Sear

รูปแบบของ ราคา : ทำ high สูงขึ้น และยก low สูงขึ้น ยังคงมีแนวโน้ม Up-Trend รูปแบบของชุดคลื่น : ราคาที่ขึ้นๆ ลงๆ ทำให้เกิด การ overlap ของ คลื่นย่อย ซึ่ง ในกรณีนี้ อาจจะเกิด "Leading Diagonal" ที่คลื่น 1 ของ (3) เมือ่เกิด "Leading Digonal" เป็น คลื่น 1 มักจะมี คลื่น 2 เป็น complex ดังนั้น หากราคาไม่ลงทำ low ใหม่ต่ำกว่า low ของชุดคลื่นก่อนหน้า ราคาหลังจากจบการปรับตัวของ คลื่น 2 จะดีดขึ้นไปอย่างแรงและเร็ว เพราะ คลื่น 4 จะเป็น simple มีการย่อตัวลงมาไม่มาก แล้วขึ้นต่อเลย หากไม่ทำ low ใหม่ ต่ำกว่า low ของชุดคลืนก่อนหน้า จะทำให้เกิด สัญญาณ "Bullish Hidden Divergence" ราคาไม่ทำ low แต่ตัวสัญญาณลงมาทำ low เป็นลักษณะเฉพาะ ของ correction ใน up-trend/rebound เมื่อการปรับตัวของ correction ที่เกิดสัญญาณ "bullish Hidden divergence" สิ้นสุดชุดคลื่นที่ปรับตัวลงมา ราคาจะกลับขึ้นไปสู่แนวโน้มเดิม ที่เป็น ขาขึ้น / รีบาวน์อยู่ เพื่อทำ คลื่น (iii)/(3) ต่อไป *** leading = เริ่มต้น , นำ Leading Diagonal คือ ลักษณะชองชุดคลื่นที่เป็น "Motive wave" มี 5 คลื่น แต่ คลื่น 4 overlap 1 มักเกิดที่ คลืน 1 ของ Impluse หรือ คลื่น a ของ correction ending = ปลาย, สุดท้าย Ending Diagonal คือ ลักษณะชองชุดคลื่นที่เป็น "Motive wave" มี 5 คลื่น แต่ คลื่น 4 overlap 1 มักเกิดที่ คลืน 5 ของ Impluse หรือ คลื่น c ของ correction * Ending Diagonal & Leading Diagonal มีลักษระการทำ 5 คลื่นเหมือน Implusive wave รูปแบบของ Impluse คลื่น 4 ต้องไม่ลงมายังขอบเขตของ คลื่น 1 [ Overlap ] Ending Diagonal & Leading Diagonal จึงเป็น "Motive Wave" เป็น ชุดคลื่นกระตุ้น ที่ทำ 5 คลื่น *** ผลจากการเกิด Ending Diagonal ที่คลื่น 5 / impluse หรือ คลื่น c / a-b-c หรือ ผลจากการเกิด Leading Diagonal ที่คลื่น 1 / impluse หรือ คลื่น a / a-b-c จะทำให้ มีการขึ้น หรือลง ของ ราคาแรงๆ และรวดเร็ว ขึ้นไป หรือ ลงมาเกิน ต้นคลื่นของมัน บางครั้ง ที่เราเห็นราคาลงมาเร็วๆ ก่อนมีการประกาศข่าว หรือหลังจากการประกาศข่าว แล้วราคากลับดีดขึ้นอย่างแรง และเร็ว ก็เพราะ ผลจากการเกิด Ending Diagonal ของชุดคลื่น 5 หรือ c [ sear328 ] คลื่นย่อย ของ คลื่น (3) ไม่ควรลงมาต่ำกว่าต้นคลื่นของมัน คือ (2) หากราคาไม่ลงมาต่ำกว่า low ของชุดก่อนหน้า อาจจะมีแนวโน้มของ คลื่น c/( B)/(e) ตามแผนภาพจำลองของแนวโน้ม ดังนี้ * โปรดใช้วิจารณญาณของท่าน ในการรับข้อมูล

ราคาเป้าหมายที่อาจจะขึ้นไปถึง 1134-1135 เป็นการทำ 5/c/( B)/E ขยาย

ราคาลงมาที่เส้นแนวรับของ Channel และเกิดสัญญาณ "Bullish Divergence" จึงคาดว่า จะมีการรีบาวน์กลับขึ้นไป 1134-1135 เพื่อทำ คลื่น a-b-c/( B)/E * Triangle มักจะเกิด ที่คลื่น 4 ของ Impluse หรือ คลื่น B ใน a-b-c formation *** Wave Formation [ sear328 ] ในกฏของ Impluse มีกฏการสลับที่ ของ คลื่น 2 และ คลื่น 4 ของ Impluse Alternation Rules : เมื่อคลื่น 2 เป็น Simple คลื่น 4 ต้องเป็น Complex หรือ ตรงกันข้าม เมื่อ EW มีกฏที่เคร่งครัด ผมจึงคิดว่า น่าจะมี "Wave Order" : การกำหนด หรือการจัดลำดับของ คลื่น ที่แน่นอน เพื่อกำหนด ให้ คลื่น 2 ต้องเป็น Simple หรือ Complex ก่อน จากการสังเกต รูปแบบของชุดคลื่นก่อนหน้า : "Wave Formation" หากชุดคลื่นก่อนหน้า มีคลื่น 3 ขยาย คลื่นปรับตัว จะมีคลื่น 2 หรือ คลื่น b เป็น Simple ซึ่งโดยทั่วไป คลื่น 2/b มักจะเป็น Simple-Zigzag และมีคลื่น 4 เป็น Complex - Flat แต่หากชุดคลื่นก่อนหน้า มีคลื่น 5 ขยาย คลื่นปรับตัว จะมีคลื่น 2 หรือ คลื่น b เป็น Simple* โดย เป็น Flat หรือ Combination ที่มีขนาดเล็ก [simple*] และจะมี คลื่น 4 เป็น Triangle [sear328]

จากกราฟ 3 เส้น [ 24 Hour Spot Gold Bid ] ที่กำลังแสดงแนวโน้มระยะสั้นอยู่ในขณะนี้ กำลังจะเกิด Chart pattern ที่เรียกว่า "Diamond" Diamond คือ รูปแบบของกราฟ ที่เป็น Reversal pattern ถ้าเกิดที่ก้นคลื่น ก้เรียกว่า "Diamond Bottom" ในรูปแบบ "Diamond Bottom" จะมี pattern R-H&S ซ่อนอยู่ [ ลองสังเกต ตำแหน่งที่มักจะเกิด Diamond คือ ช่วงต่อของ คาบเวลาที่ตลาด New York เริ่มเปิด แต่ ตลาด London ยังไม่ปิด เรามักคิดว่า ตลาด new York เปิดมา ก็เทเลย แต่ไม่เคยคิดว่า เป็นการเทของ ตลาด London ก่อนปิด เพื่อให้ ตลาด New York รับลูก ในการดันราคาขึ้นไป หรือกดราคาลงมา SPDR จดทะเบียนอยู่ในตลาด New York ทำไม? ต้องคำนวณ Nav/share 10.30 NYT ทั้งๆ ที่ ตลาด New York ยังไม่ปิด แล้วมาคำนวณ คิดมูลค่าของหุ้น เวลา 4.30 ??? ทำไม? ไม่ใช้เวลาเดียวกัน ในการคำนวณ ??? เพราะ นี่คือ "การปั่นราคาทองคำ ด้วยหุ้นทองคำกระดาษ" เพราะ คนที่ซื้อหรือขายหุ้นทองคำกระดาษ ไม่ได้รับทองจริง แต่ได้ Leverage จากกราฟแสดงแนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้น ในความเห็น #230 เมื่อนับคลื่นมาถึง คลื่น iv/4/c/(a) และราคากำลังปรับตัวลงมาเกิด H&S มีการประกาศผลตัวเลข Non-Farm ที่เป็นผล + กับราคาทองคำ ผลของข่าว จะส่งผลกระทบต่อราคาในระยะเวลาอันสั้น แต่ไม่เปลี่ยนแปลงแนวโน้มหลัก ที่กำลังเกิดขึ้น " Averages Discount Everything." [ Dow Theory ] จากแนวโน้มเดิม ที่กำลังปรับตัวลง ของ คลื่น iv ที่เป็น Correction ให้กลายเป็น Correction ที่ขยายตัว เป็น Complex เพิ่มขึ้น [ ii เป็น simple iv ทำ flat อยู่แล้ว ] iv ทำคลื่นขยาย อันเกิดจากผลของข่าวที่ส่งผลระยะสั้น แต่คลื่น iv ไม่สามารถทำ high สูงกว่า คลื่น 4 ที่เป็นต้นคลื่นของมัน เมื่อไม่สามารถทำ high ใหม่ สูงกว่า high ก่อนหน้า ก็ยังเป็นขาลง [ Dow Theory ] ตัวเลขแนวรับ 1114 ของ คลื่น c/(a)/(E) มาจากไหน ? 1114 คือ Fibo Retracement ของราคา ที่ปรับตัวลงมาจาก ยอดคลื่น แล้วเมื่อดีดกลับขึ้นไป ไม่ทำ high ใหม่ ขึ้นไปได้แค่ 23.6 แล้วปรับตัวลงมา ผ่านแนวรับ 38.2-50% เป้าหมายต่อไปคือ 61.8% 1114 ที่มีเส้นรับของ channel รออยู่ รูปแบบของ "Diamond" มีแนวต้านอยู่ที่่ ประมาณ 1123-1124 หากมีการทำรูปแบบกลับตัว "Inverse Head and Shoulders" เมื่อมีเป้า c/(a)/E ที่ 1114 ราคาเป้าหมาย จากรูปแบบ R-H&S คือ 1130 -1118 =12 1123 + 12 = 1135 [ โดยประมาณ ] จากราคาเป้าหมายที่ได้ 1135 เมื่อวางเส้นต้าน บนกราฟ คือ ราคาที่ขึ้นมาติดเส้นต้าน ที่ fibo 61.8% ของรูปแบบของราคาที่อยู่บน Channel [ ขออนุญาต อาจารย์วุฒิชัย อินทร์สว่าง : Advance-elliottwave.com นำความรู้ในบทความของท่าน มาเผยแพร่ ให้นักลงทุนทางเทคนิค ได้ใช้เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ทางเทคนิค ] http://www.advance-e...-ewbriefly.html ตามสัญญาณ rsi5 ยังขาดคลื่นรีบาวน์ขึ้นมาทำ ไหล่ขวา ของ รูปแบบ H&S ในขาลง [ ในขาลง ราคาและสัญญาณที่รีบาวน์ขึ้นมา ก็คือ Correction ] ซึ่งคาดว่า คือ การขึ้นไปทำ คลื่น ( B)/(e) หลังจากนั้น จึงจะลงมาทำ ©/(e)/(4) ที่ประมาณ 1111 เมื่อเกิดรูปแบบ คลื่น 5 ขยาย คลื่น 4 มักจะลงมาที่เส้นรับเดียวกัน กับคลื่น 2 http://upic.me/i/ao/w5-wxt.jpg คาดการณ์ เป้า คลื่น 5/c/(E)/(4) ไว้ที่ 1179 ตามเส้นต้าน ที่เป็น neck-line ของ R-H&S ผลจากการที่ราคา หากไม่หลุดลงมาต่ำกว่า 1109 ที่เป็น คลื่น 4/(3) จะเกิด สัญญาณ " Bullish Hidden Divergence " ที่เป็นสัญญาณกลับตัวไปตามทิศทางของแนวโน้มเดิม ทำให้ ราคาเมื่อไม่ลงมาทำ low ต่ำกว่า Low ก่อนหน้า จึงยังเป็น Up-trend ทำให้ราคาสามารถขึ้นไปทำ คลื่น (5)/(E)/(4) ได้ คลื่นรีบาวน์ ในขาลง มักจะเกิด สัญญาณ "Bearish Hidden Divergence" กล่าวคือ ราคาไม่ทำ high แต่สัญญาณทำ high [ ตามสัญญาณลูกศรสีส้ม ] [ ทำให้มักเข้าใจผิดว่า สัญญาณที่ขึ้นมาทำ high เป็น คลื่น 3 ] [ sear328 ] แต่ในชุดคลื่น Correction ที่ทำ a-b-c มีคลื่น c ทำ 5 คลื่น ดังนั้น เราจึงสามารถสังเกต คลื่น 3/c ได้จากการที่ ราคาทำ high และสัญญาณขึ้นมาทำ high พร้อมกัน เมื่อลงมาทำ คลื่น 4 จะเกิดสัญญาณ " Bullish Hidden Divergence" อันเป็น ลักษณะเฉพาะของ คลื่น 4 ที่เราสามารถสังเกตได้ง่ายๆ คือ ราคาไม่ทำ low แต่สัญญาณลงมาทำ low [ เช่นเดียวกัน ที่มักจะทำให้เข้าใจผิดว่า ที่สัญญาณลงมาทำ low เป็น คลื่น 3 ] เมื่อราคารีบาวน์กลับขึ้นไปทำยอดสูงขึ้น ของ คลื่น 5 ตัวสัญญาณจะทำไหล่ขวา คือ "Bearish Divergence" ราคาทำ high แต่สัญญาณไม่ทำ high *** Tip : การแยกคลื่น ด้วย rsi5 ลักษณะ ของ ราคา ที่ทำ คลื่น 3 และคลื่น 5 เรามักจะคุ้นเคย กับการเกิด สัญญาณ Bearish Divergence ของ คลื่น 3-5 แต่หากสังเกต รูปแบบของตัวสัญญาณ การทำ 5 คลื่น จะเห็นว่า คลื่น 1-3-5 ก็คือ รูปแบบราคา ที่ตัวสัญญาณ rsi5 แสดง "H&S" แยกคลื่น ของ คลื่น {1}-{2} ของ Major III ออก http://upic.me/i/4q/majorii.png ก็จะได้ 5 คลื่นย่อย ของ {3} ที่มีคลื่น 5 เป็น คลื่นขยาย คลื่น 4 เกิดสัญญาณ Bullish Hidden Divergence ในกรณีเดียวกัน เมื่อแยก คลื่น a-b ออก ก็จะได้ "H&S" ของ 5 คลื่นของ C โดย ราคาและสัญญาณ ที่ทำ high พร้อมกัน เป็น คลื่น 3/c ราคาที่ปรับตัวลงมา ไม่ทำ low ใหม่ ต๋ำกว่า low ก่อนหน้า จะเกิด สัญญาณ "Bullish Hidden Divergence" ก็ คือ 4/c คลื่น 5 เมื่อทำราคา high ใหม่ ตัวสัญญาณจะแสดงไหล่ขวา ของ "H&S" ข้อควรระวัง : ราคาและสัญญาณที่รีบาวน์กลับขึ้นมา ก็คือ Correction ในขาลง จะเห็นจาก สัญญาณลูกศรสีม่วง ราคาไม่ทำ high แต่สัญญาณทำ high [ อาจจะทำให้ เข้าใจผิด ว่าเป็น ราคาที่ขึ้นมาทั่งชุด กำลังทำ คลื่น 3 ] การเกิดสัญญาณ "Bearish Hidden Divergence" เป็นสัญญาณเตือนว่า เมื่อราคาปรับตัวขึ้นมา เกิด Hidden Divergence เมื่อจบ a-b-c แล้ว จะกลับลงไปตามแนวโน้มเดิม คือ ขาลง (ที่ยังไม่จบ) *** Bullish / Bearish Divergence เป็นสัญญาณเตือน ว่า อาจจะมีการเปลี่ยนทิศทางของแนวโน้ม *** Bullish / Bearish Hidden Divergnce เป็น สัญญาณของ คลื่นที่เป็น Correction เมื่อจบการทำ correction แล้ว จะกลับไปตามทิศทางของแนวโน้มเดิม *** ราคาที่ปรับตัวลงมาที่ 1116 เกิด สัญญาณ Bullish Divergence ที่ rsi5 H4 เมื่อแยกคลื่น คลื่นที่รีบาวน์กลับขึ้นมา หลังเกิด สัญญาณ bullish divergence ในราย H1 จะเห็นราคาที่รีบาวน์กลับขึ้นมา เกิดสัญญาณ "Bearish Hidden Divergence" แสดงว่า ยังเป็น คลื่นรีบาวน์ย่อย ที่การปรับตัว ยังลงไม่จบ เป้าที่คาดการณ์ไว้ ว่าจะลงมา 1114 fibo retacemant 61.8% เพื่อลงมาจบ c/(a)/E ก่อนดีดขึ้นทำ a-b-c/( B)/E ต่อไป * โปรดใช้วิจารณญาณของท่าน ในการรับข้อมูล

มองหา คลื่น (2) ไม่เจอ เพราะมันไม่ทำ1-2 แต่กลายเป็น ทำ a-b-c แทน คาดว่า จะลงมาจบ c/(a)/(e) ประมาณ 1120-1119 ก่อนทำ a-b-c ของ ( B)/(e) ประมาณ 1137 แล้วลงมาจบ c/(e)/(4) ประมาณ 1111 เป็นการปรับตัวลงมาประมาณ คลื่น (4) ก่อนหน้า ที่อยู่ที่ 1109 http://upic.me/i/8k/5screenshot_1.png ในขาลง : ชุดคลื่นที่ขึ้นมา ทั้งราคาและสัญญาณ คือ Correction ดังนั้น จะเกิดสัญญาณ Bearish Hidden Divergence [ สัญญาณทำ high กว่ายอดก่อนหน้า แต่ราคาไม่ทำ high สูงกว่ายอดก่อนหน้า ] เป้า คลื่น [5]/A วัดได้ประมาณ $1074 ราคาทำ Low สุดท้าย ลงมาที่ $1077 ราคาเป่าหมายสุดท้าย ของ คลื่น [5]/A-zigzag/{4} .. 1066-1067 รอดูว่า (e)/(4) จะขึ้นไปจบตรงไหน แล้ววัดเป้าที่มีความน่าจะเป็นมากที่สุดกันอีกที ใครติด long ถือทองแท่ง สูงกว่าราคา 1179 ไม่มาก ก็ลองพิจารณากันดู วางแผนไว้ล่วงหน้า หากราคาทองคำ ที่กำลังขึ้นมาครั้งสุดท้าย และกำลังจะลงครั้งสุดท้าย ห่างกันประมาณ $100-110 คุณจะวางแผนอย่างไร เพื่อรักษาเงินทองในกระเป๋าของคุณ

คาดว่า จะลงมาทำ คลื่น (i) .. 1131-1130 Diamond Top ; [ Diamond Bottom : http://upic.me/i/gj/210606.gif ] ก่อนรีบาวน์กลับขึ้นไป ทำ คลื่น (ii) ,, 1142-1143 [ ทำไหล่ขวา ของ H&S ] โดยมีเป้าการจบคลื่น (v)/5/(4) .. 1112-1107 [ H&S : http://upic.me/i/om/090210.gif ] แนวโน้มหลัก : Week Month : *** ตอนนี้ หลายๆ ประเทศ เริ่มมีการทำสัญญาณค้าขาย ระหว่างประเทศ โดยไม่อิงกับเงินสกุล US Dollar http://www.manager.c...D=9580000099333 อันทำให้ US Dollar มีแนวโน้มอ่อนตัวลงไปเรื่อยๆ หาก USDX มี Wc = Wa จะลงไปถึง 35 [ แนวโน้มระยะกลาง ตอนนี้ กำลังทำ W4/c- Triangle กำลังลงมาทำ คลื่น 4/c/(e)/(4)/© ประมาณ 90-89 ก่อนขึ้นไปจบ 5/c(e)/(4)/© 105 ] Wa = 164.72 - 78.43 = 86.29 Wc = 121.29 - 86.29 = 35 ซึ่งจะทำให้ ทองคำ ที่มีรูปแบบ ของ คลื่น 5 ขยาย คาดการณ์ แนวโน้มระยะยาว 20-30 ปี ข้างหน้า อีก 10 ปี ข้างหน้า ข้าวแกง จานละ 120-150 บาท น้ำมัน ลิตรละ 200 บาท เงินเฟ้อมหาศาล กำลังรออยู่ข้างหน้า เปลี่ยนเงินฝากในธนาคาร มาซื้ออสังหาริมทรัพย์ ทองคำ เก็บไว้ ซื้อไร่ ซื้อนา ปลูกข้าว ปลูกผัก เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ ไว้กินเอง เตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ นะครับ

Revise กราฟใหม่ Month : Week : ใกล้จะจบคลื่น [5]/A-Zigzag โดยมีการทำรูปแบบกลับตัว [Reversal pattern] 3 ชุุด 1. Broadening Bottom 2. Falling Wedge 3. Inverse Head and Shoulders Day : H4 : H1 : ******* เพราะ Elliot wave มีกฏที่เคร่งครัด ผมจึงคิดว่า การเกิดรูปแบบของ คลื่น น่าจะมีรูปแบบจำเพาะ เช่น เมื่อมีกฏการสลับที่ ให้คลื่น 2 และ 4 ต้องสลับที่กัน ระหว่าง Simple กับ Complex ก็น่าจะมีกฏที่กำหนด ให้ 2 เป็น Simple หรือ Complex ก่อน จากการสังเกต โดยปกติที่คลื่น 3 เป็นคลื่นขยาย รูปแบบชุดคลื่นในแนวโน้มถ้ดไป จะมีคลื่น 2 เป็น Simple และมี 4 เป็น complex แต่หาากเกิด คลื่น 1 หรือ คลื่น 5 เป็น คลื่นขยาย 2 จะเป็น complex มี 4 เป็น Simple [sear328] * (5)/{3} เป็น คลื่นขยาย รูปแบบของ คลื่น {4} มีคลื่น 2 เป็น Complex Flat ในรูปแบบของ Zigzag [ Alt: หาก คลื่น {4} เป็น Triangle A = Flat : B = Triangle ] ไม่ว่าจะนับ {4} Triangle หรือ {4} Complex Zigzag * {4}/Triangle : คลื่น c/© เกิด Ending Diagonal [ 4 overlap 1 ] * {4}/Complex Zigzag : คลื่น [5] ทำ 5 คลื่นย่อย ที่มี 4 overlap 1 เป็น Terminal Impluse ซึ่งจะเป็นผลทำให้ เมื่อจบ คลื่น 5 แล้ว จะมีการกลับตัวในทิศทางตรงกันข้าม อย่างรุนแรงและรวดเร็ว

ราคาที่รีบาวน์ขึ้นมา ทำสัญญาณ Bearish Hidden Divergence ซึ่งเป็นสัญญาณของ คลื่นที่เป็น Correction ในขาลง เมื่อรีบาวน์ขึ้นมาจบ จะกลับลงไปในทิศทางเดิม คือ ขาลง เกิดรูปแบบกลับตัว / reversal pattern = Falling Wedge เมือเกิดสัญญาณ Bearish Hidden Divergence ซึ่งเป็น Correction ของ คลื่น b/2/4 ในขาลง เมื่อปรับตัวทำ correction จบแล้ว จะลงมาในแนวโน้มเดิม คือ ลงมาทำ คลื่น 5/c/(4) แนวรับ 1114-1111 http://www.swing-tra...ling-wedge.html ราคาจะลงมาที่เส้นรับของ Channel เกิดสัญญาณ bullish Divergence ก็จะดีดผ่านเส้นต้านของ 3 เหลี่ยม falling Wedge ขึ้นไป ในราย H4 เส้นกลาง BB200 / Middel BB Band จะเป็นแนวรับขาขึ้น

โดยหลักของ Impluse คลื่น 4 จะลงมาต่ำกว่ายอดคลื่น 1 ไม่ได้ [ Overlap ] ดังนั้น คลื่นที่ขึ้นมาทำ high จึงเป็น Correction มิฉะนั้น จะกลายเป็น Terminal Impluse = คลื่นรีบาวน์ที่ขึ้นมาจาก $1077 จะขึ้นมาสุดเท่านี้ ไม่สามารถทำ high ใหม่ได้ หากเป็น Strong B Flat ตัวสัญญาณจะทำ high แต่ตัวสัญญาณกลับทำไหล่ขวา พร้อมกับทำ high ใหม่ ผมจึงนับเป็น Triangle ในขาลง : ราคาและสัญญาณที่รีบาวน์ขึ้นมา เป็น Correction ของ คลื่น B/2/4 ที่มีลักษณะการขึ้นมาทำ high แบบ Bearish Hidden Divergence * โปรดใช้วิจารณญาณของท่าน ในการรับข้อมูล

ปรับคลื่นใหม่ คลื่น {3} มีคลื่น (5) เป็น คลื่นขยาย เมื่อปรับตัวลงมาทำ คลื่น {4} มักจะลงมาที่คลื่น 2 ของชุดคลื่น 5 ขยาย คาดว่า จะลงมจบ ที่ fibo retracement 61.8% 1114 คลื่น {5} / C ถีง อาจจะขึ้นได้ถึง $1179 Work Shop : สาเหตุ ที่ใช้ Trend Channel คู่นี้ ในการวาง fibo retracement เพราะเป็น ต้นคลื่น [5] ที่เป็น คลื่นขยาย โดยรูปแบบของ คลื่น 5 ขยาย คลื่น 4 มักจะขึ้นมาติดเส้นต้านเส้นเดียวกันกับ คลื่น 2 * โปรดใช้วิจารณญาณของท่าน ในการับข้อมูล

Chanelling เป็น คุณสมบัติอย่างหนึ่ง ของ คลื่น Impluse เพราะราคามักจะแสดงแนวโน้มขึ้นๆ ลงๆ อยูาใน channel ที่เป็นชุดคลื่น Impluse ของมัย Channel ก็คือ แนวต้านและแนวรับ ของราคาที่แสดงชุดคลื่น impluse เมื่อราคาขึ้นไปทำ high และสัญญาณทำ high พร้อมกัน จึงคาดว่าจะเป็น คลื่น iii/c/(iv) ในกราฟ จะเห็นเมื่อวาง channel แล้วคลื่น iii/c/(iv) ขึ้นมาติดเส้นต้านของ Channel เมื่อ Asummtion ว่า คลื่น v/c/(iv) น่าจะขึ้นมาติดเส้นต้านของ channel ที่มีเส้นรับเดึยวกัน กับ คลื่น iii/c/(iv) ลำดับคลื่น ที่คาดว่า จะรีบาวน์ขึ้นมา เป็น คลื่น (iv)/5 หาก คลื่น v/c/(iv) ขึ้นไปจบตรงแถวๆ 1177-1179 จะเกิดการ Overlap ของ คลื่น (iv)-(i)/5 ตามหลักของ คลื่น Impluse คลื่น 4 จะปรับตัวลงมาต่ำถึง ยอดคลื่น 1 ไม่ได้ แต่จะมีกรณี ที่ คลื่น 4 สามารถ overlap กับคลื่น 1 ได้ เป็น Motive waves ( ทำ 5 คลื่นเหมือนกัน) มีอยู่ 2 กรณีหลักๆ 1. การเกิด Leading Diagonal ที่คลื่น 1 ของ Impluse หรือ คลื่น a ของ a-b-c correction 2. การเกิด Ending Diagonal ที่คลื่น 5 ของ Impluse หรือ คลื่น c ของ a-b-c correction หรือ ที่เรียกว่า "Terminal Impluse" ซึ่งจะเป็นรูปแบบของชุดคลื่นสุดท้าย * อ่านความเห็นที่ *209 ประกอบ หากเห็นชุดคลื่นที่มีการเกิด overlap ของ คลื่น 4 กับ 1 ของมัน เป็นสัญญาณเตือนว่า ชุดคลื่นย่อยชุดนี้ จะเป็น คลื่นชุดสุดท้าย ซึ่งผลของการเกิด Ending Diagonal / Terminal Impluse เมื่อจบคลื่น 5 ของชุดสุดท้ายที่เกิดการ overlap ราคาจะมีการกลับตัว เปลี่ยนทิศทางตรงกันข้าม อย่างรุนแรงและเร็ว ที่บางครั้ง เราเห็นราคาลงมาอย่างรวดเร็วๆ เป็นแท่งเทียนของราคาซ้อนๆ กัน แล้วกลับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง ก็เป็นผลมาจากการเกิด Ending Diagonal [ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ใช้กราฟ H4-Day ขึ้นไป จึงไม่เห็น การ form ตัวของรูปแบบคลื่น ที่เป็น Ending Diagonal ซึ่งมักจะสังเกตเห็นได้ ในคาบเล็กๆ M30/M15 ลงไป ] [sear328] * โปรดใช้วิจารณญาณของท่าน ในการรับข้อมูล

Diamond Middel Top เลยขึ้นไปไม่ถึง คาดว่า น่าจะลงมาจบ (4) ที่ fibo retracement 61.8% 1132 เกิดสัญญาณ bullish Hidden Divergence น่าจะรีบาวน์กลับขึ้นไปได้ เมื่อราคาลงมาทำ low ใหม่ [1132] แล้ว rsi5 ลงมาทำ bullish Divergence *ในขาลง ราคาและสัญญาณที่รีบาวน์ขึ้นไป เท่ากับเป็น คลื่น Correction เราสามารถสังเกต การที่ราคาดีดขึ้นไม่ทำ high ใหม่ แต่สัญญาณทำ high ใหม่ เป็นสัญญาณที่เรียกว่า "Bearish Hidden Divergence" [หากไม่ทำความเข้าใจกับสัญญาณที่เกิดขึ้น ของ คลื่นรีบาวน์ ในขาลง อาจจะเข้าใจว่า เป็น คลื่น 3 จึงเป็นสาเหตุให้เกิดการติดดอย เพราะเมื่อเกิดคลื่น 3 ทั้งราคาและตัวสัญญาณ ควรจะทำ high พร้อมกันทั่งคู่] * โปรดใช้วิจารณญาณของท่าน ในการรับข้อมูล

US DOllar Index : แนวโน้มหลัก ยังเป็นการปรับตัวลง แต่กำลังจะรีบาวน์ขึ้น Oil : แนวโน้มหลัก ยังเป็นการปรับตัวลง แต่ใกล้กลับตัว รีบาวน์ขึ้น Set50 : แนวโน้มหลัก ยังคงปรับตัวลง แต่ใกล้จะรีบาวน์ขึ้น Gold : แนวโน้มหลัก เป็นการปรับตัวลง แต่มีการรีบาวน์ขึ้น และน่าจะใกล้มีการปรับตัวลง จากกราฟ แสดงแนวโน้มของ 4 Assets จะเห็นว่า ในช่วงเวลาเดียวกัน USDX, OIl, Stock มีการปรับตัวลง แต่ในขณะเดียวกัน มีแต่ Gold เท่านั้น ที่รีบาวน์ขึ้น * โปรดใช้วิจารณญาณของท่าน ในการรับข้อมูล ทองคำ ในกราฟราย H4 ลงไป จะเห็นมีการเกิดสัญญาณ Bearish Divergence H4 : ราคาทองคำ มีการรรีบาวน์ขึ้นมา และขึ้นมาติด แนวต้าน "Gap Zone" ที่ทำหน้าที่เสมือน แนวต้านขาลง และเกิดสัญญาณ Bearish Divergence H1 : เกิดสัญญาณ Bearsih Divergence และหากใช้หลักการแยกคลื่น จากรูปแบบ Impluse 5 คลื่น ที่ตัวราคาทำ 5 คลื่น ตัวสัญญาณจะแสดงรูปแบบ "H&S" เฉพาะ ราคาที่ตัวสัญญาณแสดง "H&S" ชุดนี้ น่าจะทำ ครบ 5 คลื่นแล้ว เมื่อมีการทำ Implusive waves 5 คลื่น ตัวสัญญาณมักจะแสดงรูปแบบ H&S ให้เห็น ในที่นี้ คลื่น (3) แสดง 5 คลื่นย่อย ของมัน ในรูปแบบ "H&S" ย่อย * คลื่น 1 ตัวสัญญาณจะแสดง ไหล่ซ้าย / Left Shoulder คลื่น 3 ตัวสัญญาณจะแสดง หัว / Head คลื่น 5 ตัวสัญญาณจะแสดง ไหล่ขวา / Right Shoulder [ มีข้อยกเว้น คือ กรณ๊ที่ คลื่น 5 ทำคลื่นขยาย ตัวสัญญาณจะไม่แสดงไหล่ขวา แต่จะแสดง Head = High ของ คลื่นขยาย ทำให้ คลื่นปรับตัวในทิศทางตรงกันข้าม ที่ขึ้นมาไม่ทำ high ใหม่ ตัวสัญญาณจะแสดงไหล่ขวา ของ คลื่น 2 หรือ B ของชุดคลื่นลำดับต่อไปในทิศทางแนวโน้มตรงกันข้ามนั้น ] [ sear328 ] เมื่อเกิด คลื่น 5 ขยาย หากไม่มีตัวสัญญาณที่ใช้จับคลื่น 5 ขยาย ก็ให้ลงมาดูรายละเอียดของชุดคลื่น ในคาบย่อยลงไป M30 : จะเห็นการทำไหล่ขวา ของ คลื่น 5 ขยาย ที่ราคาทำ high ใหม่ แต่ตัวสัญญาณไม่ทำ high = Bearish Divergence จะเห็นว่า ชุดคลื่น (5) ทำ 5 คลื่นย่อย .. ที่มีคลื่น (iv) Overlap (i) M15 : แสดงรูปแบบการเกิด คลื่น (iv) Overlap (i) *** ตามหลัก Elliot Wave ของ Implusive wave มีกฏ 3 ข้อ ที่ระบุการทำ Impluse 5 คลื่น ในที่นี้ : กล่าวถึงเฉพาะ คลื่น 4 ที่ไม่ควรลงมายังขอบเขต ของคลื่น 1 http://www.slideshar...-and-prechter-1 http://topicstock.pa...1/I8323761.html การเกิดรูปแบบ ของการทำ 5 คลื่น แต่คลื่น 4 ลงมา overlap คลื่น 1 เป็น Motive wave ที่มีการทำ 5 คลื่นเหมือนกัน จะเป็นรูปแบบเฉพาะ ของชุดคลื่น ที่เป็น * Leading Diagonal ที่เกิดที่คลื่น 1 ของ zigzag หรือ คลื่น a ใน a-b-c correction http://www.slideshar...-and-prechter-1 * Ending Diagonal ทีเกิดที่คลื่น 5 ของ Impluse หรือ คลื่น c ใน a-b-c correction ***** นั่นหมายความว่า แนวโน้มของราคาทองคำ ที่รีบาวน์ขึ้นมา มีการทำ Expanding Ending Diagonal *** จากรูปแบบ การเกิด Ending Diagonal = เป็นสัญญาณเตือนแล้วว่า นี่เป็นการขึ้นชุดสุดท้าย [ จึงเรียกว่า Ending เมื่อเกิดที่คลื่น 5 ] http://topicstock.pa...1/I8323761.html terminal [ADJ] ; ปลาย Syn. concluding; final Relate. สิ้นสุด, จบ, ท้าย, สุดท้าย Terminal Impluse = Impluse waves ชุดสุดท้าย [ มักจะมีคลื่นประกอบภายใน 3-3-3-3-3 แต่สามารถเกิดขึ้นได้ ในรูปแบบ 5-3-5-3-5 ] http://www.slideshar...-and-prechter-1 [ p.40 ] Case Study : Ending Diagonal

* โปรดใช้วิจารณญาณของท่าน ในการรับข้อมูล ในหลักของ Impluse wave มีกฏการสลับที่ของ คลื่น 2 และคลื่น 4 ถ้าคลื่น 2 เป็น Simple คลื่น 4 ต้องเป็น Complex ผมจึงคิดว่า หากกฏของรูปแบบของ คลื่น Correction ที่จะเกิดขึ้นมีกฏที่เคร่งครัดแบบนี้ จึงน่าจะมี wave order ที่เป็นหลักเกณฑ์ ที่กำหนดให้ คลื่น 2 จะต้องเป็น Simple หรือ Complex ก่อน ผมจึงสังเกต รูปแบบของ คลื่นขยาย [ Extention wave ] ซึ่งมีกฏของ คลื่นขยาย ว่า ใน 1/3/5 จะต้องมีคลื่นใด คลื่นหนึ่งเป็น คลื่นขยาย ของ Impluse waves ชุดนั้น ก็ได้ ข้อสังเกตว่า หากคลื่น 3 เป็น คลื่นขยายตามปกติ เมื่อมีการกลับตัว หรือเปลี่ยนทิศทางของแนวโน้ม คลื่น 2 / b ของชุดคลื่นลำดับต่อไป มักจะเป็น Simple แต่หากเกิด คลื่น 1 หรือ คลื่น 5 เป็น คลื่นขยาย เมื่อมีการกลับตัวเปลี่ยนแนวโน้ม คลื่น 2 / b ของชุดคลื่นลำดับต่อไป มักจะเป็น Complex [sear328]

ขอกลับมา update กราฟราคาทองคำใหม่อีกครั้ง คงต้องอธิบายถึงความเป็นมาของแนวโน้มราคาทองคำแต่แรกเริ่มกันก่อน ทองคำ มีประวัติความเป็นมา หลายพันปี และมีการตีค่า ราคาทองคำ เป็นเงินตรา [ gold as currency ] เมื่อมีการค้นพบเหรีญทองคำ มาตั้งแต่ ศต. 6-5 BCE http://www.search.as...s=1440310107311 "The First Gold Standard" เท่าที่ค้นหามาได้ คือ ในปี 1717 ในยุคของ "Sir Isaac Newton" https://en.wikipedia...of_Isaac_Newton The dollar-gold exchange rate was set to $18.93 per ounce in 1833. http://www.kitco.com...arly_graphs.plx หลังจากการใช้ The Dollar Gold Fiexed rate $18.93 per ounce มานานร่วม 100 ปี เพราะมี Gold fixed rate จึงทำให้ เมิ่อเกิดสงครามโลก ครั้งที่ 1 : The First World War [ 1939-1918] ราคาทองคำ จึงไม่มีการเปลี่ยนแปลง ไปตามวิกฤตการณ์ของโลก : The Great War ที่เกิดขึ้น จนกระทั่ง ในปี 1931 เมื่อสหราชอาณาจักร มีการยกเลิกการใช้ The Dollar Gold Fixed rate และเกิดสงครามโลก ครั้งที่ 2 : The Second World war [1939-1945] จึงทำให้ เกิดแนวโน้มของราคาทองคำ ขึ้นทำ W1/Major I the UK abandoned it in 1931, and others followed over the next few years. In 1933, US President Franklin Roosevelt imposed a ban on U.S. citizens’ buying, selling, or owning gold. While the U.S. Government continued to sell gold to foreign central banks and government institutions, the ban prevented hoarders from profiting after Congress devalued the dollar (in terms of gold) in January 1934. This action raised the official price of gold by more than 65 percent (from $20.67 to $35 per troy ounce). ผลจากมหาสงครามทั้ง 2 ครั้ง ที่มีจุดเริ่มต้นเกิดขึ้นในทวีปยุโรป จึงทำให้ประเทศมีดินแดนในยุโรปเสียหายหนัก แม้กระทั่งประเทศที่เป็นฝ่ายชนะสงคราม ทำให้มีการก่อตั้งระบบการเงินของโลกขึ้นมาใหม่ ในปี 1944 The Bretton Woods Agreement [ 1944 ] Preparing to rebuild the international economic system while World War II was still raging, 730 delegates from all 44 Allied nations gathered at the Mount Washington Hotel in Bretton Woods, New Hampshire It established the U.S. dollar as the global currency, taking the world off of the gold standard. It created the World Bank and the International Monetary Fund (IMF) as the two global organizations to help monitor the new system. In effect, since the U.S. was the only country with the ability to print dollars, it established America as the major power behind these two organizations, and the global economy. ในฐานะ ทีีประเทศสหรัฐอเมริกา : [ The United State of America ] ได้กลายเป็นพี่ใหญ่ ที่ทำให้สงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง [ ในคริสต์ศตวรรษที่ 20 ได้เกิดสงครามในระดับโลกขึ้นถึงสองครั้ง โดยสงครามโลกครั้งแรกเป็น สงครามที่เกิดขึ้นเฉพาะในทวีปยุโรปเป็นสำคัญเท่านั้น แต่ในสงครามโลกครั้งที่สองนับได้ว่าเป็นสงครามที่ลุกลามไปทั่วโลกอย่างแท้ จริง และพบว่าสงครามโลกทั้งสองครั้งมีความแตกต่างกันอยู่หลายประการทีเดียว สงครามโลกครั้งที่สองก่อให้เกิดความร่วมมืออย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในหลาย ประเทศ เพราะในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งเป็นการระดมคนจำนวนมากเข้ามาประหัตประหารกัน ที่เรียกว่า "สงครามของคนหมู่มาก" (War of the Masses) แต่ในสงครามโลกครั้งที่สอง ประชาชนทุกคนล้วนเกี่ยวข้องกับสงครามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงอาจกล่าวได้ว่า สงครามโลกครั้งที่สองนั้นเป็น "สงครามของประชาชนทุกคน" สงครามโลกครั้งที่สองกลายเป็นการรบซึ่งตั้งอยู่บนแนวคิดพื้นฐานสองประการ ซึ่งแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ฝ่ายหนึ่ง คือ ฝ่ายหนึ่งต้องการจะเปลี่ยนแปลงโลกใหม่ (ฝ่ายอักษะ) และอีกฝ่ายที่พยายามจะรักษาแนวทางเดิมของโลกเอาไว้ (ฝ่ายสัมพันธมิตร) หรืออาจแบ่งออกได้เป็นสองกลุ่มตามอาณานิคมและทรัพยากรธรรมชาติในครอบครองของ ตน ได้แก่ "กลุ่มประเทศมี" (Have Countries) กับ "กลุ่มประเทศไม่มี" (Have not Countries) อย่างไรก็ตาม พันธมิตรทางทหารทั้งสองฝ่ายก็มิได้ให้ความร่วมมือกันอย่างแน่นแฟ้นมากนัก เพราะทั้งสองฝ่ายเพียงร่วมมือกันระหว่างประทศคู่สงครามเพื่อทำลายอีกคู่ สงครามฝ่ายลงอย่างราบคาบเท่านั้น การรบในสงครามโลกครั้งที่สองนั้นมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทั้งยุทธศาสตร์ ยุทโธปกรณ์และยุทธวิธี จนมีนักประวัติศาสตร์ผู้หนึ่งกล่าวไว้ว่า สงครามโลกครั้งที่สอง "เป็นการรบที่กระทำอย่างกะทันหันโดยปราศจากการวางแผนอย่างยิ่งใหญ่ที่สุดใน ประวัติศาสตร์" เพราะไม่อาจกำหนดได้อย่างชัดเจนว่าที่ใดคือจุดแตกหักของสงคราม อาวุธใดโดดเด่นที่สุดในสงครามและข้อสรุปทางประวัติศาสตร์อื่น ๆ อีกเป็นจำนวนมาก หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองยุติลง ทวีปยุโรปไม่เหลือพลังอำนาจที่จะดำเนินนโยบายของตนในภูมิภาคอื่น ๆ ของโลกได้อีกต่อไป ดังที่เห็นได้จากสถานการณ์ของฝ่ายสัมพันธมิตรกลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบฝ่าย อักษะหลังสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตเข้าสู่สงคราม ดังนั้น สหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตจึงก้าวขึ้นเป็นสองประเทศอภิมหาอำนาจที่ดำเนินนโยบายของโลกในเวลาต่อมา ] https://th.wikipedia...%B8%AD%E0%B8%87 สาเหตุ ที่ต้องมีการตกลงทำสัญญา " The Bretton Woods Agreement" Until World War I, most countries were on the gold standard. However, they went off so they could print the currency needed to pay for their war costs. This caused hyperinflation, as the supply of money overwhelmed the demand. The value of money fell so dramatically that, in some cases, people needed wheelbarrows full of cash just to buy a loaf of bread. After the war, countries returned to the safety of the gold standard. ผลจากข้อตกลงของสัญญา จึงอาจเรียกได้ว่า เป็น "The Bretton Woods Gold Agrrement" ทำให้มีการกลับมาใช้ "The Gold Fixed rate" โดย ทองคำ ถือเป็นเงินตราอีกครั้ง By pegging international currency to gold at $35 an ounce, This meant each country guaranteed that its currency would be redeemed by its value in gold. After Bretton Woods, each member agreed to redeem its currency for dollars, not gold. Why dollars? The U.S. held three-fourths of the world's supply of gold. The dollar's value was set at 1/35 of an ounce of gold, so in a way the world was still on somewhat of a gold standard. ทำไม? อเมริกา .. ที่มีประวัติศาสตร์การสถาปนาก่อตั้งเป็น " ประเทศอเมริกา" แค่ 200 กว่าปี จึงกลายเป็น ประเทศที่มี "ปริมาณทองคำ" สูงถึง 3/4 ของทองคำสำรองของโลก The U.S. held three-fourths of the world's supply of gold. [ ไว้ผมค่อยๆ เขียนเล่าให้อ่าน .. ขอ update กราฟให้เร็วที่สุดก่อนนะครับ ] ........... สาเหตุการเกิด คลื่น 3 ใน Major I http://upic.me/i/c0/majori.ii.png หลังสงครามโลก ครัั้งที่ 2 สิ้นสุดลง [1939-1945] มีการก่อตั้ง องค์สหประชาชาติ : United Nations [uN] เพื่ออำนวยความสะดวก ในการออกกฏหมายระหว่างประเทศ และความมั่นคงระหว่างประเทศ โดยเสียง 2/3 ของสมัชชาสมาชิกสหประชาชาติ ได้มีมติให้มีการจัดตั้ง รัฐอิสราเอล ในแิดแดนปาเลสไตน์ เพื่อตอบแทนที่ชาวยิว มีบทบาทในการร่วมทำสงครามตั้งแต่ ครั้งสงคามโลกครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ฝ่ายพันธมิตรได้รับชัยชนะ ผลจากการตั้งรัฐอิสราเอลในดินแดนอาหรับ จึงทำให้เกิด " สงครมยิว-อาหรับ" [1948-1973] ขึ้นเป็นระยะๆ เนื่องจากดินแดนบริเวณนี้ อยู่ใกล้กับ คลองสุเอซ [suez canel] ซึ่งเป็นคลองที่ขุดขึ้นมาโดยแรงงานมนุษย์ 183 km. เพื่อเชื่อมต่อ Medditeranian Sea กับ Red Sea อันเป็นเส้นทางลัดระหว่างยุโรปและเอเซีย แและเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมัน จากตะวันออกกกลางไปยังยุโรป อัน เนื่องจากความตรึงเครียดของสงครามยิว-อาหรับ จึงทำให้ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น อย่างน่อเนื่อง ราคาทองคำจึงขึ้นตามสภาวะที่เกิดขึ้น และเมื่อซาอุดิอา รเบีย บีบอเมริกา ให้อิสราเอลยอมเจรจาสงบศึกลงได้ ราคาทองคำจึงปรับตัวลงทำคลื่น 4/Major I คลื่น 5 ของ Major I ขึ้นมาทำ new high ที่ $850 ต้นปี 1980 อันเนื่องมาจาก .. อเมริกา หนุนซัดดัม แห่งอิรัก ให้บุกอิหร่าน เพราะอเมริกา หนุน/ชักใย พระเจ้าชาร์แห่งอิหร่านอยู่ แต่โดน โคไมนี่ ผู้นำศาสนาอิสลามทำรัฐประหารโค่นพระเจ้าชาร์ ดินแดนตะวันออกกกลาง เป็นแห่งน้ำมันของโลก จึงทำให้ราคาน้ำมันและราคาทองคำดีดตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากการจบคลื่น 5/Major I ราคาลงปรับฐานนาน 19 ปี โดยลงมา $251 ในปี 1999 .. เป็น การจบ Major II แล้วราคาที่ขึ้นมาทำ New High $1920 เป็นคลื่นอะไร? * การที่เราทราบว่า เป็น คลื่น 3 หรือ คลื่น 5 โดยปกติ ที่คลื่น 3 เป็นคลื่นขยายที่ยาวที่สุด ตัวสัญญาณมักจะทำ high เมื่อสังเกตจาก Oscillator Indicators ที่แสดงสภาวะ Oversold หรือ Overbought และคลื่น 5 จะเกิด Bearish Divergence ในขาขึ้น หรือ Bullish Divergence ในขาลง นั่นก็คือ เมื่อมีการทำ 5 คลื่นของ Impluse ที่มีคลื่น 3 เป็น คลื่นขยาย ที่ยาวที่สุด ตัวสัญญาณจะแสดง รูปแบบกราฟเป็น "Head & Shoulders" ผมจึงใช้หลัก การสังเกตรูปแบบของตัวสัญญาณ เมื่อทำ 5 คลื่น นั่นก็คือ New High $1920 ก็คือการทำ คลื่น {3}/Major III ที่มีคลื่น 5/{3} เป็น คลื่นขยาย เพื่อยืนยัน การทำ 5 คลื่นของ Impluse ตัวสัญญาณจะแสดงลักษณะของ "H&S" ในกราฟรายเดือนเป็น ชุดคลื่นที่ทำ 5 คลื่นที่ใหญ่กว่า ดังนั้น ในคลื่นย่อยของชุดคลื่นใหญ่ ก็ทำ 5 คลื่นของ Impluse ด้วย รูปแบบของ 5 คลื่นย่อย ตัวสัญญาณก็ต้องแสดงรูปแบบของ "H&S" ด้วย คลื่น 5/{3} เป็น คลื่นขยาย .. สัญญาณจึงทำ high ที่ปลายคลื่น [ หากคลื่น 3 เป็น คลื่นขยาย ตัวสัญญาณทำ high ที่คลื่น 3 แต่หาก คลื่น 1 หรือ คลื่น 5 เป็นคลื่นขยาย ตัวสัญญาณก็จะแสดง high ที่ตำแหน่งคลื่นขยายนั้น ] *1 เพราะ Macd 12-26-9 แสดงสัญญาณ high ของ คลื่น 5/{3} ขยาย จึงไม่เกิด Bearish Divergence ให้เห็น เมื่อนักลงทุน เห็นสัญญาณทำ high จึงนึกว่าเป็นคลื่น 3 ต้องมีคลื่น 5 ที่ตัวสัญญาณจะต้องทำ bearish divergence อีก จีงเป็น สาเหตุของการติดดอย ที่ราคาสูงๆ *2 คลื่น 5/{3} เป็น คลื่นขยาย จึงมีขนาดของคลื่น มากกว่า คลื่น 1 และคลื่น 3 รวมกัน คลื่น 5 ขยาย มีสูตรในการหาราคาเป้าหมาย * W5-Extention = (x%) [W1+w3] คลื่นที่กำลังปรับฐานลงมา จึงมีความน่าจะเป็น ที่จะเป็น คลื่น {4}/Major III ตามกฏการสลับที่ [Alternation Rules] ของ Impluse เมื่อคลื่น {2} เป็น Flat แล้ว .. คลื่น {4} จะเป็น Flat อีกไม่ได้ หากสังเกต ขนาดของ คลื่น {1}/Major III เมื่อเทียบกับขนาดของคลื่น {3} จะเห็นว่า คลื่น {1}-{2} มีขนาดที่เล็กมา ใน Impluse ที่มีกฏของคลื่นขยาย ที่คลื่นใด คลื่นหนึ่ง ใน 1/3/5 จะเป็น คลื่นขยาย ของ Impluse ชุดนั้นๆ ใน text book จะมีรูปแบบของ ชุดคลื่นขยาย ที่มีลักษณะเฉพาะตัว * Mastring Eliott wave [ Glenn Neely with Eric Hall ] เมื่อเกิดชุดคลื่น ที่มีคลื่น 1 เป็นคลื่นขยาย คลื่น 1 ก็จะมีขนาดใหญ่ ทำให้เกิดสามมเหลี่ยมรูปลิ่ม เมื่อเกิดชุดคลื่น ที่มีคลื่น 5 เป็นคลื่นขยาย คลื่น 1 จะมีขนาดเล็ก ทำให้เกิดรูปแบบปากลำโพง [Meagaphone] และหากสังเกต Wave Formation ของ คลื่น 1 ขยาย และคลื่น 5 ขยาย จะเห็นว่า คลื่น 4 มักปรับตัวลงมาที่เส้นรับเดียวกันกับคลื่น 2 ของชุดคลื่นขยายของมัน ใน MT4 ของ FxPro เราจะเห็นเส้นตรง ที่มีลักษณะเฉียงขึ้น ก็คือ Support Line ที่ขึ้นมาจาก wave {2} จากการที่ Major III มีคลื่น {1} ที่มีขนาดเล็ก เมื่อเราสร้างรูปแบบของแนวโน้มแบบ ชุดคลื่น 5 ขยาย ก็จะมีลักษณะออกมา แบบนี้ ใน Text Book : " Elliot wave Principle key to market behaviour" [ Frost & Prechaer] มีรูปแบบของ ราคาเป้าหมายที่ปรับตัวลงมา เมื่อเกิดรูปแบบของชุดคลื่น 5 ขยายก่อนหน้า เมื่อ Up-trend มีการทำคลื่น 5 ขยาย หากมีการปรับตัวลงมา ราคามักจะลงมาจบที่คลื่น 2 ของชุดคลื่น 5 ขยายก่อนหน้า จะเห็นว่า เรามีข้อมูลทางเทคนิคเกือบครบทุกอย่าง *1 . เมื่อคลื่น 1 มีขนาดเล็ก มักจะเกิดรูปแบบของ คลื่น 5 ขยาย *2 . เมื่อเกิดรูปแบบคลื่น 5 ขยาย คลื่น 4 มักลงมาที่เส้นรับของ คลื่น 2 *3 . เมื่อเกิดรูปแบบคลื่น 5 ขยาย จะมีการปรับตัวลงมาที่คลื่น 2 ของชุดคลื่น 5 ขยายนั้น เรามีสมมุติฐานแล้วว่า คลื่น {4} อาจจะมีการปรับตัวตามรูปแบบของ คลื่น 5 ขยาย เหลือแต่เพียง รูปแบบของ Correction ของ คลื่น {4} ที่ไม่ใช่ flat เพราะ คลื่น {2} ทำ flat ขนาดเล็ก / [simple] ไปแล้ว ตามกฏการสลับที่ ผมได้ให้ข้อสังเกต ของรูปแบบตัวสัญญาณเมื่อมีการทำ 5 คลื่น ของ Impluse ไปแล้ว ว่า ในขาขึ้น เมื่อมีการทำ 5 คลื่น รูปแบบของตัวสัญญาณมักจะแสดง "H&S" pattern ถ้าตั้งสมมุติฐานว่า คลื่น {4} มีการปรับตัว ทำ Correction ในรูปแบบ ของ Zigzag 5-3-5 การทำ 5 คลื่น ของ A-Zigzag ก็ควรมีลักษณะของตัวสัญญาณ ที่แสดงรูปแบบของตัวสัญญาณ เป็น "Inverse Head & Shoulders" [ R-H&S ] ผมก็พยายามที่จะหาตัวสัญญาณ ที่สามารถแสดงรูปแบบของ R-H&S ของ การทำ 5 คลื่นของ A-Zigzag 5-3-5 * สาเหตุที่ผมใช้ rsi5 เพราะ rsi5 สามารถแสดง Divergence ที่บางครั้ง rsi14 ไม่แสดง divergence ในกรณีเดียวกัน ผมแปลง Macd 12-26-9 มาเป็น Macd 2-8-3 เพื่อจับสัญญาณ Divergence ที่ macd 12-26-9 ไม่แสดง divergence ให้เห็น จึงเป็น ผลพลอยได้ ที่ผมได้เห็น รูปแบบของ Correction ที่ปรับตัวลงมา .ในรูปแบบการกลับตัว เมื่อลงมาจบ Major II $251 1999 เราจะเห็น Reversal pattern = R-H&S (+) falling Wedge ในการปรับฐานของ คลื่น {4} มาถึง Low $1077 ตรงนี้ ก็มีรูปแบบการกลับตัว Reversal patterns = R-H&S (+) falling Wedge ที่สำคัญ คือ สิ่งที่พวกคุณไม่เห็น แต่ผมเห็น เพราะผมใช้ rsi5 และมักจะตรวจดูรูปแบบของ Correction เป็น Case Study ของผมเอง จากรูปแบบการกลับตัว Reversal pattern = falling wedge ราคาเข้าใกล้มุม 3 เหลี่ยม เต็มที และตัวสัญญาณที่ผมดัดแปลงขึ้นมา เพื่อจับสัญญาณของ คลื่นขยาย ก้แสดงสัญญาณ Bullish Divergence รอแล้ว ลำดับคลื่นที่ผมนับได้ คือ .ในหลัก ของ Impluse คลื่น 4 จะไม่ลงมาต่ำกว่า ยอดคลื่น 1 แต่ลักษณะของ ชุดคลื่นสุดท้าย มักจะเกิดการ overlap ของ คลื่น 4 กับ 1 ซึ่งเรียกว่า "Terminal Impluse" เป็นรูปแบบของสัญญาณที่เตือนว่า ใกล้จะจบการปรับตัวของชุดคลื่นที่ลงมาแล้ว รายละเอียด คลื่นย่อย Triangle มักจะเกิดที่คลื่น 4 ของ Impluse หรือ คลื่น b ใน a-b-c formation จากข้อสังเกต : หาก คลื่น 2 มีการทำ flat หรือ Combination ที่มีขนาดเล็ก [simple] แล้ว มักจะเกิด คลื่น 4 [Complex] ที่เป็น Triangle ['sear328] * จากกราฟ (บน) จะเห็นว่า คลื่น (v)/3 เป็น คลื่นขยาย ที่มีขนาด " w5-ext. = 100% [w1+w3] " ในกราฟนี้ http://upic.me/i/65/utrsi.png ราคาใกล้มุม 3 เหลี่ยมของรูปแบบกลับตัว ทำให้คาดว่า การลงจบ คลื่น (v)/5/(5)/[5]/A คงลงทำ low ใหม่ไม่ลึกมากแล้ว * อาจจะลงมาจบ [5]/A-zigzag ระหว่าง $1064-1052 * โปรดใช้วิจารณญาณของท่าน ในการรับข้อมูล

The Gold Carry Trade http://whiskeyandgun...ld-carry-trade/ How Does the Gold Carry Trade Work? Gold leasing takes three different forms: direct leasing, central bank swaps, and forward hedging. Direct Leasing I am going to run through this in a simple step-by-step process. Central banks don’t directly take their bullion to the market and lease it out. They use a vehicle called a bullion bank (BB). Although bullion banks are numerous, some of the more well known are Barclays, Goldman Sachs, JP Morgan, Bank of America, UBS, and Citibank. อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมทองมาปล่อย ติดลบ การที่ปริมาณทองคำ ในบัญชี ยังเป็น 8000 ตัน เพราะ ธนาคารกลาง ให้ Bullion bank "ยืมทอง" ไปปล่อย กรรมสิทธิ์ในทองคำ ยังคงเป็นของธนาคารกลาง .. ที่ Bullion bank ต้องหา/ช้อนทองมาคืน

ราคากำลังรอเบรคเทรน อยู่ในกรอบ 3 เหลี่ยม Symmetrical Triangle คาดว่า มีแนวรับที่ 1465-1466 .. ก่อนดีดขึ้นฝ่าแนวต้าน เพื่อทำคลื่น 5 ของ C ของ iv ต่อไป

ภาพรวมยังคงเดิม..เป็นการรีบาวน์ของคลื่น iv ของ 5 ของ 3 ( ที่คลื่น 5 ของ 3 เป็น คลื่นขยาย) * แถบสีม่วง คือ แนวต้านใหญ่ ที่ไม่น่ารีบาวน์ผ่านขึ้นไปได้ คลื่น iv ของ 5 ของ 3 คลื่น A เป็น Traingle .. คลื่น C กำลังทำ 5 คลื่นขึ้นไป หาก C = A น่าจะจบคลื่น IV แถวๆ 1524-1525 แนวโน้มระยะสั้น กำลังลงมาทำ คลื่น 4 ของ C .. ประมาณ 1444-1441 * โปรดใช้วิจารณญาณของท่าน ในการรับข้อมูล

คลื่นที่รีบาวน์ขึ้นมา ทำ Triangle ซึ่งได้คาดการณ์ไว้ว่า .. คลื่นนี้ เป็น คลื่น 4 ของ 3 ดังจะเห็น ตำแหน่งของ คลื่น 4 เมื่อเป็น Complex มักจะทำ Triangle คาดว่า ขณะนี้ กำลังทำ คลื่น 2 ของ 5 ที่เป็น Flat 3-3-5 โดย C = 161.8%[A] = 1433 จะเห็นราคาที่ดีดขึ้นมา ติดเส้นรับเป็นต้าน ของ triangle

คลื่น 4 ของ Major III กำลังทำคลื่น 4 ของ 5 (ของ 3) ก่อนลงมาจบ คลื่น 3 คลื่น 5 ของ 3 เป็น คลื่นขยาย W5 = 161.8%[w1+w3] = 1290 [ การคาดการณ์ .. การเกิดคลื่น 5 ขยาย 1. คลื่น 3 ยาวกว่า คลื่น 1 .. แต่ยาวไม่ถึง 161.8% ของคลื่น 1 2. คลื่น 4 เป็น C-wave failure ] Rising Wedge อธิบาย .. การวัดเป้า คลื่น 5 ขยาย ในตอนเริ่มขาขึ้น จาก. $681 ปี 2008 คลื่น 3 ย่อย ของ 3 ยาวไม่ถึง 161.8% ของ คลื่น 1 ย่อย จึงมีการนับคลื่น 1 ของ 5 .. ในยอดคลื่นต่อไป แต่คลื่น 3 ของ 5 ก็ยังยาวไม่ถึง 161.8% ของ คลื่น 1 ของ 5 จึงต้องมีการนับคลื่นขยายต่อๆ กันไปอีก ในช่วงขาขึ้น ก็เกิด คลื่น 5 ขยาย ซึ่งสามารถวัดเป้าของ คลื่น 5 ขยาย W5 = 161.8%[w1+w3] คือ w1+w3 = 100% ยก 0% มาวางที่คลื่น 4 จะได้ w5 = 161.8%[w1+w3] พอดี ในขาลง มีการทำ 5 คลื่นใหญ่ ของ C โดยคลื่น 3 เป็นคลื่นขยาย และคลื่น 5 ของ 3 เป็น คลื่นขยาย w1+w3 = 100% คลื่น 5 ของ 3 เป็น คลื่นขยาย W5 = 161.8%[w1+w3] = 1290 อนึ่ง คลื่น 2 สีแดง เป็น Zigzag = Simple Correction คลืน 4 จะเป็น Complex Correction น่าจะดีดขึ้นมาได้สูงพอสมควร เพราะในขณะนี้ เกิด Pattern >>> Broadening Bottom (ในอดีต เกิด Broadening Bottom ที่มีการลงมาทำ คลื่น C .. 5 คลื่น) [ คือ pattern การกลับตัว เมื่อทำ R_H&S ]

ทองแดง มักใช้ในอุตสาหกรรม ในสภาวะที่เศรษฐกิจหดตัวกันทั่วโลก ดูอย่างจีน ยังส่งออกลดลง ดังนั้น สภาวะขาดแคลนทองแดงในช่วงนี้ จึงไม่ส่งผลกระทบมากนัก