ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ginger

ใบไม้ผลิบนดวงจันทร์

โพสต์แนะนำ

12345575_790938784351512_9010548888717665612_n.jpg?oh=84f9abee419233a00a30633bba122568&oe=571F3B7A

 

12346340_791628537615870_3275903256969092585_n.jpg?oh=2d52a6df47eda6035381b02f98f5ef68&oe=56E0C3E2

 

12341161_10153751143674547_1579398240624714691_n.jpg?oh=d648c1d06be2bbf76076017f0edc74e3&oe=571F9BC7

 

 

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงโบกพระหัตถ์ทักทายประชาชนขณะทรงจักรยาน ในกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “Bike for Dad ปั่นเพื่อพ่อ”

 

12369197_1050218985021787_2754623176689485334_n.jpg?oh=0f47150260a8ea3fe6a36f2faaa12ddb&oe=56D8872A

 

12341387_10153749659929547_6166837922787777438_n.jpg?oh=4d4a4fbc8496a1ee1640782f275fb8da&oe=56D8658B

 

12376749_1050208195022866_8030962836708763887_n.jpg?oh=cb74e05884846689b4d7576b1bc2e7b9&oe=571FF2D2

 

 

 

12366354_790578171054240_8753478316434614614_n.jpg?oh=1d383cb80ffaacef4fbe15805ba5dbf0&oe=571942F7&__gda__=1461719083_f165bc7b6f384fd0d909238d9eda883e

 

 

 

12314127_790731567705567_6769575546529674431_n.jpg?oh=ab12df009edcc2bc29a97ba57bc0ab1d&oe=5710149C

 

12341243_791528537625870_8345041460961336820_n.jpg?oh=089d541aa0e00279da196e8fa4df68a4&oe=56E4D10F

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ พร้อมด้วย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ไปทอดพระเนตรนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ สนามเสือป่า เขตดุสิต เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2558

ภาพจาก : FB_สำนักสนองงานพระราชดำริ

 

 

 

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระราชทานวีดีโอและภาพฝีพระหัตถ์พระราชทานในกิจกรรมปั่นจักรยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปั่นเพื่อพ่อ BIKE FOR DAD วันที่ 11 ธันวาคม 2558

 

12369044_10156220660645063_6309268517577405891_n.jpg?oh=dbe291e099d3cd7f7bb387bf44a6a85f&oe=56D40C53&__gda__=1457608748_252feafcd7d2ec5ce49720714b61719f

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Quiz

คุณ Peera Chusak เขียนเข้ามาถามผมว่า:

"คนไทยและพลเมืองทั่วโลกควรทำอย่างไรเพื่อมีส่วนช่วยระงับยับยั้งไม่ให้เกิดสงคราม..เพราะแน่นอน..เมื่อเกิดสงครามครั้งนี้ขึ้น..ผู้ชนะและผู้แพ้..คงยับเยินไม่แพ้กัน..สรุปคือ..ทุกคนแพ้..โลกแพ้.."

 

คำถามคือ เราควรตอบคุณ.Peera Chusak อย่างไร?

Thanong

14/12/2015

 

 

 

 

 

Thanong Fanclub

 

13 hrs ·

·

 

 

ภควัทคีตา

ท่วงทำนองลีลาแห่งพระผู้เป็นเจ้า (1)

คุณกาลปุตราได้แปลและรวบรวม เรื่องภควัทคีตา หรือศรีมัทภควัทคีตาเอาไว้ จึงขออนุญาตคัดลอกมาลง:

 

ศรีมัทภควัทคีตาหรือภควัทคีตานั้น เป็นส่วนหนึ่งที่เป็นหัวใจสำคัญอันแทรกอยู่ในมหากาพย์มหาภารตะ บรรพที่ 6 (ภีษมบรรพ - Bhisma Parva) อันเป็นบทสนทนาตอบโต้ปัญหาอภิธรรมระหว่าง อรชุน (Arjuna - अर्जुन) เจ้าชายองค์ที่ 3 ของตระกูลปาณฑวะ (ปาณฑพ) กับพระกฤษณะ (Krishna - कृष्ण)

ซึ่งในช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาการเริ่มต้นการทำสงครามแย่งชิงความชอบธรรมเหนือแผ่นดินหัสตินาปุระ ณ ทุ่งกุรุเกษตร เมื่อกองทัพฝ่ายปาณฑวะของอรชุนเคลื่อนพลมาประจันหน้ากับกองทัพฝ่ายโกรวะ (เการพ - कौरव - Kaurava) ขององค์ทุรโยธน์ซึ่งถือได้ว่าเป็นพี่น้องร่วมวงศ์ (จันทรวงศ์) เดียวกัน

ณ เวลานั้นเองอรชุนเกิดความท้อใจไม่ทำสงคราม เนื่องจากต้องมาทำสงครามสังหารเหล่าคณาญาติของตน จึงไม่มีจิตใจที่จะทำการต่อสู้ในสงครามครั้งนี้จนถึงกระทั้งยอมวางอาวุธในมือลงและพร้อมยอมโดนฝ่ายเการพสังหารโดยจะไม่ยอมตอบโต้

ความทดท้อใจในครั้งนี้ของอรชุนผู้ทนงตนว่ามีฝีมือเก่งกาจในการทำสงครามและมีภูมิปัญญาทางพระเวทดีเยี่ยม ต้องถึงกับหันไปขอคำปรึกษากับพระกฤษณะผู้มาทำหน้าที่เป็นสารถี เกี่ยวกับเรื่องทางโลกและทางธรรมที่ตนนั้นไม่สามารถแยกแยะออกจากกันได้ในเวลาที่ต้องตัดสินใจเลือกทางใดทางหนึ่ง

พระกฤษณะจึงได้ไขปริศนาทำลายความเข้าใจผิดๆ ทางความรู้ในพระเวทของอรชุนให้สิ้นไป ถ้อยความการสนทนาตอบโต้ระหว่างพระกฤษณะกับอรชุนนี้ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญ ซึ่งถือว่าเป็นยอดแห่งพระเวทและอุปนิษัทเลยก็ว่าได้ เพื่อให้เข้าในในแก่นแท้ของธรรมว่าเป็นเช่นไร

14/12/2015

http://www.hindumeeting.com/forum/index.php…

 

 

 

 

12246652_412634608932919_3209918017476279245_n.jpg?oh=de9d3c093adf5632c9d2c55073109f56&oe=56D3DA08&__gda__=1461302511_fd196b1571377f8da1b2fa8899061ca5

 

ภควัทคีตา

ท่วงทำนองลีลาแห่งพระผู้เป็นเจ้า (2)

ราชาธฤตราษฏร์ ตรัสถามว่า

ณ สถานที่แห่งความชอบธรรมอันศักดิ์สิทธิ์ (ธรรมเกษตร) ซึ่งมีนามว่าทุ่งกุรุเกษตร ต่างฝ่ายต่างมาชุมนุมกันด้วยกระหายใคร่ที่จะทำสงครามกัน ทั้งฝ่ายของเราและฝ่ายของพวกปาณฑวะนั้น กองทัพของทั้งสองฝ่ายกำลังดำเนินไปเช่นไรหรือสัญชัย

สัญชัย กราบทูลว่า

เมื่อได้เห็นกองทัพของฝ่ายปาณฑวะ ซึ่งกำลังจัดขบวนแปรทัพเป็นทิวแถว ในเวลานั้นองค์ทุรโยธน์จึงเข้าพบกับโทรณาจารย์ แล้วตรัสดังต่อไปนี้

โปรดพิจารณาดูกองทัพอันยิ่งใหญ่ของพวกปาณฑุบุตรสิท่านอาจารย์ของข้า พวกมันช่างจัดกระบวนพยุหะได้อย่างเยี่ยมยอดด้วยฝีมือบุตรของทรุบท (ธฤษฏทยุมัน) ผู้เป็นศิษย์อันชาญฉลาดของท่าน

ในที่นั้นมีนักรบผู้เก่งกาจ และนักแม่นธนูผู้เป็นเลิศ อันมีชั้นเชิงฝีมือในการรบทัดเทียมกับภีมะและอรชุนอยู่อย่างมากมาย อาทิเช่น ยุยุธาน วิราฏ ทุรบทผู้มหารถ

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีนักรบผู้ยิ่งใหญ่และทรงพลังอื่นๆ ร่วมอยู่ด้วย อาทิเช่น ธฤษฏเกตุ เจกิตาน กาศีราช ปุรุชิต กุนติโภช และไศพยะ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นจอมคนทั้งนั้น

อีกทั้งยังจะมียุธามันยุผู้เยี่ยมยอด อุตตโมชาผู้ทรงพลังอำนาจ โอรสของสุภัทราและเหล่าโอรสของนางโทรปทีทั้งห้า แน่นอน! ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ล้วนเป็นผู้ที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นนักรบชั้นยอดทั้งนั้น

โปรดทราบเถิดผู้เป็นเลิศในหมู่พราหมณ์ ว่า ฝ่ายของเรานั้นมีใครบ้างที่เป็นผู้คุมกองทัพอันเปี่ยมไปด้วยพลังอำนาจ ร่วมอยู่ในการนำทัพของข้าบ้าง

มีผู้เป็นเลิศอย่างองค์ภีษมะ กรรณะ กฤปะ ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้มีชัยเสมอมาในทุกยุทธภูมิ อีกทั้งยังมีอัศวัตถามา วิกรรณและโอรสของโสมทัตต์ (ภูริศรวัส) ร่วมอยู่ในกองทัพของเราด้วยเช่นกัน

อีกทั้งยังมีวีรบุรุษผู้กล้าหาญอีกมากมายเหลือคณานับที่พร้อมยอมสละชีพเพื่อข้า ทั้งหมดต่างก็เพรียบพร้อมไปด้วยศัสตราวุธนานาชนิด และก็ยังล้วนแต่เป็นผู้ช่ำชองศาสตร์แห่งการยุทธด้วยกันทั้งสิ้น

รี้พลพลของฝ่ายเรานั้นมีมหาศาลเกินกว่าจะนับได้ โดยมีพระอัยกา (ปู่) ภีษมะคอยบัญชาการพิทักษ์พวกเราเป็นอย่างดี แต่ทั้งหมดนี้ รี้พลของพวกมันที่มีภีมะคอยระวังพิทักษ์อยู่นั้นมีจำนวนเบาบางกว่าฝ่ายเรานัก

ท่านผู้คุมกองทัพอยู่ในจุดยุทธศาสตร์แนวรบทั้งหมด พวกท่านทั้งหลายก็ควรที่จะให้ความสนับสนุนกำลังรบแด่องค์ภีษมะอย่างเต็มกำลังศึกด้วยเฉกเช่นกัน

จากนั้นองค์ภีษมะผู้เป็นบรรพบุรุษผู้ยิ่งใหญ่แห่งราชวงศ์กุรุ และมีศักดิ์เป็นพระอัยกาแห่งปวงนักรบ ได้ทรงบันลือสังข์ของพระองค์ด้วยพระสุรเสียงที่ดังประดุจสิงห์โตคำราม อันยังความปิติสุขให้แก่องค์ทุรโยธน์เป็นยิ่งนัก

หลังจากนั้นเสียงสังข์ กลองเภรี บัณเฑาะว์ กลองศึก แตรเขาสัตว์ ก็ลั่นขับขานประสานเสียงขึ้นพร้อมกันในทันที จนทำให้เกิดเสียงประสานอึกทึกกึกก้องไปทั่วทั้งสมรภูมิ

หลังจากนั้นฝ่ายองค์มาธวะและอรชุน ผู้ประทับอยู่บนรถศึกอันยิ่งใหญ่เทียมด้วยอาชาสีขาวนวล ก็ทรงเริ่มบันลือสังข์ทิพย์ส่งเสียงดังสนั่นขานรับในทันที

องค์หฤษีเกศทรงบันลือปาญจชันยะสังข์ องค์ธนัญชัยเป่าเทวทัตตะสังข์ องค์ภีมะผู้กินจุและมีพลังอันยิ่งใหญ่ก็เป่าโปณฑระมหาสังข์

ราชายุธิษฐิระโอรสโตแห่งพระนางกุนตี ทรงบันลืออนันตวิชัยสังข์ ส่วนองค์นกุลกับสหเทพก็เป่าสังข์สุโฆษและมณีบุษบกอย่างพร้อมเพรียงในเวลาเดียวกัน

ราชาแห่งแคว้นกาศีผู้เป็นเลิศในศิลปะการยิงธนูผู้ยิ่งใหญ่ ศิขัณฑีผู้มหารถ ธฤษฏทยุมัน วิราฏ สาตยกิผู้ไม่เคยปราชัยให้แก่ผู้ใดมาก่อน

ราชาทรุบท เหล่าโอรสของนางโทราปทีทั้งห้าก็ดี ยอดนักรบผู้เก่งกาจโอรสของพระนางสุภัทราก็ดี โอ้ภูวเรศ! ทั้งหมดต่างก็ยกสังข์ของตนขึ้นเป่าตามลำดับ จนเกิดเสียงกึกก้องกังวานไปทั่วทั้งสมรภูมิ

เสียงอันดังสนั่นเลื่อนลั่นกึกก้องไปทั่วท้องนภากาศและพื้นปฐพีที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้ส่วนลึกในหัวใจของเหล่าโอรสแห่งราชาธฤตราษฏร์ ถึงกับต้องไหวระรัว

องค์ปาณฑวะผู้ประทับอยู่บนราชรถซึ่งประดับด้วยกบี่ธวัช (ธงรูปหนุมาน) พร้อมด้วยคันธนูซึ่งกำลังจะหยิบขึ้นมาเพื่อถูกยิงออกไป ในขณะนั้นเอง ทรงมองไปที่เหล่าโอรสของราชาธฤตราษฏร์ ซึ่งขับราชรถเคลื่อนเรียงรายกันเป็นทิวแถว แล้วหันไปตรัสกับองค์หฤษีเกศ ด้วยวาจาดังต่อไปนี้แล มหิบดี

อรชุน ตรัสว่า

โอ้อัจยุต! เธอจงโปรดเคลื่อนราชรถของข้าพเจ้าไปท่ามกลางกองทัพทั้งสองด้วยเทอญ.

เพื่อที่ข้าพเจ้าจะได้มองเห็นผู้ปรารถนาจะสู้รบใน ณ ที่นี้ว่ามีใครกันบ้างที่ข้าพเจ้าจะต้องเข้าสัประยุทธ์ด้วยในมหาสงครามอันยิ่งใหญ่ซึ่งกำลังจะอุบัติขึ้นในเวลาอันใกล้นี้

ให้ข้าพเจ้าจะได้เห็นอย่างถนัดว่าบุคคลผู้มาอยู่รวมกัน ณ ที่นี้ เพื่อการสู้รบโดยปรารถนาที่จะทำให้ โอรสของราชาธฤตราษฏร์ผู้มีจิตใจอันงอกงามไปด้วยเมล็ดพันธุ์แห่งความชั่วร้ายนั้นได้รับความพึงพอใจ

สัญชัย ทูลต่อไป ว่า

ข้าแต่ผู้สืบวงศ์ภารตะ เมื่อทรงได้ยินคำที่องค์คุฑาเกศตรัสเช่นนั้นแล้ว องค์หฤษีเกศจึงทรงเคลื่อนราชรถไปอยู่ ณ ท่ามกลางระหว่างกองทัพของทั้งสองฝ่ายด้วยลีลาอันงดงาม

เมื่อภาพขององค์ภีษมะ โทรณาจารย์ และเหล่ากษัตริย์ทั้งหลายปรากฏอยู่เบื้องหน้า แล้วจึงตรัสขึ้นว่า โอ้ปารถ! เธอจงดูเหล่าสมาชิกแห่งวงศ์กุรุที่มาชุมนุมกันอยู่ ณ ที่นี้เถิด

ณ ที่นั้นองค์ปารถทอดพระเนตรภายในกองทัพของทั้งสองฝ่าย ทรงเห็นผู้ที่เปรียบประดุจบิดา พระอัยกา อาจารย์ พระปิตุลา (ลุง) พระเชษฐา (พี่) พระอนุชา (น้อง) พระโอรสพระราชนัดดา (ลูกหลาน) พระสหาย รวมทั้งพระสัสสุระ (พ่อตา) และบรรดาผู้ปรารถนาดีอื่นๆ ปรากฏอยู่ในกองทัพของทั้งสองฝ่าย

เมื่อองค์กุนเตยะทรงเห็นเพื่อนพ้องและบรรดาญาติพี่น้องทั้งหมดที่มารวมกันเพื่อจะทำมหาสงครามในครั้งนี้แล้ว พระองค์ทรงรันทดสังเวชพระทัยด้วยความเมตตาสงสาร จึงตรัสด้วยความสลดทดท้อว่า

อรชุน ตรัสว่า

โอ้กฤษณะ! เมื่อข้าพเจ้าได้เห็นสหายและญาติๆ ทั้งหมดมาปรากฏอยู่ตรงหน้า โดยต่างก็กระหายจะสร้างชื่อเสียงเกียรติยศ อันจะได้มาจากการทำศึกในครั้งนี้

ทำให้แขนขาของข้าพเจ้านั้นสั่นเกร็ง ริมฝีปากเริ่มแห้งผาก ทั่วทั้งร่างกายรู้สึกสั่นหวิว ขนลุกชูชัน ร้อนผ่าวอย่างบอกไม่ถูก

ธนูคาณฑีวะก็ลื่นหลุดไปจากมือของข้าพเจ้า ผิวหนังก็ร้อนหนาวราวกับเป็นไข้ บัดนี้ข้าพเจ้าไม่สามารถที่จะยืนอยู่ใน ณ ที่นี่ต่อไปได้อีก เพราะส่วนลึกในหัวใจของข้าพเจ้านั้นว้าวุ่นจนไม่มีสติไม่มีสมาธิที่จะคิดอะไรได้อีกต่อไปแล้ว

เกศวะ! ข้าพเจ้าได้เห็นลางร้ายอันวิปริตอับโชคได้ปรากฏขึ้นอยู่เบื้องหน้า แล้วข้าพเจ้าก็มองไม่เห็นประโยชน์อะไรเลย จากการที่ต้องสังหารบรรดาญาติมิตรของข้าพเจ้าในสมรภูมิแห่งนี้

กฤษณะผู้เป็นที่รัก ข้าพเจ้าไม่ปรารถนาชัยชนะ ราชอาณาจักร หรือ ความสุขที่จะได้รับหลังจากการทำสงครามครั้งอีกแล้ว ราชสมบัติจะยังมีประโยชน์อันใดกับข้าพเจ้าอีกเล่าโควินทะ อันความสุขสำราญด้วยโภคทรัพย์และชีวิตของข้าพเจ้า ก็ไม่ต้องการอีกแล้ว

แล้วข้าพเจ้าจะต้องการราชสมบัติ โภคทรัพย์และความสุขเหล่านั้นไปเพื่อใครอีกเล่า ในเมื่อพวกเขาเหล่านั้นได้มายืนเรียงรายรวมกันอยู่ในยุทธภูมิแห่งนี้แล้ว พวกเขาเหล่านั้นพร้อมที่จะยอมสละชีวิตและทรัพย์สมบัติของพวกเขาแล้วในเวลานี้

เมื่ออาจารย์ พระบิดา โอรส ตลอดจนพระอัยกา พระปิตุลา พระสัสสุระ เชษฐาภรรดา นัดดา และเหล่าสังคญาติของเรา

พวกเขาเหล่านี้พร้อมที่จะสละทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วเหตุไฉนใยข้าพเจ้ายังจะต้องปรารถนาที่จะเข่นฆ่าพวกเขาเหล่านั้นอีกด้วยเล่า แม้พวกเขาอยากจะปลิดชีวิตของข้าพเจ้าในเวลานี้ก็ตามที

มธุสูทนะ! ข้าพเจ้ามิได้มารบกับพวกเขาเหล่านี้เพื่อที่จะหวังการได้เสวยราชสมบัติไปทั้งสามโลก แล้วนับประสาอะไรกับโลกอีกนี้เล่า

โอ้ชนารทนะ ข้าพเจ้าจะได้รับความสุขอันใดเล่า จากการสังหารเหล่าโอรสของราชาธฤตราษฏร์ กลับจะต้องเป็นว่าข้าพเจ้านั้นต้องสะสมบาปจากการกระทำในครั้งนี้เพิ่มขึ้น แม้ข้าพเจ้านั้นจะต้องสังหารผู้บุกรุกเอาชีวิตของข้าพเจ้าเหล่านี้ก็ตาม

ฉะนั้นจึงเป็นการไม่สมควรเลยที่ข้าพเจ้าจะสังหารเหล่าโอรสของราชาธฤตราษฏร์และผู้ที่ข้าพเจ้ารู้จัก เพราะว่าเมื่อข้าพเจ้าได้สังหารเขาเหล่านั้นแล้ว ภายในจิตใจของข้าพเจ้าจะพบกับความสุขได้เช่นไรอีกเล่า...มาธวะ

ถึงแม้ว่าภายในหัวใจของบุคคลเหล่านี้จะถูกครอบงำไปด้วยความโลภ จนให้ดวงตามืดบอดไม่เห็นโทษในการทำลายครอบครัวของตนเอง หรือ การทะเลาะวิวาทมุ่งร้ายต่อเพื่อน

แล้วเหตุไฉนข้าพเจ้าผู้ซึ่งเล็งเห็นแล้วในโทษแห่งการทำลายครอบครัวอันเป็นบาป จะไม่พึงงดเว้นการก่อบาปเช่นที่เล็งเห็นนี้อีกเล่า ชนารทนะ

ด้วยการทำลายซึ่งวงศ์ตระกูล ประเพณีอันดีงามของครอบครัวที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาย่อมพลอยถูกทำลายตามไปด้วย ดังนั้นเมื่อประเพณีอันดีงามถูกทำลายลงเช่นนี้ ก็จะนำมาซึ่งความเลวทรามและการเสื่อมในศาสนา ขึ้นในครอบครัวด้วยเช่นกัน

กฤษณะ! เมื่ออธรรมนั้นมีอำนาจเฟื่องฟูขึ้น สตรีที่ดีงามภายในครอบครัวก็จะถูกทำให้เสื่อมลง จากความเสื่อมลงของกุลสตรี โอ้วารษเณยะ มันย่อมนำมาซึ่งวรรณสังกร

แน่นอนทีเดียว ลูกหลานอันเป็นที่พึงประสงค์จะเป็นสาเหตุให้ครอบครัวนั้นเหมือนกับตกนรกทั้งครอบครัว รวมทั้งผู้ที่ทำลายประเพณีอันดีงามนี้ด้วย และบรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้วของครอบครัวที่วิบัติเช่นนี้ก็จะตกต่ำลง เพราะเกิดการหยุดชะงักในการทำบุญอุทิศอาหารและน้ำให้แด่พวกท่าน ตามไปด้วย

โดยเหตุจากการกระทำชั่วของผู้ที่ทำลายประเพณีอันดีงามของครอบครัว จึงทำให้เกิดวรรณสังกรขึ้น โครงสร้างในหน้าที่ทางสังคมเพื่อความร่มเย็นเป็นสุขของครอบครัวทั้งหลายทั้งปวงย่อมสูญสลายตามไป

โอ้ชนารทนะ ข้าพเจ้าได้ยินมาจากปรัมปราว่า ผู้ที่ทำลายประเพณีอันดีงามของครอบครัวที่สืบต่อกันมายาวนานให้เสื่อมลง เขาผู้นั้นต้องตกลงไปสู่ขุมนรกอย่างแน่นอน

อนิจจามันช่างน่าขบขันอะไรเช่นนี้ ที่ข้าพเจ้ากำลังจะประกอบบาปอันใหญ่หลวง ด้วยเพียงแรงผลักดันจากความละโมบในการจะแสวงหาความสุขทางโลกอันยิ่งใหญ่ที่จะพึงได้รับ ข้าพเจ้าจึงเกิดความคิดที่จะสังหารสังคญาติของข้าพเจ้าเอง

หากจะเป็นความสุขเสียกว่าถ้าเหล่าโอรสของราชาธฤตราษฏร์ผู้ถืออาวุธอยู่ในมือจะมาสังหารข้าพเจ้าผู้ปราศจากอาวุธในเวลานี้ ข้าพเจ้าจะไม่ขอตอบโต้ต่อสู้เลยในสงครามครั้งนี้

สัญชัย ทูลเล่าต่อไปว่า

หลังจากที่องค์อรชุนได้ตรัสในสมรภูมิดังนี้แล้ว องค์อรชุนก็ทรงวางคันธนูและลูกศรลงข้างๆ แล้วประทับลงบนพื้นราชรถ ด้วยดวงจิตอันท่วมท้นเปี่ยมไปด้วยความโศกเศร้าทุกข์ทรมาน

ทวิตีโยอัธยายะ สางขยะโยค (หลักแห่งการวิเคราะห์จำแนก)

ॐ श्रीपरमात्मने नमः โอม ศรีปรมาตมเน นมะ

अथ द्वितीयोऽध्यायः อถ ทวิตีโย’ ธยายะ

สัญชัย กราบทูลว่า

เมื่อได้เห็นท้าวเธอผู้มีพระเนตรอันคลั่งคลอไปด้วยอัสสุชล ซึ่งเกิดจากหฤทัยอันเศร้าสลด ระคนกับทรงความเกิดความปรารถนาอยากให้ผู้อื่นเป็นสุข แล้วองค์มธุสูทนะจึงได้ตรัสขึ้นกับองค์อรชุนดังนี้

ศรีภควาน ตรัสท้วงว่า

อะไรทำให้เธอดูอ่อนแอไปเช่นนี้เล่าอรชุนผู้เป็นที่รักแห่งเรา มลทินเช่นนี้เกิดขึ้นกับเธอได้อย่างไรในเวลาภาวะฉุกเฉินเฉกเช่นนี้ ความคิดเช่นนี้ไม่เหมาะสถิตอยู่กับเธอผู้รู้ซึ้งในคุณค่าแห่งชีวิต เพราะความคิดของเธอเช่นนี้นั้นมันจะไม่นำเธอไปสู่โลกอันสูงส่ง แต่มันกลับจะนำมาซึ่งความเสียชื่อเสียงแก่เธอด้วยซ้ำไป

โอ้ปารถเอ๋ย! เธอนั้นจงอย่ายอมจำนนให้กับการไร้ความสามารถทางความคิดที่น่าอับอายของเธอจนไม่เป็นตัวของตัวเองเฉกเช่นนี้อีกเลย เธอจงสลัดทิ้งซึ่งละอองธุลีแห่งความอ่อนแอภายในดวงจิตอันเล็กน้อยของเธอนี้ออกไปให้สิ้นเถิด แล้วจงลุกขึ้นมาอีกครั้งเถอะปรันตปะ

อรชุน ตรัสตอบว่า

โอ้มธุสูทนะ! ข้าพเจ้าจะทำสงครามโต้ตอบด้วยลูกศรกับองค์ภีษมะและโทรณาจารย์ ผู้สมควรแด่การเคารพนบนอบบูชา กระนั้นหรือ?...อริสูทนะ

แม้นว่าจะต้องอยู่ในโลกนี้ด้วยการขอทานเขากิน ก็ยังดีกว่าการที่จะมีชีวิตอยู่ด้วยการเสพกินดวงวิญญาณของครูผู้มีพระคุณ ถึงแม้ว่าพวกท่านยังจะมีความพึงพอใจในทางโลกวัตถุ แต่พวกท่านนั้นก็ยังเป็นผู้ที่ข้าพเจ้าควรเคารพสักการะ หากข้าพเจ้าจะต้องสังหารครู ย่อมเท่ากับว่าความสุขของข้าพเจ้าที่จะได้รับนั้น มันจะต้องแปดเปื้อนระคนไปด้วยโลหิต

ข้าพเจ้าไม่รู้เลยว่าสิ่งไหนจะดีกว่ากัน ระหว่างการชนะพวกเขา กับการที่พวกเขาชนะเรา หากข้าพเจ้าจำต้องสังหารเหล่าโอรสของราชาธฤตราษฏร์ ข้าพเจ้าก็ไม่ปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่เช่นกัน บัดนี้พวกเขาได้มายืนปรากฏต่อหน้าข้าพเจ้าแล้วในสมรภูมิแห่งนี้

ขณะนี้ข้าพเจ้ารู้สึกสับสนเกี่ยวกับภาระหน้าที่ของข้าพเจ้ายิ่งนัก อีกทั้งยังสูญเสียความสงบภายในจิตใจด้วยความอ่อนแอเพียงเล็กน้อย ในภาวะเช่นนี้ข้าพเจ้าไม่รู้จะหันหน้าไปปรึกษาใคร ขอท่านจงได้โปรดชี้แนะแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด ว่าอะไรคือสิ่งอันสมควรและดีที่สุดในภาวะเช่นนี้

บัดนี้ข้าพเจ้าขอนอบน้อมด้วยกายและจิตวิญญาณที่ศิโรราบแด่ท่าน ขอท่านจงโปรดชี้แนะหนทางอันสว่างนี้แก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ.

ข้าพเจ้ามองหาไม่เห็นหนทางใดเลย ที่จะขจัดความทุกข์โศกอันทำให้ประสาทรับรู้ทั้งปวงของข้าพเจ้านั้นเหือดแห้งลงได้ แม้ข้าพเจ้าจะได้รับชัยชนะทั้งราชสมบัติและราชอาณาจักรอันไร้คู่แข่งในโลกนี้ พร้อมทั้งอำนาจความเป็นใหญ่สูงสุดประดุจเหล่าเทวดาบนสรวงสวรรค์ก็ตาม

สัญชัย จึงทูลต่อไปว่า

หลังจากที่ตรัสเช่นนั้นแล้ว องค์คุฑาเกศผู้เคยทำให้เหล่าศัตรูต้องหวาดกลัวก็ได้ทูลแด่องค์หฤษีเกศว่า “ข้าฯ แต่โควินทะ ข้าพเจ้าจะไม่ทำการรบอีกต่อแล้ว” และมีทรงพระอาการอาการนิ่งเงียบไป

โอ้ผู้สืบวงศ์ภารตะ! ทันใดนั้นองค์หฤษีเกศก็ทรงแย้มพระโอษฐ์ แล้วตรัสแก่องค์อรชุนผู้มีดวงจิตอันเต็มเปี่ยมไปด้วยความเศร้าโศกในท่ามกลางระหว่างกองทัพของทั้งสองฝ่าย ด้วยมธุรสวาจาดังต่อไปนี้

ศรีภควาน ตรัสสอนว่า

ขณะที่เธอนั้นกล่าวออกมาด้วยวาจาที่ฟังดูหลักแหลมประดุจผู้มีการศึกษาสูง แต่เธอนั้นกลับมานั่งเศร้าโศกในสิ่งที่ไม่ควรค่าแก่การโศกเศร้า นั่นก็เพราะเธอไม่ได้เข้าใจความหมายอันลึกซึ้งในสิ่งที่เธอนั้นได้กล่าวออกมา ผู้มีปัญญาความรู้อันกระจ่างแล้วนั้นเขาย่อมจะไม่มานั่งเศร้าโศกกับสิ่งที่มีชีวิตอยู่ หรือ สิ่งที่ตายไปแล้ว

ทั้งในอดีตและปัจจุบันนั้น ไม่มีขณะใดเลยที่ตัวเรา ตัวเธอ หรือ พวกกษัตริย์เหล่านั้นจะไม่มีชีวิตอยู่ และเป็นที่แน่นอนว่าในอนาคตพวกเราทั้งปวงก็จะยังคงมีชีวิตอยู่ต่อไป

ดังเช่นดวงวิญญาณซึ่งอาศัยอยู่ในร่างวัตถุ โดยเริ่มเดินทางผ่านร่างกายในวัยเด็ก แล้วค่อยๆ เคลื่อนมาสู่การเจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ แล้วก็เคลื่อนต่อไปเข้าสู่วัยอันชราในร่างที่เหี่ยวย่น ฉันใดก็ฉันนั้น ดวงวิญญาณก็จะเคลื่อนออกจากร่างหนึ่งไปสู่อีกร่างหนึ่งเมื่อร่างเก่านั้นทรุดโทรมมากและตายไป ผู้ที่มีสติปัญญาจะไม่มัวมาหลงสับสนต่อการเปลี่ยนแปลงในวัฏจักรเช่นนี้

โอ้กุนเตยะ! การปรากฏและไม่ปรากฏทางประสาทสัมผัสของอินทรีย์และวิษัย อันไม่ถาวรยังให้เกิดความสุขและทุกข์ตามภาวะแห่งกาลเวลานั้นๆ เปรียบเสมือนการปรากฏและไม่ปรากฏของอากาศที่ร้อนและหนาว อันเกิดกับประสาทสัมผัส ซึ่งถ่ายเทไปมาไม่แน่นอน

โอ้ภารตะ! เธอต้องเรียนรู้ต้องเข้าใจมัน และอดทนอดกลั้นต่อสิ่งอันตกกระทบเหล่านี้โดยไม่หวั่นไหว

โอ้ผู้ประเสริฐในหมู่มนุษย์! ผู้ไม่หวั่นไหว ไม่ยินดียินร้ายในความสุขแลความทุกข์ มีความมั่นคงสม่ำเสมอในทั้งสองสิ่งนี้ เขาผู้นั้นย่อมเป็นผู้มีสิทธิ์ถึงซึ่งความหลุดพ้นในความเป็นอมตะอย่างแน่นอน

ผู้พบแล้วซึ่งสัจธรรมเขาย่อมสรุปได้ว่า สิ่งที่ไม่มีอยู่จริงอันถูกสมมติขึ้น (ร่างกาย) จะไม่จิรังยั่งยืน แต่สำหรับสิ่งอันเป็นอมตะ (จิตวิญญาณ) นั้นจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ที่นักปราชญ์สรุปเช่นนี้ก็เพราะเขาได้ประจักษ์แล้วในธรรมชาติของทั้งสองสิ่งนี้อย่างถ่องแท้

เธอพึงทราบไว้ด้วยว่าสิ่งที่แผ่ไปทั่วร่างกายนั้นจะไม่มีความพินาศ จะไม่มีผู้ใดที่จะทำลายดวงวิญญาณอันไม่มีวันเสื่อมสลายนี้ลงได้

วิญญาณซึ่งอาศัยอยู่ในร่างนั้นจะไม่มีวันถูกทำลายลง ประมาณไม่ได้และเป็นอมตะ ส่วนร่างที่วิญญาณอาศัยอยู่นั้น จะต้องสิ้นต้องเสื่อมสลายลงอย่างแน่นอน ฉะนั้นจงสู้เถอะผู้สืบวงศ์ภารตะ

ผู้ที่คิดว่าวิญญาณซึ่งอาศัยร่างนั้นเป็นผู้ฆ่า และคิดว่าวิญญาณซึ่งอาศัยร่างนั้นเป็นผู้ถูกฆ่า ผู้ที่มีทรรศนะความคิดทั้งสองอย่างนี้ถือว่าเป็นผู้ที่ไม่รู้จริง เพราะดวงวิญญาณนี้ไม่ได้เป็นทั้งผู้ฆ่า หรือ ผู้ถูกฆ่า

ดวงวิญญาณนั้นไม่เคยเกิดหรือตายไม่ว่าจะในเวลาใด ไม่เคยอยู่ทั้งในอดีต ปัจจุบันและอนาคต ดวงวิญญาณนั้นไม่เคยเกิด เป็นอมตะคงไปอยู่ชั่วนิรันดร และเป็นสิ่งอันเก่าแก่ที่สุด ฉะนั้นดวงวิญญาณจะไม่ถูกใครสังหาร เมื่อร่างกายอันเป็นวัตถุนั้นถูกฆ่า

ปารถเอ๋ย ผู้ที่รับรู้แล้วว่า ดวงวิญญาณนั้นไม่มีวันถูกทำลายลงได้ มีความเป็นอมตะ ไม่มีการเกิด และไม่มีการเปลี่ยนแปลง เขาจะถูกสังหารหรือเป็นต้นเหตุแห่งการสังหารใครได้อย่างไรเล่า

อุปมาเหมือนดั่งการที่คนเราที่ถอดหรือทิ้งเครื่องนุ่งห่มอันเก่าเสีย เพื่อไปสวมชุดใหม่ฉันใด ดวงวิญญาณก็ละทิ้งร่างกายอันเก่าและชำรุดนั้นไป แล้วเข้าไปอาศัยในร่างกายอันใหม่ฉันนั้น

อันดวงวิญญาณนั้นจะไม่ถูกอาวุธใดๆ ตัดแบ่งออกเป็นชิ้นๆ ได้ ไฟไม่สามารถแผดเผาให้พินาศลงได้ น้ำก็ไม่สามารถทำให้ที่จะทำให้ดวงวิญญาณนั้นเปียกละลายได้ หรือแม้กระทั่งลมก็ไม่สามารถพัดให้ระเหยแห้งลงได้เช่นกัน

ปัจเจกวิญญาณนี้ย่อมไม่วันแตกสลาย ไม่ละลาย ไม่ถูกเผาไหม้ และไม่ถูกทำให้แห้งเหือด มีความเป็นอมตะ ปรากฏอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง มั่นคง ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่หวั่นไหวเคลื่อนไป และจะเป็นเหมือนเดิมอยู่ตลอดตราบนิตย์นิรันดร์

ผู้รู้แจ้งแล้วกล่าวไว้ว่า ดวงวิญญาณนั้นไม่มีความปรากฏ มองไม่เห็น ไม่เปลี่ยนรูป ไม่อาจคิดนึกไปเองได้ ฉะนั้นเมื่อทราบเช่นนี้แล้ว เธอก็ไม่ควรที่จะมานั่งเศร้าโศกกับร่างวัตถุนี้อีกต่อไป

อย่างไรก็ดี ถ้าหากเธอคิดว่าดวงวิญญาณซึ่งเป็นลักษณะอาการของการมีชีวิตนั้น จะต้องเกิดและต้องดับอยู่เสมอชั่วนิรันดร์ กระนั้นแล้วเธอก็ไม่มีเหตุผลอันใดที่จะต้องมานั่งโศกเศร้าอีกเช่นกัน มหาพาหุเอ๋ย

เพราะเป็นที่แน่นอนว่าสรรพชีวิตที่เกิดขึ้นมาแล้วนั้นจะต้องตายสลายไป และหลังจากที่ตายไปแล้วก็จะวนกลับมาถือกำเนิดใหม่อีกครั้งเป็นวัฏจักรเช่นนี้เรื่อยไป ฉะนั้นเธอจึงไม่ควรมาเสียใจในสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นนี้ แล้วจงปฏิบัติตามหน้าที่อันพึงควรของเธอเถิด

อันสิ่งมีชีวิตทั้งหลายที่ถูกสร้างขึ้นมานั้น เป็นสิ่งอันไม่ปรากฏในเบื้องต้น ปรากฏเพียงแต่ในช่วงกลาง และจะไม่ปรากฏอีกครั้งเมื่อถูกทำลายลงในเบื้องปลาย ดังนั้นเธอจึงไม่จำเป็นที่จะมาคร่ำครวญเสียใจในเรื่องนี้อีก ภารต!

 

http://www.hindumeeting.com/forum/index.php…

14/12/2015

 

 

 

 

11202556_412662218930158_7229214803555687302_n.jpg?oh=059b79d0a4c1ef46f8fdfe8d5d12ef28&oe=5720F057&__gda__=1461739503_b93718d79bcb9274cfdc1926b76dd43e

 

 

 

 

ภควัทคีตา

ท่วงทำนองลีลาแห่งพระผู้เป็นเจ้า (3)

บางคนอาจจะมองว่าวิญญาณนั้นเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ บางคนนั้นอธิบายว่าดวงวิญญาณเป็นสิ่งอัศจรรย์ยิ่งนัก และบางคนก็ได้ยินเกี่ยวกับดวงวิญญาณว่าเป็นสิ่งน่าอัศจรรย์ ขณะที่อีกหลายคนแม้ครั้นเขานั้นจะได้ยินมาแล้วเกี่ยวกับเรื่องของดวงวิญญาณ พวกเขาเหล่านั้นก็ยังไม่มีใครสักคนที่สามารถเข้าใจมันได้เลย

โอ้ผู้สืบวงศ์ภารตะเอ๋ย! อันดวงวิญญาณที่สถิตพำนักอยู่ ณ ในร่ายกายของคนเรานี้นั้นจะไม่มีวันถูกสังหารลงได้ ฉะนั้นเธอจึงมิควรมีดวงจิตอันเศร้าหมองกับชีวิตของผู้อื่นอีก

คราวนี้เมื่อหันกลับมาพิจารณาหน้าที่ของเธอ ซึ่งดำรงอยู่ในฐานะกษัตริย์ เธอก็ทราบดีว่าไม่มีหน้าที่อื่นใดจะดีไปกว่าการได้ต่อสู้เพื่อปกป้องคุณธรรมความถูกต้อง ดังนั้นเธอจึงไม่ควรที่จะลังเลใจในหน้าที่ของเธอ

ปารถ! กษัตริย์ผู้มีความสุขก็คือ กษัตริย์ที่ได้กระทำการต่อสู้เมื่อโอกาสนั้นได้เอื้ออำนวยให้ โดยที่เขานั้นไม่ต้องไปเสาะแสวงหาเช่นนี้ ซึ่งนับว่า เปรียบเสมือนกับเป็นการเปิดประตูสู่สวรรค์ให้แก่ตัวเขาเอง

อย่างไรก็ดี หากว่าเธอนั้นจะไม่กระทำสงครามเพื่อพิทักษ์ความเป็นธรรมเช่นนี้แล้ว เธอก็จะต้องได้รับตราบาปติดตัวของเธอไปในฐานะของผู้ที่ไม่รับผิดชอบ ผู้ที่ละเลยต่อหน้าที่อย่างแน่นอน แล้วสิ่งนี้จะนำมาซึ่งการเสียชื่อเสียงเกียรติยศของเธอในภายภาคหน้าอย่างแน่นอน ในฐานะที่เธอนั้นกำเนิดมาเป็นชายชาตินักรบ

ผู้คนต่างๆ จะประณามถึงเรื่องการเสื่อมเสียชื่อเสียงเกียรติยศของเธอในครั้งนี้อย่างไม่มีวันสิ้นสุด สำหรับบุคคลผู้เคยได้รับการยอมรับเคารพนับถือจากปวงมนุษย์นั้น การดำรงชีวิตอยู่อย่างไร้เกียรติศักดิ์ศรีเช่นนี้นั้น มันเลวร้ายและทรมานยิ่งกว่าความตายเสียอีก

เหล่าบรรดานักรบผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายที่เคยกล่าวสรรเสริญยกย่อง นับถือในชื่อเสียงเกียรติคุณความกล้าหาญของเธอ ที่เธอสั่งสมมา พวกเขาก็จะคิดว่าที่เธอนั้นหนีออกจากสนามรบไปก็เพราะว่าเธอนั้นรักตัวกลัวตาย พวกเขาเหล่านั้นจะมองว่าเธอนั้นเป็นผู้ที่ไร้ศักดิ์ศรี ไม่สมกับการเกิดเป็นผู้ชายชาตินักรบ

ส่วนผู้ที่เป็นศัตรูของเธอ แน่นอนว่าพวกเขาต่างก็จะปรามาสดูถูกเธอนั้นด้วยวาจาอันเหยียดหยาม และพวกเขายังจะสบประมาทในความสามารถของเธออย่างแน่นอน แล้วมันจะมีอะไรเล่าที่จะทำให้เธอต้องเจ็บปวดรวดร้าวไปได้มากกว่านี้อีกเล่า

หากเธอถูกสังหารตายในท่ามกลางสนามรบ ประตูสวรรค์นั้นก็จะถูกเปิดออกเพื่อรอรับเธอ หรือในมุมกลับกันหากเธอนั้นได้รับชัยชนะในสงคราม เธอก็จะได้เสวยสุขและเธอก็สมหวังได้ครองอาณาจักรบนโลกแห่งนี้โดยสมบูรณ์ ฉะนั้นเธอจงลุกขึ้นมาเพื่อต่อสู้ด้วยความมั่นใจเถิด กุนเตยะ!

เธอจงปฏิบัติตามหน้าที่วิถีทางแห่งนักรบนั้นเถิด โดยเธอนั้นไม่ต้องมาคำนึงถึงความสุขหรือความทุกข์ ไม่ต้องคิดในเรื่องลาภหรือเสื่อมลาภ ไม่ต้องมาสนใจว่าจะชนะหรือพ่ายแพ้ ที่เธอนั้นจะได้รับจากการทำหน้าที่อย่างเต็มที่ของเธออีกต่อไป ฉะนั้นจงเตรียมพร้อมเพื่อการรบในครั้งนี้เถิด เพราะถ้าหากเธอได้กระทำหน้าที่ของเธอเช่นนี้แล้ว เธอย่อมจะเป็นผู้ที่ปราศจากผลแห่งบาปทั้งปวง

ถ้อยความที่เราได้อธิบายความรู้นี้แก่เธอนั้นเป็นไปในแง่ของสางขยะ คราวนี้เธอจงสดับฟังในสิ่งที่เราจะได้อธิบายแก่เธอต่อในแง่ของโยคะ

โอ้ปารถ! เมื่อเธอประกอบหน้าที่ของเธอด้วยความรู้และความเข้าใจเฉกเช่นนี้แล้ว เธอก็จะปฏิบัติภาระหน้าที่ของเธอได้อย่างเป็นอิสระปราศจากบ่วงพันธนาการแห่งกรรมทั้งหลายทั้งปวง

ความพยายามเช่นนี้จะไม่ทำให้เธอนั้นสูญเสียประโยชน์ใดๆ เลยทั้งในเบื้องต้น หรือถูกลดประโยชน์ลงในเบื้องปลาย ความเจริญบนวิถีทางเช่นนี้แม้มันจะดูมีค่าเพียงน้อยนิด แต่มันก็พลังที่จะสามารถปกป้องเธอจากภัย (ความกลัว) ที่มีอันตรายมากที่สุดได้

กุรุนันทนะ เอ๋ย! บุคคลผู้ก้าวเดินอยู่บนวิถีมรรคาแห่งพุทธิสายนี้แล้ว บุคคลผู้นั้นย่อมมีเป้าหมายปลายทางที่แน่วแน่เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น แต่พุทธิของผู้ที่รวนเรไม่แน่วแน่มั่นคงนั้น เขาจะแตกแยกจุดมุ่งหมายของเขาออกเป็นหลากหลายสาขามากมายจนไม่จบสิ้น

บุคคลผู้ด้อยปัญญามักชอบอวดอ้างตน ชอบกล่าวถ้อยความอันเลิศหรูด้วยอักขระ อันเป็นสำนวนโวหารที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์พระเวท ที่แนะนำกิจกรรมเพื่อประโยชน์ต่างๆ ที่พวกเขานั้นจะได้รับว่า ไม่มีอะไรที่จะสูงส่งไปกว่านี้อีกแล้ว

ในหัวใจเขานั้นเพียงต้องการแค่กาม แล้วยึดเอาสวรรค์นั้นตามทรรศนะของเขาว่าเป็นยอด เพื่อให้ตนนั้นได้รับผลบุญที่ทำไว้แล้ว เพื่อไปถือกำเนิดในตระกูลที่ดีและมีอำนาจวาสนา

การประกอบพิธีกรรมอันหรูหราในรูปแบบต่างๆ ของพวกเขานั้นก็เช่นเดียวกัน มันเป็นเพียงแค่เพื่อการตอบสนองความสุขทางประสาทสัมผัสของพวกเขา เป็นไปเพื่อที่เขานั้นจะได้รับเครื่องอุปโภคบริโภค และความมั่นคงในอนาคตที่พวกเขาคาดหวังไว้เท่านั้น

ในหัวใจของพวกเขา ผู้ซึ่งยึดติดอยู่กับความสุขทางประสาทสัมผัสและความมั่งคั่งในทางวัตถุ ผู้ที่สับสนในใจนั้นจะมักติดอยู่กับสิ่งเหล่านี้ ความมั่นใจอันแน่วแน่ในการที่พวกเขาจะบำเพ็ญเพียรอุทิศตนเสียสละโดยแท้จริงนั้นย่อมไม่บังเกิดขึ้นกับพวกเขาอย่างแน่นอน

อันคัมภีร์พระเวทส่วนใหญ่มักจะกล่าวถึงเรื่องคุณทั้งสามระดับของประกฤติอันเป็นธรรมชาติวัตถุ (สัตตวะ รชะ ตมะ) อรชุนเธอจงอยู่เหนือคุณทั้งสามระดับนี้เถอะ จงเป็นอิสระจากทวันทวธรรมเถิด

เธอจงตั้งมั่นในสัตตวะอยู่เป็นนิตย์ จงเป็นอิสระอยู่เหนือความวิตกกังวลในความปรารถนาและความปลอดภัยทั้งปวง แล้วจงเป็นผู้ตั้งมั่นในความเป็นตัวของตัวเองเถิด

ประโยชน์ทั้งหลายที่ได้จากบ่อน้ำเล็กๆ นั่นก็เพราะที่บ่อน้ำนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยน้ำอันใสสะอาดที่สามารถตอบสนองความต้องการของเราได้ในทันที

ในทำนองเดียวกัน ประโยชน์ในคัมภีร์พระเวทก็สามารถให้การตอบสนองได้สำหรับพราหมณ์ผู้รู้แจ้งถึงจุดมุ่งหมายอันแท้จริงของพรหมันอันสูงสุดเฉกเช่นเดียวกัน

เธอมีสิทธิในการปฏิบัติหน้าที่ดังที่ได้ถูกกำหนดไว้ แต่เธอไม่มีสิทธิ์ในผลของการกระทำนั้น จงอย่าคิดว่าตัวเธอเองเป็นแหล่งกำเนิดของผลงานที่เธอนั้นได้กระทำลงไป และจงอย่ายึดติดกับการไม่ปฏิบัติตามภาระหน้าที่ของเธอ ที่เธอนั้นพึงต้องกระทำอีกเลย

ธนัญชัย! เธอจงปฏิบัติหน้าที่ของเธอด้วยความแน่วแน่ เธอจงสลัดทิ้งซึ่งการยึดติดในความสำเร็จหรือความล้มเหลวทั้งมวล ความสงบมั่นคงในอารมณ์ของเธอเช่นนี้แหละที่เรียกว่า “โยคะ”

ธนัญชัย! เธอจงละทิ้งการกระทำอันน่ารังเกียจไปให้ไกล โดยการปฏิบัตหน้าที่ด้วยความเข้าใจอันถ่องแท้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน และด้วยจิตสำนึกเช่นนี้เธอจงแสวงหาที่พึ่งแห่งปัญญาเถิด (สัจธรรม, ความจริงแท้ หรือ การยึดมั่นในพระผู้เป็นเจ้า)

อันผู้ใดที่ปรารถนาจะหาความสุขจากผลงานที่ตนนั้นได้กระทำลงไปแล้วนั้น เขาผู้นั้นย่อมกลายเป็นคนโลภผู้น่าสงสารยิ่ง

บุคคลผู้ปฏิบัติตนด้วยปัญญาอันรู้แจ้งแล้วนั้น เขาย่อมจะหลุดพ้นจากผลแห่งกรรมทั้งดีและชั่วได้ ฉะนั้นเธอเองก็จงปฏิบัติภารกิจของเธอด้วยหลักแห่งโยคะนี้ ซึ่งเป็นเสมือนศาสตร์และศิลป์อันประเสริฐของการกระทำทั้งปวงเถิด

ด้วยการธำรงอยู่ในพุทธิปัญญา นักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่นั้นได้ทำให้ตัวเองได้รับอิสรภาพอยู่เหนือผลแห่งกรรมทั้งปวง ซึ่งเท่ากับเขานั้นได้รับอิสระจากวัฏจักรแห่งการเวียนว่ายตายเกิด และจะบรรลุถึงการลอยอยู่เหนือความทุกข์ทั้งมวลได้ (การกลับคืนสู่ภูมิของพระผู้เป็นเจ้า)

เมื่อสติปัญญาของเธอนั้นได้ก้าวข้ามออกมาจากป่าอันรกชัดและมืดทึบแห่งโมหะแล้ว เธอเองก็จะสิ้นความสงสัยในสิ่งที่ได้สดับฟังมาแล้วทั้งหมด และจะสิ้นสงสัยในสิ่งที่เธอนั้นจะได้ฟังต่อไป

เมื่อปัญญาของเธอไม่ถูกรบกวนให้ฟั่นเฟือนจากสำนวนโวหารในคัมภีร์พระเวทที่เคยได้สดับมาแล้ว และเมื่อใดที่จิตใจของเธอนั้นเกิดความสงบตั้งมั่นอยู่ในสมาธิเพื่อความรู้แจ้งแห่งตนที่แท้จริง เมื่อนั้นเธอย่อมได้บรรลุผลแห่งความรู้แจ้งในตนเอง

อรชุน ตรัสว่า

ผู้มีปัญญาอันตั้งมั่นดีแล้วในสมาธินั้น เขาจะมีอาการเช่นไร? เขาจะพูดอย่างไร? เขาจะแสดงออกมาเช่นไร? เขาจะนั่ง เขาจะเดิน เขาจะกินอยู่แบบใดเล่า เกศวะ

ศรีภควาน ตรัสว่า

ดูก่อนเถิดปารถ! เมื่อบุคคลผู้ละสิ้นแล้วซึ่งความปรารถนานานัปการที่มีสถิตอยู่ในใจอันเกิดจากการคาดคะเนนั้นลงเสียได้ และเมื่อเขามีจิตที่บริสุทธิ์ขึ้น เขานั้นย่อมจะประสบแต่ความพึงพอใจในตนเองเท่านั้น กล่าวได้ว่าบุคคลผู้นี้แล เป็นผู้ตั้งมั่นสถิตอยู่ในพุทธิปัญญา

ผู้มีจิตใจที่ไม่ถูกรบกวนให้เดือดร้อนท่ามกลางความทุกข์ หรือไม่มีความปิติทะเยอทะยานเมื่อได้รับความสุข และเป็นอิสระจาก ราคะ ภัยและโกรธา เขาผู้นั้นย่อมได้ชื่อว่าเป็นนักปราชญ์ผู้มีจิตใจอันมั่นคงที่แท้จริง

ในโลกแห่งวัตถุ ผู้ซึ่งไม่เสน่หากับสิ่งที่ดีหรือสิ่งที่ชั่วที่ตนเองนั้นจะได้รับ อีกทั้งไม่ยินดีหรือไม่เสียใจ ผู้นั้นย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่มีความแน่วแน่มั่นคงในความรู้อันสมบูรณ์

ผู้ที่สามารถดึงประสาทสัมผัสของตนเองนั้นให้กลับมาได้จากอารมณ์ตกกระทบภายนอกนั้น ก็เปรียบเสมือนเต่าที่สามารถหดเก็บแขนขาทั้งหมดเข้ามาไว้ในกระดองของมัน เขาผู้นั่นย่อมเป็นผู้ที่มีปัญญาตั้งมั่นอันสมบูรณ์แล

ดวงวิญญาณที่สถิตอยู่ในร่างอาจถูกควบคุมจากความสุขทางประสาทสัมผัส แม้รสแห่งอารมณ์ตกกระทบภายนอกยังคงอยู่

การควบคุมและหยุดการกระทำเช่นนี้ได้นั้น ก็มาจากการที่เขานั้นได้มาประสบพบกับมธุรสที่เป็นเลิศกว่า อันทำให้เขานั้นมีความมั่นคงเกิดขึ้นได้ในดวงจิต

กุนเตยะ! ประสาทสัมผัสนั้นมันช่างส่งผลกระทบอันรุนแรงและรวดเร็วนัก จนสามารถรบกวนและสามารถบังคับนำพาให้จิตใจนั้นเตลิดเปิดเปิงไปได้ง่าย แม้มนุษย์ผู้นั้นจะมีจิตอันรู้จักแยกแยะและกำลังพยายามควบคุมมันก็อาจถูกมันพาให้เคลื่อนออกไปได้

บุคคลผู้สามารถข่มประสาทสัมผัสของตนเองนั้นได้ โดยรักษามันให้อยู่ภายใต้การควบคุมอย่างสมบูรณ์และตั้งมั่นอยู่ในปัญญาแห่งตน เขาผู้นั่นย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่เห็นเรา และเป็นผู้ที่มีปัญญาอันแน่วแน่มั่นคง

ในขณะที่จิตจดจ่ออยู่กับอารมณ์ของรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส จิตย่อมเกิดอารมณ์ยึดติดอยู่กับสิ่งเหล่านั้น เมื่อเกิดการยึดติดจิตก็เริ่มพัฒนาตัวเริ่มเกิดการปรุงแต่งจนก่อตัวเป็นกามราคะ เมื่อกามก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นในจิต ความโกรธนั้นย่อมติดตามมาเป็นเงา

จากโกรธ โมหะก็จะถือกำเนิดขึ้น แล้วปรับเปลี่ยนเป็นความหลงอันจะทำให้เกิดความสับสนจนลืมซึ่งสติ เมื่อเกิดความสับสนลืมสติพุทธิแห่งปัญญาย่อมจะสูญเสียไป และเมื่อเสื่อมในพุทธิปัญญาไป เขาก็จะตกต่ำลงสู่ก้นเหวแห่งความพินาศอีกครั้ง

ส่วนผู้ที่เป็นอิสระแล้วจากการยึดติดอันปราศจากรักและรังเกียจ เขาจะสามารถควบคุมประสาทสัมผัสของตัวเองได้ และปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ เขาย่อมได้รับมาซึ่งความเป็นสันโดษ

เมื่อมีความพึงพอใจในสิ่งที่ตนพึงมีพึงเป็นอยู่แล้ว (สันโดษ) ความทุกข์ทางวัตถุทั้งปวงย่อมสูญสิ้นไป ในห้วงที่จิตนั้นเกิดความสันโดษเช่นนี้ ในไม่ช้าพุทธิแห่งปัญญาของเขาย่อมปรากฏขึ้นและจะสถิตอยู่อย่างมั่นคง

ผู้ที่ไม่มีจิตอันตั้งมั่นในความเป็นจริงแห่งเรา ย่อมไม่มีทั้งปัญญาและจิตใจอันมั่นคง เมื่อขาดสองสิ่งนี้แล้ว เขาย่อมหาซึ่งความสงบไม่ได้ เมื่อปราศจากความสงบเช่นนี้แล้วความสุขจะมีแก่เขาได้อย่างไรเล่า

เพราะประสาทสัมผัสเพียงน้อยนิดที่เตลิดไปตามกระแสลมแห่งวาระจิต มันย่อมสามารถพัดพาเอาพุทธิปัญญาของเขาผู้นั้นให้ล่องลอยเตลิดตามไปด้วย เฉกเช่นดั่งเรือที่ล่องลอยอยู่ในกระแสน้ำแล้วถูกลมพัดพาให้เคลื่อนคล้อยไปตามกระแสนั่นเอง

ฉะนั้น มหาพาหุเอ๋ย! ผู้ซึ่งสามารถข่มประสาทสัมผัสจากอารมณ์รับรู้ทั้งภายในและภายนอกทั้งหลายได้ เขาผู้นั้นจึงจะเรียกได้ว่าเป็นผู้ที่มีพุทธิปัญญามั่นคงและแน่นอน

ราตรีของมวลชีวิตนั้นเป็นเวลาตื่นของผู้ควบคุมตนเองได้ และเวลาตื่นของมวลชีวิตก็จะเป็นราตรีของมุนี (นักปราชญ์) ผู้ประจักษ์แจ้งในการพิจารณาใคร่ครวญตัวเอง

ผู้ไม่หวั่นไหวต่อความใคร่ความปรารถนา อันหลั่งไหลอย่างไม่หยุดยั้งและเชี่ยวกราก ก็เปรียบเสมือนดั่งสายน้ำในมหานทีที่ได้มุ่งหน้าไหลลงสู่ห้วงมหาสมุทรอันเต็มเปี่ยมไปด้วยน้ำ แต่มหาสมุทรนั้นกลับยังคงสงบนิ่งไม่หวั่นไหวต่อกระแสน้ำอันเชี่ยวนั้น

นั่นเอง ผู้ที่ไม่หวั่นไหวเช่นนี้จึงถือได้ว่าเป็นผู้ที่ควรค่าแก่การได้รับซึ่งศานติ (ความสงบ) ส่วนผู้ที่ยังคงหวั่นไหวหลงใคร่ปรารถนาเพื่อสิ่งที่สนองความต้องการเหล่านี้ เขาผู้นั้นย่อมไม่มีทางจะพบกับศานติอย่างแน่นอน

บุคคลผู้สลัดทิ้งแล้วซึ่งความต้องการทางวัตถุเพื่อการตอบสนองทางประสาทสัมผัสลงเสียได้ เขาย่อมไม่มีความใคร่ปรารถนาในสิ่งใด เขาได้ละทิ้งแล้วซึ่งมมังการและเขาย่อมปราศจากซึ่งความอหังการ บุคคลเช่นนี้ย่อมสามารถที่จะได้รับความสงบอย่างแท้จริง

นี่คือวิถีแห่งชีวิต อันเป็นธรรมชาติทิพย์ในพรหม ผู้ที่บรรลุในศานติแล้วเขาย่อมไม่มามัวงมงายและสับสน หากบุคคลสถิตในศานติได้เช่นนี้ แม้ในช่วงภาวะเวลาแห่งความตาย บุคคลผู้นั้นย่อมจะบรรลุถึงนิรวาณอันเป็นอาณาจักรทิพย์แห่งพระผู้เป็นเจ้าได้

http://www.hindumeeting.com/forum/index.php…

 

 

 

 

12342758_412659845597062_8602361561796818243_n.jpg?oh=3433ffedf402417810585edb4a19ebf8&oe=571F790F&__gda__=1457401373_63a3b239193c8faf519dac44485b7018

 

เฉลยQuiz

คุณ Peera Chusak เขียนเข้ามาถามผมว่า:

"คนไทยและพลเมืองทั่วโลกควรทำอย่างไรเพื่อมีส่วนช่วยระงับยับยั้งไม่ให้เกิดสงคราม..เพราะแน่นอน..เมื่อเกิดสงครามครั้งนี้ขึ้น..ผู้ชนะและผู้แพ้..คงยับเยินไม่แพ้กัน..สรุปคือ..ทุกคนแพ้..โลกแพ้.."

คำถามคือ เราควรตอบคุณ.Peera Chusak อย่างไร?

คำตอบ: เป็นคำถามที่ไม่ดี ไม่ได้ตั้งอยู่บนความเป็นจริง

ประการแรก ถ้าหากจะเกิดสงคราม คนไทยและพลเมืองทั่วโลกไม่สามารถยับยั้งได้ สงครามเกิดจากการตัดสินใจของผู้นำ เช่นตุรกียิงเครื่องบินรัสเซียตก ถือว่าเป็นอาชญากรรมทางสงครามโดยที่ประชาชนไม่รู้เรื่อง และไม่สามารถยับยั้งได้ รัสเซียมีสิทธิประกาศสงครามกับตุรกี เมื่อปูตินประกาศสงคราม ประชาชนชาวรัสเซียนจะต้องยอมรับ ไม่มีทางเลี่ยงได้ เมื่อสงครามมาถึง ชาวเติร์กจำต้องจับอาวุธขึ้นมาปกป้องตัวเอง นาโต้มีสนธิสัญญาปกป้องพันธมิตรด้วยกัน จำต้องส่งทหารเข้ามาช่วยตุรกี ประชาชนของทุกประเทศที่เป็นสมาชิกของนาโต้จะถูกเกณฑ์เรียกตัวให้เข้าไปเป็นทหารเพื่อการสงคราม เหตุการณ์จะลามเพราะว่าสงครามมีแรงเหวี่ยงของมันเอง เมื่อเวลามาถึง

ยกเว้นว่าตุรกีจะยอมจ่ายค่าชดเชย หรือยอมขอโทษรัสเซีย แต่เราได้เห็นแล้วว่าการยิงเครื่องบินรัสเซียเป็นการตั้งใจยั่วยุหาเรื่องให้เกิดสงคราม ทั้งสหรัฐและนาโต้ต้องการก่อสงครามเพื่อสกัดอิทธิพลของรัสเซีย และจีน จึงหนุนหลังตุรกีเต็มที่ ทำให้ผู้นำตุรกีวางกล้ามไม่เพียงแต่ไม่ขอโทษรัสเซียที่ยิงเครื่องบินรัสเซียตก แถมยังทำเป็นทองไม่รู้ร้อนที่โดนแฉว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการค้าน้ำมันเถื่อนของไอซิสที่รัสเซียกำลังทำสงครามต่อต้านในซีเรียอยู่ในเวลานี้

รัสเซียรู้ตัวผู้ที่ก่อการร้ายเครื่องบินโดยสารMetrojetแล้ว แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดอย่างเป็นทางการว่า ใครลอบสอบMetrojetตกที่คาบสมุทรไซไน ทำให้ชาวรัสเซียเสียชีวิตไปกว่า200คน ถือว่าเป็นอาชญกรรมสงครามได้เหมือนกัน เพราะว่าผู้ที่ยิงMetrojetจงใจตอบโต้รัสเซียที่ได้ไปทำลายพวกไอซิสในซีเรีย โดยต้องการขู้่ให้รู้ว่ารัสเซียต้องเผชิญกับการสูญเสียมากขึ้น ถ้าหากยังดื้อดึงทำสงครามในตะวันออกกลาง ปูตินเตรียมเช็คบิลเลยทีเดียว กับสหรัฐและนาโต้ ในแง่นี้สงครามเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้

ในภาพกว้าง สหรัฐและนาโต้ต้องการก่อสงครามโลกเพื่อสกัดรัสเซียและจีน ซึ่งกำลังผงาดขึ้นมาท้าทายมหาอำนาจตะวันตกที่ครองโลกใบนี้มาเป็นเวลา400-500ปีแล้ว อำนาจของตะวันตกนี้จะไม่ยอมปล่อยให้รัสเซีย หรือจีนแย่งชิงไปเป็นอันขาด สงครามจึงเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้่ นาโต้ปิดล้อมรัสเซียและขนขีปนาวุธมาจ่อคอหอยมอสโคว ส่วนสหรัฐกำลังระดมพันธมิตรเอเซียเพื่อขนกองกำลังทัพใหญ่ไปปิดล้อมจีนในเอเซีย โดยหาเหตุความขัดแย้งในทะเลจีนใต้มาเป็นข้ออ้าง เมื่อเป็นเช่นนี้ รัสเซียและจีนได้เลือกที่จะไม่ยอมโดนปิดล้อมเหมือนสงครามนโปเลียน หรือประวัติศาสตร์ของจีนที่ผ่านมาที่ตั้งรับในบ้าน แต่ทั้งจีนและรัสเซียเลือกที่จะออกมาทำสงครามนอกบ้าน โดยเลือกเอาซีเรียและตะวันออกกลางเป็นสมรภูมิ เพราะว่าแหล่งน้ำมันในตะวันออกกลางเป็นกล่องดวงใจของเปโตรดอลล่าร์ และเยรูซาเลมเป็นกล่องดวงใจทางศาสนาของพวกอิลิทที่อยู่เบื้องหลังสหรัฐและนาโต้อีกทีหนึ่ง จีนกำลังตั้งฐานทัพในแอฟริกาเพื่อช่วยกองทัพรัสเซียในตะวันออกกลาง

ประการที่สองที่ถามว่า "เมื่อเกิดสงครามครั้งนี้ขึ้น..ผู้ชนะและผู้แพ้..คงยับเยินไม่แพ้กัน..สรุปคือ..ทุกคนแพ้..โลกแพ้." เป็นคำถามที่ไม่ดีอีกเหมือนกับคำถามแรก เพราะว่าแม้ว่าทั้งผู้ชนะและผู้แพ้ในการสงครามจะยับเยินทั้งคู่เป็นความจริง ในอดีตที่ผ่านมา เราได้เห็นความสูญเสียในสงครามมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่มนุษย์ยังคงเลือกที่จะก่อสงครามต่อไประหว่างฝ่ายมารและฝ่ายเทพ เพราะว่าสงครามเป็นส่วนหนึ่งของวัฏฏะของการทำลาย

ถ้าจะเกิดสงครามโลกในครั้งนี้ ก็จะไม่ต่างกับสงครามใหญ่ที่ผ่านมาในอดีต จึงไม่เรื่องแปลกหรือผิดปกติแต่ประการใด ในเวลานี้ มีมนุษย์อยู่บนโลก7000ล้านคน จะเพิ่มเป็น10,000ล้านคนอีกภายในไม่กี่ปีข้างหน้า ถ้าไม่มีสงคราม จำนวนมนุษย์จะเพิ่มขึ้นไม่มีที่สิ้นสุด จะแก่งแย่งชิงกันเพราะความโลภ ความโกรธ และความหลงเพื่อจะทำลายทรัพยากรธรรมชาติ จนโลกนี้อยู่ไม่ได้อยู่ดี มนุษย์เราจะเบียดเบียนสิ่งมีชีวิตอื่นๆที่อยู่ร่วมโลกด้วยกันจนพวกเขาอยู่ไม่ได้ ต้องสูญพันธุ์ไปเรื่อยๆ ท้ายที่สุด ทุกคนแพ้ โลกแพ้อยู่แล้วในวิถีที่ดำเนินอยู่ในปัจจุบัน ในแง่วัฏฏะสงครามจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อทำลายมนุษย์เพื่อปกป้องโลกใบนี้จากการถูกมนุษย์ทำลาย

ในสงครามใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น เหมือนกับสงครามมหาภารตะ ฝ่ายรัสเซีย+จีน+อิหร่านจึงเปรียบเหมือนฝ่ายปานฑวะ ส่วนฝ่ายสหรัฐ+นาโต้เปรียบเหมือนฝ่ายเการพที่เข้าสู่สงครามในทุ่งกุรุเกษตรเพื่อตัดสินว่าใครจะเป็นใหญ่ อรชุนแม่ทัพเอกของฝ่ายปานฑวะที่รบเก่งที่สุด ไม่ต้องการทำสงครามกับพวกเการพที่ตั้งทัพอยู่ฝ่ายตรงกันข้าม เพราะว่าเป็นพี่น้องกันเป็นญาติสนิทมิตรสหาย ที่เคยรักใคร่ชอบพอกันและนับถือกันมาก่อน แต่พวกเการพเป็นพวกอธรรม ต้องการก่อสงครามเพราะความโลภ เพื่อแย่งชิงอำนาจแต่ฝ่ายเดียว ปูตินจึงเปรียบเหมือนอรชุน ดูดีๆ จะเห็นได้ว่าเขาเป็นคนมีเมตตาธรรมและเป็นคนที่รักสัตว์มาก ผิดกับภาพพจน์ของความเป็นนักฆ่ามือหนึ่งของเคจีบี ปูตินไม่ต้องการรบ ถ้ารบไปจะต้องมีการสูญเสียอย่างมหาศาลระหว่างทั้่งสองฝ่ายเนื่องจากมีนิวเคลียร์ทั้งคู่ แต่สถานการณ์บีบคั้นเหมือนอรชุน เพราะว่าถ้าไม่รบตอนนี้ ต่อไปจะรักษารัสเซียเอาไว้ไม่ได้จากการรุกรานของพวกสหรัฐ+นาโต้ที่เดินหน้าเกมสงครามจนกว่าจะยึดครองโลกใบนี้ได้อย่างสมบูรณ์โดยไม่มีคุ่แข้ง เพื่อสถาปนารัฐบาลโลกเดียว

อรชุนทำใจไม่ได้ที่ต้องใช้เกาทัณฑ์ยิงญาติและพี่น้องของตัวเองในสงครามมหาภารตะ แต่พระกฤษณะทรงสอนอรชุนว่า ถ้าไม่รบจะถือว่าเป็นการไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ เป็นบาปที่ไม่รักษาธรรม และเป็นผู้ที่ไม่เข้าถึงกฎเห่งวัฏฏะที่มีการสร้างและการทำลายควบคู่กันไปอย่างไม่มีวันสิ้นสุด หน้าที่ของวรรณะกษัตริย์คือเป็นนักรบ ถึงเวลารบก็ต้องรบ การละเว้นจากการทำหน้าหน้าที่เป็นความบกพร่อง หรือเป็นบาป เพราะว่าเท่ากับเป็นการปล่อยให้ความไม่ชอบธรรมทำลายความชอบธรรม การสงครามเพื่อปกป้องความชอบธรรมเป็นสิ่งจำเป็นและเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าต้องเผชิญกับการสูญเสียเลือดเนื้่อจากฝ่ายตัวเอง และการเอาชีวิตผู้อื่นจากฝ่ายตรงกัน ซึ่งเป็นบาป แต่ทุกคนต้องสามารถก้าวข้ามสังสารวัฏนี้ให้ได้เพื่อบรรลุถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับพระเจ้า ที่มีทั้งการสร้างและการทำลายควบคู่กันไป

สำหรับคนไทย จะเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วยกับสงครามเป็นเรื่องหนึ่ง จะชอบหรือไม่ชอบสงครามเป็นแค่ความคิดเห็น แต่เมื่อเวลาสงครามมาถึง ทุกคนต้องมีหน้าที่ปกป้องชาติให้พ้นภัย หน้าที่ที่สำคัญนี้เหมือนหนุมานชาญสมรทำหน้าที่ปกป้องพระรามในรามเกียรติ์เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ ไม่มีใครสามารถเอาตัวรอดด้วยการซื้อทอง เก็งกำไรที่ดินเพื่อเสวยสุขคนเดียวได้ ถ้าหากว่าถูกข้าศึกรุกราน เพื่อทำให้ชาติไทยล่มจมเหมือนซีเรียและอิรัก

thanong

15/12/2015

หมายเหตุ: ไม่มีแฟนคลับคนใดตอบQUIZนี้ได้ผ่านเกณฑ์มาตรฐานเลย เพราะว่าตอบคำถามโดยไม่มีแก่นของปรัชญา หลักฐานที่คลาสสิคสำหรับอ้างอิง ตอบคำถามแบบลอยๆเหมือนชาวบ้านทั่วไป ปูตินได้โปรยสงครามและสันติภาพของลีโอ ตอลสตอยให้ชาวรัสเซียนเตรียมเนื้อเตรียมใจและมีกรอบของความคิดที่ชอบธรรม ส่วนคนไทยคงต้องกลับไปอ่านสงครามเก้าทัพ รามเกียรติ์ หรือมหาภารตะกันใหม่เพื่อปลูกฝังความคิดที่ดีงาม ไม่ใช่อ้างความคิดตามอารมณ์ของตัวเองอย่างลอยๆ ไร้หลัก

 

 

 

 

12347677_412779348918445_8946353563383852488_n.jpg?oh=09331cf4af1ef486a975b6d7d6371edd&oe=571835BF&__gda__=1457164431_a2e1834659dce33a2794ba0e011dea53

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ชัดเจนจากลุงกำนัน...

ไม่ตั้งพรรค

เดินหน้างานมูลนิธิ...

12341336_208901189447237_2016018713655694241_n.jpg?oh=4bcf8a6954611a08dc8840d9a22b92dd&oe=56E74D16&__gda__=1457523115_3d592200c5c56d68eae9817c09879fa8

 

12366472_10156220662835063_7345430415648147277_n.jpg?oh=910bed973f993a0fae99ce4ff585ba8b&oe=56E516FB

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

12360352_1640077782908965_3937960368325717034_n.jpg?oh=4d7b4c42793597793bc3ac2456ddbb09&oe=571952D1&__gda__=1461225659_f831bde780d1237e69bedd741bf616e0

 

"ระหว่างผมยืนหยัดอยู่ตรงนี้ กับคนที่หนีไปต่างประเทศ แล้วพูดให้ร้ายประเทศอยู่ จะเชื่อใคร

คนที่เข้าข่ายผิดกฏหมาย ไม่เข้ากระบวนการยุติธรรม กลับเข้ามาก็โดนจับกุม

เรื่องเลือกตั้งใครๆก็สนับสนุน ผมก็สนับสนุน ...."

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

14 ธันวาคม 2558 ( สรุปความจาก ผู้จัดการ )

 

12039241_521785767989418_8436255564541172407_n.jpg?oh=86b5ecd5372525fea794b00a93b9711c&oe=57220C8C

มือขวาที่มีวิสแบน"เรารักในหลวง" มือนี้คือมือที่มีไว้เพื่อพัฒนาและปกป้องชาติ การจับมือกับนานาชาติคือการบ่งบอกว่า คนไทยเรานี้ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ และเราจะพัฒนาชาติไทย ตามแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว... #ทีมลุงตู่

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

12391892_1696638727218809_6567568940024750183_n.jpg?oh=e37ef6a7d653dfd842344671e869eba3&oe=56DAC0A1

12348161_1696638730552142_6915173152933908901_n.jpg?oh=d79d1e01cde08b16b4f6657d29d2d63f&oe=56E50946

12391969_1696638820552133_9073080861274221445_n.jpg?oh=31d4616384b022142dfbe594d3eb1869&oe=56E4EAA2

12294823_1696638800552135_9187482578662819247_n.jpg?oh=996f0851922e4d9dfc20cd9f04e9a4c7&oe=56D90E33

12360303_1696638803885468_5306636624537381669_n.jpg?oh=e442a7fc37b517a8b17a566e6a93ab35&oe=56D6C0F0

12346536_1696638807218801_8892737301175525830_n.jpg?oh=c2cba9c9b4ed98c0d84021245b90684b&oe=56E5F3D6&__gda__=1457643142_2a4c567bbff7d98dbbd6dd6cf09c9407

12376509_1696638810552134_7029779933016697932_n.jpg?oh=69421c0d379a590eba4925fa84ff5653&oe=56D6C9FC

12342397_1696638813885467_1286298441335283001_n.jpg?oh=cad9aee86ab20d6727437af038455076&oe=56E5102E&__gda__=1457422982_715256f755a1633a07de5776a88fd6d0

การแสดงตลกของแมวน้ำแห่งแอนตาร์กติก

สื่อต่างประเทศได้รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ชาวฝรั่งเศสคณะหนึ่งผู้ชื่นชอบการดำน้ำได้เดินทางไปยังแอนตาร์กติก และได้พบกับกลุ่มแมวน้ำแสนซนเข้า พวกมันไม่เพียงแต่ไม่กลัวมนุษย์เท่านั้น แต่ยังกล้าทำหน้าและท่าทางซุกซนใส่กล้องอีกด้วย ช่างภาพชาวฝรั่งเศส Alexandre Voyer หนึ่งในทีมสำรวจจึงได้ทำการบันทึกภาพแสนสนุกเหล่านี้ไว้

China Xinhau news

 

 

 

 

อย่าให้ถูกครหาว่า 'รัฐตำรวจ'

"ตำรวจ" อีกซักวัน..........! แต่ไม่ใช่ตำรวจ "ไม่มีใครเอา" ที่ชื่อ พล.ต.ต.ปวีณ หากแต่เป็นตำรวจ "เขาจะเอา" ที่ชื่อ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ใครจะเอา...เอาให้เป็นอะไร เดี๋ยวค่อยว่ากัน มาปูพื้นเป็นความเข้าใจเรื่องราวก่อน พล.ต.อ.วัชรพล เป็น ๑ ใน ๕…

THAIPOST.NET

 

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ด้วยยุคสมัยไอที ไม่ว่าจะเป็นการอยากรู้ข้อมูลจากทางหน่วยงานของรัฐ จากเมื่อก่อน อยากทราบอะไร ต้องไปติดต่อหน่วยงานราชการในเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบ อาทิ อยากรู้ราคาประเมินที่ดิน หรือสิ่งปลูกสร้าง ก็ต้องแบกสัมภาระเอกสารประกอบการขอตรวจสอบไปที่ สำนักงานที่ดิน หรือกรมธนารักษ์

 

แต่สมัยนี้ ไม่เป็นแบบนั้นแล้ว เราสามารถตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น ได้บนโลกโชเซี่ยลได้เลย

 

การให้บริการข้อมูลราคาประเมิน

 

1. ทางอินเตอร์เน็ต ในขณะนี้ประชาชนผู้สนใจจะขอทราบราคาประเมินที่ดินในพื้นที่ที่มี ราคาประเมินที่ดิน รายแปลงแล้วทางอินเตอร์เน็ตได้โดยเข้าเว็บไซต์ของ กรมธนารักษ์ www.treasury.go.th การสั่งค้นจะต้องมีข้อมูลหมายเลขโฉนดที่ดิน เลขที่ดิน หน้าสำรวจ เลขระวาง ตำบล เขต และจังหวัดของแปลงที่ดินที่ต้องการทราบราคาประเมิน

 

2. การสอบถามทางโทรศัพท์ สำนักประเมินราคาทรัพย์สิน กรมธนารักษ์ ให้บริการสอบถามราคาประเมินทางโทรศัพท์หมายเลข 0 2142 2465 ถึง 67 โดยผู้สอบถามจะต้องมีข้อมูลดังนี้

 

• ที่ดินรายแปลง – หมายเลขโฉนดที่ดิน เลขที่ดิน หน้าสำรวจ ระวาง ตำบล เขตและจังหวัด

 

• โรงเรือนสิ่งปลูกสร้าง – ประเภทสิ่งปลูกสร้าง พื้นที่อาคาร ปีที่ก่อสร้าง จังหวัดที่ตั้งอาคาร

 

• ห้องชุด – ชื่ออาคารชุด ชั้นที่ตั้งของห้องชุด ทะเบียนอาคารชุด จังหวัดที่ตั้งอาคารชุด กรณีห้องชุดใน กทม. ขอทราบอำเภอ (เขต) ตำบล (แขวง) ด้วย

 

3. การสอบถามที่สำนักประเมินราคาทรัพย์สิน ในกรณีราคาประเมินที่ดินรายบล็อก ซึ่งจะมีแผนที่ประกอบบัญชีราคาประเมิน ผู้สนใจต้องการทราบราคาประเมินจะต้องทราบตำแหน่งที่ตั้งที่ดินในแผนที่ ประกอบบัญชีกำหนดราคาประเมินทุนทรัพย์บัญชีฯ ดังกล่าว

 

สามารถติดต่อขอดูได้ที่ สำนักประเมินราคาทรัพย์สิน ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 อาคาร B ชั้น 6 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210 E-mail : pvb@treasury.go.th http://www.treasury.go.th/กรมธนารักษ์

 

==

ด่วน! นาโต้แตกแล้ว!

ล่าสุด ณ นาทีนี้ รัฐบาลเยอรมันปฏิเสธคำขอสหรัฐ ไม่ยอมส่งทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์เข้าร่วมกับนาโต้เพิ่มเติมจากที่ได้ส่งไปแล้ว และประกาศว่าจะไม่ร่วมปฏิบัติการทางทหารกับนาโต้ในซีเรียอีก

ที่ผ่านมาเยอรมันจำใจปฏิบัติตามคำขอของสหรัฐ ให้ส่งทหารเข้าไปช่วยนาโต้ ซึ่งเยอรมันก็ได้จัดส่งทหารราบ 1,200 นาย เครื่องบิน 6 ลำ เรือรบ 1 ลำ เพื่อไปช่วยคุ้มเรือบรรทุกเครื่องบินของฝรั่งเศส แต่กำลังทั้งหมดของเยอรมันก็มิได้ร่วมปฏิบัติการทางทหารในการเผชิญหน้ากับพันธมิตรรัสเซียแต่ประการใด จนกระทั่งล่าสุดสหรัฐเรียกร้องให้เยอรมันส่งทหารเพิ่มเติมเข้าสมทบกับนาโต้เพื่อปฏิบัติการทางทหารในซีเรียและอิรัก แต่ได้รับการปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย

นอกจากเยอรมันแล้ว ยังมีประเทศนาโต้อีกหลายประเทศที่ไม่ยอมเข้าร่วมรบกับสหรัฐในนามของนาโต้ เพราะประเทศยุโรปเกือบทั้งหมดได้ตกลงกันเป็นการภายในกับรัสเซียแล้วว่าจะไม่ปะทะกันด้วยกำลังทหารเพื่อป้องกันไม่ให้ยุโรปเป็นสมรภูมิสงครามโลกครั้งที่สามอีก ประเทศที่แสดงท่าทีชัดเจนไม่เข้าร่วมแล้วเช่นกรีก อิตาลี ส่วนฝรั่งเศสและอังกฤษซึ่งสหรัฐตั้งความหวังไว้มากนั้นก็มีทีท่าชักเข้าชักออกทั้งสองประเทศ คืออังกฤษส่งแต่กำลังทางอากาศเป็นเครื่องบินโจมตี 20 ลำ ส่วนฝรั่งเศสส่งเรือบรรทุกเครื่องบินแต่ได้ถอยออกไปจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแล้ว ไปลอยลำอยู่ห่างไกลนอกรัศมีขีปนาวุธพิสัยใกล้ของรัสเซีย ซึ่งแสดงท่าทีว่าไม่เข้าร่วมรบด้วย และที่สำคัญ ทั้งอังกฤษและฝรั่งเศสไม่ยอมส่งกำลังภาคพื้นดินเด็ดขาด

สภาพเช่นนี้คือสัญญาณบอกเหตุว่านาโต้แตกแล้ว! เพราะประเทศส่วนใหญ่ไม่ต้องการทำสงครามกับรัสเซีย และอีกจำนวนมากก็ต้องการค้าขายกับจีน ดังนั้นประเทศที่โดดเดี่ยวที่สุดก็คืออเมริกา และที่เป็นและที่เป็นหนังหน้าไฟก็คือตุรกี.

Paisal Puechmongkol

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

12365938_856860024435751_8544157527828478253_o.jpg

Ooh Anusorn

 

ขอถวายอภิสัมมานสักการะ

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ 19 แห่งรัตนโกสินทร์

ด้วยเศียรเกล้า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

10472794_859927730698987_1666058111565534676_n.jpg?oh=18a7a34ba82b70a64e03d62927a9976c&oe=571C0C35

Suwit Jaipom

ชื่อภาพ สมเด็จพระสังฆราช

ศิลปิน สุวิทย์ ใจป้อม

เทคนิค Charcoal on paper

ขนาด 30x41 cm. — at O.P. Place.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ ไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลออกเมรุพระราชทานพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ที่วัดบวรนิเวศวิหาร

 

dd8.jpg

 

วานนี้(15 ธ.ค.58) เวลา 16.37 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ พร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณวรีนารีรัตน์ ไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระราชทานในการออกพระเมรุ พระศพ สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ ตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร โอกาสนี้เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง อ่านประกาศประกาศสถาปนาพระเกียรติยศ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงพระกรุณาโปรดถวายพระโกศทองน้อยทรงพระศพ และให้เจ้าพนักงานจัดฉัตรตาดเหลือง 5 ชั้น กางกั้นพระโกศ ถวายเป็นเครื่องเพิ่มเติมพระเกียรติยศ

อ่านต่อ ชมคลิป http://welovethaiking.com/blog/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B2-103/

 

 

dd1.jpgdd2.jpgdd5.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

12359863_487213014814564_3618734871529464044_n.jpg?oh=8aab06e9cdd4e8b60a737eb33e44af8f&oe=571EC454&__gda__=1456955357_c5f65e5d6b14067c4ee526f397dfda67

 

12391857_968191713256033_454165404584079047_n.jpg?oh=fb96ccaa29138a0c24ac8c92ce6668ac&oe=5717B888

 

12366303_968194963255708_5590987011895978885_n.jpg?oh=599d9120a23c7ea9ecdeedc4ee31956d&oe=57103F40&__gda__=1457488502_b4fe0aafd8767e57211232390abccd1f

 

12390982_968191283256076_8040025080026848618_n.jpg?oh=662f51d0f81c234634cb165b1bae9711&oe=5714D80C

 

12359858_10153865655887450_6764539456015815061_n.jpg?oh=b9c5cc417c13861ec3612b968f1f1ae5&oe=56D89D89

ประมุขสงฆ์จากประเทศต่างๆ ทั้ง 13 ประเทศ เดินทางเข้าสักการะ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่ตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร ซึ่งเป็นวันสุดท้ายก่อนจะมีพิธีริ้วขบวนพระอิสริยยศแห่พระโกศพระศพ และพิธีพระราชทานเพลิงพระศพในวันพรุ่งนี้ ที่ ตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร

 

ภาพ ธนาชัย ประมาณพาณิชย์ #Nationphoto #Nationtv

 

12316490_10153806628397855_3701008043354615926_n.jpg?oh=1269b88a1c43c1bd77e7e129f0441372&oe=5713BF16

 

12342740_10153806628377855_7155885925683034436_n.jpg?oh=7d7994cb2392a466f31e17622c897802&oe=5719F5F7&__gda__=1457317000_36d23d28bc0a926db4765fb960401151

 

10325263_10153185203650841_8459881692407330076_n.jpg?oh=8d075d5ccfa7d3c55449f778ee538ade&oe=56DFA114

 

12360331_10153185204010841_6872369094826611840_n.jpg?oh=22e4267a2c91c0f0987ad8fb2c02e414&oe=57227D7D&__gda__=1457180852_7c5b1c55121944fbfde7bfb52becc580

 

12342866_10153185204100841_5934392727372095639_n.jpg?oh=c7cea0ae76e81baf1c86ddc8db9f5311&oe=56E37940

 

by NOW26

 

 

 

ขอน้อมส่งเสด็จ

.

"...สิ่งใดชำรุดสิ่งนั้นได้ชื่อว่าโล­ก

สิ่งใดดำรงอยู่สิ่งนั้นได้ชื่อว่าธรรม...&­quot;

แรงบันดาลใจแห่งพระคติธรรมในเจ้าพระคุณสมเ­ด็จพระญาณสังวร

สู่คีตธรรม "แสงเพลิงสุดท้าย"

อันเป็นคีตธรรมเพื่อน้อมถวายอภิสัมมานสักก­าระครั้งสำคัญ

ถึงพระผู้บรรลุถึงที่สุดแห่งจิต ถึงที่สุดแห่งปัญญา

สิ้นสังขารกลางเพลิงไฟ

แต่ธรรมของพระองค์จะดำรงอยู่คู่โลก

ดุจนามแห่งพระองค์ว่า "ญาณสังวร" ฉันนั้น

 

คีตธรรมที่ระลึก เพื่อน้อมถวายอภิสัมมานสักการะ

เนื่องในวาระพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศ­พ

เจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

คำร้อง : ฐิตวํโสภิกขุ วัดปทุมวนาราม

ทำนอง : เดชาณัฎฐ์ ธีรดุริยสฤษฏ์ และ รัชต์พงษ์ สมศรี

เรียบเรียง : เจษฎา สุขทรามร

ขับร้อง : ปาน ธนพร แวกประยูร

ศิลปะอาสาในการดูแลการออกแบบปกและสื่อสิ่ง­พิมพ์ต่างๆโดย สุพิชาน โรจน์วณิชย์

ศิลปะอาสาในการกำกับมิวสิกวิดีโอโดย ภัทธิ บัณฑุวนิช

.

เพลงจากช่อง บัวลอย

ฟังทาง Youtube คลิก

 

เกล้าขออภิทวาท..น้อมส่ง สมเด็จฯ

.ด้วยอาลัยและด้วยความเคารพเหนือเศียรเกล้า...

 

ใบไม้ผลิบนดวงจันทร์

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

12347714_496641447164125_3415856872665270427_n.jpg?oh=4f2b46ba37342c84a9a0fe666bd760ad&oe=56E41DB7

ริ้วขบวนพระอิสริยยศ เชิญพระโกศพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช

by Aj Adisorn Pornsirikarn

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ประชาชนเดินตาม ริ้วขบวนพระอิสริยยศ เชิญพระโกศพระศพไปวัดเทพศิรินฯ #พระสังฆราช ชมสด www.nationtv.tv/main/live/

 

NATIONTV 22 · 25,799 VIEWS

กทม.จัด 46 วัดทั่วกรุงเทพฯ ให้ ปชช.ร่วมวางดอกไม้จันทน์ « Spring News

กรุงเทพมหานครจัดวัด 46 แห่งใน 46 เขต ให้ประชาชนร่วมวางดอกไม้จันทน์…

 

 

 

SPRINGNEWS.CO.TH|BY SPRINGNEWS

 

 

(คลิป) พระราชประวัติสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก #ThaiPBS

 

THAIPBS · 27,063 VIEWS

 

ปิดถนน 29 เส้นทางเคลื่อนพระศพ สมเด็จพระสังฆราช

 

เว็บไซต์ กองบังคับการตำรวจจราจร แจ้งว่า จะทำการปิดถนนเนื่องในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ พระเมรุวัดเทพศิรินทราวาส ในวันนี้ (16 ธันวาคม) จำนวน 29 เส้นทาง ตั้งแต่เวลา 08.00-12.00 น.…

 

MONO29.MTHAI.COM

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

1395905386.jpg

 

1395905455.jpg

 

 

 

 

 

 

100 คำสอน สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

100 คำสอน สมเด็จพระสังฆราช นำไปประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจําวัน ในอันที่จะยังให้เกิดประคำสอนสมเด็จพระญาณสังวร

 

TALK.MTHAI.COM

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...