ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

คนสุรินทร์แห่ซื้อทองคำหวั่นเกิดสงคราม

ข่าวภูมิภาค วันพุธที่ 17 เมษายน พ.ศ.2556 17:36น.

 

ชาวสุรินทร์ แห่ซื้อทองคำคึก หวั่นเกิดสงครามไทย-กัมพูชา ขณะที่สถานการณ์ชายแดนยังปกติ

บรรยากาศการค้าขายทองคำในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ ที่มีอยู่ประมาณ 50 ร้าน ตั้งแต่เช้าจนถึงขณะนี้ปรากฏว่า เกือบทุกร้านมีลูกค้าเข้าไปอุดหนุนสอบถามถึงราคาทองคำกันอย่างคึกคักโดยเฉพาะที่ร้านทองมังกรทองเยาวราช ถนนสนิทนิคมรัฐ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ มีลูกค้าเข้ามาอุดหนุนแน่นร้าน ลูกค้ารายหนึ่ง กล่าวว่า ตนเดินทางมาจาก อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เพื่อซื้อทองรูปพรรณเก็บไว้ หากเกิดสถานการณ์การสู้รบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จะได้นำไปขายเพื่อใช้ดำรงชีวิตช่วงที่มีการอพยพลี้ภัยสงคราม หากมีปืนแตกเกิดขึ้น คงอพยพคนในครอบครัวไปพักอยู่กับญาติในตัวเมืองสุรินทร์ ขณะนี้เหตุการณ์ที่ชายแดนยังปกติ แต่ผู้คนส่วนมากก็ได้เตรียมตัวเก็บข้าวของมีค่า เสื้อผ้าใส่กระเป๋าพร้อมอพยพได้ทันที เมื่อมีการสู้รบกันเกิดขึ้น

 

http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=447257

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ร้านทองตรังปิดยาวถึง 22 เม.ย.นี้ ทำลูกค้าเซ็งอดซื้อ

 

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากการปรับตัวลงอย่างหนักของราคาทองคำแท่งในตลาดโลกในช่วงวันหยุดสงกรานต์ที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนจำนวนมากใน จ.ตรัง ต่างรอที่จะไปซื้อทองคำที่ร้านทองจำนวนมาก เพื่อหวังที่จะเก็งกำไร แต่ก็ต้องพบกับความผิดหวัง เพราะร้านจำหน่ายทองใน จ.ตรัง ที่มีอยู่ 50 ร้านได้พร้อมใจกันปิดร้านตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย.และขึ้นป้ายเปิดให้บริการในวันที่ 22 เมษายน นี้ ทั้งที่เป็นวันแรกของการเปิดให้บริการ จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า สาเหตุที่ร้านทองนัดปิดให้บริการพร้อมกัน เพราะต้องการหนีประชาชนที่แห่มาซื้อทองเพื่อเก็งกำไรในช่วงที่ทองราคาลง

 

ทั้งนี้จากการสอบถามไปยัง นายวรพงษ์ เลาหะสราญ เจ้าของร้านทองวรสุนทร ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 108 ถ.วิเศษกุล เขตเทศบาลนครตรัง และประธานชมรมร้านทองใน จ.ตรัง กล่าวชี้แจงว่า ในเดือน ธ.ค.ของทุกปี ทางชมรมร้านทอง จะทำหนังสือเวียนไปยังสมาชิกให้เข้าร่วมประชุมใหญ่ เพื่อพบปะสังสรรค์และร่วมพูดคุยปัญหาที่เกิดขึ้น ก่อนจะลงมติหาวันหยุดที่เหมาะสมให้ตรงกัน ซึ่งในแต่ละปีร้านทองจะมีวันหยุดช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ เทศกาลปีใหม่ เทศกาลตรุษจีน และเน้นหยุดยาวในช่วงเดือนเม.ย.ซึ่งตรงกับวันสงกรานต์ เพื่อให้สมาชิกได้พาครอบครัวเดินทางไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศ และหลังจากนั้นก็จะเปิดทำการพร้อมกันในวันที่ 22 เมษายน นี้

 

ดังนั้นไม่ว่าทองจะขึ้นหรือลง ร้านทองก็ต้องเปิดให้บริการพร้อมกัน แต่เมื่อเป็นมติที่ประชุมทุกคนต้องปฏิบัติให้เป็นมาตรฐานเดี่ยวกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างปิดได้ จึงไม่เกี่ยวว่า ปิดร้านเพราะทองราคาลง เพราะไม่ว่าจะปิดหรือเปิดร้านทองก็ไม่ได้กำไรมากนัก แต่เป็นเหตุบังเอิญประจวบเหมาะพอดีกับที่ร้านทองหยุดยาว

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นักวิเคราะห์จับตาทิศทางทองหลังราคาทรุดตัวครั้งใหญ่ในรอบ 30 ปี

 

 

หลังจากราคาทองดิ่งลงอย่างรุนแรงในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาจนแตะระดับ ต่ำสุดในรอบ 2 ปี นักลงทุนก็ตั้งคำถามว่า ทองควรจะครองสัดส่วนมากเพียงใด ในพอร์ทลงทุน

 

 

ที่ผ่านมา ราคาทองปรับตัวขึ้นติดต่อกันนาน 12 ปี ขณะที่โพลล์รอยเตอร์ ที่สำรวจความเห็นนักวิเคราะห์ 37 รายในเดือนม.ค.แสดงให้เห็นว่า ถึงแม้ นักวิเคราะห์คาดว่าภาวะกระทิงของราคาทองจะชะลอตัวลง แต่ค่าเฉลี่ยของราคา ทองก็จะขึ้นไปทำสถิติสูงสุดใหม่ในปีนี้และปีหน้า ถึงแม้ธนาคารหลายแห่งเริ่มปรับลดการคาดการณ์ที่ว่า ราคาทองจะสามารถ ทำลายสถิติสูงสุดที่ 1,920.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งทำไว้ในปี 2011 ได้ใน อนาคต แต่ธนาคารส่วนใหญ่ก็ยังคงเห็นด้วยกับเหตุผลพื้นฐานที่สนับสนุนให้ถือ ครองทองในฐานะสกุลเงินทางเลือก และในฐานะเครื่องมือประกันความเสี่ยงจาก ภาวะเงินเฟ้อ

 

 

อย่างไรก็ดี ปัญหาไซปรัสทำให้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป เอกสารของคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ที่ออกมาในวันพุธที่ 10 เม.ย.ระบุว่า รัฐบาลไซปรัสจำเป็นต้องขายทองคำสำรองส่วนเกินเพื่อระดมทุน 400 ล้านยูโร เพื่อนำมาใช้ตามเงื่อนไขของมาตรการให้ความช่วยเหลือทาง การเงินจากสหภาพยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เปิดเผยรายงานการประชุมกำหนด นโยบายประจำวันที่ 19-20 มี.ค.ในวันที่ 10 เม.ย.เช่นกัน โดยรายงาน การประชุมดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่เฟดมีแนวโน้มที่จะยุติมาตรการ เข้าซื้อตราสารหนี้ครั้งใหญ่ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวจะส่งผลกระทบ ต่ออัตราเงินเฟ้อ

 

 

ราคาทองดิ่งลง 1.6 % ในวันที่ 10 เม.ย. ก่อนจะเข้าสู่เสถียรภาพ ในวันที่ 11 เม.ย. อย่างไรก็ดี ราคาทองรูดลง 5.2 % ในวันศุกร์ที่ 12 เม.ย. และดิ่งลง 8.4 % ในวันจันทร์ที่ 15 เม.ย. ในขณะที่นักลงทุน พากันเทขาย โดยการทรุดตัวลงของราคาทองในวันศุกร์และวันจันทร์นี้ถือเป็น การปรับตัวลงระยะสองวันครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 30 ปี

 

 

ราคาทองอยู่ที่ราว 1,380 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อวานนี้ เทียบกับระดับ สูงกว่า 1,560 ดอลลาร์ในช่วงเปิดตลาดวันศุกร์

 

 

นายเปโดร เด โนรอนฮา หุ้นส่วนของบริษัทนอสเตอร์ แคปิตัล กล่าวว่า "สำหรับสินทรัพย์ที่ไม่ได้ก่อให้เกิดกระแสเงินสดประเภทนี้ ถือเป็นเรื่องที่ยากมาก ที่จะตัดสินใจได้ว่า เราควรจะเข้าซื้อเพิ่มเติมเมื่อใด และการดิ่งลงของราคาทอง ได้สิ้นสุดลงแล้วหรือไม่"

 

 

"เราโชคดีที่สามารถระบายสถานะซื้อทั้งหมดของเราออกมาเมื่อราคาทอง อยู่ที่ราว 1,560 ดอลลาร์ โดยเรากำลังจับตาดูสถานการณ์ แต่จะยังไม่ทำสิ่งใด ในช่วงนี้"

 

 

ดัชนีความผันผวนของกองทุน ETF ทองในตลาดออปชั่นชิคาโก บอร์ด (CBOE) พุ่งขึ้นกว่า 60 % ในวันจันทร์ ในขณะที่ราคาทองดิ่งลงแตะจุดต่ำสุด รอบ 2 ปี โดยดัชนีดังกล่าวเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าราคาทอง จะมีความผันผวนอย่างมาก

 

 

นักลงทุนในกองทุน ETF ทองได้ไถ่ถอนเงินลงทุนออกมาเป็นจำนวนมาก ในช่วงนี้

 

 

นายฌอน คอร์ริแกน หัวหน้านักยุทธศาสตร์การลงทุนของบริษัทเดียพาสัน คอมมอดิตีส์ แมเนจเมนท์ กล่าวว่า "ผมไม่คิดว่ามีใครที่ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า ราคาทองจะเคลื่อนไหวมากขนาดนี้ และวอลุ่มการซื้อขายจะอยู่สูง ขนาดนี้ เหตุการณ์นี้ได้สร้างความเสียหายเป็นอย่างมากต่อความเชื่อมั่นของ นักลงทุน"

 

 

นายคอร์ริแกนกล่าวเสริมว่า ประสิทธิภาพของทองในฐานะสินทรัพย์ ปลอดภัยได้ลดลงมานานระยะหนึ่งแล้ว ในขณะที่ปัจจัยต่างๆที่เคยหนุนราคา ทองให้พุ่งขึ้นในอดีตกลับไม่ส่งผลเช่นนั้นในปัจจุบัน เช่น วิกฤติหนี้ไซปรัส วาณิชธนกิจบางแห่งได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ราคาทองลงในช่วง ก่อนหน้านี้ด้วย โดยในวันที่ 10 เม.ย.โกลด์แมน แซคส์ได้ปรับลดตัวเลข คาดการณ์ราคาทองลงเป็นครั้งที่สองในรอบ 6 สัปดาห์ โดยให้เหตุผลว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น และราคาทองอยู่ใน ระดับอ่อนแอในระยะหลัง

หลังจากการดิ่งลงในช่วงนี้ ราคาทองก็ลดลงมาแล้วราว 20 %

 

 

จากช่วงต้นปีนี้ และดิ่งลงมาแล้ว 28 % จากสถิติสูงสุดที่ทำไว้ในปี 2011 ตัวเลขขั้นต้นที่ออกมาในวันจันทร์ระบุว่า วอลุ่มการซื้อขายสัญญา ล่วงหน้าทองในตลาด COMEX ของสหรัฐอยู่ที่ 689,000 สัญญา ซึ่งอยู่สูงกว่าสถิติสูงสุดที่เคยทำไว้ที่ 486,315 สัญญาในวันที่ 28 พ.ย. 2012

 

 

ธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ยอมรับว่า ปัจจัย สำคัญที่กระตุ้นแรงเทขายทองในครั้งนี้ คือความกังวลที่ว่าธนาคารกลาง ของประเทศอื่นๆในยูโรโซนอาจจะขายทองออกมาในอนาคตตามไซปรัส และคำสั่งขายของกลุ่มกองทุนก็ส่งผลให้ราคาทองดิ่งลงอย่างรุนแรงยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดี แบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ระบุว่า "การดิ่งลงของราคาทองเป็นเรื่องที่ยากจะอธิบายได้ เมื่อพิจารณาจากตัวแปร ดั้งเดิม เช่น ค่าดอลลาร์ที่ถ่วงน้ำหนักทางการค้า หรืออัตราดอกเบี้ย และสิ่งนี้ทำให้เกิดความกังวลกันว่า ชื่อเสียงของทองในฐานะสกุลเงิน ทางเลือกอาจจะได้รับความเสียหาย"

 

 

ขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่นอนว่า จะต้องใช้เวลานานเพียงใดก่อนที่ ความเชื่อมั่นของนักลงทุนจะกลับคืนมา ในขณะที่กลุ่มกองทุนมีแนวโน้ม ลดการลงทุนในทอง และมีการคาดการณ์กันว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวขึ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลลบต่อราคาทอง

 

 

ผู้ที่ยังคงคาดการณ์ในทางบวกต่อราคาทองกล่าวว่า ธนาคารกลาง หรือภาครัฐของประเทศต่างๆยังคงเข้าซื้อทองอย่างจริงจัง และทองมี ประโยชน์ในฐานะเครื่องมือรักษามูลค่าที่มีสภาพคล่องสูง โดยสิ่งนี้ได้รับ การตอกย้ำจากข้อเสนอที่ให้ไซปรัสขายทองออกมา

 

 

นายแดเนียล เบรบเนอร์ นักวิเคราะห์ของดอยช์ แบงก์ กล่าวว่า "ธนาคารกลางโดยรวมไม่มีแนวโน่มที่จะเป็นผู้ขายทองสุทธิ" "ผมไม่แน่ใจว่า ความผันผวนที่ระดับสูงในช่วง 3 วันนี้จะส่งผล ให้บทบาทของทองลดลงเป็นอย่างมากหรือไม่ ผมคิดว่ามีสถาบันหลายแห่ง ที่จะปรับเปลี่ยนแนวคิดเรื่องการใช้ทองเป็นทางเลือกทางการลงทุน แต่เวลา เท่านั้นที่จะบอกได้ว่า ทองกลายเป็นอดีตไปแล้วจริงหรือไม่"

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เตือนราคาทองอาจหลุด 17,500 บาท สมาคมฯ ยันวิกฤตรอบนี้ ร้านทองไม่ถึงขั้นปิดกิจการ

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 เมษายน 2556 18:28 น.

 

 

คาดราคาทองคำยังปรับลงได้อีก แนะชะลอลงทุน ชี้ หากไม่สามารถยืนเหนือจุดต่ำสุดเดิมที่ 1,308 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือบาทละ 18,000 บาทได้ ก็มีโอกาสจะลงไปต่ำสุดถึง 1,250 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือบาทละ 17,500 บาทได้ ด้านสมาคมค้าทอง มั่นใจ วิกฤตในรอบนี้ คงไม่ถึงกับทำให้ร้านค้าทองต้องปิดกิจการลง เพราะส่วนใหญ่มีการป้องกันความเสี่ยงไว้ดีอยู่แล้ว

 

น.ส.ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า ราคาทองคำยังมีโน้มปรับลดลงต่อเนื่อง โดยหากหลุดระดับ 1,400-1,420 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือบาทละ 19,000-19,300 บาท มีโอกาสที่จะปรับลดลงไปอยู่ที่ระดับ 1,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือประมาณบาทละ 18,000 บาท ไม่สามารถยืนเหนือจุดต่ำสุดเดิมในช่วง 2 ปีก่อนที่ 1,308 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือบาทละ 18,000 บาทได้ ก็มีโอกาสจะลงไปต่ำสุดถึง 1,250 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือบาทละ 17,500 บาทได้

 

ดังนั้น กลยุทธ์สำหรับในช่วงนี้ แนะนำนักลงทุนชะลอการเข้าซื้อ และหากราคาทองใกล้บาทละ 19,000 บาทให้ทยอยขาย พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และช่วงนี้ยังไม่เหมาะซื้อเพื่อถือลงทุนระยะยาว

 

“ทองคำปรับขึ้นมารอบนี้ยาวนานถึง 12 ปี ดังนั้น รอบนี้จึงมีโอกาสปรับลดลงได้ ซึ่งต้องดูปัจจัยต่างๆ ประกอบด้วย ส่วนการซื้อขายในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ฟิวเจอร์ส) นั้น ยอมรับว่าลูกค้าของบริษัทมีการถูกบังคับขาย (ฟอร์สเซลล์) บ้าง แต่ไม่มากนัก”

 

ด้านนายพิชญา พิสุทธิกุล เลขาธิการสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า แนวโน้มหลังจากนี้ไปเชื่อว่าราคายังสามารถปรับลดลงได้อีก เนื่องจากนักลงทุนประเมินไว้ว่าราคาทองคำในช่วงนี้คงไม่สามารถยืนเหนือ 1,400 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือประมาณ 20,000 บาท ดังนั้น จึงอยากให้ผู้สนใจลงทุนในทองคำรอดูสถานการณ์อีกระยะหนึ่ง

 

สำหรับราคาทองคำที่ร่วงลงมาแรงขนาดนี้ นายพิชญา มั่นใจว่า คงไม่ถึงกับทำให้ร้านค้าทองได้รับผลกระทบหรือต้องปิดกิจการลง เพราะส่วนใหญ่ร้านค้าทองก็มีการป้องกันความเสี่ยงไว้ดีอยู่แล้ว

 

http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000046294

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หายนะ “ทอง”

 

โดย สุนันท์ ศรีจันทรา 17 เมษายน 2556 14:36 น.

 

ประมาณ 3-4 ปีที่ผ่านมา คนไทยตกอยู่ในภาวะตื่นทอง ปริมาณนักเก็งกำไร “ทองคำ” เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงมาก แต่วันนี้ คนที่แห่เล่นทองทั้งหลายกำลังหมดเนื้อหมดตัว

 

ช่วงที่ประเทศไทยกำลังเฉลิมฉลองงานในเทศกาลสงกรานต์ ร้านค้าทองปิดทำการ 4 วันติด ราคาทองคำในตลาดโลกดิ่งลงเหว ตั้งแต่คืนวันศุกร์และต่อด้วยคืนวันจันทร์ รวมสองวันราคาทองคำในตลาดตกลงไปเกือบ 200 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

จากระดับ 1,560 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลงไปต่ำสุดที่ประมาณ 1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนจะดีดตัวขึ้นมายืนอยู่แถว 1,370 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในคืนวันอังคาร

 

ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศ ปิดเมื่อวันศุกร์ที่บาทละ 21,250 บาท ในราคาที่ร้านทองเสนอซื้อ และเสนอขายบาทละ 21,350 บาท แต่ล่าสุดเช้าวันพุธเสนอซื้อบาทละ 18,900 บาท เสนอขายบาทละ 19,000 บาท

 

เพียงชั่วข้ามไม่กี่คืน ราคาทองคำรูดมหาราชถึงบาทละ 2,350 บาท และไม่มีใครขายหนีตายได้ทัน ใครที่ซื้อทองไว้ขาดทุนกันป่นปี้ ยิ่งกักตุนมาก ยิ่งเจ็บมาก

 

คนที่เก็บทองคำแท่งไว้ ยังพอมีทางออก เพราะถือทองคำไว้ลูบๆ คลำๆ เพื่อปลอบประโลมใจได้ และเมื่อยังไม่ขายก็ยังไม่ขาดทุน

 

แต่คนที่เล่นทองคำกระดาษหรือโกลด์ฟิวเจอร์ส ต้องหมดเนื้อหมดตัวในทันที เพราะจะถูกโบรกเกอร์บังคับขาย หากลูกค้าไม่นำเงินมาวางเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเพิ่ม เนื่องจากหลักทรัพย์ที่วางค้ำประกันไว้ ไม่สามารถครอบคลุมราคาทองคำที่ร่วงลงไป

 

ราคาทองคำที่ถล่มทลายลงครั้งนี้ ทำให้คนไทยจำนวนมากเสียหายหนักต้องสูญเงิน เนื่องจากสินทรัพย์ทองคำด้อยค่าลง

 

การที่คนไทยตื่นไปเล่นทองกัน เพราะแรงกระตุ้นจากหลายด้าน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะราคาทองคำพุ่งขึ้น โดยไม่กี่ปีราคาทองคำแท่งเพิ่มขึ้นจากระดับประมาณบาทละ 8,000 บาท พุ่งขึ้นไปสูงสุดที่บาทละประมาณ 27,000 บาท

 

ราคาทองคำที่พุ่งขึ้นอย่างหวือหวา ทำให้คนอยากรวยและแห่ไปเก็งกำไร

 

นอกจากนั้น การจัดตั้งตลาดอนุพันธ์หรือ “ทีเฟค” โดยมี “ทองคำ” เป็นสินค้านำร่อง เปิดการซื้อขายทองคำกระดาษหรือโกลด์ฟิวเจอร์ส ก็ทำให้เกิดการโหมกระพือการเล่นทอง

 

ทองคำกระดาษซื้อขายกันด้วยรูปแบบสัญญา โดยอายุสัญญาไม่เกิน 6 เดือน เริ่มต้นด้วยสัญญาซื้อขายทองคำน้ำหนัก 50 บาท วางเงินค้ำประกัน 50,000 บาท ซึ่งเงิน 50,000 บาท ปกติจะซื้อทองคำแท่งได้ประมาณ 2 บาท แต่เมื่อซื้อขายทองคำกระดาษ จะซื้อขายทองคำได้ถึง 50 บาท

 

ทองคำกระดาษได้แตกสัญญาการซื้อขาย จากสัญญาซื้อขายทองคำน้ำหนัก 50 บาท เหลือสัญญาละ 10 บาท เพื่อดึงให้นักลงทุนที่มีเงินน้อยสามารถเข้ามาเล่นได้ โดยเป็นแผนขยายฐานผู้เล่น เพื่อที่จะมีค่าต๋งหรือค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น

 

เพราะคนที่มีเงินวางค้ำประกันเพียง 10,000 บาทเศษ สามารถซื้อขายทองคำน้ำหนัก 10 บาทได้

 

โบรกเกอร์ตลาดโกลด์ฟิวเจอร์สเริ่มต้นมีเพียงไม่กี่ราย แต่ล่าสุดมีถึง 41 ราย โดยได้ค่าต๋งจากการซื้อขายทองคำกระดาษสัญญาละ 500 บาท สำหรับการซื้อขายทองคำ 50 บาท และสัญญาละ 100 บาท จากการซื้อขายทองคำ 10 บาท

 

ตลาดอนุพันธ์และโบรกเกอร์ค้าทองคำ ร่วมมือกันโหมกระพือประชาสัมพันธ์ โฆษณาจูงใจปลุกเร้าให้ประชาชนเข้ามาเล่นทองคำกระดาษ โดยอ้างว่าเป็นทางเลือกใหม่ของการลงทุน และบรรยายสรรพคุณของความร่ำรวยจากการเก็งกำไรทองไว้อย่างสวยหรู

 

ทั้งที่รู้ว่า ทองคำกระดาษ คือ การเล่นพนัน เป็นการเดิมพันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย มีฝ่ายหนึ่งได้ จะต้องมีฝ่ายหนึ่งเสีย แต่คนที่ได้แน่ๆ คือ โบรกเกอร์และตลาดอนุพันธ์ ซึ่งเป็นเสือนอนกินรอชักค่าต๋ง

 

ช่วงราคาทองคำขาขึ้น ทองคำกระดาษซื้อขายวันละประมาณ 15,000 สัญญา แต่เมื่อราคาทองคำอ่อนตัว ปริมาณการซื้อขายลดฮวบ ล่าสุดซื้อขายประมาณวันละ 2,000 สัญญา

 

ใครก็ตามที่เป็นต้นคิดการเปิดตลาดซื้อขายทองคำกระดาษ ควรต้องเป็นผู้ที่ถูกรุมประณาม เพราะทองคำกระดาษ ไม่มีประโยชน์ต่อประชาชนและระบบเศรษฐกิจ นอกจากการเปิดบ่อนพนันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ส่งเสริมให้คนมาเล่นได้เสีย โดยหวังรวยบนความเพ้อฝัน

 

ไม่มีตัวเลขแน่ชัดว่า ประเทศไทยมีทองคำอยู่ในจำนวนเท่าใด กี่ร้อยหรือกี่พันตัน แต่ทุกตันมูลค่าลดลงไปแล้วประมาณตันละ 180 ล้านบาท

 

ราคาทองคำที่ดิ่งลงมาในช่วงเวลาไม่กี่วัน ทำให้สินทรัพย์ทองคำของประเทศไทยด้อยค่านับแสนล้านบาท

 

คนที่ครอบครองทองคำไว้ ไม่ว่าจะเป็นทองคำแท่งหรือทองคำกระดาษ ต้องบาดเจ็บล้มตายกันเป็นเบือ

 

แม้แต่โบรกเกอร์ทองคำกระดาษ ก็จะเจ๊งไปด้วย เพราะถูกลูกค้าชักดาบ ไม่ยอมจ่ายส่วนต่างราคาทองคำที่ขาดทุน

 

ร้านค้าทองที่มีทองไว้เต็มตู้ ก็ขาดทุนกันบานเบอะ หรือโรงรับจำนำก็อยู่ในข่ายเจ๊งเป็นลูกโซ่ เพราะลูกค้าที่นำทองมาจำนำไว้ คงไม่มาไถ่คืน

 

ราคาทองคำโลกถล่มทลายครั้งนี้ นำไปสู่โศกนาฏกรรมนักเก็งกำไรครั้งใหญ่ ธุรกิจค้าขายทองคำพังแทบทั้งระบบ

 

อย่าถามใครว่า แนวโน้มราคาทองคำจะเป็นอย่างไร จะขึ้นหรือลงเมื่อไหร่ เพราะประเทศไทยไม่มีใครรู้จริงเรื่องราคาทองคำ มีแต่คนขี้โม้และอวดรู้เท่านั้น เพราะถ้ามีคนรู้จริง คนไทยคงไม่เจ๊งกันทั้งประเทศ

 

วิกฤตทองคำที่ประเทศและประชาชนได้รับ เป็นผลพวงของการส่งเสริมลัทธิเก็งกำไร มอมเมายั่วยุให้คนไทยอยากรวยรัด โดยไม่คำนึงถึงความเสี่ยงและผลกระทบต่อสังคม

 

ถ้ายึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ไม่โหมกระพือการเก็งกำไร จนเกิดการหมกมุ่นไขว่คว้าความร่ำรวยอย่างเพ้อฝัน คนไทยจำนวนมากคงไม่ตกเป็นเหยื่อของทองคำ

 

แต่ลัทธิเก็งกำไรระบาดไปทุกหัวระแหงแล้ว เล่นทั้งบ่อนและบอล เล่นทั้งหวยและหุ้น เล่นทั้งที่ดินและคอนโดฯ เล่นทั้งทองและน้ำมัน

 

จะปลุกให้คนไทยตื่นจากการแสวงหาช่องทางรวยรัดอย่างเพ้อฝันกันอย่างไรดี เพราะเห็นแล้วว่า การเก็งกำไรอย่างบ้าคลั่ง กำลังนำประเทศและประชาชนไปสู่หายนะ

 

http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9560000046146

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อรุณสวัสดิ์ค่ะทุกคน

เช้านี้อากาศสดชื่นจังเนอะ

ถูกแก้ไข โดย Pasaya

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดียามเช้าวันพระค่ะ

ขอให้เป็นวันสดใส ทองพุ่งกะรฉูดดดดดดนะคะ สาธุ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดียามเช้าวันพระค่ะ

ขอให้เป็นวันสดใส ทองพุ่งกะรฉูดดดดดดนะคะ สาธุ

เรื่องแบบนี้ ต้องยอมรับความจริงในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในโลก ที่ขาใหญ่แต่ละที่ ซึ่งมีทองแท่งในมือเป็นจำนวนมาก แห่เทขาย แล้วมันจะขึ้นได้ยังไง ช่วงนี้ ต้องยอมรับ มิฉะนั้น คือภาวะ " ฝืน " ใครๆ ก็อยากให้ทองราคาปรับขึ้น แต่.......... เงินมันหายไปกันเยอะนะครับ สำหรับมูลค่าของคนที่มีทองในพอร์ท

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มามองดูที่กราฟรหัสทั้ง 12,26,9 และ 5,35,9 ซึ่ง ณ. วันนี้ ราคาปิด $1377 อยู่ในขอบเขตการหลอกล่อของขาใหญ่ที่สร้างดราม่าขัดแย้งระหว่างขาขึ้นกับเมฆทะมึนแรงขาย " บ่งบอกอยู่ห่างๆ อย่าไปสนใจ " ต้องยอมรับ ตั้งสติ ในสถานการณ์ที่เกิด สำหรับเด็กขายของ ก็ยังรอซื้อกลับคืนต่อไป หลังจากเมื่อวาน ขายทิ้งของที่ซื้อมาวันศุกร์ที่แล้ว และที่ยังไม่ได้ซื้อคืน เพราะล้างพอร์ตหยุดเล่น เพราะวันหยุดยาวสงกรานต์ ก็ยังพอร์ตว่างต่อไป ไม่แตะต้อง ไม่ซื้อคืน จนกว่า รหัส 7,5,2 จะบ่งบอกว่า " มีโอกาศ " ซึ่งในภาพของรหัสฯ 7,5,2 เริ่มส่ออาการ เส้นจะใกล้กันแล้ว จึงรอดูห่างๆ ต่อไป ในสถานะการถือ " ขายก่อน รอซื้อกลับ "

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

น้ำมันดิ่งอีก$2 หุ้นแอปเปิลฉุดวอลล์สตรีททรุด ทองคำกลับมาลบ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 เมษายน 2556 05:32 น.

 

ชาวเวียดนามแห่ซื้อทองคำ หลังราคาทองคำในตลาดโลกดิ่งลงหนักตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้วจนถึงต้นสัปดาห์นี้

 

เอเจนซี/ซีเอ็นเอ็น - น้ำมันดิ่งแรง6วันติดเมื่อวันพุธ(17) โดยเบรนท์ลอนดอน ทรุดลงต่ำกว่า 98 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ท่ามกลางความกังวลต่ออุปสงค์ในสหรัฐฯ ส่วนวอลล์สตรีท ก็ร่วงหนักตามแรงฉุดของหุ้นแอปเปิล ขณะที่ทองคำ กลับมาปิดลบอีกครั้ง เหตุยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆเข้ามาสนับสนุนราคา

 

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 2.04 ดอลลาร์ ปิดที่ 86.68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 2.22 ดอลลาร์ ปิดที่ 97.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขยับลงต่ำกว่า 98 ดอลลาร์เป็นหนแรกนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีก่อน

 

รายงานของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯระบุว่าอุปสงค์น้ำมันเบนซินของประเทศในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา สิ้นสุดวันที่ 12 เมษายน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ 3.3 หรือเฉลี่ยราว 8.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน

 

นอกจากนี้ในรายงานประจำสัปดาห์ของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯระบุด้วยว่าปริมาณการใช้น้ำมันกลั่น อันประกอบด้วยน้ำมันทำความร้อนและดีเซล ก็ลดลงเช่นกัน ทั้งหลายทั้งปวงนี้เองได้ก่อความกังวลต่อปัญหาอุปทานล้นในสหรัฐฯ ซ้ำเติมความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันโลกที่เดิมก็อ่อนแออยู่เป็นทุนแล้ว

 

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(17) ปิดลบแรงท่ามกลางการเทขายอย่างหนัก นำโดยหุ้นแอปเปิล ที่ดิ่งลงกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ จากความกังวลต่ออุปสงค์ผลิตภัณฑ์ของบริษัท ขณะที่วอลล์สตรีท ยังถูกซ้ำเติมด้วยรายงานผลประกอบการอันอ่อนแอของแบงค์ ออฟ อเมริกา ที่สั่นสะเทือนภาคการเงินด้วย

 

หุ้นของแอปเปิล อิงค์ ทรุดลงถึงร้อยละ 5.5 ปิดที่ 402.80 ดอลลาร์ต่อหุ้น หลังจากช่วงหนึ่งขยับลงไปต่ำกว่า 400 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2011 หลังจาก เซอร์รัส ลอจิก ผู้ผลิตชิป ซัพพลายเออร์รายสำคัญของแอเปิล คาดการณ์ถึงรายได้ที่น่าผิดหวัง เพิ่มเติมความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่อ่อนแอลงเรื่องๆของไอโฟนและไอแพด

 

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 138.19 จุด (0.94 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,618.59 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 22.56 จุด (1.43 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,552.01 จุด ส่วนแนสแดค ลดลง 59.96 จุด (1.84 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,204.67 จุด

 

ส่วนราคาทองคำวานนี้(17) ปรับลงเป็นวันที่ 3 ในรอบ 4 วันหลังสุด ขณะที่นักลงทุนยังคงค้นหาปัจจัยสนับสนุนตลาดใหม่ๆ ตามหลังการดิ่งลงแรงเป็นประวัติการณ์ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ ลดลง 4.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,382.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000046405

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

World Markets : สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ (18/04/2556)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (17 เม.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ และจากการที่บริษัทเทสโก้เปิดเผยกำไรลดลงเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ทศวรรษ นอกจากนี้ จำนวนคนว่างงานที่เพิ่มขึ้นในประเทศอังกฤษ ยังส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดด้วย

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.5% ปิดที่ 283.73 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 7,503.03 จุด ลดลง 179.55 จุด หรือ 2.34% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,599.23 จุด ลดลง 86.56 จุด หรือ 2.35% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,244.21 จุด ลดลง 60.37 จุด หรือ 0.96%

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (17 เม.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากรายงานผลประกอบการที่อ่อนแอเกินคาดของบริษัทเอกชน นอกจากนี้ การร่วงลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ยังส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กซบเซาลงด้วย

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 138.19 จุด หรือ 0.94% ปิดที่ 14,618.59 จุด ดัชนี S&P 500 ดิ่งลง 22.56 จุด หรือ 1.43% ปิดที่ 1,552.01 จุด และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 59.96 จุด หรือ 1.84% ปิดที่ 3,204.67 จุด

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (17 เม.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความต้องการพลังงานในสหรัฐ หลังจากสำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของรัฐบาลกลางสหรัฐ (EIA) รายงานว่า ความต้องการน้ำมันเบนซินหดตัวลงกว่า 1% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กและผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทสหรัฐ ยังสร้างแรงกดดันให้กับตลาดน้ำมันนิวยอร์กด้วย

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ร่วงลง 2.04 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 86.68 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 86.06-89.09 ดอลลาร์

 

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค.ที่ตลาดลอนดอน ร่วงลง 2.22 ดอลลาร์ หรือ 2.24% ปิดที่ 97.69 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายทองคำ เพราะมองว่าทั้งตลาดทองคำและตลาดหุ้นไม่ใช่แหล่งการลงทุนที่ปลอดภัยในระยะนี้ จึงหันไปถือครองสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐซึ่งมีความปลอดภัยมากกว่า

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 4.7 ดอลลาร์ หรือ 0.34% ปิดที่ 1,382.7 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 32.1 เซนต์ ปิดที่ 23.307 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 11.85 เซนต์ ปิดที่ 3.1880 ดอลลาร์/ปอนด์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 1,435.40 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 15.20 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 661.40 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 16.80 ดอลลาร์

 

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 เม.ย.) เนื่องจากกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์สหรัฐซึ่งเป็นสกุลเงินที่ปลอดภัย

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 97.85 เยน จากระดับของวันอังคารที่ 97.43 เยน และดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9338 ฟรังค์ จากระดับ 0.9214 ฟรังค์

 

ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.3013 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3191 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินปอนด์ดิ่งลงแตะระดับ 1.5237 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5370 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงแตะระดับ 1.0292 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0381 ดอลลาร์สหรัฐ

 

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (17 เม.ย.) หลังบริษัทเทสโก้เผยมีกำไรลดลงเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ทศวรรษ ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวลงทั้งกลุ่มหลังบีเอชพีเปิดเผยยอดผลผลิตที่ต่ำกว่าการคาดการณ์

 

ดัชนี FTSE 100 ปิดลดลง 60.37 จุด หรือ 0.96% แตะที่ 6,244.21 จุด

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (17 เม.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ และจากการที่บริษัทเทสโก้เปิดเผยกำไรลดลงเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ทศวรรษ นอกจากนี้ จำนวนคนว่างงานที่เพิ่มขึ้นในประเทศอังกฤษ ยังส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดด้วย

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.5% ปิดที่ 283.73 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 7,503.03 จุด ลดลง 179.55 จุด หรือ 2.34% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,599.23 จุด ลดลง 86.56 จุด หรือ 2.35% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,244.21 จุด ลดลง 60.37 จุด หรือ 0.96%

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 18 เมษายน 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...