ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

ค่ำคืนที่ผ่านมา ราคาทองพยายามไต่ราคาขึ้นชนจุดต้าน 1196 น่าจะ 2 ครั้ง แล้วไม่ผ่าน ย่อเยอะทีมาที่ 1186 แล้วก็ม่ปิดราวๆ 1192 ก่อนที่ตอนนี้มาเวียนว่ายแถวๆ 1190-1192

 

รหัส 5,35,9 สัญญานนำทางราคาทอง ไต่ขึ้นเป็นวันที่ 5 และยังคงปรากฎของเส้นดำเส้นแดงว่า ยังถ่างห่างออกจากกัน ยังคงแนวโน้มในทิศทางขึ้นอย่างต่อเนื่อง ใครเข้าซื้อถือไว้ตั้งแต่เส้นเริ่มตัด ก็ทนถือถือทน กันต่อไป

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เมื่อแนวโน้มตัดเป็นขาขึ้น : แนวทางเล่นขาเสี่ยง ชนต้านแล้วย่อชนรับแล้วเด้ง ราคาปิดมักมากกว่าวันที่ผ่านมา / มันจะสลับกับเมื่อตัดเป็นขาลง : ชนรับแล้วเด้งชนต้านแล้วร่วง ราคาปิดมักต่ำกว่าวันที่ผ่านมา

 

ชุดตัวเลขขาเสี่ยง

 

LONG GOLD above 1179 SL 1176 TP 1189-1196-1202-1218-1216-1222

SHORT GOLD below 1177 SL 1180 TP 1165-1152-1146

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รหัส 5,35,9 ของค่าเงินดอลล์สหรัฐ สัญญานนำทางยังคงแนวโน้มทิศทางอ่อนค่าลง ถึงแม้ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาจะบวก แต่เป็นผลมาจากรายงานเศรษฐกิจสหรัฐ ที่ออกมาดี แต่เมื่อแนวโน้ม 5,35,9 ยังคงออกแบบนี้ เพราะเส้นดำเส้นแดง ยังถ่างห่างออกจากกัน ยังไม่มีการตัดกันรอบใหม่ สัญญานจึงยังคง แนวโน้มอ่อนค่าลง เป็นบวกต่อราคาทอง แต่ค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาท กรอบออกแข็ง 32.40-32.50 / จากเมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อน 32.90 แข็งไป 40 สตางค์ มูลค่าทองหดจางไปเยอะมว๊ากกกกก

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รายงานยุโรป 4 โมงเย็น ถ้าออกมาตามโพล คือตัวเลขดีขึ้น ส่งเสริมยูโรแข็งขึ้น ราคาทองจะชนต้าน 1196 แตกหรือไม่ ต้องรอ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 มี.ค.) เนื่องจากการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญา ทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 3.7 ดอลลาร์ หรือ 0.31% ปิดที่ระดับ 1,191.40 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 9.2 เซนต์ ปิดที่ 16.983 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 3 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,141.50 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 7 ดอลลาร์ ปิดที่ 763.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำได้รับแรงซื้อส่งเข้าหนุน หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงเมื่อคืนนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงไปกว่า 100 จุดเนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐอาจกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

 

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย นั้น มาร์กิตเปิดเผยผลสำรวจซึ่งระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของสหรัฐประจำเดือนมี.ค.ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 55.3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้ว

 

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 7.8% ในเดือนที่แล้ว สู่ระดับ 539,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2008 ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐ ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้ว และเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 25 มีนาคม 2558)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 24 มี.ค.2558

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (24 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐอาจกดดัน ให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,011.14 จุด ร่วงลง 104.90 จุด หรือ -0.58% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,994.73 จุด ลดลง 16.24 จุด หรือ -0.32% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,091.50 จุด ลดลง 12.92 จุด หรือ -0.61%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานของมาร์กิต อิโคโนมิคส์ที่ระบุว่า ดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของยูโรโซนในเดือนมี.ค.พุ่งขึ้นระดับสูงสุด ในรอบ 46 เดือน นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร

ดัชนี Stoxx 600 ปรับขึ้น 0.3% ปิดที่ 402.49 จุด

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,088.28 จุด เพิ่มขึ้น 33.76 จุด หรือ +0.67% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,005.69 จุด พุ่งขึ้น 109.85 จุด หรือ +0.92% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,019.68 จุด ลดลง 17.99 จุด หรือ -0.26%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดอ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ (24 มี.ค.) หลังจากปรับตัวในแดนบวกมา 6 วันทำการ โดยมีปัจจัยถ่วงจากหุ้นกลุ่มเหมืองที่ปรับลดลง

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 17.99 จุด หรือ 0.26% ปิดที่ 7,019.68 จุด

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (24 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่สำนักงานสารสนเทศด้านการ พลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบในคืนวันพุธตามเวลาไทย

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ขยับขึ้น 6 เซนต์ ปิดที่ 47.51 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 81 เซนต์ ปิดที่ 55.11 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- ดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรเมื่อคืนนี้ (24 มี.ค.) หลังจากที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ต่างออกมาในเชิง บวก โดยข้อมูลเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นได้ช่วยหนุนความหวังเกี่ยวกับการปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ย

 

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0925 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0944 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.4846 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4944 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 119.66 เยน เทียบกับระดับ 119.81 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9576 ฟรังก์ จาก 0.9667 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7870 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7881 ดอลลาร์

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 มี.ค.) เนื่องจากการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญา ทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 3.7 ดอลลาร์ หรือ 0.31% ปิดที่ระดับ 1,191.40 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 9.2 เซนต์ ปิดที่ 16.983 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 3 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,141.50 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 7 ดอลลาร์ ปิดที่ 763.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 18,011.14 จุด ลดลง 104.90 จุด -0.58%

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,994.73 จุด ลดลง 16.24 จุด -0.32%

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,091.50 จุด ลดลง 12.92 จุด -0.61%

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,019.68 จุด ลดลง 17.99 จุด -0.26%

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,005.69 จุด เพิ่มขึ้น 109.85 จุด +0.92%

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,088.28 จุด เพิ่มขึ้น 33.76 จุด +0.67%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,934.50 จุด เพิ่มขึ้น 13.50 จุด +0.23%

 

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,969.10 จุด เพิ่มขึ้น 13.00 จุด +0.22%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,731.66 จุด ลดลง 26.43 จุด -0.27%

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,713.45 จุด ลดลง 40.91 จุด -0.21%

 

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,041.37 จุด เพิ่มขึ้น 4.78 จุด +0.23%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,691.41 จุด เพิ่มขึ้น 3.68 จุด +0.10%

 

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,828.94 จุด ลดลง 11.55 จุด -0.15%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,399.60 จุด ลดลง 94.91 จุด -0.39%

 

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,447.65 จุด เพิ่มขึ้น 10.55 จุด +0.19%

 

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,814.04 จุด เพิ่มขึ้น 18.19 จุด +1.01%

 

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,413.26 จุด เพิ่มขึ้น 3.13 จุด +0.09%

 

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 28,161.72 จุด ลดลง 30.30 จุด -0.11%

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 25 มีนาคม 2558)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดอยช์แบงก์คาดกรีซอาจผิดนัดชำระหนี้ IMF ในวันที่ 9 เม.ย.นี้ (25/03/58)

ข่าววิ่ง - ข่าววิ่ง(ไทย)

ดอยช์แบงก์คาดการณ์ว่า การที่รัฐบาลกรีซสภาพคล่องอาจจะนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้มูลค่า 460 ล้านยูโร (502.5 ล้านดอลลาร์) ให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ในวันที่ 9 เม.ย.นี้

 

ดอยช์แบงก์ระบุว่า จนถึงขณะนี้ รายได้จากการจัดเก็บภาษีของกรีซยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมาย 1 พันล้านดอลลาร์และภาคธนาคารของกรีซกำลังขาดสภาพคล่อง

 

ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถกู้ยืมเงินเพิ่มเติมได้ รัฐสภากรีซจำเป็นต้องอนุมัติแผนการปฏิรูปหลายด้านตามที่กลุ่มเจ้าหนี้ในยุโรปเป็นผู้กำหนด แต่ก็ถือเป็นงานที่ยากลำบาก เนื่องจากกรีซไม่มีความคืบหน้าในการปฏิรูปนับตั้งแต่ที่ได้ทำข้อตกลงไปเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25/03/58)

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าววิ่ง - ข่าววิ่ง(ไทย)

นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่าเฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำใกล้ 0% ไม่มีความเหมาะสมอีกต่อไปสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐ เมื่อพิจารณาถึงอัตราว่างงานที่ลดลงและแนวโน้มการขยายตัวที่แข็งแกร่งขึ้น

 

ขณะเดียวกัน นายบูลลาร์ดกล่าวเตือนว่าตลาดการเงินอาจมีปฏิกริยาที่รุนแรงเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่มีความแตกต่างกันระหว่างการคาดการณ์ของตลาดและการประเมินของเฟดเกี่ยวกับการเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวในช่วงไตรมาส 2 หลังจากปรับตัวอ่อนแอนในช่วงเริ่มต้นปีนี้ โดยเศรษฐกิจจะได้รับแรงบวกจากราคาน้ำมันที่ร่วงลง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายของผู้บริโภค

 

เขากล่าวเสริมว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยโดยเร็วจะช่วยสร้างความมั่นใจว่าเฟดจะไม่ต้องรีบเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงหลายปีข้างเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25/03/58)

 

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผู้เชี่ยวชาญด้านฟันด์โฟลว์ ชี้กลางไตรมาส 2 ตลาดหุ้นโลกดิ่งทำนิวโลว์ เหตุมีโอกาสเกิดวิกฤติ 2 เรื่อง คือ เงินทุนไหลออก และวิกฤติยุโรปปะทุอีกครั้ง แนะพลิกเป็นโอกาสเข้าสะสมหุ้นไทย จากปัจจัยบวกหนุนเฟดขึ้นดอกเบี้ยปลายปี 58 –ราคาน้ำมันผงกหัว ยืนเป้าดัชนีสิ้นปีนี้ที่ 1,680 – 1,700 จุด ฟากบลจ.ไม่รอช้าออกทริกเกอร์ฟันด์เก็งกำไร กรุงไทย ลงทุนหุ้นถ่วงน้ำหนักลดเสี่ยงด้วยตราสารหนี้ ทิสโก้ ลุยกองทุนน้ำมันต่อเนื่อง

 

ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ทรีนีตี้ จำกัด และในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านเงินทุนเคลื่อนย้าย (ฟันด์โฟลว์)กล่าวถึงภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นว่า ช่วงสั้นตลาดหุ้นทั่วโลกจะมีการฟื้นตัว เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯได้สะท้อนเรื่องผลต่างอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯและยูโรไปแล้ว

ขณะที่มองว่าตลาดหุ้นทั่วโลกมีโอกาสประสบกับวิกฤติเงินทุนไหลออกเหมือน QE Tapering ที่เกิดขึ้นในช่วงกลางปี 2556 อีกครั้งในกลางไตรมาส 2 ประกอบกับวิกฤติทางด้านยุโรปอาจจะปะทุอีกครั้งหนึ่ง และอาจจะเป็นจุดต่ำสุดของตลาดหุ้นทั่วโลก

สำหรับตลาดหุ้นไทย ถูกปรับลดกำไรสุทธิต่อหุ้น( EPS) แต่มองว่าเป็นโอกาสที่นักลงทุนจะเข้าสะสมหุ้นในกลางไตรมาส 2 อีกครั้ง เนื่องจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา(เฟด)เลื่อนการขึ้นดอกเบี้ยไปสู่ช่วงปลายปี ราคาน้ำมันมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นในครึ่งปีหลังของปี 2558 ทำให้หุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นอีกครั้งในช่วงไตรมาส 3 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของสภาพคล่องทั่วโลก ในขณะที่จีนเริ่มมีมาตรการการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น เป้าหมายดัชนีหุ้นไทยปีนี้คาดว่าอยู่ที่ 1,680 – 1,700 จุด อัตราราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น(พีอี เรโช)ประมาณ 14.3 เท่า

ด้านบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนมองเห็นโอกาสการทำกำไรระยะสั้นในภาวะที่ตลาดหุ้นผันผวนด้วยการออกกองทุนรวมที่ตั้งเป้าผลตอบแทนโดยจะปิดกองทุนเมื่อทำกำไรได้ตามเป้า หรือเรียกว่าทริกเกอร์ฟันด์ ขณะที่พบว่าบางกองทุนมีการกระจายความเสี่ยงด้วยการลงทุนในตราสารหนี้ด้วย

โดยนางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.)กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ออกกองทุนเปิดกรุงไทย 5% ทริกเกอร์ ฟันด์ 5 ( KTIG5-5) เสนอขายตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 26 มีนาคม 2558 มูลค่าโครงการ 1 พันล้านบาท เงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท มีนโยบายลงทุนในหุ้น ตราสารหนี้ และเงินฝาก โดยผู้จัดการกองทุนจะปรับสัดส่วนการลงทุนได้ในสัดส่วนตั้งแต่ 0 – 100 % ของมูลค่าทรัพย์สินกองทุน เพื่อให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ

ทั้งนี้กองทุน KTIG5-5 ไม่กำหนดอายุโครงการ และจะเลิกโครงการหรือปิดกองทุนโดยอัตโนมัติ เมื่อหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10.5555 บาท เป็นเวลา 3 วันทำการติดต่อกันขึ้นไป โดยมองว่าในช่วงเวลานี้ เป็นจังหวะที่ดีสำหรับโอกาสในการสร้างผลตอบแทนให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ เนื่องจากดัชนีตลาดหลักทรัพย์ มีการปรับตัวลง รวมถึงประเทศไทยหลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน ( กนง.) ได้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% ต่อปี หรือจากระดับ 2.00% ต่อปีเป็น 1.75% ต่อปี ล้วนเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เงินทุนไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้นโดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯที่ 1,680 จุด

นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บลจ.ทิสโก้ฯ เปิดเผยว่า หลังจากในช่วงที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบโลก WTI ปรับตัวลงมาแตะที่ระดับต่ำกว่า 45 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรลอีกครั้ง (ข้อมูล ณ วันที่ 19 มี.ค. 58 ) โดย บลจ.ทิสโก้ฯมีมุมมองว่าการปรับตัวลงของน้ำมันเริ่มมีจำกัด และจะเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ตามอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล ประกอบกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และการปรับลดอัตราการผลิตน้ำมันเพื่อสะท้อนกับราคาน้ำมันที่ต่ำ ซึ่งจะส่งผลให้สภาวะอุปสงค์และอุปทานของน้ำมันมีความสมดุลมากขึ้น

ดังนั้น เพื่อเป็นการจับจังหวะการลงทุนเพื่อเปิดโอกาสรับผลตอบแทนที่ดี และรองรับความต้องการของนักลงทุน จึงเปิดเสนอขายกองทุนทริกเกอร์น้ำมัน "กองทุนเปิด ทิสโก้ ออยล์ ทริกเกอร์ 8% #5" มูลค่าโครงการ 1.5 พันล้านบาท โดยมีเป้าหมายเลิกโครงการที่ 8% ภายในระยะเวลา 8 เดือน

ทั้งนี้กองทุนเปิด ทิสโก้ ออยล์ ทริกเกอร์ 8% #5 เน้นลงทุนในกองทุนน้ำมัน United States Oil Fund ซึ่งเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟที่มีวัตถุประสงค์ในการลงทุนเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนสอดคล้องกับอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาสัญญาฟิวเจอร์ที่อ้างอิงกับน้ำมันดิบคุณภาพดี (WTI Light Sweet Crude Oil) ในตลาดไนเม็กซ์ (NYMEX) ในสหรัฐฯ และมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 90% ของมูลค่าทรัพย์สินที่ลงทุนในต่างประเทศ

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3,037 วันที่ 22- 25 มีนาคม พ.ศ. 2558

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...