คุยกานขำๆเรื่องทอง

[gejen 5,749]

เฮทเธอร์ โจว ผู้บริหารของสายการบินโคเรียนแอร์ ก้มหน้ากล่าวคำขอโทษ

หลังเกิดเรื่องอื้อฉาวที่มีต้นเหตุมาจากความไม่พอใจการเสิร์ฟถั่วของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่เธอโดยสารไป

ขณะที่พ่อของเธอซึ่งเป็นประธานบริษัทก็จะออกมาขอโทษด้วย

เขาบอกว่าต้องเป็นความผิดพลาดของพ่อด้วยที่ลูกสาวเป็นเช่นนี้

เรื่องนี้ทำให้เกิดข้อถกเถียงเรื่องพฤติกรรมของทายาทคนร่ำรวยในเกาหลีใต้ครับ

 

นักข่าวของบีบีซีอธิบายให้ฟังว่าวันนี้ นางโจว ซึ่งสวมเสื้อคลุมยาวสีดำ เดินก้มหน้ามากล่าวคำขอโทษด้วยเสียงที่แผ่วเบายิ่ง

มีที่เสียงแฟลชของกองทัพ นักข่าวที่รัวกดชัตเตอร์พร้อม ๆ กันก็ยิ่งทำให้ไม่ได้ยินคำขอโทษของเธอเท่าไหร่ เธอพูดว่า

“ขอโทษที่ทำให้เกิดปัญหา” นางโชว์ บอกว่าจะไปกล่าวขอโทษพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินคนที่ถูกเธอตำหนิด้วยตัวเอง

ที่น่าสนใจกว่านั้นคือพ่อของเธอบอกว่าต้องการออกมาขอโทษในฐานะประธานบริษัท

และในฐานะพ่อที่เขาต้องรับผิดชอบที่ลูกสาวมีพฤติกรรมเช่นนี้

[gejen 5,749]

ชาวซีเรียเสียชีวิตไปแล้วเกือบสองแสนคนจากการสู้รบที่บานปลายกลายเป็นไฟลามทุ่ง

ระหว่างกองกำลังรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัลซาดกับฝ่ายตรงข้าม

บ้านเมืองถูกทำลายย่อยยับ ชาวบ้านนับล้านพลัดที่นาคาที่อยู่

 

บีบีซีไทยเสนอบทความ สองตอนเกี่ยวกับเบื้องหลังของสงครามกลางเมืองซีเรีย

และความพยายามในการสร้างสันติภาพ สำหรับตอนแรกนี้ เรามาดูลำดับความเป็นมาอย่างคร่าว ๆ กัน

 

สงครามกลางเมืองของซีเรีย เริ่มต้นจากการลุกขึ้นประท้วงจนบานปลายกลายเป็นความรุนแรง

การชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยเริ่มขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม 2554 ที่เมืองเดราทางภาคใต้ของประเทศ

หลังกลุ่มวัยรุ่นถูกเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจับไปทรมานฐานออกมาเขียนคำขวัญ ปฏิวัติบนบนผนังอาคารเรียน

ผู้ชุมนุมถูกเจ้าหน้าที่ยิงใส่บาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก กลายเป็นชนวนให้การประท้วงขยายตัวไปทั่วประเทศ

ในที่สุดฝ่ายต่อต้านรัฐบาลก็เริ่มหันไปจับอาวุธต่อสู้

 

ฝ่ายกบฏมีการจัดตั้งหน่วยรบออกไปตีกองกำลังของรัฐบาล ยึดพื้นที่ทั้งในเมืองและชนบท

จากนั้นความขัดแย้งก็ลุกลามเข้าไปถึงอเล็ปโปเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศและ กรุงดามัสคัสเมืองหลวง

 

เดือนมีนาคม 2556 สหประชาชาติเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการสู้รบว่าสูงถึง 9 หมื่นคน พอถึงเดือนสิงหาคม 2557

ตัวเลขก็พุ่งขึ้นไปกว่าสองเท่าเป็น 191,000 คน การสู้รบเริ่มกลายเป็นสงครามยืดเยื้อ

ฉุดเอาประเทศข้างเคียงและมหาอำนาจโลก รวมทั้งกลุ่มรัฐอิสลามเข้าไปพัวพัน

 

คณะกรรมาธิการสอบสวนข้อเท็จจริงของสหประชาชาติพบหลักฐานว่าทั้งฝ่ายรัฐบาล

และฝ่ายกบฏต่างก็มีความผิดฐานก่ออาชญากรรมสงคราม เช่น การจับคนไปฆ่า ทรมาน ข่มขืน รวมทั้งการอุ้มหาย

 

ด้านกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอสก็ถูกสหประชาชาติกล่าวหาว่าสร้างความหวาดผวาให้

กับประชาชนทางภาคเหนือและภาคตะวันออกของประเทศ ด้วยการฆ่าตัดหัวตัวประกัน

ฆ่าหมู่ทหารรัฐบาลและชนส่วนน้อยที่นับถือศาสนาต่างจากพวกตน

 

ในเดือนสิงหาคม 2556 มีการยิงจรวดบรรจุสารซารินสารพิษทำลายระบบประสาทใส่พื้นที่เกษตรหลายแห่ง

รอบกรุงดามัสกัส ทำให้ชาวบ้านล้มตายไปหลายร้อยคน ชาติมหาอำนาจตะวันตกต่างฟันธงว่า

ตัวการจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากรัฐบาลซีเรีย

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายรัฐบาลกับมหามิตรรัสเซียรีบโยนความผิดให้กับฝ่ายกบฏ

 

ครั้นสหรัฐออกมาฮึ่ม ๆ ว่าจะส่งกำลังบุกซีเรีย ประธานาธิบดีอัสซาดก็ยอมให้สหประชาชาติ

กับองค์การห้ามครอบครองอาวุธเคมีเข้า ไปเคลื่อนย้ายหรือทำลายอาวุธเคมีจนหมดคลังแสง

 

ต่อมาองค์การห้ามครอบครองอาวุธเคมีพบหลักฐานว่าฝ่ายรัฐบาลได้นำอาวุธเคมีดัง กล่าว

ไปโจมตีเขตยึดครองของฝ่ายกบฏจริงในช่วงเดือนเมษายนถึงกรกฎาคม 2557

 

นับตั้งแต่ความขัดแย้งเริ่มปะทุเป็นต้นมา ชาวซีเรียพากันอพยพหลบหนีออกจากประเทศแล้วกว่า 3 ล้านคน

ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก จุดหมายปลายทางหลัก ๆ ของการอพยพคือเลบานอน จอร์แดนและตุรกี

 

นอกจากนั้นในซีเรียเอง เชื่อกันว่ามีชาวบ้านทิ้งบ้านเรือนหนีเอาตัวรอดอีกราว 6.5 ล้านคน

รวมแล้วมีคนพลัดที่นาคาที่อยู่ราว 9.5 ล้านคนหรือครึ่งประเทศ ส่วนผู้ที่อยู่ในสภาพแร้นแค้น

จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เชื่อว่ามีประมาณ 10.8 ล้านคน ในจำนวนนี้ 4.6 ล้านคน

อยู่ในเขตที่ถูกปิดล้อม ยากแก่การเข้าไปช่วยเหลือ (มีตอนที่สองตามมา)

 

 

[gejen 5,749]

ตอนที่สองของสงครามในซีเรีย

 

ตอนแรกได้กล่าวถึงความเป็นมาคร่าว ๆ ของสงคราม สำหรับตอนที่สอง เราจะกล่าวถึงความพยายามในการสร้างสันติภาพ

 

นับตั้งแต่มีการจับอาวุธสู้กับฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายกบฏได้ขยายตัวเติบใหญ่และแตกกลุ่มเป็นนับพันกลุ่ม

 

มีนักรบในสังกัดราว 1 แสนคน บางกลุ่มเดินสายกลาง แต่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มจิฮัดและอิสลามสุดโต่ง

ใช้ความเหี้ยมโหดเป็นเครื่องมือ ทำให้กลุ่มอื่นหวาดระแวงนำไปสู่การสู้รบกันเองในฝ่ายกบฏ

 

ท่ามกลางความสับสนที่เกิดขึ้นในประเทศ กลุ่มไอเอสซึ่งเติบโตมาจากกลุ่มอัลไคดาในอิรักได้ฉวยโอกาสตียึดพื้นที่

ตั้งแต่ซีเรียไปจนถึงอิรัก ตีกลุ่มกบฏอื่น ๆ ทุกกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับกลยุทธ์ของตน

รวมทั้งกลุ่มนักรบชาวเคิร์ด ในที่สุดเมื่อเดือนกันยายน 2557

กองกำลังผสมภายใต้การนำของสหรัฐก็เปิดฉากถล่มทางอากาศทั้งในซีเรียและอิรัก เพื่อ “บั่นทอนหรือทำลายไอเอสให้สิ้นซาก”

 

ภัยคุกคามจากกลุ่มไอเอส ทำให้เกิดความพยายามในการสร้างสันติภาพ การสู้รบไม่มีทีท่าว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด

จะสามารถชนะเบ็ดเสร็จเด็ดขาดได้ นานาชาติจึงเห็นพ้องต้องกันว่ามีหนทางเดียวที่จะยุติความขัดแย้งนี้ลงได้

นั่นก็คือการหันหน้ามาเจรจากัน แต่การขับเคลื่อนของสันนิบาติอาหรับร่วมกับสหประชาชาติ

เพื่อบรรลุจุดหมายดังกล่าวล้มเหลวไม่เป็นท่า

 

เดือนมกราคม 2557 สหรัฐ รัสเซียและสหประชาชาติ ร่วมหารือกันที่สวิตเซอร์แลนด์เพื่อผลักดันให้ทุกฝ่ายในซีเรีย

ร่วมกันจัด ตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลตามข้อตกลงในแถลงการณ์เจนีวาฉบับปี ค.ศ. 2012

แต่ความพยายามครั้งนี้ก็ล้มเหลวเช่นกัน นายลัคฮ์ดา บราฮิมีผู้แทนพิเศษสหประชาชาติกล่าวหารัฐบาลซีเรียว่า

ไม่ยอมฟังเสียงฝ่ายกบฏ และยังเดินหน้าโจมตีฝ่ายกบฏต่อไป

 

จากการลุกขึ้นสู้กับฝ่ายปกครองด้วยสันติวิธีตามแนวทางอาหรับสปริง กลายเป็นสงครามตัวแทนที่

เต็มไปด้วยความหฤโหด โดยอิหร่านกับรัสเซียและกลุ่มเฮซบอลลาห์กลุ่มนักรบนิกายชีอะห์ในเลบานอน

เข้าไปหนุนฝ่ายรัฐบาลของประธานาธิบดีอัสซาด ขณะที่ฝ่ายกบฏซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักรบนิกายซุนนีย์

ได้รับความช่วยเหลือจาก สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส ตุรกี ซาอุดิอาระเบีย กาตาร์ ตลอดจนชาติอาหรับอื่น ๆ

 

อย่างไรก็ตาม การที่ฝ่ายกบฏมีกลุ่มนักรบซุนนีย์หัวรุนแรงจากทั่วโลกเข้าไปร่วมรบเคียงบ่า เคียงไหล่

จึงทำให้การสนับสนุนจากนานาชาติค่อย ๆ อ่อนแรงลงตามลำดับ

 

 

[gejen 5,749]

http://youtu.be/P5VFTPL3Er4

[sriwanitchayakorn 531]

เจ้าป้าไปถล่มเกาจิ้ง

[gejen 5,749]

แบบนี้จะเรียกว่า “ซานตาโอบามา” ได้ไหมครับนี่

 

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา หิ้วถุงของขวัญที่สำนักงานประธานาธิบดีสหรัฐบริจาคให้กับโครงการ Marine Corps Reserve Toys for Tots

เพื่อนำไปแจกให้เด็ก ๆ เนื่องในโอกาสเทศกาลคริสต์มาส นายโอบามาไปช่วยพนักงานคัดแยกของขวัญ และเล่นกับเด็ก ๆ ด้วยครับ

 

 

[gejen 5,749]

ปธน. สี จิ้นผิง เป็นประธานในพิธีรำลึกการสังหารหมู่นานกิงที่จัดขึ้นอย่างเป็นทางการครั้งแรกในจีน

 

ทางการจีนบอกว่ามีประชาชนกว่า 300,000 คน ถูกสังหารและผู้หญิงกว่า 20,000 คน ถูกข่มขืน

ในขณะที่ญี่ปุ่นเข้ายึดครองจีนเมื่อปี พ.ศ. 2480 อย่างไรก็ตามกลุ่มชาตินิยมญี่ปุ่นยังปฏิเสธข้อกล่าวหานี้

 

ในพิธีซึ่งมีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ในจีน ปธน. สีบอกว่า

การปฏิเสธการก่ออาชญากรรมก็เท่ากับว่าปล่อยให้มีอาชญากรรมเกิดขึ้น ซ้ำแล้วซ้ำอีก

ผู้นำจีนยังเสริมด้วยว่า การจัดพิธีนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมสันติภาพ ไม่ใช่ปล่อยให้ความเกลียดชังครอบงำเนิ่นนานไปเรื่อย ๆ

 

พิธีระลึกเหตุการณ์ที่นานกิงเป็นส่วนหนึ่งของวันหยุดที่จีนประกาศเพิ่มขึ้น มาอีก 3 วัน เพื่อระลึกถึงความขัดแย้งระหว่างจีนกับญี่ปุ่น

พิธีดังกล่าวจัดขึ้นที่เมืองนานกิง ประชาชนกว่า 1 หมื่นคน ยืนไว้อาลัยเป็นเวลาหนึ่งนาทีเพื่อรำลึกถึงผู้ที่ถูกสังหาร

โดยผู้ที่เข้าร่วมในพิธี เป็นผู้ที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว รวมทั้งทหารและนักเรียน

 

ขณะนี้จีนกับญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างตึงเครียด ทั้งสองประเทศมีข้อพิพาทเรื่องเกาะในทะเลจีนใต้

รวมถึงการที่ผู้นำญี่ปุ่นยืนกรานการไปเคารพศาลเจ้ายาสุกินิที่สร้างขึ้น เพื่อระลึกถึงผู้เสียชีวิตจากสงคราม

ซึ่งรวมถึงผู้ที่ถูกตัดสินว่าเป็นอาชญากรสงคราม

 

 

[gejen 5,749]

คอมพิวเตอร์รุ่นหายากของแอปเปิลถูกประมูลไปในราคาที่ต่ำกว่าราคาประเมิน

 

แอปเปิล วัน ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์รุ่นบุกเบิกของบริษัทแอปเปิลที่ยังใช้งานได้จริง

ถูกประมูลไปในราคา 365,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณเกือบ 12 ล้านบาท

ต่ำกว่าราคาประเมินที่สถาบันประมูลคริสตี้ ตั้งไว้ซึ่งตีเป็นเงินไทยที่ราว 13 ถึง 20 ล้านบาท

 

เชื่อกันว่าปัจจุบันมีคอมพิวเตอร์รุ่นประวัติศาสตร์นี้เหลืออยู่เพียง 50 เครื่องในโลก

และเป็นคอมพิวเตอร์เพียงรุ่นเดียวที่ สตีฟ จอบส์ ผู้ร่วมก่อตั้งแอปเปิล นำมาขายเลหลังด้วยตัวเองที่แคลิฟอร์เนียเมื่อปี 2519

 

เมื่อเดือนตุลาคม องค์กรเฮนรี ฟอร์ด ประมูลคอมพิวเตอร์รุ่นนี้ไปเครื่องหนึ่งเป็นเงินเกือบ 30 ล้านบาท

 

แอปเปิล วัน ถูกสร้างและประกอบด้วยมือในช่วงทศวรรษ 1970 โดย สตีฟ จอบส์ และ สตีฟ วอซเนียค วิศวกรซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งแอปเปิลมาด้วยกัน

ในสมัยนั้นเครื่องใหม่มีราคาขายอยู่ที่ 666.66 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 20,000 บาทตามอัตราแลกเปลี่ยนในปัจจุบัน)

 

ในการผลิตแอปเปิล วันออกจำหน่าย สตีฟ จอบส์ต้องขายรถโฟล์คของเขา ในขณะที่สตีฟ วอซเนียคต้องขายเครื่องคิดเลข

เพื่อระดมทุนให้ได้ 500 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 16,000 บาทตามอัตราแลกเปลี่ยนในปัจจุบัน)

 

 

[gejen 5,749]

ภาพสีภาพแรกเผยให้เห็นว่าดาวหาง 67พี มีสีที่คล้ำและไร้สีสันกว่าที่คาดไว้

 

แม้ว่านักวิทยาศาสตร์จะพยายามเผยสีที่แท้จริงของภาพดาวหาง 67พี

โดยใช้เทคนิคการซ้อนทับภาพจากภาพ 3 ภาพของภาพดาวหาง 67พี

ที่ถ่ายด้วยการใช้ฟิลเตอร์สีแดง สีเขียว และสีน้ำเงินแล้ว แต่ภาพที่ออกมาก็ยังดูเป็นภาพขาวดำ

 

ภาพดังกล่าวได้มาจากกล้องโอซิริส ที่ติดตั้งอยู่บนยานอวกาศโรเซตตา

ซึ่งเมื่อเดือนที่แล้วสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการส่งยานสำรวจฟิเลไปจอดบนพื้น ผิวของดาวหาง 67พี

 

คณะผู้ควบคุมกล้องโอซิริสบอกว่า ดาวหาง 67พีนั้น “มีสีเข้มเหมือนถ่านหิน”

และน่าแปลกใจที่มีพื้นผิวเป็นวัตถุประเภทเดียวกันทั้งหมด

 

ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่จาก สถาบันดาราศาสตร์แม็กซ์แพลงก์ซึ่งเป็นผู้ควบคุมการทำงานของกล้อง

 

ดร. โฮลเกอร์ เซียร์ค หนึ่งในทีมงานบอกว่า กล้องโอซิริสทำหน้าที่เป็นเหมือนกับดวงตาของยานโรเซตตา

แต่กล้องก็ทำงานไม่เหมือนกับดวงตาของมนุษย์

ด้วยเหตุนี้ภาพสีจึงต้องผ่านการผลิตด้วยการซ้อนทับภาพจากฟิลเตอร์สามสีเข้า ด้วยกัน

 

อย่างไรก็ดี ภาพที่ได้คล้ายกับภาพที่เผยแพร่ออกมาก่อนหน้านี้แล้ว คือออกสีเทา

ก่อนหน้านี้นักวิทยาศาสตร์ระบุว่าเมื่อสังเกตจากภาคพื้นดิน ดาวหาง 67พี

โดยภาพรวมมีสีเทาเช่นเดียวกับวัตถุขนาดเล็กอื่น ๆ อีกจำนวนมากในระบบสุริยะจักรวาล

 

ผลจากกล้องโอซิริสครั้งนี้เผยให้เห็นว่าดาวหาง 67พี มีพื้นผิวเป็นสีเทาเข้มเหมือนกับสีของถ่านหิน

ซึ่งบ่งบอกว่าส่วนประกอบและพื้นผิวของดาวหางน่าจะเป็นวัตถุประเภทเดียวกัน ทั้งหมด

แต่ไม่มีสัญญาณบ่งบอกว่ามีพื้นเป็นน้ำแข็ง ซึ่งมักจะออกเป็นพื้นผิวสีฟ้า

 

นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าน้ำแข็งบนดาวหางดังกล่าวน่าจะซ่อนอยู่ใต้พื้นผิว

 

 

ถูกแก้ไข ธันวาคม 13, 2014 โดย gejen

[gejen 5,749]

บีบีซีไทยรวบรวมภาพบรรยากาศบางส่วนจากพระราชพิธีพระศพ

สมเด็จพระราชินีฟาบิโอลาแห่งเบลเยียมมาให้ชมครับ

 

สมเด็จพระราชาธิบดีฟิลิป แห่งเบลเยียม พร้อมด้วยสมเด็จพระราชินีมาตีลด์แห่งเบลเยียม

สมเด็จพระราชาธิบดีอัลแบร์ที่ 2 แห่งเบลเยียม สมเด็จพระราชินีเปาลาแห่ง เบลเยียม และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์

รวมทั้งผู้แทนราชวงศ์ระดับสูงจากนานาประเทศ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

เสด็จฯ ร่วมในพระราชพิธีพระศพสมเด็จพระราชินีฟาบิโอลา ณ มหาวิหารเซนต์ไมเคิลและเซนต์กูดูลา

ในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม

 

สมเด็จพระราชินีฟาบิโอลาแห่งเบลเยียม ทรงเป็นอดีตสมเด็จพระราชินีแห่งเบลเยียม

พระองค์ได้อภิเษกสมรสกับสมเด็จพระราชาธิบดีโบดวงแห่งเบลเยียม เมื่อปี 2503

โดยพระสวามีของพระองค์เสด็จสวรรคตเมื่อปี 2536

 

 

[gejen 5,749]

วัน “อัรบะอีน” ศรัทธาที่อยู่เหนือความกลัว

 

ผู้แสวงบุญมุสลิมนิกายชีอะห์หลายล้านได้หลั่งไหลไปที่เมืองคาร์บาลา ในอิรัก เพื่อร่วมรำลึกถึงวัน “อัรบะอีน”

แม้กลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอสขู่ว่าอาจจะโจมตี

 

ทางการอิรักกล่าวว่าในช่วงเวลาแห่งการแสวงบุญและการ แสดงความโศกเศร้าจำนวนทั้งหมด 40 วัน

มีผู้แสวงบุญหลั่งไหลเข้าไปที่เมืองคาร์บาลาถึง 17 ล้านคน โดยมากกว่าหนึ่งล้านคนเป็นชาวอิหร่าน

จนทำให้ถนนในเมืองกลายเป็นถนนแห่ง “นักแสวงบุญในชุดสีดำ”

 

รัฐบาลอิรักได้จัดกองกำลังรักษาความปลอดภัยอย่าแน่นหนาเพื่อป้องกันการโจมตี จากกลุ่มไอเอสและกลุ่มติดอาวุธนิกายสุหนี่

โดยในขณะนี้ยังไม่มีรายงานเหตุความรุนแรงในพิธีอัรบะอีนในปีนี้ ผู้ว่าการเมืองคาร์บาลากล่าวถึงความสำเร็จในการจัดงาน

โดยไม่มีเหตุรุนแรงว่า เป็น “ความสำเร็จ” ในการต่อสู้กับกลุ่มไอเอส ว่ากันว่ากลุ่มไอเอสเห็นว่ามุสลิมนิกายชีอะห์

เป็นกลุ่มที่ไม่ทำตามจารีต ประเพณีในหลักศาสนาอิสลาม มุสลิมชีอะห์ในอิรักมักตกเป็นเป้าการโจมตีของไอเอสเสมอ ๆ

 

คำว่า “อัรบะอีน” ในภาษาอาหรับแปลว่า “สี่สิบ” ซึ่งก็หมายถึงการครบ 40 วันแห่งการแสดงความโศกเศร้าหลังจากวันชูรอ

หรือวันที่อิมามฮุเซนหลานชายของศาสดามูฮัมมัด ได้พลีชีพในสงครามที่คาร์บาลาในศตวรรษที่ 7

ซึ่งนับเป็นจุดผลิกที่สำคัญที่ช่วยสมานรอยร้าวระหว่างมุสลิมนิกายชีอะห์กับ สุหนี่ และสาระสำคัญของการพลีชีพครั้งนั้น

คือการให้ทุกคนร่วมจรรโลงความยุติธรรมและ สู้กับความอยุติธรรม

 

 

[gejen 5,749]

รัสเซียไม่พอใจกฎหมายใหม่สหรัฐพุ่งเป้าช่วยยูเครน-คว่ำบาตรรัสเซีย

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 13 ธันวาคม 2557 17:19:26 น.

 

รัฐบาลรัสเซียออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงกรณีที่สภาคองเกรสของสหรัฐ

ผ่านร่างกฎหมายที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ยูเครน และคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อรัสเซีย

 

อเล็กซานเดอร์ ลูคาเชวิช โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของ รัสเซีย กล่าวในแถลงการณ์ว่า

กฎหมายสนับสนุนเสรีภาพยูเครน ที่ผ่านความเห็นชอบจากทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาของสหรัฐ

มีลักษณะเป็นการเผชิญหน้ากันอย่างเปิดเผย

 

พร้อมระบุว่าสมาชิกสภานิติบัญญัติสหรัฐกำลังเจริญรอยตามรัฐบาลของ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา

ในการทำลายกรอบความร่วมมือระหว่างสองประเทศ

 

ทั้งนี้ คณะกรรมการวิเทศสัมพันธ์แห่งวุฒิสภาสหรัฐเปิดเผยว่า กฎหมายดังกล่าว

ได้ผ่านการรับรองอย่างเป็นเอกฉันท์จากวุฒิสภาเมื่อวัน พฤหัสบดี ซึ่งเปิดทางให้สหรัฐให้ความช่วยทั้งทางทหาร

และไม่ใช่ทางทหารแก่ยูเครน รวมทั้งขยายมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย

 

นอกจากนี้ กฎหมายสนับสนุนเสรีภาพยูเครนยังจะให้ความช่วยเหลือยูเครนในภาคพลังงาน กลาโหม และประชาสังคม

รวมถึงขยายรายการแพร่ภาพกระจายเสียงเพื่อตอบโต้การโฆษณาชวนเชื่อของรัสเซีย

ในประเทศต่างๆที่แยกออกมาจากอดีตสหภาพโซเวียต

 

ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและสหรัฐเลวร้ายลง เนื่องจากความขัดแย้งที่นำไปสู่การสู้รบในยูเครน

ซึ่งกินระยะเวลามาแล้วกว่า 9 เดือน ระหว่างรัฐบาลยูเครนและกลุ่มติดอาวุธ

ที่ต้องการแบ่งแยกดินแดนทางตะวันออกของ ประเทศ

 

โดยรัฐบาลยูเครนและชาติตะวันตกตำหนิรัสเซียว่าทำให้สถานการณ์ทวีความ รุนแรง

ด้วยการให้ความช่วยเหลือกลุ่มติดอาวุธขณะที่รัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และกล่าวว่า

ยูเครนไม่สามารถยุติเหตุการณ์นองเลือดในประเทศของตนเองได้

ถูกแก้ไข ธันวาคม 13, 2014 โดย gejen

[gejen 5,749]

กระทรวงคมนาคมประกาศปรับขึ้นค่าโดยสารแท็กซี่ใหม่ โดยมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป (13 ธ.ค. 2557)

 

กรมการขนส่งทางบกได้เริ่มตรวจสภาพแท็กซี่ก่อนการปรับจูนมิเตอร์เพื่อขึ้นราคาค่าโดยสาร

โดยในทางปฏิบัติรถแท็กซี่ทุกคันจะต้องได้รับการตรวจสภาพความพร้อม และจะต้องได้รับใบรับรองก่อน จึงจะปรับจูนมิเตอร์ได้

 

อัตราใหม่มีดังต่อไปนี้

 

- ระยะทาง 1 กิโลเมตรแรก 35 บาท

 

- ระยะทางเกินกว่า 1 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 10 กิโลเมตรละ 5.50 บาท

 

- ระยะทางเกินกว่า 10 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 20 กิโลเมตรละ 6.50 บาท

 

- ระยะทางเกินกว่า 20 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 40 กิโลเมตรละ 7.50 บาท

 

- ระยะทางเกินกว่า 40 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 60 กิโลเมตรละ 8 บาท

 

- ระยะทางเกินกว่า 60 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 80 กิโลเมตรละ 9 บาท

 

- ระยะทางเกินกว่า 80 กิโลเมตรขึ้นไป กิโลเมตรละ 10.50 บาท

 

กรณีรถไม่สามารถเคลื่อนที่หรือเดินรถต่อไปได้เกินกว่า 6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตรานาทีละ 2 บาท

 

ในขณะนี้ยังมีรถแท็กซี่ที่ยังคงให้บริการด้วยค่าโดยสารอัตราเดิม เนื่องจากยังไม่ได้รับใบรับรองให้ปรับจูนมิเตอร์

อย่างไรก็ตามคาดว่าช่วงปลายเดือนธันวาคมแท็กซี่กลุ่มดังกล่าวจะเริ่มเก็บค่า โดยสารในอัตราใหม่

 

 

[sr20detgt 1,468]

ไฮโซชาวดอย

 

 

สวัสดีวันหยุด

 

เช้านี้มานั่งอ่านข่าวดูว่าแนวโน้มอาทิตย์หน้าเป็นอย่างไรจะได้วางแผนถูก เลยขอแบ่งปัน

 

ในอาทิตย์ที่จะถึงนี้คงไม่มีอะไรสำคัญเท่า FED meeting ที่จะแถลงในวันที่ 17 ที่จะถึงนี้ key ของเรื่องคือ FED จะขึ้น rate เมื่อไหร่ ซึ่งอันนี้คาดการณ์กันอย่างกว้างขวางในคนที่น่าเชื่อถือ บางคนก็มอง Mid 2015 บางคนก็มอง End 2015 บางคนก็มอง 2016 บางคนก็บอกว่าไม่ขึ้นจนกว่าจะจบ 2016 ซึ่งแต่ละคนที่ให้ comment นั้นต่างมีมุมมองที่ดีทั้งนั้นที่สนับสนุนการคาดเดาของเค้า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่มีใครรู้นอกจาก FED แต่สิ่งหนึ่งที่ผมสะดุดมากๆจากการอ่าน เกือบทุกหนังสือพิมพ์เมื่อเช้านี้ คือทุกสำนักพูดทำนองที่ว่า "FED prepare to make a big mistake" แล้ก็พยายามบอกว่าถ้าขึ้น rate เร็วจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งทุกฉบับคล้ายกันมาก สิ่งที่ผมสะดุดคือเหมือน ข่าวจะรู้ว่า FED มีแนวโน้มจะขึ้น rate จึงอธิบายเรื่องผลเสีย ที่เกิดขึ้นกับ Japan, Swedish ในอดีตจากการขึ้น rate ที่เร็วเกินไป

 

อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจจากการอ่านข่าวเช้านี้คือ มีตัวเลขคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะเติบโตขึ้นในปี 2015 ดูจากกราฟนะครับทั้ง Manufacturing และ Non ที่จะมีการ supply มากขึ้นนั่นหมายถึง Job increase-->Salary increase --->Spending increase-->GDP increase ซึ่งตรงกับที่ ผลสำรวจต่อมามองว่า GDP ของปี 2015 นั้นจะอยู่ที่ 2.9% มากกว่า forecast ซึ่งผลมาจาก น้ำมันที่ลง job market จะเพิ่มขึ้นและ lager wage gains ซึ่งทำให้มองว่ามันเป็นเหมือนสิ่งที่สนับสนุนว่า ทำไม FED ถึงขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ จากอาทิตย์ที่แล้วยิ่งเราเห็นตัวเลขความเชื่อมั่นที่ hit ที่ 93+% ยิ่งทำให้เห็นว่า Economy ของสหรัฐนั้นดีขึ้นจริงๆ แต่ก็เหมือนเดิมทุกครั้ง คือทุกครั้งที่มีแนวโน้มว่าFED อาจจะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยตลาดหุ้นจะออกมาขู่ก่อน ด้วยการลงให้ดู เพื่อบอกว่า อย่านะ อย่าขึ้นดอกเบี้ยไม่งั้นไม่งั้นจะมีผลเสียหายใหญ่หลวง ซึ่งสังเกตุหลายครั้งมักจะลงแรงๆ เมื่อเดาว่า FED มีแนวโน้มจะขึ้น ซึ่งครั้งนี้ก็เช่นกัน

 

สิ่งหนึ่งที่ FED คิดจะทำตามคำพูดของ FED Fisher ที่เป็นรองคุณ Yellen ได้กล่าวไว้สองอาทิตย์ที่แล้วคือเปลี่ยนคำว่า "considerable time" แต่จะเป็นอะไรอันนี้ไม่รู้เพราะ FED ศัพท์เกินคาดเดาเสมอ อย่างลด QE ก็ใช้ "Tapering" ทั้งๆมีคำง่ายๆตั้งเยอะแยะ สิ่งที่จะเป็น key คือคำนี้ที่จะโดนลบไป จะเปลี่ยนเป็นอะไร จะเป็น Hawk แรงๆ หรือเป็น Hawk ธรรมดา ก็เกินคาดเดา แต่เชื่อว่าแค่เพียงลบคำว่า "considerable time" ออกไปก็เชื่อว่าจะทำให้ลงทั้งโลก ไม่ว่า ทอง น้ำมัน หุ้น หรือทุก currency ที่ตรงกันข้ามกับ dollar

 

ดังนั้น Key สำคัญที่จะมาถึงคือวันที่ 17 ที่จะถึงนี้ แค่ wording คำเดียว "Considerable Time" ก็จะเปลี่ยนเงินในกระเป๋าเราเป็นลบหรือเป็นบวกด้วยคำๆเดียว

 

ขอพระเจ้าอวยพร ^^

[earncurrency 2,234]

https://www.facebook.com/WealthStation

เฟดจะมีท่าทีอย่างไรหลังน้ำมันปรับตัวลงเกือบ 50%จากเมื่อต้นปีแต่เดาว่าเป็นบวกต่อทองในกลางสัปดาห์

แนวโน้มราคาทองเป็นบวกบนแนวหนุนหลักที่ 1180 1200

การทรงตัวบนแนวหนุนนี้มีลุ้นไปทดสอบ 1240 1255

แต่เป็นแนวต้านที่ค่อนข้างแข็ง หวังว่าจะมีการฟอร์มตัวส่งสัญญาณมาก่อนถึงจะผ่านขึ้นไปสู่ 1275 1290

การประชุมเฟดกลางสัปดาห์นี้จะมีการเปิดเผยถึงมุมมองเศรษฐกิจ ,การส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยอ้างอิงและอัตราเงินเฟ้อเป้าหมายทั้งนี้มุมมองนักลงทุนที่ US Bond Yield ปรับตัวลงต่ำสุดในรอบ 18 เดือน จากที่ก่อนหน้านี้ปรับตัวขึ้นตามการคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐจะปรับตัวขึ้นในช่วงราวไตรมาส 2 2015

ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงเป็นอย่างมากน่าจะส่งผลให้การขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐช้ากว่าที่คาดไว้ เมื่อพิจารณาจากตลาดการเงินสหรัฐ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำ

นอกจากนี้ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐเริ่มส่งสัญญาณทางลบมากขึ้นแท่งเทียนรายสัปดาห์ของ US Dollar Index โดยเฉพาะหากว่าปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 87.5 - 88.0 ลงมา

จึงคาดการณ์ว่าการประชุมเฟดกลางสัปดาห์นี้ถ้ามีการส่งสัญญาณการชะลอขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือมีมาตรการผ่อนคลายอื่นๆ เพิ่มเติมจะเป็นปัจจัยลบต่อดอลล่าร์และบวกต่อทอง

----------------------------------------------------------------------

ระหว่างวันนี้กับพรุ่งนี้น่าจะเป็นช่วงทรงตัว หรือย่อตัวลงสำหรับทองแต่มองเป็นการเข้าสะสมเมื่อย่อตัวบริเวณ 1,200 - 1,220 เหรียญโดยมีแนวต้านที่ 1240 1255 1275 เป็นเป้าทำกำไร

แนวต้าน 1225 1235 1242

แนวหนุน 1180 1195 1208 1215

by Facebook.com/Wealthstation