โอกาส"ทอง" (จริงๆ) : Safe Heaven

[patcharin 51]

ขอบคุณคุณNext นะคร้า แหะ แหะ ก่อนเห็นที่คุณหมอเล็กทำข้อความเป็นสีเข้ม พยามอ่านซะตาเหล่เลยค่ะ อิอิ ขอบคุณคุณหมอเล็กด้วยคร้า

อยากถามคุณNext ค่ะ มีทางไหนบ้างมั้ยคะ ที่สามารถทำให้ค่าแท้จริงของทองคำ เพิ่มมากขึ้นอีก คืออำนาจการซื้อมากขึ้นกว่าเดิม สมมุติเดิมสามารถซื้อก๋วยเตี๋ยว600ชาม แต่อาจเป็นก๋วยเตี๋ยว 800ชาม หรือ 1000 ชาม รวมทั้งของอย่างอื่นด้วยค่ะ

ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 13, 2010 โดย Arpat

[chayanee_roj 5]

k.NEXT วันนี้ได้อ่านเงินเฟ้อสามารถเข้าใจเหมือนอยู่ในห้องเรียนจริงๆ -ขอคำตอบแบบคนที่ไม่ค่อยเข้าใจนะคะ ว่าวันจันทร์นี้ไปชื้อได้เลยหรือ รอก่อนคะ โปรดชี้แนะด้วยนะคะ

[Nidnoi 0]

ขอบคุณมากค่ะ คุณ next เห็นหัวข้อกระทู้ เปิดเข้ามาอ่านแล้ว หยุดไม่ได้จริง ๆ ต้องรีบไปไล่อ่านตั้งแต่หน้าแรกเลย ได้ความรู้ดี ๆ อีกเยอะเลยค่ะ

[russ 2]

ขอบคุณ คุณเน็กค่ะ

[malisa 1]

!01 !01 !01

[potgarn 2,608]

!uu !uu !53 !10 !01

[alexaji 13]

ถ้าทองเท่าเดิมสามารถซื้อก๋วยเตี๋ยวได้ในจำนวนเท่าเดิมแบบที่คุณเน็กยกตัวอย่าง

ถ้าอย่างนั้นสมมติเล่นๆ ว่าเราสามารถเก็บก๋วยเตี๋ยวได้มาถึงปัจจุบันก็เท่ากับเราเก็บทอง

แต่ก๋วยเตี๋ยวเราเก็บไว้ก็คงเน่าเสีย แต่ถ้าเป็นอย่างอื่นอย่างเช่น น้ำมัน หรือการลงทุนใน Commodity อย่างอื่น

มูลค่าก็น่าจะมีมูลค่าเท่าๆ กับทองด้วย

 

ราวกับว่ามีแค่เงินอย่างเดียวเองที่ด้อยมูลค่าลงเมื่อเวลาเปลี่ยนไป

 

เลยอยากให้ช่วยวิเคราะห์หรือเปรียบเทียบอ้างอิงกับการ มีที่ดิน หุ้น เงิน(Silver) ทองแดง หรืออื่นๆ ที่สามารถเก็บได้

ว่ามีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญมากหรือไม่ครับ

 

ถ้าทอง=ก๋วยเตี๋ยวเป็นแค่การยกตัวอย่างขำขำ ก็ขอความชัดเจนด้วยครับ

 

ขอโทษด้วยถ้าคิดมากไปแต่บทความของคุณทำให้ยิ่งคิดก็ยิ่งประเทืองปัญญาครับ

[Nexttonothing 1,509]

 

ที่เก็บ(Deposit Box)

 

ตอบคำถามของคุณ Arpat กับ Alixaji นะครับ

 

จะเห็นว่าที่ระดับทองคำราคา 19000 ตอนนี้สามารถซื้อก๋วยเตี๋ยวได้เพิ่มมาอีก 30 กว่าชามแล้วนะครับ

แต่ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้นครับ สิ่งที่ผมพยายามจะสื่อก็คือ ทองคำสามารถรักษา อำนาจการซื้อ (Purchasing Power)

เอาไว้ได้ครับแม้ว่าจะผ่านกาลเวลาไปนานแค่ไหนก็ตาม ของบางอย่างนั้นถูกลงเมื่อเทียบกับทองคำด้วยซ้ำ

นั่นทำให้ อำนาจการซื้อของเราเพิ่มขึ้น แต่เมื่อเทียบกับ สกุลเงิน (Currency)

แล้วน้อยยยมากเลยครับที่จะเห็นสินค้าราคาถูกลง เพราะสกุลเงินนั้นด้อยค่าลงเร็วมากตามอัตราการพิมพ์เพิ่มเข้ามาในระบบ

 

วิธีสังเกตุ เงินเฟ้อ อย่างง่ายนอกจากดูที่ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นแล้ว ให้เราลองเดินเข้าธนาคารพานิชย์ทั่วไป แล้วบอกที่เคาท์เตอร์ว่า

วันนี้ขอถอนเงิน "เอาแบงค์ใหม่นะ" หรือเอาแบงค์เก่าไปบอกพนักงานว่า "ขอแลกแบงค์ใหม่"หน่อย............

 

เกือบทุกธนาคารเลยครับ จะมีแบงค์ใหม่ให้คุณ !!!

 

คุณเคยนึกสงสัยในใจบ้างมั๊ยครับว่า แล้วแบงค์เก่ามันไปไหน????

 

แล้วในชีวิตนี้ ระหว่าง "แบงค์ขาดชำรุด" กับ "แบงค์ใหม่" คุณเห็นอะไรมากกว่ากัน!!!

 

(ผมเห็นบางคนแบงค์ขาดยังเอาสก๊อตเทปแปะใช้ต่อ ไม่ยอมเอาไปแลกคืนธนาคารด้วยซ้ำ)

แล้วแบงค์เก่ามันไปไหน?? คำตอบก็คือมันยังวนเวียนอยู่ในระบบนี้แหละครับแล้วก็เจอแบงค์ใหม่เข้ามา "เจือจาง"

 

ผมเคยไปธนาคารเห็น พนักงานหยิบแบงค์พันล้วนๆใหม่ๆ มัดห่อพลาสติกอย่างดี 3 ล้านบาท เรียงเลขทุกใบตั้งแต่ใบแรกยันถึงใบสุดท้าย!

คิดในใจนี่มัน ระบบแมททริกซ์ (Matrix) ของการเงินโดยแท้

 

ที่นี้ประเด็นที่คุณ Alexaji ถามมา...... ผมเคยเขียนถึงในบทความอยู่เสมอๆว่า เมื่อคุณทำงานได้ผลตอบแทนมา คุณต้องหา

 

ที่เก็บ ............ ให้กับผลตอบแทนของคุณ

 

ทีนี้จึงขึ้นอยู่กับคุณแล้วครับ ว่าจะเลือกเก็บไว้ในไหน??

 

Option 1 ธนบัตร (Bank note) เก็บเป็นแบงค์เอาไว้ ยัดใส่ตุ่มหรือใส่ตู้เสื้อผ้า

มันจะเสื่อมค่าลงทุกวัน?

 

Option 2 เงินฝาก (Saving account) ที่ให้ผลตอบแทน 0.5%-1% ต่อปี ??

ในขณะที่อัตราเงินเฟ้ออย่างเป็นทางการ คือ 3.5%

ถอนตังค์ออกมาปลายปีพร้อมรับดอกเบี้ย ยังไปใช้ซื้อของได้น้อย

กว่าเดิมในวันที่เอาเงินไปฝากด้วยซ้ำ(ฝากประจำหรือ พันธบัตรทั้งหลาย ก็ไม่ได้ดีกว่ากันเท่าไหร่)

 

Option 3 หุ้น (Stock) เมื่อซื้อหุ้นหมายถึงคุณซื้อบางส่วนของกิจการ ถือเป็นสินทรัพย์ที่แท้จริง

เช่นกัน ตัวนี้ก็น่าสนใจ แต่ต้องเลือกให้ถูกตัว ถูกกิจการนะครับ

เพราะราคาของมันจะหวั่นไหวต่อข่าวมากๆ

 

Option 4 ที่ดิน (Land or Properties)เป็นสินทรัพย์ที่อยู่ได้ในระยะยาว

แต่ละที่แต่ละแปลงก็มีลักษณะเฉพาะตัว ขึ้นกับทำเล แต่ข้อเสียคือ

มันติดตรึงเคลื่อนย้ายไม่ได้ ซื้อแล้วซื้อเลยไม่ก็ขายซื้อที่อื่น

ใหม่ อาณาบริเวณทั้งหมดคือ "ที่เก็บ" ความมั่งคั่งของเรา มีความเสี่ยงต่อภัยธรรมชาติที่คาดไม่ถึง

และเรื่องของทำเล การเลือกซื้อต้องมีความเชี่ยวชาญ ตาถึง,เงินถึง และ

ใจต้องถึง ด้วย ผลตอบแทนจะไม่น้อยเลยครับ.

 

Option 5 น้ำมัน หรือ สินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ (Commodities) คุณคงไม่สามารถเก็บน้ำมันเป็นถังๆ

ไว้ในบ้านได้ การกักตุนยางพารา,ทองแดง,ข้าวสารอาหารแห้ง ก็จำเป็นต้องมี

โกดังหรือ พื้นที่ในการเก็บระดับนึง ที่ทำได้ก็คือซื้อกองทุน

เป็นตัวเลขเป็นกระดาษ แต่ไม่สะดวกเก็บเป็น Physical ที่จับต้องได้

 

Option 6 แร่เงิน (Silver) ลูกพี่ลูกน้องของทองคำ ตัวนี้ผมบอกได้เลยว่า ทีเด็ด !!

ไว้จะแยกไปพูดในบทความตอนต่อๆไปครับ แต่ ข้อเสียก็คือเหมือนเดิม พื้นที่ในการเก็บ เช่น

จะหาที่เก็บให้ เงิน 600,000 ต้องใช้ Silver ประมาณ 30

กิโลกรัม แต่ทองคำสำหรับเงิน 6 แสนพกใส่กระเป๋ากางเกงยังได้ครับ

แถมต้องระวังเรื่องการทำปฏิกิริยากับอากาศออกสีเหลืองหม่นหรือดำด้วยนะครับ

 

Option 7 ทองคำ(Gold)มีลักษณะพิเศษ คือ "อมตะ"(Timeless)

แถมยังใช้พื้นที่เก็บน้อยมาก เงิน 10 ล้านหากคุณต้องเลือกที่เก็บระหว่าง

ที่ดินกับ ทองคำ

พื้นที่ที่ต้องใช้ต่างกันแบบไม่ต้องพูดถึง พูดง่ายๆว่า

"ความรวยความมั่งคั่งที่คุณสั่งสมมามันสามารถพกพาไปกับคุณได้ครับ" ที่สำคัญมันได้รับการยอมรับ

ทั่วทั้งโลก!(Global) การเก็บเป็น Physical ในรูปของเหรียญทองคำ หรือ แท่ง ก็ทำได้ง่าย

มากๆ ไม่มีต้นทุนการเก็บรักษา ไม่ต้องเฝ้ายามเช่าโกดัง เสียภาษีค่าโอนที่ค่านายหน้า สารพัด ไม่

ต้องซ่อมบำรุงใดๆทั้งสิ้น ที่สำคัญรักษา อำนาจการซื้อ (Purchasing Power)ของคุณได้ดีเยี่ยม

 

 

ผมเคยบอกไปแล้วว่า อะไรก็ตามที่คุณซื้อแล้วไม่ได้จับไม่ได้สัมผัสมันจริงๆ

ผมถือว่าคุณยังไม่ได้ครอบครองมันอย่างเต็มตัว การเทรดซื้อขาย

สัญญากระดาษ ไม่ว่าจะเป็น สินทรัพย์ประเภทไหนไม่อุ่นใจเท่ากับ จับ "ของจริง" นะครับ

 

ยังมีอีกมากครับไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะ พระเครื่อง หรือ กองทุนรวมสารพัดชนิด

 

....................

 

คุณล่ะ? จะเลือกอะไรดีครับ ?

ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 14, 2010 โดย Nexttonothing

[Nexttonothing 1,509]

หวัดดีค่าคุณ next กระทู้นี้เข้าใจเรื่องเงินๆทองถ่องแท้สุดยอดเลยค่ะ อ่านแล้วเพลินสุดๆ ไม่เครียดด้วย 5555

 

^__^

 

 

 

กระทู้คุณ next นี้มีสาระ ความคิดเห็นเหมือนผม ผมเลือกถิอทองมากกว่าถือเงินครับ

 

 

ขอบดุณมากๆๆๆ เลยค่ะ ถูกใจและโดนใจที่สุด ขอติดตามอ่านต่อไปค่ะ เป็นสิ่งที่หลายคนอาจไม่เคยคิดว่ามันเป็นแบบนี้จริงๆ

 

 

ไม่เสียใจจิงๆค่ะ ที่รอติดตาม

จะขอเป็นแฟนกระทู้นี้ไปจนกว่าจะจบเล่มนะคะ สู้ๆ (บอกตัวเอง) และ คุณ Next ค่ะ :wub:

 

 

ขอบคุณมากค่ะ คุณ next เห็นหัวข้อกระทู้ เปิดเข้ามาอ่านแล้ว หยุดไม่ได้จริง ๆ ต้องรีบไปไล่อ่านตั้งแต่หน้าแรกเลย ได้ความรู้ดี ๆ อีกเยอะเลยค่ะ

 

ขอบคุณที่สละเวลาอ่านนะครับ หากเห็นว่าเป็นประโยชน์ก็บอกต่อส่งต่อไปนะครับ

ตอนนี้ผมทำ ลิงค์ของทุกบทความ ไว้ที่หน้าแรกของกระทู้แล้วด้วยนะครับ สำหรับคนที่จะอ่านย้อนหลังสามารถ

กลับไปอ่านได้ง่ายขึ้นครับ

[Nexttonothing 1,509]

k.NEXT วันนี้ได้อ่านเงินเฟ้อสามารถเข้าใจเหมือนอยู่ในห้องเรียนจริงๆ -ขอคำตอบแบบคนที่ไม่ค่อยเข้าใจนะคะ ว่าวันจันทร์นี้ไปชื้อได้เลยหรือ รอก่อนคะ โปรดชี้แนะด้วยนะคะ

 

สำหรับทองคำแท่งไมมีปัญหานะครับ ซื้อสะสมได้เลยครับ รับรองในอนาคตจะไม่เสียใจแน่นอนครับ

แต่หากพวก GF แนะนำดูตามปัจจัยทางเทคนิค ดีกว่าคับ

[Maye Maye ja 3]

ขอบคุณสำหรับเช้าวันอาทิตย์ กับคำแนะนำดีๆค่ะ เยี่ยมมากเลยค่ะ !30 !30 !30

[Yai Carmungwed 104]

เข้ามาเพิ่มพูนความรู้ ต้องเข้ามา กระทู้คุณ nextครับ

คุณอาจจะได้รับรู้ ในสิ่งที่คุณไม่เคยรู้

ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 14, 2010 โดย Yai Carmungwed

[itums 39]

+1 ขอบคุณครับ ผมเห็นด้วยกับคุณ Nexttonothing ในเรื่องอสังหาริมทรัพย์ กับทองคำแท่ง

ผมเคยขายทาวเฮ้าส์ ราคา 1 ล้านกว่าบาท กว่าจะขายได้ วุ่นวายสารพัดลางานจนเจ้านายเขม่นอีกตะหาก

แต่ทีขายทอง แค่ดูราคาที่อาแปะสมาคมประกาศ ยกโทรศัพท์ โทรไปสั่งขาย ที่ต้องทำคือเอาบุคแบงค์ไปอัพว่าตังค์เข้าหรือยังแค่นั้นเอง

แถมขายทองไม่ง้อคนซื้ออีกต่างหาก เอาไปที่ไหนก็รับ

[leo_attack 579]

กางเต็นรอๆๆๆๆ บทความต่อไป ตามอ่านตั้งแต่ลงบทความครั้งแรก ยังสนุกไม่สร่างเลยนะครับ

 

ถามบ้างๆๆ

 

คุึณ next คิดว่ามีความเป็นไปได้มั้ยครับที่ ทองคำจะกลับมาใช้ระบบเก่าที่เงินผูกกับทอง (เห็นมีคนชักเริ่มเสนอตอนประชุมใหญ่ๆ)หรือว่าจะมีโอกาศที่ทาง เมกากับยุโรป จะรวมหัวกันออกมาช่วยกันโขกราคาทองแบบช่วงเมื่อปี 80 มั้ยครับ

 

เศรษฐกิจเมกากับยุโรป คิดว่าปีหน้ามีโอกาศฟื้นมั้ยครับ หรือว่าเหวจะอยู่ไม่ไกลแล้ว จะเป็นเหตุทำให้ราคาทองเป็น 5000 เหรียญ นี่ผมฝันไกลไปมั้ยครับ วันนี้พึ่งเอากำไลข้อมือทองท่านแม่ไปเปลี่ยนเส้นมา ดูสุกใสส่องประกายดี เส้น 3 บาทบอกตอนนั้นซื้อ 14000 =_=" ตอนนี้เกือบ 60000 ผมอยากซึมซับความรู้สึกนี้บ้างจัง

[patcharin 51]

ขอบคุณคุณNext คร้า :P รออ่านต่อนะคร้า