บรรยากาศทองคำ ณ ช่วงเวลานี้ BY Rจานอั๋น

[aunson 1,403]

สวัสดีครับทุกคน สวัสดีตอนเย็นของวันที่ 9-10-2012 เวลา 18.37 น.

 

เมื่อวานราคาทองคำเปิดตลาดมาที่ 1779.53 เหรียญ

 

มีราคาสูงสุดที่ 1779.77 เหรียญ มีราคาต่ำสุดที่ 1766.60 เหรียญ

 

มีราคาปิดตลาดที่ 1774.44 เหรียญ รวมทั้งวันวิ่งรวมทั้งหมด 13 เหรียญ

 

มี Volume สัญญาการซื้อ-ขาย รวมทั้งหมด 52811 สัญญา ลดลง 7071 สัญญา

 

การเคลื่อนไหวของราคาทองคำเป็นไปในลักษณะ Side Ways ในกรอบ 1760-1780 ยังไม่ขยับไปไหนมาก

 

เนื่องจากส่วนหนึ่งเมื่อวานธนาคารอเมริกาปิดทำการ ด้วย

 

วันนี้คงต้องมาติดตามตลาดอเมริกากันอีกครั้ง ว่าจะมีซือ้-ขาย กันในลักษณะไหนครับ

 

แต่ระยะนี้ ถ้าราคาทองคำยังไม่มีข่าวเสริมหรือปัจจัย ต่าง ๆ เข้ามากดดัน ราคาทองคำ ทั้งด้านบวกและลบ

 

คาดว่าราคาทองคำน่าจะปรับฐานตรงนี้ 1760-1780 ไปอีกสักระยะ จนกว่า จะมีข่าวเสริมข้ามาเปลี่ยนแปลง ตลาด

 

แต่โดยภาพรวม ถึงแม้จะมีข่าวเสริมเข้ามากดดันในแง่ลบ ต่อทองคำ แต่ ผมประเมินไว้ว่า สุดท้าย มาตราการ QE3

 

จะเป็นปัจจัยหนุน ราคาทองคำให้สามารถผ่านแนวต้านหลัก 1800 ขึ้นไป เพียงแต่อาจจะต้องรอ เวลาที่เหมาะสมแค่นั้นเองครับ

 

เดือนหน้าอเมริกาจะเริ่มมีการเลือกตั้งประธานธิบดีแล้วนะครับ

 

ดังนั้นแนะนำให้นักลงทุน ระมัดระวัง ข้อมูลข่าวสารที่ได้รับ มา ซึ่งอาจจะมีทั้งจริงและไม่จริง บางด้วยนะครับ

 

แนวต้านแนวรับ

 

แนวต้าน 1777*** ระวังย่อ หากไม่ผ่าน *** 1783 จุดที่ตะต้องผ่านให้ได้เพ่ื่อขึ้นต่อ **** 1797 **** เป้าหมาย 1800 ****

 

สรุปแนวต้าน แนะนำให้ติดตาม ดูแนวต้าน แถว โซน 1775-1780 ตรงนี้ก่อนครับ ระยะนี้ จะผ่านหรือไม่ ถ้าไม่ผ่าน

 

ใครอยากจะเล่นสั้นก็ขาย ตรงนั้น แล้วรอซื้อใหม่ แถว ๆ แนวรับ ครับ

 

แนวรับ 1770 *** 1765 ถ้าหลุดให้ระวัง **** 1757 ****** 1748 ****

 

สรป แนวรับ แนะนำเมื่อราคาลงมาถึงแนวรับแล้ว หากใครจะซือ้ ก็ซือ้ได้ ครับ แต่ต้องพยายามมองเป้าหมาย 1800 ไว้

 

เพราะว่า เวลา นักลงทุน ซือ้อาจจะไม่ได้ราคาดีที่สุด และจะทำให้เกิดความกลัวว่าราคาจะลงต่อ สุดท้าย ก็อาจจจะตัดขายทุน

 

ทำให้นักลงทุนบางท่าน พลาดโอกาศ ในการทำกำไร เมื่อราคาดีดกลับขึ้นมา ครับ

 

ระยะนี้ เส้น MA 75 และ เส้น MA 200 วัน ตัดกันแล้ว ในกราฟ รายวัน

 

ถ้าย้อนดูสถิติ จากอดีต มันเคยตัดกันเมื่อย้อน ประมาณ เดือนกุมภาพันธ์ 2009 โน่นนานมาแล้วครับ

 

ซึ่งตรงนี้ผมเองก็ไม่แน่ใจนะครับ ว่ามันเกิดแค่กราฟ ผมเองหรือว่าเกิดกับทุกกราฟของนักลงทุน

 

แต่ถ้ามองตามทฤษฎี นั้นหมายว่าในอนาคต ราคาทองคำ อาจจะมีโอกาศขึ้นไปได้สูงมากกว่า นี้ราคาที่อยู่ ณ ระดับนี้ก็เป็นไปได้ครับ

 

กรอบเล็ก 1760-1790 = 30 เหรียญ

 

กรอบใหญ่ 1750-1800 = 50 เหรียญ

 

คืนนี้ก็ยังไม่มีตัวเลขที่ต้องติดตามมากครับ

 

คาดว่าราคาทองคำยังคง Side Ways อยู่ในกรอบ 1760-1785 เหรียญ

 

อาจจะ Side ways UP ทดสอบแนวต้าน เมื่อไม่ผ่านก็ ถูกแรงขายออกมา มากกกว่าครับ

 

 

 

 

โชคชะตาฟ้าลิขิต ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะคน

 

การให้ที่ยิ่งใหญ่ คือการให้่ต่อไปไม่รู้จบ

 

 

 

นำมุมมองภาพกว้าง ๆ ของราคาทองคำระยะกลาง ระยะยาว และ ฐานราคาทองคำเบื้องต้น มาฝากเล็กน้อย จะผิดหรือจะถูก ก็ติชมกันได้ครับ

[aunson 1,403]

รบกสนถามอ อั๋นครับ เป็นไปได้มั้ยครับ

 

1. เพราะเฟดอัดฉีดเงินเข้าไป เเน่นอนงานเพิ่ม ดีใจเเป๊ปๆ เเต่เงินเฟ้อยาววววว เด๋วก็กลับไปที่ปัจจัยพฐ ทอง คือทองทะยายขึ้นต่อ

 

2, คนเลิกหางาน เลยทำให้ตัวเลขดี ดีใจเเปปๆ เดี๋ยวก็มีเงินเฟ้อมาอีก

 

ตอบคุณ Jocho หน่อยนะครับ และก็ขอขอบคุณสำหรับคำถามที่เพิ่มเติมความรู้ให้กับผมนักเพื่อน ๆ ชาวไทยโกล์ ทุกท่านนะครับ

 

1. มีความเป็นไปได้ครับ เนื่องจาก เฟด อัดเงินเข้าไป ในระบบเศรษฐกิจด้วยวิธีการเข้าไปซือ้ ตราสารหนี้ ต่าง ๆ

 

ที่ประธานเฟดได้กล่าวออกไปนั้น จะส่งกระทบต่อระบบเศรษฐกิจอเมริการะยะสั้น

 

จะส่งทำให้ระบบเศรษฐกิจดีขึ้นชั่วคราว หรือ ตราบใดที่ยังมี QE3 อยู่ แต่พอเลิกใช้ QE3 ไปได้สักระยะ

 

ผลกระทบ จาก การออกมาตรา QE3 ก็จะตามมาเองครับ ซึ่งก็ไม่แน่ว่า ต่อไปอาจจะมี QE 4,5,6 อีกก็เป็นไปได้หาก ระบบเศรษฐกิจพื้นฐานยังไม่ดีขึ้น

 

2. ประเด็นที่คนเลิกหางาน ตามที่ นายมิตต์ รอมนีย์ ได้กล่าวถึงการที่จ้างงานตลาดอเมริกาลดลงอย่างรวดเร็วเบื้องต้น เกิดจาก คนเลิกหางาน นั้น

 

ตรงนี้ อาจจะเป็นประเด็นการเมือง ที่ แต่ละฝ่าย สร้างข่าวขึ้นมาเพื่อ ลดเครดิต ของฝ่าย ลงก็มีความเป็นไปได้

 

ซึ่งตรงนี้ผมเองก้ยังสังสัยอยู่เช่นกัน ครับ ว่าทำไม อัตราการว่างาน ถึง ลดลงเร็วจัง (QE 3 ยังออกไม่ถึงเดือน)

 

และการคาดการณ์ในครั้งที่ผ่านมา กลับคาดการณ์ที่ 8.2 % แต่ผล ออกมา 7.8 % คลาดเคลื่อนจากการคาดการณ์อย่างมาก

 

ตรงนี้ผมคาดการณ์ไว้เบื้องต้นว่า อาจจะ เป็นประเด็นทางการเมืองมากกว่า ครับ

 

แต่สุดท้ายเราเป็นนักลงทุน อย่าลืมนะครับ ว่าไม่ว่า จะตลาดจะเป็นยังไง เราควรซือ้-ขายไปตามแนวโน้มตลาด

 

เวลาเราซือ้-ขาย อย่ามองภาพในระยะสั้น มากเกินไป ผมแนะนำให้ มองระยะกลาง- ยาว ไว้ด้วยครับ

 

จะทำให้นักลงทุน ได้เห็นภาพที่ชัดเจนและกว้างขึ้น มากกว่า มองในระยะสั้นครับ

 

และจะสามารถแก้ไขสถาการณ์ได้ ตลอดเวลา หากราคาทองคำไม่ได้เป็นอย่างที่เราคาดหวังเอาไว้ ครับ

 

และถ้าคุณ Jocho อยากได้ความรุ้เพิ่มเติมผมแนะนำกระทุ้ห้อง โอกาส"ทอง" (จริงๆ) : Mania Phase ครับ

 

กระทุ้นี้ ให้ความรุ้ นักลงุทุนได้ชัดเจน ซึ่งทางเจ้าของกระทู้ จะนำความเห็นของอาจารย์ ต่างประเทศมาหาให้มุมมอง ราคาทองคำ

 

ในอดีต ปัจจุบัน และในอนาคต สามารถทำให้เราได้มุมจากหลายอาจารย์มากขึ้นครับ

[nuchaba 987]

ขอบคุณค่ะ จานอั๋น

[deb99 290]

ขอบคุณครับ

[fung 40]

ขอบคุณครับ Rจานอั๋น

[jewjang40 5,712]

อรุณสวัสดิ์จานอั๋น เพื่อนๆ

<p>

 

 

Good Morning News 10 ตุลาคม 2555 - วรวรรณ ธาราภูมิ

 

โดย Analai Tone เมื่อ 10 ตุลาคม 2012 เวลา 5:28 น. ·

• IMF ลดการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้และปีหน้าลงจากที่คาดการณ์ไว้เดิม มาอยู่ที่ 3.3% และ 3.6% ตามลำดับ เนื่องจากการขยายตัวในระดับต่ำของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว จะทำให้การส่งออกของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ชะลอตัวลง
  

• รมว.คลังยูโรโซนเปิดดำเนินการกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM)สำหรับให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินทางด้านการเงินแก่ประเทศสมาชิกเป็นการถาวรภายใต้วงเงิน 5 แสนล้านยูโร เพื่อเป็นหลักประกันเสถียรภาพทางการเงินในระยะยาวของยูโรโซน
  

• กองทุน ESM ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ “Aaa” ด้วยมุมมอง “เชิงลบ” จาก Moody’s และ“AAA” ด้วยมุมมอง “มีเสถียรภาพ” จาก Fitch Ratings ซึ่งสะท้อนถึง 1.) การมีนโยบายบริหารเงินทุนและสภาพคล่องด้วยระบบการเตือนล่วงหน้า (Early Warning System) ที่สามารถเรียกเงินทุนเพิ่มจากประเทศสมาชิกได้ทันท่วงที 2.) การมีหนี้สินอยู่ในระดับต่ำ 3.) ความน่าเชื่อถือของประเทศที่ร่วมก่อตั้ง 4.) การมีสถานะเป็นเจ้าหนี้ไม่ด้อยสิทธิ (ได้รับชำระเงินคืนก่อนเจ้าหนี้อื่นๆ หากลูกหนี้ล้มละลาย)
  

• ยอดขาดดุลงบประมาณของฝรั่งเศสใน 8 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 9.77 หมื่นล้านยูโร ปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่ขาดดุล 1.028 แสนล้านยูโร เนื่องจากรายได้ภาษีที่มากขึ้น และรายได้พิเศษจากการขายคลื่นความถี่สื่อสาร ได้เข้ามาช่วยชดเชยการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่าย
  

• ยอดขาดดุลงบประมาณของอิตาลีในไตรมาส 2 ปีนี้ลดลงมาอยู่ 2.8% ของ GDPจาก 3.2% ในช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการมีรายได้ภาษีเพิ่มขึ้นจากมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐ
  

• ธ.กลางอิตาลี เปิดเผยว่า ยอดการปล่อยสินเชื่อของ ธ.พาณิชย์อิตาลี ในเดือน ส.ค. ลดลง 0.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ถึงแม้ว่าปริมาณเงินฝากจะเพิ่มขึ้น 3.5% ก็ตาม เนื่องจาก ธ.พาณิชย์นำเงินไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีแทนที่จะนำมาปล่อยกู้ให้ภาคธุรกิจ ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาวะสินเชื่อตึงตัวของอิตาลียังคงอยู่ในระดับรุนแรง
  

• Moody’s ลดอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลไซปรัสจากเดิม “Ba3” สู่ “B3” ด้วยมุมมองเชิงลบ เนื่องจากความอ่อนแอของภาคธนาคารพาณิชย์อาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ และการเข้าไปช่วยเหลือจะยิ่งทำให้ภาระการเงินของรัฐสูงขึ้นจนอาจขาดเสถียรภาพได้
  

• สนง. สถิติแห่งชาติอังกฤษ เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคการผลิตในเดือน ส.ค. ลดลง1.1% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และ 1.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมลดลง 0.5% จากเดือน ก.ค. ทำให้เศรษฐกิจอังกฤษจะฟื้นตัวจากภาวะถดถอยในช่วงครึ่งปีหลังได้ยากขึ้น
  

• ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของออสเตรเลียในเดือนก.ย. เพิ่มขึ้นสู่ 0 จาก -3 ในเดือน ส.ค. แต่สถานการณ์โดยรวมยังคงซบเซา อันเนื่องมาจากความกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ร่วงลง
  

• ธ.กลางจีน อัดฉีดเงิน 2.65 แสนล้านหยวนเข้าสู่ตลาด ผ่านธุรกรรมการซื้อพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน เพื่อช่วยลดต้นทุนการกู้ยืมของภาคเอกชนและกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยเป็นการอัดฉีดเม็ดเงินมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติการณ์
  

• ดัชนีความเชื่อมั่นภาคบริการของญี่ปุ่นในเดือน ก.ย. ลดลงสู่ 41.2 จาก 43.6 ในเดือน ส.ค. เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ
  

• IMF คาดว่า เศรษฐกิจอินเดียปีนี้จะขยายตัว 4.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปีหลังจากการลงทุนหยุดชะงัก และมีปัจจัยเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อที่สูง พร้อมกับแนะนำให้ ธ.กลางอินเดียคงอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลง นอกจากนั้น รัฐบาลควรเร่งรัดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อกระตุ้นการลงทุนภาคธุรกิจ
  

• สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า อิรักได้ตกลงซื้อขายอาวุธจากรัสเซียเป็นมูลค่ามากกว่า 4.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ระหว่างการเยือนรัสเซียของ รมว.กลาโหมของอิรัก
  

• ดัชนีอสังหาริมทรัพย์ย่างกุ้ง ที่จัดทำโดย ซิลค์ โรด ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้น 39% โดยที่ดิน 1 ตารางฟุตมีราคา 65 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าห้องพักในโรงแรมก็เพิ่มขึ้นถึง 65%อนึ่ง การที่ราคาอสังหาริมทรัพย์ของพม่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ มาจากการเก็งกำไรประกอบกับการที่นักลงทุนต่างประเทศกำลังมองหาที่ตั้งสำนักงานและโรงงาน ในช่วงที่พม่ากำลังมีความก้าวหน้าในการปฏิรูปการเมืองและเศรษฐกิจ
  

• ครม. อนุมัติแผนบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2556 ในวงเงิน 1.92 ล้านล้านบาท โดยจะมีการก่อหนี้ใหม่ 9.59 แสนล้านบาท แบ่งเป็นหนี้จากแหล่งเงินกู้ในประเทศ 85% และต่างประเทศ 15% ซึ่งจะส่งผลให้หนี้สาธารณะของไทยมีสัดส่วน 47.5% ต่อ GDP ต่ำกว่ากรอบที่กำหนดไว้ที่ 60%
  

• SET Index ปิดที่ 1,292.48 จุด ลดลง 12.23 จุด หรือ -0.94 ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 40,065.40 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 425.79 ล้านบาท ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวน โดยช่วงเช้าดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวก แต่ในช่วงบ่ายกลับมีแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่ม หลัก เช่น พลังงาน ธนาคาร อสังหาริมทรัพย์ และอาหาร ซึ่งเป็นผลจากความกังวลในกรณีที่ IMF ลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้และปีหน้า
  

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยอยู่ในช่วงระหว่าง -0.03% ถึง 0.00% โดยเป็นการปรับตัวลงในตราสารระยะกลางจากการแรงซื้อของสถาบันภายในประเทศและธ.พาณิชย์เป็นหลัก สำหรับวันนี้ไม่มีการประมูลพันธบัตร
  

• Paul Krugman “เป็นเรื่องไร้สาระที่จะคิดว่ารายงานตัวเลขจ้างงานของสหรัฐที่ออกมาดีเกินคาดนั้นมาจากการปรับแต่งตัวเลข เนื่องจากข้อมูลดังกล่าวถูกจัดทำขึ้นโดยข้าราชการที่มีความเป็นมืออาชีพ ซึ่งสังกัดอยู่ในหน่วยงานที่ไม่มีการเมืองมาเกี่ยวข้อง นอกจากนั้น เราไม่ควรให้ความสนใจกับตัวเลขเพียงแค่เดือนเดียวมากเกินไป เพราะประเด็นที่สำคัญยิ่งกว่าก็คืออัตราว่างงานที่มีแนวโน้มลดลงอย่างยั่งยืน ซึ่งหากพิจารณาแนวโน้มในช่วงปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐฟื้นตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยการสร้างงานเติบโตแซงหน้าการขยายตัวของประชากรวัยทำงาน”
  

• Bill Gross (PIMCO) “ถ้าคนอเมริกันเอาแต่หลับหูหลับตาไม่สนใจการขาดดุลงบประมาณถึง 8% ของ GDP (ซึ่งถ้ารวมเงินที่รัฐบาลต้องส่งเข้ากองทุนประกันสังคม ประกันสุขภาพ และการรักษาพยาบาลก็จะพุ่งขึ้นเป็น 11% ของ GDP) ก่อนจะสิ้นทศวรรษนี้เราจะได้เห็นอเมริกาเป็นอย่างกรีซ เพราะอัตราส่วนหนี้ต่อ GDP จะยิ่งสูงขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วธนาคารกลางก็จะพิมพ์เงินมาอุดงบประมาณที่ขาดดุลอีกไม่รู้จบ ทำให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้น ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์อเมริกันจะดิ่งลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประเทศที่อยู่ในเขตวงแหวนไฟ (Ring of Fire ได้แก่ ประเทศพัฒนาแล้ว 6 แห่งที่ขาดดุลงบประมาณและดุลการค้าสูงมาก ได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส กรีซ และ สเปน) จะเผชิญกับภาวะที่ Financial Assets อย่างพันธบัตรและหุ้นจะไร้ค่า เหลือแต่ทองคำกับ Real Assets เท่านั้นที่จะมีราคาพุ่งขึ้น
  

ถ้าผมเป็นผู้ลงทุนรายย่อยก็จะกระจายการลงทุนในในสินทรัพย์ต่างๆ ประเภทให้เหมาะสมกับอายุ ซึ่งได้แก่ถือหุ้นมากหน่อยถ้าอายุน้อยๆ และถือพันธบัตรมากๆ ถ้ามีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปอย่างผม และต้องระมัดระวังเพราะมันหมดยุคของการได้ผลตอบแทนดีๆ เป็นสองหลักจากการลงทุนไปแล้ว ยุคแห่งเงินเฟ้อกำลังมาหาเรา ซึ่งมีแต่ผลเสียต่อหุ้นและพันธบัตร”

• Jim Rogers “ราคาอาหารจะเพิ่มขึ้นสูงกว่านี้อีกมากใน 2-3 ปีข้างหน้า และเมื่อใดก็ตามที่ราคาอาหารพุ่งขึ้นสูง สิ่งที่ตามมาคือความไม่สงบของสังคม พวกทุนนิยมต่างรู้ดีว่าปัญหาของประเทศมาจากรากฐานทางเศรษฐกิจทั้งนั้น แม้จะถกเถียงกันว่ามาจากเรื่องความขัดแย้งทางศาสนาและเชื้อชาติ“
  
• 
  

[thoney87 92]

ขอบคุณครับอาจารย์อั๋น และคุณกระต่ายทองที่นำเอาข่าวมาให้อ่านทุกวัน

[aunson 1,403]

สวัสดีครับทุกคน สวัสดีตอนเย็นของวันที่ 10-10-2555 เวลา 17.16 น.

 

เมื่อวานราคาเปิดตลาด 1775.4 เหรียญ มีราคาสูงสุด 1779.64 เหรียญ

 

มีราคาต่ำสุดที่ 1760.31 เหรียญ มีราคาปิดตลาดที่ 1763.94 เหรียญ

 

รวมทั้งวันวิ่งรวมทั้งหมด 19 เหรียญ การเคลื่อนไหวเป็นไปในลักษณะ Side Ways Down

 

มี Volume การซื้อ-ขาย 59757 สัญญา เพิ่มขึ้น 6946 สัญญา

 

เมื่อราคาทองคำถูกแรงขายออกมาหลังจากไม่ผ่านแนวต้าน 1775-1780 ทำให้

 

ทิศทาง หรือแนวโน้ม ระยะนี้ อาจจะ Side Ways ขึ้นและลงปรับฐานหรือ พักฐาน อยู่ในกรอบ 1750-1780 = 30 เหรียญ ต่อไป

 

โดยคาดว่า โซนที่จะได้เห็นราคาทองคำ บ่อยที่สุด จะเป็นโซน 1760-1770 ครับ

 

และจะมีจุดเตือนหรือสัญญาณที่ ควรระวัง คือราคาหลุดออกจากกรอบ บน และล่าง ดังนี้

 

1. กรอบล่าง ระวัง ราคาหลุด 1750 ลงไป ถ้าหลุด อาจจะได้เห็น 1733-1737 ***** และดูว่าราคาตรงนั้น จะรับอยู่หรือไม่

 

ถ้าไม่ เตรียมรอดู กรอบต่อไปที่ 1700-1730 ลงปรับฐานต่อไป *****

 

2. กรอบบน ถ้าผ่าน 1780 ไปได้ แนะนำให้เริ่มระวัง แรงขาย เอาไว้ก่อน ยกเว้นจะมีข่าวเสริมเข้ามา และส่งผลให้ราคาผ่านเป้าหมาย 1800 ขึ้นไป

 

แต่ถ้าตราบใดราคาทองคำ ยังไม่สามารถผ่าน 1800 ขึ้นไปได้ แนะนำให้ระวังแรงขายเอาไว้ดีกว่าครับ เพราะถ้าดูจากสถิติที่ผ่านมา เรามักจะไม่ค่อยได้เห็น

 

ราคาพัก หรือ ปรับฐาน อยุ่แถวโซน 1800 บ่อยครั้ง ส่วนมากราคาตรงนั้น จะเป็นทางผ่าน เพื่อขึ้น หรือ ลง ต่อ มากกว่าครับ

 

เอาเป็น ว่า ราคาทองคำระยะสั้น ระยะกลาง ระยะกลาง ยังคงมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น เนื่องจากยังคงมี QE3 อยู่

 

ส่วนการขึ้นนั้น จะต้องมีแรงขาย ออกมา ระหว่างการขึ้นอยุ่เสมอเพื่อทำกำไร หรือเก็งกำไร ระยะสั้น เพื่ือ สร้่างผลตอบแทนให้มากขึ้น สำหรับกลุ่มกองทุน ต่าง ๆ

 

ส่วนระยะสั้น -ระยะกลาง ช่วงนี้ ราคาทองคำอาจจะได้รับผลกระทบจาก การสร้าง ข่าว ลวง ลับ พราง ของทางฝั่งอเมริกาที่จะมีการเลือกตั้ง ประธานาธิบดี

 

รวมไปถึง หนี้สาธารณะของทางฝั่งทวีปยุโรป ที่ไม่มีวันจบสิ้น ต่อไปครับ

 

แนวต้าน แนวรับ

 

แนวต้าน 1773 ไม่ผ่านระวังแรงขาย ระยะสั้น *** 1775-1780 ไม่ผ่านระวังแรงขาย ***** 1783 ***

 

สรุป แนวต้าน ระยะนี้ราคาทองคำอาจจะมีการปรับฐาน หรือ พักฐาน อยู่ในโซน ก่อนครับ หลังจากนั้น

 

ก็รอจนกว่า ราคาทองคำจะได้รับข่าวเสริมเข้ามาอีกทีเพื่อเลือกทิศทาง ต่อไปครับ

 

แนวรับ 1760 วันนี้ยังไม่หลุด 1757-1753 **** 1747 **** 1735 ***

 

สรุป แนวรับ รอดู แนวรับ 1760-1750 ก่อนนะครัย ว่าราคาทองคำจะดีดกลับขึ้นไปได้หรือไม่

 

แต่ส่วนใหญ่ แล้วผมมองประเมินไว้ว่า ราคาทองคำอาจจะพักฐานอยู่ระดับนี้ก่อนครับ เพื่อเลือกทิศทางต่อไป

 

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญมีดังนี้

 

1. เวลา 21.00 น. สต๊อกสินค้าภาคค้าส่ง คาดการณ์ส่งผลลบต่อราคาทองคำเล็กน้อย

 

2. เวลา 01.00 น. รายงานสรุปภาวเศรษฐกิจของ Birge Book คาดการณ์ ส่งผลระยะสั้น กลาง ต่อราคาทองคำ

 

 

โชคชะตาฟ้าลิขิต ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะคน

 

การให้ที่ิยิ่งใหญ่ คือการให้ต่อไปไม่รู้จบ ครับ

[สมสี 1,540]

ขอบคุณมากๆเลยค่ะ อ.อั๋น

โชคดีมีความสุขเช่นกันนะคะ

[jewjang40 5,712]

[wann 334]

ขอบคุณค่ะ Rจานอั๋น

 

[gejen 5,749]

ขอบคุณมากๆๆค่ะ Rจานอั๋น

[thoney87 92]

ขอบคุณครับอาจารย์อั๋น :01

[พลับพลึง 0]

ขอบคุณค่ะ

[auntnextdoor 4,268]

ขอบคุณค่ะ