ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

ค้นหาในชุมชน

แสดงผลลัพธ์สำหรับแท็ก 'เสริมหน้าอก ศัลยกรรมเสริมหน้าอก '

  • ค้นหาโดยแท็ก

    พิมพ์แท็กแยกด้วยเครื่องหมายลูกน้ำ
  • ค้นหาโดยผู้เขียน

ประเภทเนื้อหา


ฟอรั่ม

  • มุมมือใหม่ หัดใช้เวปบอร์ด
    • แนะนำการใช้งานเวปบอร์ด
  • สภากาแฟ
    • สภากาแฟ
    • บทวิเคราะห์ราคาทองคำ
    • วิเคราะห์หุ้น-การเงิน-การลงทุน
    • เตือนภัยสังคม
    • เปิดประเด็น
  • เนื้อหาสาระเกี่ยวกับทองคำ การลงทุน
    • บทความเกี่ยวกับทองคำ
    • บทเรียนเกี่ยวกับทองคำ
    • ข่าวราคาทองคำ การลงทุน
    • การใช้งาน Software
  • นอกเรื่องนอกราว
    • เก็บมาฝาก
    • IT เทคโนโลยี
    • มุมสุขภาพ
    • ชวนกันทำบุญ
    • โฆษณา-ประชาสัมพันธ์

หมวด

  • Articles
    • Forum Integration
    • Frontpage
  • Pages
  • Miscellaneous
    • Databases
    • Templates
    • Media
  • รวมบทความ

บล็อก

ไม่มีผลลัพธ์จะแสดง

ไม่มีผลลัพธ์จะแสดง

หมวด

  • แฟ้มสาระ
    • MT4 Stuffs
    • Seminar ThaiGOLD 4
  • แฟ้มทั่วไป
    • เพลงน่าฟัง
    • อื่นๆอีกมากมาย

ค้นหาผลลัพธ์ใน...

ค้นหาผลลัพธ์ซึ่ง ...


วันที่สร้าง

  • เริ่ม

    สิ้นสุด


อัปเดตล่าสุด

  • เริ่ม

    สิ้นสุด


กรองโดยสมาชิกของ

เข้าร่วม

  • เริ่ม

    สิ้นสุด


กลุ่ม


AIM


MSN


Website URL


ICQ


Yahoo


Jabber


Skype


ความชื่นชอบ

พบผลลัพธ์จำนวน 1 รายการ

  1. ปัจจุบันการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งได้รับความนิยมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดโดยการฉีดยาชา เช่น การเสริมจมูก ทำตา 2 ชั้น เป็นต้น หรือจะเป็นการผ่าตัดที่ต้องดมยาสลบ เช่น การผ่าตัดเสริมหน้าอก การผ่าตัดดึงหน้า เป็นต้น แต่มีการผ่าตัดที่มีสถิติสูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่เฉพาะในกลุ่มคนไทย แต่รวมถึงชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาผ่าตัดในประเทศไทยด้วยนั้น คือ “การผ่าตัดเสริมหน้าอก” โดยเป็นการผ่าตัดเพื่อเพิ่มขนาดของเต้านมให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ไม่เพียงแต่เพื่อความสวยงาม แต่ยังรวมไปถึงแก้ไขความผิดปกติที่เกิดจากการรักษามะเร็งเต้านมอีกด้วย วัตถุประสงค์หลักๆ ของการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งเสริมหน้าอก · แก้ปัญหาเต้านมไม่ได้รูปทรงที่สวยงาม ทำขนาดเล็กให้ใหญ่ หรือทำขนาดที่ใหญ่เกินไปให้เล็กลง · แก้ปัญหาหย่อนคล้อย สร้างเต้านมใหม่สำหรับผู้ป่วยมะเร็งหลังตัดเต้านม ปรับเปลี่ยนรูปร่าง และขนาดของหัวนมก็สามารถทำได้ด้วย ซิลิโคนสำหรับการเสริมหน้าอก สามารถแบ่งชนิดได้ตามรูปทรง ดังนี้ · ซิลิโคนเสริมหน้าอกทรงกลม เป็นลักษณะที่เลือกใช้กันมากที่สุด · ซิลิโคนเสริมหน้าอกทรงหยดน้ำ เหมาะสำหรับรูปร่างสูงบาง ลดปัญหาเต้านมทรงลูกบอล ขนาดและลักษณะของซิลิโคนสำหรับการศัลยกรรมเสริมหน้าอก เริ่มต้นตั้งแต่ 100 ซีซี ไปจนถึง 800-1000 ซีซี ตามแต่ความเหมาะสม ซึ่งควรได้รับการวิเคราะห์แนะนำโดยศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง ซึ่งซิลิโคนสำหรับการเสริมหน้าอก สามารถจำแนกได้ 2 ลักษณะ คือ · ผิวทราย เป็นมาตรฐานที่ใช้กันมากที่สุดในช่วง 30 ปี ที่ผ่านมา แต่ล่าสุดมีรายงานว่า ซิลิโคนสำหรับการเสริมหน้าอกลักษณะผิวเรียบอาจจะมีความเสี่ยงกับการเกิดมะเร็งเม็ดเลือดขาวได้ (breast implant associated anaplastic large cell lymphoma) · ผิวเรียบ ใช้กันดั้งเดิมก่อนมีการผลิตผิวทราย ไม่มีการรายงานว่าเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งเม็ดเลือดขาว สารภายในถุงเต้านมเทียม ปัจจุบันจะมีการใช้งาน เพียง 2 ชนิด คือ · ถุงน้ำเกลือ ภายในตัวถุงจะเป็นน้ำเกลือ ซึ่งหากรั่วออกมา ร่างกายสามารถดูดซึมกลับไปได้ทั้งหมด · ถุงซิลิโคนเจล ให้สัมผัสที่นุ่มหยุ่นเป็นธรรมชาติมากกว่า หากรั่วออกมาจากตัวถุงหุ้มร่างกาย ไม่สามารถดูดซึมไปได้เอง โครงสร้างเหนียวยึดเกาะกันเอง สามารถลดการกระจายได้เมื่อรั่วซึม ตำแหน่งการสร้างแผลผ่าตัดเพื่อการศัลยกรรมเสริมหน้าอก · แนวแผลผ่าตัดเสริมหน้าอกใต้ฐานขอบใต้ราวนม ได้เต้านมที่ตำแหน่งแม่นเท่ากันที่สุด เกิดการช้ำน้อย และไม่มีโอกาสเกิดปัญหาหัวนมชา หรือท่อน้ำนมอุดตันบาดเจ็บ · แนวแผลผ่าตัดเสริมหน้าอกที่รักแร้ ไม่มีรอยแผลบนเต้านม แต่การผ่าตัดค่อนข้างเป็นไปด้วยความลำบาก เพราะจะมองไม่เห็นจุดเลือดออกขณะผ่าตัด การกำหนดตำแหน่งซิลิโคนแม่นยำต่ำกว่า มีโอกาสเกิดผังผืดมากกว่า เพราะเป็นการเลาะโพรงด้วยการแหวกเนื้อ (blunt dissection) ศัลยแพทย์บางท่านใช้กล้องผ่าตัดร่วมด้วยเพื่อลดปัญหา · แนวแผลผ่าตัดเสริมหน้าอกรอบปานนม รอยแผลครึ่งวงกลมตามแนวปานนม มีความเสี่ยงบาดเจ็บเส้นประสาทและท่อน้ำนมมากกว่าวิธีอื่น · แนวแผลผ่าตัดเสริมหน้าอกบริเวณสะดือ เป็นวิธีที่แผลเล็กที่สุด และไม่มีแผลบนเนื้อเต้านม ความยากคือการสอดถุงน้ำเกลือผ่านแผลสะดือ และเติมน้ำเกลือจนพองได้รูป ซับซ้อนมากกว่าวิธีอื่นๆ และจำเป็นต้องใช้เครื่องมือผ่านกล้อง ทำให้มีราคาค่อนข้างสูง ความลึกของการวางตำแหน่งซิลิโคนเสริมหน้าอก · ใต้กล้ามเนื้อ หากเกิดปัญหาพังผืดจะอยู่ในชั้นลึก เต้านมใหม่มีความพุ่งน้อยกว่า เป็นภูเขาฐานกว้าง มีความจำเป็นต้องตัดกล้ามเนื้ออกบางส่วนเพื่อสร้างโพรง อาจทำให้กำลังแขนและไหล่ของนักกีฬาลดลง เมื่อเกร็งกล้ามเนื้ออกอาจเห็นเต้านมขยับ · ใต้เนื้อเต้านม เจ็บน้อยกว่า ฟื้นตัวเร็วกว่า เพราะไม่มีการตัดผ่านกล้ามเนื้อ ได้ความพุ่งเป็นเต้ามากกว่า ไม่ทำให้เกิดปัญหาในนักกีฬา ความเปลี่ยนแปลงในช่วงแรกหลังการผ่าตัดเสริมหน้าอก · อาจมีความรู้สึกตึงแน่นบริเวณหน้าอก อาการจะดีขึ้นเองใน 1 - 2 วัน · รอยช้ำอาจเกิดขึ้นในบางราย และจะค่อยๆ จางหายไปเอง แต่ไม่ควรจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นสัญญาณของเลือดออกภายใน · อาการชาที่หัวนมอาจเกิดขึ้นได้มากในกรณีที่เนื้อถูกยืดด้วยซิลิโคนขนาดใหญ่ แต่ไม่ควรเกิดอาการชานานเกิน 1 - 2 สัปดาห์ในกรณีปกติ การเตรียมตัวก่อนรับการผ่าตัดเสริมหน้าอก · เมื่อตัดสินใจผ่าตัดเสริมหน้าอก ควรได้รับการตรวจหามะเร็งเต้านมอย่างละเอียด · งดอาหารเสริมและยาที่อาจทำให้เกิดภาวะเลือดออกผิดปกติ · งดน้ำและอาหารก่อนผ่าตัดเสริมหน้าอก อย่างน้อย 6 ชั่วโมง การดูแลตนเองหลังจากการผ่าตัดเสริมหน้าอก · หลีกเลี่ยงการขับรถ การยกของหนัก และใช้กำลังแขนหนักใน 1 - 2 สัปดาห์ หลังการผ่าตัดเสริมหน้าอก · ทำความสะอาดแผลผ่าตัดตามคำแนะนำของศัลยแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ · การพันผ้ารัดหน้าอกมีทั้งผลดีและผลเสีย ควรเลือกพันในกรณีที่ศัลยแพทย์แนะนำ · หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เพราะจะมีผลกระทบกับการหายของแผล อาจทำให้แผลไม่ติด แผลแยก · หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์หลังผ่าตัดเสริมหน้าอก เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดเลือดออกและบวมหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก · ไม่ควรนวดเต้านมด้วยตัวเอง หากการผ่าตัดทำให้เกิดความช้ำน้อยและหายไว · พังผืดอาจจะไม่เกิดขึ้นเลยหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก จึงไม่มีความจำเป็นต้องนวดทุกราย · เมื่อจำเป็นต้องนวดในกรณีเต้านมแข็งหรือผิดรูป ควรอยู่ในความดูแลของศัลยแพทย์ · หลังผ่าตัดเสริมหน้าอกสามารถให้นมบุตรได้ในตามปกติ แต่หากวางแผนตั้งครรภ์แนะนำให้มีระยะเวลาห่างจากการผ่าตัดเสริมหน้าอกอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ขณะตั้งครรภ์ · ประมาณ 1 – 2 เดือนแรก รูปร่างของเต้านมจะใหญ่กว่าขนาดจริง และจะค่อยๆ หย่อยตัวลงเป็นธรรมชาติใกล้เคียงขนาดจริง หลังผ่าตัดเสริมหน้าอก 2 – 3 เดือน คำถาม? ยอดฮิต การผ่าตัดเสริมหน้าอก Q: หลังการผ่าตัดเสริมหน้าอก สามารถให้นมบุตรได้หรือไม่? A: เมื่อการผ่าตัดหายดี สมบูรณ์ สามารถให้นมบุตรได้ตามปกติ Q: หลังการผ่าตัดเสริมหน้าอก ต้องพักฟื้นกี่วัน? A: พักที่โรงพยาบาล 1 คืน เพื่อให้ยาปฏิชีวนะ กลับพักฟื้นที่บ้าน 1 วัน เพื่อปรับตัวการทำกิจวัตรประจำวัน จากนั้นใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ควรเลี่ยงการออกกำลังกายหรือยกของหนัก 1 – 2 เดือน Q: หลังการผ่าตัดเสริมหน้าอก ต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลหรือไม่? A: หลังผ่าตัดคนไข้ควรได้รับการนอนพักฟื้น 1 คืน เพื่อให้ยาปฏิชีวนะทางเส้นเลือด จนครบ 24 ชม. และมีการเฝ้าระวังการฟื้นตัวหลังดมยาสลบ Q: อายุซิลิโคนเสริมหน้าอก อยู่ได้กี่ปี? A: อยู่ได้ตลอดไป หากไม่มีปัญหาแทรกซ้อนหรืออุบัติเหตุรุนแรง Q: หากมีความจำเป็นต้องนำซิลิโคนเสริมหน้าอกออก ลักษณะของหน้าอกจะเป็นอย่างไร? A: แฟบลง อาจเกิดรอยย่นผิดรูป Q: ผ่าตัดเสริมหน้าอกมาแล้ว พออายุเริ่มมากขึ้น หรือผ่านการให้นมบุตรมาแล้ว รูปร่างของหน้าอกจะหย่อนคล้อย หรือเปลี่ยนแปลงไปมากหรือไม่? A: อาจหย่อนคล้อยได้ แต่ไม่มากเท่าคนที่ไท่เคยเสริมหน้าอก Q: การผ่าตัดเสริมหน้าอกมีโอกาสทำให้เสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมได้มากขึ้นหรือไม่? A: ปัจจุบันหากเลี่ยงซิลิโคนเนื้อทราย จัดว่าเป็นการผ่าตัดที่ไม่สร้างความเสี่ยงกับมะเร็งเต้านม การที่ใครๆ ต้องการมีบุคลิกภาพที่ดูดี รูปร่างที่สมส่วน เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้ตัวเองน่ามองยิ่งขึ้น หรือแม้แต่ผู้ป่วยที่ผ่าตัดรักษามะเร็งเต้านมก็ต้องการเสริมความมั่นใจให้ตัวเองกลับมาดูดีอีกครั้ง ด้วยการศัลยกรรมเสริมหน้าอกไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยงการทำศัลยกรรมก็เช่นกัน หากตัดสินใจที่จะทำศัลยกรรมตกแต่งความงามแล้วต้องศึกษาหาข้อมูลให้ละเอียดรอบคอบ ศูนย์ผิวพรรณและศัลยกรรมความงาม โรงพยาบาลนนทเวช พร้อมให้คำปรึกษาโดยศัลยแพทย์ตกแต่งความงามเฉพาะทาง พร้อมพยาบาล วิชาชีพ และเครื่องมือที่ทันสมับภายใต้มาตรฐาน JCI ที่ทั่วโลกยอมรับ ข้อมูลโดย: นพ.ศุภฤกษ์ กมลวัทน์ ศัลยแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง https://www.nonthavej.co.th/Breast-Augmentation.php
×
×
  • สร้างใหม่...