ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 2, 2017 (มีการแก้ไข) ปวดอะไรก็หายได้ by กภ.ขวัญหญิง was live. 19 hrs · คลิป มาบริหารยืดเหยียดร่างกายไปพร้อมกัน ครั้งที่ 71 ประจำวันที่ 1 ก.พ. 60 เริ่ม 21:00 น. เหมาะสำหรับ...ท่านที่มีปวดเรื้อรังจากการตึงตัวของกล้ามเนื้อ #อ่านคำเตือนด้านล่างก่อนบริหาร !!!! สำหรับท่านที่มีภาวะหมอนรองกระดูกเคลื่อน ต้องรักษาให้หายก่อนแล้วค่อยบริหาร ส่วนท่านที่ตัวกระดูกทับเส้นประสาทแนะนำให้ปรึกษาคุณหมอที่ดูแลนะคะ ท่านจะแนะนำได้ดีที่สุดค่ะ #7DaysStretching #ปวดอะไรก็หายได้byกภขวัญหญิง #สุขภาพดีไม่มีขายถ้าอยากได้ต้องลงมือทำ #หมอขวัญ ลดปวดง่ายๆ ภายใน 2 นาที คลิปนี้จะแนะนำ 3 ท่าง่ายๆ เพื่อลดปวดจากภาวะกล้ามเนื้อสะบักเกร็งตัว ลองฝึกทำกันดูนะคะ ปวดอะไรก็หายได้ BY กภ.ขวัญหญิง · ลดปวดกล้ามเนื้อสะโพกตึงง่ายๆ ที่เก้าอี้ทำงาน ลองฝึกทำกันดูนะคะ ด้วยรักจากใจ หมอขวัญปวดอะไรก็หายได้ BY กภ.ขวัญหญิง · ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 2, 2017 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 3, 2017 ๓ กุมภาพันธ์ วันทหารผ่านศึก 3 กุมภาพันธ์ #วันทหารผ่านศึก ความสำคัญวันทหารผ่านศึก เพื่อสดุดีวีรกรรมของทหารผ่านศึก อีกทั้งให้ส่วนราชการ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไปมีส่วนร่วมในการส่งเสริมเชิดชูเกียรติและเอื้ออาทรต่อทหารผ่านศึก ประวัติวันทหารผ่านศึก เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ.2538 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบุให้จัดงานวันทหารผ่านศึก เพื่อสดุดีวีรกรรมทหารผ่านศึก ผู้ที่เสียสละเพื่อรักษาประเทศชาติ เนื่องจากทหารผ่านศึกบางคนได้รับบาดเจ็บจนต้องทุพพลภาพ เสียแขน ขา หรืออวัยวะที่สำคัญบางอย่างทำให้ไม่สามารถจะประกอบอาชีพได้เหมือนกับคนปกติ อีกทั้งไม่เป็น ที่ต้องการของตลาดแรงงาน และสังคมส่วนรวม เนื่องจากขาดความสามารถในการประกอบอาชีพ ดังนั้นทางคณะรัฐบาลจึงได้กำหนดวันทหารผ่านศึกขึ้น เพื่อให้สังคมตระหนักถึงความสำคัญ ของทหารผ่านศึก รวมถึงให้ความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ แก่ทหารผ่านศึก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯแทนพระองค์ในการพระราชทานเลี้ยงอาหารค่ำเป็นเกียรติแก่ผู้ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี 2559 พร้อมคู่สมรส ณ พระที่นั่งบรมราชสถิตยมโหฬาร ในพระบรมมหาราชวัง ภาพ ธนาชัย ประมาณพาณิชย์ (Tanachai Pramarnpanich) ประชาชนได้เดินต่อแถวเพื่อเข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ภาพ ธนาชัย ประมาณพาณิชย์ (Thanachai Pramarnpanich) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ พร้อมด้วย ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้แทนส่วนราชการต่าง ๆ หน่วยงาน ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย สมาคม ชมรม มูลนิธิ ตลอดจนทหารผ่านศึกนอกประจำการ กรณีสงครามต่าง ๆ ร่วมวางพวงมาลา เนื่องในวันทหารผ่านศึก ประจำปี 2560 เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2560 ณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะหน่วยงานที่ทำหน้าที่ดูแลให้องค์การสงเคราะห์แก่ทหารผ่านศึก ครอบครัวทหารผ่านศึก ทหารนอกประจำการและผู้ปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความมั่นคงของชาติ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีเพื่อสดุดีและรำลึกถึงวีรกรรมความกล้าหาญของทหารผ่านศึกผู้เสียสละเลือดเนื้อและชีวิต ปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้คงอยู่ และเป็นการเชิดชูเกียรติทหารผ่านศึกให้เป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชนชาวไทย ภาพ ชาลินี ถิระศุภะ (Chalinee Thirasupa) อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 3, 2017 (มีการแก้ไข) จี้บิ๊กตู่ตั้ง'กก.สอบชุดดำ'ต่อ เพื่อรู้'ใครฆ่าพล.อ.ร่มเกล้า' 'สมชาย' จี้ 'บิ๊กตู่' ตั้งคณะทำงานชุดพิเศษสาวปมชายชุดดำเหตุการณ์ 10 เม.ย. มั่นใจหากทำงานจริงจัง 6 เดือนเห็นผล นำตัวคนทำผิดมาลงโทษได้ และจะรู้ว่าใครฆ่าพล.อ.ร่มเกล้า DAILYNEWS.CO.TH สมชาย แสวงการ ADDED 7 NEW PHOTOS — WITH SUTIN WANNABOVORN AND 37 OTHERS. 14 HRS · แม้คำพิพากษาตัดสินจำคุกชายชุดดำ2คนคนละ10ปีในข้อหามีเเละใช้อาวุธสงครามในที่สาธารณะ. จะทำให้เพิ่มน้ำหนักที่กองทัพยืนยันใน การชี้เเจงมาตลอดว่ากองกำลังชายชุดดำใช้อาวุธM79M16AK47 เมื่อ10เมย2553ในการสังหารพลเอกร่มเกล้า และลูกน้องอีกรวม5ศพ ขณะที่แกนนำนปชในการชุมนุมวันนั้น. อย่างณัฐวุฒิ ใสเกื้อต้องร้อนตัวออกมาแก้ตัวปฏิเสธพัลวันในความเกี่ยวพันกับกองกำลังชายชุดดำดังกล่าว. เพราะนั่นหมายความว่า แกนนำทั้งหลายอาจถูกลากเข้าคดีก่อการร้ายและฆาตกรรมด้วย. โดยการปฏิเสธว่าการชุมนุมวันดังกล่าว สงบสันติปราศจากอาวุธและพยายามอ้างเหตุว่าการพูดเรื่องนี้ทำให้เสียบรรยากาศการปรองดอง. แต่ผมที่ติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริง ในฐานะอดีตประธานคณะอนุกรรมาธิการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์10เมษายน2553และประธานกรรมาธิการสิทธิมนุษย์ชน.ฯ วุฒิสภา. กลับเห็นว่า. การพิสูจน์แค่มีชายชุดดำที่พกพามีและใช้อาวุธสงครามในที่สาธารณะดังกล่าว. ยังไม่เพียงพอต่อการแสวงหาข้อเท็จจริง. ก่อนที่จะพูดเรื่องปรองดองและกระบวนการยุติธรรมเปลี่ยนผ่านกันในเวลานี้. แต่...คสชและกองทัพสมควรให้มีคณะทำงานชุดพิเศษประสานกับหน่วยต่างๆในกระบวนการยุติธรรม. เร่งสอบสวนเพิ่มเติมโดยเร็วทันทีถึงการสาวถึงการที่ชายชุดดำกลุ่มนี้ใช้อาวุธ M79อย่างน้อย9นัด ยิงใส่ทหารใสถนนตะนาว. ใช้ปืนเอ็ม16ถอดปลอกกันเเสงยิงใส่ทหารจนสิบโท อนุพนธ์ หอมมาลีเสียชีวิตและพันเอกชิษณุพงษ์. รอดศิริได้รับบาดเจ็บสาหัส เริ่มใหม่จากจุดนี้. กับชายชุดดำในข้อหาใช้อาวุธสงครามฆ่าเเละพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน. และค่อยสาวต่อๆไปถึงการใช้ระเบิดสังหารM67ขว้างใส่พันเอกร่มเกล้า ธุวรรมเสียชีวิตพร้อมลูกน้องอีก2ศพ รวมทั้งหมด5ศพในคืนเดียว. ก็จะสาวต่อไปยังคนใช้จ้างวานเเละตัวบงการทั้งในการชุมนุมและที่อยู่เบื้องหลัง. แค่ภาพที่สื่อมวลชนถ่ายไว้ได้ พยานอีกหลายปากรวมถึงตำรวจสายสืบที่จับคนเหล่านี้ถ่ายรูปไว้ได้และทหารที่ถูกยิงบาดเจ็บจำนวนมาก. ก็น่าจะเพียงพอในการสืบสาวต่อให้กระจ่างชัดไขข้อข้องใจแล้วครับว่า ใครฆ่าพลเอกร่มเกล้า. ดูภาพและคลิปประอบครับ. แล้วจะเข้าใจว่า. เราควรเดินหน้าสืบคดีต่อหรือจะยุติเรื่องโดยอ้างปรองดอง. แล้วหลับตาทำแกล้งมองไม่เห็นเหตุการณ์สุดเศร้าสลดใจในวันนั้นอีก อาจไขปริศนา ใครฆ่า พ.อ.ร่มเกล้า - YOUTUBE HTTPS://M.YOUTUBE.COM/WATCH?V=-OSIELLLBUQ เรื่องเล่าจากหมอทหาร 10 เมษาที่แยกคอกวัว - YOUTUBE HTTPS://M.YOUTUBE.COM/WATCH?V=BGPQEMTX_DA ดูชัดเห็นชัดเจน กองกำลังไม่ทราบฝ่าย ไอ้ดำ วิ่งพล่านกันไปหมด ทหารเจ็บระนาว ๑ 10เมษายน 53 SD - YOUTUBE ปริศนาชายชุดดำ - YOUTUBE HTTPS://M.YOUTUBE.COM/WATCH?V=0OTOIZZZO70 ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 3, 2017 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 3, 2017 Mahidol Channel มหิดล แชนแนล คลิป MU [by Mahidol] แกงไทยต้านมะเร็ง Mahidol Channel มหิดล แชนแนล Mahidol Channel มหิดล แชนแนล อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 5, 2017 (มีการแก้ไข) สายธารพระเมตตา สู่...เหล่าข้าฯ ตชด. กก.ตชด.44 at ป่าพระนามาภิไธย ผืนป่าบาลา-ฮาลา. 1 hr · คลิป พวกเราอยู่ได้ "ด้วยพระบารมีปกเกล้าฯ" สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงมีความห่วงใยป่าต้นน้ำเกรงว่า จะถูกทำลาย...ให้ช่วยกันดูแลป่าผืนนี้ไว้ ประวัติความเป็นมา การอนุรักษ์ทรัพยากรป่าต้นน้ำ สวนป่าพระนามาภิไธย พื้นที่ภาคใต้ส่วนที่ ๒ บาลา-ฮาลา :: กองร้อย ตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๔๔๕ อ.เบตง จว.ยะลา === ณ ตำนานแห่งนี้มีเรื่องเล่า มีเรื่องราวน่าสน ให้ค้นหา ณ ตำนานแห่งนี้มีมนต์ตรา เรียงร้อยภาพจากผืนป่า มากำนัล .................................. ภาพ :: ป่าพระนามาภิไธยภาคใต้ ส่วนที่ ๒ บาลา จ.ยะลา @ ซาไกรักในหลวง สวัสดีปีใหม่ เดินทางกลับบ้านด้วยความปลอดภัยครับ สำหรับเพื่อนที่กำลังเดินทาง ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 5, 2017 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 5, 2017 ฟังคนต้นน้ำ พูดถึงป่าหาย ที่ “น่าน” “ผมฝันเอาไว้ว่า อย่างน้อย 10 ปีข้างหน้า พื้นที่บ้านน้ำช้างพัฒนา จะเป็นแบบดอยตุงโมเดล ผมเชื่อ เด็กรุ่นใหม่เขาไม่เอาแล้วปลูกข้าวโพด ปลูกพืชเชิงเดี่ยว ที่ทุกวันนี้ยังทำอยู่ก็มีเฉพาะคนรุ่นก่อนยังยึดติด และไม่มีทางเลือก” “ที่นี่เป็นฝายของผม ฝายของบ้านน้ำช้างฯ ฝายผู้ใหญ่กานต์" นายกานต์ เจริญจิตรัตนก... WWW.ISRANEWS.ORG|BY THAIREFORM Infographic Thailand added 26 new photos to the album นโยบาย Thailand 4.0 ฉบับเข้าใจง่าย. 26 January at 14:28 · อธิบายนโยบาย "Thailland 4.0 โมเดลพัฒนาเศรษฐกิจใหม่" อย่างง่ายฉบับท่านนายก น่าจะได้ยินบ่อยๆ สำหรับคำว่า Thailand 4.0 มันคืออะไร ? ช่วยพัฒนาประเทศเราได้อย่างไร ? มาดูกันครับ มีประโยชน์มาก! เมื่อ "ยางแตก" ควรทำอย่างไร น้อยคนนักที่จะรู้เรื่องนี้! LIEKR.COM เฮลั่น! ผู้พิพากษาสหรัฐฯ สั่งระงับแบนผู้ลี้ภัย-พลเมือง 7 ชาติมุสลิมเข้าอเมริกา-มีผลบังคั ผู้พิพากษาสหรัฐฯ ในนครซีแอตเติลมีคำพิพากษาเมื่อวานนี้ (3 ก.พ.)… MANAGER.CO.TH|BY MGRONLINE LIVE หากแยกประเทศได้ แคลิฟอร์เนียจะเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจอันดับ 11 ของโลก http://www.thai.ac/news/show/26193 === ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ โดนัลด์ ทรัมป์เริ่มตอบโต้กลุ่มอำนาจเก่าแล้ว: โดนัลด์ ทรัมป์เริ่มสั่งให้มีการสอบสวนอาชญากรรมของบารัค โอบามาระหว่างทำงานเป็นประธานาธิบดีที่ทำเนียบขาวแล้ว หนาวกันไปเป็นแถบแน่เพราะนโยบายเขา ทำกันเป็น ขบวนการ ทรัมป์คงมองออกแล้วว่าถ้าบริหารบ้านเมืองไปเฉยๆ ไม่ตอบโต้ สักวันจะต้องถูกพวกเครือข่ายอำนาจเก่า ไม่ว่าจอร์จ โซรอสหรือเครือข่ายอื่นๆ ของบารัค โอบามาเล่นงาน ถ้าจะให้ตนเองเป็นประธานาธิบดีที่ราบรื่น จึงต้องรุกจัดการฝ่ายตรงข้ามในประเทศของตนเองด้วย เกมตอบโต้กำลังเริ่ม คนอเมริกันจึงมีแนวโน้มจะแตกเป็นสองกลุ่มเด่นชัดมากยิ่งขึ้น ข่าวแบบนี้ไม่มีทางเจอบนสื่อกระแสหลัก สรุปแล้วการเมืองเป็นตัวแบ่งแยกผู้คน ทำให้สังคมแตกแยก ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ President Trump Just Opened an Investigation Into Obama's White House Crime ⋆ USA 24 Barack Obama has been on vacation ever since he was forced to hand over power… WWW.USATWENTYFOUR.COM|BY USA 24 === เอาแล้วไง!! ตำรวจแฉเอง วิธีส่ง "รถซูเปอร์คาร์" ข้ามแดนจากลาวอย่างง่าย ที่เคยพบคันละ 80 ล้าน ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.tsood.com TSOOD.COM “ล้งจีน” เริ่มแผลงฤทธิ์ ... ครอบตลาดลำไยท้องถิ่น รวมตัวกันกำหนดราคารับซื้อ ตกเขียวสวน การเข้ามาจำนวนมากของล้งจีนโดยเฉพาะในภาคตะวันออก แม้ดูผิวเผินจะก่อให้เกิดการแข่งขันกันในการรับซื้อโดยเฉพาะในช่วงระยะแรกๆ… WWW.KOMCHADLUEK.NET อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 5, 2017 (มีการแก้ไข) สํานักข่าวไทย TNAMCOT สํานักข่าวไทย TNAMCOT สํานักข่าวไทย TNAMCOT สํานักข่าวไทย TNAMCOT ความคืบหน้าการก่อสร้างพระเมรุมาศ เจ้าหน้าทีฝ่ายก่อสร้างพระเมรุมาศเทพื้นคอนกรีตบริเวณหมุดทั้ง 9 จุด เพื่อเป็นฐานของพระเมรุมาศสำหรับงานพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2560 ภาพ ชาลินี ถิระศุภะ (Chalinee Thirasupa) สํานักข่าวไทย TNAMCOT ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 5, 2017 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 5, 2017 เมืองไทยจะรัฐประหารอีกหรือ? โดย สิริอัญญา วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2560 หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ได้รายงานข่าวอ้างผลการวิจัยว่า ในปี 2560 นี้ ประเทศไทยมีความเสี่ยงที่จะเกิดการรัฐประหารสูงสุดลำดับสองของโลก โดยประเทศที่มีความเสี่ยงลำดับหนึ่งนั้นแทบไม่มีใครรู้จักชื่อ เป็นที่น่าแปลกใจว่ามีประเทศจำนวนมากในโลกที่มีความขัดแย้งถึงขั้นเป็นสงครามกลางเมือง หรือไม่ก็มีความพยายามรัฐประหารอยู่ทุกระยะ แต่กลับไม่ปรากฏชื่อว่าเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงใด ๆ การวิจัยแบบนี้จึงต้องกล่าวว่าเป็นผลวิจัยแบบขี้หมาที่เขียนกันเองตามอำเภอใจ หาสาระแก่นสารอันใดมิได้ แต่วอชิงตันโพสต์ก็เอามาตีข่าวเผยแพร่ และก็ไม่น่าแปลกใจถ้ารู้ฐานะของวอชิงตันโพสต์ว่าแท้จริงมิได้เป็นสื่อมืออาชีพที่มีจรรยาบรรณตามมาตรฐานของสื่อ แต่เป็นสื่อในจำพวกเดียวกันกับซีเอ็นเอ็น บีบีซี ซึ่งมุ่งเสนอข้อความให้เป็นข่าวเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของชาติใดชาติหนึ่งอยู่เสมอ ไม่ต้องอื่นไกล ประธานาธิบดีทรัมป์ในช่วงการเลือกตั้งก็เคยด่าว่าสื่อประเภทนี้อย่าเสีย ๆ หาย ๆ ไม่ไว้หน้าให้ปรากฏมาแล้ว ดังนั้นเมื่อมีการเผยแพร่ข่าวแบบนี้จึงก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศไทย เพราะเป็นการทำลายความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย ต่อการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลไทย แต่ทว่าปรากฏการณ์บางอย่างนั้นแม้เป็นเรื่องเหลวไหลใช้ไม่ได้ แต่บางครั้งก็มองข้ามไปไม่ได้ เพราะอาจเป็นเบาะแสที่สะท้อนอะไรบางสิ่งบางอย่างที่หากสืบสาวลึกลงไปก็อาจจะเห็นเรื่องราวที่ซ่อนอยู่ข้างหลังก็เป็นได้ เรื่องนี้ก็เหมือนกัน ต้องถือว่าไม่ใช่ข่าวสารธรรมดา แต่เป็นข่าวสารที่ประสงค์ต่อผลทางการเมือง ดังเช่นเมื่อครั้งลูกของหลินเปียวออกไปซื้อหาข้าวของเพื่อเตรียมการเดินทางขึ้นเครื่องบินหลบหนีจากกรุงปักกิ่งไปยังมองโกเลีย พลันที่ทราบเบาะแสข่าวเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีโจวเอินไหลได้สั่งตรวจสอบความเคลื่อนไหว จึงทราบว่าหลินเปียวผู้บัญชาการทหารสูงสุดสั่งเตรียมเครื่องบินเพื่อการเดินทางโดยไม่มีกำหนดการ จึงมีการตรวจสอบเชิงลึก กระทั่งทราบถึงแผนการรัฐประหาร ทำให้รัฐบาลจีนสามารถป้องกันแก้ไขปัญหาครั้งนั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นจึงต้องตั้งคำถามว่าทำไมวอชิงตันโพสต์จึงเสนอข่าวแบบนี้? ก็ต้องตอบว่านี่แหละคือความประสงค์ที่แท้จริงของผู้ที่เป็นต้นเหตุให้วอชิงตันโพสต์เสนอข่าวนี้ นั่นคือมีความประสงค์อย่างแรงกล้าที่จะให้เกิดการรัฐประหารในประเทศไทย ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? ก็เพราะว่า ประการแรก นับตั้งแต่มีการรัฐประหารครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปี 2490 เป็นต้นมา คณะรัฐประหารยอมอยู่ในอำนาจบงการของต่างชาติไม่กระดิกกระเดี้ย แต่คณะ คสช. ซึ่งเป็นรัฐบาลในปัจจุบันนี้ไม่ยอมอยู่ใต้อำนาจบงการของชาติใด ตั้งตนเป็นไทเพื่อประชาชนไทยทั้งประเทศ เป็นสง่าราศี เป็นที่ประจักษ์มาตั้งแต่ต้น ดังนั้นการต่อต้านกดดันต่อรัฐบาลจึงเกิดขึ้นให้เห็นมาตั้งแต่ต้นแล้ว ประการที่สอง ยังมีผู้หลงผิดคิดว่ารูปแบบการก่อรัฐประหารแบบที่ใช้กับซีเรียและอิรักเป็นรูปแบบที่มีประสิทธิภาพที่จะยึดครองชาติอื่น ๆ ได้ตามอำเภอใจ ซึ่งบทเรียนในซีเรียและอิรักก็ประจักษ์ชัดแล้วว่าล้มเหลว ในประเทศไทยของเรามีการจัดตั้งนักวิชาเกิน นักวิชากิน จัดตั้งคนหนุ่มคนสาวให้เป็นลิ่วล้อบริวารเพื่อทรยศบ้านเมืองของตนเอง และจัดตั้งประชาชนด้วยการอบรมให้ฝักใฝ่ในระบอบสาธารณรัฐมาไม่น้อยกว่า 3 ปีแล้ว และยังสามารถสร้างความขัดแย้งระหว่างศาสนาให้ปรากฏมาหลายครั้ง แม้กระทั่งในวงการพุทธศาสนาเองก็ได้ร้างความขัดแย้งแตกแยกขึ้นเป็นวงกว้าง จึงคิดว่าสิ่งที่ได้สร้างได้ทำไว้เพียงพอแล้วที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงเพื่อนำไปสู่สงครามกลางเมืองแบบซีเรียและอิรัก แล้วจะมีการฉวยโอกาสนั้นเข้าแทรกแซงจัดตั้งรัฐบาลหุ่นที่รับใช้ต่างชาติขึ้น หรือไม่ก็สนับสนุนให้เกิดการรัฐประหารภายในประเทศ ก็ต้องบอกว่าแผนการนี้ล้มเหลวอย่างแน่นอน! เพราะคนไทยถึงอย่างไรในที่สุดแล้วก็รักชาติ บูชาพระศาสนา จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ จะวอกแวกหวั่นไหวบ้างก็บางครั้ง แต่ในที่สุดแล้วก็จะแน่วแน่ยืนหยัดพิทักษ์รักษาสถาบันหลักของชาติด้วยความสามัคคีของจิตใจและวิญญาณของบรรพบุรุษไทย ดังนั้นความพยายามจะขับเคลื่อนให้เกิดความขัดแย้งหลายครั้งที่ผ่านมาจึงล้มเหลว และจะต้องล้มเหลวต่อไป ประการที่สาม ความล้มเหลวในการทำรัฐธรรมนูญและการบ่อนทำลายพุทธศาสนาประจักษ์ชัดขึ้น การบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์และบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาได้รับการแก้ไขอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ซึ่งมีผลเท่ากับเป็นการรื้อกองฟืนที่สุมเป็นกองไฟออกจากเตา ในไม่ช้าไฟแห่งความขัดแย้งก็จะมอดดับไป จึงต้องเร่งรัดเร่งรีบให้เกิดเหตุในปีนี้ให้จงได้ ประการที่สี่ หลงผิดคิดว่าหลังเหตุการณ์สวรรคตของพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศแล้วจะเกิดความไม่มั่นคงขึ้นภายในประเทศ ความจริงปรากฏว่าพระบารมีมากล้นรำพัน ประชาชนชาวไทยผนึกน้ำใจสามัคคีเป็นหนึ่งเดียว ถวายความจงรักภักดีต่อพระบรมราชจักรีวงศ์และพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 อย่างสุดจิตสุดใจในขอบเขตทั่วประเทศ ในท่ามกลางความวิปโยคอันเกิดแต่เหตุการณ์สวรรคต กลับทำให้คนไทยแปรความเศร้าโศกเป็นพลังแห่งความสามัคคี ระมัดระวังป้องกันภัย พิทักษ์รักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และความมั่นคงภายในประเทศ จึงเกิดความเป็นเอกภาพของเผ่าไทยและมีเสถียรภาพมั่นคงยิ่งขึ้น รัฐบาล คสช. และประชาชน ที่ผนึกพลังสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน จะสามารถป้องกันเหตุเภทภัยทั้งหลายให้กับชาติบ้านเมืองได้อย่างแน่นอน. === แฉพวก'ละเมิดสถาบัน-อยู่นอก'ขู่ฆ่า 'บิ๊กตู่'จ้องหาตัว-ยันทำดีไม่กลัวตาย ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น NAEWNA.COM วันนี้ (3 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเวลา 10.45 น.ที่ผ่านมา ที่กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากระรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เขตพญาไท พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี มีการขู่ฆ่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผ่านทางโซเชียลมีเดียว่า . "ก็อยู่ในโซเชียลมีเดีย และกำลังหาตัวอยู่ ต้องถามว่า มันเอาข้อมูลจากไหนมาโพสต์แบบนี้ เพราะว่ามันมีพวกละเมิดสถาบันอยู่ ซึ่งอยู่ต่างประเทศ คนพวกนั้นแหละมันพูดก่อน แล้วพวกเธอจะไม่ดูแลฉันหรอ ผมเองก็ไม่ได้ประมาทและท้าทายใคร เพราะคิดว่าผมทำแต่ความดี เพราะฉะนั้นใครไม่เห็นความดีของผมก็ช่วยไม่ได้ ชะตาชีวิตทุกคนมีอยู่แล้ว แต่ผมเห็นแก่ชะตากรรมประเทศมากกว่าชีวิตผม" นายกฯ เผย http://politic.tnews.co.th/contents/bg/222800/ ==== จี้บิ๊กตู่ตั้ง'กก.สอบชุดดำ'ต่อ เพื่อรู้'ใครฆ่าพล.อ.ร่มเกล้า' 'สมชาย' จี้ 'บิ๊กตู่' ตั้งคณะทำงานชุดพิเศษสาวปมชายชุดดำเหตุการณ์ 10 เม.ย. มั่นใจหากทำงานจริงจัง 6 เดือนเห็นผล นำตัวคนทำผิดมาลงโทษได้ และจะรู้ว่าใครฆ่าพล.อ.ร่มเกล้า DAILYNEWS.CO.TH 'บิ๊กตู่'ลั่นใครเอี่ยว'ไซซะนะ'จับให้หมด นายกฯ ระบุจับกุมเครือข่ายไซซะนะเป็นไปตามก.ม. สาวถึงใครจับหมด ขออย่าขัดแย้งเรื่องเล็กน้อย DAILYNEWS.CO.TH กูจะตายในเครื่องแบบ!!! ครั้งพวกเผาบ้านเผาเมืองอาละวาด "พล.ต.ท.สมหมาย" ลั่นพี่จะไม่ยอมให้ศา ติดตามข่าวเพิ่มเติม http://deeps.tnews.co.th/ TNEWS.CO.TH กด Subscribe เพื่อติดตามข่าว สาระ ความรู้ ใหม่ๆ จากพวกเรานะค่ะ พิษมีรูปถ่ายคู่ ‘ไซซะนะ’ เจ้าพ่อยาบ้า สั่งปลด ‘กู้ ลาวสตาร์’ ช็อกวงการบันเทิงลาว เมื่อวันที่ 2... YOUTUBE.COM === "พวกคุณยึดอำนาจ พวกผมเผาทั่วประเทศ เผาไปเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง แล้วใครจะจับ ใครจะอะไร มาเอากับผมนี่ ถ้าคุณยึดอำนาจ.....เ ผ า" https://youtu.be/5hzHFg_DryA เศร้าสลดใจ..ดวง คงยืน1ใน13เผาศาลากลางมุกดาหารตายในคุก(ก่อนหน้านี้ตายไปแล้ว1)ระหว่างต้องโทษคุก15ปี ไร้การดูแลช่วยเหลือจากแกนนำและสมุน,เจ้าของคอกเผาไทยที่มีส่วนยุยงปลุกปั่นสั่งเผา!มันเอาแต่ได้ อุทธาหรณ์บทเรียนที่เจ็บปวดร้าวยิ่ง ผมเป็นหนึ่งในทีมคณะกรรมการกลั่นกรองดูแลด้านเศรษฐกิจ จึงเสนอความเห็นต่อจำเลย ในฐานะนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าโครงการรับจำนำข้าวมีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ และสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้ประเมินโครงการแล้วยืนยันว่า โครงการจำนำข้าวช่วยให้เกษตรกรมีรายได้ดีขึ้น และมีความคุ้มค่าเมื่อเปรียบเทียบประโยชน์ทางเศรษฐกิจ จึงไม่เกิดความเสียหาย” นายกิตติรัตน์ ระบุ หากไม่มีรัฐประหารเกิดขึ้น"ยิ่งลักษณ์"ก็ระบายข้าวได้หมด???ใครฟังแล้วกระดากหูบ้าง..."กิตติร หากไม่มีรัฐประหารเกิดขึ้นยิ่งลักษณ์ก็ระบายข้าวได้หมด???ใครฟังแล้วกระดากหูบ้าง...กิตติรัตน์พยานฝ่ายจำเลย ว่าไว้แบบนั้น??(รายละเอียด) HEADSHOT.TNEWS.CO.TH 17 ก.พ.57 กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง วิ่งหนีชาวนา หลังชาวนาไม่พอใจโห่ไล่ ขอบคุณภาพข่าว จากทีมข่าว เนชั่น ทีวี #KNation #n... YOUTUBE.COM อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 5, 2017 (มีการแก้ไข) Instadham shared เรไรรายวัน's photo. จงทำจิตเหมือนแรกเด็กยังไม่เกิด . ก่อนเกิดมาจิตทุกคนแนบชิดกับนิพพานอยู่แล้ว พอมีผัสสะด้วยอวิชชา ก็รับกิเลสมาสะสมเป็นอนุสัยสันดานเสียเรื่อยมา . สำหรับผม เด็กๆทุกคนเหมือนพระอรหันต์ มีความพุทธะในตัวอยู่กันทุกคน ก่อนมันจะค่อยจืดตางไปตามเวลา เร็วช้าตามสภาพแวดล้อมของแต่ละคน . การทำจิตประภัสสรยามโตมาแบบไม่ประคับประคองตั้งแต่ยังเด็กนั้นไม่ง่ายเลย สิ่งที่ทำได้คือการสร้างต้นทุนให้เขาตั้งแต่เกิด และประวิงเวลาให้จิตเขาคุ้นเคยจนกว่าจะโตพอที่รู้จักที่จะใช้ "สติ" . อ่านไดอารี่น้องเรไร แล้วอยากจะลงไปกราบ จิตเธองามเป็นแบบอย่างอริยบุคคล ขอบพระคุณพ่อแม่เธอที่ช่วยเธอสะสมบารมี ขนาดนี้ . "ฉันคิดว่าถ้าตกใจแล้วตั้งสติ ตกใจจะไม่กลายเป็นอย่างอื่น" . ตกใจก็คือ ใจตก ในเวลาที่จิตใจ ตก ไปสู่อบายภูมิ ก็จะกลายเป็นอย่างอื่น โกรธ ก็เป็นปีศาจ หวาดก็เป็นอสูรกาย ถ้ามีสติประคอง สติก็จะช่วยกันการตกใจไม่ให้เรากลายเป็นอื่น . กราบ เรไร หัวใจโสดาบัน สาธุ https://www.facebook.com/prasit.vitayasamrit/posts/10155893592383228 === เมืองไทยจะรัฐประหารอีกหรือ? โดย สิริอัญญา วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2560 หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ได้รายงานข่าวอ้างผลการวิจัยว่า ในปี 2560 นี้ ประเทศไทยมีความเสี่ยงที่จะเกิดการรัฐประหารสูงสุดลำดับสองของโลก โดยประเทศที่มีความเสี่ยงลำดับหนึ่งนั้นแทบไม่มีใครรู้จักชื่อ เป็นที่น่าแปลกใจว่ามีประเทศจำนวนมากในโลกที่มีความขัดแย้งถึงขั้นเป็นสงครามกลางเมือง หรือไม่ก็มีความพยายามรัฐประหารอยู่ทุกระยะ แต่กลับไม่ปรากฏชื่อว่าเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงใด ๆ การวิจัยแบบนี้จึงต้องกล่าวว่าเป็นผลวิจัยแบบขี้หมาที่เขียนกันเองตามอำเภอใจ หาสาระแก่นสารอันใดมิได้ แต่วอชิงตันโพสต์ก็เอามาตีข่าวเผยแพร่ และก็ไม่น่าแปลกใจถ้ารู้ฐานะของวอชิงตันโพสต์ว่าแท้จริงมิได้เป็นสื่อมืออาชีพที่มีจรรยาบรรณตามมาตรฐานของสื่อ แต่เป็นสื่อในจำพวกเดียวกันกับซีเอ็นเอ็น บีบีซี ซึ่งมุ่งเสนอข้อความให้เป็นข่าวเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของชาติใดชาติหนึ่งอยู่เสมอ ไม่ต้องอื่นไกล ประธานาธิบดีทรัมป์ในช่วงการเลือกตั้งก็เคยด่าว่าสื่อประเภทนี้อย่าเสีย ๆ หาย ๆ ไม่ไว้หน้าให้ปรากฏมาแล้ว ดังนั้นเมื่อมีการเผยแพร่ข่าวแบบนี้จึงก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศไทย เพราะเป็นการทำลายความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย ต่อการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลไทย แต่ทว่าปรากฏการณ์บางอย่างนั้นแม้เป็นเรื่องเหลวไหลใช้ไม่ได้ แต่บางครั้งก็มองข้ามไปไม่ได้ เพราะอาจเป็นเบาะแสที่สะท้อนอะไรบางสิ่งบางอย่างที่หากสืบสาวลึกลงไปก็อาจจะเห็นเรื่องราวที่ซ่อนอยู่ข้างหลังก็เป็นได้ เรื่องนี้ก็เหมือนกัน ต้องถือว่าไม่ใช่ข่าวสารธรรมดา แต่เป็นข่าวสารที่ประสงค์ต่อผลทางการเมือง ดังเช่นเมื่อครั้งลูกของหลินเปียวออกไปซื้อหาข้าวของเพื่อเตรียมการเดินทางขึ้นเครื่องบินหลบหนีจากกรุงปักกิ่งไปยังมองโกเลีย พลันที่ทราบเบาะแสข่าวเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีโจวเอินไหลได้สั่งตรวจสอบความเคลื่อนไหว จึงทราบว่าหลินเปียวผู้บัญชาการทหารสูงสุดสั่งเตรียมเครื่องบินเพื่อการเดินทางโดยไม่มีกำหนดการ จึงมีการตรวจสอบเชิงลึก กระทั่งทราบถึงแผนการรัฐประหาร ทำให้รัฐบาลจีนสามารถป้องกันแก้ไขปัญหาครั้งนั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นจึงต้องตั้งคำถามว่าทำไมวอชิงตันโพสต์จึงเสนอข่าวแบบนี้? ก็ต้องตอบว่านี่แหละคือความประสงค์ที่แท้จริงของผู้ที่เป็นต้นเหตุให้วอชิงตันโพสต์เสนอข่าวนี้ นั่นคือมีความประสงค์อย่างแรงกล้าที่จะให้เกิดการรัฐประหารในประเทศไทย ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? ก็เพราะว่า ประการแรก นับตั้งแต่มีการรัฐประหารครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปี 2490 เป็นต้นมา คณะรัฐประหารยอมอยู่ในอำนาจบงการของต่างชาติไม่กระดิกกระเดี้ย แต่คณะ คสช. ซึ่งเป็นรัฐบาลในปัจจุบันนี้ไม่ยอมอยู่ใต้อำนาจบงการของชาติใด ตั้งตนเป็นไทเพื่อประชาชนไทยทั้งประเทศ เป็นสง่าราศี เป็นที่ประจักษ์มาตั้งแต่ต้น ดังนั้นการต่อต้านกดดันต่อรัฐบาลจึงเกิดขึ้นให้เห็นมาตั้งแต่ต้นแล้ว ประการที่สอง ยังมีผู้หลงผิดคิดว่ารูปแบบการก่อรัฐประหารแบบที่ใช้กับซีเรียและอิรักเป็นรูปแบบที่มีประสิทธิภาพที่จะยึดครองชาติอื่น ๆ ได้ตามอำเภอใจ ซึ่งบทเรียนในซีเรียและอิรักก็ประจักษ์ชัดแล้วว่าล้มเหลว ในประเทศไทยของเรามีการจัดตั้งนักวิชาเกิน นักวิชากิน จัดตั้งคนหนุ่มคนสาวให้เป็นลิ่วล้อบริวารเพื่อทรยศบ้านเมืองของตนเอง และจัดตั้งประชาชนด้วยการอบรมให้ฝักใฝ่ในระบอบสาธารณรัฐมาไม่น้อยกว่า 3 ปีแล้ว และยังสามารถสร้างความขัดแย้งระหว่างศาสนาให้ปรากฏมาหลายครั้ง แม้กระทั่งในวงการพุทธศาสนาเองก็ได้ร้างความขัดแย้งแตกแยกขึ้นเป็นวงกว้าง จึงคิดว่าสิ่งที่ได้สร้างได้ทำไว้เพียงพอแล้วที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงเพื่อนำไปสู่สงครามกลางเมืองแบบซีเรียและอิรัก แล้วจะมีการฉวยโอกาสนั้นเข้าแทรกแซงจัดตั้งรัฐบาลหุ่นที่รับใช้ต่างชาติขึ้น หรือไม่ก็สนับสนุนให้เกิดการรัฐประหารภายในประเทศ ก็ต้องบอกว่าแผนการนี้ล้มเหลวอย่างแน่นอน! เพราะคนไทยถึงอย่างไรในที่สุดแล้วก็รักชาติ บูชาพระศาสนา จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ จะวอกแวกหวั่นไหวบ้างก็บางครั้ง แต่ในที่สุดแล้วก็จะแน่วแน่ยืนหยัดพิทักษ์รักษาสถาบันหลักของชาติด้วยความสามัคคีของจิตใจและวิญญาณของบรรพบุรุษไทย ดังนั้นความพยายามจะขับเคลื่อนให้เกิดความขัดแย้งหลายครั้งที่ผ่านมาจึงล้มเหลว และจะต้องล้มเหลวต่อไป ประการที่สาม ความล้มเหลวในการทำรัฐธรรมนูญและการบ่อนทำลายพุทธศาสนาประจักษ์ชัดขึ้น การบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์และบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาได้รับการแก้ไขอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ซึ่งมีผลเท่ากับเป็นการรื้อกองฟืนที่สุมเป็นกองไฟออกจากเตา ในไม่ช้าไฟแห่งความขัดแย้งก็จะมอดดับไป จึงต้องเร่งรัดเร่งรีบให้เกิดเหตุในปีนี้ให้จงได้ ประการที่สี่ หลงผิดคิดว่าหลังเหตุการณ์สวรรคตของพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศแล้วจะเกิดความไม่มั่นคงขึ้นภายในประเทศ ความจริงปรากฏว่าพระบารมีมากล้นรำพัน ประชาชนชาวไทยผนึกน้ำใจสามัคคีเป็นหนึ่งเดียว ถวายความจงรักภักดีต่อพระบรมราชจักรีวงศ์และพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 อย่างสุดจิตสุดใจในขอบเขตทั่วประเทศ ในท่ามกลางความวิปโยคอันเกิดแต่เหตุการณ์สวรรคต กลับทำให้คนไทยแปรความเศร้าโศกเป็นพลังแห่งความสามัคคี ระมัดระวังป้องกันภัย พิทักษ์รักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และความมั่นคงภายในประเทศ จึงเกิดความเป็นเอกภาพของเผ่าไทยและมีเสถียรภาพมั่นคงยิ่งขึ้น รัฐบาล คสช. และประชาชน ที่ผนึกพลังสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน จะสามารถป้องกันเหตุเภทภัยทั้งหลายให้กับชาติบ้านเมืองได้อย่างแน่นอน. ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 5, 2017 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 6, 2017 พระสยามเทวาธิราช...สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่กรุงรัตนโกสินทร์ พระสยามเทวาธิราช เป็นเทวรูปหล่อด้วยทองคำสูง ๘ นิ้ว ประทับยืนทรงเครื่องกษัตริยาธิราช ทรงฉลองพระองค์อย่างเครื่องของเทพารักษ์ มีมงกุฎเป็นเครื่องศิราภรณ์ พระหัตถ์ขวาทรงพระแสงขรรค์ พระหัตถ์ ซ้ายยกขึ้นจีบดรรชนีเสมอพระอุระ องค์พระสยามเทวาธิราชประดิษฐานอยู่ในเรือนแก้วทำด้วยไม้จันทน์ ลักษณะแบบวิมานเก๋งจีน มีคำจารึกเป็นภาษาจีนที่ผนังเบื้องหลัง แปลว่า "ที่สถิตย์แห่งพระสยามเทวาธิราช" เรือนแก้วเก๋งจีนนี้ประดิษฐานอยู่ในมุขกลางของพระวิมานไม้แกะสลักปิดทอง ตั้งอยู่เหนือลับแลบังพระทวารเทวราชมเหศวร์ ตอนกลางพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ในพระบรมมหาราชวัง พระวิมานไม้แกะสลักปิดทองนี้ เรียกว่า พระวิมานไม้แกะสลักปิดทองสามมุข ด้านหน้าขององค์พระสยามเทวาธิราชตั้งรูปพระสุรัสวดี หรือพระพราหมี เทพเจ้าแห่งการดนตรีและขับร้อง มุขตะวันออกของพระวิมาน ตั้งรูปพระอิศวรและพระอุมา มุขตะวันตกของพระวิมาน ตั้งรูปพระนารายณ์ทรงครุฑ หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิศกุล พระธิดาในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเล่าว่าพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๔) โปรดการศึกษาประวัติศาสตร์ มีพระราชดำริว่า "...ประเทศไทยมีเหตุการณ์ที่เกือบจะต้องเสียอิสรภาพมาหลายครั้ง แต่เผอิญให้มีเหตุรอดพ้นภยันตรายมาได้เสมอ คงจะมีเทพยดาที่ศักดิ์สิทธิ์คอยอภิบาลรักษาอยู่ สมควรที่จะทำรูปเทพยดาองค์นั้นขึ้นสักการบูชา จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐวรการปั้นหล่อเทวรูปสมมุติขึ้น ถวายพระนามว่าพระสยามเทวาธิราช ประดิษฐาน ณ พระที่นั่งทรงธรรมในหมู่พระที่นั่งพุทธมณเฑียร ในพระอภิเนาว์นิเวศน์..." หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิศกุล ทรงพระนิพนธ์ไว้ว่า... "...ตอนมหาอำนาจทางตะวันตกทำการเปิดประตูค้ากับพวกตะวันออก ในระยะเวลาต้นๆ ศตวรรษที่ ๑๙ ของคริสต์ศักราชนั้น พวกเมืองข้างเคียงไม่รู้ทันเหตุการณ์ภายนอกว่าทางตะวันตกมีอำนาจปืนเรือพอที่จะเอาชนะได้อย่างง่ายดาย จึงพากันไม่ยอมทำสัญญาด้วย ซ้ำยังขับไล่ใช้อำนาจจนเกิดเป็นสงครามขึ้น ก็เป็นธรรมดาที่คนมีแต่มีดจะต้องแพ้ผู้มีปืน แล้วถูกเป็นเมืองขึ้นไปโดยสะดวก ฝ่ายทางเมืองไทยเรานั้นมหาอำนาจตกลงกันให้อังกฤษมาเป็นผู้เปิดประตูทำสัญญาค้าขาย ซึ่งตามที่จริงก็เคยมีไมตรีกันมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาแล้ว แต่เมื่อบ้านเมืองมีเหตุการณ์ศึกสงครามเกิดขึ้นชาวต่างประเทศไปมาค้าขายไม่สะดวกได้ ก็จำต้องหยุดการติดต่อกันไปเป็นพักๆ การเป็นเช่นนี้แก่ทุกบ้านทุกเมือง ฉะนั้นเมื่อเสร็จศึกกับพม่าในรัชกาลที่ ๑ แล้ว ถึงรัชกาลที่ ๒ ชาวโปรตุเกสก็เข้ามาจากเมืองมาเก๊า เพื่อขอทำสัญญาค้าขายใน พ.ศ. ๒๓๖๓ โปรดเกล้าฯ ให้รับสัญญาเพราะเรายังต้องการซื้อปืนไฟจากชาวตะวันตกอยู่ ต่อมาอีก ๒ ปี มิสเตอร์ จอน ครอเฟิด (John Crawford) ทูตอังกฤษเข้ามาขอทำสัญญาจากผู้สำเร็จราชการอินเดียใน พ.ศ. ๒๓๖๕ ถึงรัชกาลที่ ๓ อังกฤษเกิดรบกันขึ้นกับพม่าเป็นครั้งแรก ครั้นชนะแล้วจึงให้กัปตันเฮนรี่ เบอร์เนย์ (Henry Burney) เข้ามาทำสัญญาเมื่อ พ.ศ. ๒๓๖๘ ทูตอเมริกัน มิสเตอร์ เอ็ดมอนด์ โรเบิต (Edmond Roberts) เข้ามาทำสัญญาเมื่อ พ.ศ. ๒๓๗๕ มิสเตอร์ริดชัน (Ridson) ทูตอังกฤษเข้ามาทำสัญญาขอซื้อช้างเมื่อ พ.ศ. ๒๓๘๑ และเซอร์เจมส์ บรู้ค (Sir James Brooke) ผู้เคยเป็นรายา (White Raja) ผู้ครองเกาะซาราวัก (Sarawak) เข้ามาขอทำสัญญาอีกเมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน พ.ศ. ๒๓๙๓ ซึ่งเป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ เสด็จสวรรคต รวมทูตอังกฤษที่เข้ามาทำสัญญากับเมืองไทยถึง ๔ ครั้ง แต่ก็ได้ทำแต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่นเรื่องผ่านแดนไทยกับพม่า และสัญญาซื้อขายช้าง ม้า และแลกเปลี่ยนสินค้าบางอย่าง ไม่ได้ทำสัญญากับเมืองไทยโดยตรงอย่างเมืองอื่นๆ ส่วนทางเมืองไทยก็ยังไม่มีใครเชื่อว่าจะมีผู้ใดจะเกะกะทางนี้ได้ บางคนนึกเลยไปว่าเหล็กจะลอยน้ำได้อย่างไร ในเมื่อมีใครมาเล่าว่าทางมหาอำนาจตะวันตกนั้นมีเรือรบที่ทำด้วยเหล็ก ไทยจึงไม่เต็มใจจะเปิดประตูค้ากับผู้ใดๆ ทั้งสิ้น เป็นแต่รับข้อที่จำเป็นในเวลานั้นเท่านั้น แต่ในที่สุดเราก็ได้พบรายงานของเซอร์เจมส์ บรู๊ค ผู้ซึ่งเข้ามาครั้งสุดท้ายในรัชกาลที่ ๓ ว่า "...พระเจ้าแผ่นดินกำลังเสด็จอยู่บนพระแท่นสวรรคต และพระองค์ที่จะเสวยราชย์ใหม่ก็มีหวังจะพูดกันได้เรียบร้อย ฉะนั้น จึงขอรอการใช้กำลังบังคับไว้ก่อน..." ตามรายงานนี้เห็นได้ชัดว่า เขาเตรียมจะใช้กำลังกับเราอยู่แล้ว เผอิญให้เกิดมีการสวรรคตและเปลี่ยนแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ถ) เสด็จขึ้นมาเสวยราชย์ในเวลาที่ทรงทราบเหตุการณ์นอกประเทศดีอยู่แล้ว เพราะทรงมีเวลาศึกษาเพียงพอ ในเวลาที่ผนวชเป็นพระภิกษุถึง ๒๗ ปี พอเสวยราชย์ได้ ๔ ปี เซอร์จอน โบว์ริง (Sir John Bowring) เจ้าเมืองฮ่องกง ก็มีจดหมายส่วนตัวเข้ามากราบทูลว่า คราวนี้ตัวเขาจะเข้ามาเป็นราชทูตแทนพระองค์ควีน วิคตอเรีย ไม่ใช่เป็นแต่เพียงทูตมาจากผู้สำเร็จราชการอินเดียเช่นคนก่อนๆ เพราะฉะนั้นจึงหวังว่าจะไม่มีเรื่องเดือดร้อนถึงต้องขัดใจกัน พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงทราบข้อไขอันนี้ดี จึงเปิดประตูรับในฐานะมิตร และเป็นผลให้เราได้พ้นภัยมาได้แต่ผู้เดียวในทางตะวันออกประเทศนี้ เมื่อเหตุการณ์เรียบร้อยแล้ว ทรงพระราชดำริว่า เมืองไทยเรานี้มีเหตุการณ์หวิดๆ จะต้องเสียอิสรภาพมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว แต่เผอิญให้มีเหตุรอดพ้นได้เสมอมา ชะรอยจะมีเทพยดาองค์ใดองค์หนึ่งที่คอยพิทักษ์รักษาอยู่ จึงสมควรจะทำรูปเทพพระองค์นั้นขึ้นไว้สักการบูชา แล้วโปรดให้พระองค์เจ้าดิษฐวรการ (หม่อมเจ้าในรัชกาลที่ ๑) นายช่างเอกทรงปั้นรูปเทพพระองค์นั้น เป็นรูปทรงต้นยืนถือพระขรรค์ในพระหัตถ์ขวา ขนาด ๘ นิ้วฟุตงดงามได้สัดส่วนแล้วหล่อด้วยทองคำแท่งทั้งพระองค์ ทรงถวายพระนาม "พระสยามเทวาธิราช" แล้วประดิษฐานไว้ในพระวิมานกลางพระที่นั่งไพศาลทักษิณจนทุกวันนี้ ท่านผู้ใหญ่ชั้นคุณย่าของข้าพเจ้าเล่าว่า ในรัชกาลที่ ๔ ทรงถวายเครื่องสังเวยเป็นราชสักการะทุกวัน และเป็นที่นับถือกันว่าศักดิ์สิทธิ์นัก บัดนี้เนื่องแต่ทางพระราชสำนักต้องตัดทอนรายจ่ายมากมายมาแต่ในรัชกาลที่ ๗ จึงคงยังมีเครื่องสังเวยถวายแต่เฉพาะวันอังคาร และวันเสาร์ อาทิตย์ละ ๒ ครั้ง และในเวลาปีใหม่ก็มีการบวงสรวงสังเวยเป็นพิธีใหม่ มีละครรำของกรมศิลปากรในเวลาเช้าวันสังเวยนั้น อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ต่างๆ ดังเราท่านได้ประสบมาด้วยตนเอง ยิ่งนานวันก็ยิ่งเห็นว่าพระสยามเทวาธิราชนั้นมีจริง เราจงพร้อมใจกันอธิษฐานด้วยกุศลผลบุญที่เราได้ทำมาแล้วด้วยดี ขอให้เทพเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์พระองค์นี้ จงได้ทรงคุ้มครองป้องกันภัย และโปรดประสิทธิ์ประสาทความสมบูรณ์พูนสุขให้แก่ประชาชนชาวสยามทั่วกันเทอญ..." พระราชพิธีบวงสรวงใหญ่ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๔) ทรงถวายเครื่องสังเวยเป็นราชสักการะเป็นประจำวัน เครื่องสังเวยที่ถวายเป็นประจำนั้น จะถวายเฉพาะวันอังคาร และวันเสาร์ก่อนเวลาเพล โดยจะมีพนักงานฝ่ายพระราชฐานชั้นในเป็นผู้เชิญเครื่องตั้งสังเวยบูชา เครื่องสังเวยประกอบด้วย ข้าวสุกหนึ่งถ้วยเชิง หมูนึ่งหนึ่งชิ้น พร้อมด้วยน้ำพริกเผา ปลานึ่งหนึ่งชิ้นพร้อมด้วยน้ำจิ้ม ขนมต้มแดงและขนมต้มขาว กล้วยน้ำว้า มะพร้าวอ่อนหนึ่งผล ผลไม้ตามฤดูกาลสองอย่าง และน้ำสะอาดอีกหนึ่งถ้วย โปรดเกล้า ฯ ให้จัดพระราชพิธีสังเวยเทวดา ในวันขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๕ ของทุกปี ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕) มีพระราชดำริว่า พระอภิเนาว์นิเวศน์พระพุทธมณเฑียร และพระที่นั่งทรงธรรม ซึ่งเป็นโครงสร้างเสาไม้หุ้มปูน ที่ได้สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ชำรุดทรุดโทรมลงมาก ยากที่จะบูรณะให้คงสภาพเดิมไว้ได้ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รื้อลงทั้งหมด และอัญเชิญพระสยามเทวาธิราชไปประดิษฐานไว้ ณ พระวิมานทองสามมุขเหนือลับแลบังพระทวารเทวราชมเหศวร์ ในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ตราบจนถึงทุกวันนี้ พระราชพิธีบวงสรวงใหญ่ในปัจจุบัน พระราชพิธีบวงสรวงใหญ่พระสยามเทวาธิราช ตามประเพณีกำหนดไว้ในวันขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๕ ของทุกปี อันเป็นวันขึ้นปีใหม่ตามจันทรคติแบบโบราณ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี หรือพระราชวงศ์ชั้นผู้ใหญ่เสด็จแทนพระองค์มาทรงถวายเครื่องสังเวยเป็นราชสักการะพระสยามเทวาธิราช และมีละครในจากกรมศิลปากรรำถวาย แต่ว่ามีเหตุการณ์สำคัญคือ เมื่อวันที่ ๗-๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๕ เมื่อครั้งฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ ๒๐๐ ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เชิญพระสยามเทวาธิราชจากพระวิมานในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ขึ้นเสลี่ยงโดยประทับบนพานทอง ๒ ชั้น สู่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ประดิษฐาน ณ บุษบกมุขเด็จ เพื่อทรงประกอบพระราชพิธีบวงสรวง ในวันพุธที่ ๗ เมษายน ๒๕๒๕ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สาธุชนเข้าถวายสักการะพระสยามเทวาธิราชหลังเสด็จฯ กลับ จนถึงวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๒๕ นับเป็นครั้งแรกที่ประชาชนมีโอกาสได้เข้าถวายสักการะพระสยามเทวาธิราชเฉพาะพระพักตร์ น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายความรู้ทั้งหลายนี้เป็นพุทธบูชาเนื่องในมหาสมัยครบรอบ ๒,๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้ของสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า พระมหาสมณโคดม ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในพระราชพิธีศุภมงคลเฉลิมพระชนมพรรษา เอกสารประกอบการเขียน/ขอบคุณ - ศรัทธาของชาวสุวรรณภูมิ, อ.สิริเดชะกุล - วิกิพีเดีย _________________________________ fb: นิทรรศการพลังแผ่นดิน อัศจรรย์งานศิลป์ แผ่นดินสยาม https://www.facebook.com/Signnagas ===== รักที่พระองค์ทรงมีต่อประเทศไทยและประชาชน คือ รักที่ทุ่มเท เสียสละเป็นรักนิรันดร์ น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร อย่างหาที่สุดมิได้ นิทรรศการพลังแผ่นดิน อัศจรรย์งานศิลป์แผ่นดินสยาม มีบางจุดของการเสด็จฯผ่านไป มีคุณยายคนหนึ่งปูผ้ารอไว้ให้ทรงประทับรอยพระยุคลบาท ปรากฏว่าเสด็จฯ เลยไปแล้ว คุณยายจึงร้องทูลว่า... "...บักหล่ามาทางนี้ มาเหยียบผ้าให้ยายหน่อย...." ทรงแย้มพระโอษฐ์แล้วเสด็จไปประทับรอยพระบาทให้ คุณยายพับผ้าขึ้นจบหน้าผาก แล้วหันไปยิ้มกับคนข้างๆ พลางรำพึงว่า... "..ว่าง่ายแท้ น่ารัก..." อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 6, 2017 (มีการแก้ไข) เนื่องดัวยพระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์ไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช เสด็จประพาสย่านสำเพ็ง ราชวงศ์ เยาวราช cr เปาปุ้นจิ้น #เนื่องด้วยเพราะพระปรีชาความสามารถของพระมหากษัตริย์ไทย วันนี้เมื่อ 70 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ.2489) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช เสด็จประพาสย่านสำเพ็ง ราชวงศ์ เยาวราช ในวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2489 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล พร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช (พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในปัจจุบัน) เสด็จเยี่ยมเยียนราษฎรด้วยการพระราชดำเนิน ที่เยาวราช สำเพ็ง ตั้งแต่เวลา 09.00 น. จนถึงเที่ยง เป็นระยะทาง 3 กิโลเมตร ยังความปิติยินดีอย่างมากต่อชาวเยาวราช ซึ่งได้จัดซุ้มเฉลิมพระเกียรติถวายการต้อนรับอย่างสมพระเกียรติ ในครั้งนั้นพระองค์ได้เสด็จเข้าไปเยี่ยมเยียนถึงในบ้านพัก และร้านค้าของราษฎรอย่างใกล้ชิด และในเวลาเที่ยง ก็ได้ทรงเสวยพระกระยาหารเที่ยงที่ชาวเยาวราชจัดถวาย ที่สมาคมพ่อค้าไทย-จีน ถนนสาทร เนื่องด้วยในเวลานั้น มีความขัดแย้งอย่างรุนแรงระหว่างคนไทยกับคนไทยเชื้อสายจีนหรือชาวจีนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย เพราะเมื่อสงครามโลกครั้งที่ ๒ สงบลง จีนกลายเป็นประเทศมหาอำนาจ ที่อยู่ฝ่ายชนะสงคราม ทำให้ชาวจีนบางกลุ่มที่อาศัยอยู่ในเมืองไทยทำการเรียกร้องสิทธิบางประการจากรัฐบาลไทย ซึ่งก่อให้เกิดความขัดแย้งขึ้นระหว่างชาวไทยกับชาวจีน จนถึงขั้นก่อความไม่สงบ และมีการรุมทำร้ายร่างกายคนไทยอยู่บ่อยครั้ง เหตุการณ์นี้ได้ทวีความรุนแรง และขยายพื้นที่ออกไปอย่างกว้างขวางจนเกือบจะกลายเป็นสงครามกลางเมือง เมื่อเรื่องทราบถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล จึงทรงหาวิธีพระราชกรณียกิจแก้ไขด้วยพระองค์เอง โดยทรงตระหนักว่าถ้าเสด็จออกเยี่ยมเยือนท้องถิ่นที่มีชาวจีนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากย่อมจะสามารถประสานรอยร้าวที่มีอยู่ได้ จึงมีกำหนดการเสด็จเยี่ยมสำเพ็งอย่างเป็นทางการในวันที่ ๓ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๘๙ พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ ข่าวเสด็จสำเพ็งในครั้งนี้เป็นข่าวใหญ่ที่สร้างความตื่นเต้นยินดีอย่างยิ่งแก่พ่อค้าชาวจีนที่อาศัยอยู่ในแถบนั้น เพราะเป็นครั้งแรกที่มีพระมหากษัตริย์เสด็จเยี่ยมสำเพ็งอย่างเป็นทางการ การเสด็จครั้งนี้ทรงใช้เวลานานถึง ๔ ชั่วโมง และมีชาวจีนมาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทอย่างมากมาย จนประชาชนทุกคนต่างเกิดความรู้สึกว่าทั้งชาวไทย และชาวจีนต่างก็อยู่ใต้พระบรมโพธิสมภารของพระองค์ด้วยกันทั้งสิ้น และนับแต่นั้นมาความบาดหมางระหว่างชาวไทยกับชาวจีนก็หายไปจนสิ้น นับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลอย่างแท้จริง #ว่ากันว่า..การเสด็จประพาสครั้งนี้ ทำให้คนบางกลุ่มในขณะนั้น เริ่มกริ่งเกรงในพระราชอำนาจของพระองค์ จึงได้วางแผนจัดฉากการลอบปลงพระชนม์ขึ้น หลังการเสด็จประพาสครั้งนี้ในเวลาอีกไม่กี่วันต่อมา สํานักข่าวไทย TNAMCOT สํานักข่าวไทย TNAMCOT คณะกรรมการจัดงานเทศกาลตรุษจีนเยาวราชมีมติงดจัดงานในปี2560 เพื่อแสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่ 23 ม.ค. นายยุทธนา ป่าไม้ ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ แจ้งว่า เนื่องด้วยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต ในวันที่ 13 ต.ค. 2559 และ ทางคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ทางราชการไว้ทุกข์มีกำหนดเป็นเวลา 1 ปี เพื่อเป็นการแสดงความอาลัย ดังนั้นคณะกรรมการจัดงานเทศกาลตรุษจีนเยาวราชจึงมีมติเห็นควรงดการจัดงานประเพณีตรุษจีนเยาวราช ประจำปี 2560 จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบโดยทั่วกัน : http://www.posttoday.com/local/bkk/477257 ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 6, 2017 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 6, 2017 ภาพที่ปรากฎด้านหลังเบื้องซ้ายของธนบัตรใบละ ๒๐ บาท แบบ ๑๕ วันที่ประกาศออกใช้ ๑๒ ก.พ. ๒๕๔๖ (ข้อมูลตามคำขอของสมาชิกแฟนเพจรูปที่มีทุกบ้านครับ ขอบคุณที่ติดตามนะครับ) เป็นภาพที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล (รัชกาลที่ ๘ ) และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ ๙) ซึ่งเป็น สมเด็จพระอนุชาในขณะนั้น ได้ทรงเสด็จประพาสสำเพ็ง และในหลวง ร.๙ ทรงเป็นตากล้องกิตติมศักดิ์อีกด้วย เมื่อวันที่ ๓ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๘๙ หรือเมื่อ ๗๐ ปีก่อน มีเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์เหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นในประเทศไทย นั่นคือการเสด็จประพาสสำเพ็งของในหลวงรัชกาลที่ ๘ และรัชกาลที่ ๙ เมื่อญี่ปุ่นเป็นฝ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่สอง รัฐบาลก๊กมินตั๋งของจีนซึ่งร่วมกับสัมพันธมิตรในการต่อสู้กับญี่ปุ่นในช่วงสงคราม และเป็น ๑ ใน ๕ มหาอำนาจของโลกในเวลานั้น ได้แสดงความประสงค์ที่จะส่งทหารจีนเข้ามาปลดอาวุธทหารญี่ปุ่นในไทย ขณะที่คนจีนบางกลุ่มในประเทศไทยเองก็เกิดความรู้สึกว่าตนเป็นผู้ชนะสงคราม เนื่องจากรัฐบาลไทยสมัยสงครามเข้ากับญี่ปุ่น ดังนั้นจึงคิดว่าไทยเป็นฝ่ายแพ้สงครามด้วย อย่างไรก็ตามรัฐบาลไทยในเวลานั้นเกรงว่าหากยินยอมให้ทหารจีนเข้ามาอาจจะเกิดปัญหาด้านความมั่นคงของไทยได้ จึงขอร้องให้ทหารญี่ปุ่นในประเทศไทยปลดอาวุธตัวเองต่อ "ลอร์ดหลุยส์ เมาท์แบทแทน" ผู้บัญชาการทหารอังกฤษ ประจำภาคตะวันออกไกล เป็นผลให้คนจีนเหล่านั้นไม่พอใจ ประกอบกับรัฐบาลจีนได้ทำสนธิสัญญาทางไมตรีครั้งแรกกับไทย และส่งเอกอัครราชทูตมาประจำที่ประเทศไทย กับประกาศนโยบายให้คนจีนที่เกิดนอกประเทศได้รับสัญชาติจีน จึงทำให้คนจีนเกิดความรู้สึกเรื่องชาตินิยมรุนแรงขึ้น ถึงกับมีการเรียกร้องสิทธิพิเศษต่าง ๆ จากรัฐบาลไทย นอกเหนือจากการชักธงชาติจีน และประดับรูปผู้นำจีนตามบ้านเรือนและร้านค้า รวมทั้งทำร้ายคนไทยที่เข้าไปในย่านของคนจีน อาทิเช่น สำเพ็ง เยาวราช และถนนเจริญกรุง จึงทำให้เกิดการกระทบกระทั่งระหว่างคนไทยกับคนจีน จนทางการต้องส่งกำลังเข้าระงับเหตุอยู่บ่อยครั้ง แต่เหตุการณ์ที่ทำท่าว่าจะรุนแรง ก็กลับสงบลงอย่างรวดเร็ว ด้วยการที่ในหลวงรัชกาลที่ ๘ และ รัชกาลที่ ๙ ซึ่งขณะนั้นดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระอนุชาธิราช เสด็จพระราชดำเนินเยือนสำเพ็งอันเป็นถิ่นของคนจีน ในกรุงเทพฯ ในช่วงสงคราม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล และสมเด็จพระอนุชา ประทับและทรงศึกษาอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทั้งสองพระองค์ ครั้งเสด็จนิวัติพระนคร เมื่อทรงทราบความขัดแย้งดังกล่าวที่เกิดขึ้นจึงมีพระราชประสงค์จะเสด็จประพาสสำเพ็ง ก่อนที่จะเสด็จพระราชดำเนินกลับไปทรงศึกษาต่อ การตัดสินพระทัยของพระองค์ท่านในขั้นต้น ได้รับการทักท้วงเพราะรัฐบาลเกรงว่าจะผิดราชประเพณี แต่ทรงมีรับสั่งให้สำนักราชเลขานุการในพระองค์ แจ้งยืนยันให้รัฐบาลทราบ เพราะทั้งรัชกาลที่ ๕ และรัชกาลที่ ๖ ก็เคยเสด็จพระราชดำเนินมาแล้ว จึงมีหมายกำหนดการเสด็จประพาสเยี่ยมชาวจีนที่สำเพ็ง ในวันที่ ๓ มิถุนายน ๒๔๗๘ อันเป็นวันเสด็จพระราชดำเนินตมหมายกำหนดการ ประชาชนชาวจีนในสำเพ็งต่างพากันปิติยินดี และร่วมกันตบแต่งบ้านเรือนด้วยธงทิวและแพรพรรณ ตั้งโต๊ะบูชาด้วยเครื่องลายครามและเครื่องแก้วเจียระไน สร้างซุ้มประตูรับเสด็จด้วยดอกไม้สดประดับประดาเป็นรูปมังกรขนาดใหญ่ ตั้งแต่ปากตรอกสะพานหัน และสองฟากของสำเพ็ง มีพสกนิกรชาวจีนมาเฝ้ารับเสด็จอย่างเนืองแน่น บางครั้งได้เสด็จไปประทับในบ้านและร้านรวงที่กราบบังคมทูลเชิญ เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสเข้าเฝ้าอย่างใกล้ชิด โดยไม่ทรงถือพระองค์ รวมเป็นเวลาที่ประพาสสำเพ็งประมาณครึ่งวัน ต่อจากนั้นได้เสด็จไปเสวยพระกระยาหารกลางวันที่สมาคมไทย-จีน ถนนสาทร และทอดพระเนตรกีฬากับการละเล่นต่าง ๆ ก่อนเสด็จกลับ ในระหว่างเสด็จพระราชดำเนิน บรรดาพ่อค้าชาวจีนได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายของมีค่า เช่น เครื่องกระเบื้อง และสิ่งของที่ทำด้วยหยก รวมทั้งถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศล รวม ๑๓,๐๐๐ บาท ซึ่งนับว่าเป็นเงินจำนวนมากในสมัยนั้น ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวได้ทรงตั้งเป็น “ ทุนพ่อค้าหลวง” และพระราชทานแก่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่อให้เก็บดอกผล สำหรับรักษาพยาบาลผู้ป่วยที่ยากไร้ เมื่อเสด็จพระราชดำเนินจนสุดย่านสำเพ็งแล้ว ได้เสด็จเยือนสถานที่สำคัญในย่านใกล้เคียง ได้แก่โรงพยาบาลเทียนอัน สมาคมพาณิชย์จีนที่สาทร ทรงเสวยพระกระยาหารกลางวันที่ทางสมาคมจัดถวาย แล้วเสด็จเยี่ยมมูลนิธิปอเต็กตึ้ง และโรงพยาบาลหัวเฉียว ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับ ในช่วงเย็นวันดังกล่าว มีเหตุการณ์ที่น่าประทับใจหลายประการ เช่นชาวจีนสูงอายุที่มั่งคั่งคนหนึ่งในสำเพ็ง ได้นำฝุ่นทรายมาโปรยลงบนพรมที่ปูลาดไว้หน้าร้าน แล้วกราบบังคมทูลขอให้ทรงเหยียบลงบนพรมนั้น เมื่อทรงทำตามแล้ว ชาวจีนผู้นั้นก็นำฝุ่นทรายประจงใส่กระถางลายครามใบใหญ่ แล้วนำขึ้นไปตั้งไว้บนโต๊ะบูชาทันที รัชกาลที่ ๘ ทรงโปรดการเสด็จประพาสสำเพ็งมาก ทรงเล่าถึงชาวจีนคนหนึ่งซึ่งเข้าเฝ้าว่า “ฉันกำลังเดินเพลินๆ อยู่พอก้าวขาออกไป ก็มีจีนคนหนึ่งวิ่งเข้ามาตรงเท้า ฉันตกใจเหลียวมาดู เห็นเขากอบเอาขี้ฝุ่นตรงที่ฉันเหยียบมาใหม่ ๆ ใส่มือแล้วเอาใส่ห่อผ้าเช็ดหน้าไว้ ถามดูได้ความว่าจะเอาไปบูชา” การเสด็จประพาสสำเพ็ง ของในหลวงทั้งสองพระองค์ เมื่อ ๗๐ ปีที่แล้ว นับเป็นการสมานรอยร้าวของพี่น้องจีน-ไทยในครั้งนั้นให้คืนสู่ปกติอย่างน่าอัศจรรย์ และพี่น้องทั้งสองสายเลือดก็ได้ร่วมกันสร้างประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้ามาตราบเท่าทุกวันนี้ ด้วยพระราชกรณียกิจในครั้งนั้นจึงนับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ที่คนไทยเชื้อสายจีนเทิดทูนไว้ตั้งแต่รุ่นบรรพชนจนถึงรุ่นลุกหลานในปัจจุบันอย่างไม่มีวันลืม ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น หาที่สุดไม่ได้ _____________________ ขอบคุณข้อมูล : กระทรวงการคลัง แอดมินต้น กมลสิทธิ์ : เรียบเรียง ธนบัตรแบบ ๑๕ ธนบัตรแบบนี้ยังคงมีจุดมุ่งหมายเพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์แห่งพระราชวงศ์จักรีที่ทรงพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ และเป็นแบบที่เริ่มปรับขนาดความกว้างของธนบัตรให้เท่ากันทุกชนิดราคา เพื่อความสะดวกในการพกพา มี ๕ ชนิดราคา ได้แก่ ๒๐ บาท ๕๐ บาท ๑๐๐ บาท ๕๐๐ บาท และ ๑๐๐๐ บาท ภาพประธานด้านหน้า ภาพประธานด้านหลัง ขนาด วันประกาศออกใช้ วันออกใช้ พระบรมฉายาสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องแบบจอมทัพ พระบรมฉายาสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ภาพพระราชกรณียกิจเมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินที่สำเพ็ง และภาพสะพานพระราม ๘ ๗.๒๐ x ๑๓.๘๐ เซนติเมตร ลงวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๖ วันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๔๖ https://www.bot.or.th/Thai/Banknotes/HistoryAndSeriesOfBanknotes/Pages/Banknote_Series15.aspx อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 6, 2017 (มีการแก้ไข) หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara) 1 hr · เอางบที่จ่ายค่าข้าวกล่องแช่เย็นมาเป็นค่าเดินทางให้ประชาชนมากราบพระบรมศพดีกว่าไหมท่านนายก ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ หลังจากครบร้อยวัน ผู้ที่เดินทางเข้ามากราบพระบรมศพก็น้อยลง จากวันละไม่ต่ำกว่า ๕-๗ หมื่นคน โดยเฉลี่ยเวลานี้เหลือแค่ ๑-๒ หมื่นคน จากที่ท่านนายกมีเจตนาช่วยแบ่งเบาภาระแก่เต็นท์อาหารจิตอาสาทั้งหลาย มันกลายเป็นแต่ละกระทรวง ทบวง กรม ไปสั่งซื้อข้าวกล่องจากซีพีวันละ ๕ หมื่นกล่องมาได้อย่างไรก็ไม่รู้ พุทธะอิสระจำได้ว่าตอนประชุมก่อนที่จะมีการย้ายเต็นท์ พุทธะอิสระได้ขอร้องต่อที่ประชุมว่า ไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณวันละ ๓ ล้านกว่าบาทจัดซื้อข้าวกล่องมาแจกประชาชนที่มาเคารพพระบรมศพดอก พวกเราเต็นท์อาหารจิตอาสาทั้งหลายพร้อมที่จะทำอาหารเลี้ยงพี่น้องประชาชนคนของพ่อทุกคนที่เข้ามากราบพระบรมศพโดยไม่ให้ขัดสนขาดแคลน เพราะพวกเราก็ได้เลี้ยงมาตั้ง ๑๐๐ วันแล้วก็ยังไม่เห็นว่าใครอดอยากเลย เก็บงบประมาณวันละ ๓ ล้านกว่าบาทเอาไปช่วยภาคใต้ที่น้ำท่วมจะดีกว่า หรือถ้าจะทำตามนโยบายท่านนายก ที่อยากช่วยพวกเราเต็นท์อาหารทั้งหลาย ก็ขอแค่เพียงช่วยจัดหาวัตถุดิบในการปรุงอาหารมามอบให้ตามเต็นท์ต่างๆ แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว แต่สุดท้ายพวกเขาก็ยังดื้อรั้นดันทุรังไปสั่งข้าวกล่องมาเลี้ยงประชาชนจนได้ หนึ่งอาทิตย์ต่อมาปรากฏว่ากทม.มีขยะที่เกิดจากข้าวกล่องเพิ่มมากขึ้น ชาวบ้านไม่คุ้นชินกับข้าวปูอัด หรือข้าวไส้กรอกที่เย็นชืด จนสุดท้ายเมื่อเขารับไปก็นำไปทิ้ง จนนำมาซึ่งการนัดบรรดาเต็นท์อาหารทั้งหลายให้เข้าประชุมใหม่อีกรอบ (เต็นท์หมายเลข ๙ ไม่ได้เข้าประชุม) พร้อมกับบอกให้แต่ละเต็นท์ทำอาหารไปเลี้ยงเช้า กลางวัน ส่วนมื้อเย็นเป็นข้าวกล่องของซีพี ซึ่งกระทรวงต่างๆ เป็นเจ้าภาพ และแต่ละเต็นท์จะได้รับการอุดหนุนวัตถุดิบจากกองอำนวยการรวมที่นำมาแจกให้แต่ละเต็นท์ (มิได้แจกให้แก่เต็นท์หมายเลข ๙ เพราะไม่ได้เข้าไปเลี้ยงอาหารในเต็นท์นั่งรอคอย คือเต็นท์ ก ข ค ง จ แต่เต็นท์หมายเลข ๙ จะเลี้ยงเฉพาะผู้ที่อยู่นอกเต็นท์รอคอย ไม่ว่าจะกำลังเดินเข้าหรือเดินออกจากพระราชวัง เต็นท์หมายเลข ๙ เราจะเลี้ยงหมดและเลี้ยงทุกเวลาที่มีคนต้องการกิน อีกทั้งก็ทำอาหารส่งเต็นท์พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๑๐ ในพระบรมมหาราชวัง และที่ต้องเรียกร้องให้ท่านนายกสั่งระงับเงินค่าอาหารกล่องก็เพราะไม่มีความจำเป็นขนาดที่จะต้องใช้งบประมาณค่าอาหารในงานของพ่อ พวกเราคนไทยทุกคนพร้อมที่จะให้บริการพี่น้องที่เดินทางมาร่วมงานกราบพระบรมศพโดยไม่รู้สึกยากลำบาก หากจะช่วย ท่านนายกควรจะกรุณานำงบค่าอาหารไปเป็นค่ารถค่าเดินทางของพี่น้องประชาชนคนต่างจังหวัด ที่พวกเขาต้องการจะเดินทางมากราบพระบรมศพแต่ไม่มีเงินค่ารถค่าเดินทาง เช่นนี้จะดีกว่า เพราะเคยถามพี่น้องที่เดินทางมาจากภูมิภาคต่างๆ พวกเขาต้องใช้เงินค่าเดินทางไม่ต่ำกว่าพันบาทกันในแต่ละคน หากรัฐบาลต้องการจะให้ประชาชนเข้ามากราบพระบรมศพมากๆ ก็ควรนำเงินเหลือจ่ายจากงบประมาณในแต่ละกระทรวงไปเป็นค่าใช้จ่ายการเดินทางจะดีกว่า อย่านำมาซื้อข้าวกล่องของบริษัทที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองไทยเลย ขอล่ะท่านนายก งานของพ่อจะได้ไม่เงียบเหงาอย่างที่เป็นอยู่ และถ้าหากจักต้องการช่วยพวกเราจริงๆ ก็ไปสั่งอาหารตามร้านสหกรณ์หรือร้านแม่บ้านทหารบก ร้านค้าที่ทำจากมือชาวบ้านที่เขามีความสามารถทำตามเมนูที่กองอำนวยการกำหนด เงินจะได้สะพัดอยู่ในหมู่ประชาชนโดยทั่วไป ไม่ใช่ไปอยู่แต่ในกระเป๋าของนายทุนอย่างที่เป็นอยู่ ท่านนายกควรจะต้องส่งคนลงมาสืบค้นหาความจริงในเรื่องนี้ เพื่อให้งานของพ่อไม่มีอะไรมาระคายเคืองพระเกียรติยศได้ พุทธะอิสระ ==== 'บิ๊กป้อม'ยอมรับ!ปมมือโพสต์ขู่ฆ่า อาจเป็นกลุ่มหมิ่นสถาบันฯในลาว 6 ก.พ.60 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามตัวผู้โพสต์กรณีลอบสังหารในโซเชียลมีเดีย ว่า "ไม่เป็นไร โธ่เอ๊ย… NAEWNA.COM ทั้งนี้ พ.ต.ต.สุริยา กล่าวว่า ภารกิจวันนี้ ดีเอสไอสนธิกำลังร่วมกับทหาร ฝ่ายปกครอง เข้าตรวจค้นบ้านนายวิชัย และเครือญาติ ก่อนอายัดบ้าน พร้อมที่ดินพื้นที่เป้าหมาย 10 จุด 118 แปลง เนื้อที่ 800 ไร่ มูลค่าประมาณ 400 ล้านบาท โดยเฉพาะบ้านเลขที่ 789 เป็นบ้านพักของนายวิชัย ปัจจุบันให้บิดาและมารดาของนายวิชัย ที่กำลังป่วยพักอาศัย พร้อมกับคนงานในบ้านรวมประมาณ 10 คน หลังจากนี้ให้เจ้าของบ้านและที่ดินที่ถูกอายัดเข้าให้ชี้แจงที่มาที่ไปของทรัพย์ทั้งหมดกับพนักงานสอบสวนเอสไอตามขั้นตอนกฎหมาย http://www.naewna.com/local/255404 แทรกแซงบอร์ดบินไทย-ซื้อผิดสเปก! ย้อนอภิปรายสภาฯปี’36 ช่วงคดีโรลส์รอยซ์ “…ในช่วงเดือน ต.ค. 2535 มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของบริษัทการบินไทย โดยรัฐบาลท่านอานันท์ ปันยารชุน… WWW.ISRANEWS.ORG|BY ISRANEWS 5 สิ่งที่ควรรู้...ในการเลือกทานเพื่อสุขภาพที่ดี นอกจากการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอแล้วเรื่องอาหารการกินก็สำคัญต่อสุขภาพไม่แพ้กัน แต่พอพูดถึงอาหารสุขภาพหลายคนจะรู้สึกว่าผักและธัญพืชต่างๆ..... NAEWNA.COM ปธน.เบลารุสย้ำ! ไม่อยากเข้าร่วมนาโต รักษาความสัมพันธ์กับรัสเซียต่อไป เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีอเลกซานเดอร์ ลุกาเซนโก (Alexander Lukashenko) กล่าวว่า เบลารุสไม่ได้ต้องการเข้าร่วมกับนาโต (NATO) อีกทั้งหวังว่าจะคงสัมพันธไมตรีอันดีงามกับรัสเซียที่เป็นประเทศเพื่อนบ้านได้ เขากล่าวในงานแถลงข่าวว่า เบลารุสยินดีต้อนรับข้อตกลงกับรัสเซียในด้านการป้องกันประเทศทั้งภาคพื้นดินและอวกาศ “เราไม่ใช่ยูเครน เราไม่ได้ต่อต้านรัสเซีย และเราก็ไม่ได้หวังจะเข้าร่วมกับนาโต” เมื่อพูดถึงความสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่นในด้านน้ำมันและก๊าซกับรัสเซีย ประธานาธิบดีเบลารุสกล่าวย้ำว่าเขาหวังว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงจะสามารถแก้ไขปัญหาในความขัดแย้งได้ โดยไม่ส่งผลกระทบใดๆต่อชีวิตประจำวันของประชาชน ทั้งนี้ เบลารุสกำลังอยู่ในช่วงความขัดแย้งกับรัสเซียในเรื่องน้ำมันและก๊าซ ซึ่งสื่อรัสเซียรายงานว่ารัสเซียจะลดการนำเข้าน้ำมันจากเบลารุสจาก 4.5 ตันเหลือ 4 ตันในไตรมาสแรกของปี 2017 โรมาเนียบี้ล้มพรก.นิรโทษโกง ชาวโรมาเนียยังไม่วางใจ รวมตัวกันชุมนุมกดดันรัฐบาลฝ่ายซ้ายปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาเพิกถอนพระราชกำหนดลดความผิดคดีคอร์รัปชัน ภายหลังพลังมวลชนหลายแสนเดินขบวนประท้วงทั่วประเทศจนนายกฯ ประกาศล่าถอย… THAIPOST.NET ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 6, 2017 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 6, 2017 (มีการแก้ไข) "ฉันจะอยู่ถึง 120 ปี เหตุการณ์ซึ่งทำให้เห็นถึงพระสรวลของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระราชินี จนกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ซึ่งภาพเหตุการณ์เกิดขึ้นขณะที่พระองค์ท่าน พร้อมด้วยสมเด็จพระราชินี สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กำลังประทับอยู่ในรถ และทุกพระองค์ทรงแย้มพระสรวล ขณะที่มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่งกำลังถวายความเคารพ "ใครกันครับ ที่ทำให้ทุกพระองค์ทรงพระสรวล" เฉลยๆ บุคคลในภาพคือ พลอากาศตรีอาวุธ เงินชูกลิ่น ซึ่งได้ถวายรายงานเมื่อครั้งเสด็จยกยอดฉัตรพระเมรุ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงตรัสว่า "จะอยู่ถึง 120 ปี" พลอากาศตรีอาวุธ เงินชูกลิ่น เลยตอบว่า "ถ้าอย่างนั้นเกล้ากระหม่อมขอทูลลาไปก่อน" ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้ทุกพระองค์ทรงแย้มพระสรวล สำหรับ พลอากาศตรี อาวุธ เงินชูกลิ่น เป็นศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (ประยุกต์ศิลป์) สาขาย่อย สถาปัตยกรรม ประจำปี 2541 ในวัย 71 ปี แต่ขณะนี้ได้เสียชีวิตลงแล้ว เคยเป็นหัวหน้าคณะทำงานออกแบบและควบคุมการก่อสร้างพระเมรุ ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และเป็นหัวหน้าผู้ออกแบบพระเมรุ ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ที่มา http://www.dailynews.co.th/ ภาพจากเพจ @ผู้หญิงต้องไลท์ แอดมิน 9 === แผ่นดินนี้..มีพอ โดย อัสนี โชติกุล เพื่อพ่อ - วง 3.50 (สามบาทห้าสิบ) feat.รวมศิลปิน [Official MV] หัวใจของพ่อ - อัสนี โชติกุล และ ปาล์มมี่ ปานเจริญ ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 6, 2017 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กุมภาพันธ์ 6, 2017 (มีการแก้ไข) ตั้งสังฆราชเป็นตามขั้นตอนกฎหมาย KOMCHADLUEK.NET 'บิ๊กตู่'สั่งคลังหาวิธีเอาผิดสินบนโรลส์รอยซ์ แนะศึกษาของต่างประเทศ 6 ก.พ.60 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวกรณีบริษัทโรลส์รอยซ์ จ่ายสินบนจัดซื้อเครื่องยนต์… NAEWNA.COM ความล้มเหลวของรัฐบาลทักษิณต่อการบินไทย ผลพวงสินบนพันล้าน เมื่อยิ่งแกะข้อมูลจาก SFO Serious Fraud Office หรือหน่วยงานปราบโกงขั้นรุนแรงของอังกฤษก็ยิ่งพบว่า… NAEWNA.COM http://www.springnews.co.th ยื่นสตง.สอบ! “แอร์บัส 340” จอดตายรอขาย “อู่ตะเภา” SPRINGNEWS.CO.TH พนักงานเอ็กซเรย์สัมภาระสุวรรณภูมิกว่า 300 คน หยุดทำงานประท้วง ขอเพิ่มเงินเดือน เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2560 ที่สนามบินสุวรรณภูมิ… NATIONTV.TV|BY NATIONTV 22 ----- เรื่องราวของนาย "ทองดีฟันขาว" หรือท่านพระยาพิชัยดาบหัก!! https://www.youtube.com/watch?v=WCrk6BCxwZg สื่อดังแฉ!!! "ทรัมป์" สั่งเพนตากอน พร้อมมากที่สุด เตรียมตัวทำสงครามโลก???(รายละเอียด+คลิป)ข้อมูลจากเว็บไซด์ Global Research ได้ระบุว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้กล่าวในการประชุมของเขากับเจ้าหน้าที่ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) โดยมีคำสั่งให้กองทัพเตรียมความพร้อมสำหรับการทำสงครามโลก นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เดินทางเยือนเมืองเพนตากอน รัฐเพนซิลวาเนีย ในวันที่ 27 มกราคม ไต้หวันเริ่มใช้กม.ห้ามการุณยฆาตสุนัขจรจัดกฎหมายห้ามการการุณยฆาตสุนัขจรจัดในสถานพักพิงสุนัขของไต้หวันเริ่มมีผลบังคับใช้แล้ว หลังจากผ่านสภาเมื่อ 2 ปีก่อน แต่ระหว่างนั้นกลับเกิดเหตุการณ์น่าสลดที่สัตวแพทย์ผู้ทำหน้าที่ดังกล่าวฆ่าตัวตาย THAIPOST.NET นี่เรื่องจริงนะ! 10 ประเทศที่เล็กยิ่งกว่าเล็ก แถมบางประเทศความเป็นมาชวนฮามาก SPOKEDARK.TV|BY SPOKEDARK TV ทรูโด้ ห้ามทรัมพ์ เข้าแคนาดา นายกแคนาดาห้ามทรัมพ์เดินทางเข้าประเทศแคนาดา Justin Trudeau Bans Donald Trump From Entering Canada ONTARIO - In a meeting held by the Liberal party earlier this week, party leader and Prime Minister of Canada, Justin Trudeau called for the prohibition of Donald… HOTGLOBALNEWS.COM (Feb 6) เลอแปนประกาศหลักการ "ฝรั่งเศสต้องมาก่อน": นางมารีน เลอ แปน ตัวแทนผู้สมัครจากพรรคฝ่ายขวาในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสกลางปีนี้ และเป็นหนึ่งในตัวเก็ง ประกาศแคมเปญหาเสียงด้วยหลักการ "ฝรั่งเศสต้องมาก่อน" สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ว่านางมารีน เลอ แปน หัวหน้าพรรคแนวร่วมแห่งชาติ ( เอฟเอ็น ) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองขวาจัดของฝรั่งเศส แถลงต่อที่ประชุมใหญ่ของพรรคเอฟเอ็น ที่เมืองลียง เมื่อวันอาทิตย์ ประกาศแคมเปญหาเสียงสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีภายใต้หลักการ "ฝรั่งเศสต้องมาก่อน" ด้วยการให้ความสำคัญกับพลเมืองในประเทศ "เหนือสิ่งอื่นใด" ไม่ยึดติดกับระบบโลกภิวัฒน์ที่ถือเป็น "ระบบทาส" ซึ่งเป็นเพียงการตอบสนองต่อความต้องการของบรรดานายทุนและ "กลุ่มคนว่างงาน" มาตลอด นอกจากนี้ เลอ แปน วัย 48 ปี บุตรสาวของนายฌอง-มารี เลอ แปน นักการเมืองอาวุโสฝ่ายขวาจัดชื่อดังของฝรั่งเศส ยังกล่าวโจมตี "คลื่นผู้อพยพ" และ "การยึดมั่นต่อหลักการทางศาสนาแบบสุดโต่ง" เธอกล่าวด้วยว่าหากได้รับการเลือกตั้งให้เป็นประธานาธิบดีของฝรั่งเศส เธอจะบริหารบ้านเมืองให้มีความเป็นเสรีและเป็นเอกราช "อย่างแท้จริง" เนื่องจากแนวคิดที่กำลังแบ่งแยกฝรั่งเศสอยู่ในปัจจุบันไม่ใช่อุดมการณ์ทางการเมือง แต่คือ "กระแสโลกาภิวัฒน์" กับ "การยึดติดในความรู้สึกเกี่ยวกับชาติ" ที่มากเกินไปทั้งสองแบบ ถ้อยแถลงดังกล่าวของเลอ แปน มีขึ้นหลังการประกาศ "พันธสัญญา 144 ข้อ" เมื่อวันเสาร์ ที่เป็นแนวนโยบายของเธอและพรรคเอฟเอ็นหากชนะการเลือกตั้ง ซึ่งสาระสำคัญรวมถึงการออกจากยูโรโซน การลงประชามติออกจากสหภาพยุโรป ( อียู ) ภายใน 6 เดือนหลังรับตำแหน่งผู้นำฝรั่งเศส การถอนตัวออกจากองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ ( นาโต ) การเพิ่มความเข้มงวดในการทำสัญญาจ้างแรงงานต่างชาติ และการเพิ่มสวัสดิการบำนาญ ทั้งนี้ ฝรั่งเศสจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรกในวันที่ 23 เม.ย. นี้ และผู้สมัครที่ได้รับคะแนนสูงสุด 2 คนจะไปตัดสินกันในการเลือกตั้งรอบสุดท้าย ที่จะมีขึ้นในวันที่ 7 พ.ค. โดยหลายฝ่ายเชื่อว่าผู้สมัครที่จะเข้าสู่รอบชิงดำคือเลอ แปน กับนายเอ็มมานูเอล มากรอง อดีตรมว.กระทรวงเศรษฐกิจ วัย 39 ปี ซึ่งลงสมัครในนามอิสระ ด้านประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ จากพรรคสังคมนิยม ยังคงสามารถลงสมัครได้ตามรัฐธรรมนูญ แต่ผู้นำคนปัจจุบันวัย 62 ปี ปฏิเสธแล้ว หลังคะแนนนิยมตกต่ำอย่างหนัก Source: เดลินิวส์ออนไลน์ https://www.nytimes.com/…/marine-le-pen-trump-populism-fran… ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 6, 2017 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
