ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

ตู้เย็น

ขาประจำ
  • จำนวนเนื้อหา

    426
  • เข้าร่วม

  • เข้ามาล่าสุด

  • วันที่ชนะ

    1

ทุกๆอย่างที่โพสต์โดย ตู้เย็น

  1. ขอบคุณค่ะ คุณ news, คุณ ginger, คุณ บาส กลับมาแล้วเหรอค่ะ คุณบาส อยากเห็นรูปน่ารัก น่ารัก ของน้องบีม จังเลย
  2. ขอบคุณค่ะ คุณบอย คุณดอด คุณญ่า
  3. ถึงสิเซ้า แต่กะมัก เพลงเซ้า แต่คนสดใส อะฮ่า !!!!!
  4. ขอบคุณค่ะ คุณเด็กขายของ วันนี้ไม่มี 3 รหัสเหรอค่ะ
  5. ขอบคุณค่ะ คุณ ginger หวัด D ชาย yot
  6. ขอบคุณค่ะ คุณ fairy สำหรับภาพสวย ๆ สื่อธรรมะดี ๆ ขอบคุณค่ะ คุณเด็กสยาม สำหรับข้อมูลรังวัด หวัด D คุณ lavender, คุณ Hong สงกะสัยว่า ราคาจะลงมาตามคำทำนายชาย yot อะป่าวหว่า ???
  7. ขอบคุณค่ะ ชาย yot เพลงโปรดเลยนะจ๊ะ !!!!!! ขอบอก
  8. ขอบคุณค่ะ คุณ ginger สำหรับคดีลักทรัพย์
  9. อู๊ย !!!! บอกแต่น้องบอยลบ ตัวเองก็พกมาด้วย..... วันนี้ เน็ตไม่ค่อยเป็นใจ ช้าเป็นน้องเต่า เดี๋ยวเย็น ๆ พี่แว่ะมาทักทายค่ะ
  10. น้องบอยขา วันนี้พึ่งว่างได้เข้ามาค่ะ แม้ไม่มีลิงค์ ก็ถือว่าเป็นการโหลดภาพมาแปะค่ะ น้องบอยคงต้องลบแล้วหล่ะค่ะ อาจเข้าข่าย ละเมิดลิขสิทธิ์ค่ะ ดังนั้นไม่ว่าภาพ เสียง หรือมีการเคลื่อนไหว อาจเข้าข่ายค่ะ เชื่อว่าภาพยนตร์เรื่องนี้น่าจะมีลิขสิทธิ์ค่ะ วิธีแก้ไขคือ ให้ใช้การพิมพ์ค่ะ ยกตัวอย่างนะคะ "น้องบอย อยากให้ไปลองชม THE LAST EXORCISM " หรือ เหมือนที่คุณเด็กขายของพิมพ์ว่า "ไปดูนางฟ้า" มา เป็นต้น ถ้าข้อความเช่นนี้ไม่เข้าข่ายค่ะ เพราะไม่ใช่ภาพ ไม่ใช่ตัวหนังสือของเขา แต่เป็นของเราพิมพ์เอง เพื่อยกตัวอย่างค่ะ
  11. รักษาสุขภาพด้วยนะคะ น้องญ่า
  12. ขอบคุณในความ "เสียสละ" ของกูรู ทุกท่านในไทยโกลด์นะคะ คุณกัมพล, คุณซี, คุณมดแดง, คุณ เคน, อ.จิ๋ว, คุณหมอเล็ก, คุณงูดิน, คุณดอน คุณดอกเหมย คุณTfex, คุณดอด คุณบอย คณญ่า,คุณน้องรี, คุณเด็กขายทอง, คุณบาส, คุณnew,คุณบอนไซ, คุณ ginger คนงาม, และทุก ๆท่านที่เอ่ยนามไม่ครบ ที่เสียสละเวลา ทั้งแรงกาย แรงใจ เพื่อให้สมาชิกได้รับข้อมูลข่าวสารในการลงทุน เพื่อไม่ให้พวกเรา ตกเป็นเหยื่อของสนามการลงทุน ที่มีทั้งน้ำตาของผู้ขาดทุนและรอยยิ้ม ของผู้ได้กำไร ความเสียสละของทุกท่านเป็นเรื่องยิ่งใหญ่มาก หากคุณตู้เย็น ไม่ได้ลองนำเสนอบทความเกี่ยวกับเรื่องลิขสิทธิ์ ก็จะไม่ทราบเลยว่า ทุกคนต้องเสียสละเวลามากแค่ไหน...จำได้ว่าเหมือนเคยอ่านของคุณซี ที่บอกว่า คนทำกราฟต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการทำมาก แต่คนอ่าน เปิดอ่านผ่าน ๆ แป๊บ ๆ แค่ไม่กี่นาที.... จึงซาบซึ้งกับคำว่า "เสียสละ" ของทุกคนที่มีให้แก่สมาชิก เพราะต้องใช้ความรู้ ความสามารถ ที่แต่ละท่านถนัด ไหนจะข้อมูลอ้างอิงเพื่อ ประกอบการวิเคราะห์ จึงไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย ฉะนั้นเราชาวสมาชิกต้อง เก็บเกี่ยวความเสียสละนี้ ให้มากที่สุดค่ะ
  13. ขอบคุณค่ะ คุณginger สำหรับข้อมูลข่าวสารในวันหยุด
  14. เป็นนักกฎหมายอิสระค่ะ คุณบอย ไม่ค่อยเก่งหรอกนะคะ เพียงแต่สมัยตอนที่พี่เรียนโท พี่ทำ IS เกี่ยวกับเรื่องนี้พอดี จึงพอมีข้อมูลค่ะ แต่เรื่องกราฟ และการวิเคราะห์ราคาทองคำ ยังไงต้องขอศึกษาจากน้องบอย น้องญ่า และจานดอดนะคะ....แบบว่ามือใหม่ป้ายแดงจริง ๆ ค่ะ ขอบคุณทั้ง 3 ท่านอีกครั้งหนึ่งค่ะ
  15. ขอบคุณค่ะ คุณบอย คุณดอด คุณญ่า
  16. Piano กะม่วน...กล้วยไม้กะงาม ถืกใจเอื้อยคัก...มักหล๊าย หลาย ดอกกล้วยไม้ ขอบคุณหลาย ๆ น้องหล้า เอ....ว่าแต่วันนี้ ชาย yot หายไปไหนนะ เอ้า !! ลืมไปว่าวันหยุด...ไปเที่ยวไหนเอ่ย ??
  17. ขอบคุณสำหรับข้อมูลข่าวสาร และภาพสวย ๆ ค่ะ ดูแล้วสบายตา สบายใจ จิตใจเบิกบาน
  18. หวัด D ค่ะ คุณ lavender แฮ่ะ...แฮ่ะ ยังเล่นแบบคุณ lavender ไม่เป็นเลยค่ะ ตอนนี้เล่นทองแท่งอย่างเดียวค่ะ กะว่าฝึกวิทยายุทธ ให้แน่น ๆ ก่อนค่ะ จึงจะกล้าลงสู่อีกสนาม ตอนนี้กำลังใช้เวลาในการศึกษาให้มากที่สุดค่ะ ทองแท่งก็ระทึกเหมือนกันนะคะ ม่วนไปอีกแบบ !!!!!
  19. คุณ ginger, ชาย yot, คุณ fairy ขออนุญาตแปะไว้ที่ห้องด้วยนะคะ เผื่อจะเป็นประโยชน์ในการศึกษาเพิ่มเติมค่ะ เพิ่มเติมอีกนิดนะคะ สืบเนื่องจากมีกฎหมายที่เกี่ยวเนื่องกันกับ พ.ร.บ ลิขสิทธิ์ 2537 หากไม่นำมาลงข้อมูลอาจไม่ครบถ้วน จึงต้องนำมาลงควบคู่กันไปค่ะ นอกจาก พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ 2537 แล้ว จะมีกฎหมายอีกตัวหนึ่งที่ใกล้เคียงและเคียงคู่กันไป เพราะเมื่อมีการตั้งข้อหาหรือจับตาม พ.ร.บ ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ไม่ได้ ก็มักจะจับตาม พ.ร.บ. ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551 หลายท่านคงจำกรณี “คนเก็บขยะขายแผ่นซีดี” ปรากฏต่อสาธารณชนทางสื่อมวลชนทั้งทางหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ ที่ผ่านมา จากการที่นายสุรัตน์ มณีนพรัตน์สุดา ลูกจ้างพนักงานเก็บขยะประจำเขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร นำแผ่นซีดีที่เก็บได้จากกองขยะไปวางขายตลาดนัดย่านตลาดหน้าหมู่บ้านนักกีฬา เขตหัวหมาก จำหน่ายแผ่นละ 20 บาท โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพื่อหาเงินมาเลี้ยงชีพจุนเจือครอบครัวและเลี้ยงลูกสาว 2 คน ในวัย 6 ขวบ และ 4 เดือน แต่ถูกตำรวจจับกุมในข้อหาจำหน่ายแผ่นซีดีโดยไม่ได้รับ ใบอนุญาตประกอบกิจการให้เช่า แลกเปลี่ยน หรือจำหน่ายวิดีทัศน์ ตามพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวิดีทัศน์ พ.ศ. 2551 มาตรา 54 ประกอบมาตรา 82 พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง และศาลพิจารณาพิพากษาปรับเป็นเงิน 200,100 บาท แต่ลดโทษเหลือปรับเป็นเงิน 133,400 บาท ซึ่งการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมเป็นอย่างมากถึงการใช้กฎหมายต้องคู่กับคุณธรรม ซึ่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 อาจครอบคลุมไม่ถึงการจำหน่ายนั่นเอง และเชื่อว่าหลายท่านอาจมีญาติพี่น้อง ลูกหลาน เปิดร้านขายอาหาร-เครื่องดื่ม เปิดร้านขายแผ่นซีดี เปิดร้านเกม เปิดร้านคาราโอเกะ เปิดร้านจำหน่ายตุ๊กตา สิ่งที่เข้ามารบกวนร้านค้าเหล่านี้คือ พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ฯ และพ.ร.บ. ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551 ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเราซื้อแผ่นซีดีเพลงหรือแผ่นภาพยนตร์ เราสามารถนำไปเปิดในร้านอาหารของตนเองได้หรือไม่ หรือเมื่อเรามีแผ่นซีดีหรือแผ่นภาพยนตร์เยอะแยะมากมาย เราสามารถนำไปจำหน่ายได้หรือไม่ ทั้ง ๆ ที่เป็นของเราเอง ขอแยกเป็นกรณี ๆ ดังนี้นะคะ กรณีที่ 1 หากแผ่นที่เรานำมาเปิดในร้านอาหารของเรา เป็นแผ่นแท้หรือแผ่นลิขสิทธิ์ และการเปิดแผ่นซีดีเพลงหรือแผ่นภาพยนตร์ วัตถุประสงค์เพื่อสร้างบรรยากาศในร้านและบริการลูกค้าโดยไม่คิดค่าบริการ เท่ากับเราไม่ได้ประโยชน์เพิ่มเติม สามารถเปิดหรือกระทำได้ ควรเก็บใบเสร็จรับเงินการซื้อแผ่นซีดีไว้ด้วย เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าเราซื้อมาจริง แต่หากเราเปิดเพลงแล้วมีการเก็บค่าบริการ เช่น มีบริการให้ลูกค้าร้องคาราโอเกะ คิดค่าบริการเพลงละ 10 บาท หรือ Load จาก Net ขึ้นโปรเจคเตอร์ หรือขึ้นจอ LCD วันดีคืนดี อาจมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทต่าง ๆ มาล่อซื้อ โดยแฝงตัวเป็นแขกของร้านเข้าไปทานอาหาร สั่งเครื่องดื่ม อยากร้องเพลงเราก็เปิดเพลงให้ร้อง ไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตามมาพร้อมหมายจับ และแจ้งว่าเราละเมิดลิขสิทธิ์ และไม่มีใบอนุญาตให้ประกอบกิจการร้านวีดิทัศน์ เพราะมีการเก็บค่าบริการ ส่วนใหญ่เมื่อเจอปัญหาดังกล่าว ร้านค้ามักไม่อยากเสียเวลาไปศาล และไม่อยากโดนปั้มลายนิ้วมือเพราะทำให้มีประวัติคดีอาญา จึงเป็นประเด็นให้หน่วยล่อซื้อและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตั้งศาลเตี้ย เรียกเอาประโยชน์จากร้านได้อย่างง่าย ๆ สบาย ๆ กรณีที่ 2 หากแผ่นที่เราซื้อเป็นแผ่นไม่แท้คือไม่มีลิขสิทธิ์ มีการ copy มาจากแผ่นลิขสิทธิ์ แล้วนำมาจำหน่ายให้กับเรา เช่น 3 แผ่นร้อย แบบที่คุณตู้เย็นชอบซื้อ ร้านทั่วไปมักไม่ออกใบเสร็จให้เราแน่นอน กรณีนี้เมื่อมีการล่อซื้อ จะโดนข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ทันที มี case study ตลก ๆ ขำ ๆ ว่า "ร้านขายของแบะกะดิน ทุกอย่าง 10 บาท" โดนจับข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ เพราะเปิดเพลงดึงดูดลูกค้า หลายคนถึงกับอึ้งว่า จับได้อย่างไร คนทำมาหากิน ปัญหาอยู่ที่แผ่นที่นำมาเปิด เป็นแผ่นที่ผ่านการ copy มาจากแผ่นลิขสิทธิ์ และร้านทุกอย่าง 10 บาทนำออกเผยแพร่ต่อสาธารณะ โดยการเปิดเสียงดังเพื่อดึงดูดลูกค้า เป็นความผิดซึ่งหน้า จับได้โดยไม่ต้องมีหมายจับ ช่างทำไปได้ !!!!!! กรณีที่ 3 แม้จะเป็นแผ่นแท้หรือแผ่นมีลิขสิทธิ์ เป็นแผ่นที่เราซื้อมาโดยชอบด้วยกฎหมาย มีใบเสร็จรับเงินเรียบร้อย แต่หากมีการนำไปวางขายหรือจำหน่าย จะมีความผิดฐานจำหน่ายแผ่นซีดีโดยไม่ได้ใบอนุญาตมาตรา 54 ประกอบกับมาตรา 82 คือปรับตั้งแต่ 100,000 – 500,000 บาท กฎหมายฉบับนี้เขาเรียกมือสังหารร้านขายแผ่นซีดี ด้วยเหตุที่มีอัตราโทษปรับสูงมาก ขั้นต่ำคือ 100,000 บาท ให้สังเกตคำว่า “ตั้งแต่” ดังนั้นไม่ว่าร้านใหญ่ ร้านเล็ก วางขายตลาดนัด หรือขายแผ่นซีดีเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ และไม่ว่าจะจำหน่ายเพียง 1 แผ่นหรือกี่พันแผ่น ปรับเท่ากันหมดคือตั้งแต่ 100,000 บาท และสูงสุดคือ 500,000 บาท ดังนั้น หน่วยล่อซื้อมักถามว่าจะให้ใช้ พ.ร.บ. ไหน จะจ่ายหมื่นห้า หรือจะจ่ายห้าแสน เป็นต้น ดังนั้น เมื่อเป็นกฎหมายแล้ว เราเป็นเพียงประชาชน คนธรรมดา จะอ้างว่าไม่รู้กฎหมายก็ไม่ได้ เพราะกฎหมายปิดปาก คำว่ากฎหมายปิดปากไม่ใช่ภาษาที่ไม่สุภาพนะคะ แต่เป็นภาษาที่เราใช้กันเพื่อให้เข้าใจง่าย คำนี้ มาจากประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 64 “บุคคลจะแก้ตัวว่าไม่รู้กฎหมายเพื่อให้พ้นจากความรับผิดในทางอาญาไม่ได้ เว้นแต่.....” ดังนั้นเราจะรู้หรือไม่รู้กฎหมายก็ตาม เราไม่อาจอ้างได้ กฎหมายจึงปิดปากว่า เมื่อเป็นกฎหมายแล้ว เราต้องรู้ จะตอบว่าไม่รู้ไม่ได้ จึงทำได้เพียงระมัดระวัง และรู้เท่าทันหน่วยล่อซื้อ เพื่อให้เราหลุดพ้นจากการเอารัดเอาเปรียบอันเนื่องมาจากช่องว่างของกฎหมายนั่นเองค่ะ
  20. เพิ่มเติมอีกนิดนะคะ สืบเนื่องจากมีกฎหมายที่เกี่ยวเนื่องกันกับ พ.ร.บ ลิขสิทธิ์ 2537 หากไม่นำมาลงข้อมูลอาจไม่ครบถ้วน จึงต้องนำมาลงควบคู่กันไปค่ะ นอกจาก พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ 2537 แล้ว จะมีกฎหมายอีกตัวหนึ่งที่ใกล้เคียงและเคียงคู่กันไป เพราะเมื่อมีการตั้งข้อหาหรือจับตาม พ.ร.บ ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ไม่ได้ ก็มักจะจับตาม พ.ร.บ. ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551 หลายท่านคงจำกรณี “คนเก็บขยะขายแผ่นซีดี” ปรากฏต่อสาธารณชนทางสื่อมวลชนทั้งทางหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ ที่ผ่านมา จากการที่นายสุรัตน์ มณีนพรัตน์สุดา ลูกจ้างพนักงานเก็บขยะประจำเขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร นำแผ่นซีดีที่เก็บได้จากกองขยะไปวางขายตลาดนัดย่านตลาดหน้าหมู่บ้านนักกีฬา เขตหัวหมาก จำหน่ายแผ่นละ 20 บาท โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพื่อหาเงินมาเลี้ยงชีพจุนเจือครอบครัวและเลี้ยงลูกสาว 2 คน ในวัย 6 ขวบ และ 4 เดือน แต่ถูกตำรวจจับกุมในข้อหาจำหน่ายแผ่นซีดีโดยไม่ได้รับ ใบอนุญาตประกอบกิจการให้เช่า แลกเปลี่ยน หรือจำหน่ายวิดีทัศน์ ตามพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวิดีทัศน์ พ.ศ. 2551 มาตรา 54 ประกอบมาตรา 82 พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง และศาลพิจารณาพิพากษาปรับเป็นเงิน 200,100 บาท แต่ลดโทษเหลือปรับเป็นเงิน 133,400 บาท ซึ่งการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมเป็นอย่างมากถึงการใช้กฎหมายต้องคู่กับคุณธรรม ซึ่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 อาจครอบคลุมไม่ถึงการจำหน่ายนั่นเอง และเชื่อว่าหลายท่านอาจมีญาติพี่น้อง ลูกหลาน เปิดร้านขายอาหาร-เครื่องดื่ม เปิดร้านขายแผ่นซีดี เปิดร้านเกม เปิดร้านคาราโอเกะ เปิดร้านจำหน่ายตุ๊กตา สิ่งที่เข้ามารบกวนร้านค้าเหล่านี้คือ พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ฯ และพ.ร.บ. ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551 ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเราซื้อแผ่นซีดีเพลงหรือแผ่นภาพยนตร์ เราสามารถนำไปเปิดในร้านอาหารของตนเองได้หรือไม่ หรือเมื่อเรามีแผ่นซีดีหรือแผ่นภาพยนตร์เยอะแยะมากมาย เราสามารถนำไปจำหน่ายได้หรือไม่ ทั้ง ๆ ที่เป็นของเราเอง ขอแยกเป็นกรณี ๆ ดังนี้นะคะ กรณีที่ 1 หากแผ่นที่เรานำมาเปิดในร้านอาหารของเรา เป็นแผ่นแท้หรือแผ่นลิขสิทธิ์ และการเปิดแผ่นซีดีเพลงหรือแผ่นภาพยนตร์ วัตถุประสงค์เพื่อสร้างบรรยากาศในร้านและบริการลูกค้าโดยไม่คิดค่าบริการ เท่ากับเราไม่ได้ประโยชน์เพิ่มเติม สามารถเปิดหรือกระทำได้ ควรเก็บใบเสร็จรับเงินการซื้อแผ่นซีดีไว้ด้วย เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าเราซื้อมาจริง แต่หากเราเปิดเพลงแล้วมีการเก็บค่าบริการ เช่น มีบริการให้ลูกค้าร้องคาราโอเกะ คิดค่าบริการเพลงละ 10 บาท หรือ Load จาก Net ขึ้นโปรเจคเตอร์ หรือขึ้นจอ LCD วันดีคืนดี อาจมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทต่าง ๆ มาล่อซื้อ โดยแฝงตัวเป็นแขกของร้านเข้าไปทานอาหาร สั่งเครื่องดื่ม อยากร้องเพลงเราก็เปิดเพลงให้ร้อง ไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตามมาพร้อมหมายจับ และแจ้งว่าเราละเมิดลิขสิทธิ์ และไม่มีใบอนุญาตให้ประกอบกิจการร้านวีดิทัศน์ เพราะมีการเก็บค่าบริการ ส่วนใหญ่เมื่อเจอปัญหาดังกล่าว ร้านค้ามักไม่อยากเสียเวลาไปศาล และไม่อยากโดนปั้มลายนิ้วมือเพราะทำให้มีประวัติคดีอาญา จึงเป็นประเด็นให้หน่วยล่อซื้อและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตั้งศาลเตี้ย เรียกเอาประโยชน์จากร้านได้อย่างง่าย ๆ สบาย ๆ กรณีที่ 2 หากแผ่นที่เราซื้อเป็นแผ่นไม่แท้คือไม่มีลิขสิทธิ์ มีการ copy มาจากแผ่นลิขสิทธิ์ แล้วนำมาจำหน่ายให้กับเรา เช่น 3 แผ่นร้อย แบบที่คุณตู้เย็นชอบซื้อ ร้านทั่วไปมักไม่ออกใบเสร็จให้เราแน่นอน กรณีนี้เมื่อมีการล่อซื้อ จะโดนข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ทันที มี case study ตลก ๆ ขำ ๆ ว่า "ร้านขายของแบะกะดิน ทุกอย่าง 10 บาท" โดนจับข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ เพราะเปิดเพลงดึงดูดลูกค้า หลายคนถึงกับอึ้งว่า จับได้อย่างไร คนทำมาหากิน ปัญหาอยู่ที่แผ่นที่นำมาเปิด เป็นแผ่นที่ผ่านการ copy มาจากแผ่นลิขสิทธิ์ และร้านทุกอย่าง 10 บาทนำออกเผยแพร่ต่อสาธารณะ โดยการเปิดเสียงดังเพื่อดึงดูดลูกค้า เป็นความผิดซึ่งหน้า จับได้โดยไม่ต้องมีหมายจับ ช่างทำไปได้ !!!!!! กรณีที่ 3 แม้จะเป็นแผ่นแท้หรือแผ่นมีลิขสิทธิ์ เป็นแผ่นที่เราซื้อมาโดยชอบด้วยกฎหมาย มีใบเสร็จรับเงินเรียบร้อย แต่หากมีการนำไปวางขายหรือจำหน่าย จะมีความผิดฐานจำหน่ายแผ่นซีดีโดยไม่ได้ใบอนุญาตมาตรา 54 ประกอบกับมาตรา 82 คือปรับตั้งแต่ 100,000 – 500,000 บาท กฎหมายฉบับนี้เขาเรียกมือสังหารร้านขายแผ่นซีดี ด้วยเหตุที่มีอัตราโทษปรับสูงมาก ขั้นต่ำคือ 100,000 บาท ให้สังเกตคำว่า “ตั้งแต่” ดังนั้นไม่ว่าร้านใหญ่ ร้านเล็ก วางขายตลาดนัด หรือขายแผ่นซีดีเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ และไม่ว่าจะจำหน่ายเพียง 1 แผ่นหรือกี่พันแผ่น ปรับเท่ากันหมดคือตั้งแต่ 100,000 บาท และสูงสุดคือ 500,000 บาท ดังนั้น หน่วยล่อซื้อมักถามว่าจะให้ใช้ พ.ร.บ. ไหน จะจ่ายหมื่นห้า หรือจะจ่ายห้าแสน เป็นต้น ดังนั้น เมื่อเป็นกฎหมายแล้ว เราเป็นเพียงประชาชน คนธรรมดา จะอ้างว่าไม่รู้กฎหมายก็ไม่ได้ เพราะกฎหมายปิดปาก คำว่ากฎหมายปิดปากไม่ใช่ภาษาที่ไม่สุภาพนะคะ แต่เป็นภาษาที่เราใช้กันเพื่อให้เข้าใจง่าย คำนี้ มาจากประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 64 “บุคคลจะแก้ตัวว่าไม่รู้กฎหมายเพื่อให้พ้นจากความรับผิดในทางอาญาไม่ได้ เว้นแต่.....” ดังนั้นเราจะรู้หรือไม่รู้กฎหมายก็ตาม เราไม่อาจอ้างได้ กฎหมายจึงปิดปากว่า เมื่อเป็นกฎหมายแล้ว เราต้องรู้ จะตอบว่าไม่รู้ไม่ได้ จึงทำได้เพียงระมัดระวัง และรู้เท่าทันหน่วยล่อซื้อ เพื่อให้เราหลุดพ้นจากการเอารัดเอาเปรียบอันเนื่องมาจากช่องว่างของกฎหมายนั่นเองค่ะ
  21. ขอบคุณค่ะ คุณ fairy สวยมั่ก มั่ก....
  22. หวัด D ค่ะ คุณ lavender มีราคาในใจรึยังค่ะ...หรือว่ายังลุ้นอยู่เอ่ย !!!!!
×
×
  • สร้างใหม่...