ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

moddum

ขาใหญ่
  • จำนวนเนื้อหา

    166
  • เข้าร่วม

  • เข้ามาล่าสุด

ทุกๆอย่างที่โพสต์โดย moddum

  1. ให้ช่วยเดาใหมคะ ก็คลื่นเล็กย่อยล่ะคะ่ แล้วก็ย่อยลงไปอีก ทั้งหมดก็รวมเป็นคลื่นใหญ่นิดนึง แล้วก็ใหญ่มากขึ้น อะไรประมาณนี้ อย่าไปซีเรียสกะมันว่าเขาเรียกว่าอะไร ดูพอเป็นแนวทางเท่านั้น ดูของเขาไม่เข้าใจ ก็ต้องดูของคนไทยค่ะ ขนาดคลื่นใหญ่ 12345 ABC แต่ละคลื่นก็ยังมี 12345 ย่อยลงไปอีก ลองอ่านดูเกี่ยวกะ elliot wave http://www.thaigold.info/Board/index.php?/topic/239-elliot-wave/
  2. สวัสดีและขอบคุณมากๆเลยค่ะ !Hi สำหรับบทเรียนในวันนี้....พยายามอ่านและทำความเข้าใจอยู่ค่ะ ดูเหมือนไม่มีอะไรในกราฟที่ถามมา แต่ความรู้ที่นำมาเฉลยให้เพียบเลย มันยากที่จะเข้าใจนะคะ แต่ถึงอย่างไร จะพยายามอ่านมันให้เข้าใจให้ได้ค่ะ !45 เข้าใจค่ะว่ามันยากที่จะอธิบาย
  3. หวัดดีจ้า แวะมาทักทาย ginger จ้า.. น่ารักที่ซู๊ดด ขอบคุณข้อคิดและกำลังใจดีๆ ขอบคุณ มดแดง ขอบคุณ news จ้ะ ขอบคุณทุกท่านค่ะ
  4. สารต่างๆ ในผงซักฟอก My firstbrain (4,634 views) first post: Fri 27 May 2011 last update: Fri 27 May 2011 ผงซักฟอกเป็นสินค้า อุปโภคบริโภคที่จำเป็นอย่างหนึ่งในชีวิตประจำวัน ใช้เพื่อชำระล้างสิ่งสกปรกออกจากเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มต่างๆ จึงได้มีการค้นคว้าพัฒนาสูตรผงซักฟอก พร้อมกับความนิยมใช้ผงซักฟอกเพิ่มขึ้น หน้าที่ 1 - สารต่างๆ ในผงซักฟอก ผงซักฟอก เป็นสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นอย่างหนึ่งในชีวิตประจำวัน ใช้เพื่อชำระล้างสิ่งสกปรกออกจากเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม และภาชนะต่างๆ ตลอดจนเครื่องมือ เครื่องจักรกลโรงงาน แต่ที่ใช้กันมากคือ ใช้ซักล้างเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ได้มีการผลิตผงซักฟอกขึ้นใช้เป็นครั้งแรกในประเทศเยอรมนี ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เนื่องจากในขณะนั้นไขวัวและน้ำมันพืชซึ่งเป็นวัตถุสำคัญในการผลิตสบู่เกิด ขาดแคลน นักวิทยาศาสตร์จึงได้คิดค้นสารสังเคราะห์ขึ้นใหม่ ต่อมาจึงได้มีการค้นคว้าพัฒนาสูตรผงซักฟอกอย่างกว้างขวาง พร้อมกับความนิยมใช้ผงซักฟอกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ประเทศไทยโดย บริษัท หลุยส์ทีเลียวโนเวนส์ จำกัด ได้นำเข้าผงซักฟอกยี่ห้อ "แฟ้บ" จาก ต่างประเทศมาในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อใช้แทนสบู่ในการซักเสื้อผ้า และชำระล้างสิ่งสกปรกอื่นๆ ปรากฏว่า เป็นที่นิยมของประชาชนโดยทั่วไป เพราะสามารถชำระล้างสิ่งสกปรกได้ดีกว่าสบู่ และสะดวกในการใช้มากกว่า บริษัทผู้ผลิตแฟ้บ คือ บริษัท คอลเกตปาล์มโอลีฟ จำกัด จึงได้ตั้งโรงงานผลิต และจำหน่ายผงซักฟอกในประเทศขึ้นในปี พ.ศ.2500 และต่อมาได้มีผู้ผลิตผงซักฟอกเกิดขึ้นอีกหลายบริษัท ผงซักฟอกเป็นผลิตภัณฑ์เคมี ใช้วัตถุดิบแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสูตรการผลิตของแต่ละโรงงาน และสารเคมีบางตัวอาจใช้แทนกันได้ วัตถุดิบที่ใช้ส่วนใหญ่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ส่วนประกอบของผงซักฟอกแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ส่วนประกอบหลัก และส่วนประกอบที่อาจมีได้ ส่วนประกอบหลัก 1. สารลดแรงตึงผิว เป็นพวกสารอินทรีย์ ทำหน้าที่เป็นตัวละลายไขมัน ช่วยลดแรงตึงผิวของน้ำ ทำให้น้ำซึมเข้าไปสัมผัสกับสิ่งสกปรกต่างๆ ได้ จึงสามารถชำระล้างสิ่งสกปรกออกมาได้ทั้งในน้ำกระด้างและน้ำธรรมดา สารนี้ต้องเป็นสารเคมีประเภทมีประจุลบ (anionic) ประจุบวก (cationic) หรือไม่มีประจุ (nonionic) ประเภทใดประเภทหนึ่งหรือผสมกัน ในกรณีที่เป็นสารเคมีประเภทมีประจุลบต้องไม่เป็นแอลคิลเบนซีนซัลโฟเนตที่มี โครงสร้างแบบกิ่ง (branched alkylbenzene sulphonate) ตัวอย่างเช่น โซเดียมแอลคิลอะริลซัลโฟเนต (sodium alkyl aryl sulphonate) ส่วนสารลดแรงตึงผิวประเภทมีประจุบวก เช่น เซทิลไตรเมทิลแอมโมเนียมโบรไมด์ (cetyl trimethyl ammonium bronide) และสารลดแรงตึงผิวประเภทไม่มีประจุ เช่น เอทิลินออกไซด์ คอนเดนเซต ออฟ แอลคิลแฟตตีแอลกอฮอล์ (ethylene oxide condensate of alkylfatty alcohols) สารเหล่านี้เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำหน้าที่ชำระล้างสิ่งสกปรก 2. สารลดความกระด้างของน้ำ เช่น โซเดียมไตรโพลีฟอสเฟต (sodium tripolyphosphare, STPP) โซเดียมไพโรฟอสเฟต (sodium pyrophosphate) เกลือของกรดไนทริโลไตรแอซีติค (nitrilotriacetic acid, NTA) เกลือของกรด เอทิลีนไดแอมีนเททระแอซีติก (ethylenediamine tetracctic acid, EDTA) กรดซิตริก และอนุพันธ์ของกรดซิตริก (citric acid and derivatives) ซีโอไลต์ (zeolite) สารใดสารหนึ่งหรือผสมกัน สารพวกนี้ไม่ช่วยให้สิ่งสกปรกหลุดออกจากเสื้อผ้า หรือจากของใช้โดยตรง แต่ทำหน้าที่เสริมประสิทธิภาพของสารลดแรงตึงผิวโดยทำให้น้ำเป็นด่างเหมาะแก่ การปฏิบัติงานของผงซักฟอก สารลดความกระด้างมีหน้าที่ช่วยแก้ความกระด้างของน้ำ เนื่องจากความกระด้างของน้ำจะรบกวนการทำงานของสารลดแรงตึงผิวที่จะดึงสิ่ง สกปรกออกจากผ้า นอกจากนี้ สารลดความกระด้าง ยังช่วยควบคุมสมดุลของค่าความเป็นกรดเป็นด่างให้อยู่ในระดับที่พอเหมาะและคง ที่ได้ด้วย 2.1 สารโซเดียมไตรโพลีฟอสเฟต (STPP) สาร STPP มีสูตรโมเลกุล NaPO วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตที่สำคัญคือ เทอร์มัล ฟอสฟอริกแอซิด และโซดาแอชเข้มข้น ปฏิกิริยาของกรดฟอสฟอริกกับโซดาแอชเข้มข้นจะให้ของผสมระหว่างโมโนและได โซเดียม ออร์โทฟอสเฟต STPP ได้จากปฏิกิริยาดีไฮเดรชัน (dehydration) ผสมระหว่างโมโน และไดโซเดียมออร์โทฟอสเฟต ที่อุณหภูมิสูง (500C) STPP ที่ผลิตได้ในประเทศไทย ใช้อุตสาหกรรมผลิตผงซักฟอกเป็นส่วนใหญ่ นอกนั้น STPP สามารถที่ใช้ในระบบเตรียมน้ำประปา อุตสาหกรรมกระเบื้องเซรามิก สารช่วยถนอมอาหารทะเล อุตสาหกรรมสี เป็นต้น สาร STPP ในผงซักฟอกจะลดความกระด้างโดยดึงอนุภาคแคลเซียม (Ca)และ แมกนีเซียม (Mg) ออกจากน้ำ แคลเซียมหรือแมกนีเซียมจะเข้าแทนที่โซเดียมในโมเลกุลของ STPP ซึ่งเป็นสารลดความกระด้างที่ทำหน้าที่ได้ประสิทธิผลดี แต่สามารถก่อให้เกิดปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมได้ หลายประเทศมีความเห็นว่าฟอสเฟต อาจเป็นต้นเหตุทำให้เกิดปรากฎการณ์ยูโทรฟิเคชัน (eutrophication) ในแหล่งน้ำ ดังนั้น จึงได้ให้ความสนใจกับผงซักฟอกที่ไม่มีส่วนประกอบของฟอสเฟตโดยใช้สารอื่นทด แทนเป็นสารลดความกระด้าง 2.2 สารทดแทนสารประกอบ STPP สารทดแทนสารประกอบ STPP มีหลายชนิด แต่มีเพียง 5 ชนิดเท่านั้นที่ใช้อยู่ในประเทศต่างๆ ในปัจจุบัน โดยใช้ในรูปของสารลดความกระด้างโดยตรงหรือเป็นสารร่วมในการลดความกระด้าง (co-builder) ได้แก่ ไนทริโลไตรแอซิติก สารไนทริโลไตรแอซิติกเป็นสารประกอบอินทรีย์ วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตได้แก่ แอมโมเนีย ฟอร์มาลดีไฮด์ กรดไฮโดรไซยานิก อนุมูลความกระด้าง (Ca, Mg) ในน้ำ จะถูกเปลี่ยนกับเกลือไตรโซเดียมของสาร NTA ทำให้ลดความกระด้างของน้ำลง ซึ่งจะทำหน้าที่ได้ดีในสภาวะน้ำที่เป็นด่าง ราคาของสาร NTA แพงกว่า STPP ประมาณร้อยละ 50 แต่ใช้ปริมาณน้อยกว่า ซิเทรต ซิเทรตเป็นเกลือของกรดซิตริก (citric acid) เป็นสารประกอบอินทรีย์ ข้อเสียของสารซิเทรตในการใช้เป็นสารลดความกระด้าง คือ ประสิทธิภาพจะลดลงที่อุณหภูมิสูง นอกจากนี้ ซิเทรตยังมีประสิทธิภาพต่ำในการลดความกระด้างที่เกิดจากอนุมูลแคลเซียม เมื่อเทียบกับความกระด้างที่เกิดจากอนุมูลแมกนีเซียม อย่างไรก็ดี ซิเทรตยังใช้เป็นสารลดความกระด้างในหลายๆ ประเทศ โดยเป็นส่วนประกอบในผงซักฟอกที่ใช้ซักล้างที่อุณหภูมิต่ำ โดยที่อเมริกามีการใช้ซิเทรตในน้ำยาซักฟอก สำหรับผงซักฟอกในประเทศไทย ไม่นิยมใช้สารประกอบนี้ เพราะมีราคาแพง ในด้านผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ไม่มีรายงานที่แสดงถึงความเป็นพิษของซิเทรตต่อสุขภาพ และเนื่องจากเป็นสารที่ย่อยสลายทางชีวภาพได้ จึงสามารถถูกกำจัดในระบบบำบัดน้ำเสียได้ (ถ้ามี) เกลือของกรดโพลิคาร์บอกซีลิก (polycarboxylic acid PCA) โพลิคาร์บอกซีเลต เป็นเกลือโพลิเมอร์ของกรด ซึ่งได้แก่ กรดอะคริลิก (acrylic acid) กรดมาลีอิก (maleic acid) สมบัติในการลดความกระด้างขึ้นอยู่กับขนาดของโพลิเมอร์ กลไกในการลดความกระด้างของ PCA เป็นแบบ electrostatic binding และ site binding ในกลไกแรก อนุมูลประจุตรงข้ามจะถูกตรึงโดยสภาพประจุไฟฟ้ารอบๆ โมเลกุลของโพลิเมอร์ ในขณะที่กลไกที่สองจะลดความกระด้างเนื่องจาก active site ของอนุมูลโพลิเมอร์รวมกับอนุมูลประจุตรงข้าม โดยเฉพาะอนุมูลที่มีขนาดใหญ่กว่า จะรวมกันได้ดีขึ้น (Ca > Li > Na > K) PCA ใช้ในปริมาณต่ำเมื่อเทียบกับสารทดแทนอื่นโดยให้สมบัติเท่ากัน ส่วนใหญ่นิยมใช้เป็นสารลดความกระด้างร่วม ทั้งนี้เนื่องจากราคาที่สูงและย่อยสลายทางชีวภาพได้ยาก สำหรับในเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและความเป็นพิษนั้น ยังไม่เป็นที่แน่ชัด เนื่องจากมีข้อมูลการวิจัยไม่พอที่จะสรุปได้ ฟอสฟอเนต ฟอสฟอเนตเป็นเกลืออยู่ในกลุ่มของ กรดฟอสฟอนิก (phosphonic acids) ซึ่งมีสารฟอสฟอรัสและไนโตรเจน มีน้ำหนักโมเลกุลต่ำ มีสมบัติและราคาแพงเช่นเดียวกับ PCA ย่อยสลายยาก ปัจจุบันมักใช้เป็นสารร่วมลดความกระด้าง รายงานในเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและความเป็นพิษยังมีอยู่น้อยเช่นเดียว กัน ซีโอไลต์ สารซีโอไลต์เป็นผลึกอนินทรีย์ของอะลูมิโนซิลิเคต ซี่งมีพื้นที่ผิวภายในสูงมากเมื่อเทียบกับพื้นที่ผิวภายนอก สังเคราะห์ขึ้นโดยเลียนแบบดินขาว (kaolin clay) ซึ่งเป็นสารที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ประกอบด้วย 1 โมลของโซเดียม 1 โมลของอะลูมินา 2 โมเลกุลของซิลิกา และ 4.5 โมลของน้ำสารซีโอไลต์ สามารถลดความกระด้างของน้ำ โดยวิธีการแลกเปลี่ยนประจุเช่นเดียวกับสาร STPP โดยที่แคลเซียม (Ca) และแมกนีเซียม (Mg) จะแลกเปลี่ยนประจุกับโซเดียมในสารทั้งสอง ได้มีการศึกษาทางด้านประสิทธิภาพของการลดความกระด้างในน้ำ ระหว่างซีโอไลต์และ STPP พบว่า เวลาที่ใช้ในการลดปริมาณแคลเซียมในน้ำอุณหภูมิต่ำของซีโอไลต์นานกว่า STPP ประมาณ 3 เท่า กล่าวคือ ซีโอไลต์ใช้เวลา 3 นาที ในขณะที่ STPP ใช้เวลา 1 นาที ซีโอไลต์เมื่อเทียบกับสารทดแทนอื่นๆ ในปริมาณเดียวกันจะมีความสามารถในการลดความกระด้างได้ต่ำกว่า และจะลดความกระด้างที่เกิดจากอนุมูลแคลเซียมได้ดีกว่าที่เกิดจากอนุมูล แมกนีเซียม ขนาดของซีโอไลต์มีผลต่อประสิทธิภาพการลดความกระด้างเช่นกัน ซีโอไลต์ควรมีขนาดเล็กกว่า 10 ไมโครเมตร เพื่อที่จะให้เกิดการแลกเปลี่ยนประจุได้เร็วขึ้น และลอดผ่านเส้นใยของเยื่อผิวได้ จึงจะทำให้ผงซักฟอกมีประสิทธิผลสูง สำหรับการใช้สารลดความกระด้างในประเทศไทย ได้มีการนำซีโอไลต์มาใช้ทดแทน STPP ในสูตรบางส่วน ขอขอบคุณข้อมูลจากMy firstbrain หมายเหตุ งานเขียนชิ้นนี้ ได้รับการคุ้มครองสิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองสิทธิทางปัญญา โดย ลิขสิทธิเป็นของผู้เขียน ที่ให้เกียรตินำเผยแพร่ผ่าน วิชาการ.คอม เรามีความยินดีและอนุญาตให้ทำซ้ำหรือเผยแพร่ต่อเพื่อประโยชน์ทางการศึกษา เท่านั้น กรุณาให้เกียรติผู้เขียน โดยอ้างชื่อผู้เขียนและแหล่งข้อมูลทุกครั้งที่ทำการเผยแพร่ต่อ ห้ามนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อในสื่อที่เอื้อประโยชน์ทางธุรกิจก่อนได้รับอนุญาต ขอขอบคุณที่ร่วมกันช่วยสร้างให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งปัญญา สงวนสิทธิ์ภายใต้สัญญาอนุญาต ครีเอทีฟคอมมอนส์ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย. ท่านสามารถนำเนื้อหาในส่วน บทความ ไปใช้ แสดง เผยแพร่ โดยต้องอ้างอิงที่มา ห้ามใช้เพื่อการค้าและห้ามดัดแปลง Credit : วิชาการดอดคอม http://www.fwdder.com/topic/338164
  5. คุณ ซีคะ ขอบคุณสำหรับกราฟที่ขยายให้ค่ะ พยายามขยายเองแล้วแต่ไม่ได้เรื่อง
  6. ไม่ได้หมายความว่าอยากให้มีอะไรเพิ่มอีก..เกรงใจ ( ตอนนี้ยังคิดไม่ออก ) หรือมีก็ดีนะ ประเด็นที่ว่า...ยังไม่หมดนั้น...หมายถึงหัวข้อการขจัดความโกรธน่ะ
  7. คุณ ซีขา..ขอบคุณสำหรับกราฟนับคลื่นมากๆค่ะ กราฟสวยมากเลยค่ะ แต่อยากดูแบบใกล้ๆ ค่ะ เฉพาะแนว fibo channel อีกรูปนึงได้ใหมคะ คงไม่รบกวนเกินไปนะคะ ว่างๆก็ได้ค่ะ เหมือนรูปที่ว่านับผิดน่ะค่ะ เพราะมือใหม่หัดขับค่ะ มันต้องเพ่งค่ะ !32
  8. ..สุดยอดกระทู้...มีวิเคราะห์กราฟ..และทั้งความรู้รอบตัว...ข้อคิดต่างๆสารพัด ..การดูแลตัวเอง ..การให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ..และวันนี้กับ การขจัดความโกรธนี่เยี่ยมยอดจริงๆ และ มันน่าจะมีมากกว่านี้นา ดูวีดีโอน่ารักๆอีก...คลายเครียด อิอิ !10 !01 !gd
  9. ขออนุญาติตอบแทน อ้าว ทำไมเป็นเช่นนั้น ก็ที่นี้เครื่องนี้ก็เปิดได้ตามปกติ ถ้ามันขึ้นเช่นนั้น มันน่าจะเป็นเครื่องโหลดภาพไม่ได้ หรือ น่าจะโหลดช้านะคะ ถ้ามันขึ้นว่า โพสรูปภาพ ก็คงต้องไปจัดการหาสาเหต ทำอะไรบ้างแล้วล่ะค่ะ ป่านนียังดูไม่ได้หรือคะ แล้วของคนอื่นล่ะคะ เป็นไง ดูได้หรือคะ คุณ ซี ขา รอลุ้นด่านต่อไป 1511 ประมาณนี้นะคะ
  10. ginger !v@ อยากบอกว่า สิ่งที่ตัวเองทำนั้น เยี่ยมยอดจริงๆ ทำต่อไปนะ ชอบ ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงๆนะ อ่านกราฟแล้วยังได้ข้อคิดไปด้วย สุดยอดๆๆ ช่างสรรหาให้เข้ากะบรรยากาศได้ดีทีเดียว เพื่อนๆจะได้มีมุมมอง แนวคิดติดไม้ติดมือไปด้วย เวลาเข้ามาห้องนี้ !Announce !v@
  11. คุณ ซีคะ กราฟรายวันค่ะ มุมองกว้างๆ ลองนั่งลากเส้นจากยอดเก่าๆ มาตัดกันกะยอดปัจจุบันซึ่งลากลงมาทำสามเหลี่ยมชายธง มองเห็นแถวๆ 1477 1467 หรือ 1459 คุณ ซีว่าถ้ารอแถวเนี๊ย จะเป็นแม่สายบัว รอเก้อใหมคะ
  12. ของถูกมักโดนมองข้ามว่าเป็นของไม่ดีค่ะ...ของดีต้องแพงงง อะเปล่า
  13. หวัดดีค่ะ มือใหม่ไทยโกลดิ์ทุกๆท่านและเพื่อนๆห้องนี้ค่ะ ขอบคุณค่ะ คุณ mod...และรออ่านท่านอื่นๆอยู่นะคะ คุณ chez bmw2770 mtts และ คุณ news...สู้ๆๆ
  14. ขอบคุณค่ะ หวังว่า คงมีให้ลุ้นในวันจันทร์นี้
  15. โอเค ค่ะ งั้นจะได้บอกต่อเพื่อนๆ เรื่อยๆ ขอบคุณค่ะ !thk
  16. ตอบและอธิบายยากจังค่ะ เพราะเงินมันแยะ และสถานการณ์แบบนี้ มีความลำบากใจในทิศทางของการวางราคา ถ้าไม่เข้าใจก่อน อาจงง ต้องหาทางทำให้เข้าใจง่ายๆทำงัยดี เดี่ยวขอติดไว้แป้ปนึง ลองย้อนไปอ่านศึกษาที่หน้า 267 ไปพลางๆก่อนนะคะ จริงๆแบบรวบๆคือ ให้ขายทองออกไปเลยค่ะ ช่วงที่คิดว่าทองจะลง เพราะการจัดต้องพยายามจัดให้ราคาอยู่ที่ราคาปัจจุบัน แล้วให้ขายเลย เพื่อไปรอซื้อกลับที่ต่ำกว่า ถ้ามันติดดอยจริงๆนะคะ ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณต้องมั่นใจและเชื่อในวิธีการนี้ว่าสามารถแก้ปัญหาได้ แต่ถ้าคุณใจร้อน และทำครึ่งๆกลางๆ เลิก ไม่เอาแล้ว รอมันกลับมารับ มันจะไม่ได้ผล
  17. จะออกไปธุระค่ะ ถ้าคิดออก จะขอใช้คอมพ์น้องแล้วโพสให้ดูนะคะ แต่มันคงไม่สะดวกเพราะใช้ excel คิดง่ายดี แต่จะเอาไปลองคิดนะคะ แล้วจะโพสให้ดู แต่สงสัยว่าคิดไม่ออก ยอดแยะจัง แต่น่าจะคล้ายๆ ก่อนหน้านี้ที่คุณ ซีจัดให้ท่านที่ถามมา ลองย้อนไปอ่านค่าเวลานะคะ แต่คงหายากอ่ะค่ะ เดี๋ยวมาลองดูที่คุณ ซีเฉลย
  18. การเล่นแบบตาราง ไม่จำเป็นต้องดูกราฟเป็น .. แค่อ่านการวิเคราะห์แนวโน้มของกูรูแต่ละท่าน เพียงพอแล้วค่ะ
  19. อยากลองคิดมั่ง ระหว่างให้คุณ ซีไปพักเหนื่อย... แต่อ่านแล้วม่ายเข้าใจ ตกลงมี 22000 X 20 = 440000 สรุปว่ามีทุนแค่นี้หรือเปล่าคะ หรือที่ซื้อไป ทั้งหมดคือแบบนี้ !38 22000 - 20 = 440000 21750 - 20 = 435000 21380 - 20 = 427600 แต่คงไม่มีเวลารอคำตอบ ที่จะลองจัดดู ยังงัยก็ตอบคำถามมานะคะ ถ้าคุณ ซีอ่านแล้วจะได้สะดวกค่ะ ราคาตอนนี้เสียวๆจัง เผื่อจะได้รีบขาย ถ้ามันจะเลือกข้างล่าง
  20. บทเรียนที่ไม่มีที่ไหนสอน....สำหรับคนบนดอย (อย่างเรา)อิอิ ขอบคุณมากค่ะ !10 ลองเอาราคาทองเมื่อคิดเป็นบาทไทย ปรับราคาดูครับ เมื่อมีการขายทองออก แล้วเก็บกลับ ในราคาที่ต่ำกว่า ทั้งขาขึ้น และขาลง เงินที่เหลือจากการเก็บทองกลับ คือตัวเงินต้นทุนที่เราติดดอย - จำนวนเงินที่เหลือ จะเท่ากับเงินที่เราใช้ไปสุทธิ ในการซื้อทองครับ จึงเน้นมากๆครับ ว่าทุกครั้งที่ขายออกต้องขายตรงที่กำหนด และซื้อทองกลับในราคาที่ต่ำกว่าที่ขายกลับมาครับ บางอย่างอธิบายยากครับ ต้องลองทำตารางดูครับ แล้วสมมติขึ้นว่าทองเป็นขาขึ้น หรือ ขาลง เมื่อขายที่ราคานั้นๆแล้ว พอซื้อทองกลับมาที่ราคาต่ำกว่าราคาเดิม เงินที่ติดดอยจะลดลงตาม จำนวนเงินที่เหลือครับ ถ้าเป็นตัวเลข เช่น ซื้อมา 3 บาททอง ที่ราคา 15500 บาท( ราคานี้ติดดอยแล้ว) รวมเงิน 46500 บาท ตั้งราคาทองใหม่ 1 บาท เท่ากับ 15800 บาท 1 บาท เท่ากับ 15500 บาท 1 บาท เท่ากับ 15200 บาท รวมเงินทุน 46500 บาท เมื่อทองเป็นขาลง ราคาทองคำมาที่ราคา 15300 บาท/ 1 บาททอง เราขายทองที่เราตั้งราคาใหม่ที่ 15200 บาท/ 1 บาททอง ทองลงมาที่ราคา 15100 บาท/ 1 บาททอง เราซื้อกลับ เราลดต้นทุน 200 บาท ต้นทุนทอง 46500 - 200 = 46300 บาท ตรงนี้ครับ ที่บอกว่าต้นทุนลดลง ราคาที่ติดดอยก็ลดลงครับ แต่สิ่งที่เราเหลือคือ ทอง 3 บาท + เงิน 200 บาทครับ กรณีขายไปที่ราคา 15200 บาท/ 1 บาททอง ทองไม่ลง แต่กลับขึ้นไปที่ราคา 15700 บาท/ 1 บาททอง เราเอาราคาที่ตั้งใหม่ที่ราคา 15500 บาท/ 1 บาททอง ขายอีก 1 บาท ตรงนี้ เราได้ส่วนต่าง 200 บาท/1 บาททอง เมื่อรวม 2 บาทที่เราขาย เราได้ 300 บาท เมื่อเอามาหักลบ ทองเราเหลือ 1 บาท ที่ต้นทุน 15800-300 = 15500 บาท ซึ่งถ้าเราขายทั้งหมดคืออีก 1 บาท ที่เหลือตอนราคามาที่ 15700 เรายังกำไร 200 ครับ ถ้าเราไม่ทำแบบนี้ ราคาทองที่เราติดดอย เราก็จะมีแต่รอราคาขึ้นไปรับเราที่ราคาเราติดดอยครับ หรือไม่ก็ต้องเพิ่มต้นทุนในการเล่นทองครับ โดยการซื้อทองเพิ่มเข้ามาครับ ซึ่งไม่ทราบว่าเมื่อซื้อเข้ามาแล้ว ทองจะลงต่ออีกหรือเปล่าครับ แต่ถ้าเราเล่นแบบตาราง ราคาด้านบนจะเป็นตัวกันกรณีผิดทางครับ แต่ถ้าราคาลงมาต่ำอีกหลังจากเราขาย 1 บาททองแรก ที่ราคา 15300 (ทุนที่ตั้งใหม่ 15200) เช่นลงมาที่ 15000 เราก็เอาเงินที่ขายครั้งแรกเข้าซื้อ ราคานี้ ต้นทุนทองเราจะลดลง 100+200 = 300 บาท/ 3 บาททองที่เรามีอยู่ครับ ต้นทุนที่เราติดดอยลดลง แบบนี้ครับ ถ้าตามนี้ ราคาต้นทุนที่ติดดอยลดลง 100 บาท / 1 บาททองครับ ทุน 46500 - 300 = 46200 ครับ โดยเรายังมีทองเท่าเดิมครับ คือ 3 บาททอง + ้้เงิน 300 บาทครับ ------------------------------------------------------------------------------- ติดดอย ไม่ขายทอง เงินก็หายไปตามมูลค่าทองที่ลดลงซิครับ http://www.goldhips.com/board/posting.php?mode=quote&p=29358 !gd !57 !thk !54
  21. สวัสดีค่ะ ทุกๆท่าน... ที่มีใจแบ่งปันความรู้ !30 เข้ามาอ่านอยู่นานแล้วล่ะค่ะ ชอบ ..ดีค่ะ ที่กระทู้นี้ ..สนามมือใหม่ค่ะ.....สนามประลองฝีมือ (กราฟค่ะ) !Announce เลยย้อนไปดูหน้าแรก เอามาให้ดูกันอีกที !v@
  22. ขอบคุณที่นำโครงการดีๆ มาบอกกล่าวกันค่ะ ..และขอเป็นส่วนร่วมกับโครงการนี้ค่ะ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554
  23. สวัสดีค่ะ พี่ซี ณ เวลานี้ ได้เวลาทบทวนบทเรียนแล้วกระมัง !17 http://www.thaigold.info/Board/index.php?/topic/140-%E0%B8%88%E0%B8%9A-%E0%B8%9B4-%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87/
  24. แวะเข้ามาอ่านค่ะ ทำไมกราฟคุณ zagio เหมือนของคุณ ซีจังคะ !38 http://www.thaigold.info/Board/index.php?/topic/140-%E0%B8%88%E0%B8%9A-%E0%B8%9B4-%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87/page__st__6105
×
×
  • สร้างใหม่...