คุยกานขำๆเรื่องทอง

[gejen 5,749]

Gold Direction By GT Gold Bullion: 17 September 2557

 

 

 

ราคาทองคำเคลื่อนไหวไม่มากนักในชว่งบ่าย หลังจากที่ปรับเพิ่มขึ้นมาในช่วงเช้า

โดยมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ US$1,220 ซึ่งหากหลุดแนวรับดังกล่าว จะลงทดสอบแนวรับจิตวิทยาที่ US$1,200

ขณะที่แนวต้านสำ คัญอยู่ที่ US$1,245 ที่ Retracement 23.6% และ US$1,255 ที่Retracement 38.2%

 

ด้าน Indicator เริ่มมีสัญญาณเป็นเชิงบวก หลังจากที่ RSI เริ่มปรับขึ้นเหนือเขต Oversold

เช่นเดียวกับ MACD ที่เริ่มปรับตัวขึ้นอีกครั้ง

 

กลยุทธ์ ถือรอทดสอบ US$1,255 และทยอยสะสมซื้อเพิ่มเติม ตัดขาดทุนหากหลุด US$1,220

[gejen 5,749]

Gold spot Intraday: the bias remains bullish.

 

Pivot: 1225

 

Most Likely Scenario: Long positions above 1225 with targets @ 1250 & 1257 in extension.

 

Alternative scenario: Below 1225 look for further downside with 1215 & 1207 as targets.

 

Comment: The RSI is supported by a bullish trend line.

 

 

[gejen 5,749]

EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่แล้วพุ่งขึ้น 3.7 ล้านบาร์เรล

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 17 กันยายน 2557 23:00:21 น.

 

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า

สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 12 ก.ย. พุ่งขึ้นสวนทางคาดการณ์

 

โดยสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 3.7 ล้านบาร์เรล แตะ 362.3 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะร่วงลง 1.2 ล้านบาร์เรล

สำหรับสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอคลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งน้ำมัน ปรับตัวลดลง 357,000 บาร์เรล สู่ระดับ 20 ล้านบาร์เรล

 

ด้านสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล แตะ 210.7 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัว

ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 279,000 บาร์เรล สู่ระดับ 127.8 ล้านบาร์เรล

ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล

 

สำหรับอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันร่วงลง 0.9% สู่ระดับ 93.0% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 0.7%

[auntnextdoor 4,268]

ใครจะโดนกินตับ แหะๆ พักก่อนจ้า ใจตัวเองอยากแอล มะกี้แอล34.5 ปิด36.44 เล่นแก้ง่วง ก่อนข่าวออก ควรทำสถานะให้ว่าง อิอิ

[gejen 5,749]

โหมหาเสียงโค้งสุดท้าย

 

คู่แข่งขันในการลงประชามติเรื่องการแยกตัวเป็นอิสระของสกอตแลนด์

กำลังโหมหาเสียงกันสุดเหวี่ยงในช่วงสุดท้ายก่อนวันตัดสินพรุ่งนี้

เป้าหมายคือเรียกคะแนนจากคนที่ยังไม่ตัดสินใจ

 

ฝ่ายต้องการแยกตัวจัดชุมนุมใหญ่กลางเมืองกลาสโกว์โดยชู สโลแกน “โหวต เยส เพื่อความมั่งคั่งของสกอตแลนด์”

ส่วนฝ่ายที่ไม่ต้องการแยกตัวก็ไปชุมนุมใกล้ๆกันโดยเน้นว่าเหตุผลของฝ่าย เยส ไม่มีน้ำหนักพอ

 

โพลล่าสุดที่เผยแพร่บ่ายวันพุธชี้ว่าฝ่ายต้องการแยกตัวจะได้คะแนน 48%

ส่วนฝ่ายที่ต้องการอยู่ในสหราชอาณาจักรต่อไปจะได้เสียง 52%

โพลนี้ไม่นับคนที่ยังไม่ตัดสินใจ

 

โพลอีกหลายๆรายที่ออกมาก่อนหน้านี้ก็ชี้ไปในทางเดียวกัน

 

 

ถูกแก้ไข กันยายน 17, 2014 โดย gejen

[gejen 5,749]

 

ใครจะโดนกินตับ แหะๆ พักก่อนจ้า ใจตัวเองอยากแอล มะกี้แอล34.5 ปิด36.44 เล่นแก้ง่วง

ก่อนข่าวออก ควรทำสถานะให้ว่าง อิอิ

 

 

กำไรทั้งวัล ทั้งคืน ยินดีด้วยจ้า

[gejen 5,749]

บทความ Unhappy Ending หรือ จบแบบไม่สุข

 

มองทางเลือกค.ส.ช.: เลือกตั้งช้า วางกฎบีบนักการเมืองบางค่ายหลุดจากระบบ แก้ไขระบบหนึ่งเสียงหนึ่งโหวต

 

นักวิเคราะห์การเมืองไทยดันแคน แมคคาร์โก้ ชี้รัฐบาลทหารมีทางเลือกไม่มากในการนำพาประเทศท่ามกลางแรงกดดัน

เพราะเดินสวนทางความต้องการของคนส่วนใหญ่

ชี้หนทางที่เป็นไปได้คืออยู่ในอำนาจให้นาน จัดเลือกตั้งให้ช้า

วางกฎในรัฐธรรมนูญเพื่อขจัดนักการเมืองกลุ่มที่ไม่ต้องการออกจากสาระบบ

วางระบบการออกเสียงแบบใหม่ไม่เอาแบบเดิมคือหนึ่งเสียงหนึ่งโหวต

 

พร้อมกันนั้นมองว่ากลุ่มเสื้อเหลืองเริ่มเบื่อคสช.แต่ถ้าทหารเล่นงานทุกฝ่าย ก็จะยิ่งเจอแรงกดดันมากขึ้นไปอีก

 

17 กันยายน 2014 เวลา 18.46 น

.

จาก บทความของ Duncan McCargo ที่เขียนบทความเรื่องการเมืองไทยเอาไว้ในหัวข้อเรื่องว่า Unhappy Ending หรือจบแบบไม่สุข

บทความของเขาลงตีพิมพ์ในเวบชื่อ Foreign Policy

 

ดัน แคน แมคคาร์โก้เป็นนักวิชาการชาวอังกฤษ ทำงานวิชาการและเขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องการเมืองไทยมายาวนาน

ได้ชื่อว่า มีองค์ความรู้เรื่องการเมืองเมืองไทยดีมากคนหนึ่งในบรรดานักวิชาการต่าง ประเทศที่ศึกษาเรื่องการเมืองไทย

 

 

 

 

สาระ สำคัญของ Unhappy Ending เป็นบทความที่มองว่าไทยกำลังจะเดินไปทางไหนภายใต้รัฐบาลคสช.และพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา

จุดที่น่าสนใจคือพิจารณาทางเลือกของคสช.ว่ามีอะไรบ้าง บทความบอกว่า

 

การคืนความสุขของคสช.นั้นเป็นที่รู้กันว่าคนที่ชอบคือคนที่สนับสนุนซึ่งมีอยู่เป็นส่วนน้อยกว่าคนที่ต่อต้าน

ดังนั้นถ้าจะมองทางออก สิ่งที่ดีที่สุดก็คือคสช.ยอมรับว่านี่คือความเป็นจริงและเปิดให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วเพื่อตอบโจทย์ให้คนส่วนใหญ่

เช่นด้วยการปฏิรูปให้พอประมาณแล้วจัดเลือกตั้งในครึ่งหลังของปีหน้า ปัญหาของพวกเขาคือพรรคของค่ายทักษิณอาจจะกลับคืนสู่อำนาจ

 

ดังนั้นหนทางที่เชื่อว่าจะเป็นไปได้มากที่สุดคือ

การผสมผสานทางเลือกระหว่างการ จัดเลือกตั้งให้ช้า

จัดวางระบบในรัฐธรรมนูญแบบที่ทำให้นักการเมืองจำนวนหนึ่งไม่สามารถกลับเข้ามาได้อีก

หรืออาจจะร่วมกับการให้มีพรรคการเมืองที่ทหารสนับสนุน

หรืออาจจะรวมเอาการมีระบบการเลือกตั้งแบบที่ไม่ใช่ระบบหนึ่งเสียงหนึ่งโหวต

เช่นอาจลอกเลียนแบบบางส่วนมาจากระบบของฮ่องกงที่ให้มีกลุ่มหรือองค์กรเข้าไป มีสิทธิเลือกคนได้

 

บทความประเมินต่อว่า สถานการณ์ล่าสุดตอนนี้ แม้แต่กลุ่มที่ต่อต้านทักษิณอย่างพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย

ที่เคยนำคนเสื้อเหลืองต่อต้านรัฐบาลทักษิณก็เริ่มแหนงหน่ายคสช.

และถ้าคสช.จะจัดการคนที่ไม่เห็นด้วยทางการเมืองในกลุ่มการเมืองกลุ่มนี้

รวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์ที่เคยร่วมสนับสนุนการต่อต้านจนถือได้ว่ามีส่วนช่วยในการปูทางให้เกิดการรัฐประหารได้

รวมทั้งการสนับสนุนการชุมชุนบนถนนหลายเดือนก่อนหน้านี้

คสช.ก็อาจจะเจอแรงกดดันถึงขั้นทำให้ต้องจัดเลือกตั้งเร็วขึ้นแทนก็เป็นได้

 

บทความบอกว่า หัวใจของคสช.คือการปรองดองคืนความสุขแบบไม่ให้มีความเห็นต่าง

เพราะความเห็นต่างแสดงความแตกแยกในสังคมไทย มีการยกเลิกการจัดงานสัมมนาที่คนจะแสดงออกอย่างแตกต่าง

บทความชี้ว่า ที่ผ่านมาการแบ่งแยกขั้วสีและความขัดแย้งทางการเมืองทำให้เกิดวัฒนธรรมการตอบโต้กันอย่างรุนแรง

และชี้ว่าความขัดแย้งนี้ต้องการการบริหารจัดการเพื่อจะลดระดับและขีดวงจำกัด ให้น้อยลง

แต่จะทำอย่างนั้นได้ต้องให้ฝ่ายต่างๆในความขัดแย้งมีส่วนร่วมอย่างคึกคักและ ด้วยความสมัครใจไม่ใช่เอาปืนไปจี้

 

บทความบอกว่า ถ้าคสช.คืนความสุขทำให้คนสองขั้วคืนดีกันได้จริง

ก็น่าจะทำให้ประเทศมีเอกภาพพอจะกลับคืนสู่สภาพปกติและเดินหน้ากันต่อไปได้

แต่สำหรับตอนนี้ ยิ่งคสช.และพล.อ.ประยุทธ์ทำอะไรแปลกๆมากเท่าไหร่ก็อาจจะยิ่งดีเท่านั้น

เพราะจะทำให้คนไทยมีความสุขกันเร็วขึ้นแม้ว่าอาจจะไม่ใช่สุขโดยนัยตามเพลง ที่พล.อ.ประยุทธ์แต่งเอาไว้ก็ตาม

[gejen 5,749]

พฤหัสบดี 18 กันยายน 57

 

1:00 สหรัฐฯ ผลการประชุม FOMC

19:30 สหรัฐฯ ยอดขออนุญาตสร้างบ้าน

19:30 สหรัฐฯ ยอดเริ่มต้นสร้างบ้าน

19:30 สหรัฐฯ ยอดขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

19:45 สหรัฐฯ ปราศรัยประธาน FOMC เจเน็ต เยลเลน

21:00 สหรัฐฯ ดัชนีภาคการผลิตเขตฟิลาเดลเฟีย

[sriwanitchayakorn 531]

ดิ่งลงมาแปดเหรียญ

[auntnextdoor 4,268]

กดได้เอส38 ปิด29.5 ตอนนี้กดแอลได้เหรียญ2เหรียญก็ปิด

[ariya 1,481]

ตั้งไว้ก่อนนอนโดนไปเต็มๆ แอล31 ดันตั้งเป้าเสียสูง เลยลงมากินคัทเจ้แทน แอล 25 ที่ตั้งไว้ก็โดน ต่อไปไม่ตั้งใก้ลๆกันละ

 

[sriwanitchayakorn 531]

ซื้อเพิ่มที่ 1217 ครับ และ อรุณสวัสดืครับ

[sr20detgt 1,468]

ไฮโซชาวดอย

 

 

เดารายวัน

 

เมื่อวานนี้ทองเปิดตลาดที่ 1234 ไปทำ high ที่ 1239 ก่อนที่จะทำ low 1221 แล้วปิดที่ 1223 สรุปลงมา -$11 ทำให้อาทิตย์นี้ผ่านไปสามวันยังคงเป็นลบอยู่

วันนี้ที่เห็นเราได้ low ใหม่ที่ 1215.99 จากผลประกาศของ FED เรามาดูเรื่องของ FED กันก่อน ก่อนอื่นคุณ Yellen ไม่ได้กล่าวอะไรใน text ที่จะเป็นการตีความได้เลย แถมจะตีความไปเป็นลบกับ Dollar ด้วยซ้ำ

"That it likely will be appropriate to maintain the current target range for the federal funds rate for a CONSIDERABLE TIME after the asset purchase program ending"

ถ้าเราอ่านประโยคที่ท่านกล่าว ไม่มีบอกเลยว่าเมื่อไหร่ นักข่าวเลยถามว่า CONSIDERABLE TIME คืออะไร

ท่านกลับตอบว่า No machanical determination of what considerable time means งง ต่อ คือว่าง่ายๆ แล้วแต่ตัวเลขจะพาไป เหมือนจะเป็นแบบนั้น

สิ่งที่ FED ทำครั้งนี้คือลด QE ลงตามคาด แล้วบอกว่า

"QE will be ended at next meeting if unemployment and inflation continue along similar path"

นั่นหมายถึง Oct จะจบลงซึ่งก็เดินตามกรอบที่วางซึ่งทุกคนก็รู้ไม่มีอะไรน่าแปลกใจ แต่สิ่งที่น่าแปลกใจน่าจะเป็นเพราะตรงนี้

ถ้าเราดูในภาพที่ลงให้ จะเห็นว่า 15 ของ 17 FED ที่สามารถลงคะแนนได้เปลี่ยนเทคะแนนว่าสมควรจะขึ้น rate ในปี 2015 และถ้าเรามองลึกลงไปอีก เราจะเห็นว่า 13 ใน 15 มอง rate อยู่ที่ 0.75%-2.00% ถ้าใครได้อ่านที่ผมเขียนเมื่อวาน ถ้าจะขึ้นถึง 0.75% ถึง 2% FED จำเป็นต้องขึ้น rate ตั้งแต่ Q1 ไม่เช่นนั้นก็จำต้องขึ้น rate แบบก้าวกระโดดเกินกว่า 0.25% ต่อ quarter ซึ่งก็จะตรงกับคำที่ท่านพูดว่า

"If economy outperforms, rates will increase more quickly, if it doesn't, it won't"

ก็เหมือนเดิมแทงกั๊ก แต่ถ้าดูความในหมายความว่าถ้าตัวเลขดีมากๆ เราอาจจะเห็นก้าวกระโดดจริงๆ ซึ่งนี่คือเหตุผลที่ทองลงมาถึงปัจจุบันนี้ ทองจะลงต่อไปไหม จากตัวเลขของ FED เชื่อว่าถ้าตัวเลข ว่างงานลดลง และตัวเลขเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น (US ภาวะเงินฝืดนะ) FED ก็จะเพิ่มดอกเบี้ยเร็วขึ้นแบบก้าวกระโดด ซึ่งทองจะรับผลในช่วงแรกเหมือนตอนโดนลด QE ในครั้งแรกๆที่แรงๆ แล้วก็จะค่อยๆชินกับข่าวแล้วหาแนวโน้มอื่น แต่ที่แน่ๆต้องลงเร็วก่อน

หลายคนคงถามเหมือนกันว่า นานขนาดไหน ถ้าดูจากที่ FED คาด เราก็คงอยู่ในช่วงขาลงไปถึง Q2 ปีหน้า ถ้าไม่มีข่าวอื่นมาเสริม นี่คือ ความจริงที่เจ็บปวดของคนมีทองแท่งหรือติดดอย จริงมันอาจจะไม่ลงเยอะมากมาย แต่มันก็ไม่ขึ้นพอที่ท่านทั้งหลายจะหลุดดอยได้เช่นกัน ว่าง่ายๆ เงินจม ฝากธนาคารได้ดอก 2-3% ต่อปี ฝากกับทองไม่ต้องดูราคาแค่ดูค่าเงินเฟ้อพื้นฐาน ติดลบทันที 2-3% เพราะแม้แต่ขายทองราคาเท่าเดิมสิ้นปีหน้า ค่าเงินที่มีอยู่ในมือก็ด้อยค่าลง 2-3% ตามภาวะเงินเฟ้ออยู่ดี นี่คือความจริงที่เจ็บปวด

ทีนี้มาดูข่าวอื่น ในเรื่องของยูเครนเมื่อวานนี้เงียบแต่ยังคงอยู่ในมาตราการหยุดยิงซึ่งไม่ได้ตรึงเครียดขึ้นจากข่าวเมื่อวาน ส่วนในอิรัค เมื่อเช้าหลังจากเมื่อคืนมีหลายสำนักออกข่าวมาว่า ทหารสหรัฐปฏิษัติหน้าที่เกือบ 50% ทำ action แทบทั้งหมดเหมือนจะเป็นการรบเอง John Kerry ก็เลยออกมาให้สัมภาษณ์ตอกย้ำว่า "US troops who have been deployed to Iraq do not and will not have combat mission" ดังนั้นถ้าเราดูในมุมของสงครามก็ไม่มีผลบวกกับทอง

วันนี้ที่น่าสำคัญคงหนีไม่พ้นการลงมติ แยกประเทศของสก๊อตแลนด์ หลายๆคนที่เล่น Forex คงงงว่าทำไมทุกค่าเงินตรงข้าม dollar นั้นลงแต่ Pound กลับไม่ลง นั่นก็เพราะ Pound นั้นลงมาก่อนแล้วหลังจากเปิดโพลว่า อาจจะโหวต Yes ซึ่ง ณ วันนี้แนวโน้มนั้นจะเป็น No ค่าเงิน Pound เลยไม่ได้ลงต่อเพราะเรื่อง FED หลายสำนักบอกว่า No แต่ทุกอย่างในโลกเกินคาดการณ์อาจจะกลับเป็น Yes ก็ได้ แล้ว Pound จะลงหนักกว่านี้ก็ได้ แต่แทบทุกคนให้แนวโน้มว่า No หมด คือไม่แยกประเทศ....เกี่ยวกับทองไหม ถ้าคิดดีๆก็เกี่ยวนะ คือถ้าโหวต No จะไม่เกี่ยวเลย แต่ถ้าโหวต Yes เชื่อว่าเกี่ยวแน่ เพราะ Uncertain ว่าจะเป็นอย่างไรต่อในอนาคต 18 เดือน ในสมัยอยู่ต่างประเทศเราถูกสอนเรื่องการลงทุน หรือเราไปสอนคนอื่นเรื่องการลงทุน เราจะสอนเสมอว่าให้แบ่งพอร์ต ไปสู่ทองคำ 10% ของพอร์ตทั้งหมด ไม่ได้เพราะหวังเรื่องกำไรขาดทุน แต่ Protect Wealthy นั่นเป็น Insurance เพราะความไม่แน่นอน ซึ่งถ้าเกิดความกังวลและไม่แน่นอนในการลงประชามติในบ่ายนี้ คือมีแนวโน้มไปทาง Yes ทองอาจจะได้รับผลจากตรงนี้ ซึ่งเราคาดไม่ได้ว่า นลท จะ panic หรือตื่นตระหนกขนาดไหนถ้าออกมาเป็น Yes

หลังจากนั้นในคืนนี้เรามาดูตัวเลขทางฝั่ง US ประกาศอีกครั้งซึ่งแนวโน้มจะออกมาดีทั้งหมด ลบกับทองต่อ ตามด้วยมาฟังคุณ Yellen อีกครั้งว่าสรุปแล้วคำพูดบางคำของเธอนั้นเมื่อคืน มันหมายความว่าอะไร โดยเฉพาะวลีที่ว่า

"It will take the end of the DECADE to shrink the FED balance sheet"

ตกลงว่าท่านมึนกับคำถามหรือที่ท่านคิดจริงๆ เพราะตอนนี้เครติดหลายที่กำลัง review สถานะของ FED การโพล่งออกไปเช่นนี้อาจจะส่งผลลบต่อ dollar ได้

ในทาง Technical ก่อนอื่นเราได้ 1216 เมื่อเช้าก็แสดงความยินดีกับหลายๆท่านที่เก็บ S มาบางท่านทยอยปิดไปหมดแล้ว แต่ผมยังนะ ปิดไป 50% รอเลี้ยงกำไรต่อ เพราะมองว่าน่าจะลงอีก เมื่อเช้านี้เขียนไว้ว่า ท่านที่มี S สูงกว่า 1256 เลี้ยงต่อคือตามนั้น เพราะถ้าเรามองที่กราฟเทคนิคเราจะเห็นว่าเรามีเป้าหมายเล็กๆที่กราฟสามารถลงได้อีกคือ 1213-1208 ถ้าเราเข้าไปดู ใน TF รายย่อยลงไปเราจะพบว่ากราฟเหล่านั้นโดนลบสัญญาณขาขึ้นไปหมดแล้วคือหมายความว่าจำเป็นต้องลงมาก่อน ก่อนที่จะสามารถไปขึ้นใหม่ ดังนั้นมองว่า วันนี้ถ้ากราฟ rebound มาได้แค่ 1228-1231 โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 1241 ก็น่าจะเปิด S ต่อไป โดยมีเป้าหมายที่ 1213-1208

แนะนำอยู่ S เหมือนเดิมที่ 1228-1231 แต่ถ้าเล่น S ครั้งนี้สมควรตั้งคัทที่ 1238 เพราะเราไม่รู้ว่าถ้ามี panic ในสก๊อตแลนด์แล้วพลิกโผจะเกิดอะไรขึ้น

สรุปยังเดาว่าลงเหมือนเดิมนะครับ เป้าระยะสั้นคือ "1208" แล้วเป้าระยะไกลคือเป้าต่อไปที่ "1180"

ขอให้มีความสุขในการลงทุน ขอพระเจ้าอวยพร ^^

 

[sr20detgt 1,468]

เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยปี 2015 อย่างไร?

 

 

โดย : ผศ.ดร.บุญธรรม รจิตภิญโญเลิศ

 

ในช่วงค่ำนี้ ก็ถึงเวลาที่จะต้องติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดกันอีกครั้ง ว่าจะส่งสัญญาณอย่างไร

 

สำหรับในจังหวะเวลาที่การซื้อพันธบัตรระยะเวลาปานกลางหรือ QE จะสิ้นสุดลงในเดือนหน้า 

ผมขอนำบทความจากหนังสือพิมพ์ วอลล์สตรีท เจอร์นัล ฉบับสุดสัปดาห์ ที่สรุปถึงแนวทางที่เป็นไปได้สำหรับการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของ ดร. เจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ที่คาดว่าจะมีขึ้นภายในกลางปี 2015 มาเกริ่นไว้ดังนี้ 

สิ่งที่ถกเถียงกันในตอนนี้ มิใช่ว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยไหม ทว่าเป็นคำถามที่ว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอย่างไร จะขึ้นแบบเริ่มในเร็ววันและค่อยๆ ขึ้น หรือ จะรอออกไปอีกสักระยะแล้วขึ้นแบบปรื๊ดเดียว ดังรูป โดยก่อนที่จะตัดสินว่าจะขึ้นแบบไหนดี ลองมาเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของทั้ง 2 วิธีนี้กันก่อน

หากไปพลิกตำราหาทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์จะพบว่าไม่มีคำตอบแบบฟันธง ดังนั้น  คำตอบสุดท้ายจึงขึ้นอยู่กับทัศนะและวิจารณญาณของนางเยลเลนและทีมงานว่าจะเลือกขึ้นแบบไหน

ทางฝากที่เชียร์ให้ขึ้นเร็วแต่ค่อยๆ ขึ้น มีเหตุผลอยู่ 3 ประการ ได้แก่

หนึ่ง วิธีนี้ให้เสถียรภาพทางการเงินต่อเศรษฐกิจสหรัฐมากกว่า เจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐหลายท่านกังวลว่าหากขืนยังปล่อยให้อัตราดอกเบี้ยแช่ไว้ที่อัตราดอกเบี้ยร้อยละศูนย์จะทำให้สินเชื่อเติบโตเร็วจนเกินไป การขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะลดโอกาสฟองสบู่เศรษฐกิจสหรัฐแตกด้วยสาเหตุดังกล่าว

สอง กระบวนการส่งผ่านสำหรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐ จากเดิมที่เคยใช้การเพิ่มหรือดึงเม็ดเงินออกจากระบบสถาบันการเงิน เนื่องจากการปํ๊มเงินปริมาณมหาศาลเข้าระบบการเงินหลังวิกฤตปี 2008 ทำให้กลไกดังกล่าวไม่สามารถดำเนินได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกต่อไป

โดยในขณะนี้ ทางเฟดได้วางแผนที่จะใช้อัตราดอกเบี้ยซึ่งจ่ายให้กับการซื้อขายกองทุนรวมในตลาดเงิน หรือ ใช้อัตราดอกเบี้ยที่จ่ายบนเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ในส่วนที่เรียกว่าสำรองส่วนเกินหรือ excess reserve ภายในสัปดาห์หน้า ดังนั้น หากเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเร็วก็สามารถมีเครื่องมือดังกล่าวในการบริหารจัดการการขึ้นของอัตราดอกเบี้ยได้ 

สาม การขึ้นดอกเบี้ยเร็วมีข้อดี ที่หากตัวเลขเศรษฐกิจออกมาไม่สู้ดีในอนาคต ก็ยังชะลอการขึ้นดอกเบี้ยได้ ทว่าหากขึ้นช้าไป จะทำให้อาจเกิดฟองสบู่เศรษฐกิจแตก จนต้องขึ้นดอกเบี้ยแบบปรื๊ดเดียว ซึ่งก่อความเสียหายต่อเศรษฐกิจมากกว่า

ทางฝากที่เชียร์ให้ชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายออกไปก่อน ก็มีเหตุผลของเขาเช่นกัน โดยมองว่าการขึ้นดอกเบี้ยเร็วและหากเศรษฐกิจสหรัฐเกิดสะดุดขึ้นมา และต้องกลับมาลดดอกเบี้ยนโยบายใหม่หรือถึงขั้นกลับไปทำ QE ใหม่นั้น ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจมากกว่าการชะลอการขึ้นดอกเบี้ยออกไปก่อน 

โดยบิ๊กเนมหรือกูรูทางเศรษฐกิจของทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็ออกมาเชียร์ความเห็นของตนกันยกใหญ่ โดยฝ่ายแรก นำทีมเชียร์โดย ดร. ชารลส์ โพลเซอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ สาขาฟิลาเดลเฟีย ส่วนฝ่ายหลังก็ไม่แพ้กัน นำทัพโดยนายเดนนิส ล็อคฮาร์ต ประธานธนาคารกลางสหรัฐ สาขาแอ็ตแลนต้า 

สำหรับความเห็นของผู้เขียน คิดว่าตลาดการเงินในช่วงนี้ค่อนข้างจะเชื่อว่านางเยลเลนจะขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่ากลางปี 2015 ด้วยสาเหตุ 2 ประการ

หนึ่ง ตลาดหุ้นสหรัฐในขณะนี้ขึ้นสูงมากระทั่งทำลายสถิติจนตอนนี้หลายท่านเริ่มมองโลกในแง่ดีแบบมีความวิตกอยู่ในใจหรือ Cautiously Optimistic จึงทำให้การมองว่านางเยลเลนจะยังคงดอกเบี้ยไว้ต่ำมากๆ อีกต่อไปนั้นเริ่มถูกตั้งคำถามมากขึ้นเรื่อยๆ

สอง ภูมิภาคหลักอื่นๆ ของโลก อาทิ ยุโรป และ ญี่ปุ่น หรืออาจจะรวมถึงจีน ต่างก็ประสบปัญหาการเติบโตทางเศรษฐกิจไม่เป็นไปตามเป้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 2 รายแรก ทำให้เศรษฐกิจของสหรัฐดูดีขึ้นมาโดยเปรียบเทียบ จึงเชื่อกันว่าทางเฟดก็คงมองในลักษณะที่คล้ายคลึงกัน จึงทำให้คาดการณ์กันว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายน่าจะเกิดขึ้นเร็วกว่าที่เคยคิดไว้

ซึ่งโมเมนตัมของความเชื่อนี้ก็อาจปรับเปลี่ยนได้ในอนาคตอันใกล้ อย่างไรก็ดี ผู้เขียนคิดว่าผลการประชุมเฟดในคืนนี้ จะออกมาในโทนที่จะใช้ถ้อยคำเข้มข้นขึ้นกว่าเดิมเพื่อส่งสัญญาณว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดพร้อมจะเกิดขึ้นได้ หากมองแล้วพบว่าภาพรวมของตลาดแรงงานสหรัฐสามารถดีขึ้นได้แบบยั่งยืนครับ 

----------------------------

 

ที่มา http://urll.us/6of9Ia

 

ปล. ขออภัยถ้าอ่านลำบากหน่อย ไม่มีเวลา revise ให้ครับพอดียุ่งๆ

[sriwanitchayakorn 531]

" ปล. ขออภัยถ้าอ่านลำบากหน่อย ไม่มีเวลา revise ให้ครับพอดียุ่งๆ "

แค่นำมาบอกกัน ก็ดีมากแล้วครับพี่ ขอบคุณครับ