ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
boyles

วิเคราะห์ทอง ฝากเนื้อ ฝากตัวด้วยนะครับ^^By Boyles

โพสต์แนะนำ

Target 1605 กับ 1645 ของคุณบอยนี่มาจาก Fibonacci projection ที่ 161.8% ของการปรับฐาน 2 ครั้งก่อนหน้าใช่รึปล่าวครับ :57

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แฮมเมอร์ ดูแ่ท่ง 4 ได้ด้วยหรือคะ ^_^

 

หมายถึงแท่ง 4 Hrs หรือเปล่าครับ ถ้าช่าย ดูด้วยครับ ^^ ปกติผมจะใช่ร่วมกับ Moving average เพื่อกรอง Candle Hammer ว่าอยู่ใน Zone Bull หรือ Bear

ถูกแก้ไข โดย boyles

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Target 1605 กับ 1645 ของคุณบอยนี่มาจาก Fibonacci projection ที่ 161.8% ของการปรับฐาน 2 ครั้งก่อนหน้าใช่รึปล่าวครับ :57

 

ช่ายครับ แต่การเป็นย่อของ TF เล็กนะครับ เพราะ TF ใหญ่สัญญาณยังไม่ Confirm

 

ปล. วันนี้คงไม่มีอะไร เพราะตลาดเมกาปิด พักผ่อนๆ ^^

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ดีจ้าคุณบอย เพื่อนๆ มีความสุขมีกำไรนะคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

หมายถึงแท่ง 4 Hrs หรือเปล่าครับ ถ้าช่าย ดูด้วยครับ ^^ ปกติผมจะใช่ร่วมกับ Moving average เพื่อกรอง Candle Hammer ว่าอยู่ใน Zone Bull หรือ Bear

ไม่ใช่ค่ะ ใน ราย dayค่ะ แต่เพื่อนบอกแล้วว่า ถ้าอยู่ Zone bull ก็นับรวมได้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ไม่ใช่ค่ะ ใน ราย dayค่ะ แต่เพื่อนบอกแล้วว่า ถ้าอยู่ Zone bull ก็นับรวมได้

 

อ้อ กราฟ DAY ปกติ HAMMER ตอ้งเกิดในตำแหน่งที่เป็น Trend ลงมาถึงจะมีโอกาสกลับตัว แต่ของผมจะพิจารณา HAMMER + COMMERCIAL NET LONG โดยไม่สนใจ HAMMER ในตำแหน่งเทรน หรือ SIDEWAY ครับ (HAMMER ในตำแหน่งไม่เป็นเทรน เราจะให้ความสำคัญลดลง)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณบอยครับ ขอทราบ link ที่จะดู Commercial net long position ได้ไหมครับ ขอบคุณมากครับ :01

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอแนะนำตัวนะครับ ผม POST ไว้นานล่ะ ขอเอาประวัติผมมาเล่าสู่กันฟัง จะได้รู้ที่ไปที่มานะครับ ถือว่าแนะนำตัวล่ะกัน POST มาตั้งนานล่ะ อันนี้จากใน web ผมเขียนไว้นานมากแล้วนะครับ ^^

 

แนะนำตัวเองและประวัติการเทรดครับ ^^

 

ก็เขียน Blog มาก็นานพอสมควร วันนี้ก็เลย จะเอาประสบการณ์การเทรด ความโลภ ความกลัว และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น มา Share นะครับ ก็อ่านกันขำๆล่ะกันครับ ก็ถือว่ามาแนะนำตัวเองล่ะกันครับกับประสบการณ์เทรดไม่ได้เยอะอาไรนะครับ ก็อย่าเพิ่งเบื่อกันก่อนนะครับ

ก่อนที่ผมจะเข้ามาตลาดหุ้น หลังจากเรียนจบ ผมก็เข้ามาช่วยงานคุณพ่อผมได้หลายปีทีเดียว ในระหว่างนั้น ผมก็หากิจกรรมเพื่อหารายได้เสริมหลายอย่างทีเดียวครับ ไม่ว่าจะขายของ ลงทุนกับเพื่อน หรือการทำ online marketing

(affiliate ก็เป็นส่วนนึงของ online marketing ที่มีกระแสในประเทศไทยอยู่พักนึง) โดยเฉพาะอันหลังนี้ก็ทำรายได้ดีทีเดียว เพราะตลาดที่ผมทำส่วนใหญ่อยู่ในอเมริกาและแคนาดาเป็นหลักครับ ส่วนใหญ่ที่ศึกษาส่วนมากมาจาก website ทางต่างประเทศ

สะเยอะครับ มีผู้สอนในประเทศ ส่วนใหญ่เรียนไปก็ทำเงินกันไม่ค่อยได้นะครับ ก็ไม่แน่ใจว่ากั๊กหรือเปล่านะครับ นอกเรื่องสะยาวเข้าเรื่องครับ ในระหว่างการทำ online marketing พอดีมีน้าที่สนิทมากครับ ให้ผมไปดูแลงานท่าเรือแม่น้ำของเขา 2-3 ปีครับ ช่วงนั้นเศรษฐกิจดีมากครับ

+ กับรายดีมากครับ ผมเลยทิ้งงาน online marketing เลยครับ ตั้งใจทำงานตรงนี้ก่อน ในระหว่างที่ทำตรงนี้อยู่ ก็มีเพื่อนคนนึงมาคุยๆ ชวนผมเล่นอนุพันธ์เลยครับในช่วงปลายปี 2008 และนี้ คือจุดเริ่มต้นการเข้ามาในตลาดหุ้นของผมนะครับ

ในช่วงแรกผมก็เริ่มศึกษา หาข้อดี ข้อเสียของการเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นนะครับ ในช่วงแรกก็ยังมีทั้งหุ้น กองทุนอสังหา อนุพันธ์ จนได้ข้อสรุปว่าเมื่อเราอยู่ในโลกของเงินทุนนิยม อย่างน้อยที่สุด เราควรจะรู้ที่มาที่ไปของเงินเรา การบริหารเงินทุนของเราเช่นกัน เพราะถ้าเราเงินไปลงทุน

ในกองทุน แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร ว่าเขาจะบริหารดีแค่ขนาดไหน ไหนจะต้องมีค่าบริหารอีก แล้วเราจะมั่นใจได้อย่างไร ว่าเขาจะเป็น 95 % ในตลาดหุ้นที่ล้มเหลวหรือเปล่าในการลงทุนระยะยาว ผมจึงได้ข้อสรุปว่าเราควรจะศึกษาเรื่องการลงทุน รวมถึงความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจจะเกิดกับ

เงินทุนเราในระยะยาว และนี่คือจุดเริ่มต้นเช่นกันครับ กับการคิดจะเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น ก่อนจะแปลงกายเป็นนักเก็งกำไรในเวลาต่อมา จนมีประสบารณ์เรื่องเล่า มากมาย อีกทั้งยังเกือบเดินออกจากตลาดหุ้น ทั้งๆที่เข้ามาเล่นหุ้นในช่วงมัน bullish มากครับ

ในช่วงแรกของการเล่น future นะครับ ผมก็ยังกลัวๆอยู่ ก็เอาเงินที่เก็บได้มาลงนิดเดียวก่อนครับ รวมถึงที่บ้าน พ่อจะ anti มากกับตลาดหุ้น เขาจะว่าทุกคนที่เข้ามาในตลาดหุ้นครับ เพราะเขามีเพื่อนมากมายที่หมดตัวไปกับตลาดหุ้น แต่เขาเองก็ไม่ได้มีประสบการณ์ในตลาดหุ้นนะครับ

เวลาเขาเจอใครเขาก็จะว่าคนที่เล่นหุ้นไปหมด แต่ลูกดันเล่นเอง – -! ดังนั้น การลงทุนในช่วงแรกทั้งการซื้อหุ้น และเล่น future ต้องทำงานช่วยที่บ้านไป แล้วก็แอบเล่นไปด้วยครับ จดหมายนี่ส่งไปบ้านเพื่อนหมดเลยครับ 555 วันแรกที่ผมเริ่มเล่น future ก็เป็นวันเดียวกับที่ประเทศไทย

ประกาศ circuit breaker ครับ วันนั้น วันเดียวลองเล่นไปสัญญาเดียวได้กำไรวันเดียวเกือบ 50 % ครับ โหเริ่มสนุกครับ และก็เริ่มเล่นต่อมาเรื่อยๆครับ จนได้รู้ว่านี่แหล่ะ โลกแห่งความเป็นจริง ครบ 1 เดือน ผลลัพธ์ = 0 ไม่มีกำไร + เสียเวลาอีก – -! เลิกครับ เสียเวลา ทำงานหาตัง

เป็นเรื่อง เป็นราวเหมือนเดิมดีกว่า ^^

หลังจากเลิกเล่นมาได้สัก 2-3 เดือนก็มีทั้ง email และ message มาจาก broke ที่ผมสมัครไปนะครับ update มาตลอด จนอาไรไม่รู้มาดลบันดาลใจให้ลองกลับเข้าไปในตลาดหุ้นอันแสนโหดร้ายนี่อีกครั้งครับ และ และ และ ก็ยังเป็นเหมือนเดิมครับ ผมก็เล่น future มาอีก เกือบ

2 เดือน ก็ยังไม่เห็นกำไรครับ ทั้งที่ก็เข้าสัมมนา ตามที่ต่างๆ ศึกษาหาข้อมูลด้วยตัวเองไปเรื่อยๆ เพราะก็ไม่รู้ว่าที่ไหนดี ควรเริ่มศึกษายังไง รวมทั้งที่บ้านก็ไม่สนใจ เพื่อนเล่นหุ้นก็ไม่มี ไม่มีใครรอบกาย ที่อยู่ในตลาดเลย ก็ลองผิด ลองถูกไปเรื่อยครับ ครบ 2 เดือน ไม่ค่อยเห็นกำไรเลยครับ กำไรก็พอพูดได้

แต่น้อยๆๆๆมาก แต่เป็นนิมิตรหมายที่ดีครับ ไม่ขาดทุน – -! แต่หลังจากนั้น 5 เดือนถัดมาก มหัศจรรย์มากครับได้กำไรมาเกือบ 400 % เงินทุนโตขึ้นมาอย่างมหาศาลครับ และ และ เรื่องราวหายนะ ก็เริ่มเกิดขึ้น ^^

ผมลืมบอกในช่วง 6 เดือนแรก ผมก็ลองผิด ลองถูกแม้กระทั้งเปลี่ยน broke ไปทั้งหมด 5 ที่เลยครับ โดยประสบการณ์ส่วนตัวไม่เคยเจอ marketing เก่งครับ รวมถึงนักวิเคราะห์ก็มีถูกๆ ผิดๆ ปนๆกันไป ถ้าเชื่อหมดก็ไม่แน่ใจว่าจะมีกำไร เยอะจริงๆหรือเปล่า โดยเฉพาะ tfex จาก

ประสบการณ์ ไม่เคยเจอนักวิเคราะห์ที่เก่งๆครับ

จนมาถึงการเก็งกำไรครั้งสุดท้าย ที่ผมปล่อยให้กำไรของผมอีก 100 % ของเงินทุนเริ่มแรกนะครับ เปลี่ยนเป็นขาดทุน เพราะช่วงก่อนหน้านี้ผมเล่นทั้ง short ทั้ง long เลยครับ (ด้อยประสบการณ์) ผมจึงคิดว่าน่าจะมีบางอย่างผิดพลาดกับวิธีคิด และวิธีการเก็งกำไรของผม ผมจึงเริ่มเดินทางรอบใหม่

เริ่มศึกษา หาแหล่งข้อมูลความรู้เพิ่มเติม จนมาเจอ broker รายนึงที่เขาสอนเทคนิคการเทรดด้วย ไม่ว่าจะ elliot wave จิตวิทยาการลงทุน fund flow และก็อีกหลายเรื่อง และประสบการณ์การเทรดของเขาก็มาก มายพอสมควร เกือบๆ 20 ปีรวมทั้ง CD เก่าๆ ของเขาก็แม่นมาก

(หลังจากผ่านตรงนั้นมา ถึงรู้สัจธรรม น่าจะอัดเฉพาะตอนที่แม่น) แล้วอาไรที่ทำให้เขาพลาด รวมถึงทำผมและเพื่อนๆผมที่ชวนเขามาในตลาดเจ๊งกันหมด

หลังจากที่ผมได้เข้ามาศึกษาตามแนวทาง การเทรดของ broke นี้แล้วทำให้ผมเชื่อมั่นมากว่า นี้แหล่ะคือความหวังในการทำกำไร แต่แล้วสิ่งที่ได้รับมันกลับตรงกันข้าม หลังจากผมเข้าสัมมนาหลายๆครั้งเข้า เรียนรู้ทั้งจิตวิทยาการลงทุน elliot wave จนมาครั้งสุดท้ายครับ หัวข้อการสัมมนา การทำกำไร 400 % ใน 2 เดือนครับ โอ้โห รวยครับรวย แค่ 100 – 200 % ก็พอใจแล้วไม่โลภ(แต่นี่แหล่ะ เขาเรียกว่าโคตรโลภ) การสัมมนาครั้งนั้นเขาพูดเป็นฉากๆๆ Wave 5 แน่นอนครับแล้วมันจะลงแรง อย่างนั้น อย่างงี้ ลงมาทำเป็น ABC บลาๆๆ และแล้ว ความจริงกับทฤษฎีมันก็ต่างกันเหลือเกิน

แต่ในขณะนั้น ความเชื่อ ความศรัทธาในวิทยากรท่านนี้ เปี่ยมล้น + พลังความโลภครับ ต้องยอมรับครับว่าเสียเพราะโลภจริงๆครับ ก็ทำการเอากำไรที่ได้เหยียบ 400 % นี่มาทำการ Short เลยครับ และด้วยความมั่นใจมาก เพิ่มเงินเก็บของตัวเองลงไปอีก กะสองเดือน เล่นหุ้นมาไม่ถึงปี กำไรเป็น 1000 %

ไปเลยครับ และแล้วในช่วงแรก มันก็เหมือนจะลงจริงๆ แต่มันดันมีทฤษฎีใหม่ของ elliot wave ที่เขาไม่เคยสอนครับ มันแค่ย่อครับ แล้วมันก็ขึ้นไปเลย ABC อยู่หนายยยยย – -! ไม่มีครับ C ส่วน B ก็ไม่เป็น B ครับเป็น new high ครับ ทฤษฎีที่ว่านั้นคือทฤษฎีคลื่นต่อขยายครับ

ถ้านับผิด มันจะถูกต่อขยายไปเรื่อยๆจนมันถูกครับ แล้วม่ายบอกแต่แรก แล้วยังจะมาบอกอีกว่า มันขึ้นไม่จริง เดี๊ยวมันก็ลง จนในบทความเขาบอกไม่ให้ cut loss ครับ ถือ future ขาดทุนไป 50 จุดไม่คัด เล่นหุ้นเองไม่เคยถือขาดทุนยาวนั้น และหนักขนาดนี้มาก่อน และแล้วทฤษฎีการต่อขยาย

ก็ทำผมขาดทุนยับเยินมหาศาลครับ ถ้าคิดเป็น % ก็ขาดทุนราวๆ 75 % ของเงินต้น และขาดทุนราว 85 % ถ้ารวมกำไรที่ทำมาทั้งหมดก่อนหน้า อภิมหาเครียดครับ รับรู้การ stoploss เรียบร้อยครับ ได้รับประสบการณ์มหาศาล

ขอสรุปคร่าวๆ จากประสบการณ์นี้นะครับ 1. จงอย่าเชื่อเพียงเพราะว่า

เขามีประสบการณ์การเทรดเยอะ ขนาดเกือบ 20 ปี เทรดน้ำมันในตลาดโลกอีกด้วยนะครับ ถ้าเล่นโดยไม่มีจุด Stoploss ก็เจ๊งได้ครับ 2. ได้กระจ่างทันทีว่าการเกร็งกำไรผิดพลาดเพียงครั้งเดียวสามารถทำให้หมดตัวได้ เราไม่ควรทำให้การเกร็งกำไรที่ผิดพลาดเพียงครั้งเดียวในช่วงระย

เวลาสั้นๆนี้ มาบ่อนทำลายกำไรทั้งหมดที่เราทำมาหลายๆครั้ง และยาวนาน ต้องนี้จึงเป็นความจำเป็นที่ต้องศึกษาเรื่อง money management 3.เมื่อได้เกิดความโลภ หรือความมั่นใจที่มากเกินไป โปรดระวัง ตลาดเราไม่ใช่คนกำหนดครับ จงอย่าคิดเข้าข้างตัวเอง จงอยู่กับมัน เทรดตามมัน

ถ้าใครคิดว่าฉลาดกว่าตลาดจะไม่ค่อยได้เงินหรอกครับ แต่เท่าที่ดูบทเรียนเหล่านี้ พูดไปก็ไม่น่าคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปเยอะ ถ้าคิดเฉพาะเงินต้นนะครับ ต้องทำกำไรเหยียบ 300 % นะครับ ถึงจะกลับมาคืนทุนอีกครั้ง ยิ่งคิด ก็ได้แค่มองฟ้าต่อไป ชาติไหนถึงจะได้คืน – -! ประสบการณ์เลวร้ายยังไม่จบครับ

เรื่องจำนวนขาดทุน ต้องบอกว่าหลักล้านนะครับ แต่ขอไม่บอกว่าเท่าไหร่ล่ะกันครับ ในความโชคร้าย ก็ยังมีความโชคดีอยู่นิดนึง ยังพอมีเทคนิคบางอันที่ได้มาจากเขา แต่ผมต้องศึกษา และฝึกสังเกตด้วยตัวเองมาตลอด 1 ปีให้หลังถึงจะเข้าใจมากขึ้น แต่คงเทียบกับการขาดทุนครั้งยิ่งใหญ่ของผมไม่ได้เลย – -!

ช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่ผมได้ออกจากงานมาแล้ว เพราะน้องเพิ่งเรียนจบครับเลยเข้าไปช่วยที่บ้านครับ เครียดครับเงินเดือนก็ไม่มี งานท่าเรือที่ช่วยน้าก็ไม่ค่อยมีงานครับ เป็นช่วงเศรษฐกิจแย่ต่อเนื่องจาก hamburger crisis ครับ เงินที่ได้เตรียมเอาไว้เป็นทุนดำรงชีพก็ละลายหายไปหมดกับการเก็งกำไรครั้งนี้ครับ

แต่ด้วยความงก + ความตั้งใจ และพากเพียรต่อ ผมมีคติให้กับตัวเองเสมอเวลาเล่นเสียครับ ผมจะบอกกับตัวเองเสมอว่าผมโง่ครับ ดังนั้นนี้คือแรงผลักดันให้ผมศึกษาเยอะขึ้น เยอะขึ้น เพื่อที่จะได้เก่งขึ้น และห้ามยอมแพ้ เพราะเราต้องลด risk ในการลงทุนโดยใช้ความรู้เท่านั้น ผมจึงเริ่มออกเดินทาง

รอบใหม่ หาแหล่งความรู้ใหม่ๆ แต่ลึกๆก็ยังกลัวอยู่ว่า แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเขาจะเก่งจริงๆ จนเจอ web ลุงโฉลกครับ นี่ผมว่าคือความโชคดีที่สุดหลังจาก ผ่านประสบการณ์เลวร้ายที่สุดมา โดยตอนแรกผมไม่รู้หรอกครับว่าเขาเป็นใคร เก่งจริงไหม ผมก็เลยลองเสี่ยงซื้อ CD 24 แผ่นของลุง

มาศึกษาก่อนครับ ซึ่งก็น่าจะประมาณ 4000 กว่าบาท จำไม่ได้แล้วครับ แต่มันก็น่าลอง ไหนๆก็ลองผิดลองถูกมาหลายขนาดเหลือเกิน แล้วราคาก็ไม่ได้แพงมากด้วย และผมก็รอหลายเดือนเหมือนกัน จนได้ CD มาศึกษา แล้วเรื่องราวชีวิตของผมก็เปลี่ยนไปมากมายเลยครับ

พอได้ CD ลุงโฉลกมาครับ ผมดูศึกษาอยู่นานทีเดียว ดูซ้ำไป ซ้ำมาจนเข้าใจมากขึ้นเลยทีเดียว โดยความรู้ตาม web หรือในหนังสือ บางครั้งมันเอามาใช้จริงไม่ได้เพราะอะไร แกเป็นนักเทคนิคจริงๆ ซึ่งผมก็มาทางด้านนี้อยู่แล้ว แนวความคิด รวมถึงความเข้าใจใน indicator ต่างๆ

ชัดเจนมากครับ ช่วงนั้นผมศึกษาถึงขนาด ดูไปนอนไป บางคืนก็เปิดฟังจนหลับไปเลย ตื่นมาตอนไหนจำถึงตอนไหนได้ ก็ย้อนกลับมาดูใหม่ ตรงไหนไม่เข้าใจก็ดูซ้ำไปซ้ำมา ศึกษาอยู่หลายเดือนเหมือนกันครับ มันไม่ใช่แค่แนวคิดทางการใช้เทคนิคอย่างเดียว แกสามารถพูดเรื่องธรรมะจนทำให้ผ

เข้าในสัจธรรมหลายอย่างมากขึ้นเกี่ยวกับการลงทุน ตรงนี้ไม่ขอพูดนะครับ เพราะท่าจะยาว แต่สำหรับผมมันคือความโชคดี ที่ทำให้ผมได้มาเจอกับลุงโฉลกครับ ผมต้องขอบอกตามตรงเลยจนถึงนาทีนี้ ในประเทศไทยผมยอมรับลุงโฉลกคนเดียว ที่ผมคิดว่าเก่งที่สุดทางด้านเทคนิคนะครับ แต่ด้วยผม

ก็ไม่ได้ไปรู้จักคนอื่นมากมายก็อาจจะมีคนเก่งกว่าลุงก็ได้นะครับ แต่เท่าที่ผมเจอมายังไม่มีครับ ดังนั้นผมเคารพลุงมากเลยครับ นอกเรื่องนานก็มาเข้าเรื่องกันต่อเลยครับ (แต่ในส่วนของ BIAS แกเราก็ไม่ควรเชื่อทั้งหมดนะครับ)

หลังจากที่ศึกษามาเรื่อยๆ ก็เริ่มจะทำกำไรกลับมาได้อีกครั้งครับ เดือนครึ่งกำไร เหยียบ 100 % อีกครั้ง คราวนี้ล่ะ ความรู้เยอะขึ้น คงไม่เสียแล้ว แต่ แต่ แต่ โลกของตลาดทุนโหดร้ายเสมอ ถ้าองค์ประกอบไม่ครบ เราก็พร้อมจะเสียเสมอครับ มาดูกันครับว่าคราวนี้ผมเสียด้วยเรื่องอาไร ตอนชุมนุมเสื้อแดงครับ

หุ้นตกมหาศาลมากช่วงนั้นครับ เริ่มจากประกาศ พรก ฉุกเฉิน และตามมาด้วยยิงกันที่คอกวัว หุ้นมันลงเร็วกว่าที่ผมจะ cut ครับ เล่นเปิดกระโดดลงมาเลยทำใจคัดไม่ได้ครับ และกำไรก็หายไปในพริบตา แต่ไม่ได้ขาดทุนนะครับ กำไรนิดเดียว ทำไมผมถึงถือเพราะบทเรียนอย่างแรกคือ

1. จิตวิทยาไม่ดี ขายขาดทุนไม่ได้ตามแผนที่วางไว้ เพราะมันเปิดกระโดดลงมาเลย และอยู่กับความหวังมากเกิน 2. ความหวังที่ผมพูดคือ ผมไปคำนวณกราฟ asia ประเทศอื่นซึ่งมันก็ถูกนะครับ มันก็เขียว แต่ไทยไม่ใช่ครับ บทเรียนนี้ เทรดตลาดไหน ก็จงคำนวณตลาดนั้นครับ ตลาดอื่นเขียว

ใช่ว่าบ้านเราจะเขียว ไทยมานก็แดง แดง แดง – -! เซ็งเลยครับ กำไรตรูหายไปอีกล่ะ และผมก็ยังอดทนคิดว่ายิงกันคอกวัวน่าจะเป็นเหตุการณ์เลวร้ายที่สุดแล้ว ก็ทำการเล่นต่อไป และ แล้ว และ แล้ว ยังมีอีกครับ เผาเมืองงงงง !!! ช๊อคอีกรอบ สรุปช่วงนั้นรอดมาได้ ไม่ได้ ไม่เสี่ยกำไรนิดนึง แต่เครียดมากครับ

เราไม่รู้หรอกครับว่ามันจะจบเมื่อไหร่ ผมได้บทเรียนอีกว่า จงมีวินัยในการลงทุน แล้วคุณจะผ่านมันไปได้ เราไม่รู้เหตุการณ์จะจบเมื่อไหร่ ระบบให้ซื้อเราก็ควรซื้อ ระบบขายเราก็ต้องขาย เพราะถ้าเราเป็นนัก trend following เราห้ามตกเทรนครับ นี่คือช่วงกำไรมหาศาล หรือช่วงคืนทุนเลยทีเดียว

เพราะหลังจากนั้น future ก็ขึ้นมาจากวันที่เผา central world อีก 200 ว่าจุดเลยทีเดียว และเป็นผมอีก ไปคัดที่ ตูดเลยครับ ระบบให้ซื้อไม่กล้าซื้อครับ กำไรหายไม่พอ ยังตัก เทรนอีก – -! ช่างหน้าเศร้ายิ่งนัก

หลังจากนี้ก็เล่นมาเรื่อยๆ ก็ทำการทดสอบ ระบบหลายระบบพอสมควร และทดสอบ indicator หลายๆตัว จนได้แนวทางการเทรดของตัวเอง แต่ก่อนหน้านั้น ก็ไปเจอวิทยากรท่านนั้น ที่ผมคิดว่าเก่ง และแอบทำตามอยู่พักนึง ก็เจ๊งครับ แต่คราวนี้ไหวตัวทันครับ แค่กำไรหายเฉยๆ รวมถึงบางคน

ก็สอนเก็บเงิน ไม่ขอเอ่ยนาม หลายท่านที่คิดแพงๆ แต่เท่าที่คุยเหมือนไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าไหร่ แล้วก็ไม่ได้เก่งเท่าไหร่ครับ ทำเงินจริงๆไม่ได้ มีท่านนึงก็บอกอีกว่ามันเป็น wave 5 เดี๊ยวต้องลงหนัก (อีกแล้วทฏษฎีนี้อีกแล้ว นับกันผิด นับกันจริง) ลง ABC อีกแล้ว คุ้นๆๆๆ และแล้วจากจุดที่เขาบอก

มันจะลง มันก็ทำท่าเหมือนจะลงเป็น A และ และ rebound ขึ้นไปเป็น B และ ก็ไม่มี B ครับ new high ไปเลยแล้ว มันก็ขึ้นมาอีก 100 จุดใครเชื่อเขาก็เจ๊งละครับ แต่สังเกตนะครับ ถ้าเขาถูกล่ะ สงสัยจะดังกันไปข้างเลย อารมณ์เหมือนหมอดู ยังไงการเชื่อไม่ว่าจะเป็นนักวิเคราะห์

นักสอน marketing ยังไงเราต้องระวังมากหน่อยนะครับ เพราะเราไม่รู้หรอกว่าเรากะลังคุยกะคน 95 % ที่เจ๊ง หรือ 5 % ที่ประสบความสำเร็จ ยังไงเชื่อในองค์ความรู้ตัวเองจะดีกว่าครับ ถ้าไม่มีก็ค่อยๆ ศึกษาครับ นั้นทำไมผมถึงให้ความสำคัญของการศึกษาครับ

พอหลังจากเจอผ่านเหตุการณ์เหล่านี้ ไปได้ ตั้งใจศึกษา มีระเบียบวินัยในการเข้าออกมากขึ้น ใช้ระบบที่ทดลองแล้วใช้งานได้ดีที่สุด จากการลองผิด ลองถูกมาอย่างสะบักสะบอม ก็เริ่มทำกำไรในตลาดได้จริงๆสักที ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับปีชงด้วยหรือเปล่าครับ เพราะตอนที่ผมได้กำไรมหาศาลในช่วงแรกก็ก่อน

เข้าปีชงครับ แต่พอเข้าปีชงปุ๊ป ก็ขาดทุนมหาศาล ไม่พอยังเล่นไม่ได้เลย เล่นได้เท่าไหร่ก็เสีย คืนตลาดไปหมด แถมยังให้โบนัสคืนทุนตัวเองให้ตลาดอีก – -! ทั้งเรื่องเสื้อแดง รวมถึงเจอวิทยาก่อนที่นับ wave 5 นี่อีก

ผมต้องบอกว่าในช่วงท้ายของปีชงนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยว หัวต่อที่ผมแทบจะเดืนออกจากตลาดหุ้นเลยทีเดียว อย่างที่ผมบอก ผมนั่งทบทวนถึงตัวเอง กับการเป็น full-time trader ว่าใน 1 ปีครึ่งที่ผ่านมานี้ (เป็นfull time ก็ 1 ปีเองนะครับ) ไม่ใช่แค่ขาดทุนอย่างเดียวนะครั

กำไรไม่เห็น แล้วเงินที่ใช้ดำเนินชีวิต มันก็ต้องใช้ และผมก็ยังมองเมฆต่อไป 300 % เพื่อคืนเงินต้นอยู่เลย มันไม่ได้ลดลงเลย เมื่อเวลาผ่านไปจากจุดเริ่มต้นเป็นปี มันจะยังเป็นอย่างนี้ ถึงเมื่อไหร่ การเก็งกำไรในช่วงครั้งสุดท้าย ถ้าผิดพลาดนี่หมายถึงผมอาจต้องเดินออกจากตลาดอย่างผู้แพ้ได้เลยครับ ความตั้งใจสู้มีครับ

ความพากเพียรมีครับ แต่เงินมะมีแล้วครับ ดังนั้นทำไมผมถึงต้องให้เรียนรู็เรื่องการปกป้องเงินทุนเราเป็นลำดับต้นๆ นั่นคือ stoploss ไม่แค่เพียงศึกษาครับ แต่ในความเป็นจริงมันทำได้ยากมากเช่นกัน แต่มันคุ้มแน่นอนครับ ในช่วงนี้ ผมเครียดจนต้องไปนั่งสมาธิกรรมฐานเลยครับ แต่ก็

ยอมรับครับว่าจิตใจไม่ค่อยสงบเท่าไหร่ แต่ก็ช่วยได้มากครับ เพื่อนผมพาไปครับ และทุกอย่างก็เริ่มดีขึ้นครับ

อย่างที่บอกครับ พอหลุดปีชงมาหน้ามือเป็นหลังมือเลยครับ อาจจะ + กับผลบุญการนั่งกรรมฐานด้วย เพราะตอนนั้นไม่ได้คิดว่าจะนั่งเพื่อหวังเอาเงินคืนนะครับ แค่นั่งเพราะต้องการความสงบครับและหลังจากนั้น ผมตัดสินใจเลิกเชื่อนักวิเคราะห์ทุกท่าน block email marketing

ทุกคนที่ส่งการวิเคราะห์มาให้ผมทุกวันและในหลายๆ โบรค และเริ่มทำการเทรดในแนวทางของตัวเองมาตลอด แม้กระทั่งอ่านข่าว ก็อ่านบ้าง แต่ไม่ได้เอามาวิเคราะห์อะไร แค่ให้พอรู้ การซื้อขายเน้นตามเทคนิคล้วนๆ หลังจากหมดปีชง ให้หลังมา เกือบ 6 เดือนผมก็กลับมาทำกำไรได้อีกครั้งถึง

เกือบ 500 % ครับ ในที่สุดก็ไม่ได้ยืนมองเมฆล่ะครับ มาเหยียบเมฆได้สะที แต่ในระหว่างที่ผมได้กำไร ผมก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองเก่งนะครับ ก็ยังศึกษาไปเรื่อยๆ ทั้งวิธี และข้อผิดพลาดที่นักเทรดพลาด จะได้พยายามหลีกเลี่ยงในสิ่งที่อาจจะเกิดกับผมได้ในอนาคต ^^

นี่ก็เป็นประสบการณ์มา Share นะครับ ก็อยากให้เพื่อนๆ เอาไว้เป็นข้อคิด รวมถึงความโลภที่เกิดขึ้น ความกลัว ความเครียด บลา บลา บลา ^^ ก็หวังว่าคงมีประโยชน์กับเพื่อนบ้างนะครับ ก็เป็นเส้นทางของนักเทรดคนนึงครับ ยังต้องการการพิสูจน์อีกเยอะครั

โชคดีกั

 

http://www.bigmovecl...B8%B4%E0%B8%81/

ถูกแก้ไข โดย boyles

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ดีจ้าคุณบอย เพื่อนๆ มีความสุขมีกำไรทุกการลงทุนนะคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอแนะนำตัวนะครับ ผม POST ไว้นานล่ะ ขอเอาประวัติผมมาเล่าสู่กันฟัง จะได้รู้ที่ไปที่มานะครับ ถือว่าแนะนำตัวล่ะกัน POST มาตั้งนานล่ะ อันนี้จากใน web ผมเขียนไว้นานมากแล้วนะครับ ^^

 

แนะนำตัวเองและประวัติการเทรดครับ ^^

 

ก็เขียน Blog มาก็นานพอสมควร วันนี้ก็เลย จะเอาประสบการณ์การเทรด ความโลภ ความกลัว และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น มา Share นะครับ ก็อ่านกันขำๆล่ะกันครับ ก็ถือว่ามาแนะนำตัวเองล่ะกันครับกับประสบการณ์เทรดไม่ได้เยอะอาไรนะครับ ก็อย่าเพิ่งเบื่อกันก่อนนะครับ

ก่อนที่ผมจะเข้ามาตลาดหุ้น หลังจากเรียนจบ ผมก็เข้ามาช่วยงานคุณพ่อผมได้หลายปีทีเดียว ในระหว่างนั้น ผมก็หากิจกรรมเพื่อหารายได้เสริมหลายอย่างทีเดียวครับ ไม่ว่าจะขายของ ลงทุนกับเพื่อน หรือการทำ online marketing

(affiliate ก็เป็นส่วนนึงของ online marketing ที่มีกระแสในประเทศไทยอยู่พักนึง) โดยเฉพาะอันหลังนี้ก็ทำรายได้ดีทีเดียว เพราะตลาดที่ผมทำส่วนใหญ่อยู่ในอเมริกาและแคนาดาเป็นหลักครับ ส่วนใหญ่ที่ศึกษาส่วนมากมาจาก website ทางต่างประเทศ

สะเยอะครับ มีผู้สอนในประเทศ ส่วนใหญ่เรียนไปก็ทำเงินกันไม่ค่อยได้นะครับ ก็ไม่แน่ใจว่ากั๊กหรือเปล่านะครับ นอกเรื่องสะยาวเข้าเรื่องครับ ในระหว่างการทำ online marketing พอดีมีน้าที่สนิทมากครับ ให้ผมไปดูแลงานท่าเรือแม่น้ำของเขา 2-3 ปีครับ ช่วงนั้นเศรษฐกิจดีมากครับ

+ กับรายดีมากครับ ผมเลยทิ้งงาน online marketing เลยครับ ตั้งใจทำงานตรงนี้ก่อน ในระหว่างที่ทำตรงนี้อยู่ ก็มีเพื่อนคนนึงมาคุยๆ ชวนผมเล่นอนุพันธ์เลยครับในช่วงปลายปี 2008 และนี้ คือจุดเริ่มต้นการเข้ามาในตลาดหุ้นของผมนะครับ

ในช่วงแรกผมก็เริ่มศึกษา หาข้อดี ข้อเสียของการเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นนะครับ ในช่วงแรกก็ยังมีทั้งหุ้น กองทุนอสังหา อนุพันธ์ จนได้ข้อสรุปว่าเมื่อเราอยู่ในโลกของเงินทุนนิยม อย่างน้อยที่สุด เราควรจะรู้ที่มาที่ไปของเงินเรา การบริหารเงินทุนของเราเช่นกัน เพราะถ้าเราเงินไปลงทุน

ในกองทุน แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร ว่าเขาจะบริหารดีแค่ขนาดไหน ไหนจะต้องมีค่าบริหารอีก แล้วเราจะมั่นใจได้อย่างไร ว่าเขาจะเป็น 95 % ในตลาดหุ้นที่ล้มเหลวหรือเปล่าในการลงทุนระยะยาว ผมจึงได้ข้อสรุปว่าเราควรจะศึกษาเรื่องการลงทุน รวมถึงความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจจะเกิดกับ

เงินทุนเราในระยะยาว และนี่คือจุดเริ่มต้นเช่นกันครับ กับการคิดจะเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น ก่อนจะแปลงกายเป็นนักเก็งกำไรในเวลาต่อมา จนมีประสบารณ์เรื่องเล่า มากมาย อีกทั้งยังเกือบเดินออกจากตลาดหุ้น ทั้งๆที่เข้ามาเล่นหุ้นในช่วงมัน bullish มากครับ

ในช่วงแรกของการเล่น future นะครับ ผมก็ยังกลัวๆอยู่ ก็เอาเงินที่เก็บได้มาลงนิดเดียวก่อนครับ รวมถึงที่บ้าน พ่อจะ anti มากกับตลาดหุ้น เขาจะว่าทุกคนที่เข้ามาในตลาดหุ้นครับ เพราะเขามีเพื่อนมากมายที่หมดตัวไปกับตลาดหุ้น แต่เขาเองก็ไม่ได้มีประสบการณ์ในตลาดหุ้นนะครับ

เวลาเขาเจอใครเขาก็จะว่าคนที่เล่นหุ้นไปหมด แต่ลูกดันเล่นเอง – -! ดังนั้น การลงทุนในช่วงแรกทั้งการซื้อหุ้น และเล่น future ต้องทำงานช่วยที่บ้านไป แล้วก็แอบเล่นไปด้วยครับ จดหมายนี่ส่งไปบ้านเพื่อนหมดเลยครับ 555 วันแรกที่ผมเริ่มเล่น future ก็เป็นวันเดียวกับที่ประเทศไทย

ประกาศ circuit breaker ครับ วันนั้น วันเดียวลองเล่นไปสัญญาเดียวได้กำไรวันเดียวเกือบ 50 % ครับ โหเริ่มสนุกครับ และก็เริ่มเล่นต่อมาเรื่อยๆครับ จนได้รู้ว่านี่แหล่ะ โลกแห่งความเป็นจริง ครบ 1 เดือน ผลลัพธ์ = 0 ไม่มีกำไร + เสียเวลาอีก – -! เลิกครับ เสียเวลา ทำงานหาตัง

เป็นเรื่อง เป็นราวเหมือนเดิมดีกว่า ^^

หลังจากเลิกเล่นมาได้สัก 2-3 เดือนก็มีทั้ง email และ message มาจาก broke ที่ผมสมัครไปนะครับ update มาตลอด จนอาไรไม่รู้มาดลบันดาลใจให้ลองกลับเข้าไปในตลาดหุ้นอันแสนโหดร้ายนี่อีกครั้งครับ และ และ และ ก็ยังเป็นเหมือนเดิมครับ ผมก็เล่น future มาอีก เกือบ

2 เดือน ก็ยังไม่เห็นกำไรครับ ทั้งที่ก็เข้าสัมมนา ตามที่ต่างๆ ศึกษาหาข้อมูลด้วยตัวเองไปเรื่อยๆ เพราะก็ไม่รู้ว่าที่ไหนดี ควรเริ่มศึกษายังไง รวมทั้งที่บ้านก็ไม่สนใจ เพื่อนเล่นหุ้นก็ไม่มี ไม่มีใครรอบกาย ที่อยู่ในตลาดเลย ก็ลองผิด ลองถูกไปเรื่อยครับ ครบ 2 เดือน ไม่ค่อยเห็นกำไรเลยครับ กำไรก็พอพูดได้

แต่น้อยๆๆๆมาก แต่เป็นนิมิตรหมายที่ดีครับ ไม่ขาดทุน – -! แต่หลังจากนั้น 5 เดือนถัดมาก มหัศจรรย์มากครับได้กำไรมาเกือบ 400 % เงินทุนโตขึ้นมาอย่างมหาศาลครับ และ และ เรื่องราวหายนะ ก็เริ่มเกิดขึ้น ^^

ผมลืมบอกในช่วง 6 เดือนแรก ผมก็ลองผิด ลองถูกแม้กระทั้งเปลี่ยน broke ไปทั้งหมด 5 ที่เลยครับ โดยประสบการณ์ส่วนตัวไม่เคยเจอ marketing เก่งครับ รวมถึงนักวิเคราะห์ก็มีถูกๆ ผิดๆ ปนๆกันไป ถ้าเชื่อหมดก็ไม่แน่ใจว่าจะมีกำไร เยอะจริงๆหรือเปล่า โดยเฉพาะ tfex จาก

ประสบการณ์ ไม่เคยเจอนักวิเคราะห์ที่เก่งๆครับ

จนมาถึงการเก็งกำไรครั้งสุดท้าย ที่ผมปล่อยให้กำไรของผมอีก 100 % ของเงินทุนเริ่มแรกนะครับ เปลี่ยนเป็นขาดทุน เพราะช่วงก่อนหน้านี้ผมเล่นทั้ง short ทั้ง long เลยครับ (ด้อยประสบการณ์) ผมจึงคิดว่าน่าจะมีบางอย่างผิดพลาดกับวิธีคิด และวิธีการเก็งกำไรของผม ผมจึงเริ่มเดินทางรอบใหม่

เริ่มศึกษา หาแหล่งข้อมูลความรู้เพิ่มเติม จนมาเจอ broker รายนึงที่เขาสอนเทคนิคการเทรดด้วย ไม่ว่าจะ elliot wave จิตวิทยาการลงทุน fund flow และก็อีกหลายเรื่อง และประสบการณ์การเทรดของเขาก็มาก มายพอสมควร เกือบๆ 20 ปีรวมทั้ง CD เก่าๆ ของเขาก็แม่นมาก

(หลังจากผ่านตรงนั้นมา ถึงรู้สัจธรรม น่าจะอัดเฉพาะตอนที่แม่น) แล้วอาไรที่ทำให้เขาพลาด รวมถึงทำผมและเพื่อนๆผมที่ชวนเขามาในตลาดเจ๊งกันหมด

หลังจากที่ผมได้เข้ามาศึกษาตามแนวทาง การเทรดของ broke นี้แล้วทำให้ผมเชื่อมั่นมากว่า นี้แหล่ะคือความหวังในการทำกำไร แต่แล้วสิ่งที่ได้รับมันกลับตรงกันข้าม หลังจากผมเข้าสัมมนาหลายๆครั้งเข้า เรียนรู้ทั้งจิตวิทยาการลงทุน elliot wave จนมาครั้งสุดท้ายครับ หัวข้อการสัมมนา การทำกำไร 400 % ใน 2 เดือนครับ โอ้โห รวยครับรวย แค่ 100 – 200 % ก็พอใจแล้วไม่โลภ(แต่นี่แหล่ะ เขาเรียกว่าโคตรโลภ) การสัมมนาครั้งนั้นเขาพูดเป็นฉากๆๆ Wave 5 แน่นอนครับแล้วมันจะลงแรง อย่างนั้น อย่างงี้ ลงมาทำเป็น ABC บลาๆๆ และแล้ว ความจริงกับทฤษฎีมันก็ต่างกันเหลือเกิน

แต่ในขณะนั้น ความเชื่อ ความศรัทธาในวิทยากรท่านนี้ เปี่ยมล้น + พลังความโลภครับ ต้องยอมรับครับว่าเสียเพราะโลภจริงๆครับ ก็ทำการเอากำไรที่ได้เหยียบ 400 % นี่มาทำการ Short เลยครับ และด้วยความมั่นใจมาก เพิ่มเงินเก็บของตัวเองลงไปอีก กะสองเดือน เล่นหุ้นมาไม่ถึงปี กำไรเป็น 1000 %

ไปเลยครับ และแล้วในช่วงแรก มันก็เหมือนจะลงจริงๆ แต่มันดันมีทฤษฎีใหม่ของ elliot wave ที่เขาไม่เคยสอนครับ มันแค่ย่อครับ แล้วมันก็ขึ้นไปเลย ABC อยู่หนายยยยย – -! ไม่มีครับ C ส่วน B ก็ไม่เป็น B ครับเป็น new high ครับ ทฤษฎีที่ว่านั้นคือทฤษฎีคลื่นต่อขยายครับ

ถ้านับผิด มันจะถูกต่อขยายไปเรื่อยๆจนมันถูกครับ แล้วม่ายบอกแต่แรก แล้วยังจะมาบอกอีกว่า มันขึ้นไม่จริง เดี๊ยวมันก็ลง จนในบทความเขาบอกไม่ให้ cut loss ครับ ถือ future ขาดทุนไป 50 จุดไม่คัด เล่นหุ้นเองไม่เคยถือขาดทุนยาวนั้น และหนักขนาดนี้มาก่อน และแล้วทฤษฎีการต่อขยาย

ก็ทำผมขาดทุนยับเยินมหาศาลครับ ถ้าคิดเป็น % ก็ขาดทุนราวๆ 75 % ของเงินต้น และขาดทุนราว 85 % ถ้ารวมกำไรที่ทำมาทั้งหมดก่อนหน้า อภิมหาเครียดครับ รับรู้การ stoploss เรียบร้อยครับ ได้รับประสบการณ์มหาศาล

ขอสรุปคร่าวๆ จากประสบการณ์นี้นะครับ 1. จงอย่าเชื่อเพียงเพราะว่า

เขามีประสบการณ์การเทรดเยอะ ขนาดเกือบ 20 ปี เทรดน้ำมันในตลาดโลกอีกด้วยนะครับ ถ้าเล่นโดยไม่มีจุด Stoploss ก็เจ๊งได้ครับ 2. ได้กระจ่างทันทีว่าการเกร็งกำไรผิดพลาดเพียงครั้งเดียวสามารถทำให้หมดตัวได้ เราไม่ควรทำให้การเกร็งกำไรที่ผิดพลาดเพียงครั้งเดียวในช่วงระย

เวลาสั้นๆนี้ มาบ่อนทำลายกำไรทั้งหมดที่เราทำมาหลายๆครั้ง และยาวนาน ต้องนี้จึงเป็นความจำเป็นที่ต้องศึกษาเรื่อง money management 3.เมื่อได้เกิดความโลภ หรือความมั่นใจที่มากเกินไป โปรดระวัง ตลาดเราไม่ใช่คนกำหนดครับ จงอย่าคิดเข้าข้างตัวเอง จงอยู่กับมัน เทรดตามมัน

ถ้าใครคิดว่าฉลาดกว่าตลาดจะไม่ค่อยได้เงินหรอกครับ แต่เท่าที่ดูบทเรียนเหล่านี้ พูดไปก็ไม่น่าคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปเยอะ ถ้าคิดเฉพาะเงินต้นนะครับ ต้องทำกำไรเหยียบ 300 % นะครับ ถึงจะกลับมาคืนทุนอีกครั้ง ยิ่งคิด ก็ได้แค่มองฟ้าต่อไป ชาติไหนถึงจะได้คืน – -! ประสบการณ์เลวร้ายยังไม่จบครับ

เรื่องจำนวนขาดทุน ต้องบอกว่าหลักล้านนะครับ แต่ขอไม่บอกว่าเท่าไหร่ล่ะกันครับ ในความโชคร้าย ก็ยังมีความโชคดีอยู่นิดนึง ยังพอมีเทคนิคบางอันที่ได้มาจากเขา แต่ผมต้องศึกษา และฝึกสังเกตด้วยตัวเองมาตลอด 1 ปีให้หลังถึงจะเข้าใจมากขึ้น แต่คงเทียบกับการขาดทุนครั้งยิ่งใหญ่ของผมไม่ได้เลย – -!

ช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่ผมได้ออกจากงานมาแล้ว เพราะน้องเพิ่งเรียนจบครับเลยเข้าไปช่วยที่บ้านครับ เครียดครับเงินเดือนก็ไม่มี งานท่าเรือที่ช่วยน้าก็ไม่ค่อยมีงานครับ เป็นช่วงเศรษฐกิจแย่ต่อเนื่องจาก hamburger crisis ครับ เงินที่ได้เตรียมเอาไว้เป็นทุนดำรงชีพก็ละลายหายไปหมดกับการเก็งกำไรครั้งนี้ครับ

แต่ด้วยความงก + ความตั้งใจ และพากเพียรต่อ ผมมีคติให้กับตัวเองเสมอเวลาเล่นเสียครับ ผมจะบอกกับตัวเองเสมอว่าผมโง่ครับ ดังนั้นนี้คือแรงผลักดันให้ผมศึกษาเยอะขึ้น เยอะขึ้น เพื่อที่จะได้เก่งขึ้น และห้ามยอมแพ้ เพราะเราต้องลด risk ในการลงทุนโดยใช้ความรู้เท่านั้น ผมจึงเริ่มออกเดินทาง

รอบใหม่ หาแหล่งความรู้ใหม่ๆ แต่ลึกๆก็ยังกลัวอยู่ว่า แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเขาจะเก่งจริงๆ จนเจอ web ลุงโฉลกครับ นี่ผมว่าคือความโชคดีที่สุดหลังจาก ผ่านประสบการณ์เลวร้ายที่สุดมา โดยตอนแรกผมไม่รู้หรอกครับว่าเขาเป็นใคร เก่งจริงไหม ผมก็เลยลองเสี่ยงซื้อ CD 24 แผ่นของลุง

มาศึกษาก่อนครับ ซึ่งก็น่าจะประมาณ 4000 กว่าบาท จำไม่ได้แล้วครับ แต่มันก็น่าลอง ไหนๆก็ลองผิดลองถูกมาหลายขนาดเหลือเกิน แล้วราคาก็ไม่ได้แพงมากด้วย และผมก็รอหลายเดือนเหมือนกัน จนได้ CD มาศึกษา แล้วเรื่องราวชีวิตของผมก็เปลี่ยนไปมากมายเลยครับ

พอได้ CD ลุงโฉลกมาครับ ผมดูศึกษาอยู่นานทีเดียว ดูซ้ำไป ซ้ำมาจนเข้าใจมากขึ้นเลยทีเดียว โดยความรู้ตาม web หรือในหนังสือ บางครั้งมันเอามาใช้จริงไม่ได้เพราะอะไร แกเป็นนักเทคนิคจริงๆ ซึ่งผมก็มาทางด้านนี้อยู่แล้ว แนวความคิด รวมถึงความเข้าใจใน indicator ต่างๆ

ชัดเจนมากครับ ช่วงนั้นผมศึกษาถึงขนาด ดูไปนอนไป บางคืนก็เปิดฟังจนหลับไปเลย ตื่นมาตอนไหนจำถึงตอนไหนได้ ก็ย้อนกลับมาดูใหม่ ตรงไหนไม่เข้าใจก็ดูซ้ำไปซ้ำมา ศึกษาอยู่หลายเดือนเหมือนกันครับ มันไม่ใช่แค่แนวคิดทางการใช้เทคนิคอย่างเดียว แกสามารถพูดเรื่องธรรมะจนทำให้ผ

เข้าในสัจธรรมหลายอย่างมากขึ้นเกี่ยวกับการลงทุน ตรงนี้ไม่ขอพูดนะครับ เพราะท่าจะยาว แต่สำหรับผมมันคือความโชคดี ที่ทำให้ผมได้มาเจอกับลุงโฉลกครับ ผมต้องขอบอกตามตรงเลยจนถึงนาทีนี้ ในประเทศไทยผมยอมรับลุงโฉลกคนเดียว ที่ผมคิดว่าเก่งที่สุดทางด้านเทคนิคนะครับ แต่ด้วยผม

ก็ไม่ได้ไปรู้จักคนอื่นมากมายก็อาจจะมีคนเก่งกว่าลุงก็ได้นะครับ แต่เท่าที่ผมเจอมายังไม่มีครับ ดังนั้นผมเคารพลุงมากเลยครับ นอกเรื่องนานก็มาเข้าเรื่องกันต่อเลยครับ (แต่ในส่วนของ BIAS แกเราก็ไม่ควรเชื่อทั้งหมดนะครับ)

หลังจากที่ศึกษามาเรื่อยๆ ก็เริ่มจะทำกำไรกลับมาได้อีกครั้งครับ เดือนครึ่งกำไร เหยียบ 100 % อีกครั้ง คราวนี้ล่ะ ความรู้เยอะขึ้น คงไม่เสียแล้ว แต่ แต่ แต่ โลกของตลาดทุนโหดร้ายเสมอ ถ้าองค์ประกอบไม่ครบ เราก็พร้อมจะเสียเสมอครับ มาดูกันครับว่าคราวนี้ผมเสียด้วยเรื่องอาไร ตอนชุมนุมเสื้อแดงครับ

หุ้นตกมหาศาลมากช่วงนั้นครับ เริ่มจากประกาศ พรก ฉุกเฉิน และตามมาด้วยยิงกันที่คอกวัว หุ้นมันลงเร็วกว่าที่ผมจะ cut ครับ เล่นเปิดกระโดดลงมาเลยทำใจคัดไม่ได้ครับ และกำไรก็หายไปในพริบตา แต่ไม่ได้ขาดทุนนะครับ กำไรนิดเดียว ทำไมผมถึงถือเพราะบทเรียนอย่างแรกคือ

1. จิตวิทยาไม่ดี ขายขาดทุนไม่ได้ตามแผนที่วางไว้ เพราะมันเปิดกระโดดลงมาเลย และอยู่กับความหวังมากเกิน 2. ความหวังที่ผมพูดคือ ผมไปคำนวณกราฟ asia ประเทศอื่นซึ่งมันก็ถูกนะครับ มันก็เขียว แต่ไทยไม่ใช่ครับ บทเรียนนี้ เทรดตลาดไหน ก็จงคำนวณตลาดนั้นครับ ตลาดอื่นเขียว

ใช่ว่าบ้านเราจะเขียว ไทยมานก็แดง แดง แดง – -! เซ็งเลยครับ กำไรตรูหายไปอีกล่ะ และผมก็ยังอดทนคิดว่ายิงกันคอกวัวน่าจะเป็นเหตุการณ์เลวร้ายที่สุดแล้ว ก็ทำการเล่นต่อไป และ แล้ว และ แล้ว ยังมีอีกครับ เผาเมืองงงงง !!! ช๊อคอีกรอบ สรุปช่วงนั้นรอดมาได้ ไม่ได้ ไม่เสี่ยกำไรนิดนึง แต่เครียดมากครับ

เราไม่รู้หรอกครับว่ามันจะจบเมื่อไหร่ ผมได้บทเรียนอีกว่า จงมีวินัยในการลงทุน แล้วคุณจะผ่านมันไปได้ เราไม่รู้เหตุการณ์จะจบเมื่อไหร่ ระบบให้ซื้อเราก็ควรซื้อ ระบบขายเราก็ต้องขาย เพราะถ้าเราเป็นนัก trend following เราห้ามตกเทรนครับ นี่คือช่วงกำไรมหาศาล หรือช่วงคืนทุนเลยทีเดียว

เพราะหลังจากนั้น future ก็ขึ้นมาจากวันที่เผา central world อีก 200 ว่าจุดเลยทีเดียว และเป็นผมอีก ไปคัดที่ ตูดเลยครับ ระบบให้ซื้อไม่กล้าซื้อครับ กำไรหายไม่พอ ยังตัก เทรนอีก – -! ช่างหน้าเศร้ายิ่งนัก

หลังจากนี้ก็เล่นมาเรื่อยๆ ก็ทำการทดสอบ ระบบหลายระบบพอสมควร และทดสอบ indicator หลายๆตัว จนได้แนวทางการเทรดของตัวเอง แต่ก่อนหน้านั้น ก็ไปเจอวิทยากรท่านนั้น ที่ผมคิดว่าเก่ง และแอบทำตามอยู่พักนึง ก็เจ๊งครับ แต่คราวนี้ไหวตัวทันครับ แค่กำไรหายเฉยๆ รวมถึงบางคน

ก็สอนเก็บเงิน ไม่ขอเอ่ยนาม หลายท่านที่คิดแพงๆ แต่เท่าที่คุยเหมือนไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าไหร่ แล้วก็ไม่ได้เก่งเท่าไหร่ครับ ทำเงินจริงๆไม่ได้ มีท่านนึงก็บอกอีกว่ามันเป็น wave 5 เดี๊ยวต้องลงหนัก (อีกแล้วทฏษฎีนี้อีกแล้ว นับกันผิด นับกันจริง) ลง ABC อีกแล้ว คุ้นๆๆๆ และแล้วจากจุดที่เขาบอก

มันจะลง มันก็ทำท่าเหมือนจะลงเป็น A และ และ rebound ขึ้นไปเป็น B และ ก็ไม่มี B ครับ new high ไปเลยแล้ว มันก็ขึ้นมาอีก 100 จุดใครเชื่อเขาก็เจ๊งละครับ แต่สังเกตนะครับ ถ้าเขาถูกล่ะ สงสัยจะดังกันไปข้างเลย อารมณ์เหมือนหมอดู ยังไงการเชื่อไม่ว่าจะเป็นนักวิเคราะห์

นักสอน marketing ยังไงเราต้องระวังมากหน่อยนะครับ เพราะเราไม่รู้หรอกว่าเรากะลังคุยกะคน 95 % ที่เจ๊ง หรือ 5 % ที่ประสบความสำเร็จ ยังไงเชื่อในองค์ความรู้ตัวเองจะดีกว่าครับ ถ้าไม่มีก็ค่อยๆ ศึกษาครับ นั้นทำไมผมถึงให้ความสำคัญของการศึกษาครับ

พอหลังจากเจอผ่านเหตุการณ์เหล่านี้ ไปได้ ตั้งใจศึกษา มีระเบียบวินัยในการเข้าออกมากขึ้น ใช้ระบบที่ทดลองแล้วใช้งานได้ดีที่สุด จากการลองผิด ลองถูกมาอย่างสะบักสะบอม ก็เริ่มทำกำไรในตลาดได้จริงๆสักที ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับปีชงด้วยหรือเปล่าครับ เพราะตอนที่ผมได้กำไรมหาศาลในช่วงแรกก็ก่อน

เข้าปีชงครับ แต่พอเข้าปีชงปุ๊ป ก็ขาดทุนมหาศาล ไม่พอยังเล่นไม่ได้เลย เล่นได้เท่าไหร่ก็เสีย คืนตลาดไปหมด แถมยังให้โบนัสคืนทุนตัวเองให้ตลาดอีก – -! ทั้งเรื่องเสื้อแดง รวมถึงเจอวิทยาก่อนที่นับ wave 5 นี่อีก

ผมต้องบอกว่าในช่วงท้ายของปีชงนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยว หัวต่อที่ผมแทบจะเดืนออกจากตลาดหุ้นเลยทีเดียว อย่างที่ผมบอก ผมนั่งทบทวนถึงตัวเอง กับการเป็น full-time trader ว่าใน 1 ปีครึ่งที่ผ่านมานี้ (เป็นfull time ก็ 1 ปีเองนะครับ) ไม่ใช่แค่ขาดทุนอย่างเดียวนะครั

กำไรไม่เห็น แล้วเงินที่ใช้ดำเนินชีวิต มันก็ต้องใช้ และผมก็ยังมองเมฆต่อไป 300 % เพื่อคืนเงินต้นอยู่เลย มันไม่ได้ลดลงเลย เมื่อเวลาผ่านไปจากจุดเริ่มต้นเป็นปี มันจะยังเป็นอย่างนี้ ถึงเมื่อไหร่ การเก็งกำไรในช่วงครั้งสุดท้าย ถ้าผิดพลาดนี่หมายถึงผมอาจต้องเดินออกจากตลาดอย่างผู้แพ้ได้เลยครับ ความตั้งใจสู้มีครับ

ความพากเพียรมีครับ แต่เงินมะมีแล้วครับ ดังนั้นทำไมผมถึงต้องให้เรียนรู็เรื่องการปกป้องเงินทุนเราเป็นลำดับต้นๆ นั่นคือ stoploss ไม่แค่เพียงศึกษาครับ แต่ในความเป็นจริงมันทำได้ยากมากเช่นกัน แต่มันคุ้มแน่นอนครับ ในช่วงนี้ ผมเครียดจนต้องไปนั่งสมาธิกรรมฐานเลยครับ แต่ก็

ยอมรับครับว่าจิตใจไม่ค่อยสงบเท่าไหร่ แต่ก็ช่วยได้มากครับ เพื่อนผมพาไปครับ และทุกอย่างก็เริ่มดีขึ้นครับ

อย่างที่บอกครับ พอหลุดปีชงมาหน้ามือเป็นหลังมือเลยครับ อาจจะ + กับผลบุญการนั่งกรรมฐานด้วย เพราะตอนนั้นไม่ได้คิดว่าจะนั่งเพื่อหวังเอาเงินคืนนะครับ แค่นั่งเพราะต้องการความสงบครับและหลังจากนั้น ผมตัดสินใจเลิกเชื่อนักวิเคราะห์ทุกท่าน block email marketing

ทุกคนที่ส่งการวิเคราะห์มาให้ผมทุกวันและในหลายๆ โบรค และเริ่มทำการเทรดในแนวทางของตัวเองมาตลอด แม้กระทั่งอ่านข่าว ก็อ่านบ้าง แต่ไม่ได้เอามาวิเคราะห์อะไร แค่ให้พอรู้ การซื้อขายเน้นตามเทคนิคล้วนๆ หลังจากหมดปีชง ให้หลังมา เกือบ 6 เดือนผมก็กลับมาทำกำไรได้อีกครั้งถึง

เกือบ 500 % ครับ ในที่สุดก็ไม่ได้ยืนมองเมฆล่ะครับ มาเหยียบเมฆได้สะที แต่ในระหว่างที่ผมได้กำไร ผมก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองเก่งนะครับ ก็ยังศึกษาไปเรื่อยๆ ทั้งวิธี และข้อผิดพลาดที่นักเทรดพลาด จะได้พยายามหลีกเลี่ยงในสิ่งที่อาจจะเกิดกับผมได้ในอนาคต ^^

นี่ก็เป็นประสบการณ์มา Share นะครับ ก็อยากให้เพื่อนๆ เอาไว้เป็นข้อคิด รวมถึงความโลภที่เกิดขึ้น ความกลัว ความเครียด บลา บลา บลา ^^ ก็หวังว่าคงมีประโยชน์กับเพื่อนบ้างนะครับ ก็เป็นเส้นทางของนักเทรดคนนึงครับ ยังต้องการการพิสูจน์อีกเยอะครั

โชคดีกั

 

http://www.bigmovecl...B8%B4%E0%B8%81/

ขอบคุณมากๆค่ะคุณบอย :01

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณ คุณบอยมากที่เล่าสู่กันฟัง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...