บรรยากาศทองคำ ณ ช่วงเวลานี้ BY Rจานอั๋น

[jewjang40 5,712]

ดีคะจานอั๋น เพื่อนๆ

 

Good Morning News 25 กันยายน 2555 - วรวรรณ ธาราภูมิ

 

 

โดย Analai Tone เมื่อ 24 กันยายน 2012 เวลา 23:32 น. ·

 

 

 

• นายมาริโอ มอนติ นายกรัฐมนตรีอิตาลีกล่าวว่า ปัญหาของอิตาลีจะไม่ส่งผลคุกคามต่อเสถียรภาพของยูโรโซนอีกต่อไป เนื่องจากการปฏิรูปมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาลในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา และปี 2555 นี้จะเป็น "ปีแห่งการเติบโตทางเศรษฐกิจ" สำหรับอิตาลี อย่างไรก็ตาม นายมอนติกล่าวว่า การที่จะแก้ไขวิกฤตหนี้ได้นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องกระตุ้นประสิทธิภาพด้านการผลิตและความสามารถด้านการแข่งขัน ซึ่งขณะนี้ยังคงไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
  

• สื่อของเยอรมนีรายงานว่า รัฐบาลของประเทศสมาชิกยูโรโซนวางแผนที่จะเพิ่มเงินทุนของกองทุนรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) สู่ระดับ 2 ล้านล้านยูโร เพื่อช่วยเหลือประเทศสมาชิกที่ประสบปัญหา โดยในปัจจุบัน ESM มีวงเงินอยู่ที่ 5 แสนล้านยูโร โดยแผนการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากรมว.คลังเยอรมนี อย่างไรก็ตาม มีบางประเทศได้แสดงท่าทีคัดค้าน เช่นรัฐบาลฟินแลนด์มีความวิตกว่าแผนดังกล่าวจะเป็นการละเมิดสนธิสัญญาของ ESM จึงควรได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาของประเทศก่อน
  

• สถาบัน Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีในเดือนก.ย.อยู่ที่ 101.4 จุด ลดลงจาก 102.3 จุดในเดือนส.ค. เป็นการปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน ทางด้านดัชนีการคาดการณ์แนวโน้มทางธุรกิจของเดือนก.ย.อยู่ที่ 93.2 จุด ลดลงจากระดับ 94.2 จุดในเดือนก่อนหน้า ข้อมูลความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีที่อ่อนแอลงในเดือนก.ย.เป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจของเยอรมนีมีแนวโน้มที่จะตกอยู่ในภาวะย่ำแย่ต่อไปในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้
  

• สำนักงานสถิติแห่งชาติของอิตาลี (Istat) เปิดเผยว่า อิตาลีขาดดุลการค้ากับประเทศนอกกลุ่มอียู เป็นมูลค่า 973 ล้านยูโรในเดือนส.ค.หลังจากที่เกินดุลการค้า 1.836 พันล้านยูโรในเดือนก.ค. แต่ตัวเลขดุลการค้าของอิตาลีนับว่าปรับตัวดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับการขาดดุล 2.51 แสนล้านยูโรในเดือนส.ค.ปีที่แล้ว
  

• แอปเปิล อิงค์ สามารถขาย iPhone 5 ได้มากกว่า 5 ล้านเครื่องภายในการเปิดขาย 3 วันแรก ทำลายสถิติยอดขาย จำนวน 4 ล้านเครื่องของiPhone 4S ในช่วงเปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว โดยแอปเปิลได้เริ่มวางจำหน่าย iPhone 5 ในสหรัฐ เยอรมนี ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และจะจำหน่ายในกว่า 100 ประเทศภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์ได้ประเมินว่า ยอดขาย iPhone 5 น่าจะสูงถึง 6.5 ล้านเครื่อง ถ้าหากมีสินค้าพร้อมจำหน่ายมากกว่านี้
  

• รัฐมนตรีคลังอินโดนีเซียกล่าวว่า รัฐบาลอินโดนีเซียจะเผชิญกับความยากลำบากในการเพิ่มรายได้จากการจัดเก็บภาษีตามเป้าที่ 13.5% ของจีดีพี เนื่องจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของอินโดนีเซียอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณการส่งออกและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลง ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการด้านการเงินของสภาผู้แทนราษฎรอินโดนีเซีย ได้มีมติที่จะกำหนดสัดส่วนรายได้จากภาษีสำหรับปี 56 ไว้ในช่วง 12.75-13.5% ของจีดีพี
  

• ศูนย์ศึกษาว่าด้วยจีนในเศรษฐกิจโลก (CCWE) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวน้อยลงในช่วงไตรมาส 4 หลังจากรัฐบาลประกาศใช้มาตรการต่างๆในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยคาดว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัวได้ 7.8% ตลอดทั้งปี 55 หลังจากที่ขยายตัว 7.7% ในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี โดยคาดว่าการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรจะฟื้นตัวขึ้นหลังจากรัฐบาลอนุมัติโครงการสาธารณูปโภคเพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ เป็นมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านหยวนในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ CCWE คาดว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวประมาณ 8% ในปี 2556
  

• สมาคมอุตสาหกรรมถ่านหินจีนเปิดเผยยอดสต็อกถ่านหินของจีน ณ สิ้นเดือนส.ค.ลดลงเล็กน้อยหลังจากที่พุ่งสูงในเดือนมิ.ย. โดยยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของหลายปีก่อน และภาคอุตสาหกรรมถ่านหินของจีนกำลังเผชิญกับความยากลำบากในการลดปริมาณสต็อก ส่วนปริมาณการส่งมอบถ่านหินโดยทางรถไฟของจีนยังปรับตัวลงต่อเนื่อง 3 เดือนติดต่อกันนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.55 โดยปริมาณการขนส่งถ่านหินโดยทางรถไฟในเดือนส.ค.ลดลง 11.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนถึงแนวโน้มความต้องการถ่านหินจากจีนที่กำลังซบเซา
  

• นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าธปท.กล่าวว่า ว่า ตลาดได้มีการ price in การใช้มาตรการ QE3 ของธนาคารกลางสหรัฐฯล่วงหน้าไปแล้ว จึงส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นเพียง 1-2% ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องหรือไม่ เนื่องจากเฟดไม่ได้มีการประกาศระยะเวลาสิ้นสุดการใช้มาตรการที่ชัดเจน นอกจากนี้ นายประสารมองว่า ถ้ามีการลดดอกเบี้ยนโยบายในขณะนี้อาจเป็นการส่งสัญญาณที่ผิด เนื่องจากขณะนี้สินเชื่อในระบบสถาบันการเงินยังขยายตัวสูงตามแนวโน้มเศรษฐกิจที่ขยายตัวได้ต่อเนื่อง การลดดอกเบี้ยนโยบายอาจไม่ได้ส่งผ่านนโยบายได้ดีเท่าที่ควร และยังไม่ได้สร้างผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ
  

• SET Index ปิดที่ 1,284.30 จุด ลดลง 1.96 จุด หรือ 0.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 34,651 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 271 ล้านบาท โดยดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงเล็กน้อยเช่นเดียวกับตลาดหุ้นประเทศเพื่อนบ้าน โดยหุ้นที่ทำให้ดัชนีปรับตัวลดลงได้แก่ หุ้นในกลุ่มพลังงาน ซึ่งปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันที่ถูกการขายทำกำไรหลังการประกาศใช้ QE3 ส่วนหุ้นที่ปรับตัวขึ้นเป็นกลุ่มธุรกิจที่อิงกับความต้องการในประเทศเช่น กลุ่มธนาคารและกลุ่มพาณิชย์
  
• 
  

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย โดยส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในในช่วงระหว่าง 0.00% ถึง 0.01% ในวันนี้มีการประมูลพันธบัตรธปท. รุ่นอายุ 1 เดือน 3 เดือน และ 6 เดือน มูลค่ารวม 75,000 ล้านบาท
  

[jewjang40 5,712]

[aunson 1,403]

สวัสดีครับทุกคน สวัสดีตอนเย็นของวันที่ 25/9/2555 เวลา 10.36 น.

 

เมื่อวานราคาทองคำ ยังไม่ขยับไปไหนมาก นะครับ

 

โดยมีราคาเปิดตลาดอยู่ที่ 1771.92 เหรียญ มีราคาสูงสุดที่ 1772.13 เหรียญ

 

มีราคาต่ำสุดที่ 1755.50 เหรียญ ปิดตลาดที่ 1764.13 เหรียญ รวมทั้งวันวิ่งทั้งหมด 17 เหรียญ

 

แต่มีสัญญา ทั้งหมดตลอดวันที่ 61237 สัญญา ลดลง แค่ 55 สัญญา ตรงนี้ละครับ

 

ตรงที่ลดลง 55 สัญญา .... (โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่ามันผิดปกติ นิดหน่อยครับ แต่ยังนึกไม่ออกครับ ว่าคืออะไร )

 

เพราะถ้าดูจาก การเข้าซือ้และขายในแต่ละวัน แล้ว น้อยมากครับ ที่จำนวน Volume การซือ้-ขาย

 

จะใกล้เคียงกันแบบนี้ โดยที่จำนวน เหรียญที่วิ่งขึ้นและลง ต่างกัน (ต่างกัน 5 เหรียญ Volume แต่ ต่างกันเพียง 55 สัญญา )

 

แต่ถ้าผมไม่คิดมากไป... ก็อาจจะเกิดจากนักลงทุน ต่าง ๆ พอใจ ราคา ณ ระดับนี้กันอยู่ ก็ยังพอมีความเป็นไปได้อยู่ครับ จึงเข้ามาซือ้-ขาย กันตามปกติ

 

ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาทองคำเมื่อวานก็เป็นไปในลักษณะ Down Trend ลงทดสอบแนวรับ

 

ทำให้วันนี้ ต้องดูกลับมาดูกันที่แนวต้านและแนวรับในระดับ ต่าง ๆ กันอีกครั้ง ว่าราคาทองคำจะเป็นไปในทิศทางไหนต่อไป

 

แนวต้านแนวรับ

 

แนวต้าน 1763-1766 รอผ่านไปให้ได้ก่อนครับ ***** 1773-1777 ไม่ผ่านระวังแรงขาย ***1780-1785 ระวังแรงขาย เอาไว้มากมาก อีกครั้ง เป้าหมาย 1800

 

สรุป แนวต้าน เน้น การผ่าน 1766 ให้ได้ก่อนครับ หรือไม่ก็เน้น การกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1770 อีกครั้ง ถ้ายืนได้ แนวรับ ก็จะขยับสูงขึ้นมา

 

ทำให้ ราคาทองคำมี โอกาศสะสมกำลังแล้วขึ้นทดสอบแนวต้านหลักแถวโซน 1780 ขึ้นไปอีกครั้ง

 

แนวรับ 1763-1760 ดูว่ารับอยู่หรือไม่ ***** 1757-1755 ดูว่าจะหลุดหรือไม่ ***ถ้าหลุด 1750 หลุดอีก 1747-1743 ****1730-1700****

 

สรุป แนวรับ ที่ผมให้แนวรับกับแนวต้านใกล้เคียงกันมากนั้น มีเหตุและผล ดังนี้ครับ

 

1. แนวต้าน สืบเนืองจาก เมื่อวานราคาทองคำลงไปทดสอบแนวรับโซน 1755 และรับอยู่จึงดีดกลับขึ้นมาได้ แต่ยังไม่สามารถ ผ่าน 1766 ไปได้

 

แนวต้านนี้ จึงต้อง รอการทดสอบเพื่อผ่านไปได้ ก่อน ผมถึงจะขยับฐาน แนวต้าน ขึ้นใหม่อีกครั้ง แต่ไม่่ผาน ผมยังคงถือว่า ราคา 1766-1763 นี้ยังคงเป็นแนวต้าน

 

อยู่ครับ ต้องรอผ่านไปให้ได้ ไม่ผ่านระวัง แรงขายออกมา ***

 

2. แนวรับ 1763-1760 ทำไม ใช่ไหมครับ หลายคนเคยได้ยิน แนวต้านกลายเป็นแนวรับ แนวรับกลายเป็นแนวต้าน กันมาบ้างแล้ว

 

แต่ในสิ่งที่ผมจะบอก ณ ที่นี้ก็คือ ว่า ณ ระดับราคานี้ 1763 -1760 นี้คงต้องติดตามดูว่าจะหลุดหรือจะสามารถยืนอยู่ได้หรือไม่ .

 

ถ้าไม่หลุดหรือยืนได้ ราคาก็จะสามารถผ่านแนวต้านขึ้นไปได้ แต่ถ้าหลุดก้คงต้องดูและลุ้นแนวรับ ถัดไปเลยว่าจะเอาอยู่อีกหรือไม่

 

หรือ ความหมาย ของผมแบบง่าย ก็คือ ถ้านักลงทุน จะซื้อ แถว ๆ นี้ 1763-1766 ก้ควรจะรู้ว่าเรากำลังเสี่่ยงซือ้ ณ ราคาที่แนวต้านอยู่

 

ดังนั้น เมื่อเข้าซือ้ตรงแนวต้าน ก็ต้องมีเป้าหมาย อย่างเดียว คือ การผ่านแนวต้านตรงนี้ ขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปนั้นเองครับ

 

หรือ พูดอีกรูปแบบ ก็คือ ตอนนี้ ตลาดยัง Side ways มีทิศทางไม่แน่นอน ซื่งอาจจะขึ้นหรือลง ก็ได้ โดยวันนี้จะมีแนวต้านและรับ

 

แถว ๆ โซน 1760-1766 เป็นจุดที่ตัดสินใจ(ระยะสั้นรายวัน) ผ่านก็ขึ้นต่อ หลุดก็ลงต่อนั้นเองครับ

 

แต่ถ้าไม่หลุดกรอบ 1750-1780 ก็ยังคง side ways ในกรอบกันต่อไป

 

กรอบเล็ก 1750-1780 = 30 เหรียญ

 

กรอบใหญ่ 1740-1790 = 50 เหรียญ

 

วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญดังนี้

 

1. เวลา 20.00 น. ราคาที่อยู่อาศัยในเขตเมืองใหญ่ คาดการณ์เป็นผลบวกต่อราคาทองคำเล็กน้อย

 

2. เวลา 20.00 น. ประธาน ECB แถลงการณ์ รอฟังการแถลงการณ์

 

3. เวลา 21.00 น. ราคาที่อยู่อาศัย คาดการณ์เป็นผลบวกต่อราคาทองคำเล็กน้อย

 

4. เวลา 21.00 น. ความเชื่อมั่นผู้บริโภค คาดการณ์เป็นผลบวกต่อราคาทองคำเล็กน้อย

 

5. เวลา 21.00 น. ตัวเลขภาคการผลิต คาดการณ์เป็นผลบวกต่อราคาทองคำเล็กน้อย

 

 

โชคชะตาฟ้าลิขิต ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะคน

 

การให้ที่ยิ่งใหญ่ คือการให้ต่อไปไม่รู้จบ

[jewjang40 5,712]

[pichthiam 4]

ขอบคุณครับ

[thoney87 92]

ขอบคุณครับอาจารย์อั๋น

[ขุนศึกปทุม 301]

ขอบคุณ ขอรับ อ.อั๋น

[fung 40]

ขอบคุณครับ R จานอั๋น

[Pasaya 499]

ขอบคุณค่ะ R จานอั๋น

[nice999*-* 7]

ขอบคุณค่ะ

[jewjang40 5,712]

ดีคะจานอั๋น เพื่อนๆ

 

Good Morning News 26 กันยายน 2555 - วรวรรณ ธาราภูมิ

 

 

โดย Analai Tone เมื่อ 26 กันยายน 2012 เวลา 6:55 น. ·

 

 

 

• G20 เห็นพ้องว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงปริมาณของประเทศพัฒนาแล้วทำได้เพียงซื้อเวลาไม่ให้เศรษฐกิจโลกเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยเท่านั้น และรัฐบาลในแต่ละประเทศยังจำเป็นต้องกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจให้มากขึ้นกว่านี้
  

• รมว.คลังกรีซ กล่าวว่า หากมาตรการรัดเข็มขัดและการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจที่กำลังดำเนินการอยู่ ไม่บรรลุเป้าหมายตามระยะเวลาที่กำหนด กรีซควรเลือกใช้ช่องทางกู้เงินเพิ่มจาก ธ.กลางยุโรป (ECB) เพื่ออุดช่องว่างทางการเงินในปีต่อๆ ไป
  

• ECB และ บุนเดสแบงก์ของเยอรมนี อยู่ระหว่างตรวจสอบความถูกต้องตามกฏหมายของโครงการซื้อพันธบัตรใหม่ของ ECB ทั้งสัดส่วนและระยะเวลาว่าขัดต่อสนธิสัญญาของสหภาพยุโรป (EU) หรือไม่ที่จะไปให้เงินอุดหนุนการลดยอดขาดดุลของรัฐโดยตรง
  

• IMF เรียกร้องให้ยูโรโซนสร้างเอกภาพในภาคธนาคาร และเร่งดำเนินการแก้ปัญหาวิกฤตหนี้ยุโรปตามแผนที่ได้ประกาศไว้ เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการแก้ปัญหาวิกฤตหนี้ยุโรปเป็นปัจจัยเสี่ยงกดดันเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ สหรัฐก็เป็นความเสี่ยงใหญ่ต่อเศรษฐกิจโลกเช่นกันจากการที่ต้องควบคุมการใช้จ่ายงบประมาณอย่างเคร่งครัด ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นในปีหน้า
  

• โจเซฟ สติกลิทซ์ นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล กล่าวว่า ยูโรโซนจะต้องร่วมกันรับผิดชอบหนี้ที่สมาชิกก่อไว้ในอดีต เพื่อลดต้นทุนทางการเงินของประเทศที่ประสบปัญหาหนี้สาธารณะทั้งหลาย และต้องสร้างเอกภาพของภาคสถาบันการเงินด้วยการใช้ระบบประกันเงินฝากเพื่อป้องกันการแย่งกันระดมเงินฝาก ไม่เช่นนั้นประเทศที่อ่อนแออยู่แล้วจะยิ่งอ่อนแอลงไปอีก และทั้งระบบก็จะล่มสลาย
  

• อาร์เจนตินามีเวลา 3 ด.เพื่อหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรจาก IMF หลังจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่ไม่เป็นจริง โดยต้องปรับปรุงคุณภาพตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ
  

• ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าคาดการณ์ในเดือน ก.ย.และทำสถิติสูงสุดในรอบ 7 เดือน โดยการปรับตัวขึ้นของราคาบ้านและตลาดหุ้นต่างช่วยหนุนความเชื่อมั่นผู้บริโภค ส่งผลให้ภาคครัวเรือนเพิ่มการใช้จ่ายซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 70% ของเศรษฐกิจสหรัฐ ในขณะที่อัตราว่างงานที่ยังคงสูงกว่าระดับ 8% และค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นในวงจำกัดยังฉุดรั้งการขยายตัว
  

• ธ.กลางจีน ตัดสินใจอัดฉีดสภาพคล่อง 290 พันล้านหยวน (46 พันล้านดอลลาร์) เข้าสู่ภาคธนาคารผ่านการซื้อคืนตราสารหนี้อายุ 7 วัน ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดนับแต่ปี 2004 เพื่อรองรับความต้องการเงินสดที่สูงขึ้นในช่วงวันหยุดยาว
  

• IMF คาดว่า มาตรการของจีนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจนั้นจะเป็นความช่วยเหลือในระยะสั้น แต่ในระยะยาวต้องกระตุ้นการบริโภคและอุปสงค์ในประเทศ เพื่อแทนที่การขยายตัวของการส่งออกที่ชะลอลง
  

• จีนเริ่มขยายการลงทุนสู่ภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะการขอสัมปทานที่ดินเพื่อปลูกพืชวัตถุดิบ เช่น ยางพารา และมันสำปะหลัง ขณะที่ ลาว กัมพูชา รวมถึงบางประเทศได้เปิดรับการลงทุนของจีนด้วยการขยายอายุสัมปทานที่ดินจากเดิม 70 ปี เป็น 99 ปี ทำให้บริษัทสัญชาติจีนกว่า 100 แห่ง เข้ารับสัมปทานที่ดินแล้วกว่า 6 ล้านไร่
  

• จีน-ญี่ปุ่น เตรียมเจรจาคลี่คลายความตึงเครียดกรณีข้อพิพาทเหนือหมู่เกาะเตียวหยู (เซ็นโกกุ) อีกครั้ง หลังทั้ง 2 ฝ่ายประสบความล้มเหลวจากการเจรจาวานนี้ โดยจีนชี้ว่าการซื้อหมู่เกาะเตียวหยูโดยรัฐบาลญี่ปุ่นเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดแจ้ง
  

• ผลสำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์จากหน่วยงานวิจัยภาคเอกชนญี่ปุ่น 18 แห่ง คาดการณ์ว่า ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่น (ทังกัน) อาจลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ไตรมาส เนื่องจากภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจในยุโรปและจีน รวมถึงความต้องการรถยนต์ที่น้อยเกินคาด
  

• ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเกาหลีใต้เดือน ก.ย.ยังคงอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน แม้คาดว่าเงินเฟ้อได้ลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายปี 2010 ไปแล้วก็ตาม เนื่องจากผู้ บริโภคคาดว่าเศรษฐกิจและความเป็นอยู่จะย่ำแย่ลง ขณะที่ IMF คาดว่า เศรษฐกิจเกาหลีใต้จะขยายตัว 3.0% ในปีนี้ ชะลอตัวลงจาก 3.6% ในปีที่แล้ว หลังภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวได้สกัดอุปสงค์สินค้าส่งออกของเกาหลีใต้
  

• ธ.กลางสิงคโปร์ (MAS)สั่งการให้ ธ.พาณิชย์ ทบทวนวิธีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยสำหรับสัญญาอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้าที่ไม่มีการส่งออก (NDF) เพื่อปกป้องความเป็นเอกภาพของระบบการเงิน และให้รายงานความผิดปกติใดๆ ในทันทีที่พบเห็น กับให้ดำเนินการด้านวินัยที่เหมาะสมต่อพนักงานที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกตินั้นๆ (เป็นการทบทวนเพิ่มเติมต่อการกำหนดอัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงก์สิงคโปร์ (Sibor) และอัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงก์อื่นๆ)
  

• ก.พาณิชย์ของไทย ยังคงเป้าส่งออกในปีนี้ว่าจะขยายตัวได้ 15% เนื่องจากคาดว่าจะมีคำ สั่งซื้อสินค้าจากประเทศคู่ค้ามากขึ้น แม้ปัญหาเศรษฐกิจในยุโรปยังเป็นปัจจัยลบกดดันการส่ง ออกของไทยในปีนี้ โดยจะประชุมกำหนดยุทธศาสตร์ส่งออกในช่วงที่เหลือของปีนี้และปีหน้า ซึ่งหากสามารถทำให้มูลค่าการส่งออกต่อเดือนในช่วงเหลือของปีในระดับ 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ อาจทำให้ตัวเลขการส่งออกทั้งปีนี้โตได้อีก 4-5%
  

• ก.คลัง ปรับลดเป้า GDP ปีนี้ลงเหลือ 5.5% จากเดิม 5.7% เนื่องจากการส่งออกในปีนี้จะขยายตัวลดลงเหลือเพียง 4.5% อย่างไรก็ตาม การบริโภคยังเติบโตสูงสุดนับจากปี 2547 โดยคาดว่าจะเติบโตได้ 5.2% ส่วนการลงทุนภาคเอกชนยังเติบโตเป็นประวัติการณ์ที่ 14.1%
  

• ไทยจะเปิดตลาดซื้อขายคาร์บอนเครดิตแบบสมัครใจในเดือน ต.ค.2557 และจะเริ่มปรึกษากับผู้ปล่อยก๊าซคาร์บอนในประเทศเพื่อขอความสนับสนุนสำหรับโครงการนี้ โดยจะยื่นข้อเสนอภายในสิ้นปีเพื่อควบคุมการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่รขยายตัวอย่างรวดเร็ว ขณะที่จีน เกาหลีใต้ และเวียดนามต่างก็มีแผนที่จะเปิดโครงการตลาดคาร์บอนแบบภาคบังคับ
  

• SET Index ปิดที่ 1,287.41 จุด เพิ่มขึ้น 3.11 จุด หรือ 0.24% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 34,856 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 814 ล้านบาท ทั้งนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยมีแรงหนุนจากการปรับเพิ่มขึ้นของหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และพาณิชย์ ส่งผลให้ดัชนี ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่นักลงทุนบางส่วนยังชะลอการลงทุนเพื่อรอดูแนวโน้มเศรษฐกิจโลก และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาสที่ 3
  

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในช่วง -0.03% ถึง 0.01% สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุ 5 วัน และ 12.8 ปี มูลค่ารวม 71,000 ล้านบาท
  

• ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ไม่เห็นด้วยที่ ธปท. จะเข้าแทรกแซงค่าเงินบาทอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ภาวะเงินทุนไหลเข้า เพราะจะยิ่งสร้างปัญหาขาดทุนให้งบดุลของ ธปท.และกระทบต่อความยืดหยุ่นของนโยบายการเงิน ทำให้การออกนโยบายมีข้อจำกัดเพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่า แนวโน้มเงินบาทจะแข็งค่าและผันผวนมากขึ้นอย่างไม่มีข้อจำกัดว่าจะสิ้นสุดเมื่อใด เนื่องจาก FED อาจอัดฉีดเม็ดเงินไปจนถึงกลางปี 2558 หรืออีกประมาณ 30 เดือนนับจากนี้ ซึ่งจะทำให้มีเงินทุนต่างชาติไหลเข้ามาลงทุนในประเทศต่างๆ รวมทั้งไทย เพื่อแสวงหาผลตอบแทนที่สูงกว่า
  

• IMF เผยว่า เกาหลีใต้ได้เพิ่มสัดส่วนการถือครองทองขึ้นเกือบ 16 ตัน สู่ระดับ 70.44 ตันในเดือน ก.ค. เช่นเดียวกับ ปารากวัย ซึ่งเพิ่มสัดส่วนการถือครองทองในเดือน ก.ค.จากระดับไม่กี่พันออนซ์ สู่ระดับมากกว่า 8 ตัน และมีแนวโน้มต่อเนื่องที่ธนาคารกลางต่างๆ จะเข้าถือครองทองแท่งมากขึ้น
  
• ราคาทองคำที่เพิ่มขึ้นตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมาจนทำให้เกิดข้อสงสัยว่า ทองคำอยู่ในภาวะฟองสบู่หรือไม่ นั้น Michael Lewis ซึ่งเป็นนักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ที่Deutsche Bank ชี้ว่า การจะดูว่าทองคำแพงเกินไปหรือไม่นั้นให้เปรียบเทียบราคาทองคำกับราคาสินทรัพย์ประเภทอื่น ซึ่งในปัจจุบันราคาทองคำก็ยังไม่ได้สูงมากนัก (แนวคิดของ Michael Lewis คือตั้งสมมติฐานว่า ทองคำสามารถรักษาอำนาจซื้อไว้ได้ จึงเปรียบเทียบผลตอบแทนของราคาสินทรัพย์รูปแบบต่างๆ กับราคาทองคำในปัจจุบันด้วยสถิติราคาในอดีต) และได้คาดการณ์ราคาทองคำไว้ที่ $2,000/oz. โดยระบุว่าจะมาถึงในเร็วๆ นี้ ในขณะที่ CitiBank คาดว่าราคาทองคำจะขึ้นไปถึง $2,500 ภายใน 6 เดือนข้างหน้า นอกจากนี้ ความต้องการของรัฐบาลที่จะรักษาอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจจะทำให้ทองคำได้รับปัจจัยหนุนจาก 1.ปัญหาขาดดุลการคลังของสหรัฐ เพราะรัฐบาลไม่อยากลดสวัสดิการต่างๆ และ 2.การใช้นโยบาย QE ซึ่ง 2 อย่างนี้ล้วนแต่จะทำให้ความน่าเชื่อถือของเงินดอลลาร์ลดลง และเกิดประโยชน์ต่อราคาทองคำ
  

 

 

• Musawer Mansoor Ijaz (นักธุรกิจอเมริกันเชื้อสายปากีสถาน ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการ Crescent Investment Management LLC ใน New York) “ไม่มีเรื่องทำถูกหรือทำผิด ไม่มีเรื่องแพ้ตลาดหรือชนะตลาดเลย ถ้าทำเงินได้มันก็แปลว่าคุณเข้าใจและคิดในทางเดียวกับผู้เล่นในตลาด ถ้าเสียเงินก็เพราะคุณคาดเดาพฤติกรรมในตลาดผิด มันก็มีอยู่แค่นี้เอง ไม่มีทางคิดเป็นอื่น”
  
• 
  

[meng166 131]

ขอขอบใจหลายๆ

[jewjang40 5,712]

ดีคะจานอั๋น เพื่อนๆ

 

 

 

 

Good Morning News 27 กันยายน 2555 - วรวรรณ ธาราภูมิ

 

 

โดย Analai Tone เมื่อ 27 กันยายน 2012 เวลา 6:57 น. ·

 

 

 

• ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ของและการปล่อยกู้ของอิตาลีลดลงในไตรมาสแรกของปีนี้ ต่อเนื่องมาจากไตรมาส 4 ปีก่อน โดยยอดขายที่อยู่อาศัยหดตัวลง 17.2% ขณะที่ยอดขายอสังหาริมทรัพย์เชิงธุรกิจลดลง 11.8% ส่วนการปล่อยเงินกู้ลดลง 49.6% จากไตรมาสแรกปี 2554
  

• ยอดค้าปลีกของอิตาลีเดือน ก.ค.ลดลง 0.2% ถ้าเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ระดับ 3.2% เนื่องจากผู้บริโภคลดการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยรวมถึงเศรษฐกิจหดตัวต่อเนื่องจากการบริโภคในประเทศที่ตกต่ำ ท่ามกลางอัตราว่างงานสูง
  

• วานนี้สหภาพแรงงานที่ใหญ่ที่สุดในกรีซ 2 แห่ง ประท้วงมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาลอย่างหนัก อันเป็นการประท้วงด้วยคนเต็มท้องถนนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กรีซได้รัฐบาลใหม่
  

• ผู้ประท้วงในสเปนจำนวนมหาศาลได้กลับไปประท้วงบนท้องถนนอีกเป็นวันที่สองด้วยความไม่พอใจในเรื่องเดียวกับกรีซ นอกจากนี้ สเปนยังมีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากการที่ Catalonia อันเป็นแคว้นที่ร่ำรวยมากที่สุดในสเปนที่กำลังรู้สึกว่าจ่ายภาษีให้รัฐบาลมามากเกินพอแล้ว ได้เรียกร้องให้มีการกระจายอำนาจและต้องการมีอำนาจจัดการรายได้ของตนเองมากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การแยกตัวออกจากสเปนแล้วออกไปตั้งประเทศใหม่ ทั้งนี้ ความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลสเปนและรัฐบาลท้องถิ่น Catalonia ได้ส่งผลให้เกิดความยากลำบากในการโน้มน้าวชาวสเปนให้ยอมรับมาตรการรัดเข็มขัดและอาจนำไปสู่วิกฤตทางรัฐธรรมนูญ โดยธนาคารกลางสเปนเตือนว่า เศรษฐกิจสเปนกำลังอยู่ในภาวะถดถอยรุนแรงแล้ว
  

• อัตราว่างงานของโปแลนด์เดือน ส.ค.เพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 12.4% จาก 12.3% ในเดือน ก.ค.โดยเพิ่มขึ้น 109,000 คน แสดงเศรษฐกิจชะลอตัวมากขึ้น ทั้งนี้ โปแลนด์เป็นประเทศเดียวในอียูที่รอดพ้นจากภาวะถดถอยในช่วงปี 2009-2010
  

• ยอดขายบ้านใหม่เดือน ส.ค.ของสหรัฐลดลง 0.3% ไปอยู่ที่ 373,000 หลัง เทียบกับเดือนก.ค. ที่เป็น 374,000 หลัง บ่งชี้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มฟื้นตัวหลังจากที่ทรุดหนักตั้งแต่ปี 2549 โดยสต๊อกบ้านใหม่ในตลาดเดือน ส.ค. อยู่ใกล้ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์แล้ว
  

• นักเศรษฐศาสตร์เกาหลีใต้แนะนำให้เกาหลีใต้กำกับดูแลกระแสเงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการกู้ยืมในภาคธนาคารและการลงทุนในพันธบัตร เนื่องจากเป็นเงินทุนที่ไม่มีเสถียรภาพ โดยช่วงนี้ตลาดโลกมีสภาพคล่องสูงเกินไป และเงินทุนที่ไหลเข้าไปยังตลาดเกิดใหม่จะเพิ่มขึ้นในรูปของการกู้ยืมและการลงทุนในพันธบัตร
  

• ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ในเดือน ส.ค.ลดลง 2.3% ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 1% โดยอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคและขนส่ง ลดลง 7.3% และ 20.1%
  

• ฟิลิปปินส์กลับมามียอดเกินดุลการค้าในเดือน ส.ค.หลังขาดดุลติดต่อกัน 3 เดือนโดยการฟื้นตัวดังกล่าวเปิดโอกาสให้รัฐบาลใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีและช่วยลดผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ตัวเลขขาดดุลระหว่างเดือน ม.ค.-ส.ค. มียอดรวม 71,208 ล้านเปโซ คิดเป็น 1 ใน 4 ของเป้าหมายการขาดดุลตลอดปี และมีสัดส่วนเท่ากับ 2.6% ของจีดีพี
  

• ธปท.เตรียมลดเป้าหมายการส่งออกปีนี้ จากเดิมตั้งเป้าเติบโตที่ 7% เนื่องจากรายงานยอดการส่งออกของกระทรวงพาณิชย์เดือน ส.ค.ติดลบ 6.9% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำนอกจากนี้ การส่งออกที่ชะลอตัวลงอาจกระทบต่อการลงทุนและการบริโภคในประเทศ ซึ่งจะส่งผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย(GDP) ด้วย
  

• ตลาดหุ้นย่านเอเชียปิดตลาดในแดนลบ โดยดัชนี Nikkei ของญี่ปุ่น -2.03% ซึ่งต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ในขณะที่ตลาดยุโรปติดลบเช่นกัน
  

• SET Index ปิดที่ 1,274.50 จุด ลดลง 12.91 จุด หรือ 1.00% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 54,125.58 ล้านบาท และนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 6,086.42 ล้านบาท โดยดัชนีปรับตัวลดลงตามตลาดต่างประเทศท่ามกลางความกังวลเศรษฐกิจในที่ชะลอตัวและความไม่แน่นอนภายในประเทศ ทำให้ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลาดทั้งวัน
  

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในช่วง -0.07% ถึง 0.00% ด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 96,393 ล้านบาท
  

• รัฐบาลไทยวางแผนออกพันธบัตรรัฐบาล 150,500 ล้านบาท อายุ 5-50 ปี ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2556
  

• อิตาลีประมูลขายพันธบัตรระยะสั้น 9 พันล้านยูโรด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง จาก 1.585% เหลือ 1.503% สะท้อนว่านักลงทุนเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น โดยมีความต้องการเกินปริมาณขาย 1.39 เท่า
  

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสเปน 10 ปี เพิ่มขึ้น 0.25% ไปอยู่ที่ 6% เนื่องจากสถานการณ์ในสเปนทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจว่าสเปนจะสามารถขอความช่วยเหลือทางการเงินได้เร็วๆ นี้
  

• Jim Rogers
  

ผมอ่านหนังสือมาก พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกับคนอื่นก็มาก แต่วิธีเรียนรู้การลงทุนที่ดีที่สุด คือการลงทุนจริงๆ ด้วยตนเอง เพราะเวลาเราทำพอร์ตลงทุนจำลองในกระดาษเราอาจพบว่าเรา เป็นผู้ลงทุนชั้นเซียน แต่เวลาเราออกจากกระดาษมาทำจริงๆ มันคนละเรื่องกันเลย ผมไม่รู้ว่าอาชีพ อื่นจะเป็นอย่างนี้หรือไม่ แต่ในอาชีพนี้เราต้องทำมันจริงๆ ถึงจะรู้ว่าเราจะทำมันได้ดีไหม นี่ก็เพราะเรามีอารมณ์ มีความรักลุ่มหลง และกระบวนการคิดของเราจะต่างกันมากระหว่างการลงทุนในกระดาษจำลองกับเวลาที่เรามีเงินไปลงทุนจริงๆ ซึ่งเมื่อตลาดเปิดทำการเราต้องนั่งจ้องหน้าจอ เพื่อหาว่าเราจะทำอะไรกับตลาดอย่างนี้ดี

• Nouriel Rubini
  

รัฐบาลที่ไร้ประสิทธิภาพภายใต้ผู้นำที่อ่อนแอเป็นรากฐานของปัญหาที่พบในวันนี้ และการเลือกตั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่าภายใต้ระบอบประชาธิปไตยก็นำมาซึ่งนโยบายเพื่อผลในระยะสั้นของทุกรัฐบาล

 

อินโดนีเซียควรเข้าไปอยู่ในกลุ่มประเทศ BRICs ได้แล้ว ประเทศนี้มีทั้งประชาธิปไตยที่มั่นคง มีอัตราการเติบโตที่แข็งแรงและมีนโยบายมหภาคที่ดี ผมเขียนเรื่องนี้มา 2 ปีกว่าแล้ว

 

ทางรถไฟสายมรณะของยุโรปยังคงอยู่ เพียงแต่ถูกดึงให้ขบวนรถเคลื่อนไปช้าลงเท่านั้น

 

การที่ Kocherlakota เปลี่ยนแนวคิดจากสายเหยียวเป็นสายพิราบนั้น มันสะท้อนให้เห็นแล้วว่า FED กังวลกับการเติบโตของเศรษฐกิจอเมริกากับ Fiscal Cliff เพียงใด

[aunson 1,403]

สวัสดีครับทุกคน สวัสดีตอนเช้าของวันพฤหัสบดีที่ 27/9/2555 เวลา 9.48 น.

 

เมื่อวานราคาทองคำ มีการหลุดแนวรับ ลงไปให้นักลงทุนได้หวาดเสียวเล่นกันอีกแล้วนะครับ

 

เมื่อวานราคาทองคำเปิดตลาด 1760.34 เหรียญ มีราคาสูงสุดที่ 1765.39 เหรียญ

 

มีราคาต่ำสุด 1736.28 เหรียญ ปิดตลาดที่ 1752.45 เหรียญ รวมทั้งวันวิ่งรวมทั้งหมด 29 เหรียญ

 

มี Volume การซื้อ-ขาย 58927 สัญญา ลดลง 3221 สัญญา

 

ถ้าดูจาก Volume ขอเดาว่า เมื่อวาน ขาใหญ่ อาจจะเทขายออกมา เพื่อกดสัญญาณ Indicator ลง

 

ทำกำไร ระยะสั้น และ อาจจะรวมไปถึงการลงปรับฐาน ระยะสั้น เพื่อสะสมกำลังขึ้นต่อในอนาคต โดยเป้าหมาย ยังคงมองที่ 1800 เช่นเดิมครับ

 

เมื่อวานราคาทองคำ ลงมาต่ำสุด 1736-1740 ถือว่า ยังคงรักษารูปแบบขาขึ้นและปรับฐาน ระยะกลาง 1760-1740 อยู่ครับ

 

แต่ก็ระวังนิดหนึ่งนะครับ ราคาทองคำอาจจะมีโอกาศลงไปทดสอบ 1730-1700 ได้เช่นกันครับ แต่อาจจะลงไปได้ไม่นาน

 

คาดว่าถ้าลงไปจริง และนักลงทุน ยังเชื่อมั่นใน QE3 อยู่ ราคาทองคำ ณ ระดับนั้น ผมเชื่อว่า จะสามารถดีดกลับขึ้นมาได้ภายในไม่กี่วัน

 

ยกเว้น QE3 จะไม่ส่งผลต่อตลาดจริง ๆ ครับ แต่อย่างว่าครับ ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับรายใหญ่ ว่าจะใช้ ผลประโยชน์จาก QE3 อย่างไร

 

เมื่อไหร่ และ เวลาไหนแค่นั้นเอง ครับ

 

กราฟราคาทองคำตอนนี้ ถ้่่าพิจารณาจากกราฟรายวัน รายสัปดาห์แล้ว จะพบว่าราคาทองคำ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

ราคาทองคำปรับฐาน ระหว่าง 1760-1750 มาได้ ติดต่อกัน 8 วันแล้วนะครับ แต่ราคาทองคำยังไม่สามารถขึ้นต่อได้

 

เนื่องจาก ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากนักลงทุนต่าง ๆ ยังคงมองว่าราคาทองคำยังคงเกิดสัญญาณ Overbought อยู่

 

หรือ มีแรงซือ้มากเกินไป จึงส่งผลให้นักลงทุนยังไม่กล้าเสี่ยงซื้อสะสมกันเท่าไหร่

 

เมื่อราคาทองคำขึ้นไปถึงแนวต้านที่สำคัญก็จะถูกแรงขายออกมาทุกครั้ง

 

ทำให้ราคาทองคำเป็นไปในลักษณะการเก็งกำไรระยะสั้น

 

จนกว่าสัญญาณ indicator ต่าง ๆ จะเข้าสู่ โซน Oversold หลังจากนั้นนักลงทุนจะทยอยซือ้สะสมและเก็บของไว้

 

เพื่อรอขายเป้าหมาย ระยะยาว หรือ สัญญาณต่าง ๆ เริ่มเข้าสู่เขต Overbought อีกครั้งนั้นเองครับ

 

ตอนนี้ราคา สัญญาณ Indicator เริ่มลดลงกันมาบ้างแล้วนะครับ คงต้องรออีกสักระยะสัญญา indicator ต่าง ๆ ก็จะกลับเข้าสู่ปกติแล้วครับ..........

 

แนวต้านแนวรับ

 

แนวต้าน 1760 รอดูก่อนครับว่าจะผ่านไปและยืนเหนือ ได้หรือไม่ *** 1763-1766 ไม่ผานระวังแรงขาย ***** 1774-1777 ระวังแรงขายอีกครั้ง *****

 

สรุป แนวต้าน วันนี้ เน้นรอดูที่ 1760 เป็นหลักครับหากราคาทองคำยังไม่สามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1760 หรือผ่านแนวต้านตรงนี้่ไปได้

 

แนะนำให้นักลงทุนระวัง ราคาทองคำอาจจะมีการย่อตัวลงปรับฐาน ในระดับต่อไปครับ 1750-1730 หรือไม่ก็ 1730-1700 เหรียญ

 

แต่ถ้าผ่านไปได้ราคาทองคำจะกลับเข้าปรับฐานที่ 1750-1770 เช่นเดิมอีกครั้งจนกว่าฐานราคาทองคำจะเปลี่ยนไปทิศทางใดทิศทางหนึ่งครับ

 

แนวรับ 1750 ดูตรงนี้เป็นจุดเตือนหากหลุด *** 1744-1740 ดูว่าจะรับอยู่หรือไม่ ***** ถ้าไม่ 1733-1726 ปรับฐานอีกครั้ง *** 1720-1700****

 

สรุป แนวรับวันนี้ขอเน้น แถว ๆ โซน 1750-1740 ต้องไม่หลุด ถ้าหลุดแนะนำให้นักลงทุน รอดูหรือไม่ก็รอทยอยเข้าไปซือ้ ตามแนวรับ

 

แล้วเริ่มสะสมไว้เล็กน้อย โดยมองเป้าหมาย ที่ 1800 เอาไว้ ครับ แต่ตรงนั้น ต้องเป็นเงินเย็น นะครับ เงินร้อนยังไม่แนะนำให้ซือ้เก็บเท่าไหร่ ครับ

 

แนะนำเน้นไปเก็งกำไรระยะสั้นดีกว่า เพราะว่าราคาทองคำจะผันผวน ค่อนข้างมาก ในแต่ละวัน แต่ระยะกลาง-ยาว ยังคงเป็นขาขึ้นอยู่

 

แต่ระยะสั้นอาจจะมีความผันผวนราคาทองคำอาจจะมีการย่อตัวลงปรับฐาน หรือไม่ก็ มีแรงขายออกมาเป็นระยะ รอบ ๆ ในลักษณะการเก็งกำไร ต่อไป ..........

 

กรอบเล็ก 1740-1770 = 30 เหรียญ

 

กรอบใหญ่ 1740-1790 = 50 เหรียญ

 

วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญดังนี้

 

1. เวลา 19.30 น. GDP อเมริกา คาดการณ์ ไม่เปลี่ยนแปลง

 

2. เวลา 19.30 น. ยอดคำขอรับสวัสดิการ อเมริกา คาดการณ์ส่งผลลบต่อราคาทองคำ

 

 

 

โชคชะตาฟ้าลิขิต ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะคน

 

การให้ที่ยิ่งใหญ่ คือการให้ต่อไปไม่รู้จบ

[jewjang40 5,712]