ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤษภาคม 9, 2016 ยำมะระกุ้งสด เป็นอาหารประเภทยำที่มีวิธีทำที่ง่าย รสชาติอร่อยและมีเครื่องปรุงไม่มากนัก แม้ว่ามะระจะมีรสขมแต่ก็มีประโยชน์ มีสรรพคุณทางยา เช่น ลดไข้ เป็นยาระบายอ่อนๆ วิธีที่จะทำให้มะระหายขมลงไปบ้าง คือ หั่นมะระเป็นชิ้นบางๆ แล้วนำไปคลุกกับเกลือบีบให้น้ำในมะระออกไปบ้างแล้วล้างน้ำ ชิมรสดูถ้ายังไม่หายขมก็ทำซ้ำอีกครั้งจะช่วยลดรสขมลงไปได้ (เครดิตภาพ : แม่สลิ่ม, บ่งบ๊ง, สาว17) วิธีทำ :>> http://bit.ly/1zGCfgY 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤษภาคม 9, 2016 แนวหน้า 9 พ.ค. 59 สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการกอล์ฟไทย หลัง "โปรเม-เอรียา จุฑานุกาล" โปรกอล์ฟสาวชายไทยวัย 20 ปี คว้าแชมป์ โยโกฮาม่า ไทร์ แอลพีจีเอ คลาสิก และรางวัลรวม 1.3 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 47 ล้านบาท) ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา มาครองได้สำเร็จ เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา โดย "โปรเม" สามารถทำสกอร์รวม 4 วันได้ที่ 14 อันเดอร์พาร์ 247 โปรเม เผยสั้นๆ อย่างตื่นเต้นหลังคว้าแชมป์สำเร็จว่า รู้สึกเหมือนตัวเองควบคุมอะไรไม่ได้เลยใน 3 หลุมสุดท้าย มือของเธอสั่น ขาก็สั่น แต่ตอนนี้เธอภูมิใจสุดๆ สำหรับผลงานของโปรกอล์ฟชาวไทยคนอื่นๆ ประกอบด้วย พรอนงค์ เพชรล้ำ อยู่อันดับที่ 13 ร่วม ขณะที่ นนทยา ศรีสว่าง อยู่อันดับที่ 33 ร่วม และ โมรียา จุฑานุกาล อยู่อันดับที่ 63 ร่วม 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤษภาคม 10, 2016 หุงข้าวเตาถ่าน ไม้ขัดหม้อ น้ำข้าวร้อนกรุ่นๆ ขิง ขอบคุณภาพจาก เพจวันนี้ดีจัง อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤษภาคม 11, 2016 หอมแผ่นดิน ตอน...ทางสายนี้ ที่พ่อเดิน อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤษภาคม 11, 2016 เยาวชนที่จดจำเก่งหาได้ไม่ยาก แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือเป็นสุภาพบุรุษ ซื่อสัตย์ สุจริต มีอุปนิสัยใจคอดี ดังพระปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่6 ---------------------------------------------- “ข้าไม่ต้องการตำราเรียนที่เดินได้ ที่ข้าอยากได้นั้น คือเยาวชน ที่เป็นสุภาพบุรุษ ซื่อสัตย์ สุจริต มีอุปนิสัยใจคอดี” ราม วชิราวุธ “I do not want a walking school books. What I want are just manly young men, honest truthful, clean in habits and thoughts” Vajiravudh เมื่อ ๑๐๐ ปีที่แล้วพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ทรงได้พระราชทานกำเนิดลูกเสือไทยขึ้นใน วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๔๕๔ หลังจากการลูกเสือโลกเกิดขึ้นได้เพียง ๓ ปีเศษ ทรงให้ความหมายของ “ลูกเสือ” ว่า “ลูกเสือ บ่ ใช่เสือสัตว์ไพร เรายืมชื่อมาใช้ ด้วยใจกล้าหาญ ปานกัน ใจกล้า มิใช่กล้าอาธรรม์ เช่นเสืออรัญ สัญชาติชนคนพาล ใจกล้า ต้องกล้า อย่างทหาร กล้ากอปรกิจการ แห่งชาติประเทศเขตตน” นอกจากนี้พระองค์ท่านทรงมีพระปณิธานและพระราชกรณียกิจอันเป็นประโยชน์ยิ่งในการพัฒนาประเทศชาติ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านการศึกษา เป็นต้น และตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ทรงปฏิบัติพระราชกรณีกิจเพื่อให้สำเร็จพระราชปณิธานของพระองค์เพื่อประเทศชาติจนไม่มีเวลาดูแลเรื่องส่วนพระองค์ หนึ่งในพระราชปณิธานของพระองค์ที่สำคัญยิ่งของรากฐานการพัฒนาประเทศคือ การพัฒนาและสร้างเยาวชนของชาติ ดังจะเห็นได้จากพระราชดำริที่ว่า ที่ว่า “กองเสือป่า” ได้ตั้งขึ้นเป็น หลักฐานแล้ว พอจะเป็นที่หวังได้ว่าจะเป็นผลดีตามพระราชประสงค์ แต่ผู้ที่จะเป็นเสือป่าต้องเป็นผู้ที่ นับว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว ฝ่ายเด็กชายที่ยังอยู่ในปฐมวัย ก็เป็นผู้ที่สมควรจะได้รับการฝึกฝนทั้งในส่วนร่างกาย และในส่วนใจ ให้มีความรู้ในทางเสือป่า เพื่อว่าเมื่อเติบใหญ่ขึ้นแล้วจะได้รู้จักหน้าที่ ซึ่งผู้ชายไทยทุกคนควรประพฤติให้เป็นประโยชน์แก่ชาติบ้านเมือง อันเป็นที่เกิดเมืองนอนของตน และการฝึกฝนปลุกใจให้คิดถูกเช่นนี้ ต้องเริ่มฝึกฝนเสียแต่เมื่อยังเยาว์อยู่ เปรียบเหมือนไม้ที่ยังอ่อน จะดัดเป็นรูปอย่างไรก็เป็นไปได้ง่าย และงดงาม แต่ถ้ารอไว้จนแก่เสียแล้ว เมื่อต้องการดัดก็ต้องเข้าไฟ และมักจะหักปริได้ในขณะที่ดัดดังนี้ ฉันใดสันดานคนก็ฉันนั้น” Cr องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤษภาคม 11, 2016 (มีการแก้ไข) กลไกการเกิดการหายของโรค กลไกการเกิดและการหายของโรค/อาการเจ็บป่วย ตามหลักการแพทย์วิถีธรรม ก็คือ เมื่อมีต้นเหตุอย่างน้อย ข้อใดข้อหนึ่งเกิดขึ้นที่เป็นพิษ/อันตราย/ระคาย/ไม่สบายในร่างกายเช่น เมื่อร่างกายกระทบอันตรายจากภาวะร้อนหรือเย็นเกิน ตามหลักวิทยาศาสตร์ก็จะเกิดการทำลายโครงสร้างและโครงรูปของเซลล์ เซลล์ก็จะทำหน้าที่ผิดปกติจากเดิม อาจทำหน้าที่มากไปหรือน้อยไปหรือไม่ทำหน้าที่หรือทำหน้าที่ผิดเพี้ยนไปจากปกติ ประกอบกับประสาทไขสันหลังอัตโนมัติกระตุ้นให้เกิดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ(รีเฟล็กซ์) เพื่อหนีพิษหรือขับพิษ การเกร็งตัวของกล้ามเนื้อจะยิ่งรุนแรงมากขึ้น ตามความรุนแรงของพิษ/ อันตราย/ สิ่งระคาย/ สิ่งไม่สบายนั้นๆ ถ้าพิษมากเกินจนไม่สามารถขับออกได้หมด จะเกิดการเกร็งตัวค้างเลือดลมไหลเวียนไม่สะดวก สารอาหารและพลังงานที่เป็นประโยชน์ไหลเวียนเข้าเซลล์ไม่ได้ ของเสียไหลเวียนออกจากเซลล์ไม่ได้(เซลล์ทำงานตลอดเวลาจะเกิดของเสียตลอดเวลา) ทำให้เซลล์เสื่อมประกอบกับเซลล์เม็ดเลือดขาวซึ่งทำหน้าที่ในกลไกฟาโกไซโตซีส คือ กลไกการโอบมะเร็ง เนื้องอก เซลล์ที่ผิดปกติเชื้อโรคและพิษต่างๆ แล้วหลั่งเอนไซม์/น้ำย่อยต่างๆมาสลาย แล้วขับออกจากร่างกาย โดยกลไกรีเฟล็กซ์ของเซลล์ ซึ่งทำให้เราไม่เจ็บป่วย เมื่อเม็ดเลือดขาวและเซลล์ต่างๆ ถูกทำลายจากพิษร้อนเย็นไม่สมดุลหรือถูกทำลายด้วยพิษอื่นๆ ทำให้โครงสร้างและโครงรูปของเซลล์เสีย เซลล์ก็จะเสียหน้าที่ ไม่สามารถกำจัดพิษต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พิษต่างๆ ก็จะสะสมค้างอยู่ในร่างกาย ทำให้เซลล์เสื่อมและตายก่อนเวลาอันควร การทำงานของอวัยวะต่างๆก็เสื่อม จึงทำให้เกิดโรคได้ ทุกโรคหรือเกิดอาการเจ็บป่วยได้ทุกอาการหรือเกิดความเสื่อมได้ทุกเซลล์ทุกอวัยวะของร่างกาย จุดใดที่อ่อนแอ และมีพิษมากก็จะเกิดอาการก่อน แล้วค่อยลุกลามไปจุดอื่นๆ ถ้าไม่ได้รับการแก้ไข โดยที่อกุศลและความกังวล จะทำให้โรคและความเสื่อมรุนแรงยิ่งขึ้น ดังนั้นถ้าเรามีวิธีการระบายสิ่งที่พิษร้อนหรือเย็นเกินนั้นออกพร้อมกับการไม่เพิ่มพิษร้อนหรือเย็นเกินนั้นเข้าไปเซลล์เม็ดเลือดขาวและเซลล์ต่างๆก็จะมีโครงสร้างและโครงรูปตามปกติทำหน้าที่ได้ตามปกติ อย่างมีกำลังและประสิทธิภาพมากขึ้นในการสลายพิษตามกลไกฟาโกไซโตซีสและเกร็งตัวขับพิษต่างๆ ออกไปจากร่างกาย เมื่อพิษถูกกำจัดออกจากร่างกายจนทุเลาเบาบางลงหรือหมดไป พร้อมกับการไม่เพิ่มพิษเข้าไป กล้ามเนื้อก็จะคลายตัว เพราะไม่ต้องบีบ ไม่ต้องเกร็งตัวขับพิษออก เลือดลมก็จะไหลเวียนสะดวก สารอาหารและพลังงานที่เป็นประโยชน์สามารถเข้าไปหล่อเลี้ยงเซลล์ได้และของเสียระบายออกจากเซลล์ได้ ยิ่งถ้าทำพร้อมกับการ ละบาป บำเพ็ญกุศลและฝึกสะสมใจไร้กังวล ก็จะช่วยทำให้โรคและอาการเจ็บป่วยต่างๆ ทุเลาหรือหายไป ส่งเสริมให้ร่างกายและจิตใจมีสุขภาวะที่ดียิ่งขึ้น ดร.ใจเพชร กล้าจน (หมอเขียว) ผู้เชี่ยวชาญการแพทย์ทางเลือกวิถีธรรม ที่มา:หนังสือสู้ทุกทุกข์ภัยด้วยใจที่เป็นสุข หน้า๔๒-๔๔ ถูกแก้ไข พฤษภาคม 11, 2016 โดย ginger 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤษภาคม 11, 2016 ท่าลุงเค้าน่ารักจริงๆ Deep Blue Sea บิ๊กตู่ ร่วมงาน"ทิพยธารา จากฟ้าสู่ดิน"เฉลิมพระเกียรติในหลวง ครองราชย์70ปีและพระราชินีฯ ทรงครบ7รอบ ณ โรงละครแห่งชาติ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤษภาคม 11, 2016 (มีการแก้ไข) ต้องเข้าใจเครื่องมือของนักล่าอาณานิคม สิริอรัณญา แนวหน้า การป่วนบ้านป่วนเมืองยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง การโหวกเหวกโวยวายขององค์กรเอกชนบางแห่งที่รู้กันดีว่าเป็นขี้ข้ารับใช้ต่างชาติ ยังคงเคลื่อนไหวต่อเนื่อง ในขณะที่องค์กรต่างประเทศที่มีสำนักงานผู้แทนในประเทศไทยโดยมีคนไทยทรยศชาติจำนวนหนึ่งเป็นลูกไม้ลูกมือก็ยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง วาทกรรมที่ใช้ในการเคลื่อนไหวมีอยู่สองประเด็น คือ เรื่องประชาธิปไตยและเรื่องสิทธิมนุษยชน ใช้สองประเด็นนี้ในการกวนใจรัฐบาล ในการกวนใจคนไทย และในการปลุกระดมเพื่อสร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง และทำให้คนโลกสวยบางจำพวกและพวกที่มีทัศนะยกฝรั่งเป็นนายทาส ดีใจได้ปลื้มและเข้าร่วมด้วยช่วยกัน สิ่งที่เรียกว่าประชาธิปไตยที่พูดถึงนั้น มันไม่ใช่ประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่ประเทศไทยของเรายอมรับนับถือ แต่เป็นประชาธิปไตยแบบประธานาธิบดี ดังนั้นภายใต้วาทกรรมประชาธิปไตยภายในก็คือการล้มสถาบันสำคัญของประเทศชาติ ซึ่งเป็นเรื่องที่ชาวไทยทั้งประเทศได้รู้และได้เข้าใจเพิ่มมากขึ้นโดยลำดับแล้ว จะไม่สามารถลวงโลก ลวงคนไทยได้อีกต่อไป ส่วนสิ่งที่เรียกว่าสิทธิมนุษยชนนั้น เนื้อแท้น่าจะเป็นสิทธิสัตวชนมากกว่า เพราะเมื่อหวนย้อนไปดูอดีตเพื่อจะได้ทราบปัจจุบัน ก็จะกระจ่างชัดว่าองค์กรพวกนี้มิได้มีเป้าหมายเพื่อพิทักษ์คุ้มครองสิทธิมนุษยชนแต่ประการใดเลย แต่จะขับเคลื่อนและทำการสุดแท้แต่ใบสั่งจากต่างชาติ เพื่อทำลายชาติบ้านเมืองของตน เพื่อผลประโยชน์ของต่างชาติทั้งสิ้น ลองมองย้อนหลังไปแค่สิบปีก็จะพบว่า เหตุการณ์แรก คือการฆ่าตัดตอนในโครงการทำสงครามปราบปรามยาเสพติด ซึ่งฆ่าคนผิด คนถูกนับหมื่นคนโดยไม่เคยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม องค์กรสิทธิสัตวชนเหล่านี้ไม่เคยปริปากทักท้วงหรือช่วยเหลือเกื้อกูลแก่ผู้เสียหายและครอบครัวใดๆเลยแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำยังค้ำจุนเกื้อหนุนขบวนการฆ่าตัดตอนปกปิดบิดเบือนและช่วยเหลือคนผิดตลอดมาจนถึงบัดนี้ เหตุการณ์ที่สอง คือเหตุการณ์สังหารโหดประชาชนที่ตากใบ เป็นการฆาตกรรมหมู่พี่น้องมุสลิมอย่างโหดเหี้ยมทารุณที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากเพียงแค่วันเดียว องค์กรสิทธิสัตวชนนี้ก็ไม่เคยปริปากหรือพิทักษ์ปกป้องหรือเรียกร้องผลประโยชน์ให้แก่ผู้เสียหายเลย ยังคงสนับสนุนค้ำจุนฆาตกรอยู่จนถึงทุกวันนี้ เหตุการณ์ที่สาม คือการจับกุมการลอบสังหารและการใช้อาวุธสงครามยิงใส่ประชาชนที่ทำการเรียกร้องประชาธิปไตย ที่เรียกร้องให้หยุดการโกงชาติฉ้อราษฎร์บังหลวงที่นำโดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งเป็นเหตุการณ์โจ่งแจ้งกลางเมืองที่เกิดขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ 2547-2549 องค์กรสิทธิสัตวชนนี้ก็ไม่เคยปริปากปกป้องสิทธิมนุษยชนให้กับชาวไทยผู้รักประชาธิปไตยและสิทธิและเสรีภาพเลย เหตุการณ์ที่สี่ คือการจับกุม การลอบสังหาร และการใช้อาวุธสงครามยิงใส่ประชาชนในหลายพื้นที่ ที่เรียกร้องให้หยุดการโกงชาติฉ้อราษฎร์บังหลวง ที่นำโดย กปปส. ซึ่งเป็นเหตุการณ์โจ่งแจ้งกลางเมืองที่เกิดขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ 2556-2557จนกำลังจะเกิดเป็นสงครามกลางเมืองอยู่แล้ว และมีผู้คนบาดเจ็บล้มตายหลายพันคน มีความบังอาจถึงขนาดใช้อาวุธสงครามยิงถล่มศาลยุติธรรม ศาลรัฐธรรมนูญ ป.ป.ช. สำนักงานอัยการสูงสุด สถานที่ราชการทั่วไป รวมทั้งบ้านพักอาศัยของบุคลากรของรัฐและองค์กรอิสระอย่างไม่เลือกหน้า องค์กรสิทธิสัตวชนนี้ก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เอากันแค่สี่เหตุการณ์นี้ก็เห็นได้ชัดว่า องค์กรสิทธิสัตวชนมิใช่องค์กรที่ทำหน้าที่เพื่อพิทักษ์ รักษาและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนแต่ประการใด แท้จริงก็คือข้าทาสต่างชาติในการบ่อนทำลายและทำร้ายประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของต่างชาติเท่านั้น เรื่องนี้ประชาชนชาวไทยก็เข้าใจกระจ่างมากขึ้นโดยลำดับ ดังนั้นจึงมีเสียงก่นด่าสาปแช่งเหล่าพวกทรยศชาติ เหล่าผู้ขายชาติ และเหล่าผู้ที่ยอมเป็นทาสต่างชาติเพื่อบ่อนทำลายทำร้ายบ้านเกิดเมืองนอนของตน จนแทบจะเอาหัวไปซุกดิน ดังนั้นการเคลื่อนไหวของขบวนการทรยศชาตินี้นับวันจึงมีผู้เข้าร่วมลดน้อยถอยลงทุกที เช่นล่าสุดแม้จะโหมจ้างสื่อมวลชนทรยศชาติจำนวนหนึ่งที่เป็นขาประจำ ไปโหมทำข่าวคราวการป่วนเมืองสักเท่าใดก็ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะทุกกิจกรรมที่จัดทำขึ้นถูกติเตียนด่าว่าจากประชาชนทั่วไป จนไม่มีใครกล้าเข้าร่วม จนเหลือแต่พวกเจ้าเก่าเต่านาที่เป็นขี้ข้ารับจ้างออกหน้าอยู่ทุกงาน จะตั้งชื่อกลุ่มสักกี่กลุ่ม จะตั้งชื่อองค์กรสักกี่องค์กร ในที่สุดมันก็เป็นพวกหน้าเก่าเจ้าเดิมที่คนไทยได้รู้เช่นเห็นชาติและจำหน้าค่าตาได้จนหมดสิ้น มิหนำซ้ำ คนจำพวกนี้ก็ลดน้อยถอยลงทุกที เพราะค่าจ้างที่ได้รับไม่คุ้มกันกับการเสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางและหมดอนาคต มิหน้ำซ้ำ ไม่อาจทนคำท้วงติงของญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง มิตรสหายและสังคมรอบด้านได้ นั่นเป็นพฤติกรรมของพวกสิทธิสัตวชน ซึ่งเนื้อแท้ก็คือเป็นองค์กรทำลายชาติ ทรยศชาติ และเป็นขี้ข้าของต่างชาติเท่านั้น ไม่เป็นผลดีต่อชาติบ้านเมืองของเราเลย ส่วนองค์กรในต่างประเทศที่เป็นผู้ออกใบสั่งจ้างวานให้มีการเคลื่อนไหวป่วนบ้านป่วนเมืองนั้น ก็ไม่ใช่องค์กรดีเด่อะไรนักหนา บ้างก็เป็นนักล่าอาณานิคม บ้างก็นักปล้นสะดมค่าเงิน บ้างก็เป็นผู้ค้ำจุนสนับสนุนขบวนการก่อการร้ายที่ก่อกรรมทำเข็ญให้กับมวลมนุษยชาติ องค์กรพวกนี้ทำการทั้งปวงเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ของคนไทยหรือประเทศไทย และไม่เกี่ยวใดๆ กับการเมือง การปกครองของประเทศที่เป็นเป้าหมาย ประเทศใดต่อให้เป็นเผด็จการกินคน ต่อให้บ้าๆ บอๆ สักเพียงใด แต่ถ้าหากเกื้อหนุน ยอมยกผลประโยชน์ของประเทศชาติให้กับขบวนการอุบาทว์เหล่านี้แล้วก็จะไม่ถูกติเตียนตำหนิ หรือถูกกล่าวหาว่าละเมิดสิทธิมนุษยชน ต่อให้ไม่มีการเลือกตั้งเลย ต่อให้มีการปกครองระบอบไหนๆ ก็ตาม ขบวนการอุบาทว์นี้ก็จะยกย่องสรรเสริญและจะไปมาหาสู่ให้การสนับสนุน ในขณะที่ปล้นสะดมผลประโยชน์อย่างโหดเหี้ยมอำมหิต และทำให้ประชาชาติในประเทศเหล่านั้นต้องย่อยยับอับจน ต่อให้มีการเลือกตั้งและประชาชนสนับสนุนรัฐบาลสักเพียงไหน ถ้าหากรัฐบาลนั้นไม่ยอมยกผลประโยชน์ของชาติให้กับขบวนการอุบาทว์เหล่านี้แล้ว ก็จะถูกประณาม ถูกกดดันถูกกล่าวหาว่าร้าย ถึงขนาดส่งขบวนการก่อการร้ายเข้าไปทำลายก็มีปรากฏให้เห็นดังเช่นประเทศซีเรีย ขบวนการอุบาทว์เหล่านี้กล่าวหารัฐบาลของประธานาธิบดีอัสซาส ที่มาจากการเลือกตั้งว่าเป็นเผด็จการรัฐสภา ทั้งที่แท้จริงมีวัตถุประสงค์ซ่อนเร้นเพื่อจะปล้นสะดมน้ำมันและเงินทุนสำรองของซีเรียเท่านั้น จึงสนับสนุนให้เกิดขบวนการต่อต้านรัฐบาล กระทั่งส่งขบวนการก่อการร้ายรับจ้างเข้าไปยึดดินแดนของซีเรีย ครั้นประธานาธิบดีอัสซาสประกาศยุบสภาและให้มีการเลือกตั้งทั่วไป พวกองค์กรอุบาทว์นี้ก็เงียบกริบ ครั้นผลการเลือกตั้งปรากฏว่าประธานาธิบดีอัสซาสได้รับชัยชนะท่วมท้นก็ไม่ยอมรับอย่างดื้อๆ และยังคงตั้งหน้าบ่อนทำลายขับไล่รัฐบาลของประธานาธิบดีอัสซาสต่อไป ความจริงของโลกพิสูจน์ชัดเจนแล้วว่าประเทศไหนจะปกครองอย่างไร จะประพฤติปฏิบัติอย่างไร ไม่ได้เป็นสาระสำคัญใดๆ ต่อการปฏิบัติต่อขององค์กรอุบาทว์ที่อ้างสิทธิมนุษยชนบังหน้านี้เลย องค์กรอุบาทว์นี้จะกดดันบ่อนทำลายรัฐบาลใดหรือไม่ไม่ได้อยู่ที่การปกครอง ไม่ได้อยู่ที่การเลือกตั้ง แต่อยู่ที่ว่าจะยอมขายชาติ ขายผลประโยชน์ของชาติให้กับขบวนการอุบาทว์นี้หรือไม่เท่านั้น หากยอมก็เป็นรัฐบาลดี หากไม่ยอมก็เป็นรัฐบาลร้าย ดังนั้นสำหรับประชาชนชาวไทย เมื่อได้เข้าใจสภาพทั้งหลายแจ่มชัดแล้ว จึงพึงร่วมจิตร่วมใจสามัคคีกันประจานประณามและขับไล่การเคลื่อนไหวขององค์กรอุบาทว์นี้และสนับสนุนให้รัฐบาลยืนอยู่บนขาของตนเองเพื่อผลประโยชน์ของชาติและราษฎรสืบไป === 'ดอน' ลั่น พร้อมแจงเวทียูเอ็น กร้าว ไทยก็มีเรื่องส่วนตัวที่ชาติอื่นไม่ควรยุ่ง ดอน เผย ไทย พร้อม แจง เรื่องสิทธิมนุษยชน เวที “ยูเอ็น” ชี้ เป็นความสมัครใจ บอกสิ่งที่ทำไป ย้ำ ไทยก็มีเรื่องส่วนตัวที่ประเทศอื่นไม่ควรยุ่ง งง คำถามล่วงหน้าโผล่หน้าสื่อ ยัน… MATICHON.CO.TH == == สหรัฐฯประณามไทยจับกุม'แม่จ่านิว' ในฐานความผิดหมิ่นสถาบัน เอเอฟพี - สหรัฐฯในวันอังคาร(10พ.ค.) ประณามรัฐบาลทหารของไทย ต่อกรณีจับกุมมารดาของนักเคลื่อนไหวรายหนึ่ง ตามข้อกล่าวหาหมิ่นเชื้อพระวงศ์บนเฟซบุ๊ก ระบุการกระทำดังกล่าวก่อความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับคำมั่นของไทยในพันธสัญญาระหว่างประเทศ ต่อการปกป้องสิทธิเสรีภาพการแสดงออก น.ส.พัฒน์นรี หรือ หนึ่งนุช ชาญกิจ มารดาของ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว แกนนำกลุ่มพลเมืองโต้กลับ ถูกตั้งข้อหาละเมิดกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของไทยเมื่อวันศุกร์(6พ.ค.) และอาจติดคุกสูงสุดถึง 15 ปี หากถูกพบว่ามีความผิดจริง เอเอฟพีอ้างคำพูดของน.ส.พัฒน์นรี บอกว่าเธอถูกตั้งข้อหาจากการพิมพ์คำว่า "จ้า" ตอบกลับในการสนทนาทางเฟซบุ๊ก ที่วิพากษ์วิจารณ์สถาบัน รายงานของเอเอฟพีระบุต่อว่าในส่วนของนายสิรวิชญ์ มักก่อความเดือดเนื้อร้อนใจแก่คณะรัฐประหารของไทยมาตั้งแต่เข้ายึดอำนาจในปี 2014 และตัวเขาเองก็ถูกจำคุกบ่อยครั้ง สื่อแห่งนี้เผยว่า วอชิงตัน อดีตพันธมิตรที่ใกล้ชิดของไทย เวลานี้เริ่มออกอาการฉุนเฉียวต่อพฤติกรรมของรัฐบาลมากขึ้นเรื่อยๆ และได้ประณามการจับกุมครั้งล่าสุด "พฤติกรรมนี้ก่อโนวแน้มแห่งการข่มขู่และตรวจสอบตนเอง" แคตินา อดัมส์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ด้านเอเชียตะวันออก กล่าว "เราไม่สบายใจเกี่ยวกับการจับกุมบุคคลต่างๆเมื่อเร็วๆนี้ ในความเกี่ยวข้องกับการโพสต์ข้อความทางออนไลน์และการควบคุมตัวพัฒน์นรี ชาญกิจ" เธอระบุ "การจับกุมและคุกคามเหล่านักเคลื่อนไหวและครอบครัว ก่อความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆเกี่ยวกับคำมั่นของไทยในพันธสัญญาระหว่างประเทศ ต่อการปกป้องสิทธิเสรีภาพการแสดงออก" โฆษกหญิงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯระบุ == ถูกแก้ไข พฤษภาคม 11, 2016 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤษภาคม 11, 2016 (มีการแก้ไข) หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara) โกหกต้องตกนรก ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๙ วลีเด็ดท่านนกยกประยุทธ์เนื่องในวันวิสาขบูชา ในกิจกรรมรณรงค์สัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา โดยนายกฯ กล่าวว่า “บอกให้คนทำความดีมากขึ้นแล้วคดีความลดลงหรือไม่ การลักขโมย โจร ผู้ร้ายต้องไม่มี คนพูดจาโกหกต้องตกนรก ขอทุกคนอย่าพูดจาบิดเบือน ไม่พูดจาโกหก หรือพูดใส่ร้าย และขอให้พูดความจริง ตามที่เบญจศีลระบุไว้ ทุกวันนี้รณรงค์กันก็ยังพูดจาโกหก บิดเบือน ลักขโมย ฆ่าคนตาย เรื่องแบบนี้ต้องไม่มี ถ้าทำดีไม่ไป ทำชั่วก็ไปหมด บางคนนึกถึงจะไปสวรรค์ แต่เทวดาบอกจริง ๆ ไปนรก” เอ้าพวกอลัชชีและสาวกทาสดูกันเอาไว้หน่อย สู้อุตส่าห์งัดสารพัดมุกมาอ้างก็แล้ว เช่น มุกถูกกลั่นแกล้งใส่ร้าย มุกคดีจบไปแล้ว สหกรณ์ถอนฟ้องแล้ว มุกเจ้าหน้าที่รัฐบังคับใช้กฎหมาย ๒ มาตรฐาน มุกไม่มีผู้แจ้งความ แต่เจ้าหน้าที่รัฐเลือกทำเอง มุกติดภารกิจวันเกิด จึงไม่สามารถมาให้ปากคำดีเอสไอได้ มุกขาเน่า ตีหน้าเศร้าก็เล่ามาแล้ว มุกให้สาวกตระเวนเดินสายยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมทั่วประเทศ มุกถูกวางยาพิษชนิดร้ายแรงถึงขนาดกระอักออกมาเป็นเลือด เป็นกระโถนๆ จนไม่สามารถพูดได้ถึง ๗ เดือน (ทำอย่างกับหนังจีนกำลังภายในเลย) ล่าสุดใช้มุกให้สาวกทาสเดินสายต่างประเทศร้องเรียนยูเอ็น เรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งแต่ละมุกที่งัดกันออกมาดูจะไม่สามารถทำให้สังคมเชื่อถือได้เลย มิหนำซ้ำยังพยายามเรียกร้องให้เจ้าลัทธิอลัชชีต้นธาตุต้นธรรม ออกมาพิสูจน์ตนเองต่อกระบวนการยุติธรรมทั้งของฝ่ายอาณาจักรและศาสนจักร มิใยที่สังคมจะเรียกร้องสักปานใด แต่ผลที่ได้รับก็คือ ความเงียบ นิ่งเฉย ไม่แยแส ไม่ใส่ใจ ต่อเสียงเรียกร้องนั้น แถมยังส่งสาวกทาสออกมาสร้างข่าวบิดเบือนความจริงตามมุกเดิมที่ตนเคยใช้ และประสพความสำเร็จมาแล้วในอดีต จนมาถึงวันนี้ก็มีความพยายามงัดมุกต่างๆ ออกมาเพื่อหวังถ่วงเวลาให้รอดพ้นจากรัฐบาล คสช. เพราะมันคิดว่ามุกนี้เท่านั้นจึงจะเป็นทางรอดของเจ้าลัทธิอลัชชีชั่วตัวนี้ ด้วยพวกเขาเชื่อว่ารัฐบาลที่มาจากการลากตั้งเกิดขึ้นเมื่อใด ปัญหาทุกอย่างของอลัชชีตัวนี้จะถูกเคลียร์ได้ด้วยเงินและการวิ่งเต้น เหมือนดังที่เคยทำมาในอดีต วันนี้ฉันเลยขอยืมคำพูดของท่านผู้นำ มาเตือนสติพวกสาวกทาสทั้งหลายว่า โกหกนั่นแหละ ตกนรกนะคุณ ตื่นเสียที่เถิด อย่าตกเป็นเครื่องมือของพวกอลัชชีพวกนี้เลย การที่พวกคุณช่วยมันโกหกเพื่อให้มันรอด แต่คุณ ๆ ทั้งหลายจะไม่รอดจากความผิด แม้อาจจะรอดจากความผิดทางกบิลบ้านกบิลเมือง แต่ก็หาได้รอดจากผลกรรมที่บิดเบือนโกหกไม่ได้ สุดท้ายรางวัลที่คุณจะได้รับคือนรกหมกไหม้ นั่นจะกลายเป็นสมบัติของคุณ พุทธะอิสระ คนพุทธไทยต้องอ่าน ตอนที่ ๕ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ตอนที่แล้วอลัชชีต้นธาตุต้นธรรมแหกตาสาวกด้วยการย่ำยีดูถูกพระตถาคตเจ้า ...Continue reading ขอแชร์นะ ฉันเห็นด้วยกับคุณเปลวสีเงิน ----------------------------- ประชาธิปไตยสามานย์ เปลวสีเงิน วันอังคารที่ 10 พฤษภาคม 2559 ...Continue reading ผู้ที่ถูกพาดพิงยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๙ --------------------------------------- ตื่นเถิดชาวพุทธ - Wake Up Buddhist...Continue reading ถูกแก้ไข พฤษภาคม 11, 2016 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤษภาคม 11, 2016 สุดยอด!'โจอี้ บอย'ประชุมรัฐสภา เดินหน้าโครงการปลูกป่าจ.น่าน 11 พ.ค.59 หลังจากกรณีที่ นายสุวัฒน์ พรมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน โพสต์เฟซบุ๊กถึงนักเลงคีย์บอร์ด...... NAEWNA.COM อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤษภาคม 11, 2016 (มีการแก้ไข) ลั่นสู้ตายเพื่อชาติ! ไม่กลัวเส้นเลือดสมองแตก ถ้าปท.ดีขึ้น โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 10 พฤษภาคม 2559 "ประยุทธ์" ลั่นขอสู้ตาย ไม่กลัวเส้นเลือดสมองแตกเพื่อชาติ ตายสิบครั้งก็ยอม ถ้าทำให้ประเทศดีขึ้น ซัดสื่อพาดหัวข่าวบิดเบือนโทษคนจนต้นเหตุไฟป่า เมื่อวันที่ 10 พ.ค. เวลา 14.00น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า เนื่องจากมีวันหยุดหลายวันทำให้ตนมีเรื่องคิดเยอะ และเรื่องที่สำคัญคือมีคนไปบิดเบือน ในการที่ตนพูดว่าไฟไหม้ป่าเกิดจากคนที่มีรายได้น้อย ที่น่าสงสารไปหากินในป่า และไปจุดไฟ มติชนก็พาดพิงเขียนว่า นายกฯต่อว่าคนจนจุดไฟเผาป่า มันเขียนอย่างนี้ได้อย่างไร มันเขียนหาเรื่อง ผู้จัดการก็เหมือนกันเขียนอยู่ได้ไอ้ชัชวาล ไอ้โสภณ คอลัมนิสต์ 4-5 คนนี้ มันเก่งมาจากไหนขอถามหน่อย เขาทำงานกันแทบตาย มาปรามาสตั้งแต่วันแรกหลัง 22 พ.ค. 2557 จนวันนี้ จะเอาอะไรกันอีกเสรีภาพ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่มีการจับกุมผู้มีข้อหากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตำรวจมีการชี้แจงหลักฐานมาแล้ว มีสื่อไหนลงหรือไม่ ก็ไม่มีหรือมีนิดหน่อย ไปดูหลักฐานสิ ซึ่งตนเปิดเผยไม่ได้ ให้ไปดูในศาล โดยศาลจะตัดสินเอง ฉะนั้นอย่ามาบิดเบือนกัน จะเป็นคุณแม่หรือคุณลูกทั้งนั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ยึดคอมพิวเตอร์ไปตรวจนั้น ไม่ใช่แค่ “จ้า” คำเดียว แต่มีตั้ง 8-9 ประโยค และที่เขียนมาตนรับไม่ได้ เขียนไปเรื่อยเปื่อย แล้วคนก็มาหาว่าตนรังแก แล้วการเขียนแบบนั้น ไม่ทำ มันจะตายหรืออย่างไร เขียนว่าคนโน้นคนนี้ “ผมบอกแล้วรัฐบาลนี้ ผมไม่ยอมรับการหมิ่นพระบรมราชานุภาพ โดยเด็ดขาด ก็ทำมาตลอด พอเกิดปัญหา มาร่วมรับผิดชอบกับผมไหม มีแต่ติว่ากัน ทั้งๆที่รู้กฎหมายว่าอย่างไร การเปิดที่ต่างประเทศเขาทำอย่างไร เทคนิคการย้ายเป็นอย่างไร เขาทำกันแทบตายแล้วมาหาว่าไม่ทำอะไร หาว่าเอาพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์มารังแกคน กลายเป็นว่าคนทำความผิดถูกรังแก และกลายเป็นว่ารัฐบาลหวังผลทางการเมือง มันจะหวังทางการเมืองอะไร ผมไม่ได้หวังการเมือง ผมหวังให้ประเทศเดินหน้าไปได้ ให้ประชาชนมีงานทำ สร้างความสุขให้สังคม ไม่ใช่มีงานทำจากความขัดแย้ง แต่ถ้ามันไปไม่ได้จริงๆ วันหน้าลูกหลานก็อยู่ไม่ได้ เป็นเรื่องของพวกเธอฉันไม่ยุ่งด้วย” นายกฯ กล่าว นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ได้ทำอย่างเต็มที่ ทำให้จนไม่มีเวลาทำ เพราะประเทศนี้เป็นของตนและทุกคนด้วย ไม่ใช่ของตนคนเดียว หากตน รัฐบาล คสช. ทำส่วนหนึ่งที่เหลือทำลายทั้งหมดแล้วมันจะเกิดอะไรได้หรือไม่ รวมถึงเรื่องที่มีข่าวว่าทหารไปเรียกงบประมาณเงินทอง มีการสั่งให้ตรวจสอบแล้ว อย่าพูดกันเรื่อยเปื่อย ถ้ามีจริงให้ถ่ายรูปอัดเทปมาตนจะปลดมันเดี๋ยวนี้ แต่ไม่มีหลักฐานก็เขียนกันไปเรื่อย ตกลงประเทศนี้จะอยู่กันแบบนี้หรือ แล้วตนไปจำกัดสิทธิสื่อตรงไหน ลองตอบมาสิ ว่าไม่มีเสรีภาพตรงไหนบ้าง เสรีภาพของท่านคือด่ารัฐบาลได้ตลอดเวลานั้นใช่หรือไม่ ก็ไปรอด่ารัฐบาลหน้าโน่น รัฐบาลตนด่าได้แค่นี้ ซึ่งแค่นี้ก็ทนเยอะแล้ว ส่วนกรณีที่มีข่าวว่ารัฐมนตรีบางคนถูกโทรศัพท์ข่มขู่ให้ลาออกจากตำแหน่ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับมาสอบสวนแล้วเป็นคนบ้า และมีเบอร์ทุกคน ซึ่งจิตแพทย์ได้ตรวจแล้วมันบ้าโรคจิต ครอบครัวเขายอมรับไม่ได้กินยา และไม่ได้ส่งผลให้รัฐมนตรีคนอื่นกลัว ตนบอกแล้วไม่ต้องกลัว จะคุ้มครองให้ไปกลัวทำไม ถ้ากลัวเดี๋ยวจะจัดคนไปรักษาความปลอดภัย สำหรับการปรับคณะรัฐมนตรีนั้นยืนยันว่ายังไม่มีการปรับ ผู้สื่อข่าวถามว่าการเคลื่อนไหวของฝ่ายการเมืองวันนี้ทำให้เสียสมาธิในการทำงานหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็ช่างการเมือง ตนไม่เล่นการเมือง ไม่สนใจ และไม่ทำให้เสียสมาธิต่อการทำงาน ซึ่งงานก็ทำเท่าเดิม มากกว่าเดิมด้วยซ้ำ จะโมโหก็เรื่องของตน แม้จะโมโหก็ทำงาน ยิ่งโมโหก็ยิ่งทำงาน อยากยั่วก็ยั่วมาไม่เป็นไร ตนทำได้ทั้งสองอย่าง โมโหด้วย ทำงานด้วย ไม่มีท้อแท้ ไม่ต้องกลัวสู้ตายอยู่แล้ว เอาไปพาดหัวได้เลย ไม่มีอะไรทำให้ท้อแท้ ทำเพื่อชาติจะท้อแท้ได้อย่างไร ชีวิตตนยังให้ไปแล้ว ตั้งแต่เด็กจนโต 30 -40 ปี ยังไม่รู้เหรอตนเสียสละอะไรไปบ้าง ทหารตายไปแล้วกี่พันหมื่นคน เมื่อถามว่าการออกมาเรียกร้องสิทธิมนุษยชน ทำให้เสียสมาธิหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เขาทำความผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์หรือเปล่า ทำวันนี้วันหน้าก็โดนจับ ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมืองหรือประชามติ เข้าใจหรือยัง เรื่องพวกนี้ถ้าตนแยกแยะไม่ออก ก็ไม่ใช่คน ฉันแยกแยะออก สติปัญญาพอมี เมื่อถามว่านายกฯเป็นห่วงในเรื่องใด พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ห่วง จะห่วงอะไร ที่หงุดหงิด เพราะหงุดหงิด ฉันก็หงุดหงิดของฉัน จะให้อารมณ์ดีทั้งวันเหรอ มันบ้าแล้วแบบนั้นไม่ต้องทำอะไรคอยยิ้มแย้มตลอดทั้งวัน มันไม่ใช่ ซึ่งตนเป็นอย่างนี้มาตลอดชีวิตอยู่แล้ว ไปถามได้ในกองทัพบกเขาว่าอย่างไร ตนเป็นอย่างนี้ไม่เห็นมีใครเกลียดสักคน หรือเกลียดมันก็ไม่บอก แต่ก็อยู่กันมาสี่ปี กองทัพไม่เสียหาย จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่าแล้วสื่อห่วงสุขภาพนายกฯบ้างไหม โดยผู้สื่อข่าวตอบว่า ห่วงเส้นสมองนายกฯจะแตก พล.อ.ประยุทธ์ จึงได้กล่าวว่า “ไม่แตก ไม่มีแตก ฉันแข็งแรงพอ จะแตกก็ให้มันรู้ไป แตกเพื่อชาติจะเป็นอะไรไป เธอเคยคิดไหม ต่อให้ตายสิบครั้งฉันก็ยอมตาย ถ้าประเทศมันจะดีขึ้น คิดกันแบบนี้ เสียบ้าง คิดให้มันเกินๆ http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/697558 คลิป BLUESKY Channele 1 hr ฟัง "ไพบูลย์" รมว.ยุติธรรมตอบชัดๆเรื่องกม.112 หลังสื่อต่างประเทศวิจารณ์ == สหรัฐประณามไทย จับ'แม่จ่านิว' ย้ำไม่สบายใจบรรยากาศข่มขู่ "สหรัฐ" ออกโรง! ประณามไทย จับ "แม่จ่านิว" ชี้สร้างบรรยากาศข่มขู่-เซ็นเซอร์ตัวเอง และไม่สบายใจเกี่ยวกับการจับกุมบุคคลต่าง ๆ เมื่อไม่นานนี้ BANGKOKBIZNEWS.COM|BY กรุงเทพธุรกิจ แม่จ่านิว ผิดม.112 พวกป่วนชาติ === ไพบูลย์ลั่นจนท.ไม่กดดันหลังศิษย์ธรรมกายออกโรงป้อง "ธัมมชโย" รมว.ยธ. ระบุ ลูกศิษย์วัดธรรมกายร้องศูนย์ดำรงธรรมในหลายจังหวัดเป็นสิทธิทำได้… POSTTODAY.COM|BY POSTTODAY ถูกแก้ไข พฤษภาคม 11, 2016 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤษภาคม 11, 2016 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤษภาคม 11, 2016 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤษภาคม 11, 2016 (มีการแก้ไข) วันพุธ ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2559, 15.49 น. tags : สมชาย วงศ์สวัสดิ์, เผยข้อมูล, ป.ป.ช., ศาลปกครอง, สลายพันธมิตร 11 พ.ค. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลปกครองกลาง ได้อ่านคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในคดีที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ยื่นฟ้อง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และเลขาธิการ ป.ป.ช. เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-2 โดยศาลพิพากษาว่า คำสั่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ไม่ชอบด้วยกฎหมายกรณีไม่เปิดเผยข้อมูลข่าวสารให้แก่นายสมชาย ในการปฏิบัติหน้าที่สลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551 จนนำไปสู่การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยคดีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากในชั้นไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวหานายสมชาย กับพวก กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณี มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กำลังเข้าผลักดันผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ปิดล้อมอาคารรัฐสภาและเหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่อง เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551 จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยระหว่างไต่สวน นายสมชาย ได้ขอตรวจสอบและรับทราบพยานหลักฐานในสำนวน รวม 11 รายการ เพื่อประกอบการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา แต่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีคำสั่งไม่อนุญาต นายสมชาย จึงได้ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ แต่คณะกรรมการดังกล่าวยังไม่ทันมีคำวินิจฉัย คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิด นายสมชาย กับพวก และส่งสำนวนการไต่สวนไปยังอัยการสูงสุด เพื่อฟ้องคดีต่อศาล ต่อมา นายสมชาย จึงได้มอบอำนาจให้นายวัฒนา เตียงกูล เป็นทนายความ ยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้เพิกถอนคำสั่งไม่อนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษา ว่า คำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ที่ปฏิเสธไม่เปิดเผยข้อมูลข่าวสารให้แก่ผู้ฟ้องคดี เฉพาะรายการที่ 10 รายชื่อ ผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต รายละเอียดของสถานที่ในแต่ละจุดที่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เป็นการใช้ดุลยพินิจโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นการทำละเมิดต่อผู้ฟ้องคดี และให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสอง เปิดเผยข้อมูลข่าวสารรายการที่ 10 พร้อมรับรองสำเนาถูกต้องให้กับผู้ฟ้องคดีภายใน 30 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด ตามคำพิพากษาศาลปกครองกลาง ในคดีหมายเลขดำที่ 1386/2552 คดีหมายเลขแดงที่ 627/2555 หลังจากนั้น ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาต่อศาลปกครองสูงสุด ศาลปกครองสูงสุด ได้มีคำวินิจฉัยว่า คำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ที่ปฏิเสธการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารให้กับผู้ฟ้องคดี ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และเป็นการกระทำละเมิดของผู้ฟ้องคดีหรือไม่ ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยโดยสรุปว่าข้อมูลข่าวสารทั้ง 11 รายการ เป็นข้อมูลข่าวสารที่ได้จากการไต่สวนข้อเท็จจริงของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 จึงเป็นเอกสารที่ได้มาจากการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 โดยมาตรา 120 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบการการทุจริต 2542 มิได้ห้ามหรือให้อำนาจผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ที่จะไม่เปิดเผยข้อมูลข่าวสารที่ได้จากการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 แต่อย่างใด ซึ่งผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ก็ได้เคยมีมติยอมรับในหลักการดังกล่าว ให้ผู้ถูกกล่าวหาร้องขอตรวจสอบหรือขอรับทราบพยานหลักฐานที่ได้จากการไต่สวนข้อเท็จจริง เพื่อประกอบการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาหรือต่อสู้คดีได้ ซึ่งเป็นหลักการพื้นฐานในการตรวจสอบหรือได้รับทราบพยานหลักฐานในคดีอาญา มาตรา 40 (7) ของรัฐธรรมนูญ 2540 แต่เนื่องจากเอกสารรายการที่ 1-9 และที่ 11 จากการตรวจสอบไม่ปรากฏว่ามีอยู่ในรายงานการไต่สวนข้อเท็จจริง จึงเชื่อว่าไม่มีอยู่ในครอบครองของผู้ถูกฟ้องคดี คงมีแต่เพียงเอกสารรายการที่ 10 เท่านั้น การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ปฏิเสธการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารให้แก่ผู้ฟ้องคดี จึงเป็นการใช้ดุลยพินิจโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย คำสั่งไม่เปิดเผยข้อมูลข่าวสาร รายการที่ 10 จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเสียหาย การกระทำของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 จึงเป็นการกระทำละเมิดต่อผู้ฟ้องคดี ศาลปกครองสูงสุดจึงมีคำพิพากษาแก้คำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น โดยให้เพิกถอนคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ที่ปฏิเสธไม่เปิดเผยข้อมูลข่าวสารให้แก่ผู้ฟ้องคดีเฉพาะรายการที่ 10 ตามหนังสือสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบการทุจริตแห่งชาติ ลับ ที่ ปช 0014/3233 ลงวันที่ 15 พ.ค. 2552 และให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสอง เปิดเผยข้อมูลข่าวสารรายการที่ 10 พร้อมรับรองสำเนาถูกต้องให้กับผู้ฟ้องคดีภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา ตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด แนวหน้า ถูกแก้ไข พฤษภาคม 11, 2016 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤษภาคม 11, 2016 Interesting Posts 29 April at 16:49 · Watch.. That's how their day starts for school students in #Thailand. อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น