ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

นายกฯให้กำลังใจตูน บอดี้สแลมวิ่งการกุศลระดมทุนให้สำเร็จ-ปลอดภัย พร้อมย้ำรัฐบาลบริหารงบประมาณที่มีจำกัดให้พัฒนาทุกมิติ

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อาทิตย์ที่ 15 ตุลาคม 2560 18:23:57 น.

พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ฝากให้กำลังใจนายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม ที่ตั้งใจวิ่งการกุศลเพื่อหาเงินช่วยเหลือโรงพยาบาล ตามโครงการก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ ในช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค.60 โดยขอให้ปฏิบัติภารกิจด้วยความสำเร็จและปลอดภัย รวมทั้งขอบคุณที่ได้ทำหน้าที่ของคนไทยคนหนึ่งในการช่วยเหลือประเทศชาติและเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

 

 

“นายกฯ ย้ำว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นสิ่งที่มีประโยชน์และไม่ทำให้ใครเสียหาย โดยการทำความดีไม่จำเป็นต้องรอให้ใครมาบังคับ และหากมีความมุ่งมั่นแน่วแน่ก็จะต้องไม่หวั่นไหวต่อการวิพากษ์วิจารณ์ของผู้อื่น พร้อมทั้งเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ยินดีให้การสนับสนุน และขอเชิญชวนให้ทุกคนลุกขึ้นมาทำสิ่งที่ดีเพื่อชาติบ้านเมืองเช่นเดียวกัน"

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงกระแสวิจารณ์ในโซเชียลมีเดียที่ระบุว่า รัฐบาลนำงบประมาณไปใช้ในทางที่ไม่จำเป็นหรือการบริหารภาษีของรัฐล้มเหลวจนทำให้ตูน บอดี้สแลม ต้องออกมาวิ่งระดมทุนว่า ถือเป็นความเห็นของแต่ละบุคคล พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลมีหน้าที่บริหารบ้านเมืองให้ก้าวหน้าไปในทุกมิติ ทั้งด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคม รวมทั้งดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทุกระดับ จึงไม่สามารถทุ่มเทงบประมาณไปในสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้ จึงอยากประชาชนเข้าใจในเรื่องนี้

“ส่วนการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพนั้น เป็นการใช้งบประมาณประจำปีที่ได้ตั้งเอาไว้ล่วงหน้า เช่นเดียวกับการพัฒนาด้านอื่น ๆ ทั้งการศึกษา การคมนาคมขนส่ง หรือแม้แต่การสาธารณสุข ซึ่งจะต้องพิจารณาจากหลายปัจจัยและสร้างให้เกิดความเป็นธรรม โดยเฉพาะการดูแลและพัฒนาโรงพยาบาลทั่วประเทศนั้นมีองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น อัตราประชากร ผู้ป่วย จำนวนแพทย์ พยาบาล ขนาดโรงพยาบาล สถานที่ตั้ง ฯลฯ โดยรัฐบาลต้องดูแลในภาพรวมและเฉลี่ยงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดความคุ้มค่าและประโยชน์สูงสุด"

--อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/พรเพ็ญ โทร.02-2535000 ต่อ 313 อีเมล์: pornpen@infoquest.co.th--

ADVERTISEME

 

 

 

 

นายกฯอิรักสั่งกองกำลังทหารเข้าประจำการในจังหวัดเคอร์คุก

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 16 ตุลาคม 2560 08:20:39 น.

สถานีโทรทัศน์ของอิรักรายงานว่า นายไฮเดอร์ อัล-อาบาดี นายกรัฐมนตรีอิรักได้มีคำสั่งในช่วงเช้านี้ ให้กองกำลังทหารของรัฐบาลเข้าไปประจำการในจังหวัดเคอร์คุก

ความเคลื่อนไหวของรัฐบาลอิรักมีขึ้นหลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นักรบชาวเคิร์ดจำนวนหลายหมื่นคนได้ตรึงกำลังในจังหวัดดังกล่าว ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันสำคัญ เพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่อาจมาจากกองกำลังอิรัก

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/คมปทิต โทร.02-2535000 อีเมล์: kompathit.s@infoquest.co.th--

NT

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เกาหลีเหนือขู่ยิงขีปนาวุธไปยังเกาะกวม หลังสหรัฐ-เกาหลีใต้ประกาศซ้อมรบทางทะเลสัปดาห์หน้า

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อาทิตย์ที่ 15 ตุลาคม 2560 17:30:00 น.

เกาหลีเหนือประกาศในวันศุกร์ที่ผ่านมาว่าจะทดสอบยิงขีปนาวุธอีกครั้ง โดยพุ่งเป้าไปยังเกาะกวม หลังกองทัพเรือสหรัฐและเกาหลีใต้ประกาศจัดการซ้อมรบทางทะเลร่วมกันในน่านน้ำใกล้คาบสมุทรเกาหลีในสัปดาห์หน้า

 

 

เกาหลีเหนือเปิดเผยแผนดังกล่าว หลังจากที่นายรี ยอง โฮ รมว.ต่างประเทศเกาหลีเหนือ กล่าวในสัปดาห์ที่แล้วว่าจะ "กระหน่ำยิง" ใส่สหรัฐอเมริกา ด้วย "แสนยานุภาพทางทหารในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน" พร้อมบอกปัดความเป็นไปได้ในการหันหน้าเข้าเจรจากับสหรัฐในปัญหาอาวุธนิวเคลียร์

กองทัพสหรัฐและเกาหลีใต้มีกำหนดการซ้อมรบตั้งแต่วันจันทร์ที่จะถึงนี้ ไปจนถึงวันที่ 26 ต.ค. ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้น หลังเกาหลีเหนือเดินหน้าพัฒนานิวเคลียร์และขีปนาวุธ

กองเรือที่ 7 ของสหรัฐเปิดเผยผ่านทางเว็บไซต์ว่า การซ้อมรบที่จะมีขึ้นนี้ใช้ชื่อว่า ปฏิบัติการพิเศษต่อต้านทางทะเล (Maritime Counter Special Operations) โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการสื่อสารระหว่างกัน การทำงานร่วมกัน และความร่วมมือเป็นพันธมิตรในพื้นที่ปฏิบัติการของกองเรือที่ 7

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เรือของกองทัพเรือสหรัฐที่จะเข้าร่วมการซ้อมรับครั้งนี้นั้นรวมถึงเรือบรรทุกเครื่องบินโรนัลด์ เรแกน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สกาวรัฐ บัวสำลี โทร.02-2535000 อีเมล์: sakaorat.b@infoquest.co.th--

 

อิหร่านขู่เปิดฉากเสริมสมรรถนะยูเรเนียมใน 4 วัน หาก ทรัมป์ ถอนข้อตกลงนิวเคลียร์

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 16 ตุลาคม 2560 10:18:53 น.

นายอาลี อัคบาร์ ซาเลฮี หัวหน้าสำนักงานปรมาณูและรองประธานาธิบดีอิหร่าน กล่าวว่า หากสหรัฐถอนข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่ออกมาเพื่อควบคุมการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ อิหร่านก็เริ่มดำเนินการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมเพื่อนำมาสกัดใช้เป็นเชื้อเพลิงพลังงานนิวเคลียร์ ภายในระยะเวลา 4 วันนี้

นายซาเลฮี กล่าวว่า หากข้อตกลงนิวเคลียร์ไม่ช่วยปกป้องผลประโยชน์ของชาติ "อิหร่านก็จะเริ่มเสริมสมรรถนะยูเรเนียมร้อยละ 20 ภายในเวลา 4 วัน ซึ่งอีกฝ่ายคงรู้ดีว่าเราหมายถึงอะไร"

 

 

นอกจากนี้ นายซาเลฮียังกล่าวอีกด้วยว่า อิหร่านจะยอมเปิดให้เจ้าหน้าที่ของสำนักงานปรมาณูสากล (IEA) เข้าตรวจสอบโครงการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่าน ในขณะที่ข้อตกลงนิวเคลียร์มีผลบังคับใช้เท่านั้น

ขณะเดียวกัน เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ระบุว่า อิหร่านละเมิดข้อตกลงนิวเคลียร์ พร้อมกล่าวโจมตีรัฐบาลสหรัฐว่าเป็นคู่เจรจาที่ "เชื่อถือไม่ได้"

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศไม่ให้การรับรองต่ออิหร่านในการปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ที่มีการทำไว้ในปี 2558 โดยระบุว่า อิหร่านไม่ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ ขณะที่มีการละเมิดหลายครั้ง

ปธน.ทรัมป์ระบุว่า สหรัฐจะยังไม่ถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน แต่จะมีการปรับปรุงแก้ไขข้อตกลงฉบับปัจจุบันเพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ใหม่ต่ออิหร่าน

อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขาจะยกเลิกข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ถ้าหากทำเนียบขาวไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับสภาคองเกรส และพันธมิตรของสหรัฐภายใต้แผนการที่รัฐบาลสหรัฐนำเสนอ

"ในกรณีที่เราไม่สามารถบรรลุแนวทางการทำงานกับสภาคองเกรส และพันธมิตรของเรา เราก็จะยกเลิกข้อตกลงดังกล่าว" ปธน.ทรัมป์กล่าว

นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ระบุว่า เขาจะแจ้งต่อสภาคองเกรสว่า ข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านฉบับปี 2558 ไม่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของสหรัฐ ทำให้สหรัฐจำเป็นที่จะต้องเจรจากับพันธมิตรเพื่อออกข้อตกลงใหม่ที่จะเสริมเข้ากับข้อตกลงฉบับปี 2558

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปัทมาสน์ ชนะรัชชรักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 17 ตุลาคม 2560

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 17 ตุลาคม 2560 09:47:50 น.

นักลงทุนจับตาการประชุมใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 19 ซึ่งจะเริ่มเปิดฉากในวันพรุ่งนี้ (18 ต.ค.) ขณะที่นักวิเคราะห์เตือนว่า เกาหลีเหนืออาจยิงขีปนาวุธในวันดังกล่าว โดยการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีน ถือเป็นเหตุการณ์ทางการเมืองที่สำคัญที่สุดของจีน ซึ่งจะมีการแต่งตั้งผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์สำหรับช่วง 5 ปีข้างหน้า

 

 

 

-- ธนาคารกลางออสเตรเลียได้เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนต.ค.ในวันนี้ โดยระบุว่า การที่ธนาคารกลางของหลายประเทศเริ่มเคลื่อนไหวในเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้น ถือเป็นความคืบหน้าในเชิงบวก แต่ไม่ได้มีนัยสำคัญต่อการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางออสเตรเลีย

รายงานการประชุมระบุว่า ช่วงเวลาในการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยของออสเตรเลียจะขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ นอกจากนี้ คณะกรรมการบริหารของธนาคารกลางออสเตรเลียยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า นโยบายการเงินของประเทศอื่นๆ ในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ยังคงอยู่ในระดับที่ผ่อนคลายมากกว่าในออสเตรเลีย นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินโลก

 

-- นายเอริค โรเซนเกรน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาบอสตัน กล่าวว่า เฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธ.ค. และ 3-4 ครั้งในปีหน้า ถ้าหากว่าอัตราการว่างงานของสหรัฐยังคงปรับตัวลง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อดีดตัวขึ้น

นายโรเซนเกรนกล่าวว่า ถ้าหากอัตราเงินเฟ้อแตะระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2% ขณะที่อัตราการว่างงาน ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ 4.2% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 16 ปี ก็จะเป็นสิ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังอยู่ในภาวะที่ร้อนแรงเกินไป

 

-- ตลาดจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้จะเป็นการกล่าวสุนทรพจน์ของนายนีล แคชคารี ประธานเฟด สาขามินเนอาโพลิส สำหรับวันพรุ่งนี้ (18 ต.ค.) จะเป็นกำหนดการกล่าวสุนทรพจน์ของนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์ก และนายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟด สาขาดัลลัส ส่วนในวันเสาร์ที่ 21 ต.ค. จะเป็นกำหนดการกล่าวสุนทรพจน์ของ นางลอเร็ตตา เมสเตอร์ ประธานเฟด สาขาคลีฟแลนด์ และ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด

 

-- สหภาพยุโรป (EU) ประกาศคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อเกาหลีเหนือ เพื่อตอบโต้การพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ และขีปนาวุธ

ทั้งนี้ การตัดสินใจดังกล่าว รวมถึงการสั่งห้ามสมาชิก EU เข้าลงทุนในเกาหลีเหนือ และห้ามการต่ออายุใบอนุญาตทำงานให้แก่ชาวเกาหลีเหนือที่ทำงานใน EU

ขณะที่นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้ทำการลงนามในกฤษฎีกาเพื่อคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ ตามมติ 2321 ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ โดยรัสเซียได้สั่งระงับความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ และด้านเทคนิคกับบุคคลต่างๆ และสถาบันที่เป็นตัวแทนของเกาหลีเหนือ

 

-- ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจีนอายุ 10 ปีพุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2558 เมื่อวานนี้ หลังจากที่นายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนออกโรงเตือนว่า บริษัทเอกชนของจีนมีหนี้สินที่สูงเกินไป โดยการแสดงความเห็นดังกล่าวของนายโจวมีขึ้นในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมสัมนาด้านการธนาคารระหว่างประเทศของกลุ่ม G30 ที่กรุงวอชิงตัน เมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาสหรัฐ

 

-- นักลงทุนติดตามสถานการณ์การเลือกตั้งทั่วไปของญี่ปุ่นในวันอาทิตย์ที่ 22 ต.ค. นี้ โดยผลสำรวจความคิดเห็นที่จัดทำโดยสำนักข่าวเกียวโดเผยให้เห็นว่า พรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ จะได้รับชัยชนะขาดลอยในการเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 22 ต.ค.นี้ ขณะที่พรรคความหวัง (Party of Hope) ของนางยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียวนั้นได้รับความนิยมลดลง แม้จะเคยเป็นที่จับตาและได้รับความสนใจอย่างมากเมื่อครั้งเปิดตัวพรรคในเดือนที่แล้ว

 

--สื่อต่างประเทศรายงานว่า นายจอห์น เทย์เลอร์ นักเศรษฐศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เป็นอีกหนึ่งตัวเก็งที่อาจได้นั่งเก้าอี้ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ หลังจากที่เขาได้สร้างความประทับใจให้กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ภายหลังจากปธน.ทรัมป์สัมภาษณ์นายเทย์เลอร์นาน 1 ชั่วโมงที่ทำเนียบขาวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

 

-- นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐและประเทศยุโรป โดยในวันนี้ อังกฤษจะเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนก.ย. ขณะที่ยูโรสแตทจะเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนก.ย.ของกลุ่มประเทศอียู ขณะที่สถาบัน ZEW จะเปิดเผยความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเยอรมนีเดือนต.ค. ทางด้านสหรัฐจะเปิดเผยราคานำเข้าและส่งออกเดือนก.ย., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย. และดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเบื้องต้นเดือนต.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB)

 

-- ตลาดการเงินจับตาการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงโกลด์แมน แซคส์, มอร์แกน สแตนลีย์ ,ไอบีเอ็ม, อเมริกัน เอ็กซ์เพรส, อีเบย์, เอเอ็มดี, เวอไรซอน, อเมริกัน แอร์ไลน์, เดมเลอร์ และเจเนอรัล อิเล็กทริก

 

-- วุฒิสภาสหรัฐเตรียมโหวตร่างงบประมาณประจำปี 2561 ในสัปดาห์นี้ เพื่อปูทางสู่การพิจารณากฎหมายปฏิรูปภาษีในปีนี้ หลังจากเมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติอนุมัติงบประมาณวงเงิน 4.1 ล้านล้านดอลลาร์สำหรับปีงบประมาณ 2561

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: เงินดอลล์แข็ง ฉุดทองปิดลบ 1.6 ดอลลาร์

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 17 ตุลาคม 2560 07:26:43 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 ต.ค.) โดยได้รับปัจจัยกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ การดีดตัวขึ้นทำนิวไฮของตลาดหุ้นสหรัฐยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.6 ดอลลาร์ หรือ 0.12% ปิดที่ระดับ 1,303.00 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 4.2 เซนต์ หรือ 0.24% ปิดที่ 17.369 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 5.80 ดอลลาร์ หรือ 0.61% ปิดที่ 942.10 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 9.2 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 976.30 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.10% สู่ระดับ 93.188 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นหลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในงานสัมมนาซึ่งจัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ของธนาคารเพื่อการพัฒนาระหว่างทวีปอเมริกา (IDB) ในกรุงวอชิงตัน ดีซี เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยเยลเลนระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงฟื้นตัวอย่างมั่นคง เช่นเดียวกับตลาดแรงงานก็อยู่ในภาวะที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยให้สามารถรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดได้

ทั้งนี้ ถ้อยแถลงล่าสุดของเยลเลนทำให้เกิดกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า เฟดจะดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นี้

นอกจากนี้ การดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ จากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มธนาคาร และจากข้อมูลของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก ซึ่งระบุว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) พุ่งขึ้นในเดือนต.ค. โดยปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 30.2 จากระดับ 24.2 ในเดือนก.ย.

ทั้งนี้ ดัชนียังคงอยู่สูงกว่าระดับ 0 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิตในนิวยอร์ก

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.06 แข็งค่าเล็กน้อยจากดอลล์อ่อน คาดกรอบเคลื่อนไหววันนี้ 33.05-33.20

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 17 ตุลาคม 2560 09:10:29 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.06 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเล็ก

น้อยจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.07 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามปริมาณซื้อขายที่ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่า

 

 

"บาทแข็งค่าเล็กน้อยตามแรงซื้อขายที่ทำให้ดอลลาร์อ่อนค่า" นักบริหารเงิน ระบุ

ปัจจัยที่ตลาดจับตามองคือ สถานการณ์ความขัดแย้งบนคาบสมุทรเกาหลีที่ยังไม่คลี่คลาย

นักบริหารเงิน คาดวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.05-33.20 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

 

- เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ 112.12 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 111.82 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.1777 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1794 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.0770 บาท/

ดอลลาร์

- นักบริหารเงินจากธนาคารพาณิชย์ ระบุวานนี้ค่าเงินบาทปิดตลาดที่ 33.07 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเล็กน้อยเมื่อ

เทียบจากเปิดตลาดที่ 33.05 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นการแข็งค่าสุดในรอบ 1 เดือน เกิดจากมีแรงซื้อขายทำกำไรระหว่างวัน

โดยเงินบาทอ่อนค่าสุดที่ระดับ 33.10 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ นักลงทุนยังคงติดตามความคืบหน้าการสรรหาประธานธนาคารกลาง

สหรัฐฯ (เฟด) คนใหม่

- กระทรวงการคลัง ลุ้นเดินเครื่องรีดภาษีอี-คอมเมิร์ซได้ภายในปีงบประมาณ 2561 หวังเพิ่มรายได้ เฟซบุ๊ก กูเกิล ยู

ทูบ ไลน์ เข้าข่ายเสียภาษี พร้อมสั่ง "ศุลกากร" เร่งอุดช่องโหว่ภาษี สคร.อวดปี 60 ส่งรายได้แผ่นดินสูงที่สุดในรอบ 15 ปี

- กระทรวงการคลัง ศึกษาถึงความเป็นไปได้ว่ามีความจำเป็นหรือไม่กับการออกมาตรการช็อปช่วยชาติมาในช่วง

เศรษฐกิจขณะนี้ เพราะปัจจุบันภาพรวมเศรษฐกิจขยายตัวฟื้นตัวค่อนข้างดี และหน่วยงานเศรษฐกิจหลายสำนักได้ปรับประมาณการการ

ขยายตัวทางเศรษฐกิจปีนี้เพิ่มขึ้นทั้งนั้น โดยมาตรการช็อปช่วยชาติ เป็นเรื่องของนโยบาย หากรัฐบาลมีนโยบายคลังก็พร้อมดำเนินการ

- รมว.คลังอังกฤษ กล่าวว่า อังกฤษไม่มีแนวโน้มมากขึ้นที่จะออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยไม่สามารถบรรลุข้อ

ตกลง และการเจรจา Brexit กับทางสหภาพยุโรป (EU) ก็ไม่ได้เผชิญภาวะชะงักงันแต่อย่างใด

- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก รายงานว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) พุ่งขึ้นใน

เดือนต.ค. โดยปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 30.2 จากระดับ 24.2 ในเดือนก.ย.

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (16 ต.ค.) ด้วย

แรงหนุนจากข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากถ้อย

แถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐมีทิศทางการขยาย

ตัวอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ขณะที่ตลาดแรงงานก็อยู่ในภาวะที่แข็งแกร่ง

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 ต.ค.) โดยได้รับปัจจัยกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์

นอกจากนี้ การดีดตัวขึ้นทำนิวไฮของตลาดหุ้นสหรัฐยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

- นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ราคานำเข้าและส่งออกเดือนก.ย., การผลิตภาค

อุตสาหกรรมเดือนก.ย. และดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเบื้องต้นเดือนต.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB)

--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ธ สถิตในดวงใจไทยนิรันดร์

22528251_1371495886305563_8947717586312166008_n.jpg?oh=e3b7ded2a92fa8063894a1b068bd8c31&oe=5A882A47

 

'สิ่งที่พระองค์ทรงปรารถนา'

 

"ตลอด 35 ปี พระองค์ทรงสอนเราซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่มีท่าทีว่าจะจบ แต่ก่อนอาจจะไม่ได้ทบทวนความคิด จนวันที่พระองค์จากไปแล้วถึงได้มานั่งทบทวน ก็พบ 3 ประโยคสำคัญ ที่ทรงสอนคือ

 

1. มองทุกอย่างที่ฉันทำ ต้องมองให้เกิดคำถามว่า...ทำอะไร ทำไม จะได้เกิดปัญญา

2. จดทุกอย่างที่ฉันพูด...เพื่อเตือนความจำถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต

3. สรุปทุกอย่างที่ฉันคิด...ช่วยทำให้รู้ว่าอนาคตต้องทำอะไรต่อไป

 

พระองค์ทรงมีรับสั่งสุดท้ายกับผมเมื่อ 6 ปีที่แล้วว่า.."สุเมธ งานยังไม่เสร็จนะ งานก่อประโยชน์เพื่อแผ่นดินไม่มีวันหมด" ผมก็นำมาคิดถึงเรื่องพระมหาชนกที่ต้องว่ายน้ำเอาชีวิตรอด แม้อาจจะไม่เห็นฝั่งแต่ก็ต้องว่ายต่อไปเหมือนกับงานก่อประโยชน์ให้แผ่นดินที่ต้องทำต่อไปไม่มีวันหยุด

 

ฉะนั้น ในวันที่พระองค์จากไปแล้ว หน้าที่ดูแลแผ่นดินต่อไปคือลูกๆ หากยังมีเรี่ยวแรง ยังมีชีวิต งานไม่มีวันเสร็จ ซึ่งงานในที่นี้คือ การทำหน้าที่ของตัวเองด้วยคุณธรรม นั่นคือสิ่งที่พระองค์ทรงปรารถนา"

 

(ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา เล่าถึงครั้งถวายงานในปาฐกถา 'ในหลวงแห่งแผ่นดิน')

 

ธ สถิตในดวงใจไทยนิรันดร์

cr ตามรอยพ่อ

 

อาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา เพื่อผู้ป่วยด้อยโอกาส สืบสานพระราชปณิธานในหลวง ร.9

หนึ่งในการร่วมสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่คนไทยพร้อมใจกันทำให้เกิดขึ้นจริง คือ การร่วมสร้างอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา…

NEWS.CH7.COM

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่ง Sideway up ขานรับกระแสเงินทุนไหลเข้า-เก็งงบฯ Q3/60

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 17 ตุลาคม 2560 09:21:44 น.

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway up เนื่องจากกระแสเงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้า และมีการเก็งผลประกอบการงวดไตรมาส 3/60 ด้วย ซึ่งฝ่ายวิจัยก็คาดว่ากำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 3/60 จะเติบโตเมื่อเทียบกับรายไตรมาส และเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมไปถึงแนวโน้มเศรษฐกิจไทยมีการฟื้นตัวแข็งแกร่ง

 

 

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก แต่ขณะนี้ก็เริ่มมีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง ทำให้ตลาดภูมิภาคเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบราว 0.1-0.2%

อย่างไรก็ตามสัปดาห์นี้ยังต้องติดตามประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในหลายสาขาที่จะออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และให้ติดตามวุฒิสภาของสหรัฐฯจะพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณ ปี 2561 ซึ่งการพิจารณาตรงนี้เป็นก้าวสำคัญให้กับแผนปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับการพิจารณาในระยะถัดไป เนื่องจากมีความผูกพันกับงบประมาณด้วย

พร้อมให้แนวรับ 1,720-1,722 จุด ส่วนแนวต้าน 1,730-1,735 จุด

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--

ADVERTISEMENT

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่ง Sideway up ขานรับกระแสเงินทุนไหลเข้า-เก็งงบฯ Q3/60

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 17 ตุลาคม 2560 09:45:16 น.

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway up เนื่องจากกระแสเงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้า และมีการเก็งผลประกอบการงวดไตรมาส 3/60 ด้วย ซึ่งฝ่ายวิจัยก็คาดว่ากำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 3/60 จะเติบโตเมื่อเทียบกับรายไตรมาส และเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมไปถึงแนวโน้มเศรษฐกิจไทยมีการฟื้นตัวแข็งแกร่ง

 

 

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก แต่ขณะนี้ก็เริ่มมีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง ทำให้ตลาดภูมิภาคเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบราว 0.1-0.2%

อย่างไรก็ตามสัปดาห์นี้ยังต้องติดตามประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในหลายสาขาที่จะออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และให้ติดตามวุฒิสภาของสหรัฐฯจะพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณ ปี 2561 ซึ่งการพิจารณาตรงนี้เป็นก้าวสำคัญให้กับแผนปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับการพิจารณาในระยะถัดไป เนื่องจากมีความผูกพันกับงบประมาณด้วย

พร้อมให้แนวรับ 1,720-1,722 จุด ส่วนแนวต้าน 1,730-1,735 จุด

 

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (16 ต.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,956.96 จุด เพิ่มขึ้น 85.24 จุด(+0.37%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,624.00 จุด เพิ่มขึ้น 18.20 จุด (+0.28%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,557.64 จุด เพิ่มขึ้น 4.47 จุด (+0.18%)

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 96.61 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 5.24 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 84.38 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 16.14 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4.91 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 5.54 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.93 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 37.00 จุด

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (16 ต.ค.60) 1,726.67 จุด เพิ่มขึ้น 14.19 จุด (+0.83%)

- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,243.21 ล้านบาท เมื่อวันที่ 16 ต.ค.60

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (16 ต.ค.60) ปิดที่ระดับ 51.87 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 42 เซนต์ หรือ 0.8%

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (16 ต.ค.60) ที่ 7.28 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 33.06 แข็งค่าเล็กน้อยจากดอลล์อ่อน คาดกรอบเคลื่อนไหววันนี้ 33.05-33.20

- "บิ๊กตู่"เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสถานการณ์น้ำ แผนงานรับมือน้ำ และการเยียวยาผู้ประสบภัย ด้านกรมชลประทานเตือน 17-19 ต.ค.นี้ กทม.ระวังน้ำท่วมฉับพลัน ส่วนภาคใต้ให้ระวังช่วง 18 ต.ค. ด้าน ปภ. เผยเกิดอุทกภัยแล้ว 10 จังหวัด ประชาชนรับผลกระทบกว่า 1.4 แสนคน กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศ พายุ "ขนุน" อ่อนกำลังลงแล้ว

- นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การขยายตัวเศรษฐกิจปีนี้เชื่อว่าจะขยายตัวได้ใกล้เคียง 4% ซึ่งหลายหน่วยงานได้ทยอยปรับขึ้นต่อเนื่อง บางแห่งให้เศรษฐกิจขยายตัวถึง 3.8% ในส่วนของกระทรวงการคลังจะมีการปรับประมาณการใหม่ในเดือน ต.ค.นี้ ซึ่งเดิมคาดว่าจะขยายตัวได้ 3.6%

- สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เผยถึงภาวะเศรษฐกิจการเกษตร ประจำเดือน ก.ย.ว่า ดัชนีราคาสินค้าเกษตรลดลง 6.12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าที่ปรับ ลดลงได้แก่ สุกร ไข่ไก่ และกุ้งขาว เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดมากไม่สอดคล้องกับความต้องการ ส่งผลให้ภาพรวมดัชนีรายได้ของเกษตรกร เดือน ก.ย. 2560 เพิ่มขึ้นเพียง 0.48% โดยคาดการณ์เดือน ต.ค. ดัชนีรายได้เกษตรกรจะลดลงเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่เดือน พ.ย.คาดว่าอยู่ในระดับทรงตัว

- ผู้แทนสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนประจำเดือน ต.ค.ที่มองไป 3 เดือน ข้างหน้าอยู่ที่ 162.63 จุด ซึ่งเป็นครั้งแรก ที่อยู่ในเกณฑ์ร้อนแรงอย่างมากหรือเกือบ 2 ปี นับตั้งแต่ทำดัชนีนี้ขึ้นมาเดือน ม.ค. 2558 เพิ่มขึ้นถึง 31.02% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนที่อยู่ระดับ 124.13 จุด ร้อนแรงปกติ

- คมนาคมเผยสร้างสายสีเขียวส่วนต่อขยายสมุทรปราการ-บางปู และคูคต-ลำลูกกาสะดุด หลังผลหารือภาระหนี้และค่าก่อสร้างสายสีเขียวยังไร้ข้อสรุป สั่ง กทม.เร่งจัดทำรายละเอียดเรื่องเงินก่อนหารือรอบใหม่ใน พ.ย.นี้

 

*หุ้นเด่นวันนี้

 

- PTTGC (ไอร่า) เป้า 105 บาท คาด 3Q/60 ฟื้นตัวโดดเด่น จากธุรกิจโรงกลั่นเป็นหลัก โดยคาด 3Q/60 มีกำไรสุทธิ 9,896 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50%qoq และ 59%yoy ปัจจัยหลักมาจากธุรกิจการกลั่น ตามค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้น คาดค่าการกลั่นของ PTTGC ในช่วง 3Q/60 เฉลี่ยอยู่ที่ 7.5 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จาก 6.1 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล เมื่อ 2Q/60 โดยส่วนต่างการกลั่นของน้ำมันดีเซล ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของ PTTGC เพิ่มขึ้นถึง 22% qoq คาดอยู่ที่ 13.9 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ขณะที่คาดอัตราการใช้กำลังผลิตใกล้เคียงกับ 2Q/60 อยู่ที่ 103% และคาดมีผลกำไรจากสต็อกน้ำมันประมาณ 1,400 ล้านบาท ตามราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นในช่วง 3Q/60 ประมาณ 7.5 USD/bbl มาอยู่ที่เฉลี่ย 53.9 USD/bbl รวมถึงธุรกิจปิโตรเคมีในสายโอเลฟินส์ฟื้นตัว พร้อมคาดในปี 61 ได้รับประโยชน์เต็มที่จากการเข้าซื้อกิจการปิโตรเคมีที่เดิมเป็นของ PTT คาดรับรู้กำไร ประมาณ 2,000 ล้านบาทต่อปี และคาดกำลังการผลิต เพิ่มขึ้นจากการเปิดดำเนินงานของโรงงาน mLLDPE กำลังการผลิต 434,000 ตันต่อปี

- IRPC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 7.40 บาท คาดกำไรสุทธิ 3Q60 ที่ 3.4 พันล้านบาท +174% Q-Q, +158% Y-Y จากการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้น margin ทั้งโรงกลั่นและปิโตรเคมีขยายตัวรวมถึงกำไรจากสต๊อกน้ำมัน หากเป็นไปตามคาดกำไร 9M60 จะคิดเป็น 77% ของคาดการณ์ทั้งปีที่ 9.0 พันล้านบาท ยังเลือก IRPC เป็น top pick เพราะการเติบโตในปีหน้าไม่ต้องพึ่งพา margin ของอุตสาหกรรม และเป็นปีที่รับรู้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างเต็มประสิทธิภาพโดยไม่มีการหยุดซ่อม

- AMATA (เคจีไอ) "เก็งกำไร"เป้า 26.4 บาท ประเมินยอดขายที่ดินพ้นจุดต่ำสุดไปแล้วในปีก่อน และเข้าสู่ขาขึ้นในปี 2560-62 ตามการฟื้นตัวของ FDI และรวมทั้งความคืบหน้าของโครงการ EEC

- SCC (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) "ซื้อลงทุน"เป้า 600 บาท คาดกำไร 3Q60 จะทรงตัว 13,400 ล้านบาท (+1%QoQ, -5%YoY) โดยกำไรหลักยังมาจากธุรกิจปิโตรเคมีสัดส่วน 81% ส่วนธุรกิจซีเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง และกระดาษ คาดกำไรจะยังอยู่ในระดับต่ำ SCC ได้แจ้งตลาดขายหุ้นใน Tien Phong Plastic แล้ว มีกำไรหลังภาษี 963 ล้านบาท คิดเป็น 1.75% ของประมาณการกำไรปีนี้ โดยยังคงประมาณการ ประเด็นที่ SCC มีกระแสเงินสดในรูป EBITDA สูง 8-9 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้าลงทุนต่อปีประมาณ 5 หมื่นล้านบาท เน้นเป็นผู้นำของอาเซียน อนาคตสัดส่วนยอดขายและสินทรัพย์ในอาเซียนจะเพิ่มเป็น 40-50% จาก 24% ในปัจจุบัน คาดจ่ายเงินปันผลปีละประมาณ 19 บาท

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

China Xinhua News added 4 photos and a video.

12 mins · _Y91QzmaslR.pngคลิป

ม้าเหล็ก “เมดอินไชน่า” เตรียมบุกใต้ดินมหานครบอสตัน

นครบอสตันของสหรัฐอเมริกาเตรียมนำรถไฟ “เมดอินไชน่า” (Made in China) ซึ่งจะถูกขนส่งมายังบอสตันในเดือนธ.ค. เข้าประจำการระบบรถไฟใต้ดินของเมือง เพื่อทดแทนรถไฟขบวนปัจจุบันที่ใช้งานมานานหลายสิบปีจนเก่าเกินจะมอบประสบการณ์การเดินทางของโลกยุคใหม่แล้ว

รายงานระบุว่ารถไฟขบวนใหม่ซึ่งผลิตที่มณฑลจี๋หลินทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน จะวิ่งด้วยความเร็ว 102 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยการออกแบบทั้งหมดอ้างอิงตามมาตรฐานอเมริกา แต่กระบวนการผลิตจะเป็นของซีอาร์อาร์ซี (CRRC) บริษัทผู้ผลิตรถไฟความเร็วสูงรายใหญ่ที่สุดของจีน

“ตัวรถไฟจำเป็นต้องแข็งแกร่งและมีน้ำหนักเบาในเวลาเดียวกัน” หง เฮยเฟิ่ง ผู้จัดการฝ่ายเทคโนโลยีของบริษัทฯ กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของจีน “และต้องสอดคล้องกับโครงสร้างทางรถไฟอายุนับศตวรรษของบอสตันด้วย”

ทั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่มีการใช้อุปกรณ์รถไฟของจีนในสหรัฐฯ โดยรถไฟขบวนใหม่มีอายุการใช้งานกำหนดไว้ที่ 30 ปี และมีน้ำหนักราว 34 ตันต่อตู้ตามข้อกำหนดน้ำหนักสูงสุดของรถไฟใต้ดินบอสตัน ซึ่งหลังจากซีอาร์อาร์ซีเผยโฉมโมเดลต้นแบบในบอสตันเมื่อวันที่ 3 เม.ย. ก็ได้รับเสียงชื่นชมจากผู้นำและพลเรือนท้องถิ่น

“เราเฝ้ารอรถไฟขบวนใหม่อย่างจริงจัง” นายชาร์ลีย์ เบกเกอร์ ผู้ว่าการรัฐแมสซาชูเซตส์กล่าวในเวลานั้น “การอัพเกรดครั้งนี้จะพารถไฟใต้ดินบอสตันสู่ความทันสมัย”

ปูตินเซ็นคำสั่งแบน “เกาหลีเหนือ” ตัดช่องทางหนุนขีปนาวุธ-นิวเคลียร์

วานนี้ (16 ต.ค.) ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ได้ลงนามคำสั่งแบนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีหรือเกาหลีเหนือ (DPRK) ความยาว 39 หน้า ซึ่งสอดคล้องกับข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ลำดับที่ 2321

คำสั่งดังกล่าวกำหนดการคว่ำบาตรบริษัทเอกชนของเกาหลีเหนือ จำนวน 11 แห่ง และบริษัทที่ส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการขีปนาวุธและนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ จำนวน 10 แห่ง และห้ามการส่งออกสารเคมี 80 ชนิด เครื่องมือ และซอฟต์แวร์ ที่อาจถูกใช้ผลิตนิวเคลียร์ อาวุธเคมี และอาวุธชีวภาพแก่เกาหลีเหนือ

นอกจากนั้นยังตัดลดจำนวนบัญชีธนาคารที่ใช้ในภารกิจการทูตของเกาหลีเหนือในรัสเซีย และห้ามการส่งออกสินค้า อาทิ สิ่งทอ พรม และเครื่องครัวพอร์ซเลนแก่เกาหลีเหนือ รวมถึงระงับความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ส่งเสริมการพัฒนานิวเคลียร์และขีปนาวุธกับบริษัทหรือสถาบันของเกาหลีเหนือ

ทั้งนี้คณะมนตรีฯ ได้ผ่านข้อมติลำดับที่ 2321 เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ปี 2016 เพื่อตอบโต้กรณีเกาหลีเหนือทำการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ ครั้งที่ห้า ในวันที่ 9 ก.ย. ปีเดียวกัน โดยกำหนดการคว่ำบาตรหลายด้าน เช่น การแพร่ขยายอาวุธ การขนส่งสินค้า ความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์-เทคโนฯ และธุรกรรมทางการเงิน เป็นต้น

22489836_1987306471485365_2005534124839734614_n.jpg?oh=0c1983773e6b0a10b85b9ee70abdb3a6&oe=5A6F32ED

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ก้าวทันตลาดทุน by Ylg 17-10-2560

 

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อีกเพียงเจ็ดวันจะถึงวันสำคัญ

วันที่ลูกหลานไทยจะแสดงความรัก อาลัย จงรักภ้กดีแด่พ่อ

พระองค์จะทรงอยู่ในดวงใจ ในจิตวิณญาณของชาติไทยและลูกหลานไทยตราบนิรันดร์

น้อมสำนึกในพระกรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

เพจมือใหม่หัดวิเคราะห์

 

10459910_638601209595038_3031942623603914180_n.jpg?oh=646dc34788e66fe880c925248170396a&oe=5A69C33F

'Good Morning'

 

“เวลาตามเสด็จฯ นั้น หากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงขึ้นเขา เราก็ต้องปีนเขาด้วย พระองค์ทรงรับสั่งว่า การทำงานพัฒนา ร่างกายเราต้องแข็งแรง..

 

..ฉันเคยถูกฝึกให้แบกของเดินขึ้นเขา เพราะถ้าเกษตรกรพื้นที่สูงอยากให้เราเดินขึ้นไปดูไร่ของเขาบนภูเขา ก็ควรพยายามไป เขาชี้ให้ไปดูอะไรก็ต้องไป ถึงแม้บนยอดเขาจะมีกาแฟเพียงต้นเดียวก็ต้องขึ้นไป บางครั้งปีนเขาตั้งหลายลูก เราก็ต้องไป เพื่อเป็นกำลังใจให้เกษตรกร และผูกมิตรด้วย ไม่ว่าจะเป็นใคร อยู่ที่ไหน พระองค์เสด็จฯ ไปทุกที่..

 

..ที่เห็นพระบรมฉายาลักษณ์ในหนังสือ ที่พระองค์ทรงขับรถพระที่นั่งลงไปอยู่กลางน้ำ แถวจังหวัดนราธิวาส พอเปิดประตูออกไปเป็นพงหนามพอดี นอกจากลงน้ำแล้วยังมีพงหนามอยู่ในน้ำด้วย และพอเวลาเสด็จฯ ไปถึงที่ไหนก็จะทรงมีพระราชปฏิสันถารกับทุกคน จนมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งบอกว่า ถ้าขืนทรงทักคนทุกจุดอย่างนี้กว่าจะถึงวังก็ Good Morning...

 

..และไปทีไรก็ Good Morning ทุกที...”

 

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานสัมภาษณ์ บันทึกไว้ในหนังสือ 'พระมหากษัตริย์นักพัฒนา เพื่อประโยชน์สุขสู่ปวงประชา'

 

พ่อของแผ่นดินผู้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ เพื่อพสกนิกรของพระองค์ได้อยู่ดีมีสุขถ้วนหน้า ปวงข้าพระพุทธเจ้าสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ขอพระองค์ทรงพระสิริสวัสดิ์ ทรงพระเกษมสำราญ ปราศจากโรคาพยาธิพิบัติภัยใดมาแผ้วพาน ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน เป็นธงชัยแห่งประเทศชาติ และสถิตเป็นมิ่งขวัญแห่งอาณาประชาราษฎร์สืบไปชั่วจิรัฐติกาล กราบแทบพระบาท...

 

(เครดิตภาพ คุณSomboon Krub)

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 18 ตุลาคม 2560 07:59:04 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 17 ต.ค.2560

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) โดยดาวโจนส์ และ S&P500 ยังคงเดินหน้าปิดทำนิวไฮ ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้าน และการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐ ต่างก็ขยายตัวได้ดีเกินคาดในเดือนก.ย.

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,997.44 จุด เพิ่มขึ้น 40.48 จุด หรือ +0.18% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,559.36 จุด เพิ่มขึ้น 1.72 จุด หรือ +0.07% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,623.66 จุด ลดลง 0.35 จุด หรือ -0.01%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนบางแห่งในยุโรป ซึ่งรวมถึงบริษัทซาโทเรียส เอจี ผู้ผลิตเครื่องมือทางการแพทย์รายใหญ่ของเยอรมนี อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารของอังกฤษดีดตัวขึ้น ขานรับกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากอัตราเงินเฟ้อของอังกฤษปรับตัวสูงขึ้น

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.3% ปิดที่ 390.44 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,995.06 จุด ลดลง 8.64 จุด หรือ -0.07% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,361.37 จุด ลดลง 1.51 จุด หรือ -0.03% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,516.17 จุด ลดลง 10.80 จุด หรือ -0.14%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบเมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) จากแรงกดดันของข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดของสหราชอาณาจักร ซึ่งช่วยหนุนกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมของภาคธุรกิจปรับตัวสูงขึ้น

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 10.80 จุด หรือ -0.14% ปิดที่ 7,516.17 จุด

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ซึ่งรวมถึงการที่กองกำลังทหารของรัฐบาลอิรักได้เข้ายึดคืนเมืองเคอร์คุกจากเงื้อมือของกลุ่มกบฎชาวเคิร์ด และความขัดแย้งเกี่ยวกับประเด็นนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านและสหรัฐ

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ขยับขึ้น 1 เซนต์ ปิดที่ 51.88 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 6 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 57.88 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้ฉุดสัญญาทองคำดิ่งหลุดจากระดับ 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 16.80 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ระดับ 1,286.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค.ปีนี้

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 32.8 เซนต์ หรือ 1.9% ปิดที่ 17.041 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 35 เซนต์ หรือ 975.95 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 7.30 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 934.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) ด้วยแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1772 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1809 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.3290 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3260 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7847 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7859 ดอลลาร์

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 112.15 เยน จากระดับ 111.89 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9784 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9749 ฟรังก์สวิส

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 6,623.66 จุด ลดลง 0.35 จุด, -0.01%

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 22,997.44 จุด เพิ่มขึ้น 40.48 จุด, +0.18%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,559.36 จุด เพิ่มขึ้น 1.72 จุด, +0.07%

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,995.06 จุด ลดลง 8.64 จุด, -0.07%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,361.37 จุด ลดลง 1.51 จุด, -0.03%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,516.17 จุด ลดลง 10.80 จุด, -0.14%

 

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 32,609.16 จุด ลดลง 24.48 จุด, -0.08%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,329.03 จุด เพิ่มขึ้น 5.97 จุด, +0.18%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,748.99 จุด ลดลง 5.38 จุด, -0.31%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,947.33 จุด ลดลง 2.37 จุด, -0.04%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 28,697.49 จุด เพิ่มขึ้น 4.69 จุด, +0.02%

ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดที่ 828.29 จุด เพิ่มขึ้น 8.86 จุด, +1.08%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 8,497.74 จุด เพิ่มขึ้น 49.80 จุด, +0.59%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,372.04 จุด ลดลง 6.43 จุด, -0.19%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,484.37 จุด เพิ่มขึ้น 4.32 จุด, +0.17%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 21,336.12 จุด เพิ่มขึ้น 80.56 จุด, +0.38%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 10,723.15 จุด ลดลง 51.06 จุด, -0.47%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,889.60 จุด เพิ่มขึ้น 42.80 จุด, +0.73%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,958.10 จุด เพิ่มขึ้น 40.90 จุด, +0.69%

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่าเทียบเงินสกุลหลัก รับข้อมูลศก.สหรัฐแข็งแกร่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 18 ตุลาคม 2560 07:10:57 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) ด้วยแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1772 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1809 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.3290 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3260 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7847 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7859 ดอลลาร์

 

 

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 112.15 เยน จากระดับ 111.89 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9784 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9749 ฟรังก์สวิส

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.19% สู่ระดับ 93.489 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนให้แข็งค่าขึ้นภายหลังจากสหรัฐได้เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีในหลายรายการ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย. ด้วยปัจจัยหนุนจากการผลิตรถยนต์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งบ่งชี้ถึงการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคสหรัฐ

ขณะที่สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านดีดตัวขึ้น 4 จุด สู่ระดับ 68 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.

ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ดัชนีราคานำเข้าเดือนก.ย.ดีดตัวขึ้น 0.7% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2016 หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนส.ค.

นอกจากนี้สกุลเงินดอลลาร์ยังคงได้แรงหนุนจากถ้อยแถลงล่าสุดของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ซึ่งระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐมีทิศทางการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ขณะที่ตลาดแรงงานก็อยู่ในภาวะที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า เฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นี้

นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ย., รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเบื้องต้นเดือนต.ค.โดยเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.ย.โดย Conference Board และยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย.

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 40.48 จุด รับผลประกอบการ-ข้อมูลศก.แข็งแกร่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 18 ตุลาคม 2560 06:51:40 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) โดยดาวโจนส์ และ S&P500 ยังคงเดินหน้าปิดทำนิวไฮ ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้าน และการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐ ต่างก็ขยายตัวได้ดีเกินคาดในเดือนก.ย.

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,997.44 จุด เพิ่มขึ้น 40.48 จุด หรือ +0.18% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,559.36 จุด เพิ่มขึ้น 1.72 จุด หรือ +0.07% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,623.66 จุด ลดลง 0.35 จุด หรือ -0.01%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นเหนือแนวต้านทางจิตวิทยาที่ระดับ 23,000.00 จุดเป็นครั้งแรกในระหว่างวัน ก่อนที่จะขยับลงมาปิดตลาดที่ระดับ 22,997.44 จุด ซึ่งก็ถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านดีดตัวขึ้น 4 จุด สู่ระดับ 68 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย. โดยได้แรงหนุนจากการผลิตรถยนต์ และอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ ซึ่งบ่งชี้ถึงการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคสหรัฐ

หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตสินค้าเกี่ยวกับการรักษาสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดในโลก พุ่งขึ้น 3.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 ที่ระดับ 1.90 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.80 ดอลลาร์ ขณะที่รายได้ในไตรมาส 3 อยู่ที่ระดับ 1.965 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 1.928 หมื่นล้านดอลลาร์

หุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ กรุ๊ป ทะยานขึ้น 5.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ และได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลกำไรในปีนี้

ทั้งนี้ ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของยูไนเต็ดเฮลธ์ และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ช่วยหนุนดัชนีหุ้นกลุ่มธุรกิจสุขภาพดีดตัวขึ้น 1.3%

หุ้นฮาร์เลย์-เดวิดสัน ผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์รายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้นกว่า 2 % หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 ที่ระดับ 40 เซนต์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 39 เซนต์ ขณะที่รายได้ในไตรมาส 3 อยู่ที่ 962.1 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 953.3 ล้านดอลลาร์

หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับตัวขึ้น 0.4% หลังจากธนาคารเปิดเผยว่า กำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 อยู่ที่ระดับ 93 เซนต์ มากกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 81 เซนต์ ขณะที่รายได้ในไตรมาส 3 อยู่ที่ระดับ 9.197 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 9.015 พันล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 2.6% แม้ว่าธนาคารเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 ที่ระดับ 5.02 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.17 ดอลลาร์ ขณะที่รายได้ในไตรมาส 3 อยู่ที่ระดับ 8.33 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.54 พันล้านดอลลาร์

หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ร่วงลง 1.6% แม้ว่าบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาส 3/2560 หลังจากจำนวนสมาชิกที่ใช้บริการของเน็ตฟลิกซ์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 5 ล้านราย

นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ย., รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเบื้องต้นเดือนต.ค.โดยเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.ย.โดย Conference Board และยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย.

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการแต่งตั้งผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ โดยขณะนี้มีตัวเก็ง 5 คนที่อาจได้รับการพิจารณา ซึ่งได้แก่ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบัน ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนก.พ.ปีหน้า, นายแกรี โคห์น หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจของปธน.ทรัมป์, นายเควิน วอร์ช อดีตผู้ว่าการเฟด, นายเจอโรม พาวเวล หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟดสมัยปัจจุบัน และนายจอห์น เทย์เลอร์ นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: เงินดอลล์แข็งค่า ฉุดทองปิดร่วง 16.80 ดอลลาร์

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 18 ตุลาคม 2560 07:40:52 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้ฉุดสัญญาทองคำดิ่งหลุดจากระดับ 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 16.80 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ระดับ 1,286.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค.ปีนี้

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 32.8 เซนต์ หรือ 1.9% ปิดที่ 17.041 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 35 เซนต์ หรือ 975.95 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 7.30 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 934.80 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.19% สู่ระดับ 93.489 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย. ด้วยปัจจัยหนุนจากการผลิตรถยนต์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งบ่งชี้ถึงการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคสหรัฐ

ขณะที่สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านดีดตัวขึ้น 4 จุด สู่ระดับ 68 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.

ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ดัชนีราคานำเข้าเดือนก.ย.ดีดตัวขึ้น 0.7% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2016 หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนส.ค.

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดขยับขึ้น 1 เซนต์ ขณะนักลงทุนจับตาสถานการณ์ตะวันออกกลาง

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 18 ตุลาคม 2560 07:22:08 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ซึ่งรวมถึงการที่กองกำลังทหารของรัฐบาลอิรักได้เข้ายึดคืนเมืองเคอร์คุกจากเงื้อมือของกลุ่มกบฎชาวเคิร์ด และความขัดแย้งเกี่ยวกับประเด็นนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านและสหรัฐ

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ขยับขึ้น 1 เซนต์ ปิดที่ 51.88 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 6 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 57.88 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ขยับขึ้นเล็กน้อย ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด โดยรายงานระบุว่า กองกำลังทหารของรัฐบาลอิรักสามารถยึดครองเมืองเคอร์คุก หลังจากที่กลุ่มกบฏชาวเคิร์ดได้ถอนตัวออกจากเมืองดังกล่าว โดยความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในเมืองเคอร์คุกนั้น ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมัน เนื่องจากเมืองเคอร์คุกแป็นแห่งผลิตน้ำมันที่สำคัญของอิรัก

ส่วนความขัดแย้งเกี่ยวกับประเด็นนิวเคลียร์ของอิหร่านยังคงเป็นปัจจัยที่มีผลต่อตลาดน้ำมันเช่นกัน หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศไม่ให้การรับรองต่ออิหร่านในการปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ที่มีการทำไว้ในปี 2558 โดยระบุว่า อิหร่านไม่ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ และมีการละเมิดหลายครั้ง

ทั้งนี้ การประกาศไม่ให้การรับรองข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน จะเป็นการปูทางให้สภาคองเกรสมีเวลา 90 วันในการออกมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่ออิหร่าน

นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่โพลล์สำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ซึ่งจัดทำโดยเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะลดลง 3.9 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 340,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 2 ล้านบาร์เรล

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

บิ๊กฉัตร'ไม่ฝืนดันกม.พันธุ์พืช

ข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- พุธที่ 18 ตุลาคม 2560 00:00:46 น.

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีการคัดค้านร่างพ.ร.บ.พันธุ์พืช ที่มีกระแสข่าวห้ามเกษตรกรเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ปลูก ในฤดูกาลต่อไปว่า การพิจารณาเรื่องนี้เป็น ขั้นตอนปกติของกรมวิชาการเกษตร อะไร ที่ล้าสมัยจะหยิบมาปรับปรุง ขณะนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวยังอยู่ที่กรมวิชาการเกษตรอยู่ ซึ่ง อะไรก็ตาม หากทำไปแล้วจะกระทบกับเกษตรกร และยังไม่สามารถสร้างความเข้าใจได้ ซึ่งหากจะเสนอกฎหมายเลยนั้น ตน ไม่เห็นด้วย ดังนั้น ยืนยันว่า อะไรก็ตาม ที่จะมีผลกระทบต่อเกษตรกรวงกว้าง ก็จะไม่ทำ

 

 

สี จิ้นผิง กล่าวเปิดการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 19 ลั่นเดินหน้าสร้างสังคมที่เจริญในทุกๆด้าน

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 18 ตุลาคม 2560 08:32:18 น.

นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนได้กล่าวสุนทรพจน์เปิดการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 19 ในวันนี้ โดยเขาได้เรียกร้องให้สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ทุกคนมุ่งมั่นสร้างสังคมที่เจริญรุ่งเรืองในทุกมิติ และมุ่งสู่ความสำเร็จของระบบสังคมนิยมตามแบบฉบับของจีนในยุคสมัยใหม่

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

HSHsocial

 

YLGResearch

 

Ylg Bullion

โอ๊คย่องเงียบพบดีเอสไอ รับทราบข้อหาคดีฟอกเงินแล้ว

“โอ๊ค พานทองแท้”และพวก ดอดเข้าพบพนักงานสอบสวน รับทราบข้อหาคดีฟอกเงินแล้ว

NAEWNA.COM

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.09 แข็งค่าจากแรงเทขายดอลล์ มองกรอบวันนี้ 33.05-33.15

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 18 ตุลาคม 2560 09:10:58 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 33.09 บาท/ดอลลาร์ จากเย็น

 

 

วานนี้ที่ปิดตลาดอยู่ที่ 33.11 บาท/ดอลลาร์

"เมื่อคืนมีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ คือ การผลิตภาคอุตสาหกรรมและดัชนีราคานำเข้าดีกว่าคาดทั้งคู่ ประกอบกับ

มีแรงคาดหวังว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ อาจจะเลือกประธานเฟดคนใหม่เป็นคนที่อาจจะปรับดอกเบี้ยเร็วขึ้น แต่ก็โดนเทขายออกมาบ้างใน

ช่วงค่ำคืน" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.05-33.15 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

 

- เงินเยนอยู่ที่ 112.18 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 112.17 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.1771 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.1755 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.1050 บาท/

ดอลลาร์

- น.ส.ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) คนใหม่ คาดคำขอส่งเสริมการลง

ทุนในปี 2561 มีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นจากปีนี้ โดยต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจในประเทศอีกครั้ง เพราะต้อง

การให้มีการขยายอัตรากำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจึงจะสะท้อนภาคการผลิตที่เติบโตมากขึ้น และจะส่งผลไปยังยอดคำขอรับการส่งเสริม ที่

จะเพิ่มขึ้นตาม ส่วนยอดคำขอลงทุนในปีนี้คาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 6 แสนล้านบาท

- ประธานกรรมการหอการค้าไทยและประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าขณะนี้สภาหอการค้าไทยและ

หอการค้าสหรัฐเตรียมจัดตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-สหรัฐ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของภาคเอกชนทั้ง 2 ประเทศ โดยมี

บริษัทขนาดใหญ่ของไทยที่ไปลงทุนในสหรัฐและบริษัทสหรัฐที่ลงทุนในไทยเป็นคณะทำงานร่วมเพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนความร่วม

มือ ในด้านการค้าและการลงทุนระหว่างกันคาดว่าภายใน 1 เดือนจะหาข้อสรุปได้

- รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลคงต้องชะลอการระบายข้าวสารในสต๊อกออกไปก่อนเพราะเป็นช่วงที่ผลผลิต

ข้าวเปลือกนาปี ปี 60/61 กำลังจะออกสู่ตลาด เนื่องจากหากระบายออกไปในช่วงที่กำลังเก็บเกี่ยวผลผลิตอาจส่งผลให้ราคาข้าวใหม่

ในตลาดลดลง

- ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย ประเมินมูลค่าโครงการใหม่ปี 2560 อาจสูงถึง 440,000 ล้าน

บาท สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2537 สะท้อนถึงฟองสบู่อสังหาฯกำลังเกิดขึ้น หากไม่ควบคุมการเปิดโครงการให้เหมาะสม ปี 2561 อาจนำไป

สู่ภาวะฟองสบู่แตกได้

- สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านดีดตัวขึ้น 4 จุด สู่ระดับ 68

ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.

- กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า ดัชนีราคานำเข้าดีดตัวขึ้นมากกว่าคาดในเดือนก.ย. โดยปรับตัวขึ้น 0.7% เมื่อ

เทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2016 หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนส.ค.

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) ด้วย

แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อ

เทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้ฉุดสัญญาทองคำดิ่งหลุดจากระดับ

1,300 ดอลลาร์/ออนซ์

- นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้าง

เดือนก.ย., รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน

รายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเบื้องต้นเดือนต.ค.โดยเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.ย.โดย Conference Board และ

ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย.

- แหล่งข่าวระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มีแนวโน้มที่จะประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับเลือกให้เป็นประธานธนาคาร

กลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ก่อนที่เขาจะเดินทางเยือนภูมิภาคเอเชียในเดือนหน้า

ขณะนี้มีตัวเก็ง 5 รายที่อาจได้รับการพิจารณาเป็นประธานเฟดคนต่อไป ซึ่งได้แก่ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคน

ปัจจุบัน ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนก.พ.ปีหน้า, นายแกรี โคห์น หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจของปธน.ทรัมป์, นาย

เควิน วอร์ช อดีตผู้ว่าการเฟด, นายเจอโรม พาวเวล หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟดสมัยปัจจุบัน และนายจอห์น เทย์เลอร์ นัก

เศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด

--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.09 แข็งค่าจากแรงเทขายดอลล์ มองกรอบวันนี้ 33.05-33.15

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 18 ตุลาคม 2560 11:08:57 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 33.09 บาท/ดอลลาร์ จากเย็น

 

 

วานนี้ที่ปิดตลาดอยู่ที่ 33.11 บาท/ดอลลาร์

"เมื่อคืนมีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ คือ การผลิตภาคอุตสาหกรรมและดัชนีราคานำเข้าดีกว่าคาดทั้งคู่ ประกอบกับ

มีแรงคาดหวังว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ อาจจะเลือกประธานเฟดคนใหม่เป็นคนที่อาจจะปรับดอกเบี้ยเร็วขึ้น แต่ก็โดนเทขายออกมาบ้างใน

ช่วงค่ำคืน" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.05-33.15 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 33.0917 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M (17 ต.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.22947%

ส่วน THAI BAHT FIX 6M (17 ต.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.29805%

 

* ปัจจัยสำคัญ

 

- เงินเยนอยู่ที่ 112.18 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 112.17 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.1771 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.1755 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.1050 บาท/

ดอลลาร์

- น.ส.ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) คนใหม่ คาดคำขอส่งเสริมการลง

ทุนในปี 2561 มีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นจากปีนี้ โดยต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจในประเทศอีกครั้ง เพราะต้อง

การให้มีการขยายอัตรากำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจึงจะสะท้อนภาคการผลิตที่เติบโตมากขึ้น และจะส่งผลไปยังยอดคำขอรับการส่งเสริม ที่

จะเพิ่มขึ้นตาม ส่วนยอดคำขอลงทุนในปีนี้คาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 6 แสนล้านบาท

- ประธานกรรมการหอการค้าไทยและประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าขณะนี้สภาหอการค้าไทยและ

หอการค้าสหรัฐเตรียมจัดตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-สหรัฐ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของภาคเอกชนทั้ง 2 ประเทศ โดยมี

บริษัทขนาดใหญ่ของไทยที่ไปลงทุนในสหรัฐและบริษัทสหรัฐที่ลงทุนในไทยเป็นคณะทำงานร่วมเพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนความร่วม

มือ ในด้านการค้าและการลงทุนระหว่างกันคาดว่าภายใน 1 เดือนจะหาข้อสรุปได้

- รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลคงต้องชะลอการระบายข้าวสารในสต๊อกออกไปก่อนเพราะเป็นช่วงที่ผลผลิต

ข้าวเปลือกนาปี ปี 60/61 กำลังจะออกสู่ตลาด เนื่องจากหากระบายออกไปในช่วงที่กำลังเก็บเกี่ยวผลผลิตอาจส่งผลให้ราคาข้าวใหม่

ในตลาดลดลง

- ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย ประเมินมูลค่าโครงการใหม่ปี 2560 อาจสูงถึง 440,000 ล้าน

บาท สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2537 สะท้อนถึงฟองสบู่อสังหาฯกำลังเกิดขึ้น หากไม่ควบคุมการเปิดโครงการให้เหมาะสม ปี 2561 อาจนำไป

สู่ภาวะฟองสบู่แตกได้

- สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านดีดตัวขึ้น 4 จุด สู่ระดับ 68

ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.

- กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า ดัชนีราคานำเข้าดีดตัวขึ้นมากกว่าคาดในเดือนก.ย. โดยปรับตัวขึ้น 0.7% เมื่อ

เทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2016 หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนส.ค.

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) ด้วย

แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อ

เทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้ฉุดสัญญาทองคำดิ่งหลุดจากระดับ

1,300 ดอลลาร์/ออนซ์

- นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้าง

เดือนก.ย., รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน

รายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเบื้องต้นเดือนต.ค.โดยเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.ย.โดย Conference Board และ

ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย.

- แหล่งข่าวระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มีแนวโน้มที่จะประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับเลือกให้เป็นประธานธนาคาร

กลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ก่อนที่เขาจะเดินทางเยือนภูมิภาคเอเชียในเดือนหน้า

ขณะนี้มีตัวเก็ง 5 รายที่อาจได้รับการพิจารณาเป็นประธานเฟดคนต่อไป ซึ่งได้แก่ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคน

ปัจจุบัน ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนก.พ.ปีหน้า, นายแกรี โคห์น หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจของปธน.ทรัมป์, นาย

เควิน วอร์ช อดีตผู้ว่าการเฟด, นายเจอโรม พาวเวล หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟดสมัยปัจจุบัน และนายจอห์น เทย์เลอร์ นัก

เศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด

--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:01 :01 :01 :01

โชคดึ คร้าบบบ

 

รายการ Money Money Biz 17 October 2017 by classicgoldfutures

 

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...