ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

jewjang40

ขาใหญ่
  • จำนวนเนื้อหา

    13,118
  • เข้าร่วม

  • เข้ามาล่าสุด

  • วันที่ชนะ

    62

ทุกๆอย่างที่โพสต์โดย jewjang40

  1. ที่มา..ข่าวหุ้น..ราคาทองวานนี้ปรับขึ้นพร้อมราคาน้ำมันดิบ-ทองแดง วันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน 2556 เวลา 07:00:54 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐพุ่งขึ้น 18.56 ดอลลาร์ สู่ 1,430.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพุธ โดยราคาทองทะยานขึ้นพร้อมกับราคาน้ำมันดิบ ขณะที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อทองในตลาดปัจจุบัน หลังจากราคาทองดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 2 ปีที่ 1,321.35 ดอลลาร์ในวันที่ 16 เม.ย. ทั้งนี้ราคาสัญญาทองเดือนมิ.ย.ปิดตลาดพุ่งขึ้น 1.1% สู่ 1,423.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีวอลุ่มการซื้อขายอยู่ที่ระดับราวครึ่งหนึ่งของค่าเฉลี่ย 30 วัน ขณะที่สหรัฐรายงานว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนดิ่งลงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 7 เดือน และนักลงทุนบางรายก็มองว่า ตัวเลขนี้เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปในการประชุมกำหนดนโยบายในวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค. และปัจจัยนี้ช่วยหนุนราคาทองในฐานะเครื่องมือทำประกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์และราคาทองแดงทะยานขึ้นในวันพุธ ทั้งนี้ เทรดเดอร์กล่าวว่า การพุ่งขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์อุตสาหกรรมช่วยหนุนราคาทอง แต่สัญญาณบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องอาจเป็นปัจจัยที่จำกัดช่วงขาขึ้นของราคาทองในอนาคต โดยราคาทองได้รับแรงหนุนจากถ้อยแถลงของนายจอห์น พอลสัน ซึ่งเป็นนักลงทุนชื่อดัง โดยนายพอลสันกล่าวว่า เขายังคงลงทุนในทอง ถึงแม้ราคาทองอาจแกว่งตัวผันผวนในระยะสั้น ขณะที่ราคาทองปรับขึ้น 6 วันในช่วง 7 วันทำการที่ผ่านมา หลังจากราคาทองดิ่งลงรวมกัน 225 ดอลลาร์ในวันที่ 12 และ 15 เม.ย. ราคาโลหะมีค่าที่ตลาด COMEX ในวันพุธ ปิดที่ระดับ (ดอลลาร์/ออนซ์) เปลี่ยนแปลง (ดอลลาร์) ทองเดือนมิ.ย. 1,423.70 +14.90 เงินเดือนพ.ค. 22.833 +1.60 (เซนต์) ราคาโลหะมีค่าที่ตลาด NYMEX ในวันพุธ ปิดที่ระดับ (ดอลลาร์/ออนซ์) เปลี่ยนแปลง (ดอลลาร์) พลาตินั่มเดือนก.ค. 1,430.80 +13.00 พัลลาเดียมเดือนมิ.ย. 667.65 -5.70
  2. ความเห็นนักวิเคราะห์ต่อทิศทางทองหลังราคาทรุดตัวครั้งใหญ่ในรอบ 30 ปี โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 เมษายน 2556 13:36 น. หลังจากราคาทองดิ่งลงอย่างรุนแรงในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาจนแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี นักลงทุนก็ตั้งคำถามว่า ทองควรจะครองสัดส่วนมากเพียงใดในพอร์ทลงทุน ที่ผ่านมา ราคาทองปรับตัวขึ้นติดต่อกันนาน 12 ปี ขณะที่โพลล์รอยเตอร์ ที่สำรวจความเห็นนักวิเคราะห์ 37 รายในเดือนม.ค.แสดงให้เห็นว่า ถึงแม้นักวิเคราะห์คาดว่าภาวะกระทิงของราคาทองจะชะลอตัวลง แต่ค่าเฉลี่ยของราคาทองก็จะขึ้นไปทำสถิติสูงสุดใหม่ในปีนี้และปีหน้า ถึงแม้ธนาคารหลายแห่งเริ่มปรับลดการคาดการณ์ที่ว่า ราคาทองจะสามารถทำลายสถิติสูงสุดที่ 1,920.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งทำไว้ในปี 2011 ได้ในอนาคต แต่ธนาคารส่วนใหญ่ก็ยังคงเห็นด้วยกับเหตุผลพื้นฐานที่สนับสนุนให้ถือครองทองในฐานะสกุลเงินทางเลือก และในฐานะเครื่องมือประกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ อย่างไรก็ดี ปัญหาไซปรัสทำให้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป เอกสารของคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ที่ออกมาในวันพุธที่ 10 เม.ย.ระบุว่า รัฐบาลไซปรัสจำเป็นต้องขายทองคำสำรองส่วนเกินเพื่อระดมทุน400 ล้านยูโร เพื่อนำมาใช้ตามเงื่อนไขของมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินจากสหภาพยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เปิดเผยรายงานการประชุมกำหนดนโยบายประจำวันที่ 19-20 มี.ค.ในวันที่ 10 เม.ย.เช่นกัน โดยรายงานการประชุมดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่เฟดมีแนวโน้มที่จะยุติมาตรการเข้าซื้อตราสารหนี้ครั้งใหญ่ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ ราคาทองดิ่งลง 1.6 % ในวันที่ 10 เม.ย. ก่อนจะเข้าสู่เสถียรภาพในวันที่ 11 เม.ย. อย่างไรก็ดี ราคาทองรูดลง 5.2 % ในวันศุกร์ที่ 12เม.ย. และดิ่งลง 8.4 % ในวันจันทร์ที่ 15 เม.ย. ในขณะที่นักลงทุนพากันเทขาย โดยการทรุดตัวลงของราคาทองในวันศุกร์และวันจันทร์นี้ถือเป็นการปรับตัวลงระยะสองวันครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 30 ปี นายเปโดร เด โนรอนฮา หุ้นส่วนของบริษัทนอสเตอร์ แคปิตัล กล่าวว่า "สำหรับสินทรัพย์ที่ไม่ได้ก่อให้เกิดกระแสเงินสดประเภทนี้ ถือเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะตัดสินใจได้ว่า เราควรจะเข้าซื้อเพิ่มเติมเมื่อใด และการดิ่งลงของราคาทองได้สิ้นสุดลงแล้วหรือไม่" "เราโชคดีที่สามารถระบายสถานะซื้อทั้งหมดของเราออกมาเมื่อราคาทองอยู่ที่ราว 1,560 ดอลลาร์ โดยเรากำลังจับตาดูสถานการณ์ แต่จะยังไม่ทำสิ่งใดในช่วงนี้" ดัชนีความผันผวนของกองทุน ETF ทองในตลาดออปชั่นชิคาโก บอร์ด (CBOE) พุ่งขึ้นกว่า 60 % ในวันจันทร์ ในขณะที่ราคาทองด่ิงลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 2 ปี โดยดัชนีดังกล่าวเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าราคาทองจะมีความผันผวนอย่างมาก นักลงทุนในกองทุน ETF ทองได้ไถ่ถอนเงินลงทุนออกมาเป็นจำนวนมากในช่วงนี้ นายฌอน คอร์ริแกน หัวหน้านักยุทธศาสตร์การลงทุนของบริษัท เดียพาสัน คอมมอดิตีส์ แมเนจเมนท์ กล่าวว่า "ผมไม่คิดว่ามีใครที่ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า ราคาทองจะเคลื่อนไหวมากขนาดนี้ และวอลุ่มการซื้อขายจะอยู่สูงขนาดนี้ เหตุการณ์นี้ได้สร้างความเสียหายเป็นอย่างมากต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน" นายคอร์ริแกนกล่าวเสริมว่า ประสิทธิภาพของทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้ลดลงมานานระยะหนึ่งแล้ว ในขณะที่ปัจจัยต่างๆที่เคยหนุนราคา ทองให้พุ่งขึ้นในอดีตกลับไม่ส่งผลเช่นนั้นในปัจจุบัน เช่น วิกฤติหนี้ไซปรัส วาณิชธนกิจบางแห่งได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ราคาทองลงในช่วงก่อนหน้านี้ด้วย โดยในวันที่ 10 เม.ย.โกลด์แมน แซคส์ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ราคาทองลงเป็นครั้งที่สองในรอบ 6 สัปดาห์ โดยให้เหตุผลว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น และราคาทองอยู่ในระดับอ่อนแอในระยะหลัง หลังจากการดิ่งลงในช่วงนี้ ราคาทองก็ลดลงมาแล้วราว 20 % จากช่วงต้นปีนี้ และดิ่งลงมาแล้ว 28 % จากสถิติสูงสุดที่ทำไว้ในปี 2011 ตัวเลขขั้นต้นที่ออกมาในวันจันทร์ระบุว่า วอลุ่มการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าทองในตลาด COMEX ของสหรัฐอยู่ที่ 689,000 สัญญา ซึ่งอยู่สูงกว่าสถิติสูงสุดที่เคยทำไว้ที่ 486,315 สัญญาในวันที่ 28 พ.ย. 2012 ธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ยอมรับว่า ปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นแรงเทขายทองในครั้งนี้ คือความกังวลที่ว่าธนาคารกลางของประเทศอื่นๆในยูโรโซนอาจจะขายทองออกมาในอนาคตตามไซปรัสและคำสั่งขายของกลุ่มกองทุนก็ส่งผลให้ราคาทองดิ่งลงอย่างรุนแรงยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดี แบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ระบุว่า "การดิ่งลงของราคาทองเป็นเรื่องที่ยากจะอธิบายได้ เมื่อพิจารณาจากตัวแปรดั้งเดิม เช่น ค่าดอลลาร์ที่ถ่วงน้ำหนักทางการค้า หรืออัตราดอกเบี้ยและสิ่งนี้ทำให้เกิดความกังวลกันว่า ชื่อเสียงของทองในฐานะสกุลเงินทางเลือกอาจจะได้รับความเสียหาย" ขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่นอนว่า จะต้องใช้เวลานานเพียงใดก่อนที่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนจะกลับคืนมา ในขณะที่กลุ่มกองทุนมีแนวโน้มลดการลงทุนในทอง และมีการคาดการณ์กันว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวขึ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลลบต่อราคาทอง ผู้ที่ยังคงคาดการณ์ในทางบวกต่อราคาทองกล่าวว่า ธนาคารกลางหรือภาครัฐของประเทศต่างๆยังคงเข้าซื้อทองอย่างจริงจัง และทองมีประโยชน์ในฐานะเครื่องมือรักษามูลค่าที่มีสภาพคล่องสูง โดยสิ่งนี้ได้รับการตอกย้ำจากข้อเสนอที่ให้ไซปรัสขายทองออกมา นายแดเนียล เบรบเนอร์ นักวิเคราะห์ของดอยช์ แบงก์ กล่าวว่า"ธนาคารกลางโดยรวมไม่มีแนวโน้มที่จะเป็นผู้ขายทองสุทธิ" "ผมไม่แน่ใจว่า ความผันผวนที่ระดับสูงในช่วง 3 วันนี้จะส่งผลให้บทบาทของทองลดลงเป็นอย่างมากหรือไม่ ผมคิดว่ามีสถาบันหลายแห่ง ที่จะปรับเปลี่ยนแนวคิดเรื่องการใช้ทองเป็นทางเลือกทางการลงทุน แต่เวลา เท่านั้นที่จะบอกได้ว่า ทองกลายเป็นอดีตไปแล้วจริงหรือไม่" (ข่าวจาก สำนักข่าวรอยเตอร์) T.Thammasak
  3. ที่มา : อินโฟเควสท์ วันที่ : 18 เมษายน 2556 สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายทองคำ เพราะมองว่าทั้งตลาดทองคำและตลาดหุ้นไม่ใช่แหล่งการลงทุนที่ปลอดภัยในระยะนี้ จึงหันไปถือครองสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐซึ่งมีความปลอดภัยมากกว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 4.7 ดอลลาร์ หรือ 0.34% ปิดที่ 1,382.7 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 32.1 เซนต์ ปิดที่ 23.307 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 11.85 เซนต์ ปิดที่ 3.1880 ดอลลาร์/ปอนด์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 1,435.40 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 15.20 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 661.40 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 16.80 ดอลลาร์ สัญญาทองคำยังคงปรับตัวลดลงเนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาทองคำและหันไปถือครองสกุลเงินดอลลาร์ซึ่งนักลงทุนมองว่ามีความปลอดภัยมากกว่าในยามที่ตลาดหุ้นร่วงลงอย่างหนักเช่นนี้ นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังร่วงลงหลังจากโกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์ราคาทองคำในระยะเวลา 3 เดือนลงมาอยู่ที่ระดับ 1,615 ดอลลาร์/ออนซ์ จากระดับ 1,825 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนในระยะเวลา 6 เดือนนั้น โกลด์แมน แซคส์ ยังได้ปรับลดคาดการณ์ราคาทองคำลงมาอยู่ที่ระดับ 1,600 ดอลลาร์/ออนซ์ จากระดับ 1,805 ดอลลาร์/ออนซ์ และปรับลดคาดการณ์ราคาทองคำในระยะเวลา 12 เดือนลงมาอยู่ที่ระดับ 1,550 ดอลลาร์/ออนซ์ จากระดับ 1,800 ดอลลาร์/ออนซ์
  4. ginger..เห็นแล้วอยากโดดลงคลอง..เล่นน้ำเย็นสดชื่นสบายใจเลย..โดดน้ำเล่นกันนะคริคริ.. ง:
×
×
  • สร้างใหม่...