ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

23031355_1705417442842374_7960057859509783574_n.jpg?oh=25a57a9fd4d9cc74f3c0c915246d8cde&oe=5A6DE987

59fb224fa33deeb3228b465e_3.jpg

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาล

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

หนังสือพิมพ์วันนี้ ปีที่ 38 ฉบับที่ 13343 ประจำวัน ศุกร์ ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

 

- พระเทพฯรับสั่ง ดูแลเป็นระเบียบ-ปลอดภัย นิทรรศการพระราชพิธีร.9

https://goo.gl/yvhdC4

 

- รมต.ลาออกไปทำธุรกิจ ‘บิ๊กตู่’เฉลย ‘ประวิตร’ปัดคสช.ร้าว

https://goo.gl/54pTLE

 

- กราดยิงดับอีก2 ก่อการร้ายถล่มห้างในโคโลราโด บุกเดี่ยวโจมตี2วันติดกัน

https://goo.gl/fZkQk7

 

- กระทงขยับราคาแพงขึ้น น้ำท่วมต้นกล้วยตายเยอะ

https://goo.gl/XYSEz6

 

- นายกฯให้กำลังใจตูน อวยพรทำให้สำเร็จ ยอดบริจาควันที่สอง

https://goo.gl/67DH13

 

HSHsocial

YLGResearch

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนค่าหลัง ทรัมป์ เสนอชื่อ พาวเวล นั่งปธ.เฟดคนใหม่

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2560 07:12:28 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐได้ประกาศเสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวล ให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ โดยพาวเวล ถือเป็นเจ้าหน้าที่เฟดสายพิราบที่สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป

 

 

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1661 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1622 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.3063 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3254 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 0.7718 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7669 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 113.99 เยน จากระดับ 114.18 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9992 ฟรังก์สวิส จากระดับ 1.0031 ฟรังก์สวิส

 

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.14% สู่ระดับ 94.685 เมื่อคืนนี้

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ภายหลังจากปธน.ทรัมป์ได้ประกาศเสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวล หนึ่งในสมาชิกคณะผู้ว่าการเฟดชุดปัจจุบัน ให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ แทนนางเจเน็ต เยลเลน ซึ่งจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนก.พ.ปีหน้า

 

ทั้งนี้ ตลาดมองว่า การเสนอชื่อนายพาวเวล วัย 64 ปีให้ทำหน้าที่ประธานเฟดนั้น ถือเป็น "ทางเลือกที่ปลอดภัย" สำหรับคณะทำงานของปธน.ทรัมป์ เนื่องจากนายพาวเวลเป็นเจ้าหน้าที่เฟดสายพิราบสังกัดพรรครีพับลิกันที่สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามแนวทางของนางเยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบัน และในขณะเดียวกันนายพาวเวลก็ "เปิดกว้าง" สำหรับมาตรการลดกฎระเบียบในภาคการเงินซึ่งคณะทำงานทรัมป์พยายามผลักดันมาโดยตลอด

 

ตลาดการเงินยังจับตาสมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ซึ่งได้เปิดเผยรายละเอียดของร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยครอบคลุมถึงการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงสู่ระดับ 20% จากปัจจุบันที่ระดับ 35% และปรับลดอัตราภาษีขั้นสูงสุดสำหรับธุรกิจขนาดย่อมและองค์กรที่ไม่ใช่ภาคธุรกิจ ลงสู่ระดับ 25% จากระดับ 39.6% ในปัจจุบัน ส่วนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานั้น จะมีการปรับลดจำนวนขั้นบันไดของการคำนวณภาษี จาก 7 ขั้น เหลือเพียง 4 ขั้น คือ 12%, 25%, 35% และ 39.6%

 

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 5,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 229,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 44 ปี และสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 235,000 ราย

 

นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐในวันนี้ โดยนักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.จะเพิ่มขึ้น 300,000 ตำแหน่ง ส่วนตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อนั้น คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี หรือเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน

 

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ ดุลการค้าเดือนก.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนต.ค. จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนต.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ย.

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2733485

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2560 07:39:39 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 2 พ.ย. 2560

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) ขานรับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ประกาศเสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวล ให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนหลังจากสมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้เปิดเผยรายละเอียดของร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี ซึ่งครอบคลุมถึงการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคงจับตาตัวเลขจ้างงานอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,516.26 จุด เพิ่มขึ้น 81.25 จุด หรือ +0.35% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,579.85 จุด เพิ่มขึ้น 0.49 จุด หรือ +0.02% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,714.94 จุด ลดลง 1.59 จุด หรือ -0.02%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินยูโรส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทส่งออกในยุโรป อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวก หลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอย่างค่อยเป็นค่อยไป ภายหลังจากที่ธนาคารกลางมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีในการประชุมเมื่อวานนี้

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.5% ปิดที่ 394.94 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,510.50 จุด ลดลง 3.79 จุด หรือ -0.07% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,440.93 จุด ลดลง 24.58 จุด หรือ -0.18% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,555.32 จุด เพิ่มขึ้น 67.36 จุด หรือ +0.90%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) ภายหลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ได้ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอย่างค่อยเป็นค่อยไป หลังมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินเมื่อวานนี้

 

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 67.36 จุด หรือ +0.90% ปิดที่ 7,555.32 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงมากกว่าการคาดการณ์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกโอเปกให้ความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิต

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ขยับขึ้น 24 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 54.54 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 13 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 60.62 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) โดยได้รับปัจจัยหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวล ให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ แทนนางเจเน็ต เยลเลน ซึ่งจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนก.พ.ปีหน้า

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ขยับขึ้น 80 เซนต์ หรือ 0.06% ปิดที่ระดับ 1,278.10 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 3.9 เซนต์ หรือ 0.23% ปิดที่ 17.137 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 8.9 ดอลลาร์ หรือ 0.95% ปิดที่ 927.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 4.15 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 944.00 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐได้ประกาศเสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวล ให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ โดยพาวเวล ถือเป็นเจ้าหน้าที่เฟดสายพิราบที่สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1661 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1622 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.3063 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3254 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 0.7718 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7669 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 113.99 เยน จากระดับ 114.18 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9992 ฟรังก์สวิส จากระดับ 1.0031 ฟรังก์สวิส

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 6,714.94 จุด ลดลง 1.59 จุด, -0.02%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,579.85 จุด เพิ่มขึ้น 0.49 จุด, +0.02%

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 23,516.26 จุด เพิ่มขึ้น 81.25 จุด, +0.35%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,555.32 จุด เพิ่มขึ้น 67.36 จุด, +0.90%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,510.50 จุด ลดลง 3.79 จุด, -0.07%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,440.93 จุด ลดลง 24.58 จุด, -0.18%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 33,573.22 จุด ลดลง 27.05 จุด, -0.08%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,380.50 จุด ลดลง 11.11 จุด, -0.33%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,741.05 จุด ลดลง 2.88 จุด, -0.17%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,031.11 จุด ลดลง 7.04 จุด, -0.12%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 28,518.64 จุด ลดลง 75.42 จุด, -0.26%

ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดที่ 833.09 จุด ลดลง 9.62 จุด, -1.14%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 8,516.02 จุด เพิ่มขึ้น 150.76 จุด, +1.80%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,383.31 จุด ลดลง 12.60 จุด, -0.37%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,546.36 จุด ลดลง 10.11 จุด, -0.40%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 22,539.12 จุด เพิ่มขึ้น 119.04 จุด, +0.53%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 10,788.51 จุด ลดลง 17.85 จุด, -0.17%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,931.70 จุด ลดลง 6.10 จุด, -0.10%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,002.20 จุด ลดลง 3.30 จุด, -0.05%

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

ADVERTISEMENT

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2733640

 

เงินหยวนแข็งค่าแตะ 6.6072 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2560 09:05:49 น.

China Foreign Exchange Trading System (CFETS) ซึ่งเป็นหน่วยงานของธนาคารกลางจีนรายงานว่า เงินหยวนแข็งค่าขึ้น 1.24% แตะที่ 6.6072 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐในวันนี้

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนนั้น เงินหยวนได้รับอนุญาตให้ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 2% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน

 

ทั้งนี้ อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อิงกับราคาเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก ก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการซื้อขายในแต่ละวัน

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2733715

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: เงินดอลล์อ่อน หนุนทองคำปิดขยับขึ้น 80 เซนต์

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2560 07:17:52 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) โดยได้รับปัจจัยหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวล ให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ แทนนางเจเน็ต เยลเลน ซึ่งจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนก.พ.ปีหน้า

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ขยับขึ้น 80 เซนต์ หรือ 0.06% ปิดที่ระดับ 1,278.10 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 3.9 เซนต์ หรือ 0.23% ปิดที่ 17.137 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 8.9 ดอลลาร์ หรือ 0.95% ปิดที่ 927.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 4.15 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 944.00 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำปิดตลาดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ โดยได้รับปัจจัยบวกจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากปธน.ทรัมป์ได้ประกาศเสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวล ให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ โดยนายพาวเวลเป็นเจ้าหน้าที่เฟดสายพิราบสังกัดพรรครีพับลิกันที่สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามแนวทางของนางเยลเลน

 

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวลง 0.14% สู่ระดับ 94.685 เมื่อคืนนี้ ซึ่งการอ่อนค่าของดอลลาร์จะช่วยให้สัญญาทองคำมีมูลค่าที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ

 

นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐในวันนี้ โดยนักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.จะเพิ่มขึ้น 300,000 ตำแหน่ง ส่วนตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อนั้น คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี หรือเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2733496

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดบวก 24 เซนต์ หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงมากกว่าคาด

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2560 06:56:53 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงมากกว่าการคาดการณ์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกโอเปกให้ความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิต

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ขยับขึ้น 24 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 54.54 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 13 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 60.62 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจากรายงานของ EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 2.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงเพียง 1.8 ล้านบาร์เรล ขณะที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 5.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 456.8 ล้านบาร์เรล

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับข่าวที่ว่า ซาอุดิอาระเบีย และรัสเซียให้การสนับสนุนการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีก 9 เดือนจนถึงสิ้นปีหน้า จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในไตรมาสแรกของปีหน้า

 

ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาการประชุมอย่างเป็นทางการของกลุ่มโอเปกในวันที่ 30 พ.ย.นี้ โดยคาดว่าที่ประชุมจะอภิปรายในประเด็นการขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิต

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2733482

 

ทรัมป์ เสนอชื่อ เจอโรม พาวเวล นั่งประธานเฟดคนใหม่

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2560 05:59:35 น.

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ได้ประกาศเสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวล ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ แทนนางเจเน็ต เยลเลน ซึ่งจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนก.พ.ปีหน้า

 

ปธน.ทรัมป์ได้แถลงที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐว่า "พาวเวลได้พิสูจน์ตนเองให้เห็นว่า เขาเป็นหนึ่งในผู้กำหนดนโยบายการเงินที่ดี และเขาก็มีความเชื่อมั่นในนโยบายเหล่านี้ จากประวัติการทำงานที่ผ่านมา ทำให้ผมมั่นใจว่า พาวเวลมีความรอบรู้และมีความเป็นผู้นำ ซึ่งจะช่วยนำพาเศรษฐกิจของเราให้ก้าวผ่านอุปสรรคและความท้าทายต่างๆไปได้ด้วยดี"

 

 

 

ทั้งนี้ ตลาดการเงินมองว่า การเสนอชื่อนายพาวเวล วัย 64 ปีให้ทำหน้าที่ประธานเฟดนั้น ถือเป็น "ทางเลือกที่ปลอดภัย" สำหรับคณะทำงานของปธน.ทรัมป์ เนื่องจากนายพาวเวลเป็นเจ้าหน้าที่เฟดสายพิราบสังกัดพรรครีพับลิกันที่สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามแนวทางของนางเยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบัน และในขณะเดียวกันนายพาวเวลก็ "เปิดกว้าง" สำหรับมาตรการลดกฎระเบียบในภาคการเงินซึ่งคณะทำงานทรัมป์พยายามผลักดันมาโดยตลอด

 

สำหรับประวัติการทำงานของนายพาวเวลนั้น เขาได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการเฟดจากนายบารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ โดยเขาดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการผู้ว่าการมาตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค. 2555 และยังเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 30 ปีที่ประธานาธิบดีสหรัฐมีการเสนอชื่อบุคคลจากพรรคฝ่ายตรงข้ามให้ดำรงตำแหน่งนี้

 

ถัดมาในปี 2557 นายพาวเวลได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งอีกสมัย และหลังจากนั้นในปีเดียวกัน วุฒิสภาสหรัฐก็มีมติให้นายพาวเวลดำรงตำแหน่งนี้เป็นระยะเวลา 14 ปี ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ม.ค. 2571

 

ทางด้านประวัติการศึกษา นายพาวเวลสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาการเมืองจากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน และได้เรียนต่อด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์

 

ทั้งนี้ หากวุฒิสภาสหรัฐมีมติรับรองการเสนอชื่อนายพาวเวล ก็ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีที่ประธานเฟดไม่ได้จบการศึกษาในสาขาเศรษฐศาสตร์

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq27/2733479

 

World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 3 พฤศจิกายน 2560

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2560 08:33:26 น.

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ได้ประกาศเสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวล ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ แทนนางเจเน็ต เยลเลน ซึ่งจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนก.พ.ปีหน้า

 

ตลาดการเงินมองว่า การเสนอชื่อนายพาวเวล วัย 64 ปีให้ทำหน้าที่ประธานเฟดนั้น ถือเป็น "ทางเลือกที่ปลอดภัย" สำหรับคณะทำงานของปธน.ทรัมป์ เนื่องจากนายพาวเวลเป็นเจ้าหน้าที่เฟดสายพิราบสังกัดพรรครีพับลิกันที่สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามแนวทางของนางเยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบัน และในขณะเดียวกันนายพาวเวลก็ "เปิดกว้าง" สำหรับมาตรการลดกฎระเบียบในภาคการเงินซึ่งคณะทำงานทรัมป์พยายามผลักดันมาโดยตลอด

 

 

 

-- ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติด้วยคะแนนเสียง 7-2 เห็นพ้องให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 0.50% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินเมื่อวานนี้

 

การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี หลังจากที่ BoE ได้ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายในเดือนก.ค.2550

 

-- สมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้เปิดเผยรายละเอียดของร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยครอบคลุมถึงการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงสู่ระดับ 20% จากปัจจุบันที่ระดับ 35% และปรับลดอัตราภาษีขั้นสูงสุดสำหรับธุรกิจขนาดย่อมและองค์กรที่ไม่ใช่ภาคธุรกิจ ลงสู่ระดับ 25% จากระดับ 39.6% ในปัจจุบัน ส่วนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานั้น จะมีการปรับลดจำนวนขั้นบันไดของการคำนวณภาษี จาก 7 ขั้น เหลือเพียง 4 ขั้น คือ 12%, 25%, 35% และ 39.6%

 

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้เริ่มออกเดินทางตามแผนเยือนเอเชียเป็นระยะเวลา 11 วันแล้ว โดยเขาจะเดินทางเยือนญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน เวียดนาม และฟิลิปปินส์ รวมทั้งเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนและเอเปคในวันที่ 3-14 พ.ย.นี้ นับเป็นทริปเยือนต่างประเทศที่ยาวนานที่สุด นับตั้งแต่ทรัมป์ก้าวขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการเมื่อต้นปี

 

ทริปการเดินทางเยือนเอเชียของทรัมป์ครั้งนี้ อาจจะเต็มไปด้วยการเจรจาที่มีความตึงเครียดสูงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากวิกฤตเหนือคาบสมุทรเกาหลียังไม่มีวี่แววว่าจะคลี่คลายลง หลังจากที่เกาหลีเหนือได้ทดสอบขีปนาวุธครั้งที่ 6 และอาวุธนิวเคลียร์ลูกดังกล่าวถูกมองว่ามีอานุภาพร้ายแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมาของโสมแดง ส่งผลให้สหรัฐต้องเร่งผนึกกำลังกับชาติพันธมิตรในเอเชียเพื่อคลี่คลายวิกฤตดังกล่าวไม่ให้ลุกลามไปมากกว่านี้

 

-- บริษัทอาลีบาบา อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของจีน รายงานรายได้ประจำไตรมาสสามของปี 2560 พุ่งขึ้นถึง 61% แตะ 5.512 หมื่นล้านหยวน (8.34 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งมากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

 

-- บริษัทแอปเปิล อิงค์ รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสสี่ของปีการเงิน 2560 ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2560 โดยมีรายได้ 5.26 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า คิดเป็นกำไรต่อหุ้นได้ 2.07 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 24% ขณะที่ยอดขายในต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วน 62% จากรายได้ทั้งหมดในไตรมาสดังกล่าว โดยได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจบริการ

 

-- จีนเตรียมเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนต.ค.จากไฉซิน เวลา 08.45 น. ของวันนี้ตามเวลาไทย

 

สำหรับดัชนี PMI ภาคการผลิตที่มีการเปิดเผยก่อนหน้านี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน อยู่ที่ระดับ 51.0 ในเดือนต.ค. ซึ่งทรงตัวจากเดือนก.ย.

 

สำหรับ PMI ภาคบริการของเดือนก่อนหน้า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.ย.ของจีน ซึ่งมาร์กิตและไฉซิน ร่วงลงแตะระดับ 50.6 จากระดับ 52.7 ในเดือนส.ค. โดยดัชนี PMI ภาคบริการเดือนก.ย.ถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 21 เดือน

 

-- นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งจะมีการเปิดเผยเวลา 19.30 น. ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.จะเพิ่มขึ้น 300,000 ตำแหน่ง ส่วนตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อนั้น คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี หรือเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน

 

-- ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ ดุลการค้าเดือนก.ย. เวลา 19.30 น., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนต.ค. จากมาร์กิต เวลา 20.45 น., ดัชนีภาคบริการเดือนต.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เวลา 21.00 น. และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ย. เวลา 21.00 น. ตามเวลาไทยทั้งหมด

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กนิษฐนุช สิริสุทธิ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2733688

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ปิดชั้น 1-2 ชั่วคราวขึ้นชมพระเมรุมาศ พบพฤติกรรมไม่เหมาะสม

ทีมข่าวพีพีทีวีได้รับคำยืนยันจากเจ้าหน้าที่นิทรรศการพระเมรุมาศ ว่าล่าสุด ปิดการให้ขึ้นชมพระเมรุมาศชั่วคราว หลังพบว่ามีประชาชนบางส่วนหยิบจับประติมากรรมที่ประดับโดยรอบพระเมรุมาศ หากเป็นเช่นนี้อาจจะทำให้ประติมากรรมได้รับความเสียหายได้…

TODAY.LINE.ME

 

 

นายกฯ ยอมรับเตรียมปรับครม.ภายในปีนี้ แต่ยังไม่ตัดสินใจว่าปรับเล็กหรือปรับใหญ่

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 2 พฤศจิกายน 2560 17:12:47 น.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวยอมรับว่าเตรียมพิจารณาปรับคณะรัฐมนตรี คาดว่าจะดำเนินการภายในปีนี้ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเป็นปรับเฉพาะบางตำแหน่ง หรือปรับ ครม.ครั้งใหญ่

 

 

 

--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq02/2733422

 

 

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ฟื้นตัวจำกัด หลังลงต่ำกว่า 1,705 จุดเสี่ยงพักฐานสูง, จับตาบจ.ทยอยประกาศงบฯ Q3/60

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2560 09:24:19 น.

นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะฟื้นตัวได้จำกัด เนื่องจากดัชนีฯได้ลงมาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 1,705 จุด ทำให้มีความเสี่ยงในการพักฐานสูง โดยมี Downside แถว 1,670 จุด แต่ก็สามารถกลับมาเพิ่มการลงทุนได้ในจุดนี้เช่นกัน เนื่องจากตลาดฯได้รับรู้ข่าวดีไปแล้ว ทั้งเรื่องประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ และมาตรการปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ ซึ่งก็คาดว่าจะคงจะเป็น Story ในปีหน้า ดังนั้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ตลาดฯก็คงจะเคลื่อนไหวทรงตัว

 

 

 

พร้อมกันนี้ได้มองว่า Downside ของตลาดฯที่ 1,670 จุด ลงมาราว 30 จุด คิดเป็น 2% ซึ่งมองแล้วตลาดฯไม่ได้ลงมาก แต่หากมองที่หุ้นรายตัวมีโอกาสที่จะปรับลงได้มากกว่าตลาดฯ ดังนั้น ควรจะระวังแรงขาย โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มโรงกลั่น ที่ราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นไปมากแล้ว ขณะที่ในไตรมาส 4/60 มีโอกาสที่ค่าการกลั่นจะเข้าสู่ขาลง

 

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในไตรมาส 3/60 ที่จะออกมาในช่วงนี้ โดยเฉพาะกลุ่มโรงกลั่น

 

พร้อมให้แนวรับ 1,695 จุด ส่วนแนวต้าน 1,705-1,710 จุด

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2733718

 

ศาลสเปนออกหมายจับอดีตผู้นำคาตาลัน หลังไม่ปรากฎตัวต่อศาล

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2560 00:11:34 น.

ศาลสเปนออกหมายจับทั่วยุโรปสำหรับนายคาร์เลส ปุกเดมองต์ อดีตผู้นำแคว้นกาตาลุญญา และอดีตเจ้าหน้าที่ในคณะรัฐบาลของเขาจำนวน 4 ราย หลังจากที่นายปุกเดมองต์และพวก ยังคงอยู่ที่เบลเยียมในวันนี้ โดยไม่ไปปรากฎตัวต่อศาลในกรุงมาดริด

 

นายปุกเดมองต์กล่าวว่า เขาจะกลับไปยังสเปน ก็ต่อเมื่อทางการสเปนรับประกันว่าจะมีการดำเนินคดีอย่างยุติธรรม หลังจากที่อัยการสเปนได้ตั้งข้อหากบฏต่อเขา ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 30 ปี

 

ขณะเดียวกัน ศาลได้สั่งกักขังอดีตเจ้าหน้าที่ในคณะรัฐบาลของแคว้นกาตาลุญญาจำนวน 8 คน หลังจากที่พวกเขาได้ปรากฎตัวต่อศาลในกรุงมาดริดวันนี้ โดยศาลสั่งกักขังพวกเขาขณะที่ทำการสอบสวนคดีเกี่ยวกับการประกาศแยกตัวเป็นเอกราชจากสเปน

 

อย่างไรก็ดี ศาลได้อนุญาตให้อดีตเจ้าหน้าที่รายหนึ่งในคณะรัฐบาลของแคว้นกาตาลุญญาสามารถประกันตัวออกไปได้ในวงเงิน 5 หมื่นยูโร เนื่องจากเขาได้ลาออกจากคณะรัฐมนตรี ก่อนที่รัฐสภาคาตาลันจะประกาศเอกราชในสัปดาห์ที่แล้ว และเขามีส่วนผลักดันการเจรจากับรัฐบาลกลางของสเปน

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2733476

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เพลง ลอย (กระทง) - ศุ บุญเลี้ยง จะเป็นภาพสุดท้าย ที่เราคนไทยจะได้เห็น

ส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ…

YOUTUBE.COM

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

Y

 

MTS Live วันที่ 3 พฤศจิกายน 2560

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คู่มือชมพระเมรุมาศ ห้ามพลาดแม้แต่จุดเดียว

คู่มือชมพระเมรุมาศ ห้ามพลาดแม้แต่จุดเดียว

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่าง ๆ

http://news.ch7.com/detail/255359

 

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรง

http://news.ch7.com/detail/255471

HSHsocial

 

YLGResearch

 

Ylg Bullion

หลุดลงจริงๆ (เสียที) คำถามต่อไปจะอยู่ที่ว่าแล้วจะลงถึงไหน ซื้อตรงไหนแล้วซื้อแล้วจะขึ้นได้หรือเปล่า

หากว่าลงไปแล้วจะเอาอะไรมาขึ้นว่างั้นแล้วราคาเฉลี่ยน่าจะสักเท่าไหร่

มองแถว 1250 นี้น่าจะเป็นราคาเฉลี่ยได้แถว ๆ เส้น ema 100 และ 200 วัน ด้วยสมมติฐานว่าค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐจะยังคงอ่อนค่า มองว่าขึ้นดอกเบี้ยตามเป้าที่วางไว้คือปีนี้ 3 ครั้ง ปีหน้า 3 ครั้งและปีต่อไป 4 ครั้ง จะไม่ส่งผลต่อทองมากนัก และอาจได้ปัจจัยความไม่สงบช่วยหนุนอีกทาง

แต่ถ้ามากกว่านี้เป็นลบต่อทอง โดยปัจจัยที่ต้องระวังคือราคาน้ำมัน ยิ่งราคาน้ำมันยืนตัวสูงได้นานๆ จะส่งผลให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยถี่กว่าเดิมได้

6 Nov, 2017

wwwfacebook.com/Wealthstation

23331439_1569928399712296_4530631386680574531_o.png?oh=3fc9bb04b491b4359c8895d34f56c163&oe=5AA66CA8

 

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2560 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2560 09:34:17 น.

กรุงเทพฯ--6 พ.ย.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาดีขึ้นในคืนวันศุกร์ อันได้แก่ Non-Farm Payrolls ที่ออกมาดีขึ้นที่ระดับ 261,000 ตำแหน่ง โดยเฉพาะข้อมูล ISM ที่เป็นตัวหนุนให้ค่าเงินดอลลาร์ออกมาแข็งค่าขึ้นจากระดับ 94.30 จุด มาสู่ระดับ 94.92 จุดในวันนี้ ทางด้านทองคำไปทำจุดต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์บริเวณ 1,265 เหรียญโดยประมาณ ก่อนจะดีดกลับมาปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,269.2 เหรียญ ทางด้าน SPDR ขายออกในวันศุกร์เล็กน้อยอีก 0.29 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 845.75 ตัน สำหรับวันนี้ไม่มีการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญใดๆ

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ในเชิงเทคนิคราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 30 วันได้ และมีแรงเทขายกลับตกลงมา โดยลงไปทดสอบแนวรับสำคัญซึ่งเป็นจุดต่ำสุดเดิมเดือนที่แล้ว 1,262 เหรียญ ซึ่งหากราคาหลุดระดับดังกล่าวลงมามีโอกาสลงได้ลึกถึง 40 เหรียญ หรืออาจเห็นราคากลับมาบริเวณ 1,200 เหรียญ โดยที่แนวต้านสำคัญอยู่ที่ 1,280 เหรียญ โดยภาพรวมราคามีแนวโน้มขาลงในระยะปานกลาง ขณะที่ระยะสั้นมีความไม่ชัดเจนของทิศทาง ซึ่งวันนี้คาดว่าราคาจะมีแนวรับ 1,265 เหรียญ และแนวต้าน 1,280 เหรียญ สำหรับกลยุทธ์การลงทุนเน้นเก็งกำไรระยะสั้น เข้าเร็วออกเร็ว เน้นแนวโน้มทิศทางขาลง ด้านค่าเงินบาทเองกลับมาอ่อนค่าลงจากระดับ 33.11 บาท/ดอลลาร์ มาอยู่ท่ระดับ 33.18 บาท/ดอลลาร์ในเช้านี้ ทำให้ราคาทองคำไทยคาดว่าจะทรงตัวบริเวณกรอบแนวรับ 19,850 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้าน 20,100 บาท/บาททอง่คำ

 

การลงทุน Gold D

ภาพการลงทุนของ Gold-D ยังมีความผันผวนและเคลื่อนไหวตามทิศทางเดียวกันกับตลาดโลก โดยคาดว่าวันนี้จะมีแนวรับที่ระดับ 1,266 เหรียญ และมีแนวต้านแรกที่ระดับ 1,280 เหรียญ

 

โดยย้ำนักลงทุนว่า ราคาจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

เก็งกำไรระยะสั้นๆในกรอบ เน้นเข้าเร็วออกเร็วเป็นหลัก

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

หาจังหวะปิดสถานะเมื่อราคาปรับตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน เน้นเล่นสั้นภายในวัน

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

ปิดทำกำไรเป็นช่วงๆ เน้นเล่นสั้น เข้าออกเร็วในวัน

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

ภาพรวมของราคาทองคำยังเป็นทิศทางขาลง เน้นปรับพอร์ตสมดุลมาเล่นเก็งกำไรระยะสั้นๆในกรอบ จึงแนะนำให้ทยอยขายเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้นและหาจังหวะซื้อปิดเมื่อราคาอ่อนตัว

 

Gold Futures Z17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,000 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,200 บาท

Gold Futures G18 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,050 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,250 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2734699

 

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.18 แนวโน้มอ่อนค่าหลังดอลล์แข็งค่า ตลาดจับตาประชุมกนง.กลางสัปดาห์นี้

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2560 09:15:15 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.18 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก

 

 

 

ช่วงปิดตลาดเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 33.12 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินหลัก

 

"บาทอ่อนค่าจากวันศุกร์เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่า แม้ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรจะออกมาแย่ แต่มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น

 

จากเดือนก่อน ส่วนเหตุรุนแรงที่เท็กซัสยังไม่ส่งผลกระทบ" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 33.10-33.20 บาท/ดอลลาร์

 

"บาทมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่องอย่างน้อยถึงกลางสัปดาห์นี้ที่จะมีการประชุม กนง." นักบริหารเงิน กล่าว

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ 114.63 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 114.11 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.1606 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1648 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.1150 บาท/

 

ดอลลาร์

- ธนาคารกสิกรไทย ประเมินค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ (6-10 พ.ย.) เคลื่อนไหวในกรอบ 33.00-33.30 บาทต่อ

 

ดอลลาร์ฯ โดยคงต้องติดตามการตอบรับของนักลงทุนหลังการรายงานตัวเลขตลาดแรงงานของสหรัฐฯ

 

ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ตัวเลขสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนก.ย. และดัชนี

 

ความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือนพ.ย.ของสหรัฐฯ ตัวเลขการค้าระหว่างประเทศและเงินเฟ้อเดือนต.ค. ของจีน รวมถึง

 

รายงานดัชนี PMI ภาคบริการเดือนต.ค. ของหลายๆ ประเทศทั่วโลก ส่วนจุดสนใจเพิ่มเติมของตลาดในประเทศน่าจะอยู่ที่การประ

 

ชุมกนง. ในวันที่ 8 พ.ย. นี้

- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ ธุรกิจและเศรษฐกิจฐานราก ธนาคารออมสิน เผยดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานราก (GSI)

 

ประจำไตรมาส 3 ปี 2560 อยู่ที่ระดับ 46.9 ปรับตัวสูงขึ้นจากไตรมาสก่อนที่อยู่ระดับ 46.3 และคาดการณ์ว่าไตรมาส 4 จะมีการ

 

ปรับตัวสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

- คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างกฎหมายของกระทรวงการคลัง เกี่ยวกับระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง การ

 

เก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลัง ซึ่งเป็นการแก้ไขกฎหมายฉบับเดิม เพื่อเปิดทางให้ส่วนราชการที่ก่อหนี้ผูกพันเป็นเงินตราต่าง

 

ประเทศ สามารถเบิกเงินไปซื้อเงินตราต่างประเทศ ในสกุลเงินที่ต้องจ่ายหนี้ได้ โดยทยอยซื้อหรือซื้อ ทั้งจำนวนก็ได้ หรือให้นำเงิน

 

ไปฝากไว้กับธนาคารรัฐวิสาหกิจ หรือธนาคารที่กระทรวงการคลังเห็นชอบ และเมื่อถึงกำหนดหรือใกล้ถึงกำหนดชำระหนี้ ก็ให้นำเงิน

 

ตราต่างประเทศที่ฝากธนาคารไปชำระหนี้ดังกล่าวได้

- กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาดในเดือนต.ค. โดยปรับตัว

 

ขึ้นเพียง 261,000 ตำแหน่ง ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะพุ่งขึ้น 310,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ

 

4.1% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวที่ 4.2%

- นักวิเคราะห์ระบุว่า ถึงแม้ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐอยู่ในภาวะซบเซาทั้งในเดือนก.ย.และต.ค.

 

แต่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก็ยังคงมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้

 

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (3 พ.ย.)

 

ด้วยแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1608 ดอลลาร์

 

จากระดับ 1.1661 ดอลลาร์ และดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 114.17 เยน จากระดับ 113.99 เยน

 

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 เดือนเมื่อวันศุกร์ (3 พ.ย.) จากแรงกดดันของสกุลเงิน

 

ดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นขานรับข้อมูลภาคบริการที่แข็งแกร่งของสหรัฐ

- คณะกรรมาธิการพิจารณาวิธีการจัดหารายได้ของสภาผู้แทนราษฎร (Committee on Ways and Means) จะเริ่ม

 

พิจารณามาตรการปฏิรูปภาษีฉบับใหม่ของคณะทำงานประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในวันนี้ หลังจากที่สมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทน

 

ราษฎรสหรัฐได้เปิดเผยรายละเอียดของร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีเมื่อวันศุกร์ที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยมีเนื้อหาครอบคลุมถึงการปรับลด

 

ภาษีเงินได้นิติบุคคลลงสู่ระดับ 20% จากปัจจุบันที่ระดับ 35% ส่วนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานั้น จะมีการปรับลดจำนวนขั้นบันไดของการ

 

คำนวณภาษี จาก 7 ขั้น เหลือเพียง 4 ขั้น คือ 12%, 25%, 35% และ 39.6%

- ตลาดการเงินยังจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยนายวิลเลียม ดัดลีย์

 

ประธานเฟดสาขานิวยอร์กมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ และนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์

 

ที่วอชิงตัน ดีซี ในวันพรุ่งนี้ตามเวลาสหรัฐ

--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2734707

 

World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 6 พฤศจิกายน 2560

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2560 08:56:17 น.

กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาดในเดือนต.ค. โดยปรับตัวขึ้นเพียง 261,000 ตำแหน่ง ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะพุ่งขึ้น 310,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.1% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวที่ 4.2%

 

 

 

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐได้เดินทางถึงประเทศญี่ปุ่นเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในภารกิจเดินทางเยือนประเทศในเอเชียอย่างเป็นทางการรวม 11 วัน

 

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์มีกำหนดเยือนญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน เวียดนาม และฟิลิปปินส์ รวมทั้งเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนและเอเปคในวันที่ 3-14 พ.ย.นี้ นับเป็นทริปเยือนต่างประเทศที่ยาวนานที่สุด นับตั้งแต่ทรัมป์ก้าวขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการเมื่อต้นปี

 

-- สื่อต่างประเทศรายงานว่า นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เตรียมประกาศในวันนี้ว่า เขาจะเกษียณอายุงานในปีหน้า ซึ่งเร็วกว่ากำหนดประมาณ 6 เดือน

 

ทั้งนี้ การตัดสินใจเกษียณอายุงานก่อนกำหนดของนายดัดลีย์นั้น เป็นแผนการที่วางเอาไว้นานแล้ว และไม่เกี่ยวข้องกับการที่ประธานาธิบดีโดนัดล์ ทรัมป์ ได้ประกาศเสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวล ให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟด แทนนางเจเน็ต เยลเลน ซึ่งจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนก.พ.ปีหน้า

 

-- คณะกรรมาธิการพิจารณาวิธีการจัดหารายได้ของสภาผู้แทนราษฎร (Committee on Ways and Means) จะเริ่มพิจารณามาตรการปฏิรูปภาษีฉบับใหม่ของคณะทำงานประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในวันนี้ หลังจากที่สมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้เปิดเผยรายละเอียดของร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีเมื่อวันศุกร์ที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยมีเนื้อหาครอบคลุมถึงการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงสู่ระดับ 20% จากปัจจุบันที่ระดับ 35% ส่วนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานั้น จะมีการปรับลดจำนวนขั้นบันไดของการคำนวณภาษี จาก 7 ขั้น เหลือเพียง 4 ขั้น คือ 12%, 25%, 35% และ 39.6%

 

-- นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางออสเตรเลียในวันพรุ่งนี้ โดยที่ประชุมจะหารือกันเกี่ยวกับนโยบายการเงินและจะแถลงมติอัตราดอกเบี้ย

 

ส่วนในการประชุมครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น ธนาคารกลางออสเตรเลียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์และสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาดการเงิน โดยธนาคารกลางได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับหนี้สินภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และอัตราค่าจ้างที่ขยายตัวช้าลง แม้ตลาดแรงงานส่งสัญญาณแข็งแกร่งขึ้นก็ตาม

 

-- ตลาดการเงินจับตาสำนักงานศุลกากรจีน (GAC) เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ โดยในวันอังคารจะมีการเปิดเผยทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนต.ค. ส่วนในวันพุธ จะมีการเปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนต.ค. และในวันพฤหัสบดี จะมีการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค. และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค.

 

-- มาร์กิตเตรียมเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนต.ค.ของประเทศยุโรปในวันนี้ โดยในเวลา 15.55 น.จะเปิดเผยดัชนี PMI ภาคบริการเดือนต.ค.ของเยอรมนีและฝรั่งเศส ส่วนในเวลา 16.00 น. จะเปิดเผยดัชนี PMI ภาคบริการเดือนต.ค.ของกลุ่มยุโรโซน

 

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆที่มีกำหนดจะเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ ได้แก่ การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย.ของเยอรมนี, ดัชนีราคาบ้านเดือนต.ค.ของอังกฤษ จากฮาลิแฟกซ์ และยอดค้าปลีกเดือนก.ย. นอกจากนี้ ยูโรสแตทจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.ย.ของกลุ่มยูโรโซน

 

-- นอกเหนือจากข้อมูลเศรษฐกิจแล้ว ตลาดการเงินยังจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์กมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ และนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ที่วอชิงตัน ดีซี ในวันพรุ่งนี้ตามเวลาสหรัฐ

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2734686

 

ทางการเบลเยียมสั่งปล่อยตัวผู้นำแคว้นกาตาลุญญาและอดีตรัฐมนตรี 4 คน

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2560 09:16:50 น.

สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของสื่อเบลเยียมว่า ทางการเบลเยียมได้สั่งปล่อยตัวนายคาร์เลส ปุกเดมองต์ อดีตผู้นำแคว้นกาตาลุญญา และอดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลของเขาอีก 4 คน ซึ่งได้เข้ามอบตัวต่อตำรวจเบลเยียมก่อนหน้านี้ โดยมีเงื่อนไขต่างๆที่จะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

 

นายพอล เบกการ์ด ทนายความชาวเบลเยียมของนายปุกเดมองต์ กล่าวว่า นายปุกเดมองต์และพรรคพวกจะไม่สามารถเดินทางออกจากเบลเยียมได้หากไม่ได้รับการยินยอมจากทางการ และจะต้องอาศัยอยู่ในสถานที่ที่จัดไว้ให้เท่านั้น นอกจากนี้ทุกคนยังต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการดำเนินการทางกฎหมายของเบลเยียม หรือต้องมาเข้าร่วมในการพิจารณาคดีของศาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจตามกำหนดการ

 

 

 

ก่อนหน้านี้ ศาลสเปนได้ออกหมายจับนายคาร์เลส ปุกเดมองต์ อดีตผู้นำแคว้นกาตาลุญญา และอดีตเจ้าหน้าที่ในคณะรัฐบาลของเขาจำนวน 4 คน พร้อมสั่งคุมขังอดีตเจ้าหน้าที่ในคณะรัฐบาลของแคว้นกาตาลุญญาจำนวน 8 คน ในข้อหากบฎ, ปลุกระดมฝูงชนให้ต่อต้านรัฐบาล และยักยอกเงินหลวง หลังจากที่เขาได้ประกาศให้แคว้นกาตาลุญญาแยกตัวเป็นเอกราชจากสเปนเมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา

 

ทั้งนี้ นายปุกเดมองต์และพรรคพวกได้เดินทางถึงกรุงบรัสเซลส์เมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยนายปุกเดมองต์เคยกล่าวในการแถลงข่าวว่า เขาไม่มีความตั้งใจที่จะขอลี้ภัยทางการเมืองต่อเบลเยียม และจะเดินทางกลับไปยังสเปนก็ต่อเมื่อทางการสเปนรับประกันว่าจะมีการดำเนินคดีอย่างยุติธรรม

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปัทมาสน์ ชนะรัชชรักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2734708

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทรัมป์ VS ปูตินเตรียมตั้งโต๊ะเจรจานอกรอบการประชุมเอเปกสัปดาห์หน้าที่เวียดนาม

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2560 01:22:08 น.

นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า ขณะนี้กำลังมีการหารือกันเกี่ยวกับการจัดการประชุมขึ้นระหว่างประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในระหว่างการประชุมสุดยอดกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ที่เมืองดานังของเวียดนามในระหว่างวันที่ 8-10 พ.ย.

 

 

 

"เรากำลังหารือกันเกี่ยวกับการจัดการประชุมดังกล่าว" นายเพสคอฟกล่าว

ทางด้านปธน.ทรัมป์กล่าวเมื่อวานนี้ ก่อนที่เขาจะออกเดินทางเยือนเอเชียในวันนี้ว่า มีความเป็นไปได้ที่เขาจะพบปะกับปธน.ปูตินในสัปดาห์หน้า

 

"เราอาจจะประชุมกับปธน.ปูติน เนื่องจากเขามีความสำคัญมาก เพราะจะสามารถช่วยเราได้เกี่ยวกับเกาหลีเหนือ, ซีเรีย และเราจะหารือกันเกี่ยวกับยูเครน" ปธน.ทรัมป์กล่าว

 

ทั้งนี้ การพบปะกันระหว่างผู้นำสหรัฐและรัสเซียมีขึ้น ท่ามกลางความขัดแย้งเกี่ยวกับการคว่ำบาตรรัสเซีย, สงครามในซีเรีย และการสอบสวนในสหรัฐเกี่ยวกับการที่รัสเซียเข้าแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีที่แล้ว

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2734168

 

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้รีบาวด์ ขานรับราคาน้ำมันขึ้นหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน,เก็งกำไรงบฯบจ. Q3/60

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2560 09:23:17 น.

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสรีบาวด์ขึ้น หลังได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น โดยน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดทำสถิติสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีเมื่อวันศุกร์ ก็น่าจะช่วยให้มีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะในกลุ่มต้นน้ำทั้ง PTTEP และ PTT เข้ามา ขณะที่ยังต้องติดตามการประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/60 ของบจ.ไทยที่จะทยอยออกมาจนถึงสัปดาห์หน้า ส่วนการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 8 พ.ย.นี้ คาดว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.5% ต่อไป

 

 

 

ด้านปัจจัยต่างประเทศยังคงทรงตัว หลังจากที่ตลาดรับรู้เรื่องประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ และแผนปฏิรูปภาษีฉบับใหม่ของสหรัฐฯไปแล้ว โดยในช่วงนี้คงมีเพียงการประกาศผลประกอบการของบจ.ในต่างประเทศที่มีออกมา ซึ่งหากออกมาดีก็จะช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นต่างประเทศปรับตัวขึ้น ขณะที่ยังต้องจับตาการ Rebalance ของดัชนี MSCI ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงน้ำหนักการลงทุนของประเทศอย่างไร รวมถึงจำนวนหุ้นที่จะเข้าและออกอย่างไร โดย MSCI จะประกาศออกมาในวันที่ 14 พ.ย.ตามเวลาไทย

 

นายกิติชาญ เห็นว่าแม้ขณะนี้ตลาดหุ้นไทยอาจจะถูกดดันจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ ที่เลือกขายทำกำไรออกมาบ้าง แต่เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยจะไม่ปรับตัวลงมากนักเพราะยังมีแรงซื้อจากเม็ดเงินกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เข้ามาในช่วงปลายปีอย่างต่อเนื่อง

 

พร้อมให้แนวรับ 1,697 และ 1,687 จุด ส่วนแนวต้าน 1,707 และ 1,715 จุด

ด้านนายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสดีดตัวกลับขึ้นไปได้ เป็นผลจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐส่วนใหญ่ออกมาเป็นบวก ขณะที่คาดแรงขายจากต่างชาติน่าจะลดลง ประกอบกับยังไม่มีปัจจัยลบเข้ามา โดยมีปัจจัยที่ต้องติดตามคือการที่รัฐบาลไทยจะประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปีนี้

 

ส่วนการซื้อขายในตลาดภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่เช้านี้เป็นบวกเล็กน้อย และยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงรุนแรง พร้อมให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยที่ 1,690-1,725 จุด

 

--อินโฟเควสท์ โดย วิลาวัลย์ พงษ์พิทักษ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2734714

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

23172389_1584557044967467_4164656687197927628_n.jpg?oh=520ec36761c814a2a7ab52430a955805&oe=5A9E46AC

ช่องทางในการบริจาค

1. บัญชีรับบริจาค : ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

สาขารัชโยธิน ชื่อบัญชี มูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าในพระราชูปถัมภ์ฯ (โครงการก้าวคนละก้าว)

เลขที่บัญชี 111-393- 5263 ประเภทบัญชีกระแสรายวัน

2. SMS : บริจาคครั้งละ 10 บาท* โดยพิมพ์ T แล้วกดส่งมาที่ 4545099(ทุกเครือข่าย )

หมายเหตุ : ทุกยอดเงินบริจาคไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และไม่สามารถออกใบเสร็จรับเงิน

3. พร้อมเพย์ : โอนเงินผ่านพร้อมเพย์ ไปที่เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของมูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า 0994000005261

4. SCB EASY APP: สามารถบริจาคผ่านเมนู “บริจาค” ใน SCB EASY APP

และเลือก โครงการวิ่งการกุศล “ก้าวคนละก้าว” เพื่อ 11โรงพยาบาลทั่วประเทศ

5. SCB EASY NET: ผู้ที่สมัครใช้บริการ SCB EASY NET สามารถบริจาคด้วยการโอนเงินผ่านเว็บไซต์ www.scbeasy.com

6. SCB ATM : บริจาคผ่านเครื่อง ATM ของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

เลือกรายการ แล้วกด ถอนจากบัตร UP2ME / บริจาค แล้วกดบริจาคโครงการวิ่งการกุศล “ก้าวคนละก้าว”

7. เคาเตอร์เซอร์วิสของ 7-11 ทุกสาขา

8. www.ruckdee.com :

สำหรับการบริจาคผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิต

หมายเหตุ – สามารถบริจาคได้จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2561

9. ห้างบิ๊กซีทุกสาขา

10. บริจาคผ่านช่องทางแอป ทรูมันนี่ วอลเล็ท (ทรูมันนี่ ร่วม บริจาคเพิ่มอีก 10 บาท ต่อการบริจาคของท่าน) คลิก http://d.truemoney.com/kao1g

11. บริจาคทาง LINE ผ่าน Rabbit LINE Pay https://lin.ee/bFAYJuW

ขอขอบคุณคนไทยใจดีทุกคนที่เห็นด้วยและมาช่วยกัน "ก้าว" ครั้งนี้ ติดรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Facebook "ก้าว"

#ก้าวคนละก้าว

#ก้าวคนละก้าวเพื่อ11โรงพยาบาล

#ก้าวนี้เพื่อหมอพยาบาลและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลทุกคน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำอังคารที่ 7 พฤศจิกายน 2560 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- อังคารที่ 7 พฤศจิกายน 2560 09:37:21 น.

กรุงเทพฯ--7 พ.ย.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดในซาอุดิอาระเบียที่มีการจับกุมเพื่อปราบปรามคอรัปชัน จึงทำให้ราคาที่ลงไปทำระดับต่ำสุดแถว 1,265 เหรียญ และราคาที่ทรงตัวในตลาดเอเชียปรับตัวขึ้นทดสอบระดับ 1,280 เหรียญอีกครั้ง ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อย โดยดัชนีดอลลาร์มาอยู่ที่ 94.69 จุด จากระดับ 94.95 จุด และในบางช่วงปรับขึ้นทดสอบ 95 จุด ขณะที่เมื่อวานนี้ไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ ทางด้านกองทุนทองคำ SPDR ขายทองคำต่อเนื่อง 0.3 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ระดับ 845.45 ตัน

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ภาพทางเทคนิคระยะสั้นของทองคำยังแกว่งตัวไร้ทิศทางในกรอบ 1,265 – 1,285 เหรียญ โดยแกว่งตัวแบบไร้ทิศทางในระยะสั้นๆเท่านั้น โดยที่ระยะปานกลางและระยะยาวยังอยู่ในระดับต่ำหรือเคลื่อนไหวในทิศทางแนวโน้มขาลง ทางด้านทอคำไทยเริ่มหลุด 20,000 บาท/บาททองคำ ดังนั้น จึงคาดว่าทองคำไทยจะมีแนวรับ 19,850 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้าน 20,150 บาท/บาททองคำ

 

การลงทุน Gold D

คาดว่าภาพรวมในระยะสั้นจะเคลื่อนไหวแบบไร้ทิศทางเช่นเดียวกับราคาทองคำตลาดโลก โดยมีกรอบแนวรับที่ระดับ 1,270 เหรียญ และแนวต้าน 1,285 เหรียญ

 

โดยย้ำนักลงทุนว่า ราคาจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

เก็งกำไรระยะสั้นๆในกรอบเน้นเล่นสั้นภายในวัน โดยมีแนวรับ 1,265 เหรียญ และแนวต้าน 1,285 เหรียญ

 

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

ลงซื้อขึ้นขายเก็งกำไรระยะสั้นๆในกรอบ

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

ปิดทำกำไรเป็นช่วงๆ เน้นเล่นสั้นภายในวัน

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

ภาพรวมระยะยาวยังเป็นขาลง โดยไม่แนะนำให้ใช้อัตรา Margin มากเกินไป หรือใช้ Margin ไม่เกิน 3 เท่าเท่านั้น ซึ่งนักลงทุนระยะยาวควรมีการบริหารจัดการ Leverage ไม่เกิน 3 เท่าเพื่อให้ทนต่อสภาพการแกว่งของตลาดทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ดังนั้น จึงแนะนำให้ปรับพอร์ตการลงทุนเน้นเล่นสั้นๆเพียงเท่านั้น

 

Gold Futures Z17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,080 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,280 บาท

Gold Futures G18 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,130 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,330 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2735414

 

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.09 แนวโน้มแข็งค่า ตลาดรอความชัดเจนมาตรการภาษีของสหรัฐฯ

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดพุ่ง $12.4 รับดอลล์อ่อน,ราคาน้ำมันดีดแรง

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 7 พฤศจิกายน 2560 07:14:42 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นคืนนี้ (6 พ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากรายงานข่าวที่ว่า กษัตริย์ซาอุดิอาระเบียประกาศกวาดล้างการทุจริตครั้งใหญ่ในประเทศ

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 12.4 ดอลลาร์ หรือ 0.98% ปิดที่ระดับ 1281.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 40.1 เซนต์ หรือ 2.38% ปิดที่ 17.235 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 13.10 ดอลลาร์ หรือ 1.42% ปิดที่ 935.00 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.60 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 995.10 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำปิดตลาดปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 6 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้น หลังจากมีรายงานว่า กษัตริย์ซัลมาน บิน อับดุลาซิส อัล ซาอุด แห่งซาอุดิอาระเบีย ได้ประกาศกวาดล้างการทุจริตครั้งใหญ่ ซึ่งนำไปสู่การจับกุมตัวมกุฎราชกุมารอัลวาลีด บิน ทาลาล และเจ้าชายคนอื่นๆ รวมทั้งรัฐมนตรี มหาเศรษฐี และอดีตเจ้าหน้าที่อีกหลายคน

 

รายงานระบุว่า มกุฎราชกุมารอัลลาวีด เป็นพระนัดดาของกษัตริย์ซัลมาน และเป็นเจ้าของบริษัท Kingdom Holding ซึ่งเป็นบริษัทเพื่อการลงทุน นอกจากนี้ ยังเป็นนักลงทุนในบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างทวิตเตอร์ และซิตี้กรุ๊ป โดยมกุฎราชกุมารอัลลาวีดได้ถูกตั้งข้อหาฟอกเงิน ติดสินบน และบังคับข่มขู่เจ้าหน้าที่

 

นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังช่วยหนุนแรงซื้อในตลาดทองคำ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวลง 0.21% แตะที่ 94.742 เมื่อคืนนี้

 

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2735187

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 7 พฤศจิกายน 2560 09:28:52 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เช้านี้เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 33.09 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่า

 

จากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.15 บาท/ดอลลาร์

ทิศทางเงินบาทวันนี้มีโอกาสจะแข็งค่า เนื่องจากขณะนี้ตลาดอยู่ในช่วงรอมาตรการภาษีของสหรัฐที่จะออกมา ซึ่งยังมีข้อ

 

กังวลว่าจะไม่ดีอย่างที่คาดหวังไว้ และมีแนวโน้มจะส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐปรับอ่อนค่าลงได้ ซึ่งการที่ดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มอ่อนค่าลง

 

 

 

นอกจากเป็นปัจจัยภายในประเทศเองแล้ว ยังได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันในตลาดโลกด้วย

"ตลาดรอดูมาตรการภาษีของสหรัฐที่กำลังร่างอยู่ในขณะนี้ เพราะถ้าออกมาแล้วไม่ได้ดีอย่างที่คาดหวัง ดอลลาร์สหรัฐก็มี

 

โอกาสจะอ่อนค่า ประกอบกับมีปัจจัยกดดันจากสินค้า commodity ราคาน้ำมัน จากประเด็นของซาอุฯ" นักบริหารเงินระบุ

 

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 33.05-33.15 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.85/86 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 114.13 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1604 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1601 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.1650 บาท/ดอลลาร์

 

- นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย คาดว่า ปี 2561 ธุรกิจประกันวินาศภัยจะเติบโตใกล้เคียงกับผลิตภัณฑ์มวลรวมภาย

 

ในประเทศ (จีดีพี) อยู่ที่ 3.5-4% หรือเบี้ยรับรวม 2.26-2.28 แสนล้านบาท จากปีนี้ที่คิดว่าจะโต 3.3-3.7% โดยธนาคารแห่ง

 

ประเทศไทย (ธปท.) ประมาณการว่าจีดีพีปีหน้าอยู่ที่ 3.8%

- ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยแผนธุรกิจในปี 2561 อยู่ระหว่างการพิจารณาจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเพิ่มขึ้นในหลาย

 

ส่วน เช่น การขายกองทุนรวม ซึ่งกำลังพิจารณาในเรื่องการเปิดกว้างขายกองทุนจากบริษัทอื่น (Open Architecture) ด้วย จาก

 

เดิมที่ธนาคารมีการขายเฉพาะกองทุนของบริษัทในเครือเท่านั้น คาดว่าจะมีความชัดเจนในปีหน้า

 

- รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 10 พ.ย.นี้ ธปท.จะเปิดเผยรายงานผล

 

ประกอบการธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 3 ของปีนี้ โดยตัวเลขสำคัญที่มีการ จับตามองมากคือหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ที่

 

ยังคงมีการขยายตัวเพิ่ม โดยสิ้นไตรมาส 3 เอ็นพีแอลทั้งระบบของธนาคารพาณิชย์อยู่ที่ 4.28 แสนล้านบาท คิดเป็น 2.97% ของสิน

 

เชื่อรวม

- จับตา "คลัง" ชงมาตรการช็อปช่วยชาติเข้าครม.วันนี้ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศไทย ด้าน "นายแบงก์" ขาน

 

รับมั่นใจช่วยเศรษฐกิจเดินเครื่องได้เร็ว-แรงขึ้น "สมคิด" เดินหน้าผลักดัน "เอสเอ็มอี" สั่ง 3 แบงก์รัฐ จับมือทำงาน แก้ปัญหาภาย

 

ใน 1 ปีก่อนเลือกตั้ง

- ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 พ.ย.) หลังจากกระทรวง

 

แรงงานสหรัฐระบุว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค.มีการขยายตัวน้อยกว่าคาดการณ์ ขณะที่ตัวเลขค่าแรงต่อชั่วโมงโดย

 

เฉลี่ยของแรงงาน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อนั้น ซบเซาลงด้วยเช่น

 

กัน

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นคืนนี้ (6 พ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และราคา

 

น้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากรายงานข่าวที่ว่า กษัตริย์ซาอุดิอาระเบียประกาศกวาดล้างการทุจริตครั้งใหญ่ในประเทศ

 

- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก ยืนยันในวันนี้ว่า นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์ก จะ

 

เกษียณอายุในกลางปีหน้า ก่อนที่วาระการดำรงตำแหน่งจะสิ้นสุดลงในเดือนม.ค.2562

เฟดสาขานิวยอร์กระบุว่า คณะกรรมการสรรหาของเฟดจะเร่งหาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งแทนนายดัดลีย์ โดยคาดว่าจะมี

 

การประกาศรายชื่อในกลางปีหน้า

- คณะกรรมาธิการพิจารณาวิธีการจัดหารายได้ของสภาผู้แทนราษฎร (Committee on Ways and Means) ได้เริ่ม

 

พิจารณาร่างปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกันเมื่อวานนี้ ขณะที่นายพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า

 

สภาผู้แทนราษฎรจะโหวตร่างกฎหมายดังกล่าว ก่อนช่วงเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า ในวันที่ 22 พ.ย.นี้

 

- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อก

 

สินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

 

--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2735426

 

World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 7 พฤศจิกายน 2560

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 7 พฤศจิกายน 2560 08:58:19 น.

-- สัญญาน้ำมันดิบปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากมีรายงานข่าวว่า กษัตริย์ซัลมาน บิน อับดุลาซิส อัล ซาอุด แห่งซาอุดิอาระเบีย ได้ประกาศกวาดล้างการทุจริตครั้งใหญ่ ซึ่งนำไปสู่การจับกุมตัวมกุฎราชกุมารอัลวาลีด บิน ทาลาล และเจ้าชายคนอื่นๆ รวมทั้งรัฐมนตรี มหาเศรษฐี และอดีตเจ้าหน้าที่อีกหลายคน

 

รายงานระบุว่า มกุฎราชกุมารอัลลาวีด ซึ่งเป็นนักลงทุนรายใหญ่ และเป็น 1 ในเจ้าชาย 11 คน, รัฐมนตรี 4 คน และอดีตรัฐมนตรี 10 คน ได้ถูกจับกุมตัวในแคมป์กลางทะเลทรายนอกกรุงริยาดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยการกวาดล้างพฤติกรรมคอร์รัปชั่นในหมู่ราชวงศ์ของซาอุดิอาระเบียครั้งนี้ ได้สร้างความตื่นตระหนกและส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้น

 

 

 

-- ธนาคารกลางออสเตรเลียเตรียมแถลงมติอัตราดอกเบี้ยวันนี้เวลา 10.30 น. ตามเวลาไทย

สำหรับการประชุมครั้งล่าสุดซึ่งมีขึ้นเมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางออสเตรเลียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยธนาคารกลางได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับหนี้สินภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และอัตราค่าจ้างที่ขยายตัวช้าลง แม้ตลาดแรงงานส่งสัญญาณแข็งแกร่งขึ้นก็ตาม

 

-- ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทได้ทำการปรับเวลาซื้อ-ขายหุ้นในตลาด เริ่มต้นเมื่อคืนนี้ โดยปรับเวลาช้าลง 1 ชั่วโมง หลังจากสิ้นสุดช่วง Daylight Saving Time

 

ทั้งนี้ ตลาดได้เปลี่ยนแปลงเวลาซื้อ-ขาย จากเดิม 20:30-03:05 น. ตามเวลาไทย เป็น 21:30-04:05 น.ตามเวลาไทย

 

การปรับเวลาซื้อ-ขายดังกล่าวนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2560 - 11 มีนาคม 2561

 

-- นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เตรียมเดินทางไปกรุงโซลของเกาหลีใต้ในวันนี้ หลังจากที่เดินทางเยือนญี่ปุ่น

 

รายงานข่าวระบุว่า เมื่อปธน.ทรัมป์ร่วมประชุมสุดยอดระดับทวิภาคีกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้วันที่ 7 พ.ย.แล้ว ในวันที่ 8 พ.ย. ปธน.ทรัมป์ก็จะขึ้นกล่าวที่สมัชชาแห่งชาติ เพื่อเรียกร้องให้ประชาคมโลกร่วมมือ "ยกระดับมาตรการกดดันถึงขีดสุด" ต่อเกาหลีเหนือ

 

-- ศาลเบลเยียมมีคำตัดสินเมื่อคืนนี้ให้นายคาร์เลส ปุกเดมองต์ อดีตผู้นำแคว้นกาตาลุญญา และอดีตเจ้าหน้าที่ในคณะรัฐบาลของเขาจำนวน 4 ราย ไม่ต้องถูกควบคุมตัวในเบลเยียม จนกว่าศาลจะได้รับข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการก่อการกบฏของนายปุกเดมองต์และพวกจากทางการสเปน

 

ด้านนางโซรายา แซนซ์ เดอ ซานตามาเรีย รองนายกรัฐมนตรีสเปน กล่าวว่า รัฐบาลสเปนให้การเคารพต่อการตัดสินใจของศาลเบลเยียม

 

ทั้งนี้ นายปุกเดมองต์และพวกจะต้องปรากฎตัวต่อศาลเบลเยียมในวันที่ 17 พ.ย. เพื่อไต่สวนเกี่ยวกับการออกหมายจับจากศาลสเปนก่อนหน้านี้

 

-- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก ยืนยันในวันนี้ว่า นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์ก จะเกษียณอายุในกลางปีหน้า ก่อนที่วาระการดำรงตำแหน่งจะสิ้นสุดลงในเดือนม.ค.2562

 

เฟดสาขานิวยอร์กระบุว่า คณะกรรมการสรรหาของเฟดจะเร่งหาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งแทนนายดัดลีย์ โดยคาดว่าจะมีการประกาศรายชื่อในกลางปีหน้า

 

-- ธนาคารกลางจีนเตรียมเปิดเผยทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนต.ค.เวลา 15.00 น. ของวันนี้ตามเวลาไทย

 

สำหรับตัวเลขล่าสุด ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ ณ สิ้นเดือนก.ย. เพิ่มขึ้นแตะ 3.1085 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.698 หมื่นล้านดอลลาร์จากเดือนส.ค.

 

-- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศแถบยุโรปในวันนี้ ซึ่งรวมถึง การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย.ของเยอรมนีเวลา 14.00 น., ดัชนีราคาบ้านเดือนต.ค.ของอังกฤษ จากฮาลิแฟกซ์เวลา 15.30 น. และยอดค้าปลีกเดือนก.ย.ของยูโรโซนเวลา 17.00 น. ตามเวลาไทย

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กนิษฐนุช สิริสุทธิ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2735406

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

MTS GOLD is live now.

26 mins ·

เตรียมตัวให้พร้อมแล้วมาพบกับการวิเคราะห์กราฟสดๆ ข้อมูลร้อนๆ จากผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดของเราได้เลย กับรายการ MTS LIVE วันที่ 7 พฤศจิกายน 2560

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

23167953_10155891818412855_8848397771884312958_n.jpg?oh=904e0a77d96d54395889073c67288c9b&oe=5A676084

 

23167945_10155891820257855_6631037735043030415_n.jpg?oh=ae7b3309cdb5f149a327c6aa73abf61d&oe=5AA9747A

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2560 ประชาชนเข้ากราบพระบรมราชสรีรางคารที่วัดบวรนิเวศจำนวนไม่มากเพราะวันนี้เป็นวันทำงาน โดยบรรยากาศที่วัดบวรนิเวศราชวรวิหารในช่วงบ่ายของวันนี้ มีประชาชนทยอยเดินทางมาเพื่อเข้ากราบพระบรมราชสรีรางคาร และพระพุทธชินสีห์ พระพุทธรูปสำคัญ ภายในพระอุโบสถ

ภาพ ประเสริฐ เทพศรี (Prasert Thepsri) #NationPhoto #พระบรมราชสรีรางคาร#วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...