ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
Chantima

ความแตกต่างของการเจ็บคอจากการติดเชื้อไวรัสและการเจ็บคอที่ไม่ติดเชื้อไวรัส

โพสต์แนะนำ

577411844_.jpeg.7e901e72a4b10614d39069e960656662.jpeg

อาการเจ็บคอ เป็นความเจ็บป่วยของบริเวณเนื้อเยื่อในลำคอ ต่อมทอนซิล กล่องเสียงและส่วนอื่นๆ ที่ทำให้เกิดอาการเจ็บ คัน หรือระคายเคืองภายในลำคอ และมักมีอาการมากขึ้นขณะกลืนน้ำลาย รวมถึงอาจทำให้ไอและเสียงเปลี่ยนไปได้เช่นกัน ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้เจ็บคอมาก จะมาจากการติดเชื้อไวรัส จากไข้หวัด ซึ่งการเจ็บคอจากเชื้อไวรัสจะสามารถหายได้เองภายใน 5-7 วัน โดยไม่จำเป็นต้องกินยาปฏิชีวนะ ซึ่งแตกต่างจากการเจ็บคอที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่จะมีอาการนานกว่า และต้องรับประทานยาปฏิชีวนะตามที่แพทย์สั่งต่อเนื่องจนหมด ส่วนการเจ็บคอที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ ก็อาจจะเกิดจากโรคบางโรคที่สามารถทำให้เกิดอาการเจ็บคอหรือคออักเสบได้ เช่น ไซนัส ภูมิแพ้ กรดไหลย้อน รวมไปถึงพฤติกรรมบางอย่างที่ส่งเสริมให้เกิดอาการเจ็บคอ เคืองคอได้ เช่น สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ ชอบรับประทานอาหารทอดๆ มันๆ หรืออาหารรสจัด ทั้งนี้ทั้งนั้นอาการเจ็บคอมีทั้งที่เป็นอาการหนักที่ต้องไปพบแพทย์ด่วน กับที่อาการไม่หนักสามารถทำการรักษาด้วยตนเองได้โดยอาการที่เป็นหนักที่ต้องพบแพทย์มีดังนี้

รวมอาการเจ็บคอที่ต้องรีบไปพบแพทย์

      เจ็บคอมาก คอแดง ร่วมกับมีไข้

      เจ็บคอ ร่วมกับหายใจและกลืนลำบาก

      เจ็บคอและมีอาการปวดหู ปวดศีรษะ

      เจ็บคอ เสียงแหบ มีเลือดปนเสมหะ หรือน้ำลาย

วิธีรักษาอาการเจ็บคอเบื้องต้น

การรักษาอาการเจ็บคอจะมีวิธีการรักษาตามสาเหตุของอาการเจ็บคอ ได้แก่

1.    การเจ็บคอจากการติดเชื้อไวรัส โดยปกติจะสามารถหายได้เองภายในเวลาไม่เกิน 7 วัน อาจจะใช้ยาหรือ spray ฉีดพ้นคอเพื่อบรรเทาอาการเจ็บคอก็ได้ อย่าง สเปร์ย ของโพรโพลิส ที่สามารถฉีดพ้นได้ทั้งกับเด็ก และผู้ใหญ่ แต่หากเป็นเด็กควรระมัดระวังในการใช้ยาแอสไพรินหน่อย เพราะอาจมีผลข้างเคียงที่รุนแรงต่อเด็กได้

2.    การเจ็บคอจากการติดเชื้อแบคทีเรีย หากอาการไม่หายไปเองภายใน 7 วัน และมีอาการอื่นปรากฏร่วมด้วย เช่น มีไข้ เสมหะมีเลือดปะปน รวมถึงอาการอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากเจ็บคอ ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อปรึกษาและรับคำแนะนำในการรักษาต่อไป

3.    ไม่ได้เกิดจากเชื้อไวรัส เกิดจากผลกระทบจากโรคอื่น หรือเกิดจากอาการภูมิแพ้ก็ควรหลีกเลี่ยงสารหรือวัตถุที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้และรักษาตามอาการต่อไป

การป้องกันอาการเจ็บคอ สามารถทำได้หลายวิธี จากการดูแลตนเองในเรื่องสุขอนามัยในชีวิตประจำวัน และหลีกเลี่ยงสถานที่หรือสิ่งของที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย

      ไม่ใช้อุปกรณ์และของต่าง ๆ ร่วมกับผู้อื่น

      ล้างมือก่อน-หลังทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อป้องกันแบคทีเรีย

      ดูแลสุขอนามัยภายในบ้านให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก

      ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อ 1 วัน ผู้หญิง ควรดื่มวันละประมาณ 2.7 ลิตรต่อวัน หรือประมาณ 11 แก้วครึ่ง ผู้ชาย ควรดื่มวันละประมาณ 3.7 ลิตรต่อวัน หรือประมาณ 15 แก้วครึ่ง  (คำแนะจากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ)

      พยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้ เช่น ฝุ่น ขนสัตว์ เกสรดอกไม้ และสารเคมีต่าง ๆ

      หลีกเลี่ยงการสูดดมควันต่าง ๆ เช่น ควันจากยานพาหนะ หรือควันบุหรี่

           ทั้งนี้หากมีอาการเจ็บคอนานกว่า 2 สัปดาห์ รับประทานยาแล้วยังไม่หาย หายใจลำบาก กลืนไม่ได้จนน้ำลายไหล ควรรีบพบแพทย์เพราะอาจเป็นอาการบ่งชี้โรคอื่นๆ ที่ไม่ใช่เพียงโรคไข้หวัดทั่วไป จะเห็นได้ว่าอาการเจ็บคอสามารถบ่งชี้โรคอื่นๆ ได้หลายโรค ดังนั้นหากมีอาการเจ็บคอมากผิดปกติ และมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วยไม่ควรนิ่งนอนใจ ควรรีบพบแพทย์หรือปรึกษาเภสัชกรก่อนการรับประทานยาทุกครั้ง เพราะการรับประทานยาในกรณีที่ไม่จำเป็นอาจทำให้ร่างกายทำงานหนักขึ้น อีกทั้งยังมีโอกาสดื้อยาในอนาคตอีกด้วยค่ะ

#เจ็บคอมาก

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...