ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

รหัส 5,35,9 ของค่าเงินดอลล์ ยังคงแนวโน้มด้านอ่อนค่า เส้นดำเส้นแดง ยังถ่างห่างออกจากกัน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บ่าย 2 โมงวันนี้ อาจมีเหตุการณ์แบบเมื่อวานนี้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตัวเลขสหรัฐ คืนนี้ ถ้าออกมาตามโพล ราคาทองก็ย่อ ดังนั้น คงต้องแช่งให้ออกมาแย่ ราคาทองจะได้พุ่งขึ้น 5555666

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังจากมีรายงานว่าซาอุดิอาระเบียและชาติพันธมิตรอาหรับได้เปิดฉากโจมตี กลุ่มกบฎในเยเมน อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เพราะตลาดได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ปรับตัวลดลงมากกว่าคาดการณ์

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลดลง 40.31 จุด หรือ -0.23 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 17,678.23จุด เอสแอนด์พี ลดลง 4.9 จุด หรือ -0.24 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 2,056.15จุด แนสแด็ก ลดลง 13.16 จุด หรือ -13.16 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 4,863.36จุด

 

ราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังจากซาอุดิอาระเบียและชาติพันธมิตรอาหรับได้เปิดฉากโจมตีกลุ่มกบฎในเยเมน

 

ด้านสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) งวดส่งมอบเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 2.22 ดอลลาร์ หรือ +4.51 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 51.43 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

 

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 2.71 ดอลลาร์ ปิดที่ 59.19 ดอลลาร์

 

ขณะที่ราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก เพิ่มขึ้น 7.80 ดอลลาร์ หรือ +0.65 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 1,204.80ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

 

สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อ สัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากมีรายงานว่าซาอุดิอาระเบียและสมาชิกกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าว อาหรับ (GCC) ได้เปิดฉากโจมตีกองกำลังติดอาวุธฮูตี โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต บาห์เรน และกาตาร์ ที่แสดงเจตนารมณ์อย่างชัดเจนว่าจะร่วมมือในปฏิบัติการปกป้องเยเมนจากกลุ่ม กบฏฮูตี

 

อย่างไรก็ตาม การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้ลดแรงบวกของสัญญาทองคำ โดยดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาด นิวยอร์กเมื่อคืนนี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 21 มี.ค. ปรับตัวลง 9,000 ราย แตะ 282,000 ราย ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 290,000 ราย นับเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง

 

ที่มา หนังสือพิมพ์ผู้จัดการออนไลน์ (วันที่ 27 มีนาคม 2558)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นในช่วงที่ผ่านมาเริ่มส่งผลต่อบางภาคส่วนของ เศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยธุรกิจท่องเที่ยวส่อเค้าชะลอตัวจากปีก่อนที่เป็นไปอย่างคึกคัก ขณะที่หลายบริษัทยักษ์ใหญ่ชี้ผลกำไรไตรมาสแรกหดจากปัจจัยค่าเงิน

 

ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ระบุว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศเพิ่มขึ้น 7% เป็นเกือบ 75 ล้านคนในปี 2557 ขณะที่การใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นตลอดทั้งปี อย่างไรก็ดีเมื่อดูจากข้อมูลในแต่ละเดือนพบว่า อัตราการเพิ่มขึ้นนั้นชะลอลงในช่วงปลายปี 2557 และการใช้จ่ายลดลงเล็กน้อยในเดือนมกราคม 2558

นักวิเคราะห์กล่าวว่า แนวโน้มดังกล่าวเป็นไปตามช่วงเวลาที่ค่าเงินดอลลาร์แคนาดา ยูโร และค่าเงินอื่นๆ อ่อนลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ โดยในช่วงปีที่ผ่านมา ค่าเงินยูโรอ่อนลงถึงเกือบ 1 ใน 4 เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ "เราเห็นเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นทั่วโลก ผมคิดว่ามันกระทบกับนักท่องเที่ยวยุโรป" เจสัน คาลิสแมน รักษาการณ์ประธานเจ้าหน้าที่บริหารมอร์แกน โฮเทล กรุ๊ป กล่าว

อดัม แซกส์ ประธานวารสาร Tourism Economics กล่าวว่า ผลจากการเปลี่ยนแปลงค่าเงินต่อธุรกิจท่องเที่ยวเริ่มแสดงให้เห็นในไตรมาสสุด ท้ายของปีก่อน และผลกระทบจะยิ่งชัดเจนขึ้นในปีนี้ ข้อมูลทางการค้าแสดงให้เห็นว่าการใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เพิ่มขึ้นเกินกว่า 2% เล็กน้อยตลอดปี 2557 แต่เพิ่มขึ้นเพียงไม่ถึง 1% ในช่วงไตรมาสสุดท้าย และลดลง 0.7% ในเดือนมกราคมปีนี้

แซกส์คาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นในปีนี้ แม้ว่าจะมีโอกาสเพิ่มขึ้นได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ถ้าไม่มีปัจจัยการแข็งค่า ของเงินดอลลาร์ โดยคาดว่านักท่องเที่ยวจะใช้จ่ายน้อยลง

อย่างไรก็ตามมีความเป็นไปได้ที่ความแข็งแกร่งของการเดินทางท่องเที่ยวภายใน ประเทศจะลดทอนผลกระทบที่เกิดจากค่าเงิน ขณะเดียวกันผู้บริหารในธุรกิจท่องเที่ยวบางรายยังเชื่อว่านักท่องเที่ยวจะ ไม่กังวลกับค่าเงินที่ผันผวนมากนัก "จนถึงขณะนี้เรายังไม่เห็นผลกระทบ" จอห์น โลอิโซส ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมสแตรนด์ บูติกโฮเทล ในนิวยอร์ก กล่าว พร้อมกับเสริมว่า ธุรกิจประมาณ 28% ของโรงแรมมาจากต่างชาติ โดยส่วนใหญ่ถูกจองล่วงหน้านานถึง 1 ปี

ด้านเมแกน อัลเลน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของซิตี้พาส ผู้ให้บริการแพ็กเกจบัตรเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในสหรัฐฯ กล่าวว่า มีคำสั่งซื้อแพ็กเกจเที่ยวนิวยอร์กจากฝรั่งเศสและอิตาลีลดลงเล็กน้อยในช่วง ต้นปี 2558 "แต่ฝรั่งเศสยังเป็นประเทศที่ซื้อพาสเป็นอันดับ 1 แม้ว่าจะลดลงบ้างแต่เป็นการลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น"

ขณะเดียวกันบริษัทขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ เริ่มรายงานผลกระทบจากค่าเงินดอลลาร์ต่อผลกำไร โดยบริษัท ทิฟฟานี่ แอนด์ โค ผู้ผลิตเครื่องประดับรายใหญ่ กล่าวว่า ยอดขายในช่วง 3 เดือนจนถึงเดือนมกราคมลดลง 1% ในขณะถ้าหากค่าเงินไม่ผันผวน บริษัทควรทำยอดขายเพิ่มขึ้น 3% ทิฟฟานี่คาดหมายการเติบโตเพียงเล็กน้อยในปีนี้ ส่วนหนึ่งจากผลของค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า ด้านบริษัท ออราเคิล กล่าวว่า กำไรควรเพิ่มขึ้น 7% ในช่วง 3 เดือนจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ถ้าไม่มีผลกระทบจากเงินดอลลาร์ แต่ในความเป็นจริงกำไรลดลง 3%

จอน โมลเลอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของพร็อกเตอร์แอนด์แกมเบิล (พีแอนด์จี) กล่าวกับนักลงทุนเมื่อปลายเดือนมกราคมว่า ปีงบประมาณปัจจุบัน ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมิถุนายน เป็นปีที่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งนี้ พีแอนด์จีคาดการณ์ว่า ความผันผวนของค่าเงินจะส่งผลให้กำไรลดลงมากถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 12% ในปีงบประมาณนี้

นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายเมื่อสัปดาห์ก่อนถึงสถานการณ์ของเงิน ดอลลาร์ว่า ค่าเงินที่แข็งค่าขึ้นส่วนหนึ่งสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างไรก็ดียอมรับว่าปัจจัยดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการส่งออก และลดราคาสินค้านำเข้าซึ่งส่งผลให้เงินเฟ้อลดลงอย่างน้อยเป็นการชั่วคราว

 

เจ้าหน้าที่ทางการเฟดปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของ สหรัฐฯ ในปีนี้ลง โดยนางเยลเลน กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ชะลอตัวลงเล็กน้อยในไตรมาสแรก เมื่อเทียบกับการเติบโตที่แข็งแกร่งในช่วงครึ่งหลังของปีก่อน อย่างไรก็ดี "เรามองเห็นพื้นฐานของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง และแม้ว่าไตรมาสแรกจะดูอ่อนแอ แต่เรายังคาดการณ์สภาวะทางเศรษฐกิจที่ดีในปีนี้"

 

ที่มา หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ (วันที่ 26 - 28 มีนาคม พ.ศ. 2558)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กิจกรรมภาคการผลิตของจีนลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือนในเดือนมีนาคม สะท้อนถึงความอ่อนแอที่ยังคงมีอยู่ในเศรษฐกิจของจีน ซึ่งอาจเป็นปัจจัยให้ทางการตัดสินใจกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

 

ตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (พีเอ็มไอ) ที่วัดโดยเอชเอสบีซีและมาร์คิตของจีนอยู่ที่ระดับ 49.2 ในเดือนมีนาคม ซึ่งตัวเลขต่ำกว่า 50 หมายถึงกิจกรรมของภาคการผลิตที่หดตัวลง ทั้งนี้นักเศรษฐศาสตร์ที่สำนักข่าวรอยเตอร์และบลูมเบิร์กทำการสำรวจความคิดเห็น ต่างคาดการณ์ตัวเลขที่เกินกว่า 50

ตัวเลขของภาคการผลิตที่อ่อนแอเพิ่มความกังวลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในช่วง 3 เดือนแรกของปี หลังจากข้อมูลด้านการผลิต การลงทุน และยอดขายภาคการค้าปลีกต่างต่ำกว่าความคาดหมายของนักวิเคราะห์ในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์

นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ตั้งเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้ไว้ที่ 7% พร้อมกับให้คำมั่นว่าจะออกมาตรการกระตุ้นถ้าการเติบโตชะลอตัวและกระทบกับการสร้างงานและรายได้ อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์บางรายมองว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสแรกของจีนมีโอกาสที่จะต่ำกว่าเป้าหมายของนายหลี่

นักเศรษฐศาสตร์เห็นพ้องต้องกันว่า ตัวเลขทางเศรษฐกิจที่อ่อนแออย่างต่อเนื่องจะเป็นปัจจัยให้ธนาคารกลางจีนเพิ่มการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินลงเพิ่มเติม หลังจากมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงแล้ว 2 ครั้งตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีก่อน รวมถึงลดเงินฝากสำรองขั้นต่ำของธนาคารพาณิชย์ลง

นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารซีไอซีซีคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนจะปรับลดสัดส่วนเงินสำรองขั้นต่ำของธนาคารพาณิชย์ลงอีก 6 ครั้งในปีนี้ พร้อมกับลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์จากเจพี มอร์แกน เชส คาดการณ์ว่า การปรับลดเงินสำรองขั้นต่ำครั้งต่อไปอาจจะเกิดขึ้นอย่างเร็วในเดือนเมษายน นอกจากนี้อาจมีการปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ในไตรมาส 2 ด้วย

ผลการสำรวจของเอชเอสบีซีและมาร์คิตพบว่า ภาคการผลิตเผชิญกับความท้าทายอย่างมากจากความต้องการภายในประเทศที่อ่อนและความเสี่ยงของการเกิดภาวะเงินฝืด ดัชนีชี้วัดคำสั่งซื้อใหม่ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือนเป็น 49.3 ในเดือนมีนาคม โดยลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน ขณะที่ตลาดแรงงานยังเผชิญกับแรงกดดัน โดยดัชนีการจ้างงานอยู่ในระดับหดตัวเป็นเดือนที่ 17 ติดต่อกัน และอยู่ในระดับต่ำสุดตั้งแต่ช่วงที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจโลกรุนแรง

 

นายจาง เก้าหลี่ รองนายกรัฐมนตรีจีน กล่าวเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า แม้เศรษฐกิจจีนจะเผชิญกับแรงกดดันด้านลบเพิ่มขึ้นในปีนี้ แต่การชะลอตัวเริ่มเข้าสู่ภาวะคงที่ โดยมีการจ้างงานและภาคบริการเป็นดาวเด่น อย่างไรก็ตาม รายงานวิจัยจาก Chinese Academy of Social Sciences ระบุว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปีนี้อาจจะชะลอตัวเหลือเพียง 6.85% ในไตรมาสแรก และ 6.8% ในไตรมาส 2 จากการเติบโต 7.3% ในไตรมาสสุดท้ายของปีก่อน ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าเป้าหมาย 7% ของนายกรัฐมนตรี

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3,038 วันที่ 26 - 28 มีนาคม พ.ศ. 2558

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าวสารจัดเต็ม

 

ขอบคุณครับ คุณป๋า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ECB ปรับเพิ่มเพดานเงินกู้ฉุกเฉินแก่กรีซสู่ระดับ 7.11 หมื่นล้านยูโร ผ27/03/58)

ข่าววิ่ง - ข่าววิ่ง(ไทย)

เจ้าหน้าที่ด้านธนาคารของกรีซเปิดเผยในวันนี้ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับเพิ่มเพดานกู้เงินฉุกเฉินให้แก่กรีซ สู่ระดับ 7.11 หมื่นล้านยูโร (7.78 หมื่นล้านดอลลาร์) ภายใต้โครงการความช่วยเหลือด้านสภาพคล่องฉุกเฉิน (ELA) ในสัปดาห์นี้ จากระดับ 6.98 หมื่นล้านดอลลาร์ยูโรเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งนับเป็นความเคลื่อนไหวที่ช่วยต่อลมหายใจของกรีซให้สามารถอยู่ในกลุ่มยูโรโซน ภายหลังจากที่กรีซประสบมรสุมในการเจรจากับประเทศเจ้าหนี้ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

โครงการ ELA นี้ กำหนดให้ธนาคารกลางกรีซนำเงินไปปล่อยกู้ให้แก่สถาบันการเงินในประเทศ ขณะที่ดอกเบี้ยของ ELA นั้นจะสูงกว่าดอกเบี้ยเงินกู้ตามมาตรฐานของ ECB

 

สำหรับการกู้ยืมที่ธนาคารพาณิชย์กรีซได้กู้ยืมเงินในโครง ELA นั้น เกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว เนื่องจากอีซีบีระงับข้อยกเว้นที่ให้ธนาคารพาณิชย์สามารถใช้พันธบัตรกรีซเป็นหลักประกันการกู้ยืมแบบทั่วไปของ ECB ได้

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสทื (26/03/58)

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ประธาน ECB คาดซื้อบอนด์ตามมาตรการ QE ครบ 6 หมื่นล้านยูโรตามเป้าหมายเดือนนี้ (27/03/58)

ข่าววิ่ง - ข่าววิ่ง(ไทย)

นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวในวันนี้ว่า ECB คาดว่าโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) จะมีวงเงินแตะ 6 หมื่นล้านยุโร (6.583 หมื่นล้านดอลลาร์) ในปลายเดือนนี้ แม้ว่าจะเริ่มต้นในวันที่ 9 มี.ค.

 

เขายังกล่าวว่า ความวิตกที่ว่า ECB จะประสบภาวะขาดแคลนพันธบัตรที่จะซื้อนั้น เป็นเรื่องที่ไม่เกิดขึ้นจริง

 

นายดรากียังเชื่อมั่นว่า นโยบายการเงินของ ECB ช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ระบบเศรษฐกิจ

 

ทั้งนี้ ECB ระบุก่อนหน้านี้ว่า จะซื้อพันธบัตรมูลค่า 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน จนถึงเดือนก.ย.ปีหน้า โดยเริ่มต้นในเดือนมี.ค. คิดเป็นวงเงินรวม 1.1 ล้านล้านยูโร ซึ่งมีเป้าหมายที่จะอัดฉีดเม็ดเงินใหม่ๆเข้าสู่เศรษฐกิจของประเทศยูโรโซน และจัดการกับภาวะเงินฝืดและอัตราว่างงานในยูโรโซนที่อยู่ในระดับสูงถึง 11%

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26/03/58)

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ธนาคารกลางกรีซเปิดเผยว่า เงินฝากในระบบธนาคารของกรีซลดลงมากกว่า 7.5 พันล้านยูโร (8.2 พันล้านดอลลาร์) สู่ระดับ 1.405 แสนล้านยูโร (1.542 แสนล้านดอลลาร์) ในเดือนก.พ. ซึ่งได้เพิ่มแรงกดดันต่อระบบการเงินของประเทศ ขณะที่รัฐบาลกำลังหาทางบรรลุข้อตกลงกับประเทศเจ้าหนี้

 

นายอเล็กซิส ซิปราส ยืนยันว่าจะยื่นรายละเอียดของมาตรการปฏิรูปต่อประเทศเจ้าหนี้ในช่วงต้นสัปดาห์หน้าเป็นอย่างช้า

 

ทั้งนี้ กลุ่มประเทศเจ้าหนี้ของกรีซจำเป็นต้องให้การอนุมัติต่อการปฏิรูปดังกล่าว ก่อนที่จะมีการอัดฉีดเงินช่วยเหลือสำหรับกรีซเพื่อให้สามารถชำระหนี้ได้ก่อนถึงช่วงฤดูร้อนนี้

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสทื (27/03/58)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ เปิดเผยว่า หากเฟดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0% นานเกินไปอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงอันมหาศาล โดยถ้อยแถลงดังกล่าวนับเป็นการส่งสัญญาณให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยโดยเร็ว

 

นายบุลลาร์ด กล่าวว่า ปัจจุบันอาจเป็นเวลาที่สมควรในการปรับทิศทางนโยบายการเงินของสหรัฐ เพื่อให้รองรับกับการขยายตัวของเศรษฐกิจในอนาคต

 

ก่อนหน้านี้ ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ ได้ออกมาเตือนว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำใกล้ 0% ไม่มีความเหมาะสมอีกต่อไปสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐ เมื่อพิจารณาถึงอัตราว่างงานที่ลดลงและแนวโน้มการขยายตัวที่แข็งแกร่งขึ้น

 

ขณะเดียวกัน นายบุลลาร์ดกล่าวเตือนว่า ตลาดการเงินอาจมีปฏิกริยาที่รุนแรงเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่การคาดการณ์ของตลาดและการประเมินของเฟดเกี่ยวกับการเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้นมีความแตกต่างกัน

 

ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์คาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวในช่วงไตรมาส 2 หลังจากอ่อนแอในช่วงต้นปีนี้ โดยเศรษฐกิจจะได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่ร่วงลง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายของผู้บริโภค

 

ผู้บริหารเฟดกล่าวเสริมว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยโดยเร็วจะช่วยสร้างความมั่นใจว่าเฟดจะไม่ต้องรีบเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงหลายปีข้างหน้าเพื่อที่จะควบคุมเงินเฟ้อ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26/03/58)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

$1202 :upstrong: :upstrong: $1218

ขอให้บินขึ้นสมดั่งเหยี่ยวในรูปโปรไฟล์ครับ เพราะผมก็ลุ้นอยู่ :_087 :_087 :_087 :_087 :_087

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

19:30 น. รายงาน GDP สหรัฐฯ ถ้าออกมาดี ตามโพล ก็ต้องทำใจถัามันจะย่อลง แต่ ก็ยังมีจุดรับ 1196 ออกมาไม่ดี ก็ปรับตัวขึ้นชน 1216-1218 จุดต้าน

 

To the upside, the pair may climb from current levels and retest 100-DMA located at 1210 levels and beyond that 50-DMA placed at 1220 levels. To the downside, the pair may fall from current levels and test 5-DMA at 1196.56 levels below a break of crucial 1200 barrier.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...