมทูตไทยในยุโรปจะติดตามสถานการณ์ และข้อเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีอย่างใกล้ชิด และพร้อมยกระดับการเคลื่อนไหวเข้มข้นขึ้นทุกรูปแบบทันที เช่น ร่างหนังสือ ยื่นองค์กรศาสนา วัฒนธรรม และประมุขของกลุ่ม ประเทศในอียู หากเหตุการณ์หมิ่นเหม่ที่จะเกิดภัยร้ายต่อพระพุทธศาสนา เพื่อรักษามรดกของบรรพ-บุรุษไทย โดยมีเป้าหมายจะเคลื่อนไหวสอดคล้องกับกลุ่มปกป้องพระศาสนาในประเทศไทยทุกกลุ่ม เพราะมีเป้าหมายเพื่อรักษาพระศาสนาเช่นเดียวกัน โดยยืนยันคัดค้านกรรมการปฏิรูปฯศาสนา ชุด สปช.ให้ถึงที่สุด ขณะที่สถาบันพระพุทธศาสนาในประเทศอินเดีย 2 แห่ง ประกอบด้วย Government Of Uttrakhand Minority Commission และ International Buddha Education Institute แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์พระพุทธศาสนาในประเทศไทย ผ่านทางพระธรรมทูตที่ปฏิบัติศาสนกิจ ในอินเดีย-เนปาล ถึงนายกรัฐมนตรีไทย ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติด้วย ด้านนายเสถียร วิพรมหา รักษาการนายกสมาคม นักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา (สนพ.) กล่าวว่า ทาง สนพ.กำลังเตรียมรวบรวมข้อมูลทุกชนิดของผู้ที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายดูหมิ่นคณะสงฆ์ในช่วงที่ผ่านมา เพื่อแจ้งความดำเนินคดี เพราะถือว่าเป็นพฤติกรรมที่อาจจะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.คณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 มาตรา 44 ทวิที่ระบุว่า ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาต มาดร้ายสมเด็จพระสังฆราช ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 44 ตรี ที่ระบุว่า ผู้ใดใส่ความคณะสงฆ์หรือคณะสงฆ์อื่น อันก่อให้เกิดความเสื่อมเสีย หรือความแตกแยก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานในวันเดียวกันว่า ที่ห้องประชุมสถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย ม.มหิดล ศาลายา จ.นครปฐม นายปราโมทย์ นาครทรรพ ประธานที่ปรึกษาฝ่ายฆราวาส มูลนิธิ 100 ชันษา สมเด็จพระญาณสังวรานุสรณ์ ในพระสังฆ-ราชูปถัมภ์ กล่าวบรรยายเรื่องทำไมต้องปฏิรูปคณะสงฆ์ และ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ภายในการจัดประชุมสัมมนาวิชาการทางพระพุทธศาสนา หัวข้อรัฐบาลควรจะส่งเสริมพระพุทธศาสนาอย่างไรในยุค AEC โดยนายปราโมทย์กล่าวว่า อะไรที่ไม่มีปัญหามักไม่มีคนพูดถึง และเรื่องที่มีปัญหามักจะมีคนพูดถึง ดังนั้น เรื่อง พ.ร.บ.คณะสงฆ์จึงน่าจะมีปัญหาเพราะมีคนพูดถึง พ.ร.บ.คณะสงฆ์มีปัญหาในโครงสร้าง องค์ประกอบและพฤติกรรม โดยหากโครงสร้างเอาอำนาจอาณาจักรไปให้มากเกินจะเกิดปัญหา ถามว่า พ.ร.บ.คณะสงฆ์ควรแก้ไหม ตอบได้ว่าควรแก้ แต่จะแก้อย่างไร ตนตอบไม่ได้ ต้องมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อหารือกัน" *นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล (Kampanart Tansithabudhkun, M.D.) ******************************** อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 1, 2015 Vadamir Volegov อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 1, 2015 Vadamir Volegov อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 1, 2015 Vadamir Volegov อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น