panattp 0 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 15, 2011 (มีการแก้ไข) ผวามะกันออกคิวอี3หนุนบาทแข็ง-ทองนิวไฮ ครึ่งปีต่างชาติทิ้งหุ้นไทย1.4หมื่นล. รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET) ยังคงแสดงศักยภาพการเติบโตใน 6 เดือนแรกของปี"54 ด้วยมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยรายวันเพิ่มขึ้นถึง 43.69% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และอยู่ในอันดับต้นของภูมิภาค ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาดอนุพันธ์ทำสถิติสูงสุดใหม่นับตั้งแต่เริ่มเปิดซื้อขาย แม้จะได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบภายในและภายนอกประเทศ ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ไทยยังคงรักษาอัตราเงินปันผลตอบแทนสูงที่สุดในภูมิภาคต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 โดยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของตลาดหลักทรัพย์ไทย เพิ่มขึ้น 2.14% จาก สิ้นปี"53 มาอยู่ที่ 8,512,876 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิ.ย.ตามการปรับตัวขึ้นของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย และจำนวนบริษัท จดทะเบียน ขณะที่ ข่าวตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอเพิ่มขึ้น 45.71% จากสิ้นปี"53 มาอยู่ที่ 80,327 ล้านบาท โดยในช่วง 6 เดือนแรก ดัชนีหลักทรัพย์กลุ่มเทคโนโลยีมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดเมื่อเทียบกับสิ้นปี"53 ตามด้วยกลุ่มเกษตรและอาหาร สำหรับอุตสาหกรรมที่ปรับลดลงมีเพียง 2 กลุ่ม คือกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ทั้งนี้ จากปัจจัยลบทั้งภายในและภายนอกประเทศในช่วงไตรมาส 2/54 ทำให้นักลงทุนต่างประเทศมีสถานะขายสุทธิในตลท.ในช่วง 6 เดือนแรก รวม 14,803 ล้านบาท ซึ่งในเดือนพ.ค.การขายสุทธิของผู้ลงทุนต่างประเทศปรากฏทั่วทั้งภูมิภาค เนื่องจากความกังวลต่อการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือในระยะยาวของกรีซ ส่วนเดือนมิ.ย. ความไม่แน่นอน ทางการเมืองภายในประเทศไทยส่งผลให้ผู้ลงทุนต่างประเทศขายสุทธิต่อเนื่อง และทำให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนมิ.ย. ปรับตัวลดลง 3.01% เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนพ.ค. มาอยู่ที่ 1,041.48 จุด แต่เมื่อเทียบกับสิ้นปี"53 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ยังคงปรับเพิ่มขึ้น 0.84% น.ส.วงษ์วธู โพธิรัชต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงินและบริหารเงินสำรอง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธปท. ขึ้น 0.25% เป็นเรื่องที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว จึงไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำให้เงินบาท เมื่อวันที่ 14 ก.ค.แข็งค่าขึ้น แต่เป็น เพราะข่าวที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาระบุว่าเฟดอาจหันกลับมาใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงปริมาณ (คิวอี 3) อีกครั้ง โดยค่าเงินบาทไม่ได้แข็งค่าขึ้นเพียงสกุลเดียว แต่แข็งค่าไปในทิศทางเดียวกับสกุลอื่นในภูมิภาค ซึ่งค่าเงินบาทเมื่อวันที่ 14 ก.ค.อยู่ที่ 30.02-30.11 บาทต่อเหรียญสหรัฐ "ข่าวคิวอี 3 ทำให้นักลงทุนลดความเสี่ยงการลงทุนในเงินเหรียญสหรัฐ และมาลงทุนในสินทรัพย์อื่น ทำให้ราคาทองคำในตลาดโลกปรับเพิ่มทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ตรงนี้ก็มีส่วนทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น" น.ส.วงษ์วธู กล่าว ส่วนราคาทองคำเมื่อวันที่ 14 ก.ค. ปรับเพิ่มขึ้นทำสถิติสูง สุดเป็นประวัติการณ์ (นิวไฮ) โดยทองคำแท่งขายออกบาทละ 22,600 บาท ซื้อเข้าบาทละ 22,500 บาท ส่วนทองรูปพรรณซื้อเข้าบาทละ 22,179.08 บาท ขายออกบาทละ 23,000 บาท http://www.smilefine.com ถูกแก้ไข กรกฎาคม 15, 2011 โดย panattp อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น