-
Content Count
698 -
Joined
-
Last visited
Community Reputation
139 bestAbout ohani
-
Rank
ขาใหญ่
Profile Information
-
เพศ
หญิง
-
ที่อยู่
กรุงเทพมหานคร
-
http://www.ryt9.com/s/iq27/2384348 ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม 2559 02:09:35 น. คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติ 9-1 ในการประชุมเมื่อวานนี้ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ในช่วง 0.25-0.50% ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์กันไว้ โดยได้ระบุถึงความเสี่ยงในเศรษฐกิจโลก หลังจากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2006 ทั้งนี้ คณะกรรมการเฟดคาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เพียง 2 ครั้งในปีนี้ ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% จำนวน 4 ครั้ง การลดคาดการณ์จำนวนครั้งของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ บ่งชี้ว่าเฟดมีความระมัดระวังเพิ่มขึ้น ท่ามกลางการขยายตัวที่อ่อนแอในต่างประเทศ และตลาดการเงินที่ผันผวน ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่เฟดได้ปรับลดคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นสำหรับปี 2016-2018 โดยได้ปรับลดคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในปีนี้ลง 0.50% สู่ระดับ 0.88% ส่วนในปี 2017 ได้ปรับลดลง 0.50% สู่ระดับ 1.88% ขณะที่ปี 2018 ปรับลดลง 0.38% สู่ระดับ 3.00% ส่วนอัตราดอกเบี้ยในระยะยาวมีการปรับลดลง 0.25% สู่ระดับ 3.25% นอกจากนี้ เฟดยังได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ, อัตราเงินเฟ้อ และอัตราว่างงาน เจ้าหน้าที่เฟดปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในปีนี้ สู่ระดับ 2.1-2.3% จากเดิมที่ 2.3-2.5% และปรับลดคาดการณ์สำหรับปีหน้าสู่ระดับ 2.0-2.3% เฟดยังได้ปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ซึ่งรวมถึงหมวดอาหารและพลังงาน สู่ระดับ 1.2% ในปีนี้ จากเดิมที่ 1.6% และปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน สู่ระดับ 1.8% ในปีหน้า จากเดิมที่ 1.9% เฟดยังได้ปรับลดคาดการณ์อัตราว่างงานในปีนี้สู่ 4.7% ขณะที่ในปีหน้าสู่ระดับ 4.6% และสู่ 4.5% ในปี 2018 ขณะที่อัตราว่างงานปัจจุบันอยู่ที่ 4.9% แถลงการณ์เฟดระบุว่าการใช้จ่ายในภาคครัวเรือนได้เพิ่มขึ้นในอัตราปานกลาง ขณะที่ตลาดที่อยู่อาศัยปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ดี แถลงการณ์ไม่ได้ระบุถึงดุลความเสี่ยงที่มีการกล่าวถึงในแถลงการณ์หลังการประชุมหลายครั้งที่ผ่านมา คณะกรรมการเฟดยังระบุถึงความเชื่อมั่นว่าอัตราเงินเฟ้อจะมีแนวโน้มปรับตัวเข้าใกล้เป้าหมาย 2% ของเฟดในปีหน้า โดยขณะนี้อยู่ในระดับต่ำเนื่องจากราคาพลังงานที่ดิ่งลง
-
โอฮานิ เป็นชื่อตัวละครในซีรี่ย์เกาหลี เรื่องPlayfull Kiss ตัวนางเอกนี่ไม่มีอะไรโดดเด่น แต่มองโลกในแง่ดี สร้างความสุขและเป็นกำลังใจให้คนรอบข้างเสมอ แต่คำอ่านนี่แรงมากนะคะ ขำไม่ออก
-
http://www.ryt9.com/s/prg/1153562 สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 20 พฤษภาคม 2554 โดย YLG ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- ศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม 2554 16:25:07 น. กรุงเทพฯ--20 พ.ค.--PRdd สภาวะตลาดวันที่ 20 พฤษภาคม 2554 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ $1,491.60 — $1,503.86 ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM11 อยู่ที่ 21,710 บาท โดยราคาเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 80 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,630 บาท (หมายเหตุ:ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.45น.ของวันที่20/05/11) แนวโน้มวันที่ 23 พฤษภาคม 2554 เงินสกุลดอลลาร์ถูกกดดันมากขึ้นหลังจากทางการสหรัฐได้เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สะท้อนถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยดัชนีกิจกรรมการผลิตเดือนเม.ย.ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้ว อีกทั้งดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของสหรัฐหดตัวลง 0.3% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2553 นอกจากนี้ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐปรับตัวลงมา 0.8% อยู่ที่ระดับ 5.05 ล้านยูนิตต่อปี สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.20 ล้านยูนิตต่อปี ตัวเลขเหล่านี้สร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนให้กลับมาอีกครั้งว่าเฟด น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำ(0-0.25%) และจะคงเดินหน้ามาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE2)ต่อไป ความอ่อนแอของเศรษฐกิจสหรัฐที่กล่าวมาจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่วายแอลจีเชื่อว่าจะผลักดันราคาทองคำให้กลับมาเป็นที่ต้องการของนักลงทุนอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตามความผันผวนที่เกิดขึ้นในเงินสกุลยูโรนักลงทุนจำเป็นต้องติดตามเช่นกัน ปัญหาหนี้สาธารณะของกรีซทำให้การขยับขึ้นของเงินสกุลยูโรถูกจำกัดลง ซึ่งหมายความว่าราคาทองคำที่โดยปกติมีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันกับเงินสกุลยูโร จะได้รับผลกระทบนี้เช่นเดียวกันแต่ทางวายแอลจีประเมินว่าผลกระทบนี้จะอยู่ในระยะสั้นเท่านั้น ในระยะกลางและยาวแล้ว วายแอลจียังเชื่อว่าทองคำยังคงสามารถขยับตัวขึ้นไปได้อีกครั้ง สำหรับกลยุทธิ์การลงทุนทางวายแอลจีแนะนำให้นักลงทุนรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาขยับตัวลงมาบริเวณแนวรับและขายทำกำไรเมื่อราคาขยับขึ้นปะทะและไม่ผ่านแนวต้านโดยไม่แนะนำให้นักลงทุนซื้อขายแบบไล่ราคา เบื้องต้นวายแอลจีประเมินแนวรับแนวต้านไว้ดังนี้ แนวรับ 1,486 (21,260บาท) 1,480 (21,170บาท) 1,473(21,070บาท) แนวต้าน 1,508(21,580บาท) 1,522(21,780บาท) 1,530(21,890บาท)
-
http://www.ryt9.com/s/prg/1153442 วายแอลจี ชี้ปัจจัยหนุนราคาทองยังแกร่ง หาจังหวะเข้าซื้อช่วงปรับฐาน จับตา 1,440-1,460 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- ศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม 2554 14:43:53 น. กรุงเทพฯ--20 พ.ค.--PRdd นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางราคาทองคำในช่วงนี้ว่า ยังอยู่ในช่วงของปรับฐานราคา โดยการปรับลงของราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมาได้รับปัจจัยจากการกลับมาแข็งค่าของเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีสาเหตุมาจากการอ่อนค่าของเงินสกุลยูโรเป็นหลัก หลังจากเอสแอนด์พี ซึ่งเป็นสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำ ได้ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลงจากความกังวลที่ว่ารัฐบาลกรีซอาจต้องปรับโครงสร้างหนี้ ตลอดจนการขายทองคำของกองทุนต่างๆได้ตอกย้ำให้ราคาทองคำดิ่งลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะการรายงานการขายทองคำของกองทุนโซรอส ฟันด์ เมเนจเมนท์ แอลแอลซี ออกจาก กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก ถึง 99% ของพอร์ตการลงทุนในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ส่งผลต่อจิตวิทยาการลงทุนกดดันให้ราคาทองคำเข้าสู่สภาวะที่ปรับตัวขึ้นได้ยาก อย่างไรก็ตาม ทางวายแอลจียังประเมินว่าการปรับตัวลงของราคาทองคำในระยะนี้ยังคงเป็นเพียงการปรับฐานระยะสั้นเท่านั้น เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานที่หนุนราคาทองคำยังคงแข็งแกร่งอยู่เช่นเดิม ทั้งปัญหาเงินเฟ้อ การจลาจลในตะวันออกกลาง และแนวโน้มการอ่อนค่าของเงินสกุลดอลลาร์ในระยะยาว โดยเฉพาะล่าสุดยังมีกระแสความวิตกกังวลต่อประเด็นหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ที่กำลังชนเพดานหนี้ตามกฎหมาย(ปัจจุบัน เพดานตามกฎหมายอยู่ที่ 14.30ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ)และหากยังไม่มีการปรับเปลี่ยนเพดานหนี้ตามกฎหมายดังกล่าว ก็จะทำให้สหรัฐไม่สามารถใช้นโยบายทางการคลังเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และจะเหลือเพียงนโยบายทางการเงินซึ่งคงไม่เพียงพอที่จะพยุงเศรษฐกิจที่บอบบางของสหรัฐให้ผ่านพ้นไปได้ แต่หากสหรัฐมีการปรับเพดานดังกล่าวโดยสามารถใช้นโยบายทางการคลังเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้ก็ตาม แต่ก็จะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงระยะยาวต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งไม่ว่าเกิดกรณีใดกรณีหนึ่งก็เป็นการยากที่จะทำให้นักลงทุนตัดสินใจขายทองคำออกจากพอร์ตการลงทุนจากประเด็นดังกล่าว นางสาวฐิภา กล่าวว่า สำหรับกลยุทธิ์การลงทุนยังคงเน้นให้นักลงทุนจับตาการสิ้นสุดของการปรับฐานในระยะสั้นเพื่อเข้าสะสมทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นทางวายแอลจีประเมินจุดกลับตัวที่สำคัญของราคาทองคำไว้ที่ระดับ 1,460 และ 1,440 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือประมาณ 20,850 บาทต่อบาททอง และ 20,550 บาทต่อบาททอง
-
http://www.gtwm.co.th/images/stories/download/analysis/Afternoon%20session%2020%20May%2011.pdf
-
http://www.ylgbullion.com/th/index.php YLG on ปรับกลยุทธ์ : Gold Outlook by YLG 20/05/54 20/พ.ค./54 รายการ ปรับกลยุทธ์ สถานีโทรทัศน์ Money Channel (ทรูวิชั่นส์ 178) ช่วง..Gold Outlook by YLG วันที่ 20 พฤษภาคม http://www.youtube.com/watch?v=GkUxDxjTMzI&feature=player_embedded
-
http://www.ylgbullion.com/imgUpload/articleThumbnail2132_AfternoonUpdate-20-5-11.pdf
-
http://www.ylgbullion.com/imgUpload/articleThumbnail2129_20-5-11.pdf
-
http://www.gtwm.co.th/images/stories/download/analysis/Daily%20Traders%2020%20May%2011.pdf
-
http://www.ryt9.com/s/iq03/1152678 ธปท.รับเงินบาทผันผวนมากขึ้น จากแรงกดดันใน-ตปท. วอนแบงก์ร่วมดูแลลูกค้า ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม 2554 16:37:39 น. น.ส.วงษ์วธู โพธิรัชต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงินและบริหารเงินสำรอง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การเคลื่อนไหวของเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐในช่วงนี้มีความผันผวนประมาณ 5% จากเดิม 2-3% แต่ถือผันผวนไม่มากเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคเดียวกันผันผวนถึง 8-10% ทั้งนี้ความผันผวนของเงินบาทเป็นผลจากปัจจัยทั้งภายในและนอกประเทศ โดยเฉพาะนักลงทุนที่ยังกังวลต่อความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมองว่า สหรัฐอาจหันกลับมาดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นช่วงปลายปีนี้ หลังจากมาตรการเพิ่มสภาพคล่องทางเศรษฐกิจของสหรัฐ (คิวอี 2) จะสิ้นสุดลงในเดือนมิ.ย.นี้ แต่อีกมุมหนึ่งมองว่า ตัวเลขการจ้างงาน และตัวเลขอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐยังมีปัญหา เป็นความเสี่ยงที่ทำให้ตลาดเงินผันผวน นอกจากนี้ยังมีเงินทุนไหลเข้ามาลงทุนในไทยด้วย ทำให้ค่าเงินบาทเคลื่อนไหว 2 ทิศทาง โดยปัจจุบันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 30.20-30.25 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อน ซึ่ง ธปท. พยายามให้ความรู้แก่ผู้นำเข้าและส่งออกเกี่ยวกับการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และขอความร่วมมือธนาคารพาณิชย์ให้ข้อมูลและดูแลลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและรายย่อยมากขึ้น “ยอมรับว่าค่าเงินบาทมีความผันผวนมากขึ้น จากแรงเทขายของนักลงทุนในตลาดหุ้น แต่จะนำเงินออกไปต่างประเทศทันทีหรือไม่ คงไม่สามารถระบุได้ชัดเจน เพราะต้องใช้เวลาติดตามต่อไป"น.ส.วงษ์วธู กล่าว
-
http://www.ryt9.com/s/prg/1152652 สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 19 พฤษภาคม 2554 โดย YLG ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม 2554 16:22:27 น. กรุงเทพฯ--19 พ.ค.--PRdd สภาวะตลาดวันที่ 19 พฤษภาคม 2554 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ $1,489.75 — $1,499.09 ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM11 อยู่ที่ 21,640 บาท โดยราคาเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 20 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,620 บาท (หมายเหตุ:ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.21น.ของวันที่19/05/11) แนวโน้มวันที่ 20 พฤษภาคม 2554 การกลับมาแข็งค่าของเงินสกุลยูโรภายหลังจากกรีซสามารถระดมทุนจากการขายพันธบัตรได้1.625 พันล้านยูโร (2.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) กดดันเงินสกุลดอลลาร์ให้กลับมาอ่อนค่าอีกครั้ง หนุนราคาทองคำให้ปรับตัวสูงขึ้น นักลงทุนจะเห็นได้ว่า เงินสกุลดอลลาร์เป็นปัจจัยชี้นำหลักให้กับราคาทองคำในขณะนี้ เมื่อใดที่เงินสกุลดอลลาร์อ่อนค่าทองคำมักจะกลับมาได้รับความสนใจอยู่เรื่อยๆ ทางวายแอลจีประเมินว่าเงินสกุลดอลลาร์นั้นมีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าในระยะยาว เนื่องจากปัญหาหนี้สาธารณะของสหรัฐกำลังชนเพดานหนี้ตามกฎหมายที่กำลังเป็นกระแสในขณะนี้ ซึ่งหากสหรัฐไม่มีการปรับเปลี่ยนเพดานหนี้ตามกฎหมายดังกล่าวก็จะทำให้สหรัฐไม่สามารถใช้นโยบายทางการคลังเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และจะเหลือเพียงนโยบายทางการเงินซึ่งคงไม่เพียงพอที่จะพยุงเศรษฐกิจที่บอบบางของสหรัฐให้ผ่านพ้นไปได้ แต่หากมองในมุมกลับกันหากสหรัฐมีการปรับเพดานหนี้ตามกฎหมายดังกล่าว แม้จะสามารถใช้นโยบายทางการคลังเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้ก็จริงแต่ก็จะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงระยะยาวต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งไม่ว่าเกิดกรณีใดกรณีหนึ่งดังที่กล่าวมาข้างต้นก็ส่งผลให้แนวโน้มเงินสกุลดอลลาร์อ่อนค่าทั้งสิ้น และนั่นก็เป็นคำตอบที่สนับสนุนมุมมองเชิงบวกต่อราคาทองคำในระยะยาวของวายแอลจี สำหรับกลยุทธิ์การลงทุนทางวายแอลจีแนะนำให้นักลงทุนรอเข้าซื้อเมื่อราคาขยับตัวลงมาบริเวณแนวรับและสามารถขายทำกำไรบางส่วนที่บริเวณแนวต้าน แต่ถ้ามีทองคำอยู่ในมือให้ถือต่อหรืออาจขายทำกำไรบางส่วนที่บริเวณแนวต้าน เพื่อลดความเสี่ยง เบื้องต้นวายแอลจีประเมินแนวรับแนวต้านไว้ดังนี้ แนวรับ 1,482 (21,550บาท) 1,471 (21,400บาท) 1,463(21,300บาท) แนวต้าน 1,513(21,850บาท) 1,525(21,950บาท) 1,531(22,200บาท)
-
http://www.ylgbullion.com/imgUpload/articleThumbnail2146_AfternoonUpdate-19-5-11.pdf
-
http://www.ylgbullion.com/th/index.php YLG on ปรับกลยุทธ์ : Gold Outlook by YLG 19/05/54 19/พ.ค./54 รายการ ปรับกลยุทธ์ สถานีโทรทัศน์ Money Channel (ทรูวิชั่นส์ 178) ช่วง..Gold Outlook by YLG วันที่ 19 พฤษภาคม http://www.youtube.com/watch?v=gccZagt3rC4&feature=player_embedded
-
http://www.gtwm.co.th/images/stories/download/analysis/Afternoon%20session%2019%20May%2011.pdf